#เจนไม่นก
จีน…ไม่ใช่เจน….
“It’s been a while” มันก็สักพักแล้ว….ใช่….
ตั้งแต่ที่ไอ้เจนไปขโมยนาฬิกาแม่งไปขาย!
“I have nothing to talk” แต่เจนไม่มีอะไรจะคุยด้วย โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกา อย่าบอกว่าไปยืมเพื่อนมา เพราะเจนไม่เชื่อ
“Why you quit the job?” ทำไมคุณลาออกจากงาน
“Obviously, I hate being your secretary” มันชัดเจนมาก! ว่าผมเกลียดการเป็นเลขาของคุณ
ใช่ เจนเกลียดการเป็นเลขาที่ไม่รู้อะไรเลยและไม่ชอบเป็นเลขาที่เป็นชู้กับเจ้านายที่มีเมียอยู่แล้วด้วย
“Jean, we need to talk” จีน เราต้องคุยกัน
“No need to discuss anymore. Actually, I done talking with the person like you” เราไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกแล้ว จริงๆแล้วผมไม่มีอะไรจะคุยกับคนแบบคุณอีก
“…..”
“So, let me remind you that I quite being your secretary and lover. Go fuck yourself and do not call me again” งั้นให้ผมเตือนคุณอีกครั้งว่าผมลาออกจากการเป็นเลขาและชู้แล้ว ไปตายซะแล้วอย่าโทรหาผมอีก
“…..”
“But if you want your rich wife hear what we talk, I will give you a very nice sex phone” แต่ถ้าคุณอยากให้เมียผู้ร่ำรวยของคุณได้ยินที่เราคุยกัน ผมจะใจดีให้เซ็กส์โฟนเด็ดๆกับคุณ
ในประโยคนี้เจนพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรที่สุด แม้ในความเป็นจริง เจนจะเกลียดมากและไม่สามารถทำเซ็กส์โฟนในสถานที่แบบนี้ได้ แต่ก็ดีใจที่ได้ขู่กลับ วิลเลี่ยมไม่มีทางอยากให้เมียตัวเองรู้ว่ามีความสัมพันธ์กับเจนแบบไหน และก็รู้ว่าที่สุดแล้ว…เจนกล้าทำแบบที่พูดเพราะในฐานะเลขา เจนเก็บทุกข้อมูลส่วนตัวของเขาไว้ แต่ที่วิลเลี่ยมไม่รู้ คือเจนเอาไปฝังไว้ในสวนหลังบ้านของเขาให้แล้ว ภาวนาให้คุณเมียไม่อยากจัดสวนใหม่ละกัน
“Jean”
“Bye” เจนพูดชัดเจนด้วยโทนเสียงเหนื่อยหน่าย เบื่อที่จะได้ยินคนเรียกกันว่าจีน แม้ว่านั่นจะเป็นชื่อที่เจนบอกให้คนทางนั้นเรียก แต่ก็ไม่อยากเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพราะเปลืองและวุ่นวาย ดังนั้นพูดให้ชัดเจนแกมขู่เข็ญไว้นั่นแหละดีแล้ว คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตา วันนี้รู้สึกจะก่อวอร์ออกไปเยอะมาก เจนต้องเข้มแข็งมานะ เอาล่ะลุกขึ้นมาสู้….เดี๋ยวอีตาคุณเพชรก็จะมาขายอ้อยอีก เจนต้องสู้เอาอ้อยตีหัวมันกลับนะ ลืมตาและกลับหลังหันมาเผชิญหน้าความเป็นจริงสักที
และเลิกนั่งหันหลังแบบนี้ได้แล้ว เดี๋ยวมีคน…เดิน…เข้ามา….
“……….”
“………..”
“สวัสดีครับ คุณเจน”
“………..”
“Nice to meet you ครับ I mean….who are you again?” กวนตีนแล้วอีคุณเพชร
“คุณเพชรครับ”
“ครับคุณเจน”
“กวนตีนเก่งนะครับ” มา! ไอ้เจนพร้อมแล้ว สงครามครั้งใหม่กำลังจะวิบัติขึ้น เจนแม่งไม่สนเxยอะไรอีกแล้วครับท่าน เอาให้ฟ้าถล่มดินทลายกันไปข้าง และจะจบด้วยการที่ไอ้เจนเดินไปเก็บเสื้อผ้า ได้หอมแก้มเจ้ากบน้อยอีกสักครั้งและจากไปก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยวันนี้ก็สะใจได้เอาอ้อยตีหัวคนสักที
“โอ้ว พูดตรงแบบนี้ I’m hurt นะครับ” ยัง…ยังกวนตีนอยู่อีก
“ผมเอาเอกสารมาส่งให้ นี่ครับ”
“แตงกิ้วเวรี่มัช”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่ได้เปิดดู ไม่ได้อยากเห็นอะไรข้างใน”
“ขอบคุณที่บอกนะครับ” คุณเพชรยิ้มพลางรับเอกสารจากมือไป
“ถ้างั้นผมกลับละนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” แต่เป็นรอยยิ้มนั้นที่เรียกเจนไว้
“ว่าไงล่ะครับ อย่าช้า” เจนจะไปช้อปแก้เครียด
“ไม่เห็นในใบสมัครเขียนเลยนะครับว่าเราเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพ”
“เป็นอดีตเพื่อนร่วมวิชาชีพครับ และอีกอย่าง….ผมเป็นเด็กเส้น ไม่ได้กรอกเอกสารอะไร” เส้นใหญ่ระดับคนใช้กิตติมศักดิ์ของบ้าน ใบสมัครอะไรไม่ได้เขียนหรอก ใช้หน้าตาออดิชั่นผ่านมาล้วนๆเลยครับ
“โอ้ งั้นทางเราต้องสัมภาษณ์ก่อนไหมครับ ควรจะเริ่มด้วยการศึกษาระดับมัธยมต้นหรือเปล่า”
“ครับ….จบมัธยมต้นที่ประเทศไทย”
“แล้วมัธยมปลายล่ะครับ”
“จบไฮสคูลและเรียนมหาลัยที่อเมริกาครับ เริ่มงานเป็นเลขาและเป็นมาตลอดจนกระทั่งลาออกแล้วมาเป็นพี่เลี้ยงน้องวิน” เจนพูดทุกอย่างชัดเจน จริงๆก็ไม่ได้มีเจตนาจะปิดบัง แค่ก่อนนี้ไม่อยากจะพูดอะไรให้มันดูเว่อร์เพราะคิดถึงความรู้สึกของแม่ที่มีต่อคนอื่น เดี๋ยวเขาจะหาว่าขี้อวดทั้งๆที่โคตรกาก….ท่าทางเด๋อๆของเด็กที่ไปปีนต้นไม้ชาวบ้านเขาดูน่าเชื่อถือนักแหละ
“เพราะงั้นถึงได้อ่านสัญญาภาษาไทยไม่เก่งใช่ไหมครับ”
“ก็ประมาณนั้นครับ” เก็บทุกเม็ดเลยนะอีตาคุณเพชรเนี่ย เจ้าคิดเจ้าแค้นเก่ง
“ผมขออนุญาตถามประวัติที่ทำงานเก่าได้ไหมครับ”
“ถ้าทางรัตนสกุลไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลาสติกก็ไม่น่าใช่คู่แข่งทางการค้าอะไรหรอกครับ”
“แหม….กำลังคิดว่าจะลงทุนด้านนี้พอดีเลย”
“……….”
“ล้อเล่นนะครับ”
“ไม่ต้องไว้ใจผมก็ได้ครับ แต่ผมไม่ได้มีจิตคิดร้ายหรือเป็นคนที่คู่แข่งส่งมา”
“ไม่คิดหรอกครับ คนที่อยากจะออกแต่บอกออกเองไม่ได้จนอยากให้เจ้านายลาออกแบบนี้….คงไม่ใช่คนที่คู่แข่งส่งมา”
“โห….ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนเรื่องชู้สาวให้ผมมาตลอดสัปดาห์นะครับ”
“อ๋อ ที่อ่อยนี่ความเต็มใจครับ เห็นน่ารักดี แต่ปากจัดแบบนี้คงขายอ้อยไม่ลงแล้วครับ ผมกลัวคุณเจนวิ่งไปเอามีดมาปาดคอ”
“ปากดีแบบนี้มีดไม่ทันใจผมเลยครับ ขออนุญาตทุ่มแจกันอันนั้นใส่หัวได้ไหมครับ” เจนชี้ ได้คำอนุญาตปุ๊ป ก็กะจะทุ่มปั๊ป!
“อันโปรดคุณหญิงครับ อย่าเลย เรามาคุยกันดีๆดีกว่า” อิหยังวะ! จะมาคุยดีๆด้วย
แต่เจนก็ยอมนั่งลงและพูดคุยด้วยแต่ดีกับเพื่อนร่วมวิชาชีพ จากที่ตั้งใจเอาเอกสารมาให้แล้วก็ไปช้อปปิ้ง กลายเป็นต้องมานั่งฟังเลขาบ่นเรื่องงานให้ฟังหนึ่งอัตรา ฮ่วยยยยยยย นี่มันชีวิตอะไรของกูเนี่ย หนีจากงานเลขามาให้เลขาบ่นเจ้านายให้ฟังหรือไง ไม่พอใจอะไรงานก็ไปบอกเจ้านายสิ มาบอกไอ้เจนทำไม พูดไปกูเพิ่มเงินเดือนให้มึงได้เหรอ เออไม่ได้….แต่เข้าใจความอัดอั้นก็ได้วะ เจนก็เคย เจนก็โดน
“แล้วตอนผมทำเสร็จหมดนะ คุณรบก็บอกไม่ใช้”
“…..เออเข้าใจเลย ตอนนั้นผมก็อยากเอาที่เขี่ยบุหรี่ตบหน้าเจ้านายเหมือนกัน” ถ้าไม่ติดว่าตอนนั้นรักมันมาก มันได้ตายเพราะที่เขี่ยบุหรี่แล้วจริงๆ
“โห….ทำไมวิธีรุนแรงจัง” อ้าว…เข้ากูซะงั้น
“ได้แค่คิดไหม ถ้าทำ…ผมไม่ได้มานั่งฟังคุณบ่นปนขิงเจ้านายให้ฟังแบบนี้หรอก” คงได้ไปจัดแฟชั่นโชว์ชุดส้มที่เรือนจำสักแห่งในประเทศโลกเสรี
“ดีใจที่คุณเจนเข้าใจผมนะ ว่าแต่มีแผนจะบอกคุณเจ้านายเรื่องวุฒิการศึกษาใหม่ไหม”
“ก็ไม่เป็นพิเศษ งานนี้ไม่ได้ขอระดับการศึกษาอะไรนี่ แถม…ผมขี้เกียจไปอธิบายคุณรบว่าทำไมจบปริญญาตรีมาแต่โง่ด้วย” โชว์โง่ตั้งแต่วันเซ็นสัญญา ใครจะอยากไปบอกวะว่าจบมหาลัยไหนให้สถาบันอับอาย
แต่คุยกันอีกไม่กี่คำ คุณเพชรก็โดนคุณรบจิกหัวให้กลับไปทำงาน เออ อีพวกขี้เม้าท์ต้องเจอแบบนี้ เจนก็จะได้ไปช้อปเสียที รำคาญ…พอออกมาจากบริษัทคุณรบโดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องก่อวอร์กับใครให้เสียพลังงานอีก เจนรักษ์ก็ใช้เวลาที่ได้มาอย่างคุ้มค่า โทรเข้าไปเช็คสถานการณ์ในบ้านรัตนสกุลว่ามีความจำเป็นต้องให้เจนกลับไปเร็วๆนี้ไหม ถ้าไม่ เจนจะไปคลายอาการเก็บกดโดยการใช้เงิน!
แต่เหมือนอารมณ์การช้อปปิ้งจะมาไม่เต็มที่ เจนเพิ่งค้นพบว่าตัวเองร้างราการล้างผลาญเงินมาพอควร เดิมที่เจนไม่ใช่คนสิ้นเปลืองด้วยฐานะที่ไม่เอื้อเฟือให้ล้างผลาญจนชิน แต่พอมีเงินก็ใช้เงินในการซื้อของที่ต้องการเพื่อชดเชยในช่วงเวลาที่ทำไม่ได้ก่อนหน้านี้ และค้นพบได้ภายหลังว่าการใช้เงินคือการคลายเครียดให้กับตัวเองได้อย่างดีทีเดียว แต่ในช่วงปีหลังๆมานี้เพราะงานการที่เพิ่มขึ้นทั้งงานราษฏร์และหลวงทำให้ไม่ค่อยมีเวลากับการเดินไปมาเข้าออกร้านนั้นนี้อย่างเพลินใจ ถ้ามีความต้องการอะไรก็มักจะเป็นสิ่งที่ซื้อซ้ำๆและหาได้ใกล้ๆที่พักหรือซื้อออนไลน์เอา
บิ้วตัวเองอยู่ 10นาทีก็ไม่ค่อยอินเท่าไหร่จึงคิดว่าตนควรจะลองปรับแนวทางการซื้อของ เพราะอย่างไรเจนก็คิดว่าการซื้อของคือทางออกของสถานการณ์ความเครียดที่ตนต้องเผชิญ และโดยไม่รู้ตัว…เจนก็เดินเลี้ยวเข้าร้านหนังสือซะงั้น เจนอาจจะมีปัญหากับการอ่านภาษาไทยในระดับบิสเนส แต่โดยพื้นฐานที่อ่านเขียนออกเพราะเรียนจนจบมัธยมตอนต้น การศึกษาเพิ่มเติมคงพอช่วยพัฒนาความสามารถ และถ้าวันใดวันหนึ่งที่มีความมั่นใจแล้ว แน่นอนว่าเจนจะเดินไปหาคุณรบคนแรก….
ยื่นวุฒิการศึกษาที่แท้ทรูให้ดูและบอกว่าคุณถูกหลอกแล้ว แฮ่….
แต่เจนก็คิดไม่ออกว่าคุณรบจะทำสีหน้ายังไง บางทีเขาอาจจะไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่น้อยและก้มลงทำงานของเขาต่อ ไอ้เจนจะจบจากที่ไหนมันใช่เรื่องของเขาเหรอ สติปัญญาก็ไม่ได้มาขอหยิบยืมสักหน่อย อย่างดีก็ช่วยให้เขามั่นใจว่าเจนจะพอเลี้ยงลูกเขาได้โดยแยกถังดับเพลิงกับถังน้ำออก แค่นั้นแหละ….ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย….
หืม….
“หนังสือนิทานเด็กเหรอ” อยู่ๆหนังสือวิชาการในมือก็ถูกเก็บเข้าชั้น พอนึกถึงน้องวินขึ้นมา ทำไปทำมา เจนก็เอาแต่เปิดหนังสือเด็กเล่มนั้นนี้และหยิบไปจ่ายเงิน เออ….การใช้เงินคลายเครียดก็เรื่องนึง แต่การเอาเงินไปใช้ซื้อของให้ลูกชาวบ้านนี่….มันใช่เหรอวะ ไอ้เจน!!!
หมดคำพูด กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองพิถีพิถันเลือกและจ่ายเงินเองทั้งหมดทำให้เจนหมดคำพูดจริงๆ เจนให้ความสำคัญกับน้องวินอันนี้ไม่เถียง แต่ไม่คิดเลยว่าจะหลงถึงขั้นคิดว่าจะซื้อหนังสือมาอ่านให้ฟังจะได้หลงกันกลับบ้าง แบบนี้ ไอ้ตัวจุ้นรู้ต้องหัวเราะใส่หน้าดังๆ เจนรักษ์ละแล้วซึ่งแผงอกแน่นๆของหนุ่มหล่อร่างสูงใหญ่ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาหนังสือนิทานและพุงกลมๆของเด็กที่หัวเราะได้ทั้งวันแบบนั้น
แค่คิด….ภาพคุณรบจับกันเข้าซังเตก็ซ้อนขึ้นมา
“…….” กลับบ้านเถอะไอ้เจน วันนี้ไม่ไหวแล้วว่ะ คนตัวเล็กสะบัดหัวเบาๆก่อนจะเดินออกจากร้านหนังสือ แต่ยังไม่ได้กลับบ้านก็ดันแวะเข้าแผนกเด็กอีก ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้เจน….
อีกนิดแกต้องมีแผนการในการลักพาตัวเด็กให้คุณนักรบมาแหกอกถึงแหล่งกบดานแน่ๆ!
xxx
“อ้าว ทำไมกลับมาเร็วล่ะเจน”
“ต้องกลับแม่ ไม่งั้นลูกแม่กู่ไม่กลับแล้วจริงๆ” กู่ไม่กลับทางความคิด ปกติก็คิดเป็นล้านสิ่งในวินาทีเดียวอยู่แล้ว แต่ไอ้ความคิดประเภทก่ออาชญากรรมนี่ไม่สมควรให้เดินเตร็ดเตร่อยู่คนเดียวต่อไปจริงๆ จำเป็นต้องยืมมือคนอื่นมาดึงสติ และแม่คือคนที่เจนคิดถึงเป็นคนแรก หลังจากวางถุงใส่หนังสือ ร่างเล็กของลูกชายคุณอำไพก็เดินไปล้างมือเพราะอยากให้เชื้อโรคที่ตนได้รับมาถูกชะล้างก่อนที่จะแตะต้องตัวหนูวิน แม้จะกันไม่ได้หมด แต่พยายามเลี่ยงเท่าที่จะทำได้
เจนเดินข้ามคอกของน้องวินเข้าไปข้างใน เห็นน้องวินกำลังนั่งมองกันตาแป๋ว คงจะยังงงว่านี่ใช่เจนหรือเปล่า ใช่เจนไหม ทำไมเจนไม่ยิ้มสดใสและวิ่งมาฟัดน้องวินล่ะ จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเจนไม่อยากฟัด แต่เพราะตนออกไปข้างนอกมา แม้จะล้างมือแล้ว แต่เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนอยู่ดี ดังนั้นเป้าหมายของเจนจากน้องวินจึงเปลี่ยนเป็นตักของแม่ นานๆทีก็ขอหน่อย….ร่างเล็กค่อยๆทรุดลงนั่ง ก่อนที่จะเอนหัวตัวเองลงบนตักที่ตนจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายนี้มันเมื่อไหร่กัน
น่าจะเป็นตอนเด็กมากๆที่แม่จับเจนนอนแบบนี้หลังจากที่กลับจากไปเที่ยวเล่นแถวลานวัด….
“แม่”
“อะไรล่ะลูกคนนี้”
“เจนเหนื่อย”
“อยากลาออกอีกแล้วเหรอ”
“เปล่า”
“………”
“เจนแค่ไปเที่ยวมาเหนื่อย เลยอยากอ้อนแม่” จริงๆมันมีเรื่องมากมายกว่านั้น วันนี้เจนรักษ์คนนิสัยไม่ดีได้ก่อเรื่องมากมาย แม้ตอนนั้นจะคิดว่าคนพวกนั้นไม่น่าสนน่าแคร์ แต่สุดท้ายแล้วเจนที่แคร์ตัวเองที่สุดก็กลับมาเป็นกังวลว่ามันจะดีแล้วเหรอ ถึงเจนจะเป็นตัวร้ายสำหรับทุกคน แต่เจน….ก็เป็นมนุษย์ที่เหนื่อยเป็น
เหนื่อยจะต่อล้อต่อเถียงกับป้าจิน พนักงานที่เจอหน้าห้องรับรอง วิลเลี่ยมที่โทรมา คุณเพชรที่รับรู้ความจริง
และความคิดของตัวเอง…..
“อ้อนเป็นด้วยเหรอเรา”
“อ้อนเก่งกว่าน้องวินด้วย คอยดูสิ” แม่ต้องหลงเจนมากกว่าหลงรักลูกชายบ้านรัตนสกุลทั้งคนพ่อและลูก
“แม่รู้แล้วนี่ พ่อคนขี้อ้อน” แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะตบบ่าเจนเบาๆ หากเป็นแต่ก่อนคนจะตบก้นเบาๆกล่อมนอน แต่นี่เจนโตขึ้น เธอก็ไม่สามารถเอื้อมถึงแล้วเช่นกัน แม้จะตัวเล็กกว่าผู้ชายทั่วไป แต่ก็เติบโตจนเธอจะทำเช่นนั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ภาพของสองแม่ลูกในสายตาไร้เดียงสาของเด็กน้อยนั้นทำให้น้องวินคลานเข้ามาหา เจนนั้นจ้องมองดวงตาที่มองมาโดยไร้คำพูด มันเป็นช่วงเวลาที่….อบอุ่นและเงียบสงบในความรู้สึกที่บอกไม่ถูก จ้องมองเงียบๆไม่มีใครพูดอะไร แค่มองหน้าน้องวินก็เพลิดเพลินเหลือเกินจนต้องยิ้มออกมา และเมื่อพี่เจนยิ้ม น้องวินก็ยิ้มกว้างโชว์เงือกสีชมพูอ่อนออกมาก่อนจะรีบคลานเข้าไปหา
“ไม่ได้นะครับน้องวิน” เจนจะผลักไส แต่ไม่ทันแล้วเมื่อน้องวินนั้นถลาเข้าหาเต็มอก แม้ใจจะแย้งเพราะไม่อยากให้น้องวินไม่สบายภายหลังเพราะเจนยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ความรู้สึกเมื่อถูกคนโถมเข้ากอดนั้นทำให้กำลังใจที่อยู่ต่ำกว่ามาตรฐานถูกดีดจนพุ่งสูง
เจนไม่เคยคิดเลยว่ามันจะดีขนาดนี้….
“เจ้ากบดื้อ” น้องวินของบ่าว ต่อไปเจนจะไม่กังขาตัวเองที่อยากทำนั่นทำนี่ให้อีกแล้ว มันเป็นความผิดเจนเอง
ที่เจนอยากถูกรักขึ้นมาแบบนี้….
“แม่ว่าคุณน้องวินชอบเจนมากนะ”
“งั้นเหรอแม่”
“ใช่….คุณน้องวินไม่เคยโถมเข้ากอดใครแบบนี้ ไม่ได้ยิ้มง่ายแบบนี้ ไม่ได้ชะเง้อคอหาแบบนี้ด้วย”
“ชะเง้อหาเหรอ”
“ใช่….พอตื่นมาไม่เจอเจนก็งอแงนิดหน่อย”
“ทำไมแม่ไม่โทรบอกเจนล่ะ”
“ก็คุณหญิงอยากให้เจนออกไปข้างนอกบ้าง เมื่อวันหยุดรอบที่ผ่านมาก็ไม่ออกไปไหน คลุกอยู่กับน้องวินตลอดเลยไม่ใช่เหรอ”
“ก็ เจนไม่ได้อยากไปไหนนี่” จริงๆคือขี้เกียจมากกว่า และค้นพบว่าการทำนั่นทำนี่ในขณะที่มีน้องวินนั่งมองกันเงียบๆหรือส่งเสียงทุบนั่นนี่ให้กำลังใจก็ไม่แย่ วันหยุดที่ผ่านมาจึงอยู่แต่ที่บ้าน ทำงานเหมือนไม่ได้หยุดอย่างนั้น แต่เจนไม่ได้คิดอะไรเลย อย่างน้อยลูกจ้างก็พอใจที่จะทำอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ
“เจนลืมไปหรือเปล่า เราก็เป็นลูกจ้างคนนึง พอเราไม่ยอมหยุด คุณผู้หญิงเลยกลัวว่าจะใช้งานเจนหนักไปน่ะสิ”
“ทำงานหนักนี่นายจ้างไม่ชอบเหรอ”
“ชอบสิ”
“งั้นก็ดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ดีหรอก”
“…………”
“สำหรับนายจ้างที่เขาชอบเรานะ เขากลัว”
“…………..”
“ถ้าวันหนึ่งเจนหมดความอดทนและมาลาออกกับเขาเพราะบอกว่าทำงานหนักไปล่ะ ในเมื่อเขาชอบเรา เขาย่อมไม่อยากให้เราไปไหนใช่ไหม เพราะงั้นคุณหญิงเลยส่งเจนออกไปข้างนอก พยายามหาทางผูกมัดเจนไว้ยังไงล่ะ” แม่พูดพลางลูบหัวเจนที่กอดเจ้ากบน้อยในอ้อมอก
“คุณผู้หญิงชอบเจนแบบที่ชอบแม่แล้วเหรอ”
“อาจจะเป็นอย่างนั้น จริงๆคุณหญิงไม่ได้ชอบใครง่ายๆหรอกนะ ที่ทำงานด้วยกันมานานนี่ก็เพราะท่านชอบทุกคนนั่นแหละ มีแต่เจนนี่แหละที่เป็นคนใหม่”
“ไหนบอกไม่ได้ชอบง่ายๆไง” แล้วทำไมชอบง่ายจังวะ นี่เพิ่งมาแค่อาทิตย์เองนะ
“ท่านไม่ได้ชอบง่ายๆ บางทีก็อาจจะไม่ได้อะไรกับเจนเลย ถ้า…”
“……อะไรเหรอแม่”
“ถ้าน้องวินไม่ชอบเจน และถ้าเจนไม่เอ็นดูน้องวินยังไงล่ะ”
“………..”
“คุณผู้หญิงอาจจะไม่ได้ชอบเจนก็ได้ แม่คงเข้าใจผิดไปเอง แต่ที่แม่ว่าดูไม่ผิดอะนะ”
“…………”
“ท่านไว้ใจเจนแล้ว….มากๆเลยด้วย” ความไว้ใจนี่มันได้มาง่ายๆอย่างนั้นเลยเหรอ….
และกับคนที่เพิ่งเจอะเจอกันไม่นานนี่….เราสามารถเชื่อได้จริงๆเหรอ
xxx
จนบัดนี้นักรบก็ยังไม่ได้ออกจากห้องประชุม….
ยังคงเถียงกันไม่จบ และเขาก็ต้องรับฟัง…พอมองฟ้าข้างนอก อีกไม่นานก็คงจะเปลี่ยนสี จากตรงนี้ไม่ทราบหรอกว่าถนนเป็นเช่นไร แต่ให้เขาคิดก็คือมันคงเต็มไปด้วยรถยนต์ของทุกคนที่กำลังจะกลับบ้าน จริงๆจากบ้านมาที่ทำงานไม่ได้ใช้เวลาเดินทางนานเลย หากแต่การจราจรในกรุงเทพนั้นมันช่างโหดร้าย และเขาก็ควรจะชินชาได้แล้ว แต่กลายเป็นว่ายิ่งไม่ชิน….ตั้งแต่มีอัศวินเกิดมา….
เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ลูกกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิต จะเรียกว่าตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอก็ดูจะไม่เกินไป นักรบไม่เคยพบเจอความรักในรูปแบบนี้มาก่อนในชีวิตด้วยซ้ำ เขาเลยบรรยายไม่ถูกถึงความรู้สึกที่มี และแม้ว่าจะยังมีความกลัวเข้าครอบงำ แต่ก็มีความรักมากมายที่เตรียมไว้ให้ และแค่เพียงคิดถึงน้องวิน จะต้องนั่งอยู่ตรงนี้อีกก็ไม่เป็นไร ถ้ามันจะช่วยทำให้สถานการณ์ภายในของบริษัทดีขึ้น
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้ว ยังคงไม่จบไม่สิ้นสักที แม้เขาจะไม่ได้เจอหน้าลูกทุกวันเพราะมันเป็นเวลาที่เขาไม่อาจจะพบเจอได้ แต่อย่างไรนักรบก็อยากกลับบ้านไปทำให้แน่ใจว่าน้องวินจะหลับสบายและไม่มีใครทำอะไรเขาได้ แม้ตัวจะอยู่ตรงนี้ และเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าได้อยู่ไม่ไกลกัน เผื่อที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะได้ช่วยเหลือทัน ทดแทนจากการที่เขาปกป้องไม่ได้และปล่อยให้คนไม่ดีเดินเข้ามาในบ้านและทำเช่นนั้น ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา….น้องวินต้องเจอกับอะไรมาบ้างหนอ…..
หลังจากที่คิดว่านั่งฟังก็ไม่ได้อะไรแต่ออกไปไหนไม่ได้ ประธานบริษัทหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นมานั่งดูภาพในห้องนอนของน้องวินทางโน๊ตบุ๊คแทน เดิมทีเขาไม่ได้ใส่ใจมันนัก แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการที่เขาว่าจ้างคนอื่นให้มาดูแลลูก มันทำให้เกิดความวิตกกังวลจนเข้าไปเช็คเรื่อยๆว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และในตอนนี้เขาก็ได้เห็นภาพเจนรักษ์กำลังกอดลูกของเขา หากนายจ้างคนอื่นมาเห็นภาพพี่เลี้ยงนอนบนตักของอดีตพี่เลี้ยงของเขาและกำลังกอดลูกของเขาอยู่แบบนี้คงจะไม่พอใจ แต่ทำไมนักรบถึงไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น
“คุณนักรบครับ” อยู่ๆก็มีเสียงเรียกขึ้นมา ก็คงจะยังตกลงกันไม่ได้เสียที
“นี่มันก็เลยเวลางานแล้ว”
“แต่เรายังคุยกันไม่จบนะครับ ทางนั้นไม่ยอมรับผิดกันสักที”
“ก็พวกผมไม่ได้ผิด”
“แล้วมันความผิดของพวกผมเหรอ!”
“เงียบทุกคน!” ในที่สุดเขาก็โพล่งออกมา และได้ผล….
ในที่สุดนักรบก็ได้ความเงียบกลับคืนมา
“ผมไม่สนแล้วว่าใครผิดในวันนี้ แต่นี่มันเลิกงานแล้ว และเราคุยกันมามากกว่า 4 ชั่วโมง แล้วมันได้อะไรขึ้นมาไหม”
“…..”
“ผมหวังว่าจะมีการประชุมครั้งต่อไปที่สั้นกว่านี้และได้ประสิทธิภาพกว่านี้ ในส่วนของใครผิดไม่ผิดนั้นผมเองก็จะไม่ปล่อยไว้”
“คุณนักรบ”
“ก่อนอื่นผมขอให้ทุกฝ่ายโฟกัสที่การแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ถ้าพวกคุณยังไม่กลับบ้านก็ไปคิดมาและวางรายงานให้ผมที่โต๊ะตอนเช้า แต่ถ้ายังไม่ทำก็ไม่เป็นไร เอามาให้ผมในตอนบ่ายก็ยังดี ต่อจากนั้นให้วางแผนหามาตรการรับมือเพื่อป้องกันในครั้งถัดๆไปมาด้วย”
“แต่เราจะ….”
“แล้วใครจะบอกว่าผมมองข้ามเรื่องใครผิด”
“…………”
“คนผิดก็คือคนผิด ผมก็เห็นว่าเราต้องให้เขารับผิดชอบ แต่เราเสียเวลาไปมากพอแล้วและถ้ามันยังไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมก็เห็นว่าเราควรแก้ปัญหาเดี๋ยวนี้ก่อนจะมาจับมือใครดมแบบที่เสียเวลาไปทั้งหมด”
“ครับ”
“เลิกประชุมได้” เขาไม่สนอะไรแล้วทั้งนั้น….
นักรบต้องรีบ….กลับไปบ้านแล้วจริงๆ
แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวังเลย เพราะทันที่เดินออกจากห้องประชุมมายังห้องทำงานส่วนตัว ปัญหาอื่นๆก็ตามมาให้ต้องแก้ และมันก็ทำให้เสียเวลาอยู่จนฟ้ามืดแล้วจริงๆ นักรบกัดฟันกรอด เขาต้องมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำจึงต้องมีความอดทนควบคู่ไปด้วย และเมื่อเป็นอิสระจากปัญหาที่เกิดขึ้นกะทันหัน จึงไม่รอช้าเลยที่จะขึ้นรถและขับกลับบ้าน วันนี้เขาไม่ได้ให้เพชรขับมาส่งขากลับ
ปกติแล้วนักรบเองก็ไม่ได้ให้เพชรขับมารับส่งกันบ่อยๆเห็นจะมีก็ช่วงนี้ที่เสนอหน้ามาบ่อยจนหมั่นไส้แต่ไม่ได้พูดอะไร กับพี่เลี้ยงคนใหม่ก็ทำท่าแปลกๆให้เขาขนลุกทุกครั้งที่เห็น สนิทสนมกันเกินหน้าเกินตาจนแม้แต่คนที่โง่เง่าที่สุดยังดูออกว่าต้องการอะไร แต่นักรบไม่ได้สนใจ มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระวุ่นวายที่สุด และถ้าไม่เป็นอุปสรรคทางการทำงาน เจนรักษ์จะอ่อยหรือคุณเพชรจะขายอ้อยเขาก็ไม่ขัดทั้งนั้น
รถติด….จนมันทำให้เขาอยากจะสละรถและวิ่งกลับบ้าน ความคิดถึงที่แทบล้นอกนั้นทำให้คนที่ใจเย็นแต่เด็ดขาดมีแต่ความรุ่มร้อน เขาอยากเจอหน้าลูก แม้จะไม่โผเข้าไปกอด เขาอยากมองหน้าลูกแม้ไม่กล้าแม้แต่จะจุมพิต นักรบเป็นพ่อประสาอะไรกันถึงได้ขี้ขลาดถึงเพียงนี้ ดูเจนรักษ์สิ….ทั้งที่ได้เจอกับลูกและได้อยู่กับลูกแค่อาทิตย์เดียว แต่เขาสองคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ราวกับมีกันและกันอยู่แค่นี้ บนโลกของลูกกำลังจะไม่มีตัวตนของพ่อไปทุกวัน หรือไม่….มันก็อาจจะไม่มีเลยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าสู่พื้นที่ของบ้านรัตนสกุล….นักรบก็รีบจอดรถเทียบหน้าบ้านโดยลืมไปเลยว่าจะต้องเอารถไปจอดที่โรงจอดรถให้เรียบร้อย เขาเคยเจ้าระเบียบกว่านี้ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้พลาดพลั้งอย่างใหญ่หลวง ไม่….เขาไม่ได้อิจฉาเจนรักษ์หรอกที่สามารถกอดลูกเขาอย่างรักใคร่ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันแบบนั้น แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจเขาตลอดเวลาหลังจากเห็นภาพนั้นคือกลัว….กลัวว่าวันหนึ่ง ลูกอาจจะโผเข้าหาทุกคนในยามมีปัญหา แต่ไม่ใช่พ่อของเขา หรือกลัว….ว่าลูกจะคิดว่าเขาเป็นปัญหา และไม่ยอมแม้แต่จะให้แตะเนื้อต้องตัวกัน ใช่….วันหนึ่งลูกอาจจะอึดอัดกับเขา เหมือนกับที่เขารู้สึกเช่นนั้นกับปู่ของน้องวิน….ผู้ซึ่งได้จากลากันไปแล้ว…..
“อ้าว….คุณรบ” เป็นเสียงของเจนรักษ์ที่ทักกันออกมาก่อน ในอ้อมแขนมีน้องวินในชุดนอนอยู่ ลูกชายของเขากำลังมองมาที่คุณพ่อซึ่งอาจจะไม่มีในความทรงจำ สภาพของเขาหลุดไปจากตอนเช้ามากๆ เนคไทก็แทบจะหลุดออกจากคอ แขนเสื้อก็ถูกพับ ผมที่เคยถูกเซ็ตก็ยุ่งเหยิงเพราะเอาแต่ทึ้งหัวในรถ ภาพของเขาในตอนนี้มันดูไม่ดีนักและมันอาจจะลดทอนความหวั่นเกรงที่เจนรักษ์มีให้กันอย่างที่นักรบพยายามให้เป็นมาตลอดลงได้
และเราก็เงียบงันอยู่อย่างนั้นให้กัน
เป็นนักรบอีกครั้งที่ไม่มีความกล้าต่อหน้าลูกชายของตนเอง…..
tbc
talk: เรามาต่อเร็วไปเปล่าคะ??? คือเราแต่งนำไปหลายตอนแล้วเหมือนกันเลยคิดว่าคงมาลงไว้ได้แต่ก็กลัวคนไม่รู้ ตอนแรกว่าจะลงวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมาได้หรือเปล่าเลยชิงลงวันนี้ แถมพอเห็นคอมเมนท์แล้วชื่นใจ ขอบคุณมากเลยนะคะ เป็นพวกซาดิสม์ค่ะ ชอบให้ทวง55555
สามารถติดแท้ก #เจนไม่นก ในทวิตเพื่อร่วมพูดคุยกันได้นะคะ เราจะพยายามอัพเดต มีอะไรแนะนำได้เลย เราจะลองเอาไปปรับปรุงดูนะคะ:)
แต่คาดว่าเรื่องจะเข้มข้นขึ้นบ้างแล้วล่ะค่ะ เราอาจจะเห็นน้องเจนเวิ้นน้อยลงและมีสาระมากขึ้น แต่...ก็ยังเวิ้นเก่งตามคอนเสปต์ค่ะ ฝากติดตามพัฒนาการทางอารมณ์หลายๆด้านและภาวะเสี่ยงเข้าคุกของน้องด้วยนะคะ /ถ้าเราไม่มาอัพฝากเรื่องชานมหวานน้อยด้วยนะ5555
twitter@reallyuri