ตอนที่ 28 และแล้วก็มาถึงวัน วันที่ผมและพี่เมฆสุดหล่อจะไปเที่ยวฮันนีมูนกันสองต่อสอง แต่อันนี้ผมก็อาจจะคิดเองเออเองคนเดียวแหละ พี่เขาคงไม่คิดหรอก คงแค่คงอยากไปพักผ่อนบ้างตามประสาเพราะทำงานเหนื่อยติดต่อกันมาหลายวันแล้ว พรุ่งนี้แล้วสินะ! ผมไม่ค่อยบ้าเห่อหรอก ก็แค่ขนเสื้อผ้าที่มีในตู้ที่มีออกมาทั้งหมดเพื่อจะเลือกดูว่าจะเอาตัวไหนยัดใส่กระเป๋าไปได้บ้าง ก็เท่านั้นเองครับไม่ได้อะไรเล้ยย! แต่แอบบอกไว้ก่อนว่า Sup ซื้อกางเกงว่ายน้ำสุดเซ็กซี่มาให้หนึ่งตัว เพราะผมได้ยินว่าห้องพักมีสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่ผมยังไม่ได้ลองใส่หรอกแต่แอบเห็นแว๊บๆว่าเป็นสีเขียวๆ แล้วมีเชือกผูกข้างหน้า กะไปตายเอาดาบหน้า ผมเชื่อใจ Sup เสมอครับไอ้เรื่องพรรค์นี้อ่ะ
“ปั๊กครับเอาอะไรไปเยอะแยะ? เราไปแค่สองคืนเองนะ”
“ผมไม่ได้เอาไปหมด แค่จะเลือกว่าจะเอาตัวไหนไปดีครับ”
“ปั๊ก…ใส่ตัวไหนก็น่ารักหมดแหละครับ”
หลังจากที่ได้มาอยู่กับพี่เมฆผมก็ถูกแกหยอดอยู่บ่อยๆ จนจะเป็นขนมครกอยู่แล้ว ตอนแรกๆก็โคตรเขิน แต่ช่วงหลังๆผมก็ยอมรับความจริงได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องจริง ก็เลยไม่ค่อยจะเขินซักเท่าไรแล้ว
“…แต่มันก็จริงนะครับ”
“…ครับ”
พี่เมฆขยับมานั่งด้านหลังแล้วอุ้มผมขึ้นไปนั่งบนตัก พี่เขาเป็นคนประเภทชอบสัมผัสบางทีผมยืนอยู่ดีๆก็เข้ามากอด บางทีก็อุ้มมานั่งตักแล้วก็เอาคางมาเกยไหล่ผมแบบนี้ประจำ แต่ผมก็ชอบนะ ก็เลยปล่อยให้ท่านเขาทำไป
“ปั๊กน้อยไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศบ้างเหรอครับ อย่างเช่นญี่ปุ่นหรือเกาหลีก็ได้ ?”
“อืม…เอาไว้ปีหน้าดีกว่าครับตอนนี้ผมยังไม่อยากลางานนานๆ”
“อืม”
ท่านเขาเอาดั้งโด่งๆมาถูๆไถๆอยู่ตรงหัวไหล่ผม จั๊กจี้อ่ะแต่ผมชอบมาก ก็ผมมันใจง่ายมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
หลังจากนั้นผมก็จัดกระเป๋าเพื่อเตรียมไปเที่ยวเสร็จเรียบร้อย แต่ดูกระเป๋ามันเปล่งๆจนเกือบจะแตกอยู่แล้ว เกือบจะรูดซิปปิดไม่ได้เลย
“เดี๋ยวเราแวะกินข้าวก่อนก็แล้วกันครับ”
“ดีครับ ตอนนี้ผมหิวมากเลย”
ก็แน่นอนแหละครับ ก็ผมเล่นตื่นตั้งแต่ยังไม่สว่างไม่หิวก็บ้าแล้ว พี่เมฆเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ร้านอาหารริมทาง ตอนนี้ยังเช้าอยู่ผมเลยสั่งแค่โจ๊กใส่ไข่กับไข่กระทะมากิน กินแต่ไข่กับไข่ ส่วนพี่เมฆสั่งแค่โจ๊ก ตัวโตซะเปล่ากินนิดเดียว ก็อย่างว่าเมื่อคืนผมเสียพลังงานไปเยอะไงเลยต้องทดแทน แต่อย่าคิดลึกครับ จัดกระเป๋าเดินทางต่างหากเล่นเอาเสียพลังงานไปมากอยู่เหมือนกัน
ผมเห็นสาวๆโต๊ะข้างๆมองผมกับพี่เมฆแล้วแอบซุบซิบกัน ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรชินแล้วครับก็ คนหน้าตาดีมานั่งกินข้าวด้วยกันสองคน ใครไม่มองผมให้ถีบหน้าเลย
“พี่เมฆ ผมว่าสาวๆโต๊ะนั้นเขามองพี่นะครับ”
“ใช่เหรอ เขามองปั๊กน้อยรึเปล่า?”
“พวกเขาจะมองทำไม? มองพี่มากกว่า”
“เขามองปั๊กเพราะปั๊กน่ารักไงครับ”
ฮิ้ว!! พี่แกหยอดอีกละ อยากจะหอมแก้มซักฟอดสองฟอดเป็นการตอบแทน เดี๋ยวนี้หยอดเก่งใหญ่แล้ว ทำเอาผมตกหลุมรักพี่เขาซ้ำๆอยู่นั่นแหละ เบื่อจริงๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนเห่อขึ้นมาทันที ถึงผมจะหน้าหนาหน้าด้านยังไงก็ยังพอจะมียางอายหลงเหลืออยู่บ้างนะครับ
“ร…เรารีบกิน ล…แล้วรีบไปดีกว่าครับ”
“ครับ”
พี่เมฆอมยิ้มที่มุมปาก โคตรน่ารักเลยแฟนใครวะ
รถของเราเลี้ยวเข้ามาในรีสอร์ท พอเห็นบริเวณรีสอร์ท ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวผมทันที จูบแรกของผม เป็นจูบที่พี่เมฆจู่โจมโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัวเลย แถมบรรยากาศก็เป็นใจสุดๆ ในส้วมที่มีชักโครกและอ่างล้างมือ โรแมนติกสัดๆไปเลยครับ
ห้องพักห้องนี้โคตรหรู มีเตียงคิงไซส์สีขาวอยู่กลางห้อง เพดานเป็นแบบเปิดสามารถนอนดูดาวได้เลยนะครับ พอเปิดประตูกระจกออกไปก็พบกับสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก มีเก้าอี้ให้นอนเล่น รอบๆเป็นกำแพงสูงกั้นเพื่อความส่วนตัว ดีเลยเวลาผมแก้ผ้าเล่นน้ำจะได้ไม่มีใครเห็น เอ้ย! ไม่ใช่! ผมเตรียมกางเกงว่ายน้ำมาเถอะครับ แต่แบบโคตรเซ็กซี่ขยี้ใจเลย ยังคิดอยู่ว่าจะกล้าใส่รึเปล่า?? แต่พี่เขาลงทุนนะครับ น่าจะหมดไปหลายตังอยู่
เราเดินออกมาที่ริมสระว่ายน้ำ ลมพัดเย็นสบายดีแม้จะเป็นเวลาช่วงสาย ถือว่าพี่เมฆเลือกห้องที่บรรยากาศดีมากๆเลยครับ นอกจากจะหล่อมากแล้ว ยังรสนิยมดีด้วยแฟนผมเนี่ย
“พี่เมฆจำได้มั้ยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราบ้างที่นี่?”
“อืม…จำได้สิ ก็พี่จูบเราในห้องน้ำไง”
“…ครับ”
พูดแล้วยังตื่นเต้นไม่หาย คนอะไรลักจูบผมในส้วม
“ผมถามได้มั้ย ว่าทำไมตอนนั้นพี่ทำอย่างนั้น?”
“อืม…ยังไงดีหล่ะ?”
“ครับ?”
ตอบดีๆนะครับ ไม่งั้นคืนนี้อด
“ก็แบบ…อยากจูบอ่ะ ไม่มีเหตุผลอะไร”
อะไรของคุณพี่ ถ้าไม่ติดที่ว่าหล่อ ผมกระโดถีบขาคู่ไปแล้วครับ ผมก็เป็นคนมีพ่อมีแม่นะครับ ตอบแบบนี้ได้ยังไง??อร้ายๆ !! ลืมตัว…นั่นผัวนะนั่น!
“…ม…ไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้แล้วเหรอครับ?”
“อืม...ครับ”
“ง่ะ”
“แต่พี่ก็ไม่ได้คิดแบบนั้นกับคนอื่นๆ แค่คิดว่าเป็นปั๊กก็เลยจูบ”
“ครับ…”
อืม…ผมควรจะดีใจใช่มั้ยครับ?? ฟังดูก็เหมือนผมเป็นคนพิเศษที่ไม่เหมือนคนอื่น เอาวะ!! คิดแบบนี้แหละ!
“เพราะเป็นหมอกคนนี้คนเดียวเท่านั้นเองครับ”
พี่เขาหันมาสบตา ผมมองเข้าไปในดวงตาสีดำที่ดูลึกลับนั่น มันแสดงออกมาว่าคนพูดไม่มีความเสแสร้งใดๆเจือปนออกมาเลย มันคือความจริงใจล้วนๆที่คนมึนๆอย่างผมยังดูออก
พับเรื่องกระโดดถีบขาคู่ แล้วผมก็กระโดดกอดพี่เขาแทนเลย คนอะไรวะ?? ยิ่งอยู่ด้วยแล้วยิ่งหล่อยิ่งอยู่ด้วยไปนานๆแล้วยิ่งทำให้ผมหลงรักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พี่เก่งจริงๆเลยครับ
“อ้อนเหรอ อยากได้อะไรครับ?”
“ไม่อยากครับ แค่อยากได้พี่เมฆคนเดียวครับ”
อ๋อย!! โดนหยิกแก้มจนแทบยืด ถ้าหากมันยืดแล้วพี่ต้องรับผิดชอบนะ
‘ฟอด’
พี่เมฆจูบแก้มผมทั้งสองข้างเลย ถึงมันจะเย็นๆหน้าหน่อยเพราะอาจจะมีน้ำลายพี่เขาติดมาแต่ผมก็ไม่เคยรังเกียจเลยครับ
“งั้นเราไปที่เตียงกันมั้ยครับ?”
…เกือบจะดีแล้วนะครับ ถ้าไม่มีประโยคถัดมา
“เอ่อ…ผมว่าเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่าครับ ผมอยากถ่ายรูป”
อย่าเพิ่งหื่นครับ! ผมยังไม่อยากเดินขาถ่างออกไปข้างนอก ผมยังอยากเก็บบรรยากาศที่นี่เอาไว้ ไม่ใช่แค่เก็บบรรยากาศบนเตียงอย่างเดียวครับ เสียดายตังที่เสียไปบ้างก็ดีนะครับ
“…ก็ได้ครับ”
พี่แกอมยิ้มอีกละ แต่ผมก็ชอบมอง เพราะเจอกันช่วงแรกๆพี่แกดูดุมาก ตอนแรกผมยังคิดเลยว่าเป็นไซบีเรียนจำเป็นต้องดุขนาดนั้นเลยเหรอ??
เราเดินออกมาจากห้องพัก แล้วเดินดูไปเรื่อยๆ รีสอร์ทที่นี่อยู่ติดกับเขื่อนครับ มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด มากันแค่สองคน ก็ต้องถ่ายกันเอง แต่ส่วนมากผมจะเป็นคนถ่ายให้ ผมล้างเมมมือถือมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย ตั้งใจกว่าทำงานอีกอ่ะ
“พี่เมฆยืนกอดอกหน่อยครับ เอียง 45 องศา”
“…”
“ยิ้มครับ เอาแบบยิ้มกว้างๆเลย”
ผมว่ามุมนี้พี่เขาหล่อที่สุด ยิ่งยิ้มแบบแบดๆนี่สูสีกับเทพเจ้าสายฟ้าเลย แต่ถ้ายิ้มแบบอบอุ่นๆกัปตันอเมริกาก็ชิดซ้ายไปเลยเหมือนกันครับ และหลังจากนั้นเราก็ไม่ลืมที่จะเซลฟี่กัน ส่วนมากจะเป็นรูปที่พี่เมฆเขากอดเอวผมบ้าง โอบไหล่บ้าง หอมแก้มบ้าง หลอกลวนลามผมตลอด ไอ้ผมก็ไสยไสยยอมหมดทุกท่าแหละครับ ผมลองเลื่อนรูปดูแล้วเลือกรูปที่พี่เขาหอมแก้มผมตั้งเป็นวอลเปเปอร์ เพราะถ้ามือถือหายจะได้รู้ไงครับว่าใครเป็น ‘เจ้าของ’
เราเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเกือบเที่ยง ก็กลับมากินข้าวกลางวันกัน ช่วงบ่ายเรามีแพลนว่าจะไปนั่งเรือเล่นกันครับ
“ปั๊กขึ้นสะพานแขวนกัน”
“ไม่เอาครับ ผมกลัวอ่ะ”
“มีพี่อยู่ไม่ต้องกลัวครับ”
“…ก็ได้ครับ”
พี่เมฆจูงผมขึ้นไปบนสะพานแขวน สูงฉิบหายขาผมนี่สั่นพับๆแล้วเนี่ย แต่พอพี่เขากระชับมือผมที่กุมไว้ ผมก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันทีแปลกดีนะครับ
“จำได้มั้ยครับเราเคยมายืนกันตรงนี้?”
“จำได้ครับ”
ในวันนั้นผมกลัวว่าพี่เขาจะแกล้งพามาปล่อยไว้กลางสะพาน เลยกล้าๆกลัวๆแต่พี่เมฆก็ไม่ทำ พอมาวันนี้มันยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าพี่เขาจะไม่ปล่อยมือผมแน่นอน
แอ๊งงง!!! พี่เขาแกะมือผมออก!! แล้วเดินหนีไปโน่นแล้ว เดี๋ยวทำไมพี่ทำอย่างนี้?? รอผมด้วยยยยย!!
“พี่เมฆ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทำไมพี่ทำงี้อ่ะ? ผมกลัวนะ”
พี่เขาเดินไปไม่หันหลังมาเลย ผมจะทำไงดีวะ?? ผมรีบย่อตัวลงนั่งกลัวความสูงอ่ะ!
“ปั๊ก! มองพี่”
“…ไม่เอาผมโกรธพี่แล้ว”
“หมอกเงยหน้าครับ”
เดี๋ยวเถอะจะหยิกให้เนื้อเขียวเลย ไอ้คนหล่อนิสัยไม่ดี ผมเงยหน้ามองพี่เมฆ เขายืนอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็เป็นระยะทางที่มองดูแล้วทำเอาขาผมสั่นหนักกว่าเก่าอีก
“พี่แกล้งผมได้ไงอ่ะ?”
“หึหึ! ไม่ได้แกล้งครับ”
แล้วไอ้ที่ยิ้มแบบนั้น มันแกล้งกันชัดๆเลย
“แต่พี่แกล้งผมแน่ๆ”
“เดินมาหาพี่ครับ”
“ผมไม่ไป”
“พี่รอหมอกอยู่ เดินมาหาพี่”
พี่เมฆยื่นมือออกมาแล้วยิ้มให้ ถ้าเป็นระยะทางเดินปกติก็น่าจะแค่สิบก้าว แต่สำหรับผมตอนนี้มันเหมือนไกลเป็นสิบกิโลเลย
“…”
“พี่จะรอเราจนกว่าจะเดินมาหาพี่ พี่จะรอตลอดไปนะครับ”
“ง่ะ”
พูดอย่างนี้ผมไม่เดินไปก็ไม่ได้แล้ว! ตัดสินใจลุกขึ้นยืนทั้งที่ขายังสั่นๆนี่แหละ เอาวะ!หลับหูหลับตาเดินแค่สิบก้าวเองมั้ง
ผมค่อยๆเกาะราวสะพาน แล้วก้าวขาสั่นๆไปทีละก้าวโดยไม่โฟกัสลงไปข้างล่างแต่โฟกัสไปที่พี่เมฆที่ยิ้มอย่างอ่อนโยน พี่เขายื่นมือรอให้ผมเดินไปหา แต่อย่าคิดว่าผมจะซาบซึ้งอะไรมากนะ ถ้าผมจับพี่เขาได้จะกระโดดกัดหูซักที ข้อหาที่ทำให้ผมกลัว
“เป็นไงครับ? ไม่เห็นน่ากลัวเลย”
พี่เขาพูดตอนผมกระดึ๊บๆไปถึง วันนี้พี่เขายิ้มตลอดเลยนะ ไปโดนตัวไปมารึเปล่าครับ??
“พี่ไม่ลองมาเป็นผม เนี่ยขายังสั่นไม่หายเลย”
“รู้ความรู้สึกพี่รึยัง? เรื่องขาสั่นน่ะ”
“ครับ? ยังไงเหรอครับ?”
“ก็ตอน…ขาพี่ก็สั่นแบบนี้แหละครับ”
ตอน… อ่ะ! ผมรู้ละ แหมพี่ก็พูดไป! อายเลยอ่ะ ผมทำพี่เขาขาสั่นขนาดนั้นเลยเหรอ แซ่บจริงๆผมเนี่ย เอ้า! เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับพี่เลยนะเดี๋ยวเถอะ!!
“พี่เมฆ ก้มลงมาหน่อยผมบอกอะไร”
“ครับ?”
พี่เขาทำตามอย่างว่าง่าย ผมก็เลย…
“โอ้ย!! เจ็บนะครับทำอะไรเนี่ย เลือดออกรึเปล่า?”
งับหูพี่เขาไปทีนึง ฮ่าๆสมน้ำหน้า!
“แหมเบาๆเองครับ แลกกับที่พี่ที่ทำผมขาสั่นอยู่เนี่ยคุ้มจะตาย”
“ทีเราทำพี่ขาสั่นบ่อยๆ พี่ยังไม่ว่าเลยนะ”
“…”
ยังไม่พ้นไอ้เรื่องใต้สะดือ จริงๆผมก็ทะลึ่งนะ แต่พอเจอพี่เมฆแต่ละดอกเล่นเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกัน ร้ายนะครับพี่เขาเนี่ย
เราเดินทางกลับที่พักเวลาตอนเย็น วันนี้รู้สึกว่าชิลล์มาก อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่ต้องทำงานทำการแล้วครับ ลาออกมากัดก้อนเกลือกินกันดีกว่า
“ปั๊กอยากจะไปกินที่ศูนย์อาหารหรือให้เขาเอามาส่งที่ห้องดีครับ?”
“กินที่ห้องดีกว่าครับ”
เป็นส่วนตัวดี ผมจะแทะขาไก่ยังไงก็ได้ไม่มีใครว่า พี่เมฆจัดการสั่งอาหารให้มาส่งที่ห้องพัก ผมว่าจะอาบน้ำซักหน่อยเหนียวตัวมาก แต่วันนี้ยังไม่ได้เล่นน้ำเลยมืดๆค่อยเล่นดีกว่า รอไก่ก่อนจะได้เอาลงไปกินในน้ำ ฮ่าๆ ล้อเล่นครับผมไม่ใช่จิ้งจกซักหน่อย
หลังจากผมอาบน้ำเสร็จพี่เมฆก็เข้าไปอาบบ้าง ซักพักพี่เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พี่เขาสวมกางเกงผ้าสามส่วนสีน้ำตาลออกมาอย่างเดียว แล้วเอาเสื้อยืดสีขาวพาดบ่าไว้ พี่เมฆเสยผมอย่างลวกๆ ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย อึ้งทึ่งตำลึง เอ้ย! ตะลึงมาก!! คือแบบโคตรฮอตอ่ะ โคตรฮอตปรอทแตกมาก เวลาพี่แกเสยผมทีนี่ถ้าผมเป็นสาวๆนี่กรี๊ดสลบไปแล้ว
“มองอะไรครับ?”
“ป…เปล่าครับ”
อย่าถามผมอย่างนั้น ใจมันสั่นไหว เลือดกำเดาจะไหลน้ำลายจะหก ขอเก็บอาการแป๊บ!
“ปั๊กเป็นอะไรรึเปล่าครับ? หน้าแดงๆ”
“ป…เปล่าครับ”
อย่าเข้ามาให้กว่านี้ เดี๋ยวผมเป็นลมตาย แล้วถ้ายมบาลถามว่าตายยังไง ผมนี่ไม่รู้จะตอบว่าอะไรเลย จะตอบว่าเห็นผัวแก้ผ้าแล้วช็อกตาย ก็เกรงว่าจะอายขายขี้หน้า
“ไม่สะบายรึเปล่า? ไหนพี่ดูซิ”
พี่เมฆเอามือมาแตะหน้าผากเบาๆ เล่นเอาผมหน้าร้อนเห่อขึ้นกว่าเดิมอีก
“ผ…ผมไม่เป็นอะไร”
“อืม…แต่ตัวก็ไม่ร้อน แต่ทำไมหน้าแดงๆล่ะครับ?”
“ผ…ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ”
จะบอกว่าเขินที่พี่แก้ผ้าเดินออกมาจากห้องน้ำก็กลัวจะเสียฟอร์มความหน้าด้านของผมหมด
“หรือว่าเขินพี่ที่ไม่ใส่เสื้อ?”
เกลียดความรู้ทันของพี่เขาจริงๆครับ
“ป…เปล่า ผ…ผมชินแล้วเห็นออกจะปล่อยไป”
จริงๆแล้วผมน่าจะชินนะครับ เพราะเวลาพี่เมฆอยู่บ้านพี่เมฆก็ถอดเสื้อเดินโทงเทงในบ้านบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่รู้ทำไม เขินหนักฉิบหายเลย
“จริงเหรอครับ?”
พี่แกถามอย่างเดียวไม่พอ แถมจับมือผมไปลูบที่เนินอกของตัวเองอีก อ่อยเรี่ยอ่อราดมากบอกเลย อย่าอ่อยผมเยอะเดี๋ยวผมใจแตกไปมากกว่านี้พี่รับผิดชอบไหวเหรอ? ไหนว่าขาชอบสั่นบ่อยๆ หรือพี่ชอบเวลาขาสั่นครับ?
“จ…จริงสิครับ”
ผมจะตกนรกมั้ยครับ? ผิดศีลข้อ 4 เนี่ย
“แต่พี่ว่าเราโกหก”
รู้ดีตลอดแฟนผมเนี่ย พี่เมฆโอบเอวผมเข้าไปชิดกับเอวของพี่เขา แล้วบีบสะโพกผมเบาๆ อย่ามาอ่อยตอนนี้ผมยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยหมดแรงแล้ว รอก่อนดิ!
“ผมเปล่า…”
พี่เมฆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเราทั้งสองต่างก็เป่ารดกันและกัน ผมเงยหน้าไปสบตาพี่เขา พี่เมฆยิ้มจนเห็นเขียวขาวๆ ผมยิ้มตอบ เรา…
‘ก๊อกๆ’
“อาหารมาส่งแล้วครับ”
วะ!!! เสียอารมณ์เลย กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้ว เสียดายฉิบหาย! เมื่อกี๊บรรยากาศมันเหมาะแก่การเสียตัวอย่างแรงเลย คนส่งอาหารบ้านอยู่ที่ไหนครับ? เดี๋ยวผมจะจ้างรถสิบล้อไปถล่ม
“เดี๋ยวพี่มาครับ”
พี่เมฆรีบใส่เสื้อยืดแล้วเดินไปที่ประตู
ไม่เป็นไรครับ! บรรยากาศแบบเมื่อกี๊ผมสร้างได้ตลอดเวลาแหละ ก็คนมันเชี่ยวซะอย่าง อ่อยได้ทุกวันครบบอกเลย!
จบตอนที่ 28