“ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ คุณก็น่าจะบอกริศาก่อน ดีนะคะเนี้ยที่ริศาแวะเข้ามาด้วย โชคดีจังเลยนะคะ” ริศายิ้มกว้าง พูดเองชมเองฟังดูงงงวย
“เชิญครับคุณริศา” พี่ธานสละที่นั่งพร้อมลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณค่ะ” เธอฉีกยิ้มให้พี่ธาน พี่ธานเป็นคนเดียวที่ริศาคุยด้วยอย่างไม่ถือตัวนัก ส่วนลูกน้องของผมคนอื่นถือว่าไม่อยู่ในสายตาของเธอเลยแม้แต่น้อย ไหล่ซ้ายของริศางอเข้าหากันเล็กน้อยประกอบกิริยาเก้อเขิน ผมที่นั่งเอียงข้างคุยกับพี่ธานอยู่เมื่อครู่นี้ ยังคงนั่งคาเฉยแช่ไว้ในท่าเดิมไม่คิดขยับ อยู่ดี ๆ ก็ขี้เกียจไปหมด ทำให้นึกถึงคำพูดของไอ้โปรดขี้เบื่อที่รักการหลับเป็นชีวิต มันเคยเล่าด้วยใบหน้าจริงจังสมัยมหาลัยว่า
“เด็กที่กูเอากลับห้องเมื่อคืน ตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม อยู่ดี ๆ กูก็รู้สึกขี้เกียจขยับเอวขึ้นมา ไอ้นั่นของกูเกือบเหี่ยวคาที่แน่ะ เฮ้อ พอขี้เกียจแล้ว มันยากมากจริง ๆ ที่จะไปต่อ..” “หึ” นึกถึงทีไรอดขำออกมาไม่ได้ทุกที
“มีอะไรหรือคะ” ริศาสงสัยที่อยู่ดี ๆ ผมก็หัวเราะ ผมหุบยิ้มลง เธอนั่งลงข้างผมจนตัวเราแทบจะประชิด
“มาเที่ยวกันเหรอคะโปรด” ริศาชะโงกหน้าหันไปทางไอ้โปรดที่นั่งถัดจากผมไป
“ครับ พอดีไอ้คินเลี้ยง” ไอ้โปรดตอบเป็นจริงเป็นจัง ริศาผงกหัวทักทายไอ้คินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนเบือนหน้ากลับมาหาผมแล้วเธอก็เงียบปากไปเสียดื้อ ๆ ผมเพียงจ้องมองเธอโดยไม่คิดพูดอะไรทำให้เธอเงียบลงไปสักพักหนึ่ง
“นี่แก้วพี่ธานใช่ไหมคะ” ริศาถามผม
“ดื่มของผมนี่ล่ะ” ผมตอบ ยื่นแก้วไวน์แก้วเปล่าที่ถืออยู่ในมือให้ ริศารับไปถือไว้ ผมขยับตัวหยิบขวดไวน์เติมเพิ่มให้กับเธอ
“ขอบคุณค่ะ” เธออมยิ้มพอใจก่อนยกขึ้นจิบ
“ไหนเพื่อนคุณ” ผมถามถึง
“โต๊ะฝั่งตรงข้ามน่ะค่ะ” เธอเอี้ยวตัวชี้ประกอบ ผมมองไปที่โต๊ะดังกล่าวซึ่งมีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับริศานั่งอยู่เกือบสิบคน ประมาณด้วยสายตา บางคนหันมามองเราทั้งคู่เป็นระยะ ริศายกแก้วไวน์ขึ้นจิบแก้เก้อ เธอจิบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและท้ายที่สุดก็เอาแต่เงียบโดยไม่มีทีท่าว่าจะขอตัวกลับไปที่พวกของเธอ
ผมมองชุดที่เธอสวมใส่ในคืนนี้ ชุดเกาะอกกระโปรงสั้นที่เพียงปิดส่วนสำคัญของร่างกายไว้ สีแดงสดสะท้อนเข้ากับแสงไฟวิบวับในร้าน เธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นดีไร้ที่ติ หากให้เปรียบเทียบกับพลอยคงเป็นคนละอารมณ์ ถึงพลอยจะเป็นหุ่นแบบที่ผมชอบมากกว่าแต่ริศาก็ไม่น้อยหน้า ติดที่เธอผอมไปหน่อย ผมวางมือลงบนตักทำให้คนตรงหน้าที่คงกำลังมีเรื่องให้คิดแทบสะดุ้ง ริศาพยายามที่จะมองขึ้นสบตาผมแต่เป็นเพียงการกระทำแบบครั้งคราวเท่านั้น หลังมือของผมขยับเกลี่ยอยู่ที่ต้นขาของเธออย่างที่เจ้าตัวไม่มีแม้แต่จะเอ่ยปากห้าม มือขยับเหนือขึ้นไปถึงเอวเล็กคอดก่อนดึงเข้ามาค่อนข้างแรง ริศาส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ตัวเซเข้ามาประชิดกับผมจนตัวเราติดกันแทบสนิท ละแวกนี้คือโซนวีไอพีที่เด็กประถมก็คงเดาได้ว่าจะต้องมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ทั่วเป็นแน่
“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าผมไม่ได้ชอบคุณ” ผมพูด ตามองต่ำลงไปที่ริศาที่เงยหน้าขึ้นตาเบิกโต
“แต่จะให้นอนด้วยก็ได้ อยากรู้งั้นเหรอว่าถ้าผมนอนกับคุณแล้วผมจะปฏิบัติกับคุณยังไง” ผมเข้าไปกระซิบที่ข้างใบหู น้ำเสียงยียวนที่คงเย้ยหยันศักดิ์ศรีของเธอเต็มที ริศานำมือกระแทกอกผมอย่างแรง ผมหัวเราะขึ้นจมูกผละตัวออกมาพลางจ้องตอบ เธอค้อนด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธ มือฟาดตีแก้มผมซ้ำ ทันทีนั้นมือขวาของผมที่อยู่ใกล้กับตัวของริศามากที่สุดก็คว้าลำคอเรียวเล็กของเธอกระชากมา ริศาร้องขัดขืนพร้อม ๆ กับปากผมที่บดขยี้อยู่ที่ใบหน้า เจ้าตัวขัดขืนอยู่ในทีแรกแต่สุดท้ายก็ผ่อนแรงสู้ลงทีละนิด
“ไฟ..ให้เกียรติริศาบ้างได้ไหม” เธอพูดเสียงเครือ
“ผมเคยไม่ให้เกียรติคุณตอนไหน” ผมตอบกลับเสียงเย็น จ้องมองดวงตาอีกฝ่ายอย่างเค้นหาคำตอบ
“คุณล่ะ ให้เกียรติตัวเองบ้างรึเปล่า” ผมย้อน เธอชะงัก ครู่หนึ่งดวงตาก็เบิกโตคล้ายเถียงไม่ออก ริศาวางแก้วไวน์กระแทกลงบนโต๊ะ หุนหันเดินจากไปไม่ลาใคร
“มึงนี่มัน ..สุดระยำจริง ๆ” ไอ้โปรดกะพริบตามองตามริศา ผมเหล่มองมันครู่หนึ่งก่อนคว้าขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มมันทั้งอย่างนั้น บรรยากาศที่โต๊ะกลับมาสงบอีกครั้งหนึ่ง เราดื่มกันไปคุยกันไปพลางร่วมครึ่งชั่วโมง หางตาของผมสังเกตเห็นโทรศัพท์ของพี่ธานส่องสว่าง เจ้าของมองมาที่ผมเล็กน้อยก่อนหันตัวกลับ เห็นอย่างนั้นผมจึงลุกขึ้นกลางวง
“ไปไหน” ไอ้โปรดถาม ผมไม่ตอบจึงทำให้ได้ยินมันบ่นตามหลังแว่วว่า “ไอ้เวร”
พี่ธานกับไอ้เด่นตามหลังผมมาติด ๆ ส่วนสมุทรถูกพี่ใหญ่สั่งให้อยู่เฝ้าที่โต๊ะ ห้องน้ำฝั่งของลูกค้าวีไอพีแยกออกมาอยู่นอกเหนือโซนอื่น ไอ้เด่นเฝ้ารออยู่ที่ประตูทางเข้าด้านหน้า ขนาบข้างกับการ์ดของร้านที่ประจำหน้าที่เฝ้าห้องน้ำอยู่ พี่ธานตามผมมาด้านในพร้อม ๆ กับโทรศัพท์ที่ถูกกดโทรออกเพียงหนึ่งครั้งและตัดสายทันทีเพื่อไม่ให้ปลายสายกดรับ การส่งสัญญาณให้คนที่ทำหน้าที่อยู่ด้านนอกได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ได้นัดแนะไว้
บริเวณห้องน้ำกว้างขวางโอ่โถง ถูกออกแบบสวยงามดึงดูดในทุกมุมห้องอย่างไม่น่าผิดหวัง มีลูกค้าอยู่สามคนที่กำลังใช้ห้องน้ำอยู่ ผมทำธุระส่วนตัวโดยปกติ ตามจริงไม่ปวดเท่าไหร่แต่พอสั่งให้ออกก็ปวดขึ้นมา โถปัสสาวะด้านริมสุดทำให้เห็นมุมกว้างของบริเวณห้องน้ำได้ถนัด กล้องวงจรปิดที่เห็นได้ชัดเจนมีเพียงตัวเดียวคือก่อนเข้าห้องน้ำ ผมล้างมือทำความสะอาดอยู่สองครั้ง เป็นไปอย่างไม่รีบร้อน อีกทั้งยังทิ้งช่วงเวลาก่อนที่จะกลับออกจากห้องน้ำด้วย
การ์ดประจำหน้าห้องน้ำผงกหัวเล็กน้อย ผมฉีกยิ้มให้โดยยังคงยืนอยู่ในบริเวณหน้าห้องน้ำไม่ไปไหน หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่ามีการ์ดเดินตรวจในร้านแทบจะตลอดเวลา บางคนยืนอยู่ประจำจุด บางครั้งมีการสลับหมุนเวียนเปลี่ยนตำแหน่งกันไป ทำหน้าที่การ์ดอย่างเดียวไม่แตะต้องหน้าที่อื่นเลย หากเป็นที่ผับในต่างประเทศในบางประเทศอาจเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับประเทศไทยไม่ค่อยพบเห็นแบบนี้บ่อยนัก บรรยากาศในร้านเหมือนผับบาร์ของคนมีจะกินทั่วไป เสียงเพลงในทำนองเดิม ๆ เสียงสังสรรค์เฮฮาของขี้เหล้า แปลกตาหน่อยก็ตรงที่การเดินเข้าหาแขกในโซนวีไอพีของพนักงานหญิงที่ไม่ได้ทำหน้าที่เสิร์ฟเครื่องดื่มหรือเชียร์แขก พวกเธอไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบใดให้สะดุดตาว่าเป็นพนักงาน เสื้อผ้าหรูหรามีราคาผิดตา บางคนเดินออกมาแล้วก็กลับเข้าหลังร้านไป วนเวียนเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย ๆ และดูเหมือนว่าจะมีเยอะกว่าที่คาด
ผมนำหลังมือดันตัวไอ้เด่นที่ทำท่าจะเดินเข้าหาสมุทร เรื่องนี้คงเป็นเรื่องเดียวที่มันไม่รู้ ไอ้เด่นหยุดนิ่งตามที่สั่ง หมอนั่นเริ่มเคลื่อนไหวอย่างไม่รีรอให้เสียโอกาส ถ้าเป็นหวยผมคงถูกสามตัวตรง เขาจ้ำอ้าวแทรกฝ่าฝูงชนด้วยความรวดเร็ว ผู้หญิงรูปร่างดีที่ผมมองเห็นใบหน้าของเธอไม่ชัดนัก แต่ท่าทางของเธอที่พยายามหนีอย่างร้อนรนบวกกับออร่าของสีผิวที่สามารถดึงดูดสายตาได้กว่าใครอื่นทำให้ผมแน่ใจว่าเธอคือเป้าหมายของสมุทรในคืนนี้ไม่ผิดแน่ สมุทรตะโกนเรียกชื่อเธออยู่หลายครั้ง ปากของเขาขยับพูดแต่ผมอ่านไม่ชัดนัก “แก้ม” หรืออะไรนี่ละ ไม่ทันไรเธอก็วิ่งผ่านหลังพ้นประตูทางเข้าหลังร้านไปอย่างรวดเร็ว การ์ดสองคนกางแขนออกบอกห้ามคนแปลกหน้าในทันที สมุทรชะงัก..
“ห้ามเข้า” หนึ่งในนั้นเอ่ย ผมก้าวเข้าไปใกล้เพื่อให้เห็นสถานการณ์ได้ถนัด
“ผมต้องการพบเธอ ผู้หญิงคนเมื่อครู่” สมุทรพูด ขมวดคิ้วเป็นปมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“นี่มันที่ส่วนของคนในร้าน ลื้อเป็นใครวะ” การ์ดคนเดิมเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ผมต้องการพบเธอ แค่แป๊บเดียวเท่านั้นครับ ช่วยไปตามเธอให้ผมหน่อยได้ไหม” สมุทรเริ่มขึ้นน้ำเสียง ผมยืนมองอย่างไม่คิดที่จะเข้าไปห้ามปรามเขา คาดไว้อยู่แล้วว่าถ้าหากเขาละสายตาจากผมเมื่อไหร่เขาจะเป็นแบบนี้ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ การยืนทำหน้าที่ดูแลผมเขาก็แค่เก็บความไม่เหมาะสมเพื่อรอจังหวะ แต่ก็นะ.. เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าเขาจะเป็นอย่างนี้ ผมเองก็รอจังหวะเหมือนกัน
“กล้าดียังไงมาสั่งวะ ถอยไปซะ เกะกะ!” มันตะโกน มือผลักอกสมุทรไล่ส่ง ทันทีที่เสียงเริ่มเอะอะก็มีการ์ดโผล่เพิ่มมาจากหลังร้านอีกสองคน
“แก้ม! พี่เห็นนะ! ออกมาคุยกันก่อน!” สมุทรแหกปากตะโกนดังลั่นอย่างไม่สนหน้าใคร ลูกค้าละแวกนั้นเหลือบมองกะหลับกะเหลือกทำให้ยิ่งยั่วอารมณ์ของการ์ดมากกว่าเดิม สองคนในนั้นถูกสั่งให้เข้าไปล็อกแขนสมุทรไว้แต่กลับยิ่งทำให้สมุทรตะโกนประโยคเดิม ๆ ดังมากขึ้นอีก เขาออกตัวขืนสู้ไม่ถอย ทำอย่างกับว่าจะไม่มีโอกาสได้เจอผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วอย่างนั้น
“อั๊วบอกไม่ได้ก็ไม่ได้สิวะ! เอาตัวมันไป!!” หนึ่งในนั้นตะคอกหน้าเหี้ยม
“หยุดนะ!” “สมุทรคะ มีอะไรรึเปล่า” ผมขมวดคิ้วเป็นปมถึงแขกที่ไม่คาดฝัน พลอยที่อยู่ ๆ ก็โผล่มาจากทางไหนไม่ทราบ ผมทันไม่สังเกตเห็นเธอด้วยซ้ำ
“เอาไงดีครับ” พี่ธานถาม
“ปล่อยไปงั้น” ผมปัดส่งกับเรื่องที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ อย่างไรก็ตามผมว่ามันค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว จุดสนใจของการ์ดในร้านจะมารวมกันอยู่ที่ตรงนี้และคนของผมก็ทำงานสะดวกขึ้น
“มีอะไร !?” เสียงห้วนชวนแขยงหูดังขึ้นติด ๆ กัน ไอ้กริดโผล่หัวออกมาจากทางเดียวกันกับที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งหายตัวเข้าไป ลูกน้องตามประกบหลังสองคน การ์ดหนึ่งในนั้นจึงรีบเข้าไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
“มึงนี่มัน....” ไอ้กริดกวาดตาขึ้นมองสมุทรพลางเดินเข้าหา
“ลูกน้องไอ้ไฟนี่หว่า” มันแสยะยิ้ม ดูเหมือนมันคงจะชื่นชอบชื่อผมน่าดูเพราะดวงตามันสนุกมากทีเดียว
“เจ้านายมึงอยู่ไหนล่ะ เห็นว่ามาปาร์ตี้ อยากสนทนาด้วยสักหน่อย” มันปั้นหน้าเย้ยหยัน
“ไปกันเถอะค่ะ” พลอยตัดบท เธอเข้าไปจับแขนสมุทรเพื่อที่จะให้หลุดออกจากการ์ดทั้งสอง ไอ้กริดเหลือบมองเธอในทันที ดวงตากวาดมองสำรวจพลอยอย่างสนอกสนใจ เจ้าของร่างกายค้อนด้วยใบหน้าเย่อหยิ่งนั่นจึงยิ่งทำให้ไอ้กริดอมยิ้มกรุ้มกริ่มหนักขึ้นกว่าเดิม มันพยักหน้าให้ลูกน้องของมันที่ยืนอยู่ฝั่งของพลอย การ์ดคนดังกล่าวจึงปล่อยตัวสมุทรออก พลอยเข้าประชิดสมุทรทันทีที่ได้โอกาส
“ผมกริดครับ” ไอ้กริดผายมือขวาออกตรงหน้าเธอ พลอยอมยิ้มมุมปาก ตาเพ่งมองไปมือของไอ้กริดอย่างไร้เยื่อใยก่อนไล่สายตาขึ้นกวนอารมณ์ ไอ้กริดหน้าเปลี่ยนสีอย่างกับเห็นผี ผมพ่นหัวเราะกับท่าทีของพลอยที่มันยียวนใจผมดี
“เข้มบอกว่าคนของเราออกไปแล้วครับ” พี่ธานเข้ามากระซิบ ผมผงกหัวรับทราบ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่จุดเดิมไม่ไปไหน
“จะไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรือครับ” ไอ้กริดเอ่ยปาก ใบหน้ากลับมาคงที่อีกครั้ง
“ช่วยสั่งให้คนของคุณ..ให้ปล่อยเขาด้วยค่ะ ดูเหมือนคนของคุณก็กำลังเสียมารยาทกับลูกค้าอยู่เหมือนกัน” พลอยย้อนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไอ้กริดจ้องพลอยอยู่ครู่หนึ่งก่อนมองไปยังสมุทรคล้ายดูเชิงว่าคนที่ถูกเข้าข้างอยู่นั้นมีสิ่งใดพิเศษ
“เขามาที่นี่ครั้งที่สองแล้วครับ ทุกครั้งที่มามักส่งเสียงดัง ก่อความวุ่นวายในร้าน คนของผม..ก็แค่ทำตาม ..หน้าที่” ไอ้กริดเว้นเสียงอย่างจงใจ ลิ้นของมันกระดกขึ้นบนเพดานปากทั้งที่คำพูดที่ลง ลิ้นมันไม่ควรไปในลักษณะทางนั้น
“ผมต้องการพบแก้ม” สมุทรพูดแทรก ยังคงยืนหยัดที่จะพบไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ที่นี่ไม่มีใคร ชื่ออะไรแบบนั้น” ไอ้กริดตอบเสียงแข็ง บนใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันต่อผู้ที่พูดด้วย สันกรามของสมุทรกัดกันแน่นจนมันนูนชัด แม้เขาจะนิ่งสงบแต่สายตากลับเกรี้ยวโกรธผิดทุกทีที่เขาเป็น นั่น
คือการเผยจุดอ่อน“ทำไม ? มองอั๊วอย่างนี้ หรือลื้อมีปัญหาอะไร” ไอ้กริดแสยะปาก กระซิบกระซาบตรงเข้าหาสมุทร
“เจ้านายมึงเขาไม่ได้สั่งสอนเรื่องมารยาทรึไงวะ หือ ? สอน..ว่าตรงไหนเขตใคร” ไอ้กริดยื่นหน้าเข้าใกล้ ถลึงตาเบิกกว้างอย่างท้าทาย สมุทรพุ่งเข้าหา ดูเหมือนเขาจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ในอีกไม่นานนี้
“ผม..ต้องการพบผู้หญิงคนนั้น ไม่เกี่ยวกับคุณไฟ” สมุทรพูด น้ำเสียงถูกกดลงต่ำเรื่อย ๆ ดวงตาจ้องกลับไอ้กริดอย่างไร้ความเกรงกลัวใด พลอยเริ่มร้อนรน เธอเอ่ยปากเรียกชื่อสมุทรซ้ำคล้ายต้องการเรียกสติ ขณะเดียวกันริศาก็ตรงเข้ามากลางวงไม่สนสถานการณ์ ท่าทางของเธอมาด้วยความมั่นอกมั่นใจว่าอยู่ข้างใคร
“ให้เรียกตำรวจไหมคะ” ริศาฉีกยิ้มกว้างถามไอ้กริด มองไปที่พลอยหัวจรดปลายเท้า ท่าทางของเธอทำให้พลอยควบคุมสีหน้าไว้ไม่อยู่
“ไม่จำเป็น” พลอยกระแทกเสียง
“ปล่อยเขา” เธอหันไปสั่งการ์ดอีกคนที่ยังคงล็อกตัวสมุทรไว้อยู่ แต่ไม่เป็นผล
“คุณจะมาทำเหมือนที่นี่ไม่มีกฏไม่ได้หรอกนะครับ แล้วนั่น..คนของผม ที่นี่..กฏ ของ ผม” ไอ้กริดอมยิ้มมุมปาก มือแตะลงที่แขนพลอยเบา ๆ
“นี่! อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!” พลอยสะบัดแขนออกอย่างแรง ไอ้กริดหัวเราะชอบใจ
“อย่ายุ่งกับเธอ” สมุทรเอ่ยปากทำเอาไอ้กริดหันขวับตาขวาง
“มึงเสือกอะไร ?” มันว่า ทั้งคู่ประชันหน้ากัน สายตาจ้องเขม็งสู้ ครู่เดียวมุมปากของไอ้กริดก็เผยรอยยิ้มออกมา
“อ้อ..” มันเบิกตาคล้ายนึกอะไรขึ้นได้ ทันทีนั้น พลอยก็ถูกมองสำรวจอีกครั้งหนึ่ง
“หรือนี่..คือคุณพลอย เจ้าของธุรกิจส่งออกหน้าใหม่ไฟแรง คู่หูของคุณไฟที่เขาลือกัน แหม..ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะครับ” ไอ้กริดเปลี่ยนสีหน้าเป็นชมเชย
“เราสองคนมาทำความรู้จักกันหน่อยไม่ดีเหรอครับ ผม..อยากจะขอคำปรึกษาเกี่ยวกับที่ร้านนี้ด้วย”
“คงจะไม่ละค่ะ ดิฉัน..ไม่สันทัดพวกร้านอโคจร” พลอยตอบเสียงนิ่งปนประชด
“หึ..พูดอย่างกับว่า คนที่คุณสันทัดด้วย ไม่อโคจรอย่างนั้น” ไอ้กริดย้อน พลอยจ้องไอ้กริดเขม็ง เธอที่นิ่งไปครู่เป็นปฏิกิริยาที่พอใจต่อคนที่กำลังถากถาง ดวงตาประหนึ่งหาทางออกให้กับศักดิ์ศรีของตนเอง
“ค่ะ แต่ดิฉันค่อนข้างเลือกที่จะคลุกคลีด้วยน่ะค่ะ” พลอยย้อน
“คุณพลอยคงเลือกคนที่จะคลุกคลีด้วยเยอะพอดูเลยสินะครับ ถึงได้กำลังออกตัวแทนลูกน้องของไอ้ไฟด้วยแบบนี้ เจ้านายเขารู้รึเปล่าละครับ ว่าลูกน้องมันกำลังลักกินขโมยกิน” ไอ้กริดถามกลับ
“อีกอย่าง..หมารับใช้แบบนี้ คุณให้เกียรติเรียกว่า ‘เลือก’ แล้วงั้นเหรอครับ” ไอ้กริดเย้ย พลอยกัดฟันแน่น ริศาอมยิ้ม กระทั่งลูกน้องของพวกมันก็แสดงสีหน้าแบบเดียวกัน
“คงมีแต่คนจิตใจต่ำ ๆ เท่านั้นละค่ะที่คิดอะไรทำนองนี้ได้ ที่สำคัญ..คนที่ฉันอยากคลุกคลีด้วย ฉันก็มีมาตรฐานในการเลือกอยู่เหมือนกันละนะคะ ไม่ปฏิเสธหรอก” พลอยย้อนกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่เกี่ยวว่าจะ ‘หมา’ หรือเจ้านาย” เธอเน้นเสียง ผมแสยะยิ้มมุมปากกับประโยคยอกย้อนชวนคันหู
“เพราะว่ากลิ่นเหม็นเน่าอัปปรีย์จากคน ถ้ามันแรง! ฉันขอขลุกอยู่กับหมา..คงสบายจมูกกว่า” ใบหน้าพลอยเปื้อนยิ้ม ไอ้กริดจ้องพลอยอย่างไม่ลดละ มันพุ่งตัวเข้าหาเธอด้วยอารมณ์โกรธที่ปิดไม่มิด สมุทรสะบัดตัวหลุดออกจากการ์ดด้วยแรงที่เขาสามารถทำได้ตั้งแต่ทีแรกแต่กลับไม่ทำ เขาคว้าตัวพลอยไปทางด้านหลังเพื่อความปลอดภัย นั่นจึงทำให้จำเป็นต้องประชันหน้ากับไอ้กริดอีกครั้งหนึ่ง การ์ดของไอ้กริดกระจายตัวพร้อมทำงาน
..เอาเลย
ล่อกันเลย“เข้มตามรถออกไปแล้วครับ” พี่ธานรายงานที่ข้างหู ผมพ่นลมหายใจ ฟันหน้าดันหมากฝรั่งที่ติดเป็นแผ่นอยู่บนลิ้นขูดจนเนื้อหมากฝรั่งรูดจับเป็นก้อนอีกครั้ง การแทรกเข้าไปกลางวงสนทนาทำให้พลอยหันมาเห็นผมก่อนเป็นคนแรก
“ไฟ” เธออุทาน ไอ้กริดหันมาทางผมทันที สีหน้าของมันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอันเป็นมิตรส่งมาให้ พลอยเดินตรงมาหา ผมจึงดึงเอวเธอเข้ามากอดโดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้าของไอ้กริด แม้สักเสี้ยววินาที สีหน้าเป็นมิตรที่มันพยายามหยิบยื่นให้ผมในทีแรกจวนจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่มิด
“มีปัญหาอะไรกับคนของฉัน” ผมถามพลางเหลือบตาไปที่สมุทรเล็กน้อย อีกฝ่ายเหสายตาลงคล้ายสำนึกได้
“คนของนาย พยายามที่จะบุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลของร้าน” ไอ้กริดตอบ
“งั้นเหรอ งั้นฉันต้องขอโทษแทนด้วยแล้วกัน” ผมบอก
“หึ..ไม่เป็นไร แต่ฉันหวังว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีก” มันผลิยิ้ม
“หรือไม่ใช่ว่า ใครใช้ให้ทำหรอกใช่ไหม ?” อีกฝ่ายเหล่มองเจ้าเล่ห์จงใจกวน
“ผับนายมีบ่อน้ำมันฝังอยู่ใต้ดินงั้นรึ ฉันถึงต้องลงทุนทำขนาดนั้น” ผมเลิกดวงตากวนตอบ
“แต่ถึงมีจริง ก็คงไม่ล่ะ..หึ ๆ แค่นี้..เงินก็หล่นทับจนแทบหายใจไม่ออกอยู่แล้ว” ผมหุบยิ้มลง ถ้ามันฟังให้ดีก็คงรู้ว่าผมพูดแทงใจดำมันอยู่ไม่น้อย มันถึงได้ยิ้มไม่ออกแล้วเช่นนั้น
“ขอโทษเขาซะ” ผมสั่ง สมุทรไม่รีบรอ เขาก้มหัวให้ไอ้กริดพร้อมกล่าวขอโทษอย่างฉะฉานในทันที
“เตือนลูกน้องใหม่บ้างล่ะ ว่าเราอยู่กันแบบไหน” ไอ้กริดปั้นหน้าสอน
“นายก็ด้วย..” ผมย้อนเสียงเรียบ อีกฝ่ายถึงกับชะงัก
“แล้วก็..เพื่อเป็นการให้เกียรตินายต่อหน้าลูกน้อง ฉันจะไม่ขอให้นายขอโทษหรอก ที่มาทำรุ่มร่ามกับผู้หญิงของฉัน” ผมผลิยิ้มพลางผละมือออกจากเอวของพลอย เดินเข้าประชิดต่อหน้าคู่สนทนา
“เธอสวย ฉลาดอีกด้วยใช่ไหมละ” ผมยิ้ม
“มึงควรระวังตัวไว้บ้างก็ดี” ไอ้กริดเอ่ยเสียงเย็นลง
“ทำไม.. เหมือนกูกำลังได้ยินมึงพูดว่า ‘อยู่บนเตียงต้องใช้ถุงยางด้วยนะครับ’ เลยวะ ?” ผมเล่นเสียง หยีตาปนหัวเราะ ริมฝีปากบนของไอ้กริดกระตุกขึ้นสองสามทีจนผมสังเกตเห็น เราต่างหุบยิ้ม จับจ้องกัน
“ระวังเรื่องอะไร
ลอบกัดงั้นเหรอ ?” ผมถามกลับ ไอ้กริดนิ่ง
“ชินแล้วล่ะ ขอบคุณที่เตือน” ผมตัดบท มือขวาหยิบก้อนหมากฝรั่งออกจากปาก ไอ้กริดถลึงตามองตามหมากฝรั่งที่ถูกผมนำไปแปะไว้ที่กระดุมเสื้อตรงกระเป๋าที่หน้าอกของมัน อีกฝ่ายกัดฟัน ปัดมือผมออกด้วยความหงุดหงิด
“โทษที แค่จะฝากทิ้งน่ะ” ผมยิ้มมุมปาก หันตัวกลับโดยไม่คิดเอ่ยลา นั่นเป็นการจบบทสนทนาเรียบร้อยแล้ว พลอยเข้ามากอดแขนผมโดยกลับมาที่โต๊ะพร้อมกัน บรรยากาศที่เปลี่ยนไปทำให้ไอ้โปรดและไอ้คินรู้งานอย่างไม่ต้องเอ่ยถาม
“ต้องกลับไหม” ไอ้โปรดผละตัวออกจากผู้หญิงของมัน
“กลับ” ผมตอบห้วน ๆ มือคว้าขวดไวน์ขวดที่พี่ธานเพิ่งเปิดดื่มไปได้เพียงไม่เท่าไหร่ติดมือขึ้นมาโดยไม่อธิบายรายละเอียด ไอ้โปรดแสยะยิ้มไม่คิดถามเพิ่มเติม มันหยิบขวดวิสกี้ของมันที่เหลืออยู่ครึ่งขวดตามออกมาด้วยเช่นกัน
..เสียของ ...............(ไฟ)..............