___เก็บ____รัก____ Sp.03 'ตะวัน' The End P.14 [24/04/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ___เก็บ____รัก____ Sp.03 'ตะวัน' The End P.14 [24/04/58]  (อ่าน 91171 ครั้ง)

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
หัวใจจิวาย โอ้ยๆ :ling1:

ดีแล้วนะที่ป้องไม่เป็นไร :mew2:

ออฟไลน์ ๐แตกต่างเติมเต็ม๐

  • "ผมไม่ได้แค่รัก แต่ยังศรัทธาใน'เรา' #ก้องเกียรติ์
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
    • https://www.facebook.com/PokpongGonggend/timeline
#23 เพื่อน จับมือกูดิ และ ขอบคุณ....




เมื่อวานนี้หลังพาไอ้ป้องส่งถึงโรง'บาลแล้ว ผมก็โทร.บอกพ่อกับแม่ ตอนแรกที่รู้ข่าวแม่ลีลาวดีเกือบเป็นลม ดีหน่อยที่ผมพยายามพูดให้ซอฟท์ลง พร้อมกันนั้นเองพ่อกับแม่ก็รีบขับรถกลับมากรุงเทพ พวกท่านทั้งสองจึงตรงดิ่งมาที่นี้  ไอ้ป้องเองพอถึงมือหมอแล้วก็ดีขึ้นตามลำดับเพราะตัวของมันเองก็มีประวัติคนไข้อยู่ที่นี้ ตอนนี้พวกเราจึงนั่งอยู่ในห้องวินิจฉัยโรครอฟังคำอธิบายจากคุณหมอหนุ่มเจ้าของเคสไอ้ป้อง

"กรณีของน้องป้องนะครับ เกิดจากหัวใจที่โตผิดปกติมาตั้งแต่แรกเกิด ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบได้เช่นกัน หรือเอ็กซเรย์แล้วพบว่า ขนาดของหัวใจโตกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจรั่ว และกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอ่อนกำลังลง ทำให้ห้องต่างๆ ของหัวใจขยายขนาดใหญ่ขึ้นครับ"

คุณหมอหนุ่มอธิบายให้ฟัง

"แล้วมีวิธีรักษาให้หายขาดไหมครับ?"

ผมถาม เพราะนั่งอยู่ข้างๆไอ้ป้อง ผมเลยกุมมือมันไปด้วยพูดไปด้วย คุณหมอหนุ่มยิ้มก่อนจะพูดต่อ

"ปัจจุบันนี้วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้นครับ ทางเลือกในการดูแลรักษาจึงมีมากขึ้น เราอาจพูดไม่ได้เต็มปากว่า
สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หากดูแลร่างกายและรักษาสุขภาพก็สามารถมีอายุที่ยืนยาวได้เท่าคนปกติทั่วไปครับ หรือเผลอๆอาจอายุยืนกว่าด้วยซ้ำครับ"

คุณหมอหนุ่มเว้นวรรค ก่อนจะพูดต่อ

"โดยส่วนตัวแล้วในการวินิจฉัยของหมอนะครับ น้องป้องควรทำการบอลลูนครับ"

หลังจากนั้นคุณหมอก็อธิบายเรื่องยากๆที่บอกเลยว่าผมไม่เข้าใจสักนิดออกมา ไอ้ป้องสรุปให้ผมฟังว่าคุณหมอจะทำการขยายเส้นเลือดไม่ให้มันตีบ พร้อมทั้งใส่ลวดไปกั้นไว้ไม่ให้มันตีบหรืออุดตันได้อีก(ฟังดูหวาดเสียวเนาะ - -")

จากนั้นก็ฟื้นตัวหนึ่งสัปดาห์โดยเริ่มใช้ชีวิตตามปกติ สิ่งที่ต้องระวังและต้องควบ คุมมีสองอ.ครับ อาหารกับอารมณ์ ห้ามเครียดและห้ามคิดมากเด็ดขาดส่วนอาหารก็ต้องหลีกเลี่ยงพวกไขมันเยอะๆในระยะแรกครับ หมอไม่ได้ห้ามทานเนื้อสัตว์นะครับแค่ต้องทาน
แค่ในปริมาณที่ตรงกับความต้องการของร่างกาย หมันออกกำลังกายแบบพอเหมาะ

เท่านี้ไอ้ป้อง'ของผม'ก็อยู่ได้อีกนานแล้วล่ะครับ

พอตกลงตัดสินใจกันได้แล้วก็เริ่มต้นการทำบอลลูนครับ ผมไม่รู้หรอกว่าเขาทำกันยังไงเพราะหมอไม่ให้เข้าไปด้านใน ได้แต่นั่งแกร่วอยู่นอกห้อง พ่อกับแม่เองก็นั่งรออยู่ข้างนอกเหมือนกัน ผมเห็นพ่อนั่งกุมมือแม่แน่นเลย ถึงทางคุณหมอเองจะยืนยันก็เถอะว่าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นเต่ยังไงคนเป็นแม่ก็ย่อมห่วงลูกเป็นธรรมดาครับ

มันเป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอยที่ผมโคตรกระสับกระส่ายกลัวไปหมดทั้งใจ อาจเพราะความฝันแย่ๆเมื่อคืนก็เป็นได้ทำให้ผมใจจดจ่ออยู่กับการทำบอลลูน ตอนนี้เลยกลายเป็นหนูติดจั่นเดินไปเดินมานั่งไม่ลง ไอ้กระจกที่ติดอยู่ตรงประตูก็มัวเกินกว่าจะส่องเห็นว่าข้างในกำลังทำอะไรแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง

สุดท้ายการรอคอยของผมกับครอบครัวก็สิ้นสุดลงเมื่อคุณหมอคนเดิมเดินออกมาจากในห้อง

"การทำบอลลูนเป็นไปได้ด้วยดีนะครับ น้องไม่มีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ถ้ายังไงจะทำการออกจากโรงพยาบาลเลยก็ได้นะ
ครับ"

คุณหมอหนุ่มแจง

"ให้นอนดูอาการอีกซัก2คืนก็แล้วกันนะครับ"

พ่อผมพูดขึ้น ยังไงซะการกั่นไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรซึ่งผมเห็นด้วยกับพ่อ แม่เองก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะงั้นวันนี้ไอ้ป้องต้องนอนอีกคืนหนึ่งนั้นเอง

"แล้วตอนนี้เข้าเยี่ยมได้ไหมครับ?"

ผมถามขึ้น คุณหมอหนุ่มพยักหน้าอนุญาตก่อนจะพูดต่อ

"ได้ครับ เพราะคนไข้ไม่ได้สลบไป เพียงแต่ต้องระวังอารมณ์ในช่วงนี้นะครับ ห้ามทำให้เกิดอารมณ์ด้านลบนะครับ"

ผมกับครอบครัวพยักหน้าเข้าใจก่อนคุณหมอท่านจะขอตัวไปทำงานอย่างอื่นต่ออีก เพียงแต่พอจะก้าวเดินแม่ลีลาวดีก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นเสียก่อน

"คุณครับ คุณ.."

ดีที่ว่าพ่อรับประครองแม่ไว้ได้ทัน

"แม่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?"

พ่อส่ายหน้าก่อนจะยกมือข้างหนึ่งแตะๆตรงหน้าผากของแม่

"คงจะเพลียนะ เมื่อวานแทบไม่ได้นอนเลย สลับกันขับรถเพราะเป็นห่วงพี่ป้องนะ"

พ่ออธิบาย

ผมเลียริมฝีปากก่อนจะพูด

"งั้นพ่อพาแม่กลับไปพักที่บ้านก็ได้ครับเดี่ยวเกียร์เฝ้าป้องเอง"

"เอางั้นเหรอลูก?"

"ครับ พ่อเองก็จะได้พักด้วยไง เดียวมะรื้นนี้ค่อยมารับผมกับป้องก็ได้ครับ"

ไม่ใช่แค่แม่หรอกนะครับที่จะไม่ไหว พ่อเองก็เหมือนกันแทบจะถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้ว

"ก็เอาตามที่ลูกว่าแล้วกันนะ งั้นพรุ่งนี้เดียวพ่อมารับกลับบ้านนะ"

ผมตอบตกลงก่อนจะช่วยพยุงแม่ไปขึ้นรถแท็กซี่ ดีว่าขามาทิ้งรถไว้ที่บ้านก็เลยไม่มีปัญหาอะไร

ผมเดินย้อนกลับมาก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นสามระหว่างทางก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ไปเยี่ยมน้องร่าเริงเลย แต่คิดอีกที่ผมว่าค่อยลงมาพร้อมไอ้ป้องคงจะดีกว่าเพราะงั้นเลยเลือกไปลงชั้นห้า

ผมเปิดประตูเข้าไปก่อนจะเห็นไอ้ป้องนอนหนุนหมอนสองใบ พอมันเห็นผมก็เตรียมจะขยับตัวแต่ผมห้ามไว้ก่อน

"หมอบอกให้นอนนิ่งๆ7ชั่วโมง"

ผมย้ำกับมัน ไอ้ป้องเบ้ปากแต่ก็ยอมฟังที่ผมบอก

"เป็นไงบ้าง?"

ผมเลื่อนเก้าอี้ไปชิดขอบเตียงก่อนจะดึงมือข้างซ้ายมา แขนข้างขวาของไอ้ป้องถูกเจาะที่ขอพับเพื่อต่อสายสวนหัวใจ

"ตอนแรกก็แย่นิดๆ มันอึดอัดเพราะมีลมเข้ามาข้างใน พอคลายลมออกก็โล่งขึ้นเยอะ"

เจ้าตัวว่าเสียงใส

"ดีแล้วแหละ พักเยอะๆนะครับจะได้หายไว้ๆ"

ผมลูบหัวไอ้ป้องแล้วก้มลงไปฝังสันจมูกกับแก้มสีน้ำผึ่งก่อนจะลากลงมาถึงริมฝีปาก

ไม่รู้สิ ผมมันเป็นพวกชอบใช้ร่างกายคุยมากกว่าจะพูดอะไรออกมา

ผมจูบช้าๆเนิบๆ ก่อนจะเกี่ยวลิ้นไอ้ป้องเล่น มันรู้สึกเหมือนผมกำลังกินขนมหวานยังไงยังงั้นแหวะครับ มันหวานไปหมดทั้งโพรงปากจริงๆให้ตายเหอะ

ผมถอนจูบออกอย่างแสนเสียดายแต่ก็เกรงว่าไอ้ป้องจะขาดอากาศหายใจเอาเสียก่อน ริมฝีปากที่เมื่อวานซีดวันนี้กับแดงฉ่า ตาไอ้ป้องเองก็โคตรจะเยิ้ม ผมรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจหรอกแต่สภาพมันตอนนี้...

..... แมร่งโคตรเอ็กซ์

"ป้อง"

"ห๊ะ?"



"กู'โด่'ว่ะ"




มันยกมือตีแขนผมดังเพี๋ยก่อนจะซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม

"ทะลึ่งว่ะ"

"เรื่องธรรมดาออก"

ผมพูดก่อนจะพยายามยื้อแย้งผ้าห่มของมัน ซึ่งยังไงๆผมก็ชนะ

"เขินเหรอ?"

"ไม่ได้หน้าด้านแบบมึง"

มันตอบสะบัดหน้าไปอีกทาง ผมเห็นแบบนั้นเลยถือโอกาสไซร้คอมันเล่น

"ไอ้เกียร์ไอ้บ้า พอ เดียวใครมาเห็น"

ไอ้ป้องรั่วมาเป็นชุด

"เห็นก็เห็นดิ คนรักกัน"

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าคนเรามันสามารถแดงได้ถึงขนาดไหน แต่ไอ้ป้องดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัดเพราะหน้ามันแดงได้มากขึ้นเรื่อยๆ

"เกียร์..."

"หื้ม"

"แล้วตกลงเมื่อวานไปทำไรแถวนั้น?"

เอาล่ะสิครับ นี้ไงคำถามโบนัส

รู้อยู่แล้วล่ะครับว่ามันต้องถามแน่ๆนี้อุตส่าห์หื่นหลอกล่อนะครับเนี้ย (เหรออออออ  อ.อ่างล้านตัวเลยไอ้หื่น : ปก ป้อง) ถ้าบอกไป
ว่าหาซื้อของขวัญให้มันผมคงโดนโกรธแน่ๆเลยๆ...

"เดินเล่น"

เอาว่ะ จริงๆก็เดินเล่นนะไม่พูดโกหกนิ

"ในดงตีน?"

มันต่อคำพูดของผมก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาจับผิด

"จริงๆก็ไปทำธุระ..."

ผมเอ่ยเลี่ยง ยังอยากให้ของขวัญเป็นเรื่องเซอร์ไพร์ก่อน

"เหรอ?นึกว่าไปหาสาว"

"สาว?"

เอาล่ะ ผมเองบ้างล่ะที่ไม่เกท

"ก็ ...ก็แบบ นัดบอร์ดสาวๆไง"

เกิดความเงียบชั่วขณะระหว่างผมกับมัน....

"ป้อง...ตกลงมึงยังไม่แน่ใจอีกเหรอว่ากูคิดไงกับมึง ตกลงที่ผ่านมามีแค่กูใช่ไหมที่คิดไปเอง"

"เกียร์ คือไม่ใช่อย่างที่มึงฟังกูก่อน"

เป็นอีกครั้งที่มือของมันรั้งผมเอาไว้

"แล้วมันแบบไหน ...พูดมาดิ ป้องไม่พูดแล้วเกียร์จะรู้ไหมว่าคิดอะไร"

"ป้องก็รักเกียร์ครับ"

ใบหน้าที่แดงกว่าเก่ายืนยันคำตอบของมันได้เป็นอย่างดี

"แล้วถ้าป้องรักเกียร์ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ รู้ไหมเกียร์เสียใจนะที่ได้ยินแบบนั้น มันเหมือนป้องไม่แคร์เลยว่าเกียร์จะอยู่หรือจะ
ไป"

ไอ้ป้องทำสีหน้าปั้นยาก

"เกียร์ ก้มลงมาหน่อย"

แม้จะโกรธเคืองอีกฝ่ายอยู่ แต่พอเห็นมันจะลุกผมก็ยอมก้มลงไปอยู่ดี ก็ทำไงได้ครับ รักเขาไปแล้วนิ จะเป็นห่วงกลัวมันเจ็บมันปวดก็ไม่แปลกใช่ไหมล่ะ

ไอ้ป้องดึงผมลงไปใกล้ๆก่อนจะจูบที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา ผมชี้ไปที่แก้มขวาต่อ พอมันจูบเสร็จก็ชี้ไปที่แก้มข้างซ้าย ไม่รู้แหละยังไงคนป่วยก็ต้องเอาใจผมบ้าง

"โอเครึยังครับ"

ไอ้ป้องถามเสียงเรียบ ผมทำปากยื่นๆนั่งกอดอก

"ก็ป้องรักเกียร์ ถ้าเกิดว่ามีใครที่ดีกว่า ป้องก็อยากให้เกียร์ได้คบกับเขา"

"มึงเป็นพระเอกเหรอ? หรือเป็นคนดีมากไป เหรอ? ตลกเหอะป้อง ไอ้คำพูดที่ว่าอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุขได้อยู่กับคนดีๆนะ
คำพูดนี้มีแต่พวกขี้ขลาดใช้กัน"

"...."

"ก็ถ้าเป็นกู กูจะไม่ยอมปล่อยเขาไปจากกูหรอกนะ... แต่กูจะทำให้เขามีความสุขทุกช่วงเวลาที่อยู่กับกู....เหมือนๆกับที่กูทำอยู่ตอนนี้"

"....."

"เพราะงั้นขอร้องนะป้อง...ถ้ามึงไม่ได้รักกูก็ขอให้บอกมาตรงๆนะ กูจะได้ทำใจถูก"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ

แต่ก่อนนั้นก็ผมเองนั้นแหละที่กลัวการผูกมัด กลัวการแสดงความเป็นเจ้าของจากอีกฝ่าย แต่กับไอ้ป้องนอกจากจะไม่แสดงความ
เป็นเจ้าเข้าเจ้าของแล้ว ป้องมันยังจะคิดผลักไสผมให้คนอื่นไปอีก

ผมก็น้อยใจเป็นนะครับ...

แวบแรกที่ได้ยิน ผมคิดว่าอีกฝ่ายอาจหึ่งผม ซึ่งขอบอกเลยว่าถ้าเป็นมัน ผมจะรู้สึกดีใจมากๆที่มันหวงกัน นี้อะไร อยากให้ผมเจอคนที่ดี

ขอร้องล่ะป้อง

ช่วยแสดงความเป็นเจ้าของของกูที่

ช่วยหึ่งหน่อยได้ไหม

ช่วยผูกมัดกูไว้กับมึงนานๆ

กูจะไปรักกับคนอื่นได้ไง ในเมื่อใจกูอยู่กับมึง...

"รักสิ"

"...."

"สำหรับป้อง มันเลยคำว่ารักไปแล้ว ป้องไม่ได้แค่รัก แต่ป้องศรัทธาในความรู้สึกของเรา ที่พูดไปหมายถึงถ้าในวันนั้น เกียร์เจอใครที่อยากจะรักก็ขอให้บอกป้อง"

มือที่กุมกันไว้บีบเบาๆแสดงถึงความหนักแน่นของคนพูด ผม'รู้สึก'จนพูดอะไรไม่ออก มันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกแบบไหนบวกหรือลบ แต่แค่รู้สึกว่าผมกับป้องมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน

ความรู้สึก...มันเกินคำว่ารักไปแล้ว

“งั้นก็บอกเลย มันไม่มีวันนั้นหรอก...”

ผมพูดไม่ได้หรอก ว่าในอนาคตระหว่างเรามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม ป้องจะเบื่อผมรึเปล่า เราจะยังรักกันดังวันวานไหม สิ่งเดียวที่ผมแน่ใจ คือผมจะอยู่เคียงข้างมัน

เคียงข้างกันตลอดไป...

"อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ..."

"ครับ"

"น้อยใจ"

ไอ้ตัวดีหลุดขำพรืดกับคำพูดของผม ขำอะไรของมึง กูแค่น้อยใจผิดเหรอ ไอ้บ้า….

คงเพราะเห็นอาการของผมนั้นแหละ อีกฝ่ายเลยดึงแขนขึ้นไปซบกับใบหน้าก่อนจะจูบซับที่หลังมือผม

"รักขนาดนี้แล้ว สาบานเลยจะไม่ยกให้ใครแน่"

มันชูสองนิ้วยกขึ้นมาทำมือประกอบก่อนจะพูดขรึมๆออกมา นั้นเป็นภาพที่ทำให้ผมหลุดขำนะ

ผมยกมือเกลี่ยปลายผมของมัน ก่อนจะขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ

"ก็ลองกล้ายกกูให้ใครสิครับ กู'เอา'มึงตายแน่"

ผมจงใจเน้นคำบางคำเป็นพิเศษ ไอ้ป้องก็รู้นั้นแหละครับว่าคำไหนเลยตีแขนผมดังเพี๊ยอีกรอบ

"จะไม่รักก็ตรงนี้แหละ เอะอะก็เรื่องใต้สะดือตล๊อด"

มันแวดใส่ผมเสียงสูง ซุกตัวลงกับผ้าห่มเหลือเพียงแค่ตาสองข้างโผล่ออกมา

"ก็อยากน่ารักทำไมล่ะ"

ผมไม่พูดเปล่าๆแต่ดึงแก้มมันเล่นด้วย ไอ้ป้องแก้มมันย้วยๆครับ น่าดึงเล่นที่สุด

"กูผิดไหมเนี้ย"

มันโอรดครวญ

"ไม่รู้ ไม่สน ออกจากโรง'บาลเมื่อไหร่ทบต้นทบดอก"

ผมขู่ ก่อนมันจะขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงเย็น

"ใช่ ลืมเคลียร์เลย เรื่องบุหรี่ในจาคอป"

อุ้ย.... ชิบหายล่ะกูโดนเมียจับได้...

"โอ๊ย เจ็บๆๆๆๆ ป้องปล่อย"

อีกฝ่ายดึงติงหูผมจนรู้สึกปวดไปหมด

"ที่หลังจะสูบอีกไหม?"

"ไม่แล้วครับ อู้ยยย อย่าบิดแบบนั้น"

ไอ้ป้องมันไม่ได้ดึงเฉยๆนะครับ มันบิดหูผมด้วยอ๊ะ Y  Y

"แน่ใจนะ?"

"แต่ใจครับ สัญญาเลย ปล่อยหูก่อนนะ ดึงจนเจ็บไปทั้งใบหูแล้วเนี้ย"

ผมร้องโอรดโอ๊ยขอความเห็นใจ เพราะใบหูข้างที่โดนดึงปวดแสบปวดร้อนไปหมดแล้ว ไหนจะบิดซะตัวผมตามอีก

"รู้ว่าไม่ดีก็ยังจะสูบ"

มันบ่น

"ก็มันแก้เครียด... โอ๊ย!!!"

พอแถอีกรอบ คุณเมียสุดที่รักของผมก็บิดไปบิดมาอีก หูผมจะขาดไหมเนี้ยTT

"ถ้าไม่เลิก ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก"

ไอ้ป้องยื่นคำขาด มันยอมปล่อยมือจากติงหูผมจนได้แมร่งโคตรโหดเลย ดึงหูแบบนี้

"จ้าๆ สัญญาว่าจะเลิกสูบ"

ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยมัน

"ดีแล้ว...จะได้อยู่ข้างๆกันนานๆไง"

ไอ้ป้องพูดหน้าแดงเปล่ง สำหรับไอ้คนปากแข็งแบบมันแล้วแค่พูดแค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ อย่างน้อยๆแค่มันอยากให้ผมอยู่ข้างๆมันไปนานๆ

ผมก็โคตรมีความสุขแล้ว...

"เมียใครว่ะ โคตรน่ารักเลย"

ผมพูด หอมแก้มมันทั้งซ้ายทั้งขวา

"ไอ้เกียร์!!!!!"

มันแว้ดเสียงสูงแก้เขินใส่ผมอีกเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่ทราบ แต่ผมกับมันรู้ดีว่าเราทั้งคู่มีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆกันแบบนี้

ผมนั่งเล่นนั่งคุยกับมัน จนกระทั้งเสียงก๊อกแกรกดังขึ้นที่หน้าประตู

"แปบนะป้อง"

ผมบอกมันก่อนจะลุกไปเปิดประตูแล้วผมก็รู้สึกกับตัวเองว่า กูไม่น่าเปิดให้พวกแมร่งเลย...

"เฮ ป้องเป็นไงบ้าง!!!"

ไอ้เฟรมถาม

"ดูไม่จืดว่ะ"

ไอ้อู๋ตอบแทน

"พี่ป้องกินผลไม้ป่าว ต้องซื้อมาฝาก"

ไอ้ต้องตาพูดพร้อมชูถุงผลไม้เต็มสองมือ

"แน่ก็ซื้อแบนด์มาฝากครับพี่"

น้อง...ไม่รู้จักว่ะ แต่คิดว่าคงรู้จักไอ้ป้องอ๋ะครับ ที่สะดุดตาผมก็คือแหวนสีเขียวบนนิ้วนางเนี้ยแหละครับ

.....เทพข่าวคนใหม่!!!!

"เพลงซื้อข้าวมาให้ทานครับ"

ผมละสายตาจากน้องแน่วแน่(ไอ้เฟรมเพิ่งกระซิบบอกชื่อ)ก่อนจะมองน้องเพลงที่ชูถุงข้าวต้มให้เห็น

"ของพี่เป็นรังนก"

อันนี้พี่กาเซียร์พูด

"ของพี่กับมู่หลาน ทำขนมปังสูตรพิเศษมาฝาก"

คุณโอสถพูดพร้อมโชว์แป้งขนมปังสีเหลืองกรอบ

พอคนสิบคนเดินก้าวเข้ามาในห้องผมรู้สึกว่าห้องพยาบาลดูแคบลงไปถนัดตาเลยครับ

"เดียวๆ ขอที่ละคนก่อน เฟรม กูโอเคว่ะ อู๋ ไม่ได้แย่อย่างที่เห็น ต้องตา แน่วแน่ เพลง มู่หลาน พี่เซียร์ พี่ยา ขอบคุณมากครับที่ซื้อมาฝาก"

ไอ้ป้องยิ้ม พยายามจะยันตัวขึ้น แต่ผมดันมันนอนลงพร้อมเอ็ดเบาๆ ก็หมอสั่งให้แค่นอนนิครับ เดี่ยวถ้าเกิดว่าลุกแล้วแผลเป็น
อะไรขึ้นมาล่ะครับ ไอ้ป้องมันก็เข้าใจความรู้สึกของผมนั้นแหละครับ เลยยอมนอนลงไปแต่โดยดี

"แหมๆๆๆห่วงกันซะอย่างคนเป็นแฟนกันเลยนะ"




"ก็แฟนนิครับ/ก็แฟนไงครับ"



ผมกับไอ้ป้องบังเอิญหันไปตอบพร้อมกันพอดี พอหันไปมองหน้าไอ้ตัวดีก็รีบซุกลงไปนอนกับผ้าห่ม

เมื้อกี้หูผมไม่ได้ฟาดไปใช่ไหมครับ?

ไอ้ป้องบอกว่าผมเป็นแฟนมัน...งั้นเหรอครับ ?

"สรุปคือ คบกันแล้ว"

ไอ้อู๋ถาม ผมเองก็พยักหน้าเออออตอบไป

"อ่า...พวกมึงคงไม่ว่าอะไรกูใช่ไหมว่ะ?"

พวกมันทำหน้าขำกันก่อนจะโบกมือ

"จะว่ามึงเรื่องอะไร เพื่อนมีความสุขก็ต้องดีใจดิ"


ไอเฟรมพูด

"พวกกูคบคนที่นิสัยไม่ใช่เพศ ไม่งั้นกูคงไม่เล่นกับพวกแก๊งนางฟ้าหรอก"

จะว่าไปก็จริงครับ ไอ้อู๋ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเพศอยู่แล้วเพราะมันคบเป็นเพื่อนได้หมดทุกเพศ

"ได้ฟังแบบนี้กูก็ดีใจ"

ผมตอบสั้นๆกลับไป

"แล้วต้องนอนโรง'บาลกี่วันครับพี่"

รอบนี้น้องแน่ถาม

"จริงๆพักแค่8ชั่วโมงนะ แต่พี่กับครอบครัวอยากให้ชัวร์เลยนอนดูอาการสักสองวัน"

"แล้วงี้พี่ป้องจะกลับไปซ้อ..."

แน่วแน่พูดยังไม่ทันจบฝามือของต้องตาก็ปิดปากมันเรียบร้อยแล้ว

"มันหมายถึง พี่ป้องจะกลับไปเรียนทันไหมนะครับ นี้ก็ใกล้กลางภาคแล้ว"

ผมว่าที่ได้ยินมันไม่ใช่แบบนี้นะ แต่ก็ใกล้สอบกลางภาคจริงๆนั้นแหละครับ รู้สึกหลังวันเกิดป้องก็สอบเลยมั่งครับ

"ไม่ต้องห่วงหรอก ป้องมันเป็นเด็กอัจฉริยะ"

ผมพูดยอ เห็นมันกระเถิบตัวออกมาจากผ้าห่มเล็กน้อย

"ก็คงต้องตามลอกงานเหมือนเดิมนั้นแหละครับ เออพี่เซียร์ แล้วเรื่องวันวิชาการกับงานละครเวทีล่ะครับ? "

ไอ้ป้องถามขึ้นในส่วนงานของสภา

"วันวิชาการก็โอเคดีนะ แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ก็เตรียมจัดบูธจัดกิจกรรมกัน บัตรที่ทำขายเพิ่มก็หมดเกลี้ยง"

อันนี้ผมก็เพิ่งรู้ข่าวครับ โรงเรียนจัดทำบัตรเพิ่มอีกพันใบ แล้วก็ขายหมดเกลี้ยงเหมือนรอบแรก รู้สึกเหมือนจะมีพวกแมวมองมาด้วยแหละครับ

"ส่วนละครเวที พี่กับพี่ยากำหนดหัวข้อแล้ว เราจะแสดงในธีม'เจ้าชายอสูรกับเจ้าหญิงโฉมงาม'แต่เราจะปรับบทไม่ให้เหมือนver.Originalนะโดยจะแก้ตรง..."

ตรงส่วนนี้ผมไม่ค่อยสนใจจะฟังเท่าไหร่ครับ เพราะไม่เกียวข้องกับตนเอง แต่ฟังผ่านๆแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจเหมือนกันครับเพราะแหกกฎของต้นฉบับชัดเจน

ทุกคนผลัดกันชวนไอ้ป้องคุยประมาณชั่วโมงเศษได้ก็ขอตัวกลับครับ จริงๆจะเดินลงไปส่งตามมารยาทแล้วล่ะแต่พวกนั้นบอกให้ผมเฝ้าไอ้ป้องคงจะดีกว่า

"พรุ่งนี้สายๆหมอบอกว่าให้ลองเดินดู เดียวกูพาไปเดินเล่นที่สวนนะ"

มันพยักหน้าตกลง ก่อนจะค่อยปิดเปลือกตาลงไป ผมขยับผ้าห่มให้มันดีๆก่อนจะจูบที่หน้าผากมันแล้วตัวเองก็พักผ่อนบ้าง
ขอให้พรุ่งนี้เราเจอแต่เรื่องดีๆเถิด...





ต่อรีล่างนะครับ...

ออฟไลน์ ๐แตกต่างเติมเต็ม๐

  • "ผมไม่ได้แค่รัก แต่ยังศรัทธาใน'เรา' #ก้องเกียรติ์
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
    • https://www.facebook.com/PokpongGonggend/timeline

  _________________________________________________________________________________





“เข้าใจความรู้สึกของร่าเริงเลยแหะ...”

ไอ้ป้องเปรยเบาๆ ตอนนี้มันยืนอยู่ในสนามหญ้าของสวนโรงพยาบาลกับผม ตรงที่เดิมที่เราเคยพาร่าเริงมาเดินเล่น ฝาเท้าทั้งสองข้างปราศจากร้องเท้าที่ขวางกั่นระหว่างตัวเรากับธรรมชาติ ผมเองก็เลือกที่จะถอดรองเท้าเช่นเดี่ยวกัน

เมื่อเช้านี้คุณหมอได้เข้ามาตรวจสุขภาพของไอ้ป้อง เบื้องต้นคุณหมอบอกกับเราว่า ป้องไม่มีความผิดปกติแทรกซ้อนใดๆ จึงสามารถพาไปทดลองเดินได้ครับ จริงๆตอนแรกผมเองก็แปลกใจเหมือนกันที่ลองให้เดินเลย แต่หมอท่านแจงว่ามันเป็นการปรับสมดุลของร่างกาย และหากว่าเหนื่อยก็ให้พักสักแปบจากนั้นจึงค่อยเดินต่อ

รอบแรกไอ้ป้องค่อยๆทดลองก้าวเดินช้าๆเหมือนเด็กหัดเดิน โดยมีผมคอยอยู่ตรงจุดหมาย จริงๆมันก็เอ็ดผมเบาๆแหละนะว่าทำแบบนี้เหมือนมันเป็นเด็กเล็กๆเลย แต่ผมแย้งไปว่ากลัวมันล้มมันเลยไม่ได้ว่าอะไรอีก

เราพากันเดินไปเดินมาในสวนจนใบหน้าจืดๆของมันเริ่มมีเหงื่อเยอะมากขึ้น ผมจึงขอร้อง(แกมบังคับ)ให้มันหยุดพักไปนั่งเล่นที่ชิงช้าเป็นการแก้ขัด

“รอให้หายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยไปเดินก็ได้”

“อื้ม จริงๆก็ไม่ได้เหนื่อยเท่าไหร่นะ แต่รู้สึกโล่งๆดี”

มันบอก

“เดียวขาขึ้นไปเยี่ยมร่าเริงกันนะ”

รอบนี้ไอ้ป้องพยักหน้าเห็นด้วยกับผม

หลังจากพักกันจน(ผม)พอใจ  ไอ้ป้องก็เริ่มเดินอีกครั้งหนึ่ง

“ป้อง...”

“ห๊ะ”

“จับมือกูไว้ แล้วเดินไปพร้อมๆกัน”

ผมยื่นมือสองข้างไปข้างหน้ามัน อีกฝ่ายแค่ยกยิ้มขึ้นก่อนจะยกมือจับตอบ

“อื้ม...ไปด้วยกันนะ”

ผมค่อยๆก้าวเดินถอยหลังช้าๆแล้วดึงอีกฝ่ายเดินตาม

พื้นหญ้าที่อยู่ข้างล่างใต้ฝาเท้าของผม ให้ความรู้สึกดีชะมัด สายลมเอื่อยๆพวกนี้ก็เหมือนกันครับ มันเหมือนกับเราได้อยู่ในโลก
อีกใบหนึ่ง เป็นโลกที่เราได้พักผ่อนและอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง และผมคิดว่าคนที่กำลังจับมือกับผมตอนนี้ก็คิดไม่ต่างกัน

อยากอยู่แบบนี้นานๆจัง...

พอเดินไปเดินมาจนเหงื่ออกพอสมควร ผมก็ชวนมันขึ้นตึก จะได้แวะไปเยี่ยมร่าเริงแล้วขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนเลยด้วย ตอนขึ้นบันไดขาขึ้นไอ้ป้องเรียกร้องว่าจะเดินขึ้นบันไดครับ เพราะแค่ชั้นสามเอง ผมเห็นว่ามันยอมพักตามที่บอกหรอกนะเลยยอมให้เดินขึ้นบันไดได้

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเวลาเรารักใครแล้วเราก็เป็นห่วงเขาทุกเรื่องเลยแหะ...

เราเดินกันขึ้นมาจนถึงชั้นสาม ก่อนจะเดินไปห้องริมระเบียง ไอ้ป้องเป็นฝ่ายเปิดประตูเข้าไป

“ร่าเริงพี่มาเยี่ยม.....”

จู่ๆเสียงทักของไอ้ป้องก็ขาดหายไปดื้อๆแบบนั้น ผมเองก็ไม่ทันเข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น พอแทรกตัวเดินไปข้างหน้า ใจ
ของผมก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

“อาเปรม ส...วัสดีครับ....”

ไอ้ป้องพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ก่อนจะทักทายผู้ใหญ่ในห้อง

“ป้อง.....”

“............”




“น้องไปสบายแล้วนะ”




อาผู้หญิงพูดขึ้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นแม่ของน้องร่าเริง

ผมรู้สึก ตกใจ หวาดกลัว และเป็นห่วงคนข้างๆ ตอนนี้อารมณ์ของป้องจำเป็นต้องคงที่และไม่สามารถเครียดได้เพราะไม่งั้นอาจจะเกิดอาการช็อคได้ โชคดีที่ว่ามันพยายามสูดลมหายใจลึกๆแล้วไม่มองภาพที่อยู่ตรงหน้า

ร่างเล็กๆที่ผมเคยบอกไว้ว่ามีรอยยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อยๆนอนอยู่บนเตียงด้วยความสีหน้ายิ้มแย้ม...

......................แต่ดวงตะวันได้ดับลงไปแล้ว

ผมดึงไอ้ป้องมากอดไว้ ไม่อยากให้มันเห็นภาพตรงหน้า พี่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งกุมมือน้องอยู่ตรงเตียงร้องไห้ออกมา ก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วยื่นบางอย่างมาให้พวกผม

“ร่าเริงฝากไว้ให้พวกนาย เขากำชับว่าอยากให้พวกนายสองคนอ่าน”

ผมยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นหนึ่ง ก่อนจะประครองไอ้ป้องเดินออกไปหน้าห้อง มันไม่ได้พูดอะไรออกมา สิ่งที่มีคือความเงียบ.... ผมเองก็ได้แต่เงียบเพราะคิดไม่ออกเหมือนกันว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกมาในเวลานี้.....

“เกียร์...”

“..........”

“อ่านให้ฟังหน่อยได้ไหม...ป้องอยากรู้...ว่าน้องเขาเขียนอะไรไว้ถึงป้อง...”

“แต่.....”

“ขอร้อง...นะเกียร์”

ไอ้ป้องพยายามกลั่นน้ำตาของมันไม่ให้ไหลออกมา สำหรับร่าเริงแล้วเป็นคนๆหนึ่งที่มันคิดว่าเป็นพี่น้องกัน หากไม่เกิดความรู้สึกอะไรยามเห็นเขาจากไปก็คงไม่ใช่ไอ้ป้อง ขนาดผมที่เพิ่งเคยเจอน้องยังรู้สึกหน่วงๆจนอยากจะร้องไห้ออกมาเลย

ผมพามันไปนั่งลงที่ม้าหิน ก่อนจะค่อยๆอ่านตัวหนังสือในกระดาษให้มันฟัง

“พี่ปลื้มครับ ร่าเริงขอบคุณพี่นะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา...ผมมีความสุขมาก”

“.........”

“ผมรู้อาการของตัวผมดี จริงๆแล้วมันรู้สึกทรมานมานานมากหลายๆเดือนแล้ว ผมเจ็บและรู้สึกปวดไปหมดเวลาที่เคลื่อนไหว
ร่างกาย เหมือนๆอย่างตอนนี้ แค่จะพูดผมยังทรมานเลย.....”

“........”

“จดหมายนี้ผมให้พี่เหมือนฝันเขียนให้ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องพี่ปลื้มอยู่นิดหน่อย”

“.........”

“ถ้าวันใดที่ผมจากไปจริงๆ พี่ห้ามร้องไห้นะครับ ผมขอร้อง”

ไอ้ป้องพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าลงไปซุกไว้กับมือทั้งสองข้างของตัวเอง

“พี่เป็นพี่ที่ดี แม้เราจะไม่ได้เล่นกันเหมือนแต่ก่อน แต่พี่ปลื้มก็ยังคงมาเยี่ยมผมเรื่อยมา แถมครั้งล่าสุดที่มา พี่ยังพาพี่เกียร์มาหาผมด้วย”

ผมนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะอ่านบรรทัดสุดท้ายที่เหลื่อในหน้ากระดาษ

“ผมยืนยันได้นะพี่ปลื้ม พี่เกียร์รักพี่มากจริงๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พี่ต้องเชื่อมั่นในตัวพี่เกียร์นะ สุดท้าย ร่าเริงขอให้พี่มีความสุขตลอดไป อยู่กับคนที่พี่รักไปนานๆ สุขภาพร่างกายดีขึ้น....ถ้าชาติหน้ามีจริง ผมขอเกิดเป็นน้องพี่นะครับ จาก เด็กชายตะวันน้อย...”

ไอ้ป้องไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเชื่อว่ามันกำลังพยายามทำตามที่เจ้าของจดหมายต้องการ

มันกำลังพยายามที่จะไม่ร้อง...

“ไม่เป็นไรนะป้อง....”

ผมกอดมันแน่น น้ำตาทั้งหมดที่อยู่ข้างในไหลออกมา

“ถ้ามึงร้องไมได้ กูจะเป็นคนร้องแทนมึงเอง...ตกลงนะ”

ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันพูดหรือตอบรับอะไรผมรึเปล่า ผมรู้แค่ว่าน้ำตาที่ไหลออกมาทั้งหมดมันเป็นน้ำตาที่มีหลายหลายความรู้สึก
อัดแน่นอยู่ข้างใน ผมรู้สึกแย่ต่อการจากไปของดวงตะวัน ผมรู้สึกทรมานที่เห็นไอ้ป้องมันต้องกั่นความรู้สึกเอาไว้ รู้สึกเสียใจที่ตัวเองทำอะไรให้มันไม่ได้มากไปกว่านี้เลย

ผมทำได้แค่อยู่ข้างๆจริงๆ...

“เกียร์....”

“........”

“ขอบคุณ.....ที่รักกู.....ขอบคุณจริงๆเกียร์.....ที่อยู่ข้างๆกัน”

มันพูดตะกุกตะกัก...

อ้อมกอดของมันสัมผัสเข้ากับผม ผมไม่รู้และไม่สนใจด้วยว่าใครจะมองเราเป็นยังไงในตอนนี้ ไอ้ป้องแค่เม้มปากแน่นจนเลือด
แทบห่อ มันสะกดความรู้สึกข้างในไว้มากมายจริงๆ

ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าน้ำตาของผม

.......มันหยุดไหลไม่ได้จริงๆ



TBC.


...... ขอไม่บรรยานแล้วกันนะครับ ว่าตอนที่แต่งตอนนี้รู้สึกยังไง....... หน่วงๆไปหมด.....

แจ้งข่าวนะครับ แตกต่างสอบกลางภาควันที่21-25กรกฏคม เลยอาจจะเว้นช่วงลงหน่อยนะครับ

ปล. จะพยายามพาวันเกิดน้องให้ตรง20กรกฏคมนะครับ เพราะต่างเองก็เกิดวันเดี่ยวกับน้องป้อง

ปปล. การจากไปไม่ใช่จุดสิ้นสุด ในวันหนึ่งถ้าเราต้องจากกับใครจริงๆ เราต้องยอมรับแล้วเดินต่อไปครับ.....

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ทำไมร่าเริงต้องมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ในวันที่ป้องต้องควบคุมอารมณ์ด้านลบด้วยนะ
มันจะเป็นผลต่อเนื่องในวันข้างหน้าป่าวนะ
แต่ตอนนี้เศร้าตามเลยที่น้องร่าเริงจากไปแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ครึ่งแรกนี่ฟินมาก ก๊าวใจกันเลยทีเดียว  :hao7:
ป้องต้องกดเกียร์ให้ได้นะ อย่าให้มันได้ใจว่ามันเป็นผัว  :m26:


ครึ่งหลังนี่ทำฉันจิตตก  :mew5:
ทำไมต้องให้น้องร่าเริงจากไปตอนนี้ด้วย นึกว่าจะมีฉากพ่อแม่ลูกอีกในอนาคต

คำผิด
นัดบอร์ด => บอด
นี้ไงคำถามโบนัส => นี่ไงคำถามโบนัส
โดนโกรธแน่ๆเลยๆ =>โดนโกรธแน่ๆเลย
เซอร์ไพร์=> เซอร์ไพรส์
ได้อยู่กับคนดีๆนะ => ได้อยู่กับคนดีๆน่ะ
แต่ก่อนนั้นก็ผมเองนั้นแหละ => แต่ก่อนนั้นก็ผมเองนั่นแหละ
อีกฝ่ายอาจหึ่งผม => หึง
นี้อะไร => นี่อะไร
เจ้าของของกูที่ => ที
ช่วยหึ่ง => หึง
เราจะยังรักกันดั่งวันวานไหม => เราจะยังรักกันดั่งวันวานไหม
นั้นเป็นภาพ => นั่น
ซื้อแบนด์มาฝาก => แบรนด์
ฝาเท้าทั้งสองข้าง => ฝ่า
พักสักแปบ => แป๊ป

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ฮื้อออ :m15:   เค้าร้องแทนก็ได้ป้อง สงสารน้อง  :ling3: แล้วก็ ขอให้หายไวๆนะป้อง

ออฟไลน์ myhumps001

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
เศร้ายตอนนี้ ไม่คิดว่าน้องจะไปเร็วขนาดนี้ เฮ้อชึวิตคนเราไม่แน่นอน

รีบๆมาต่อนะครับ ผมรอ่านอยู่

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้องร่าเริงมันไปสบายแล้ว
คนที่อยู่ก็สู้ต่อไป

เดี๋ยวนี้เกียร์เป็นดูผู้ชายอบอุ่น
หวานๆ เกียร์ป้องละมุนขึ้นนะคู่นี้

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
อ่านแล้วมีความรู้สึกว่า  เกียร์มันหื่นว่ะ :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ๐แตกต่างเติมเต็ม๐

  • "ผมไม่ได้แค่รัก แต่ยังศรัทธาใน'เรา' #ก้องเกียรติ์
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
    • https://www.facebook.com/PokpongGonggend/timeline

#24 ละครเวที เค้ก และค่ำคืนแสนสุข...


หลังจากวันนั้น ผ่านมาแล้วเป็นเวลาสามวัน ไอ้ป้องเองก็สุขภาพร่างกายดีขึ้นมากจนสามารถออกโรง'บาลไปเรียนได้ตามปกติ สิ่งเดียวที่ทำให้เราทั้งคู่ใจหาย คือการจากไปของน้องร่าเริง

งานศพของน้องน้องร่าเริง สวดสามวันแล้วจึงจะมีพิธีเผาขึ้นในวันเสาร์ ผมตามไอ้ป้องและแม่ลีลาวดีที่เพิ่งทราบข่าวจากพวกเราไปงานศพของน้องตลอดสามวันที่มีการสวดอภิธรรม จนกระทั้งถึงพิธีเผาในเย็นวันเสาร์

ผมกับไอ้ป้องและแม่ลีลาวดีต่อแถวรอส่งดอกไม้จันเข้าเปลวเพลิงวูบหนึ่งที่ผมรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ...

ถ้าคนที่นอนอยู่บนนั้นเป็นไอ้ป้อง

ผมจะความกล้ามาก พอที่จะมาส่งไอ้ป้องไหม...

มือข้างที่กุมมือกันบีบขึ้นนิดๆ ผมหันไปหาคนที่เดินจับมือกันข้างๆก่อนมันจะยิ้มจางๆให้มา

"กูสัญญา...จะไม่ลาจากมึงเด็ดขาด"

คำพูดเพียงแผ่วเบา แต่ก็สร้างความหนักแน่นและความมั่นคงให้แก่ความรู้สึกของผม

อุ่นใจจริงๆที่อยู่ข้างๆกัน...

ไม่ใช่เพียงแค่มันหรอกครับที่ขอบคุณผม ผมเองก็ขอบคุณมันสุดหัวใจเช่นเดียวกัน

ขอบคุณจริงๆที่อยู่ข้างๆกัน...

"ร่าเริง พี่กับพี่เกียร์มาส่งเราแล้วนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่เองก็ดีใจมากจริงๆที่ได้เจอ ได้พบ ได้คุย กับเด็กที่มีความน่ารักแบบ
เรา เราเป็นน้องที่น่ารักมากจริงๆ ถ้าชาติหน้ามีจริง...มาเกิดเป็นน้องของพี่นะครับร่าเริง"

เหมือนๆกับความรู้สึกที่ทนอดกลั่นมาตลอดสามวันพังทลายลงไป ไอ้ป้องกำเสื่อแม่ลีลาวดีไว้แน่นซ่อนเสียงร้องที่ดังออกมาจากใจ ผมรู้ดีว่าไอ้ป้องมันต้องอดทนขนาดไหนที่ต้องเก็บความรู้สึกของการสูญเสียที่พูดออกมาไม่ได้

"ร่าเริงครับ นี้พี่เกียร์นะ พี่เองอาจรู้จักเราได้ไม่นานพอแต่พี่ก็รักเราเหมือนน้องนะ ร่าเริงเป็นเด็กน่ารัก ยิ้มเก่ง เราอาจโชคร้ายที่อายุสั้นกว่าคนอื่น แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พี่คิดว่าเราคงมีความสุขดีในชีวิต มีพ่อแม่ รักเราสุดหัวใจ มีพี่ชายที่ดีแบบไอ้ป้อง"

ผมเว้นวรรคช่วงก่อนจะพูดต่อ

"ขอให้เราไปสู่ในภพภูมิที่ดีกว่า ถ้าชาติหน้ามีจริงเหมือนๆกับที่พี่ป้องว่า มาเกิดเป็นน้องพี่หรือน้องพี่ป้องก็ได้นะครับ สิ่งเราฝากฝังพี่เอาไว้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วนะ พี่ป้องแข็งแรงดีแล้วครับ พี่เองก็ขอยืนยันกับเรา...พี่จะอยู่ข้างๆพี่ป้องตลอดไป"

ผมพูดจบก็ยกมือไหว้ตั้งจิตอธิฐานก่อนจะส่งดอกไม้จันเข้าเปลวเพลิงไป

ผมกับไอ้ป้องพร้อมแม่ลีลาวดีเดินลงจากเมรุ ก่อนแม่ลีลาวดีจะแยกไปบอกลาพ่อแม่ของน้องร่าเริง จริงๆแม่กับพ่อเองผมเห็นว่าช่วงนี้ก็ค่อนข้างยุ่งๆกันทั้งนั้น แต่ก็ยังอุตส่าห์ขับรถมาส่งผมกับป้องมางานศพอีก

"ป้อง..."

ผมสะกิดเรียกชื่อ ก่อนจะส่งผ้าเช็ดหน้าสีเขียวไปให้มันเช็ดหน้าเช็ดตา ไอ้ป้องหยุดร้องแล้วครับ แต่ตากลายเป็นสีแดงก่ำเหมือน
คนอดหลับอดนอน

ไอ้ป้องรับผ้าเช็ดหน้าผมเสร็จแล้วก็เช็ดลวกๆไปทั่วใบหน้า ตอนนี้ผมกับมันนั่งรอแม่ลีลาวดีที่ใต้ต้นไทรต้นใหญ่ข้างวัด

"มึงโอเคนะ?"

ผมหันไปถามมัน ไอ้ป้องพยักหน้าให้แทนคำตอบก่อนตัวมันจะนิ่งเงียบไป

"เกียร์ ถ้าสมมุติว่ากู ...ผิดสัญญา..."

"ไม่เอาสัส อย่าไปพูดถึงมัน"

ผมตัดบท เบรคมันเพราะรู้ดีว่ามันจะพูดถึงอะไร

"ถ้ามันยังมาไม่นึก กูก็บอกมึงไม่ได้หรอกว่ากูจะรู้สึกยังไง แต่มึงรู้ไหม วินาทีที่เห็นมึงล้มลงไปตรงหน้า กูสาบานกับตัวเองว่า ถ้า
มึงเป็นอะไรไป กูคงไม่มีวันให้อภัยตัวเอง"

สำหรับมันแล้ว ผมอยากปกป้องรอยยิ้มมุมปากนั้นด้วยชีวิต...

"ทำให้กูหลงรักขนาดนี้แล้ว อย่าทิ้งกูล่ะ"

ผมพูดทิ้งท้ายติดตลก พยายามช่วยคุมอารมณ์ของมัน ไอ้ป้องเองก็คงเข้าใจเจตนาของผม มันยังคงยิ้มรับเหมือนเคย

เราสองคนนั่งเงียบๆกันไปเรื่อยๆจนกระทั้งแม่ลีลาวดีเดินออกมาจากศาลาหลังคุยกับพ่อแม่ของน้องร่าเริงเสร็จ

"เดียวเรากลับบ้านกันนะ"

แม่ลีลาวดีพูด พร้อมยื่นมือทั้งสองข้างมาให้ผมกับไอ้ป้อง เราทั้งคู่หันไปยิ้มให้กันก่อนจะยื่นมือไปจับแล้วลุกตัวขึ้นตามแรงดึงของ
แม่ลีลาวดี

ผมกับไอ้ป้องหันไปมองปล่องควันจากยอดเมรุกันอีกครั้งก่อนไอ้ป้องจะพูดขึ้นเบาๆ

"พี่ไปก่อนนะครับร่าเริง พี่จะแวะมาเยี่ยมเราบ่อยๆนะครับ"

พวกเราสามคนแม่ลูกค่อยๆเดินจูงมือกันมาถึงรถ ก่อนแม่ลีลาวดีจะสตาร์ทรถแล้วพาผมกับไอ้ป้องกลับบ้าน

ขอให้การจากลาของน้องร่าเริง เป็นการสูญเสียครั้งสุดท้ายของผมกับมัน...





__________________________________________________________________





หลังจบงานศพของน้องร่าเริง ผมกับไอ้ป้องก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตในรั่วพ.ว.ตามปกติ สิ่งที่ชดเชยช่วงที่ผมขาดไป คือการบ้านกองมหึมาซึ่งผมคาดว่าเป็นผลกระทบมาจากที่อีกสองอาทิตย์จะสอบกลางภาคเนี้ยแหละครับแต่...

คุณพระ!!! ผมหยุดแค่...เออ เท่าไหร่นะ...อ้อ4วัน แต่แค่4วัน การบ้านนานาชนิดก็ตบเท้ากันมายืนโบกมือทักทายผมเป็นทิวแถว
คือผมกับไอ้ป้องก็หยุดพร้อมๆกันนะ แต่ทำไมมันดูชิลๆทำเสร็จหมดทุกอย่าง(ว่ะ)โครตแตกต่างจากผมที่การบ้านไปไม่ถึงไหน
สุดท้ายมันก็ต้องลงมือช่วยผมทำอยู่ดี

มีเมียเก่งก็งี้ คิคิ...

แต่ใช่ว่าการบ้านเสร็จแล้วจะรอดนะครับ ยังครับยัง อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่ตามหลอกหลอนผมก็คือการสอบย่อยเทสนรก ซึ่งปกติก็มีประจำ แต่เชื่อไหมครับผมหยุดไปสี่วัน ขาดสอบเทสไป7ครั้งสี่วิชา

โหดผักสลัดเป็ด!!!

สุดท้ายก็ต้องยกความดีความชอบให้คุณเมียที่แสนดีอีกตามเคยที่คอยช่วยติวจนพวกสมองเมมน้อยๆอย่างผมสอบเทสผ่าน แม้จะไม่เคยได้ท็อปเท็นเท่าตัวมันเองก็เถอะ แต่ก็จัดว่าดีเลิศสำหรับผม

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นผลพ่วงตามมา คือผมได้รับอภิสิทธิ์โดยชอบธรรม ในการขับCbrคู่ใจมาโรงเรียนได้เพราะว่าพวกคณะกรรมการซึ่งร่วมถึงไอ้ป้อง ช่วงนี้จัดว่ายุ่งมาก ไหนจะงานวิชาการ ไหนจะงานละครเวทีที่ต้องแสดงร่วมกับสาขาสองอีก ทั้งๆที่จะต้องสอบกลางภาคอีกร่อมร่อแต่ผมต้องพาไอ้ป้องมาส่งเช้ามากและรอรับกลับเย็น(ดึก)มากซึ่งจริงๆมันก็บอกผมแล้วล่ะว่ามันมาแล้วกลับเองได้แต่ผมดื้อเองนั้นแหละเพราะเป็นห่วงมัน เช้าสุดที่เคยพามาคือตี4เย็น(ดึก)สุดที่เคยพากลับคือ4ทุ่มเรียกว่าผมกับไอ้ป้องช่วงนี้ใช้เวลาหมดไปกับข้างนอกมากกว่าในบ้านซะอีก

ด้านพ่อแม่ของเราทั้งคู่ก็ทำงานหนักไม่แพ้กัน เห็นแม่ลีลาวดีเปรยๆว่าช่วงนี้บริษัทกำลังจะมีหุ้นส่วนใหม่เข้ามาทำให้งานติดต่อและงานสัมนามีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ผมเห็นท่านทั้งสองเหนื่อยมากจริงๆ ชนิดที่หลับคาโซฟาห้องนั่งเล่นเลยแหละแต่ดีนะผมกับไอ้ป้องช่วยกันพยุงขึ้นห้องนอน(หนักมากพ่อเรา ลดๆน้ำหนักมั่งนะป๋า)

แต่ใช่ว่าอาการหมดแรงแบบนั้นจะเกิดเฉพาะกับพ่อผมหรอกนะครับแม่กับไอ้ป้องเองก็เคยสลบเหมือดเหมือนกัน ก็เล่นตื่นเช้านอนดึกกันซะขนาดนี้นี่ครับ ส่วนวันอาทิตย์นี้วันเกิดไอ้ป้องพ่อกับแม่ก็คงไม่ว่างครับ เพราะต้องไปสัมมนากับตัวแทนบริษัทนู้นถึงภูเก็ตป้องเองก็ไม่ได้พูดถึงวันนี้

เชื่อผมอะไรไหมครับ? พนันร้อยหนึ่งเลย

ไอ้ป้องลืมวันเกิดตัวเองแน่ๆ!!!

ตอนแรกกะจะชวนไอ้พวกทโมนกินหมูกระทะกัน แต่พวกแมร่งเสือกไม่ว่างกันเป็นทิวแถวสุดท้ายผมเลยตัดสินใจจะเซอร์ไพรมันเงียบๆคนเดียว(ก็ได้ว่ะ)

จุ๊ๆ แต่ผมยังไม่บอกหรอกนะว่าจะทำอะไรให้มัน เอาเป็นว่ารอดูพร้อมกันดีกว่า

"น็อต ขยับผ้าม่านไปอีกนิด มันเฉๆนะ"

เสียงไอ้ป้องยืนสั่งการที่หน้าเวทีตอนนี้พวกคณะกรรมการทุกคน

กำลังขะมักเขม้นในการจัดเวทีหอประชุมใหญ่ให้อลังการงานสร้างสมกับเป็นเจ้าภาพงานละครเวทีในปีนี้ ผมเองก็มีส่วนร่วมในการช่วยชาวบ้านเขานิดหน่อย


....ด้วยการวิ่งเสิร์ฟน้ำให้คนนู้นคนนี้

เปรตเอ๊ย นี้ผมเป็นแฟนกับเลขาสภานะเว้ย แมร่งใช้ผมเป็นเบ๊เบล็ดเตล็ดเฉย ถ้าไม่ติดว่าไอ้ป้องขอ พร้อมแลกกับที่จอดรถรับส่งคุณภรรยานะ ให้ตายผมก็ไม่ยอมหรอก ชิชะ

"ป้อง อ๊ะน้ำ"

ผมเรียกมันพร้อมยื่นแก้วน้ำพลาสติกให้ คนถูกเรียกหันมารับ ก่อนจะกระดกน้ำดับความกระหาย

"ขอบใจนะเกียร์ เหนื่อยแย่เลย"

มันพูด ทั้งๆที่ตัวมันเหงื่อซกยังกะอาบน้ำ

"ไม่เป็นไรหรอก เพื่อเมีย แค่นี้จิ๊บๆ"

ผมหยอดมันทุกที่ทีมีโอกาส ไอ้ป้องเองก็เขินทุกรอบ คนรอบๆตัวเราแรกๆก็อ้วกกับมุกเสี่ยวๆของผม หลังๆคงเริ่มชิน(ปลงตก)

"ต้องตาเหนื่อยไหมค่า เพื่อเมียแค่นี้พี่ทนได้"

ยกเว้นไอ้เชรี้ยนี้ ปากปีจอแบบนี้ก็มีแค่แมร่งล่ะครับ ไอ้เชรี้ยอู๋

ต้องตาไม่เพียงแต่ไม่รับมุก ซ้ำยังหักหน้าไอ้เพื่อนรักของผมด้วยการเดินหนีไปทำงานตรงส่วนอื่น ดีมากครับน้องรัก สะใจพี่เป็นบ้า!!!

ไอ้ป้องกับผมหัวเราะสมน้ำหน้ามันก่อนจะหันไปทำงานต่อ ผมเองก็เดินเอาน้ำไปแจกทีมงานคนอื่น แม้งานจะหนักแต่ทุกคนในที่นี้ก็ไม่มีใครปริปากบ่น(ยกเว้นไอ้เชรี้ยอู๋เพราะแมร่งบอกว่าเวลาสวีทของมันกับต้องตาลดลง)

ภาพข้างหลังของไอ้ป้องดูยิ่งใหญ่และเท่มากในสายตาผม มือสองข้างกางแบบแปลนเวทีออกก่อนจะชี้ไปยังจุดต่างๆแล้วตะโกนสั่งงาน ผมเองก็รู้ว่ามันเหนื่อยกับการแก้แปลนและแก้ปัญหาการเกทับกันระหว่างสาขาหนึ่งกับสองขนาดไหนในฐานะคนกลาง แบบแปลนแก้ไม่ต่ำกว่าห้ารอบ ซ้ำยังต้องคอยเชื่อมใจพวกเราให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกต่างหาก

มันเป็นคนที่มีเพาเวอร์ในตัวเองสูงแต่ขาดความทะเย่อทะยานในการไขว้คว้าคิดเพียงแค่ว่าทำยังไงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าถึงจะดีกับทุกคนและได้ผลเท่าเทียมกัน

พวกเราทุกคนเองก็เหนื่อยพอๆกัน ไม่เว้นกระทั้งพี่เซียร์ที่ต้องไปคอย รับแขกและจัดหาสปอนเซอร์ให้พวกผม ซ้ำบ้างวันยังปีนบันไดสูงขึ้นไปถลกแขนเสื่อตอกตะปูเองด้วยซ้ำ คนๆนี้แทบไม่เคยเกี่ยงงานหรือคิดว่าตัวเองเป็นประธานนักเรียนแล้วจะยื่นดูคนอื่นทำงานเลยแม้แต่น้อย ขนาดงานจิปาถะพี่เซียร์ก็ลุยถึงไหนถึงกัน

แล้วงี้ไม่ให้พวกผมทำงานกันเต็มที่ได้เหรอครับ

ที่เห็นจะน่าสงสารยิ่งกว่าพวกผมก็พวกสาขาสองเนี้ยแหละครับ ต้องนั่งรถมาไกลๆกัน กลับก็ดึก แต่ไม่เคยบ่นออกมา ทั้งพี่ยา มู่หลาน แล้วก็คนอื่นๆที่มาด้วยกัน

ถ้าจะถามว่าอะไรที่ทำให้พวกเราตั้งใจและจริงจังกันขนาดนี้ ก็คงตอบได้ว่าเพราะตัวอักษรย่อสองตัวบนอกข้างขวา

ถ้าเปรียบเพลินจิตวิทยาคือบ้านหลังที่สอง พวกเราก็คือครอบครัว

ห้าปีที่อยู่ที่นี้มา มีทั้งทุกข์และสุข สถานที่แห่งนี้ให้ทั้งวิชา ความรู้มิตรภาพและความรัก

เพราะเราคือครอบครัว

We are family



________________________________________________________________________



ผมขับCbrด้วยความเร็วไม่มากเพราะคนซ้อนหลับลงไปแล้วด้วยความเพลีย หลังทำงานเสร็จพอขึ้นเบาะรถไอ้ป้องก็ซุกหัวลงกับหลังผม ก่อนจะหลับไปแบบนั้น ดีว่าแขนมันยังคล้องเอวของผมไว้อยู่ ขับช้าๆเลยพอไปได้

"ป้อง ถึงบ้านแล้ว"

ผมปลุกมันเบาๆหลังขับมาถึงประตูบ้าน ไอ้ป้องสะลึมสะลือแต่ก็ก้าวลงไปยืนรอ ก่อนผมจะไขประตูแล้วเข็นรถเข้าไปเก็บข้างในเสร็จแล้วก็พามันขึ้นห้องพอถึงห้องปุบไอ้ป้องก็ทิ้งตัวลงไปกับที่นอนก่อนจะหลับคาชุดนักเรียน

สงสัยคงง่วงมากจริงๆ

ผมเลือกที่จะไม่ปลุก แต่ช่วยถอดถุงเท้ากับปลดเข็มขัดให้มันแทน ก่อนจะแกะกระดุมแล้วถอดเสื่อนักเรียนให้มัน

หลายวันมานี้ตั้งแต่ร่างกายมันแข็งแรงขึ้นก็โหมงานมากพอสมควร แต่ผมคิดว่าก็ดีเหมือนกัน ยุ่งๆแบบนี้จะได้ไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว แต่ก็ตัวผมเองอีกนั้นแหละที่อดเป็นห่วงมันไม่ได้ กลัวว่าโหมงานมากไปแล้วมันจะทรุดเอาง่ายๆนะสิครับ

ผมเกลี่ยเส้นผมของไอ้ป้องเล่น ก่อนจะจูบ หน้าผากมันเบาๆ

"ฝันดีนะมึง"

ผมห่มผ้าห่มให้มัน ก่อนจะลดแอร์ลงให้อีกฝ่ายเย็นตัวจากนั้นตัวเองก็ปีนขึ้นไปนอนชั้นบนบ้าง

ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน

ขอให้วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป มึงยิ้มแบบนี้ได้ตลอดไปนะป้อง..




__________________________________________________________________________________



"ไม่สบายไปหาหมอกันไหม?"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ไอ้ป้องเอามือมาอังหน้าผากก่อนจะพูดต่อเบาๆ

"ตัวอุ่นๆแหะ"

"อือ ขอโทษนะ เลยไม่ได้ไปส่งมึงเลย"

ผมพูดเสียงเศร้าบอกกับมันไป วันนี้เป็นวันอาทิตย์แล้วครับ

"ไม่เป็นไรๆ เดี่ยวกูนั่งเมล์ไปก็ได้"

ไอ้ป้องพูด วันนี้เป็นอีกวันที่มันต้องไปทำงานที่โรงเรียน(จริงๆก็ทุกวันนั้นแหละ)

"กลับไวๆนะ"

ผมพูดก่อนจะโบกมือให้มันไหวๆที่ริมประตู พอเห็นมันเดินไปไกลแล้วก็รีบวิ่งไปห้องน้ำก่อนจะระบายของเหลวที่เรียกว่าฉี่จากในท้องน้อย

อ่า....ฟิน อย่าบอกนะ ว่าไม่เคยกลั่นฉี่แล้วบอกพ่อกับแม่ว่าไม่สบายตัวร้อนน่ะ ฮ่าๆ วันนี้ที่ผมเลือกจะไม่ไปกับไอ้ป้องเพราะ
ต้องการเตรียมของรอมันที่บ้านครับ ผมหยิบกระดาษโน้ตที่จดอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ ก่อนจะแต่งตัวแล้วขับCbrไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆบ้าน ก่อนจะค่อยๆมองหาของที่ต้องการ

“อื้ม...ไข่ไก่ แป้งสาลี แป้งว่าว อ่า...ผงฟูด้วย”

ผมพูดกับตัวเอง ตาก็มองแผ่นกระดาษก่อนจะหยิบอุปกรณ์ต่างๆในการทำเค้กขึ้นมาใส่ตะกร้า

ครับ...ผมอยากทำเค้กให้ไอ้ป้อง

โอเค ยอมรับว่าไม่เคยทำหรอกนะ แต่ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆกับแค่ดูแลไอ้ป้องหรอกนะครับ แต่ตัวเองก็พยายามอ่านรีวิวกับวิธีการทำเค้ก จริงๆไปซื้อมาก็ได้นะแต่สำหรับผม ของที่ทำขึ้นมาเองมันมีคุณค่ามากกว่านิครับ
พอได้อุปกรณ์พร้อมสมบูรณ์ผมก็ขนของไปจ่ายตังค์ พี่พนักงานเองก็มองยิ้มๆ ก็อย่างว่าแหละครับ พี่เขาคงดูออกว่าผมซื้อไปทำอะไร หลังจากจ่ายเงินเสร็จผมก็รีบตรงบึ่งกลับบ้าน จนเกือบจะลืมของที่ตั้งใจจะซื้ออีกอย่าง ดีว่าวกรถกลับไป7-11ทัน ดีที่ว่าพี่พนักงานขายรอบนี้เป็นผู้ชาย

ผมซื้ออะไรที่7-11 ไม่ต้องสงสัยหรอก...

พอกลับมาถึงบ้าน ผมก็เข้าครัวก่อนจะหยิบไอพอดขึ้นมาเปิดเวปพันทิป มีพี่ๆใจดีหลายๆคนรีวิววิธีการทำเค้กง่ายๆไว้ครับ ที่ผมเห็นแล้วชอบมากที่สุดก็ทำจากหม้อหุงข้าวเนี้ยแหละส่วนประกอบก็ไม่ยากครับ

แป้งเค้ก สำเร็จรูป 400 กรัม (ของเจ้าไหนก็ได้ครับ สุ่มๆหยิบมาเลย)  เนยเค็มขนาด 220  กรัม 1 ก้อน นมจืด 1 1/2 แก้วเป็ก  (ถ้าไม่มีใช้น้ำเปล่าก็ได้)  ไข่ไก่  4 ฟอง (ไข่ไก่อุณภูมิห้อง ถ้าแช่เย็นเอาออกมาวางข้างนอกให้หายเย็นก่อนไม่งั้นจะไม่เข้ากันกับแป้ง) ฝงฟู  1/2  ช้อนชาน้ำตาลทราย   4  ช้อนโต๊ะ (แป้งสำเร็จจะไม่หวานต้องเติมน้ำตาลลงไปเล็กน้อย)

ก่อนอื่นมาทำน้ำตาล ไอซิ่งกันก่อนตักน้ำตาล 4 ช้อน ลงในโถปั่น แล้วทำการปั่น ปั่นให้ละเอียดจนคล้ายแป้งเลยครับ จากนั้นก็เทลงอ่างหรือกะลามั่งที่เตรียมไว้ เทแป้งเค้กลงตาม ใส่ผงฟูลงไป แล้วเราก็มาใส่ตะแกรงร่อนครับ ร่อนสักประมาณ 6-7 รอบ เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากัน นำเนยลงใสภาชนะที่เราจะผสมแป้ง ใส่ทั้งก้อนเลยครับ จากนั้นผมก็ตีให้เนยฟูครับ ด้วยเครื่องอะไรสักอย่างที่ผมเรียกชื่อไม่ถูก ใส่ไข่ตามลงไป ตามด้วยนมสดจืด ครับ 1 1/2 แก้ว พอส่วนผสมครบเราก็ตีส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆเทแป้งลงไปครับ แบ่งให้ได้สักสามส่วน ค่อยๆผสมครับ ผมเองก็เลือกที่จะใส่ลูกเกดลงไปด้วย

หลังจากนั้นก็ตีไปเรื่อยๆครับจนแป้งหมด พอส่วนผสมเข้ากัน ตีแป้งต่ออีกสัก 3 นาที พอตีจนแป้งเหนียว เนื้อเนียน เป็นอันใช้ได้ครับ จากนั้นก็ขั้นตอนการอบครับ เช็ดหม้อหุงข้าวให้สะอาดก่อนเทลงไป เทลงในหม้อ แล้วเขย่า ๆ ให้หน้าแป้งเสมอกัน

จากนั้นก็รอครับ..

ประมาณไม่นานเท่าไหร่หม้อหุงข้าวเด้งปุบ ถอดปลั๊กออก แล้วงัดเค้กออกมาวางไว้บนตะแกรง ระบายความร้อนครับ พอมันเย็นๆแล้วก็ปาดๆหน้าเค้กตรงส่วนที่มันไหม้ออกไป

แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ เค้กวันเกิดของผมกับไอ้ป้อง

สิ่งที่ผมทำให้มัน อาจจะไม่ได้เลิศหรูอลังการนัก รสชาติก็ไม่ได้ดีระดับร้านอาหารหรูๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้...

ผมทำด้วยใจ

ผมยกเค้กที่หายร้อนแล้วเข้าตู้เย็นเอาไว้ คะแนว่าประมาณสองสามทุ่มไอ้ป้องก็คงกลับมา

เอาล่ะ....นอนรอมันเหอะ......


..


..





..
.

.


“เกียร์...เกียร์”

เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าตัวเบาๆปลุกผมให้ตื่นขึ้นมา

“มานอนอะไรตรงนี้ แล้วทำไมใส่เอี๊ยมนอน”

ไอ้ป้องถามขึ้นก่อนจะมองเอี๊ยมผมงงๆ

ผมเงยหน้ามองมัน ก่อนจะเลื่อนไปมองดูนาฬิกา นี้ผมหลับยาวไป4-5ชั่วโมงเลยเหรอครับเนี้ย ? สงสัยผมเองก็คงจะเพลียมากเหมือนกันจากการตื่นเช้าๆพอๆกับไอ้ป้อง

“กูซื้อข้าวต้มมาฝาก ไม่สบายนิ”

มันว่าก่อนจะชูถึงข้าวต้มขึ้นมาให้ผมดู ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนเราเวลาป่วยต้องกินแต่ของพวกนี้  ไม่คิดว่าคนป่วยอยากจะกินพิชช่าบ้างเหรอครับ ? แต่ยังไงๆก็เพราะอีกฝ่ายเป็นห่วงเรานั้นแหละ

“กินข้าวมารึยัง ?”

ไอ้ป้องพยักหน้าแทนคำตอบ

“งั้นมานั่งนี้ รอแปปหนึ่ง”

“อะไรว่ะ ?”

มันถามงงๆ หลังจากโดนผมลากไปนั่งลงตรงเก้าอี้

ผมไม่ตอบ แต่เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกตาไว้แทน ไอ้ป้องเองก็ดูตื่นๆ คงจะตกใจคิดว่าผมจะทำอะไรมันล่ะมั่งครับ

“อย่าเพิ่งลืมตานะ ไม่งั้นโป้ง”

เพราะพูดไปแบบนั้น ไอ้ตัวดีเลยยังไม่แกะผ้าปิดตาออก

ผมเดินไปหยิบเค้กที่แช่เย็นไว้ออกมา ก่อนจะหยิบเทียนเล็กๆที่ซื้อมาพร้อมกันออกมาปักตามจำนวนอายุ ไอ้ป้องเกิดก่อนผม
เพราะงั้นปีนี้มันจะอายุสิบเจ็ดปีเต็มครับ

“โอเค เปืดตาออกได้”

ไอ้ป้องค่อยๆแกะผ้าปิดตาออกมา ก่อนจะพบว่าทั้งห้องตอนนี้ปิดไฟ สิ่งที่สว่างที่สุดคือเทียนเล่มเล็กๆบนเนื้อเค้ก

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู .....แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู  ......แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์....แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู~~ ยู”

ผมร้องออกมา ก่อนจะตบมือเบาๆ

“.........”

“ไม่ชอบเหรอ ?”

เพราะเห็นไอ้ป้องนิ่งไปเลย ผมเลยถามขึ้นมา

“อ่า...วันนี้วันเกิดกูเหรอ.....”

มันพูด พร้อมเกาหัวแกรกๆแก้เก้อที่ลืมวันเกิดตัวเอง

“กูว่าแล้วว่ามึงต้องลืม.... ช่างเหอะ กินเค้กกัน”

ผมบอกปัด พร้อมหยิบมีดสำหรับหั่นเค้กขึ้นมา หั่นไปชิ้นๆให้มัน

“เกียร์...”

“ว่า ?”

“ทำเองเหรอ”

ผมยกส้อมขึ้นมาจิ้มเนื้อเค้ก ก่อนจะส่งเข้าปากมัน

“เออ อร่อยป๊ะ ?”

“อย๊อย”

มันพูดทั้งๆที่เค้กเต็มปาก ใบหน้าจืดๆเคี้ยวเค้กตุ๊ยๆจนเต็มสองแก้ม เห็นแล้วโคตรหมั้นเขี้ยว...

ผมกับไอ้ป้องนั่งกินเค้กไปเรื่อยๆ ไอ้ป้องเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแค่กินไปแบบนั้นเงียบๆ จนกระทั้งเค้กก้อนกลางหมดลงไป

“กูมีของจะให้มึงด้วย”

มันกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะโดนผมดึงขึ้นห้องนอนไป

ผมกับมันนั่งลงบนเตียงชั้นล่าง  ก่อนข้อมือของมันจะโดนผมดึงมา

“ขอโทษที่โกหกมึงนะป้อง วันนั้นจริงๆแล้วกูไปซื้อของขวัญให้มึง....”

ผมค่อยๆสวมริสแบนด์รูปสเกตบอร์ดสีเขียวให้มัน

เปล่าครับ...ผมไม่ได้ใส่ให้มันผิดอัน

ผมอยากให้ริสแบนด์เส้นนี้เป็นตัวแทนกันและกันของผมกับมัน เลยเลือกที่จะให้อีกฝ่ายสวมใส่ ‘ตัวตนของผม’ และเลือกที่จะให้ตัวเองส่วมใส ‘ตัวตนของอีกฝ่าย’

ผมอยากให้เรา....ยอมรับกันและกัน....

ไอ้ป้องไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ มันนิ่งไปเฉยๆซะแบบนั้นจนผมกลัวใจ นึกว่ามันจะโกรธที่ทำอะไรแบบนี้ แต่แล้วมันก็ทำสิ่งที่ผมอยากให้ทำมาโดยตลอด

ไอป้องกอดผม....

“เกียร์...”

“..........”

“ขอบคุณนะ......”

ไอ้ป้องซุกหน้าลงกับแผ่นอกของผมก่อนจะพูดต่อ แขนทั้งสองข้างยังคงกอดผมเอาไว้

“วันเกิด...จริงๆแล้วมันอาจจะไม่ใช่วันสำคัญอะไรเลยก็ได้ นอกจากจะเป็นวันที่คนให้กำเนิดเราต้องเจ็บปวด...มันจะสำคัญขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีคนจำมันได้โดยที่เราไมได้บอก ของขวัญเองก็เหมือนกัน ความสุขของคนรับอย่างกู มันไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของขวัญเลย....แต่สิ่งที่มึงทำให้กัน มันเกินคำว่าขอบคุณจริงๆ....”

“อย่าร้องดิ ไอ้ขี้แง”

ผมปลอบก่อนจะขยี้หัวมันเบาๆ เพราะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำอุ่นๆที่ทะลุผ่านเสื้อเข้ามาข้างใน

“กูแค่อยากให้มึงรู้ ว่ากูรักมึงจริงๆ.....”

ผมช้อนหน้าไอ้คนขี้แงออกมาจากอก ก่อนจะค่อยๆจูบมันเบาๆ

“กูเชื่อตั้งแต่วินาทีแรกแล้วล่ะ....”

ผมกอดมันตอบแน่นๆ ก่อนจะค่อยๆพูดสิ่งที่ ‘อยากได้บ้าง’ ออกมา

“ป้อง.....”

“...........”

“ถ้าเกียร์ขออะไรบ้าง จะได้ไหมอ๊ะ ?”

ผมพูดเบาๆ เสียงอ้อนๆมันหน่อย

“อะไรอ๊ะ...?”

มันตอบกลับมา

อื้ม...จะเอาไงดีต่อล่ะกู

ผมรวบรวมความกล้า ก่อนจะค่อยๆกระซิบที่ข้างหูมัน




“ป้อง....เป็นของกูนะ.......”




ไอ้ป้องเงียบไป พอผมเงยหน้าก็เห็นมันพยักหน้าให้เบาๆ ....อายสินะ....

ใบหน้าของผมโน้มลงจรดแก้มมันอีกครั้งก่อนจะกดมันนอนลงไป มือสองข้างของผมค่อยๆถอดเสื่อยืดอีกฝ่ายออกจากตัว ปากก็ไล่เม้มขบไปตามลำคอสีน้ำผึ่ง ไล่ลงไปต่ำลงเรื่อยๆ

ผมค่อยๆปลดเข็มขัดของมันออก ก่อนจะรูดที่เดี่ยวแล้วโยนกางเกงมันไปกองไว้ใต้เตียง

เอาล่ะ...

ได้เวลาซูมกล้องไปที่หน้าต่างแล้วครับ...



TBC.


เกียร์ไปซื้ออะไรที่7-11 คงไม่สงสัยแล้วใช่ไหมครับ ?   :hao7:


เย้ๆ พรุ่งนี้วันเกิดเราเอง เกิดวันเดียวกับน้องป้อง ฮ่าๆ ยอมรับเลยว่าตอนตั้งวันเกิดน้องคิดไม่ทันเลยใส่วันเกิดตัวเองลงไป


ขอให้พรุ่งนี้ มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาเถิด   :กอด1:


ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม เข้ามาอ่าน เข้ามาเม้นท์ ขอบพระคุณจริงๆครับ

ปล. เรายังสอบไม่เสร็จนะ แต่แอบมาลงให้ก่อน   :z2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สุขสันต์วันเกิดนะป้อง
เกียร์เซอร์ไพรทได้นารักมาก อุ่นไปทั้งใจ
หวาน ละมุน

เกียร์เล่นขอกันตรงๆเลย แต่อย่าแพลนไปที่โคมไฟ
เราอยากรู้เราเห็น

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย  :z3: :z3: :z3: :z3:
ป้องอย่ายอมให้เกียร์มันกดนะ แกต้องกดเกียร์สิ
แกทำบอลลูนมาจะเจ็บปวดมาไม่ได้นะ แกต้องรุกเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
อร๊ายยยยยยย สู้เค้าลูก อย่าให้มันกด อร๊ายยยยยยยยย  :ling1: :ling1:

อดกลั่น=> อดกลั้น
กำเสื่อ => กำเสื้อ
นี้พี่เกียร์นะ => นี่พี่เกียร์นะ
ถ้ามันยังมาไม่นึก => ถ้ามันยังมาไม่ถึง   ป่ะ??
สอบกลางภาคเนี้ย => สอบกลางภาคเนี่ย
เสร็จหมดทุกอย่าง(ว่ะ) => เสร็จหมดทุกอย่าง(วะ)
งานสัมนา =>งานสัมมนา
พวกทโมน => พวกทะโมน
เซอร์ไพร => เซอร์ไพรส์
(ก็ได้ว่ะ) => (ก็ได้วะ)
นี้ผมเป็นแฟน => นี่ผมเป็นแฟน
กลั่นฉี่ => กลั้นฉี่
กะลามั่ง => กะละมัง
นำเนยลงใสภาชนะ => นำเนยลงใส่ภาชนะ
กินพิชช่า => กินพิซซ่า
รอแปปหนึ่ง => รอแป๊ปนึง
“อะไรว่ะ ?” => “อะไรวะ ?”
ทำอะไรมันล่ะมั่งครับ => ทำอะไรมันล่ะมั้งครับ
เลือกที่จะให้ตัวเองส่วมใส => เลือกที่จะให้ตัวเองสวมใส่
สีน้ำผึ่ง => สีน้ำผึ้ง
รูดที่เดี่ยว => รูดทีเดียว

ออฟไลน์ myhumps001

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
ผู้เขียนอยู่ไหน ผู้เขียนอยู่ไหน ผู้เขียนอยู่ไหน ผู้เขียนอยู่ไหน  :fire: :fire: :fire: :fire:

เราต้องการ NC  :o8:

ได้โปรดบรรยายเหอะ ผู้อ่านขอร้อง :sad4:

มาต่อด่วนอย่าหายไปนานคนอ่านเคือง :serius2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เขามีอะไรกันแล้ว :o8:
แต่ขอแอบดูนิดนึงซิ
ข้างห้องมีรูมั้ยน้ออ

สุขสันต์วันเกิดนะคะคนเขียน
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ ทั้งสองคน ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าแพนกล้องหนีน่ะ

ออฟไลน์ ๐แตกต่างเติมเต็ม๐

  • "ผมไม่ได้แค่รัก แต่ยังศรัทธาใน'เรา' #ก้องเกียรติ์
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
    • https://www.facebook.com/PokpongGonggend/timeline
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เนื่องในวันพิเศษของผม ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราเรียกว่าแม่ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ผมเกิดมา เพราะงั้นจึงขอแบ่งปันความสุขด้วยการแจก .5 จ้าาาา ซึ่งจุด5ตอนแรกก็ฉากต่อจากด้านบนเลย

หลังไมค์มานะครับ หรือคอมเม้นท์ทิ้งไว้หนอ เดี่ยวไม่เกินเย็นพรุ่งนี้จะเสิร์ฟ.5ไปทางPM.นะครับ สำหรับใครที่ไม่มีไอดีเ้ป็ดสามารถขอได้ผ่านแฟนเพจนะครับ

*** ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ รบกวนผู้ที่อยากไ้ด้0.5 ช่วยตอบเราหน่อยนะครับ ว่ามีฉากใดที่ประทับใจเป็นพิเศษพร้อมเหตุผลจะสั้นจะยาวก็ได้ครับ จะหน้าไมค์หรือหลังไมค์ตามสะดวกเลย [แก้ไข ณ 22.01น. คนที่ขอมาก่อนนั้นจะส่งให้ตามปกตินะครับ ]



ปล. ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะนุ่มนวลพอไหม ถ้าอ่า่นแล้วยังไงลองคอมเม้นท์ในส่วนนี้ให้ด้วยนะึีครับ เราจะนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไปจ้า (ครั้งต่อไป???)

สุขสันต์วันเกิดของผม ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆจ้า   :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2014 21:58:40 โดย ๐แตกต่างเติมเต็ม๐ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ว้ายยยยยย   มีมา .5  ด้วยยยยยยยย

ขอด้วยๆ   จะได้ไม่ต้องไปอยู่ใต้เตียง 555555

มีฟามสุขมากๆนะคะ อิๆ

ออฟไลน์ สิสิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :-[ :-[ :-[ ขอด้วยค่ะ สุขสันต์วันเกิด ขอให้สอบได้ เอ ค่ะ

ออฟไลน์ Zliezen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
อั๊ยยะ เรื่องน่ารักๆแบบนี้ทำไมถึงผ่านหน้าผ่านตาไปได้ พึ่งได้กดเข้ามาอ่านครั้งแรก นั่งอ่านรวดเดียวตั้งแต่เช้าเลย

ปกป้องน่ารักอ่ะ ส่วนเกียร์ยังไม่ทันได้กันเลย เรียกเมียก่อนเลยนะ อยากให้เกียร์โดนป้องกดอ่ะ หมั่นไส้ แต่คงเชียร์ไม่ขึ้นใช่มั๊ย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
น่าร้ากกกกที่สุด

ออฟไลน์ kuichai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เกียร์ เตรียมพร้อมสุดๆ

ยกมือขอ .5 ด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ยกมือขอด้วยคน
 :m5: :m5: :m5:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ขอ .5 ด้วยจ้า  :z2:
สาธุ ป้องเป็นคนรุก   :call: :call:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ยกมือขอ .5 ด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ขอตอนพิเศษ .5 ด้วยคนจ้าาา

ถามว่าชอบตอนไหน  เราชอบตอนป้องไปช่วยเกียร์นะ ความรักความห่วงใยแล้วก็หัวใจของทั้งคู่ อ๊ายๆๆๆ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ขอ .5 ด้วยคนค่าาา :z1: :z1:

ถามว่าชอบตอนไหนที่สุด? อืมมม ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนแต่ละตอนให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปค่ะ
แต่ถ้านึกถึงเรื่องนี้ ตอนที่นึกถึงคือตอนแรกๆเลยค่ะ ที่เกีนร์มันเกรียน -*- หาเรื่องแกล้งป้องอ่ะ
แต่ป้องไม่ตอบโต้ ใช้ความนิ่งสงบความบ้าของเกียร์ คือมันโดนใจสำหรับเราค่ะ เรารักบุคลิกแบบป้องนี่แหละค่ะ :L1: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด