ตอนที่27
“...จากนั้นให้นักเวทอัดธาตุน้ำแข็งใส่...จังหวะที่รัมกำลังเดินขึ้นหน้า...”
พี่เจิญกำลังอธิบายกลยุทธ์การแข่งแต่เสียงของพี่เขาแทบไม่เข้าหัวผมเลย ไม่ได้ๆ ผมต้องตั้งสมาธิให้มั่น อุตส่าห์ทนมาถึงขึ้นนี้แล้วจะมาจบเห่เพราะเหม่อจนไม่ได้ฟังรูปเกมจากโค้ชได้ยังไง
ผมสะบัดหัวไปมาเพื่อรวบรวมสมาธิ แต่ไม่รู้ว่าสะบัดแรงเกินไปหรืออะไร ที่รู้ๆก็คือมันสะเทือนมาถึงข้อมือจนรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ผมเม้มปากแน่น พยามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้ใครในทีมสังเกตเห็น
เมื่อวานตอนที่พี่แม็คมันเข้ามาหาเรื่อง ผมได้ทำในสิ่งที่โง่ที่สุดในชีวิต
สะดุดขาตัวเองล้ม
จั๊ดง่าวมาก
แทนที่ล้มแล้วจะเจ็บขา เข่าถลอกข้อเท้าแพลงอะไรก็ว่าไปแต่นี่ดันเอามือลงก่อน
ข้อมือส้นจ้า!
ผมแทบน้ำตาไหลพรากอ่ะวินาทีนั้น โชคดีที่ไอ้รัมมันเดินออกมาเห็นแล้วก็ลากเพื่อนของมันเดินหนีไปก่อนไม่อย่างงั้นผมจะต้องเสียน้ำตาต่อหน้าพี่แม็คเป็นครั้งที่สอง
มันจบแล้ว
ในโลกของมืออาชีพแค่เผลอกระพริบตาขณะเข้าด้ายเข้าเข็มผลแพ้ชนะยังพลิกผันได้ แล้วนี่ผมข้อมือเจ็บ ถึงตอนคอนโทรลจะใช้นิ้วซ้ายรัวคีย์บอร์ดมือขวาจับเมาส์ซึ่งไม่เกี่ยวกับข้อมือโดยตรงก็ตามแต่คู่แข่งคือทีมอันดับหนึ่งของประเทศจุดอ่อนเท่านี้ก็มากเกินพอ
“เอาล่ะ ทีมงานเรียกแล้ว ไปแสตนด์บายกันเถอะ”
ทีมของเราไม่มีตัวสำรองเพราะมันคือทีมที่ผมรวมพลรุ่นพี่กับเพื่อนมาร่วมแจมด้วย ทุกคนเข้าทีมมาเพราะอยากช่วยผมแต่ก็เป็นผมอีกที่ตัดโอกาสชนะของทีมเราไปเก้าจากสิบส่วน
“เป็นอะไรรึป่าว”เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ขนาดผมละเลยแฟนอย่างเขาแล้วเอาแต่หมกมุ่นกับการแข่งพี่ปกก็ยังคงใส่ใจผมเสมอต้นเสมอปลาย
ผมสบตาคนตัวสูงกว่าก่อนจะเบะปากอยากร้องไห้แต่ต้องฮึบไว้
ถ้าผมบอกว่าข้อมือเจ็บพี่ปกอาจจะบังคับให้ถอนตัวหรือไม่ขวัญกำลังใจของทีมก็จะลดฮวบฮาบแล้วท้ายที่สุดผลก็คือแพ้กับแพ้ ผมอยากชนะ อยากให้ทีมชนะ เล่นเกมกับทุกคนสนุกมาก ชีวิตนี้คิดว่าหลังจากถูกรัมทิ้งก็จะไม่ได้เล่นเกมแบบนี้อีกแล้วจนได้มาเจอกับทุกคน
“โอ๋น้องหน่อยสิ”ผมอาศัยจังหวะที่คนอื่นเดินออกจากห้องรับรองไปหมดแล้วอ้อนพี่ปก
“กลัวแพ้เหรอครับ”พี่เขาก็ตามใจผมด้วยการเอื้อมมือมาลูบหัวอย่างอ่อนโยน
“ผมชอบตอนที่พี่แตะตัวผมมากเลย”ผมทำหน้าเคลิ้มตามสัมผัส มือหน้าเลื่อนลงมาลูบบริเวณแก้มของผมเบาๆ ครู่หนึ่งก่อนที่พวกเราจะจูบกัน พี่ปกเป็นคนเริ่มแต่ผมรู้และรออยู่แล้วด้วยความยินดี
“HPเต็มหลอดแล้ว”ผมยิ้มแก้มแทบปริให้อีกฝ่าย
“หึ เด็ก”แทนที่พี่ปกจะส่งยิ้มหวานกลับมาให้บ้างพี่เขากลับแกล้งแค่นเสียงหัวเราะและเดินนำออกจากห้องไป เราเดินมาถึงห้องส่งเป็นสองคนสุดท้ายเพราะมัวแต่อี๋อ๋อกันอยู่ทำให้เพื่อนรวมทีมส่งสายตาล้อเลียนมาให้ โชคดีที่ไม่มีใครปากพล่อยพูดแซวออกมาเพราะบนเวทีตอนนี้มีโจทย์ของผมอยู่
รัมมองมายังผมด้วยสายตาแปลกใจ
“ไม่มีตัวสำรอง?”ตอนที่เดินสวนกันพี่มันถามเสียงห้วน ผมไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงอะไรเพราะกลัวความแตก ระหว่างรอเขาเซ็ตติ้งเลยได้แต่ยืนตัวลีบอยู่หลังพี่ปก
“ไม่ต้องกลัวไปไอ้หนู พวกเราไม่แพ้แน่!”พี่อัพกล่าวเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจเจ้าเฌอ ตอนนี้มันยืนตัวเกร็งยิ่งกว่าผมซะอีก
“มาล้อมวงบูมกันหน่อยป่ะ”พี่กิลล์นึกคึกบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้เอ่ยชวนขึ้นหลางปล้อง
“เสร่อ”ของแบบนี้พี่ปกไม่เล่นด้วยแน่
“บ๊ะ มึงนี่ก็ขัดกูได้ทุกอย่าง ไม่เห็นมีอะไรน่าอาย ดูน้องกองเชียร์พวกนั้นสิยังตะโกนกันกรี๊ดกร๊าด พวกเราบูมบ้างไม่เห็นน่าอาบตรงไหน”พี่กิลล์ชี้ไปยังติ่งสาวๆที่มาเชียร์ THE RIPPER
ครับ ไอ้รัมมันหล่อไง ถึงผมจะด่ามันมาตลอดเรื่องแต่ผมไม่เคยด่าว่ามันขี้เหร่หน้าชั่วใจหมาเลยสักครั้งเพราะมันเป็นคนใจหมาที่หน้าตาดีและเล่นเกมเก่ง สาวๆเป็นแฟนคลับมันเพียบ ในสตูตอนนี้เต็มไปด้วยป้ายไฟของมัน
“พวกเราไม่เห็นดังแบบนั้นบ้าง”พี่อัพมองป้ายไฟเหล่านั้นแล้วก็เปรยขึ้นด้วยความอิจฉา
“เมื่อคืนในเน็ตก็มีคนพูดถึงเราเยอะอยู่นะ ถ้าลงแข่งสม่ำเสมอทำผลงานดีมึงก็มีแฟนคลับเองแหละ”พี่เจิญคุณแม่ประจำทีมออกโรงปลอบลูกอัพและลูกกิลล์ที่งอแงอยากดังข้ามคืน
“มีแต่คนพูดถึงไอ้ปกน่ะสิ!!”พี่กิลล์กัดฟันกรอด เพราะเมื่อวานพี่กิลล์กับพี่อัพทำพลาดช่วงท้ายเกมคะแนนความนิยมเลยเทไปกองอยู่ที่พี่ปกซึ่งคงความคูลตั้งแต่ต้นจนจบ
“แสตนด์บายได้แล้วครับ”ระหว่างที่กำลังออกทะเลกันนั้นเองพี่สตาฟฟ์ก็เดินเข้ามาเรียกพวกเรา
“ตินนนนน สู้เค้านะน้องงงง”ท่ามกลางเสียงวี๊ดว๊ายของสาวๆผมที่กำลังเดินเข้าประจำตำแหน่งได้ยินเสียงของผู้ชายดังแหวกอากาศเข้ามา มันคือเสียงของพี่รักนั่นเอง ผมโบกมือให้พี่เขาพร้อมรอยยิ้ม
เกมเริ่มขึ้นแล้ว ผมพยามฝืนความเจ็บปวดที่ข้อมือเอาไว้ โชคดีที่ผมเล่นอาชีพนักบวชเลยทำแค่กดฮีลจากระยะไกลไม่ต้องขยับมือมากเหมือนอาชีพอื่นๆ แต่พอโดนพี่เปรยบุดเข้ามาถึงตัวผมก็เริ่มหน้าซีด พี่มันเล่นอาชีพนักดาบธาตุลม เรื่องความคล่องตัวนี่เป็นที่หนึ่งของประเทศเลย
“ตินน้อยพี่เปรยมาแล้วจ้า”
จ้าโพ่งงง
ผมรีบโกยอ้าวทันที นักบวชไม่ค่อยมีสกิลต่อสู้ มีแต่สกิลรักษากับสกิลเพิ่มบัฟต่างๆสู้กับนักดาบให้ตายก็ไม่ชนะ
“เฌอ! รีบลงมาช่วยเร็ว”ผมเรียกหาเพื่อนเพราะมันอยู่ใกล้ที่สุดแถมยังมีอาชีพเป็นนักเวทซึ่งสามารถโจมตีสกัดจากระยะไกลได้
“อื้อ!”เฌอรับปากก่อนรีบหันหน้ามายิ่งเวทใส่พี่เปรย ทีแรกตัวละครนักดาบชะงักเหมือนจะหลบแต่พอคำนวณวิถีเวทที่เฌอยิงมาดีๆพี่เปรยก็เดินหน้าไล่ฆ่าผมต่อ...เพราะเวททั้งหมดนั้นวืด
“ใจเย็นๆ”พี่ปกเริ่มทำหน้าที่กัปตันทีมที่ดีเมื่อเห็นเฌอพลาดเพราะควบควมสติไม่อยู่ก็รีบปรามทุกคน
“ไอ้อัพ มึงลงมาช่วยตินส่วนเฌอให้บุกไปฆ่านักบวชของฝ่ายนั้น”
“แต่...”
“เฌอเหมาะกับบทบุกมากกว่าตั้งรับ ตอนนี้คนที่จะลงมาช่วยตินได้มีแค่มึงแล้ว...”
“เปล่าประโยชน์”ขณะที่พี่ปกกำลังแจกงานให้พี่อัพอยู่นั่นเองเสียงของบุคคลที่สามก็ดังแทรกขึ้นมา ตัวอัศวินของไอ้รัมโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ พุ่งปราดเข้าไปดักหน้าพี่อัพเอาไว้ในขณะที่เฌอเลิกโจมตีพี่เปรยและหันไปเล่นงานนักบวชของฝ่ายตรงข้ามพอดี
“เห้! ทางนี้เปิดโล่งแล้วนะ”พี่กิลล์ตะโกนบอก บอกรัมที่ผละออกมาจากปลีกซ้ายและกำลังตะลุมบอนกับพี่อัพอยู่
รัมไม่สนใจเสียงของพี่กิลล์ ไม่สนด้วยว่านักเวทของTHE RIPPERที่ถูกทิ้งให้เฝ้าปีกซ้ายเพียงลำพังจะโดนพี่ปกกับพี่กิลล์รุมตีจนตาย
“อัพ! มึงไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ถอยลงไปช่วยนักบวช!”
ถ้านักบวชตายโอกาสแพ้ก็เพิ่มจนทะลุปรอท ไม่มีคนคอยเติมเลือดก็ได้แต่รอความตาย ตัวผมเล่นอาชีพนี้มานานย่อมรู้จุดอ่อนนี้ดี หลักการพื้นฐานของการต่อสู้เป็นปาร์ตี้คือฆ่านักบวชของฝ่ายตรงข้ามให้ตาย สมัยก่อนผมก็โดนตามฆ่าแบบนี้แหละ
ประสบการณ์หนีตายอันโชกโชนทำให้ผมหนีพี่เปรยเอาตัวรอดจนมาถึงปีกซ้ายที่มีพี่ปกกับพี่กิลล์อยู่ เอาล่ะ คราวนี้กูมีพวกแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ พี่เปรยเบรกเอี๊อดหัวแทบทิ่มก่อนหันหลังกลับเผ่นไปอีกทิศ
“หึ...”ผมได้ยินเสียงไอ้รัมแค่นหัวเราะ
ทว่ายังไม่ทันได้เอะใจอะไรบนหน้าจอก็แจ้งเตือนขึ้นมาว่าเฌอเกมโอเวอร์แล้ว
“...”
ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ กวาดสายตามองภาพรวมของเกมอีกครั้งก่อนจะพบว่าพวกเราตกหลุมพรางที่ไอ้รัมขุดเข้าให้แล้ว
พี่ปกกับพี่กิลล์รุมตีนักเวททางปีกซ้ายแบบ 2 ต่อ 1
ผมกับพี่เปรยวิ่งไล่จับกันไปทั่ว
ไอ้รัมเข้ามาทำทีเป็นสกัดพี่อัพไม่ให้มาช่วยผม
พวกถูกล่อให้สนใจกับกัปตันอย่างรัมที่บุกเข้ามา และพี่เปรยที่ไล่ฆ่านักบวชอย่างผมไปทั่วสนาม
ระหว่างนั้นเองเฌอที่ถูกสั่งให้ไปเก็บนักบวชของฝ่ายตรงข้ามก็ถูกนักธนู สมาชิคเพียงคนเดียวของTHE RIPPERที่ถูกทุกคนลืมลอบโจมตีจนตาย
“ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม วางกลยุทธ์ยังกับหนังจีน”พี่ปกกล่าวเสียงขรึม
พวกเราถูกล่อให้โฟกัสอยู่ที่รัมกับพี่เปรย ไม่คิดเลยว่าจะเสียสมาชิคไปคนหนึ่งด้วยเงื้อมือของนักธนูผู้จืดจาง
“ขอโทษ...”เฌอพูดเสียงแผ่ว ใบหน้าน่ารักซีดเป็นไก่ต้ม แต่พวกเราตอนนี้ไม่มีเวลามานั่งปลอบใจกันแล้ว พอคนในสนามกลายเป็น4ต่อ5ความเสียเปรียบก็พุ่งขึ้นสูงทะลุหลอด...