บทที่59
หนทางที่ย้อนกลับไปไม่ได้อีก
หลังจากชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ที่เมษามีต่อพี่ภาริชถูกเผยแพร่ออกไปในหมู่สังคม อิงภพก็คิดอยู่แล้วว่าบางทีเมษาคนนั้นก็อาจอยากมาหาเขาเพื่อพูดจาโอ้อวดเป็นธรรมดา
เพราะการมาของเมษาในครั้งนี้ถึงได้รู้ตื้นลึกหนาบางของการท้าดวลระหว่างพี่ภาริชกับหมอนี่ ไม่คิดมาก่อนว่าหลังจากเขาผละไปด้วยความเสียใจเพราะถูกปฏิเสธรักมันจะเกิดเรื่องทำนองนี้ตามมา
“น่าเสียดายที่ทำให้ไอ้ภาริชมันระเบิดอารมณ์ใส่นรินทร์ต่อหน้าผู้คนมากมายไม่ได้ แต่คิดว่าอีกไม่นานไอ้ภาริชมันคงจะหลบหน้านรินทร์อย่างแน่นอน” เมษาหัวเราะย่ามใจ แค่คิดถึงใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของนรินทร์เขาก็อารมณ์ดีอย่างที่สุด
สงสารไหมที่นรินทร์ต้องเจอแบบนั้น มันก็นิดหน่อย แต่กับคนที่ดื้อแพ่งมันสำควรแล้วที่ต้องถูกสั่งสอน โดยเฉพาะถ้าหากเสียใจจนกลับไปมุดอยู่ในรูเหมือนเดิมได้จะดีที่สุด
แล้วหลังจากนั้นเขาจะแสดงให้นรินทร์รู้ว่าใครกันที่ดีที่สุด ใครกันที่จะยืนเคียงข้างฝ่ายนั้นเป็นคนสุดท้าย
เมษาคิดฝันอย่างเคลิบเคลิ้ม แค่นึกถึงช่วงเวลาอันรันจวนยามเมื่อนรินทร์เข้ามาอยู่ในอ้อมอกอย่างศิโรราบเขาก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
อิงภพมองปฏิกิริยาอาการนั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใคร่ครวญเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการคบหาแบบเพื่อนระหว่างเขากับหมอนี่ หรือเรื่องที่ได้รับความเอ็นดูเสมอๆ จากพี่ภาริช
อิงภพเทิดทูนบูชาพี่ภาริชมานาน ด้วยความที่อยากจะได้พี่ชายที่สมบูรณ์พร้อมอย่างนั้นมาเป็นของตัวเอง เพราะเหตุนี้จึงลงมือรังแกฟอร์ดด้วยความริษยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะเดียวยิ่งออดอ้อนพี่ภาริชและได้รับความเมตตามากเท่าไหร่ ความรู้สึกในใจมันยิ่งพอกพูนขึ้นจนพัฒนาเป็นความรัก
การที่เขาคบหากับเมษานั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แค่คิดว่าพูดคุยถูกคอกัน ต่างคนต่างมีฝีมือในการเล่นเกม นอกจากนั้นฐานะทางบ้านก็คู่ควรทัดเทียมแก่การเป็นเพื่อน สำหรับเมษาไม่มีข้อด้อยตรงไหนให้น่าตำหนิ
แต่ว่าถึงตอนนี้แล้วคิดไปคิดมา หมอนี่ดันกลายเป็นคนที่อันตรายกับคนที่เขาชอบไปเสียแล้ว ไม่แค่คิดวัดรอยเท้าทัศนคติที่เต็มด้วยการเข่นฆ่าทำลายซึ้งล้วนพุ่งเป้าไปหาพี่ภาริช มันทำให้เขารู้สึกอึดอัด
“อีกไม่กี่วันพ่อของฉันจะมอบตำแหน่งรองประธานให้ฉันในการประชุมบอร์ดบริหาร”
เมษาขยับกายเอนหลังอย่างเกียจคร้าน สีหน้าเต็มด้วยความมั่นอกมั่นใจจนล้นปรี่
“ถึงตอนนั้นภาริชมันจะได้รู้ว่าการถูกขยี้ที่แท้จริงมันเป็นยังไง”
อิงภพบีบถ้วยน้ำชาหอมกรุ่นในมือไว้แน่น เขาหลุบตาลงต่ำซ่อนประกายความไม่เห็นด้วยเอาไว้
คนอย่างนายจะทำได้หรือ นายคิดว่าไก่อ่อนที่ไม่เคยเผชิญโลกกว้างจะสามารถโค่นล้มพี่ภาริชคนนั้นได้ง่ายๆ งั้นหรือ อย่ามาล้อเล่นน่า แค่ชนะเพียงครั้งเดียวในการแข่งเกมแบบเด็กๆ มันไม่เหมือนการต่อสู้ฟาดฟันในโลกธุรกิจหรอกนะ
อิงภพอยากจะให้เมษาหยุดพ่นคำพูดหยามเหยียดพล่อยๆ นี่ซักที
จังหวะนั้นพ่อบ้านก็เคาะประตูห้องแล้วเดินเข้ามารายงานเรื่องบางอย่างให้ทราบ
“คุณชายเพื่อนของคุณชายที่ชื่อต้นกล้ามาหาครับ”
“ไอ้ต้นกล้ามันยังกล้ามาอีกหรือ” สีหน้าของเมษาเต็มด้วยความดูถูก เขานึกว่ามันหนีกลับบ้านนอกไปอยู่บ้านตายายแล้วเสียอีก
“นายรอที่นี่แล้วกัน” อิงภพลุกจากโซฟา แปลกใจนิดหน่อยที่ต้นกล้าซึ่งไม่ถูกกับเขาแม้แต่น้อยแวะเวียนมาหา ทว่าการกระทำสีหน้าคำพูดคำจาของเมษากวนความคิดบางอย่างของเขา
ก่อนหน้านั้นก็ไล่กันไปเพราะต้นกล้ามันทำให้เล่นเกมแพ้ แต่ก็ไม่น่าจะโกรธเกลียดกันถึงขั้นนี้ เขาเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับสองคนนี้มากนัก เพราะที่ทำด้วยกันหลักๆ ก็คือชวนกันเล่นเกมแล้วก็สังสรรค์ตามประสาคนมีเงินเป็นครั้งคราว
“ฉันจะไปด้วย” เมษาผุดลุกจากโซฟาเดินตามหลังอิงภพไปติดๆ
หลังจากถูกด่าและไล่จนยับเยินต้นกล้าซมซานกลับมาบ้านที่เขาต้องอยู่เพียงลำพังทั้งน้ำตา ทุกอย่างมันพังทลายไปจนหมด สิ่งเดียวที่เขาใช้มันยึดเหนี่ยวกลายเป็นความจอมปลอมอันโหดร้ายโสมม
ต้นกล้าทั้งหัวเราะและร้องไห้เพียงลำพัง รู้สึกสมเพชและชิงชังตัวเองเสียเหลือเกิน ยิ่งคิดถึงเรื่องต่ำช้าทุกอย่างที่ทำลงไปเพียงเพราะต้องการเป็นที่หนึ่งของเมษา หรือแม้กระทั่งขับไล่คนที่เข้ามาหาด้วยความรักความเมตตาด้วยการเหยียดหยามรังแกทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ควรได้รับเนื่องจากความบิดเบี้ยวทางจิตใจของตัวเอง
ต้นกล้าอยากตายไปให้พ้นๆ แต่เขากลัวความโดดเดี่ยวหลังความตาย เขาอาจต้องไปอยู่ในที่มืดมิด เพียงลำพัง และหลังจากเขาตายไปคงไม่มีใครร้องไห้ให้เขานอกจากตากับยายเท่านั้น
เขาไม่กล้าวิ่งไปหาครอบครัวที่เหลืออยู่เล่าความจริงอันเลวทรามที่เขากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากความจริงเรื่องที่เขาไปรังแกนรินทร์อีกครั้งเปิดเผยไป ซึ่งมันก็คงอีกไม่นาน ตายายที่เคยรักใคร่เอ็นดูจะมองเขาด้วยสายตาเช่นไร
ต้นกล้ายังจำแววตาแสนเศร้าเมื่อครั้งที่เขาต้องพักการเรียนเพราะรังแกนรินทร์จนต้องซ้ำชั้นได้ ทำไมนะ ทำไมเขาถึงได้ลืมแววตาคู่นั้นของตากับยายไปได้ ความผิดพลาดของเขาในครั้งนี้ทั้งคู่คงไม่มองเขาด้วยความรักใคร่เอ็นดูอีกต่อไปแล้ว
ต้นกล้าจมอยู่กับภาพหลอนของตากับยายที่มองด้วยสายตาเย็นชาจนแทบบ้า วินาทีที่เจ็บปวดจนถึงที่สุดภาพอันแสนโหดร้ายก็ถูกแทนที่ด้วยเงาร่างของพี่สายหมอกซึ่งเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เขาอยากได้ใครซักคนมาอยู่เคียงข้างในเวลานี้ ไม่อยากอยู่คนเดียวในค่ำคืนอันเลวร้ายแบบนี้ ต้นกล้าคิดถึงได้เพียงแต่สายหมอก ดังนั้นจึงทั้งส่งข้อความและรัวสายโทรหาคนคนนั้นไปตลอดทั้งคืน โดยที่ไม่รู้ซักนิดว่ามือถือของสายหมอกพังไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ยิ่งติดต่อไม่ได้และไม่มีการส่งข้อความกลับมา มันยิ่งทำให้ต้นกล้ากลัว คนคนนั้นบอกรักเขา บอกว่าต่อให้เขาเป็นคนเลวร้ายแบบไหนก็ยังชอบอยู่ดี แต่ถ้าคิดดูให้ดีแล้วเขาทำเรื่องชั่วช้าถึงขนาดนั้น พี่สายหมอกอาจจะคิดว่าเขาเป็นเศษสวะที่ไม่คู่ควรอีกต่อไปแล้วก็ได้
ต้นกล้าผ่านค่ำคืนอันแสนทรมานโดยไม่ได้นอนแม้แต่นาทีเดียว ความคิดที่ว่าไม่อยากสูญเสียคนคนนั้นไปมันทำให้มีความกล้าที่จะไล่ตามไขว่คว้าอย่างบ้าคลั่ง เขารีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวเสียใหม่
เด็กน้อยไม่รู้ว่าจะหาที่อยู่ของพี่สายหมอกได้จากไหน เขาไม่เคยสนใจเรื่องเกี่ยวกับคนคนนั้นเลย ไม่เคยถามไถ่เรื่องส่วนตัวหรือพูดเปิดอกแม้จะอยู่ใกล้ชิดกันมากแค่ไหนก็ตาม เขาเอาแต่เมินเฉยทั้งยังผลักไสเพียงเพราะว่ายึดติดในตัวเมษาอย่างคนโง่งม
ต้นกล้ารู้ว่ามีคนสองคนที่น่าจะรู้ที่อยู่ของพี่สายหมอก คนหนึ่งคือเมษา อีกคนคืออิงภพ เขาเลือกที่จะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากอิงภพ
“มึงยังกล้าโผล่หน้ามาอีกนะต้นกล้า” เมษาบิดริมฝีปากด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นต้นกล้ามาป้วนเปี้ยนรอบตัวเขา
คนถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามหลบตาวูบหนึ่งก่อนจะรวบรวมความกล้าขจัดความกลัวออกไป
“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพราะนาย ฉันมาขอที่อยู่ของพี่สายหมอกจากอิงภพ”
ต้นกล้าพยายามทำตัวให้เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าแข็งขาจะสั่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเมษาก็ตาม เขารู้ว่าพี่ชายต่างมารดาคนนี้จะต้องเหยียดหยามเขาอย่างสนุกสนาน
“โถๆ ๆ ๆ มึงนี่เจตนาแรงกล้าจริงนะ” เมษาใช้มือเชยคางต้นกล้าให้เงยหน้าสบตาตัวเอง
“ร่านไปหน่อยไหมพอผิดหวังจากกูก็รีบสะบัดก้นขาวๆ ไปหาพี่สายหมอกเลยหรือ”
รู้ว่าที่เมษาพูดมานั้นถูกทั้งหมด แต่แม้จะต่ำตมเหมือนสวะด้วยการกระทำชั่วช้าหลายสิ่ง กระนั้นคนชั้นต่ำก็มีศักดิ์ศรีเหลือพอ ต้นกล้าสะบัดหน้าออกจากนิ้วที่เกาะเกี่ยวปลายคางเขาขบฟันเข้าหากันดังกรอด
ขอแค่ให้ได้พบกับพี่สายหมอกเท่านั้น แค่อยากเห็นหน้า อยากพูดในสิ่งที่อยากพูด แม้ว่าหลังจากนั้นจะถูกทอดทิ้งไปก็ตาม เขาก็แค่อยากลองไขว่คว้าเป็นครั้งสุดท้าย
“มึงมันโง่นะต้นกล้าหลังจากที่มึงขังนรินทร์เอาไว้ในห้องน้ำแบบนั้น คนที่กำลังจะถูกตำรวจจับอย่างมึง คิดว่าพี่สายหมอกเขายังรักมึงลงอีกหรือ มึงนี่มันมีสมองบ้างไหม”
ต้นกล้ายืนเกร็งตัวจนร่างแข็งทื่อ เมื่อข้อเท็จจริงที่เมษาพูดมานั้นถูกทั้งหมด เขาไม่อยากร้องไห้แต่น้ำตามันก็หลั่งออกมาจนได้
“เดี๋ยวที่พวกนายพูดนี่หมายถึงอะไร” อิงภพที่ยืนฟังอยู่นานถามด้วยความสงสัย ขังนรินทร์ในห้องน้ำ หมายถึงmaddog01คนนั้นนะหรือ
“ก็ไอ้หมอนี่มันมาป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัว ทำที่มาขอร้องว่าอยากทำประโยชน์ ฉันก็เลยเปิดโอกาสให้มันลองทำดู ใครจะไปคิดละว่าแค่ไปขังนรินทร์ไว้ในห้องน้ำจนมาแข่งไม่ทัน มันยังพลาดให้กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้”
เมษามัวแต่กดสายตาต่ำมองดูต้นกล้าที่ยืนหลั่งน้ำตาเงียบๆ ด้วยสายตาหมิ่นแคลนจึงไม่ได้สังเกตสีหน้าโกรธเกรี้ยวของอิงภพแม้แต่น้อย
สำหรับอิงภพเขาไม่ได้สนใจความเป็นความตายของmaddog01นักหรอก แต่แค่คิดว่าไอ้หมอนี่มันกล้าใช้ลูกเล่นสกปรกคดโกงผลการแข่งกับพี่ภาริชทุกวิถีทาง เพื่อให้คนที่เขาเทิดทูนคุกเข่าขอขมาอย่างเสียศักดิ์ศรีเขาก็รู้สึกชิงชังเสียจนอยากชกหน้าซักหมัด
อิงภพนึกถึงนาทีที่พี่ภาริชคุกเข่าซ้ำไปมา สลับกับคำพูดและสีหน้ายะโสโอหังของเมษา ภายในใจเดือดพล่านด้วยความหงุดหงิดอย่างที่สุด เป็นแค่ไอ้ขี้โกงชั้นต่ำแท้ๆ ยังกล้าโอ้อวดชัยชนะอีกหรือ ถ้าไม่เพราะพี่สายหมอกกับเฉินเล่อคนอย่างแกสามารถคว้าชัยมาครองได้หรือ ช่างไม่รู้จักประมาณตนเอาเสียเลย
ไม่เพียงแค่นั้นกับเจ้าต้นกล้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกชอบใจอะไรนัก เผลอๆ เกลียดนิสัยด้วยซ้ำไป แต่ถ้าคิดดูให้ดี ถึงเจ้านี่มันจะโง่ทุ่มเทให้คนอย่างเมษาเอง ทว่าการได้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนในวงการเกมคนนี้ มันก็เกิดความรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
นอกเหนือไปจากนั้นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกสงสารต้นกล้า แม้จะออกไปทางสมเพชเวทนาในความโง่เง่าก็ตามที อิงภพมองดูเมษาดูหมิ่นอีกฝ่ายด้วยคำพูดโสมมต่างๆ นานาเป็นร้อยพันคำ พอด่าจนสะใจเจ้าตัวก็บอกเหม็นหน้าจนทนไม่ไหวขอตัวไปรอที่ห้องรับแขกเหมือนเดิม
คนถูกด่ายืนนิ่งด้วยสายตาอันว่างเปล่าเหมือนตุ๊กตาไร้วิญญาณ อิงภพรู้ว่าความสงสารเวทนาของตัวเองคงไม่ได้ทำให้ต้นกล้ารู้สึกดีขึ้น แต่สิ่งที่หมอนี่ต้องการเขาจะยื่นมันให้เพราะอย่างน้อยก็เคยเที่ยวเล่นด้วยกันมา
“คอนโดxxxที่ถนนYYYห้องหมายเลข303ชั้น3พี่สายหมอกอยู่ที่นั่น นายอยากไปหาเขาก็รีบเถอะ ฉันได้ยินจากเมษามาว่าพี่เขากำลังจะไปฝึกงานที่เมืองนอกในช่วงปีสุดท้าย ไม่รู้ว่าต้องไปกี่เดือนกันแน่”
ตอนนี้แววตาที่ว่างเปล่าของต้นกล้าก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง “ขอบคุณนะ”
อีกฝ่ายพึมพำไม่ได้ศัพท์ แต่อิงภพสามารถรับรู้ความคิดจากแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณ เขาแค่พยักหน้าแล้วหมุนตัวกลับไปยังห้องรับแขกที่เมษารออยู่ แค่นึกว่าจะต้องทนอึดอัดกับตัวน่ารังเกียจอีกพักใหญ่สีหน้าของอิงภพก็บิดเบี้ยวจนไม่น่าดู
สายหมอกเปิดกล่องมือถือที่สั่งให้ลูกน้องไปซื้อมาให้ใหม่แล้วบรรจุซิมลงไปอย่างเนิบนาบ พรุ่งนี้เขาจะออกบินไปประเทศ F เพื่อไปฝึกงานในปีสุดท้าย ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที เขาสั่งให้ลูกน้องชุดดำไปลักพาตัวต้นกล้ามาให้
เขาตัดสินใจนำต้นกล้าไปที่ประเทศ Fด้วย เขาจะพาเด็กคนนั้นไปซ่อนเอาไว้และคงไม่พากลับมาที่ประเทศนี้อีกแล้ว จังหวะนั้นทันทีที่สายหมอกกดปุ่มให้มือถือทำงาน ข้อความเตือนหลายต่อหลายอันก็ถูกส่งมา ทั้งข้อความอันน่าสงสารทั้งการแจ้งเตือนสายที่เขาไม่ได้รับเป็นจำนวนมหาศาล
สิ่งนี้มันทำให้เขาตกใจเล็กน้อย เขาคาดไม่ถึงว่าต้นกล้าที่ดื้อแพ่งคนนั้นจะต้องการเขามากมายถึงเพียงนี้ ขณะที่กำลังจะไล่ดูข้อความที่รัวส่งมา เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังรัวๆ เป็นจังหวะที่ค่อนข้างบ้าคลั่งทีเดียว
สายหมอกเดินไปเปิดประตูอย่างเชื่องช้าและพบว่าคนตรงหน้าคือต้นกล้า เด็กคนนี้ยืนตระหง่านด้วยท่าทางสับสนวุ่นวาย ดวงตาล่อกแล่กไม่อยู่กับเนื้อตัว มือไม้เดี๋ยวกำเข้าหากันเดี๋ยวบิดไปมาส่อชัดว่าสภาพจิตใจไม่ได้ปกติเลยซักนิด
“ทำไมถึงมาหาพี่แต่เช้าละครับ”
“พ...พี่สายหมอกกำลังจะไปไหนครับ”
ที่ต้นกล้าถามอย่างนี้เพราะเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตั้งอยู่ในห้องเบื้องหลังสายหมอก เขารู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายต้องไปเมืองนอกจากอิงภพแต่ก็ยังเลือกถามแบบนี้ เพราะคิดไม่ออกว่าควรทำอะไรเป็นสิ่งแรก
“พี่กำลังจะออกเดินทางไปฝึกงานปีสุดท้ายที่ประเทศ F หลังจากฝึกงานเสร็จอาจจะกลับมาที่ประเทศTรอทำเรื่องจบซักพักจากนั้นจะไปทำงานที่ประเทศFถาวรและคงไม่กลับมาอีก”
สายหมอกบอกสิ่งที่จะทำตามตรง นี่เป็นเรื่องแน่นอนที่เขาต้องไปฝึกงานในบริษัทของพี่ภาริชที่ประเทศ Fก่อนจะเตรียมตัวขึ้นเป็นผู้บริหารของสาขานั้น เขาจะไม่กลับมาที่ประเทศTอีกแล้ว และจะไม่ไปเพียงลำพังเขาจะพาต้นกล้าไปอยู่กับเขาที่นั่นด้วย เขาจะซ่อนเด็กคนนี้ไว้ไม่ให้ใครพบเจออีก
แต่การที่ต้นกล้ามาหาเขาที่นี่ บางทีแผนการน่ารักๆ อันนี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างตามสถานการณ์ สายหมอกกำลังคาดหวังสิ่งที่เขาควรได้รับและต้องได้รับจากต้นกล้า
นายจะเป็นคนตัดสินชะตากรรมครั้งนี้ของนายด้วยตัวเอง พี่จะให้นายเลือก
“ผมรู้ว่า ผมไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไร” ต้นกล้าใช้มือทั้งสองข้างกุมอกตัวเองอย่างรวดร้าว เขาเจ็บปวดที่ใจเหลือเกิน ทั้งที่ตอนแรกคิดว่าต้องการเพียงแค่ที่พึ่ง
ทว่าวินาทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปไกลโดยไม่หวนกลับมาอีก มันก็ทรมานใจจนยากที่จะอธิบาย มุกน้ำตาร่วงหล่นลงมาราวห่าฝน เขารู้ว่าทำตัวน่าสมเพชแต่ไม่สามารถหยุดมันได้
“อย่าทิ้งผมไป ได้โปรดอยู่ข้างๆ ผม” ต้นกล้าคู้ตัวและก้มหน้าลงต่ำร่ำไห้อ้อนวอนเหมือนสัตว์ที่บาดเจ็บ ดังนั้นจึงไม่เห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่เป็นดั่งปีศาจร้ายของสายหมอก
ความพยายามที่เขาทุ่มเทลงไปมันคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับมา สายหมอกคลี่ยิ้มอ่อนโยนเขาเชยคางคนรักที่เปราะบางเหมือนแก้วร้าวๆ ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา
“ถ้าต้นกล้าต้องการพี่ ก็ได้โปรดจูบพี่ซักครั้งเถอะ แค่จูบเท่านั้นที่พี่อยากได้จากนายในตอนนี้”
แค่จูบเท่านั้นที่อีกฝ่ายต้องการแลกกับต้องมาจมปลักดูแลเอาใจใส่เขาไปทั้งชีวิต ต้นกล้าไม่นึกฝันว่าจะมีอะไรที่คุ้มค่ามหาศาลไปมากกว่านี้
เด็กหนุ่มเขย่งปลายเท่าเสนอจุมพิตให้กับคนตรงหน้าด้วยร่างกายอันสั่นเทา เป็นแค่จูบแผ่วๆ ที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งกับตัวต้นกล้าและสายหมอก
พี่สายหมอกคนนั้นส่งยิ้มอ่อนโยนอย่างที่สุดมาให้
เจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปในรังอันอบอุ่นแสนหวาน ประตูสีขาวอันวิจิตรถูกปิดลง ภายในห้องที่ไม่ต่างจากกับดักชิ้นหนึ่ง ต้นกล้าได้ก้าวไปสู่หนทางที่ย้อนกลับมาไม่ได้อีกต่อไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โฮ่เย้ ใกล้เวลาของการจากลาระหว่างเรากะนักอ่าน เรื่องนี้ก็ใกล้จบแล้วนะจ๊ะ
ถ้าเกิดมันจบลงเราจะขอกบดานเขียนตอนพิเศษยาวๆและเปิดพรี
แม่มเอ๊ยเรื่องท้าชะตาเปลี่ยนรักเพิ่งเขียนตอนพิเศษจบไปลากยาวมาก
คาดว่าคงได้พรีกันปลายๆปี ส่วนเรื่องนี้ปกแรกยังไม่เสรจเลยTT
นักวาดเลื่อนงานไปเรื่อย ค่อนข้างจะนอยแล้วเนี่ยTT
คราวหน้าจะจ้างวาดแม่มตั้งแต่กลางๆเรื่องTT
โอเค มาที่เรื่องของต้นกล้า ตอนที่เราวางพลอตเรื่องนี้ เราคิดว่า
หากมีตัวรองที่มีลักษณะร้ายกาจเดินเรื่องขนานไปกับตัวเอกคงจะดีนะ
ถ้าเกิดว่าตัวรองนางร้ายเพราะต้องร้ายและนางจะมีเส้นเรื่องของนางขนานไปกับตัวเอกคงจะสนุกมาก
ในความคิดเรา ต้นกล้ากำเนิดมาจากแนวคิดที่ว่าคนร้ายยังไงมันจะต้องมีเหตุผลในการกระทำ
และต่อให้นางเปนคนร้ายถ้าไม่ร้านถึงที่สุดจนกลับตัวไม่ได้ก็สมควรมีโอกาสดีดี
เราไม่ค่อยชอบจุดจบแบบนางร้ายถูกข่มขืนเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เขียนก็เขียนได้นะ
ไม่ลังเลด้วย5555 ไม่ได้มีศีลธรรมขนาดนั้นหรอก
อ้อเราอ่านบทความทางจิตวิทยาที่ว่าคนที่เคยถูกรังแกมาสามารถกลายเปนคนที่รังแกคนอื่นได้เช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้รายละเอียดเยอะไปหากันเองนะคะ
ส่วนนรินทร์เนื่องด้วยบรรดาน้องชายเพื่อนเราหลายคนเป็นทั้งนีททั้งฮิคิโคโมริเยอะมาก
อืมและน้องๆ พวกนี้ก้อเป็นโอตาคุกันส่วนใหญ่ด้วย เราคิดว่าถ้ามีพระเอกซักคนสามารถทำให้เด็กทั้งสองกลุ่มนี้
ไม่ว่าจะเป็นฮิคกี้อย่างนรินทร์หรือ เด็กที่รังแกคนอื่นและนิสัยเสียอย่างต้นกล้า มีความสุขหรือเดินไปในทิศทางที่ดีได้
มันจะเป็นความฟินของเรา เขียนไปก้อฟินไปค่ะ เราจดจำเสมอว่าการรรังแกคนอื่นมีแรงผลักดันมาจากหลายอย่าง
บางครั้งคนรังแกอาจเลวโดยสันดาน แต่กับเด็กบางคนมันมีอะไรหลายอย่างที่เป็นแรงผลักดันซับซ้อน
โอเค ขี้เกียจพร่ำเพ้อละ
แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจด้วยนะคะ