รักนาย ❤❤ มายรูมเมท...ตอนที่สามสิบแปด
“เขม...อาจารย์อนุชาฝากมาบอกนายว่าให้ไปแก้งานด้วย เส้นตายพรุ่งนี้นะ”
เพื่อนร่วมเซค ชื่อ"ไอ้เอก"มันเรียก แต่ผมไม่แม้แต่จะหันไปมอง
“น้องเขม...อย่าลืมลงชื่อจองคิวล้างแอร์ที่ห้องนะจ๊ะ”
พี่แตงคนดูแลหอพักเป็นรายที่สอง ผมแค่พยักหน้าเป็นการรับทราบ
สวัสดิการหอพักของที่นี่มีบริการล้างแอร์ให้ฟรีปีละครั้ง
“เฮ๊ย...เขม...ศุกร์นี้เตะบอลกันนะมึง อย่าเบี้ยวล่ะ หายหัวไปเลยนะมึง”
ไอ้นัทมันเพื่อนต่างเซคแต่เตะบอลกันบ่อยๆ
“พี่เขมครับ ฝากบอกพี่ฉัตรด้วยนะครับว่าหนังสือที่บอกจะเอามาให้ผม ผมยังไม่ได้เลยอ่ะครับ”
ไอ้นี่มันน้องรหัสไอ้ฉัตร ออกแต๋วๆหน่อย แล้วมึงไม่โทรคุยกันวะ
อ๊ากกกกก จะมาเนื้อหอมเวลโนนอะไรกันตอนนี้วะกู
กว่าผมจะลงมาถึงหน้าหอก็พอดีเจอวินเดินกลับเข้าประตูหอมา
“วิน...วินครับ....”
ผมแตะที่ไหล่วินเบาๆ หน้าตาที่รักบูดบึ้งประมาณโดนใครเหยียบหางมา
แบบนี้ใครก็รู้ว่ากำลังอารมณ์บ่จอย
“ปล่อย...”
วินหยุดชะงักเพียงนิด
ในเมื่อที่รักสั่งให้ผมปล่อย ผมก็ปล่อยตามบัญชา
ไม่ได้กลัวไม่ได้เกรงอะไรทั้งนั้น แค่เชื่อฟังครับผม
“แกร๊กๆๆๆๆ”
“โธ่โว๊ย....ตึงๆๆๆ”
วินบิดลูกบิดประตูไปมาแรงๆอย่างหงุดหงิดเมื่อมันติดล๊อคเปิดไม่ออก
แถมยังสบถออกมาไม่ดังนัก แต่ที่ดังน่ะ...เท้าน้อยๆข้างหนึ่งถีบประตูไปหลายที
เป็นการบอกให้รู้ว่ากูกำลังเดือดถึงขีดสุด
“ใจเย็นๆสิครับ มาๆ เดี๋ยวเขมเปิดให้”
ผมยิ้มประจบทั้งๆที่วินไม่ยอมมองหน้าผม เสียงผมมันเป็นปกติ
แต่ในใจผมนี่สิ มันเริ่มตุ้มๆต่อมๆขึ้นมาแล้ว
ท่าทางที่รักของผมจะมีอะไรๆมากว่าที่เคยเห็น(มั๊ง)
“แกร๊ก”
“เชิญครับ...เชิญเลย”
ผมรีบลนลานไขประตูและเปิดออกให้กว้างมากที่สุด พร้อมกับเชื้อเชิญวินเข้าห้อง
วินนอกจากจะไม่กล่าวขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของผมแล้ว ยังไม่มองหน้าผม
วินทำแค่....สะบัดหน้าแล้วเดินเชิดเข้าห้องไป
“ปัง”
“วะ...วิน...”
ไม่ทันครับ เรียกที่รักเอาไว้ไม่ทัน
ประตูรถปิดเสียงดังสนั่นจากมือเรียวบาง
พร้อมกับเจ้าของหัวใจของผม ที่ก้าวขาเรียวเดินเร็วๆจากไปโดยไม่เหลียวหลัง
ผมรีบเปิดประตูแล้วกำลังจะก้าวออกจากรถ เสียงเรียกเข้าของมือถือก็ดังขึ้น
“อยู่ไหนวะเขม มึงรีบมาเร็วๆนะ จารย์จะเข้าแล้ว มาสายไม่ทันเช็คชื่อ มึงโดนปรับตกแน่”
ไอ้โอมมันโทรมาตาม คาบนี้ผมโดดไม่ได้ และถ้าสายก็ตายแน่ๆ
เพราะมันเกินโควต้าที่อาจารย์ลิมิตเอาไว้แล้ว
“เรื่องวินเอาไว้ค่อยเคลียร์ตอนเย็นแล้วกัน”
ผมคิดได้แค่นั้นแล้วก็รีบขับรถบึ่งไปคณะทันที
“กูฝากดูที่รักของกูด้วยนะมึง วันนี้ดูอารมณ์เสียสงสัย....วันนั้นของเดือนว่ะ”
ผมรีบไลน์ไปบอกไอ้ปาล์มตอนที่อาจารย์หันหลังให้
“เออ...จะดูแลทั้งใกล้ทั้งชิด...ตัวติดกันเลยว่ะ”
ไอ้ปาล์มไลน์กลับมาทันที ไอ้เลว มันคอยจ้องจะงาบที่รักกูรึไงวะ
ไม่น่าไว้ใจสักนิด แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกได้แต่ภาวนาให้คาบเรียนนี้มันจบเร็วๆ
ผมจึงทำได้แค่ส่งสติ๊กเกอร์มั่วๆไปตัวหนึ่งแล้วหันกลับมาตั้งใจเรียน
“มีปัญหานิดหน่อย ขอบายว่ะ พวกมึงไปเหอะ”
พวกผมตั้งใจจะไปหาอะไรกินที่ห้าง แล้วเดินดูรองเท้าเตะบอลกันสักคู่
ส่วนใครจะพ่วงแฟนพ่วงกิ๊กไปก็แล้วแต่ใจ ทั้งแฟนทั้งกิ๊กของพวกเราต้องเข้ากันได้นะครับ
เลิฟมีเลิฟมายด๊อก ใครทำงี่เง่าขึ้นมาก็เลิก เพื่อนมาก่อนเสมอ
แต่ยกเวันที่รักของผมนะครับ พวกมันรู้ดี
“เฮ๊ย...มีไรให้ช่วยบอกนะมึง”
ฉัตรตบไหล่ผมแรงๆ มันออกหน้าเสมอในยามคับขัน
เหมือนตอนที่มันกระทืบไอ้หมอกไงครับ
แต่งานนี้กูไม่ต้องการตัวช่วยว่ะ มันเป็นเรื่อง...ละเอียดอ่อน
“เออๆ กูจัดการเองได้ สบายมาก”
ผมปากหนักพูดไปว่าจิ๊บๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมไม่มั่นใจว่าตัวเองจะรับมือกับวินได้แค่ไหน
ครั้งนี้ดูวินจะโกรธผมมาก ไม่รู้ว่าหลินมันใส่ไฟอะไรผมเอาไว้
ไม่น่าเลย....
ผมไม่น่าเปิดโอกาสให้หลินได้คุยกับวินตามลำพัง
หลินร้ายลึกกว่านังน้องรหัสนั่นมากมาย ไหนจะน้ำตาที่สั่งได้ไม่มีวันหมดอีก
ผมทึ้งหัวตัวเองแรงๆ
ไอ้ผมบนหัวที่มันหยิกอยู่แล้วกูยังเจ็บไม่พออีกเหรอวะ(แป๊ก)
ผมมารอหน้าห้องเลคเชอร์ของวินอย่างกระวนกระวายใจ
“ที่รัก....ที่รักโกรธอะไรเขมอ่ะ ที่รักไม่พูดไม่บอกเขมไม่รู้นะครับ”
“หลินพูดอะไรที่รักอย่าไปเชื่อนะครับ เธอไม่ได้หวังดีกับเรา ตอแหลชัดๆ”
“เขมผิดไปแล้วครับ แต่มันเป็นอดีตนะครับ เขมย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ที่รักก็รู้”
“ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เหมือนเพลงพี่ปั๊บไงครับ กี่พรุ่งนี้...เขมก็จะมีแต่ที่รักคนเดียว”
ผมคิดหาคำอธิบาย ซ้อมพูดประโยคที่เลือกสรรแล้วว่าฟังดูจริงจังที่สุด
จวบจนนักศึกษาต่างทยอยกันออกมาจากห้องเรียน
ผมชะเง้อชะแง้อย่างไม่แคร์สายตาใคร มีหลายคนที่รู้จักเอ่ยทักผม
หวังจะเห็นหน้าหวานๆที่คงจะบึ้งอยู่หน่อยๆเดินออกมา
“เฮ๊ย....ทำไมไม่มีวะ”
ผมถลาเข้าไปจับประตูที่กำลังจะปิดลง
“คุณ...ไม่เหลือใครแล้วล่ะ ออกมาเถอะผมจะปิดห้อง”
ภารโรงวัยกลางคนแกรอปิดห้องอยู่
ผมไม่สนใจแก รีบวิ่งเข้าไปในห้องแล้วเดินหา
เดินไปทั่วทุกแถวที่นั่ง ทั้งๆที่เห็นแล้วว่าทั้งห้องมันว่างเปล่า
บางทีที่รักอาจจะเพลียแล้วกลับหอไปก่อนแล้ว
ผมรีบกลับไปที่รถแล้วขับออกไปจากหน้าคณะนิเทศตรงดิ่งกลับไปที่หอ
“แกร๊กๆ”
ห้องล็อค ที่รักอาจจะหลับอยู่ข้างใน
ผมค่อยๆไขกุญแจอย่างเบามือ เปิดปิดประตู ทุกก้าวย่างเบาสุดชีวิต
“ไม่...ไม่มี...”
ผมทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง
เอ๊ะ...ทำไมห้องดูโล่งๆ แล้วนั่น....กล่องอะไรวะ”
งานเข้ากูแล้ว ผมรีบวิ่งไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักโต๊ะ เข้าไปดูในห้องน้ำ
และสุดท้ายมาจบด้วยการเปิดดูของในกล่องใบใหญ่สองสามใบที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี
ผมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องอย่างหมดแรงและสิ้นหวัง
งานนี้ท่าทางจะใหญ่หลวงและยาวไกล น่าเจ็บใจนังหลินนัก
วินขนเสื้อผ้าข้าวของออกไปจากห้องจนหมด
ส่วนในกล่องนั่น มันก็เป็นข้าวของชิ้นใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ใช้
ผมค่อยๆหยิบของๆวินที่อยู่ในกล่องขึ้นมาทีละชิ้นอย่างทะนุถนอม
น้ำตาของผมมันไหลออกมาไม่หยุด มือผมสั่นระริกแต่มันยังน้อยกว่าจังหวะหัวใจของผม
เหนื่อยเหลือเกิน หนักเหลือเกิน วินทิ้งผมไปเหมือนพ่อกับแม่ที่ทิ้งผม
ผมเอาของๆวิน...วางกลับคืนไปไว้ที่เดิมของมัน แม้กระทั่ง กุ๊กกู กรอบรูป
ของทุกชิ้นในกล่องกลับไปวางอยู่ที่เดิมของมัน
ผมกดมือถือโทรออกหาวินนับร้อยสาย ทั้งฝากข้อความ ฝากเสียงอ้อนวอน
แต่วินก็ไม่รับสายไม่เปิดอ่าน ก็ยังดีที่วินไม่ได้ปิดเครื่อง
อย่างน้อยวินก็คงได้รับรู้ความพยายามของผม
“ไอ้ปาล์ม...ใช่แล้ว ทำไมกูโง่แบบนี้วะ”
ผมรีบโทรออก ปลายสายมันปล่อยให้ผมรอนานจนสายหลุด
สักครั้งที่แปดที่เก้ามันก็รับสาย
“ปาล์ม....พวกมึงอยู่ที่ไหน แล้ววินล่ะ อยู่กับมึงรึเปล่า”
“เขม...มึง....เฮ๊ย...ตี๊ดดดดดดดดด”
ปาล์มมันแค่เรียกชื่อผมแล้วเสียงร้องตกใจของมันก็ดังขึ้นพร้อมกับสายที่ตัดไป
ผมรีบโทรไปอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกหลายๆๆๆครั้ง
มันปิดเครื่องหนีผมไปแล้ว
หมดแรง....ผมจะไปตามหาวินที่ไหนล่ะครับ
วินอยู่ที่ไหนกับใคร ไอ้ปาล์มมันรู้หรือเปล่า
แล้วเพื่อนวินคนอื่นๆ ผมไม่รู้จักเลยสักคน
ผมนี่มันแย่จริงๆไม่ได้ใส่ใจคนของผม ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย
ผมนั่งอยู่ที่พื้นหลังพิงกับขาเตียงนอน นั่งอยู่นานเท่าไหร่ผมก็ไม่รู้
รู้ตัวอีกทีทั้งห้องมันมืดไปหมดแล้ว
“เขมๆ...ปังๆ....มึงอยู่ป่าววะ”
เสียงทุบประตูแบบนี้ไม่มีใครนอกจากพวกเพื่อนผม
“มันไม่อยู่เหรอวะ โทรไปก็ไม่รับสาย”
นี่มือถือผมมันดังมีสายเข้าตอนไหนทำไมผมไม่ได้ยินเลย
ผมก้มลงดูหน้าจอ มีสายไม่ได้รับเกือบยี่สิบสายจากเพื่อนๆ แต่ไม่มีสายของคนที่ผมรอ
“แกร๊ก...เฮ๊ย..ไม่ได้ล็อคว่ะ”
เสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าของคนหลายคนเดินเข้ามาในห้อง
“แชะ”
“เขม....ไอ้เขม....”
“มึงเป็นไรวะ ทำไมอยู่มืดๆไม่เปิดไฟ”
ผมปล่อยให้พวกมันถามและถกกันเองจนพอใจ
“แล้ววินไปไหนวะ”
ผมหันขวับไปมองรุจน์ ใช่สิ ไอ้ปาล์มมันจีบไอ้รุจน์อยู่
“รุจน์...มึง...มึงต้องช่วยกู”
“ไหวนะมึง...ให้พวกกูเข้าไปด้วยมั๊ย”
โซลมันดึงไหล่ผมไว้ก่อนที่ผมกำลังจะกดลิฟท์
ผมไม่ตอบแต่หันไปพยักหน้าให้มัน
“คุณคะ ไม่ได้พักที่นี่ขึ้นไปไม่ได้นะคะ มาหาใครคะ”
ประชาสัมพันธ์นุ่งสั้นรีบเดินเข้ามาขวาง
“ตึ้ง”
ประตูลิฟท์ของคอนโดไอ้ปาล์มเปิดออก
“มึงขึ้นไปเลย”
ไอ้ฉัตรผลักผมเข้าไปในลิฟท์
เสียงโวยวายของประชาสัมพันธ์แว่วมาให้ได้ยินก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิด
“ปังๆๆๆๆ เปิดเดี๋ยวนี้นะ...วิน...วินอยู่ข้างในใช่มั๊ย”
“ปังๆๆๆ ไอ้ปาล์มเปิดสิวะ”
“ปังๆๆๆๆ วิน...เขมมารับแล้ว กลับห้องเราเถอะนะ”
“ดูอะไรวะ...”
ผมหันไปตวาดข้างห้องที่เปิดออกมาดู
“ปัง”
ไอ้คนข้างห้องที่ผมคุ้นๆหน้ามันรีบหดหัวกลับเข้าห้องไป
“ปังๆๆๆๆ...วิน...วิน....”
ผมทุบประตูห้องจนฝ่ามือผมมันทั้งเจ็บทั้งชาและแดงไปหมด
แต่ไม่มีเสียงอะไรจากภายในห้องเล็ดรอดออกมาให้ได้ยินเลย
ผมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น....หลังพิงประตู
ไอเย็นจากแอร์และแสงไฟที่รอดออกมาใต้ประตู
ทำให้ผมรู้ว่ามีคนอยู่
เอาสิ....ไม่เปิดกูก็นอนเฝ้ามันตรงนี้ล่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และการติดตามครับผม
บวกเป็ดให้กับทุกท่านแทนคำขอบคุณครับ