ตอนที่ 30 การติดสินใจของน้องหมา...
ริมฝีปากของคนทั้งสองบดขยี้กันอย่างดุเดือด...
กลิ่นหอมและรสชาติเจือจางของเมนทอน.....ความรู้สึกที่แปลกใหม่.....ความตื่นเต้น.....ความดิบเถื่อน ทั้งหมดทั้งมวลผสมผสานกันในอัตราส่วนที่ผิดเพี้ยนและแปลกประหลาด....เกิดเป็นความใคร่ผสมกับอะไรที่กึ่ง ๆ ระหว่างความรักและความหลงใหลในเปลือก...
แผ่นหลังของใครคนหนึ่งกระแทกเข้ากับผนังห้อง เสียงเนื้อกระทบผนังปูนก่อให้เกิดเสียงดังเสียจนน่ากลัวว่ากระดูกอาจจะแตกร้าว มื้อไม้ป่ายปะไปมาอย่าสะเปะสะปะ ขณะที่ชิ้นเนื้ออุ่นชื้นยังคงกำลังฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย...
มือใหญ่ของใครคนหนึ่งคนเดิม มือทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยพละกำลังแห่งวัยหนุ่มบีบขยำบั้นท้ายของใครอีกคน....บดอัดเป้ากางเกงที่แข็งขึงให้ขยี้ไปกับเป้ากางเกงของอีกฝ่าย ความรู้สึกยินดีบังเกิดขึ้นเมื่อใครคนหนึ่งรู้สึกได้ถึงความต้องการ(ที่อาจจะเป็นเพียงแค่ชั่ววูบ)ของใครอีกคน
“เชี่ยเมฆ!!!!!.....พอ”
“ไรว้า....กำลังเคลิ้มเลย”
ดำศรีถอนจุมพิตอันเป็นของกำนัล ออกจากเพื่อนตัวโตจอมหื่นที่มีขนาดตัวพอกัน เมฆจิ๊ปากอย่างเสียดายในรสชาติพิลึกพิลั่นนั่น....หนุ่มหน้าโฉดยังคงหน้าแดงก่ำและใจสั่นไม่หาย
ไอ้บิ๊ก....มึงนี่มัน น่าเอาโครต ๆ
“ทำงานไม่สำเร็จก็เอาไปแค่นี้พอ”
“ม่ะ...มึงรู้?......เฮ้ย ได้ไงน่ะ”
“เพราะกูอ่านสีหน้าของคนโกหกได้ยังไงล่ะ”
“กูขอโทษ แต่กูทำมันไม่ลง ยังไงมันก็เพื่อน”
“แล้วถ้าเป็นกูล่ะ มึงทำได้ลงงั้นสิ”
“มันไม่เหมือนกันมึงก็รู้”
“หึ”
ดำศรีแค่นหัวเราะอย่างสมเพชอีกฝ่าย ไหล่กว้างยักขึ้นอย่างไม่ยี่หระ
“ทำซะ ไม่อย่างนั้นกูจะทำด้วยวิธีของกูเอง.....เลือกเอาว่าจะให้มันโดนแค่.....นั่นแหละ หรืออยากจะให้มันหายไปจากโลกนี้....ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลัง รู้เอาไว้ด้วย ว่ามันเป็นความผิดของมึง”
“บิ๊ก....มึงอย่าบังคับกูได้มั้ย”
“กูก็ไม่ได้บังคับอะไรมึงนี่”
เงาทะมึนของดำศรีทำท่าจะจากไป เมฆวิ่งไปขวางเอาไว้ ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองข้างของเพื่อน พยายามจะดันร่างที่ใหญ่โตไม่แพ้กันนั้นให้กลับเข้าไปข้างใน พร้อมทั้งสบตานิ่ง.....ทว่าในแววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นอย่างไรชอบกล
“ปล่อยกู”
“แค่ทำให้มันไม่ยุ่งกับพวกมึงเป็นพอใช่มั้ย”
“กูไม่รู้”
“ถ้ามันไม่ยุ่งกับพวกมึงกูจะไม่ทำ แต่ถ้ามัน....”
“กูจะไม่รอให้เรื่องมันเกิด กูไม่ชอบให้อะไรมันค้างคา มึงก็รู้ว่าคนอย่างกูต้องการให้ทุกอย่างมันจบในม้วนเดียว แล้วกูก็เกลียดคำสัญญา....กูผิดหวังกับมันมามากพอแล้ว กูจะจัดการเอง ถ้ามึงไม่ทำ กูจะทำเอง”
“ได้โปรดบิ๊ก มึงเชื่อกูซักครั้งเถอะ....”
“แล้วให้มึงหลอกกูอีกงั้นเหรอ”
“กูขออีกแค่ครั้งเดียว....บิ๊ก ที่กูไม่ทำเพราะว่าไอ้บอมมันเจ็บหนัก กูต้องพามันไปโรงพยาบาลก่อน....กูไม่ได้ตั้งใจจะโกหกมึง...”
“หึ.....พวกอ่อนแอไม่สมควรจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ จริงไหม?”
ปัง!!!! เสียงปิดประตูโครมใหญ่ กลบเสียงถอดถอนใจของผู้เป็นเจ้าของห้อง เมฆนั่งยอง ๆ ลงบนพื้นห้อง สองมือกุมขมับ
ดำศรีจากไปแล้ว ทิ้งเอาไว้เพียงแค่คำพูดที่เจ็บแสบ และทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นไอ้งั่งที่ถูกหลอกใช้....
“ทำไมถึงเป็นเด็กร้ายกาจแบบนี้นะไอ้บิ๊ก....มึงมันโครตเด็กเลยให้ตายสิ”
แต่กูก็ชอบ....ไม่ว่ามึงจะทำเหี้ยอะไรก็ตาม ต่อให้มันฆ่ากู....ไม่รู้สิความรู้สึกแบบนี้
รัก?.....หรือว่าหลง?....หรือเป็นอะไรที่มากกว่า แล้วมันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกัน?
.
.
.
.
.
.
“เงินค่าขนมจากป๊าเดือนละ 8,000 บาท.....8,000 ถ้างดซื้อขนมแล้วใช้เงินของบุ๊กบิ๊ก เราก็จะมีเงินเก็บปีละ......96,000.....คูณสี่ก็จะได้.....อืม....384,000 เงินแค่นี้มันจะไปพอยาไส้อะไรว๊า”
เจ้าหมาน้อยกำลังกดเครื่องคิดเลข พร้อมกับเขียนอะไรยุกยิกบนกระดาษ ใบหน้านั้นเคร่งขรึม คิ้วขมวดเข้าหากัน และเผลอกัดปลอกปากกาอย่างไม่รู้ตัว.....
ภาพนี้หากว่าดำศรีมาเห็นล่ะก็นะ.....ซี๊ดดดดดดด เจ้าหมาน้อยคงจะ....ไม่รอดพ้นอีกตามเคย
“ถ้าจะหนีก็ต้องมีมากกว่าหนึ่งล้าน แล้วก็ต้องเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลใหม่ หนีไปหางานทำไกล ๆ เฮ้อ....แต่ว่าจะเรียนจบในสี่ปีมั้ยฟะ ไม่ได้เข้าเรียนเป็นเดือนแล้วนิ”
พูดกับตัวเองเสียงดัง ก่อนจะถอดถอนใจแล้วฟุบหน้าลงไปกับพื้นห้อง ทำท่าว่ายอากาศไปมาอย่างเบื่อหน่าย
หนี....หนี....หนี
เจ้าหมาน้อยต้องการที่จะหนี หากแต่คราวนี้จะต้องยืนหยัดให้ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
ครืดดดดด....ครืดดดดด
บู้สะดุ้งเฮือกด้วยความหวาดผวา ใครกันนะที่อยู่ ๆโทรมาในเวลาแบบนี้ มือเล็กหยิบโทรศัพท์ของตน ที่คนเป็นน้องเพิ่งจะคืนให้อย่างลังเล แต่พอเห็นชื่อผู้โทรบนหน้าจอ เจ้าหมาน้อยก็รีบกดรับสายในทันที น้ำเสียงที่กรอกลงไปนั้นฟังดูทั้งตื่นเต้น...ทั้งดีใจจนทำอะไรไม่ถูก...ดีใจเสียจนลืมคิดไปชั่วขณะหนึ่ง.....ลืมสิ่งที่ตรองมาเป็นเวลาหลายวันไปจนหมดสิ้น
“ฮัลหลิวววว....บอม....ไอ้เพื่อนรัก....มึงเป็นไงบ้าง”
“สัดบู้ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน กูตามหามึงแทบบ้า ไปที่ห้องมึง เจ้าของตึกก็บอกว่ามึงย้ายออกมาแล้ว”
“กู.....อ่า...”
พ่อหนุ่มน้อยหยุดชะงัก....และเงียบเสียจนอีกฝ่ายรู้สึกใจเสีย คนตัวเล็กลืมนึกไปเสียสนิทว่าไม่ควรจะกดรับสายใครทั้งนั้น เพียงแต่ความดีใจและสิ่งที่อยากจะบอก อยากจะถามเพื่อนมากมายหลายสิ่งนั้นอัดอั้นอยู่เต็มอก ตั้งแต่เกิดเรื่องในวันนั้น บู้เป็นห่วงเพื่อนรักเพียงคนเดียวขึ้นมาจับใจ เพื่อนที่คอยปกป้องตนจนนาทีสุดท้าย ก่อนที่มัจจุราชจะพรากเราทั้งสองให้แยกจากกัน
บอม....กูขอโทษนะ...ขอโทษที่ลากมึงเข้ามาเกี่ยว ขอโทษที่ทำให้ซวยไปกันหมด....
“มึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูจะไปรับ”
“ฮัลโหลครับ...เกรงว่าคุณโทรผิดแล้วล่ะครับ”
“จะดัดเสียงทำป๊ะมึงเร๊อะ จะแหลทั้งที มันช้าไปมั้ยเฮอะ.....อยู่ไหน แล้วนี่ปลอดภัยมั้ย ไอ้บิ๊กมันทำอะไรมึงรึเปล่า แล้วไหงมันถึงยอมให้มึงรับโทรศัพท์ล่ะ....สัดบู้ กูโทรหามึงทั้งวันเลย รู้มั้ย”
“รู้......แต่กูปลอดภัยดี มึงไม่ต้องมาหรอก”
“มันอยู่ข้าง ๆ มึงใช่มั้ย มันบังคับให้มึงพูดใช่มั้ยบู้...โธ่เอ๊ยยยย บ้าชิบ....”
“มันไม่อยู่หรอก มันออกไปข้างนอก”
“งั้นมึงก็หนีสิ หนีได้ใช่มั้ย รีบออกมาก่อนเร็ว ออกมาแต่ตัวนั่นแหละ เดี๋ยวกูขับรถไปรับมึง”
“บอมกูเหนื่อย กูไม่อยากหนีแล้ว ที่เรื่องมันแย่แบบนี้เป็นเพราะว่ากูคิดจะหนี พอเหอะ กูจะไม่ไปไหนแล้ว พวกมึงก็จะได้ไม่ซวย แล้วพวกเราก็จะได้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะบอมนะ”
“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาทำตัวเป็นฮีโร่นะเฮ้ย มึงไม่จำเป็นต้องเสียสละอะไรอีกแล้ว หนีเถอะนะ กูขอร้อง”
“บอม...มึงเป็นฮีโร่ของกูเสมอ แต่ตอนนี้เพื่อนมึงอยากเป็นฮีโร่บ้างว่ะ ขอเพื่อนเท่ห์บ้างเถอะนะ”
“เดี๋ยวไอ้บู้.....อย่าเพิ่งวางนะ....บู้....บู้”
เจ้าคนเท่ห์น้ำตารื้นที่ต้องโกหกเพื่อนเพียงคนเดียวที่ตัวเองมี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะถูกขังแบบนี้ตลอดไปไหม เจ้าตัวโตจะยอมให้ไปเรียนหรือเปล่า หรือว่าจะถูกกักขังอยู่แต่ในห้องแคบ ๆ นี้ ตัดขาดจากทุกสิ่งที่เคยมี แล้วใช้ชีวิตเป็นเพียงเครื่องบำบัดอารมณ์ใคร่....
“นั่นพี่กำลังคุยกับใครน่ะ”
“บิ๊ก”
เสียงนั้นทำเอาหมาน้อยสะดุ้งเฮือก แฝดผู้น้องที่เพิ่งจะกลับมา เอ่ยถามเสียงเรียบ ริมฝีปากนั้นกำลังยกยิ้มอย่างคนวิกลจริต ยิ้มที่ทำเอาพี่ชายตัวเย็นเฉียบ และนิ่งเป็นหิน คนโตตัวสาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ มือใหญ่ฉวยโทรศัพท์ในมือพี่ ก่อนจะกรอกเสียงลงไปอย่างใจเย็น
“สวัสดีครับผม”
“ไอ้สัดบิ๊ก มึงปล่อยไอ้บู้นะเว้ย ไม่อย่างนั้นกูจะแจ้งตำรวจจับมึง ไอ้เหี้ย มึงมันเหี้ย เรื่องทุกอย่างน่ะฝีมือของมึงใช่มั้ย ไอ้ชาติหมาเอ๊ยยย”
“เพื่อนบอม....คิกคิกคิก....พูดอะไรอย่างนั้น ตำรงตำตวจอะไรกันฮึ จะจับข้อหาอะไรล่ะ กักขังหน่วงเหนี่ยวงั้นเหรอ เกรงว่าเพื่อนบอมจะหน้าแตกเสียเปล่า ๆ เจ้าตัวเค้าไม่ได้บอกรึไง ว่าเค้าเต็มใจที่จะอยู่น่ะ”
“มึง!!!!”
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะไอ้เพื่อนรัก”
ดำศรีวางสายไปแล้ว แต่ทว่าพี่ชายยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น นิ่งไม่ยอมขยับ ขณะที่แฝดน้องหยิบแผ่นกระดาษที่วางอยู่ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่พักใหญ่
“พี่เขียนอะไรน่ะ”
“เปล่า”
“ไม่เอานะหมา หมาอย่าโกหกสิครับ เขียนอะไร ตัวเลขพวกนี้น่ะ บอกเค้ามาเถอะ ว่าหมาวางแผนจะทำอะไรอีก”
“พี่แค่เขียนเล่น ๆ น่ะบิ๊ก ว่ากว่าพี่จะจบ พี่ต้องใช้เงินไปเท่าไหร่”
“ปกติพี่ไม่เห็นจะสนใจนี่นา ทุกที เวลาเค้าเห็นพี่ใช้เงินน่ะ พี่ก็ไม่เห็นจะคิดอะไรเลยนี่.... เป็นหน้าที่ของผู้ชายคนนั้นที่จะต้องให้เราอยู่แล้ว เพราะว่าเราเป็นความผิดพลาดที่เค้าจะต้องรับผิดชอบยังไงล่ะ....หึหึหึ”
“บิ๊ก....พี่สงสารพ่อ พ่อต้องเหนื่อยแค่ไหน กว่าจะหาเงินมาส่งเสียพวกเรา ไหนจะเบียร์อีก เพราะงั้นนาย...”
“เค้าไม่ให้ตัวไปเรียนหรอก เทอมนี้ตัวอยู่นี่แหละ จนกว่าจะสอบ เค้าจะติวให้เอง ตกก็ช่างแมร่ง ดีซะอีกซัมเมอร์พี่จะได้ไม่ต้องกลับบ้าน ไปหาคนพวกนั้น ไปนอนกอดกับไอ้ลูกเมียน้อยนั่นน่ะ อยู่ที่นี่จนกว่าจะหมดเทอม แล้วหลังจากนั้นเค้าจะให้พี่ไปเรียน แต่พี่จะไม่ได้เจอไอ้บอม เพราะเค้าจะจัดตารางเรียนให้พี่เอง แล้วถ้ามันยังพยายามที่จะมาเจอพี่ล่ะก็ มันตาย!!!”
“นายมันใจร้าย”
“พี่รับปากแล้วนี่นาว่าจะอยู่กับเค้าน่ะ ความเชื่อใจที่มันเสียไป พี่ต้องเรียกมันกลับมาให้ได้ เค้าจะได้ไม่ต้องรุนแรงกับพี่ไง แสดงให้เห็นสิ ว่าพี่จะไม่โกหกเค้าเหมือนที่ผ่านมาอีกน่ะ....ไม่อย่างนั้นทุกคนที่เข้ามาแส่ เค้าจะฆ่าแม่งให้หมด”
“พี่เกลียดนาย เกลียด ๆ ๆ ๆ”
“เรื่องนั้นเค้ารู้หรอก”
ดำศรีลูบหัวพี่ชายอย่างเอ็นดู ร่างเล็ก ๆ ของแฝดคนพี่ถูกอุ้มช้อนขึ้น จมูกโด่งคลอเคลียอยู่แถมแก้มป่อง ๆ สูดดมกลิ่นหอมเหมือนเด็ก ๆ นั้นเข้าไปจนเต็มปอด
“อาบน้ำกันดีกว่าเนอะ เค้าซื้อสีมาย้อมผมให้พี่ด้วย พี่จะได้เป็นพี่ของเค้าเหมือนเดิมไงล่ะ เค้าชอบหมาน้อยแบบเมื่อก่อนมากกว่า เห็นแล้วอยากจะฟัด...หึหึ”
“อื่อ”
“ยิ้มหวานก่อนสิ เค้าอยากเห็นพี่ยิ้มน่ะ”
“ฝันไปเถอะ พี่แค่บอกว่าจะอยู่กับนาย ไม่ได้บอกว่าจะยอมนายทุกเรื่อง”
“เค้าชอบที่พี่เป็นเด็กดื้อแบบนี้แหละ มันทำให้เค้าอยากจะลงโทษพี่วันละหลาย ๆรอบเลยรู้มั้ย”
แล้วพี่ชายก็ฉีกยิ้มจนปากแทบฉีกถึงใบหู เจ้าหมาน้อยกำลังประชด แต่ดำศรีก็ยังมองว่าน่ารักอยู่ดี
.
.
.
.
.
.
.
“อื้ออออออ”
ร่างกายของเจ้าเด็กน้อย กำลังถูกเล่นลามกอีกแล้ว คราวนี้เป็นในอ่างอาบน้ำแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ลื่น ๆ มือใหญ่ของดำศรีเต็มไปด้วยฟองสบู่ และมันกำลังหยอกเย้าไปทั่วทุกส่วนของร่างผอมเล็ก ยอดอกของเจ้าหมาบู้ถูกเขี่ยเล่น ไอ้จ้อนอันน้อยถูกลูบคลำจนขยายใหญ่
“หึหึหึหึ เด็กลามก พี่เองก็ชอบเวลาที่เค้าทำกับพี่ เห็นมั้ย แข็งเชียว.....แถมตรงปลายยังแดงก่ำอีก”
ไอ้จ้อนอันเขื่องถูกนำมาเทียบ แล้วเจ้าตัวโตก็หัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ...
“พ่อเราก็ลำเอียงเนอะ ทั้ง ๆ ที่ให้ทุกอย่างมากับเค้าจนหมด แต่แทนที่จะรักเค้าบ้าง ดันรักแต่พี่ ทั้งพ่อทั้งแม่....ทุกคนเอาแต่ตามใจพี่ พี่นี่มันน่าอิจฉา แม้แต่นังนั่นมันก็ยังรักพี่”
“หึ....นายเองก็ต้องการความรักจากพ่อสินะ”
“ไม่....ไม่อีกแล้ว ก็เค้ามีพี่แล้วนี่นา พี่นั่นแหละที่จะต้องรักเค้าให้เยอะ ๆ เพื่อชดเชยในสิ่งที่เค้าขาดไปยังไงล่ะหมาน้อย”
ร่างเล็กถูกจับยกขึ้น พร้อมกับบางสิ่งค่อย ๆ สอดเข้ามา ท่อนเนื้ออันใหญ่ถูกดันเข้าไปในช่องทางของเจ้าหมาน้อยจนสุด พ่อน้องชายตัวดีกัดฟันด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงไปกว่าแช่เอาไว้เฉยๆ
“อ๊ะ”
“ซี๊ดดดดดดด”
“อื้อออออ”
“เค้าจะขยับเบา ๆ อยากให้พี่เสร็จไปพร้อมกับเค้าน่ะ”
มือใหญ่ค่อยๆรูดแท่งเนื้อเล็ก ๆ ของเจ้าหมาน้อย น้ำสบู่ลื่น ๆ นั้นสร้างความเสียวซ่านจนแทบขาดใจ
“พอแล้ว...ไม่เล่นแล้ว บิ๊กอย่า....”
“เสียวก็ร้องออกมาดัง ๆไม่ต้องกลัวใครจะได้ยินหรอก ที่นี่มีแค่เราสองคน แล้วเราก็มีเวลาเล่นกันทั้งวัน”
เจ้าหมาน้อยกระตุกร่างด้วยความเสียว น้ำรักพุ่งออกมาเป็นสายเหมือนกับน้ำพุ ดำศรีขยับสะโพกสวนขึ้นถี่ยิบ....ก่อนจะปลดปล่อยตามมาติด ๆ ทั้งอ่างน้ำเต็มไปด้วยน้ำรักมหาศาล
“เราจะต้องตกนรกบุ๊กบิ๊ก....นายกับพี่ เราสองคนน่ะ”
“เค้าเอง.....เค้ายอมตกนรกเพียงคนเดียว....เพราะทุกอย่างมันเริ่มจากเค้า ถ้าการที่เค้ารักพี่แล้วก็อยากจะร่วมรักกับพี่มันคือบาปหนักหนามากนักล่ะก็ เค้าก็ยอมที่จะตกนรก เค้าไม่กลัวหรอก”
“นายมันบ้าไปแล้ว”
น้องบู้เอ๊ย....ของเล่นพวกนี้น่ะไอ้ดำมันเป็นคนเลือกให้น้องบู้เลยนา จริง ๆ แล้วพ่อจะต้องซื้อให้มันเพราะว่ามันทำเกรดได้ดีอย่างที่รับปาก แต่มันก็ยอมยกรางวัลให้น้องบู้ เพราะฉะนั้นอย่าเกลียดน้องเลยนะ แบ่งให้น้องเล่นบ้าง น้องน่ะรักเรามากนะ ถึงมันจะชอบแกล้งเราก็เถอะ.....
พี่บิ๊กเคยช่วยชีวิตเบียร์เอาไว้ตั้งสองครั้ง....จริง ๆ แล้วพี่บิ๊กก็ไม่ใช่คนเลวร้ายซักเท่าไหร่หรอก แต่เบียร์ก็เกลียดขี้หน้ามันอยู่ดีแหละ
น้องบู้ฝากขอบคุณน้องบิ๊กด้วยนะจ๊ะ....วันนี้น้าเป็นลมอยู่ที่ตลาด ถ้าไม่ได้น้องบิ๊กช่วยเอาไว้ล่ะก็ต้องแย่แน่ ๆ เลย อยากจะขอบคุณด้วยตัวเอง แต่เดี๋ยวน้องบิ๊กเค้าจะหงุดหงิดเอาน่ะจ้ะ
เจ้าหมาน้อยหวนคิดถึงอดีต มีหลายสิ่งที่ยังค้างคาใจ ขณะที่เจ้าตัวใหญ่นั้นหลับไปแล้ว หลับทั้ง ๆ ที่กอดพี่ชายเอาไว้แน่นอย่างหวงแหน ทั้งกอดทั้งจูบอยู่นานกว่าจะยอมม่อยหลับไป เหมือนเด็ก ๆ ไม่มีผิด
บิ๊ก.....จริง ๆแล้วนายเป็นคนแบบไหนกันแน่ เพื่อพี่แล้วนายยอมทำร้ายคนอื่นได้จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ทั้งๆที่นายเองก็ไม่ใช่คนเลวร้าย....ทุกอย่างมันเป็นเพราะพี่อย่างนั้นสินะ
ถ้าวันหนึ่งพี่หนีนายไปได้สำเร็จ ถ้าวันนั้นมาถึง
มันจะเกิดอะไรขึ้น!!!!!!
.
.
.
.
.
.
To be con…
นั่นสินะ หมาน้อย อย่าคิดหนีอีกเลยนะ
ปล.ไม่ต้องเกี่ยงกันว่าใครจะต้องไปเชคประสาท เดี๋ยวคนแต่งไปเอง 5555+ แบบว่าชอบความรุนแรงนิด ๆน่ะ มันเป็นสไตล์ อุอุอุ