Chapter Nine
"เพื่อนพี่ ชื่อชาร์ม" ผมบอกยิวที่มองคนแปลกหน้าอย่างสนใจ
น้องยิวกับน้องอิงยกมือไหว้สวัสดีไอ้ชาร์ม ที่รับไหว้เขินๆ ผมอมยิ้มกับท่าทางของมัน อยู่กับเพื่อนหละทะโมนยังกับอะไร แต่อยู่กับคนอื่นทีไรมันโคตรจะขี้อาย
"มึงจำอิงได้ใช่มั้ย" ผมถามคนที่นั่งข้างๆ ซึ่งมันก็พยักหน้าและยิ้มให้น้องอิงน้อยๆ ผมเลยแนะนำเพื่อนอิงให้มันรู้จักคนเดียว "ส่วนนี่ก็ยิว แฟนไอ้คิน"
"พี่ชาร์มรู้จักไอ้อิงด้วยเหรอครับ" น้องยิวเปิดบทสนทนา คงเห็นไอ้ชาร์มมันเกร็ง
"ครับ อิงเป็นนักกีฬาบาสเหมือนพี่"
ยิวมองหน้าเพื่อนอย่างแปลกใจ "เฮ้ย จริงดิ แล้วไมมึงไม่เล่นวะ"
"ก็คนเยอะแล้ว" อิงบอก ก่อนจะถามไอ้ชาร์ม "พี่ชาร์มเรียนที่เดียวกับพี่จีนเหรอครับ"
ไอ้ชาร์มพยักหน้า "ครับ คณะเดียวกัน เอกเดียวกัน"
"แล้วได้เล่นบาสอยู่มั้ยครับ"
"ไม่ได้เล่นแล้ว ตัวเตี้ย" จริงๆ ไอ้ชาร์มมันก็ไม่ได้เตี้ยหรอกครับ สูงเกือบ 180 แต่เมื่อเทียบกับนักกีฬาคนอื่นๆ ที่สูงอย่างต่ำๆ 185 มันก็เลยดูเตี้ย และอีกอย่างมันตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนเข้ามหา'ลัยแล้ว มันจะไม่เล่นกีฬา เพราะอยากใช้ชีวิตนักศึกษาให้เต็มที่ (ความหมายของมันคือกินเหล้าให้เต็มที่ -_-!)"แล้วอิงหละ"
"ไม่ได้เล่นเหมือนกันครับ ต้องทำงาน ไม่มีเวลา"
"ขยันจัง ยังงี้ไม่รวยแย่เหรอ"
"ขอรวยเฉยๆ ได้มั้ยครับ แย่ไม่เอา" อิงพูดยิ้มๆ
ไอ้ชาร์มหัวเราะขำ ก่อนจะถาม "แล้วตอนนี้อิงอยู่กับใครครับ แม่ยังต้องไปทำงานเมืองนอกอยู่อีกหรือเปล่า"
ผมมองคนถูกถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นรอยยิ้มหายไปจากหน้าน้องอิง และยิ่งสงสัยหนักเมื่อน้องยิวพูดทะลุขึ้นมากลางปล้อง "เอ้ย ใกล้จะถึงคิวเราขึ้นเล่นแล้วมั้ง ไปกันเหอะ" แล้วจับแขนน้องอิงให้ลุกขึ้น บอกขอโทษไอ้ชาร์ม "โทษทีพี่ เดี๋ยวมาคุยด้วยใหม่ เดี๋ยวไม่ทัน ขอตัวครับ"
"กูไม่เป็นไร" เสียงเบาๆ ดังมาจากน้องอิงที่ถูกเพื่อนทั้งลากทั้งจูงออกไป
"กูก็ไม่ได้ว่ามึงเป็นไรซักหน่อย" น้องยิวตอบ แล้วยกแขนขึ้นกอดคอเพื่อน พากันเดินไปที่หลังเวที
ผมนิ่วหน้า สงสัยกับพฤติกรรมแปลกๆ ของทั้งสองคน และเหมือนนกรู้ ไอ้คินลุกขึ้นแล้วขอตัวไปห้องน้ำ คงกลัวว่าผมจะคาดคั้นเอากลับมัน "เดี๋ยวมาเว้ย ไปห้องน้ำก่อน"
"เปลี่ยนไปเยอะเลย"
ผมหันไปมองคนพูด "ใคร?"
"น้องอิง"
ผมเลิกคิ้วขึ้น "ยังไง?"
ไอ้ชาร์มยักไหล่ "น้องมันดู...ไม่เหมือนตอนเด็ก"
"ไม่แปลกหรอก ไม่เจอกันตั้งหลายปี จะให้เหมือนเดิมได้ไง" ผมพูด ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ แล้วหันไปมองมันอย่างสงสัยเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจเสียงดังเฮือก "เป็นไร?"
มันถอนหายใจออกมาอีกเฮือก "กูรู้สึกผิดวะ"
"......"
"ถ้าน้องมันจะทำท่ารังเกียจหรือพูดจากระแทกแดกดันกูบ้าง...กูก็คงจะสบายใจกว่านี้"
"......"
"ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมตอนนั้นกูถึง..." เหมือนไม่รู้จะพูดยังไงดี มันได้แต่ถอนหายใจ
ผมเข้าใจดีว่ามันรู้สึกยังไง เพราะผมก็รู้สึกแบบเดียวกัน แต่ก็พยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า เป็นเพราะตอนนั้นเรายังเด็ก ทำให้มองเห็นแค่สีขาวกับสีดำ
เรารังเกียจสีดำ
และเราก็เห็นแค่สีดำในตัวอิง
=lovemakesmeblind=
"พี่จีน..."
หัวใจกระตุกวูบเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเรียก...
ถามว่าผมลืมอีกฝ่ายได้หรือยัง... ยังครับ
ถ้าหัวใจมันสั่งให้เปิดปิดได้เหมือนสวิทซ์ไฟ ผมก็คงจะปิดหัวใจรักที่มีต่อน้องปาย และเปิดรับความรักครั้งใหม่อย่างที่ไอ้คินมันเชียร์ไปนานแล้ว
ผมไม่แปลกใจว่าทำไมอิงถึงลืมไอ้โอมไม่ได้ เพราะผมเองก็ลืมปายไม่ได้เช่นกัน
ผมพยายามจะรักอิง... แต่มันก็คงจะเป็นได้แค่ความรักแบบพี่น้อง ที่เราเข้ากันได้ดี นั่นก็เพราะเราต่างก็อยู่ในสถานะเดียวกัน
ผมพยายามจะรักไอ้ชาร์ม... มันเป็นเพื่อนที่ผมรู้สึกเอ็นดูมากกว่าคนอื่น แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนมาเป็นแฟน ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเวิร์คหรือเปล่า
"หาตัวยากจัง" น้องปายบ่น แต่เมื่อเห็นผมยืนมองนิ่งๆ ไม่ตอบอะไรจึงพูดต่อ "ว่างมั้ยครับ"
เลิกคิ้วขึ้น ผมถามเสียงเรียบ "มีอะไรครับ"
"ปายจะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เทมส์ พี่จีนช่วยไปเป็นเพื่อนปายหน่อยได้มั้ยครับ"
นึกขำอีกฝ่ายอยู่ในใจ ผมรักเขาก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมโดนปั่นหัวไปเรื่อยๆ โปรนั้นมันหมดไปแล้ว"ไม่ชวนไอ้ไทหละครับ"
น้องปายทำหน้ามุ่ย แล้วพูดงอนๆ "ไม่เอาอะ พี่ไทขี้บ่น ปายจะเลือกของนานๆ ก็บ่นอยู่นั่นแหละ" แล้วจับแขนผมเขย่า "นะครับ ไปเป็นเพื่อนปายหน่อย"
แกะมือของอีกฝ่ายออกจากแขน ผมปฏิเสธ "โทษครับ พี่มีนัดแล้ว น้องปายไปชวนไอ้ไทดีกว่า มันขี้บ่นก็ทนเอาหน่อย ยังไงก็แฟน" ประโยคสุดท้ายอดประชดไม่ได้ ก่อนจะยกมือขึ้นโบกให้คนที่เพิ่งลงมาจากตึกเห็น
ไอ้ชาร์มเดินมาหาผม แล้วมองน้องปายแปลกๆ "อ้าว น้องปาย นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก เห็นไอ้ไทมันตามหาอยู่อะครับ"
"ตามหาทำไมครับ" น้องพูดสะบัดๆ เหมือนไม่ชอบใจ
ไอ้ชาร์มยักไหล่ "ไม่รู้ครับ ถามมันเองแล้วกัน โน่นมาโน่นแล้ว" ก่อนจะหันมามองผมเมื่อน้องปายเดินไปหาไอ้ไทแล้ว
ผมเลิกคิ้วขึ้น "อะไร?"
ไอ้ชาร์มเบ้ปากยักไหล่ "เปล๊าาาา"
"แล้วมึงจะทำเสียงสูงทำไม" โบกมันไปทีเพราะหมั่นไส้ ก่อนจะผลักให้มันออกเดินไปยังทิศทางที่รถจอดอยู่ "ไปหาไรกินกัน หิวแล้ว"
=lovemakesmeblind=
ไม่แน่ใจว่าทำไมผมจึงมานั่งอยู่ในร้านนี้...ร้านเค้กที่ผมไม่ค่อยจะชอบกินสักเท่าไหร่ และที่สำคัญมากับเพื่อนเก่าที่เกือบจะเลิกคบกันไปแล้ว
ก็แค่ไอ้โอมมันชวน และผมก็ตกลง... เลยทำให้ต้องมาทนดูภาพเลี่ยนๆ ตรงหน้า
"พี่ไท ลองชิมนี่ครับ อร่อย" น้องปายยื่นช้อนที่มีเค้กไปจ่อที่ปากไอ้ไท แต่มันดันมือหนีแล้วบอก "กินเถอะ พี่ไม่ชอบ"
น้องปายทำหน้าหงิก แล้วตวัดตามองผมโกรธๆ
ผมก็ได้แต่เสมองออกไปนอกร้าน แล้วถอนหายใจออกมาเบื่อๆ 'จะมาโกรธกูทำไม บ้าป๊ะ'
"เบื่อเหรอครับพี่จีน"
ผมหันไปมองคนถาม หากเป็นเมื่อก่อนผมคงปฏิเสธไปแล้ว แต่ตอนนี้มันต่างกัน ผมจึงตอบตามตรง "ครับ เบื่อ"
น้องเทมส์ชะงักไปนิด ก่อนจะยิ้มน่ารักให้ พูดขำๆ "เบื่อก็ต้องทนครับ เพราะเทมส์ยังไม่อิ่ม"
"ตามสบายครับ" ผมพูดยิ้มๆ นึกในใจ 'คราวหน้า ตัวใครตัวมันเถอะ' เหลือบตามองถ้วยไอศกรีมของไอ้ชาร์มที่ละลายจนเป็นน้ำแล้วถามมันขำๆ "เอาหลอดมั้ย เดี๋ยวกูขอให้"
มันมองมางงๆ "เอามาไม"
พยักเพยิดไปที่ถ้วยไอศกรีมตรงหน้ามัน... ไอ้ชาร์มทำหน้าหยึย "ก็มันเปรี้ยว"
"ไม่ชอบแล้วสั่งทำไม"
"เห็นเค้าแนะนำไง"
อยากรู้ว่ามันมีรสชาดยังไง ผมตักใส่ปากคำนึง ก่อนจะเบ้หน้า "เออ ทิ้งเถอะ"
"เห็นมั้ย"
ผมโบกมันไปที สั่งเองแล้วยังจะมาเห็นมั้ย...
"เทมส ์?"
"ว่า?"
"เก้านาฬิกา"
แม้จะกระซิบ แต่เพราะบรรยากาศภายในร้านค่อนข้างเงียบ ทำให้คนที่นั่งอยู่ในโต๊ะพลอยได้ยินไปด้วย และทุกคนก็หันไปตามองศาที่น้องปายบอกเพื่อนพร้อมกัน...
เจ้าของหัวข้อสนทนาเป็นชายหนุ่มร่างเพรียวที่กำลังเปิดประตูร้านที่พวกเรานั่งเข้ามา ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงตู้กระจกหน้าเคาน์เตอร์แล้วก้มลงมองเค้กที่ทางร้านจัดโชว์ไว้
เห็นเพียงแว่บแรก ผมก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร "อิง!" เพราะความดีใจ เนื่องจากไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์ ผมจึงเผลอเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงค่อนข้างดัง
เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย กวาดตามองมายังทิศทางที่ผมนั่ง เมื่อเห็นผมโบกมือให้ก็นิ่วหน้า ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อผมเดินไปหา "อ้าว! พี่จีน"
"ก็พี่หนะสิ คิดว่าใครหละ" ผมพูดล้อๆ
น้องส่ายหน้ายิ้มๆ "ไม่ได้คิดว่าใครครับ มันมองไม่เห็น คอนแทคเลนส์หลุด แต่เสียงคุ้นๆ"
"อ้าว สายตาสั้นเหรอ"
"ครับ สองร้อยห้าสิบ"
"เหรอ แล้วตอนนี้เห็นป๊ะ"
"เห็นครับ แต่กี้นี้มันไกล เห็นแต่ว่าเป็นคนโบกมือให้ แต่เห็นหน้าไม่ชัด" น้องตอบ
ไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะผมไม่เคยเห็นน้องใส่แว่นสักที "แล้วมายังไง"
"มันเพิ่งหลุดกี้นี้ แอร์รถมันเป่า"
"แล้วงี้ ตอนขากลับจะทำไง ให้พี่ไปส่งมั้ย"
"ไม่เป็นไรครับ พี่อยู่แถวนี้พอดี กำลังไปซื้อมาให้"
"พี่ไหน ไอ้คิน?"
น้องส่ายหน้า "ไม่ใช่ครับ พี่อีกคน พี่จีนไม่รู้จักหรอก เค้าเป็นลูกของเพื่อนแม่ผม"
"อ๋อ" ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะมองอีกฝ่ายที่หยีตามองเมนูที่เขียนไว้ด้านบน ท่าทางลำบาก "เห็นป๊ะเนี่ย จะเอาไรเดี๋ยวพี่สั่งให้"
น้องหันมามอง "เปล่าครับ แค่อยากรู้เมนูแนะนำเฉยๆ ว่าเป็นอะไร"
ผมหยิบโบรชัวร์ที่วางอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์มายื่นให้ "ดูนี่ก็เห็น"
"อ้าว" น้องรับไปแล้วยิ้มเขินๆ "โง่เนอะ"
ผมหัวเราะหึๆ แล้วถาม "จะกินที่นี่หรือซื้อกลับ"
"กินที่นี่ครับ"
"งั้นไปนั่งที่โต๊ะก่อน เดี๋ยวพนักงานก็ไปรับออเดอร์"
"อ้าวเหรอ แล้วที่เค้ายืนกันอยู่ตรงนี้หละ" น้องถามงงๆ ขณะที่เดินตามผมมานั่งที่โต๊ะว่าง ที่อยู่ถัดจากโต๊ะที่ผมกับเพื่อนๆ นั่งมาสามโต๊ะ
"เค้าซื้อกลับบ้านไง ไม่ได้นั่งกิน"
"อ๋อ" น้องพยักหน้าเข้าใจ แล้วกำลังอ้าปากจะถามอะไรสักอย่าง แต่โดนขัดจังหวะด้วยเสียงที่ดังมาจากโต๊ะด้านหลังเสียก่อน "พี่จีน ให้เพื่อนมานั่งด้วยกันก็ได้ครับ คนกันเอง"
ผมหันไปมองคนพูด สลับกับหน้าแฟนคนพูด แล้วหันมามองอิง เมื่อเห็นสีหน้าปกติของน้อง จึงถามความเห็น "ว่าไงครับ ไปมั้ย" แล้วพอเห็นอีกฝ่ายหยีตา จึงถาม "มองไม่เห็น?"
"พอเห็นครับ ไม่ชัดมาก เพื่อนพี่จีนเหรอ"
"พวกไอ้โอม" ผมบอกเบาๆ
น้องนิ่งไปนิด ก่อนจะถามเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน "ใครชวนครับ?"
"เทมส์" ผมตอบ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเทมส์ต้องการอะไร ทำไมถึงอยากให้คนที่เคยมีอดีตกับแฟนตัวเองไปนั่งร่วมโต๊ะ
"อิงมานั่งด้วยกันสิ" เสียงจากโต๊ะข้างหลังย้ำอีกรอบ
"ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป" ผมบอก
"...ไม่เป็นไรครับ ไปก็ได้"
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะอิง เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย" น้องเทมส์ถามเมื่อผมกับน้องอิงเดินไปถึง
น้องอิงพยักหน้า "ก็...ดี"
"แล้วไม่ถามเราบ้างเหรอว่าสบายดีหรือเปล่า"
น้องอิงอึ้งไปนิด ก่อนจะถามตามที่อีกฝ่ายต้องการ "อืม...สบายดีหรือเปล่า"
น้องเทมส์ส่ายหน้า "ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พักนี้เป็นไรไม่รู้ สังหรณ์ไม่ดีเลย เหมือนของรักกำลังจะถูกขโมย"
"เทมส์" ไอ้โอมเรียกแฟนมันเสียงเครียด
น้องเทมส์หันไปมองไอ้โอม แล้วดึงแขนที่ถูกจับอยู่ออก "เอ๊ พี่โอมเป็นไร เพื่อนเค้าทักทายกัน ยุ่งไรด้วย"
ปัญหาเดิมๆ ที่พวกเราเห็นประจำ... น้องเทมส์ไม่เคยเชื่อใจไอ้โอมหลังจากเกิดเหตุการณ์ของน้องอิง แม้ปากจะบอกว่าให้อภัย แต่ถ้ามีโอกาสก็คอยกระแนะกระแหนตลอด ส่วนไอ้โอมมันก็พยายามใจเย็นเพราะรู้ว่าตัวเองผิด แต่ใจคนเรามันจะทนรับความกดดันได้แค่ไหนกัน ก่อนจะระเบิดออกมา
โดยเฉพาะตอนนี้ที่ตัวต้นเหตุมายืนอยู่ตรงหน้า...
ผมดันน้องอิงให้นั่งลงข้างๆ ไอ้ชาร์ม แล้วนั่งตามลงไป หยิบเมนูยื่นให้ "ดูเมนูก่อน เดี๋ยวจะได้เรียกพนักงานมารับออเดอร์"
"พี่จีนมาบ่อยมั้ยครับ"
"ก็ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่ก็หลายครั้งแล้วหละ"
"แล้วมีเมนูแนะนำมั้ยครับ อะไรอร่อย"
โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบกินเค้กสักเท่าไหร่ เลยไม่แน่ใจรสชาดไหนถึงจะเรียกว่าอร่อย เลยแนะนำเมนูที่น้องเทมส์กับน้องปายสั่งบ่อยๆ ให้ "อันนี้ก็น่าจะอร่อยนะ เห็นเค้าชอบสั่งกัน"
"อันนี้ก็อร่อยนะ อันนี้ด้วย" ไอ้ชาร์มช่วยเลือก
"งั้นเอาอย่างละสองละกัน" น้องอิงบอก
ผมเลิกคิ้วขึ้น "เฮ้ย จะกินหมดเหรอ"
"ซื้อฝากพี่ด้วยครับ"
ตลอดระยะเวลาที่เราคุยกัน ผมรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมา แต่พยายามจะไม่ใส่ใจ
นั่งกินเค้กยังไม่ทันจะหมด เสียงมือถือของอิงก็ดังขึ้น... น้องหยิบมาดูชื่อแล้วกดรับ "ครับ?...ครับ...ครับ...ครับ...บายครับ" วางสายแล้วหยิบเงินออกมายื่นให้ผมพันนึง "ส่วนของอิง ฝากจ่ายด้วยนะครับ"
ผมส่ายหน้า ไม่รับ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"ไม่เอาดีกว่าครับ อิงซื้อไปฝากคนอื่นด้วย เอาไว้เลี้ยงรอบหน้าสิ"
"เออๆ ก็ได้"
น้องลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้รุ่นพี่ แล้วโบกมือลารุ่นเดียวกัน "งั้นอิงไปก่อนนะครับ บายครับ ทุกคน" เดินไปขอร้านล้างมือ ก่อนจะเปิดประตูออกไป ขึ้นนั่งบนรถสปอร์ตสีแดงที่วิ่งมาจอดตรงหน้าร้านพอดี... สักครู่ก็เปิดประตูลงมา ไปขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป
=lovemakesmeblind=