ตอนที่16
#เครื่องกลชนโยธา
“ขอโทษ...”
“ปล่อยกู!” แต่ไทเกอร์พูดแบบนี้มาอีกแล้ว
“กูขอโทษ”
“กูบอกให้ปล่อย!!”
“กูบอกว่ากูขอโทษไง!!!!”
..
..
..
....
“ฮึก....” จนกระทั่งที่เสียงสะอื้นดังมาจากร่างของคนที่กำลังยืนก้มหน้ามองพื้นอยู่อย่างไทเกอร์แล้วสำหรับคนที่เพิ่งจะหลุดตะคอกด้วยน้ำเสียงจริงจังออกไปก็ทำได้เพียงยืนเงียบพร้อมมองคนตัวขาวตรงหน้าอย่างทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เสือได้แต่ยืนมองอีกร่างพลางเม้มปากขมวดคิ้ว มองไหล่ขาวที่กำลังสั่นและมือของมันที่ยกเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้าตัวเอง
...หมับ..
เป็นเพราะง้อใครก็ไม่เก่งแล้วแถมถ้าคุยกันในตอนนี้คงได้ทะเลาะกันอีกแน่ ดังนั้นแล้วเสือถึงได้เลือกจะเลื่อนมือลงจับมือขาวของอีกคนซึ่งก็แน่นอนว่าถูกไทเกอร์สะบัดออกแบบในทันที ยอมรับว่ามีเสียความรู้สึกเพราะนี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยมั้งที่ถูกปฏิเสธจริงจังขนาดนี้
“กูก็บอกให้มึงลืม...” แล้วก็เป็นเสียงสั่นเครือของร่างขาวตรงหน้าที่เอ่ยดัง
“..........”
“แล้วก็แค่ไม่ต้องเอาเรื่องเหี้ยนี้มาว่าหรือล้อกูอีก”
“กูไม่ได้ตั้งใจ”
“แต่มึงก็พูด!!พูดมันต่อหน้าเพื่อนกูทุกคน!” สายตาแข็งกร้าวของไทเกอร์ที่คลอด้วยน้ำตากำลังมองมา
“..........”
“มึงไม่คิดถึงความรู้สึกของกูที่...!”
...หมับ...!!!!
...พรึบ!!...
เป็นแรงดึงไปกอดพร้อมมือหนาที่กดหัวของไทเกอร์ให้ลงแนบอก คนที่โกรธจนร้องไห้ในคราแรกบัดนี้กลับเปลี่ยนใบหน้ามาเป็นความรู้สึกตกใจก่อนที่สุดท้ายริมฝีปากบางสีสดจะเม้มเข้าหากันและยังคงยืนนิ่งในอ้อมกอดของอีกคนอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งที่บริเวณไหล่รับรู้ได้ถึงปลายคางของเสือที่แนบซุกลงมา
“กูไม่ได้ตั้งใจพูด....” เสียงทุ้มของเสือดังกระซิบที่ข้างหู
“............”
“ไม่ได้ตั้งใจพอๆกับที่ไม่อยากทะเลาะกับมึง”
“............”
“ดีกันได้มั้ยวะ” แล้วชาตินี้ไทเกอร์ก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสมาได้ยินคำนี้จากบุคคลที่ก็ตีกันมาตลอดทั้งชีวิตเช่นกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ไทเกอร์ทำยังเป็นเพียงการยืนนิ่งก่อนที่เมื่อได้สติเขาจะรีบขืนตัวออกจากอ้อมแขนของมันแล้วก็ต้องยืนเงียบด้วยกันทั้งคู่เมื่อเห็นว่าเริ่มมีคนอื่นเดินขึ้นมาบนสถานีแล้ว
ยืนรอรถอยู่ข้างกันโดยที่ไม่ได้พูดกัน
จนกระทั่งที่รถไฟฟ้าเคลื่อนขบวนเข้ามาจอดเทียบ เสือก็ยื่นมือออกมา
..หมับ..
ก่อนจับเข้าที่กระเป๋าเป้ที่ไทเกอร์สะพายหลังเอาไว้
“กูถือให้” แถมไม่ต้องรอให้ไทเกอร์ได้ตอบเสือก็คว้าเข้าที่กระเป๋าของอีกคนก่อนเดินนำคนตัวขาวเข้าไปในขบวนรถ รอบนี้ได้ยืนกันอีกแล้ว สถานการณ์ก็เหมือนกับตอนนั้นที่เคยขึ้นบีทีเอสด้วยกันครั้งแรกแต่จะไม่เหมือนเดิมหน่อยก็ตรงที่เราไม่ได้ยืนเถียงกันหรือกัดกันไปมา จะมีก็แต่ต่างคนต่างมองออกไปยังด้านนอกกระจกรถเบื้องหน้าทั้งที่สายตาก็ยังแอบมองกันไปมาตั้งบ่อย และเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้ามาแล้วต่อไปก็ต้องขึ้นรถเมล์สายเดียกวันต่ออีก
“เดี๋ยวถือเอง” ซึ่งระหว่างที่ยืนรอรถเมล์ไทเกอร์พูดแบบนี้ออกมาพร้อมเงยหน้าขึ้นมองอีกคน
“ไม่”
“กระเป๋ากู” พอเขาพูดย้ำไปแบบนี้เสือมีท่าทีอึกอัก
“ก็...เดี๋ยวกูถือให้ไง” ความรู้สึกตอนนี้ของไทเกอร์มันเหมือนตอนที่เดินไปส่งแฟนคนแรกตอนมอปลายที่รถรับส่งอะ แต่แปลกไปก็ตรงที่กูอยู่ในจุดของผู้หญิงเนี่ย แถมพอจะพูดแล้วต้องมองหน้ากันหน่อยก็ยังตะกุกตะกักกันทั้งคู่จนไทเกอร์ต้องยอมพยักหน้ารับไปว่าให้เสือถือกระเป๋าให้ก็ได้
“มึงก็นั่งตรงนี้ดิ” แถมพอเข้ามานั่งในรถเมล์ตามปกติแม่งต้องไล่เขาไปนั่งให้ไกลมันละ แต่ในคราวนี้เสือกลับเรียกพร้อมรั้งให้ไทเกอร์นั่งลงยังเบาะข้างตัวเอง ดีหน่อยที่วันนี้ฝนไม่ได้ตกและรถไม่ติดมากดังนั้นถึงได้มาถึงและเมื่อถึงป้ายที่ต้องลงไทเกอร์เพียงแค่ลุกขึ้นยืนแต่ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเสือมันก็ยืนขึ้นตามด้วย จะถามก็ไม่ได้เพราะสายตาคนอื่นที่มองมันบังคับให้ไทเกอร์ต้องรีบเดินลงจากรถเมล์ทั้งที่มีไอ้เสือห้อยติดท้ายมาเป็นลูกเป็ดแบบนี้
พอเดินมาจากรถเมล์ปุ้บ
เขาก็หยุดเดินพร้อมเงยหน้ามองมันปั้บ
“บ้านมึงอีกตั้งหลายป้ายไม่ใช่หรอ” ไทเกอร์ถามไป
“ก็มาส่ง” คำตอบนี้ที่ได้ทำเขาเสียเองที่ต้องเป็นฝ่ายเงียบแล้วตามปกติจะต้องโทรให้ม๊ามารับเพราะจากนี่กว่าจะเดินเข้าไปในซอยจนถึงบ้านก็เป็นกิโลได้เหมือนกัน แต่สำหรับวันนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องเลือกเดินเข้าไปเองด้วยส่วนเสือก็เพียงแค่เดินเคียงมาด้วยกันโดยที่มือของมันก็หิ้วกระเป๋าของเขาไปด้วย ตลอดการเดินก็ยังไม่ได้พูดกันแต่ไทเกอร์มีแอบยิ้มเมื่อรับรู้ได้ว่าไอ้เสือกำลังจงใจเดินเอาไหล่ชนให้โดนกับไหล่ของเขาชัดๆ
“เอากระเป๋ากูมาได้แล้ว” จนกระทั่งที่เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านนั่นแหละ
..พรึบ..
เสือถึงได้ยอมโยนกระเป๋าคืนให้ส่วนไทเกอร์ก็เพียงแค่จะเดินเข้าบ้านตัวเอง
“ไทเกอร์” แต่มันก็กลับเรียกไว้ก่อน
“อะไรอีก” ซึ่งพวกเรามองหน้ากันอีกครั้งก่อนที่เสือจะพูดหนึ่งประโยคออกมา
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป...เราไม่ต้องตีกันแล้วนะ”
“.............”
“แล้วก็...ฝันด...เอ่อ กูกลับก่อนแล้วกัน” แต่เสือเหมือนพูดไม่จบประโยคดีก็ขอตัวกลับไปก่อนจนไทเกอร์ต้องมียืนงงแล้วมองตามมันไป คนตัวขาวรีบเดินเข้าบ้านก่อนปิดประตูรั้วแล้วจัดการเดินเข้าไปภายในตัวบ้านด้วยใบหน้าที่พยายามกลั้นยิ้มแบบนี้ เปิดบ้านเข้าไปก็เห็นป๊ากับม๊าที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่
“ยิ้มอะไรอาเกอร์ เป็นบ้าหรอลื้อน่ะ”
“ใครยิ้มอะม๊า” ไทเกอร์ถามในขณะกำลังเดินขึ้นบันไดบ้าน
“ก็ลื้อเนี่ย!”
“อะไร ไม่ได้ยิ้ม” พูดบอกไปทั้งที่ปากจะฉีกถึงรูหูแต่ก็ยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ยิ้ม พอเข้ามาถึงห้องปุ้บก็รีบที่จะโยนกระเป๋าลงไว้บนพื้นแล้วกระโดดขึ้นเตียงพร้อมคว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา กดเข้าไปยังแชทของตัวเองกับไอ้เสือที่ตอนนี้ว่างเปล่าเพราะถูกลบไป
ถ้าแบบนั้น...
ส่งไลค์ไปก็ได้
ซึ่งการที่เสือกดอ่านในทันทีมันทำให้ไทเกอร์ต้องเม้มปากพลางใจเต้นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ ยิ่งเห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังพิมพ์มานั่นยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แก่ร่างขาวตรงนี้แต่แล้วเสือก็กลับเงียบไปจนไทเกอร์ต้องขมวดคิ้วตัวเอง นั่งหน้าบึ้งได้ไม่นานก็ต้องมายิ้มกับไอ้สิ่งตรงหน้าเพราะแชทน้ำเงินที่เขาเปลี่ยนกลับในวันนั้น ตอนนี้ กลับมาเป็นสีชมพูแล้วว่ะ
...ใครให้มึงเปลี่ยน... ไทเกอร์พิมพ์ไปทั้งที่ยังอมยิ้ม
//กูเปลี่ยนเอง ทำไม//
เป็นการโดนกวนส้นตีนที่ทำไทเกอร์ไม่ได้หงุดหงิดอะไรเลยแม้แต่น้อย คนตัวขาวนั่งเงียบมองข้อความจากมันก่อนที่นิ้วเรียวจะกดจิ้มลงไปบนหน้าจอมือถือเมื่อนึกอะไรบางบางอย่างออก ไทเกอร์กำลังนั่งพิมพ์ในส่วนของชื่อเล่นที่สามารถเปลี่ยนตั้งให้อีกฝ่ายได้ ซึ่งกับชื่อที่ไทเกอร์ตั้งให้มัน
-ไอ้ควาย-
พอจัดการเปลี่ยนชื่อเล่นในแชทของอีกคนเสร็จไทเกอร์ก็นอนลงบนเตียงโดยที่สายตายังมองหน้าจอโทรศัพท์ว่าเสือจะตอบมาตอนไหน เห็นว่ามันเงียบไปทั้งที่กดอ่านแล้วแบบนี้เขาก็ไม่ได้จะหงุดหงิดอะไรเพราะบางทีตอนนี้เสือมันคงจะกำลังัน่งรถเมล์ต่อไปบ้านตัวเองหละมั้งแต่แล้วเมื่อเห็นว่าเริ่มมีการเคลื่อนไหวจากอีกฝ่ายไทเกอร์ถึงได้นอนมองหน้าจอตาไม่กระพริบ และเมื่อในตอนแรกเขาตั้งชื่อเล่นให้มัน ดังนั้นในตอนนี้...
-ขี้แง-
เจอแบบนี้เข้าไปไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงจะต้องนั่งกลั้นยิ้มเหมือนคนบ้าทั้งที่ถูกด่าว่าขี้แงด้วยวะ และไทเกอร์ก็ไม่ได้ตอบมันกลับเพราะในตอนนี้กำลังนอนซุกหน้าลงกับหมอนพร้อมยิ้มกับตัวเอง
..ครืดดด..
จนกระทั่งที่โทรศัพท์สั่นเพราะมีข้อความเข้าไทเกอร์ถึงได้รีบคว้ามากดดู เห็นว่าเสือมันส่งรูปมาเลยรีบกดเปิดและไอ้ภาพใบหน้าของมันซึ่งถูกถ่ายระยะใกล้กำลังปรากฏอยู่ ปกติไทเกอร์ก็เคยเห็นรูปของมันเยอะแยะนะตามเฟสมันอะแต่รูปพวกนั้นส่วนมากจะถูกถ่ายออกมาแบบโคตรดูดีแล้ว แต่กับรูปนี้ที่เสือส่งมาคือรูปของมันณปัจจุบันที่กำลังนั่งอยู่บนรถเมล์แล้วส่งสายตากวนส้นตีนให้แก่เขา
รู้สึกแปลกนิดหน่อย ก็ตรงที่
รูปนี้ของมันเขาจะมีสิทธิได้เห็นคนเดียวถูกมะ
//กลับบ้านแปป แบตจะหมด// แล้วก็พร้อมหนึ่งข้อความที่แนบมาด้วย
..เค..
และเมื่อตอบข้อความอีกคนเรียบร้อยสิ่งถัดไปที่ไทเกอร์ทำก็คือการกดเข้าไปส่องหน้าเฟสบุ๊คของใครอีกคน เลื่อนดูตามหน้าฟีดที่ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากรูปของเสือที่ก็ลงพร้อมแคปชั่นที่มีเพียงอิโมจิ ส่องไปส่องมาไทเกอร์ก็เห็นว่ามีหนึ่งโพสบนหน้าทามไลน์ของเสือที่ถูกแท็กมาโดยมิ้ง
ใช่สิ มิ้ง...
เขาลืมเธอไปเลย
คิดได้แบบนี้ไทเกอร์ถึงได้เลือกจะกดเข้าไปยังหน้าเฟสบุ๊คของหญิงสาวซึ่งหนึ่งรูปที่เธอตั้งไว้บนสุดมันทำให้ไทเกอร์ต้องชะงัก ในภาพไม่ได้แสดงใบหน้าชัดเจนว่าเธอกำลังอยู่กับใครเพราะมิ้งเพียงแค่ซบหน้าลงกับไหล่ของชายหนุ่มแล้วยิ้มให้กล้องเท่านั้น แต่กับทั้งสีของเสื้อช็อปหรือเพียงแค่เสี้ยวของคางได้รูปที่ปรากฏมา ทุกอย่างมันก็ชัดเจนว่าคือไอ้เสือ
“เฮ้อออ...” สุดท้ายก็ถอนหายใจจนได้
...ครืดดดครืดดดดดครืดดด...!
ผ่านมานานพอควรกับการที่นอนคิดนั่นนี่จนไม่ได้แตะโทรศัพท์จนมารู้ตัวอีกทีก็ในตอนที่มีคนโทรเข้ามา เมื่อหยิบมาดูก็ปรากฏว่าถูกโทรเข้าผ่านเมสเสนเจอร์ซึ่งแน่นอนว่าก็คือไอ้เสือไม่ใช่ใครหรอก
“ว่าไง” และไทเกอร์กดรับไป
[ทำไมไม่ตอบข้อความกู...มึงหายไปตั้งเป็นชั่วโมง เป็นอะไรหรือเปล่า]
“เปล่า”
[เปิดกล้องหน่อยดิ]
“ไม่เอา” ปฏิเสธไปทันทีแต่ก็เป็นจังหวะที่เสือมันกดวิดีโอคอลเข้ามา ความวอแวของมันทำไทเกอร์ต้องพ่นลมหายใจแต่ถึงอย่างงั้นสุดท้ายเขาก็ใจอ่อนยอมกดเปลี่ยนเป็นการโทรคุยแบบกล้องจนได้ซึ่งใบหน้าของเสือที่ปรากฏอยู่ตอนนี้เหมือนจะมีความกังวลอยู่บ้าง
[มึงเป็นอะไร]
“กูบอกว่าเปล่า ว่างหรือไง ไม่ไปคุยกับแฟนมึงหรอ” ทั้งที่บอกเปล่าแต่ก็ยัง...
[เรื่องมิ้ง?ใช่มั้ย] พอโดนถามถูกจุดแบบนี้ไทเกอร์ถึงพยักหน้ารับไป
[มิ้งกับกู เรา...เดี๋ยวกูจัดการเรื่องนี้เอง] คงจะเป็นอีกครั้งของวันที่เสือแสดงสีหน้าจริงจังแบบนี้ออกมา ไทเกอร์ไม่ได้พูดอะไรเพราะกลัวตัวเองจะปากหมาไปหาเรื่องทะเลาะกับมันอีก พวกเรานอนมองหน้ากันผ่านกล้องอยู่นานสองนานก่อนที่จะเป็นไทเกอร์ที่เม้มปากแล้วเบือนสายตาหลบเพราะรู้สึกใจสั่นกับการที่ถูกเสือนอนจ้องหน้าด้วยสายตาแบบนี้
“แค่นี้แล้วกัน กูจะไปอาบน้ำนอนละ”
[เออเหมือนกัน] แล้วก็ทั้งที่ควรจะตัดสาย แต่ยังต่างคนต่างมองหน้ากัน
[พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปส่งอีกนะ] จนเป็นเสือที่พูดประโยคนี้มาก่อนจะตัดสายทิ้งไปทั้งที่ไทเกอร์ยังไม่ได้ตอบรับเลยด้วยซ้ำ เขาได้แต่นั่งเม้มปากใจนึงก็อยากยิ้มแต่อีกใจก็รู้สึกแปลกยังไงไม่รู้ มันก็เขิน แต่มันก็แบบ... แต่สุดท้ายก็ส่ายหัวไปมาพลางบอกตัวเองว่าควรเลิกคิดมากได้แล้ว ไทเกอร์ลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะไปอาบน้ำระหว่างนี้ก็กดเล่นโทรศัพท์เลื่อนดูหน้าเฟสฆ่าเวลาไปด้วย
จนกระทั่งที่เลื่อนนิ้วไปเห็นแคปชั่นล่าสุดของไอ้เสือที่ขึ้นว่ามันเพิ่งจะโพสไปไม่กี่วิ
...<3...
มีเพียงแค่อิโมจิรูปหัวใจสีชมพูหนึ่งดวง
ที่ก็ทำ ให้ใจของเขาเต้นแรงเป็นกี่รอบของวันก็ไม่รู้...
# # # # # #
เหม็นความรักเว่อ แต่จะไ่ให้รักกันง่ายๆหรอกเด้อออ