( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485143 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อาฟ นิสัยไม่ดีอีกแล้วนะ มาให้คนแก่สั่งสอนหน่อยซิ หันหลังมา.......  :z6:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อาฟชอบเมดมาตั้งนานแล้ว นี่ถ้าจีบจริงจังตั้งแต่ม.ปลาย คงดีเนอะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ปากเสียจริงๆ แต่ก็เป็นคนตรงๆ ดี

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เฮียอาฟ~ยอมรับแล้วหรอ แอร้ยย เขิน

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยยย น่ารัก ตอนนี้น่ารักมาก ฟินมาก
อาฟจะได้ชัดเจนสักที หลังจากที่แอบรักแอบชอบมานาน
อาฟปิดเจมาได้ไงตั้งนาน ตอนนี้เจเริ่มอยากรู้แล้ว

เมดน่ารัก ขนาดโกรธยังน่ารัก คือไม่สุดและก็ดีใจที่เค้าง้อ
เมดออกอาการแบบนี้ ก็ตอบรับคำถามอาฟได้แล้วนะว่าพอได้


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :ling2:อ่อยกันไปมา ขำสัดพี่ตอนหาวิธีง้อ :mew3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากเป็นพี่เมดๆๆๆๆๆๆๆ ฮือออออ พี่อาฟบับบบ เอาแล้วๆๆๆๆ พี่เค้าเริ่มมาแล้วนะคะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อาฟ เริ่มดี ๆ สู้ต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
เขาง้องอนกัน ดีต่อใจเหลือเกินค่ะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ตายเพราะปากนะเฮียอาฟ พูดไม่คิดให้ง้อเยอะๆเลยเมด :hao3: แต่เมดเริ่มเปิดโอกาสให้อาฟแล้ว ไม่หวานมากพอให้กร๊าววใจ o18

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แต่อิชั้นไม่หวาย :-[ :impress2: :ling3:

ออฟไลน์ HPG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :-[ :-[ :-[ :o8: น่ารักมากเว่อร์ งือ~อยากเป็นหมูตุ๋น 555

ออฟไลน์ นมชมพู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นุ้งอ่านละตายไปเรยจ้าาาสส :heaven

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 18

“ แล้วทำไมเสือกมานั่งอยู่ตรงนี้วะ “ เพื่อนสนิทเอ่ยถามผม ที่เดินมาหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในส่วนของบาร์ข้างๆมัน ผมเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเดินลงมานั่งอยู่ตรงนี้ หลังจากฟังคำตอบของคำถามที่ว่า ผมพอจะเป็นคนที่มันชอบได้มั้ย คำตอบที่บอกว่า ก็คงพอไหวอยู่ ของมันนั้นก็ทำให้คนอย่างผมนิ่งไป

ความจริงเราก็นิ่งไปทั้งคู่ เมดเองในตอนนั้นมันก็ก้มหน้าลงต่ำจนปากชนกับเครปที่ถืออยู่ หัวใจของผมเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บไม่รู้อีกคนจะเป็นเหมือนกันมั้ย แต่ความเงียบในตอนนั้น บรรยากาศแบบนี้ถ้าเข้าไปนั่งในห้องด้วยกันมันต้องอึดอัดกว่าตอนเราโกรธกันหลายเท่าแน่ๆ และคงเพราะแบบนั้นขาของผมก็เลือกที่จะหันหลับแล้วเดินลงมาชั้นล่าง พูดได้อีกอย่างคือจะบอกว่าเดินมาทำใจให้เลิกเต้นแรงก็ไม่คงผิดนัก

“ มึงง้อไอ้เมดไม่สำเร็จเหรอวะ “

“ เปล่า “ บอกสั้นๆแล้วถอนหายใจออกมา ผมหันไปมองน้องชายตัวเองที่กำลังทำทีเป็นยืนบริการแขกอยู่ไม่ไกล
“ เดย์ โฮการ์เด้นมาขวด “

“ ครับ “ อีกคนตอบก่อนจะเปิดขวดเบียร์ที่สั่งวางลงตรงหน้า ยกขวดเบียร์ขึ้นกินก่อนจะเหลือบไปมองใครบางคนที่มองผมอยู่ ผมลดขวดเบียร์ที่กำลังดื่มนั่นลงแล้วส่งยกยิ้มไปให้ตอนที่เห็นว่ามันเป็นผู้ชายคนที่เข้ามาขอเบอร์ไอ้เมดแต่ผมกลับชิงตัดหน้าเอาจดหมายนั่นของมันไปก่อน

“ นี่มันยังอยู่อีกเหรอวะ “

“ ท่าทางอาฆาตมึงเอาเรื่อง “ ไอ้เจบอก “ แต่ก็ไม่แปลก มึงเล่นดึงเบอร์ไอ้เมดที่จะให้มันไปต่อหน้าต่อตามันแบบนั้น เป็นกูจะต่อยสักที สันดานส้นตีนแบบนี้ “

“ กูเห็นด้วยกับพี่เจ ความจริงสัดพี่ไม่ควรทำงั้นนะ “ ไอ้เดย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมพูดขึ้น เงยมองหน้ามันอีกคนก็จ้องกันด้วยสายตากวนส้นตีน “ มึงไม่ได้เป็นไรกับพี่เมดสักหน่อย เค้าจะมีใครมาชอบก็เรื่องของเค้าสิวะ มึงทำเป็นหวงเค้าเหมือนเป็นผัวเค้าอย่างงั้นอะ “

“ กูเห็นด้วยกับไอ้เดย์ “ เจยกแก้วเหล้าขึ้นกินก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผม “ เค้ามีสิทธิ์เลือกเพราะเค้าโสด  “

“ ไม่มีสิทธิ์ นี่เวลางานไม่ใช่เวลามาหาผัว “

“ ปากมึงนี่แบบ..” ส่ายหน้าไปมาแทนคำพูดที่จะพูดออกมา มันคงไม่รู้จะเอาคำด่าไหนมาด่าให้ผมรู้สึกสำนึกแล้ว

ผมก็รู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์ ก็อย่างที่พวกมันสองคนบอกนั่นก็ถูกแล้ว เมดไม่ใช่แฟนผม เราไม่ได้เป็นอะไรกัน มันไม่ใช่เพื่อนด้วยซ้ำเป็นแค่เพื่อนร่วมงานชั่วคราวที่มาทำงานจ่ายหนี้ก็แค่นั้น แต่ที่พิเศษอยู่หน่อยก็ตรงที่อดีตของผมมีมันคาบเกี่ยวอยู่ซึ่งเจ้าตัวไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

ถ้าถามว่าผมอยากจะมีสิทธิ์ในตัวมันมากกว่านี้มั้ย เมื่อวานอาจจะตอบว่าอยากจะให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่วันนี้ผมอยากจะตอบใหม่ว่า มาก  อยากเป็นคนที่มีสิทธิ์หึงหวงได้ตามใจชอบ

อยากจะเก็บเอามันมาไว้กับตัวคนเดียวไม่ให้คนอื่นมีสิทธิ์ทั้งนั้น อยากจะเป็นคนที่ได้เอาใจ แล้วก็อยากจะถูกเอาใจกลับมาเช่นกัน แล้วก็อยากจะให้ทุกวันต่อจากนี้มันพิเศษมากกว่านี้

 แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะยังไม่พร้อมขนาดนั้น แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร

ใจผมที่ยังไม่กล้า หรืออีกฝ่ายที่ผมคิดว่า คงยังไม่พร้อม

“ หวงก้างสัด แดกก็ไม่แดก แต่ก็ไม่ให้คนอื่นแดกเหมือนกัน “ น้องชายบอก ผมก็มองมัน

“ เรื่องของกู “

“ ไม่อยากจะมีสิทธิ์ในตัวไอ้เมดมากกว่านี้จริงๆเหรอวะ “ ไอ้เจที่อยู่ๆถามขึ้นมันหันมามองหน้าผม “ ไม่อยากจะเป็นคนที่หึงหวงเค้าได้เหรอ “

“ มึงจะให้กูขอมันเป็นแฟน “

“ ถูกต้องนะครับ “ อีกคนบอก ผมก็เหลือบมองไอ้เดย์ที่เม้มปากตัวเองแน่น ถ้าให้เดาคำพูดที่ดูมีสมองของไอ้เดย์เมื่อครู่คงเป็นแผนของพวกมันสองคนที่วางคำพูดไว้พูดกับผม เพราะอยากจะให้ขอไอ้เมดเป็นแฟนสักที “ จะรออะไรอยู่วะ ความรู้สึกมึงชัดขนาดนี้แล้ว จะรอให้มีใครมาจีบไอ้เมดก่อนรึไง นิสัยเหี้ยๆแบบมึง คว้าเค้าไว้ก่อนน่าจะดีกว่านะ “

“ แต่ถึงมาทีหลังถ้านิสัยดีกว่าก็โดนทิ้งได้นะ “

“ สัดเดย์ “ ไอ้เจสถบด่าน้องชายผมด้วยสายตาเอาเรื่อง มันถลึงตาใส่อีกคนที่ก็เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก

“ กูไปดูแลแขกละ “

“ ไปเลยสัด จะช่วยก็เสือกช่วยให้แย่ลง “ ส่ายหน้าไปมาเซ็งๆ ผมแอบยกยิ้มกับท่าทางของพวกมันที่อยากจะให้ผมสารภาพรักและขออีกคนมาเป็นแฟนเหลือเกิน  ในความคิดพวกมันคงรอให้ผมทำเองไม่ไหวแล้วเลยต้องวางแผนพูดปลุกใจกันหน่อย

นึกถึงใบหน้าหวานที่ยิ้มเขินมากมายกับคำพูดของผม คนที่เริ่มทำให้ตัวผมเริ่มไม่เป็นตัวผมไปทีละนิด จากที่ไม่เคยง้อใคร ผมง้อมัน ไม่เคยใส่ใจใคร ผมใส่ใจมัน ผมให้ทุกอย่างกับมันอย่างที่ไม่เคยให้ใคร ผมมั่นใจว่าผมรู้สึกมากกว่าคำว่า ชอบหรือถูกใจไปแล้ว แต่ว่า..

“ บอกตอนนี้มันจะดีเหรอวะ เมดคงยังไม่พร้อม “

“ ทำไมมึงถึงคิดแบบนั้น “

“ มันเพิ่งเลิกกับแฟน มึงจะให้กูไปบอกเค้ายังไง “ ภายในใจนั้นยังคงเสียใจอยู่มันไม่ได้ตัดขาดได้ภายในไม่กี่วัน ต่อให้พูดชัดขนาดไหนว่า เลิกกันแล้ว แต่ความรู้สึกมันอยู่ข้างใน ยังไงเค้าก็ยังรู้สึกแค่ไม่แสดงออกมาก็เท่านั้น อีกคนที่กำลังอยู่ในระยะทำใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว

“ ไม่เกี่ยวหรอก “ ไอ้เจบอก “ มึงเป็นคนคิดมากเรื่องเล็กๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้อาฟเพื่อนกูถ้าอยากได้อะไรมันจะคว้าไว้เลยแบบไม่ลังเล มึงไม่รู้จักคำว่ารอ เพราะมันจะคิดเสมอว่า มันเจ๋งพอที่จะทำให้เค้ารักมันได้ “ ผมยกยิ้มกับคำพูดของพูดที่บรรยายถึงตัวผม แม้มันจะไม่ถูกต้องไปทั้งหมดก็ตาม “ มึงเป็นคนแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ แล้วมึงจะกลัวอะไร มั่นใจหน่อยสิวะ ก็อย่างที่มึงเป็น “

“ คงเพราะคนนี้ กูไม่ได้คิดว่า ถ้าไม่รักก็คงไม่เป็นไร “ ผมยกยิ้มจางๆตอนที่ยกขวดเบียร์ขึ้นมาดื่ม “ กูว่า กูคงเป็น ถ้าเมดมันปฎิเสธ “

“ งั้นเหรอวะ “ เพื่อนผมยิ้มก่อนจะดึงแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม

“ ที่กูเคยกล้าได้กล้าขนาดนั้น เพราะกูมันก็แค่คนคนนึงที่เคยรอแล้วผลลัพธ์มันเหี้ย กูเลยไม่คิดรออะไรอีกถ้าถูกใจใคร อีกอย่างคนพวกนั้นกูกล้าได้กล้าเสียเพราะไม่ได้เสียใจอยู่แล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นยังไง “

“ พอเข้าใจอยู่ “

“ แบบนี้รึเปล่าวะ “ ผมเอ่ยถามอีกคน “ อาการที่เค้าเรียกว่า เรากำลังจริงจังกับใครสักคน “

“ คงจะใช่ “

“ ถ้าเป็นมึงจะทำยังไง ถ้ามึงเป็นกู “

“ ก็คงทำไปตามที่อยากจะทำแบบไม่ลังเล เพราะกูก็ไม่รู้จะรอเหี้ยอะไร “ เจว่า “ ถึงเมดจะไม่รู้ว่ามึงคือคนที่แอบส่งนมช็อคโกเล็ตให้มันทุกวันสมัยม.ปลาย แต่ใช่ว่าตอนนี้มันจะไม่ชอบมึง กูว่ามันก็ดูชอบๆมึงอยู่ ถ้าเป็นเวทีมวยก็คงผลัดกันออกหมัดลองเชิงกันอยู่ก็เท่านั้น “

“ ไอ้สัดเอม “ ผมสถบออกมาตอนที่หันไปหาไอ้เจมันก็ยิ้มกว้างพลางโบกมือถือไปมาราวกับจะบอกว่าคนที่กุมความลับครั้งนั้นได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มันฟังผ่านมือถือเครื่องนี้แล้วเรียบร้อย

“ ไล๊น์ “

“ ไอ้สัด “

“ กูไม่ล้อมึงหรอก พี่นมช็อกโกเล็ต “

“ ไอ้พวกหน้าเหี้ย กูบอกแล้วให้เก็บเป็นความลับ “ ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ผมยกขวดเบียร์ขึ้นกินก่อนจะเหลือบไปมองบาร์เทนเดอร์สองคนที่ยืนอยู่ไกลออกไป “ ไอ้สองตัวนั่นรู้มั้ย “

“ ไม่รู้ กูไม่ได้บอก “

“ อย่าเสือกไปบอก “

“ ไม่บอกหรอก กลัวมันเรียกมึงว่าพี่นมช็อกโกเล็ต ฟังแล้วแสลงดูจะตายไปสัด “

“ ไอ้สัด เงียบปาก “ ไอ้เจหัวเราะถูกใจตอนที่ผมด่ามัน มือที่ยกแก้วเหล้าตรงหน้าตัวเองขึ้นกินก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ เป็นกู กูบอกเมดไปแล้วว่าชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น แฉความเลวของไอ้เชี้ยบินให้ถึงที่สุด “

“ แล้วจะได้อะไรวะ “ ผมถามมันกลับ “ คนฟังมันรู้สึกดีเหรอวะที่ตัวเองถูกหลอกแล้วเข้าใจผิดมาตลอด หรือมันกลับไปแก้ไขอะไรได้ถึงต้องไปบอกมันว่าเคยเกิดอะไรขึ้น “

“ บทจะพระเอก เพื่อนกูก็โคตรของโคตรพระเอกเลยสัด “

“ กูแค่ไม่เห็นว่าบอกไปแล้วจะมีอะไรดีก็แค่นั้น “

เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้ เวลามันไม่ได้ย้อนกลับหลัง ทุกอย่างตอนนั้นหลงเหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำ ผมไม่ได้เจ็บปวดอะไรแล้ว แต่กลับกันผมคิดว่าถ้าบอกอีกคนไปมันอาจจะเจ็บปวดที่ยินอะไรแบบนั้นก็ได้ ‘ นี่กูโดนหลอกมาตลอดเลยเหรอ ‘ เมดคงคิดแบบนั้นถ้ามันได้ฟัง และถ้าเป็นแบบนั้นก็อย่าเอาอดีตที่เคยเห็บปวดมาเสียใจกับปัจจุบันเลย

เอาจริงๆตอนนั้นจะเรียกว่าอกหักก็คงไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง คล้ายกับว่าผมเล่นบอลและครองบอลอยู่ในสนามมาตลอด แต่สุดท้ายเพื่อนร่วมทีมที่มีจุดหมายเดียวกันคือการทำลูก ก็มาแย่งบอลลูกนั้นก่อนจะยิงเข้าประตูไป ความดีใจที่ทุกคนโห่ร้องต่างให้ความสนใจแต่ผลลัพธ์ว่าใครเป็นคนยิงเข้า แต่ไม่เคยมีใครเอ่ยถามเลยว่า ก่อนจะยิงเข้าใครมันเลี้ยงบอลลูกนี้มา

                                                                            แล้วนั่นก็คือผม ในตอนนั้น

จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นเวลาหลังเลิกเรียนตอนอยู่ ม.6 เทอมสอง โรงเรียนของผมไม่ได้อยู่ใกล้กับโรงเรียนของอีกคนมากถึงขนาดจะเรียกได้ว่าตรงกันข้ามถ้ามองในมุมของแผนที่ เรียกว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้กันมากกว่า แต่พวกเรามักเรียกโรงเรียนนั้นว่า โรงเรียนตรงกันข้าม เหมือนเรียกๆต่อกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“ มายเฟรนนนนนนนนน วันนี้กูไม่มีซ้อมบาส ไปหาไรแดกกัน “ เอม เพื่อนตัวสูงนักกีฬาชมรมบาสของโรงเรียนวิ่งพุ่งเข้ามากอดคอผมกับไอ้เจที่เดินอยู่ข้างกันบนตึกและกำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน

“ ทำไมกูต้องไปวะ “ เจถามเซ็งๆก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง “ แล้วที่มึงเชื่องช้าอยู่ในห้อง คือทำเชี้ยไรอยู่ “

“ ก็เอมมี่กำลังถามเพื่อนๆในชมรมไงคะพี่เจ ว่าเอมมี่ต้องไปซ้อมบาสอะเปล่า “

“ กูขอตัวไปอ้วกนะ “ ผมที่ทำทีจะเดินออกไปแต่ก็โดนไอ้เชี้ยเอมมี่ลากกลับมายืนที่เดิม

“ อย่าเฉยเมยกับช่วงเวลาว่างของเพื่อนที่แสนจะน่ารักคนนี้จะได้มั้ยละสัด “

“ ขี้เกียจ “ ผมบอก อยากจะกลับบ้านจะตายห่าอยู่แล้ว ลงเกมส์ไว้เมื่อคืนไม่รู้ตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว คิดว่าจะพนันเล่มเกมส์กับไอ้เดย์น้องชายที่อยู่ม.4 สักหน่อย

“ กูก็ขี้เกียจจะกลับไปนอน “ ไอ้เจบอกเสริม ก่อนเสียงถอนหายใจจะดังขึ้นมาถ้าให้เดาเนื้อหาดราม่าคงเริ่มจากตรงนี้

“ ทั้งๆที่กูว่างแท้ๆ แต่ไม่มีเพื่อนรักคนไหนของกูที่จะอยากอยู่กับกูเลยเหรอ  กูกำลังจะย้ายไปเรียนอยู่ออสแล้วแท้ๆ เราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ จะไม่ได้นั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกัน จะไม่ได้กลับบ้านด้วยกันเหมือนสมัยม.ต้น แต่พวกมึงก็ยังเลือกที่จะกลับบ้านและทอดทิ้งเพื่อนอย่างกูที่นานๆทีจะมีเวลาว่าง ”

“ ไว้จะไปตายเมื่อไหร่มึงก็มาบอกอีกทีแล้วกัน “

“ ฮ่าๆๆๆ “ ไอ้เจหัวเราะถูกใจเสียงดังกับคำพูดของผม

“ ไม่เอา พี่อาฟไม่เช่งเอมมี่สิค่ะ เอมมี่จะอยู่! ”

“ รำคาญสัด “ ดึงมือมันออกผมเร่งฝีเท้าเดินลงไปจากตึก แต่ทว่าก็โดนคนที่อยากจะไปกินขนมหลังเลิกเรียนให้ได้อย่างไอ้เอมกอดคอรั้งไว้อีกครั้งอยู่ดี

“ มึงจะไปไหน ต้องไปกินขนมกับกู “

“ ไปหาไรกินที่โรงเรียนฝั่งตรงข้ามกันดีกว่า “

“ เออไปๆ “ พอไอ้เจเสนอไอ้เอมมันก็พยักหน้ารับทันที ส่วนผมก็แค่โดนลากมาอีกทีไม่ได้อยากจะมาเลยสักนิด

ถนนหลังโรงเรียนตรงกันข้าม เหมือนสถานที่รวมของเด็กสองโรงเรียนที่จะมาหาขนมกินกันหลังโรงเรียนเลิก บ้างก็มีเรียนพิเศษต่อที่ตึกสูงฝั่งข้างๆเลยต้องมาหาอะไรรอท้องก่อน ที่ตรงนี้ก็เลยเหมือนจะเป็นศูนย์รวมของเด็กสองโรงเรียนขนาดย่อมก็ว่าได้ แล้วส่วนใหญ่ที่พบรักกันก็ตรงนี้แหละ รวมถึงผมด้วย

 สองฝั่งถนนที่ผมกำลังยืน มีรถมาขายขนมเต็มไปหมด สารพัดของที่เด็กๆชอบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ขนม แม้แต่คาเฟ่เล็กๆก็เปิดกันอยู่แถวนี้ อยากจะกินแบบร้านหรือยืนกินแบบรถเข็นก็เลือกได้ตามใจชอบ

“ อยากกินโตเกียววะ คนน้อยพอดี เดี๋ยวกูมา “ ไอ้เจมันพูดขึ้นก่อนจะวิ่งไปแบบไม่รอใคร ตรงหน้าร้านโตเกียวเจ้าอร่อยที่มีไส้ให้เลือกเป็นสิบ

“ แม่งดูอยากกินกว่ากูคนชวนมาอีก สัดเจ “ ไอ้เอมว่าผมก็ยกยิ้มกับคำพูดมัน ก็จริงอย่างที่อีกคนพูด “ รอมันตรงนี้ก่อนแล้วกันนะมึงแล้วค่อยไปคาเฟ่ตรงนู้น “

“ อื้ม “ ขานรับสั้นๆ ผมก็มองอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหยุดสายตากับคนกลุ่มนึงที่ยืนอยู่อีกฝั่งนึงของถนน
 
กลุ่มเด็กผู้ชายสามคนที่ดูจากชุดคงจะเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนฝั่งตรงข้าม หนึ่งในคนที่กำลังหัวเราะสนุกสนานนั้นมีคนคนนึงที่ผมรู้สึกสะดุดตา คนตัวขาวกับแก้มกลมที่ระเรื่อด้วยสีแดงอ่อนๆเพราะอากาศข้างนอกที่ค่อนข้างร้อน แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังยิ้มตาปิดจนแทบจะเป็นขีดแบบมีความสุขเหลือเกิน

 มองคนคนนั้นอยู่สักพัก มันนานจะลืมไปแล้วเป็นเวลาเท่าไหร่กันที่ผมมองเค้า เผลอยิ้มไปกับท่าทางน่ารักพวกนั้น ก่อนจะมองแบบสังเกตเค้าไปทั้งตัว จดจำยี่ห้อกระเป๋าเป้ที่เค้าสะพายอยู่ทั้งสองข้างบนไหล่ สังเกตไปถึงมือที่กำลังหิ้วถุงเซเว่นแล้วถามกับตัวเองในใจว่า ในนั้นจะมีอะไรอยู่

“ มึงมองอะไรวะอาฟ “ เสียงทุ้มของคนที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยถาม ผมปรับสีหน้าที่กำลังยิ้มให้กลับมาเรียบเฉยเหมือนเดิม “ ไรวะ ? มึงมองไร ? เมื่อกี้กูเห็นมึงมอง มองเด็กกลุ่มนั้นอ๋อออออออ “ รอยยิ้มกว้างแซวกันผมก็หันไปด่ามันยิ้มๆ

“ สายตาดีนักนะมึงไอ้สัดเอม “

“ สนใจเหรอวะ “ มันถามย้ำก่อนจะยักคิ้วให้

“ ไม่ได้สน “

“ ตอแหลลลล “ มันลากเสียงก่อนที่ผมจะหันไปมองทางอื่น แล้วตอนที่คิดว่าเพื่อนข้างๆไม่ได้มองตามแล้วนั้น สายตาของผมก็หันไปมองเค้าอีกครั้ง ผมว่าผมชอบคนยิ้มแบบนั้นนะ ‘ มันน่ารักดี ’  “ กูว่ามึงมองวะอาฟ “

“ ไอ้สัดเอม “

“ มึงมองคนที่อยู่ตรงกลางใช่มั้ย คนตรงกลาง ที่ขาวๆหน้าตี๋ๆหน่อย “  ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร เผลอคิดไปว่าวิธีนี้จะทำให้เพื่อนหยุดถามหยุดสนใจ แต่ก็เปล่า “ กูไปถามชื่อให้ เดี๋ยวกูมา “ ไม่ต้องฟังเสียงตอบตกลงของผม คนเจ้ากี้เจ้าการอย่างไอ้เชี้ยเอมก็เดินข้ามถนนตรงไปหาคนกลุ่มนั้นทันที แล้วเท่าที่นึกออกตอนนั้นผมก็รีบเดินหนีจากจุดที่ยืนเข้าไปหาไอ้เจที่ร้านขายขนมโตเกียวทันที

แอบยืนเอียงตัวเหลือบมองเพื่อนมาจากหน้าร้านขายโตเกียวที่มีคนกลุ่มนึงต่อแซวซื้ออยู่  คนที่ยังคงยิ้มแย้มคุยกับคนกลุ่มนั้นที่มีท่าทางจะหวงเพื่อนแบบเอาเรื่อง แต่ทว่าก็ไม่มีใครสู้ความหน้าด้านของเพื่อนผมได้หรอก อะไรที่สัดเอมอยากรู้ สัดเอมก็ต้องได้รู้อยู่แล้ว

ผมเห็นคนที่ผมสนใจเอ่ยอะไรออกไปนิดหน่อย ด้วยรอยยิ้มเขินๆ คิดว่าคงเป็นชื่อของเจ้าตัวเองที่ไอ้เอมเอ่ยถาม มันยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาคนกลุ่มนั้นที่ก็มีแค่คนเดียวที่ดูใจดียิ้มตอบกลับมัน ต่างจากอีกสองคนที่ทำหน้าหงุดหงิดแบบไม่ชอบใจเท่าไหร่

เพื่อนผมเดินข้ามถนนกลับมาก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยทักเพื่อนร่วมชมรมตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอ แล้วมันคนนั้นในวันนั้นก็คือ ไอ้บิน ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร เอมมันก็คงไม่ได้คิด มันยืนคุยกับไอ้บินสักพักก่อนจะโบกมือลาแล้วมองซ้ายดูขวามองหาผม ที่พอเห็นว่ายืนอยู่หน้าร้านขายโตเกียว มันก็เดินตรงเข้ามาทันทีด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ อย่าเสียงดัง “ ผมบอกมันก่อนที่อีกคนจะพูด มันหุบปากก่อนจะเอียงตัวมากระซิบ

“ ชื่อเมด อยู่ม.หก เรียนศิลป์คำนวณเหมือนเราเลย “
 
“ เหรอ “ พยักหน้ารับเพื่อนที่หันไปสนใจขนมโตเกียวที่เพิ่งเสร็จใหม่ๆจากเตาในถุงของไอ้เจที่ยืนคอยอยู่นาน

เอมไม่ได้สนใจผมแล้ว มันหันความสนใจไปเถียงกับเพื่อนอีกคนเพื่อแย่งขนมกิน ผมก็เอาแต่มองคนคนนั้นที่กำลังโดนเพื่อนล้อจนหน้าแดงไปหมด คนตัวขาวที่ทำทีไม่สนใจดึงถุงที่ถืออยู่ในมือขึ้นมาก่อนนมช็อกโกเล็ตที่อยู่ในถุงนั้นจะถูกเจาะแล้วอีกคนจะก้มลงดูดมันเข้าไป ผมยิ้มตอนที่เห็นท่าทางนั้นอยู่นาน ในสมองก็มีแต่คำว่า เมด เต็มไปหมด ‘  คนอะไรวะแค่ชื่อยังน่ารักเลย ‘ 

“ มองไรวะไอ้เชี้ยอาฟ “ ไอ้เจเอ่ยถามผมที่ก็หันไปมองพวกมันแบบยิ้มๆเพราะมีความสุข เอื้อมมือไปหยิบโตเกียวในถุงขึ้นมากินก่อนจะเดินนำออกไป

“ เสือก “

“ เอ้า ไอ้สัดขนมกูมั้ยละ ไอ้เหี้ยยยยยยย “

“ ขี้เหนียวจริงๆเลยยยย “ ก็อย่างที่ไอ้เอมบอกไอ้เจ ขี้เหนียวจริงๆไอ้เชี้ยนี่ แต่ว่าขนมที่ได้กินวันนี้ก็อร่อยดีวะ เหมือนจะอร่อยกว่าทุกครั้ง

“ พรุ่งนี้มากินกันอีกมั้ย กูเลี้ยงเอง “
 

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

   พาตัวเองมายืนอยู่หน้าร้านขายขนมโตเกียวเป็นวันที่สามแล้วหลังจากวันนั้น แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของคนที่อยากเจอ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าต้องเสียค่าขนมให้เพื่อนสองตัวเป็นข้ออ้างไปวันละหลายสิบบาทอย่างไร้ความหมาย แล้ววันนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองคงต้องแห้วอีกเหมือนวันก่อนๆ

“ จะไม่ออกมาหน่อยเหรอวะ “ ผมบ่นกับตัวเองอยู่ในใจ อยากเห็นรอยยิ้มนั่นจะตายอยู่แล้ว ทุกวันนี้หลับตาลงก็เห็นแค่หน้าเค้า ไม่รู้จะถูกใจอะไรนักหนา แต่ความจำในสมองก็ไม่ลบออกไปสักที

ถอนหายใจออกมาเซ็งๆตอนที่หันไปมองเพื่อนสองคนที่กำลังยืนคุยกับลุงคนขายอย่างออกรสโดยเฉพาะไอ้เอมที่พูดจอไม่หยุดปาก หันกลับไปมองที่เดิมอีกครั้งด้วยอารมณ์เซ็งๆ แต่แล้วครั้งนี้ ผมก็ต้องเบิกตาขึ้นและยิ้มกว้างออกมาทันทีตอนที่เห็นใครคนที่อยากเจอ

วันนี้ก็ยังถือนมช็อกโกเล็ตขวดนั้นเหมือนเดิม  มือข้างนึงถือขวด อีกข้างก็ก้มหน้าลงเจาะขวดนมแต่ยังไม่ทันจะเอาขึ้นปาก เด็กเหี้ยกลุ่มนึงที่กำลังวิ่งเล่นกันก็ชนมันเข้าอย่างจัง ผมชะงักตอนที่เห็นแต่ก็ทำได้แค่ยืนมองอยู่ตรงนั้น อีกคนไม่ได้ล้มแต่แค่นมมันโดนชนกระเด็นไป ใบหน้างอเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนชนที่ก็ก้มหน้าลงขอโทษมันอยู่หลายครั้งด้วยความตกใจ วันนี้ไม่มีเพื่อนมันมาด้วยถ้ามีคิดว่าคงจัดการด่าไอ้คนพวกนั้นจนสำนึกผิดไม่ทันแน่ๆ

“ ไม่เป็นไร “ ผมจับใจความสำคัญของอีกคนที่พูดได้แค่นั้น มันส่ายหน้าไปมาทั้งๆที่ใบหน้าน่ารักฉายความหงุดหงิดใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดแต่อีกคนคงแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

เด็กคนที่ชนเดินออกมาส่วนอีกคนก็ทำได้แค่ก้มเก็บขวดนมที่ตกอยู่เดินเอาไปทิ้ง แล้ววินาทีนั้นผมก็คว้ามือไอ้เอมที่กำลังยืนคุยกับคนขายไม่หยุดให้วิ่งออกมาจากร้านขายโตเกียว

“ เดี๋ยวๆ ไปไหนของมึงเชี้ยอาฟ “ ลากมันวิ่งข้ามถนนแบบรีบเร่ง ผมแทบจะไม่ได้ดูรถให้ดีด้วยซ้ำ พุ่งตรงเข้าไปในเซเว่นก่อนจะหยิบนมช็อกโกเล็ตที่มันเหมือนกันกับที่อีกคนทำตกเดินมาจ่ายเงินที่เค้าเตอร์แล้วยัดใส่มือไอ้เอม
“ อะไร ? ให้กูเหรอ “

“ เอาไปให้เค้า “ บอกมันสั้นๆ ตอนที่เดินออกมาจากเซเว่นผมเชิดหน้าไปหาใครบางคนที่กำลังจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยท่าทางที่ยังเซ็งไม่หาย

“ ให้ใคร “ คนโดนสั่งมองซ้ายดูขวา

“ เมด “ บอกเพื่อนตัวเองอีกคนก็ทำตาโตล้อเลียนผมนิดหน่อย แต่ก็พยักหน้ารับเข้าใจ “ ไปเร็ว “

“ กูต้องบอกอะไรเค้าด้วยมั้ย แล้วกูต้องบอกอะไรดี บอกว่า อาฟเตอร์ห้องสี่เพื่อนเราฝากมาให้ “

“ บอกแค่ว่าเพื่อนฝากมาให้ “

“ ไรวะ “ ผลักมันออกไปจากหน้าเซเว่น ก่อนจะถีบส่งท้ายไปอีกที ไอ้เอมวิ่งออกไปส่วนผมก็แอบมองมันมาจากหน้าเซเว่น

“ เธอ “ อีกคนเอ่ยเรียกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน ไอ้เอมเรียกดังขึ้น “ เมด “ แล้วตอนนั้นเจ้าของชื่อก็หันมา ท่าทางที่ดูตกใจนิดหน่อยแต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มให้ ผมรู้สึกว่าเมดคงจำมันได้ “ จำเอมได้มั้ยที่เมื่อวานมาถามชื่อน่ะ “

“ จำได้ “ เค้าตอบ แล้วนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงของเค้าชัดขนาดนั้น “ มีอะไรเหรอ “

“ คือเพื่อนเราชอบเมดอะ เพื่อนเราก็เลยฝากมาให้ “  หัวใจของผมเต้นแรงตอนที่เห็นอีกฝ่ายเขินจนหน้าแดงไปหมด เมดยิ้มกว้างก่อนจะเม้มริมฝีปากของตัวเองตอนที่เอื้อมมือมารับนมที่เพื่อนผมยื่นให้ ไอ้เอมมันก็ย้ำ “ กินด้วยนะอย่าทิ้งละ “

“ อื้อ “ พยักหน้ารับแบบว่าง่าย ก่อนจะตั้งคำถามกลับ “ แล้วเพื่อนเอมชื่ออะไรละ “

“ มันไม่ให้บอกอะ เดี๋ยววันไหนมันให้บอก เราจะมาบอกเมดนะ “

“ โอเค ได้ “

“ งั้นเราไปนะ อย่าลืมกินละ เพื่อนเราที่ชอบเมดฝากให้นะ “ ย้ำอีกครั้งนึงก่อนจะวิ่งดี๊ด๊ากลับมาหาผมที่ก็เดินกลับเข้าไปในเซเว่นเพราะกลัวว่าใครคนนั้นจะเดินตามมามองแล้วรู้ว่าเป็นใคร

ผ่อนลมหายใจออกมาโล่งๆ ยืนยิ้มกับชั้นวางของในร้านเหมือนคนบ้าคนนึง คิดถึงใบหน้านั้นที่กำลังยิ้ม แก้มแดงๆที่กำลังเขิน เข้าใจความหมายของคำว่ามีความสุขจนหัวใจมันพองโตก็วันนี้

“ เชี้ยอาฟ กูก็หามึงไปเถอะ ไอ้สัด “ ไอ้เอมเข้ามาหาผมก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มกว้างออกมา “ กูเอานมไปให้เมดเรียบร้อย มันยิ้มด้วยมึง ยิ้มกว้างน่ารักมากๆ แก้มนี่แดงไปหมด สงสัยจะเขิน กูย้ำด้วยนะว่า เพื่อนกูที่ชอบเค้าฝากมาให้ เค้าถามชื่อมึงด้วย บอกเลยมั้ย บอกเลยมั้ย พี่อาฟเตอร์ห้องสี่ศิลป์คำนวณ “

“ ไม่ต้องบอกหรอกไอ้สัด “

“ ทำไมวะ บอกๆไปเลย “

“ ค่อยบอก “ อยากจะเห็นรอยยิ้มแบบนี้ไปเรื่อยๆก่อน ผมแค่รู้สึกว่าถ้าบางทีเค้ารู้ว่าผมเป็นใคร อาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะงั้นให้ไปเรื่อยๆไปแบบนี้ก่อน แล้วค่อยบอกตอนที่ใกล้เรียนจบแล้วน่าจะดีกว่า
 
“ ก็ตามใจมึง “

“ เออมึง พรุ่งนี้เอานมไปส่งให้กูอีกนะ “

“ จัดไป “ ไอ้เอมดีดนิ้วแล้วชี้หน้าผมก่อนจะพยักหน้ารับ ผมยิ้มออกมาตอนที่นึกถึงใบหน้านั้นอีกครั้ง อยากจะให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจังเลยว่ะ อยากเห็นรอยยิ้มน่ารักนั่นอีกครั้งแล้ว

นมช็อกโกเล็ตถูกส่งไปให้อีกคนทุกวันหลังเลิกเรียน จนเหมือนว่าวันไหนที่ไอ้เอมมาสาย คนรอรับก็มักเป็นฝ่ายยืนรออยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ทำทีเป็นชะเง้อหา บ้างก็เดินไปซื้อขนมตรงร้านใกล้ๆแต่ก็พยายามยืนให้ตัวเองเด่นๆเพื่อให้คนส่งนมสังเกตได้ชัดๆ ผมแอบยิ้มกับท่าทางแบบนั้นได้ทุกวันอย่างไม่มีเบื่อตรงอีกฝากหนึ่งของถนน และมันก็เหมือนกับวันนี้ที่อีกคนกำลังเดินวนไปวนมาตรงที่เดิม มือสองข้างกำสายเป้สะพายไหล่ มันเป็นท่าทางน่ารักที่ชวนให้ผมยิ้มเหมือนอย่างเคย

แล้วก็คล้ายกับจะเป็นกิจวัตรของผมไปแล้วเหมือนกัน ที่ทุกวันจะเดินมายืนดูใครอีกคนเดินวนไปวนมาคอยคนส่งนมอยู่ที่อีกฝากนึงของถนน ผมชอบมองแววตาที่ชะเง้อหากับปากแหลมๆที่ทำท่าเซ็งๆเพราะมาคอยอยู่นานแล้วแต่ถึงอย่างงั้นก็ยังมารอทุกวัน

ครืน ครืน

เสียงมือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋าผมเอามันออกมาดูก่อนจะพบว่ามันเป็นโปรแกรมแชทจากเพื่อนสนิทที่ส่งมา เอมส่งข้อความมาให้ผม ‘ ไปรอที่เซเว่นได้เลย ‘

“ เจเดี๋ยวกูมา “ ผมหันบอกอีกคนที่ยืนรอขนมโตเกียวอยู่ ก่อนจะเดินข้ามถนนไปที่เซเว่นฝั่งตรงข้าม ซื้อนมที่แม้แต่พนักงานยังจำได้เธอยิ้มให้ผม ก่อนที่ผมจะส่งต่อให้ไอ้เอมที่เดินเข้ามาพอดี “ เอาไป “

“ โอเค “  นมอยู่ในมือเพื่อนสนิทที่เดินออกไป ส่วนผมก็ออกมายืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมมองดูมันที่กำลังจะเดินเอานมขวดเดิมไปให้อีกคน แต่วันนี้มันกลับไม่เหมือนทุกวัน

กลุ่มเด็กชมรมบาสสองสามคนเดินข้ามถนนตรงเข้ามาด้วยท่าทีคึกคัก คนที่อยู่ด้านหน้าคือไอ้บินที่กำลังโดนเพื่อนผลักๆดันๆให้เดินออกไปตรงหน้ามันที่อยู่ในท่าทางเขินๆ ไอ้เอมที่ยืนอยู่แถวนั้นก็เอ่ยทักมัน

“ อ้าว พวกมึงจะไปไหนกัน “

“ ยืมไปทำพล๊อบหน่อย “ บินพูดกับเพื่อนผม ก่อนจะคว้าเอานมขวดที่อยู่ในมือไป มันเดินตรงไปที่อีกคนที่ตอนนี้ทำได้แค่ยืนหน้าแดงแล้วมองไอ้บินที่กำลังเดินตรงเข้าไปหา มาถึงตรงนี้เมดคงเข้าใจไปแล้วครึ่งนึงว่า บินเป็นคนฝากนมมาให้มันเพราะไอ้เอมก็เป็นเพื่อนของอีกคน

“ ไอ้บินมันจะไปสารภาพรักกับเด็กผู้ชายคนนั้นเว้ย “ หนึ่งในเพื่อนที่ดันหลังคนที่เอานมไอ้เอมไปบอกพลางชี้ไปที่เมด และตอนที่ได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็แค่กำสายกระเป๋าของตัวเองแน่นขึ้น

“ เดี๋ยวๆ ไอ้สัด “ เสียงโวยวายที่ขัดกับเสียงที่กำลังจะพูดห้ามของไอ้เอม ทุกอย่างอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างวุ่นวายพอดู 

ฉากสารภาพรักหวานๆนั่นเริ่มต้นด้วยการที่หนุ่มร่างสูงดีกรีเด็กชมรมบาสยื่นนมขวดนั้นที่ผมซื้อส่งไปให้เจ้าของแววตาเรียวที่อยู่ตรงหน้า เมดเหลือบมองอีกฝ่ายก่อนจะเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น แก้มแดงจัดนั่นไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขเหมือนเดิมอีก แล้ววินาทีต่อมานมขวดนั้นก็ถูกยื่นไปให้

“ ฉันชอบนาย เป็นแฟนกันมั้ย “ คำพูดสารภาพรักที่ไม่ได้ยืดยาวถูกพูดออกไป แววตาเรียวที่เบิกกว้างขึ้นในตอนที่มันเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย แก้มที่แดงอยู่แล้วก็แดงจัดมากขึ้นไป ก่อนเสียงอ้อมแอ้มจะถามออกไปด้วยความเขิน

“ งั้นนายคือคนที่ฝากนมนี่มากับเอมทุกวันใช่มั้ย “ คำถามที่ไม่คิดว่าอีกคนจะเอ่ยถามออกมา บินชะงักไปครู่นึงในความคิดของมันคงคิดอยู่ว่า ถ้าพูดว่าไม่ใช่คงโดนปฎิเสธ และแน่นอนว่ามันไม่อยากจะเป็นแบบนั้น ด้วยนิสัยไม่อยากจะเสียหน้าของมันทำให้อีกฝ่ายแค่ยกยิ้มก่อนจะตอบออกมาได้หน้าตาเฉย

“ ใช่ ฉันเอง “ พูดแค่นั้นก่อนจะส่งยิ้มกว้างไปให้ มันถามย้ำ “ เป็นแฟนกันนะ “

“ อื้ม  ลองคบกันก็ได้ “ อีกฝ่ายตอบรับแค่นั้นก่อนเสียงโห่ดีใจของเพื่อนในชมรมบาสของคนสารภาพจะร้องดังขึ้นมาด้วยความดีใจ

ผมยืนมองดูคนที่กำลังแก้มแดงจัดกว่าครั้งไหนๆที่ได้รับนมของผม ร่างทั้งร่างของผมมันชาไปหมด หัวใจที่มองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกราวกับถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก ผมไม่รู้จะพูดอะไรทุกอย่างที่เห็นทำให้เจ็บปวดจนแทบจะพูดออกไปเป็นคำไม่ได้

 รอยยิ้มกว้างที่เคยเป็นความสุขของผม กำลังยิ้มออกมาเหมือนทุกครั้ง มันยังคงน่ารักเหมือนเดิม แต่กลับไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขเหมือนเดิมอีก

“ อาฟ กูขอโทษ กูห้ามพวกมันไม่ทัน “ เอมเดินหน้าเศร้าเข้ามาหาผม มันคงรู้สึกผิดที่ไม่สามารถห้ามอะไรคนพวกนั้นได้เลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมไม่โทษมันหรอก เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่ผิด ก็คงเป็นผมที่ทำอะไรเชื่องช้า

“ ไม่ใช่ความผิดของมึงหรอก “ ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ไอ้เจที่กำลังยืนกินโตเกียวไปด้วยแล้วยืนมองเหตุการณ์สารภาพรักนั่นไปด้วย ผมเอ่ยเรียกมัน “ เจ ไปเถอะ “

“ เมื่อกี้พวกมึงเห็นมั้ย ไอ้บินเพื่อนไอ้เชี้ยเอมมันไปสารภาพรักกับเด็กโรงเรียนตรงกันข้ามด้วย “ อีกคนว่าไอ้เอมก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะตะโกนออกไปด้วยความหงุดหงิด

“ ไอ้เชี้ยบินไม่ใช่เพื่อนกู! “ มันว่าก่อนจะกอดคอผมด้วยแววตาเศร้าๆ เสียงพูดที่เหมือนจะร้องไห้ของมัน “ ไอ้อาฟตังหากเพื่อนกู “

“ อะ เมื่อกี้แฟนไอ้บินหันมามองทางเราด้วย “ เจว่าก่อนจะยืนนิ่งอยู่นาน “ หน้าตาน่ารักดีนี่หว่า ขาวๆ ตี๋ๆ ดี “

“ ไปเถอะมึง “ ผมพูดย้ำพวกมันอีกครั้ง ก่อนที่เราจะเดินออกไปจากตรงนั้น

   ทุกอย่างสำหรับผมมันดูเทาไปหมดในช่วงเวลานั้น ผมที่เงียบไปต่างจากทุกครั้งจนเพื่อนที่นั่งเรียนข้างกันอย่างไอ้เจยังถามด้วยความสงสัยว่าเป็นอะไรรึเปล่า ในสมองมันว่างเปล่า มีแค่คำไม่กี่คำที่ผมถามย้ำตัวเองแต่ก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อวานเป็นเรื่องจริงเหรอวะ ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย แล้วนี่กำลังเจ็บปวดอยู่แบบนี้ ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย

   กริ้ง กริ้ง

เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียน ผมดึงตัวเองออกจากภวังค์ของความเศร้าโศกนั่น ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งในห้องเรียนคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายเตรียมเดินออกไปแบบไม่คอยใคร มันต่างเมื่อหลายวันก่อนที่ผมจะรอเพื่อนสนิทตัวเอง เพราะเรามีนัดไปกินขนมโตเกียวที่หลังโรงเรียน แต่หลังจากวันนี้คงไม่ต้องแล้ว

“ วันนี้ไม่ไปกินโตเกียวเหรอวะ “ เจถาม ผมก็หันไปส่ายหน้าให้มัน

“ กูกลับละ จะรีบไปเล่นเกมส์กับไอ้เดย์มัน “ โกหกเพื่อนไปแค่นั้นอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อะไรอีก มันแค่พยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผม

“ มีอะไรก็บอกกูได้ “

“ อื้ม “ ยักคิ้วให้มันแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น มันเจ็บจนพูดไม่ออกเหมือนโดนต่อยอัดจนจุกแล้วลุกขึ้นไม่ไหว

 ผมเข้าใจถึงความเศร้าที่เจ็บปวดอยู่ในใจได้อย่างดีก็วันนี้ คำพูดที่บอกว่ามันเป็นแผลที่มองไม่เห็น เจ็บปวดยังไงก็ทายาไม่ได้ ได้แต่อดทนมันอยู่แบบนั้น แม้จะอธิบายเป็นคำพูดออกไปไม่ได้ดีนักว่าเป็นยังไง คงต่างกันไปในแต่ละคนที่รู้สึก แต่สำหรับผมในตอนนี้ มันรู้สึกหนัก หนักอยู่ในใจของผม คล้ายกับมีอะไรสักอย่างถ่วงมันไว้จนหน่วงไปหมด

“ เชี้ยอาฟ จะกลับบ้านแล้วเหรอวะ “ เสียงของไอ้เอมที่เอ่ยทักผมตอนที่กำลังเดินผ่านสนามบาส อีกคนที่อยู่ในชุดซ้อมผมพยักหน้ารับ ก่อนจะโกหกไปแบบเดียวกันกับที่ทำกับไอ้เจ

“ จะกลับไปเล่นเกมส์กับไอ้เดย์ “

“ เจอกันพรุ่งนี้มึง “

“ อื้ม “ ขานรับแค่นั้นผมเดินออกมาจากตรงนั้น

ก้าวขาเดินออกมาช้าๆ มันไม่รู้จะเร่งรีบไปเพื่ออะไร มันไม่มีอะไรให้ต้องรีบร้อนอีกแล้ว ไม่มีคนจะมายืนคอยนมช็อกโกเล็ตของผม ไม่มีรอยยิ้มที่อยากเจอ ไม่มีท่าทางดีใจที่ทำให้ผมมีความสุข

เงยหน้าขึ้นมาตอนที่ได้ยินเสียงพูดคุยคุ้นเคยที่ดังเข้ามาใกล้ ราวกับถูกต่อยอัดแรงๆอีกครั้ง ตอนที่เห็นคู่รักที่เพิ่งสารภาพรักกันเมื่อวานนี้เดินเคียงข้างกันมาด้วยรอยยิ้มที่กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข มองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บรรยายออกมาเป็นความเจ็บปวดไม่ถูก

แก้มสีชมพูที่ผมชอบ รอยยิ้มกว้าง เสียงที่กำลังเอื้อยเอ่ยมันถูกมอบให้ใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเค้าทั้งหมด

ตุบ ตุบ ตุบ

เสียงลูกบาสที่กำลังเดาะลงกับพื้นในโรงยิมได้ยินที่ผมได้ยิน คล้ายกับเสียงหัวใจของผมตอนที่เห็นภาพนั้น หัวใจที่กำลังถูกบีบรัดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก  ‘ ถ้าคนที่ยืนข้างเค้าเป็นเรามันก็คงดี ‘

ผมพูดกับตัวเองแบบนั้นตอนที่คนทั้งคู่เดินผ่านตัวผมไปเพราะเราไม่ใช่คนรู้จักกัน ผมไม่ใช่คนซื้อนมขวดนั้นให้เค้า ไม่ได้มีตัวตนเลยในความทรงจำของอีกคน

ก้าวขาเดินออกมาที่ถนนเส้นเดิม ผมไม่ได้ตรงกลับบ้านอย่างที่บอกใครๆ ร้านโตเกียวที่คนก็ยังเยอะเหมือนเดิม ผมหยุดอยู่ที่เดิมมองไปอีกฝั่งถนนที่วันนี้ไม่มีใครคนเดิมมาคอยยืนชะเง้อหาคนส่งนมของผมอีกต่อไปแล้ว มันเป็นแค่พื้นที่ฟุตบาทว่างเปล่าที่ไร้ผู้คน

‘ ถ้าวันนั้นกล้าที่จะหยุดยืนอยู่ตรงนี้ก็คงดี วันทีไอ้เอมไปถามชื่อของอีกคนแล้วผมก็หยุดยืนรอฟังคำตอบอยู่ตรงนี้ ก็คงดี อย่างน้อยถึงอีกคนจะไม่ชอบแต่ก็ยังรู้ว่าเป็นผมที่สนใจมัน ’

ข้ามถนนไปอีกฝั่งนึง ผมเดินเข้าไปในเซเว่นหยิบนมขวดเดิมที่เคยหยิบ เอามาคิดเงินเหมือนเมื่อวานที่ทำ แต่วันนี้ผมแค่ถือมันออกมาแล้วหยุดยืนอยู่ที่ที่เคยแอบมองปฏิกิริยาตอบรับของอีกคนอยู่ทุกวัน แอบมองรอยยิ้ม แอบมองท่าทางเขินๆ

‘ ถ้าวันนั้นให้ไอ้เอมบอกชื่อไปก็คงดี ‘

‘ ถ้าวันนั้น ผมกล้าที่จะเดินออกไปสารภาพว่าชอบต่อหน้าเค้า นั่นคงดี อย่างน้อยบางทีพื้นที่ข้างๆกัน อาจจะไม่ว่างเปล่าแบบนี้’ 

แต่คงพูดได้แค่ว่า ‘ ถ้า ’  ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ย้อนอะไรกลับมาไม่ได้อีก  ‘ เค้าก็แค่ไม่ใช่ของเรา ’ ผมพูดกับตัวเองก่อนจะก้มหน้าลงมองขวดนมที่ถืออยู่ในมือ ได้เวลาบอกลากันแล้ว พรุ่งนี้คงไม่ได้ซื้อให้อีก และก็คงเป็นเช่นนั้นตลอดไป ถอนหายใจออกมาอีกครั้งผมโยนมันลงไปในถังขยะ

ทุกอย่างมันน่าเศร้า

เศร้าอยู่ในความรู้สึกที่ว่า แม้แต่ในความทรงจำของเค้าก็ยังไม่มีผมอยู่
นมทุกขวดของผมกลายเป็นของคนอื่นในความทรงจำของเค้า
ไม่เหลืออะไรสักอย่างเลยที่เป็นของผม แม้แต่ในความทรงจำก็ยังไม่มีตัวตน
.
.
.
“ อาฟ ถามจริง มึงไม่กลัวว่ามันจะเหมือนเดิมอีกเหรอวะ “ ไอ้เจที่นั่งอยู่ข้างๆในผับตอนนี้เอ่ยถามผม “ เมดเข้ามาใกล้มึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ทำตามหัวใจตัวเองหน่อยเหรอวะ “

“ ไม่ต้องกลัว “ ผมบอกหันไปยกยิ้มให้อีกคน “ คราวนี้กูจะไม่ปล่อยให้มันหนีไปไหนอีกแล้ว “
...............................................................................
สงสารพี่อาฟ #กัดผ้าเช็ดหน้า
ถามว่าพี่อาฟผิดอะไร คือมันไม่ผิด แล้วถามว่าเมดผิดมั้ย ก็ไม่ผิดอีก นั่นแหละ เหมือนแค่ว่า เส้นที่เราเดินในตอนนั้นมันเป็นเส้นที่ขนานกัน เราเลยมาเจอกันไม่ได้ สงสารพี่อาฟ แม้ขณะนี้ ความทรงจำตอนนั้นเมดยังไม่รู้เลยว่าเป็นพี่ #น้ำตา แต่ไม่เป็นไรนะคะ เมดก็มีความทรงจำของพี่ในตอนนี้ บางทีการที่พี่เจอกับเมดตอนนี้มันอาจจะดีแล้วก็ได้
เศร้าวะ อินมากเลย ตอนแต่งนี่แบบ ร่ำร้องคำว่าพี่อาฟสามสิบครั้งต่อเนื่องด้วยความสงสาร
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
เจอกันอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้ค่ะ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอบนี้เฮียห้ามช้านะ เดี๋ยวโดนคาบไป

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
นับถือน้ำใจอาฟนะ  คือแบบพระเอกมากจ้า ยอมถอยออกมาทั้งที่ตัวเองเจ็บ  โดนปาดหน้าขนาดนั้นยังทนได้  คราวนี้อย่ายอมนะอาฟสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดตั้งเป็นผล


สงสารเมดนะ  ความประทับใจจนยอมเป็นแฟนกับบินน่าจะเริ่มจากการที่เอมไปถามชื่อ เอมส่งนมให้ คงเข้าใจไปว่าคนที่ตกลงใจคบคงเป็นคนที่หวัง แต่มันดันผิดพลาดไปหมด ถ้ารู้ความจริงคงเจ็บชิปหาย พอคิดถึงจุดนี้ยิ่งรู้สึกว่าอาฟโคตรพระเอกอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อาฟ นายแมนอ่ะ
พี่นมช็อกโกแลตตัวจริง
แล้วเมดจะรู้เรื่องนี้อีกไม่นาน
บินต่างหากที่ฉวยโอกาส

ครั้งนี้อาฟอย่าช้า และอย่าชะล่าใจนะ

อยากอ่านต่ออ่ะค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
นี่แหละที่ว่าคนเราถ้าเจอสิ่งใดทีถูกใจแล้วให้รีบคว้าไว้มาเก็บกับตัวอย่ารีรอผลัดวันประกันพรุ่งคอยมาเอาก็ได้ไม่หายไปไหนหรอกเพราะคิดแบบนี้ไงถึงพลาดมาเสียใจทำไมไม่คว้าไว้ก่อนอย่าลืมอาจมีคนถูกใจเหมือนกันรอโอกาสสอยแย่งมา ตอนนั่นอาฟพลาดแต่ตอนนี้มีโอกาสรีบคว้าซะพ่อพระเอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2018 13:32:49 โดย Chompoo reangkarn »

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ครั้งนี้อย่าให้พลาดนะอาฟ  เมดควรรู้เรื่องบินนะจะได้ตัดใจแบบไม่เหลือเยื่อใย

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ๊ยย สงสารพี่อาฟจังเลยค่าาาา พี่นมช็อกโกแลตของน้องเมด
ตอนนั้นพี่อาจจะพลาด ตอนนี่พี่อย่ารอนะคะ ลุยค่ะเดี๋ยวเมดหนีไปอีก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สงสารพี่อาฟ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


 :m15:    :m15:    :m15:   :m15:   :m15:

อาฟ……พ่อพระเอกเอ๊ยยยยย

อย่าท่าเยอะละ. จับให้มั่นยึดให้แน่นนะคราวนี้



 :z10:   :z10:   :z10:   :z10:   :z10:   :z10:


ออฟไลน์ t152_rakjai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนนี้แบบ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด