( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 482817 ครั้ง)

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อยากเป็นน้องเมดเลย

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แหมมมมมม มีความอยากให้เค้าอยู่ด้วย :hao3:
ตอนนี้สัดพี่ฮาฟน่ารัก o13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ janny_j

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :jul3: ชอบๆ อีพี่อาฟ มึงเสียฟอร์มทุกเรื่องแล้วนะ ยอมๆไปเถอ 5555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ค่ะ พ่อคนปากแข็ง แต่ใจไม่แข็งพอ
ยังไม่ได้รักนะ แต่หวงมาก ห้ามใครยุ่ง
และเรียกร้องให้เมดมารับผิดชอบด้วย
ถามว่าเมดรู้ตัวไหม ก็พอเดาได้ แต่มาแบบนี้มีงงเด้อ

เมดน่ารัก ทุกคนยินดีต้อนรับมากเลยนะ ว่าที่สะใภ้ทีม

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ชอบมากกกกกเรื่องนี้ อาฟคือที่สุด

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น่ารักมากเลยอาฟ o13 จีบเลยๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกมากๆค่า :katai2-1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ฮ่า ๆๆๆๆ สัดพี่ แม่งน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ทำเพื่อเขาขนาดนี้~

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
รักเค้าขนาดนี้ ยังไม่พูดอีก แต่ก็ยังชอบพี่อาฟอยู่ดี :oo1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปูเสื่อรอจ้ะ อิอิ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 17

เสียงแก้วกระทบน้ำแข็งที่ยกขึ้นดื่ม เหล้าสีอำพันไหลลงไปในคอ บทเพลงที่ถูกเปิดมันเพราะจนทำให้คนหลายคนนั่งนิ่งเงียบแล้วก็ฟังมันอยู่แบบนั้นราวกับไร้คนรอบข้างเหมือนกำลังจมลึกลงไปกับเนื้อหาของเพลงที่อาจจะตรงกับชีวิตจริงไม่บทใดก็บทหนึ่ง แต่กลับกันกับคนบางกลุ่มที่ไม่ได้สนใจในบทเพลงอะไรนั่นเลยอาจเพราะเนื้อหาของบทสนทนาในกลุ่มเพื่อนนั้น มันน่าสนใจกว่า

 สำหรับผมเสน่ห์ของผับอยู่ที่ตรงนี้ ภายในพื้นที่เดียวกันแต่ความรู้สึกของทุกคนกลับแตกต่างกัน แตกต่างแต่ทว่าก็อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว

ผมลดแก้วเหล้าลงบนที่รองแก้วตรงหน้าหลังจากดื่มหมด สบสายตากับใบหน้าน่ารักที่กำลังยืนมองแก้วเหล้าที่เหลือแต่น้ำแข็งของผมอยู่ด้วยความสนใจ

“ เอาอีกมั้ย “ เมดเอ่ยถามด้วยเสียงที่ถ้าตอบว่า ไม่ คงดูใจร้ายกับมันเอามากๆ ท้าวคางมองมันที่กำลังจ้องหน้าผม

เผลอคิดว่าตัวเองเมาเหล้ารึเปล่า แต่ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเพราะก็เพิ่งกินไปแค่สองแก้วเท่านั้น ปกติเป็นคนคอแข็งอยู่แล้ว เหล้าปริมานแค่นั้นไม่น่าทำอะไรผมได้ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าวันนี้คนตรงหน้า มันดูน่ารักจังวะ

สายตาคงพิกลพิการไปแล้วแน่ๆ ถึงได้มองใครคนนี้น่ารักขึ้นทุกวันอย่างไร้สาเหตุและเหตุผล

วันนี้เลขาของผมลงมาจัดการเรื่องสต๊อกเหล้าของบาร์ มันบอกว่าอยากถ่ายภาพขวดเหล้าในบาร์เอาไว้ด้วย จะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น แล้วผมก็คิดว่ามันควรเป็นแบบนั้น คนที่แม้แต่ว๊อดก้ากับคอลเทลแบบสำเร็จยังแยกกันไม่ออกว่าต่างกันยังไง ก็น่าจะต้องทำอยู่ แต่ดูเหมือนตอนนี้การถ่ายรูปขวดเหล้าจะไม่ใช่สิ่งที่มันตั้งใจทำอีกต่อไปแล้ว เพราะการทดลองเป็นบาร์เทนเดอร์ต่างหากที่มันกำลังสนใจ

“ เอามาอีกแก้ว “ ผมบอก อีกคนก็ยิ้มกว้างก่อนจะเปิดขวด เมดยกแก้วเหล้าของผมลงไปตั้งที่เค้าเตอร์ในบาร์ รินเหล้าขวดที่ไอ้อัยย์เปิดให้ผมเมื่อครู่ใส่ลงไป เหมือนเด็กเล็กๆที่สนใจเวลาเห็นพ่อแม่ทำอะไรก็อยากจะลองทำบ้าง เป็นอีกมุมของมันที่ชวนให้ยิ้มได้ไม่ยาก แต่เอาจริง ตอนนี้ไม่ว่าจะมุมก็ยิ้มไปหมดนั่นแหละ ยิ้มจนเริ่มรำคาญตัวเองแล้วว่าจะยิ้มอะไรหนักหนา

“ นี่ครับ “ ยื่นแก้วมาให้ผม ไอ้เจที่เดินเข้ามานั่งข้างๆ มันยิ้มก่อนจะแซว

“ บาร์เทนเดอร์ผับนี้น่ารักจังเลยอะ “

“ กูอ๋อออออ “ ไอ้เดย์ที่ยืนอยู่อีกฝั่งเอานิ้วจิ้มแก้มตัวเองก่อนจะหันมาหาเราที่ก็ได้แต่ทำหน้านิ่งบอกบุญไม่รับ แต่เมดกลับหัวเราะก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

“ รับอะไรดีครับ “

“ สเมอร์นอฟขวดนึง “

“ คือไรอะ “ ถามเสียงเบาๆ ทั้งผมทั้งไอ้เจก็ได้แต่ก้มหน้ายิ้มก่อนจะหัวเราะออกมา “ หัวเราะอะไรกันวะ กูก็ไม่รู้จักอะ “ เมดว่าติดงอน

“ ว๊อคก้าแต่งกลิ่นสำเร็จรูป “ ผมบอกมันก่อนจะเชิดหน้าไปข้างหน้าตรงตู้เหล้าด้านหลัง “ ไอ้อัยย์เอาสเมอร์นอฟให้ไอ้เจมันขวด “

“ ครับเฮีย “  อัยย์หยิบขวดเครื่องดื่มที่สั่ง มันยื่นให้ไอ้เมด “ เชิญเปิดแล้วยื่นให้แขกด้วยนะครับ คุณบาร์เทนเดอร์ฝึกหัดของผม “

“ โหหห ใจมึงได้ “ ไอ้เจบอก “ ก็ไม่ได้หวั่นหัวจะหลุดออกจากบ่าเลยสักนิด “

“ อะ นี่ครับ “ ยื่นขวดเหล้าให้ไอ้เจเรียบร้อย อีกคนก็ยกขึ้นดื่ม “ ทำไมไม่คิดสั่งค๊อกเทลกันบ้างวะ สั่งสักแก้วสิ กูอยากทำ “

“ ไม่ได้ให้มาเล่น มาทำงาน “ คนโดนดุหน้างอเพิ่มขึ้นอีกหน่อย มันที่ถอนหายใจออกมา เพื่อนผมก็บอก

“ มาๆ กูสั่งเอง “

“ นี่ครับเมนู “ แผ่นพลาสติกดีไซน์สวยที่เขียนเมนูไว้ถูกยื่นมาให้จากอีกคนที่อยากลองทำอย่างกระตือรือร้น เมดยิ้มกว้างก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผมที่หลุดยิ้มออกมาทันที

“ นี่บาร์กูเป็นที่เล่นของเด็กไปแล้วรึไง “

“ เอาน่า บาร์คนยังไม่เยอะ “ ไอ้เจบอก “ เรานั่งอยู่มุมนี้ ไม่มีใครมาสังเกตหรอก มืดจะตายห่ากูบอกให้ติดไฟเพิ่มก็ไม่เชื่อ “

“ มุมนี้มันมุมกู กูชอบนั่งเงียบๆมืดๆ “ บอกแบบนั้นเมดก็ขมวดคิ้วไอ้อัยย์ที่เห็นท่าสงสัยมันก็อาสาอธิบาย

“ เฮียเค้าชอบนั่งกินเหล้าคนเดียวเปิดไฟสลัวๆ แล้วฟังเพลงชิวๆอะพี่เมด เค้าไม่ชอบให้สาวหันมามองหันมาสนใจเค้าเยอะ เพราะว่าถ้าเค้าสนใจเดี๋ยวเค้าหันไปมองเอง แต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ผลหรอก ยังไงสาวก็เข้ามาจีบอยู่ดี คิคิ “

“ เสือกนะมึง “ ผมบอกเพื่อนน้องชายตัวเอง แต่อีกคนก็แค่ยกมือปิดปากไว้ทำทีเหมือนผิดไปแล้วที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา
“ ขอสั่ง mojito แล้วกัน “  สิ้นเสียงคำสั่ง บาร์เทนเดอร์ฝึกหัดก็หันไปหาไอ้อัยย์ที่หลุดยิ้มออกมา

“ มาๆ เดี๋ยวสอน “ ส่ายหน้าไปมาพวกมัน แต่ถึงอย่างงั้นก็ได้แต่บ่นเบาๆ

“ ตามใจกันเข้าไป “

“ อันดับแรก “ เมดเอ่ยบอกเสียงเบาๆคนสอนก็เอาแต่ยิ้ม

“ อันดับแรกก็เอาแก้วทรง hi ball ขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คืออันนี้ “ อัยย์หยิบแก้วก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็นที่อยู่ด้านล่างหยิบมะนาวขึ้นมาหนึ่งลูก

“ พี่เมดทำเองนะ น้องอัยย์แค่บอก พี่เมดอยากทำ “ ว่าแบบนั้นอีกคนก็ตามใจ มันส่งมะนาวให้

“ ก็หั่นมะนาวครึ่งนึง “

“ ก่อนหั่นต้องคลึงมันก่อนมั้ย เห็นแม่ชอบทำ “

“ ก็ได้นะ “ คลึงมะนาวอยู่บนโต๊ะสักพัก เขียงกับมีดก็ถูกส่งมาให้ “ ตัดแบ่งครึ่งครับ “

“ ตัดแบ่งครึ่ง “ พูดไปมือก็ทำไปอย่างคนไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แค่ดูการจับมีดก็พอรู้ว่าไม่น่าเก่งงานครัวเท่าไหร่ ถ้าลองให้ทอดไข่ให้กินตอนเช้า ต้องได้ไข่ไหม้ๆแน่นอน “ แล้วไงต่อ “

“ แล้วก็ตัดแบ่งเป็นสี่ชิ้น “

“ สี่ชิ้น โอเค “

“ เอามะนาวที่หั่นแล้วใส่แก้วครับ “ ทำตามที่บอกอย่างว่าง่าย เมดหันไปยิ้มให้คนข้างๆที่ก็ยิ้มตอบกลับก่อนจะยื่นใบมินท์ให้ “ เด็ดใบมินท์ครับ เอาสัก สิบใบ “

“ ต้องเลือกใบสวยๆมั้ย “

“ กับแขกคนอื่นต้องเลือกใบสวยๆ แต่ของพี่เจใบเน่าๆก็ใส่ได้พี่เมด “

“ เอ้า! ไอ้สัด กูก็แขกไง ถึงจะจ่ายค่าเหล้าแบบลงบิลค่อยหักจากเงินเดือนแล้วยังไงวะ  ก็จ่ายมั้ยอะครับ“ เพื่อนผมเอานิ้วชี้เข้าหาตัวเอง “ อัยย์ นี่พี่เจไงลูก นี่พี่เจเอง “

“ เดี๋ยวเมดเลือกใบสวยๆให้ “

“ นี่ไง น่ารักทั้งหน้าตาและการกระทำที่แท้จริง “ ผมเหลือบมองเพื่อนตัวเองที่ยิ้มกริ่มให้บาร์เทนเดอร์ฝึกหัดตรงหน้า ก่อนที่มันจะหันมาหาผมแล้วเปลี่ยนสีหน้าทันที “ กูไม่ได้อะไร แค่ชมเฉยๆ “

“ รำคาญพวกมึง “ ผมว่า แม่งก็ชอบแสดงเว่อร์ คิดว่ากูจะทำอะไรพวกมึงแค่เพราะไอ้เมดยิ้มให้รึไง ประสาท

ถึงแม้จะยอมรับว่าหงุดหงิดก็จริงอยู่ที่อยากจะให้รอยยิ้มนั้นเป็นของผมคนเดียว แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นที่เพื่อนผมแสดง ไอ้ท่าทางที่จะกลัวผมต่อยหรือทำอะไรที่มันรุนแรงมันแสดงกันเว่อร์เกินไป

“ เด็ดเสร็จแล้วก็ตบ “

“ ตบ ? “ เมดเอียงหน้าถาม ไอ้อัยย์ก็สาธิตให้ดูโดยการเอามืออีกมือนึงมาตบอีกมือนึงคล้ายกับการตีสเลท “ โอเค เข้าใจละ “
“ ตบเสร็จใส่ลงไปในแก้ว แล้วก็ใส่น้ำตาลสองช้อนชา “

“ น้ำตาลสองช้อนชา “ อีกคนว่าก่อนจะตักน้ำตาลจากขวดที่น้องเลื่อนมาให้ “ พูนๆมั้ย หรือพอดีๆ “

“ พูนๆก็ได้ “

“ น้ำตาลสองช้อนชาพูนๆ “

“ แล้วก็รับอันนี้ไป “ ไม้บดถูกยื่นมาให้ “ กดๆ บดๆ ไม่ต้องแรงนะ กดแล้วบี้มันใช้แรงแบบพอประมานไม่ต้องเครียดแค้นใคร “

“ โอเค “ พยักหน้ารับยิ้มๆ อีกคนก็ทำตามก่อนจะหันไปบอก “ แบบนี้มั้ยครับคุณครู “

“ แบบนั้นแหละครับนักเรียนที่แสนจะน่ารักของผม “

“ หยอดเก่งจริงคนผับนี้ “ เมดบอกพลางส่ายหน้าไปมา

“ ด๋อยสุดก็เจ้าของอะ จีบคนยังไม่เป็นเล๊ย “ เพื่อนผมว่าก่อนอีกคนจะแค่ยิ้มแล้วพูดออกมาด้วยเสียงที่เจ้าตัวคิดว่าเบาคล้ายกับบ่นๆ แต่เปล่า มันกลับดังจนเรียกได้ว่าเป็นเสียงปกติ

“ แต่เค้าก็เป็นคนอบอุ่นออกนะ “

เงยหน้ามองมันที่พูดคำนั้น ผมเผลอยิ้มกว้างออกมาท่ามกลาง เพื่อนและน้องที่ทำตาโตก่อนจะเม้มปากกันไว้แน่นคล้ายอาการของคนอยากกรี๊ดแต่ทำอะไรไม่ได้ไอ้เจไอ้อัยย์สบตากันก่อนจะเอื้อมมือมาจับกันไว้แน่นคล้ายกับบอกกันและกันว่า ‘ มึงรู้สึกเหมือนกูใช่มั้ย ‘ 

เมดเงยหน้าขึ้นจากสิ่งที่กำลังทำตอนที่เห็นทุกคนเงียบ มันมองผมที่กำลังยิ้ม ก่อนจะหันมองอีกสองคนที่เหลือที่กำลังอยู่ในท่าทางแปลกๆ

“ เป็นอะไรกัน “ ถามออกมาก่อนจะเม้มริมฝีปากตัวเองทันที แววตาเรียวดูเลิกลั่กขึ้นมามันคงเผลอคิดขึ้นมาได้ว่าคำพูดเมื่อกี้คงถูกได้ยินเข้าเสียแล้ว และเพื่อย้ำว่าสิ่งที่มันคิดนั้นถูกต้อง เมดก็หันถามคนที่ยืนข้างกันเสียงเบา “ น้องอัยย์ได้ยินเหรอ “

“ ชัดๆเลย “ พออีกคนบอกแบบนั้น มันก็ขมวดคิ้วแล้วเม้มริมฝีปากแน่นขึ้นก่อนจะหันมาหาผม ที่ก็นั่งมองท้าวคางมองมันอยู่

“ มึงก็ได้ยินเหรอ “

“ ไม่ได้หูหนวก “ ตอบมันสั้นๆ อีกคนก็ปล่อยมือจากสิ่งที่ทำทันที มันหันซ้ายดูขวาหมายจะพาแก้มแดงของตัวเองไปทำอย่างอื่นแทนที่จะมายืนอยู่แบบนี้ให้ผมล้อผ่านสายตา

“ ต้อง ต้องไปถ่ายภาพทำสต๊อกเหล้าแล้วสินะ “ คนที่กำลังอายว่าแบบนั้นก่อนจะหันมาบอกคนสอนทำค๊อกเทล “ น้องอัยย์ช่วยทำต่อให้พี่เมดหน่อยสิ “

“ ไม่ได้ “ ผมบอกมัน “ ทำให้เสร็จ มีความรับผิดชอบด้วย “ ร่างที่หยุดนิ่งก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้าผม มันไม่ร่าเริงเหมือนเก่าแล้ว นั่นเพราะอีกคนเขินเกินกว่าจะหันไปมองใคร เมดเอื้อมมือมาจับแก้วเหมือนเดิม มันบ่นเสียงงุบงิบ

“ ชอบแกล้งกูอยู่เรื่อยเลยสัด “ 

ถ้ามันรู้ความจริงว่าเหตุผลที่อ้างเรื่อง ความรับผิดชอบ เป็นเรื่องโกหกมันจะไม่พูดแบบนี้อยู่วะ เพราะความจริง ที่สั่งให้มันยังยืนอยู่ก็มีแค่เหตุผลเดียว คือ ‘ ผมชอบนั่งมองแก้มแดงๆนั่น ‘ มันก็แค่เท่านั้น

“ ทำต่อดีกว่าเนอะ แก้มแดงไปหมดแย้วววว “

“ น้องอัยย์ “ มันเรียกอีกคนเสียงนิ่งก่อนจะหันไปทำหน้าหงุดหงิดใส่

“ ไม่กลัว เพราะน่ารัก “ อีกคนว่าก่อนจะยื่นเหล้ารัมให้พร้อมกับแก้วตวงมาให้ “ รินเหล้าใส่ในนี้เลยครับ ครึ่งออนซ์ คือแค่นี้ “ ชี้จุดที่ต้องรินบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับก่อนจะรินใส่ลงไปในถ้วยตวงก่อนจะเทลงแก้ว

“ เสร็จแล้ว “

“ จากนั้นก็ใส่น้ำแข็งบด “

“ ไม่ต้องเขย่าเช็คๆเหรอ “ เมดถาม อีกคนก็ส่ายหน้า มันคงผิดหวังเพราะอยากจะทำอะไรแบบนั้นมากกว่า

“ คราวนี้ก็ใส่โซดา เอาให้พอเกือบเต็มแก้ว แบบสวยงามนะครับ “

“ เท่านี้ได้มั้ย “ คนเพิ่งหัดทำหันไปถามอีกคนก็พยักหน้ารับ

“ โอเคเลย เท่านี้แหละครับ “ อัยย์พยักหน้ารับ “ แล้วจากนั้นก็เอาช้อนคนๆ ผสมๆ มันหน่อย “

“ ผสมกัน “

“ ไม่ต้องคนแรงนะพี่เมด เอาพอเข้ากัน “ ยืนมองอีกฝ่ายคนอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้าเพื่อบอกให้หยุด “ โอเค พอแล้วครับ “

“ ไงต่อ “

“ ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบมินท์ด้านบน แค่นั้นก็เสร็จแล้วครับ “ อีกคนว่าก่อนจะยื่นถาดรองที่เป็นไม้ให้ “ อันนี้ถาดรองนะครับ ใส่ใต้แก้วแล้วก็ยกขึ้นเสิร์ฟเลย ตอนที่วางแก้วเสร็จก็ วางทิชชูแผ่นนึง วางช้อนแล้วก็หลอด ตามลงไปแบบนี้ “ สอนอีกคนอยู่ตรงที่เค้าเตอร์บาร์ด้านล่าง เมดพยักหน้ารับก่อนจะหยิบแก้วค๊อกเทลที่ตัวเองทำเสร็จยกขึ้นมาบนเค้าเตอร์

“ เสร็จแล้วครับคุณลูกค้า “

“ พี่เมดต้องพูดว่า นี่ครับ mojito “

“ นี่ครับ mojito “ พูดเสร็จก็ยิ้มให้ก่อนจะวางทิชชูลงบนโต๊ะแล้ววางช้อนยาวกับหลอดลงตามตำแหน่งที่อีกคนสอนมา

“ ขอบคุณครับ ชิมแล้วนะ “

“ อื้อ “ แววตาเรียวจ้องมองอีกคนที่ดูดค๊อกเทลแก้วแรกในชีวิตของมันเข้าไป “ เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ย “

“ อร่อย “ เจบอก “ รสชาติอร่อยกว่าทุกครั้งเลย คงเป็นเพราะคนทำแน่ๆ “ ทุกคนตรงนั้นเงียบ แม้แต่คนโดนแซวยังแค่ถอนหายใจออกมาแล้วหันไปยิ้มทางอื่นอย่างเหนื่อยใจ

“ ไม่ต้องหยอดทุกมุขก็ได้มั้ง กูจะอ้วกแทนพี่เมด “ ไอ้อัยย์ว่ามันส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปรับแขกคนอื่นที่ตอนนี้ก็เริ่มทยอยเข้ามานั่งที่บาร์ เมดเองหลังจากเล่นซนในสิ่งที่อยากรู้เสร็จก็เดินไปทำงานต่อ ไอ้เจนั่งหน้าเซ็งอยู่สักพักมันหันมาหาผมที่นั่งปิดปากหัวเราะ
“ หัวเราะเชี้ยไรมึงไอ้สัดอาฟ “

“ ก็ไม่แปลกที่โสด “ ผมพูดสั้นๆ อีกคนก็เอามือท้าวคางตัวเองพลางมองไปที่ร่างเพรียวเช่นเดียวกันกับผม เมดกำลังเริ่มทำงานของมันนั่นคือการถ่ายภาพขวดเหล้าแล้วก็กดพิมพ์ลงไปในไอแพตที่ผมซื้อให้มันเอาไว้ใช้ทำงาน

“ ว่าแต่กู มึงก็ได้มอง ก็ไม่แปลกที่จะยังไม่ได้เค้าเป็นแฟน “

“ สัด “ ผมยกยิ้มก่อนจะดึงแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

“ ได้ข่าวมึงซื้อไอแพตกับมือถือให้เมด “

“ แสนรู้ “

“ เท่าที่สังเกต เมดไม่ได้ใช้มือถือรุ่นนี้แต่อยู่ๆก็ใช้ จะบอกว่าซื้อเองก็ไม่น่าจะใช่ ถ้ามีเงินไปซื้อมือถือ เอามาจ่ายหนี้มึงน่าจะดีกว่า เพราะงั้นก็สรุปได้ว่าต้องมีเสี่ยเจ้าของผับ throw up ที่อยู่ด้วยกันตลอดในช่วงนี้ใจดีช่วยอุปถัมภ์แน่นอน “

“ กูแค่เห็นว่ามือถือมันเก่าแล้ว พ่วงที่ชาร์ตแบตสำรองเกือบตลอดเวลาเลยซื้อให้ “ ผมบอกก่อนจะวางแก้วลงที่เดิม แต่ก็คิดขึ้นมาได้ “ ไม่สิ ไม่ได้ซื้อให้ ออกให้ก่อน แล้วมันก็ผ่อนกู “

“ ทั้งๆที่ตอนแรกก็คงซื้อให้แต่อีกคนไม่เอา “ ผมหันไปมองมันอีกคนก็ยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม ผมแค่อยากรู้ว่ามันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง “ กูเป็นเพื่อนมึงเชี้ยอาฟ คนแบบมึงชอบซื้อคนด้วยเงินจะตายไป ทำไมกูจะดูไม่ออก “ พยักหน้ารับมันไป “ แล้วเป็นไง รู้สึกยังไงตอนใช้เงินซื้อไม่ได้ “

“ โคตรโง่ ซื้อให้ฟรีๆเสือกอยากผ่อน “

“ มึงคิดว่ามันโง่จริงๆเหรอ “ ไอ้เจหันมาเหล่ผม “ ไม่ได้คิดว่าถูกใจเค้ามากขึ้นเหรอวะ “

“ เบื่อมึง ทำไมต้องรู้ใจกูทุกอย่าง “

“ ไม่ได้เริ่มคบกันเมื่อวานนี่หว่า “ ก็จริงของมัน เราคบกันมานานจนควรจะเรียกว่าพี่น้อง หรือไม่ก็ครอบครัว ไม่ใช่แค่เพื่อนสนิท “ แต่ก็ไม่แปลกที่มึงจะถูกใจมากขึ้น เมดก็เป็นอะไรแบบที่มึงชอบ ท้าทายแบบที่ไม่เหมือนคนอื่นที่มึงเคยเจอ มันซื้อไม่ได้ด้วยเงิน แถมยังเป็นคนที่มึงต้องคอยวิ่งตาม คอยดึงให้เข้ามาหา ทั้งๆที่คนอื่นๆ ต่างพากับวิ่งเข้าหามึง “

“ คงจริงอย่างงั้น “

มันมีอะไรหลายอย่างในตัวเองที่ผมเริ่มรู้สึกว่า ยิ่งรู้จักมันเท่าไหร่ ก็ยิ่งชอบ อย่างที่เพื่อนสนิทผมบอกมันไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอ เมดไม่ใช่คนที่วิ่งเข้าหาผม กลับกันเป็นผมต่างหากที่กำลังจะวิ่งเข้าไปหามัน

“ มึงคิดแผนจะจีบเมดยังไงวะ “ เจเอ่ยถามผม ตอนที่มองไปเห็นอีกฝ่ายที่กำลังทำงานด้วยความขยันแบบที่ทำไปยิ้มไปก็ชวนให้ถอนหายใจออกมา “ หนักใจเลยเหรอวะ “ เพื่อนผมแซว “ แต่ก็ไม่แปลก มีแต่คนวิ่งเข้าหามาทั้งชีวิต อยากมีแฟนก็แค่เลือกๆเอาจากคนที่วิ่งเข้ามาหานั่นแหละ แต่พอคนนี้ต้องวิ่งเข้าไปหาแทนมันก็ยากหน่อยนะที่จะเริ่มจีบใคร “

ความจริงผมก็เป็นอย่างงั้น มันยากกับการจะเริ่มจีบใครสักคน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการจีบต้องทำแบบไหน มันไม่ใช่สมัยเด็กที่ฝากเพื่อนให้เอานมไปส่งให้คนที่ชอบ ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่คิดถึงประโยคนี้ในใจ จะว่าไป เรียกว่าจีบ..ได้มั้ยวะ ตอนนั้นน่ะ
“ เออมึง เมื่อวานไอ้เอมมันโทรมาหากูด้วย “

ชื่อที่กำลังถูกกล่าวถึงคือ เอม เพื่อนสนิทอีกคนนึงของเราที่ตอนนี้ย้ายไปเรียนมหาลัยที่ เมลเบิร์น ออสเตเรีย เพราะครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น มันเป็นเพื่อนร่วมม.ต้นของผมที่นอกเหนือจากไอ้เจที่คบมาตั้งแต่ประถมก็มีมันอีกคนที่ผมยกให้เป็นเพื่อนสนิท

“ เหรอ “ ผมเขย่าแก้วเหล้าเรียกบาร์เทนเดอร์อย่างไอ้อัยย์ให้มาเติมเหล้าเพิ่ม ฝาขวดที่ถูกเปิดออกมารินเหล้าที่ผมชอบลงไปให้ก่อนจะเดินกลับไปทำงานที่เดิมต่อ ผมเอ่ยถามไอ้เจ “ แล้วมันว่าไง “

“ ก็บอกว่าคิดถึงกูเหลือเกิน คิดถึงมึงด้วย “

“ เหรอ “ ยักคิ้วให้มัน “ คิดถึงแต่ไม่เคยทักกู “

“ มันพูดเหมือนมึงเลย ฮ่าๆ “ ไอ้เจหัวเราะเสียงดังด้วยความถูกใจ “  ไอ้เอมบอกว่า นี่ถ้าโทรมาหามึง มึงคงสาปแช่งโทษฐานที่ไม่ค่อยติดต่อมา แต่มันก็บอกนะ ว่ามันไม่ผิด มึงไม่ทักมันเหมือนกัน มันเลยบอกว่า งั้นก็หายกัน “

“ สัด “ ผมสถบ “ ทำเหมือนไม่รู้จักกู ปกติกูช่างพูดชอบแชทมากเลยสินะ “

“ เออ กูเล่าเรื่องเมดให้มันฟังด้วยนะ “ ชะงักแก้วที่กำลังจะยกขึ้นดื่ม ผมหันไปมองหน้าเพื่อนที่กำลังเล่า “ กูเล่าว่าตอนนี้มึงกำลังสนใจเด็กบัญชีในผับที่ได้เข้ามาทำงานเพราะถอยรถฝากรอยไว้บนรถมึง ไอ้สัดเอมหัวเราะใหญ่บอกว่า แม่งบอกคงชอบอยู่แล้วเลยลากเข้ามาทำงานรึเปล่า “

“ เล่ารึเปล่าว่าเป็นแฟนเก่าเชี้ยบิน “

“ เพื่อ ? เรื่องเหี้ยๆ ไม่อยากจะเล่าให้มันสยองขวัญ “ เจว่ามันที่ยกแก้วตรงหน้าขึ้น แต่กลับชะงักไปเหมือนคิดขึ้นมาได้ “ กูลืมไปเลยว่าไอ้เอมแม่ง เคยอยู่ชมรมบาสเดียวกันกับไอ้บินตอนสมัยม.ปลายนี่หว่า “

“ อื้ม ฉลาดเหมือนกันนิ แต่เสียดายที่แค่ลืมเล่า ไม่ได้คิดว่าไม่ควรเล่า “

“ ไอ้สัด “

“ แล้วมันรู้มันว่าไง “

“ ก็ขำ แล้วก็บอกว่า ไอ้เชี้ยอาฟแม่งลืมน้องนมช็อกโกเล็ตคนนั้นไปแล้วเหรอวะ “ ผมยกยิ้มกว้างตอนที่ไอ้เจพูดขึ้น มันเป็นรอยยิ้มที่กว้างจนไอ้เจยังหันมาถาม

“ ทำไมวะ พวกมึงแม่งมีเหี้ยอะไรที่ไม่บอกกู “

“ ก็ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องก็ได้มั้งสัด “ ผมว่าก่อนจะถอนหายใจ “ แต่ความลับมันไม่มีในโลกหรอก สักวันมึงก็ต้องรู้ “ แต่ความลับน่าอายแบบนั้น ไม่ค่อยอยากจะให้รู้เลยวะ 

ถ้ามันได้รู้ว่าเพื่อนของมันคนนี้เคยแอบชอบรอยยิ้มของเด็กโรงเรียนข้างๆจนต้องซื้อนมรสที่เค้าชอบไปให้เค้าทุกวันหลังเลิกเรียน มันต้องล้อไม่หยุดแน่ แม้ตอนจบของเรื่องนี้มันจะโคตรเหี้ยก็เถอะ แต่ว่ามันก็ทำให้ผมรู้อย่างนึง ‘ ของที่เป็นของเรา ยังไงสักวันมันก็ต้องกลับมาเป็นของเราอยู่ดี ‘ 

“ น้อง นั่นเด็กบาร์คนใหม่เหรอ “ ผมกับไอ้เจเงยหน้าจากแก้วเหล้าตรงหน้า หันไปมองต้นเสียงที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ห่างกันแค่เก้าอี้สองตัว หนุ่มร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตคล้ายจะเป็นชุดทำงานเอ่ยถามไอ้อัยย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วก็กำลังทำค๊อกเทลอะไรสักอย่างที่ผมคิดว่าคนที่เอ่ยถามน่าจะเป็นคนสั่ง

“ ครับ “ มันที่กำลังงง เอ่ยถามลูกค้าคนนั้นอีกครั้ง 

“ พี่ถามว่า คนนั้นน่ะเด็กบาร์ใหม่เหรอ คนที่อยู่ข้างในน่ะ “ เชิดหน้าเข้าไปด้านในเราที่มองตามกันไป ก็เป็นอย่างที่คิด ผู้ชายคนนั้นกำลังหมายถึงไอ้เมดไม่ผิดแน่

“ อ๋อ ไม่ใช่หรอกครับ “ อัยย์ตอบ มันที่พยายามตัดคำตอบด้วยการตอบสั้นๆ แต่ขึ้นชื่อว่าคนถูกใจ ก็คือคนถูกใจ ผู้ชายคนั้นก็ยังพยายามถามไถ่ข้อมูลจากมันด้วยความอยากรู้จัก

“ แล้วเป็นใครอะ เจ้าของเหรอ “

“ ว่าที่เมียเจ้าของ “ ไอ้เจที่นั่งข้างผมพูดเสียงเบาๆให้ได้ยินกันสองคน ผมก็แค่ยกยิ้ม

“ เอ่อ..” อัยย์หันมาหาเราเหมือนกำลังจะขอคำตอบว่ามันควรตอบว่าอีกคนเป็นใครดี แต่เมื่อไม่มีใครพูดอะไรมันก็แค่ตอบตามที่ควรตอบ “ ฝ่ายสต๊าฟน่ะครับ เค้ามาเช็คสต๊อกเหล้าเฉยๆ “

“ งั้นเหรอ น่ารักจัง “ ลูกค้าบอกก่อนที่ไอ้อัยย์จะยื่นค๊อกเทลที่สั่งไปให้อีกฝ่ายที่ยกขึ้นกินแต่สายตาก็เอาแต่มองคนที่ตัวเองสนใจอย่างไม่วางตา “ น้องพี่ขอกระดาษกับปากกาหน่อยสิ “

“ ได้ครับ “ เพื่อนของน้องชายผมยื่นกระดาษกับปากกาไปให้อีกคน ตอนนั้นไอ้เจก็หันมากระซิบผม

“ เอาเรื่องว่ะสัด ท่าทางจะชอบจริงๆ “ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นแบบนั้น แล้วดูจากท่าทางของผู้ชายคนนั้นก็น่าจะเป็นแบบที่อีกคนชอบซะด้วย พวกหน้าตาแบบหนุ่มหน้าตี๋ดูเป็นคนดี แต่ข้างในเจ้าเล่ห์แบบปากหวานก้นเปรี้ยว   

“ น้อง “ ผู้ชายคนนั้นเรียกไอ้อัยย์อีกครั้ง “ พี่ฝากกระดาษให้น้องคนนั้นหน่อยสิ “ บาร์เทนเดอร์เหลือบมองมาทางผม อัยย์แสดงสีหน้าลำบากใจก่อนจะเอื้อมมือไปรับกระดาษแผ่นนั้น 

มันก็เป็นธรรมดาของผับบาร์ที่เวลาถูกใจใครกระดาษแผ่นเล็กๆนั่นจะถูกเสียบมากับน้ำค๊อกเทลที่ดูน่าจะเหมาะกับอีกคนสักแก้ว ไม่ก็ฝากไปกับพนักงานแบบผู้ชายคนนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จัก ในแบบที่ดูไม่โจ่งแจ้งจนเกินไปจนอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดต่างกันกับการเข้าไปคุยด้วยแบบซึ่งๆหน้า แต่สำหรับผม มองแค่ว่ามันเป็นวิธีการกันหน้าแตกของคนที่ไม่กล้าเดินเข้าไปถามตรงๆก็แค่นั้น

“ พี่เมด “ อัยย์เรียกอีกคนก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นนึงให้ “ ผู้ชายคนนั้นฝากมาให้ “ เชิดหน้าไปเจ้าของกระดาษที่ก็ยกแก้วค๊อกเทลตรงหน้าขึ้นเป็นการทักทายมัน เมดพยักหน้ารับก่อนจะหันไปถามคนที่ยื่นกระดาษนั่นมาให้

“ อะไรเหรอ “

“ เปิดอ่านสิ เค้าเขียนว่าอะไร “ เพื่อนของน้องชายผมบอก “ แต่ก็คงจีบแหละนะ “

“ เค้าบอกว่าเค้าชื่อนัท อยากรู้จักเลย ขอเบอร์ “ เมดอ่านอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกคนราวกับจะขอความคิดเห็นว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี แต่อัยย์มันก็ทำได้แค่ยักไหล่ไม่ได้มีความเห็นอะไรที่จะพอบอกได้

“ ทำอะไรกันวะ “ น้องชายผมเดินมาถามทั้งสองคนที่กำลังยืนอยู่นิ่งๆตรงด้านหลัง

“ มีคนมาขอเบอร์พี่เมด “

“ อ๋อออออ “ เดย์หันมามองผมตอนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ ไหนคนไหน “ มันว่าพลางหันมองไปที่ลูกค้าที่ก็กำลังมองการตัดสินใจของอีกฝ่ายอยู่ ไอ้เดย์พิจารณาผู้ชายคนนั้นอยู่สักพักรก่อนจะหันมาบอกอีกคนแบบยิ้มๆ “ ถ้าสเป็คก็ให้เบอร์ไปเลย พี่เมดก็โสดไม่ใช่เหรอ “

“ อื้ม “ อีกคนพยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองผมก็กำลังมองมันอยู่ใน แววตาที่เหมือนกำลังลังเลว่าจะตอบว่าอะไรดีเมดถอนหายใจออกมา ก่อนจะใช้ปากกาที่เหน็บอยู่ตรงป้ายห้อยพนักงานเขียนอะไรสักอย่างลงไป  มันพับเป็นสี่เหลี่ยมตอนที่ยื่นคืนไปให้ไอ้อัยย์

“ เมด ให้เบอร์ไปจริงๆเหรอวะ “ สิ้นเสียงคำพูดของไอ้เจ ผมก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินตรงเข้าไปด้านหลังของบาร์ทันที

อย่างไม่ทันที่ใครจะได้ตกใจหรือสถบอะไรออกมา ผมคว้าเอากระดาษแผ่นนั้นของมันมากำไว้ก่อนจะหันไปตีสีหน้าหงุดหงิดใส่คนเขียน เมดก็ไม่ได้ผิดอะไรที่จะมีคนมาชอบ แต่ผมกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกในตอนที่รู้สึกว่าในกระดาษแผ่นนั้นอาจจะมีเบอร์ของมันเขียนอยู่ด้านใน

“ มานี่เลยมึง “ บอกมันแค่นั้น ก่อนจะดึงให้อีกคนเดินตามกันออกมา ปลดล็อคประตูทางขึ้นชั้นสามผมลากมันขึ้นมาด้านบนแต่อีกคนกลับพยายามดึงข้อมือตัวเองให้หลุดออกจากการจับกุมอยู่แบบนั้น

“ อาฟ “

“ อยากจะไปให้เบอร์มันจนตัวสั่นเลยนะมึง “ หันไปตะคอกอีกคนก็หยุดนิ่งไปทุกการกระทำที่จะเอ่ยอะไรออกมา ผมเองก็ได้แต่ถอนหายใจสั้นๆก่อนจะส่งยิ้มราวกับดูถูกมันอยู่ “ แรดชิบหาย “

เราที่ยืนอยู่ตรงขั้นบันไดเมดเงยหน้าจ้องผมจากขั้นบันไดที่ต่ำกว่า มันมองมานิ่งๆก่อนจะผ่อนมือตัวเองที่ตอนแรกพยายามดึงออกให้หลุด ทุกอย่างเงียบไปไม่มีแม้ท่าทางใดที่เคลื่อนไหวแม้แต่มือของผมที่กุมมันอยู่ยังคลายความโกรธและความหงุดหงิดนั่นลง เหลือเพียงแค่กุมกันไว้หลวมๆ

“ มึงรู้เหรอว่ากูเขียนอะไรลงไป ถึงมาบอกว่ากูอยากจะให้เบอร์เค้าไปจนตัวสั่น “

ทุกอย่างเงียบผมได้แต่จ้องมองตาเรียวที่เอ่ยถามคำถามนั้นออกมา ใช่ ผมไม่รู้อะไรเลย  ไม่รู้ แต่กลับตัดสินออกไปว่าคนตรงหน้าเป็นคนยังไงจากสิ่งที่ตัวเองแค่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น มืออีกข้างของผมที่กำกระดาษแผ่นนั้นไว้อยู่ ถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มลงเปิดแล้วอ่านมัน

‘ สวัสดีครับผมชื่อนัท คุณน่ารักจังเลย ผมอยากรู้จัก ขอเบอร์ติดต่อได้มั้ยครับ ‘ คำถามที่ถูกเขียนอยู่บนสุดของกระดาษ ถูกตอบด้วยคำตอบที่ไม่ยาวเท่าไหร่แต่ก็สุภาพตามที่อีกคนเป็น ‘ ขอโทษครับ แต่ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ‘

“ มึงชอบใครอยู่เหรอ “ เงยหน้าถามอีกคนออกไป เมดที่กำลังโกรธก็แค่จ้องผมด้วยสายตาผิดหวังกับคำพูดของผมที่เอ่ยพูดกับมันเมื่อครู่

“ ไม่ใช่มึงก็แล้วกัน “ สะบัดมือที่ผมกำลังจับอยู่นั่นออกแล้วตะคอกผมกลับมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด ก่อนจะเดินผ่านขึ้นไปชั้นบนตรงห้องทำงาน เมดเปิดประตูออกแล้วปิดลงเสียงดัง

......................................................................

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
‘ โดนโกรธเข้าให้แล้ว ’   ผมพูดกับตัวเองในใจตอนที่มองไปยังเลขาที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างกัน เมดที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พอใจอะไรทั้งนั้น ในตอนนี้ริมฝีปากแหลมๆของมันเชิดขึ้น มองในอีกมุมนึงมันก็น่ารักดีอยู่หรอก ปกติผมก็ค่อนข้างชอบใจที่มันเป็นแบบนี้ แต่นั่นก็แค่การหงุดหงิดเล็กๆ ซึ่งเท่าที่ดูตอนนี้เหมือนว่ามันไม่น่าใช่

“ สรุปรายจ่ายของเมื่อวานทำรึยัง “ ตั้งคำถามชวนอีกคนคุย เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเลยคิดว่าถามเรื่องงานน่าจะดีที่สุด

“ ส่งไปให้ในอีเมล์แล้วครับ “ เสียงเรียบๆที่เอ่ยตอบ ไม่ได้หันมาสนใจเสียงที่ผมพูดด้วยซ้ำ มือที่กดพิมพ์งานอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทุกอย่างเงียบไปสักพัก

“ จะพักเลยรึเปล่า “

“ วันนี้ไม่พักครับ “ ก็ยังคงเป็นคำตอบที่เรียบเฉยเหมือนเดิม

“ แล้วไม่กินหมูตุ๋นรึไง “ มือที่พิมพ์งานอยู่ชะงักไป มันส่ายหน้าไปมาก่อนจะพิมพ์งานต่อ

“ ไม่กินครับ “

‘ เอาไงดีวะ ถามเหี้ยอะไรอีกดี ’  หมดคำถามที่จะชวนคุยแล้ว ชวนกินของโปรดยังไม่ไปทั้งๆที่เป็นเรื่องที่อีกคนให้ความสนใจที่สุดแล้ว ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าในเมื่อมันสิ้นหนทางที่ตัวเองจะคิดได้แล้ว ก็ควรพึ่งพาคนอื่น ผมยอมรับว่าไม่เก่งอะไรแบบนี้ ไม่เก่งทั้งเรื่องง้อคนและเรื่องชวนคุยอะไรทั้งนั้น

กดเข้าไปในไลน์กลุ่มคนสนิทที่เขียนว่า ‘ ชมรมคนรักพี่เมด ‘  มันเป็นข้อความสั้นๆที่ผมส่งไป [ พวกมึง...ทำไงให้คนหายโกรธวะ ]

[ กูว่าละ ว่ามันต้องถามคำถามนี้สัดพี่ ] เดย์น้องชายผมพิมพ์ตอบเข้ามาคนแรก [ ตั้งแต่เห็นมึงลากพี่เมดออกไป กูก็รู้เลยว่า มึงต้องปากเสียใส่พี่เค้าแน่ๆ ]

[ สันดานพี่ชายมึงอะเดย์ ] เพื่อนผมบอก

[ กูว่ามันไม่เห็นจะแรงตรงไหน ] พิมพ์ตอบออกไปก่อนจะเหลือบมองคนที่กำลังทำงานด้วยใบหน้าเรียบเฉยหรือว่าจะแรงไปวะ

[ งั้นไม่ต้องสน ก็ไม่แรงไม่ใช่เหรอวะ ] ไอ้อัยย์เพื่อนน้องชายบอก [ สนใจไรอะ ชอบเค้าอ๋อ ]

[ เออใช่ ชอบเค้าอ๋ออออออ สนใจเค้าอะ ] น้องผมเสริมก่อนจะตามมาด้วยสติกเกอร์หัวเราะ

[ ถ้าบอกว่าชอบ แล้วจะช่วย บอกมาสิ บอกมา ]

[ แล้วมึงพูดว่าอะไรที่คิดว่าไม่แรง ] เพื่อนผมถามเข้าเรื่อง

[ อยากให้เบอร์มันไปจนตัวลั่นเลยนะมึง แรดชิบหาย ] ข้อความที่ขึ้นอ่านอยู่สักพักก่อนจะมีสติกเกอร์ส่งแทนความรู้สึกจากคนทีได้อ่านมาคนละอัน เป็นท่าทางที่คล้ายจะเหยียดกันอยู่หน่อย แปลได้ว่า ไม่มีใครที่คิดเหมือนผม

[ ก็สมควรโดนโกรธ ] ไอ้เจบอก [ เหมือนมึงด่าเค้าร่าน เค้าแรด ไม่แรงได้ไงวะ ]

[ มึงกล้าว่าพี่เมดแบบนั้นได้ไงวะ จิตใจมึงทำด้วยอะไรไอ้เฮียยยยย ]

[ พี่เมดของน้องเดย์ กูจะฆ่ามึงสัดพี่ มึงกล้ามาว่าพี่เมดของกูได้ไง ]

[ กูรำคาญพวกมึงวะ ] ผมพิมพ์ไปตามตรง [ ตอบคำถามที่กูถาม ]

[ ตอบไปมึงก็เท่านั้น มึงยังไม่รู้สึกเลยว่ามึงผิด ]  เจบอก [ มันไม่มีความหมายที่ต้องช่วย ถ้ามึงยังไม่รู้สึกสำนึกในสิ่งที่มึงทำ ]

[ ช่วยไปครั้งต่อไปก็ทำร้ายพี่เมดของกูอีก สู้ไม่ช่วยตั้งแต่ตอนนี้ พี่เมดก็จะได้ไม่ต้องมาเป็นของมึง ไอ้สัดพี่ ]

[ เบื่อพวกมึง ] ผมบอกก่อนจะปิดมือถือตัวเองไป หันมองคนที่กำลังนั่งพิมพ์อยู่แบบนั้น

“ จะไม่ลงไปกินจริงๆเหรอ “ ผมไม่รู้น้ำเสียงผมเป็นแบบไหน แต่มันทำให้อีกคนมียิ้มเล็กๆที่มุมปากเพียงช่วงวินาที ก่อนจะปั้นหน้านิ่งเหมือนเดิมแล้วพูดออกมา

“ ถ้าหิวก็ลงไปเลย กูไม่หิว “

“ ไม่หิวจริงๆเหรอวะ หมูตุ๋นรอมึงอยู่นะ เดี๋ยวเลี้ยง “ ถามย้ำอีกคนแต่คราวนี้ไม่ตอบอะไรแล้ว เมดแค่ส่ายหน้าก่อนจะนึกขึ้นได้

“ มึงอยากจะให้กูลงไปกินทำไม เดี๋ยวใครเข้ามาขอเบอร์กู มึงก็หาว่ากูร่านว่ากูแรดอยากจะให้เบอร์เค้าจนตัวสั่นอีก ให้กูอยู่ข้างบนนี่แหละ ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องไปอ่อยใคร “

“ ก็ไม่ใช่แบบนั้น “ พูดออกไปอีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมามอง แววตาเรียวที่กำลังจ้องกันอย่างหาเรื่อง

“ แล้วมันแบบไหน มึงจะบอกว่าตัวเองไม่ได้หมายถึงแบบนั้นเหรอ “  ผมเงียบไม่มีคำตอบอะไรออกจากปากผม
จะบอกยังไงดีให้หายโกรธ ก็ตอนนั้นกำลังหงุดหงิดที่มีคนมาชอบมัน แล้วมันเองก็เขียนข้อความตอบกลับไปให้เค้าถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขียนว่าอะไร แต่ความหงุดหงิดทั้งหมดก็เลยทำให้พูดไปโดยไม่ทันคิด ก็รู้ว่าสันดานเสีย เป็นนิสัยเดิมๆที่แก้ไม่เคยหาย อารมณ์ร้อนยังไงก็ยังเป็นอย่างงั้น

หยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้งผมถอนหายใจออกมาก่อนจะสแกนหน้าตัวเองปลดล๊อคมือถือ พิมพ์เข้าไปในไลน์กลุ่มอีกครั้ง อย่าสิ้นหนทางที่จะทำให้อีกฝ่ายหายโกรธด้วยตัวเอง

[ พวกมึง ] ผมเลือกจะทักคำพูดที่ดูไม่เป็นตัวเองลงไป [ คือยอมรับแล้วว่าผิด  ช่วยหน่อย ]

[ ผิดเรื่อง ? ]

[ ไอ้สัดเจ ]

[ อ้าว มึงยอมรับว่าผิด มึงก็บอกมาสิ ว่าเรื่องอะไร ] ถอนหายใจออกมา ผมนิ่งกับตัวเองอยู่สักพักก่อนจะพิมพ์ลงไปอย่างจำยอมเพราะอยากให้อีกฝ่ายให้โกรธ

[ กูพูดไม่ดีกับไอ้เมด กูพูดด่ามันแบบไม่คิดให้ดี ]

[ ทีหลังจะพูดอีกมั้ย ] น้องชายผมถาม [ มาเลยนะน้องอาฟเตอร์ มาให้คุณแม่ตีสามที แล้วทีหลังหนูต้องไม่พูดแบบนั้นอีกนะคะ มันไม่ดี ]

[ ไอ้สัด กวนส้นตีนไอ้เชี้ยเดย์ ] เพื่อนมันบอก [ 55555555555555555 กูนี่คิดถึงเฮียตอนเด็กๆเลยสัด ]

[ กวนตีนนะพวกมึง ] ผมว่า

[ กูตอบให้ ว่าพูดอีก ] เจบอก [ สงสารเมดจนไม่อยากจะช่วยไอ้สัด พอคิดว่าคำพูดมึงอาจจะแรงกว่านี้ กูแม่งอยากหยุดความช่วยเหลือไว้แค่นี้ ไม่รักกันก็ดี เมดมันจะได้ไม่ต้องเสียใจ ]

[ นี่ก็หวงพี่เมดจังเลยยยย พูดวนจนกูจะท่องตามได้แล้วเนี้ยยย ] ไอ้เดย์บอก [ คราวก่อนไหนที่กูห่วงพี่เมดใครมันบอกกูว่า ที่ไหนมีรักย่อมีทุกข์อยู่แล้วเหี้ยอะไรนั่น แล้วนี่คืออะไร ทำไมมาพูดเรื่องนี้อีก ต้องให้กูสอนเหรออออ ]

[ เอาเลยๆ ] ไอ้อัยย์ยุเพื่อนมัน

[ ฟังกูนะพี่เจ มึงอะรู้จักสัดพี่มากเกินไปก็คล้ายๆกูนั่นแหละที่รู้จักสันดานมัน  แต่นี่มึงก็สงสารพี่เมดด้วยไงเพรามึงรู้เรื่องพี่เมดเยอะ แต่คือมึงต้องลดนะ มึงควรให้มันได้ลองกันทั้งคู่ มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ]

[ ช่ายยยยย ไม่ลองไม่รู้หรอก จะสดจะถุงก็เด็ดทั้งนั้น ] อัยย์เสริมเพื่อนมัน

[ คนละเรื่องแล้วไอ้หน้าเหี้ย ]

[ เหรอจ้า โทษน้าพี่เจ ]

[ กูเข้าใจมึงนะพี่เจ มึงเห็นผู้หญิงหลายคนเข้ามาชีวิตสัดพี่ ผู้หญิงพวกนั้นเคยมาระบายกับมึงว่าสัดพี่เป็นแบบนั้นแบบนี้ ถึงกูจะไม่เข้าใจว่า พี่เมดเจอเรื่องอะไรมา หนักหนาสาหัสเท่าไหร่กับแฟนเก่า มึงถึงพยายามให้สัดพี่เป็นคนดีเข้าไว้ทั้งๆที่ไม่เข้ากับหนังหน้ามัน เพราะมึงสงสารพี่เมด แต่ที่กูอยากจะบอกมึงเลยนะพี่เจ คือถ้าคนจะรักกันไม่ว่าเจอเรื่องอะไรมันก็รักกันอยู่ดีนั่นแหละ ]

[ อีกอย่างเลย คือ สันดานยังไงก็คือสันดาน มันอยู่ที่ว่าตอนคบกันแล้ว รักกันจนพยายามปรับตัวเข้าหากันได้มั้ย ประคับประคองความรักไปได้มั้ย อย่างบางทีเรามองว่าคู่รักคู่นี้ไม่เหมาะกันเลยวะ แฟนเหี้ยขนาดนี้ทนได้ไง คำตอบคือแฟนเค้ารับได้ไง เราไม่ใช่ เค้า เราก็ไม่เสือกสิค่ะ เก็ตมั้ยจ๊ะเธอว์ ] ไอ้อัยย์เสริม

[ ด่ากูกันเพลินเลยนะพวกมึง ] ไอ้เจบอกน้องชายผมก็สวนคำพูดของมัน

[ โนด่า ไร้คำหยาบใดๆเลยนะคะคุณเจ แต่แค่อยากให้มึงคิดดู มันก็เรื่องของเค้า มึงไปห้ามให้พี่เมดเสียใจไม่ได้หรอก ความรักไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องใดมันก็ต้องเรื่องนึงแหละที่ต้องเสียใจ มึงเองก็เคยบอกแบบนั้นไม่ใช่เหรอ  ไม่งั้นโลกนี้มันจะมีเพลงอกหักไปทำไมวะ ]

[ เหมือนมึงจะมีสาระที่สุดตั้งแต่เป็นเพื่อนกูมาเลยเดย์ ]

[ มึงก็เช่นกันเพื่อนอัยย์ ]

[ แล้วเมื่อไหนพวกมึงจะเข้าเรื่องกู ] ผมเอ่ยถามพวกมันก่อนจะถอนหายใจออกมา คือมันจะเข้าใจมั้ยว่าผมกำลังกลุ้ม กำลังหนักใจมากแค่ไหนที่ต้องนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องกับอีกคนที่กำลังโกรธผมจนเอาแต่ปั้นหน้านิ่งมันอึดอัดแค่ไหน

[ ก็ขอโทษเค้าสิวะ ] ไอ้เจตอบสั้นๆ [ ขอโทษที่พูดไม่ดี ก็แค่นั้น ]

[ ยากสุดๆ สำหรับสัดพี่กูเลย ]

[ มีวิธีอื่นมั้ย ]

[ ไม่มี พูดออกไปตรงๆเลย ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ  พูดด้วยว่า ต่อไปคงมีอีก อย่าพูดนะมึงว่าครั้งต่อไปจะไม่มี เพราะมันต้องมีแน่ๆ มึงเชื่อกู ]

[ ไอ้สัดพี่เจโคตรจี้ กูชอบบบบบ ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจอะเมด แต่ครั้งต่อไปจะทำอีกนะ ไม่ต้องกลัว ฮ่าๆๆๆๆ ] อัยย์มันพิมพ์เข้ามา ผมก็ถอนหายใจ

‘ จะต้องพูดตรงๆเหรอวะ ‘ คิดอยู่ในใจตอนที่เหลือบมองมัน ผมก็ได้แต่ยกยิ้ม ‘ แทบจะหาความเป็นไปได้ ไม่ได้เลยวะ ‘ เพราะถึงจะอยากทำแค่ไหน คนแบบผม ก็คงไม่กล้าจะทำอะไรแบบนั้น จะเริ่มยังไงยังคิดไม่ออกเลย อยู่ๆพูดออกไปว่าขอโทษเหรอวะ ถอนหายใจออกมา ผมที่พยายามจะพูด แต่มันก็ทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอไปเปล่าๆแบบนั้น ‘ พูดไม่ออกวะ ’

ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งในที่สุดคิดว่าจะลงไปชั้นล่าง อยากหาอะไรสักอย่างมาเป็นตัวช่วยให้การพูดครั้งนี้มันง่ายขึ้น คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันก็เหลือบขึ้นมามอง ผมคว้ามือถือจับที่กระเป๋าหลังของตัวเองว่ามีกระเป๋าตังค์อยู่มั้ย ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำที่ควรพูด

“ มึง “ เอ่ยเรียกไอ้เจที่กำลังนั่งพิมพ์งานกับโน๊ตบุ๊คตัวเล็กของมันอยู่ตรงบาร์ที่เดิมของมัน เพื่อนสนิทหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปพิมพ์งานเหมือนเดิมเท่าที่เห็นเหมือนมันกำลังทำเอกสารติดต่อซื้อขายลิขสิทธิ์เพลงอยู่

“ มีไรวะ จะพูดก็พูดมาเลย กูกำลังยุ่ง “

“ เหรอวะ “

“ เออดิ กูต้องทำเรื่องซื้อลิขสิทธิ์เพลง “ มันว่าก่อนจะหันมาหาผม “ มึงมีไร “

“ จะชวนไปหาไรแดก “

“ พี่เมดอะ “ ไอ้อัยย์บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยถาม ผมเหลือบมองมัน “ อ้ออ ยังไม่ดีกันสินะ “

“ เมดบอกไม่หิว “

“ เค้างอนไง ก็เฮียมึงไปว่าเค้าอะ “

“ ไปเป็นเพื่อนหน่อย “ ผมย้ำกับเพื่อนตัวเอง อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ สามนาที “ มันว่าก่อนจะกดพิมพ์อะไรสักอย่างอยู่แบบนั้น  ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เอามือเท้าสะเอวแล้วมองกดดันเพื่อนอยู่แบบนั้น

“ กูให้สองวิ “

“ รีบร้อนนนนนนนนนน จะไปหาของกินมาง้อไอ้เมดสินะไอ้สัด “

“ เร็วๆ “

“ ปิดก็ได้ ไปเดี๋ยวนี้แหละจ้า “ มันปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง ยื่นให้ไอ้อัยย์ก่อนจะบอก “ ฝากไว้ที่มึงก่อน “

“ เคพี่ “ 

“ พี่อาฟค่ะ “ เสียงของสาวคนนึงเอ่ยทัก ผมที่ก็หันไปมอง เด็กผู้หญิงผมยาวตัวเล็กๆที่เดินเข้ามาด้วยท่าทางเขินๆ เธอมากับเพื่อนในมือที่ถือโทรศัพท์กำไว้แน่น แต่ปากกลับไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักที ผมก็แค่ถอนหายใจเซ็งๆอย่างไร้มารยาท ในช่วงเวลาที่กำลังหงุดหงิด เพราะใจก็เอาแต่ไปคิดเรื่องว่าจะทำให้ใครอีกคนหายหงุดหงิดในตัวผม

“ ขอโทษนะครับ ไม่ว่าง “ เดินนำไอ้เจออกไปจากทางหน้าผับ ผมได้ยินเสียงมันขอโทษสาวคนนั้นแว่วๆ ก่อนจะบอกว่า ผมหงุดหงิดกับเรื่องงานอย่าไปถือสาอะไร ก่อนจะวิ่งตามออกมา

“ มึงแม่ง พอไม่สนใจก็ตอบสาวได้ไร้มารยาทสุดๆไปเลยนะสัด “ เจบอกก่อนจะหันกลับเข้าไปข้างใน “ ป่านนี้ร้องไห้แล้วมั้ง ท่าทางจะยังใสๆ หน้าตาน่ารักด้วย ไม่สนรึไงวะ ชั้นสามว่างมานานไปแล้วมั้ง “

“ ไม่สน “  ผมตอบเพื่อนตัวเองสั้นๆ “ มึงว่าโตเกียว ไอติมไข่แข็ง เครป อะไรน่ากินกว่ากัน “

“ เพราะว่ามีคนที่สนใจกว่านี้เอง “ มันแซว ผมก็หันไปชักสีหน้าใส่มัน “ ไม่เกรี้ยวกราดกับเพื่อนสิครับ “

“ ตอบ “

“ มึงจะกินเองมึงก็เลือกสิวะ อยากแดกอะไรก็ซื้อ “

“ ทำไมมึงแม่งโคตรกวนตีนกูเลยวะ รู้ก็เสือกทำเป็นไม่รู้ หน้าส้นตีน “

“ ฮ่าๆ เกรี้ยวกราดเว่อร์ๆเลยยยย “ มันว่าล้อๆ “ แล้วมึงอะเป็นเหี้ยอะไร พูดดีๆตรงๆไม่ได้เหรอวะ ต้องมาซื้อของไปทำพร๊อบ ไอ้สัด “

“ เออ ไม่ได้ “ ผมบอกก่อนจะก้าวให้เร็วขึ้น อยากให้อีกคนหายโกรธแล้ว เร็วกว่านี้สักวินาทีนึงก็ยังดี
 
“ จะไปแข่งเดินเร็วรึไงไอ้ควายยยยย กูเดินไม่ทันแล้ว “

“ ซื้ออะไรดีวะ “ ผมพูดออกมาตอนที่ยืนอยู่หน้าปากซอย ข้างเพื่อนสนิทที่ยืนหอบๆมันเท้าสะเอวสองข้างมองกันด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ผมมองไปที่บะหมี่หมูตุ๋นเมนูที่อีกคนชอบที่สุด โตเกียววันนั้นที่มันบอกว่าอร่อย แล้วก็เครปที่ต้องต่อคิวนานเป็นชาติ แต่มันกลับยิ้มกว้างออกมาตอนที่ได้กิน

“ กูว่าบะหมี่หมูตุ๋นไอ้เมดชอบ “

“ เครปแล้วกัน “ ผมบอกมัน เพื่อนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะเบิกตาใส่

“ คนเยอะนะไอ้สัด กูขี้เกียจรอเป็นเพื่อนนะ โตเกียวมั้ย คล้ายๆกันอยู่ ไม่มีคน “

“ ไม่ กูจะเอาเครป “

“ แล้วมึงจะถามความเห็นกูเพื่อ ไอ้เพื่อนเหี้ย “

เดินตรงไปที่หน้าร้านเครป ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นคนที่ยืนรอกันอยู่ก็หันมามอง จำได้ว่าวันนั้นไอ้เมดหยิบกระดาษกับปากกาในกล่องข้างหน้ามาจดตอนที่สั่ง  ผมก้มอ่านเมนูมากมายที่อยู่ในนั้นก่อนจะหันไปถามเพื่อน

“ มึงว่าเมดจะชอบอะไรวะ “

“ ฮันน่ออออ “ มันแซวแต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาเล่นกับมันแล้ว “ ได้ยินมึงพูดตรงๆแล้วอยากจะอัดเสียงไปให้ไอ้สองตัวที่บาร์ฟังรวมถึงน้องเมดด้วย “

“ สัดเจ “

“ โอยยยยยย บันเทิงไม่ได้เลย ก็เอาแบบเดิมที่มันแดกดิ  วันนั้นมันแดกอะไร “

“ กล้วย นูเทล่า ฝอยทอง “ ผมบอกก่อนจะขีดลงไปสิ่งที่คิดออกลงไปในกระดาษ ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าวันก่อนมันอยากจะกินอีกอันแต่ว่าไม่ได้สั่ง “ วันนั้นแม่งอยากจะกินอะไรวะ “

“ มึงรีบสั่งหน่อย คนเยอะแล้วไอ้สัด “

“ กูกำลังคิดว่าวันนั้นไอ้เมดมันอยากจะกินอะไรแล้ววะ “

“ กูเลือกให้เองไอ้สัด ชักช้า เอาอันนี้มันต้องชอบ “ ผมไม่รู้ว่าไอ้เจเขียนอะไรลงไปในกระดาษ แต่มันเขียนเร็วมากก่อนจะยื่นให้คนขายที่รับไปก่อนจะยื่นใบคิวมาให้เรา ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ แค่สิบห้าคิวเท่านั้น

“ กูควรลาออกจากผับ แล้วมาเปิดร้านขายเครป จะขายดีอะไรเบอร์นี้ “ ไอ้เจบอกตอนที่ยืนรออยู่ข้างผม

“ มึงทอดไข่ให้ได้ก่อนมั้ย “

“ โอ้โห ดูถูก กูไม่ใช่มึงไงไอ้คุณชาย “ ผมแค่ยกยิ้มกับคำตอบของเพื่อน เรายืนข้างกันเงียบๆ ก่อนไอ้เจจะเป็นคนชวนผมคุย “ มึง กูขอโทษนะ “

“ เรื่อง ? “

“ เรื่องเมื่อกี้ในแชทที่มึงปรึกษาเรื่องไอ้เมดแล้วกูบอกว่า ไม่อยากจะให้คำปรึกษามึงเพราะยังไงคบกันเมดมันต้องเสียใจเพราะมึงอยู่ดี “

“ ไร้สาระ “ บอกมันแค่นั้นก่อนจะหันไปยกยิ้มให้เพื่อนสนิท

ผมรู้ดีว่าไอ้เจเป็นคนแบบไหน เป็นคนที่ดูเหมือนไม่จริงจังกับอะไร แต่เอาเข้าจริงมันก็เป็นจริงจัง แถมยังอ่อนไหวได้ง่ายไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันเป็นคนแคร์เพื่อน มันเป็นห่วงผมเสมอเพราะรู้ว่านิสัยผมจริงๆเป็นยังไง เราเป็นเพื่อนรักกันที่อยู่ด้วยกันมานาน และเพราะเป็นแบบนั้นทุกครั้งที่ทำผมใครเสียใจ คนพวกนั้นก็เข้าไปหามัน บอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองเจ็บซ้ำจากการกระทำของผม

ผู้หญิงบางคนดีจนมันแอบเสียดายเพราะอยากจะให้ผมคบเธอไปนานๆ แต่ผมก็คือผม ไม่ใช่ก็แค่เลิก ผมไม่ใช่มนุษย์ประเภทง้อใครอยู่แล้ว แล้วพอมันมาเจอเมด คนที่ในความรู้สึกของมันคิดว่าเป็นคนที่ทั้งน่ารักและใจดี แต่กลับเจอเรื่องราวที่โหดร้ายแบบนั้นมันก็ยิ่งสงสาร และยิ่งสงสารมากขึ้นเมื่อรู้ว่าผมสนใจในตัวอีกคน

มันกลัวว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับคนที่ผมเคยคุยด้วย จะมาเกิดขึ้นกับเมด และมันก็รู้สึกว่าอีกคนคงรับไม่ไหวแล้วที่จะเสียใจกับเรื่องอะไรอีก และมันก็คงทนฟังเมดมาพูดอะไรแบบนั้นกับมันไม่ได้

“ ให้กูลองก่อนได้มั้ยวะ “ ผมพูดขึ้นไปเสียงเบา “ มันอาจจะไม่เป็นเหมือนเดิมก็ได้ “

“ เรื่องไอ้เมดอะนะ “

“ อื้ม “

“ รู้ใช่มั้ยว่ากูอยากให้มึงกับมันคบกันไปได้นานๆ กูอยากให้มึงเจอคนดีๆ แล้วถ้ามึงเจอ กูอยากให้มึงรักษาเค้าไว้ให้ได้  “ มันหันมาหาผม “ จริงๆมึงเป็นคนดีเชี้ยอาฟ มึงคิดถึงความรู้สึกของเพื่อนเสมอ มึงไม่เคยดูถูกกู ทั้งๆที่กูเป็นแค่เด็กจนๆคนนึงที่ได้ทุนมาเรียนโรงเรียนเดียวกับมึง  มึงที่มีเพื่อนอยากจะเข้าหาเยอะแยะแต่มึงกลับเลือกเป็นเพื่อนกู คนที่มันมีจิตใจเหี้ยจริงๆ มันไม่มาคบกับคนอย่างกูที่ไม่มีใครคบแถมยังยกให้เป็นเพื่อนสนิทหรอก “

“ มึงแค่เป็นเพื่อนที่หวังดีกับกูมาตลอด มันก็แค่นั้น “

“ แต่ก็แปลกนะที่มึงมาชอบไอ้เมด “ เพื่อนผมบอก “ จะพูดยังไงดีวะ จะบอกว่าไม่ใช่สเป็กคงไม่น่าใช่มันก็มีบางส่วนที่มึงน่าจะชอบอยู่บ้าง แค่ปกติมึงชอบพวกคนเข้าหา มากกว่าต้องเข้าไปหาเค้าไง “

“ ไม่รู้ว่ะ กูก็หาคำตอบให้ตัวเองมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว “

“ ตอนนั้น ? มึงพูดเหมือนนาน มึงเพิ่งเจอไอ้เมดนะ “ มันหันมาถามพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมา “ อย่าบอกนะ ว่าชอบตั้งแต่ม.ปลาย ที่มึงมองมัน มึงยอมรับแล้วใช่มั้ย “

“ เรื่องเมด ให้กูได้ลองด้วยตัวเองก่อน เพราะตอนนั้นกูยังไม่ทันได้ลองทำอะไรด้วยตัวเองเลย “

“ หมายความว่าไงวะ “

“ อย่ารู้เลย “ ผมยกยิ้มตอบอีกคน “ กูไม่อยากโดนล้อว่ะ “

เดินหิ้วถุงเครปกลับมาที่ผับ แต่ผมกลับชะงักอยู่ที่ประตูห้องตรงชั้นสามอยู่แบบนั้น ผมกำลังคิดว่าผมจะพูดอะไรออกไปดีเป็นประโยคแรก หลังจากยื่นถุงเครปนี้ไปให้มัน คำพูดที่ทำให้คนหน้าบึ้งกลับมายิ้มให้ผมเหมือนเดิม

ผมไม่ใช่คนขาดความมั่นใจ แต่ตอนนี้ผมกำลังหยุดนิ่งอย่างไม่มั่นใจราวกับไม่ใช่ตัวผม หลังบานประตูนี้ผมไม่เคยลังเลจะเปิดมันเข้าไป แม้ว่าจะกำลังกอดจูบอย่างอยู่ดูดดื่มอยู่กับผู้หญิงที่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก แต่วันนี้ทุกอย่างมันค่อยๆเปลี่ยนไป ผมรู้สึกตัวผมเปลี่ยนไป เปลี่ยนเพราะใครบางคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้

“ อ้าว “ มือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดประตูชะงักไปตอนที่คนด้านในเปิดออกมาก่อน เมดเองก็ชะงักตอนที่เห็นผม

“ ไปไหน “

“ จะไปถ่ายรูปเหล้าตัวนึง ลืมถ่ายมา “

“ ทำไมไม่บอกให้ไอ้เดย์ไอ้อัยย์ถ่ายมาให้ ลงไปทำไมเสียเวลา “

“ ยังไงก็ต้องใช้ไอแพตถ่ายไง เลยจะไปถ่ายเอง “ อีกคนว่าก่อนจะเหลือบมองผม “ กูไม่ไปเที่ยวแจกเบอร์ใครจนตัวลั่นหรอก ไม่ได้แรดแบบนั้น ไม่ต้องกลัว “

“ ให้ “ ผมยื่นถุงเครปให้มันอีกคนก็นิ่งมอง ผมรู้สึกหน้าตัวเองร้อน ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรต่อไปดี “ ต่อคิวนานมากเลย กว่าจะได้มา “

“ เหรอ ? “ เมดตอบรับด้วยหน้านิ่งๆก่อนจะรับมันไว้ “ แล้วยังไง ”

“ กูสั่งมาให้สองอัน อันนึงมึงเคยบอกว่าอร่อย อีกอันไอ้เจแนะนำว่ามาอร่อย “

“ แล้ว ? “

“ แล้ว..” แล้วไงวะ ผมเลียปากตัวเองรู้สึกเหมือนมีลมร้อนๆวนไปมาอยู่ในท้อง ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี เมดเอียงหน้ามองผมด้วยท่าทางสงสัย

“ แล้ว ยังไง “

“ ก็นั่นแหละ “ ผมจ้องแววตาเรียวที่กำลังมองผม กลืนน้ำลายลงไปในคอด้วยความตื่นเต้นผมถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดเสียงเบา “ ง้อ ”

“ ห๊ะ ? “ มันทำเป็นไม่ได้ยิน

“ กูบอกว่า ง้อ “

“ เรื่อง ? “ มาถึงตอนนี้ก็แอบคิดว่าอีกคนคงไม่ได้โกรธอะไรแล้ว แต่กำลังแกล้งผมมากกว่า ทำไมถึงรู้สึกว่าเขี้ยวเล็บที่เคยมีมันหายไปหมดว่ะ หรือเอาจริงๆ ผมจะไม่ได้เก่งอะไรเลยอย่างที่เคยรู้สึก ทำไมคนตรงหน้านี้ถึงทำให้ผมแพ้ราบคาบได้อย่างงี้
“ เรื่องที่พูดไม่คิด ไม่ได้ตั้งใจจะว่าแบบนั้น กูขอโทษ ที่กูหงุดหงิดไปหน่อย “

“ แล้วทีหลังจะทำอีกมั้ย “

“ คงทำอีก “ มันหลุดยิ้มกับคำตอบของผม ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ เหี้ยอะไรของมึง ไอ้สัด “ ถอนหายใจออกมาก่อนจะมองหน้าผมด้วยความเหนื่อยใจ “ เค้ามีแต่บอกกันว่าจะไม่ทำอีกแล้วกันทั้งนั้น “

“ ถ้าบอกว่าไม่ทำอีก แต่สุดท้ายกูทำ มึงก็มาเสียใจว่าทำไมพูดแล้วกูทำไม่ได้ แบบนั้นก็บอกไปเลย ว่าคงทำอีก มึงจะได้ไม่คาดหวังว่ากูจะไม่ทำอีก ไม่ดีเหรอ “ ยกยิ้มบอกมันอีกคนก็ขมวดคิ้วยิ้มๆแล้วเถียงกลับ

“ ไม่ดีเว้ย “ เมดบอก “ แล้วนี่กูต้องทนฟังคำพูดจากปากเหี้ยๆของมึงไปถึงเมื่อไหร่ “

“ ตลอดไปได้มั้ย “

ทุกอย่างเงียบ แม้แต่มันที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เมื่อครู่ยังเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน แก้มขาวของเมดซับสีแดงจางๆ มันเหลือบไปมองทางอื่น อย่างไม่รู้จะพูดอะไรมันที่ก้มหน้าลง ก่อนจะเหลือบขึ้นมองผมแล้วพูดเบาๆ

“ แล้วมึงจะขยันง้อไปตลอดมั้ยละสัด “

ผมเผลอยกยิ้มกับคำถามกลับของมัน ประโยคที่คล้ายกับจะถามว่า มันพร้อมจะคบกับผมที่เป็นแบบนี้มั้ย ส่วนเมดก็ถามกลับมาด้วยคำถามที่มีความหมายเดียวกัน แล้วผมละพร้อมจะคบกับมันที่เป็นแบบนี้รึเปล่า

“ ว่าไงนะ “ ปั้นหน้าทำเป็นไม่ได้ยิน ผมไม่อยากจะตอบอะไรที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทำได้มั้ย

“ เปล่า “ มันส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจ

“ หายโกรธกูได้ยัง “

“ ถ้ามึงรู้ว่าตัวเองผิดเรื่องอะไร กูหายโกรธก็ได้ “ มันพยักหน้ารับเบาๆ เหมือนพอใจแล้ว ที่ได้ยินคำว่าขอโทษจากปากผม คล้ายกับว่าที่มันโกรธก็เป็นแค่การดัดสันดานเด็กดื้ออย่างผมที่พูดไม่คิดในความคิดมันก็เท่านั้น เมดดึงเครปในมือขึ้นมากิน แต่ทว่าผมยังมีคำถามนึงที่ยังสงสัยอยู่

“ แล้ว.. ที่บอกว่ามีคนชอบอยู่แล้ว จริงเหรอวะ “ เมดเงยหน้าขึ้นมามองผม มันเอียงหน้าเหมือนไม่เข้าใจที่ถาม “ ที่มึงเขียนตอบไอ้ผู้ชายคนนั้นไป “

“ ถามทำไม “

“ แค่อยากรู้  ว่าคนอย่างกู พอจะเป็นอะไรแบบนั้นสำหรับมึงได้มั้ย “ แก้มขาวซับสีแดงจัดกับคำถามของผม ริมฝีปากนั่นเม้มเข้าหากันก่อนจะก้มหน้าลงจนปากชนเครปที่ตัวเองถืออยู่ในมืออย่างไม่รู้จะทำอะไร เมดพยักหน้ารับน้อยๆ

“ อื้ม ก็คงพอไหวอยู่ “ 

...............................................................................
ก็ยอมรับว่าอยากเป็นเมด แม้จะโดนปากเสียๆด่า แต่ก็โดนง้อด้วยความใส่ใจ
คือพี่ก็รู้ว่าพี่ไม่ใช่คนที่ดีไง แต่พี่ก็พยายามแล้วที่จะเป็นคนที่ดีพอของเธอ .. มันให้ความรู้สึกอย่างงั้น
ตอนนี้อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ มีแค่ความรู้สึกของทั้งสองคนที่เริ่มจะชัดขึ้น
พี่อาฟก็หยอดหนักขึ้น เมดก็เริ่มแสดงว่ามีใจด้วยความคำพูดเล็กๆน้อย ตามประสา
อ่อยกันเบาๆ ไม่ออกอาการมากมาย เพราะฉะนั้น ตอนต่อไปนั้น เราจะคลายปริศนาธรรมที่ทุกคนอยากรู้ทั้งหมด
เจอกันตอนหน้า อาทิตย์หน้า ที่จะลงให้สองตอนเลยยยย ลงวันศุกร์ตอนนึงเนอะ วันอาทิตย์ตอนนึงเงี้ย
อย่าลืมเข้ามาอ่านกันนะจ๊ะ จุ๊บๆ

ส่วนนี้ก็ทางไปจอยลดาแชท http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่ะ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13 ดีงามค่ะ...ดีงาม...อาฟลุยเลยยย  :o8:  :-[  :impress2:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อยากกินเครป

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ูครูขาา มีคนแอบจีบกันตรงบันไดค่า :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ปากเสียไปหน่อย แต่ให้เต็มร้อยเรื่องความใส่ใจ

ถถถถ..พี่อาฟ ตั้งแต่นมจนมาถึงเครป คือแบบใส่ใจทุกรายละเอียด

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ชอบสัดพี่อ่ะ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
 o13  อาฟทำดีทำผิดต้องขอโทษ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เค้าเริ่มหวานกันแล้ว

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อาฟใส่ใจเมดมากขนาดยืนรอเครปเพื่อเอามาง้อเมด





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2018 10:58:25 โดย Chompoo reangkarn »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อยากจะกรี๊ดด เขินนน เขินแทนเมด  อยากเป็นเมดดดด  :impress2:
นี่ขำทุกครั้งที่พี่อาฟตอบแก๊งค์ว่า เบื่อพวกมึง , รำคาญพวกมึงว่ะ   มันฮา อาฟนี่มันอาฟจริงๆ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
งื้อ ฟินน~

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :hao3: :hao3: :hao3:
อาฟฟฟฟทำดีมากลูกกกกก
เมดก้อ่อยได้ดี พี่ให้คะแนน
แต่อย่าพึ่งไปยอมอาฟง่ายๆ
เล่นตัวไปก่อนนน อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด