( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 482821 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
อาฟเป็นคนซื้อนมไปจีบบบบชัวร์ๆๆๆๆๆๆๆ
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ากลัวนมที่เมดได้ทุกเย็นจะไม่ใช่ของบินละมั้งเนี่ย



ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ดีแล้วที่เมดตัดใจจากบินได้เด็ดขาด


ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สัดพี่จีบพี่เมดตั้งแต่ม.ปลาย??!

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อาฟซื้อนมยี่ห้ออะไรอ่ะ เนียนดีแท้  :laugh:

ออฟไลน์ SeaBreeze

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อาฟต้องแิบรัยเมดมาตั้งแต่เด็กแน่ๆเรยยย :hao3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ไอ้บินคงไม่ตามมารังควานอีกนะ! หน้าด้านเหลือเกิน

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จีบแบบนี้ เมื่อไหร่จะจีบติดคะอาฟ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
สรุปชอบนมที่อาฟซื้อให้มาตลอดนั่นแหละ ติดไปละ เมดเอ้ยยย  :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
พ่ออาฟคนซึน ชอบเค้าตั้งแต่ม.ปลาย แหม่ ช่างน่ารักเสียจริง มีส่งนมไปจีบด้วย

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อาฟ แกมีความลับใช่มะ คายออกมาาาา

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แหมมมมมม แอบจีบเค้าตั้งแต่ม.ปลายทำเป็นเงียบนะสัดพี่ :hao3:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เพิ่งมาอ่าน ชอบอาฟ  :mew1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ร้องไห้ค่ะ น้ำตาไหลพราก สงสารเมด
เมดต้องเจอเรื่องแบบนี้มานาน แต่เพราะรักและเชื่อคำพูดคนที่คิดว่าเค้ารักเรา
ทั้งที่ก็รู้ว่า ทำไม่ได้ และไม่รู้จะทำได้ตอนไหน หรือตลอดไป
มันไม่ใช่ว่าเมดต้องอดทนแต่เมดพยายามปรับตัวให้เข้ากันมากไป
ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดและไม่เห็นกับตา เมดก็ยังเป็นคนไม่รู้อะไรต่อไป
และเมดคงไม่เจออาฟ ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่มีใคร เลยใช้ชีวิตสนุก
แต่ตอนนี้พร้อมจะพาเมดตะลุยชั้นสามละนะ
รอเวลาแค่เมื่อไหร่จะเอ่ยปากว่าจริงจัง

อาฟเอ้ยย อบอุ่นเวอร์ แค่นี้เมดก็ปันใจจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ Prionear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย ชอบความซึนเบาๆของคุณอาฟ เขาน่ารักละเกิน มีแอบด่าความโง่ให้รักบังตาของเมดบ้าง แต่ก็เข้าใจอยู่นะ แต่พออ่านตอนบอกว่าเมดต้องเจออะไรมาบ้างก็หงุดหงิดอยู่ดี พี่เมดทำไมต้องไปทนกับคนแบบนั้นด้วยน้าาาาา น่าจะมาเจอกับพี่อาฟให้ไวกว่านี้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นี่อาฟจีบเมดก่อนบินหรอเนี่ย อะเมซิ่ง~
ที่กลับมาวนเวียนรอบเมดนี่คือ
รักครั้งเก่าใช้แม้ะอิพี่~

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
งั้นก็คงไม่ใช่บินแล้วล่ะ 5555555555555555555

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
รึว่า อาฟจะจีบเมดตั้งแต่ม.ปลายแต่เมดคิดว่าเป็นยินเลยคบกับบินแทน สัดพี่อาฟมีความแอบโรแมนติกนะเนี่ย :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
ชอบตอนนี้อ่ะ  อิอาฟทำตัวมีประโยชน์เชียว  ชอบๆ :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ตอนที่ 15

“ แล้วนี่มึงจะพากูไปไหนวะ “

“ คอนโดกู “

“ ห๊ะ ? “

   ก็อย่างที่อีกคนบอก ไม่ได้ฟังผิดแต่อย่างใด รถที่ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปตรงทางเข้าของคอนโดที่ผมเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง จอดรถลงที่ข้างรถ GTR คันคุ้นตา คนขับขยับเปลี่ยนเกียร์เพื่อหยุดรถ อาฟดึงเบรกมือขึ้นก่อนจะพูดเสียงเบาๆ

“ ไอ้เดย์นอนคอนโดเหรอวะ “

“ มึง..” ผมเรียกด้วยเสียงเบาๆ ตอนที่หันไปเหลือบมอง อาฟก็หันมามอง

“ มีอะไร “

“ คือ กูเกรงใจอะ กูไม่นอนดีกว่า ยังไงเดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองก็ได้ “

“ อย่าเรื่องมาก มึงจะหาแท็กซี่อะไรเอาตอนนี้ “ อีกคนหันมาบอก ท่าทางจริงจังของมันถาม “ กลัวกู ? “

“ เปล่า “ ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ อาฟไม่ใช่คนน่ากลัว หลายวันที่อยู่กับมันมา สำหรับผมผู้ชายคนนี้ อบอุ่นและใจดีมากกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ แต่เหตุผลที่ทำให้ไม่อยากนอน คือ กลัวว่าตัวเองจะทำตัวไม่ถูกมากกว่า ผมไม่ได้เตรียมกับใจกับการจะมานอนค้างอ้างแรมกับมัน  จะใส่ชุดไหนนอน จะนอนกันยังไง เราต้องนอนข้างกันเหรอ แน่นอนละ มันคงไม่ออกไปนอนโซฟาหน้าห้องแน่นอน หรือมันจะมีฟูกเล็กๆ ปูให้ผมนอนผมพื้น แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีอีกนั่นแหละ

“ แล้วมึงคิดมากอะไร กลัวกูปล้ำมึง “ ประโยคที่ทำให้ผมสะดุ้งขึ้นมาน้อยๆ เบิกตามองมันก่อนจะส่ายหน้าไปมา

“ ไอ้เชี้ย กูจะไปคิดอะไรแบบนั้นได้ยังไง “

“ ก็ดี งั้นก็ลงมา เพราะคงเป็นกูมากกว่าที่กลัวว่ามึงจะเข้ามาปล้ำกลางดึก “ อาฟบอกก่อนจะเปิดประตูออกไปจากรถ แต่เพราะผมเอาแต่นั่งนิ่งอยู่ในรถ อีกคนที่ยืนอยู่นอกรถก็เลยจำใจต้องก้มลงมาถาม อาฟยกยิ้ม “ ไม่กล้าลงมาแบบนี้ กลัวกูปล้ำจริงๆรึไง หรือว่าเขินที่จะได้นอนกับกู “

“ ไม่ใช่ทั้งสองอย่างนั่นแหละไอ้สัด อย่าหลงตัวเอง “ จำใจเดินลงจากรถแบบเสียหน้าไม่ได้ ผมจ้องหน้ามัน อีกคนก็ยักคิ้วก่อนที่เราจะปิดประตูรถพร้อมกันทั้งสองคน อาฟกดล็อครถแต่ก่อนที่มันจะเดินนำไปแต่ผมก็เอ่ยบอก “ ก่อนขึ้นไปขอไปแวะเซเว่นก่อนสิ “

“ มึงจะซื้ออะไร “

“ ของใช้ส่วนตัวสิวะ แปรงสีฟัน ครีมอาบน้ำ โฟมหน้าล้าง “

“ ใช้ของกู “ มันบอกปัดแบบง่ายๆ

“ ไม่ได้ กูแพ้ง่าย กูต้องใช้แบบที่กูใช้ประจำเท่านั้น ไม่งั้นผื่นมันจะขึ้น “ อธิบายอีกคนไปอาฟที่ยืนนิ่งฟัง มันก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินนำไปอีกทาง ผมเร่งฝีเท้าไปเดินข้างๆมันที่ก็หันมามอง “ มองอะไร จะแซวกูรึไง “

“ เรื่องอะไร “ มันถามก่อนจะขมวดคิ้ว

“ ก็เรื่องกูแพ้ง่าย “

“ ไร้สาระ “ อาฟบอก “ เห็นกูอยู่ประถมรึไง ถึงต้องมาล้ออะไรมึงแบบนั้น “

“ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ กูโดนเพื่อนล้อว่าเป็นตุ๊ดด้วย เพราะใช้โฟมล้างหน้าของผู้หญิง “ มันยิ้มตอนที่ผมเล่า “ แล้วตอนนั้นกูก็หงุดหงิดมากเลยนะ แบบกูไม่ตุ๊ดเว้ย กูก็เอาโฟมผู้ชายมาล้างหน้า เท่านั้นแหละมึง หน้านี่ขึ้นผื่นเป็นแผ่นเลย สุดท้ายพ่อต้องเสียค่ารักษาผิวให้กูอีก โคตรบ้าไม่น่าลองดี “

“ สมน้ำหน้า ซ่าส์นัก “ อาฟก้มหน้าลงยิ้มกับสิ่งที่ผมเล่า เอาจริงๆแม้อาฟจะไม่ใช่คนคุยเก่งอะไร ติดจะเงียบไปด้วยซ้ำ แต่ที่น่าแปลกคือ ผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับมันเลย เหมือนจะเข้าใจว่าอีกคนเป็นแบบนี้อยู่แล้วรึเปล่าก็ไม่รู้ และบางทีก็รู้สึกว่า อุ่นใจที่มีมันอยู่ด้วยกัน แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรมากก็ได้

“ แล้วมึงไม่แพ้อะไรบ้างเหรอ “

“ ไม่ “ มันบอกพลางส่ายหน้าแต่ตอนที่หันมามองผม อาฟก็เงียบไปก่อนจะพูดขึ้นตอนที่ผมหันไปมองมันยิ้มเจ้าเล่ห์ “ ก็มีแพ้บ้างนะ ช่วงนี้ก็แพ้หลายอย่างอยู่ “

“ แพ้ไรวะ “

“ เสือกจัง “ เอียงหน้าบอกกันยิ้มๆก่อนจะเดินนำเข้าไปในเซเว่นขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับคอนโดของมัน ถอนหายใจออกมากับความกวนตีน ทำได้อยากจะถีบส่งท้ายสักที แต่ก็ทำไม่ได้สุดท้ายเลยได้แต่ด่าว่า ‘ ไอ้สัด ‘ ไล่หลังไปแบบไม่ออกเสียง 

ผมหยิบตะกร้าที่อยู่ตรงหน้าประตูขึ้นมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ล็อคของใช้ หยิบเอาสบู่อาบน้ำเด็ก ยาสระผมของเด็ก โฟมล้างหน้าสำหรับผิวบอบบาง แปรงสีฟันอันใหม่ ไม่ลืมหยิบแป้งเด็กกลิ่นที่ชอบทาขึ้นมาด้วย  ก้มลงเช็คของในตะกร้าอีกครั้งของใช้ส่วนตัวไม่มีอะไรแล้ว ผมเดินออกไปจากล็อควนหาร่างสูงที่มาด้วยกันและตอนนี้กำลังยืนจดจ่ออยู่กับของกินที่อยู่หน้าตู้เย็น

“ มึงจะซื้อไรอะ “

“ เปล่า “ อีกคนบอกก่อนจะหันมามองผม “ มึงซื้อเสร็จแล้วเหรอ “

“ อื้ม “ พยักหน้ารับมัน อาฟก็หันมองในตะกร้าที่ผมถือ มันหลุดยิ้มกว้างออกมา “ ยิ้มอะไร “

“ เปล๊า “ มันว่าเสียงสูง

“ จะแซวอะไรกู “

“ วอแวอยากจะให้กูแซวจังนะ “ มันว่าก่อนจะมองเข้าไปในตะกร้าที่ผมถืออีกครั้ง “ ไม่เห็นน่าแซวตรงไหน ของมันก็เหมาะกับมึงดี “

“ ตรงไหนวะ มีแต่ของเด็กๆทั้งนั้น น่ารักฟรุ้งฟริ้งไม่เห็นจะเข้ากับกูเลย “  อาฟหัวเราะตอนที่ผมพูดแบบนั้น มันเชิดหน้าไปทางเค้าเตอร์คิดเงิน

“ ไปจ่ายเงิน ได้แล้ว ไม่ง่วงรึไง ตากูจะปิดอยู่แล้ว “

“ มึงไม่เอาอะไรนะ “ ผมถามย้ำอีกคนก็ส่ายหน้า เดินเอาของที่ซื้อไปคิดเงินเรียบร้อย ผมก็เดินหิ้วถุงเซเว่นกลับไปทางเดิมที่เราเดินมา

ผ่านระบบความรักษาความปลอดภัยเข้ามาด้านในอาคาร อาฟกดลิฟต์ขึ้นไปตรงชั้นที่มันอยู่  ปลดล็อคประตูห้องด้วยรหัสแล้วตอนที่เปิดเข้าไป สมาชิกอีกคนที่เป็นเจ้าของห้องก็ยืนอยู่ น้องเดย์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมดูจากชุดกางเกงตัวเดียวที่อีกคนใส่ ผ้าขนหนูที่ถูกฟาดไว้บนไหล่กว้างๆ ผมที่เปียกชื้นเหมือนเพิ่งเช็ดเสร็จหมาดๆ และวินาทีที่น้องหันมามือที่ถือแก้วน้ำและกำลังกินก็แทบพุ่งของเหลวนั่นออกมาจากปากตอนที่เห็นผม

“ พี่เมด “ น้องเรียกผมเหมือนยังไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่  ยิ้มแห้งๆส่งไปให้น้องเดย์ก็ยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะหันไปมองพี่ชายตัวเอง

“ เสือกอยู่อีกนะมึง “ ไอ้อาฟพูดเสียงเบาๆ ตอนที่หันไปเห็นน้องชายตัวเอง ร่างสูงโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะกินข้าว มันเดินตรงไปที่ตู้เย็นหยิบเอาแก้วน้ำใบใหม่ขึ้นมาก่อนจะกดน้ำจากบานตู้เย็นแล้วกิน

“ ไหงพี่เมดของกูมาอยู่ที่นี่ได้วะสัดพี่ “ พูดกับพี่ชายตัวเองด้วยเสียงเบาๆ แต่ว่าห้องคอนโดก็แค่นี้ แน่นอนว่าผมได้ยินชัด

“ มีปัญหานิดหน่อย “ อาฟบอกปัดก่อนจะหันมามองผม “ ไปอาบน้ำ “

“ อาบ ? อาบที่ไหน “ หันซ้ายดูขวา น้องเดย์ก็ยิ้มให้ผม

“ ห้องน้องเดย์ก็ได้พี่เมด แต่ว่าอาบเสร็จแล้ว ต้องนอนห้องน้องเดย์นะ “ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่บอกผม พลางยกคิ้วให้ เผลอหลุดยิ้มออกมาให้กับความขี้เล่นของน้อง แล้วตอนนั้นไอ้อาฟก็พูดเสียงนิ่งใส่น้องชายทันที

“ เสือก “ คนโดนว่าตาโตใส่พี่ชายของตัวเองก่อนจะพูด

“ มึงก็ไปจัดการให้พี่เมดสิสัดพี่ พี่เมดเค้าจะรู้มั้ยว่า จะไปอาบน้ำที่ไหน ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหน บริการพี่เมดหน่อยสิวะ “ แทบอยากจะหันไปขอบคุณน้องมันสักสามพันครั้ง ที่ชี้แนะสิ่งที่ควรทำให้พี่ชายตัวเอง อาฟวางแก้วที่กินน้ำเสร็จไว้บนเค้าเตอร์ในครัวก่อนจะเดินออกมาหาผม

จะว่าไปห้องที่เห็นตอนนี้เหมือนจะสะอาดกว่าตอนที่มาครั้งแรกอยู่มาก ผมมองไปรอบๆเสื้อผ้าที่เคยกระจัดกระจายไม่มีอยู่แล้ว แม้ขนาดหมอนก็ยังถูกจัดไว้แบบเข้าที่เข้าทาง ถ้าให้เดาแน่นอนว่าแม่บ้านต้องเพิ่งเข้ามาทำความสะอาดให้วันนี้แน่ๆ มันเลยสะอาดขนาดนี้

“ ห้องมึงสะอาดมากเลยอะ ต่างจากครั้งก่อนที่กูมาสุดๆ “ บอกมันแบบนั้น ไอ้อาฟที่นิ่งไป แต่น้องเดย์กลับพูดขึ้นมาแทนเหมือนแปลกใจอยู่มากที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น

“ เดี๋ยวนะครับ พี่เมดเคยมาที่นี่แล้วเหรอ “

“ อื้ม เมื่อเช้าน่ะ “ น้องเบิกตาใส่พี่ชายตัวเองก่อนจะกลั้นยิ้ม ท่าทางที่ดูแปลกๆของเดย์ “ มีอะไรรึเปล่า “

“ เปล๊า ก็แค่ สัดพี่ไม่เคยพาใครขึ้นคอนโดน่ะครับ เห็นบอกว่าพื้นที่ส่วนตัวไม่ชอบให้ใครบุกรุก แถมยังสร้างกฎกับเดย์ด้วยว่า ถ้าไม่ใช่คนสำคัญก็ห้ามพาขึ้นมา สัดพี่เค้าไม่ชอบ “ เหลือบมองร่างสูงข้างๆที่ก็ยืนนิ่งไม่พูดอะไร แก้มของผมเริ่มร้อนทั้งๆที่ในห้องก็โคตรจะเย็น

“ มานี่มา อาบน้ำได้แล้ว “ อาฟตัดบทขึ้นมา มันเดินนำผมไปที่ห้องของตัวเอง กดเปิดไฟให้ทั้งห้องสว่างขึ้น

อดชื่นชมความสวยของห้องมันไม่ได้เลย ห้องสีขาวตกแต่งด้วยโทนดำแต่ไม่ได้ดูมืด กลับกันมันดูเท่ห์และแอบผสมความดิบแบบผู้ชายเข้าไป เป็นห้องที่แบ่งสัดส่วนของห้องนอนไว้ทางฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว

“ โคตรหรู “ ผมพูดกับตัวเองในใจ ตอนที่เดินตามร่างสูงเข้าไปตรงฝั่งซ้ายที่เป็นห้องแต่งตัว มันหยุดอยู่ที่ห้องเล็กๆที่ทั้งสองฝั่งของกำแพงมีแต่ตู้เสื้อผ้ายาวเข้าไปเป็นซอยแคบ อาฟเปิดตู้แรกก่อนจะหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่และผืนเล็กมาให้ผมอย่างละผืน ก่อนจะเดินถัดไปอีกตู้

“ ชุดนอนอยู่ตรงนี้ อยากจะใส่ตัวไหนก็หยิบเอา “

“ อ่าห๊ะ “ พยักหน้ารับมัน “ แล้วกางเกงในอะ “

“ ต้องใส่เหรอ “ มันเลิกคิ้วถาม ผมก็ขมวดคิ้ว

“ ใส่สิไอ้สัด “

“ อยู่ในตู้นี้ “ มันชี้ก่อนจะดึงตู้ล่างสุดออกมา เป็นกางเกงในที่ยังอยู่ในแพ็ค ไม่ได้มีการแกะใช้แต่อย่างใด “ นั่นก็ห้องน้ำ ต้องเข้าไปสอนวิธีอาบน้ำให้สะอาดมั้ยครับ “

“ ไม่ต้อง กวนตีน “ บ่นคำสุดท้ายนั่นเบาๆ ผมที่กำลังก้มลงไปหยิบกางเกงในเหลือบมองมันที่ยังยืนอยู่ “ ออกไปสิวะ ยืนอยู่ทำไมอะ อยากรู้ว่ากูใส่กางเกงในสีอะไรเหรอ “

“ ปัญญาอ่อน “ อาฟบอกแค่นั้น ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องแต่งตัว ที่ก็ไม่ลืมเลื่อนประตูปิดห้องแต่งตัวให้ ผมหันกลับมาสนใจกางเกงในที่อยู่ในแพ็คที่เป็นสีขาวแทบทั้งหมด จัดการหยิบมันขึ้นมาตัวนึงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำที่ก็ดูดีไม่ต่างจากภายนอก

ผมถอดเสื้อผ้าตัวที่สวมใส่ออกมา ก่อนจะเข้าไปในอ่างน้ำแล้วเปิดฝักบัวปล่อยน้ำให้ไหลชโลมกาย ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ไม่ได้รู้สึกดีกับการอาบน้ำมานานแล้ว น้ำที่เหมือนชำระล้างทั้งความเหนื่อยกายเหนื่อยใจของตัวเอง ผมหยิบสบู่ที่ซื้อมาถูไปตามร่างกายของตัวเอง กลิ่นหอมอ่อนๆของมัน ทำให้ผมสดชื่นขึ้นมาอย่างประหลาด จัดการสระผม และแปรงฟันเป็นอย่างสุดท้าย ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดตัวเองให้แห้ง ไม่ลืมทาแป้งเด็กกลิ่นที่ชอบจนกลิ่นฟุ้งไปหมด ก่อนจะเดินออกไปหยิบชุดนอนแบบเข้าชุดสีฟ้าอ่อนของอีกคนมาใส่ เช็คดูว่าภายในห้องน้ำและห้องแต่งตัวยังคงเรียบร้อยเหมือนเดิม ของที่ซื้อมาเพิ่มจัดอยู่ในโซนปลอดภัยดี ผมก็เลื่อนประตูออกไปข้างนอก

“ เย็นสัด “ สถบออกมาตอนที่แอร์ภายในห้องปะทะเข้าใบหน้า เจ้าของห้องที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับทีวีที่เปิดอยู่ แต่ทว่าเหมือนจะเป็นทีวีมากกว่าที่กำลังดูร่างสูงเพราะคนที่เปิดมันทิ้งไว้ตอนนี้หลับคอพับไปบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

 เผลอยิ้มกับท่าทางนั้นของอีกคน อาฟมันคงเหนื่อยมาก แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างงั้นก็มันเล่นไม่ได้นอนเลยทั้งคืน แถมยังต้องขับรถไปมา ไหนจะไปทำงานที่ผับ ตอนนี้ถ้าชีวิตเป็นมือถือคงจะแบตแดงใกล้หมดแล้ว

“ อาฟ อาฟ มึง ตื่นไปอาบน้ำ “ เอื้อมมือไปจับไหล่มันก่อนจะเอ่ยเรียกแล้วเขย่า เจ้าของใบหน้าคมลืมตาขึ้นมาแบบสะดุ้งน้อยๆราวกับตัวเองเหมือนแค่เผลอหลับไป “ มึงอาบเสร็จแล้วเหรอ “

“ อื้ม “ พยักหน้ารับกับอีกคน “ มึงไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มานอน “

“ อื้ม “ ลุกขึ้นจากเตียงมานั่ง ใบหน้าง่วงงุนหรี่ตาไม่สู้แสงในห้องนอนอยู่สักพัก ก่อนมือหนาจะเอื้อมมือมาจับคอ แล้วขยับไปมาราวกับปลุกตัวเองให้ตื่นอยู่สองสามครั้ง อาฟลุกขึ้นจากเตียงมันเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเดินออกมาพร้อมไดร์ทเป่าผมที่ยื่นให้ผม
“ ผมเปียกขนาดนั้นจะนอนลงไปได้ไง เป่าผมก่อนนอนซะ เดี๋ยวไม่สบาย “  เงยหน้ามองมันที่ยื่นของนั้นมาให้ ผมที่เผลอยิ้มแล้วตอนนั้นคนขี้เก็กก็แค่บอก “ ยิ้มอะไร กูแค่คิดว่าถ้ามึงเกิดป่วยขึ้นมาไม่มีแรงมาทำงานให้ กูก็ขาดทุนพอดี “

“ ครับๆ ทราบแล้ว “ ตอบรับไปอย่างว่าง่ายกับคำอ้างของมันแบบไม่ล้อเลียน อาฟเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้งแล้วตอนที่ประตูเลื่อนถูกปิดลง ผมก็ได้แต่ก้มมองไดร์ทเป่าผมในมืออยู่แบบนั้น “ เป็นห่วงก็บอก ขี้เก็ก “

   เสียบไดร์ทกับปลั๊กที่อยู่ตรงหัวเตียง ผมเป่ามาด้วยลมเย็นตอนที่เอามือลูบผมตัวเองไปพลางสมองมันก็แอบคิดถึงเจ้าของไดร์ทเป่าผม

 คนเราก็แปลก แค่รู้สึกเป็นห่วงคนอื่น แต่นิสัยลึกๆเป็นคนที่อบอุ่น ทำไมต้องหาข้ออ้างให้มากมายด้วยวะ  ‘ หรือว่าไอ้อาฟมันจะเขิน ‘ 

แต่มันจะเขินอะไรวะ

เขินผมน่ะเหรอ ..

บ้าน่ามันจะเขินทำไม

“ แล้วนี่กูจะยิ้มทำไมวะ “ ผมส่ายหน้าไปมากับตัวเอง ตั้งจิตตั้งใจเป่าผมให้แห้ง แต่จะว่าไป ตอนที่น้องเดย์บอกว่า อาฟจะพาแค่คนสำคัญขึ้นมาบนห้องเท่านั้น อีกคนก็ไม่ได้พูดด่าอะไรน้องนะ ทั้งๆที่ปกติมันเป็นคนที่ถ้าคนอื่นเข้าใจผิดจะเถียงออกไปทันที แต่นี่มันกลับเงียบไปเฉยๆ “ แต่นี่มันแค่สองสามวันเองนะเว้ย คนเพิ่งเจอกันมันจะชอบกันได้ไงแค่ไม่กี่วัน ประสาทไอ้เมด เป็นไปไม่ได้ “ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับกับตัวเอง ไม่อยากจะคิดให้มันไปไกล

เพราะบางทีคนบางคนอาจจะแค่ทำอะไรบางอย่างให้คนอื่นอยู่แล้วด้วยนิสัยของเค้าที่เป็นแบบนั้น  และเราเองก็ดันบังเอิญเข้ามาอยู่ในช่วงชีวิตของเค้าพอดี ก็เลยได้รับการกระทำดีๆเหล่านั้นด้วย

“ ฟุ้งซ่านๆ นอนๆ “ ผมบอกตัวเองตอนที่ส่ายหน้าไปมาสะบัดความคิดพวกนั้น ที่กำลังขัดแย้งว่าคนแบบมันไม่น่าใส่ใจใครขนาดนั้น

“ เป็นบ้าอะไรนั่งส่ายหน้า ผีเข้าเหรอ “ เสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาจากห้องน้ำ ผมหันไปมองร่างสูงที่มายืนอยู่ข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาฟใส่ชุดนอนสีดำ หัวเปียกๆมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่บนหัว มันล้มตัวลงนอนทั้งๆที่หัวยังเปียกก่อนจะทำจมูกฟุตฟิต “ กลิ่นอะไรวะ ทำไมหอมๆ “

“ กลิ่นอะไร “ ผมถามมันก่อนจะสูดกลิ่นรอบตัวเข้าไป และก็พบว่ากลิ่นที่อีกคนสงสัยน่าจะมาแป้งเด็กที่ผมทา “ แป้งเด็กที่กูทามั้ง “ บอกแบบนั้นคนที่กำลังสงสัยก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ตัวผม มันสูดลมหายใจเข้าไปก่อนจะพยักหน้าเหมือนกับหาคำตอบที่ตัวเองสงสัยได้แล้ว

“ คงใช่ “

“ หอมดีใช่มั้ย มึงไม่ลองทาละ มันหอมมากเลยนะ คนเราได้ทาอะไรหอมๆแล้ว จะหลับสบายนะ “

“ นอนใกล้ๆ ก็หลับสบายได้ “ เราสองคนที่นิ่งไปตอนที่อีกฝ่ายพูดคำนั้น อาฟเหลือบมองข้างตัวเองนิดหน่อยถ้าเดาจากแววตามันคงเผลอสถบในใจว่า ‘ ชิบหายละ พูดเชี้ยอะไรแบบนั้นวะกู ‘  “ คือ..กูหมายถึงกลิ่นหอม ไม่ต้องทาลงบนตัวก็ได้ แค่วางไว้ใกล้ๆ ก็หลับสบายได้เหมือนกัน “

“ อื้ม “ อยู่ๆแก้มก็ร้อนขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล ทำไมยิ่งฟังคำอธิบายแล้วยิ่งรู้สึกแปลกๆว่ะ ผมหันไปอีกทางทำทีเป็นเก็บไดร์ทเป่าผมไม่ได้หันไปมองหน้าอีกคน ตอนนั้นแรงยวบของเตียงที่เหมือนมีคนขยับก็ทำให้ผมหันไปมอง

“ แค่มึงทาคนเดียว กลิ่นแม่งก็หอมคุ้งทั้งห้องแล้ว กูคงไม่ต้องแล้วละ “

‘ หยุดพูดเถอะไอ้สัด ‘ ผมอยากจะหันไปบอกมัน ยิ่งพูดแก้ตัวก็เหมือนมึงจะบอกว่า ‘ แค่มีกูนอนข้างๆก็หอมแล้ว ไม่ต้องทาแป้งหรอก ‘  หมุนสายไดร์ทเตรียมเก็บแต่ตอนที่หันมามองมองอีกคน ผมพบว่าคนที่เพิ่งบอกให้ไดร์ทผมให้แห้งก่อนจะนอน กลับนอนลงไปบนเตียงแบบนั้นทั้งๆที่หัวยังไม่แห้งเลย “ อาฟ เป่าผมให้แห้งก่อนนอนสิวะ “

“ ช่างมัน “ อีกคนบอกปัด ด้วยเสียงอู้อี้ “ กูง่วงนอน เดี๋ยวแม่งก็แห้งเองละ “

“ แล้วก็มาบอกให้กูเป่าให้แห้งก่อนนอนเดี๋ยวจะป่วย มึงไม่คิดว่าตัวเองจะป่วยรึไง “

“ ป่วยก็ไม่เป็นไร กูเป็นเจ้าของผับให้ลูกน้องมันทำงานไป “

“ ไม่เป็นไรได้ไง เป็นสิวะ “ ผมเถียงอีกคนที่เหมือนจะหงุดหงิดกับความเซ้าซี้นั่น มันพลิกหน้ากลับมามองหน้ากัน “ ถ้ามึงป่วยใครจะเป็นคนขับรถไปกินข้าวกับกูอะ “ ผมแอบเห็นมันยิ้มก่อนจะหันหน้ากลับไปที่เดิมแล้วแนบหน้าลงกับหมอน หูของมันแดงจัด “ มึงก็ป่วยไม่ได้นะ มึงต้องไปส่งกูเรียน ไปส่งกูที่ผับ ต้องไปกินข้าวกับกูนะ “

“ พอทีเถอะว่ะ “ มันพูดเสียงอู้อี้ “ ผมรู้แล้วครับ “ ถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกหน้ามาบอกผม “ ไดร์ทให้หน่อย “

“ เรื่องอะไร ไดร์ทเองสิว่ะ กูจะนอน “

“ ค่าที่พัก “  มันพูดก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้ผม “ ไดร์ทให้หน่อยเมด กูง่วงแล้ว “

“ สัด “ นี่ถ้าไม่ติดว่า คำพูดมันติดอ้อนหน่อยๆ ก็จะไม่ให้ทำหรอก อีกอย่างวันนี้อาฟมันคงเหนื่อยมากจริงๆ นอนก็ไม่ได้นอน ขับรถพาผมไปนู้นนี่ตลอด แถมยังช่วยปลอบตอนเจอเรื่องแย่ๆอีก “ ก็ได้ว่ะ ตอบแทนความใจดีของมึงหรอก “

ผมเสียบปลั๊กไดร์ทเป่าผมอีกครั้ง เปิดลมเย็นเบอร์เบาที่สุดเพราะไม่อยากจะรบกวนการนอนของอีกคน เอื้อมมือไปลูบผมของอีกฝ่าย เป่าเบาๆลงไปบนเรือนผมสีน้ำตาลดำนั่นอยู่นานจนอีกฝ่ายหลับสนิทไป ผมรู้สึกได้เพราะการหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอของมัน

“ เรียบร้อย “ บอกกับตัวเองตอนที่ลูบผมของอีกคนเพื่อเช็คดูว่า มันแห้งสนิทเท่ากันหมดแล้ว เก็บไดร์ทให้เรียบร้อยก่อนนอน ผมถอนหายใจออกมา ตอนที่ดึงตัวเองสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มอย่างระวัง อาฟก็พลิกตัวเองหันกลับไปมองหน้าผมพอดี

 แอบสะดุ้งตัวนิดหน่อยตอนที่เห็นแบบนั้น แต่ทว่าผมกลับนอนนิ่งมองใบหน้านั่นอยู่นาน พระเจ้าแม่งไม่ยุติธรรมเลย ทำไมต้องสร้างให้คนคนนึงหล่อแม้กระทั้งตอนหลับด้วยว่ะ

“ แต่ก็ไม่หรอก ก็ยุติธรรมดีแล้ว สร้างมาให้หล่อก็จริง แต่ก็ไม่ลืมใส่ความปากหมามาให้ด้วย “ ผมยิ้มออกมาตอนที่มองหน้ามันอยู่แบบนั้น “ ฝันดีนะ ไอ้คนปากหมา “ ดึงผ้าห่ม ห่มให้คนข้างๆก่อนจะดึงมันขึ้นมาห่มให้ตัวเอง ผมพลิกตัวไปปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนจะหลับไปในที่สุด

.............................................................

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

   ลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่กันไปแล้ว ผมถอนหายใจออกมาตอนที่หลับตาลงอีกสักพักเพื่อหวังให้มันหลับอีกครั้งแต่ก็ไม่รู้สึกว่าง่วงอีกแล้ว หยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาที่ตอนนี้ก็บอกว่ามันเข้าสู่ช่วงบ่ายสามโมงเข้าไปแล้ว แต่ที่ชวนให้เบิกตากว้างตื่นเต็มตาตอนนี้กลับไม่ใช่แค่เวลา มันกลับเป็นข้อความไลน์มากมายที่ถูกส่งมาให้ผม รวมทั้งสายโทรเข้าที่ก็ไม่ได้รับอีกเป็นสิบสายจากน้องชายตัวเอง

[ พี่เมด ไม่กลับห้องเหรอ อยู่ไหนตอนนี้ ] นี่เป็นข้อความแรกที่วิวมันส่งมาหาผม ก่อนจะตามมาด้วยข้อความยาวๆ ที่ส่งเรียงกันมาแบบไม่ขาดสาย สลับไปมากับการโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

[ พี่เมดติดต่อกลับมาหน่อยนะ นี่พี่มึงอยู่ไหน กูลงมาถามยามว่าเห็นมึงมั้ย เค้าบอกเห็นผู้ชายตัวสูงๆหน้าขาวๆ เอาดอกไม้มาให้มึง คุยกันสักพัก แล้วมึงก็นั่งรถออกไปเลย ]

[ พี่เมดทำไมไม่รับสายว่ะ นี่วิวเป็นห่วงนะ คืนดีกับมันแล้วจริงๆเหรอ ไอ้เชี้ยนั่นน่ะ ]

[ รับสายหน่อย นี่จะโทรไปแจ้งตำรวจแล้วนะ มันลักพาตัวมึงไปใช่มั้ย อะไรยังไง ]

[ พี่เมดเว้ยยยยย นี่เที่ยงแล้วนะ ยังไม่รับสายวิวอีกเหรอ มันทำอะไรมึงอะไร ทำไมมึงเงียบไป ]

[ พี่เมดนี่จะบ่ายสองแล้วนะ วิวเป็นห่วงนะ วิวต้องโทรบอกพ่อมั้ย ]

[ พี่เมดถ้าบ่ายสี่ พี่เมดยังไม่ติดต่อมา วิวจะโทรหาพ่อแล้วนะ ใจไม่ดีเลย พี่เมดมึง ]

[ พี่เมดอยู่ไหน วิวคิดถึงพี่เมดแล้วนะ พี่เมด ]

[ อีพี่เมด กูโทรไปหามึงจะร้อยสายแล้วนะ มึงรับหน่อยเถอะ กูไหว้แล้ว พี่เมด พี่เมดจ๋า ]

[ วิว กูขอโทษ ] ผมกดส่งข้อความตอบกลับมันไปคนที่รอข้อความตอบกลับอยู่นานแล้วก็ส่งกลับมาด้วยความรวดเร็ว

[ ไอ้พี่เมดดดด มึงอยู่ไหน ไอ้เหี้ยยยยย มือสั่นไปหมดแล้วกู ฮือ ทำไมมึงไม่กลับห้อง แล้วนี่มึงอยู่ไหน ขอโทษกูทำไม ไม่เอา อย่าเพิ่งพูดนะ จะพูดอะไร ] น้องชายผมเริ่มโวยวาย ให้เดามันต้องคิดแน่ๆว่าผมกลับไปคืนดีกับไอ้บินแล้ว ก็ฟังจากยามเล่ามันก็เดาได้อยู่ทางเดียว [ ให้กูทำใจก่อน แต่ไม่อะ กูทำใจไม่ได้หรอก พี่เมดมึงไม่เอาแบบนี้ดิ ไหนบอกว่าจะไม่กลับไปไง อย่าโง่ดิ มึงบอกกูไว้แล้วนะ สัญญากับกูแล้วไง ]

[ อะไรของมึงเนี้ย คิดอะไรของมึงอยู่ ฟังกู ]

[ ไม่เอา ไม่ฟังได้มั้ย บอกก่อนว่าเป็นเรื่องที่กูจะรับได้ ถ้าเป็นเรื่องที่กูไม่อยากจะฟัง ก็ไม่ต้องบอก กูไม่อยากรับรู้ ] สติกเกอร์ปิดหูที่ถูกแนบมา  ผมถอนหายใจกับความตื่นตระหนกของน้องชายตัวเอง พลิกตัวเองจัดท่านอนให้พิมพ์สบายๆ

[ มึงคิดอะไรของมึงวะวิว กูไม่ได้จะกลับไปคืนดีกับไอ้บินนะ ]

[ อ้าว แล้วนี่พี่เมดอยู่ไหน ไม่ได้กลับไปคืนดีกับมัน แล้วเมื่อคืนไปนอนไหนวะ ]

[ ใจเย็นๆ ขอกูเล่าก่อน ให้กูโทรมั้ย ]

[ กูเรียนอะ แต่มึงพิมพ์มาเถอะ กูไม่ไหวแล้ว ใจจะขาด อยากรู้มาก เล่ากูเลย ] ผมถอนหายใจอกมากับคำขอร้องของน้อง พร้อมด้วยสติกเกอร์ออดอ้อนของมัน [ นี่กูแบบ คิดไปต่างๆนานาแล้วว่า มึงกลับไปคบกับไอ้เชี้ยบิน จากที่ยามเล่าอะนะ ]

[ ไม่ คือเมื่อคืนอาฟก็ไปส่งกูที่คอนโดตามปกตินั่นแหละ ]

[ อ้าว รถมึงอะ ยังซ่อมไม่เสร็จเหรอ ]

[ คือว่ากูต้องให้ไอ้อาฟยืมรถไปขับ เพราะมันจะเอารถมันเข้าไปซ่อมรอยที่กูไปทำไว้บนรถมันอะ นั่นแหละมึง ไอ้อาฟมันก็มาส่งกู คราวนี้ก็เจอไอ้บินมายืนง้อกูที่หน้าคอนโด มันเอาดอกไม้มาง้อ ]

[ สัด แค่คิดสภาพก็อยากจะวิ่งลงไปตบ มึงก็น่าจะโทรเรียกกูนะพี่เมด แล้วไงต่อ ]

[ ตอนนั้นกูคิดว่า เออ ลงไปคุยกันให้จบๆไปเลยดีกว่า คือถ้ากูยังหนี ยังพูดปัด แม่งก็ยังง้อกูอยู่แบบนี้ ซึ่งกูรู้สึกว่าพอแล้วว่ะ กูอยากเริ่มต้นใหม่แล้ว ไม่อยากมานั่งหงุดหงิดทุกวันที่เห็นมันอะมึง ]

[ ความคิดเยี่ยมมาพี่กู เจอแล้วจะหอมหัวสักสิบที ]

[ กูเลยลงไปคุยกับมัน บินมันก็ง้อกู ก็อธิบายกูแหละ กูก็ฟังนะ ฟังจนจบแล้วก็บอกเลิกมันเลย เขวี้ยงดอกไม้ใส่มันด้วย ]

[ เยี่ยม ละไง แล้วทำไมไม่กลับห้องวะ ไปกับพี่อาฟต่อทำไม ]

[ กูก็กำลังงงอยู่ว่าทำไม คือพอกูบอกเลิกบินเสร็จ กูก็เดินไปหาไอ้อาฟที่ยืนอยู่ คือจริงๆ กูคงจะเดินไปเอากระเป๋าในรถ แต่ว่าพอไอ้อาฟมันเห็นกูเดินไปหา มันก็จูงมือกูเข้าไปนั่งในรถเลย  บรรยากาศตอนนั้นมันชวนให้กูนิ่ง แล้วรถก็ขับออกมาเลย รู้ตัวอีกที ก็ตอนที่แม่งขับกลับมาที่คอนโดมันได้ครึ่งทางแล้ว ก็เลย เลยตามเลยแล้วกัน ตีห้ากว่าๆแล้วด้วยตอนนั้น ]

[ สรุปมึงบอกเลิกไอ้เชี้ยนั่นเป็นทางการแล้ว และตอนนี้มึงกำลังนอนอยู่ที่คอนโดพี่อาฟเจ้าของ throw up เจ้านายมึง ]

[ อื้ม โทษทีไม่ได้รับสายโทรศัพท์มึง ไม่ได้ติดต่อไปบอก คือกูก็ง่วงมากเลยตอนนั้น จัดการอาบน้ำสระผม ปิดเสียงมือถือแล้วหลับไปเลยลืมโทรบอกมึงด้วย โทษทีนะวิว ]

[ ไม่เป็นไรหรอก มึงปลอดภัยก็ดีแล้ว โล่งอกไปที รู้มั้ยกูนี่แทบจะโทรไปแจ้งตำรวจ โทรไปบอกพ่อ กลัวมึงโดนไอ้เชี้ยนั่นลักพาตัว คือฟังจากยามกูนี่ใจสั่นไปหมด คิดไปถึงว่าที่มึงไม่ติดต่อมา มึงอาจจะโดนมันยึดโทรศัพท์ ไม่ก็โดนปล้ำไปแล้ว จริงๆนะ กูนี่แทบจะร้องไห้แล้ว เพื่อนกูแต่ละคนก็บอกให้โทรไปบอกพ่อ คือกูกลัวโทรไปบอกพ่อแล้วมันจะเรื่องใหญ่ไง มันต้องเล่าเรื่องพี่บินด้วย ซึ่งกูไม่อยากเล่า เดี๋ยวพ่อก็เป็นห่วงพี่เมดอีก ]

[ เออดีแล้ว ไม่ต้องบอกหรอก แต่มึงแม่งดูหนังเยอะเกินไปแล้วนะ ]

[ ความผิดมึงนั่นแหละอีพี่เลว ]

[ กูขอโทษนะวิว ขอโทษจริงๆ กูสะเพร่าเอง ซอรี่ๆ ]

[ เออ มึงปลอดภัย แล้วก็ไม่กลับไปรักกับคนเหี้ยๆแบบนั้นกูก็พอใจแล้ว ]

[ อื้ม ]

[ แล้วนี่พี่เมดเพิ่งตื่นเหรอ ]

[ เออ เมื่อคืนกว่าจะได้นอน เกือบเช้าแล้ว หลับเป็นตายเลย โคตรเหนื่อย ]

[ นอนเยอะๆก็ดี ช่วงนี้พี่เมดไม่ค่อยได้นอนเลย ] วิวบอกผมก็ยิ้มผ่าหน้าจอนั้น [ แล้วนี่เรื่องงานเป็นอะไรยังไงบ้างอะพี่เมด โอเคมั้ย ]

[ โอเคกว่าที่คิด นี่กูได้เงินเดือนสองหมื่นเลยนะ เพราะทำอยู่หลายตำแหน่ง อาฟมันเลยขึ้นเงินเดือนให้กู ]

[ เออดีว่ะ จะได้ปลดหนี้แล้วออกมาใช้ชีวิตตัวเองเร็วๆ คิดถึงพี่เมดคนที่นอนเร็วๆ ชอบดูหนัง อ่านหนังสือ  ไม่ชินเลยนี่พี่ผู้แสนน่ารักเรียบร้อยของกู คนที่เหล้ายังไม่แดก แต่กลับไปทำงานผับ แล้วตื่นสายขนาดนี้ ]

[ อื้ม ] ผมตอบอีกคนสั้นๆ ยังจำตอนที่อาฟบอกว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ได้ ตอนนั้นจะว่าดีใจมันก็ดีใจนะที่จะได้เงินเยอะขึ้น แต่อีกใจมันก็คิดขึ้นมาเหมือนกันว่า เสียดาย

ส่วนตัวการทำงานที่ผับนั่นสำหรับผมมันก็ไม่ได้แย่ แม้จะเข้ามาทำงานเพราะแค่ต้องจ่ายหนี้ แต่เอาเข้าจริง คนที่ทำงานในนั้นทุกคนก็นิสัยดีกันทั้งนั้น แม้จะโดนม่อแต่ก็ดูเหมือนเรื่องขำๆกันมากกว่าจะจริงจัง

รู้สึกตัวเลยว่าตัวผมสำหรับสองสามวันที่ผ่านมาชีวิตสนุกขึ้นมาก สนุกจนเผลอลืมเรื่องทุกอย่าง สนุกจนคิดว่าถ้าได้ทำงานต่อไปเรื่อยๆก็คงดี ได้เงินเดือนตั้งสองหมื่น สำหรับเด็กจบใหม่แบบผมได้เงินเดือนเท่านี้ก็นับว่าสูงอยู่ แต่ไม่รู้เพราะยังไม่มีปัญหาน่าปวดหัวเข้ามาแถมยังได้อยู่กับคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจรึเปล่า มันถึงรู้สึก ไม่อยากจะจากไปไหนแบบนี้

[ ตอบสั้นแปลกๆเว้ย อย่าบอกนะว่า เปลี่ยนใจชอบทำงานที่ผับนั่นไปแล้ว ]

[ มันก็ไม่ได้แย่ ] ตอบอีกคนไปตามตรง [ เงินเดือนตั้งสองหมื่น ]

[ ความคิดเปลี่ยนไปขนาดนี้ เพราะเงินอย่างเดียวจริงๆเหรอ ตัวบุคคลด้วยเปล่า ] รู้สึกถึงคำแซวที่ออกมาจากประโยคนั้นของน้องชาย ผมเผลอยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า

[ คิดว่าน่าจะเงินอย่างเดียว ตัวบุคคลไม่น่าเกี่ยวเพราะไอ้เชี้ยอาฟกวนตีนกูเหลือเกิน ]

[ ยังทันบอกเลยว่าคนไหน ร้อนตัวจังว่ะคนเรา ] วิวบอก [ น้องหมายถึง เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ สังคมโดยรวม ไม่ได้หมายถึงพี่อาฟเลยสักนิด ]

[ เริ่มไม่ค่อยอยากจะคุยกับมึงแล้ววิว ]

[ คุยกันก่อนไม่แซวก็ได้ วิวแค่เห็นพี่เมดไปไหนมาไหนกับพี่อาฟบ่อยๆไง คุยกันทีไรก็บอกอยู่กับพี่อาฟตลอด พี่อาฟมารับ พี่อาฟพาไปเรียน กินข้าวก็กินกับพี่อาฟ แถมยังไปนอนคอนโดเค้าอีก ]

[ แค่สองสามวันเองมั้ยมึง ไปไหนมาไหนด้วยกันแค่สองสามวัน มันจะแปลกอะไรวะ ]

[ มันแปลกนะ ที่แค่สองสามวันแต่พี่ก็ไปนอนคอนโดเค้าแล้ว ปกติพี่เมดไม่เป็นแบบนี้ไง ] ก็จริงอยู่ที่ปกติผมไม่เป็นแบบนี้ ผมสนิทกับคนยากเพราะงั้นกับอาฟอะไรๆก็เลยดูเร็วไปหมด ถ้าเทียบกับนิสัยที่เคยเป็น [ พี่เมดเป็นพวกไม่สนิทกับใครจะไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิต อย่างเรื่องไปนอนบ้านคนอื่น ไม่สนิทก็ไม่เคยไปนอนปะ แต่ตอนนี้ที่ไปนอนคอนโดพี่อาฟได้ก็ต้องรู้สึกสบายใจที่จะอยู่กับเค้าในระดับแล้วรึเปล่าวะ ]

[ อื้ม กูก็สบายใจที่ได้อยู่กับมันนะ ] ผมตอบรับน้องชายตัวเองออกไปตรงๆ มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถึงมันจะปากไม่มีหูรูด พูดจาอะไรไม่เคยเข้าหู แต่ตอนนี้มันคือคนที่ทำให้ผมรู้สึกอยากจะอยู่ด้วยมากที่สุดแล้ว เป็นคนที่ผมรู้สึกไว้ใจที่จะเล่าเรื่องราวทุกอย่างในใจที่รู้สึกให้ฟัง แม้มันจะไม่ค่อยอยากฟังเท่าไหร่ก็เถอะ

[ ฝนตกแน่ๆ พี่เมดยอมรับออกมาตรงๆขนาดนี้ ]

[ ก็พูดให้มึงฟังคนเดียวไง เลยพูดออกมาตรงๆได้ อยู่กับอาฟกูไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เรื่องหนักสุดก็มีแค่เรื่องงาน กลางๆก็เรื่องของกิน เรื่องนิดๆหน่อยๆก็คงอยากตีปากเจ้านาย แต่ก็มองดูรวมๆแล้วก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าเทียบจากคนที่ปากแบบมัน อาฟก็ดูเป็นห่วงกูด้วยซ้ำ ]

[ เป็นห่วงเหรอ ? อะไรที่ทำให้พี่เมดคิดว่าเค้าเป็นห่วงพี่เมดเหรอ ] ชิบหาย เหมือนจะพูดอะไรที่ควรพูดออกไปแล้ว

[ ก็อย่างเมื่อวานยีนส์กับจิงมันเข้ามาคุยกับกู ยีนส์ส่งข้อความมาขอโทษกูบอกให้กูคืนดีกับไอ้จิง มันบอกไอ้จิงไม่เกี่ยว ]

[ เดี๋ยวนะ อีเชี้ยนั่นหน้าด้านขนาดนั้นเลย ]

[ เออ ช่างมันกูก็ไม่ตอบอะไรหรอก แต่ตอนนั้นกูเฟลไงมึงเลยแบบเซ็งสุดๆ ไอ้อาฟก็ส่งข้อความมาพอดี กูเลยงอแงให้มันฟัง มันก็ฟังกูนะแล้วพอกูพูดจบมันก็ไม่พูดอะไร บอกแค่ให้กูไปค้นร้านข้าวอร่อยๆ จะได้เลิกคิดเรื่องเหี้ยๆ คือกูก็มองว่า เออ มันก็จริงนะ เราควรเลิกคิดอะไรแบบนั้นควรเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ปกติถ้าเล่ามึงคงด่ากันมันส์ แต่เล่ามัน..ก็ดีไปอีกแบบ ]

[ เหมือนบอกว่า เลิกคิดเรื่องนี้ไปคิดเรื่องอื่นดีกว่า เหมือนเค้าให้กำลังใจมึงว่าอย่าใส่ใจเรื่องนั้น ]

[ อื้ม ใช่ แล้วคราวนี้พอจะปิดมือถือกูก็บอกมันว่า เออรีบมารับไม่อยากอยู่คนเดียว มันก็บอกว่า ครับ รู้แล้ว คือตอนนั้นแบบ เอาตรงๆนะมึง โคตรอุ่นใจ กูรู้เลยอาฟไม่ปล่อยให้กูรอนานแน่ๆอะ ]

[ เชี้ย ชักแปลกๆ แล้วไงต่อ ]

[ เออจะเล่าเรื่องตลกให้มึงฟัง เมื่อวานกูไปทำงานที่ผับ แล้วช่วงพักก็ออกไปกินข้าวกับอาฟแล้วก็พวกคนที่ผับนี่แหละ แต่ว่าขากลับอะ กูต้องกลับกับไอ้อาฟสองคน คนอื่นเค้ากลับก่อน แล้วตอนนั้นฝนมันก็ตกแบบโปรยๆเม็ดเล็กๆ อาฟมันก็ลากกูไปยืนหน้าเซเว่นแล้วมันก็เข้าไปเซเว่นเว้ย ก่อนจะออกมาพร้อมกับทิชชูแพ็คหกม้วน ]

[ เพื่ออออ ]

[ กูถามว่าเอาไปทำอะไรมันก็บอกเอาไปใช้ ทั้งๆที่ในผับก็มี ]

[ อ่าห๊ะ แล้วไงต่อ ] น้องชายผมตอบรับ

[ คราวนี้พอจะเดินต่อมันก็ถุงเซเว่นที่ใส่ของนั่นมาครอบหัวกู กูก็บอกไม่ครอบ พูดไปพูดมา เถียงกันไปเถียงกันมา มันก็หลุดความจริงออกมาว่า มันไปซื้อทิชชูมาเพื่อเอาถุงมาครอบหัวให้กูเลยนะ ใส่ซะ ฝนตกกลัวกูเปียกแล้วไม่สบาย มึงดูความบ้าของมัน ตลก ฮ่าๆๆ คือถ้าจะซื้อ ก็ซื้อร่มไปเลยดีกว่ามั้ย เก็กสัด ]

[ พี่อาฟชอบมึงรึเปล่าพี่เมด ] คำถามของคนที่ไม่ได้ตลกไปกับเรื่องเล่าของผมเอ่ยถามขึ้นมา

[ บ้า ไม่หรอกมึงอย่าคิดอะไรอย่างงั้น ]

[ มึงอะ ถามตัวเองก่อนมั้ยว่าอย่าคิดอย่างงั้น กูรู้ว่ามึงก็แอบคิดเหมือนกัน ว่าพี่อาฟจะชอบมึงรึเปล่า มึงถึงมาเล่ากูให้กูทักว่าพี่อาฟชอบมึงรึเปล่า เป็นแบบที่มึงคิดมั้ย ]

[ มึงแม่ง ]

[ การกระทำชัดขนาดนี้ มึงดูไม่ออกจริงๆเหรอวะ อย่าหลอกตัวเองพี่เมด นี่วิวแค่ฟังไม่ได้เห็นท่าทางยังรู้สึกเลย เค้าดูห่วงพี่เมดมากอะ เกินที่คนรู้จักกันแค่ไม่กี่วันจะทำให้กันอะ ]

[ วิว ]

[ มึงก็แอบคิดใช่มั้ยพี่เมด ว่าเค้าคงจะชอบมึง ]

[ เออก็คิด ] ผมสารภาพมันไปตามตรง ก็อย่างที่มันเดาถูก ผมเล่าเพื่อให้มันย้ำความคิดของผมว่าตัวเองไม่ได้คิดไปเองคนเดียวกับการกระทำแปลกๆที่อีกฝ่ายมอบให้ [ กูสับสน แต่กูก็ไม่อยากจะคิดไปไกลไง ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองด้วย ก็อย่างที่มึงบอก เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน แต่การกระทำของอาฟที่ทำให้กูมันแบบ เออ ก็พอคิดได้แหละ ว่ามันคงชอบ ]

[ นั่นไง แล้วมาตอแหลทำเป็นไม่รู้ให้กูทัก ]

[ มึง คือกูก็ไม่อยากหลงตัวเองเปล่าวะ แต่มันเล่นเลี้ยงข้าวกูทุกวัน เลี้ยงแบบคนหาเรื่องเลี้ยง ขับรถพากูไปนู้นนี่ทั้งๆที่จะส่งแค่บีทีเอสก็ได้ แต่มันจะเลือกมาส่งกูให้ถึงที่ด้วยตัวเอง ซึ่งเอาจริงๆอาฟไม่ใช่คนที่นิสัยแบบนั้น มันเลยทำให้กูคิด ]

[ แต่ละเรื่องที่มึงเล่าให้ฟัง เป็นใครใครก็คิด กูยังคิด ] วิวมันย้ำ [ แล้วเค้าเคยพูด หรือสื่ออะไรว่าเค้าชอบมึงมั้ยละ ]

[ ก็มีบ้างมั้ง อย่างกูก็เคยถามนะว่าแบบ เลี้ยงข้าวกูแบบนี้ เหมือนคนมาจีบเลย แล้วมันก็ตอบว่า อื้ม  ]

[ สัด กูว่าใช่ละ ]

[ แล้วอย่างเมื่อวาน มันมีปัญหาที่ผับนิดหน่อย กูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าเรื่องอะไร แต่อาฟมันก็แค่ดึงกูออกมาจากตรงนั้น มันพูดกับกูตอนที่กูกำลังเถียงว่าแบบ มันหวงกู อย่าให้ตรงพูดยาว คือมึงมันแบบ คำนี้คนไม่ชอบกันเค้าไม่พูดเปล่าวะ ] ผมถามน้องชายตัวเองรู้สึกหน้าร้อนยังไงก็ไม่รู้ ผมที่เม้มปากตัวเองไว้แน่นด้วยความเขิน ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ทำให้ทุกเรื่องก็ยิ่งเขิน ผมถามย้ำน้องชายตัวเองอีกทีเพื่อความมั่นใจ [ มึงว่ามันชอบกูเหรอวะ ]

[ ชัวร์ พี่อาฟชอบพี่เมดแน่ๆ ร้อยล้านเปอร์เซ็น ก็มันไม่มีเหตุผลอะไรที่คนคนนึงต้องหวงกัน ถ้าไม่รู้สึกดีต่อกันมั้ยจริงมั้ย ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงข้าวลูกน้องทุกวันปะ แล้วก็ไม่ต้องไปรับไปส่งมั้ย คือสิ่งที่เค้าทำให้พี่เมดแต่ละเรื่องมันไม่ใช่ที่คนทั่วไปเค้าทำกันไง มันเป็นเรื่องที่คนเค้าชอบกันเค้าทำให้กัน ]

   ผมถอนหายใจออกมาตอนที่อ่านประโยคนั้น มันก็จริงอย่างที่วิวพูด ผมก็รู้สึกได้แต่ตอนนี้เหมือนตัวเองกำลังพยายามไม่ยอมรับความคิดพวกนั้นมากกว่า ไม่ยอมรับว่ากำลังโดนอีกฝ่ายค่อยๆจีบ ทั้งๆการกระทำทุกอย่างมันก็โคตรจะชัดเจน

[ ว่าแต่พี่เมดเถอะ คิดยังไงกับเค้าวะ ]

[ หมายถึง ? ]

[ พี่ชอบเค้ามั้ย ]

[ กูไม่รู้ว่ะ ตอนนี้กูรู้สึกแค่ว่า อาฟมันเป็นคนที่กูอยู่ด้วยแล้วสบายใจ มันทำให้กูลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นแล้วก็ให้กำลังใจกู อยู่กับมัน แม้จะหงุดหงิดกับปากเสียๆไปบ้างแต่กูก็ยิ้มได้ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง คงต้องบอกว่า กูสบายใจที่มีมันอยู่กับกูละมั้ง แล้วกูก็อยากจะให้ความรู้สึกตอนนี้มันหยุดอยู่แค่ตรงนี้ก่อน ให้มันเป็นแค่ความสบายใจของกันและกันไปก่อน ]

[ ทำไมวะ ทำไมต้องหยุดความรู้สึกไว้แค่นั้นวะ จากที่ฟังมึงก็ดูชอบพี่เค้านะ ]

[ กูเพิ่งอกหักมานะวิว ] ผมสารภาพออกไปตามที่คิด [ เพิ่งเลิกกับแฟนมายังไม่ถึงเดือนนึงเลย กูรู้สึกดีกับอาฟนะ แต่ว่ากูก็ไม่รู้ว่าไอ้ความความรู้สึกดี สบายใจ ที่กูเป็นอยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ไง เพราะกูชอบมันจริงๆ หรือมันเพราะหัวใจกูอ่อนแอแล้วก็กำลังต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างๆรึเปล่า อาฟอาจจะแค่เข้ามาในเวลาที่ประจวบเหมาะ กูกำลังต้องการที่พึ่ง กูเลยชอบมัน ซึ่งกูไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น ไม่อยากจะให้อาฟมาเป็นตัวแทนของใคร กูว่ามันไม่แฟร์กับอาฟเท่าไหร่ ]

[ ก็คิดดูดีๆ แต่พี่เมด การที่พี่เมดแคร์ความรู้สึกของพี่อาฟขนาดนี้ นั่นมันก็บอกแล้วนะ ว่าพี่อาฟก็สำคัญกับพี่เมดเหมือนกัน ก็คนเรามันจะแคร์คนที่เราไม่รู้สึกชอบไปทำไมวะ จริงมั้ย ]

[ อื้ม คงงั้น ] ก็คงจริงอย่างที่อีกคนพูด ผมคงชอบมันนั่นแหละ แต่แค่ไม่รู้ว่าความชอบตอนนี้ มันชอบเพราะอะไร จะเพราะอยากได้ที่พึ่งพิงจากใครสักคน หรือชอบเพราะชอบมันจริงๆกันแน่

[ เอาเถอะ อย่าคิดอะไรให้มันมากเลย ปล่อยๆมันไปเถอะ ] วิวบอกปัดให้ผมเลิกคิดมาก [ แต่ที่วิวอยากจะบอกพี่เมดก็คือ ไม่ต้องไปคิดว่า กูเพิ่งเลิกกับแฟนจะมาคบกับคนใหม่ได้ไง แล้วก็ไม่ต้องคิดด้วยว่าที่ตัวเองรู้สึกดีตอนนี้มันแย่ มันเหมือนว่าเอาเค้ามาดามใจในตอนที่ตัวเองอกหัก เพราะวิวว่าคนเรา ถ้ามันจะรัก มันก็รักอยู่ดี เข้ามาตอนไหนช่วงเวลาไหน มันก็รัก แต่ถ้าคนมันไม่รัก เข้ามาตอนไหนยังไงมันก็ไม่รัก พยายามยังไงก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี ]

[ อื้ม ] ผมถอนหายใจออกมา ตอนที่อ่านข้อความนั้น [ ก็จริงของมึงว่ะ ]

[ อย่าคิดมากนะ ถ้าเค้าใช่เค้าก็แค่ใช่ สุดท้ายพอถึงเวลาที่เหมาะสมมันก็คงหาคำตอบได้เอง ]

[ กูก็คงปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อน  กูไม่อยากจะคิดว่ามันชอบหรือไม่ชอบ ถึงแม้ความคิดกูจะเทไปทางหลงตัวเองว่าเค้าชอบมากกว่าก็เถอะนะ ] ยิ้มแห้งๆผ่านหน้าจอ [ แต่ว่ากูก็สบายใจกับการที่ทั้งกูทั้งมันอยู่ในจุดนี้ สบายใจที่มีอาฟอยู่ด้วย แล้วกูก็เชื่อว่าถ้ามันจะเปลี่ยน เวลาจะบอกเราเองว่าตอนไหน ]

[ อื้ม คิดแบบนั้นก็ดี สบายใจอะไรก็ทำแต่ถ้าฝ่ายนั้นรุกก็อีกเรื่องนะ ]

[ คงไม่หรอก มั้ง ] ผมก็ไม่มั่นใจหรอก ไม่สามารถคาดคะเนนอะไรกับผู้ชายคนนี้ได้ทั้งนั้น เหมือนคลื่นในทะเลนั่นแหละ ไม่รู้ลูกไหนจะใหญ่ ลูกไหนจะเล็ก

[ ท่องไว้เราโสดแล้ว อย่าปิดกั้นตัวเองเพราะแค่เพิ่งเลิกกับแฟน แล้วมันจะดูไม่ดีถ้ามีแฟนใหม่เร็วไป ไอ้เชี้ยนั่นมันไม่ได้มีค่าอะไรให้พี่ต้องแคร์ ถ้ามันตายก็ว่าไปอย่าง ]

 ผมยิ้มกับข้อความของมัน ก่อนจะส่งสติกเกอร์เป็นการปิดข้อความสนทนากับน้องชายของตัวเองไป มันมีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่กล้าเล่าวิว มันน่ากลัวอยู่สำหรับความรู้สึกของคนที่เพิ่งเจอกันแค่สองสามวันแต่กลับทำให้เป็นได้ถึงขนาดนี้

เรื่องที่เมื่อคืนผมหึงอาฟกับผู้หญิงคนนั้น หรือแม้แต่ตอนที่ใจเต้นโครมครามตอนที่ได้อยู่ใกล้มัน ‘ พี่เมด พี่อาฟน่ะ น่ากลัวนะ ระวังตัวด้วย ‘ ก็อย่างที่วิวบอก มันเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้จะลืมบอกว่าน่ากลัวที่ตรงไหนก็เถอะ แต่ผมว่าตอนนี้ก็รู้บ้างแล้ว
 
มันน่ากลัวตรงการกระทำที่อบอุ่นของมันทั้งๆที่เป็นคนที่ดูเหมือนเจ้าชู้แล้วก็ไม่สนใจโลก คนที่ใช้สายตาทั้งหมดจับจ้องมาที่เราคนเดียวราวกับคนสำคัญที่สุดของเค้า นั่นแหละ ..ความน่ากลัวของมัน

 “ อื้ออ “ เสียงครางเบาๆดังขึ้นมาจากคนที่นอนอยู่ข้างกัน ฟูกที่นอนบอกถึงการเคลื่อนไหวของใครอีกคน

ผมล็อคหน้าจอมือถือวางลงข้างตัว หลับตาลงอีกครั้งทำทีเป็นว่ายังไม่ไม่ตื่น ก็ยอมรับว่าไม่รู้จะพูดอะไร หรือแสดงสีหน้าแบบไหนในช่วงเวลาที่เราลืมตาขึ้นมาแล้วเจอกันและกันเป็นคนแรก  ผมเลยคิดว่าจะรอให้อีกคนตื่นก่อน แล้วพออาฟออกไปจากห้องผมก็ค่อยตื่นตาม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ง่ายแบบนั้น

มือหนาเอื้อมมากอดที่เอวก่อนจะดึงให้ร่างทั้งร่างของผมถอยลงไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน อาฟที่เหมือนจะนอนอยู่ในระดับที่สูงกว่ามันก้มหน้าหายใจเข้าออกอยู่ใกล้ใบหน้าของผม  เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่เป่ารดแก้มและใบหู ผมที่กำลังนอนนิ่งพร้อมพยายามสงบจิตสงบใจให้เข้มแข็งไว้ ก่อนเสียงทุ้มของคนที่คิดว่าหลับก็ดังขึ้น

“ ตื่นแล้วแต่ยังนอนให้กูกอด คิดอะไรกับกูอยู่ปะ “

“ คิด “ ตอบออกไปสั้นๆ มือที่กำลังกอดอยู่นั้นก็คลาย ผมพลิกตัวหันไปหามัน ใบหน้าคมที่ลืมตามองกันอยู่ สายตาคมดูอึ้งไปเล็กน้อยที่เห็นผมจู่โจมมันแบบนั้น “ คิดว่ามึงกวนตีนกูไง ไอ้สัด “


เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่ในแบบที่ชอบ แต่ทำไม ตอนนี้ใจมันถึงได้เต้นแรงนักว่ะ

.................................................................................
 

ทุกคนเข้าใจความรู้สึกของเมดมั้ย เรามองคนทุกคนถ้าเริ่มรักใหม่ในเวลาที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาใหม่ ๆมันต้องมีความรู้สึกอะไรแบบนี้ เลยหยิบยกมาเขียน อยากให้คนอ่านได้เห็นถึงมุมมองจริงๆของน้องเมดที่มีต่อพี่อาฟบ้าง
 
สวัสดีปีใหม่ไทย สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ
ขอให้เป็นปีที่ดีกันถ้วนหน้านะคะ
แล้วก็เรื่องที่อยากจะประกาศทิ้งท้ายคือ
นิยายเรื่องนี้ ขอเปลี่ยนจากอัพทุกวันศุกร์ อาทิตย์ เป็น วัน ศุกร์ วันเดียวนะคะ
ด้วยเหตุผลที่ว่า หนมเขียนไม่ทันแล้วค่า คือความยาวปกติของนิยายที่เคยเขียน มันคือ สองตอน ต่อ หนึ่งตอนของเรื่องนี้
เรื่องนี้ตอนนึงค่อนข้างยาวมากกกก จนเราเขียนไม่ทันแล้วค่ะ เลยอัพได้แค่อาทิตย์ละตอน
แต่สัญญาว่า เขียนทันเมื่อไหร่ จะอัพให้อาทิตย์ละสองตอนเหมือนเดิมค่ะ
สำหรับใครที่ลุ้นว่า เมื่อไหร่จะรักกันสักที #กรีดหน้า
อีกไม่นานเธอ รวมทั้งปริศนาธรรมของนมช็อก ได้รู้เร็วๆนี้ ติดตามกันต่อไปยาวๆนะคะ
และนี้ก็ทางไปนิยายแชทจอยลดา :: http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่า
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
งื้ออออออ เมื่อไหร่สัดอาฟจะรุกพี่เมดฮับบบบ
กูก็ลุ้นไปดิ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากให้น้องเดย์มานอนรวมกันจังเลย  :laugh:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สัดพี่อาฟ คิดจะบุก เริ่มเลยยยย

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
พี่อาฟอบอุ่นมากเนียนกอดน้องเมด :-[

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คนเขียนสู้ๆนะ :mew1:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
รออาฟรุกเมด สักทีสิ อย่าฟอร์มจัด 

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด