Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple  (อ่าน 152738 ครั้ง)

KevinKung

  • บุคคลทั่วไป
ตั้งตารออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ  :oni2:

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆมาต่อแล้ว

รอตอนต่อไปนะครับ

ltahset

  • บุคคลทั่วไป

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสาร โจ้ จัง รีบๆมาคนมาจีบ ซะนะค้าบบ...^^

kYos

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้ก็หนุกอีกแล้ว  เข้มข้น ถึงใจ...

ตามมาอ่าผลงานคุณโจโจ้  หลังจากที่อ่านเรื่องของนายบั๊มพ์  หุหุ

รออ่านเรื่อยๆเลยน้า  :oni2:

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 2 คนในฝัน

เคยมีใครถามคุณถึงผู้ชายในสเป็คบ้างไหม?

สำหรับผม ผมคาดหวังถึงชายคนนั้นว่าจะเป็นคนที่ให้ความรักและความอบอุ่น ที่ผมไม่เคยได้รับมาทั้งชีวิต
เด็กกำพร้าอย่างผมย่อมหวังคนที่จะปกป้อง ดูแล และรักผมมากพอที่จะไม่คิดทำร้ายผม

ที่จริงตอนม.4ผมเจอคนนั้นแล้ว เขามีพร้อมทุกอย่างที่ผมต้องการ รูปร่าง หน้าตา ฐานะและครอบครัวที่มั่นคง รวมถึงบุคลิกภาพและนิสัยใจคอที่ชวนหลงใหล

แต่เขาไม่ได้รักผม

ผมหวังว่าจะเจอคนในแบบเขาคนนั้น และที่สำคัญเขาต้องรักผมด้วย

“นายอมร  พจนวัฒน์ ประธานคณะกรรมการนักเรียนโรงเรียนเซนต์XXXXX”

ผมจ้องมองรูปภาพของผู้ชายในอุดมคติของผม

“กูเห็นมึงจ้องรูปพี่หมีมาสามนาทีแล้วนะ” เชียร์ถามผม ผมรู้สึกเหมือนถูกดึงออกจากความคิด

“ก็จะได้จำพี่เขาได้ เวลาเจอหน้ากันคราวหน้าจะได้ทักไง” ผมแก้ตัวพร้อมเดินออกจากบอร์ดคณะกรรมการนักเรียนหน้าห้องปกครอง
“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย มึงคิดอะไรอยู่” เชียร์ยังไม่เลิกเซ้าซี้

ผมจับแก้มตัวเอง ไม่นึกว่าแค่รูปยังเขินขนาดนี้เลย

“นายธนากร มานี้หน่อย” อาจารย์ฝ่ายปกครองเรียก

“ได้เวลารับใช้บรรดาคณาจารย์แล้ว นักเรียนคนเก่ง” เชียร์แซวพร้อมเดินหนีไปอีกทาง ผมนึกโมโห แทนที่มันจะอยู่ช่วย

ผมเดินเข้าไปในห้อง พร้อมตรงไปที่โต๊ะของอาจารย์ ว่าแล้ว ต้องโดนใช้ยกของอีกตามเคย

ผมหอบหนังสือเล่มใหญ่ เดินไปที่อีกฝากของตึกที่ผมเรียนอยู่ อาจารย์ให้ผมเอาหนังสือไปที่ห้องม.6 ที่อาจารย์กำลังจะไปสอนในคาบต่อไป

เมื่อถึงห้องของพี่ม.6 ผมเดินเอาหนังสือไปวางไว้ที่โต๊ะ พร้อมรีบเดินออกจากห้องเพราะรู้สึกว่าทุกคนในห้องนั้นจ้องมองมาที่ผม

“โอ๊ะ” คงรีบเกินไปเลยชนคนที่กำลังเข้ามาในห้อง แต่แว่นผมมันหายไปไหนอ่ะ

“ระวังแว่นหักนะ” คนที่ผมเดินไปชนยื่นแว่นให้

“ขอบคุณครับ” ผมรับแว่นพร้อมใส่มัน

แล้วผมก็เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าผม

ชายหนุ่มที่ผมจ้องมองรูปเขาเกือบสามนาที และทำให้ผมรู้สึกเขินอายแค่เพียงมองรูปเขา

“มาทำอะไรครับ เข้าผิดห้องเหรอ” พี่หมีถามอย่างสุภาพ

“เออ คือ อาจารย์ใช้ผมให้เอาหนังสือมาไว้ที่ห้องนี้”

“นึกว่ามาหาใครซะอีก” พี่หมียิ้มให้ผม

“แล้วพี่คิดว่าผมจะมาหาใครเหรอ” ผมย้อนถาม

“ไม่รู้สิพี่ก็เดาไปอย่างนั้นแหละ”

“เฮ้ยไอ้หมี มึงจีบใครอยู่หน้าห้องเหรอว่ะ” เพื่อนในห้องแซว ผมลืมไปว่าตอนนี้ผมคุยกับพี่หมีอยู่หน้าห้อง ที่มีสายตานับสิบกำลังจ้องมองเราสองคนสนทนากันอยู่

“ไม่รีบกลับห้องเหรอ จะหมดเวลาพักแล้วนะ” พี่หมีตัดบทสนทนาเมื่อเห็นว่าคุยในเวลานี้ไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่

“เออ ครับ ยินดีที่ได้เจอพี่อีกครั้งนะครับ” ผมไม่วายพูดความรู้สึกในใจออกมา

พี่หมียักคิ้วให้ผมก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง

ผมเดินมาจากห้องนั้นพร้อมรอยยิ้ม นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่จะมีแค่ในฝันมีตัวตนจริงๆ
ผมเดินลัดไปทางหลังของตึก เพราะเป็นทางลัดที่ไปตึกที่ผมเรียน แต่ไม่ค่อยมีใครใช้ทางนี้ เพราะหญ้าค่อนข้างรกและพื้นก็มีแต่หินที่เป็นทางไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วผมต้องรีบไปเข้าเรียนให้ทัน เลยไม่สนใจทางลัดที่แสนทรมานขนาดนี้

ผมรู้สึกว่าเหมือนมีควันลอยขึ้นมาใกล้ๆกับทางที่ผมเดิน ผมมองที่ควันนั้นพร้อมเดินเข้าไปหาว่ามันคืออะไร

“ใครสูบบุหรี่ว่ะ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง

เจอเจ้าตัวแล้ว ทำไมหน้าคุ้นๆว่ะ

“โจ นายสูบบุหรี่เหรอ” ผมเอ่ยชื่อเจ้าตัว ดูเจ้าตัวจะไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ที่มีคนเห็นเขา

“อืมม แล้วมึงเห็นกูทำอะไรเล่า” แนะมันย้อน

“สูบไหม” มันยื่นมาให้ผม

“โทดที เราไม่อยากตายเร็ว” ผมพูดประชด

“ลืมไป ดันไปชวนเทวดาประจำโรงเรียน” มันก็ใช่ย่อย

“นายไม่กลับห้องไปเรียนด้วยกันเหรอ” ผมทำหน้าที่เพื่อนที่ดี แม้รู้คำตอบว่าคนตรงหน้าจะตอบว่าอะไร

“กลับไปทำไม ไม่ได้คิดจะมาเรียนสักหน่อย ไม่ได้เข้าเรียนมาตั้งแต่เช้าอยู่แล้ว” ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

“นี้นายไม่ได้เข้าเรียนมาตั้งแต่เช้าเหรอ”

“เอ้า อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ ไม่รู้เหรอ” มันทำน่าตกใจ สักพักมันก็ถอนหายใจ “ใช่สิ เด็กเรียนแถวหน้าอย่างมึงคงไม่คิดจะสนใจเด็กซ้ำชั้นหลังห้องอย่างกูหรอก”

มันพูดเหมือนให้ผมรู้สึกผิด

กรี้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง...........................................................

“โธ่เว้ย! ไปไม่ทันจนได้” ผมบ่นกับตัวเอง

“ไปช้าหน่อยจะเป็นไร อาจารย์ไม่ทำโทดศิษย์รักอย่างนายหรอก” ไม่รู้มันพูดประชดหรือพูดจริง

ที่จริงผมก็ไม่ได้กลัวหรอก เพราะผมอ้างได้ว่าไปชวนอาจารย์ฝ่ายปกครองมา แค่อยากไปให้มันทันแค่นั้น

“แล้วนายแน่ใจนะว่าจะไม่ไปด้วยกัน” ผมถามโจอีกครั้ง

“ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้คิดจะมาเรียน” มันย้ำอีกครั้ง

“นายลืมไปแล้วเหรอว่าถ้าศิษย์รักอย่างเราไปบอกอาจารย์ว่านายโดดเรียนไปสูบบุหรี่ แล้วมันจะเป็นยังไง”

โจทำหน้าไม่พอใจ แต่มันก็ทิ้งบุหรี่ พร้อมเดินตามผมมา

พอเห็นมันเดินตามมา ผมหยิบหมากฝรั่งให้มัน
“เคี้ยวซะ จะได้ลบกลิ่นบุหรี่ของนาย”

มันทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็รับหมากฝรั่งของผม

พอถึงห้องผมก็เดินกลับไปที่นั่ง โดยอาจารย์ไม่ได้ว่าอะไร สงสัยเชียร์มันบอกให้แล้วมั้ง

“เอ๊ะ วิรุฬกาน บอกว่าอาจารย์เค้าใช้ธนาการไปคนเดียวไม่ใช่เหรอ แล้วนายอัศวเทพไปไหนมาเหรอ” อาจารย์ถามนายโจก่อนที่มันจะไปนั่งที่

“พอดีผมแบกของคนเดียวไม่ไหว เลยให้อัศวเทพไปช่วยครับ” ผมแก้ตัวให้โจ ไม่รู้ไปแก้ตัวให้มันทำไม

อาจารย์เชื่อผมเลยปล่อยให้มันไปนั่งที่

“พอดีเมื่อกี้อาจารย์ให้คนในห้องจับบัดดี้กันนะ” ที่อาจารย์พูดถึง คือการจับคู่กันในการเรียน ให้คนเก่งช่วยคนที่เรียนไม่เก่ง เหมือนให้คอยช่วยเหลือกัน

“เพื่อนๆในห้องจับกันไปแล้ว เหลือเธอสองคน อาจารย์เลยให้เธอคู่กันนะ”

“ห๊า...ว่าไงนะ” ผมกับโจอุทานขึ้นมาพร้อมกัน คนทั้งห้องหันมามองผมกับโจที่ตกใจกับการจับคู่ครั้งนี้

“ถึงทั้งสองคนไม่พอใจ แต่อาจารย์คิดว่าเหมาะสมดีแล้ว” อาจารย์รวบรัดกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ

และแล้วอาจารย์ก็ให้คนที่เป็นบัดดี้มานั่งคู่กัน

ผมต้องมานั่งกับนายโจจนได้

“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้” โจแซวเหมือนเห็นผมทำหน้าบูด

“อย่ารบกวนสมาธิในการเรียนของเรา” ผมหันไปดุมัน

“คิดว่าอยากพูดกับมึงนักเหรอไง” มันทำเสียงเข้ม

“งั้นก็เงียบๆไปเลย ต่างคนต่างอยู่ โอเคมั้ย” ผมตัดบท

“มึงก็จำไว้ว่ากูไม่คิดจะขอร้องอะไรมึง เมื่อกี้ที่มึงพูดแก้ตัวให้กู กูไม่คิดว่าเป็นบุญคุณหรอกนะ เพราะกูไม่ได้ขอร้อง ถือว่ามึงเสือกเอง”

ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ที่ได้ฟังคำพูดของมัน

ผมจะจำไว้เลยว่า มัน คือผู้ชายที่ผมเกลียดที่สุดในโลก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่2

ผมชอบผู้ชายแบบไหนเหรอ

หล่อ หน้าตาดี หุ่นล่ำ รวย ของพวกนี้มันต้องมีอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องมีครบทุกอันหรอกน่ะ ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไปก็ได้ แต่ถ้าขาดมากกว่าหนึ่งอันนี้ขอคิดดูก่อน

แต่สิ่งที่ผมต้องการคือ เขาเข้าใจในตัวผม รับทุกอย่างที่ผมเป็นได้ และต้องรักผมคนเดียว

“นายสมภพ เลิศสกุล ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อความยั่งยืน”

ผมเขียนชื่อบรรดาคณะกรรมการของชมรมพร้อมแปะรูปไปด้วย

“รูปนี้พี่หล่อไหม”พี่เต๋าพูดพร้อมช่วยแปะรูป

“ท่าทางจะใช้มุมกล้อง ไม่ก็ใช้คอมแต่งรูป ไม่งั้นคงไม่ออกมาขนาดนี้หรอก” ผมพูดทำเป็นไม่สนใจ

“งั้นเชียร์ก็ยอมรับว่ารูปนี้พี่หล่อจริงๆ”

“ยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ผมไม่สนใจพร้อมแปะรูปต่อไป

“บ้านพี่เต๋าทำอะไรเหรอ” ผมชวนคุย

“ทำไร่ผลไม้ ปลูกผักขาย แล้วก็ขายพวกไม้ยืนต้น ไม้ประดับ”

ที่จริงก็พอรู้ว่าพี่เต๋าเป็นทายาทเศรษฐีพ่อค้าไม้เมืองกาญจน์ แปลว่ารวยมากๆ

“มีกี่ไร่อ่ะ” ผมยังถามต่อ

“ถ้าเฉพาะที่บ้านเมืองกาญจน์ ก็2000กว่าไร่” พี่เต๋าพูดไปทำงานไป

“ห๊า.....” ผมตกใจ “ยังมีที่อื่นอีกเหรอ”

“ถ้าที่เชียงใหม่ก็ของพี่สาวกับแฟนเค้า มีอีกที่เพชรบุรีอันนั้นของน้า แล้วก็..............”

พี่เต๋าบอกมาอีกสองสามที รวยกว่ากูอีกนะเนี้ย

“พี่วางแผนว่า ปิดเทอมจะให้ชมรมเราไปเข้าค่ายที่บ้านพี่ คงประหยัดงบไปได้เยอะ”

ผมนึกในใจ พร้อมนึกภาพผมอยู่ในสวนผลไม้ พร้อมคนๆหนึ่งที่กำลังเดินคู่กับผมอยู่ พร้อมกางร่มให้ผม เราสองคนกำลังเก็บผลไม้ เขาคนนั้นกำลังป้อนผลไม้ให้ผมชิม

“เชียร์ว่าไง” พี่เต๋ายื่นหน้าหันมาถาม

“ไม่อ่ะ เมืองกาญจน์ร้อนไม่ใช่เหรอ” ผมทำสีหน้าเรียบเฉย

“งั้น พี่ชวนเพื่อนพี่ไปก็ได้ เห็นไอ้หมิงบ่นว่าอยากไป”

“ใครอ่ะะ หมิง เชียร์รู้จักมั้ย” ผมถาม

“มันชื่อ สุภักดิ์ คนที่เป็นดรัมเมอร์เยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียน ตอนงานกีฬาสีเมื่อปีที่แล้วไง”

ผมชะงัก ในที่สุดสองคนนั้นก็สนิทถึงขั้นชวนไปเที่ยวบ้านกันเลยเหรอเนี้ย

“ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เห็นรู้” ผมเริ่มซัก

“รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ม.ต้น แต่ช่วงนี้ไปไหนกับมันบ่อย เพราะจะเอ็นท์ที่เดียวกัน”

เหตุผลพอฟังขึ้นแต่ก็ยัง สงสัยในความสัมพันธ์ของคู่นี้

“ชอบเพื่อนพี่เหรอ” พี่เต๋าแหย่

“บ้า... ถามไปงั้นๆแหละ” ผมกลบเกลื่อน

“แล้วทำไมต้องทำเหมือนเขิน” พี่เต๋ายังไม่เลิก

ผมขว้างปากกาใส่พี่เต๋า พูดกวนอยู่นั้นแหละ

“ยินดีด้วยนะ เพื่อนพี่มันเป็นเกย์ เดี๋ยวพี่บอกให้” พี่เตาทำหน้าทะเล้น

“เลิกอำสักทีเถอะ สนใจงานดีกว่า”

“ก็มัน...” พี่เต๋าจะพูดอีก แต่ผมห้ามไว้ก่อน

“ถ้าไม่หยุดพูด เชียร์จะฉีกรูปพี่เดี๋ยวนี้นะ” ผมโชว์รูปพี่เต๋าที่กำลังจะติดบอร์ดเอามาขู่

พี่เต๋ายอมแพ้ก้มหน้าก้มตา ทำงานต่อไป

“ไอ้เต๋า ไปกินข้าวได้แล้ว” เสียงหล่อๆของใครบางคน ทำเอาผมกับพี่เต๋าเงยหน้ามามอง

“อ้าวไอ้หมิง” พี่เต๋าทักทายเพื่อนสนิทที่ผมคิดว่า น่าจะสนิทกันมากกว่านั้น

“ขยันจริงๆเลยนะมึง” พี่หมิงเดินเข้ามาในห้องชมรม พร้อมนั่งลงข้างๆพี่เต๋า พี่เค้าหันมายิ้มให้ผม

“หวัดดีครับ พี่ชื่อหมิงนะครับ เพื่อนไอ้เต๋ามัน” พี่เค้าแนะนำตัว

“หวัดดีครับ ผมชื่อเชียร์ เลขาชมรมอนุรักษ์” ผมแนะนำตัวตามารยาท

“เดี๋ยวกูเอาของไปเก็บก่อนนะ” พี่เต๋าหยิบบอร์ดกับอุปกรณ์ไปเก็บ ปล่อยให้ผมนั่งจ้องหน้ากับพี่หมิง

“น้องเชียร์น่ารักดีนะครับ”

อยู่ดีดี พี่เค้าก็ชมผมน่ารัก รู้สึกแปลกๆอ่ะ

“ไม่สนใจสมัคร ดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งเหรอ”

“คนสมัครเยอะไม่ใช้เหรอครับ ผมคงไม่ได้ม้าง” ผมตอบไปตามความคิดของผม แค่เชียร์ลีดเดอร์ยังไม่ได้เลย เอาประสาอะไรกับดรัมเมยอร์ไม้หนึ่ง

“ถ้าเราไม่ลองลงแข่ง เราจะรู้เหรอครับ เห็นเต๋าบอกว่าเชียร์ชอบงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอ พี่ดูแล้ว ว่าเชียร์ก็น่ามีโอกาส”

ทำไมพี่เค้าเชียร์ผมจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า

“ที่พี่พูดแบบนี้เพราะพี่ผ่านมันมาแล้ว อยากให้คนอื่นได้โอกาสที่พี่เคยได้บ้าง”

ท่าทางพี่เค้าเป้นคนจริงใจดี ไม่น่ามารู้จักกับคนอย่างพี่เต๋าเลย

“เสร็จแล้ว ป่ะไปกินข้าวกัน” พี่เต๋าโผล่มาลากตัวผมกับพี่หมิงออกไป

“เชียร์ว่าไปกินข้าวกับเพื่อนของเชียร์ดีกว่า พี่ไปกินสองคนเถอะ” ผมรีบปฏิเสธ ไม่อยากเป็นกว้างขวางคอ

“ไม่กินข้าวกับเพื่อนวันหนึ่ง ไม่ตายหรอก” พี่เต๋าพูดพร้อมยังลากผมอีก

“ไปกินด้วยกันดิครับ” พี่หมิงชวนพร้อมรอยยิ้ม ทำไมหมอนี้ดูเป็นผู้ชายเพอร์เฟคจัง ดูดีไปซะทุกอย่าง

สุดท้ายผมก็มานั่งท่ามกลางพี่เต๋าและพี่หมิง

“เดี๋ยวพี่ไปซื้อนำมาให้ เอาน้ำเปล่ากันใช่มั้ย” พี่หมิงเดินไปซื้อน้ำ

พี่เต๋าก็หันมาซุบซิบกับผม “เป็นไงเพื่อนพี่หล่อใช่มั้ยหละ”

ผมอึ้งไปนิด คิดว่าผู้ชายชมผู้ชายว่าหล่อมันหมายความว่าไงหล่ะ

“ก็ดูดีกว่าพี่ไปทุกอย่าง” ผมพูดประชด

“แสดงว่าเชียร์สนใจ” อ่ะน่ะ ยังไม่เลิกแซวอีก

“อยากกินราดหน้าเหรอ” ผมคว้าจานไปจ่อที่หน้าพี่เต๋า

“ฟังก่อนดิ” พี่เต๋าจับมือผมที่ถือจานราดหน้าไปวางไว้บนโต๊ะ

“โทษทีๆ พี่แซวเล่นๆ ก็เพื่อนพี่มันสเป็คเกย์นี้ นึกว่าจะชอบ”

“น้ำเปล่ามาแล้วครับ” พี่หมิงมาพร้อมขวดน้ำสามขวด ผมและพี่เต๋าเลยก้มก้มตาทานข้าว

ผมเหลือบมองพี่หมิง ผู้ชายที่หล่อ หน้าตาดี รวย ทุกอย่างดูดีไปหมด แต่ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สนใจในตัวเค้าเลย

ตรงกันข้ามกับพี่เต๋าที่อาจจะมีทุกอย่างพอๆกับพี่หมิง ถ้าเอามาเปรียบกันแล้ว ก็ดูด้อยกว่า แต่ผมกับรู้สึกสนใจตัวเค้ามากกว่า

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่3
ผู้ชายที่ผมชอบใช่คนในสเป็คหรือเปล่า จู่ๆก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผม

บิ๊กใช่ผู้ชายในสเป็คหรือเปล่า

ผมเองก็ไม่เคยวาดภาพผู้ชายในฝันหรอก ขอแค่เป็นคนที่แคร์และเข้าใจความรู้สึกของผมเท่านั้น

เพราะมัวแต่นึกถึงคนที่เราใฝ่ฝันถึง ก็คงไม่มีแฟนกันสักที

“นายวสันต์  มานะผลจารุ เลขที่13 ห้องม.5/6” ผมหยิบสมุดวิชาเลขคืนให้บิ๊ก

“ใครสอนวิชาเลขห้องนายเหรอ” ผมถามหลังจากช่วยบิ๊กจัดตารางสอน

“เออ คือ เออ” บิ๊กอ่ำอึ้ง

ผมถอนหายใจ เห็นท่าทีของบิ๊กก็พอรู้ว่าบิ๊กหนักใจที่จะเอ่ยชื่อถึงคนรักเก่า

“มาสเตอร์เบิร์ดใช่ไหม” ผมตอบคำถามแทน บิ๊กก้มหน้าเหมือนทำความผิด

“ทำไมไม่บอกเรา” ผมถามเสียงเหมือนดุ

“ก็เพราะรู้ว่านายต้องเป็นแบบนี้ ก็เลยไม่บอกไง” บิ๊กเองก็ทำท่าไม่พอใจเหมือนกัน

“ที่เราเป็นแบบนี้ เพราะนายไม่บอกต่างหาก” ผมเริ่มขึ้นเสียง

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด ถึงเค้าจะอยู่ที่นี้หรืออยู่ที่อื่น มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราแล้ว”

บิ๊กตะโกนใส่หน้าผมสุดเสียง

“ถ้านายรักเราจริงนายต้องเชื่อใจเราซิ” นี้คือคำที่บิ๊กพูดก่อนจะออกจากห้องพักของผมไป

ผมรู้สึกตัวว่างี่เง่าจริงๆ ผมคงหึงเกินเหตุไปจริงๆ

“ทะเลาะกันเสียงดังเชียว” เชียร์ทำเสียงทะเล้นเดินเข้ามาในห้อง

“ก็กูโมโหที่บิ๊กไม่ยอมบอกเรื่องมาสเตอร์เบิร์ด” ผมเล่าให้เชียร์ฟัง

“เป็นกูก็ไม่บอกเรื่องแฟนเก่าให้แฟนใหม่ฟังหรอก” เชียร์ออกความเห็น

“กูไม่รู้ว่าจะโกรธไปทำไม เหมือนกูไม่เชื่อใจบิ๊ก”ผมเริ่มระบายให้เชียร์ฟัง

“มันเป็นความรู้สึกปกติสามัญ ที่เราหึงหวงแฟนเรา ยิ่งแฟนเก่ามาป้วนเปี้ยนอย่างนี้ใครก็เป็น แต่..” เชียร์ทิ้งคำไว้

“ถ้าบิ๊กรู้ว่ามึงเคยมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด มันไม่ยิ่งกว่าที่แกโกรธอยู่เหรอ”เชียร์ถามเรื่องที่ผมไม่อยากจะคิด

“สำหรับกู คืนนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้น กูลืมไปแล้วว่าคืนนั้นกูทำอะไรไปบ้าง” ผมพยายามพูดไปอย่างที่ใจคิด

“กูก็อยากรู้จริงๆว่ามึงทำไปทำไม” เชียร์ถาม

“กูแค่อยากให้มาสเตอร์เบิร์ดมั่นใจว่ากูไม่ได้คิดอะไรกับบิ๊ก เพราะตอนนั้นเค้าสองคนคบกันอยู่”

“มึงจะเป็นผู้เสียสละให้สองคนนั้นรักกัน” เชียร์ทำเสียงประชด

“ถ้าเป็นมึง มึงจะไม่ทำอย่างนั้นเหรอ” ผมถามเชียร์ถ้ามันอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมมันก็คงทำแบบนั้นเช่นกัน

“ไม่รู้สิ มึงเอาตัวเข้าแลกจนได้บิ๊กมาแล้วนี้ แต่กูว่า มึงไม่น่าทำอย่างนั้นเลย” เชียร์พูดพร้อมเอามือมาแตะที่บ่าผม

“เตรียมตัวรับความสับสนวุ่นวายแล้วกัน”เชียร์พูดจบก็เดินไปที่โต๊ะหนังสือ

ผมหันไปมองมันพร้อมนึกถึงคำพูดของมันเมื่อกี้

กำลังจะพูดกับเชียร์ต่อ โจ้ก็เปิดประตูเข้ามา

“ไอ้ปอ กู กู กู เห็นบิ๊กคุยกับมาสเตอร์เบิร์ดที่สวนหน้าหอว่ะ”

ผมตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน

“กูนี้ไม่น่าพูดเลย” โจ้คงรู้สึกผิดที่บอกเรื่องนี้

“ ดีแล้วที่มึงบอก” เชียร์พูดกับโจ้ พร้อมหันมาที่ผม “ถึงตามึงออกไปยอมรับความจริงได้แล้ว”

ผมถอนหายใจเดินออกไปนอกห้อง พาตัวเองไปข้างล่างของหอ

พอถึงชั้นล่างผมพยายามมองหา บิ๊กกับมาสเตอร์เบิร์ด เห็นแว่บๆอยู่สองคนตรงใต้ต้นไม้ข้างหอ

ผมพยายามเดินไปที่ตรงนั้น โดยที่พยายามเดินให้เบาที่สุด ไม่ให้คนแถวนั้นเห็นผม พอผมไปถึงต้นไม้นั้นก็แอบพิงอยู่หลังต้นไม้ เอาหูแนนบฟังการสนทนาของทั้งสองคน แต่ฟังเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน

“แอบฟังคนอื่นคุยกันไม่ดีหรอกนะ อรรถพล” ผมสะดุ้งเงยหน้ามองมาสเตอร์เบิร์ด ที่ยืนยิ้มให้ผม

ผมพยายามเดินหนี แต่มาสเตอร์เบิร์ด คว้าตัวผมไว้

“ไม่ไว้ใจแฟนเหรอ” เค้าถามผม

ผมไม่ตอบ แต่พยายามแกะมือออกจากมาสเตอร์เบิร์ด

“กลัวผมจะมาแย่งเหรอ”

“แล้วมาสเตอร์กลับมาทำไม” ผมถามน้ำเสียงโมโหนิดๆ

“ก็ผู้ใหญ่อยากให้มาสเตอร์กลับมาทำงานฝั่งม.ปลายเหมือนเดิม ก็กลับมาตามคำสั่ง”

ผมมองผู้มาสเตอร์เบิร์ด ด้วยท่าทีแปลกๆ ที่ผมไม่ค่อยแน่ใจในตัวผู้ชายคนนี้เท่าไหร่

“ผมไม่แย่งบิ๊กไปจากนายหรอก ผมให้สัญญากับบิ๊กไปแล้วเมื่อกี้”

ผมถอนหายใจโล่งอก ที่บิ๊กไม่คิดนอกใจผม
 
“แต่ผมไม่สัญญากับนาย เพราะผมจะแย่งนายมาจากบิ๊ก” ผมหันหน้าไปจ้องสายตาที่จริงจังของมาสเตอร์เบิร์ด

“ผมยังจำได้ดีถึงคืนนั้นที่เรามีอะไรกัน ผมหวังว่ามันจะมีอีก ในฐานะที่เราเป็นแฟนกัน” พูดจบมาสเตอร์เบิร์ดก็จะจูบผม แต่ผมเบือนหน้านี้

มาสเตอร์เบิร์ดหัวเราะก่อนจะเดินกลับไปที่หอ

“เตรียมตัวรับความสับสนวุ่นวายแล้วกัน” เสียงของเชียร์ยังก้องอยู่ในหูผม พร้อมสายตาที่ผมยังจ้องมองมาสเตอร์เบิร์ดเดินลับไป

------จบตอน------

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ชอบมาสเตอร์เบิร์ดมากกว่าบิ๊กอ่ะ

มันจะผิดมากไหม :serius2:

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
ปอคุง เริ่มมีปัญหา...น่ากลัวซะแล้วอ่ะ...งิงิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2008 20:02:48 โดย meawkung02 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมาสเตอร์เบิร์ดมากกว่าบิ๊กอ่ะ

มันจะผิดมากไหม :serius2:

เห็นด้วยอย่างแรง

เย้ๆในที่สุดก็มาต่อแว๊ว

แต่ละคนมีตัวเลือกมาสองคนเหมือนกันเลยแหะๆ

เริ่มมันส์แล้วซิ

มาต่ออีกไวๆนะครับพี่โจ้จะมารออ่านทุกวันนะครับ :o8:

dark789

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมาสเตอร์เบิร์ดมากกว่าบิ๊กอ่ะ

มันจะผิดมากไหม :serius2:

เหมือนกันเลย ^^

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ยังรออย่นะคับ


ติดตามมาตลอดเลย

ออฟไลน์ BuzZenitH

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-0
 o21 o21 o21....บรึ่ยยยยยยย

เริ่มจะเป้นเรื่องแล้วววววววว :sad3:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ต้องเตรียมตัวรับความวุ่นวายจิงๆด้วย :serius2: :serius2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ตัวเลือกของแต่ล่ะคนมันส์ๆทั้งนั้นเลย เดี่ยวจะต้องวุ่นวายปวดหัว แน่ๆ อิอิ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป

snowblack

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BuzZenitH

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-0
 o9...มาต่อด่วน....เขารออยู่นะ....
:freeze:...รอจนแข็งแล้ว.......

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

snowblack

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เหอๆ ตอนจะไม่มีใครก็ไม่มี

พอจะมีล่ะก็มารุมกันเชียว

อารายกันนี่ เซงเลย

dark789

  • บุคคลทั่วไป
12 วัันผ่านไป... ยังรอคอยนะครับ

TaroT

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะมาต่อตอนต่อไปอ่ะค๊าบบบบบบบบบ o7  แบบว่ากะลังรออยู่อย่างใจจดใจจ่อมากมาย
เรื่องมันจะดำเนินต่อไปยังไงเนี๊ยะ........... อยากรู้อ่ะ :m13: :m13:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 3 ให้คะแนนหัวใจ

คู่ที่ 1

สระว่ายน้ำของโรงเรียน เป็นที่รวมตัวของนักเรียนใน วันเสาร์และอาทิตย์

ผม เชียร์และปอนัดกันมาว่ายน้ำที่สระน้ำเหมือนๆนักเรียนทั่วไป

“เย้ นานๆจะมาพร้อมกันสามคนสักที” เชียร์กระโดดดีใจที่ผมตัดสินใจมากับมัน เพราะปกติผมไม่ค่อยมาหรอก ไอ้สระว่ายน้ำ ผมหุ่นไม่ค่อยดีเหมือนกับไอ้เชียร์และปอ เลยไม่ชอบมาว่ายน้ำ อายหุ่นตัวเอง

“แต่กูแค่มาเฉยๆนะ ไม่คิดจะมาว่ายน้ำ” ผมออกตัวไว้ก่อน ยังไงก็ไม่ใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวให้คนอื่นเห็นหรอก

“อ้าวแล้วมึงจะมาทำไมเนี้ย” ปอหันมาถาม

“มันจะมาดูผู้ชายหล่ะซิ เห็นตอนนี้อารมณ์เปลี่ยวอยู่” เชียร์ปากหมาแซวผม ผมเลยเอาหนังสือฟาดหัวมัน

“กูแค่อยากมาเปลี่ยนบรรยากาศหาที่อ่านหนังสือสักหน่อยแค่นั้น” ผมอธิบายให้เพื่อนๆฟัง

“มึงจะอ่านรู้เรื่องเหรอ คนออกจะเสียงดังขนาดนั้น”ปอถาม

ผมโชว์หูฟังพร้อมเซาว์อะเบาวท์ที่พกมาด้วย

“มันเอาแว่นกันแดดมาด้วย ยังกะมาอาบแดดชายทะเล” เชียร์หันมาพูดประชดกับผม

“พวกมึงจะไปว่ายก็ไปแล้วกัน กูไปอ่านหนังสือตรงมุมสระโน้นแล้วกัน” ผมทำหน้าเซ็งๆแยกตัวออกไปจากพวกมัน พักหลังเป็นอะไรก็ไม่รู้ ผมเหมือนเป็นคนหงุดหงิดตลอดเวลา

พอหาที่นั่งได้แล้ว ผมก็ใส่หูฟังแล้วเข้าโลกส่วนตัวของผมทันที

อ่านเพลินๆจนผมเผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกที รู้สึกมีอะไรเปียกๆมาหยดลงแหมะๆบนหน้าผม

“อะไรว่ะ” ผมโวยวายขึ้นมา สงสัยคงเป็นเพื่อนตัวดีของผมมาแกล้งผมแน่ๆ แต่พอลืมตาขึ้นมา กลับไม่ใช่คนที่ผมคิด

“โจ นายทำบ้าอะไร” ผมตะคอกพร้อมแสดงสีหน้าไม่พอใจกับการกระทำของมัน แต่ดูมันจะสะใจที่ผมทำท่าโกรธ

“คนเค้ามาสระน้ำ เค้าก็ต้องมาว่ายน้ำ ไม่ใช่มานอนหลับน้ำลายยืดอย่างนี้” โจทำเสียงล้อเลีย จนผมทนไม่ไหวลุกเดินหนี ทำไมต้องมาเจอมันด้วยเนี้ย

ตูม! โจมันกระโดดลงสระ พร้อมน้ำที่กระเซ็นมาทั่วร่างของผม

“อะ อะ อะ ไอ้” ผมโมโหจนพูดอะไรไม่ออก

“55555555” โจมันหัวเราะร่า ที่เห็นผมเปียกไปทั้งตัว

“ไหนก็เปียกแล้ว ลงมาเล่นน้ำดิว่ะ” มันยังมีหน้ามาชวนผมอีก

“เราจะไม่ลงสระเดียวกับนายเป็นอันขาด ไอ้บ้าเอ้ย” ผมโมโหนึกอยากจะเตะหน้ามันจริงๆเลย

แต่มันก็ว่ายหนีไปอีกฝั่ง จะให้ผมวิ่งตามไปเตะมันเดี๋ยวคนจะหาผมว่าบ้า เลยหนีไปสงบสติอารมณ์ที่อื่นดีกว่า

ไหนๆก็คงไม่ว่ายน้ำอยู่แล้วผมเลยกะจะเดินกลับหอ

แต่แล้วก็มีคนยื่นผ้าเช็ดตัวให้ “ทำไมรีบกลับหล่ะครับ ยังไม่เล่นน้ำเลยไม่ใช่เหรอ” 

ผมเลยหน้ามอง พี่หมีในชุดกางเกงว่ายน้ำแบบบีกินนี่ กำลังยืนยิ้มให้ผม

“เอาไปเช็ดตัวสิ ตัวเปียกปอนหมดแล้ว” พี่หมีคงเห็นผมมัวแต่ทำเขินอาย เลยคะยั้นคะยอให้ผมรับผ้าเช็ดตัว

ผมเลยรับมาเช็ดหน้าเช็ดตา แต่สายตายังคงเหลือบมองพี่หมี พร้อมมองหุ่นเขาด้วย พี่หมีหุ่นดีใช้ได้ ไม่ได้ล้ำมากแต่ก็มีกล้ามให้พอรู้ว่าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แล้วผมก็เหลือมองต่ำลงไป

เวรแล้ว เรานี้ลามกจริงๆทำไมไปมองตรงนั้นของพี่เค้าแล้วเนี่ย

“ไปเล่นน้ำกับพี่ไหม วันนี้พี่มาคนเดียว ไม่มีเพื่อนเล่นเลย”

ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองพี่เค้าชวนผมไปเล่นน้ำเนี่ยนะ

“เออ คือ เออ” ผมอ้ำอึ้งไม่กล้าไปเล่นกับพี่เค้า เขินก็เขิน อายก็อายหุ่นตัวเอง

“ว่าไง” น้ำสียงของพีหมีดูเหมือนเร่งเร้า

“ครับ” ผมตอบโดยไม่ได้คิดอะไร รู้แต่ว่าโอกาสมาแล้วจะปล่อยไปทำไม

ลืมไปผมไม่ได้ใส่กางเกงว่ายน้ำมานี่หว่า แล้วจะลงไปได้มั้ย

“เป็นไรหรอก ใส่บอกเซอร์ลงไปก็ได้” พี่หมีตอบแทนความคิดของผม คงเห็นผมเก้ๆกังๆอยู่บนขอบสระ

ผมค่อยถอดเสื้อ พร้อมกับถอดแว่นออกด้วย พอไม่ใส่แว่นแล้วมันมองอะไรไม่ค่อยชัด

พอผมลงไปที่สระได้ก็เอาแต่คล้ำๆที่ขอบสระ ไม่กล้าว่ายออกไปไกลๆ พูดง่ายผมเอาแต่คล้ำขอบสระไปเรื่อยๆจนวนรอบสระ

พี่หมีที่ว่ายเล่นไปกลับหลายรอบ เห็นผมเป็นอย่างนั้นเลยว่ายเข้ามาถาม

“ทำไมวนรอบสระซะอย่างนั้น มีอะไรหรือเปล่า”

“ผม มองไม่ค่อยเห็นอะครับ เลยไม่กล้าว่ายไปไกล อีกอย่างผมก็ว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งด้วย” ผมบอกไปก็อายไป ดูเหมือนเป็นคนไม่เอาไหนเลย

พี่หมีหัวเราะสักพักก่อนจะว่ายเข้ามาใกล้ตัวผมแล้วค่อยๆโอบผมไว้ก่อนจะคว้ามือมาจับทั้งสองข้าง

“งั้นพี่พาไปแล้วกันนะ” ว่าแล้วพี่เข้าก็ค่อยถีบตัวออกไปโดยพี่เข้าทั้งโอบทั้งจับมือผมว่ายไปกลางสระ

ผมตัวแข็งไปทั้งตัว ความรู้สึกที่เนื้อแนบเนื้อนั้นบรรยายมาเป็นคำพูดไม่ออก ไม่นึกว่าคนที่เราแอบปลื้มจะพยายามทำเพื่อเราขนาดนี้

“เหมือนพาเด็กมาว่ายน้ำเลย” พี่หมีหระซิบข้างหูเมื่อพามาถึงกลางสระ

“ผมทำให้พี่ลำบากหรือเปล่า” ผมรู้สึกเกรงใจยังไงก็ไม่รู้

“พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใครมาก่อน มันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้” พี่หมียังพูดกับผมข้างๆหู (พี่เขายังโอบผมไว้อยู่)

“ที่ว่าแปลก พี่หมายถึง มันรู้สึกดี ที่ได้ใกล้กับโจ้ ทั้งๆที่เราก็ยังไม่รู้จักกันเท่าไร่”

พี่เขาพูดจบ ผมอึ้งไป ไม่นึกว่าพี่เค้าจะคิดแบบนั้น

“โทษที พี่อาจพูดตรงไปหน่อยนะ” ผมหมุนตัวเพื่อไปมองพี่เขา

พี่เขายิ้มให้ผมแบบเขินๆพร้อมเกาหัวไปด้วย

“ไม่มีใครเคยบอกเหรอว่า ตอนนายถอดแว่น ก็น่ารักดีนะ” พี่เขาจ้องหน้าผม

ตอนนี้กลายเป็นผมหน้าแดงแทน แถมเกาหัวเหมือนกับที่พี่หมีทำเมื่อกี้นี้

“ขืนพี่ยังพูดอะไรอีก คงไม่ได้ว่ายน้ำกันแน่เลย” พูดเสร็จพี่เขาก็โอบตัวผมไว้ แล้วว่ายพาผมไปรอบสระ

ไม่อยากจะเชื่อว่า น้ำในสระที่ว่าเย็น ก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกเย็นไปด้วย ผมกลับรู้สึกอบอุ่นที่มีคนมาโอบกอดผมไว้ มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ชีวิตผมขาดหายไป และผมกำลังไขว่คว้าหามันอยู่

จะใช้คนๆนี้ที่กำลังกอดผมอยู่หรือเปล่า

พี่หมีพาผมไปที่ขอบสระ แต่แล้วก็มีใครบางคนว่ายมาด้วยความเร็ว แล้วว่ายผ่านตรงกลางระหว่างผมกับพี่หมี จนเราสองคนแยกออกจากกันไปทั้งคู่

ผมแทบเกือบจะจมน้ำ ดีที่ผมแตะขอบสระไว้ทัน
ผมหันไปมองดูว่าใครที่ทำแบบนั้น

“โจ” พี่หมีเอ่ยขึ้นมาก่อน เมื่อเห็นตัวเจ้าปัญหากำลังว่ายไปอีกฝั่ง

ผมสงสัยที่พี่หมีรู้จักกับโจ

“ไอ้เด็กซ้ำชั้นนั้นอยู่ห้องเดียวกับโจ้ใช่มั้ย” พี่หมีหันมาถามผม

ผมพยักหน้า

“พี่เคยเรียนกับมันตอนม.ต้น ห่างๆมันหน่อยนะ พี่ขอเตือน” พี่หมีทำเสียงจริงจัง

“ครับ มีอะไรเหรอ โจมันไปทำอะไรมาเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย

“เอาเป็นว่าพี่เตือนแล้วกัน สัญญานะครับ”

“ครับ ผมสัญญา” ผมตอบ

“พี่เป็นห่วงนะ”

อีกแล้วพี่หมีทำผมหน้าแดงอีกแล้ว

“พี่ขอตัวไปก่อนนะ พอดีเดี๋ยวมีประชุมกับคณะกรรมการนักเรียน พี่ต้องไปเตรียมเอกสารการประชุม ไว้เจอกันนะครับ” พี่หมีลาผม แล้วขึ้นจากสระไป ผมได้แต่มองพี่หมี อยากให้พี่หมีกอดอีกครั้งจัง

“เฮ้ย! มึงนี้ร้ายจริงๆ โดนประกาศความเป็นของไปแล้วนะ” ไอ้เพื่อนตัวดี โผล่มาแซวผมทันที

“พวกมึงพูดไร” ผมทำเป็นดุ แก้ความเขินที่แสดงออกมาทางแก้มที่แดงจัด

“กอดกันกลมกลางสระขนาดนี้  พรุ่งนี้เถอะ คนเขาคงลือกันแซ่ดว่ามึงเป็นแฟนกับประธานนักเรียน” ปอเสริม

“กรูว่าเขากอดมึงไม่แคร์สายตาคนอื่นขนาดนี้ แสดงว่าเขาคงอยากได้มึงเป็นแฟนแน่ๆ”

พอได้ฟังมันพูด ผมก็ลองหันไปรอบสระ ปรากฏว่าทุกคนหันมามองผมจริงๆ ซุบซิบกันด้วย

กลายเป็นคนดังอีกแล้ว

“พี่หมีนี้เพอร์เฟคไปทุกอย่างเลยนะ ทั้งหล่อ รวย มีตำแหน่งหน้าที่ดีอีก แถมหุ่นก็ดี๊ดี เป้าก็ตุงใช่เล่น”

ผมศอกไปทุ้งไอ้เชียร์ที่ยังปากหมากันอยู่อีก

“เต็มสิบ กูให้แปดครึ่งเลยนะ” ปอลงความเห็น

“กูให้เก้าว่ะ” เชียร์บอก แล้วทั้งสองคนก็มองมาที่ผม

“ทำไมกูต้องลงคะแนนบ้าๆบอๆด้วยเนี้ย”

“คงสิบเต็มหละซิ หน้าแดงขนาดนั้น” ทั้งสองคนหัวเราะกันใหญ่
ผมงอนหันหลังให้พวกมัน แล้วก็เจอภาพเด็ด

พี่เต๋ากับพี่หมิงกำลังเล่นน้ำกันอยู่ พี่เต๋ากำลังกอดพี่หมิงอยู่ เหมือนแย่งอะไรกันก็ไม่รู้

“เฮ้ย! เชียร์ดูคู่นั้นซิ ท่าทางเค้าคงประกาศความเป็นเจ้าของกันอยู่” ผมทำเสียงแซวไอ้เชียร์ ที่หน้าซีดเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า

********************************************************************************

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่ 2

เดี๋ยวกอด เดี๋ยวกอด เนื้อแนบเนื้อขนาดนั้น เป็นใครใครก็คิดว่าสองคนนั้นต้องเป็นแฟนกันแน่ๆ

“ไหนบอกไม่คิดอะไรไง ทำไมหน้ามึงบึ้งขนาดนั้น” โดนเพื่อนตัวดีเอาคืนซะแล้ว

“พี่เต๋าทั้งหล่อคม ล้ำ แถมเป็นกันเอง ให้เก้าว่ะ” โจ้พูดข้างหู

“ยิ่งมีคู่ขาหล่อ ยิ่งทำให้เป็นคนเจ้าสเน่ห์ เก้าครึ่งอ่ะ” ไอ้ปอเสริมอีก

“ตามึงแล้ว” ทั้งปอกับโจ้พูดพร้อมกัน

ผมไม่มีอารมณ์มาให้พวกมันปั่นหัวหรอก ผมหนีจากพวกมันพร้อมปีนบันไดตรงขอบสระ

แล้วก็มีอะไรนุ่มๆเด้งมาโดนที่หลัง ผมหันไปเจอลูกบอลลอยอยู่ใกล้ๆ

“น้องเชียร์มาเล่นด้วยกันมั้ยครับ” พี่หมิงพูดชวนผมซะเพราะเชียว

ผมหันไปมองอีกคน ที่ยักคิ้วให้ผม รู้ตัวไหมเนี้ยว่าทำให้ใครอารมณ์เสีย

ผมขว้างลูกบอลใส่ไอ้พี่เต๋าซะเต็มแรง ไอ้คนบ้าเอ๋ย!

พี่เต๋าดันรับได้ พร้อมตีลูกกลับมาที่ผม ผมไม่ได้ตั้งตัว ทำเอาผมทรงตัวไม่อยู่ จนผมตกลงสระไปอีกรอบ

โชคดีที่มีคนมาประคองผมไว้ ผมหันไปก็เจอพี่หมิงยิ้มให้

“เป็นไรป่าวครับ น้องเชียร์” แล้วพี่เค้าก็หันไปดูพี่เต๋า “ไอ้เต๋า มึงก็เล่นแรงเกินไป”

“มึงไม่รู้อะไร เชียร์เค้าชอบเล่นแรงอย่างนี้แหละ” ว่าแล้วก็ปาลูกบอลใส่ผมอีก

“อะไรว่ะ ได้ เล่นแบบนี้ใช่ไหม” ใครจะไปยอมผมก็ปาไปอีก สุดแรงเลย

“หัดรู้ซะบ้างว่าคนอื่นเค้าก็เจ็บเหมือนกัน” ผมตะโกนด่าพี่เต๋า

“ก็ใครจะไปรู้เล่า ไม่บอกอะไรใคร แล้วใครมันจะไปรู้ว่ารู้สึกอะไร” พี่เต๋าพูดเสร็จก็ขว้างมาอีก

“เรื่องแค่นี้ต้องบอกด้วยเหรอ หัดสนใจคนอื่นเค้าเองได้ไหม” ผมรับลูกแล้วก็ขว้างไปอีก

“ใครกันแน่ที่ควรจะสนใจ กลับไปมองตัวเองซะไป” แล้วลูกบอลก็กลับมาอีก ผมยังรับได้
“แค่นี้ยังไม่รู้อีกเหรอ ว่าเชียร์รู้สึกยังไง” ผมพูดด้วยเสียงที่เบาลง

“จะไปยุ่งกับใครก็เชิญเลย” คราวนี้ผมขว้างสุดแรง ไม่สนใจว่าใครจะรับลูกบอลนั้นได้หรือไม่

ผมตะกายตัวเองวิ่งออกไปจากสระ ไปหลบอยู่หลังห้องน้ำ

ทำไมผมต้องแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา

ผมตอบคำถามให้กับหัวใจตัวเองได้แล้ว ว่าผมชอบพี่เต๋าจริงๆ

ผมทนเห็นพี่เค้าสนิทสนกับคนอื่นนอกจากผมไม่ได้จริงๆ

“มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้” ผมบอกตัวเอง

“ใช่ มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้” ผมหันไปมองเจ้าของเสียง

พี่หมิงยืนมองมาที่ผม

“พี่หมายถึง ตัวพี่เองต่างหาก” ผมทำหน้างงที่พี่เค้าพูดแบบนั้น

“พี่ขอโทษที่ทำให้น้องเชียร์เข้าใจผิด พี่คงทำตัวสนิทกับไอ้เต๋ามากเกินไป”

“ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เต๋าสักหน่อย ผมมีแฟนแล้ว และผมก็รักเค้ามากด้วย” ผมตอบแต่หลบสายตาของพี่หมิง

“ทำไมต้องโกหกตัวเองด้วย ในเมื่อตัวเชียร์เองก็รู้ดีแก่ใจอยู่แล้ว” ยิ่งพี่หมิงพูดผมก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดกับตัวเอง

“เอาเป็นว่า พี่จะคอยสนับสนุนเชียร์แล้วกัน” พี่หมิงยื่นมือมาแตะที่บ่าของผม

“ขอบใจพี่มากนะครับ แต่ผมก็ยังไม่อยากบอกพี่เค้าอยู่ดีว่าผมคิดยังไง”

พี่หมิงถอนหายใจ “คงกลัวผิดหวังใช่มั้ย”

ผมไม่ตอบ พี่หมิงพูดอีก “ถ้ากลัวผิดหวัง อย่ารักเลยดีกว่า”

ผมหันไปมองพี่หมิง พูดแรงจัง

“ว่าไงยังอยากจะลองรักอยู่ไหม” พี่หมียื่นมือมาที่ผม

ผมคิดแป๊บนึงก่อนจะยื่มมือไปจับพี่หมิง

“ครับ ผมจะลองดู”

ผมเดินก้าวออกมาที่สระ พร้อมมองไปที่คนๆนั้น

พี่เต๋าเดินมาที่ผม “ขอโทษนะที่เล่นแรง”

ผมทำหน้าบึ้งก่อนจะพูดออกมา “งั้นก็ต้องเจอแบบนี้” ผมกระโดดผลักพี่เต๋าลงไปในสระ แต่พี่เต๋าก็คว้าตัวผมไปด้วย

กลายเป็นว่า เราสองคนก็ตกไปพร้อมกัน

“แสบนะเรา” พี่เต๋าหันมายี้หัวผม

“แสบเฉพาะคนที่สมควรโดน” ผมหันไปมอง

“แล้วพี่จะโดนอะไรอีก” พี่เต๋าเขยิบตัวมาใกล้ผม

“ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าถ้าทำอะไรถึงจะโดน” ผมหันหลังให้กับพี่เต๋า พร้อมจะตะกายตัวออกจากสระ

“ถ้าทำแบบนี้จะโดนอะไรอีก” แล้วพี่เต๋าก็กระโดดกอดตัวผม พร้อมลากตัวไปกลางสระ

“ไอ้บ้า ทำไร” ผมโวยวาย

“ก็อยากทำในสิ่งที่พี่ยากทำมานาน” พี่เต๋าพูดข้างหู ทำเอาผมเลิกดิ้น

“มะ หมายความว่าไง” ผมใจเต้นตึกตัก

“ก็แสดงความเป็นเจ้าของไง” พูดเสร็จพี่เต๋าก็จูบลงมาที่แก้มผม

ทำเอาผมอึ้งทำอะไรไม่ถูก

ผมเห็นพี่หมิงยืนยิ้มอยู่ พร้อมยกนิ้วโป้งให้ผม

ผมยิ้มขอบคุณพี่หมิงก่อนจะกอดพี่เต๋า

“เชียร์ก็จะแสดงความเป็นเจ้าของเหมือนกัน เราเจ๊ากันแล้วนะ”

********************************************************************************

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด