Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple  (อ่าน 152286 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

มาสเตอร์เบิร์ดต้องมีแผนอะไรแน่ๆ เลยอ่ะ  :m16:


myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วไม่เคลียร์ ปอเสร็จ มาสเตอร์เบิร์ดไปแล้วเหรอเนี่ย  :m21: :m29:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
มาสเตอร์ทำตัวแบบนี้ ถ้าจับได้นี้ไล่ออกสถานเดียวเลยน่ะ

แต่ตอนนี้ ชอบเต๋าอ่ะ กวนๆดี อิอิ

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 8 เรื่องคืนนั้น...ฉันจะคิดว่าฉันฝันไป

คู่ที่ 1

เวลาประมาณตีสี่ของวันเสาร์ ทุกคนในหอคงจะยังหลับสนิทกันอยู่
ยกเว้นผมที่แอบเดินจากตึกไมเคิลที่อยู่ข้างกับตึกของผม
ผมพยายามรีบเดินแล้วจะรีบเข้าห้องของตัวเอง โดยไม่อยากให้ใครเห็น
โดยเฉพาะเพื่อนตัวดีของผมสองคนนั้น
เมื่อถึงหน้าห้อง ผมพักเหนื่อยกับการกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาเกือบกิโล
พอหายเหนื่อยก็ค่อยๆเปิดประตูให้เบาที่สุด เพราะกลัวเชียร์ กับ ปอ จะตื่น
ผมแปลกใจที่พอมองไปที่เตียงของปอ ว่างเปล่า
และพอหันกับมามองเตียงของตัวเอง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเชียร์ที่นั่งอยู่บอเตียงมันข้างเตียงผม
“เฮ้ยยยยย ทำไมมึงตื่นเร็วจัง” ผมอุทานออกมา พร้อมทำหน้าตกใจสุดขีด
เชียร์จ้องหน้ามองมาที่ผม “ไหนบอกว่าจะกลับ เล่นกลับมาซะเกือบเช้า มันต้องมีอะไรแน่ๆ มึงต้องเล่ามาให้หมดน่ะ ไอ้โจ้”
เชียร์พูดเสร็จก็วิ่งมาที่ผมพร้อมลากผมไปนั่งที่เตียง
“ไหนไหน เล่ามาดิว่าเป้งไง ของพี่ซุ่ยใหญ่ไหม มึงทำอาไรให้เขาบ้าง ครั้งแรกของมึงใช่ไหม เจ็บไหมว่ะ......” เชียร์ถามผมออกมาเป็นชุด ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมเลยเอามือไปปิดปากของเชียร์ไว้
“มึงฟังกูพูดก่อน กูไม่ได้มีอะไรกับพี่ซุ่ยเลย เข้าใจไหม”ผมพูดอย่างนี้ ทำให้เชียร์หยุดพูดทันที แต่แล้วก็เริ่มพูดอีก
“มีโอกาสขนาดนี้มึงยังไม่ทำอะไรอีกเหรอว่ะ เป็นกูน่ะ กูจะทำให้ถึงเช้าเลย” เชียร์ทำหน้าผิดหวัง
“ไอ้บ้ากูไม่ได้อยากมีอะไรกับพี่ซุ่ยซะหน่อย กูแค่จะไปติวเลข กูมีอะไรกับคนที่กูไม่ได้รัก ไม่ได้หรอกว่ะ” ผมพูดกับเชียร์เพื่อเป็นการยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองอีกครั้ง
“เออๆ กูก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แต่พวกมึงอย่าปล่อยกูให้อยู่คนเดียวอีกน่ะ กูกลัว” เชียร์เขยิบเข้ามาจับที่แขนผม พร้อมทำหน้าว่ามันกลัวจริงๆ
“อย่าบอกน่ะว่ามึงกลัวจนไม่ได้นอน” ผมถาม เชียร์ส่ายหน้าทันที
“บ้า กูก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้น แต่ที่ตื่นขึ้นมาเนี้ย เพราะกูฝัน แบบ ฝันแปลกๆอ่ะ” เชียร์ทำท่าเขินๆกับเรื่องความฝันของมัน
“ฝันอะไรของมึงว่ะ”
“คือ...กูฝันว่า...” เชียร์กำลังจะอ้าปากพูด
ประตูห้องก็เปิดขึ้น พร้อมปอที่เดินเข้ามาในห้อง
ปอท่าทางตกใจมาก ที่เห็นผมกับเชียร์
“อะ อะ อ้าว พวกมึงตื่นกันแล้วเหรอ” ปอพูดตะกุกตะกักเหมือนตกใจ
“เออ แล้วมึงหล่ะไปไหนมาทั้งคืน”เชียร์ทำเสียงดุ
“เออ คือ กู กู”ปอเริ่มหน้าซีด ผมกับเชียร์เริ่มสงสัยท่าทางพิรุธของปอ
“กูไปช่วยมาสเตอร์เบิร์ดตัวรายงานมาไง รายงานที่เพิ่งส่งไปจำได้ป่าว” ปอพูดออกมาในที่สุด
ผมไม่ได้สงสัยอะไร เพราะมาสเตอร์เบิร์ดขอบเรียกนักเรียนไปช่วยตรวจงานอยู่แล้ว
“มึงก็ไปตรวจทั้งคืนเลยว่างั้น” เชียร์ทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ
“เออดิแม่งเยอะขนาดนั้น กูขอไปอาบน้ำก่อนน่ะ ง่วงนอนด้วย” ปอทำท่าห้าวพร้อมถอดเสื้อ คว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่ง พร้อมถอดกางเกง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมกับเชียร์มองตามหลังไอ้ปอที่เดินเข้าห้องน้ำไป
เชียร์เป็นคนแรกที่พูดขึ้น พร้อมหันหน้ามาหาผม “มึงเชื่อที่มันพูดไหม”
เชียร์ถาม ผมขมวดคิ้ว แปลกใจที่เชียร์ไม่เชื่อคำพูดของปอ “กูไม่ได้คิดอะไรว่ะ ถึงมันจะไม่ได้ทำอย่างที่มันพูดก็เรื่องของมัน”
เชียร์เริ่มตะโกนใส่ผม “อ้าวมึงหาว่ากูเสือกเหรอ”
ผมแอบขำที่หลอกด่ามันได้ แต่เชียร์เริ่มทำหน้าเครียด ผมเลยหยุดขำ
“ที่กูไม่เชื่อ ไม่ใช้ไว้ไม่ไว้ใจมันหรอกน่ะ แต่เมื่อกี้กูเห็น...” เชียร์หนยุดคำพูดไว้
“เห็นอะไร”ผมทำตาโต
“เมื่อกี้ตอนไอ้ปอถอดเสื้อ กูเห็นรอยจ้ำตรงคอ กับตรงหน้าอกใกล้ๆหัวนมมันว่ะ”

************************************************************************************************

คู่ที่ 2

ผมบอกกับโจ้ ในสิ่งที่ผมเห็น
“แล้วมึงจะให้กูเชื่อในสิ่งที่มันพูดเหรอว่ะ”
“มันอาจจะเป็นรอยมดกัดหรือแมลงกัดก็ได้ม้าง” โจ้พยายามหาเหตุผลอื่นขึ้นมา
“ไอ้บ้า รอยมดกัดแมลงกัด มันต่างกับรอยจูดรอยดูดน่ะเว้ย กูรู้ดี เพราะกูก็เคยมีรอยแบบนั้นตอนมีอะไรกับพี่แจ๊ค”
ผมพูดอย่างนี้ ทำให้โจ้นิ่งเงียบ
“แล้วยิ่งไปห้องมาสเตอร์เบิร์ดอีก ยิ่งมีพิรุธ” ผมนั่งกอดอกพยายามรวบรวมความคิด
“แล้วทำไมอ่ะ” โจ้ยังไม่เข้าใจใตนสิ่งที่เกิดขึ้น
“เวรกรรมจริงๆมึงนี้ไม่รู้อะไรเลย ก็ไอ้ปอมันไปค้างที่ห้องมาสเตอร์เบิร์ดมา แล้วมีรอยจ้ำเหมือนคนโดนดูดนั่นก็แปลว่า” ผมค้างไว้เหมือนเป็นคำพูดที่รู้กันว่าไอ้ปอมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด
“เฮ้ยยยยยย” โจ้ทำท่าตกใจสุดขีด
“ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย ไม่ใช่เรื่องแปลกสักกะหน่อย การมีอะไรกันในโรงเรียนชายล้วน กูเองยังฝันว่าจะต้องมีเลย” ผมอธิบายให้โจ้ฟัง
“ไอ้บ้า นี้มันครูกับนักเรียนน่ะเว้ย ไม่น่าเกลียดเหรอว่ะ” โจ้เริ่มโวยวาย
“โอ้ย มาสเตอร์เบิร์ดเองก็อายุแค่ยี่สิบต้นๆ ก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่น มันก็มีบ้างน่าอารมณ์แบบเนี้ย กูว่าอย่าสนใจมาสเตอร์เบิร์ดเลย เรามาสนใจเพื่อนของเราดีกว่า ว่ามันไปเสียตัวมายังไง” ผมเปลี่ยนจากเรื่องเครียดกลายมาเป็นเรื่องตลก
“เออๆ รอให้มันออกมาจากห้องน้ำก่อน แล้วค่อยว่ากัน เมื่อกี้มึงพูดถึงเรื่องฝันมึงเหรอว่ะ มึงฝันถึงเรื่องอะไรเหรอ” โจ้วกกลับมาเรื่องของผม
“คือ คือ กูฝันว่า กูเป็นแฟนกับคนชื่อเต๋าว่ะ” ผมพูดอย่างอายๆกับโจ้ โจ้ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะ
“มึงรู้หรือเปล่าว่าความฝันมันคือจิตใต้สำนึกของความคิด เห็นชอบด่าเขาตลอด ระวังน่ะมึงยิ่งเกลียดก็ยิ่งจะชอบ” โจ้พูดซะผมหน้าซีดเลย
“ไอ้บ้า กูมีแฟนแล้วน่ะเว้ย จะไปเป็นแฟนกับคนอื่นได้ไง เออเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ” ผมต้องจบเรื่องความฝันของผม เพราะรู้สึกแปลกๆกับความฝันนั้น ที่จริงผมไม่ได้แค่ฝันว่าเป็นแฟนกับไอ้พี่เต๋าหรอก แต่ผมดันฝันว่าผมไปมีอะไรกับพี่เต๋าน่ะสิ แล้วในความฝันผมดูมีความสุขซะด้วย อะไรกันเนี้ย ผมพยามส่ายหัวพยายามจะลบเลือนความมทรงจำนั้น
“เฮ้ยๆไอ้ปอต้นกระบองเพชรของใครอ่ะ น่ารักดี” โจ้หยิบต้นกระบองเพชรขึ้นมาดู
“พี่เต๋าให้มา” ผมตอบ
โจ้ก็เริ่มหัวเราะ “ความฝันมึงอาจจะเป็นจริงก็ได้น่ะ ไอ้เชียร์ 55555”

************************************************************************************************

คู่ที่ 3

ผมเข้ามาในห้องน้ำ น้ำจากฝักบัวกระทบร่างของผม
ผมลูบคล้ำร่างกายของตัวเอง พร้อมกับความสับสนที่เกิดขึ้นในจิตใจ
ผมรู้สึกชอบบิ๊ก แต่ผมไปมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ดซึ่งเป็นคนรักของบิ๊ก
ผมทำผิดอย่างมหันต์ แล้วผมยังรู้สึกดีกับการมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด
มันหมายความว่าอะไรกันแน่
ผมพยามคิดว่าที่ผมมีความสุขกับการมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ดคงเป็นแค่ความรู้สึกทางร่างกายหรือไม่ก็เป็นความต้องการทางอารมณ์มากกว่า
แต่ความรู้สึกจริงๆของผม ผมยังคงชอบบิ๊กเหมือนเดิม

ผมชำระร่างกายเสร็จ ก็ออกมาจากห้อง เห็นเชียร์ กับ โจ้นั่งมองผม
“มองอะไรกัน” ผมถาม
“กูมองรอยจ้ำตรงคอ กับตรงหัวนมมึงอ่ะ” เชียร์ตอบ ผมสะดุ้งตกใจรีบกลับไปมองตรงคอและหน้าอกของผม
รอยจ้ำคงเกิดขึ้นจากมาสเตอร์เบิร์ด
“มึงมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ดใช่มั้ย” เชียร์ถามผมตรงๆ
ผมคงโกหกอะไรพวกมันไม่ได้อีกแล้ว ผมเลยพยักหน้า
“พวกมึงนี้โชคดีจริงๆมีอะไรกับใครเข้าไปแล้ว กูซิยังหาใครไม่ได้เลย” เชียร์ทำหน้าเซ็ง
“เฮ้ย กูเองก็ยังเว้ย” โจ้เริ่มโวยวาย แล้วก็หันมามองที่ผม
“คือไอ้ปอทำไมแกถึง... เออ...”โจ้คงอยากคุยกับผมเรื่องนี้ แต่ดูเขินอายยังไงไม่รู้
“มึงโดนมาสเตอร์ขมขื่นหรือเปล่าว่ะ” เชียร์ถามแทน
ผมส่ายหน้า เชียร์ตาโต “เห็นมึงเงียบๆอย่างนี้ก็ร้ายไม่เบาน่ะเนี้ย”
“กูขอไม่พูดเรื่องนี้น่ะ กูง่วงนอนแล้ว” ผมพยายามจบเรื่องนี้ แล้วล้มตัวลงนอน
“เฮ้ยๆ กูยังอยากรู้อีกอ่ะ มึงอย่าเพิ่งนอนดิว่ะ” เชียร์ตะโกนตามหลัง
“ไม่ต้องเลยไอ้เชียร์ปอมันพูดแล้วไม่ใช่เหรอ” โจ้คอยเตือนเชียร์ พอทำให้มันสงบมาบ้าง
ผมพยามหลับตานอน แต่ก็ดันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนผมมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด
ผมอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นแค่เพียงความฝัน

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาพอจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปบ้าง
แม้ไอ้เชียร์จะคอยถามผมตลอด แต่โจ้ก็คอยด่าคอยว่าห้ามไอ้เชียร์ตลอด
และเป็นโชคดีอีกอย่างที่ผมไม่เห็นมาสเตอร์เบิร์ดกับบิ๊ก ทำให้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
จนกระทั่ง ตอนเย็น ตอนที่เรากำลังจะไปเล่นกีฬากันพวกผมตกลงจะไปเล่นกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาด
ซึ่งเป็นกีฬาที่คนขอบเล่นเหมือนกัน โรงเรียนผมไม่ได้มีชายหาดหรอก
แต่สนามวอลเล่ย์บอลชายหาดนั่นเป็นสนามที่โรงเรียนสร้างขึ้น แล้วเอาทรายมาถ่ม ให้เหมือนกับเล่นที่ชายหาดจริงๆ
สนามวอลเล่ย์บอลชายหาดมีอยู่สองสนาม
สนามแรกพวกพี่เบ็นซ์เล่นกันอยู่
ผมเลยมาเล่นกันอีกสนามหนึ่ง
“พวกเรามีสามคนจะเล่นกันยังไงว่ะ” เชียร์ถาม
“ก็ชวนคนมาเล่นไง กูเห็นคนหนึ่ง เดี๋ยวกูไปชวนมาน่ะ” โจ้พูดขึ้นพร้อมวิ่งไปที่สนามบอลข้างๆ
แล้วมันก็จูงผู้ชายคนหนึ่งมา เชียร์ตะโกนเมื่อเห็นชายคนนั้น “เฮ้ยยยยย”
ผมเลยหันไปมองด้วย คนคนนั้นคือคนที่ชื่อเต๋าที่เป็นพี่เลี้ยงของบิ๊ก
“กูเห็นพี่เค้านั่งที่ข้างสนามฟุตบอลเลยชวนมาเล่นด้วย” โจ้พูด
เชียร์เริ่มทำหน้าโกรธแล้วหันไปทางไอ้โจ้ โจ้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“พี่รอเล่นฟุตบอลอยู่อ่ะ เห็นน้องโจ้บอกว่าเชียร์ให้ชวนพี่มาเล่น เลยรีบมาน่ะเนี้ย” พี่เต๋าทำตาหวานมาทางเชียร์
เชียร์ทำตาดุแล้วเขวี้ยงลูกวอลเล่ย์บอลไปทางโจ้ แต่โจ้รับได้
“เขินเหรอครับน้องเชียร์” พี่เต๋าไม่หยุดแซว
“จะเล่นก็ไม่ต้องพูดเลย” เชียร์ตะโกนกลับไป พี่เต๋าหัวเราะใหญ่
“เล่นแค่สี่คนเหรอ”พี่เต๋าถาม
“อ้าวก็วอลเล่ย์บอลชายหาดเค้าเล่นกันข้างละสองคนไม่ใช่เหรอ” เชียร์ตะวาดใส่พี่เต๋า
“แหม เรามันก็ไม่ได้มืออาชีพเล่นกันข้างละหลายๆคนก็ได้ สนุกดีออกนะ” พี่เต๋าพูด
“ดีครับ เล่นหลายคนสนุกดี” โจ้เห็นด้วย
“พี่ชวนคนมาเล่นอีกดีกว่า” พี่เต๋าพูดเสร็จก็วิ่งไปที่ข้างๆสนามฟุตบอลที่ตัวเองนั่งอยู่เมื่อกี้แล้วกลาก็ลากคนมาอีกคน
ผมแทบตกใจเมื่อเห็นว่าคนๆนั้นคือบิ๊ก
บิ๊กเองเห็นผมก็ตกใจเหมือนกัน
“บิ๊กเล่นวอลเล่ยบอลกันเถอะ” พี่เต๋าชวนบิ๊ก
“ไม่ครับ ผมไม่เล่น” บิ๊กพูดเสร็จพร้อมแกะมือของพี่เต๋าที่จับแขนตัวเองออก
“อ้าว บิ๊กชอบเล่นวอลเล่ย์ไม่ใช่เหรอ”
“ครับ แต่ผมไม่อยากเล่น”บิ๊กพูดเสียงแข็งพร้อมมองหน้ามาที่ผม

-----จบตอนที่8-----

ตอนหน้ามาดูแข่งวอลเล่ย์บอลชายหาดนะครับ

three

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออออออออออออออ. :เฮ้อ:กรรมเวรแล้วงานนี้เสียเพื่อนเพราะผู้ชาย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เอาละซี ศึกรักเริ่มรุนแรง  :m4: :m4: :m4:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว ปอนี่เจอเรื่องแบบนี้แต่เด็กเลยเหรอ  o12 :o8:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
นับวันยิ่งน่าปวดหัวขึ้นเรื่อยๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ...เรื่องราว เริ่มจะเข้มข้น ขึ้นเรื่อยๆ รีบมาต่อเร็วนะค้าบบบ...^^

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 9 Lucky in Game & Lucky in Love

คู่ที่ 1

สนามวอลเล่ย์บอลชายหาด เตรียมพร้อมสำหรับการเล่นแล้ว
ปอกับเชียร์กำลังกางเน็ต ส่วนผมกับพี่เต๋ามาเจรจากับบิ๊กเพื่ออยากให้เขามาเล่นกับพวกเรา
“พี่เห็นบิ๊กชอบเล่นวอลเล่ย์ไม่ใช่เหรอ เคยเป็นตัวโรงเรียนตอนอยู่ม.ต้นนี้” พี่เต๋าพยายามชวนบิ๊กมาเล่น
บิ๊กทำหน้าเครียด พร้อมมองไปทางปอกับเชียร์
“ผมอยากเล่นบอลมากกว่า”บิ๊กพูดขึ้น
“เออ ได้เล่นแน่ แต่กว่าจะเล่นต้องต่อคิวคนอีกตั้งเยอะ ตอนนี้ก็เล่นวอลเล่ย์รอไปก่อนดิว่ะ” พี่เต๋าพูดพร้อมดึงแขนของบิ๊กเข้าไปในสนาม
บิ๊กเหมือนจะขัดขืน แต่แล้วพี่ยอดที่เพิ่งเลิกเล่นบาสก็เดินเข้ามาในสนามด้วย
“เล่นซิบิ๊ก พี่เองก็อยากเล่นด้วย ครบคนพอดีไม่ใช่เหรอ” พี่ยอดเดินมาตบไหล่บิ๊ก บิ๊กจึงปฏิเสธไม่ลง
ผมยิ้มดีใจที่ได้เห็นพี่ยอด ผมมองพี่ยอดในชุดเสื้อกล้าม เนื่องจากพี่ยอดเพิ่งเลิกจากเล่นบาสมาหมาดๆ
ตัวจึงเปียกไปด้วยเหงื่อ ความจริงแล้วผมไม่ค่อยชอบคนที่เพิ่งเล่นกีฬาแล้วตัวเปียกชุ่มด้วยเหงื่อรสักเท่าไร
แต่สำหรับพี่ยอดแล้วเหงื่อที่เปียกตัว ทำให้พี่ยอดดูเท่ห์และเซ็กซี่มาก เพราะเสื้อกล้ามสีขาวที่เปียกเหงื่อนั้นแนบเนื้อที่บึกบึนของพี่ยอด จนทำให้เห็นหุ่นและเนื้อหนังของพี่ยอด
“แหม มองตาไม่กระพริบเชียวนะมึง” เชียร์เดินมากระซิบ ผมสะดุ้งเมื่อเชียร์ดึงผมออกจากความคิด
ผมหันไปด่ามัน “ไอ้เอี้ย”

ผมเห็นพี่ยอดกำลังเดินมาทางผม ผมเริ่มตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก
แต่เมื่อมาถึงพี่ยอดกลับพูดกับเชียร์ “ว่าไง เตรียมตัวสอบหรือยังเชียร์” พี่ยอดถามเชียร์
“ยังเลยคับ”เชียร์ตอบพร้อมยิ้มให้พี่ยอด ผมแปลกใจที่เชียร์พูดกับพี่ยอดได้แล้ว
“อ่านได้แล้วน่ะ อย่ามัวแต่เล่นรู้มั้ย” พี่ยอดเอามือมาขยี้ผมของเชียร์ ตอนนั้นผมรู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้
“รู้แล้วน่าครับ ผมไม่กลัวหรอกมีโจ้คอยสอนซะอย่าง ผมไม่กลัวตกอยู่แล้ว” เชียร์หันมาทางผม ผมรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะมีส่วนร่วมในการสนทนา
“ทำไมต้องไปพึ่งคนอื่นด้วยเล่า หัดทำอะไรด้วยตัวเองซิ นิสัยเหมือนแจ๊คเลยน่ะ”พี่ยอดพูดไปยิ้มไป ส่วนเชียร์ก็หัวเราะ
ผมมองภาพเชียร์กับพี่ยอดที่ยืนคุยกัน ดูเหมาะกันดีน่ะคู่นี้ เพราะทั้งสองคนก็น่าตาดีเหมือนกัน มีฐานะที่เหมือนกัน
ต่างจากผม ที่ไม่มีอะไรเลยเมื่อไปเทียบกับสองคนนั้น

เมื่อกางเนตเสร็จแล้วพวกเราก็แบ่งทีมกันโดย ทีมของผม มีผม ปอ และเชียร์
อีกทีมหนึ่งมีพี่ยอด พี่เต๋า และบิ๊ก
ลูกแรก ถูกเซิรฟ์โดยพี่เต๋า
ผมรับลูกได้แล้วโยนไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีพี่ยอดรับไว้ได้ แล้งลูกกระเด้งไปที่พี่เต๋า พี่เต๋าส่งลูกไปข้างหน้าที่มีบิ๊กรออยู่
แล้วบิ๊กก็กระโดดตบลูกได้ ลูกตรงมาที่ฝั่งผม ผมกับเชียร์จะวิ่งไปรับ แต่บิ๊กตบลูกแรงมาก ลูกลงที่พื้นก่อนที่ผมจะวิ่งเข้าไปรับ
เป็นว่าลูกแรกทีมตรงข้ามได้คะแนน และเซิร์ฟต่อ
พี่เต๋าเป็นคนเซิรฟ์อีก ลูกลอยมาที่เชียร์แต่เชียร์เกิดรับไม่ได้ กลายเป็นว่าทีมผมเผยจุดอ่อนให้พี่เต๋าเห็นแล้ว(ก็เชียร์มันเล่นกีฬาไม่เป็นสักอย่าง)
พี่เต๋าเซิรฟ์อีกครั้ง คราวนี้ดูพี่เต๋าตั้งใจจะให้ลูกมาทางเชียร์
เป็นไปตามคาดครับเชียร์ก็ยังรับลูกไม่ได้
พี่เต๋ายิ้มดีใจที่สามารถแกล้งเชียร์ได้ พี่เต๋าเซิร์ฟอีกครั้งหนึ่ง
เชียร์มองลูกแล้ววิ่งเข้าไปรับ เชียร์รับได้ครับ แต่ลูกดันกระเด้งออกนอกเขต ผมจะวิ่งไปช่วยรับลูกแต่ก็ไม่ทันอีก
พี่เต๋าเพ่งไปทางเชียร์อีกครั้ง แล้วก็กระโดดตบลูกอย่างแรง ลูกพุ่งมาทางเชียร์ทันที
ด้วยความแรงของลูกทำให้ลูกพุ่งเข้ามาที่หน้าอกของเชียร์อย่างจัง
“อุ๊กส์” เสียงของเชียร์ดังออกมาจนผมได้ยิน เชียร์ก้มลงจับหน้าอกตัวเอง
ผมวิ่งไปหาเพื่อนทันที “เฮ้ย! มึงเป็นไรป่าวว่ะ” ผมถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ปอก็วิ่งเข้ามาดูอาการของเชียร์ด้วย
เชียร์เงยหน้าขึ้นมา น้ำตาคลอเบ้าแต่พยายามพูดว่า”มะ มะ มะไม่เป็นไร กูขอออกไปพักก่อน่ะ” แล้วเชียร์ก็เดินออกไปทันที
“ไอ้เต๋ามึงทำน้องเลี้ยงพี่แรงป่าวเนี้ย” พี่ยอดหันมาว่าพี่เต๋าที่ยืนอึ้งกับการกระทำของตัวเอง
พี่เต๋าเห็นเชียร์เดินออกไป เลยวิ่งตามออกไปด้วย

พี่ยอดเดินมาหาผม “โจ้ เชียร์เป็นไรมากกป่าว”น้ำเสียงและน่าตาของพี่ยอดดูเป็นห่วงเชียร์มาก
“เค้าบอกว่าไม่เป็นไรคับ” ผมตอบออกไป แต่เสียงผมสั่นๆยังไงก็ไม่รู้
แต่พี่ยอดยังคงมองเชียร์ที่เดินออกไป ผมคิดว่าพีเค้าก็คงยังเป็นห่วงเชียร์อยู่

ตอนนี้ผมกำลังพยายามคิดอยู่อย่างเดียวว่า พี่ยอดกับเชียร์เป็นพี่เลี้ยงน้องเลี้ยงกัน อีกอย่างเชียร์ก็มีแฟนแล้ว พี่ยอดก็มีแฟนแล้ว คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ถ้าความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดหล่ะ ผมจะทำยังไง

************************************************************************************************
คู่ที่ 2

ผมเดินออกมาจากสนาม พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด
พี่เต๋าแกล้งผมจนผมกลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนอื่นไปแล้ว
ทำไมพี่เต๋าถึงชอบแกล้งผมตลอดเวลา เค้าไม่ชอบผมนักหรือไง ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ

ผมเดินออกมานั่งที่หลังหอพัก พยายามจะหยุดร้องไห้ แต่มันก็ไม่หยุด
ผมโกรธตัวเองที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เกลียดตัวเองที่ให้ทุกคนเห็นความอ่อนแอของผม
ผมพยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้คนอื่นยอมรับและคบกับผม แต่ดูเหมือนว่า ผมจะทำไม่สำเร็จซะแล้ว
เพราะพี่เต๋าคนเดียว  ผมเกลียดๆๆๆ คนๆนี้มาก จะไม่มีวันให้อภัยพี่เต๋าแน่นอน

ผมนั่งร้องไห้ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเหมือนมีใครคนหนึ่งมานั่งอยู่ข้างหลังผม
ผมไม่หันหลังกลับไปมอง เพราะรู้ว่าเป็นใคร
“เชียร์ พี่ขอโทษ” พี่เต๋าพูด แต่ผมไม่อยากฟัง ผมนั่งเงียบเช็ดน้ำตาตัวเอง
พี่เต๋าเห็นผมเงียบก็เลยเอามือมาแตะที่บ่าของผม “พี่ขอโทษจริงๆน่ะ พี่จะไม่แกล้งเชียร์อีกแล้ว”
ผมไม่อยากฟังคำพูดของผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ผมเลยลุกจะเดินออกจากที่นั่น
แต่พี่เต๋าก็เดินมาคว้ามือผมไว้ แล้วดึงตัวผมมาใกล้ตัวของพี่เต๋า
พี่เต๋าจับตัวผมแล้วหันหน้าไปทางเขา “พี่ขอโทษแล้วน่ะ ยังโกรธทำไมอีก”
ผมสะบัดตัวพยายามให้มือของพี่เต๋าที่เกาะไหล่ผมออกไป
“ปล่อยเชียร์น่ะ ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ถ้ามันไม่ได้มาจากใจจริงๆ”
ผมพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา พี่เต๋าตกใจที่ผมเป็นอย่างนั้น
ผมเองไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าใครหรอก แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงได้เสียใจกับการกระทำของพี่เต๋ามากก็ไม่รู้
“เชียร์พี่ขอโทษจริงๆน่ะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เชียร์เสียใจ พี่ขอโทษจริงๆ”
เสียงพี่เต๋าเองก็ดูสั่นๆ พร้อมสายตาที่แปลกไปจากเดิม รู้เพียงแต่ว่าสายตานั้นมันแสดงถึงความจริงใจ
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง ผมจ้องตาของพี่เต๋า ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าจะยกโทษให้พี่เต๋าหรือไม่
แต่ผมเกิดรู้สึกแปลกๆกับสายตาที่พี่เต๋าจ้องมองมาที่ผม
“เชียร์จะยกโทษให้พี่ไหม พี่สัญญานะว่าจะไม่แกล้งเชียร์อีกแล้ว” พี่เต๋าถามผมอีกครั้ง
ผมก้มหน้า นึกถึงเรื่องที่ผมเสียใจ ผมเสียใจที่โดนแกล้ง เสียใจที่กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น
แต่ผมเองก็รู้สึกดีที่มีคนมาขอโทษผม และคนๆนั้นเป็นพี่เต๋าด้วย
ผมเช็ดน้ำตา ผมเงยหน้าขึ้น ผมสบกับสายตาพี่เต๋าที่มองมาที่ผมเหมือนกัน
“ผม...” ผมกำลังจะพูดออกไป แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
ผมรีบรับโทรศัพท์ เพราะรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร

“ว่าไงครับ ทำอะไรอยู่”เสียงปลายสายที่ผมคุ้นเคยทักทาย
“หวัดดีพี่แจ๊ค เชียร์กำลังเล่นกีฬาอยู่” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
ผมพูดกับพี่แจ๊คหลายเรื่อง เพราะอาทิตย์นี้ยังไม่ได้คุยกับพี่แจ๊คเลย
พี่เต๋ายังคงอยู่ใกล้ๆกับผม แต่อยู่ห่างจากผมพอสมควร ผมไม่รู้ว่าพี่เต๋าจะได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับพี่แจ๊คหรือเปล่า
“ปิดเทอมมาหาพี่สิ จะได้มาเที่ยวด้วย” พี่แจ๊คชวนผม
“นึกว่าจะไม่ได้มาเจอกันแล้ว เห็นส่งโปสการ์ดมาว่าจะไม่กลับมา” ผมทำเสียงประชด
“พี่ต้องเรียนจะได้รีบจบไง ก็บอกแล้วว่าให้มาหามาน่ะครับ” พี่แจ๊คทำเสียงอ้อน
“ครับ ไปแน่ครับ” ผมยิ้มดีใจที่จะได้เจอแฟน
“พี่รักเชียร์น่ะ คิดถึงมากด้วย” สิ่งที่พี่แจ๊คพูดทำเอาผมรู้สึกแปลก ไม่ใช่ว่าไม่เคยฟังที่พี่แจ๊คพูดหรือบอกว่ารักผมหรอกน่ะ
แต่ผมกับรู้สึกแปลกในความรู้สึกของตัวเองเมื่อได้ยินคำว่ารักต่างหาก
ผมหันไปมองพี่เต๋าที่ยืนอยู่แถวนั้น พี่เต๋าเองก็มองผมที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ผมสบตาพี่เต๋าอีกครั้ง ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าผมรู้สึกอะไรเมื่อได้มองตาของพี่เต๋า
“เชียร์เป็นอะไร ว่างไปแล้วเหรอ” พี่แจ๊คถามเมื่อเห็นผมเงียบไป
ผมรีบกลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ โดยรีบหันหลังใมห้พี่เต๋า
“เออ เชียร์ไปเล่นวอลเล่ย์ต่อน่ะ” ผมพูดกับพี่แจ๊คบอกเป็นนัยๆว่าจะวางโทรศัพท์แล้ว
“ครับ เมื่อกี้พี่บอกว่ารักเชียร์แล้วน่ะ” พี่แจ๊คพูดเพื่อทวงสัญญาที่เคยบอกกับผมว่า ถ้าจะวางโทรศัพท์ต้องบอกรักกันก่อน
“ครับ ผมเองก็รักพี่ครับ ตั้งใจเรียนน่ะ บาย”
ผมกดวางโทรศัพท์พร้อมหันกลับไปหาพี่เต๋า แต่พี่เต๋าเดินออกไปแล้ว

ผมเริ่มสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่าผมกำลังจะนอกใจพี่แจ๊คหรือเปล่า

************************************************************************************************

คู่ที่ 3

ผมกับโจ้เดินออกมานั่งนอกสนามวอลเล่ย์ เพราะมีทีมอื่นมาขอเล่นแทน
ผมเองก็ต้องยอมให้เขาเล่น เพราะเชียร์กับพี่เต๋าหายไปไหนไม่รู้
แต่พี่ยอด กับบิ๊กยังคงเล่นอยู่เพราะมีเพื่อนมาขอเล่นด้วย

ผมนั่งเงียบดูบิ๊กเล่นอวอลเล่ย์ ผมไม่แปลกใจที่บิ๊กได้เป็นตัววอลเล่ย์ของโรงเรียน
เพราะบิ๊กเล่นเก่งมาก ทั้งบล๊อคลูก เซ็ทลูก และกระโดดตบ
ผมสังเกตุว่าพอผมออกจากสนามบิ๊กดูไม่อึดอัดเหมือนเวลาเล่นกับผม
แสดงว่าบิ๊กเกลียดผมจริงๆ ผมไม่รู้ว่าบิ๊กเกลียดผม เพราะเรื่องที่บิ๊กคิดว่าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้บิ๊กกับมาสเตอร์เบิร์ดทะเลาะกัน
หรือบิ๊กคิดว่าผมตามตอแยบิ๊ก เพราะเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับบิ๊กแม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เหมือนผมจงใจให้เกิดขึ้น หรือบิ๊กรู้ว่าผมมีอะไรกับมาสเตอร์เบิร์ด ยิ่งคิดยิ่งทำให้ผมคงไม่มีวันจะกัลบมาคุยกับบิ๊กเหมื่อนเดิม

“เฮ้ย เป็นอะไรอ่ะปอ นั่งเงียบเชียว” โจ้ถามผม ผมหันไปยิ้มให้
“ป่าวนี้ เราก็คิดไปเรื่อยเปื่อย เครียดเรื่องสอบด้วย” ผมหาเรื่องมากลบเกลื่อน
“ไม่เข้าใจวิชาอะไรบอกเราได้น่ะ เดี๋ยวเราติวให้” โจ้อาสาช่วยผม ผมยิ้มขอบคุณกับน้ำใจของเพื่อน
ผมหันกลับไปมองบิ๊กเล่นวอลเล่ย์อีกครั้ง
“อืมม...ปอ เราขอคุยเรื่องหนึ่งได้มั้ย” โจ้ถาม ผมพยักหน้าเพราะพอจะรู้ว่าโจ้จะพูดเรื่องอะไร
“เรื่องเมื่อคืน เราเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของนายหรอก แต่... เราคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่สมควร เราอยากเตือนนายในฐานะเพื่อน นายเอาไปคิดดูเองแล้วกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป” โจ้พูดทิ้งท้ายเพื่อให้ผมกลับไปคิดเอาเอง
ผมหันไปมองโจ้ “เราตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำอีก เราเองก็รู้สึกผิดกับการกระทำของเรา” ผมก้มหน้าอยากจะร้องไห้กับการกระทำของตัวเอง แต่โจ้ก็เอามือมาแตะไหล่ผม
“นายไม่ได้ผิดหรอก เพราะถ้าเราทำผิดแล้วสำนึกในความผิดนั้น และตั้งใจจะไม่ทำอีก ก็จะไม่มีใครสนใจในความผิดนั้นหรอก เราดีใจน่ะที่นายคิดได้” ผมรู้สึกดีกับคำพูดของโจ้ ผมยิ้มเพื่อขอบคุณโจ้ที่เข้าใจผม

“เฮ้ย! ไอ้บิ๊กขาแพลง” เสียงของคนในสนามดังขึ้น ผมกับโจ้หันไปมองพร้อมกัน
ผมเห็นบิ๊กล้มลงไปนอนในสนาม คงเป็นเพราะเมื่อกี้กระโดดตบลูกที่หน้าเนตแล้วลงมาผิดท่า เท้าเลยพลิก
ผมเองลุกขึ้นกำลังจะวิ่งไปที่สนามเพื่อไปดูอาการของบิ๊ก ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามาสเตอร์เบิร์ดวิ่งเข้ามาในสนามด้วย
ทั้งพี่บิ๊ก มาสเตอร์เบิร์ดก็ดูอาการของบิ๊ก มีพี่เต๋าอีกคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาในสนามด้วย
“มีคนดูอาการเยอะเลยเนอะ ท่าทางจะเสน่ห์แรง” เสียงของเชียร์ดังมาพร้อมมายืนข้างผม
“อ้าวไปไหนมา หายไปทำอะไรกับพี่เต๋ามาอ่ะ” โจ้แซว เชียร์หันไปเบิร์ดกะโหลกมัน
“ป่าวไม่มีอะไร พี่แจ๊คโทรมาเลยออกไปโทรศัพท์” เชียร์พูดไป แต่ตาก็มองไปที่สนาม
“อืมม.. นึกว่าลืมพี่แจ๊คไปแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่เห็นพูดถึงเลย” โจ้ยังคงแซว
เชียร์เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “บ้า... กูยังรักพี่แจ๊คหรอกน่า” แต่ตามันกลับมองไปที่พี่เต๋า
ผมเองก็หันกลับไปมองที่สนามอีก ปรากฏว่าคนที่อุ้มบิ๊กคือพี่ยอด ผมรู้สึกโล่งใจยังไงก็ไม่รู้
ถ้าเป็นนอื่นอุ้ม โดยเฉพาะมาสเตอร์เบิร์ดผมคงไม่พอใจแน่ๆ
“กูว่าแล้วว่าคนที่อุ้มคือพี่ยอด แต่กูว่ามีคนอยากอุ้มบิ๊กใจจะขาดอีกคนว่ะ” เชียร์พูดแปลกๆ ผมไม่รู้ว่าเชียร์หมายถึงใคร
“มึงหมายถึงพี่เต๋าเหรอ” โจ้แซว เชียร์เงียบไปทันที พร้อมหันไปตีหลังโจ้
“กูก็เห็นว่าบิ๊กมันเสน่ห์แรง มีแต่คนชอบ ดูซิมีคนมาโอ๋ตั้งเยอะ มึงเถอะไอ้โจ้ พี่ยอดอุ้มบิ๊กไปอย่างนี้มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ” เชียร์พูดแปลกๆ
“ไอ้บ้า! พี่ยอดกับบิ๊กเค้าเป็นพี่น้องกัน มึงจะให้กูรู้สึกอะไร” โจ้หันไปด่าเชียร์
“มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว จริงๆแล้วบิ๊กมันเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง ไม่ได้เป็นพี่น้องกับพี่ยอดแท้ๆหรอก”
ผมกับโจ้ตกใจกับเรื่องนี้
“คือ บิ๊กมันก็เป็นเด็กกำพร้า เหมือนกับมึงนั้นแหล่ะไอ้โจ้” เชียร์พูด หันไปมองโจ้ที่ตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน

ผมเดินมาที่ห้องพยาบาล เพื่อจะมาดูอาการบิ๊ก แต่ผมคงไม่กล้าจะเข้าไปหาบิ๊กหรอก
บิ๊กเองก็คงไม่อยากเจอผมเหมือนกัน ผมยืนมองบิ๊กจากหน้าต่างด้านข้าง พยายามไม่ให้บิ๊กรู้ตัว
พี่ยอดยังคงอยู่ในห้อง ช่วยพยาบาลทายากับพันแผลให้บิ๊ก
ผมเองก็ตกใจเรื่องบิ๊กกับพี่ยอด แต่ผมเชื่อว่าบิ๊กกับพี่ยอดไม่น่าจะคิดอะไรที่เกินเลยความเป็นพี่เป็นน้อง
“จะมาหาบิ๊กเหรอ ไหนบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับบิ๊กไง” เสียงมาสเตอร์เบิร์ดกระซิบที่ข้างหูผม
ผมตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้หันหลังกลับไป
“มาสเตอร์เองก็คงอยากจะไปหาบิ๊กเหมือนกันใช่ไหม” ผมเริ่มสวน
“อืมม ก็อยากน่ะ แต่พี่ชายของเขาคงไม่ยอม” เสียงมาสเตอร์เบิร์ดดูเศร้า
“พี่ยอดรู้เรื่องมาสเตอร์เบิร์ดกับบิ๊กหรือเปล่า” ผมถาม
“น่าจะรู้ เพราะยอดไม่ค่อยชอบขี้หน้ามาสเตอร์” มาสเตอร์เบิร์ดตอบ แล้วเงียบไปพักหนึ่ง
ก่อนที่มาสเตอร์เบิร์ดจะเริ่มใช้มือกอดผม ผมพยายามจะแกะแขนออก
“มาสเตอร์เบิร์ดทำแบบนี้ทำไม มาสเตอร์เบิร์ดไม่ได้รักบิ๊กเหรอครับ” ผมอยากพูดเพื่อเตือนสติมาสเตอร์เบิร์ดเพราะผมรู้ว่าบิ๊กรักมาสเตอร์เบิร์ดมาก และผมเองก็ไม่อยากจะเป็นที่ระบายอารมณ์ของใคร
มาสเตอร์เบิร์ดเหมือนรู้ตัว ค่อยๆปล่อยมือออกจากตัวผม
“บิ๊กกับมาสเตอร์เบิร์ดก็รักกันดีอยู่แล้ว ทำไมถึงเอาผมมาเกี่ยวข้องด้วย ผมเองก็รักบิ๊ก และไม่อยากทำร้ายคนที่ผมรัก” ผมเริ่มจะร้องไห้
ผมอยากให้มาสเตอร์เบิร์ดหยุดการกระทำแบบนี้สักที เพราะไม่อยากให้บิ๊กเสียใจ และตัวผมเองไม่อยากเป็นคนที่ร้ายบิ๊กด้วย
มาสเตอร์เบิร์ดก้มหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเงยหน้าพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา
“เธอไม่รู้หรอกว่าบิ๊กเค้าไม่ได้รักมาสเตอร์เลย ถึงแม้เค้าจะบอกรัก เคยมีอะไรกัน ทำทุกอย่างเหมือนคนรักกัน แต่จริงๆแล้วเค้าไม่ได้รักฉันเลย” มาสเตอร์ระบายสิ่งที่อยู่ในใจ
“ไม่จริง บิ๊กเค้ารักมาสเตอร์มากน่ะครับ ไม่งั้นเค้าไม่มาขอร้องให้ผมเลิกยุ่งเรื่องของเขากับมาสเตอร์หรอก” ผมพยายามทำความเข้าใจกับมาสเตอร์เบิร์ด
“ที่เค้าทำอย่างนั้น เพราะเค้าเห็นมาสเตอร์เป็นของตาย เป็นคนที่จะมาแทนคนที่เค้ารักอีกที เหมือนที่มาสเตอร์ทำกับเธอไงหล่ะ มาสเตอร์ขอโทษนะ ที่ทำเรื่องแบบนั้นเมื่อคืนนี้ มาสเตอร์เองก็อยากมีคนรักที่รักมาสเตอร์จริงๆ” มาสเตอร์ร้องไห้ออกมา ผมเชื่อในสิ่งที่มาสเตอร์เบิร์ดพูด
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจครับ แล้วคนที่บิ๊กรักคือใครเหรอครับ แล้วทำไมเค้าจึงอยากให้มาสเตอร์เบิร์ดมาแทนที่เค้าเหล่ะ” ผมถามเพราะเริ่มงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เพราะคนที่บิ๊กรัก ไม่วันที่จะมารักบิ๊กไง” มาสเตอร์เบิร์ดตอบพร้อมเงยหน้ามองผม
“แล้วใครหล่ะ ครับ ทำไมเค้าไม่มีวันจะมารักบิ๊ก” ผมสงสัย
มาสเตอร์เบิร์ดมองไปที่ห้องพยาบาล ผมก็หันไปมองด้วย
“เพราะคนนั้น เป็นพี่ชายของเขาเองไง”
บิ๊กค่อยๆล้มตัวลงนอน พร้อมจับมือพี่ยอด สายตาของบิ๊กที่มองพี่ยอด ดูมีความสุขมากๆ
พี่ยอดจูบหน้าผากบิ๊กพร้อมเดินออกจากห้องไป

----- จบตอนที่9 -----

ชุลมุนวุ่นรักอีกแล้วครับ ติดตามต่อไปนะครับ

dark789

  • บุคคลทั่วไป

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
อ่ะ เนื้อเรื่อง เข้มข้น จริงๆค้าบบ...^^

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทำไมมัน ดุชุลมุนชุลเกย์แบบนี้เนี่ย

snowblack

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 10 ปิดเทอมเปิดใจ

คู่ที่1

การสอบปลายภาคของเทอมแรกผ่านไป ผมกับเพื่อนๆก็ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ดี ไม่มีใครต้องมาสอบซ่อมในช่วงปิดเทอม
แม้ผมจะไม่ได้สอบซ่อม แต่ผมก็ต้องอยู่ที่โรงเรียนในช่วงปิดเทอม เพราะตอนนี้โรงเรียนคือบ้านของผม
รู้สึกแปลกเหมือนกัน ที่ต้องอยู่ในที่ๆกว้างขวางเพียงคนเดียว
แต่จะบอกว่าอยู่คนเดียวก็ไม่ได้สิ เพราะยังมีพวกพนักงานมาทำงาน มีคุณครู และมาสเตอร์มาตรวจข้อสอบ
มีพวกวงโยทวาธิตมาซ้อม และที่สำคัญมีเก็บตัวนักกีฬาประเภทต่างๆเพื่อไปแข่งงานกีฬาจังหวัดตอนเทอมสองอีก
ไอ้ที่บอกว่าเก็บตัวนักกีฬามันสำคัญยังไง ก็เพราะพี่ยอดก็มาเก็บตัวเพื่อไปแข่งบาส พี่ซุ่ยก็มาเก็บตัวเพื่อไปแข่งฟุตบอล
พี่ทั้งสองคนเขาจะชอบมากินข้าวกับผมตอนเที่ยง ก็กินข้าวที่โรงอาหารนั่นแหละ
แต่ตอนที่อยู่คนเดียวผมก็นั่งกินคนเดียว โรงอาหารที่สามารถจุนักเรียนได้เกือบพันคน มีผมนั่งกินคนเดียว
คิดดูซิมันเหงามากขนาดไหน ดีที่มีพวกพี่เขามาคอยอยู่เป็นเพื่อน
ตอนที่พี่เขาซ้อมผมก็จะไปนั่งดู (ซ้อมช่วงเช้าเจ็ดโมงถึงสิบโมง กับ ช่วงบ่ายสี่โมงถึงหนึ่งทุ่ม)
นอกเวลาซ้อมพี่เขาก็จะมาอยู่กับผม มีครั้งหนึ่งพี่เขาชวนผมไปเที่ยวกับดูหนัง
ผมก็ไปเพราะรู้ว่าได้กินข้าวกับดูหนังฟรีแน่นอน
“น้องโจ้ไปซิ ยอดเขาจะเป็นเจ้ามือ” พี่ซุ่ยโยนหน้าที่ให้พี่ยอด
“เฮ้ยๆ มึงเป็นพี่เลี้ยงก็ต้องเลี้ยงน้องซิว่ะ แต่ไม่เป็นไรเลี้ยงน้องโจ้ได้อยู่แล้ว”พี่ยอดยิ้มให้ผม ผมก็หันไปยิ้มให้พี่ยอด
หลังจากที่ไปเที่ยวกันเสร็จ พี่เขาก็ต้องรีบกลับมาซ้อมกีฬา
ส่วนผมไปช่วยคุณครูตรวจข้อสอบที่ตึกเรียน เลยนัดกับพวกพี่ๆว่าเดี๋ยวมาเจอกันอีกทีตอนกินข้าวเย็น

ผมลงมาจากตึก มองดูนาฬิกาก็ตกใจที่เลยเวลากินข้าวเย็นมาเยอะมาก
ผมไม่ได้กลัวอดกินข้าวหรอก เพราะยังไงผมก็ได้กินอยู่ดี(อย่าลืมซิผมเส้นใหญ่น่ะ)
แต่กลัวพี่ยอดกับพี่ซุ่ยกินข้าวเสร็จแล้วกลับไปที่ห้องของพวกเขามากกว่า
ผมเลยกระหืบกระหอบวิ่งตรงมาที่โรงอาหาร เห็นไฟยังเปิดอยู่
ผมเห็นแต่พวกวงโยที่เพิ่งเลิกจากการซ้อม ผมพยายามมองหาพวกนักกีฬา แต่ไม่เห็นใครสักคน
นั่งกินคนเดียวก็ได้ว่ะ ผมเลยทำใจเดินไปซื้อข้าวมากินคนเดียว
ผมสั่งกับข้าวกับแม่ค้า “เอาข้าวหอไข่ครับ”
แม่ค้าหันมาถามผม “กี่ที่ค่ะ”
ผมนึกในใจ ก็มาคนเดียวจะให้เอากี่ที่ว่ะ
ผมกำลังจะบอกว่าเอาที่หนึ่ง ก็มีเสียงใครอีกคนขัดขึ้นมา
“เอาสองที่ครับ” พี่ยอดหันมาหาผม
“อ้าวพี่ยอด ยังไม่กินข้าวเหรอครับ” ผมตกใจที่เห็นพี่ยอดมายืนข้างๆ
“พี่นั่งรอโจ้ไง ก็เรานัดกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะกินข้าวเย็นด้วยกัน” พี่ยอดพูด ทำเอาผมอึ้งแทบไม่เชื่อหูตัวเอง พี่ยอดนั่งรอผมเพื่อจะกินข้าวด้วยกัน ทำอย่างกะเป็นแฟนกันแน่ะ อิอิ
“แล้วพี่ซุ่ยหล่ะครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบความเขินอาย
“ไอ้ซุ่ยมันกลับไปตั้งแต่เย็นแล้ว เห็นบอกว่ามีธุระ” พี่ยอดตอบพร้อมหยิบจานข้าวมาให้ผม
พี่ซุ่ยกลับไปแล้วแสดงว่า ผมได้กินข้าวเย็นสองต่อสองกับพี่ยอด ทำไมมันโชคดีอย่างนี้เนี้ย!

ผมเดินมานั่งพร้อมพี่ยอด
“อ่ะ พี่หยิบมาให้” พี่ยอดยื่นช้อนกับซ้อมมาให้

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้พี่ยอดพร้อมรับช้อนกับซ้อม พี่ยอดช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
ระหว่างที่กินข้าวผมกับพี่ยอดคุยกันเรื่องทั่วไป ส่วนมากเป็นเรื่องเรียนซะมากกว่า

“เออ แล้วพี่ยอดจะเรียนอะไรต่อครับ” ผมถาม

“พี่คงไปเรียนเมืองนอก ไม่อังกฤษ ก็ อเมริกา” พี่ยอดตอบ ผมนั่งนึกในใจ ไม่แปลกหรอกที่ลูกท่านรัฐมนตรีจะไปเรียนที่เลิศหรูอย่างนั้น

“แล้วโจ้ไม่อยากไปเรียนเมืองนอกบ้างเหรอ” พี่ยอดเป็นฝ่ายถามผมบ้าง

“ผมคงไม่มีปัญญาไปหรอกครับ” ผมเข้าใจสถานะตัวเองว่าคนอย่างผมคงไปเรียนที่นั่นลำบาก

“มีทุนเรียนฟรีตั้งหลายทุนน่ะ ไม่ลองไปดูหล่ะ พี่ว่าอย่างโจ้น่าจะสอบได้น่ะ” พี่ยอดพูดแนะนำ

“อ๋อครับ ขอบคุณพี่ยอดมากน่ะครับ เดี๋ยวผมจะลองไปดูครับ” ผมตอบขอบคุณพี่ยอดไป
“แฟนพี่เองก็เป็นนักเรียนทุน เดี๋ยวพี่ลองถามให้แล้วกันว่ามีทุนไหนน่าสนใจ” พี่ยอดพูดถึงแฟน ผมเองก็ยิ้มๆทำเป็นไม่มีอะไร แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยชอบเลยที่พี่ยอดพูดถึงแฟนเค้า มันเหมือนตอกย้ำว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดอะไรกับพี่ยอด

“เชียร์กลับมาจากอเมริกาวันนี้ ไม่ใช่เหรอ” พี่ยอดเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ก็กลับให้ผมรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก ผมยังไม่รู้เลยว่าเชียร์จะกลับมาวันนี้

“เหรอครับ เชียร์เค้าโทรมาบอกพี่เหรอครับ” ผมถาม โดยเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้

“ป่าวหรอก พี่คุยกับแจ๊ค มันบอกว่าเชียร์กลับมาถึงเมืองไทยวันนี้” พี่ยอดตอบ แล้วก็กินข้าวต่อไป ผมได้แต่นั่งมองพี่ยอดกินข้าว ทำไมผมรู้สึกยิ่งห่างจากพี่ยอดออกไปอีก ทั้งที่มีโอกาสอยู่ใกล้กันขนาดนี้
แม้ผมจะทำใจได้ถึงเรื่องที่พี่ยอดมีแฟนแล้ว แต่ทำใจไม่ได้กับเรื่องพี่ยอดกับเชียร์ ผมเองก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่าทั้งสองเค้าคิดอะไรกันหรือเปล่า แต่หลังจากที่เชียร์พูดกับพี่ยอดได้แล้ว เชียร์ก็พูดกับพี่ยอดตลอดเลย มีอะไรก็ไปหาพี่ยอด บางครั้งพี่ยอดก็มาหาเชียร์ ทำให้ผมคิดว่าทั้งสองคนนั้นอาจจะชอบกัน

หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมกับพี่ยอดก็แยกย้ายกันกลับห้อง
พอถึงห้องนอน ผมแปลกใจที่ไฟในห้องเปิด
ผมเปิดประตูเข้าไปเห็นเชียร์นั่งจัดของอยู่ พอมันเห็นผมก็ยิ้มแล้ววิ่งมากอดผม
“กูโคตรคิดถึงมึงเลย อ่ะกูซื้อเสื้อผ้ามาฝากมึงด้วยน่ะ.....” เชียร์พูดไม่หยุด พร้อมเดินไปหยิบของฝากในกระเป๋ามาให้ผม
แต่ผมกลับไม่ดีใจกลับของฝากเหล่านั้น ในสมองผมยังมัวแต่นึกถึงเรื่องเชียรกับพี่ยอด

“ไอ้โจ้มึงไม่ดีใจเหรอว่ะที่กูกลับมา เห็นทำหน้ามุ้ยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”เชียร์ถามผม
ผมถอนหายใจก่อนจะถามมันออกไปว่า “เชียร์กูมีเรื่องจะถามมึง”

“อะไรของมึง”เชียร์สงสัยกับท่าทีของผม

“มึงยังรักพี่แจ๊คอยู่ใช่ไหม” ผมถามออกไปเพื่อดูท่าทีของเชียร์
เชียรเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบผมโดยไม่ได้สบตาผม

“รักซิ แต่กูเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ะ ว่าตอนนี้กูยังรักเขาเหมือนเดิมหรือเปล่า” เชียร์ตอบออกมา
ผมอึ้งกับคำตอบของเชียร์ ที่เชียร์รู้สึกอย่างนี้ เพราะมันชอบพี่ยอดใช่หรือเปล่า
************************************************************************************************

คู่ที่ 2

คำถามของโจ้ที่ถามผมเรื่องความรักที่ผมมีต่อพี่แจ๊ค ทำให้ผมต้องตอบสิ่งที่ผมสับสนอยู่ในใจ
การไปหาพี่แจ๊คที่อเมริกา ผมแค่อยากไปหาคำตอบให้กับตัวเองว่ายังรักพี่แจ๊คเหมือนเดิมหรือเปล่า
ตอนที่อยู่กับพี่แจ๊คผมมีความสุขน่ะ และคิดว่าตัวเองยังรักพี่แจ๊คเหมือนเดิม
แต่พอกลับมา ยิ่งมาที่โรงเรียนผมกลับคิดถึงคนๆหนึ่ง
คนๆนั้นทำให้ผมเริ่มสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ผมเลยต้องย้ำกับตัวเองบ่อยๆว่าผมมีแฟนแล้ว
การที่ผมจะรู้สึกกับคนๆนั้นแบบที่ผมรู้สึกกับพี่แจ๊คมันไม่สมควรเลย
แต่พอโจ้ถาม ความรู้สึกที่ผมรู้สึกกับคนๆนั้นก็ย้อนกลับมาอีก
ผมแปลกใจที่อยู่ดีดี โจ้มันก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา มันจะถามทำไม มันรู้เหรอว่าผมจะนอกใจพี่แจ๊ค

“แล้วมึงถามกูทำไมว่ะ” ผมหันไปหาโจ้ ผมรู้สึกว่าเหมือนมันจะร้องไห้ ผมงง ว่ามันจะเศร้ากับเรื่องของผมทำไม

“ที่มึงไม่แน่ใจตัวเอง เพราะว่ามึงชอบคนอื่นอยู่ที่นี้ใช่ไหม” โจ้ถาม ผมเริ่มตกใจว่ามันรู้ได้ไงว่าที่ผมไม่แน่ใจเพราะผมเริ่มชอบคนอื่น

“เฮ้ยยยย มึงรู้ได้ไงเนี้ย อาการกูมันบอกอย่างนั้นเลยเหรอว่ะ 555” ผมถามปนตลก แต่ดูโจ้มันไม่ขำกับผมด้วย

“กูเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของมึงหรอกน่ะ แต่...” โจ้พูดกับผม แต่ไม่จบประโยค ผมนั่งรอฟังว่ามันจะพูดอะไร
โจ้ถอนหายใจก่อนจะพูดมาอีกว่า

“กูจะไม่ยุ่งเลยถ้ามึงไม่มาชอบคนๆเดียวกับกู” โจ้พูดจบ พร้อมมองมาที่ผม ผมตกใจอีกรอบ
ไอ้โจ้มันชอบพี่เต๋าเหมือนผมเหรอว่ะเนี้ย ไม่ยักเห็นรู้เลย เห็นมันแซวผมตลอดนี้หว่า

“อาไรกันว่ะ ไหนมึงบอกว่าชอบพี่ยอดไง แล้วไหงกลายว่ามึงชอบพี่เต๋าแทนว่ะ”ผมถามโจ้
โจ้ขมวดคิ้ว ทำท่างงกับคำพูดของผม

“ไอ้เชียร์คนที่กูพูดถึงคือพี่ยอด ไม่ใช่พี่เต๋าเว้ย แล้วมึงเอาพี่เต๋ามาเกี่ยวทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคนที่มึงชอบคือพี่เต๋า” โจ้ทำตาโตเมื่อเข้าใจว่าคนที่ผมรู้สึกหวั่นไหวคือพี่เต๋า

“เออดิ ก็นึกว่ามึงรู้อยู่แล้ว เพราะมึงก็แซวกูอยู่ตลอด กูว่าที่ชอบพี่เต๋าเพราะมึงแซวนี้แหล่ะ”ผมโยนความผิดให้มัน

“อ้าวเหรอ กูก็ไม่นึกว่ามึงจะคิดอาไรกับพี่เต๋านี้ว่ะ” โจ้เกาหัว

“ช่างมันเถอะกูพอจะจัดการเรื่องนี้เองได้ แต่เดี๋ยวก่อนนี้มึงเข้าใจผิดว่ากูชอบพี่ยอดเหรอ” ผมถามโจ้ โจ้ก้มหน้ายอมรับความผิด

“โธ่เว้ย กูก็สนิทกับพี่ยอด เหมือนที่มึงสนิทกับพี่ซุ่ยนั้นแหล่ะ มึงไม่ต้องคิดมากหรอก กูขอโทษแล้วกันที่ทำให้มึงคิดมาก” ผมขอโทษเพื่อน ถึงแม้ไม่รู้ว่าไปทำให้มันสงสัยตอนไหน ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดปกติน่ะ

“ไม่ใช่ความผิดของมึงหรอก กูเองแหล่ะที่คิดเองคนเดียวตลอด ถึงพี่จะชอบมึงหรือชอบใครก็ตาม ก็เป็นสิทธิ์ของเค้า เค้าคงไม่มีวันมารักกูหรอก กูพูดกับตัวเองเสมอว่ากูทำใจได้ แต่กูกลับทำไมได้อย่างที่กูคิด” โจ้ระบายความรู้สึกที่มีต่อพี่ยอด ถ้าพี่ยอดรู้ว่ามีคนรักเค้ามากขนาดนี้เค้าคงจะดีใจ

“กูเองก็อยากช่วยมึงให้สมหวังน่ะ แต่พี่เค้ามีแฟนแล้ว และเค้าก็รักกันมากด้วย อีกอย่างน่ะ ถึงพี่เค้าไม่มีแฟน เค้าก็คงไม่ชอบมึงหรอก เพราะว่าเค้าไม่ได้เป็นเกย์” ผมพูดกับเพื่อนผมตรงๆ เพราะอยากให้มันทำใจให้ได้

“อืมม ใช่ กูต้องยอมรับความจริง การรักใครข้างเดียวมันทรมานเหมือนกันเนอะ” โจ้ถอนหายใจ

“ไม่เสมอไปหรอกว่ะ บางที่การได้รักกันอาจจะทรมานกว่าก็ได้” ผมพูด

“กูยังไม่เคยมีความรัก กูเลยยังไม่เข้าใจมันเท่าไหร่ว่ะ แต่ตอนนี้กูเริ่มจะรู้จักบ้างแล้ว” โจ้เงยหน้ามองฟ้า ผมเองก็สงสารเพื่อนน่ะ ที่ดันไปรักคนมีเจ้าของ

“เอาเถอะ สักวันหนึ่ง มึงจะต้องเจอกับความรักที่สมหวังแน่นอน ไม่แน่น่ะมึงอาจจะเจอคนที่ดีกว่าพี่ยอดก็ได้” ผมพูดให้กำลังใจเพื่อน

โจ้เดินเข้ามากอดคอผม “ขอบใจว่ะเพื่อน”

ผมยังคุยกับโจ้สักพัก โจ้ก็เริ่มวกเข้ามาเรื่องพี่เต๋า
“แล้วไหงมึงถึงชอบพี่เต๋าว่ะ”

ผมนั่งเงียบ ก่อนจะพูดว่า“กูเองก็ไม่รู้ว่ะ ว่ากูชอบพี่เต๋าหรือเปล่า กูสับสนว่า ที่กูชอบเขา เพราะกูเหงา เพราะกูอยู่ไกลกับพี่แจ๊ค”
ผมเงยหน้ามองดาวบนฟ้า

“แต่มึงยังบอกว่ามึงยังรักพี่แจ๊คอยู่นี้” โจ้ถามผม เหมือนย้ำให้ผมต้องรู้สึกอย่างนั้น

“ใช่ แต่กูเองก็อยากอยู่กับเขา กูไม่ชอบเลย การอยู่คนเดียว การอยู่ด้วยการคิดถึง” ผมระบายความในใจ

“อีกแค่สองปีเอง เดี๋ยวแกก็ไปอยู่กับเค้าแล้ว” โจ้พูดให้กำลังใจ
ผมเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“กูว่าไม่แปลกหรอกที่มึงจะชอบพี่เต๋า เพราะพี่เค้าเองก็นิสัยดี และดูเหมือนเค้าจะสนิทกับมึงด้วย แต่ไอ้ที่ว่าชอบของมึง มึงต้องเข้าใจว่า มันหมายถึงรู้สึกดีกับเค้า หรือ รู้สึกรักเค้าเพราะเค้า แต่กูว่าไม่น่าจะใช่รักน่ะ เพราะถ้ามึงรักเค้า มึงก็คงเลิกกับพี่แจ๊คไปแล้ว กูก็พูดได้แค่นี้แหล่ะ มึงก็ลองกลับไปคิดเอาเองแล้วกัน” โจ้พูดให้ผมคิด ผมเองก็ลองกลับมาคิดดูว่าเพราะผมห่างกับพี่แจ๊คเลยเหงา แล้วช่วงที่เหงา มีพี่เต๋านี้แหล่ะที่อยู่ใกล้กับผม ผมเลยรู้สึกชอบเค้า แต่ผมไม่ควรจะรู้สึกอย่างนั้นเลย เพราะเหมือนเป็นการทำลายความไว้ใจที่พี่แจ๊คมีให้ผม และผมจะทำลายความซื่อสัตย์ของตัวเองที่มีให้พี่แจ๊คเหมือนกัน

“ขอบใจน่ะ กูรู้แล้วว่ะ ว่ากูแค่รู้สึกดีกับเขา เพราะยังไงกูก็ยังรักพี่แจ๊คคนเดียว และเหมือนเดิมด้วย”ผมหันมายิ้มให้โจ้

“อืมม ก็ดีแล้ว งั้นไปนอนเถอะ ดึกแล้ว” โจ้ชวนผมไปนอน แล้วมันก็เดินเข้าไปที่ห้อง ผมเดินตามหลังไป

พอไปถึงที่เตียงนอน โจ้ก็พูดกับผมว่า “เออ ไอ้ต้นกระบองเพชรน่ะ กูดูแลอย่างดีเลยน่ะ” โจ้เดินไปที่หน้าต่าง หยิบต้นกระบองเพชรเอามาให้ผม

ผมรับต้นกระบองเพชรจากโจ้ ผมเริ่มนึกถึงเจ้าของที่ให้ผมมา

หลังจากวันที่พี่เต๋ามาขอโทษผม พี่เต๋าก็หนีหน้าผมตลอด ผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่เค้ายังคิดว่าผมโกรธเค้าอยู่หรือเปล่า
ผมเองอยากจะบอกว่าผมไม่ได้โกรธเค้าเลย แต่ไม่มีโอกาสสักที
ผมมองต้นกระบองเพชรอีกครั้ง ก่อนจะวางมันบนลิ้นชักข้างๆหัวเตียง

************************************************************************************************

คู่ที่ 3

ผมหิ้วเป้ เดินมาที่หอ แม้จะยังไม่ถึงเวลาเข้าหอ
แต่ผมก็อยากจะเข้าหอก่อนกำหนด เพราะว่าผมเบื่อกับการอยู่ที่บ้าน
แม้พ่อ แม่ จะไม่ทะเลาะกันเหมือนที่ผ่านๆมา เพราะว่าได้หย่ากันแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรทำ
ผมเลยอยากกลับมาที่หอ มาเจอเพื่อนๆ เพราะรู้ว่าโจ้อยู่ที่หอตลอด
อยู่กับเพื่อนคงดีกว่าอยู่คนเดียวที่บ้าน
อีกอย่าง กลัวไอ้โจ้มันเหงา เพราะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนกับมัน

ก่อนจะเดินเข้าไปที่หอ ผมเห็นว่ามีพวกนักกีฬาบาสกำลังซ้อมบาสกันอยู่
มีหนึ่งคนในนั้นที่ดูเด่นและสะดุดตากว่าใคร นั่นคือพี่ยอด นั่นเอง
นอกจากจะรวยเพราะเป็นลูกชายท่านรัฐมนตรีแล้ว ยังหล่อและมีความเป็นสุภาพบุรุษด้วย
ผมเองไม่แปลกใจเลยที่บิ๊กจะชอบพี่ยอด แม้จะมีความเป็นพี่น้องมากั้นไว้

หลังจากที่ผมได้รู้ความจริงทั้งหมดจากมาสเตอร์เบิร์ด ผมกลับเห็นใจในตัวบิ๊กมากขึ้น
การที่แอบรักใครสักคนหนึ่ง โดยที่คนๆนั้นไม่มีทางที่จะมารักเรา มันทรมานมาก
ผมว่าผมกับบิ๊กคงอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

ผมเดินไปถึงห้อง กำลังจะเปิดประตูเข้าไป
มาสเตอร์เบิร์ดก็เปิดประตูห้องออกมา
ผมยิ้มทักทายมาสเตอร์เบิร์ด “สวัสดีครับมาสเตอร์เบิร์ด”

“หวัดดีปอ ทำไมกลับเข้าหอเร็วจัง” มาสเตอร์เบิร์ดถามผม

“ก็ อยู่ที่บ้านไม่มีไรทำครับ เลยอยากมาหาเพื่อนจะได้ไม่เหงาครับ” ผมตอบ
มาสเตอร์เบิร์ดยิ้ม ก่อนจะแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาด้วย

ผมตกใจเลยถาม “แล้วมาสเตอร์จะไปไหนครับ”

มาสเตอร์เบิร์ดถอนหายใจ “มาสเตอร์จะย้ายไปสอนที่ฝั่งมอ ต้น”

“ทำไมหล่ะครับ” ผมท้วง
มาสเตอร์เบิร์ดไม่ตอบ พร้อมหยิบกระเป๋าเดินผ่านผมไป

“แล้วมาสเตอร์เบิร์ดบอกบิ๊กหรือยังครับ” ผมถาม

มาสเตอร์เบิร์ดหยุดเดินพร้อมหันมาทางผม
“ผมไม่อยากให้เขารู้หรอก ถึงเขารู้ เขาก็คงไม่รู้สึกอะไร”มาสเตอร์เบิร์ดตอบผม

ผมมองมาสเตอร์เบิร์ด “มาสเตอร์กำลังจะหนีปัญหาเหรอครับ”

มาสเตอร์เบิร์ดถอนหายใจ “มาสเตอร์คิดว่าการที่มาสเตอร์ไปจากเขาคงดีกว่า”
มาสเตอร์ตอบแค่นั้น แล้วก็เดินออกไป

ผมเองก็ไม่รู้หรอกน่ะว่าการที่มาสเตอร์เบิร์ดทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า
ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่าถ้าผมเป็นมาสเตอร์เบิร์ดผมจะทำยังไงต่อไป

ผมเปิดประตูห้อง เห็นโจ้กับเชียร์นั่งคุยกันอยู่
ทั้งสองคนเห็นผมก็ทำท่าตกใจ “เฮ้ย! ไอ้ปอมึงมาได้ไงเนี้ย วันกลับเข้าหออีกตั้งหลายวัน” เชียร์เป็นคนแรกที่ทักผม

“มึงก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ทำไมกลับมาจากอเมริกาเร็วจังว่ะ” ผมหันไปถามไอ้เชียร์ พร้อมเอาเสื้อผ้าออกจากเป้

“ก็กูคิดถึงพวกมึงไง” เชียร์พูดพร้อมทำเสียงสูง

“คิดถึง แล้วไหนหล่ะของฝาก” ผมหันมาทำท่าแบมือ

เชียร์ยิ้มพร้อมคว้าไปหยิบเสื้อมาให้ผม
“อะไรว่ะ ซื้อเสื้อมาตัวเดียว” ผมแซว

“แพงน่ะเว้ยตัวเนี้ย กูยังมีขนมอีก เดี๋ยวค่อยเอาไปกินตอนเย็นกัน” เชียร์ตอบ

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะออกไปเล่นกีฬา ผมหันไปชวนโจ้และเชียร์ เชียร์ตอบตกลง
แต่โจ้ไปไม่ได้ เพราะมันต้องไปช่วยอาจารย์ตรวจข้อสอบ
ผมเลยต้องเล่นกีฬากับเชียร์สองคน

ลูกแบตตกลงที่ฝั่งของผม เชียร์กระโดดดีใจ
“เย้ กูชนะมึง ตามที่ตกลงกันไว้ มึงต้องให้กูขี่ไปจนถึงหอเลยน่ะ”
ผมเขวี้ยงไม้แบตโมโหที่ตัวเองดันแพ้เชียร์ ก่อนจะเล่นผมพนันกับมันไว้ว่าถ้าใครแพ้จะต้องให้คนชนะขี้แล้วเดินไปจนถึงหอ
แล้วผมก็เป็นคนแพ้เลยต้องยอมให้มันขี้ไปจนถึงหอ
โชคดีที่สนามแบตอยู่หลังหอ คงไม่มีใครเห็นผมแบกไอ้เชียร์หรอก
ไอ้เชียร์ตอนอยู่บนหลังผม มันก็แกล้งผมตลอด เอานิ้วมาแหย่หูผมบ้างหล่ะ
สักพักก็จี้เอวผมบ้างหล่ะ ผมก็ดิ้นๆไปตามแรงที่มันจี้ จนผมสะดุดขาตัวเองล้มลงไปกองกับสนามหญ้า ไอ้เชียร์ก็ล้มไปด้วย

“เฮ้ยลุกดิว่ะ ตัวมึงโคตรหนักเลย” ตัวไอ้เชียร์ทับตัวผมอยู่

“เออ” เชียร์ตอบพร้อมเอามือยันกับพื้นพยุงตัวลุกขึ้น ผมเองก็ลุกขึ้นด้วย พร้อมปัดเศษหญ้าที่ติดตาเสื้อ

“เมื้อกี้ปากมึงโดนแก้มกู กูเสียความบริสุทธิ์ให้มึงแล้วน่ะ” เชียร์พูดพร้อมกระโดดเกาะผม


“เฮ้ย จริงเหรอว่ะ เดี๋ยวกูเอาแอลกอฮอลล์มาล้างก่อนดีกว่า” ผมตอบมันกลับไป เมื้อกี้ตอนล้มก็รู้สึกว่าปากตัวเองไปโดนอะไรนุ่มๆ

“ปากดีจริงๆน่ะมึง กูว่าเอาทิงเจอร์ล้างหมาในปากมึงด้วยก็ดี” เชียร์กระโดดลงจากตัวผม พร้อมเอามือมาตบที่หัวผม

“ยังไม่ถึงหอเลย มึงต้องให้กูขี่ไปอีกน่ะ”เชียร์ทวงสัญญา

ผมส่ายหน้า “ไม่เอาอ่ะ เมื่อกี้มึงแกล้งกูจนล้ม แถมลวนลามกูอีก กูขยะแขยงมึงว่ะ” ผมพูดเสร็จแล้วก็วิ่งหนีมัน เชียร์มันก็วิ่งไล่ผม
เราสองคนวิ่งมาถึงหน้าหอ ก็หยุดวิ่งเพราะเหนื่อยจัด

“ไปอาบน้ำเถอะ จะได้ไปกินข้าวเย็น นัดไอ้โจ้ไว้นี้ เดี๋ยวมันรอ” เชียร์พูดกับผม

“เออ มึงขึ้นไปก่อน เดี๋ยวกูตามไป กูขอกินน้ำก่อน”

ผมเดินเข้ามาที่แทงค์น้ำ ซึ่งตั้งอยู่ด้านล่างของหอ
ผมเอามือรองน้ำที่ไหลมาจากก๊อกน้ำ ค่อยก้มลงไปดื่มน้ำนั้น
พอผมเงยหน้าขึ้นมา ผมเห็นบิ๊กกำลังก้มหน้าดื่มน้ำที่ก๊อกน้ำฝั่งตรงข้าม
พอบิ๊กดื่มน้ำเสร็จ ก็เงยหน้าขึ้น
บิ๊กตกใจที่เห็นผมยืนอยู่ตรงหน้า
“หวัดดี” ผมยืนยิ้มทักทายบิ๊ก
บิ๊กไม่ตอบพร้อมทำท่าจะเดินหนี

“เดี๋ยวก่อนซิ นายโกรธอะไรเรา ทำไมถึงไม่อยากเจอหน้าเรา” ผมตะโกนถามบิ๊ก
บิ๊กหยุดเดิน แล้วก็เดินมาหาผม

“เราไม่ได้โกรธนายหรอก แต่เราไม่ชอบที่นายชอบตามเรา” บิ๊กพูดพร้อมทำหน้าโมโห

“เราป่าวตามนายน่ะ ทุกครั้งที่เราเจอนายมันเป็นความบังเอิญจริงๆ” ผมพูด

“แล้วเราจะเชื่อได้ยังไง” บิ๊กถาม

“ไม่รู้สิ เราคงพิสูจน์อะไรไม่ได้ แต่ถ้านายไม่ชอบที่เจอเรา เราก็ไม่มาให้นายเจออีกก็ได้” ผมพูดพร้อมด้วยอารมณ์น้อยใจ ผมหันหน้าจะเดินกลับขึ้นห้อง บิ๊กก็เรียกผม “เดี๋ยวก่อนซิปอ”
ผมแอบยิ้ม พร้อมหันหน้ากลับไป
บิ๊กเดินมาหาผม พร้อมเอามือมาแตะไหล่ผม “เออ เราขอโทษแล้วกัน ที่อารมณ์เสียใส่นาย เราเชื่อในสิ่งที่นายพูดนะ”
ผมเอามือไปแตะที่มือของบิ๊ก “ไม่เป็นไร”
บิ๊กกับผมยิ้มให้กัน มันเป็นการแสดงถึงมิตรภาพที่บิ๊กมีให้กับผม
“เมื้อกี้แฟนนายเหรอ น่ารักดีน่ะ” บิ๊กถามผมม

“เฮ้ย! ป่าวๆ เพื่อนเราเอง ไอ้นั้นมันมีแฟนแล้ว” ผมรีบแก้ตัว

“อ้าวเหรอ เมื่อกี้เราเห็นนายเล่นกัน เหมือนแฟนกันเลย” บิ๊กบอกเหตุผลที่คิดอย่างนั้น สงสังเห็นผมกับเชียร์ตอนล้มลงไปแน่ๆ

“ก็เพื่อนสนิทกัน เลยเล่นกันแบบนี้แหล่ะ เออ นายไม่รู้จักเพื่อนเราเหรอ เพราะว่าแฟนของเราเป็นญาติกับแฟนพี่ยอด” ผมนะนำเชียร์ให้บิ๊กรู้จัก แต่ดันเผลอพูดถึงเรื่องแฟนพี่ยอด น่าตาบิ๊กเลยดูเศร้าๆเมื่อได้ยินเรื่องแฟนของพี่ยอด สักพักบิ๊กก็เปลี่ยนสีหน้ามาเป็นปกติ
“เหรอ เราก็รู้สึกว่าน่าคุ้นๆ”

บิ๊กกับผมพูดคุยกันจนมาถึงห้อง
ผมหันไปถามเรื่องมาสเตอร์เบิร์ดกับบิ๊ก “เออ นายรู้หรือยังว่ามาสเตอร์เบิร์ดย้ายไปอยู่แผนกมอ ต้น แล้ว”

บิ๊กเงียบก่อนจะตอบกับผม “ไม่รู้หรอก แต่ก็คิดว่าสักวันเขาคงต้องไป”
ผมเห็นบิ๊กพูดอย่างนี้ ก็พอจะรู้สึกว่าบิ๊กเองก็คงรู้สึกแคร์มาสเตอร์เบิร์ดบ้างแหล่ะ

บิ๊กหันมายิ้มให้ผม “เราเองก็ไม่อยากแอบคบกับมาสเตอร์เบิร์ดในสภาพแบบนี้หรอก การที่ลูกศิษย์มีอะไรกับอาจารย์มันก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่แล้ว อีกอย่าง เราก็ไม่อยากจะทำร้ายเค้าอีก” ประโยคหลังบิ๊กพูดเสียงเบา

“เออ คือ เราหมายถึง ถ้าใครมารู้เรื่องนี้ มาสเตอร์อาจจะโดนไล่ออก แล้วมีประวัติไม่ดี” บิ๊กพยายามปกปิด เพราะคงไม่อยากให้ผมรู้เรื่องที่บิ๊กคบมาสเตอร์เพื่อเป็นตัวแทนของคนที่บิ๊กชอบ
ผมยิ้มเพื่อบอกว่า ผมเข้าใจในสิ่งที่บิ๊กพูดทุกอย่าง

ก่อนที่จะแยกเข้าห้องไป ผมรวบรวมความกล้า แล้วหันไปถามบิ๊ก
“บิ๊ก บิ๊ก บิ๊ก”
บิ๊กหันมาตามเสียงเรียก “มีอะไรเหรอ”
“ตอนเย็นไปกินข้าวกับเราไหม เพื่อนเราเค้าซื้อขนมมาจากอเมริกา มากินด้วยกันดิ”
ผมชวนบิ๊กมานิ่งกินข้าวด้วยกัน
บิ๊กคิดสักพักหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
“ได้สิ” แล้วก็เดินกลับเข้าห้องไป

ตอนเย็นวันนั้น นอกจากมีผม และเพื่อนผมอีกสองคนแล้ว ก็ยังมีบิ๊กมานั่งกินข้าวด้วย

----- จบตอนที่ 10 -----

ทักทายจากผู้เขียน

สำหรับตอนนี้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี แต่ไม่ได้แปลว่าจบแล้วน่ะครับ ยังมีต่ออีก
ตอนนี้ผมเน้นเรื่องของการเปิดใจ พูดคุยกันตรงๆ ในการแก้ปัญหาต่างๆ
เมื่อเราเข้าใจตรงกัน ทุกอย่างก็จะลงเอยด้วยดีครับ
มีหลายคนบอกว่า ฉากสวีทมีน้อยจัง
แหม!ก็ตอนนี้เล่าถึงช่วงม.4 เรื่องของความรักมันยังไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่
ในPart1 ค่อนข้างเน้นเรื่องของเพื่อนมากกว่าความรัก
อดใจรอ Part2 และ Part3แล้วกันครับ ที่จะเน้นถึงความรักของทั้งสามหนุ่มมากว่านี้

พบบทสรุปของเรื่องราวตอนม.4 ในวันวาเลนไทน์นะครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ดูเหมือนจะลงเอยด้วยดีทุกคู่นะ  :m13: :m13:

BICHA

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9

ออฟไลน์ BuzZenitH

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-0
 o13....ยกนิ้วให้.....

 :m1:....ไม่ว่าจะซีซั่นไหน....ก็หวั่นไหวทุกที.... :o8:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงสามหนุ่มสามมุมมากมาย.......
กว่าจะอ่านตามมาทัน มึนนนนนน  o2
อะไรมันจะสับสนวุ่นวายดีแท้น้อออออ
ไงก็เอาใจช่วยค๊าบบบบบ
 :m4:

three

  • บุคคลทั่วไป
จะรออนะครับเจอกันวันที่14 นะครับ :m1:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด