..9..
“สูญเสีย..ของรัก”
-----------------
แม็กกี้แอบเฝ้ามองทอมด้วยความเป็นห่วง เพราะเป็นครั้งแรกที่เห็นคุณทอมดื่มเหล้า ส่วนใหญ่จะเห็นตอนเมาไม่ได้สติมาจากข้างนอกแล้ว และทุกครั้งคุณจิมก็จะแบกคุณทอมลงจากรถพาขึ้นไปบนห้องด้วยตัวเอง
….คืนนี้คุณจิมไม่อยู่บ้านออกไปตั้งแต่ตอนเย็น ก่อนไปคุณจิมกระซิบสั่งว่าให้แม็กนั่งเฝ้าคุณทอมไว้ห่างๆ เห็นคอพับไปเมื่อไรก็ให้ไปเรียกลุงแก้วมาพาคุณทอมขึ้นไปนอน คุณจิมบอกว่าคุณทอมดื่มไม่เก่งหรอก ไม่กี่แก้วก็เมาพับแล้ว แต่ที่เห็นอยู่ตอนนี้…คุณทอมดื่มแก้วนี้เป็นแก้วที่ 6 แล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะพับเลย จะต้องรอให้ดื่มหมดขวดเลยเหรอ.. ถึงจะเมาพับไป แล้วทำไมต้องดื่มด้วย เพราะกลุ้มใจมากถึงต้องดื่มงั้นเหรอ…
เด็กชายนึกถึงปัญหาที่ทอมกลุ้มอยู่แล้วสะท้อนถึงเรื่องตัวเอง
"แม็กกี้.. ฉันจะออกไปข้างนอก ถ้าเห็นคุณทอมดื่มเหล้า ให้นั่งเฝ้าอยู่ห่างๆ ไม่ต้องเข้าไปกวนนะ"
"ทำไมถึงดื่มล่ะครับ เอ่อ.. ผมหมายถึง ทำไมคุณจิมถึงปล่อยให้คุณทอมนั่งดื่มคนเดียวล่ะครับ
จิมจ้องตาเด็กชายเขม็ง
"ไม่รู้จริงหรือ แม็กกี้.. ว่าคุณทอมดื่มเหล้าทำไม"
"เอ่อ.. ผม…"
จิมยิ้มเล็กน้อย เมื่อเด็กชายมีสีหน้าตื่นตระหนก
"เรื่องที่เธอแอบได้ยินเมื่อตอนบ่าย เธอว่ามันน่าสนุกหรือเปล่าสำหรับคุณทอม.."
เด็กชายสะดุ้งใจหายวาบไม่นึกว่าคุณจิมจะรู้.. รู้แล้วยังปล่อยให้แอบฟังอีก
"เอ่อ.. คือ…ผม.. เอ่อ.."
จิมหัวเราะเมื่อเด็กชายหน้าถอดสีและรีบก้มหน้าหลบสายตาเขา ถึงจะตกใจกลัวแต่เจ้าหนูก็ยอมรับผิดโดยดี
"ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังครับ กำลังจะยกกาแฟเข้าไปแล้วได้ยินพอดี…"
"งั้นเหรอ.. ไหนๆ ได้ยินแล้วก็เลยหยุดฟังให้จบเลยใช่มั้ย"
"เอ่อ.." เด็กชายเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีน้ำทะเลคู่สวยเหลือบขึ้นมองจิมอย่างสำนึกผิด กำลังจะเอ่ยขอโทษก็ถูกร่างสูงใหญ่ตรงหน้าเอามือปิดปากไว้
"ไม่ต้องขอโทษหรอก แม็กกี้.. ดีแล้วที่เธอได้ยินและได้ฟังกับหู เพราะมันเป็นเรื่องที่ฉันต้องการให้เธอรับรู้อยู่แล้ว ทุกข์สุขของคุณทอมเธอควรจะรับรู้ไว้"
จิมปล่อยมือ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อบางเป็นกระจับเผยอยิ้มเล็กน้อยเหมือนโล่งอก จิมตะลึงไปชั่วขณะ เพิ่งสังเกตุเห็นวันนี้เอง.. ถ้าเป็นรูปปั้นก็คงเรียกว่ามาจากพิมพ์เดียวกันซีนะ..
"ทำไมผมต้องรู้ล่ะครับ คุณจิม.."
"ก็.. ในฐานะที่เธออาจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณทอมไง"
"แค่อาจจะ.. เท่านั้น จำเป็นต้องรู้ด้วยหรือครับ" เด็กชายกล่าวเสียงอ่อย
จิมลืมตัวหลงจ้องมองริมฝีปากบางน่ารักที่ขยับหมุบหมิบไปมา แล้วแว่บถึงต้นแบบที่เป็นแม่พิมพ์ของเจ้าหนู
"อืมม์.. เธอน่าจะรู้ด้วยตัวเองนะ แม็กกี้.. ว่าจำเป็นหรือเปล่า ถามตัวเองซิว่าหยุดแอบฟังทำไม.."
"ผมได้ยินคุณทอมบอกว่าไม่อยากมีลูก ผมก็เลย…"
"เลยตกใจนึกว่าคุณทอมหมายถึงเธองั้นซี.. "
จิมใช้มือเสยผมที่ปกระลงมาที่หน้าผากเด็กชาย และเชยคางเจ้าหนูขึ้น
"ฟังนะ แม็กกี้.. เรื่องของเธอมันผ่านพ้นภาวะวิกฤติไปแล้ว คุณทอมเป็นฝ่ายขอยอมแพ้และรับปากจะพิสูจน์ความจริงกับเธอแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นหมดห่วงและเลิกกังวลเรื่องของตัวเองได้"
เด็กชายตาค้างฟังอย่างตั้งใจ สีหน้ายังไม่สบายใจและกังวลอยู่
"ผมเป็นต้นเหตุทำให้คุณทอมไม่อยากรับลูกที่อยู่ในท้องของคุณผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่าครับ คุณทอมอาจเบื่อที่อยู่ๆ ก็ต้องมาเป็นพ่อของลูกตั้งหลายคน ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่า.."
จิมนึกไม่ถึงว่าแม็กกี้จะมีความคิดเช่นนี้ รีบตัดบทไม่ให้พูดต่อ
"ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ปัญหานี้เป็นหน้าที่ของฉันไม่ใช่ของเธอ หน้าที่ของเธอตอนนี้ก็คือ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ช่วยเฝ้าดูคุณทอมให้หน่อยได้มั้ย.."
"ได้ครับ" แม็กกี้รับคำด้วยความเต็มใจ ดีใจที่ได้ทำประโยชน์ให้บ้าง
ขณะเดินตามไปส่งจิมที่รถ แม็กกี้เริ่มรู้สึกและสัมผัสถึงตัวตนจริงๆ ของชายหนุ่มผู้นี้ว่า จริงๆ แล้วเป็นคนอ่อนโยนและใจดี เข้าใจความรู้สึกของแม็กมากกว่าคุณทอมด้วยซ้ำ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลคุณจิมดีกับแม็กมากขึ้นทุกวัน แม้แต่คำเรียกแทนตัวก็เปลี่ยนจาก "นาย หรือ ไอ้หนู" เป็น "เธอ" แล้ว
"เอ๊ดดี้!!.. อยู่หรือเปล่า มีใครอยู่บ้าง ไปไหนกันหมด.."
แม็กกี้สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงอ้อแอ้ของคุณทอมเรียกหาน้าเอ๊ดดี้ รีบออกจากที่ซ่อนตรงเข้าไปหาก่อนที่คุณทอมจะมีโมโห
"น้าเอ๊ดดี้ออกไปกับคุณจิมครับ คุณทอมต้องการอะไร ใช้ผมได้ครับ"
"ใคร… หือ.. อ้อ! แม้กกี้เหรอ.."
"ครับ"
แม็กนั่งคุกเข่าตรงหน้าคุณทอม เข้ามาใกล้ๆ ถึงรู้ว่าคุณทอมอยู่ในสภาพที่เมามากแล้วจริงๆ ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาสะลึมสะลือใกล้จะปิดอยู่แล้ว เสียงของหล่นเมื่อครู่คงเป็นขวดเหล้าเปล่าที่กลิ้งอยู่บนพื้นพรม โชคดีนะที่ไม่แตก..
"คุณทอมจะขึ้นไปนอนหรือยังครับ ผมจะพาไป"
"หึ! เข้าใจถามนะ ฉันยังไม่นอน ไปหยิบเหล้าที่บาร์มาขวดนึงซิ แม็กกี้.."
"เอ่อ.. คุณทอมเมามากแล้วนะครับ จะดื่มต่ออีกเหรอ.."
"เฮ้ !.. " ทอมส่งเสียงดังด้วยความไม่พอใจจนเด็กชายสะดุ้ง
"ฉันให้ไปหยิบก็ไป!! ไม่ใช่หน้าที่ของเด็กอย่างเธอจะมาบอกให้ฉันหยุดดื่ม เธอนั่นแหล่ะเดินไปหยิบเหล้ามาเสร็จแล้วก็กลับไปนอนซะ มานั่งเฝ้ามองฉันอยู่ทำไม"
แม็กกี้ใจหายวาบรีบลุกขึ้นไปหยิบเหล้าขวดใหม่มาให้ คุณทอมกระชากขวดเหล้าไปจากมือด้วยความไม่พอใจ แม็กใจเต้นตุ้บตับเป็นครั้งแรกที่เห็นคุณทอมเมา เวลาเมาจะส่งเสียงดังและขี้โมโหแบบนี้หรอกเหรอ…
เด็กชายโล่งใจเมื่อเห็นทอมรินเหล้าแต่น้อย ไม่ถึงครึ่งแก้วด้วยซ้ำ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เมื่อน้ำสีอำพันผ่านลำคอทอมภายในอึกเดียว
…ไม่ต้องห่วงนะครับ บ๊อส.. ผมจะจัดการเรื่องแคธรีนให้เรียบร้อย…
คำพูดของจิมยังก้องอยู่ในโสตประสาทของทอม บ๊อส เป็นคำที่จิมชอบใช้เรียกหยอกและกระเซ้าเล่นเท่านั้น แต่การพูดคุยกันระหว่างเขากับจิมเมื่อตอนบ่าย ทั้งน้ำเสียงและท่าทีของจิมเหมือนเขาอยู่ในฐานะแค่..บ๊อส..จริงๆ
จิมนั่งคุยและซักถามเขาเรื่องแคธรีนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ด้วยสีหน้าจริงจังและเคร่งเครียด ไม่มีการกระเซ้าเย้าแหย่ ไม่พูดคุยนอกเรื่อง จนทอมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ต้องหาและกำลังถูกสอบปากคำ
…นายนอนกับเธอครั้งแรกเมื่อไร…จำวันเวลาได้มั้ย… กี่ครั้ง… หลังจากนั้นมีติดต่อกันอีกหรือเปล่า ช่วยตอบทุกคำถามเท่าที่จะจำได้เพื่อประโยชน์ของตัวนายเอง
…นี่มันเกิดอะไรขึ้น จิมจะทำเย็นชากับเขาแบบนี้อีกนานมั้ย ไหนจะเรื่องบ้าๆ จากยัยแคธรีนนั่นอีก จู่ๆ ก็มาบอกให้เขารับเป็นพ่อเด็กในท้อง นายแบบสุดฮอทหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวอย่างเขาต้องมาตกที่นั่งเป็นพ่อคน มีลูกพร้อมกันทีเดียว 3 - 4 คน โอ ! พระเจ้า…
ดวงตาหนุ่มน้อยเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจอีกครั้ง รีบคลานเข้าไปประชิดตัวคุณทอมที่ จู่ๆ ก็ปล่อยแก้วร่วงลงจากมือและหงายหลังพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง
"คุณทอมครับ คุณทอม.." เด็กชายร้องเรียกและเขย่าขาทอมด้วยความเป็นห่วง
"อือ… หนวกหู" ทอมปัดมือเด็กชายออก
"บอกให้ไปนอนไง ยังนั่งเกะกะอยู่อีก"
"ผมยังไม่ง่วงครับ ผมจะอยู่รับใช้ ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนนะครับ คุณทอม.."
ทอมส่ายหน้าด้วยความรำคาญ
"ตามใจ อยากจะอยู่ก็นั่งเงียบๆ อย่ามาเรียกให้ฉันหนวกหูอีก"
"ครับ"
เด็กชายนั่งก้มหน้านิ่ง ไม่พูดจาให้เป็นที่หนวกหูรำคาญใจอีก นิ่งเงียบไปชั่วครู่ทอมก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว
"อยากมีน้องมั้ย แม็กกี้.."
"หา.. เอ่อ.. อะไรนะครับ" แม็กไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดหรือคุณทอมพูดผิดเพราะเมาจนเกือบจะไม่มีสติแล้ว
ทอมจับศีรษะเด็กชายและก้มลงไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้
"อยากมีน้องมั้ย"
แม็กกี้ใจหายวาบ คุณทอมกำลังจะระบายเรื่องที่อยู่ในใจกับแม็กเหรอ จะตอบยังไงดีล่ะ ! ...
"เอ่อ.. น้องเหรอครับ ผมจะมีน้องได้ไง แม่เสียไปแล้วนี่ครับ"
ทอมผละจากเด็กชายเอนหลังพิงพนักโซฟาร์ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ คำตอบของเจ้าหนูไม่เข้าหูเขา
"ตอบไม่ตรงคำถาม ถามว่าอยากมีมั้ย เด็กที่เกิดจากพ่อคนเดียวกัน ถึงจะคนละแม่..ไม่ได้เป็นพี่น้องกันเหรอ แม็กกี้ หือ…"
เด็กชายตะลึง นึกไม่ถึงว่าคุณทอมจะเข้าประเด็นด้วยคำถามตรงๆ แบบนี้มัวแต่นั่งอึ้งตอบคำถามไม่ทันใจ ทอมเลยโมโหไล่เด็กชายไปนอน
"ไปนอนซะ ฉันอยากอยู่คนเดียว"
"ถ้ามีได้ผมก็อยากมีฮะ จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว จะได้ไม่เหงาด้วย"
แม็กกี้รีบตอบคำถามจากใจจริง พร้อมๆ กับภาวนาขอให้เป็นคำตอบที่ถูกใจคุณทอม
ทอมระบายยิ้มออกมาเหมือนพึงพอใจ ก่อนจะขยับขึ้นจากพนักส่งยิ้มให้เด็กชาย ซึ่งเจ้าหนูก็ยิ้มตอบแม้จะรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นแปลกๆ ชอบกล
"คงไม่มีเด็กที่ไหนอยากเป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ซีนะ มันคงจะเหงาเหมือน ที่ฉันเป็นอยู่" ทอมพูดเหมือนรำพึงกับตัวเอง ก่อนจะก้มลงไปกล่าวกับเจ้าหนูที่นั่งยิ้มอยู่
"คนเป็น ลูก ก็อยากมีพี่น้อง แต่ถ้าคนเป็น พ่อ ไม่อยากมีลูกขึ้นมาล่ะ ทุกอย่างก็จบใช่มั้ย"
รอยยิ้มของเด็กชายจางลง ไม่เข้าใจว่าคุณทอมต้องการจะบอกอะไรแน่ จึงถามออกไปตรงๆ
"คนเป็น พ่อ ที่ว่า หมายถึง คุณทอมหรือเปล่าครับ คุณทอมไม่อยากมี ลูก เหรอครับ"
คำถามของเจ้าหนูแทงใจทอมอย่างจังจนไม่อาจระงับอารมณ์ไว้ได้ สีหน้าบึ้งตึงตะคอกใส่จนร่างเล็กบางผงะไป
"ใครอยากจะมีกันล่ะ!.. มันน่าสนุกหรือไง อยู่ๆ ก็มีเด็กเดินเข้ามาในชีวิตฉันและอ้างว่าเป็นลูกโผล่มาวันละคนสองคน มาแต่ลูกไม่พอยังมีแม่เด็กมาอีก เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับฉันหรือไง หา!!!!.."
แม็กกี้สะดุ้งเฮือก เคยถูกคุณทอมตะคอกใส่ตอนที่มาแสดงตัววันแรก แต่ก็ไม่น่ากลัวเท่าวันนี้ ไม่รู้สึกเจ็บที่หัวใจเหมือนวันนี้ด้วย ไหนๆ คุณทอมก็โกรธมากแล้วตัดสินใจถามให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า
"ค..คุณทอม หมายถึงผมด้วยหรือเปล่าครับ" น้ำเสียงสั่นเครือของเด็กชายไม่ได้ทำให้อารมณ์ของทอมเย็นลง
"ถามโง่ๆ!!.. เธอเป็นเด็กคนแรกที่เดินเข้ามาในชีวิตฉัน ทำให้ฉันช็อคกับคำว่า พ่อ แล้วรู้อะไรมั้ย ฉันกำลังช็อคอีกเป็นครั้งที่ 2 เพราะฉันอาจจะกำลังมีลูกกับนางแบบสาวสวยที่ฉันนอนด้วยแค่ครั้งเดียวเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ให้ตายเถอะ ! .. นี่ฉันคงกำลังมีโชคซีนะ ได้ลาภเป็นสัตว์สองเท้าตั้งหลายตัว เฮอะ!!.."
ทอมไม่มีสติที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว เขาระบายความอัดอั้นออกมาโดยลืมไปว่าผู้รับฟังเป็นเด็กชายที่ตัวเองจะพิสูจน์ความจริงด้วยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทอมละจากใบหน้าซีดเผือดของเด็กชายหันมารินเหล้าใส่แก้วและกระดกขึ้นดื่ม
"ผมเป็นต้นเหตุให้คุณทอมไม่อยากรับลูกที่อยู่ในท้องคุณผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่าครับ"
คิ้วเรียวขมวดมุ่น ไม่พอใจที่เด็กชายยังเซ้าซี้ถามเรื่องที่เขาไม่สบอารมณ์อยู่แทนที่จะรีบกลับไปนอน
"ถ้าฉันบอกว่า ใช่ ล่ะ .."
ทอมเค้นเสียงถามข้างๆ หูเด็กชาย กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งจนหนุ่มน้อยต้องเบือนหน้าหนี
"ผมก็อยากจะบอกว่า คุณทอมไม่ต้องพิสูจน์ความจริงกับผมก็ได้ คุณจะได้ไม่รำคาญใจ เด็กที่เกิดมาต้องการพ่อมากกว่าผม จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากเป็นลูกคุณด้วย "
"วะ.. ว่าไงนะ" ทอมจับแขนเด็กชายเขย่า ประโยคสุดท้ายทำให้เขาโกรธจับใจ
"ไม่อยากแล้วมาทำไม ถ่อมาหาฉันถึงนี่ทำไม"
"ผมเคยบอกคุณแล้วว่าต้องการแค่รู้ความจริงเฉยๆ แต่ตอนนี้ผมไม่อยากรู้แล้ว โอย!…" เด็กชายร้องครางเพราะถูกอุ้งมือใหญ่บีบแก้ม 2 ข้างอย่างแรง
"อวดดี!!.. อยากเป็นผู้เสียสละงั้นเหรอ ต้องการแค่รู้ความจริงเฉยๆ ไม่ได้อยากเป็นลูกฉันงั้นเหรอ… ก็ได้… ไสหัวออกไปให้พ้นจากชีวิตฉันเลย อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก จะมีลูกทั้งทีก็ต้องเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่แรกเกิด ไม่ใช่โตมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ถึงเป็นลูกจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีความรักให้ได้หรือเปล่า.."
สีหน้าถมึงทึงและดวงตาวาวโรจน์ด้วยอารมณ์โกรธที่รุนแรงของทอม ไม่ได้ทำให้เด็กชายตกใจกลัวเท่าคำพูดที่ออกจากปากเลย