“กรูคิดว่ากรูรู้แล้วว่ามรึงชอบใครอยู่”ไอ้แชมป์ชะงักไปทันทีแสดงว่าที่ผมคิดไว้คงไม่ผิดหรอก ทำไมผมไม่ฉุกคิดให้เร็วกว่านี้ ที่มันไม่มีใคร หรือที่มันไปแอบชอบใครคนนึงมันมีเหตุผลอะไรละที่จะไม่บอกให้เพื่อนสนิทอย่างผมรับรู้
“แล้วมรึงคิดว่าเค้าคิดยังไงกับกรู”ไอ้แชมป์มองมาที่ผมอย่างกล้าๆกลัวๆ เหมือนทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ในคำตอบของผม ทำไมกันทำไมผมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้ว่าคนที่มันชอบคือผม
“เค้าไม่เคยคิดกับมรึงเกินคำว่าเพื่อนเลยสักนิด”ถ้าผมรู้ให้เร็วกว่านี้ ผมจะไม่ทำร้ายมันมานานขนาดนี้ ผมจะให้มันตัดใจและเลิกสนใจอะไรในตัวผมอีก เพราะยังไงมันก็ไม่มีวันจะเป็นไปได้
“แล้วมรึงคิดว่ากรูควรทำยังไงดี”น้ำเสียงของไอ้แชมป์เริ่มสั่นๆ นี่ผมหักดิบมันเกินไปหรือเปล่า แต่ผมก็คิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วว่าควรจะบอกออกไปตรงๆเสียที ไอ้แชมป์จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับผมแบบนี้ ผมอยากให้มันเปิดใจรับคนอื่นมากกว่า
“แชมป์...กรูว่ามรึงรู้นะว่าจะทำยังไงต่อไป”ผมไม่รู้หรอกครับว่าจะปลอบมันยังไง ผมรู้แค่ว่าควรบอกมันออกไปตามตรงว่าผมไม่มีทางคิดกับมันเป็นอื่น ถ้าผมไม่บอกยังไม่ตัดความคิดของมัน มันก็จะยังคงมีความหวังต่อไป ผมว่าที่มันคอยมาสนใจเอาใจใส่ดูแลผมแบบนี้ มันก็คงต้องหวังบ้างแหละ แม้จะน้อยนิดก็เหอะ อีกอย่างตอนนี้ผมไม่มีใครเลยยิ่งเหมือนว่าความหวังของมันอาจจะมีมากขึ้น
“มรึงให้กรูได้แค่นี้จริงๆ ใช่ไหม”หน้าตาของไอ้แชมป์ดูเศร้าสร้อยอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน การที่รักใครสักคนแล้วเค้าไม่รักตอบมันก็คงจะเศร้าไม่น้อย แต่สักวันแชมป์มันจะต้องเจอคนที่มันรักและก็รักมัน ผมเชื่ออย่างนั้น และการพยักหน้าตอบรับคำพูดของมัน ทำให้ไอ้แชมป์ลุกพรวดขึ้นทันที
“กรูกลับก่อนแล้วกัน”มันหุนหันออกไปโดยที่ผมไม่ทันได้ทัดทาน ได้แต่หวังว่ามันจะเข้าใจผมและกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างที่เราเคยเป็น
“พี่แฟ้ม”เสียงน้องสาวคนสวยของผมดังขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับเธอ เฟิร์นก็มาช่วยที่ร้านผมแทบทุกวัน แต่ผมก็ไม่ได้ให้อยู่ช่วยจนดึกดื่นมากนักยกเว้นในช่วงสุดสัปดาห์ จริงๆลูกค้าผมส่วนหนึ่งก็เพื่อนๆ ของเฟิร์นนี่แหละ ผมไม่ได้สอนให้น้องๆดื่มกันนะครับ น้องๆเค้าก็ดื่มกันเป็นอยู่แล้ว แต่ผมก็ต้องคอยเตือนให้ห่วงเรื่องเรียนกันด้วย
“เพื่อนพี่แฟ้มเป็นไรอ่ะ รีบไปไหนรึเปล่า เฟิร์นทักก็ไม่ตอบ”นี่เฟิร์นคงจะสวนกับไอ้แชมป์ตอนออกไปพอดี
ไอ้แชมป์หายไปเลยไม่แวะเวียนมาหาผม โทรศัพท์ที่เคยคุยกันบ้างแปรเปลี่ยนเป็นไม่มีเลย หลังจากวันนั้นมันยอมรับโทรศัพท์ผมแค่ครั้งเดียว ผมโทรไปเพราะเป็นห่วงมันว่าจะเป็นไรหรือเปล่า และมันก็บอกกับผมว่าขอเวลาสักพัก อาจจะนานหน่อยขออย่าได้โทรหามันหรือพยายามติดต่ออีก ไว้มันพร้อมเมื่อไหร่จะมาหาผมเอง แต่นี่ก็ปาเข้าไป 5-6 เดือนแล้วที่มันหายไปเลย สงสัยมันคงยังทำใจไม่ได้ การตัดใจจากใครสักคนมันคงต้องใช้เวลาสักหน่อย ตรงจุดนี้ผมเองก็น่าจะรู้ซึ้งดี เพราะผมเองก็กำลังพยายามตัดใจจากใครบางคน และอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตของผมก็เป็นได้ที่จะต้องหนีจากความรู้สึกนี้ให้ได้
“พี่แฟ้ม...ตกลงว่าพี่กับไอ้พี่แชมป์ทะเลาะกันเหรอ”อยู่ๆ น้องเฟิร์นก็พูดขึ้นวันนี้เฟิร์นไม่มีเรียนช่วงบ่ายเลยมาช่วยผมเตรียมของที่ร้าน เร็วกว่าปกติและเราสองพี่น้องก็จัดแจงได้เร็วกว่าปกติเยอะ ผมก็อ่านหนังสือเล่นๆ ส่วนแม่น้องสาวตัวดีตอนแรกก็ดูตำราเรียนอยู่หรอก แต่ตอนนี้คงขี้เกียจอ่านแล้วเลยหาเรื่องคุย ว่าแต่ไหงมาถามเรื่องผมกับไอ้แชมป์กัน
“ทำไมคิดงั้นละหือ”ผมถามออกไปอย่างไม่ได้คิดว่าน้องสาวคนนี้ละลาบละล้วง เพราะผมก็ไม่ได้มีความลับอะไรกับน้องสาวคนนี้อยู่แล้ว
“ก็ตั้งแต่วันที่เฟิร์นเห็นพี่เค้าหุนหันออกจากร้านไปวันนั้น นี่ก็หลายเดือนแล้วพี่เค้าก็ไม่เคยแวะมาที่นี่อีกเลย”ช่างสังเกตจริงๆน้องผม แต่ถึงไม่สังเกตก็รู้สึกได้อยู่แล้วแหละมั้ง
“พี่เค้ากำลังใช้เวลาทบทวนบางอย่างอยู่นะ”ผมตอบเลี่ยงๆ เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องบอกรายละเอียดทั้งหมดออกไป เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนอื่นด้วยไม่ใช่แค่เรื่องของผมเพียงคนเดียว ถ้าเป็นเรื่องผมเพียงคนเดียวผมคงเล่าให้น้องฟังได้หมดแต่อันนี้ผมก็ไม่ควรเล่าเรื่องเพื่อนให้บุคคลที่สามฟัง
“พี่แฟ้มบอกเลิกพี่เค้าเหรอ”หา...ผมตกใจจนต้องรีบยันตัวที่นอนอ่านหนังสืออยู่ลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินคำถามของแม่น้องสาวตัวดี ไม่คิดว่าเธอจะถามออกมาแบบนี้ นี่เฟิร์นเข้าใจว่าผมกับไอ้แชมป์เป็นอะไรกัน
“พี่กับไอ้แชมป์เป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องบอกเลิกกันด้วยละ”ผมยังทำเป็นตอบออกไปอย่างเรียบๆ
“ไม่ต้องมาปิดเฟิร์นหรอกน่า ความรักมันไม่ใช่เรื่องไม่ดีซะหน่อย จะเพศไหนยังไงก็รักกันได้หมดแหละ ทุกวันนี้โลกเรามันเปิดกว้างจะตายไป อีกอย่างนะสายตาที่พี่แชมป์มองพี่มันก็ออกจะชัดเจนปานนั้น แถมความเป็นห่วงเป็นใยที่พี่สองคนมีให้กันอีก เป็นใครก็มองออกหรอกว่าคิดอะไรกันอยู่”เหอๆ นี่ขนาดน้องผมเจอไอ้แชมป์ไม่นานยังดูออกขนาดนี้ แต่ไอ้ผมนี่สิไม่เคยฉุกคิดเรื่องไอ้แชมป์บ้างเลย แบบนี้เรียกบื๊อของแท้เลยตุ
“ฟังพี่นะ...พี่ยอมรับว่าพี่เองชอบผู้ชายด้วยกัน แต่พี่กับไอ้แชมป์เนี่ยเป็นแค่เพื่อนกันไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น”พยายามที่จะอธิบายให้น้องสาวได้เข้าใจในเรื่องระหว่างผมกับไอ้แชมป์ใหม่ ถึงแม้ไอ้แชมป์มันจะชอบผมมากกว่าเพื่อน แต่ผมเชื่อว่าสักวันมันต้องคิดได้ว่าแท้จริงแล้วมันคิดยังไงกับผมกันแน่
“แสดงว่าพี่แชมป์อกหักจากพี่แฟ้มใช่ไหม”สรุปว่ายังไงแม่น้องสาวของผมก็ปักใจเชื่อไปแล้ว แต่ก็นับว่าเดาเรื่องราวได้เก่งเหมือนกันนะเนี่ย ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆกับน้องสาวคนนี้
“ว่าแต่เราเหอะ มาสนใจเรื่องของพี่เนี่ย เรื่องของตัวเองละ นี่น้องสาวพี่มีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบบ้างหรือเปล่าหือ”ผมได้ทีสวนกลับน้องบ้าง เจอคำถามนี้ของผมเข้าไปแม่น้องสาวตัวดีก็เขินไปเหมือนกันนะเนี่ย
“เฟิร์นไม่สนใจหรอก ตอนนี้ขอตั้งใจเรียนก่อน”แต่ทำไมผมว่าคำพูดกับอาการมันออกจะสวนทางกันอยู่น้า
“หรือว่าน้องสาวพี่ไปแอบปิ๊งหนุ่มที่ไหนไว้ บอกมาซะดีๆ”ผมจ้องคาดคั้นเอากับแม่น้องสาวตัวดี เพราะน้องผมก็จัดว่าเป็นผู้หญิงสวยคนนึงเหมือนกันนะเนี่ย น่าจะมีคนมาชอบอยู่เหมือนกัน แต่ที่ยังไม่ลองคบใครดูนี่คงเพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้วแน่ๆ นี่ผมต้องสวมบทพี่ชายหวงน้องสาวหรือเปล่านะ
“สองพี่น้องเล่นอะไรกันอยู่เหรอครับ”เสียงใครบางคนมาขัดจังหว่ะการซักฟอกน้องสาวของผม เราสองพี่น้องหันไปตามเสียงของผู้มาใหม่ ก่อนจะได้พบกับรอยยิ้มของใครบางคนที่ผมคุ้นเคย
“ตายยากจริงๆเลยพี่แฟ้ม ดูสิเพิ่งพูดถึงก็มาเลย”เฟิร์นกระซิบกับผมเบาๆ ใช่แล้วคนที่มาถึงไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือไอ้แชมป์นั่นเอง หลายเดือนที่ผ่านมาเราไม่ได้เจอกันเลย ดูมันซูบไปเล็กน้อย ผมยิ้มตอบก่อนจะเอ่ยปากทักทาย
“ไปไงมาไงเนี่ย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สบายดีเปล่า”ผมเอ่ยออกไปแต่ออกจะยังเกร็งๆอยู่เล็กน้อย ถึงแม้จะพยายามเหมือนไม่เคยมีอะไรกระทบความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของเรา แต่มันก็ยังตงิดอยู่ในใจเล็กน้อยอยู่ดี
“ก็ดี สบายดี ว่าแต่กิจการมรึงไปได้สวยนิ เดี๋ยวคงรวยแล้วมั้งนิ”เราพูดคุยกันอีกนิดหน่อย แล้วเฟิร์นก็ขอตัวออกไปทำธุระสักครู่ก่อนร้านจะเปิด จริงๆผมว่าเฟิร์นคงตั้งใจเปิดโอกาสให้ผมกับไอ้แชมป์อยู่ด้วยกันสองคนมากกว่า เพราะคงรู้แหละว่าไอ้แชมป์น่าจะมีอะไรต้องคุยกับผมตามลำพัง
“มรึงโอเคแล้วนะ”ผมเอ่ยปากทำลายความเงียบของเราสองคน ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างแล้ว
“ก็ใกล้จะเห็นมรึงเป็นเพื่อนแล้วละ”แสดงว่านี่มันยังตัดใจจากผมได้ไม่หมด แต่ก็อย่างว่าแหละเวลาแค่นี้มันกลับมาเผชิญหน้าผมได้ก็ถือว่าดีแล้ว เราใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่จะพูดคุยกันโดยไม่เคอะเขิน ความที่ห่างกันไปหลายเดือนและเหตุผลที่ทำให้เราไม่ได้เจอกัน มันเลยต้องใช้เวลาจูนคลื่นความเป็นเพื่อนกันนิดหน่อย
“กลับมาแล้ว....นะคะ”แม่น้องสาวผมตะโกนมาแต่ไกล แม่คนนี้ชอบทำอะไรไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าตาสักเท่าไหร่เลย หน้าตาก็ดีหรอกแต่ทำตัวกะโปโลเหลือเกิน พอมาถึงก็มาทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ผมทันที แถมมองผมกับไอ้แชมป์สลับไปมาอย่างจะจับผิด นี่ตกลงไม่เชื่อที่ผมบอกว่าผมกับไอ้แชมป์เป็นเพื่อนกันใช่ไหมเนี่ย
“พี่แชมป์หายไปนานเลยนะเนี่ย”เฟิร์นพูดคุยถามไถ่อย่างสนิทสนมเพราะสองคนนี้ก็ได้รู้จักกันในระดับนึงแล้ว จะว่าสนิทกันก็พอได้อยู่ เฟิร์นซื้อของกินมาด้วยก่อนจะนำไปจัดแจงออกมาวางที่โต๊ะ แล้วเราสามคนก็ทานกันไปพูดคุยกันไป วันนี้ไอ้แชมป์จะมาค้างกับผมด้วย
“พี่ๆ ถามไรหน่อยดิ”เฟิร์นสะกิดจะถามไอ้แชมป์ดูกิริยาแล้วไม่งามเท่าไหร่ออกจะห้าวหาญเกินหญิงไปนิด ผมเลยต้องส่งสายตาตำหนินิดๆ ให้น้องสาวมีสัมมาคารวะหน่อย เพราะไอ้แชมป์ก็อายุมากกว่าน้องผมหลายปีเหมือนกัน (ก็ห่างเท่ากับผมนั่นแหละ)
“ว่าไงมีไรจะถาม”แต่ดูไอ้นี่ก็ไม่ได้ถือสาอะไรหรอกครับ คงอยากให้ดูเป็นกันเองด้วยมั้งละเนี่ย
“พี่เป็นเกย์ป่ะ”เอาแล้วไงแม่น้องสาวของผมเล่นอะไรอีกละเนี่ย ทั้งผมทั้งไอ้แชมป์แทบจะสำลักกันเลยทีเดียว
“เฟิร์น...ไม่เล่นนะ”ผมบอกอย่างปรามๆ น้องสาว
“อย่าไปว่าน้องเลย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย”ไอ้แชมป์แสดงอาการว่าไม่ได้ถือสาที่น้องสาวผมเหมือนจะละลาบละล้วงมากเกินไป ส่วนแม่น้องสาวตัวดีก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ผมที่ส่งสายตาดุๆ ให้ไป
“พี่ก็ยังชอบผู้หญิงปกตินะ แต่เคยรู้สึกดีๆให้ผู้ชายคนนึงอยู่เหมือนกัน”ไอ้แชมป์พูดพร้อมกับชายตามองมาที่ผม เอาแล้วไงแม่น้องสาวของผมยิ่งคิดว่าเราเป็นอะไรกันอยู่แล้วด้วย
“แต่ก็เคยรู้สึกกับเค้าแค่คนเดียวนะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกดีๆกับเพื่อนคนนึงก็ได้ เพราะพี่ก็ยังสนใจเพศตรงข้ามอยู่ แบบนี้เฟิร์นว่าพี่เป็นเกย์ไหม”ไอ้แชมป์ทำเป็นพูดทีเล่นทีจริง แบบไม่ได้ถือสาหาความกับแม่น้องสาวผม ซึ่งแม่ตัวดีก็ทำเป็นตั้งอกตั้งใจฟังเหลือเกิน นี่กะจะเก็บข้อมูลไปทำวิจัยเลยรึไงกัน
“แล้วพี่แชมป์มีแฟนรึยัง”น่านๆน้องผมได้คืบจะเอาศอก เห็นเค้าไม่ถือสาหน่อยเอาใหญ่เลย ผมกำลังจะอ้าปากดุแล้วเชียวแต่ไอ้แชมป์ชิงตอบก่อนอย่างไม่ถือสา แต่ยังไงผมคงต้องสอนมารยาทให้คุณน้องสาวหน่อยเสียแล้ว
“พี่ยังไม่มีแฟนครับ ถามอะไรอีกไหม”ไอ้แชมป์ยิ้มให้แถมตอบเหมือนพูดับเด็กๆ อีกต่างหาก
“อีกคำถามนึงนะสุดท้ายละ”น้องผมศอกนึงไม่พอต้องต่อเป็นวา
“เฟิร์นจีบพี่แชมป์ได้ป่ะ”คำถามของเฟิร์นทำเอาช้อนผมร่วงจากมือ ส่วนไอ้แชมป์นะเหรอถึงกับสำลักกันเลยทีเดียว เราสองคนอึ้งกิมกี่กับคำถามนั้นของเฟิร์น แต่แม่ตัวดียังคงยิ้มแป้นแล้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ล้อเล่นหรอกน่า ไม่ขำกันเหรอ”แล้วเฟิร์นก็หัวเราะชอบใจที่ได้เห็นอาการเหวอรับประทานของพวกผมสองคน ตกลงโดนน้องอำเล่นจริงๆ หรือมันยังไงกันแน่
“คราวหลังไม่เล่นแบบนี้นะครับน้องเฟิร์น เฟิร์นไม่คิดแต่พี่คิดนะ เกิดเอาจริงขึ้นมาจะว่าไง”ไอ้แชมป์เล่นมุกกลับแบบขำๆ แต่คราวนี้เหมือนเฟิร์นเองที่ดูจะขำแบบฝืนๆ
วันนี้ร้านผมดูจะคึกคักพอสมควร เพื่อนๆของเฟิร์นมากันหลายคน แล้วก็แขกอื่นๆอีก ทำให้วันนี้วุ่นวายพอดู ดีที่ได้ไอ้แชมป์มาช่วยอีกแรง กว่าจะปิดร้านเก็บของเสร็จก็เล่นเหนื่อยเอาการเหมือนกันนะเนี่ย พออาบน้ำอาบท่าเสร็จจะนอนแม่น้องสาวตัวดีก็มาลากให้ผมไปนอนเป็นเพื่อน ปล่อยให้ไอ้แชมป์อยู่เพียงลำพัง
“พี่แฟ้ม...สรุปว่าพี่แชมป์เค้าชอบพี่ใช่ป่ะ”ทั้งที่ผมสลึมสลือจะหลับอยู่แล้วแต่คุณน้องของผมก็ยังจะชวนคุย วันนี้เป็นอะไรนักหนาสนใจเรื่องผมกับไอ้แชมป์เหลือเกิน หรือว่าอย่าบอกนะว่านี่น้องผมเกิดสนใจไอ้แชมป์ขึ้นมาจริงๆ
“นี่ตกลงสนใจอะไรในตัวไอ้แชมป์นักหนาหือ”เมื่อคิดได้ว่าคงไม่ได้นอนแน่ๆ ก็เลยหันมาตั้งใจคุยกับคุณน้องสาวให้รู้เรื่องรู้ราว
“ไม่ได้ชอบพี่เค้าแล้วกันน่า”แนะมีร้อนตัวด้วยครับ นี่ถ้าน้องผมชอบไอ้แชมป์จริงๆ ผมนี่แหละจะสนับสนุนเต็มที่ ได้เพื่อนรักมาเป็นน้องเขยก็น่าจะดีเหมือนกันนะ อีกอย่างถ้าไอ้แชมป์มีใครเข้ามาบ้าง มันก็จะตัดใจจากผมได้เร็วยิ่งขึ้น
“ชอบก็ได้นะเดี๋ยวพี่ช่วยเชียร์ เอาไหมเพื่อนพี่คนนี้ดีที่สุดแล้ว เอาเปล่า”ผมแกล้งพูดล้อๆ น้องสาวและก็ได้ผลครับเหมือนเฟิร์นจะเกิดอาการเขินจนถามต่อไม่ได้
“ไม่ถามแล้วก็ได้ ถามดีๆทำไมต้องมาแกล้งกันด้วย”น้ำเสียงงอนๆทำให้ผมเริ่มมั่นใจว่าเฟิร์นคงอาจจะเริ่มสนใจในตัวเพื่อนของผมเข้าให้แล้ว
“มีพิรุธนะเนี่ย”ผมยังคงแกล้งแซวต่อไปเพื่อดูปฏิกิริยา
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วพี่แฟ้ม...เออว่าแต่แล้วพี่แฟ้มเคยมีแฟนป่ะ บอกมาซะดีๆ ว่าพี่เขยของเฟิร์นเป็นใคร แต่เฟิร์นก็ไม่เคยเห็นพี่แฟ้มคบใครนี่นา ที่เห็นเข้าเค้าหน่อยก็มีแค่พี่แชมป์ แต่พี่แฟ้มก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับเค้า แล้วตัวจริงของพี่แฟ้มนี่ใครอ่ะ”ตัวจริงงั้นเหรอ ตอนนี้มันไม่มีแล้วละ
“นอนเถอะ”ผมบอกออกไปเสียงเรียบแต่มันคงเรีบเกินไปจนเฟิร์นจับความผิดปกติได้
“เฟิร์นขอโทษที่ละลาบละล้วงมากไป”คุณน้องผมคงคิดว่าผมโกรธเธอเสียแล้วมั้ง
“ไม่มีอะไรหรอก นอนเถอะดึกแล้ว”ผมปิดเปลือกตาลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อนึกถึงใครบางคน
---------------------------------------------------------
แวะมาต่อคร๊าบบบบ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเช่นเคยนะคร๊าบบบบ
ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อก็ต้องคอยลุ้นกันแหละเนอะ