[จบแล้ว] ระหว่างเราคือ...??? บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ [24-10-2017]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] ระหว่างเราคือ...??? บทพิเศษ เรื่องของเด็กๆ [24-10-2017]  (อ่าน 36959 ครั้ง)

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
จบแล้วนะครับ

และคงไม่มีตอนพิเศษอะไรเพิ่มเติม เพราะคนแต่งขี้เกียจ 555

ก็ขอบใจทุกๆ คนที่ติดตามกันมาตลอด ชอบไม่ชอบยังไงก็ บอกได้เลยนะคร๊าบบ

แล้วเดี๋ยวจะลงเรื่องใหม่ต่อ ก็ฝากแวะช่วยให้กำลังใจด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อ้างถึง
“ถึงรึยังไอ้ตี๊ฟ”
หมายถึงแฟ้มหรือเปล่าคะ?

อึอม์   เป็นการจบแบบที่ไม่ได้กะไว้  แต่เปิดให้คนอ่านมโนเอาเองได้ (ไปโน่นเลย)

คิดมาตลอดว่าแฟ้มจะเลึอกทางใดทางหนึ่ง แต่ก็โอเคที่แฟ้มเลึอกเส้นทางที่สาม ตราบใดที่แฟ้มมีความสุขนะลูก

ขาดไม่ได้คือโอเล่ เมนท์ถึงมันมาตลอด ก็ลงตัวไปสักทีนะเอ็ง  ไม่แน่ว่าถ้าวันไหนสะดุ้งตึ่นจากฝันแล้วอาจจะหันมาตามแฟ้มอีกรอบก็ได้  คุณแม่คนอ่านมโนได้ตลอดค่ะ

ขอบคุณมากสำหรับงานเขียนนะคะ สำหรับเราคนเขียนเก่งจนทำเอาเราอินกับเนึ้อเรึ่อง สร้างตัวละครที่ทำเอาเราทั้งรักทั้งชัง

เอาใจช่วยและขอให้สนุกกับการเขียนเรึ่องต่อไป เราจะรอติดตามค่ะ  :กอด1:

ป.ล  ถ้าขอปัจฉิมสรุปให้อิเล่จะโดนกระทึบไหมเนี่ย?  :hao4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2014 23:07:43 โดย Kano Jou »

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอบคุณนะครับ อ่านไปด่าไป หงุดหงิดไป แต่ก็อ่านจนจบ 555 :laugh: :laugh:
จะคอยติดตามผลงานนะครับ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
เวลา..จะช่วยให้เราตัดสินใจได้เอง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ้างถึง
“เพราะการจะอยู่ด้วยกันมันช่างยากเหลือเกิน”
ไม่ใช่แค่ยาก แต่ไม่มีเลยต่างหาก

ชอบนะที่แฟ้มตัดสินใจอย่างนี้
พยายามตัดใจจากโอเล่
ให้โอกาสน้องอ้วนกับตัวเอง
แต่ในเมื่อใจทำไม่ได้สักอย่าง
ก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า
ถือว่าโชคชะตายังใจดีกับโอเล่อยู่บ้าง
ที่ไม่ต้องมองคนที่ตัวเองรัก ไปรักคนอื่น
แบบนี้อาจทำให้ทั้งคู่ไม่สุข แต่ก็ไม่ทุกข์มาก

สุดท้าย ระหว่างเราคือ...ความทรงจำซินะ

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
อ่านรวดเดียวจบเลย บอกได้เลยว่าคนเขียนเก่งมาก ทำให้ให้ผมอินสุดๆไปกับเรื่องนี้ จบบแบบนี้ก็ดีแล้ว

ชีวิตต้องดำเนินต่อไป

จะติดตามผลงานเรื่องต่อไปครับ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ยังคงดำเนินชีวิตด้วยตัวคนเดียวต่อไป

สู้ๆๆๆครับ แฟ้ม,,,,

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สงสารน้องอ้วนน่ะ .... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ที่เขียนสะท้อนให้เห็นแง่มุมความเห็นแก่ตัวของแต่ละคน ที่เอาตัวรอดในเรื่องของความรัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ domeloly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-4
นั่งอ่านตั้งนาน   จบแล้วววววววววว

เพื่อ..............

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เรื่องเศร้าจัง แต่ก็สนุกมากเลยค่ะ  :mew6:  :pig4:

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
แวะมาฝาก เรื่องใหม่คร๊าบบบ

ผิดที่ใคร [Right or Wrong]

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54094.0

ยังไงลองไปติ ชม ได้นะครับ

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อ่านจบแล้วรู้สึกว่าแฟ้มยึดติดกับอดีตมาก จนไม่สามารถเปิดใจให้น้องอ้วนได้ เสียดายจุง นี่ถ้าไม่มีแชมป์คอยรับฟัง ไม่รู้จะเป็นยังไง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทพิเศษ
Ole's Part




“กู๊ด ไนท์ แดดดี๊”สองแสบของผมทำท่าจูบก่อนจะหันหลังเดินตามกันไป ตอนนี้ทั้งคู่ย้ายตามอ้อนไปอยู่ต่างประเทศได้กว่าครึ่งปีแล้ว แรกๆ ก็งอแงน่าดูตามประสาเด็กแหละครับ แต่พอมีเพื่อนและเริ่มเรียนรู้ภาษา สื่อสารได้มากขึ้นก็แสบซนกันได้เหมือนเดิม แม้ผมจะคิดถึงตัวแสบทั้งคู่ของผม แต่การที่เค้าได้ไปอยู่ที่นั่นมันก็ดีกับทั้งคู่มากกว่า อีกอย่างอ้อนเองก็ไม่ได้คิดจะมีลูกกับสามีใหม่ และสามีของอ้อนก็เข้าใจ ผมเลยหายห่วงไปได้ในเรื่องที่สามีใหม่จะไม่ชอบ ลูกๆ ของผม ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เด็กๆ ก็ดูมีความสุขดี ส่วนผมก็ Skype คุยกับสองแสบนี่ทุกวันก็พอได้หายคิดถึงไปได้บ้าง

“เหงาไหมเนี่ย”คำถามที่อ้อนถามผมตั้งแต่อาทิตย์แรกที่สองแสบจากผมไป จนนี่ครึ่งปีเข้าไปแล้ว ก็ยังถามผมอยู่ ผมไม่ได้ตอบ เพียงแต่ยิ้มเหมือนอย่างเคย ตอนนี้ระหว่างผมกับอ้อนเราก็ยังมีความหวังดีให้แก่กัน แม้ชีวิตคู่เราจะล้มเหลวแต่เราก็ยังต้องทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกเหมือนเดิม เราต่างปล่อยอดีตที่ไม่ดีไว้เบื้องหลัง ทิ้งความรู้สึกบาดหมางไป เหลือไว้ซึ่งความเป็นเพื่อน แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ผมก็รู้แหละครับว่าอ้อนต้องใช้ความพยายามขนาดไหน ผมทั้งนับถือและรู้สึกผิดกับเธอที่ต้องมาเจอคนเห็นแก่ตัวแบบผม ถ้าจากนี้ไปผมจะไม่มีใครมันก็คงสาสมแล้ว

“จะโสดไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย”นี่ก็เป็นอีกคำถามที่อ้อนมักจะถามผม ทั้งๆ ที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าผมจะตอบยังไง ผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนนะครับว่าชีวิตผมต้องกลายมาเป็นแบบนี้ ผมยังรักเค้าอยู่ และผมก็มั่นใจว่าเค้ายังรักผมอยู่ แต่เพราะผลของการกระทำของเราทั้งคู่ หรือจะเรียกว่าต้นเหตุจากผมเองก็คงไม่ผิด ทำให้แม้เราจะยังรักกันแต่มันกลับยากเหลือเกินที่จะได้อยู่ด้วยกัน

ในตอนที่ยังไม่สายก็เป็นผมที่ไม่ยอมรับตัวเอง ไม่เปิดเผยการอยู่กับเค้าในแบบคนรัก แต่มาวันนี้ที่ผมพร้อมกลับเป็นเค้าที่ทำไม่ได้กับการที่จะมาอยู่เคียงข้างผม

“แฟ้มนี่ก็ใจแข็งเนอะ ขนาดอ้อนช่วยพูดแล้ว ทั้งนั่งยันนอนยันว่าอ้อนโอเคแล้ว อยากให้แฟ้มมีความสุข ไม่ต้องยึดติดกับคำพูดเก่าของอ้อน”อ้อนพูดถึงอีกคนกับสิ่งที่อ้อนเคยพูดกับเค้า ว่าเคยขอร้องไม่ให้เค้ากลับมาคบกับผม แม้อ้อนจะอย่าขาดจากผมแล้วก็ตาม อ้อนเลยคิดว่ามันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เค้าปฏิเสธผม แต่ตอนหลังอ้อนก็ได้คุยกับเค้าอีกครั้งไปแล้วว่าไม่รู้จะกีดกันเค้ากับผมไปทำไม และอ้อนเองก็ทำใจรับกับเรื่องที่ผ่านมาได้แล้ว

“เดี๋ยวเล่ไปนอนก่อนละกันเนอะ”ผมตัดบทเพราะเรื่องนี้ เราคุยกันไปตั้งกี่รอบแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากกลับไปคืนดีกับแฟ้มนะครับ แต่แฟ้มก็ใจแข็งเสียจน ผมก็ไม่รู้จะเริ่มเข้าหายังไง เพราะเจ้าตัวก็พยายามเลี่ยงผมตลอด ผมก็ได้แต่ถามข่าวคราวของเค้าจากไอ้แชมป์เพื่อนของเค้า และก็น้องสาวของเค้า น้องเฟิร์น ซึ่งทั้งสองก็พยายามช่วยผมอยู่เหมือนกันแหละครับ

“มึงแน่ใจนะว่าถ้ากูช่วยแล้ว มึงจะไม่ทำให้แฟ้มมันเสียใจอีก”ผมนึกย้อนไปถึงวันที่บังเอิญเจอกับไอ้แชมป์แล้วก็น้องเฟิร์น แชมป์เป็นคนเอ่ยปากว่ามีเรื่องจะคุยกับผม ซึ่งสิ่งที่เค้ายกมาคุยกับผม เป็นเรื่องที่ผมคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพราะทั้งแชมป์และน้องเฟิร์นบอกว่าจะหาทางช่วยผมให้คืนดีกับแฟ้ม

ทั้งที่แต่ก่อนผมก็พอรู้นะครับว่าแชมป์มันก็ไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่ แต่ก็สมควรที่มันจะไม่ชอบผมแหละครับ ผมเล่นไม่ชัดเจนกับเพื่อนรักเค้าขนาดนั้น แถมยังทำให้เพื่อนเค้าเสียใจมาตั้งกี่ครั้ง แต่มันก็แค่อดีต อดีตที่เราคงไม่มีใครกลับไปแก้ไขได้ ส่วนต่อจากนี้เราอาจจะสร้างเรื่องราวบทใหม่ขึ้นมา

“ขอแค่แฟ้มให้โอกาสกับกูอีกสักครั้ง กูสัญญาว่าจะไม่ทำให้เค้าต้องเสียใจอีก”ตัวผมเองนั้นอยากกลับไปดูแลเค้าตั้งนานแล้วแหละครับ เพราะทั้งผมและแฟ้มต่างก็ยังรักกันอยู่ ผมมั่นใจว่าเป็นแบบนั้น เพียงแต่แฟ้มเองยังรู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทั้งคู่ได้เคยทำในอดีต

“เฟิร์นเอาใจช่วยนะคะพี่เล่”หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ไอ้แชมป์บอกพร้อมกับยิ้มให้ผม นี่มันอาจจะเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วก็ได้ที่ผมกับเค้า จะได้กลับมาใช้เวลาร่วมกัน

“แต่ถ้ามึงทำให้เพื่อนกูเจ็บอีก รู้ใช่ไหมว่าชะตากรรมมึงจะเป็นยังไง”ไอ้แชมป์ทำเสียงเข้ม พร้อมมองผมด้วยสายตาจริงจัง เพื่อขอคำตอบที่จริงจังหนักแน่นจากผม ผมรับปากทั้งคู่เป็นอย่างดีเพราะต่อให้ไอ้แชมป์ไม่ขู่ผมแบบนี้ ผมก็ไม่มีทางทำให้แฟ้มเสียใจอีกเด็ดขาด จริงๆ ผมก็กำลังพยายามเข้าหาแฟ้มอยู่เหมือนกันนะครับ แต่อาจจะยังพยายามไม่มากพอมันเลยยังไม่สำเร็จ และอาจจะไม่ทันใจ คุณเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งน้องเขยของแฟ้มอย่างไอ้แชมป์ เลยต้องมาอาสาเป็นตัวช่วยให้ผมแบบนี้

“ขอบใจมากนะแชมป์”ผมบอกออกมาจากใจจริง

“ไม่ต้องขอบใจ เพราะที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อไอ้แฟ้มมัน กูแค่อยากเห็นมันมีความสุข และแม้กูจะมองว่ามึงคือทางเลือกที่แย่ที่สุดสำหรับมัน แต่ก็คงเป็นตัวเลือกเดียวที่จะช่วยมันได้”ผมรู้ครับ ว่าเหตุผลที่มันคิดจะช่วยผมครั้งนี้คืออะไร แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผมที่จะขอบคุณ ไม่ว่าจะด้วยอะไรหรือใครก็ตามที่จะช่วยให้ผมได้อยู่กับแฟ้มอีกครั้ง แค่นั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของผมแล้ว

แล้วก็ถึงวันที่ผมจะเริ่มแผนการง้อแฟ้มโดยที่มีไอ้แชมป์กับน้องเฟิร์นเป็นผู้ช่วย จริงๆ ก็รู้มาสักพักแล้วแหละครับว่าแฟ้มจะเปิดร้านเล็กๆ ที่ตลาดนัดจตุจักร เป็นร้านกาแฟ ที่มีอาหารด้วย เห็นว่าจะเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ แฟ้มเองลงทุนเรียนทำอาหารอิตาเลียน เรียนชงกาแฟ อีกด้วย และวันนี้คือวันแรกที่เค้าจะเปิดร้าน

“อยู่ไหนแล้วเนี่ย”ผมกดรับโทรศัพท์จากไอ้แชมป์ที่โทรมากำชับผม แผนของวันนี้คือผมต้องบังเอิญมาเจอเค้าที่ร้าน และเนียนเป็นลูกค้า เพื่อจะได้เริ่มแผนต่อๆ ไป แต่ผมว่าคนอย่างแฟ้มคงไม่เชื่อหรอกครับว่านี่คือเรื่องบังเอิญ ซึ่งผมก็ไม่สนแล้ว ตอนนี้ขอแค่ให้ผมได้เจอเค้าบ้าง มันก็โอเคแล้วสำหรับผม

“เพิ่งจอดรถเนี่ย เดี๋ยวเข้าไปเลย โครงการ 3 ซอย 45 ใช่ไหม”ผมถามย้ำถึงสถานที่ที่จะต้องไป เพื่อกันพลาด ไอ้แชมป์บอกรายละเอียดผมเพิ่มอีกนิดหน่อยก่อนจะวางสายไป ผมรีบลงจากรถมุ่งตรงไปยังจุดหมายทันที ไม่นานนักผมก็มองเห็นร้านที่เป็นจุดหมายของผม ในทีแรกผมยังมองไม่เห็นเค้า จนเมื่อมีลูกค้าต่างชาติกลุ่มนึงหยุดดูหน้าร้าน และเค้าเป็นคนออกมาต้อนรับ ผมหยุดเดิน มองเค้าที่อธิบายบางอย่างกับลูกค้า

ผมอดที่จะยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้ เค้าดูยิ้มแย้มและมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ แต่ผมว่าเค้าซูบไปเล็กน้อยคงเพราะยุ่งกับการเตรียมทำร้านนี้จนไม่มีเวลาพักผ่อน ผมก้าวเดินอีกครั้งทำเป็นมองดูของอย่างไม่จงใจเกินไปว่าจะไปร้านเค้า ไอ้แชมป์กับน้องเฟิร์นบอกจะแวปจากร้านแปปนึง เพื่อให้แฟ้มได้เป็นคนต้อนรับผม

เค้ายังไม่เห็นผมเพราะกำลังวุ่นอยู่กับการรับลูกค้ารายอื่น เสียงทักทายและเรียกลูกค้าให้แวะนั่งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษดังสลับกันไปมา ผมหยุดเดินและเลือกที่จะนั่งลงฝั่งด้านนอก เนื่องจากที่นี่ลักษณะเป็นซอย และพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แล้วยิ่งช่วงเวลานี้คนค่อนข้างจะพลุกพล่านเป็นพิเศษ จนผมเริ่มคิดว่าหรือการที่ผมมานั่งเนี่ยจะเป็นการทำให้เค้าเสียโอกาสในการได้ลูกค้าคนอื่นรึเปล่า

“ดูเมนูก่อนนะครับ เดี๋ยวมารับออเดอร์”เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นด้านหลังของผม ก่อนเมนูแผ่นใหญ่จะถูกยื่นเข้ามาตรงหน้า ผมค่อยๆ หันหน้าไปรับเมนูจากเค้า

“หวัดดี”ผมทักทายพร้อมยิ้มให้เค้า แต่เค้าดูตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก คงจะตั้งตัวไม่ทันและไม่คิดว่าผมจะโผล่มา แถมเป็นวันเปิดร้านวันแรกแบบนี้ จะไล่ผมก็คงดูไม่เหมาะ งานนี้คงต้องเลยตามเลยจากการทักทายของผม เค้าคงพอจะเดาได้แล้วว่าการที่ผมมาที่นี่มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“แล้วนี่...”เค้าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดไว้แค่นั้น ก่อนจะหันไปรับลูกค้าที่มาใหม่ ตอนนี้เหมือนปริมาณลูกค้าจะมากเกินที่นั่งเสียแล้ว

“นั่งนี่ก็ได้ครับ”ผมลุกขึ้นพร้อมบอกหญิงสาวสองคนที่กำลังมองหาที่นั่ง ผมถือวิสาสะยื่นเมนูที่มีให้กับทั้งสองคน แม้แฟ้มจะมีผู้ช่วยที่จ้างมา แต่ช่วงเวลาที่ลูกค้าแน่นขนาดนี้ก็ดูแลเกือบไม่ทั่วถึงเหมือนกัน ผมเลยใช้จังหวะนี้เนียนเป็นลูกมือในร้านอย่างที่วางแผนกันเอาไว้แต่แรก และการที่ไอ้แชมป์กับเฟิร์นออกจากร้านไปแบบนี้ คนจะช่วยเค้าเลยยิ่งน้อยลงไปอีก ทีแรกเค้าเองก็พยายามจะห้ามผมอยู่เหมือนกันแต่ด้วยสถานการณ์มันพาไป ทำให้เค้าอยู่ในภาวะจำยอม

ทั้งรับออเดอร์ เก็บโต๊ะ เสิร์ฟ แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขนะครับ สุขที่ได้มาช่วยเค้า อีกอย่างคือได้มาเจอเค้านี่แหละครับ เวลาล่วงเลยมาจนลูกค้าเริ่มซา ตลาดเริ่มวายแล้ว

“ไอ้แชมป์มานี่เลย”ทันทีที่ไอ้แชมป์กับเฟิร์นโผล่หน้ามาเค้าก็เรียกไอ้แชมป์แยกออกไปคุยทันที จากน้ำเสียงที่เรียบๆ นั่น คาดว่าไอ้แชมป์คงโดนคาดโทษเป็นแน่แท้ ในฐานะผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งว่าเป็นคนบอกผมให้ทราบเรื่องที่เค้าเปิดร้านนี้

“เป็นไงบ้างพี่เล่ ราบรื่นดีไหม”น้องเฟิร์นที่มานั่งลงตรงหน้าผมกระซิบถาม

“อย่างน้อยไม่โดนไล่ก็น่าจะเป็นลางดีนะว่าไหม”ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันมากแฟ้มก็เดินกลับเข้ามาพร้อมไอ้แชมป์

“ไหนบอกจะมาช่วยพี่ดูบัญชีไงเฟิร์น”เฟิร์นหันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับพี่ชายตัวเองก่อนจะชิ่งไปอยู่ที่เค้าเตอร์แคชเชียร์ แฟ้มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม โดยมีไอ้แชมป์เดินตามหลังมา แถมทำท่านิ้วปาดคอใส่ผมอีก ดูให้กำลังใจกันเหลือเกิน

“ขอบคุณนะที่ช่วย แต่ว่าเล่อย่ามาที่นี่อีกเลยนะ”ไอ้แชมป์พยักหน้าให้ผมทำตามที่แฟ้มบอก จริงๆก่อนจะมาก็คิดไว้อยู่แล้วละครับว่าเค้าต้องห้ามผมมาที่นี่อีก จริงๆ คิดไว้ถึงขั้นเค้าอาจจะไล่ผมตั้งแต่แรกเห็นด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าคำห้ามปรามของเค้าใช้ไม่ได้ผลเพราะทุกวันเสาร์และอาทิตย์ผมก็ยังมาที่ร้านเค้าเช่นเดิม แม้จะมีคำผลักไส หรือสั่งไม่ให้ผมมาต่างๆ นานา แต่ผมก็ตีมึน จนในที่สุดเค้าก็เลิกห้ามผมแต่เค้าเมินผม ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนไปเสียอย่างงั้น แต่มาถึงขั้นนี้แล้วผมคงไม่ถอยแล้ว จากที่มาช่วยรับลูกค้า ช่วยเสิร์ฟ ช่วยเก็บโต๊ะ เดี๋ยวนี้ผมพัฒนาเป็นผู้ช่วยพ่อครัวแม่ครัวไปด้วยครับ เรียกว่าทำทุกอย่าง มาช่วยตั้งแต่เปิดร้าน ยันเก็บร้าน นี่ถ้าไม่ติดทำงานประจำ วันซื้อของผมอาจจะไปกับเค้าด้วยนะเนี่ย

“ไหวหรือเปล่าแฟ้ม พักก่อนไหม”วันนี้ผมก็มาช่วยที่ร้านเค้าเหมือนเดิม แต่เจ้าของร้านที่ไม่สบายก็ยังฝืนมาเฝ้าร้าน ทั้งที่ไอ้แชมป์กับเฟิร์นก็บอกแล้วว่า วันนี้จะมาดูแลให้ เจ้าตัวก็ยังไม่ยอม

“กูว่ามึงกลับก่อนไหม นี่ก็ตลาดเริ่มวายแล้ว เดี๋ยวกูกับเฟิร์นเก็บร้านให้”ไอ้แชมป์เข้ามาบอกกับเค้าอีกครั้ง

“มารถคันเดียวกัน รอกลับพร้อมกันแหละ”เค้ายังคงดื้อทั้งที่สภาพแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว ผมอาสาจะไปส่งเค้าซึ่งทั้งไอ้แชมป์และเฟิร์นก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่คนดื้อก็ยังคงดื้อต่อ จนผมต้องใช้ไม้ตาย

“ถ้าแฟ้มไม่ยอมกลับดีๆ เล่จะอุ้มแฟ้มไปเอง เอาไหม”เหมือนคำขู่ของผมจะได้ผล เพราะคนดื้อยอมตกลงอย่างเสียไม่ได้ จริงๆ ผมว่าแม้เค้าจะทำเป็นไล่ผม ทำเป็นเมินผม แต่ในใจเค้าคงเริ่มยอมรับผมมากขึ้นแล้วแหละครับ ไม่งั้นคงไม่ยอมให้ผมมาวอแวที่ร้านได้ขนาดนี้

คงเพราะพิษไข้ทำให้เค้าหลับตลอดทางตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงบ้าน จากที่ตอนแรกกะว่ามาส่งเค้าแล้วก็จะกลับแต่พอมาถึงบ้านเค้าไม่มีใครอยู่เลย คุณพ่อคุณแม่เค้าไปทำบุญที่ต่างจังหวัด แม้เค้าจะบอกให้ผมกลับเลยแต่ผมคงปล่อยเค้าไว้คนเดียวไม่ได้

“เล่กลับไปเถอะ เราไม่ได้เป็นไรมาก กินยานอนพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น แค่มาช่วยที่ร้าน เราก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”ผมยิ้มให้เค้า ยิ้มอย่างจริงใจ เพราะทุกอย่างที่ผมทำไปมันไม่ใช่แค่อยากให้เค้ากลับมาคบกับผม แต่ผมเต็มใจช่วยเค้า อยากจะดูแลเค้า อยากทำดีกับเค้า เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา จนผ่านเรื่องราวมากมายมาด้วยกันผมแทบไม่เคยทำอะไรเพื่อเค้าเลย เรียกว่ามีแต่ทำร้ายให้เค้าเจ็บปวดเสียมากกว่า

“ขอโทษนะ”เค้ามีสีหน้าไม่เข้าใจในคำพูดของผม ว่าผมขอโทษเค้าทำไม ผมค่อยๆ ขยับเข้าไปหาเค้าใกล้ๆ ก่อนที่เค้าจะทันได้ระวังตัว ผมฉวยโอกาสประกบริมฝีปากไปที่ริมฝีปากของเค้า แม้เค้าจะพยายามผลักผมออกแต่แรงคนป่วยมีหรือจะสู้แรงผมได้ ผมดันลิ้นให้เค้าเปิดปากเพื่อลิ้มรสที่ผมไม่ได้สัมผัสมานาน เค้าค่อยๆ ผ่อนคลายและตอบรับสัมผัสของผม เราทั้งคู่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ภาพต่างๆ ในอดีตเหมือนผุดขึ้นมาอีกครั้ง

“เค้าว่ากันว่าถ้ามีอีกคนติดหวัดจากเรา เราก็จะหายหวัด งั้นเล่ขอติดหวัดจากแฟ้มแล้วกันนะ”เค้าหลบตาโดยไม่ได้หันมามองผม แต่แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว ผมว่านี่เป็นสัญญานที่บอกได้แล้วว่าอีกไม่นานผมกับเค้าอาจจะได้เริ่มต้นกันอีกครั้งแน่นอน

“มันจะดีจริงๆ เหรอเล่ ที่เราสองคนกลับมาเจอกันแบบนี้”ผมเอื้อมมือไปลูบเบาๆ ที่ศีรษะของเค้า ผมเคยทำผิดพลาดมาแล้ว แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมพลาดอีก

“อย่าเพิ่งไปคิดเลยว่ามันดีหรือไม่ดี ไม่ต้องคิดว่าเราสองคนจะอยู่ในฐานะอะไร แค่ให้เล่ได้ดูแลแฟ้มไปแบบนี้ ก็พอแล้ว”แค่ขอให้ผมได้มีโอกาสเริ่มต้นอีกครั้ง แม้จะต้องใช้เวลาอีกนานที่จะทำให้เค้าใจอ่อนหรือยอมรับ แต่ผมก็พร้อมจะรอ เค้าหลับตาลงเพียงไม่นานก็หลับไป

ระยะห่างระหว่างเรามันคงสิ้นสุดลงแล้ว จากวันนี้ผมจะไม่ปล่อยให้เค้าต้องทนทุกข์ใจอีกต่อไป แม้มันอาจจะยังไม่ดีพอ แต่ผมก็จะพยายามทำเพื่อเค้า ก็ได้แต่รอว่าสักวันเราจะได้มีความสุขด้วยกันอีกครั้ง



หลายเดือนต่อมา

“หมั่นไส้โว้ย”เสียงไอ้แชมป์พูดกระทบผม ตอนนี้แฟ้มยอมรับผมมากขึ้น แถมยังยอมให้ผมลงทุนเป็นหุ้นส่วนร่วมกับเค้า เพราะเกรงใจที่ผมมาช่วยที่ร้านตลอด ผมเลยเสนอว่าให้ผมลงทุนด้วย แต่ก็ยังให้เค้าเป็นหุ้นส่วนใหญ่นะครับ ไม่อยากให้มองว่ามาแย่งธุรกิจเค้า

“หุ้นส่วนร้านก็ได้เป็นแล้ว เป้าหมายต่อไปนี้หุ้นส่วนชีวิตเลยไหมพี่เล่”หลังคำพูดของน้องเฟิร์นเราทั้งสามก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่ก็ต้องรีบสงบเสงี่ยมเมื่ออีกคนเดินเข้ามาสมทบ

“คุยไรกัน ท่าทางสนุกเชียว”แฟ้มถามก่อนจะมองหน้าพวกผมสลับกันไปมาซึ่งเราทั้งสามก็ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างพร้อมเพรียง และด้วยความรู้งานทั้งแชมป์และเฟิร์นรีบปลีกตัวขอกลับก่อน เพราะตอนนี้ก็เก็บร้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนผมรับหน้าที่เป็นคนไปส่งแฟ้มอีกเช่นเคย

“แวะหาอะไรดื่มกันไหม”นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเป็นคนเอ่ยปากชวนผม ซึ่งผมตอบตกลงแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด เราเลือกร้านนั่งชิลๆ สั่งเครื่องดื่มและอาหารอีกนิดหน่อย

“เรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่ไหม”แม้รู้ว่ามันอาจจะยังเร็วไป แต่ผมก็อยากลองถามเค้าดู เผื่อว่าโอกาสของผมจะได้รับความเห็นใจเร็วขึ้น เค้าเงยหน้ามองผมพร้อมกับอาการที่แสดงว่ากำลังครุ่นคิด เค้าไม่ได้ตอบคำถามแต่ยกแก้วขึ้นดื่มโดยไม่ได้พูดอะไร มันคงยังเร็วเกินไปจริงๆ ที่ผมจะไปเร่งรัดเค้า

“ที่เป็นอยู่ตอนนี้ยังไม่เรียกว่าเริ่มต้นเหรอ”หลังจากต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่เค้าก็พูดขึ้น

“แฟ้มเข้าใจคำว่าเริ่มต้นของเล่ใช่ไหม ว่าหมายความว่ายังไง”ผมถามย้ำอีกครั้ง เพราะคำว่าเริ่มต้นของผม มันคือการกลับมาคบกันในฐานะคนรัก

“อือ”

“อือ อะไรเล่า พูดให้มันชัดๆ หน่อยสิ”แม้จะเริ่มเข้าใจแล้วว่าตอนนี้กำแพงที่เค้าเคยสร้างไว้มันคงพังลงแล้ว แต่ก็ยังอยากให้เค้าช่วยยืนยันอีกที แต่สีหน้าผมมันคงระรื่นเกินไป เพราะกำลังดีใจที่เค้ายอมเปิดใจให้ผมอีกครั้ง

“จะให้พูดอะไรอีก ขนาดยอมให้มาเป็นหุ้นส่วนที่ร้าน ยอมให้มาส่งแบบนี้ ถ้ายังไม่เข้าใจอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”ผมว่าผมคงยิ้มจนแก้มแทบปริแล้วครับตอนนี้ ผมเอื้อมมือไปกุมมือของเค้าไว้ ไม่มีคำพูดใดๆ ระหว่างเราสองคนอีก มีเพียงความรู้สึกของเราที่ส่งผ่านถึงกัน เราสบตากันนิ่งก่อนจะยิ้มให้กันอีกครั้ง เหมือนฝันที่ไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้อีก

“เล่รักแฟ้มนะ”














End



จริงๆ แล้ว ตัดสินใจอยู่นานมาก

ว่าจะเอาตอนนี้มาลงไหม เพราะส่วนตัวที่เรื่องมันจบไปแบบนั้น

ก็คิดว่ามันสมบูรณ์แล้วแหละ แต่พอกลับมาอ่านอีกที เวลาผ่านไป ชีวิต

ของทั้งแฟ้มและเล่มันก็ดำเนินต่อไป แต่จะว่าข้ออ้างอยากเอามาลงต่อก็ได้ 55555

ไม่รู้จะมีใครมาอ่านหรือเปล่าเนอะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้ยยยยย ตอนแรกนึกว่าตาฝาด คือดูวันที่แล้วเทียบปฏิทินไปสามรอบถ้วน

ตอนแรกก็คิด...ว่าชีวิตแฟ้มจะอึนๆ ไปตลอดอย่างนี้จริงๆหรือ ก็แอบคิดไปหลายที ว่าถ้าเล่สำนึกผิดแล้วจริงๆ กลับตัวแล้วจริงๆ สองคนนี้น่าจะมีความสุขกันได้สักทีนะ (รวมถึงหาทางออกสวยๆสำหรับทุกคนได้ด้วยแหละนะ)

ขอบคุณคนเขียนมากๆๆ นะคะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หวังว่าคราวนี้แฟ้มจะมีความสุขของตัวเองสักทีนะ
จริงๆการกระทำที่ผ่านมาของแฟ้มแทบไม่ผิดเลย
ถ้าจะผิดบ้างมีข้อเดียวคือที่ไม่บอกอ้อน
เรื่องความสัมพันธ์แบบคลุมเคลือของเล่กับแฟ้ม
แต่ก็นะ ที่แฟ้มไม่บอกก็เพราะตัดสินใจจะถอยห่าง
แต่ก็อย่างที่รู้ความรักทำให้อะไรๆเกิดขึ้นได้เสมอ
แฟ้มก็แค่ใจอ่อนกับความรัก ไม่ได้ผิดจนมากมาย

ดีใจอยู่นะที่คนเขียนเอามาลง
ขอบอกว่าไม่อ่านตอนพิเศษนี่ก่อนนะ
แต่ไปอ่อนตั้งแต่ตอนแรกใหม่อีกรอบ
อ่านไปก็ร้องไห้ไปอีกอล้วล่ะค่ะ

ออฟไลน์ Mom2maM

  • DRaMa ADdiCTeD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-9
กลับมาอ่านรอบสองระหว่างรอตอนใหม่ Wright or Wrong
ตกใจที่เพิ่งเห็นว่ามีตอนใหม่เป็นพาร์ทอิเล่

ดีใจกับแฟ้มด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao5: อยากอ่านอีกกก

ออฟไลน์ Pawana

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โชคดีที่มาอ่านเรื่องนี้ช้ากว่านานมาก. เลยได้เก็บทุกเม็ด.    ตอนที่นำ. โอเล่. มาลงนั้นเราว่ามันทำให้สมบูรณ์ขึ้นครับ. ทำให้รู้ถึงความคิดความรู้สึกของโอเล่.    ทำให้ทุกอย่างซ้อฟขึ้น. ลดแรงกดดัน.   ขอบคุณครับ.    อยากได้เรื่องดราม่า. ที่พระเอกเห็นแก่ตัวมากๆๆๆถึงมากที่สุด.  ประมาณต่อมน้ำตาแตก.  อยากบริหารต่อมน้ำตากลัวตัน

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ตอนเจอEND นึกว่าจะจบแบบแฟ้มกับเล่ต่างโดดเดี่ยวเสียอีก! มาเปิดมาอีกหน้า โอ้ กลับมาแล้วๆ คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกกก

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
บทพิเศษ
เรื่องของเด็กๆ



ลมทะเลพัดมาเบาๆ ช่วยบรรเทาความร้อนของอากาศที่อุณหภูมิสูงจนแทบจะไปแตะ 40 องศาเซลเซียสแล้ว ภาพของเด็กน้อยวัย 7 ขวบสองพี่น้องฝาแฝดที่กำลังวิ่งไล่กันด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน เด็กชายผู้พี่กำลังวิ่งหนีด้วยความสนุกที่ได้แกล้งน้องสาวฝาแฝดของตัวเอง ส่วนแฝดผู้น้องกำลังวิ่งตามด้วยความโมโห

“ไอ้พี่อั๋นหยุดเดี๋ยวนี้นะ”เสียงเด็กหญิงที่พูดด้วยสำเนียงที่แปร่งๆ ไปนิดหน่อยเพราะการไปใช้ชีวิตในต่างแดนได้กว่า 3 ปีแล้ว เด็กหญิงหยุดวิ่งเมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองวิ่งตามผู้เป็นพี่ไม่ทันแล้ว ใบหน้าแดงก่ำที่เป็นผลพวงจากทั้งอุณหภูมิที่ร้อนระอุ บวกกับความโกรธที่พุ่งขึ้นแทบจะร้อนกว่าอากาศแล้ว เด็กหญิงหันหลังกลับเดินไปหาผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่กับชายหนุ่มอีกคน

“อาแฟ้มอั๋นแกล้งอิ๋งอีกแล้ว”ทั้งที่ในทีแรกกะว่าจะมาอ้อนพ่อตัวเอง แต่พอประเมินสถานการณ์ดูแล้ว อ้อนคนรักของพ่อจะได้ผลกว่า เธอเรียนรู้จากทุกครั้งที่ได้เจอคุณอาผู้ใจดี ผู้ที่เธอคิดว่าคงมีเหตุผลอีกหลายอย่างที่เด็กอย่างเธอไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ ของพ่อ แม่และ อาแฟ้มคนนี้ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่กีดกันอะไร เพราะทราบดีว่าพ่อกับแม่ของเธอเองก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ใครที่พ่อหรือแม่ของเธอรัก เด็กหญิงคนนี้ก็พร้อมจะรักไปด้วยเช่นกัน

“งั้นทำโทษอั๋นยังไงดีน้า ตัดโควต้าบาบีคิวเย็นนี้ดีไหม”ชายหนุ่มในวัย 30 ต้นๆ เจ้าของชื่อแฟ้มบอกพร้อมลูบหัวเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู สายตามองด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกับผู้เป็นพ่อของอิ๋งเลย แต่ผู้เป็นพ่อจะมีความหมั่นไส้ลูกสาวตัวเองอยู่หน่อยๆ

“เราไปแกล้งพี่เค้าก่อนไม่ใช่เหรอยัยตัวแสบ แฟ้มเองก็ด้วยอย่าให้ท้ายกันนักเลย เดี๋ยวก็ได้นิสัยเสียกันพอดี”โอเล่พ่อของอั๋นและอิ๋ง เอ่ยกับคนรักอย่างไม่ได้จริงจังนักเพราะรู้ดีว่าคนรักของตัวเองก็ไม่ได้จะตามใจลูกตัวเองมากนัก แต่แค่เพียงเตือนแกมหยอกไปเพียงเท่านั้น

ด้านเด็กชายแฝดผู้พี่พอวิ่งไปและรู้ว่าน้องสาวไม่ได้ตามแล้วก็เปลี่ยนเป็นเดินเล่นไปตามแนวคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง สายตาของเค้าก็มองไปเห็นภาพของเด็กผู้ชาย 2 คนที่เล่นกันอยู่ไม่ไกล หนึ่งคนหน้าตาออกไปทางตะวันตกแต่ก็ยังมีความเป็นเอเชียผสมอยู่บ้างเล็กน้อย อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าของสายตาที่กำลังมองอยู่ ส่วนเด็กน้อยอีก 1 คนอายุน่าจะประมาณสัก 3 ขวบ จากที่ดูแม้ทั้งคู่จะสนิทสนมเล่นหัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็คงไม่ใช่พี่น้องกันอย่างแน่นอน เพราะคนโตดูหน้าออกไปทางฝรั่งขนาดนั้น ส่วนคนเล็กที่น่าจะเด็กไทยนั่น ดูร่าเริงจนน่าหมั่นไส้ในความคิดของอั๋น

“พี่แอช”คนตัวเล็กร้องเรียกพี่ชายตัวโตที่หันหลังให้กับผู้มาใหม่ เพราะตอนนี้ผู้มาใหม่อย่างอั๋นได้ลงมือ ไม่สิ เรียกว่าลงเท้าน่าจะถูกกว่า อั๋นเตะปราสาททรายที่คนตัวเล็กร่วมกันก่อกับพี่แอช หรือแอชตั้นของเค้า เสียพังไม่มีชิ้นดี แถมคนที่มาพังยังทำหน้ากวนอย่างไม่รู้สึกผิดอีกด้วย

คนตัวเล็กทำท่าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นผลงานที่ตัวเองสร้างขึ้นถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา และเมื่อแอชตั้นเห็นน้องน้อยสุดที่รักเสียใจขนาดนั้นก็โมโหจนเลือดขึ้นหน้า ก้าวเข้าไปหาคนหน้ากวนที่ยังยืนเป็นท้องไม่รู้ร้อน

“ขอโทษน้องชาร์ลเดี๋ยวนี้”แอชตั้นกระชากคอเสื้ออั๋น ด้วยท่าทางเอาเรื่อง แม้จะพยายามทำเสียงเข้มแล้ว แต่ฝั่งอั๋นเองกลับยังรู้สึกขบขันในน้ำเสียง เพราะแอชตั้นเองก็เกิดและเติบโตที่ต่างประเทศ มีโอกาสมาอยู่เมืองไทยก็แค่ช่วงเวลาไม่นาน แอชตั้นยังคงจ้องมองอั๋นด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

“ทำไมต้องขอโทษ ไม่ได้ทำผิดไรเสียหน่อย”อั๋นที่ไม่ได้รู้สึกกลัวอีกฝ่าย เพราะขนาดตัวที่ไม่ได้ต่างกันมากนะ แม้น้ำเสียงที่บอกออกไปจะไม่ค่อยชัดด้วยสาเหตุเดียวกะน้องสาวฝาแฝด แต่น้ำเสียงของอั๋นก็ยังแฝงไปด้วยความกวน และท้าทาย

“พี่แอช อย่ามีเรื่องพ่อตี้บอกว่าคนต่อยตีนิสัยไม่ดี เราอย่ายุ่งกับคนเกเร”เด็กน้อยผู้หลบอยู่หลังแอชตั้นกระตุกชายเสื้อผู้เป็นพี่ ทำให้แอชตั้นคลายมือที่ดึงคอเสื้ออั๋นออกอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แอชตั้นหันไปหาเด็กชายตัวเล็ก ปัดเศษทรายที่ติดตามตัวผู้เป็นน้อง ก่อนจะจูงมือน้องชายตัวเล็กมุ่งกลับโรงแรม โดยไม่สนใจอั๋นที่ยังยืนงงๆ กับสถานการณ์

“ป๊อดนี่หว่า”อั๋นยืนกอดอก ตะโกนไล่หลังทั้งคู่ด้วยอารมณ์อยากหาเรื่อง แม้เจ้าตัวจะยังไม่เข้าใจว่าตัวเองจะทำไปทำไม แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังอยากแกล้งเจ้าตัวเล็กนั่น ยังไม่อยากให้เดินจากไปแบบนี้ ทั้งแอชตั้นและชาร์ลต่างหยุดเดินและหันกลับมามองอั๋นด้วยสายตาที่ไม่พอใจในสิ่งที่ได้ยิน

เป็นคนตัวเล็กสุดที่ดึงข้อมมือน้อยๆ ของตัวเองจากพี่แอชของเค้า ก่อนจะเดินย้อนไปหาอั๋น ทั้งอั๋นและแอชตั้นต่างมองด้วยความไม่เข้าใจว่าเจ้าตัวเล็กจะทำอะไร แล้วด้วยความที่งงๆ อยู่นั้นทำให้อั๋นไม่ทันระวังตัว

“ไอ้คนเกเร”พอเดินเข้าไปในจุดที่ใกล้พอแล้วเจ้าตัวเล็กก็ใช้มือเล็กๆ ของตัวเองกำทรายเต็มสองมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะเล็งและขว้างไปที่หน้าของอั๋น ซึ่งฝีมือของเจ้าตัวเล็กก็ดีเสียด้วย ทรายโดนหน้าอั๋นเต็มๆ เข้าทั้งปาก ทั้งจมูก ทั้งตา แถมขว้างเสร็จเจ้าตัวเล็กก็วิ่งปรู๊ดหนีไปเลย ไม่สนใจแม้แต่พี่แอชของตัวเองที่ยืนหัวเราะกับเหตุการณ์ตรงหน้า

“ไอ้เปี๊ยก ไอ้ตัวแสบ”อั๋นรีบขยี้ตาเตรียมจะวิ่งตามเจ้าตัวเล็กด้วยความโมโห

“จะไปไหน”แอชตั้นยืนขวางอีกคนไว้ไม่ให้ตามเจ้าตัวเล็กไป แม้แอชตั้นจะรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กมีส่วนผิดอยู่บ้างที่ทำแบบนี้ แต่ไอ้คนที่โดนนี่ก็เข้ามาหาเรื่องพวกเค้าก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ

“ปล่อยสิวะไอ้ฝรั่ง”อั๋นผลักคนที่ขวางไว้อย่างไม่สบอารมณ์ แต่เหมือนอีกฝ่ายก็ไม่ยอม ต่างฝ่ายต่างผลัก ขวางกันไปมา จนในที่สุดอั๋นก็เป็นฝ่ายที่หมดความอดทนก่อน ปล่อยหมัดใส่แอชตั้น จนเซถอยหลังไป ฝ่ายแอชตั้นเมื่อตั้งหลักได้ก็สวนคืน แล้วทั้งคู่ก็แลกหมัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร ซึ่งเหตุการณ์ตะลุมบอนของเด็กชายทั้งคู่นั้น ผู้เป็นพ่อของอั๋นสังเกตเห็นแล้ว รวมทั้งปาร์ตี้พ่อสุดที่รักของชาร์ล ที่ชาร์ลไปตามมาช่วยพี่แอชของเค้าด้วย

“อั๋นหยุด/แอชตั้นหยุดลูก”ผู้ใหญ่สองคนต่างวิ่งมาแยกเด็กในปกครองของตัวเองออกจากกัน สภาพของเด็กทั้งคู่ตอนนี้สะบักสะบอมไม่แพ้กันเลย ทั้งอั๋นและแอชตั้นยังคงมองหน้ากันด้วยความแค้นเคือง

“ไปทำแผลที่ลอบบี้ก่อนดีกว่านะครับ”ปาร์ตี้เป็นคนเสนอความเห็นให้แก่อีกฝ่ายเพราะจำได้ว่าคู่กรณีเป็นแขกในโรงแรมของพวกเค้า

ไม่นานทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่ลอบบี้ของโรงแรม ทั้งฝั่งของอั๋น ที่ประกอบด้วย อิ๋ง น้องสาวฝาแฝดของเค้า รวมทั้งพ่อและคนรักของพ่อ ส่วนฝั่งของแอชตั้นตอนนี้นอกจากลุงปาร์ตี้พ่อของชาร์ล เจ้าตัวเล็กชาร์ล ก็ยังมีพี่ชายฝาแฝดของชาร์ล นั่นคือปอร์โต้อีกคน ผู้ปกครองทั้ง 3 ต่างช่วยกันทำแผลให้เด็กทั้งสอง ที่ตอนนี้ถูกจับให้นั่งข้างกัน

“สมน้ำหน้า”อิ๋งทำปากพูดแบบไม่มีเสียง พร้อมเบ้ปากใส่พี่ชายฝาแฝด อั๋นเองแม้จะไม่ชอบใจแต่ก็ทำได้เพียงส่งสายตาเคืองๆ กลับไปแค่นั้น เจ้าตัวรู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองเป็นคนผิดที่เข้าไปหาเรื่องอีกฝ่ายก่อน แต่จะให้ยอมรับง่ายๆ ก็เสียฟอร์มแย่ เค้ารู้ดีว่าหลังทำแผลเสร็จ พวกผู้ใหญ่ต้องสอบสวนเค้าและไอ้ฝรั่งข้างๆ นี่แน่ๆ ว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน

“พี่ชื่อไรอ่ะ เก่งมากเลยที่สู้พี่แอชได้ นี่โต้อยากโตเร็วๆ บ้างจะได้สู้พี่แอชบ้าง ตอนนี้โต้แพ้พี่แอชตลอดเลย”เหมือนปอร์โต้จะไม่สนใจความบาดหมางระหว่างอั๋นและแอชตั้นที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะเข้าไปทักทายอีกคนที่ยังไม่ได้รู้จักอย่างชื่นผม สร้างรอยยิ้มให้บรรดาผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น

“พี่โต้มานี่”เจ้าตัวเล็กร้องเรียกพี่ชายตัวเอง แม้ทั้งคู่จะเป็นแฝดกัน แต่ก็เป็นแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบทำให้ทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยเรียกว่าต่างกันแทบทุกอย่าง ปอร์โต้ไม่ได้สนใจเสียงเรียกของน้องชาย แต่เค้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอิ๋ง เด็กหญิงรุ่นพี่อีกคน

“ทำไมเป็นเป็นผู้หญิง”คำถามของปอร์โต้ทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสามคนมองหน้ากันงงๆ ก่อนจะขำกันออกมาเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู แต่ปอร์โต้ก็แค่สงสัยว่าทุกคนเป็นผู้ชายหมด แล้วคนๆ นี้ทำไมถึงเป็นผู้หญิง ตั้งแต่เกิดมาผู้หญิงคนเดียวที่ปอร์โต้คุ้นเคยที่สุดก็คงมีแต่คุณย่าของเค้าทำให้ปอร์โต้ที่ได้เจอเด็กผู้หญิงใกล้ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกดูจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อยทีเดียว

“ก็สวยไงเลยต้องเป็นผู้หญิง มีอะไรไหมเด็กอ้วน”อิ๋งตอบอย่างมั่นอกมั่นใจก่อนจะหยิกแก้มเด็กชายรุ่นน้องอย่างเอ็นดู การกระทำของเด็กทั้งคู่ช่างน่าเอ็นดูสำหรับผู้ใหญ่ที่มองอยู่

“เอาละ ทีนี้ใครจะเป็นเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น”ปาร์ตี้เป็นคนเปิดประเด็นเสียงเรียบพร้อมมองแอชตั้น เค้ารู้ว่าแม้แอชตั้นจะดื้อไปบ้างแต่ก็มีเหตุผลพอ ที่จะไม่ไประรานใครก่อน แต่ก็ไม่ได้จะด่วนตัดสินโดยไม่ฟังความจากอีกฝั่ง แม้แอชตั้นจะไม่ใช่ลูกหลานหรือญาติแท้ๆ ของครอบครัวเค้า แต่ก็เห็นและรู้จักกับแอชตั้นมาตั้งปอร์โต้และชาร์ลยังไม่เกิดเสียด้วยซ้ำ

ความสนิทสนมของครอบครัวปาร์ตี้กับพ่อของแอชตั้นค่อนข้างจะเกือบเป็นครอบครัวเดียวกัน การเดินทางมาที่ภูเก็ตทุกๆ ปี ของพ่อที่เลี้ยงดูแอชตั้นมา ทำให้ทั้งสองครอบครัวได้ทำความรู้จักกัน จนทำให้ลูกๆ ได้เป็นเพื่อนกัน สนิทถึงขั้นพ่อของแอชตั้นอนุญาตให้ลูกชายเดินทางมาอยู่ที่ภูเก็ตกับครอบครัวนี้เพียงลำพังได้ ในช่วงซัมเมอร์แบบนี้

“ผมดึงคอเสื้อเค้าก่อนครับ”แอชตั้นบอกอย่างสำนึกผิด เพราะก่อนมานี่เค้ารับปากกับพ่อไว้แล้วว่าจะไม่ก่อเรื่องให้ลุงตี้กับลุงแว่นวุ่นวาย แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ แม้จะคิดว่าเค้าเองไม่ได้ผิดมากแต่ก็คงผิดที่ต่อยอีกคนกลับ หลังจากที่โดนต่อยก่อน

“งั้นแสดงว่าอั๋น เราเป็นคนต่อยเค้าก่อนถูกไหม”โอเล่ผู้เป็นพ่อถามอย่างรู้ทันลูกชายตัวเองที่ยังคงนั่งเงียบ อั๋นเองก็ไม่สามารถปฏิเสธพ่อตัวเองได้ เพราะเค้าคือคนที่เปิดฉากปล่อยหมัดก่อนจริงๆ แต่ที่ทำไปเพราะไอ้ฝรั่งนี่มาขวางไม่ให้เค้าตามเจ้าตัวแสบนั่น

“ก็ฝรั่งมาขวางอั๋น ไม่ให้ตามเจ้าแสบนั่น”อั๋นชี้ไปที่ชาร์ล ซึ่งทำตัวลุกลี้ลุกลน กลัวจะโดนดุที่เป็นคนขว้างทรายเข้าตาพี่ชายเกเรในความคิดของเจ้าตัวแสบ และเหมือนสวรรค์จะเป็นใจให้เจ้าตัวแสบ เค้ามองเห็นคนที่จะช่วยเค้าแล้ว ขาสั้นๆ นั้นรีบวิ่งไปหาอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“พ่อชาร์ปอุ้ม”เด็กน้อยไม่สนใจทุกคนที่นั่งค้นหาต้นตอของการทะเลาะกัน วิ่งหาพ่ออีกคนของเค้าหวังให้ช่วยเป็นเกราะกำบังไม่ให้โดนดุ ชาร์ลรู้ดีว่าพ่อตี้ของเค้าใจดีเสมอเวลาเค้าทำตัวเป็นเด็กดี แต่เวลาทำความผิด คนที่จะช่วยเค้าได้ก็มีแต่พ่อแว่นของเค้านี่แหละครับ

“โอเคผมว่าผมพอจะรู้แล้วว่าสาเหตุ น่าจะมาจากเจ้าตัวแสบที่วิ่งหนีไปนั่น”ปาร์ตี้เอ่ยออกมาพร้อมชี้ไปที่ลูกชายตัวเล็กที่เพิ่งวิ่งหนีไป

“ตัวแสบของเราไปสร้างเรื่องอะไรหรือเปล่า อ้าวแอชไปทำอะไรมาละนั่น”ชาร์ปหรือพ่อแว่นของทั้งปอร์โต้และชาร์ล อุ้มลูกชายคนเล็กกลับเข้ามาอย่างแปลกใจ สุดท้ายแอชตั้นก็เป็นคนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ทั้ง 4 คนฟัง รวมทั้งวีรกรรมของเจ้าตัวแสบด้วย

“พี่ชายเกเรมาเตะกองทรายของชาร์ลก่อน ไม่งั้นชาร์ลไม่ทำหรอก”เจ้าตัวแสบบอกพร้อมหน้างอๆ ในใจก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับไอ้พี่ชายเกเรนี่เลย

ผู้ใหญ่ทั้ง 4 คนได้แต่มองลูกๆ ตัวเองด้วยความเอ็นดู แต่ก็รู้ว่าต้องสอนให้เด็กๆ เรียนรู้การให้อภัย รวมถึงไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และที่ขาดไม่ได้คือมิตรภาพ แอชตั้นและอั๋นถูกให้กอดคอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกัน ส่วนปอร์โต้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่อยากสนิทกับทุกคน รวมถึงพี่สาวหนึ่งเดียว ที่เค้าได้รู้จักวันนี้ด้วยก็เข้าไปจะจับมือกอดคอกับทุกคน

จะมีก็แต่ชาร์ลีน้อยที่ยอมเปิดปากขอโทษ แต่ก็ยังคิดว่าไม่อยากญาติดีกับไอ้พี่อั๋นนี่อยู่ดี เจ้าตัวเล็กคิดว่าเค้ามีพี่แอชตั้นคนเดียวก็พอแล้ว

ตกเย็นทั้งสองครอบครัวได้สังสรรค์ร่วมกันที่ชายหาด เป็นปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ ผู้ใหญ่ทั้ง 4 พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ เรื่องราวต่างๆ อย่างออกรสออกชาด ส่วนเด็กๆ ทั้ง 5 นั่งล้อมวงกินบาร์บีคิวกันอย่างเอร็ดอร่อย ต่างแย่งกันชิมน้ำหวานหลากสีสันอย่างสนุกสนาน ด้วยความที่เวลาปกติ เด็กๆ มักถูกห้ามไม่ให้กินน้ำหวานมากเกินไปนัก แต่วันนี้เป็นวันที่เด็กๆ ได้รับอนุญาตให้กินได้ตามใจชอบ

“พี่อิ๋งมีแฟนรึยังฮ่ะ”เด็กชายตัวกลมเอ่ยถามเด็กหญิงรุ่นพี่อย่างแก่แดดตามที่เคยเห็นผ่านๆ ในจอทีวี เพราะรู้สึกอยากมีแฟนแบบนั้น ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจเสียด้วยซ้ำว่าคำว่าแฟนมันคืออะไร

“โตก่อนค่อยมาถามนะน้องอ้วน”เด็กหญิงรุ่นพี่บอกพร้อมดึงมือไปหยิกแก้มน้องชายตัวอ้วนอย่างหมั่นเขี้ยว ด้านอั๋นที่พยายามอยากคุยกับเจ้าตัวแสบโดยมีแอชตั้นช่วยอีกแรงก็ดูจะไม่เป็นผล เจ้าตัวแสบก็ยังคุยด้วยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

“เปี๊ยกเคยนั่งเครื่องบินป่าว”อั๋นพยายามจะชวนคุยในสิ่งที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่าย แต่ก็ยังพูดด้วยฟอร์มที่ยังกวนๆ อยู่

“ก็เคย ถามไมอ่ะ”ตามความคิดของอั๋นนึกว่าเจ้าตัวเล็กจะอยู่แค่ที่ภูเก็ตนี่ ไม่เหมือนตัวเองที่ต้องบินไปต่างประเทศด้วย นึกว่าจะได้อวดคนตัวเล็กให้สนใจเรื่องที่ตัวเองพูดบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ ดูแล้วในโลกของเจ้าเปี๊ยกนี่มีแต่พี่แอชตั้น จนอั๋นเริ่มจะหมั่นไส้ขึ้นมาอีก คราวนี้ไม่ว่าเจ้าตัวเล็กจะคุยอะไรกับแอชตั้น อั๋นจะคอยขัดตลอด

หลังจากวันนั้นเด็กๆ ก็ได้เจอกันอีกหลายครั้ง ณ ที่แห่งนี้ มิตรภาพความเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง ก่อตัวขึ้นระหว่างทั้ง 5 คน แม้จะมีไม้เบื่อไม้เมาในกลุ่มอย่าง อั๋นและชาร์ล แต่เค้าทั้ง 5 ก็รักกันดี ต่างตกลงเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แม้ระยะทางจะทำให้ทั้งหมดต้องอยู่ห่างกันบ้าง แต่แท้จริงแล้ว ทั้งแอชตั้น อั๋น อิ๋ง นั้นก็ได้รู้หลังจากวันนั้นว่าทั้ง 3 พักอาศัยอยู่ในละแวกเดี๋ยวกัน นั่นทำให้ ทั้ง 3 สนิทกันอย่างรวดเร็ว จนอั๋นและแอชตั้นเติบโตมาเป็นเพื่อนรักกัน

“ว่าไงตัวแสบ เตรียมตัวพร้อมยัง”แอชตั้นทักทายน้องชายต่างสายเลือดผ่านหน้าจออย่างเอ็นดู เค้ารู้จักคนตรงหน้าตั้งแต่ยังแบเบาะ จนตอนนี้น้องชายตัวน้อยของเค้าอายุ 16 แล้ว และกำลังทำเรื่องย้ายมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศกับเค้า น้องชายที่อยากตามมาตั้งนาน แต่คุณพ่อทั้งสองก็ห่วงลูกชายจนไม่ยอมปล่อยมาสักที

“คิดถึงพี่แอชจังเลย เสียดายพ่อน่าจะยอมให้ไปตั้งนานแล้วจะได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่นี่พี่แอชก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เสียดายเนอะ”ชาร์ลบอกเสียงอ่อยๆ เค้าเป็นเด็กกระตือรือร้นที่อยากเจออะไรใหม่ๆ เลยอยากไปเรียนต่างประเทศ แต่ผู้เป็นพ่อกลับไม่อยากให้ลูกไปอยู่ไกลตัว เลยยอมแค่ให้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แล้วในระดับอุดมศึกษา หรือตอนเรียนมหาวิทยาลัยค่อยให้ไปเรียนได้เต็มตัว ถ้ายังต้องการอยู่

“ไอ้แอชคุยกับแฟนอีกแล้วเหรอ”ภาพอีกคนที่ปรากฏบนจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ชาร์ลต้องเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ พี่ชายอีกคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเค้า แม้ไม่ถึงขนาดกับเกลียดกัน แต่ชาร์ลก็ไม่ค่อยชอบการกวนประสาทของอีกฝ่ายมากนัก โดยเฉพาะการแซวว่าเค้ากับพี่แอชเป็นแฟนกันนี่แหละ แม้เค้าจะรักพี่แอชมากแต่ก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่ในแบบนั้นแน่นอน

“ไอ้เชี่ยพี่อั๋น หวัดดีจะไปไหนก็ไป เกะกะลูกตา”แม้เค้าจะอายุน้อยกว่าอีกฝ่ายหลายปี แต่คนทำตัวแบบไอ้พี่อั๋นก็ไม่ได้มีอะไรให้น่าเคารพมากนักหรอก

“อ้าวเปี๊ยก พูดจาแบบนี้เดี๋ยวมาถึงจะจับตีตูดเสียให้เข็ด”ชาร์ลส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ ไม่ตอบโต้อะไรอีก เค้าได้เรียนรู้แล้วว่าการจะตัดบทกับพี่ชายจอมกวนได้คือต้องเงียบและไม่ตอบโต้ใดๆ เดียวอีกฝ่ายจะรามือไปเอง แต่บ่อยครั้งที่เป็นเค้าเองที่อดจะต่อปากต่อคำไม่ได้

“โตแล้ว ใครจะไปยอมพี่ละไอ้เชี่ยพี่อั๋น”เป็นอีกครั้งที่เค้าเผลอพึมพำออกมาจนอั๋นคิดว่าเป็นการต่อปากต่อคำกับพี่ชายสุดกวนอย่างเค้า

“บอกตั้งกี่ครั้งแล้วเปี๊ยกว่าให้เรียก โอลิเวอร์ มาเรียกอั๋นอะไรเช้ยเชย”นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ชาร์ลรู้สึกหมั่นไส้ ก็พอเข้าใจว่าการใช้ชีวิตในต่างประเทศ อาจต้องมีชื่อที่ให้เพื่อนๆ เรียกได้ง่ายๆ แต่กับเค้าที่รู้จักและคุ้นเคยกับชื่อนี้ ยังจะมาบังคับให้เรียกแบบนี้อีก

“หน้าตาก็ไม่ได้ฝรั่งสักนิด ทำมาเป็นให้เรียกชื่อฝรั่ง”คนตัวเล็กทำแลบลิ้นปลิ้นตากวนอีกฝ่ายเพราะรู้ว่าอีกคนคงทำอะไรเค้าไม่ได้อยู่แล้ว อั๋น หรือตอนนี้ ใครๆ ที่รู้จักต่างก็เรียกว่าโอลิเวอร์ อยากจะยื่นมือเข้าไปในจอแล้วบิดแก้มอีกคนให้หายหมั่นเขี้ยวเสียให้ได้ แต่ก็เพียงคิดได้ในใจ กะว่าเจ้าเด็กแสบนี่มาเมื่อไหร่ได้โดนดีแน่ๆ

“จะไปไหนก็ไปสักทีสิวะ ไอ้โอลิเวอรรร์”แอชตั้นผลักเพื่อนสนิทออกอย่างรำคาญพร้อมแกล้งทำเสียงเรียกชื่ออย่างจงใจเน้นคำเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัว อั๋นยอมหลบออกจากหน้าจอ แต่ก็ชี้หน้าจอคาดโทษอีกคนว่าถ้าเจอกันต้องโดนดีแน่ๆ

ทั้งแอชตั้นและชาร์ลอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มดีใจของอีกคนที่เดิน ออกจากห้องมา รอยยิ้มที่เจ้าตัวเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายิ้มกว้างขนาดไหน เค้ารู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่พี่ชายคนโปรดของน้อง เหมือนอย่างแอชตั้น นั่นทำให้เค้าได้แต่คอยปากเสีย และพูดจากวนประสาทแทรกไปเวลาสองพี่น้องนั่นคุยกัน แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเอ็นดู แล้วน้องก็น่าแกล้งน้อยเสียเมื่อไหร่

“เดี๋ยวเจอกันนะไอ้เปี๊ยก”







END


แวะเอาบทพิเเศษที่เคยแต่งไว้มาลง

จริงๆ มันเป็นโครงการที่เคยตั้งใจเอาไว้ว่าจะดึงตัวละครรุ่นลูกๆ จากแต่ละเรื่องมาแต่งเป็นเรื่องยาว

แต่ยังไม่มีเวลา เลยตัดมาได้แค่สั้นๆ เหมือนเป็นบทนำเกริ่นไว้ก่อน ไว้เคลียร์เรื่องที่ค้างๆ อยู่ จบเมื่อไหร่ก็จะหยิบมาแต่งต่อ

ส่วนตัวละครรุ่นลูกที่จะหยิบมาใช้ก็จะมี

อั๋น/อิ๋ง สองพี่น้องฝาแฝดลูกๆ ของโอเล่ จากเรื่อง ระหว่างเราคือ...??? เรื่องนี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44196.0

นอกจากนี้สองแฝดก็เคยไปป่วนในตอนจบของเรื่อง (ไม่)รักได้ไง มาด้วย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44195.0

ชาร์ล/ปอร์โต้ ลูกชายฝาแฝดของชาร์ปกับปาร์ตี้ จาก ผิดที่ใคร?
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54094.0

แล้วก็สุดท้ายคือแอชตั้น ลูกชายที่ ข้าวฟ่างเลี้ยงดูมา จากเรื่อง พี่น้องข้าว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60918.0

ถ้าใครอยากรู้ที่มาที่ไปของเด็กๆ แต่ละคนก็ลองอ่านเรื่องเก่าๆ ดูได้ครับ


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รออ่านเรื่องยาว...ปูเสื่อรอ..ออออ  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1
Norita_Boy
norita_boyV2

ฝากนิยายด้วยนะครับ

เรื่องที่จบแล้ว

เรื่องที่ 1 : 45 วันพนัน(ไม่)รัก

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44636.0
เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่คิดเกมพนันให้เพื่อนที่เหมือนจะไม่ชอบเกย์
ให้มาอยู่ร่วมห้องกับเพื่อนที่เป็นเกย์ กติกาคือถ้าภายใน 45 วันถ้าทั้งคู่ตกหลุมรักกันก็จะแพ้
แต่ถ้าไม่รักกัน เพื่อนๆ ก็จะเป็นฝ่ายชนะ แนวสบายๆ

เรื่องที่ 2 : ระหว่างเราคือ...???

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44196.0
เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนผัวพันกันจนยากที่จะแก้ไข สุดท้ายมันก็พันกัน
จนกลายเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ อีกคนชัดเจนในความรู้สึกแต่ก็โอนอ่อน
ผ่อนตามอีกคนที่ไม่ชัดเจน จนดึงคนอื่นเข้ามาในวังวน ทุกคนตัดสินใจทำ
และมองแค่ในมุมของตัวเองจนเหมือนต่างคนต่างเห็นแก่ตัว
ค่อนข้างจะดราม่า หน่วงๆ พอสมควรกับเรื่องราว 1 หญิง 2 ชาย

เรื่องที่ 3 : (ไม่)รักได้ไง

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44195.0
เพื่อนสนิทในอดีตที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ได้บังเอิญกลับมาเจอกันอีกครั้ง
ความรู้สึกที่ไม่เคยบอกกับอีกฝ่าย ได้เข้ามาเติมเต็มชีวิต และต้องพยายามพิชิตใจ
ของอีกคน เป็นแนวสบายๆ ที่ให้เห็นความต่างจาก เรื่อง ระหว่างเราคือ...???
และมีตัวละครจากอีกเรื่องโผล่ มาด้วยนิดหน่อย เพื่อให้เห็น
ข้อผิดพลาดในการตัดสินใจของตัวเอง

เรื่องที่ 4 : เปลี่ยนไป(หรือเปล่า)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44051.0
เรื่องราวของคู่รักที่มีบางอย่างไม่เข้าใจกัน เป็นเรื่องสั้นๆ เนื้อหาไม่มากนัก
เรื่องราวเล่าความสัมพันธ์ในอดีตสลับกับเหตุการณ์ 1 วันในปัจจุบันที่ทั้งคู่
ต้องเผชิญ

เรื่องที่ 5 : ผิดที่ใคร? Right or Wrong

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54094.0
จุดเริ่มต้นจาก Sex Friends ที่ทั้งคู่ต่างเห็นตรงกันว่าจะไม่ผูกมัด และจะหยุด
หากอีกฝ่ายคิดที่จะมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง หรือมีใครคิดเกินเลย
และด้วยความที่คนนึงชัดเจนว่าจะใช้ชีวิตในแบบ ช-ช แต่อีกคนยังมี
ความฝันที่จะแต่งงานมีลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ช่วงแรกๆ จะยัง
สบายๆ ช่วงหลังๆ ค่อนข้างอึดอัด อึมครึมจนเกือบจบ

เรื่องที่ 6 : คำตอบที่ว่างเปล่า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54742.0
เรื่องราวของชายหนุ่มที่รู้สึกว่าตัวเองขาดความรักจากครอบครัว
ครอบครัวที่ดูเหมือนจะเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่แล้วคืนนึงที่โดนทำร้าย
จนหมดสติไป เค้ากลับตื่นขึ้นมาในอดีต ที่ย้อนไปกว่า 100 ปี บางอย่างที่
พาเค้าไป กำลังต้องการบางอย่างจากเค้า เรื่องราวจะไม่ได้ดำเนิน
ในพาร์ทอดีตทั้งหมด มีเรื่องราวของการทำบาป กรรม ผูกเข้ากับเนื้อเรื่อง
เล็กน้อย


เรื่องที่ 7 : High School Neighbor มัธยมปลายกับพี่ชายข้างบ้าน

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60703.0
เรื่องราวของชายหนุ่มวัยเบญจเพศที่ยังไม่เคยมีแฟน และยังเวอร์จิ้น
ชีวิตต้องเดินตามกรอบของครอบครัวที่ตีไว้มาตลอด เลยลองย้ายออกมาเช่าบ้าน
อยู่คนเดียวเป็นเวลา 1 ปี เพื่อใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากเป็น แต่ก็ต้องปวดหัว
เมื่อต้องมาเจอกับเพื่อนบ้านเป็นเด็ก ม.ปลาย ที่สุดแสนจะกวนประสาท



เรื่องที่กำลังออนแอร์


เรื่องที่ 1 : Grain Brothers พี่น้องข้าว

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60918.0
เรื่องราวของสองพี่น้องคนละสายเลือดแต่เติบโตมาพร้อมกับ แต่แล้ว
วันนึงทั้งคู่ก็ต้องสูญเสียครอบครัวไป จนต่างคนต่างเหลือตัวคนเดียว
รวมทั้ง จุดหมายในชีวิตที่ต่างกันทำให้ทั้งคู่ต่างใช้ชีวิตกันคนละทิศละทาง
โดยมีข้อตกลงที่จะมาเจอกันปีละ 1 ครั้งในช่วงเวลาที่สูญเสียครอบครัว
เพื่อเป็นการรำลึกถึง และเพื่อใช้เวลาร่วมกัน

เรื่องที่ 2 : Drunk in Love

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63814.0
เรื่องราวของคนสองคนที่รู้จักกันเพราะความบังเอิญ และค่อยๆ เรียนรู้กันผ่านแอลกอฮอล์




ฝากลองติดตามกันด้วยนะครับ
 o13
[/b]

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด