[แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55  (อ่าน 318171 ครั้ง)

MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
   ผมเดาไม่ออกว่าเรื่องนี้จะจบยังไง จะสุขหรือจะเศร้า จะโศกจะเหงา หรือจะตื่นเต้นสดใส
   แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อตอนไหน ผมเองก็ยังไม่รู้เลย บางทีมันอาจจะไปต่อเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันจบสิ้นก็ได้
   ก็นี่มันเรื่องราวชีวิตผมกับเขา ไม่ใช่เรื่องราวในนิยายนี่นา...
   ตอนจบจะเป็นยังไง คงต้องรอให้ผมกับเขาช่วยกันเขียนต่อไปล่ะมั้ง

ว่ากันตามตรง  อ่านตอนนี้แล้วก็คิดว่าจบได้เหมือนกันนะคะ
อารมณ์ประมาณว่าไปคิดกันต่อเอาเองเถอะว่าทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป 
แต่ยังไม่จบก็ดีค่ะ  เพราะหลงรักเรื่องเฉื่อย ๆ เรื่องนี้เข้าเต็มเปาซะแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2012 20:46:46 โดย MM.Dog »

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
พออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย
ก็แอบคิดเหมือนกัน ว่าใช้ภาษาเหมือนจะจบแล้ว
แต่ก็อยากอ่านต่อ
แบบ อยากให้ตัวละครยังเดินต่อไป ยังอยากเห็นพัฒนาการอะไรงี้
^^
ยังรออ่านอยู่นะคะ

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ปรับอารมณ์ไม่ทันเลยทีเดียว

น้ำตากำลังซึมๆ แล้วก็...หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง...

เราผิดปกติหรือคนคนเขียนผิดปกติกันล่ะ
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ชอบคำบรรยายความคิดของพี่นิตตอนท้ายจัง
 :n1:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
** มาต่อแล้วค่า~ (หลังจากกระอักกับต้นฉบับสายลับที่ต้องแก้กะทันหัน ฮื้อออ :sad4:)
---------------------------------------

Out of order. ขออภัยในความไม่สะดวก ตอนที่18
   สุภาพงษ์ดูจะดีใจอกดีใจ จนไม่ยอมหลับยอมนอน ทั้งที่สภาพหน้าตาของเขามันสุดแสนจะทรุดโทรม ทั้งแก้มช้ำสองข้างเพราะถูกตบ ตาก็บวมเป่ง แถมท่าทางเห็นชัดว่าอดหลับอดนอนมาทั้งคืน จนผมทนไม่ไหว ต้องไล่เขาไปจัดการตัวเอง
   “ถ้ายังไม่อยากนอน โจไปอาบน้ำเถอะ มอมแมมไปทั้งตัวแล้ว”
   “คะ.. ครับ” เขาพูดตะกุกตะกัก ท่าทางจะเจ็บปาก แต่ก็เห็นนะว่าขนาดเจ็บปากอยู่ยังอุตส่าห์เม้มปากนิดๆ เหมือนกลั้นยิ้มอยู่ตลอดเวลา ผมเลยพูดไปอีก “ถ้าจะยิ้มก็ยิ้มไปเถอะ กั๊กทำไมน่ะ”
   ผู้ชายหน้าตาหล่อ แต่ตอนนี้โทรมสนิทตรงหน้าผมทำหน้าเลิกๆ ลั่กๆ จากนั้นก็ยิ้มออกมา เอาล่ะ.. ผมลืมบอกว่าให้เขาไปยิ้มไกลๆ สายตาผมหน่อย เพราะเดี๋ยวผมจะหัวใจวายตายเอา
   นี่ขนาดเขาโทรมสุดๆ แล้วนะ
   “โจไปอาบน้ำเลยนะ” ผมไล่ เพราะเขายิ้มแล้วก็เดินมากอดผมอีก แบบนี้เมื่อไหร่เขาจะได้ไปอาบน้ำสักทีล่ะ สุภาพงษ์อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่อีกพัก ถึงพอจะพยักหน้าได้ “ครับ”
   จากนั้นเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไปได้เสียที ผมถึงกับถอนหายใจออกมา แล้วก็ถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนเข้าไปเตรียมที่นอนให้เขา เพราะรู้แน่ว่ายังไงเขาก็ต้องนอนพัก เพราะท่าทางอิดโรยขนาดนั้น คงทำหน้ายิ้มๆ กับผมได้ไม่นานแน่
   พอเห็นที่นอนเขายังเก็บเรียบร้อย ผมก็นึกสงสัยว่าเมื่อวานเขาหายไปฟูมฟายที่ไหน ดีนะที่ยังกลับมาคอนโดฯได้โดยไม่เกิดอะไรขึ้นกลางทาง บ้าจริง เขาควรจะรู้จักควบคุมตัวเองมากกว่านี้นะเนี่ย...
   แต่ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ ในเมื่อเมื่อวานผมยังโกรธเขาซะจนไล่ตะเพิดไม่ฟังอะไรเลย ซึ่งที่จริงแล้วมันก็สมควรที่ผมจะโกรธนั่นแหละ ก็เขาเล่นเปิดประตูบ้านผมเข้ามา ชกเพื่อนผม ด่าผมอีก แบบนี้ผมไม่โกรธก็บ้าแล้ว
   เพราะงั้น ที่ผมโกรธเขาไม่แปลกหรอก เขานั่นแหละ ควรจะหัดตั้งสติแล้วดูอะไรเสียบ้าง
   ทำอย่างกับผมจับคู่ตุนาหงันกับเขาเรียบร้อยแล้ว มาทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผมไปได้
   เขาทึกทักเอาเองเกินไปแล้วล่ะ
   คิดแล้วผมก็รู้สึกเดือดปุดๆ ขึ้นมา ผมยังไม่เคยบอกตกลงปลงใจกับเขาสักคำ เขามาทำแบบนี้กับผมได้ไง เดี๋ยวคอยดูนะ ออกมาผมจะด่าให้เช็ด แต่พอเห็นเขาเดินเข้ามาในห้องนอน พร้อมกับเสื้อนอนลายแถบ แล้วมองผมด้วยสายตาเหมือนเด็กกำลังรอผู้ใหญ่ปูที่นอนให้ ประกอบกับแก้มช้ำๆ และขอบตาบวมๆ ของเขา อารมณ์เดือดๆ ของผมก็ลดดีกรีลงไปได้หน่อยหนึ่ง แถมคำด่าที่เตรียมไว้ก็หายแว้บไปอย่างกับไม่เคยมีอยู่ในหัวมาก่อน เหลือแค่ทำพูดพื้นๆ ไว้ให้เขา
   “โจ วันหน้าวันหลังน่ะ จะทำอะไรดูให้ดีก่อนนะ อย่าไปอาละวาดต่อยใครโดยไม่ถามเหตุผลเหมือนเมื่อวานนี้อีกล่ะ ดีนะที่พี่ภูมิเขาไม่เอาเรื่องอะไร ไม่งั้นล่ะแย่แน่ๆ” ผมพูด ขณะที่เขาเดินมาที่เตียง สุภาพงษ์กะพริบตามองผมปริบๆ ก่อนจะพยักหน้า “ครับ ผมขอโทษด้วยจริงๆ เรื่องเขา ผมคุยกับเขาแล้วล่ะ”
   “อืม...” ผมส่งเสียงพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย แต่ก็นึกเอะใจขึ้นมา “ไปคุยกันตอนไหนน่ะ?!”
   “ก็... ที่โรงพยาบาลน่ะครับ” ผู้ชายแก้มช้ำตรงหน้าผมพูดต่อ “พี่ภูมิเขาโทรหาผมตอนส่งพี่ถึงโรงพยาบาลแล้วน่ะ คงค้นจากมือถือเอาน่ะครับ ผมเลยรีบขับรถไป แล้วก็ได้เจอเขาน่ะ”
   “อะ... เหรอ” ผมอึ้งไปหน่อย ไม่คิดว่าภูมิวัฒน์จะโทรตามสุภาพงษ์ด้วย แล้วพวกเขาคุยอะไรกันบ้างน่ะ
   “เขาเล่าให้โจฟังว่ายังไงน่ะ” ผมถาม พลางนึกหวั่นใจว่าเจ้าเพื่อนบ้าแอบเผาอะไรผมให้นายคนนี้ฟังรึเปล่า สุภาพงษ์เม้มปากนิดๆ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง
   “เขาบอกผมว่า ท่าทางพี่นิตจะชอบผมมาก เพราะโกรธจนเป็นลม ถ้าไม่ชอบจริงๆ คงไม่เป็นขนาดนี้”
   “!?” ผมหน้าตึงขึ้นมาทันที ที่จริงตอนแรกคิดว่าคงหน้าแดงก่อน แต่ว่าในเวลานี้ผมจะมัวมาเขินไม่ได้ นี่ภูมิวัฒน์กล้าพูดแทนผมได้ยังไง ตัวผมเองยังไม่เคยอ้าปากสักคำ ผมนึกโมโหเพื่อนขึ้นมาทันที
สุภาพงษ์เหมือนจะรู้ตัวว่าเล่าละเอียดเกินไป เลยรีบพูดอีก “พี่ภูมิบอกว่า ให้ผมรีบหาทางขอโทษพี่นิต เพราะพี่นิตโกรธแรง แล้วก็ง้อยากมาก”
อืม เรื่องนี้เขาพูดถูกเผง เพราะผมโกรธเขามาราธอนมาได้ตั้งยี่สิบกว่าปี แต่... แบบนี้ผมก็เสียหน้าแล้วล่ะสิ ก็ผมเล่นอ่อนให้สุภาพงษ์ตั้งแต่ยังไม่ทันข้ามวัน
ผมหันกลับไปถลึงตาใส่ผู้ชายรูปหล่อตรงหน้าผมทันที อยากจะบอกให้เขารู้ไว้หน่อย ว่าผมยังไม่หายโกรธง่ายๆ หรอก
สุภาพงษ์กะพริบตาปริบๆ ท่าทางเหมือนรู้ตัวว่าพูดไม่ถูกใจผม เลยรีบพูดอีก “คือ... ผมตั้งใจจะรอพี่นิตตื่น แล้วค่อยขอโทษ แต่หมอเตือนว่าถ้าเกิดพี่ตื่นมาแล้วเจอเรื่องกระทบกระเทือนใจอีกจะยิ่งมีปัญหา ผมไม่รู้จะทำยังไง จะรอพี่ตื่นผมก็กลัวพี่โมโหอีก จะกลับบ้านไปนอนผมก็กลับไม่ลง ผมเลย...” เขาเว้นจังหวะหายใจหน่อยหนึ่ง “เลยนั่งร้องไห้อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ”
“?!!!” ผมนึกภาพผู้ชายอายุสามสิบสี่ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ แล้ว แต่งตัวแบบคนทำงาน นั่งฟูมฟายอยู่ตรงเก้าอี้ผู้ป่วยแล้วให้ต้องขมวดคิ้ว “โจไม่อายคนหรือไงน่ะ?!”
“อะ... อายสิครับ” เขาตอบด้วยอาการหน้าแดงจัด สงสัยกำลังอินกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา เออ เขาเป็นคนอ่อนไหวจริงๆ ด้วย เห็นภายนอกดูนิ่งๆ คิดว่าจะหนักแน่นนะเนี่ย อืม... อันที่จริงเขาก็แสดงให้ผมเห็นหลายครั้งแล้วล่ะ ว่าเขาเป็นคนอ่อนไหว เผอิญผมชอบคิดว่าตัวเองอ่อนไหวกว่าใครเพื่อน เลยมองคนอื่นว่าต้องมั่นคงเป็นหินผาไปเสียทุกที
“ผมไม่รู้จะทำไง หยุดร้องก็ไม่ได้ เลยเข้ามาร้องไห้ในห้องพี่นิตแทน”
“.................”
“แต่ผมเอาผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าเอาไว้ ไม่ได้ยินเสียงหรอก”
ผมล่ะอยากจะบ้าตายจริงๆ สรุปว่าเมื่อคืนเขานั่งร้องไห้อยู่ที่ห้องผม แล้วใช่เขารึเปล่าน่ะ ที่พูดขอโทษผมในฝัน?
“แล้ว....โจมีพูดอะไรกับพี่บ้างรึเปล่า?” ผมถาม เพราะตั้งใจจะรู้ให้ได้ว่าตกลงผมเพ้อไปเองหรือเป็นเสียงเขากันแน่ จะได้วัดระดับความเพ้อที่ผมมีต่อเขาได้ถูกด้วยน่ะ สุภาพงษ์พยักหน้า “อือ... ผมบอกขอโทษพี่นิตไป คิดเอาเองว่าพี่ได้ยินแล้วพอตื่นมาอาจจะโกรธผมน้อยลง ผมขอโทษนะ”
เห็นท่าทางสำนึกผิดอย่างกับคนจะโดนโทษประหารของเขาแล้ว ไม่รู้ผมจะเหลือความโกรธไว้กู้หน้าตัวเองอีกกี่ชั้น แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์ปั้นหน้าจริงจังเต็มที่ พูดตอบเขาไป “วันหน้าวันหลังน่ะ จะพูดจะทำอะไร หัดคิดก่อนนะ ปกติพี่เห็นโจไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นคนปากพล่อยแบบนี้”
“ขอโทษนะครับ” สุภาพงษ์พูดประโยคเดิม แล้วยืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเหมือนรอรับโทษอยู่ อืม... แก้มเขากลายเป็นสีม่วงข้างหนึ่งแล้ว อีกข้างแดงอยู่ คิดว่าอีกไม่นานจะเปลี่ยนสีตามไป ตาบวมน้อยลงหน่อยหนึ่ง แต่ก็ยังบวมอยู่ดีล่ะ มีแค่ผมที่หวีเรียบร้อย และเนื้อตัวที่สะอาดสะอ้านขึ้นหรอก เห็นสภาพเขาแล้ว ยังเหลือส่วนไหนให้ผมลงโทษได้บ้างเนี่ย
“โจไปนอนเถอะ” ผมว่า แต่พอเห็นเขายังทำท่าลังๆ เลๆ ก็เลยต้องพูดต่อ “เดี๋ยวพี่จะได้เอาน้ำแข็งมาโปะแผลที่ปากให้”
คราวนี้สุภาพงษ์พยักหน้าแล้วปีนขึ้นเตียงไปอย่างว่าง่ายทันที เออ.... ทำไมต้องรอให้ผมพูดประโยคสองด้วยนะเนี่ย ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนู แล้วเปิดตู้เย็นเทน้ำแข็งออกมา พอกลับมาที่ห้องนอน ก็เห็นเขาหลับไปเรียบร้อยแล้ว อืม... คงจะเหนื่อยแล้วก็ง่วงมากสินะ ผมค่อยๆ นั่งลงบนเตียงข้างๆ เขา แล้วก็เอาน้ำแข็งที่ห่อใส่ผ้าอยู่โปะลงไปอย่างเบามือที่สุด ดูเขาจะหลับสนิท เลยไม่สะดุ้งหรืออะไรเลย ผมมองแล้วก็อดลบมือลงไปบนศีรษะเขาไม่ได้
จริงๆ เลยน้า....
นั่งเอาน้ำแข็งโปะแผล แล้วมองหน้าโทรมๆ ของเขาได้พักหนึ่ง เสียงเคาะประตูก็ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก ผมนั่งนิ่ง เงี่ยหูฟังให้ดีอีกที เผื่อว่าจะเป็นเสียงเคาะห้องข้างๆ แล้วมันก็ดังอีก คราวนี้ชัดเจนเลยว่าเคาะประตูห้องสุภาพงษ์แน่ๆ ผมรีบเดินไปดูที่ประตู โดยเอาน้ำแข็งใส่ถ้วยไว้ก่อน
ปรากฏว่าพอมองผ่านตาแมวก็เห็นคุณากรกำลังยืนหน้ามึนอยู่ ผมนึกวาบอยู่ในใจทันที หรือว่าเขามาเพราะเรื่องสุภาพงษ์?!
ตายล่ะ นี่ถ้าเขามาเห็นว่าผมอยู่ห้องเดียวกับแฟนเก่าเขาสองต่อสอง มันจะกลายเป็นเรื่องรึเปล่าเนี่ย
ก๊อกๆๆๆ!
เสียงเคาะประตูดังถี่ยิบ บ่งบอกถึงความเร่งร้อนของคนเคาะ ทำให้ผมต้องกลั้นใจเปิดประตูไป พลางคิดข้อแก้ตัวเอาไว้ว่าผมแค่แวะมาดูอาการ เพราะเขาไม่ยอมเข้าออฟฟิศจนลูกน้องเป็นห่วง แต่พอเปิดประตูมาเจอกันจริงๆ ผมกลับอึ้งกว่านั้น
“คุณพนิตอยู่นี่จริงๆ ด้วย” คุณากรโพล่ง แล้วยิ้มอย่างดีใจ ผิดกับที่ผมคาดว่า แต่ที่ผิดคาดยิ่งกว่าคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาต่างหาก
“พนิตมาหาน้องเขาจริงๆ หรือนี่?!” ภูมิวัฒน์พูด แต่ผมสิ อยากพูดมากกว่า เขาโผล่มาอยู่นี่ได้ไง
“นี่นายไม่ทำงานทำการหรือไงน่ะ?” ผมถามเขาเสียงเครียด เนื่องจากยังมีคดีความที่เขาไปพูดโมเมเอาเองให้สุภาพงษ์ฟัง ดูท่าภูมิวัฒน์ยังไม่รู้สึกตัว เลยตอบผมด้วยท่าทางตื่นเต้น “เราเป็นห่วง เลยลางานช่วงเช้าไปดูนายที่บ้าน ปรากฏว่าแทนที่จะเจอนาย เราเจอน้องคนนี้หน้าบ้านนายแทน เห็นเขาบอกว่าจะไปขอให้นายช่วยอะไรบางอย่าง ฉันเลยเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานนายมีเรื่องกับบ.ก. เขาเลยคิดว่านายอาจจะอยู่ที่นี่ก็ได้”
ผมถลึงตามองเพื่อน นี่เขามีนิสัยชอบเล่าเรื่องส่วนตัวของผมให้คนอื่นฟังตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อืม.. แต่เรื่องที่ผมทะเลาะกับสุภาพงษ์ ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องลับเฉพาะเท่าไหร่ ยกเว้นว่าเขาจะเล่าเหตุผลให้ฟังด้วยน่ะนะ
“ภูมิ เล่าให้น้องเขาฟังว่าไงน่ะ?”  ผมเค้นถามเพื่อน ขณะยังยืนจังก้าหน้าประตูไม่ยอมปล่อยให้ใครเข้าไปง่ายๆ ภูมิวัฒน์ทำหน้าหนักอกหนักใจ “เล่าแค่ว่าทะเลาะกันน่ะ”
ผมหันไปมองคุณากร เพื่อดูว่าภูมิวัฒน์พูดจริงหรือแอบเนียนไปครึ่งหนึ่ง แล้วพบว่า ตอนนี้เขาหยุดยิ้มดีใจแล้ว “คุณพนิต ไอ้โจตายหรือยังครับ ถ้ายังไม่ตาย ขอผมดูหน้ามันหน่อย นี่มันทิ้งงานที่ผมอุตส่าห์ขอให้ช่วยแล้วหายหัวไปเลยตั้งแต่เมื่อวาน โทรศัพท์ก็ไม่ยอมเปิด ถึงจะทะเลาะกับคุณพนิตมันก็ควรมีสติกว่านี้นะครับ”
ผมเห็นด้วยกับคำพูดของเขา แต่พอเห็นสีหน้าประหนึ่งจะฆ่าจะแกงก็ต้องรีบพูดยั้งไป “เขาหลับอยู่น่ะ”
“?!”
“เอ่อ... คุณกั้ง คุณโจเขาคงไม่ได้นอนเลยน่ะ ตั้งแต่เมื่อวาน”
คุณากรขมวดคิ้วมุ่น สงสัยจะคาดไม่ถึงว่าเรื่องจะร้ายแรง เขาเงยหน้ามองผม “เรื่องมันเป็นไงมาไงน่ะครับ ไม่ใช่ว่ามันแค่ทำคุณพนิตอารมณ์เสียเหรอ”
ผมเห็นท่าว่าจะต้องคุยกันนาน เลยให้เขาสองคนเข้าห้องมาก่อน พอเข้ามาในห้องได้ คุณากรก็ตรงไปยังห้องนอนของสุภาพงษ์ทันที แบบไม่รอให้ผมพูดอะไร พอเขาเปิดประตูผลัวะเข้าไป ก็ขึ้นเสียงอย่างคนอารมณ์เสียสุดๆ
“ไอ้โจ!! เฮ้ย!” คุณากรร้องเสียงหลง จากนั้นก็พรวดพราดเข้าไปในห้อง สักพักก็เดินออกมา “คุณพนิต ไอ้โจไปโดนใครอัดมาครับเนี่ย”
ผมกำลังจะอ้าปากเอาเรื่องกับภูมิวัฒน์ ค่าที่เขาปากสว่าง คิดเองเออเองแล้วหาว่าผมคิด ไปพูดได้ไงว่าผมชอบสุภาพงษ์ พอเห็นคุณากรถามแบบนั้น แทนที่ผมจะได้ตอบ ภูมิวัฒน์กลับถามออกมาอีก “พนิตซ้อมเขาซ้ำหรือ?”
โอ้โห.. ถ้าพูดแล้วทำได้ ผมอยากซ้อมภูมิวัฒน์นี่แหละคนแรก ผมตอบพวกเขาสองคนไป “เปล่า”
“อ้าว... แล้วไหงโจมันโทรมแบบนี้ล่ะครับ ท่าทางอย่างกับไปชกกับใครมา”
คราวนี้ภูมิวัฒน์หัวเราะแย่งบทผมอีก “พนิตมือหนักน่ะ ตบน้องเขาอีกแล้วหรือ?”
ผมหันไปถลึงตาใส่เพื่อน แต่พูดอะไรไม่ออก ได้ยินเสียงคุณากรพูดอึ้งๆ “โห... ทะเลาะกันแรงเลยนะเนี่ย คุณพนิตมือหนักจัง นี่ตบหรือครับ ผมคิดว่าต่อย เขาฟันหักบ้างรึเปล่าเนี่ย?”
เออ ผมลืมสนิท แต่ไม่เห็นสุภาพงษ์บอกเลยนี่ว่าฟันหัก แล้วผมแค่ตบ ไม่น่าจะตบแรงจนฟันร่วงได้หรอก คิดได้แบบนั้นเลยตอบเขาไป “ไม่หรอกมั้ง ไม่เห็นเขาพูดถึงเลย”
คุณากรมองผมตาปริบๆ “แล้ว... นี่มันถูกตบจนสลบหรือว่ามันหลับไปเองครับเนี่ย”
“หลับเองสิ” ผมชักมีโมโหกับรูปประโยคคำถามของเขา คุณากรพยักหน้า ท่าทางตื่นๆ พิกล หรือเขาคิดว่าผมซ้อมสุภาพงษ์จนสลบนะ จะบ้าเรอะ ผมตัวแค่นี้ จะเอาแรงที่ไหนมาซ้อมเขา นี่ถ้าเขาอยากตบผมกลับ ผมคงปลิวติดฝาไปแล้วล่ะ
“คุณพนิตน่ากลัวจริงๆ” เขาพึมพำ เอาล่ะ ผมจะถือว่าไม่ได้ยินก็แล้วกัน โชคดีที่คุณากรมีมารยาทพอ เลยไม่ถามเซ้าซี้ว่าผมกับสุภาพงษ์ทะเลาะอะไร ก็ดีแล้วล่ะ เพราะถึงถาม ผมก็ไม่ตอบหรอก มีแต่จะตะเพิดเขาออกไปอีกคนน่ะสิ
เราสามคนยืนเงียบเหมือนไม่มีอะไรจะพูดอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดคนพูดกลับเป็นคนที่ดูจะไม่น่าพูดออกมาที่สุด
“ตกลงคุณกั้งมีธุระอะไรกับคุณโจเหรอ?”
“เออ ใช่!!” คุณากรโพล่งออกมาอย่างนึกขึ้นได้ แล้วถามผมทันที “คุณพนิตครับ ก่อนโจมันหลับ มันฝากซองอะไรเอาไว้รึเปล่าครับ?”
ผมเลิกคิ้ว “ไม่เห็นมีนี่”
คราวนี้หน้าของคุณากรนิ่วลงทันที “ไม่ได้ฝากอะไรไว้เลยหรือครับ?”
ผมพยักหน้า เขาทำหน้าคิดหนัก ก่อนจะพูดออกมา “ขอโทษนะครับ ขอผมค้นห้องหน่อยนะ” ไม่รอให้ใครพูดอะไร คุณากรตรงไปค้นตามตู้ ตามลิ้นชักที่พอจะเปิดได้ทันที ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน เพราะเขาเป็นแฟนเก่า แถมก่อนหน้านี้ก็ถือกุญแจห้องนี้ตลอด เขาจะขออนุญาตทำไมนะ ก็ผมไม่ใช่เจ้าของห้องเสียหน่อย
แต่ภูมิวัฒน์ดูจะไม่เข้าใจนัก เลยพูดออกไป “ค้นห้องเขาแบบนี้ เจ้าตัวตื่นมาไม่โกรธเอารึ?”
“ช่วยไม่ได้นี่ครับ” คุณากรตอบ พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาค้น แต่เขาค้นแล้วก็เก็บเรียบร้อยนะ ดูแล้วไม่ใช่การรื้อค้นหรอก แค่หาของอยู่มากกว่า ผมสงสัยเลยถามไปบ้าง “หาอะไรน่ะ คุณกั้ง?”

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
“อ้อ.. ซองน่ะครับ คือผมฝากโจหาข้อมูลบางอย่างมาให้”
“?!”
สุดท้ายคุณากรก็ยอมแพ้ ปิดลิ้นชักตู้ที่อยู่มุมโซฟา แล้วเดินมาหาพวกผม “พอดีผมทำงานเป็นนักข่าวน่ะ เลยฝากเขาช่วยหาข้อมูลให้” เขาพูดพลางหรี่ตามองภูมิวัฒน์อย่างมีนัยน์ ผมหันไปมอง แล้วก็เห็นว่าเพื่อนสวมชุดเหมือนพนักงานบริษัท ท่าทางคุณากรอาจจะยังไม่รู้ว่าหมอนี่ทำงานอะไร เลยแกล้งพูดไป “เออ ทำข่าวไอ้หมอนี่ด้วยสิ ว่ากินสินบาทคาดสินบนเท่าไหร่ ดูว่างๆ เช้าชามเย็นชาม สมเป็นข้าราชการเลย”
คุณากรเลิกคิ้วหน่อยๆ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงเพื่อนผมก็ดังขึ้นก่อน
“โห.. พนิต ถ้าไม่ติดว่าเคยเป็นรูมเมทกัน เราฟ้องนายข้อหาหมิ่นประมาทแล้วนะเนี่ย” ภูมิวัฒน์พูดด้วยสีหน้ากึ่งเล่นกึ่งจริง แต่ผมน่ะ พูดอย่างเอาจริงเอาจังเลยล่ะ “เราก็อยากจะฟ้องนายเหมือนกัน ข้อหาชอบตัดสินใจแทนเราแล้วพูดมั่วๆ”
คราวนี้เขาทำหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถามกลับ “เราตัดสินใจแทนนายเรื่องอะไรน่ะ”
“ก็เรื่องที่นายบอกโจว่าเราชอ....” ผมพูดค้าง เพราะนึกขึ้นได้ว่ามีคนอื่นยืนอยู่ด้วย แต่ภูมิวัฒน์ดูจะไม่คิดอะไรแบบนั้น เขาหัวเราะออกมา แล้วพูดเสียงดัง “เราพูดอะไรกัน นายพยักหน้ายอมรับเองนะ เรื่องนี้จะมาโทษเราไม่ได้หรอก”
“แต่นายพูด” ผมยังเอาเรื่องเขาต่อ อดีตรูมเมทผมทำหน้าซื่อจนน่าหมั่นไส้ “เปล่า เขาเล่าให้นายฟังว่าไงล่ะ”
“เขาบอกว่าเราชอ....” ผมพูดไม่ได้อีก เพราะติดเรื่องคุณากรยืนอยู่ พอหันไปก็เห็นเขาทำตาเป็นประกาย แล้วยกมือปิดหู “คุณพนิตพูดเถอะ ผมไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินอะไรเลย”
ผมนึกอยากจับสองคนนี่โยนลงนอกหน้าต่างไปเลย พอหาเหตุเอาเรื่องไม่ได้ เพราะอายคน อายปากตัวเองด้วย ผมเลยเสไปพูดเรื่องอื่นแทน “แล้วนี่ไม่ทำงานทำการหรือไง?”
“ทำสิ” เพื่อนผมตอบ ขณะที่นายกั้งทำเสียงเหมือนเสียดายที่ไม่ได้ยินผมพูดอะไร ผมหันไปค้อนใส่เขาทีหนึ่ง แล้วพูดกับเพื่อนอีก “จะไปทำกี่โมงกันล่ะ จะบ่ายแล้วนะ”
“หา?!” เขาทำหน้าตกใจ แบบที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ตกใจจริงๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา “ที่จริงลามาครึ่งวัน แต่ลาอีกครึ่งวันก็พอได้ เดี๋ยวใส่ว่าญาติไม่สบาย ต้องมาดูแลด่วน”
“โห............ สมเป็นข้าราชการจริงๆ” ผมลากเสียง เขาทำหน้าเขินนิดๆ “ไม่เอาน่า พนิต นี่เราอุตส่าห์เป็นห่วงนะเนี่ย มามองเหมือนเราเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดไปได้”
“เพราะกระทรวงศึกษามีข้าราชการแบบนายแน่ๆ มันเลยโย้ๆ เย้ๆ ไม่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้” ผมแขวะ เขาทำหน้าปฏิเสธถึงที่สุด “ไม่ใช่เราหรอก... ไว้พนิตอยากเขียนนิยายเกี่ยวกับเรื่องคอรัปชั่นในวงราชการเมื่อไหร่ ค่อยปรึกษาเราแล้วกัน”
“ทำไม เป็นโต้โผใหญ่หรือไง” ผมว่า แล้วพูดต่อ “ไม่เอาหรอก เรากลัวโดนนายฆ่าปิดปาก”
ภูมิวัฒน์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ขณะที่คุณากรพูดขึ้นบ้าง “แต่ผมอยากเขียนนะ ถ้าคุณยังไม่ทานมื้อเที่ยง เราไปทานด้วยกันไหมล่ะครับ ผมอยากลองทำข่าวข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการดูบ้าง”
ภูมิวัฒน์เหล่มองคนพูด แล้วตอบยิ้มๆ “เอาบัตรนักข่าวมารึเปล่าล่ะ ถ้าเอามาก็เอามาดูก่อนว่าจะให้ข่าวอะไรได้บ้าง ค่าข่าวผมแพงนะ”
“นี่! นายเป็นพวกหากินกับอะไรแบบนี้หรือไง?” ผมเอ็ดเขา ภูมิวัฒน์หัวเราะอีก “เปล่าๆ พนิตจะไปทานด้วยกันไหมล่ะ?”
ผมมองหน้าเพื่อน พลางคิดว่าไหนๆ สุภาพงษ์ก็หลับไปแล้ว แถมผมยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย จะปฏิเสธไปทำไม ดีไม่ดีผมอาจจะบังคับให้ไอ้หมอนี่ช่วยขับรถกลับไปส่งที่บ้านด้วย จะได้ไม่ต้องเปลืองค่ารถเอง คิดแล้วผมก็พยักหน้าทันที จากนั้นเราสามคนก็เดินลงไปทานข้าวด้านล่าง โดนทิ้งสุภาพงษ์ไว้อย่างนั้น
-----------------------------------------
   ดูเหมือนภูมิวัฒน์กับคุณากรจะเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนผมอดคิดไม่ได้ว่า เจ้าสองคนนี่เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า ทั้งคู่ผลัดกันเล่าเรื่องฉาวๆ ในวงการอย่างสนุกปาก นี่เพื่อนผมไม่กลัวถูกเก็บบ้างหรือไง หรือเพราะมั่นใจว่าแต่งแบบนี้ไม่มีใครรู้แน่นอนว่ารับราชการ แต่ดูพวกเขาคุยกันแล้ว ท่าทางจะมีอะไรในใจทั้งคู่ ปล่อยให้ไปลับลวงพรางกันสองคนแล้วกัน เรื่องแบบนี้ผมไม่ถนัดหรอก
   กว่าจะทานข้าวเสร็จ ผมแทบจะไปเขียนนิยายคอรัปชั่นได้ ดีหน่อยที่ผมไม่ค่อยมีหัวทางนี้ เรื่องเลยไม่ไหลไปไหน พอจ่ายเงินลุกจากโต๊ะ ผมก็หันไปหาเพื่อนเก่า “ภูมิ ไม่รีบไปทำงานใช่มั้ย?”
   เขาเลิกคิ้ว แล้วมองผม “อือ ทำไมหรือ?”
   “ไปส่งเราที่บ้านหน่อยสิ”
   ยังไม่ทันที่ภูมิวัฒน์จะตอบ คุณากรก็ส่งเสียงขึ้นมา “ไม่ได้นะครับ คุณพนิตจะทิ้งโจไว้แบบนี้เหรอ?”
   ผมนิ่วหน้า “เขาไม่เป็นอะไรหรอกน่า แค่นอนน้อยเฉยๆ”
   คุณากรทำหน้าไม่เห็นด้วย “ไม่ได้นะครับ มันบอบช้ำขนาดนั้น ถ้าไม่มีคุณพนิตคอยอยู่เยียวยาล่ะก็ มันต้องช้ำในตายแน่ๆ คุณพนิตจะใจร้าย ดูมันตรอมใจตายได้ลงคอเหรอครับ?”
   ผมว่าคุณากรไม่น่าเป็นนักข่าวแล้วนะ ถ้าเขาไปเป็นนักเขียนนิยายน้ำเน่าคงรุ่ง ผมตอบเขาไป “ไม่เอาล่ะ พี่มีต้นฉบับจะต้องไปพิมพ์ต่อ”
   “แต่บ.ก.ป่วยนี่ครับ มีต้นฉบับ แต่ไม่มีบ.ก.ตรวจ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรไม่ใช่หรือครับ?”
   ผมตอบคำถามเขาอย่างอดทน “มีบ.ก.คนอื่นอีก ไม่รู้จักคำว่ากองบ.ก.หรือไง?”
   คุณากรทำหน้าซื่อจนหน้ามั่นไส้ ผมอดไม่ได้เลยต้องพูดอีก “ถ้าเป็นห่วงก็อยู่ดูแลเองสิ”
   “ทำไมต้องผมล่ะ?”
   “ก็เคยเป็นแฟนกันไม่ใช่หรือไง”
   “โห... เรื่องตั้งสิบกว่าปีแล้ว ยังจะให้ผมไปดูแลมันอีกเหรอครับ?”
   “?!” ผมหันไปมองเขาอึ้งๆ คราวนี้คุณากรยิ้มนิดๆ “อย่าบอกนะว่าคุณพนิตหึง”
   “หา?!” ผมร้องออกไป “หึงเหิงอะไรกันเล่า”
   คนพูดหัวเราะคิกคัก “แหม... ก็เห็นไล่ผมไปดูไอ้โจ คิดว่าคุณพนิตจะหึงนี่ครับ ไม่ต้องหึงนะครับ ผมเลิกกับมันตั้งนานแล้ว เพราะมันแกะคุณจากใจไม่ออกเสียที แถมไม่ยอมให้ใครทำหน้าที่แทนด้วย เพราะงั้นนะ คุณพนิต คุณเป็นคนเดียวในโลกที่จะเยียวยาแผลใจมันได้” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนฟังนิยายน้ำเน่าอยู่
   “เอาล่ะ พอๆ ผมจะกลับบ้าน” ผมพูดเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปหาภูมิวัฒน์ “จะไปส่งเรารึเปล่า?”
   เพื่อนผมทำท่าอึกๆ อักๆ ก่อนจะพยักหน้า “อืม ไปส่งก็ไปส่ง”
   “ถ้าไม่อยากส่งก็บอก” ผมชักฉุน เพราะเพิ่งโดนนายคุณากรเล่นงานมา เพื่อนกันยังจะทำท่าลังๆ เลๆ แบบนี้อีก คราวนี้ภูมิวัฒน์รีบลนลานตอบ “ไปส่งๆ แหม.. อย่าขี้งอนนักซี่”
   ผมไม่พูดอะไร แต่เดินฉับๆ ออกไป เขาเลยต้องเดินตามมาด้วย ได้ยินเสียงคุณากรพูดอึ้งๆ “งั้นก็... สวัสดี... เดินทางดีๆ นะครับ”
   เดินกันมาได้สักพัก ภูมิวัฒน์ก็ถามขึ้นอีก “พนิต จะกลับจริงๆ หรือ?”
   “อืม” ผมตอบเขา แล้วถามต่อ “ไหนรถล่ะ?”
   “จอดอยู่ตรงโน้นน่ะ” เขาชี้มือไป แล้วถามผมอีก “ไม่ใช่ว่ากลับไปถึงแล้วนั่งรถกลับมาอีกนา”
   “...................”
   “ไม่ห่วงน้องเขาเหรอ?”
   “..................................”
   “นี่ กั้งขึ้นรถไปแล้วน่ะ นายเดินกลับไปก็ไม่มีใครเห็นหรอก”
   ผมล่ะเบื่อนิสัยรู้มากของเขาจริงๆ
   “บอกว่าจะกลับก็จะกลับสิ ถามมากทำไมน่ะ”
   ภูมิวัฒน์หัวเราะอีก ก่อนจะกดรีโมทฯเปิดประตู ผมเลยมุดไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัย เขามุดตามเข้ามา แล้วสตาร์ตรถ จากนั้นก็ขับออกไปบนถนน
   
   “พนิต ที่จริงเราแอบอิจฉาน้องโจอยู่หน่อยๆ เหมือนกันนะ” ภูมิวัฒน์พูด ตอนที่เลี้ยวรถเข้าซอยบ้านผมแล้ว ผมหันไปมองเขา “นายจะอิจฉาเรื่องอะไรน่ะ”
   ผู้ชายที่ดูดีแม้วัยจะเยอะแล้วซึ่งขับรถอยู่หัวเราะ “บอกตรงๆ นะ หลังงานเลี้ยงรุ่น เราแอบหวังจะคืนดีกับนายหน่อยๆ”
   “?!”
   “นายเป็นผู้ชายคนเดียวที่เรายังรู้สึกชอบมากๆ อยู่จนถึงทุกวันนี้นะ”
   ผมว่าเพื่อนผมไม่ได้หัวกระแทกอะไรระหว่างขับรถนะเนี่ย เลยถามเขาไป “ตอนทานข้าว มีใครให้วางยาอะไรนายรึเปล่านะ”
   ภูมิวัฒน์หัวเราะร่วน ก่อนจะจอดรถหน้าบ้านผม แล้วหันหน้ามาถาม “เรายังหวังจะคืนดีกับนายได้อีกมั้ย?”
   “ถ้าเรื่องที่โกรธน่ะ ยกโทษให้แล้วล่ะ” ผมว่า แล้วขยับไปเปิดประตูรถ “ขอบใจที่มาส่งนะ”
   “อืม ไม่เป็นไรหรอก” เขาตอบงึมงำ จากนั้นก็ยื่นมือมาคว้ามือผมไว้ ผมเลยหันไปมองเขาทันที “ยังชอบเราอยู่อีกรึเปล่า?”
   “.....................”
   “กลับมาคบกันได้มั้ย? คบกันแบบแฟนน่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อน”
   “.................” ผมอึ้งไปหน่อย ก่อนจะพยายามดึงมือออก “เราว่าระหว่างเรากับนาย เป็นเพื่อนกันดีกว่า”
   “.............................”
   “หรือว่าไม่อยากจะรู้จักกันแล้ว?”
   “เปล่า” เขาตอบทันที แล้วยิ้มฝืนๆ “เราพูดช้าไปเยอะเลยสินะ”
   “ยี่สิบกว่าปี” ผมตอบแบบไม่ไว้หน้าเขา ภูมิวัฒน์หน้าเจื่อนนิดๆ “เหรอ... ฮ่ะๆ ยังโกรธอยู่อีกเหรอ?”
   ผมไม่ได้ตอบ เพียงแต่จ้องหน้าเขากลับ สักพัก ภูมิวัฒน์ก็ถอนหายใจ แล้วยิ้มออกมา “ที่จริงเราน่าจะรู้สึกตัวตั้งแต่เห็นพนิตยอมพกโทรศัพท์แล้วล่ะ”
   ผมนึกคันปากขึ้นมา เลยพูดตอบเขาไป “ก็เห็นนายเชียร์จริงๆ ให้เรารีบตัดสินใจ อย่าไปทำร้ายใครอีก จำที่ตัวเองพูดไม่ได้หรือไง?”
   ผู้ชายมีอายุแต่ยังดูดีตรงหน้าผมหัวเราะเฝื่อน “อืม... เพราะเราหวังลมๆ แล้งๆ เองแหละ เราอยากให้พนิตตัดสินใจสักอย่าง ถ้าไม่อยากไปกับน้องเขา เราจะได้เข้าแทนไง”
   “?!”
   “แต่สงสัยพนิตจะตัดสินใจได้นานแล้วล่ะ”
   “บ้าเรอะ!” ผมเอ็ดเขาไป แล้วรู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างจริงๆ จังๆ เขาพูดบ้าอะไรเนี่ย
   ภูมิวัฒน์ไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ เขาจับแน่นอีก “งั้นให้เราจูบสักหนได้รึเปล่า?”
   ผมบอกตัวเองให้ตั้งสติ แล้วตอบเขาไปเสียงเรียบ “ภูมิอยากถูกตบอีกคนรึไง?”
   ภูมิวัฒน์อึ้งไปหน่อย แล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นก็ยอมปล่อยมือผม ผมเลยลงจากรถ แล้วพูดกับเขา “ขับรถกลับดีๆ ล่ะ แล้วก็... ขอบใจ.... ขอโทษด้วยนะ...”
   “ไม่เป็นไรหรอก” ภูมิวัฒน์ตอบ จากนั้นก็ยิ้มกว้างให้ผม “ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
   พอเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรแล้ว ผมก็เลยปิดประตูรถ แล้วเดินเข้าบ้านไป ภูมิวัฒน์ออกรถหลังจากนั้นสักพัก ผมถอนหายใจเฮือก
   เพื่อนผมคิดบ้าอะไรอยู่นะ มาพูดเอาป่านนี้ เขาเองก็น่าจะรู้ว่าสายไปแล้วไม่ใช่หรือไง...
   ถึงเขาจะเป็นคนแรกที่ผมยอมรับกับปากว่าชอบ แต่... เขาไม่ใช่คนที่ผมอยากคิดตกลงปลงใจด้วยหรอก
   เกือบเสียเพื่อนแล้วมั้ยล่ะ!!
   ผมเดินจ้ำๆ เข้าไปในตัวบ้าน วางของอะไรแล้วก็หยิบมีดยาวออกมาจากครัว เดินลงไปที่สวนหลังบ้าน ซึ่งปลูกพวกพืชหัวกับผักสวนครัวบางอย่างเอาไว้ ตัดตะไคร้ออกมาสี่ห้าต้น แล้วหยิบเสียมไปขุดหัวไพลมาได้อีกสองหัวใหญ่ เป็นโชคดีที่มะกรูดที่ปลูกอยู่มีลูกสุกกำลังดีอีกสองลูก ก็เลยเด็ดติดมือมาด้วย จากนั้นผมก็เอาทั้งหมดกลับเข้าบ้าน แล้วขึ้นไปหาผ้าเช็ดหน้าเก่าๆ ในตู้ออกมาสองสามผืน
   ผมล้างแล้วหั่นสิ่งที่ผมเอามาจากส่วนหลังบ้านทั้งหมดจนละเอียด กลิ่นหอมจากน้ำมันระเหยของทั้งผิวมะกรูด และหัวไพลตลบอบอวลไปทั่ว จากนั้นผมก็แบ่งทั้งหมดเป็นสามกอง เอาใส่ผ้าเช็ดหน้า แล้วหยิบเชือกมัดของมารัดปากไว้ ก่อนจะเอาใส่ถุง
   เพราะไม่แน่ใจว่าที่ห้องของสุภาพงษ์จะมีหม้อนึ่งรึเปล่า ผมเลยหยิบซึ้งอันเล็กที่น้องสาวเคยซื้อมาไว้นึ่งขนมเล่นใส่ถุงผ้าไปด้วย ก่อนจะเดินไปหยิบของใช้จำเป็นอีกสองสามอย่าง รวมถึงเสื้อผ้าอีกชุด เตรียมของเสร็จแล้ว ผมก็ยัดทุกอย่างใส่ถุง ปิดบ้าน เดินไปโบกรถเมล์ที่หน้าซอย
   หวังว่าภูมิวัฒน์คงไม่ได้ซุ่มรถ ดูพฤติกรรมผมอยู่หรอกนะ ถ้าทำ ผมว่าผมควรพิจารณาตำแหน่งเพื่อนของเขาได้แล้วล่ะ
   ผมลงรถเมล์ แล้วเดินหิ้วถุงผ้ากลับขึ้นไปบนคอนโดฯของสุภาพงษ์อีกครั้ง พอเข้าไปก็เห็นว่าเขายังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง หน้าตาอย่างกับไปถูกใครอัดมาจริงๆ ทั้งที่ผมแค่ตบเขาไปสองหนเท่านั้น
   ผมมองอยู่พัก แล้วก็เลยเดินไปที่เตา หยิบหม้อมาต้มน้ำ แล้วก็นึกดีใจที่หยิบซึ้งมาด้วย เพราะห้องเขาไม่มีจริงๆ ผมวางลูกประคบที่ทำมาเองใส่ลงในซึ้ง แล้วปิดฝา จากนั้นก็เดินไปดูอาการเขาอีกรอบ
   เขาดูโทรมสุดๆ จริงๆ นะเนี่ย
   ผมอดไม่ได้ต้องถอนหายใจออกมา จะโทษใครดีล่ะ โทษเขาที่ปากพล่อยจนทำให้ผมเผลอลงไม้ลงมือได้รึเปล่านะ? แล้วแบบนี้จะถือว่าผมลงมือเกินกว่าเหตุรึเปล่า นึกหน้าคุณากรตอนเห็นเพื่อนแล้วพูดออกมาว่าถูกซ้อม ทำเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกัน ผมว่ามือผมก็ไม่ได้หนักมาก....
   แต่สภาพเขาดูแย่จริงๆ นั่นแหละ
   ผมปล่อยให้น้ำเดือดอยู่สักพัก ถึงปิดเตา แล้วสวมถุงมือทำครัว หยิบลูกประคบห่อผ้าพออุ่น เอาไปประคบแก้มช้ำๆ ของผู้ชายตัวใหญ่ที่นอนอยู่ในห้อง
   เขาหลับสนิทเหมือนเดิม ไม่สะดุ้งอะไรเลยด้วยซ้ำตอนที่ผมแตะลูกประคบลงไปบนใบหน้าเขา ผมอดลูบศีรษะเขาอีกครั้งด้วยความสงสารไม่ได้
   แต่... อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมอะไรกับเขานะ ผมแค่พยายามทำลายหลักฐาน... ขืนถ้าปล่อยให้เขาเอาหน้าบวมๆ แบบนี้ไปที่ออฟฟิศพรุ่งนี้ คนจะได้ถามกันให้ขวักน่ะสิ แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะตอบยังไง เพราะงั้น เพื่อความอุ่นใจ ผมรีบทำลายหลักฐานก่อนดีกว่า เดี๋ยวเกิดวันหลังไปที่ออฟฟิศ แล้วมีคนพูดว่าผมมือหนักเป็นยักษ์เป็นมารขึ้นมาล่ะก็ ผมได้ทำหน้าไม่ถูกแน่ๆ
   อีกอย่าง... ผมชอบดูหน้าสุภาพงษ์ตอนเกลี้ยงๆ มากกว่า... ก็แค่นั้นเอง
----------------------------------------------
   ผมผลัดลูกประคบมาประคบหน้าเขาจนเมื่อย เลยผละออกมา ถือวิสาสะเปิดโทรทัศน์ดูนั่นดูนี่ นั่งเขียนนิยายที่จะต้องส่งเขาตอนต่อไป แล้วก็แวะลงไปทานข้าว
   นี่ถ้าเขารู้ว่าต้นฉบับนิยายตอนใหม่ ผมเขียนในห้องเขา เขาจะดีใจรึเปล่านะ? แต่ว่า ผมไม่บอกเขาหรอก
   จากนั้นผมก็กลับขึ้นมา นึ่งลูกประคบ ประคมแก้มเขาอีกรอบ แล้วกลับมานั่งเขียนนิยายต่อ จนสักสามทุ่ม ผมเลยอาบน้ำ เตรียมจะเข้านอน
   เขายังหลับไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม เฮ่อ.... ผมนี่ก็จริงๆ เลยนะ รู้อยู่หรอกว่าเขาน่าจะหลับยาวไปจนถึงเช้า ก็ยังอุตส่าห์หอบเสื้อหอบผ้ามาค้างด้วยอีก ท่าทางผมจะขี้กังวลเพราะอายุซะแล้ว
   ผมปิดไฟ แล้วปีนขึ้นเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ พยายามขยับตัวชิดขอบเตียงมากที่สุด
   พรุ่งนี้ผมจะตื่นแต่เช้า แล้วรีบแว้บกลับบ้าน เขาคงไม่รู้หรอกว่าผมแวะมา...
   ผมแค่มาทำลายหลักฐานน่ะ...
----------------------------------------------
   
***ตอนนี้... อิจฉาโจ มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

โอ๊ย พี่นิตอ๊ะ พี่นิตอ๊ะ พี่นิตอ๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  :-[ (เริ่มพูดไม่เป็นภาษามนุษย์)

ตอนนี้นายกั้งกับคุณภูมิมีบทนิดหน่อย ฮ่าๆๆ เรื่องคู่นี้ยังเป็นโปรเจคระยะยาวนะคะ อาจจะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ ดูตามอารมณ์

แต่คุณภูมิแอบน่าสงสาร ที่จริงคุณภูมิหวังมาคืนดีตั้งแต่แวะมาจี๋เอวคุณพนิตแล้วล่ะ แต่ก็อย่างทีุ่คุณพนิตว่า... บอกช้าไปยี่สิบกว่าปี

คุณภูมิเลยอดเลย

ไม่เป็นไรนะคะ เด็กๆ รุ่นใหม่ยังมี ไม่อาร์ตเท่าคุณพนิต แต่ก็เร้าใจนะค้า~

ปล. ไม่แน่นะ... งานนี้โจหายแล้ว อาจจะอยากถูกตบซ้ำอีกก็ได้ ชอบให้พี่นิตมาทำลายหลักฐาน ฮ่าๆๆ :laugh:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ระวังนะดึกๆโจจะตื่นขึ้นมากินตับ  :laugh:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คุณพนิตออกแนวไม่ค่อยรับรู้ความรู้สึกของชายอื่นซักเท่าไหร่
เหมือนกับว่าตัวเองก็อายุขนาดนี้แล้ว  ผ่านวัยรักหวือหวาแล้ว
คงไม่มีใครมารักแล้วแบบนี้หรือเปล่า เลยไม่ค่อยรู้ว่าใครคิดอะไรกับตัวเอง

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
คู่นี้เราคงไม่มีหวังได้ยินคำบอกรักจากปากแน่เลย

ดูแต่การกระทำไปแล้วกัน

พี่นิตทำให้ขนาดนี้ ไม่รักก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว

pmnet

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ระวังตกดึกนะจ๊ะพี่นิต ทำลายหลักฐานไม่ทันหรอก 555

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ขำความซึนของพี่นิตจริงๆ 555  ตอนนี้ค่าตัวโจน้อยเหรอ  หลับอย่างเดียวเลย

โอ๋ๆๆๆ คุณภูมิไม่ต้องเสียใจ  นี่ไงน้องกั้ง สดใสร่าเริง แถมดูเคมีเข้ากั๊นเข้ากัน  :o9:


ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
ขำความซึนของพี่นิตจริงๆ 555  ตอนนี้ค่าตัวโจน้อยเหรอ  หลับอย่างเดียวเลย

โอ๋ๆๆๆ คุณภูมิไม่ต้องเสียใจ  นี่ไงน้องกั้ง สดใสร่าเริง แถมดูเคมีเข้ากั๊นเข้ากัน  :o9:

ฮ่าาาาา แอบมาเห็นด้วยค่ะ ท่าทางค่าตัวจะน้อยจริงๆ แต่เดี๊ยวกลับมาเม้นท์ใหม่นะคะ
พอดีอ่านในมือถือ มันเมนท์ไม่มัน ฮ่าาา
จับคอมก่อนจะมาเม้นท์อีกนะคะ



มาดิทแล้วค่ะ

ขอบอกตามตรงว่าตอนนี้รู้สึกว่าคุภูมิวัฒน์หน้ามึนเล็น้อยถึงปานกลาง ฮ่าาาาาาาาา
แอบคิดว่าคุณภูมิจะวางมือแล้วนะคะเนีย ถึงขั้นลงทุนโทรตามนายดโมาเฝ้าพนิตเนี่ย
แต่ไหงได้...พอคุณพนิตพลาดสายตาจากนายโจก็หันมารุกอีกแล้วว กรี๊ด!!!
ดีนะคะ ที่คุณพนิตสวย(?)แล้วดุ ฮ่าาา เลยทำให้คุณภูมิก็จ๋อยไปตามระเบียบ
แหม เข้าใจนะคะว่าเป็นคนพูดตรงทำจริง
แต่มาพูดในสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ไหว...ดีขนาดไหนคุณพนิตไม่วิ่งกลับเข้าไปเอาไม้ตะพดมาไล่ตะเพิดเพื่อนสนิท(สมัยก่อน) ที่จู่ๆมาขอจูบเนี่ย (พูดเองเขินเอง...คุณภูมิหน้ามึนได้ใจมากอ่ะ! ชอบบบบ)
แหมๆ ถ้าคุณภูมิ รู้ว่า คุณพนิตเคยพูดอะไรกับนายโจไว้..เรื่องครั้งแรก เรื่องจูบแรก..และจะทำกับโจคนเดียวเนี่ย
คุณภูมิคงลงไปแดดิ้นกับพื้นกันเลยทีเดียว..


ตัวทำให้รสชาติของตอนนี้มีสีสันอีกหนึ่ง คือ คุณคุณากร...หรือ กั้ง แฟนเก่าของนายโจ
โห เข้ามาทีมีหลายบทบาท ไม่ว่าจะบทบาทแฟนเก่านายโจ...บทบาทเพื่อนสนิทนายโจ...บทบาทที่สามารถทำให้คุณพนิตถลึงตา คิดอกุศลอยู่ในใจ ยกตัวอย่างเช่น อยากโยนออกนอกคอนโดไปเลย บทบาทฮาๆที่ทำให้คุณพนิตฮาด้วยไม่ออก อย่างเช่น...คิดว่าโจสลบเพราะโดนพี่นิตตบตี...

โอ๊ยยยยยย กั้งนี้เป็นบุคคลที่สุดแสนอันตรายของพี่นนิตจริงๆสินะคะงานนี้ ฮ่าฮ่า
แต่มีคนมาคอยจับทางปลาไหลของพี่นิต และอีกคนคอยดักทางปลาไหลของพี่นิต ร่วมกันนถึงสองคนแบบนี้
นายโจก็รุ่งสิคะงานนี้
ถึงแม้ว่าคนจับทางปลาไหลได้ หนึ่งในนั้น หวังจะงาบพี่นิตอยู่ก็ตามที
แต่รู้น่า ว่าคุณภูมิเค้าเป็นคนดี............(????)


ตอนนี้โจบทน้อย แอบเห็นด้วยที่ว่า สงสัยตอนนี้คุณจูออนจ่ายค่าตัวโจน้อย
เปิดเรื่องมาก็ "ครับ พี่นิต" นิดๆหน่อยพอเป็นพิธี แถมด้วยการยิ้มพิมพ์ใจพี่นิตอีกหนึ่งดอก แล้วหลับยาวววว
เห็นหลับยาวทั้งวันแบบนี้...กลางดึกมา อย่่ามาทำพี่นิตฝันแปลกๆนะ!

เพราะทางที่ดี ควรปลุกขึ้นมาแล้วอ้างว่าฝันแปลกๆด้วยกันเลยดีกว่า (อ๊ายยยยยย)

ตอนทที่อ่านถึงตอนที่คุณพนิตกลับบ้าน..แอบสงสัยอยู่เเหมือนกันค่ะ ว่าคุณพนิตจะทำอะไร
จะเขียยนนิยายต่อ หรือ จะกลับไปหาโจเลย

แต่ที่ร้ายกาจกว่านั้น คือหาสมุนไพรไปทำลูกประคบ อ๊ายยยยย
ยิ่งเห็นก้ยิ่งอิจฉานายโจ...ถ้าได้พี่นิตเป็นแฟนเนี่ย สุขสบายไปทั้งชาติ ทำอาหารก็เก่ง
แถมยังเป็นหมอยาสมุนไพรอีกด้วย(แต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้เลย อิอิ)

ว่าแต่ตอนนี้คุณพนิตกับโจยังไม่เป็นแฟนกันสินะคะ...
อ่ายังไม่เป็นก็ยังไม่เป็น (อุตส่าห์ทำใจเชื่อกับคำพูดของคุณพนิตนะคะเนี่ย อ๊ายยย ><)

ยังไม่เป็นก็ดีค่ะ ขนาดยังไม่เป็นยังคอยดูแลเฝ้าไข้แบบถึงเนื้อถึงตัว
แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว...จะถึงไหนล่ะคะเนี่ย?? อ๊ายยยยยยย


ติดตามเรื่องนี้เสมอค่ะ สู้ๆนะค้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2012 09:54:55 โดย ryoko_chan »

vi2212

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
กรี๊ดดดดดดดดด
มันเขินมากจริงๆ งื้ออออ
อะไรยังไง ไม่ทนนะคะ
แต่คุณวัฒน์ รู้ใจพี่นิต จริงๆเลย
แต่ช้าไป 20 ปีจริงๆนะะ
เหอะๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ไม่ต้องบอกรักก็ได้

แค่ดูแลกันไปนานๆอย่างนี้ก็พอแล้ว  :o8:

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
อ่านแล้วอิ๊อ๊างมากเลยตอนนี้

เพี้ยงง คุณพนิตตื่นไม่ทัน กลายเป็นหมอนข้าง

อิอิ :m13:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คุณพนิตนะคุณพนิต จะพูดออกตัวอะไรนักหนาคะ ตอนนี้คุณพูดออกตัวตลอดตอนเลยนะคะ
แค่คุณทำตามความรู้สึกห่วงหาอาทรโจแค่เนียะ ไม่มีใครเขาว่าหรอกค่ะ
แน่ะไม่ต้องมาถลึงตาใส่กลบเกลื่อนความเขินเลยจ้า
กั้งกับคุณภูมิวัฒน์ จะมีโอกาสปิ๊งกันปะคะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
คุณพนิตออกแนวไม่ค่อยรับรู้ความรู้สึกของชายอื่นซักเท่าไหร่
เหมือนกับว่าตัวเองก็อายุขนาดนี้แล้ว  ผ่านวัยรักหวือหวาแล้ว
คงไม่มีใครมารักแล้วแบบนี้หรือเปล่า เลยไม่ค่อยรู้ว่าใครคิดอะไรกับตัวเอง
คุณพนิตเป็นคนไม่สนใจโลกค่ะ ออกแนว สนใจแต่(สิ่งที่)ตัวเองชอบ เลยไม่มีทางคิดหรอกว่าคนอื่นจะชอบตัวเอง..

พี่นิตแกอาจจะจิ้นได้ แต่แกคงไม่ปักใจเชื่อเด็ดขาด (ตามประสาคนผ่านอะไรมามากแล้ว??)

แต่คนชอบแกเยอะเหมือนกันแหะ ฮ่าๆ

คุณพนิตนะคุณพนิต จะพูดออกตัวอะไรนักหนาคะ ตอนนี้คุณพูดออกตัวตลอดตอนเลยนะคะ
แค่คุณทำตามความรู้สึกห่วงหาอาทรโจแค่เนียะ ไม่มีใครเขาว่าหรอกค่ะ
แน่ะไม่ต้องมาถลึงตาใส่กลบเกลื่อนความเขินเลยจ้า
กั้งกับคุณภูมิวัฒน์ จะมีโอกาสปิ๊งกันปะคะ

ตอนนี้มีแต่คุณพนิตแล้วล่ะค่ะ ที่พยายามกันตัวเองอยู่คนเดียว..

คนอื่นเค้ารู้ไต๋กันหมดแล้ว (กระทั่งนายโจ?!)

ปล. กั้งกับคุณภูมิ มีโอกาสปิ๊งกันค่ะ แต่เนื้อหาของคู่นี้ ถ้าเีขียน มันคงเป็นแนว "ลับ ลวง พราง" อยู่สักหน่อยค่ะ ฮ่าๆ เนื้อหาคงไม่ธรรมดาอย่างคุณพนิตแน่ๆ (ดูจากนิสัยของทั้งคู่+คนเขียน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2012 14:26:25 โดย juon »

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
อยากให้โจตื่นมาเร็ว ๆ จะได้เห็นพี่นิตตอนนอน ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่โดนตบจนบวมช้ำและกันเนอะ ^^

ออฟไลน์ taran

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กิ้ววววววววววว พี่นิตน่ารักอะ ฮ่าๆ  ๆ ๆ ๆๆ ๆ ๆ ๆ

เข้าใจกันได้แบบนี้ก็หายห่วงแล้วล่ะ ^^

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
คุณพนิตากแข็งงงง!!! ฮาาาาา มาทำลายหลักฐานคิดได้~

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ฮาตรงที่ถ้าโจจะเอาคืน พี่นิตคงจะปลิวติดฝาอ่ะ :laugh:
บรรยายซะเห็นภาพเลย
ตอนนี้พี่นิตแอบซึนเล็กๆนะ :o8:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :jul3: พี่นิตช่างทำลายหลักฐานได้....เอ่อ.....นั่นแหละ
อ่านไปแล้วไม่รู้จะอิจฉารึสงสารน้องโจดีน่ะตอนนี้(ฮา)

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
กิ๊บกิ้วๆๆๆๆๆๆๆ แหม่ความรักของคนสูงวัยนี่มันก็วาบหวามดีเหมือนกันนะ อิอิ

RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
มาทำลายหลักฐาน?? :laugh:
มาบ่อยๆน่ะ เพราะโจคงชอบ




ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
พี่นิตก็ซึนไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ 555 แค่มาทำลายหลักฐาน เชื่อก็ได้ค๊า ไม่ได้มาดูแลน้องโจเนอะ
พี่ภูมิกับนายกั้งจะมีอิอะกันไหมเนี๊ย ดูเข้าขากันเหลือเกิน

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ท่าทางจะมีคู่พระรองเกิดใหม่มาอีกหนึ่งคู่นะค่ะเนี่ย



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด