♣♣♣♣♣
โรงอาหารกลางไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยครับ คนเยอะอย่างไรก็คนเยอะอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง นี่เดินมาหลายก้าวแล้วยังหาที่นิ่งไม่เจอเลย
“มึง...เดินย้อนไปกินที่คณะดีมั้ย” ผมถามเพื่อนอีกสามชีวิตที่เหลือ ซึ่งคนแรกที่ตอบผมเป็นไอ้กล้า
“ไม่เอาเว้ย กูขี้เกียจกลับไปแล้ว ต้องเรียนที่นี่ต่อจะเดินไปให้เหนื่อยเพื่อ?” ก็มันไม่มีที่นั่งไงมึงงง มึงจะนั่งพื้นเลยมั้ยล่ะ
“งั้นมึงก็ไปหาที่นั่งมากล้า” โจมมันสั่งเสียงเข้ม เพราะคนเยอะตอนนี้มันเลยหงุดหงิดแล้วด้วย กล้าต้องวิ่งแจ้นไปหาที่ว่าตามคำสั่งมัน
ระหว่างที่ผมกำลังสอดส่ายสายตาหาที่นั่งให้ตัวเองและเดอะแก๊งอยู่นั่นสัมผัสหนักๆ ที่ไหล่ก็เกิดขึ้น พอหันไปมองก็พบว่าเป็นคนที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อเช้าและเพื่อนของเขา…
เอื้อ พี่เดียว และ...พี่ฟิ้ง
เฮ้ยยยยย เฮ้ยยยย พี่ฟิ้งจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย ตัวเป็นๆ ที่ส่งยิ้มมาให้ผมใช่มั้ย
“พี่เดียว พี่ฟิ้งหวัดดีครับ”
“ทำไมไม่หวัดดีพี่มั่งอ่ะ” เอาเลยครับ ความกวนตีนนี่ไม่มีใครเทียบกับพ่อเดือนมหา’ลัยคนนี้ได้ ที่เอื้อมันได้ตำแหน่งนี้คงเพราะน่าตาดีอย่างเดียวแน่นอนครับ ถ้าเขาพิจรณานิสัยมันคงตกรอบแรกเลย ฮาาา (อย่าเอาไปบอกมันนะ)
“อยากเป็นแค่พี่เหรอ” พอตอบกลับไปแบบนี้คนถามยิ้มแป้นเลยครับ
“ไม่อยากเป็นพี่ อยากเป็นอย่างอื่นอ่ะ เมื่อไหร่จะได้เป็น” เสี่ยวไม่ดูเวล่ำเวลาเลยนะพ่อคุณ
ผมเลือกที่จะไม่ตอบมันก่อนจะสะกิดโจมกับฟ้าให้หันมาทำความรู้จักกับรุ่นพี่ทั้งสองคนที่ยืนหล่ออยู่ข้างหลัง โจมมันเลิกคิ้ว จ้องหน้าเอื้ออยู่เกือบนาทีจนผมคิดว่ามันจะไม่ไหว้เอื้อแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยกมือขึ้นมาสวัสดีจนได้ (นึกว่ามันจะมีเรื่องกันเสียอีก)
“พวกมึง กูได้ที่แล้ว...อ้าว” ไอ้กล้าที่หันมาเรียกชะงัก ตามันเบิกกว้างกว่าปกติเล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือขึ้นไหว้ “หวัดดีครับพี่”
เอื้อไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ ผิดกับพี่เดียวที่ส่งยิ้มคืนมาให้ แหม อยู่กับคนอื่นนี่มาดเข้มตลอดเลยนะครับ นี่คนหรือกาแฟดำ เข้มได้ใจจริงๆ
ผมแนะนำพี่เดียวกับพี่ฟิ้งให้เพื่อนๆ รู้จัก ไอ้กล้านี่มองพี่ฟิ้งตาค้างไปเลยครับ เหอะๆ ระวังโดนฟ้าโบกหัวนะมึง “ไหนอ่ะโต๊ะที่มึงบอก เอื้อกับพี่ๆ เขาจะนั่งด้วยนะ” ผมถามไอ้กล้า มันทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย
“ตรงนั้นอ่ะมึง” แน่ะ ยังมีการส่งสารตาให้พี่ฟิ้งด้วยครับ เดี๋ยวฟ้าได้โบกหัวมึงเข้าให้จริงๆ หรอก
ไอ้กล้ากับไอ้ฟ้าเดินนำคนอื่นไปที่โต๊ะที่มันชี้บอกเมื่อกี้ ผมกับเอื้อเดินรั้งท้ายของกลุ่ม ตามหลังพี่เดียวกับพี่ฟิ้ง ตอนนี้ต่อมเสือกทำงานแล้วครับ
“เอื้อๆ พี่เดียวกับพี่ฟิ้งเขาดีกันแล้วเหรอ” อยากรู้มาก จำได้ว่าสองคนนี้ทะเลาะกันแรงอยู่ ถ้าผมเป็นพี่เดียวคงงอนพี่ฟิ้งอีกนาน
“อือ ฟิ้งมันไปขอโทษเดียว ตอนนี้เลยกลับมาเป็นดรีมธีมเหมือนเดิมแล้ว” พูดแล้วก็ยักคิ้วกวนๆ มาให้ แต่ผมรู้ว่าจริงๆ เอื้อดีใจมากขนาดไหนที่เพื่อนกลับมารวมตัวได้แบบนี้
พอเดินมาถึงโต๊ะ วางกระเป๋าได้ผมก็นั่งลง ฟ้านั่งข้างโจม ไอ้กล้าสะเออะนั่งข้างพี่ฟิ้งคนน่ารัก ผมกับเอื้อนั่งข้างกันและอีกข้างหนึ่งของผมเป็นพี่เดียว
“ไอ้เดียวมึงไปนั่งฝั่งโน้นเลย” ปัญหาเยอะจริงนะ
“กูจะนั่งตรงนี้...มีปัญหาป่ะ” พี่เดียวนี่ก้ขยันกวนเอื้อใช่ย่อยเหมือนกันนะครับ
“งั้นปูนเปลี่ยนที่กับพี่”
“อย่าเยอะดิเอื้อ” ผมฉุดมือมันที่กำลังจะลุกให้นั่งลง “พี่เดียวก็อย่าแกล้งเอื้อสิครับ”
“เดี๋ยวนี้ดุพี่เหรอปูน...ใช่สิ พี่มันไม่สำคัญแล้วนี่” อะไรคือการที่พี่ตีหน้าเศร้าครับ เชิญพี่ไปอยู่กับไอ้กล้าเลย มีไอ้บอยอีกคนคงตั้งทีมนักแสดงได้ล่ะ เจ้าบทบาทกันเหลือเกินแต่ละคน
“มึงไม่สำคัญตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก” ได้ทีเอื้อมันล่ะครับ
“พวกมึงเลิกเถียงกันเถอะ ไม่อายน้องหรือไง” นั่นไงล่ะโดนพี่ฟิ้งดุเข้าให้ พี่เดินเลยสะบัดหน้าไปนั่งอีกฝั่งกับไอ้กล้าแทน ผมก็อยากจะตามไปง้อนะ แต่ติดว่าขี้เกียจครับ
ทุกคนทะยอยกันไปซื้อข้าวและไม่นานก็กลับมารวมตัวกันใหม่ พวกเราพยายามเลือกอาหารที่รวดเร็ว และไม่เรื่องมาก หิวมากครับตอนนี้ กินวัวได้ทั้งตัวแล้ว
พี่ฟิ้งสาละวนอยู่กับการเปิดชวดน้ำอยู่นานสองนานจนเอื้อทนไม่ไหว “กูเปิดให้มั้ยฟิ้ง”
“เออเอาดิ” พี่ฟิ้งส่งขวดน้ำมาให้ พี่เขามือเล็กกว่าเอื้อมากครับถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกัน และด้วยความแข็งแรงเกินคน มันก็เปิดขวดน้ำได้อย่างง่ายดายในการบิดครั้งแรก
“มึงแม่ง ไม่เคยเปิดได้เลย”
“ก็มีมึงเปิดให้แล้ว” ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้กับบทสนทนาเมื่อกี้ ไม่ได้แปลกกับเอื้อแต่แปลกกับพี่ฟิ้ง แปลกแบบหาคำอธิบายไม่ได้ สายตาที่มองเอื้อเหมือนมีอะไรแอบแฝง
“มองแบบนี้อยากให้พี่เปิดให้บ้างเหรอ”
“ไม่ต้องหรอก เปิดเองได้” แต่ไม่ทันครับ เอื้อเอาขวดของผมไปถือแล้วเปิดออกพร้อมใส่หลอดมาให้เรียบร้อยแล้ว
ไอ้กล้าจ้องมองอยู่นานแล้วเบ้ปากเลยครับ มันคงคันปากอยากจะแซวเต็มทนแต่ไม่กล้า
“ทีกูไม่เคยเห็นดูแลแบบนี้บ้างเลย” ไม่ต้องถึงมึงหรอกกล้า พี่เดียวเขาจัดให้แล้ว
เอื้อมันลอยหน้าลอยตาไม่สนใจอะไรแล้วตักข้าวกิน ผมเลยไม่สนใจแล้วกินข้าวบ้าง ผมกลัวว่าเพื่อนๆ ผมจะเกร็งที่อยู่ๆ เอื้อกับพี่เดียวมานั่งด้วย แต่ผ่านไปห้านาทีเท่านั้นแหละ…
“พี่บอกไม่เอาคะน้าไง” เอื้อมันเขี่ยผักในจานไปมา เด็กน้อยมากครับ เลือกกินยิ่งกว่าผมอีก
“ก็ลืมบอกอ่ะ เอามาให้ก็ได้เดี๋ยวกินเอง” ทำไงล่ะของผมก็โคตรเยอะเลย ถ้าเอามาอีกได้กลายเป็นข้าวผัดผักคะน้าแทนไก่แน่นอน
“เอามาให้กูก็ได้เอื้อ ของน้องผักเยอะแล้ว” ผมชะงัก เอื้อก็ชะงักมือที่กำลังจะตักผักส่งมาให้ผมแล้วเปลี่ยนไปให้พี่ฟิ้งแทน ดีเลย ผมขี้เกียจเคี้ยวผักเหมือนกัน เส้นใยอาหารผมได้รับพอแล้ว
“ขอบคุณครับพี่ฟิ้ง นี่ถ้ากินอีกนิดจะกลายเป็นสัตว์กินพืชไปแล้ว”
“งั้นปูนเอาไก่ไปด้วยแล้วกัน กินเยอะๆ จะได้โตๆ สักที”
“ไม่เอา...แค่นี้ก็จะล้นจานแล้ว” ทั้งที่ในจานตัวเองก็มีไม่กี่ชิ้นแท้ๆ ยังตักมาให้ผม มันต้องไม่อิ่มแน่ ปกติกินจุอย่างกับหมู
และแล้วเสียงนกเสียงกาก็ดังขึ้น...
“พี่เดียวครับ เอาเส้นก๋วยเตี๋ยวของผมไปกินมั้ยครับ พี่จะได้โตไวๆ” เหอะๆ จ้าเอาเลยจ้า
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวกล้ากินไม่อิ่ม”
“ไม่เป็นอะไรครับ ผมอยากดูแลพี่ให้ดีๆ มากกว่า”
“งั้นมึงเอามาให้กูทั้งชามเลย หิวฉิบหาย”
“เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่แล้วครับพี่ มันต้องไม่เป็นแบบนี้ดิ!” ไอ้กล้าแย่งชามก๋วยเตี๋ยวที่พี่เดียวดึงไปกลับมา สองคนนี้เหมือนกันจริงๆ นะให้ตาย เรื่องที่พวกนี้เข้ากันได้ดีที่สุดคงเป็นการแซวผมกับเอื้อมันแหละครับ
“เอ้า ก็กูหิวนี่หว่า” พี่เดียวพูดขึ้นขำๆ “แต่ปูนก็ผอมไปจริงๆ นะ กินเยอะๆ นะครับ เอาหมูของพี่เพิ่มมั้ย”
ผมกรอกตา พี่เดียวนี่ก็ขยันแกล้งเอื้อจังเลยครับ เพื่อนพี่ก็มีอยู่แค่มันนะ ถ้ามันไม่คบพี่แล้วพี่จะทำยังไงครับ
“เชี่ยเดียว หลายครั้งแล้วนะมึง”
“ล้อเล่นขำๆ” พี่เดียวยิ้มแป้นจนผมอดขำไม่ได้
“พี่เอื้อนี่ก็ขี้หวงเหมือนกันนะครับ อย่างนี้แหละเขาถึงว่าผู้ชายเจ้าชู้ถ้ามีแฟนจะขี้หวงมากกก” ฟ้าพยักหน้าเออออกับตัวเองเสร็จสรรพ มึงกล้าวิจารณ์คุณชายเอื้ออย่างไม่กลัวตายเลยนะ!
มึงดูหน้าไอ้เอื้อด้วยครับฟ้า...แม่งจะแดกหัวมึงอยู่ล่ะ
“แหะๆ ผมล้อเล่นครับพี่ ยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่นา”
“...” เดดแอร์เลยครับ หน้าพวกผมอย่างอึ้งอ่ะ ฟ้ามึงก็กล้าพูดเกินไป เอื้อมันหักคอมึงกูไม่รู้ไม่เห็นนะ
“หึๆ พูดได้ดีนะฟ้า” พี่ฟิ้งหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะตามด้วยพี่เดียว
“ฮาาา น้องฟ้าแม่งตรงดีว่ะกูชอบ แม่งน่ารักด้วยอ่ะ ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ พี่ชื่อเดียวนะ เรียนเภสัชฯ พี่ไม่มีเวลาแต่มีอนาคตให้นะครับ” อะไรพี่เดียว พี่จะเปิดศึกกับไอ้กล้าอีกรอบเหรอ
“หยุดเลยครับพี่เดียว ไอ้ฟ้ามันเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น” ว่าแล้วเจ้าของตัวจริงก็ตวัดแขนโอบไอ้ฟ้าเข้าหาตัวเอง แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มึงยังมองพี่ฟิ้งอยู่เลย “เมียจ๋า มึงก็ปฏิเสธเขาหน่อยสิ เขาอ่อยมึงอยู่นะ!”
“กูไม่ใช่เมียมึง!”
“ไม่ต้องอายหรอก เขารู้กันหมดแล้วแหละว่ามึงเป็นเมียกูเนี่ย...ปูน ถ้าอยากศึกษาว่าหน้าที่เมียทำยังไงถามไอ้ฟ้าได้นะ มันรู้งานดี”
ไอ้เชี่ยกล้า!
“หุบปาก!” ผมกับไอ้ฟ้าพูดพร้อมกัน
“แหมๆ พูดแค่นี้หน้าแดงเลยนะครับ” เชี่ยกล้า กูเกลียดมึง!
“เรียนรู้ไว้บ้างก็ดีนะปูน...หน้าที่ ‘เมีย’ เนี่ย” เอื้อมันพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ที่ผมคิดว่ามันโคตรมีเสน่ห์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้!
ว่าแต่ ‘หน้าที่เมีย’ บ้านมึงสิครับ!!
“ดีใจด้วยนะปูน เจ็บหนักแน่มึง” ถ้ามึงจะไม่พูดอะไรก็ไม่ต้องพูดเลยไอ้โจม ไม่ต้องอยากมามีส่วนรวมเลยไม่เห็ดสด!
“ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ พี่จะอ่อนโยนที่สุด ปูนไม่เจ็บมากหรอกครับ”
“ฮั่นหน่อวววววววววว นี่เพื่อนผมครับเพื่อนผมมม” รู้แล้วว่าเพื่อนมึงอ่ะพี่เดียว จะตะโกนทำซากเหรอ!
“เหอะ เป็นแฟนให้ได้ก่อนเถอะครับ เรื่องอื่นอย่าเพิ่งหวังเลย…” ผมส่งยิ้มให้เอื้อ ยกมือขึ้นตบคางมันเบาๆ เป็นการหยอกล้อ “ระวังจะผิดหวังนะครับ”
“หูยยยยยยยย”
“เพื่อนผมครับพี่เพื่อนผม”
“ไอ้เอื้ออย่าจ๋อยดิวะ มึงต้องสู้เขา!”
“สู้เหี้ยไรล่ะ เดี๋ยวเขาก็ให้กูหวังเก้อหรอกมึง”
หึหึ อย่ามาแหยมกับพี่ปูนครับบอกเลย!!
=======================================================
=========================================
อย่ามาแหมยกับสุดหน่อยของเดี๊ยนค่ะ เพราะพี่ปูนน่ากลัวมากก 5555
ขอบคุณนะคะที่ติดตาม จูบบบบบ