>>ตอนที่ 2 [100%]<<
“ฮ่าๆ ไอ้สัตว์ โคตรจี้...มึงแม่งเสือกตั้งชื่อหมูได้แบบ...เป็นกู กูก็แกล้งมึง” มาถึงโต๊ะ ผมเอาความรักยัดใส่กระเป๋า ปิดซิปให้โพล่ออกมาแต่หัว จากนั้นปล่อยให้มันมองผมด้วยสายตาอาฆาตแค้น สวนไอ้วิ่งแม่งยังขำไม่เลิก ไม่เว้นกระทั่งไอ้พีช
“พอเลยสัตว์ ขำกูอยู่นั่น อับอายฉิบ...กูไปทำไรให้พี่แกไม่พอใจวะ คราวก่อนนะเว้ย กูทำความรักหาย กูก็ไปเคาะห้องแล้วถาม พี่แกด่ากูเป็นชุดเลย ไม่ถามกูสักคำว่าความรักคืออะไร ไม่ฟังกูด้วย กว่าจะรู้ว่ากูมาตามหมูกูก็นู้น....ด่าจนกูตายไปหลายรอบ แม่ง...เจ็บใจ แต่ทำไรไม่ได้” นั่งยัดข้าวเหนียวเข้าปากด้วยความคับแค้น อยากร้องไห้ให้มันรู้แล้วรู้รอด
“ก็ดูชื่อหมูมึง...” พยายามหยุดขำให้ได้นะไอ้วิ่ง ไม่งั้นเตะเปรี๊ยงเลยฟาย
“อีกอย่างนะเว้ย พี่แม่งเป็นคนขี้แกล้งอยู่แล้ว...เด็กในฟลอโดนกันทุกคนแหละ มึงอย่าซีเรียส คนอื่นเขาก็มองขำๆ เด็กชมรมนี้แกล้งกันแรง” มึงกำลังพูดเพื่อไม่ให้กูคิดมากสินะพีช รักมึงจริงๆ เลยเพื่อนยาก
“จริง พวกบีบอยหน้าด้าน...ส่วนใหญ่แกล้งแบบนี้ไม่สะเทือนหนังหน้าหรอก แต่พอเป็นมึง มันเลยตลกอะ สีหน้าแบบ...กูตายแน่ๆ โคตรจี้นะจริงๆ” แล้วมึงก็ขำซ้ำเข้าไปอีกรอบ ผมละอยากฆ่าไอ้วิ่งทิ้ง
“พวกมึงไม่เป็นกู พวกมึงไม่รู้หรอก” ผมว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ส่งสายตาเคืองขุ่นให้ความรัก
“เออ มึงไม่เป็นกูมึงก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนกูเข้ามาเต้นที่นี่แล้วเล่นโฟล์คิงกับพวกพี่ๆ กูโดนสั่งเด้าพื้นเป็นชั่วโมง ไอ้เชี่ย....อายจนไม่รู้จะอายยังไง” ผมมองหน้าไอ้วิ่งอึ้งๆ มีงี้ด้วยเหรอวะ...สั่งเด้าพื้นท่ามกลางสายตาประชาชีเนี่ยนะ
“กูโดนสั่งให้ถอดรองเท้าข้างหนึ่งมาคุยต่างโทรศัพท์ แล้วคุยเสียงดังๆ เดินไปเดินมาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน คนถ่ายรูปกูเพียบเลย” ผมเริ่มสยองแล้วล่ะ ไอ้พีชนี่ก็ได้ประสบการณ์เลวเหมือนกันนะ
“ทำไมต้องแกล้งกันอย่างนั้นวะ ทำให้คนอื่นอับอายเนี่ยนะ..ไม่ดีเลยวะ” ว่าไปอย่างที่คิด
“มองมุมคนนอกก็ใช่เว้ย แต่ถ้ามองมุมคนใน...มันก็เพื่อให้เด็กไม่กลัวคน ไม่อายคน เวลาเราเต้น เวลาเราขึ้นเวที มันก็จะสนุกสนานกับสิ่งที่ทำ ไม่มากังวลหรืออายจัง อายจังเลย...” ท่ามึงกระแด๊ะมากวิ่ง เกือบจะมีสาระอยู่แล้ว ถ้าไม่เอามือมาประกบหน้าตัวเองแล้วเอียงอายอยู่นั่นแหละ
“แต่กูไม่ได้เป็นบีบอย...”
“เขาอาจไม่รู้ไง ก็แกล้งไปตามประสานั่นแหละ มึงก็อย่าซีเรียส อย่างมากคนก็จิ้นกัน แค่นั้น แฟนคลับพี่ท่านไม่มาตบมึงหรอก” พีชบอกสบายๆ แต่กูเริ่มไม่สบายตรงคำว่าแฟนคลับ ไม่รู้ว่าคนนี้มีกะเขาด้วย
เคยเห็นในโซเชียลอะครับ พวกแฟนคลับแม่งโหดยิ่งกว่าซอมบี้บุกเมืองซะอีก เกิดโดนระรานทำไง ไปเรียกร้องค่าเสียหายจากพี่ท่านได้ไหมวะเนี่ย ฮึ้ย...เจ็บใจ อยากเอาคืน แต่ไม่รู้จะเอาคืนยังไง ตัวเองก็ไม่ใช่คนสู้คน แง่งๆ หันไปแค้นความรักแทน มันเนี่ยตัวดี ทำให้ผมต้องมาเจอคนอย่างพี่มะเดี่ยวแกล้ง ถ้าไม่ใช่เพราะมันหนีไปทางพี่มะเดี่ยว ผมก็ไม่โดนแกล้งแบบนี้หรอก
“ไปซ้อมเต้นกับกูปะ วันนี้เขาให้ซ้อมๆ กันไปก่อน พรุ่งนี้ถึงลงทะเบียน” วิ่งกับพีชกินเสร็จแล้ว ใช่สิ มันกินกันเอร็ดอร่อย ในขณะที่ผมโดนพี่เขาแกล้งอยู่นี่นา
“ไม่ละ กูเต้นไม่เป็น”
“เดี๋ยวพวกกูสอนก็ได้” พีชว่าเสริม แต่ผมก็ยังส่ายหน้า
“ขอนั่งดูเหอะ”
“ตามใจ” แล้วมันสองคนก็กอดคอกันเดินไปที่กลุ่ม ไม่ได้อยู่ไกลหรอกครับ นั่งตรงนี้ก็เห็นชัดทุกคนนั่นแหละ แล้วทุกคนก็สามารถมองมาทางนี้ได้ชัดเหมือนกัน
ผมยังกินข้าวอยู่ กินด้วยความเฉื่อยชาไม่เร่งรีบ สายตาก็จับจ้องเพื่อนๆ ไปด้วยกัน วิ่งและพีชเข้าไปหาพี่มะเดี่ยว พวกเขาคุยอะไรกันไม่รู้ แต่ดูเฮฮากันจริงๆ มีเมียงมองมาทางนี้ ต่อให้ไม่มีสัมผัสที่หก ผมก็รู้ว่าพวกเขากำลังนินทาผมอยู่แน่ๆ อย่าให้ผมต้องส่งความรักไปสอดแนมนะ ไม่ได้ดิ....ความรักมันเหมือนจะชอบๆ พี่มะเดี่ยว ขืนส่งไปก็เข้าข้างทางนั้นพอดี
“อู๊ดดดด”
“เงียบไปเลยนะ แกน่ะทำให้ป๊าต้องโดนแกล้ง เพราะฉะนั้นอยู่ในนั้นไปห้ามประท้วง” ชี้หน้าดำๆ ของความรัก แต่มันตาขวางใส่
“อู๊ดๆ อู๊ดดดดด”
“เถียงเหรอ เดี๋ยวนี้มีหัดเถียง ใครสั่งใครสอน ป๊าไม่เคยสอนให้เถียง...เป็นหมูให้อยู่เงียบๆ อยากโดนเฉือดไหมหืม อยากโดนย่างสดสินะ” ทำตาโหดๆ ใส่ความรัก มันพยายามหดคอเข้ากระเป๋า แต่เข้าไปไม่ได้ ติดซิป
“คร่อกๆ...” ถึงจะดุใส่ แต่ความรักไม่ย่อท้อในการโต้เถียง นี่ควรดีใจไหม หมูที่เลี้ยงมากับมือกำเริบเสิบสานใส่ขนาดนี้
“ฮึ่ม...” ผมหยิบมันขึ้นมาทั้งกระเป๋า วางความรักลงกับโต๊ะหินอ่อน ดึงตัวกระเป๋าลงแล้วงับลงไปที่กลางตัว ไม่ได้งับแรงนะอย่าตกใจ ผมชอบลงโทษมันแบบนี้ กัดมันแล้วมันก็หมอบลง
“ให้รู้สะบ้างใครเป็นใคร นี่ป๊านะ...ห้ามเถียงป๊ารู้ไหม” ความรักสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง มีงอน มีไม่มองหน้า แต่ผมไม่ง้อตอนนี้ ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกหน่อยว่าไม่ควรเถียงกับคนที่เลี้ยงมันมา
ผมปล่อยความรักนอนหมอบอยู่ตรงหน้า ไม่ยอมหันหน้ามาทางผมด้วย แต่ท่าทางที่นิ่งสนิทแบบนี้คงจะหลับไปตามเคย กินกับนอนคือหมูจริงๆ ครับ...หมูล้วนไม่มีหมาผสมเลย ผมกลับมานั่งกินข้าวต่อ มัวแต่เล่นข้าวปลากินไม่หมดเสียที
กลุ่มบีบอยเขาซ้อมกันแปลกๆ กระจัดกระจายกันเป็นกลุ่มๆ บางจุดก็เต้นกันเป็นคู่ ส่วนเพื่อนผมสองคนนั้นตอนนี้กำลังซ้อมท่าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ หมุนๆ กันใหญ่เลยแหะ ผมเคยดูบีบอยจากในคลิป หรือแม้กระทั่งดูเพื่อนในโรงเรียนเต้น ผมว่ามันก็น่าสนุกดี แต่ดูยากมาก เอาแต่หมุนๆ แค่ดูก็งงแล้ว ผมไม่มีความคิดที่จะเต้นอะไรอย่างนี้ นึกสภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะไปหัดเต้นแบบนั้นได้ยังไง...
พี่มะเดี่ยวแกยืนคุมเพื่อนผมทั้งสองคน ทำท่าทำทางและบางทีก็เต้นให้ดู พี่เขาเต้นสวยมาก ถึงผมจะไม่เข้าใจอะไรเลย ทว่ากลับรู้สึกชื่นชมในท่าทางการเต้น การออกลีลาของพี่เขามาก เมื่อกี้คิดว่าวิ่งกับพีชเต้นดีแล้ว พี่แกดีกว่ามากๆ อะ
ผมละสายตาจากพวกเขา เอาถุงและขยะเดินไปทิ้ง ถังมันอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องกลัวว่าความรักของผมจะหายไป เสร็จแล้วกลับมานั่งมองดูเขาเต้นกันต่อ ความรักหลับใหลสบายใจเฉิบ อิ่มแล้วก็อยากนอนมั้งเหมือนกันนะเนี่ย ผมเอานิ้วเกลี่ยไปตามหน้าผากเจ้าความรัก ปากบอกจะกินมัน แต่จริงๆ ผมรักมันมากนะ ถ้าไม่มีมันผมคงเหงามากเลย อยู่กันมาก็พักใหญ่แล้ว...หกเดือนได้ละมั้ง ความรักมันโตขึ้นเรื่อยๆ และถึงมันจะตัวใหญ่ขึ้น มันก็ยังน่ารักอยู่ดีในสายตาของผม
เกลียดอย่างเดียว...น้ำลายมันอะ
เวลามันหิวน้ำลายมันจะเยิ้ม หรือมองแอปเปิ้ลอยู่ในมือผมดีๆ น้ำลายก็ยืดหนืดลงบนพรมในห้อง ผมนี่แทบจะเปลี่ยนพรมนุ่มๆ เป็นพรมผ้าใบเลย ดีที่ความรักเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายกินง่าย แล้วก็รักสะอาดกว่าหมูที่เลี้ยงกันในฟาร์มทั่วไป ผมเลยไม่ได้ลำบากมากนักที่จะดูแลสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้ ที่สำคัญแล้วผมก็ชอบมาก มันไม่เห่า...
หมามันก็น่ารัก แต่คุณต้องมาลองอยู่กับหมาตั้งแต่เกิดอย่างผมสิ คุณจะรู้ว่ามันน่ารำคาญเหมือนกันนะ มันรักเราอะมันรัก รักมาก รักปานจะเดินตามดมตูดกันไปทุกที่ ซึ่งบางทีผมก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น หมาที่ครอบครัวผมรักมากๆ และเลี้ยงประจำในบ้านมีหกตัว เป็นไซบีเรียและอลาสกัน หมาตัวใหญ่ ไซซ์เบิ้ม โดนหกตัวรุม ผมสูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ก็แทบล้มนะครับ
นั่นแหละ...เลยเบื่อหมา แมวก็ไม่ชอบ เคยโดนแมวตบหน้าเลยแค้นมันตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ แต่น้าบอยค่อนข้างชอบแมว เพราะเบื่อหมาเหมือนผมเลย แค่หันไปชอบคนละสปีย์ชี่เท่านั้น
“มองมันแบบนั้น ไม่ใช่ว่ากำลังคิดเมนูที่จะเอามันไปทำหรอกนะ” โอ้ยตาย แทบสะดุ้งตกม้านั่ง ใครสั่งใครสอนให้พี่เข้ามาไม่สุ้มไม่ใช่เสียงวะเว้ยเฮ้ย
“ก็...ประมาณนั้น” พี่มะเดี่ยวแกนั่งลงฝั่งตรงข้าม คิดว่าแกเข้าใจผิด แถมยังเข้าใจผิดแบบเป็นตุเป็นตะอีกต่างหาก แต่ผมไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจของแกให้ถูกหรอกนะ อย่าลืม แกด่าผมไว้หลายชุด แถมยังแกล้งผมอีกต่างหาก ผมไม่ให้อภัยง่ายๆ หรอกบอกเลย
“ทำมันได้ลงจริงเหรอ” พี่ท่านรวบผมตัวเองมัด พี่มะเดี่ยวเนี่ยตัดผมแถข้างออกหมด มีผมแค่ตรงกลางหัวที่ค่อนข้างยาว เวลาปล่อย มันก็จะปรกศีรษะทั้งหมดเหมือนคนไว้ผมปกติ แต่ถ้ารวบมันขึ้นไปมัด...ก็จะเห็นว่าผมมีแค่นั้นแหละ
ฮ่าๆ...บรรยายแล้วดูตลกนะ แต่ตัวจริงแม่งโคตรเท่
“ลงดิพี่ บ้านผมทำฟาร์ม เรื่องแบบนี้เลยเป็นเรื่องธรรมด๊า....ธรรมดา” ได้ทีละเอาใหญ่ พี่เขาดูจะเป็นห่วงมึงนะไอ้ลูกพ่อ เหมือนที่ความรักมันระแวงผมจะกินมันนั่นแหละ
“โหดร้ายวะ พี่รับไม่ได้...มึงรู้มะ ว่าการที่มึงเลี้ยงมันแล้วกินมันเนี่ย เป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่ามึงไปซื้อปลาในตลาดอีกนะเว้ย คือเลี้ยงมัน มันก็ต้องรักมึง แล้วมันก็ต้องมาโดนคนที่มันรักฆ่าตายเนี่ยนะ มึงแม่ง...ใจดำ” อ่าว นี่กูโดนด่าอีกแล้ว?
“พี่นี่จริงจังเนอะ” ผมว่าเหวอๆ ไม่คิดว่าจะโดนสวดยับไปอีกดอกใหญ่
“กูจริงจังดิ ถ้ามึงเห็นมันเป็นแค่อาหารอะ มึงก็ทิ้งมันไปเหอะ หรือเอามาให้กู กูจะดูแลมันเอง” ส่ายหน้าให้ไว
“ไม่อะ ผมลงทุนไปแล้ว ผมไม่ยอมขาดทุนหรอก” ลงทุนความรักไง...รักมันไปแล้ว ใครจะยอมยกให้ ส่วนที่พี่เข้าใจผิด ก็ช่างมัน เอาให้พี่ท่านเครียดไปเลย!
นี่แหละ...วิธีแก้แค้นที่งดงามสมเป็นไอสามแห่งฟาร์มหมาน้อย
“ถือว่ากูขอ...”
“ผมไม่ให้” ตอนนี้คิ้วพี่มะเดี่ยวขมวดเป็นปม หน้าหงิก หงุดหงิดขึ้นมาทันตา กลัวก็กลัวนะ ไม่ต่อยผมใช่ไหมตอบ?!
เขาทอดสายตามองไอ้หมูที่หลับไม่รู้เรื่อง คิดหนักหัวจะระเบิดไหม ห้ามระเบิดตอนนี้นะ เดี๋ยวเลือดมันจะสาดกระเซ็นใส่หน้าผมเอา แล้วพี่เขาก็มองหน้าผมอีก มองเคืองๆ มองเหมือนผมไปฆ่าแมวบ้านพี่มันตาย เฮ้พี่...นี่หมูกู กูจะแดกมันก็เป็นสิทธิ์ของกูนะเนี่ยน้า...
แต่ว่า ท่าทางเป็นห่วงเป็นเจ้าหมูน้อยที่พี่มะเดี่ยวมีเนี่ย มันทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ พี่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมนะ ไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ความรักด้วย ความประทับใจแรกก็ไม่มี มีแต่คำด่าก้องสองหูกูอยู่เลย ตาขวางๆ หน้าโหดๆ แต่หวงหมูชาวบ้าน...เออ แปลกตาดีอะ ยิ่งมองก็ยิ่งเอ็นดู ใช่คำถูกไหม...ผมควรเอ็นดูชายหนุ่มรุ่นพี่ที่สูงเกือบเสาร์ฟ้าหน้าคอนโดไหม
“มึงจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ อะ”
“อื้อ” พยักหน้าอย่างไว ไม่เปลี่ยนใจเพราะผมไม่ได้จะแดกมันจริงๆ
“กูถามอีกที...”
“พอๆ ถามกี่ทีผมก็ตอบเหมือนเดิม ว่าแต่พี่เหอะ มาสนใจมันทำไม ความรักเนี่ยของผมนะ” เอาสองแขนโอบตัวเจ้าความรัก มันก็ซุกแขนผมอย่างรู้ดี ขยับตูดบวมๆ ของตนเองนิดหน่อยเพื่อให้นอนได้เข้าที่เข้าทาง ดูสิ...มันน่าแดกไหมล่ะ ไม่ติดว่ามันหลับ ผมจะงับตูดมันให้จมขี้ยวเลย
“ก็...สงสารมัน”
“มันไม่เจ็บหรอกพี่ ผมเฉือดนิ่มมาก...” แล้วก็ยิ้มหวานตาหยีใส่พี่มัน ซึ่งเจ้าตัวไม่ขำกับผมเลย หน้าเครียดกว่าเดิมอีก
“กูไม่คุยกับคนจิตใจชั่วร้ายแบบมึงแล้ว คนอะไร จ้องแต่จะกินสัตว์เลี้ยงของตัวเอง คนแบบมึงอะนะ...แม่ง แม่ง!” แล้วพี่แกก็ลุก เดินลิ่วๆ หนีไป แล้วแม่งๆ อะไรก็พูดไม่จบ กลัวพูดแล้วแรงไปเหรอ วันนั้นพี่ด่าผมโคตรแรงไม่เห็นกลัวเลย เอ้อ...แปลกคน
“เอ็งนี่เสน่ห์แรงจังน้าไอ้ความรัก ดูสิ...ที่รักแกหัวเหวี่ยงใหญ่เลย” กระซิบใส่หูหมูเบาๆ ซึ่งมันก็กระดิกนิดๆ เหมือนตอบรับแต่ไม่รับรู้ เห่อๆ
พี่มะเดี่ยวเดินเข้าหาเพื่อนทั้งสองของผม พูดๆ แล้วชี้มาทางนี้ พวกนั้นกอดคอกันเดินไปทางไหนสักทาง นี่พวกมึงมีความลับอะไรกับกู ไม่ใช่รวมหัวแกล้งกูใช่ไหม....แม่ง รู้สึกถึงลางหายนะ หรือผมควรบอกพี่มะเดี่ยวว่าจริงๆ ผมแค่หยอกเล่น ผมไม่ได้คิดกินหมูตัวเองนะเว้ย คนหน้าซื่อตาใสอย่างผม จิตใจไม่อำมหิตขนาดน้าน...
ผมนั่งร้อนรนกระวนกระวาย อย่างกับมีใครมาก่อไฟไว้ใกล้ๆ ตัว เหงื่อซึมทั้งที่มีลมพัด ผมเพิ่งโดนแกล้งไปแหม็บๆ ไม่อยากโดนแกล้งอีกนะ นี่อุตส่าห์หนีพี่ชายทั้งสองมาได้ ยังต้องมาเจอคนแกล้งแบบนี้อีก เอาไงดี...ไอ้สามเอาไงดีวะมึง
หนีดีกว่า...
ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋า อุ้มเจ้าความรักเบาๆ ใส่ตะกร้าหน้าจักรยานแล้วรีบปั่นหนีจากที่นี่ไปสิงอยู่ร้านน้าทันที อยู่ใกล้พวกนั้นเปอร์เซ็นโดนแกล้งเยอะมาก พอมาถึงร้าน ผมก็ช่วยน้านิดหน่อยๆ ก่อนจะต้องไปเรียนคลาสบ่ายต่อ วันนี้เลิกค่อนข้างเย็น กะว่าเลิกคลาสแล้วผมจะรีบชิ่งให้เร็วที่สุด พวกนั้นน่าจะไปฟลอซ้อมเต้นต่อ ผมจะไม่มีทางไปกับพวกมัน เกิดพี่มะเดี่ยวแกล้งผมอีก ผมไม่ต้องมุดดินมาเรียนเลยเร้อะ!
“ทำไมมึงหนีมาก่อนวะ...” มาถึงคลาส ไอ้วิ่งก็ยิงคำถามใส่ทันที
“เปล๊า ไม่ได้หนีเล๊ย” แล้วนี่ก็ไม่ได้เสียงสูงด้วยนะ พูดเสียงปกติเลย เสียงปกติแม่งเป็นแบบนี้แหละเชื่อผมสิ
“หรา! ทำอะไรไว้ระวังโดนนะมึง” ไอ้พีชก็ดันมาพูดให้กูเหงื่อตกเข้าไปอีก
“กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะมึง”
“ไปพูดให้พี่เดี่ยวคิดว่ามึงจะกินหมูตัวเอง มึงยังกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ” ไอ้วิ่งหันมาพูดหน้าเหี้ยม พวกมึงจริงจังกันเกินไปปะวะ
“กูก็พูดงี้ตลอด พี่แม่งอะคิดไปเอง” ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะเนี่ย
“เห่อๆ งั้นก็ช่างมึง...โดนพี่เขาหมายหัวเพราะมึงไม่ได้ทำอะไรเล้ยยยยย” วิ่งลากเสียงยาว ไอ้พีชขำแต่กูหัวเราะไม่ออก ยิ้มแหยๆ ยังยากเลยให้ตาย นี่ไม่ใช่ความกูนะมึงนะ...กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฮื่อ...ทำไมต้องมาเจออะไรอย่างนี้!
.....100%.....
ช่วงนี้ยังอัปแค่อาทิตย์ละตอน ไว้ของเหลือจบจะอัปถี่กว่านี้นะคะ สำหรับเรื่องหวั่นใจมาก...มันใสๆ และน่ารักแบบที่ไม่เคยเขียนเลยอะ ฮ่าๆ หวังว่าเราจะทำได้ไม่แย่เกินไป
ส่วนที่พีชกับวิ่งโดนแกล้งเราอยากบอกว่ามันแกล้งกันอย่างนี้จริงๆ ที่อิมพีเรียลสำโรง สมัยเมื่อเกือบสิบปีก่อน (ดูแก่ทันทีเลยเรา) เราเห็นรุ่นพี่เราเล่นกัน แกล้งกันแบบนั้นแหละ คนมองแม่งฮานะ แต่คนโดนคงขำไม่ออก ท่ามกลางผู้คนเดินไปเดินมา ชั้นโรงหนังบ้าง ชั้นศูนย์อาหารบ้าง โอ้โห...อายแทนเลยอะ ป้ายรถเมล์ก็ไม่เว้นนะ เด้าพื้นกันป้ายรถเมล์