ตอนที่ 5
“บอสครับ ..มันจะเยอะเกินไปไหมครับ”
ผมถามบอสเสียงเบาหลังจากที่เดินเข้าออกจากร้านเสื้อผ้าร้านที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้แล้วของมันก็เยอะมากจนผมถือแทบไม่ไหว ถึงของทั้งหมดจะเป็นของผมก็เถอะ
แต่ผมก็เกรงใจบอสนี่นา!
“ไม่เยอะหรอก ยังไงคุณก็ต้องอยู่กับผมไปอีกนาน”
บอสที่ปกติจะดูนิ่งๆ ตอนนี้ดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ผมว่ามันเยอะไปจริงๆ นะครับ”
“ผมเป็นเจ้านายคุณ คุณไม่มีสิทธิ์สั่งผม”
นัยน์ตาสีฟ้าน่าหลงใหลนั่นสะท้อนสีหน้าเกรงอกเกรงใจของผม
“แล้วผมก็ยังไม่ได้แวะอีกหลายร้านเลย”
บอสรวยมาจากไหนเนี่ย
“..ครับ”
ผมเดินคอตกตามหลังบอสไป แต่คราวนี้เป็นอะไรที่ผิดคาดมากเพราะบอสพาผมแวะร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยง!!!
“คราม”
บอสเรียกผมเสียงเข้มตอนที่ผมรู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ขอโทษครับ”
ให้ตายเหอะ เจ้าเลือดอัลฟ่าโบราณในตัวผมก็ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ จะตื่นเต้นอะไรนักหนา
แค่ลูกบอลเอง!
ลูกบอล..
ลูกบอล!!!!
ผมสัมผัสได้ถึงหัวใจในอกที่เต้นรัวจนหูอื้ออึงตอนที่เห็นลูกบอลเป็นร้อยลูกในกระบะ
ตั้งสติหน่อยสิ คราม!
ผมส่ายหัวเรียกสติแต่พอสติกลับมาก็บพบว่ามี ‘ศัตรู’ เข้ามาตีสนิทกับบอสตอนที่ผมกำลังหน้ามืด
หงิงๆ
เจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนที่ไม่รู้เจ้าของไปมุดหัวอยู่ไหนเดินเข้ามาอ้อนบอสอย่างออดอ้อน ทั้งๆ ที่บนตัวของบอสก็มีกลิ่นของผมอยู่แต่มันก็ยังเข้ามาแย่งบอสกับผม!
“...”
ผมยิ้มเยาะมันเพราะบอสไม่สนใจหรือรับรู้ถึงมันสักนิดเพราะมัวแต่สนใจปลอกคออยู่
กรรซ
มันขู่เบาๆ และแยกเขี้ยวใส่ผม
ให้ตายเหอะ ผมมันเขี้ยวเป็นบ้าเลย สาบานเลยว่าถ้ากฎหมายในประเทศนี้อนุญาตให้อัลฟ่าโบราณใช้ชีวิตแบบอิสระได้ ตอนนี้ผมคงคืนร่างหมาป่าเพื่อสู้กับมันแล้ว
บอสไลม์น่ะ
เป็นของผม!
ผมขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้ามันนิ่งๆ
เอาเข้าจริงผมก็ใช้ฟีโรโมนข่มมันได้แหละ แต่ถ้าใช้สุ่มสี่สุ่มห้าคงจะโดนจับได้ว่าไม่ใช่อัลฟ่าทั่วไปแน่ๆ เพราะถึงตอนนั้นดีไม่ดีแม้แต่บอสก็คงจะกลัวผมไปด้วย
หงิง
ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าหมาที่มีเลือดบรรพบุรุษเป็นหมาป่าก็วิ่งหนีผมหางจุกตูดไปที่อื่นแล้ว หึ ผมน่ะ รับมือกับพวกมนุษย์ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นหมาด้วยกันเองนี่สบายมาก
“หึ”
ผมที่กำลังชื่นชมตัวเองในใจหน้าแดงทันทีตอนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของบอส
“..ผมนึกว่าบอสไม่สนใจซะอีก”
ผมพูดเขินๆ เพราะจากเท่าที่สังเกตมาสักพัก ผมก็พบว่าบอสมีนิสัยเฉพาะตัวอย่างหนึ่งคือตอนที่สมาธิกับอะไรมากๆ ก็เหมือนจะตัดขาดออกจากโลกไปเลย
“ก้มลงมาหน่อย”
“?”
ถึงจะไม่เข้าใจว่าให้ก้มทำไมแต่ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“..เหล็กน่าจะเข้ากว่า”
บอสพูดพึมพำกับตัวเองหลังจากลองเอาปลอกคอหนังมาทาบกับคอผม
“ต้องใส่ปลอกคอด้วยเหรอครับ”
“ซื้อเผื่อ”
“...”
วันนี้ผมได้ยินคำว่าซื้อเผื่อจากบอสเกือบสิบครั้งแล้ว แต่ผมก็ขี้เกียจจะปรามบอสแล้วเพราะยังไงบอสก็คงจะซื้อให้ผมอยู่ดี ให้ตายสิ ผมอยากทำอะไรตอบแทนบอสบ้างจัง
“หยิบมาสิ”
“?”
ผมเผลอเอียงคองงๆ ตามเคยชิน
“อยากได้ไม่ใช่เหรอ”
บอสเหลือบมองลูกบอลที่ผมเล็งเอาไว้ตั้งแต่เข้าร้าน
“ครับ!”
ผมพยายามอย่างยิ่งในการห้ามตัวเองไม่ให้ตัวเองวางถุงแล้วโกยลูกบอลทั้งหมดขึ้นมา แต่ผมก็อยากได้ทั้งหมดเลยอ่ะ แต่ถ้าซื้อทั้งหมดนี้ผมคงเกรงใจบอสตายเลย แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
ผมกัดฟันหยิบขึ้นมาลูกเดียวแล้วเอากลับไปใส่ตะกร้าของบอสที่ตอนนี้นอกจากจะมีปลอกคอแล้วยังมีสายจูงเหล็กกับตะกร้อเหล็กครอบปากด้วย
“...”
ผมเผลออึ้งไปสักพักเพราะของพวกนี้เป็นสิ่งที่ใช้พันธนาการพวกหมาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น พวกอัลฟ่าหมาป่าที่ผมเคยเจอเคยบอกผมว่าถ้าโดนพวกทางการจับได้ก็จะโดนของพวกนี้ล่ามแล้วเอาไปฆ่า แย่หน่อยก็ถูกจับไปใช้ทดลองอะไรสักอย่างของพวกมัน
“ผมจะใช้มันก็ต่อเมื่อคุณไม่มีสติเท่านั้น”
“ผมเข้าใจครับ”
ผมยิ้มบางให้บอส เพราะถึงผมจะดูเป็นหมาที่ไม่มีพิษมีภัยก็เถอะ แต่สัญชาตญาณในตัวกับสายเลือดของผมก็เป็นของจริง แล้วพวกรัฐบาลก็ยังพยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับพวกอัลฟ่าโบราณด้วย บอสไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเกิดคลุ้มคลั่งหรือไม่มีสติขึ้นมา
ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเผลอทำอะไรบอสไปจริงๆ
ผมคงจะให้อภัยตัวเองไม่ได้แน่ๆ
“อยากได้อะไรอีกไหม”
“ไม่มีครับ”
แค่ได้ลูกบอลกลับไปเล่นผมก็ดีใจจะแย่แล้ว
ลูกบอลเชียวนะ!
“แล้วอยากกินอะไรไหม ผมจะพาคุณกลับแล้ว”
“แล้วแต่บอสเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้”
แค่มีอะไรให้กินก็ถือว่าดีสำหรับผมมากแล้ว
บอสพยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะไล่ผมให้ยืนรอข้างนอกร้าน ผมที่ว่างและไม่มีอะไรทำก็เลยมองร้านในห้างเรื่อยเปื่อย ดีที่วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่
“...”
ผมเผลอหน้าแดงขึ้นมานิดๆ ตอนที่เห็นร้านขายชุดชั้นในแล้วมีหุ่นใส่ชุดชั้นในลูกไม้สีดำ มันดูเซ็กซี่เอามากๆ แต่ราคาที่แปะอยู่ก็น่ากลัวมากๆ เหมือนกัน
“อยากได้เหรอ”
“เปล่าครับ”
ผมหน้าแดงกว่าเดิมตอนที่โดนบอสจับได้ว่ามองอะไรอยู่
“งั้นกลับกันเถอะ”
บอสยื่นถุงที่ได้มาเพิ่มให้ผมก่อนจะเดินนำไปยังลานจอดรถ แต่อยู่ๆ บอสก็หยุดเดินแล้วไล่ให้ผมไปรอที่รถก่อน
“ผมจะเข้าห้องน้ำ”
ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าบอสไม่ได้จะไปเข้าห้องน้ำจริงๆ
ผมมองตามหลังบอสที่เดินกลับเข้าไปงงๆ แต่ก็ขี้เกียจสงสัยเลยไปรอที่รถตามคำสั่งของบอสพร้อมกับติดเครื่องไว้ด้วย ตอนบอสขึ้นรถมาจะได้เย็นๆ
ผมรอจนหาวไปสองสามรอบบอสก็ยังไม่มาสักทีเลยขยับตัวไปหยิบลูกบอลในถุงหลังรถมาบีบเล่น
“!”
ผมกระพริบตาปริบเพราะพอล้วงเข้าไปแล้วเจอลูกบอลมากกว่าหนึ่งลูกแต่เป็นสิบๆ ลูกกองอยู่ในนั้น ให้ตายเถอะ ผมรักบอสไลม์!! รักที่สุดเลย!!
หงิงๆๆ
ผมดีใจจนจะร้องไห้แล้ว
นี่มันสวรรค์ชัดๆ เลย
ผมหยิบลูกบอลลูกนึงมาบีบเล่น จริงๆ อยากจะคืนร่างสักครึ่งนึงเพื่อกัดเจ้าลูกบอลนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะถึงฟิลม์รถนี่จะมองไม่เห็นข้างในก็เถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่าอาจจะมีคนเผลอมาเปิดประตูตอนผมกำลังดื่มด่ำกับเจ้าลูกบอลพวกนี้ก็ได้
ก็อกๆ
“ครับ!”
ผมสะดุ้งจนเกือบทำลูกบอลหลุดมือตอนที่ได้ยินเสียงเคาะกระจกแล้วรีบกระวีกระวายปลดล็อคประตูให้บอส
“ขอโทษที่ให้รอนาน พอดีผมซื้อของนิดหน่อย”
บอสพูดนิ่งๆ แล้วเอากล่องสีดำที่ถือติดมือมาด้วยไปไว้ข้างหลัง
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้อยู่แล้ว”
จริงๆ บอสไม่จำเป็นต้องขอโทษผมด้วยซ้ำ สถานะผมตอนนี้คือลูกกระจ็อกบอสอ่ะ ใช้อะไรก็ทำแต่ที่ถนัดที่สุดคือเฝ้าบ้าน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากเฝ้าบ้านเท่าไหร่เพราะมันน่าเบื่อ
“รู้แล้วเหรอ”
บอสมองลูกบอลในมือผมที่มีคราบน้ำลายนิดๆ เพราะผมเผลอกัดไปรอบนึงด้วยความหน้ามืดตามัว
“ครับ ขอบคุณบอสมากๆ นะครับ”
ผมอยากจะบอกบอสชะมัดเลยว่าเอาชีวิตผมไปได้เลย ชาตินี้ผมเกิดมาพอใจแล้ว เจอบอสวันเดียวผมก็รู้สึกเหมือนได้ใช้โชคทั้งชีวิตแล้วไปกับเจ้านายคนใหม่คนนี้
บอสเป็นคนดีมากจริงๆ
“เลิกขอบคุณผมได้แล้ว มันไม่ได้มากอะไรเลย”
บอสหัวเราะเบาๆ
“...”
บอสน่ารักชะมัดเลย ไม่สิ บอสดูดีมากๆ เลย!
Rrrrr
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ชื่นชมบอสต่ออยู่ๆ ก็มีคนโทรเข้ามาซะก่อน แน่นอนว่าไม่ใช่โทรศัพท์ผม ของผมถ้าจะมีคนโทรมาก็คงมีแต่บอสเก่าโทรมาด่านั่นแหละนะ แล้วโทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็เก่าเกินกว่าจะเล่นแอพพลิเคชั่นอะไรได้ด้วย ทำได้แค่โทรกับส่งข้อความแค่นั้นเอง
ทันทีที่บอสเห็นชื่อคนที่โทรมาสีหน้าของบอสก็เปลี่ยนไปทันที บรรยากาศผ่อนคลายรอบตัวบอสหายไปกลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง นัยน์ตาของบอสกลับมาว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด
“ครับ”
ผมก้มหน้างุดและให้ความสนใจกับลูกบอลเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับบอส
“พ่ออยากเจอผมเหรอครับ”
น่าแปลกที่เสียงของบอสนั้นดูไม่ดีใจสักนิด
“ว่างครับ ไปได้ครับ”
ผมช้อนตามองบอสด้วยความเป็นห่วง เพราะคุยผ่านโทรศัพท์อาจจับความรู้สึกในน้ำเสียงได้ยาก แต่สำหรับผมที่นั่งข้างๆ คือดูออกเลยว่าบอสไม่อยากไป
สำหรับบอสแล้ว ‘พ่อ’ คงจะไม่ใช่บุคคลที่บอสชื่นชอบสักเท่าไหร่ ซึ่งก็ผิดกับผมที่ไม่มีความรู้สึกอะไรกับ ‘พ่อ’ เลยสักนิดเพราะท่านเสียไปตั้งแต่ก่อนผมจะจำความได้อีก
ความทรงจำเดียวที่ผมมีเกี่ยวกับพ่อคือพ่อเป็นคนใจดีและแม่ผมก็มักจะเลี่ยงที่จะพูดถึงพ่อ แน่นอนว่าถ้าแม่ไม่อยากเล่า ผมก็ไม่คิดจะถามอะไรอยู่แล้วเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าพ่อหายไปเพราะอะไร
“อีกครึ่งชั่วโมงผมจะไปถึงครับ”
ผมไม่รู้ว่าบอสรู้ตัวไหม แต่มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นสั่นน้อยๆ เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้
“..ครับ สิบห้านาทีก็ได้ครับ”
สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหวเลือกที่จะเอื้อมมือไปแตะมือบอส
ผมหยิบมือที่เย็นเฉียบของบอสมาวางบนตักผมและนวดคลึงให้มันอุ่นขึ้นด้วยอุณหภูมิจากฝ่ามือ
“…”
ผมยิ้มให้บอสตอนที่บอสหันมาสบตากับผม
แน่นอนว่าถ้าอยู่บ้าน ผมจะไม่ลังเลที่จะคืนร่างหมาป่าที่บอสชอบแล้วเอาทำตัวออดอ้อนบอสให้บอสอารมณ์ดีเพราะผมรู้ว่าบอสชอบร่างโบ้ของผมที่สุด แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกผมก็ได้แต่หวังว่าบอสจะเอ็นดู ‘คราม’ บ้าง
ซึ่งการตัดสินใจของผมก็ดูจะไม่แย่นัก มือของบอสเลิกสั่นแล้ว
“ครับ ขอบคุณครับ”
บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่บอสวางสายไป บอสมองหน้าผมสักพักและหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั่นมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน
ให้ตายเหอะ
ผมเขินชะมัดเลย
ผมหน้าแดงแต่ก็พยายามทำตัวปกติ
“เดี๋ยวขากลับผมคงต้องแวะเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลก่อน”
บอสแกะมือผมออกและจับพวงมาลัยอีกครั้ง
“ครับ”
ผมพยักหน้าหงึกหงักเชิงรับรู้ ไม่กล้าชวนคุยอะไรเพราะรู้ว่าบอสคงต้องใช้สมาธิกับการขับรถ และแน่นอนสิ่งที่ผมทำฆ่าเวลาคือกลิ้งลูกบอลที่บอสให้มาในมือแก้เบื่อ
“พ่อผมเป็นคนเข้มงวด”
ในชั่วขณะที่ทุกอย่างเงียบและผมกำลังจะหลับ บอสก็เปรยขึ้นมา
“ถ้าท่านไม่อนุญาต ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
“…”
ผมเหลือบมองบอส สีหน้าของบอสยังปกติเหมือนเดิมแต่แววตาตอนที่พูดกลับไม่เป็นเหมือนสีหน้าสักนิด
“พ่อไม่อนุญาตให้ผมทำพลาดไม่ว่าจะเรื่องอะไร”
บอสแค่นเสียงหัวเราะ
“มหาลัยพ่อผมก็เป็นคนเลือก เพื่อนผมพ่อก็เป็นคนเลือก ทุกอย่างในชีวิตผมต้องผ่านพ่อทั้งหมดเพราะพี่ชายผมไม่ยอมให้พ่อควบคุม”
แววตาของบอสคราวนี้ดูเจ็บปวดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วผมก็โคตรรู้สึกผิดเลยที่บางครั้งผมก็อยากให้พ่อตายสักที”
“…”
ผมไม่ได้พูดอะไรเพราะคิดว่าบอสคงไม่ได้ต้องการความเห็นอะไรจากผม และผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถไปตัดสินใครได้ด้วย
“หรือไม่ก็เป็นผมที่ตายวันนั้นก็ได้ ไม่ใช่พี่”
หงิง
ผมร้องออกมาหงอยๆ
“ผมก็บ่นไปงั้นแหละ คราม ไม่ต้องจริงจังหรอก”
บอสหัวเราะเบาๆ
“ระหว่างที่รอผม คุณก็คิดไปพลางๆ แล้วกันว่าจะกินอะไร ถ้าไม่ยากมากเดี๋ยวผมทำให้กินเอง”
พูดถึงอาหารฝีมือบอส ผมก็แทบจะน้ำลายไหลทันที
อาหารเมื่อเช้าอร่อยมาก อร่อยที่สุดในชีวิตที่ผมเคยกินเลย!
ผมมั่นใจมากว่าถ้าตอนนี้ผมอยู่ในร่างหมาป่าคงจะนั่งกระดิกหางได้เป็นชั่วโมงอ่ะ
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีในที่สุดบอสก็มาถึงโรงพยาบาลจนได้ ผมตาโตตอนที่เห็นตึกกับป้ายของโรงพยาบาลเพราะจำได้ว่าเป็นโรงพยาบาลที่แพงมากและปรากฎในโฆษณาบ่อยๆ
ซึ่งด้วยราคาของมันแล้วทำให้พื้นที่ข้างนอกค่อนข้างเงียบสงบ บอสเลือกที่จะจอดตรงใต้ร่มไม้ก่อนที่จะกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงจากรถเพราะใกล้จะเกินเวลาที่รับปากไว้แล้ว
ผมมองตามหลังบอสด้วยความรู้สึกเศร้านิดๆ เพราะผมช่วยอะไรบอสไม่ได้เลย
ให้ตายสิ
ผมอยากให้บอสมีความสุขกว่านี้จัง
--------------
กลับมาแล้วค่ะ