ฮือ T^T เข้ามาเห็น คอมเม้นท์กับจำนวนอ่าน ช่างต่างกันลิบลับ
แง๊ๆ ช่วยเม้นท์หน่อยสิครับ เดี๋ยวคนเขียนไม่มีกำลังใจ หมดแรงเขียนต่อกันพอดี
ยอมรับว่าเขียนตอนนี้ด้วยความยากลำบาก ถึงกับลบแล้วไปเขียนใหม่ไปสองรอบเพื่อให้เนื้อเรื่องมันลงตัว
ใครหลายคนที่สงสัยว่าเฟยยังรักพี่เมฆจริงๆน่ะ คนเขียนขอตอบแทนเลยว่า 'ไม่รักแล้ว' ด้วยเหตุผลหลายๆประการ
แต่ถึงกระนั้น ก็ลุ้นกับต่อไปนะครับ ว่าสุดท้ายแล้ว...เฟยจะรักพี่เมฆได้หรือเปล่า
อ่านแล้วเม้นท์ด้วยนะครับ ... อย่าอ่านอย่างเดียว แล้วไม่เม้นท์ เม้นท์ว่า'อ่านจบแล้ว'ก็พอใจแล้วล่ะครับ*****************************************
ร้ายแลกรัก
Stage 5 เมฆ
‘ผมจำไม่ได้ว่าผมหมดสติไปนานแค่ไหน’
‘นานพอที่กูสามารถจะเอามึงสองรอบติดๆได้เลยน่ะสิ’
…เมฆ… ผมเคยถามตัวเองมาตลอดว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไรกัน เกิดมาเพื่อมีชีวิต หายใจรอวันตายไปวันๆอย่างนั้นหรอ หรือบางทีมันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้น
จนเมื่อกระทั่งผมเจอเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาคนนั้นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งตัวของผมด้วย…
เด็กผู้ชายที่มีชื่อว่า
‘เฟย’ เราพบกันปีละประมาณสามครั้ง จนในที่สุดเราสองคนก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ น้องเฟยเป็นคนที่น่ารักมากครับ น่ารักจนผมเริ่มอดใจไม่ไหว เวลาน้องเฟยหลับหลังจากที่เล่นกับผมเหนื่อยๆ ผมก็อดไม่ได้ที่จะแอบหอมแก้มน้องเฟยหรือสวมกอดน้องเขาแบบหลวมๆกลัวว่าน้องเขาจะรู้สึกตัว
กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป … จนผมไม่รู้ว่าสิ่งนี้ในตัวของผมมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อความรู้สึกของผมมันบอกว่าผมไม่ได้คิดกับน้องเฟยเป็นเพียงแค่น้องชายคนหนึ่ง แต่มันมากกว่านั้น … ผมอยากจะครอบครองน้องเฟย ทำยังไงก็ได้ให้น้องเขาเป็นของผม
“พี่รักเฟย” มีอยู่วันหนึ่งผมจึงตัดสินใจบอกความจริงทั้งหมดกับน้องเขาไป น้องเฟยไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือว่ารังเกียจผมเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม … น้องเขากับยิ้มให้ผม ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆในเวลานั้น
…รอยยิ้มนี้ เป็นพี่ได้ไหม ที่จะปกป้องมันเอาไว้ให้ได้…
ผมสัญญากับตัวเองว่าผมจะปกป้องรอยยิ้มของน้องเอาไว้แบบนี้ จะไม่มีวันใดที่ผมจะทำให้น้องเฟยต้องเสียใจเป็นอันขาด …
แต่แล้วคำสัญญาของเราทั้งสองก็ขาดสะบั้นลงในเวลาเพียงไม่นาน …
เมื่อจู่ๆน้องเฟยวิ่งมาหาผมในตอนเย็นของวันนั้นแล้วมองหน้าผมราวกับไม่พอใจในตัวผม เสียงเบาๆเอ่ยผ่านลำคอน้องเขาออกมาจนผมใจหาย
“ไอ้เกย์!!! เป็นผู้ชายแท้ๆแต่เสือกมารักผู้ชายเหมือนกัน” หัวใจของผมถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดแม้ว่าผมจะยังเด็กและยังไม่รู้เรื่องอะไรมาก แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถทำให้คนอย่างผมรู้สึกเสียในใจแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ทำไม…”ผมเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากเต็มทน พยายามจะข่มความรู้สึกร้อนผะผ่าวบริเวณขอบตาเอาไว้
“ผมเกลียดเกย์”น้องเฟยพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยจนผมไม่อยากจะเชื่อ ผมไม่เชื่อจริงๆว่าน้องเฟยจะเกลียดผม นี่ผมกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม ถ้าผมตื่นมาทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า
“แต่ … เมื่อตอนเช้าเฟยยัง …” “…ดังนั้นกูเลยเกลียดมึง”น้องเฟยพูดจาทำร้ายจิตใจของผมไม่ยอมหยุด ผมไม่ยอม ไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้เรื่องทั้งหมดมันจบลงทั้งแบบนี้ ผมมีเรื่องต้องคุยกับน้องเขา
“มานี่!!!”ผมลากน้องเฟยไปยังห้องเก็บของบริเวณหลังที่พัก ผมล็อคประตูเรียบร้อยจากนั้นจึงตะคอกด้วยความโมโหว่า …
“ทำไม … ทำไมทำแบบนี้กับพี่ มาทำให้พี่รัก แล้วก็ทำแบบนี้ โกหกพี่ทำไม”ผมแผดเสียงลั่นพร้อมกับเตะถังน้ำที่อยู่ใกล้เท้าของผมจนกระเด็นไปกระแทกกับผนัง
“ผมเคยบอกหรอครับว่าผมรักพี่น่ะ อย่าคิดเอาเองสิ ผมมาคิดๆดูแล้วล่ะ … ผมไม่ใช่เกย์ แล้วผมก็เกลียดเกย์เอามากๆ เรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปรักพี่ด้วยล่ะ”
…สายตาของน้องเฟย ไม่!!! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ นัยน์ตาคู่นั้นไม่มีผมอยู่อีกแล้ว ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
“ยังไงพี่ก็ยอมไม่ปล่อยเฟยไปเด็ดขาด”ผมจับไหล่ทั้งสองข้างของน้องเขาเขย่าอย่างแรง
“อย่าทำแบบนิ้สิครับ ผมสมเพช”เหมือนกับผมโดนฟ้าฝ่าลงกลางหน้าผาก ผมตัวชาไปในทันที!!! ทำไมน้องเฟยถึงพูดกับพี่แบบนี้ ไม่เห็นพี่อยู่ในสายตาเลยรึไง แล้วที่ผ่านๆมา จะมาหลอกให้พี่รักเพื่อที่จะทำแบบนี้กับพี่น่ะหรอ มันมากเกินไปหรือเปล่าที่จะทำให้จิตใจของคนๆหนึ่งบอบช้ำได้มากขนาดนี้
“ถ้าหมดธุระแล้ว ผมขอตัว!!!”
“ทำไมต้องโกหกพี่ …?”ผมถามออกมาด้วยน้ำเสียงอิดโรยเป็นประโยคสุดท้าย
“… เพราะผมเกลียดพี่ยังไงล่ะครับ ฮ่าๆ อยากเห็นสีหน้าคนเวลามันผิดหวังมากๆ น่าสะใจดีนะครับ ถ้าพี่อยากเห็น … ก็ลองไปส่องกระจกดูสิครับ ฮ่าๆ”นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาอ้างเลยสักนิด เฟยตอบพี่มาสิว่าเฟยมีใจให้พี่ แต่ แต่ … เพราะอะไรกันล่ะ เฟยถึงต้องแบบนี้
“ปัง!!!!” ประตูกระแทกปิดเสียงดัง ผมยืนตัวชาขยับไปไหนไม่ได้ เรื่องราวทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นไวมากจนผแทบตามไม่ทัน เกิดและจบภายในวันเดียว แต่ความรู้สึกดีๆในหัวใจของพี่มันยังไม่หายไปไหน แม้ว่าจะถูกเฟยทำลายลงก็ตาม
ผมเดินไปเปิดประตู แต่ก็พบว่า …
ประตูล็อค!!! บ้าน่า!!!จะล็อคได้ยังไง ในเมื่อ …
อย่าบอกนะว่าน้องเฟยเป็นคนล็อคมันจากข้างนอก ? ผมออกแรงกระแทกประตูจนรู้สึกปวดที่หัวไหล่แต่มันก็ไม่ยอมเปิด ผมพยายามส่งเสียงร้องให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะแถวนี้เป็นที่พักสำรองสำหรับเวลาที่ที่พักที่ใช้รับแขกด้านหน้าเต็ม ด้วยการที่ไม่ค่อยมีคนเข้ามาพักสักเท่าไรจึงทำให้ที่นี่เหมือนถูกปล่อยร้าง
“ใครก็ได้!!!ช่วยด้วย!!!” ผมตะโกนอยู่แบบนี้เป็นเวลาสามวัน ในที่แบบนี้ มีเพียงน้ำฝนที่รั่วลงมาจากหลังคาเท่านั้นที่พอจะประทังชีวิตผมต่อไปได้ ไร้ซึ่งอาหารและสิ่งของเครื่องใช้ แม้แต่ที่นอนผมยังต้องนอนกับพื้นแข็งๆและเย็นเฉียบในเวลากลางคืน ร่างกายของผมหนาวสะท้าน หัวใจถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ น้ำตาของผมเหือดแห้งไปเมื่อไหร่ผมก็จำไม่ได้ รู้เพียงแต่ว่า … ผมกำลังเจ็บ เจ็บตรงที่หัวใจแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“เฟย ใจร้ายกับพี่มากเลยรู้ไหม”ผมพร่ำบอกกับตัวเองจนผมหมดสติไป แล้วฟื้นขึ้นอีกทีที่โรงพยาบาลด้วยอาการของไข้เลือดออกและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หลังจากนั้นผมก็หมดสติไปอีกครั้ง จนต้องอยู่ในอาการโคม่าอีกหลายวัน โดยที่หารู้ไม่ว่า หากผมลืมตาขึ้นมาแล้ว …
ความรักที่ผมมีให้น้องเฟย จะกลับกลายเป็นความเกลียดชังที่ผมไม่สามารถให้อภัยได้ เพราะแผลที่ร่างกายของผมมันน้อยนิดหากเทียบกับที่หัวใจ
…หัวใจที่ถูกเฟยทำร้ายจนยับเยินยังไงล่ะ
ในเมื่อไม่รักพี่แล้ว แล้วก็ยังทำกับพี่ถึงขนาดนี้ พี่ก็พยายามจะให้อภัยเฟยนะ แต่ความโกรธที่พี่มีต่อเฟยมันมากแค่ไหนรู้มั้ย พี่โกรธตัวเอง โกรธตัวเองที่ไปรักเฟย โกรธตัวเองที่โง่คิดไปเองมาโดยตลอด
…พี่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจะทำให้ความโกรธนั้นมันทุเลาลงสักนิดก็ยังดี
เฟยไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนนี้พี่ทรมานแค่ไหน เฟยไม่มีทางเข้าใจในเมื่อเฟยมาทำแบบนี้กับพี่ พี่ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร
***************************************************************************************
ผมยิ้มอย่างสะใจหลังจากที่ขังเฟยไว้ในห้องมืดๆแคบๆนั่น หวังว่าเฟยกำลังจะทรมานแบบเดียวกับที่ผมเคยได้รับ แต่แล้วโทรศัพท์ที่ผมเอาวางไว้ผมโต๊ะก็สั่นขึ้น ผมมองหน้าจอเพื่อดูว่าใครโทรมาหา …
…เบอร์ใครกัน ?
ผมกดรับอย่างไม่ค่อยพอใจ
“พี่เฟยอยู่ที่ไหน”เสียงปลายสายดังลั่นทำให้ผมมึนงงไปชั่วขณะ
“แกเป็นใคร”ผมตวาดกร้าวด้วยความโมโห เป็นใครหน้าไหนถึงขนาดรู้ว่าเฟยอยู่กับผม
“ตอบมาก่อนว่าพี่เฟยอยู่ที่ไหน”เสียงปลายสายเริ่มมีแววไม่พอใจ
“กูไม่บอก!!!” “พี่เมฆ บอกพี่เค้าไปเถอะค่ะ”ผมใจหายวาบ นั่นมันเสียงของฟ้านี่
“ฟ้า มันไปทำอะไรฟ้า บอกพี่มา…”
“พี่ฟงเค้าไม่ได้ทำอะไรฟ้าหรอกค่ะ แต่ฟ้าขอร้องพี่เมฆนะคะ … พาพี่ฟงไปหาพี่เฟยเถอะนะคะ”
“ไม่!!!”ผมตวาดเสียงดัง
“ทำไมมึงทำแบบนี้ … กูรู้ว่ามึงทำอะไรกับพี่ชายกู เพื่อนของพี่กูเล่าให้กูฟังหมดแล้ว ว่าพี่กูเจอมึงแล้วหลังจากนั้นมึงก็บอกให้เพื่อนของพี่กูกลับไปก่อน โดยอ้างว่ามึงรู้จักับเฟยเลยให้เฟยอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพัก อย่ามาปกปิดสันดานเลวๆของมึง คนอย่างมึงน่ะ ไม่ต้องพูดอะไรหรอก กูก็รู้ถึงไส้ถึงพุงแล้ว”ปลายสายเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด
“เออ รู้แล้วก็ดี พี่ชายมึงทำกูไว้แสบมาก เสียแรงที่กูเคยไปรักพี่มึง กูจะให้มันได้ทรมานแบบที่มันเคยทำไว้กับกู”ผมพูดด้วยความเสียงเจ็บปวด ถ้าถามว่าตอนนี้ผมยังรักเฟยอยู่ไหม ผมตอบไม่ได้ แต่ผมอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อลบล้างรอยแผลในหัวใจของผม
“อย่าทำพี่กู!!!”
“มึงมีเหตุผลอะไรมาอ้าง พี่ชายมึงทำอะไรกับกูไว้บ้าง มึงอย่ามาเสือกรู้ …”
“ไม่ … พี่เฟยไม่ได้ทำ คนที่ด่าพี่ ดูถูกพี่ คนที่ขังพี่ไว้ในห้องเก็บของคือผมเอง อย่าทำอะไรพี่เฟยนะ”ผมตัวชาหน้าชา ว่าไงนะ…ถ้าเฟยไม่ได้ทำแล้วเฟยในวันนั้น คนที่ทำร้ายผมจนเป็นถึงขนาดนี้คือใครกันแน่
“มึงเป็นใคร !?!?!?”
“กูเป็นน้องชายฝาแฝดของพี่เฟย เรื่องวันนั้น … กูเป็นคนทำทั้งหมด มึงแค้นอะไรก็มาลงที่กู อย่าไปทำอะไรพี่เฟย”ผมยืนอึ้ง เมื่อความจริงออกมาเป็นแบบนี้แล้ว ผมทำอะไรไม่ถูก…งั้นเฟยที่โดนผมทำร้ายก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยน่ะสิ ผมจะเชื่อดีไหม … ผมจะเชื่อดีหรือเปล่าว่าคนที่ทำร้ายผมในวันนั้นไม่ใช่เฟยแต่เป็นน้องชายฝาแฝดของเฟยที่ชื่อว่า ‘ฟง’ แต่เหตุผลหลายอย่างทำให้ผมอยากจะเชื่อเพราะวันนั้นผมก็แทบจะไม่เชื่อเหมือนกันว่าเป็นเฟยที่มาต่อว่าผมหลังจากที่ผมบอกรักไปไม่นาน ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฟยมีน้องชายฝาแฝด แต่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ อาจเป็นเพราะการขัดแย้งระหว่างเฟยกับฟงก็ได้ที่ทำให้ฟงสวมรอยเป็นเฟยแล้วมาด่าทอผมในวันนั้น
…ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆล่ะก็ ผมจะทำยังไงดี !?!?!?!
…ผมจะเชื่อดีหรือเปล่า แผลในใจของผมมันไม่ใช่ที่จะเอาอะไรมาลบล้างแล้วจะหายไปง่ายๆ สามวันที่ผมต้องทนอยู่กับตัวเองและสภาพอันน่าสมเพช สามวันที่ผมต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมานหลังจากที่โดนเฟยปฏิเสธ สามวันที่ผมต้องทนอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่กัดกินจิตใจผมจนยับเยิน สามวันนั่น … เป็นสามวันที่ผมแทบจะลืมไม่ลงเลยจริงๆ
“มึงอย่าทำอะไรพี่กูนะ!!!!”
“เฟย!!!!”ผมไม่สนใจ กดวางสายโทรศัพท์พร้อมกับพุ่งเข้าไปเปิดประตูห้องที่ขังเฟยเอาไว้ ตรงกับจังหวะที่เสียงกรีดร้องของเฟยดังขึ้นก่อนที่จะเงียบไป
ผมเอาโซ่บนร่างของเฟยออก ร่างของน้องเขาอ่อนยวบราวกับคนหมดสติ ผมประคองน้องพร้อมกับกอดเอาไว้แนบอก หัวใจของผมเจ็บปวดด้วยความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่เต็มอกพร้อมกับคำๆหนึ่งที่หลุดออกจากปากของผมว่า
“กูขอโทษ”สมควรแล้วหรอ … นี่ผมพูดคำๆนี้ออกไป
.
.
.
… ทั้งๆที่หัวใจของผมยังมีรอยแผลที่มันเคยเจ็บจนผมทุรนทุราย แต่ตอนนี้มันก็เจ็บ แต่ก็เจ็บน้อยกว่าเก่า
.
.
.
เพราะรอยแผลนั้น … มันเจ็บ เจ็บจนด้านชาไปแล้ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนต่อไป ...ความจริงอีกด้าน ในแง่มุมของ 'ฟง' นะครับ
แล้วนักอ่านทุกท่าน จะเข้าใจต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด
...โปรดติดตามตอนต่อไป