เขียนตอนนี้แล้วอยากจะเข้า ER เลยจริงๆ เขียนไปลบไป ลบไปก็เขียนไม่ออก //// ว๊ากกกกส์ จะทำไงดีฟะเนี่ย
พอสมองไม่แล่นก็ไม่นั่งเล่นสลาฟกับเพื่อนหลังจากกลับมาจากงานหล่อพระที่ไปมาเมื่อเช้า
เล่นไปซักพัก สมองก็ปิ๊งขึ้นมาทันที ว่าจะเขียนตอนนี้ออกมายังไงแล้วจะวางเรื่องต่อจากตอนนี้ให้ไปทางไหน วะฮ่าๆ
หลังจากตอนนี้ไปแล้วก็จะเป็นเนื้อเรื่องหลักแล้วนะครับ คือจะเล่าถึงความเป็นไปของเฟยกับพี่เมฆ ว่าเฟยจะยอมให้อภัยพี่เมฆหรือเปล่า !?!?!?!
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์แล้วก็นักอ่านทุกท่านนะครับ ที่ติดตามเรื่องนี้********************************************
ร้ายแลกรัก
Stage 6 พี่ชาย หรือน้องชาย
‘…ฟงเป็นน้องชายฝาแฝดของผมเองครับ’
‘กูไม่สน … เพราะสิ่งที่กูจะสน มีมึงเพียงคนเดียวเท่านั้น’
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์….ทู…ยู” วันนี้เป็นวันเกิดของผมแล้วก็เป็นวันเกิดของพี่เฟยอีกด้วย พ่อกับแม่ของผมบอกว่าจะกลับให้ทันก่อนหนึ่งทุ่ม ผมจ้องมองนาฬิกาที่แขวนไว้อยู่บนผนัง เสียงเพลงวันเกิดที่ผมเปิดผ่านลำโพงดังลอยมาแว่วๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“พี่เฟย … ทำไมพ่อกับแม่ยังไม่มาอีกหรอ” ผมจับมือพี่เฟยแน่นพร้อมกับมองหน้ารอคำตอบ
“… เดี๋ยวก็มาน่ะฟง” พี่เฟยยื่นมือมาลูบหัวของผม
เสียงประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับพ่อแม่ที่เดินเข้ามา ในมือของท่านทั้งสองถือของพะรุงพะรังจนผมทั้งสองคนต้องรีบวิ่งเข้าไปช่วยถือ
“เดี๋ยวฟง/เฟยช่วยนะฮะ”ผมกับพี่เฟยพูดขึ้นมาพร้อมกับจนอดที่จะมองหน้าพี่เฟยแล้วหัวเราะไม่ได้
ครอบครัวของผมนั่งอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในโลก ผมอยากจะหยุดเวลาให้ทุกวันเป็นแบบนี้ตลอดไปเลยจะได้ไหมครับ …
ผมช่วยพี่เฟยล้างจานหนลังจากที่พวกเราฉลองวันเกิดกันเสร็จแล้ว
“วันนี้มีความสุขมากๆเลยเนอะพี่เฟย”ผมยิ้มให้กับพี่เฟยด้วยความปิติ แต่ก็เผลอทำจานในมือร่วงลงกระแทกกับขอบซิ้งค์จนมันแตกแล้วบาดมือผม
…เลือดกำลังไหล
พี่เฟยรีบจับมือของผมแล้วเอาปากดูดเลือดของผมจนหยุดไหล จากนั้นพี่เขาก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมพร้อมกับลูบหัวของผมเบาๆ
“ทีหลังต้องระวังหน่อยนะ…ถ้าไม่มีพี่อยู่ต้องระวังมากกว่านี้”คำพูดของพี่เฟยทำให้ผมใจหายวาบราวกับว่าพี่เฟยจะหนีผมไปไหนยังงั้น
“ไม่ๆ พี่เฟยต้องไม่ไปไหน พี่เฟยต้องอยู่กับผม สัญญานะ”ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าพี่เฟยด้วยแววตาที่เอ่อล้นด้วยน้ำใสๆ
“แต่…เมื่อเราโตขึ้น เราก็ต้องทำงาน มีครอบครัวนะฟง”พี่เฟยพูดเสียงเบา
“ผมไม่สน …ครอบครัวอะไร!!ผมไม่มีก็ได้ ผมจะอยู่กับพี่เฟย”
“แต่ฟง…!!!”ไม่ทันที่พี่เฟยจะพูดอะไร ผมก็เริ่มร้องไห้ ความกลัวที่ว่าพี่เฟยจะไม่อยู่กับผมทำให้ผมอยากร้องไห้ขึ้นมา
…ถ้าพี่เฟยไม่อยู่กับผม ต่อไป…ถ้า ถ้าผมโดนจานบาดมือล่ะก็ ผมจะทำยังไงดี…
“พี่เฟย สัญญากับผมนะ ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ผมพูดรัว กลัวพี่เฟยจะเดินหนี แต่ไม่เลย…ตรงกันข้ามพี่เฟยกลับยืนมองหน้าผมแล้วเผยรอยยิ้มที่ทำให้ผมอบอุ่นใจออกมา
“อืมได้ พี่สัญญา พี่จะอยู่กับฟงตลอดไปนะ”
ผมยิ้มออกมา ยิ้มออกมาด้วยความสุขที่ล้นปรี่อยู่ข้างใน
…เราจะมีกันสี่คน มีพ่อ มีแม่ มีผมแล้วก็มีพี่เฟย ตลอดไป
วันที่ผมไม่คิดว่าจะมาถึงก็ได้มาถึงจนได้ … ผมไปเที่ยวทะเลกับครอบครัว … แต่ผมก็ไม่ยอมออกไปจากที่พัก เพราะผมไม่ชอบทะเล ไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้น ผมไม่อยากมาที่นี่เลย แต่เพื่อครอบครัว … ผมจึงจำเป็นต้องมา
แต่ละวันที่ผมมาเที่ยวทะเล ผมก็เอาแต่ขลุกอยู่ในห้องพัก นั่งเล่นเกมส์ เล่นคอมพิวเตอร์ไปเรื่อยเปื่อย จนมีอยู่วันหนึ่งผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศเลยออกมาเดินเล่นข้างนอก
…ไม่คิดว่าผมจะเจอพี่เฟยกับยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นบอกว่าตัวเองชอบพี่เฟยมาก ผมกำหมัดแน่นอยากจะเข้าไปชกหน้าไอ้ผู้ชายคนนั้น … กล้าดียังไงถึงมาแย่งพี่ชายคนเดียวของผมไป ไม่ว่าใครหน้าใครก็ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพี่เฟยไปจากผมเด็ดขาด
ผมกลับมาถึงห้องพร้อมกับคิดแผนการสกำจัดผู้ชายออกคนนั้นออกไปจากชีวิตพี่เฟยให้ได้ จนในที่สุดผมก็ปลอมตัวเป็นพี่เฟยในเย็นวันนั้นพร้อมกับไปพูดจาทำร้ายจิตใจผู้ชายคนนั้นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับพี่เฟยอีก
…พี่ชายของผม ผมหวง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์
สงสัยไอ้ผู้ชายคนนี้มันจะพูดไม่รู้เรื่องหรือว่ายังไง มันลากผมเข้าไปเคลียร์กับมันในห้องเก็บของซึ่งผมไม่พอใจเป็นอย่างมาก นั่นก็ทำให้อารมณ์ของผมพลุ่งพล่านจนแทบจะควบคุมไม่อยู่
ผมเดินสะบัดตัวออกจากห้องเก็บของไปด้วยความไม่พอใจ ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันมีสิทธิ์อะไรที่จะมารักพี่เฟย พี่เฟยเป็นของผม ผมไม่ให้พี่เฟยไปไหนเด็ดขาด พี่เฟยรักผมแค่คนเดียวเท่านั้น
ผมตัดสินใจล็อคประตูห้องเก็บของ เพราะถ้าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันออกมาเจอพี่เฟยแล้วล่ะก็ … แผนที่ผมวางเอาไว้ต้องเละไม่เป็นท่าแน่ๆ
*********************************************************
“พี่เฟยมองหาอะไรอยู่หรอครับ”ตอนที่เรากำลังจะกลับบ้าน พี่เฟยเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง อะไรบางอย่างที่ผมรู้อยู่แน่ชัดแล้วว่ามันคือ … ไอ้ผู้ชายคนนั้น
“เปล่า …ไม่มีอะไรหรอก”พี่เฟยพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยพร้อมกับเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน
…ไม่นาน ไม่นานหรอกครับพี่เฟย! พี่ก็จะลืมมันแล้วมันก็จะไม่เข้ามาในชีวิตพี่อีกต่อไป
และแล้ววันที่ผมกลัวก็มาถึง…เมื่อผมโทรหาพี่เฟย แต่พี่เฟยปิดโทรศัพท์ผมจึงโทรหาเพื่อนของพี่เฟยแทนแล้วถามว่าพี่เฟยไปไหน ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์…
แล้วผมก็รู้มาว่า… พี่เฟยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วเพื่อนของพี่เฟยก็บอกผมว่าผู้ชายคนนั้นมาบอกพวกเขาว่าเป็นคนรู้จักของพี่เฟยแล้วก็สนิทกันมากๆด้วย เลยมาเกลี้ยกล่อมให้พวกเพื่อนของพี่เฟยกลับกันไปก่อน โดยอ้างว่าพี่เฟยฝากมาบอกว่าอยากจะอยู่เที่ยวต่อ ซึ่งเพื่อนของพี่เฟยก็มีโปรเจคงานที่จะต้องส่งในเทอมนี้ด้วยแล้ว โดยความรีบ…ก็เลยต้องล่วงหน้ากลับมาก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้
…ลางสังหรณ์ของผมบอกว่าผู้ชายคนที่บอกว่าตัวเองรู้จักกับพี่เฟย ต้องเป็นไอ้ผู้ชายคนนั้นแน่ๆ เพียงแค่คิด …ผมก็กลัวขึ้นมาจับใจ ไม่รู้ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะยังแค้นผมหรือพูดง่ายๆก็คือมันยังแค้นพี่เฟยคนนั้นคนที่ถูกผมสวมรอยอยู่หรือเปล่า ผมไม่อยากจะคิดว่าถ้ามันแค้นจริงๆ มันจะทำอะไรพี่เฟยบ้าง
…หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมก็รู้ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันมีชื่อว่า ‘เมฆ’ แล้วด้วยความบังเอิญหรือไม่ก็อะไร น้องสาวของมันดันมาเรียนมหา’ลัยเดียวกันกับผม แต่ผมก็คิดว่าน้องสาวของมันอาจจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับมันในตอนนั้น หรือถ้ารู้ก็อาจจะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใครก็ได้ ไม่งั้นน้องสาวมันต้องมีปฏิกิริยาอะไรกับผมแน่ๆ แต่ในเมื่อน้องสาวมันไม่รู้เรื่องก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องหาคำโกหกมาร่ายให้น้องสาวมันฟัง แบบนั้นมันน่าเบื่อจะตาย …. จริงมั้ย !?!?!?!
ผมถามเบอร์โทรศัพท์ไอ้เมฆจากน้องสาวมัน จึงรู้ว่าพี่เฟยอยู่กับไอ้เมฆจริงๆ ใจผมเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว ไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ได้ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว น้องสาวมันก็ถามว่าจะเอาเบอร์โทรศัพท์พี่เมฆไปทำไม ด้วยความที่ผมมีเวลาไม่มาก ผมจึงต้องเล่าความจริงอะไร แต่เรื่องกลับตาลปัตรเมื่อน้องสาวของมันอาสาจะช่วยผมคุยกับไอ้เมฆ
ผมตัดสินใจโทรฯไปเจรจาต่อรองกับไอ้เมฆ แต่ไม่ว่าผมจะขอร้องมันยังไงมันก็ไม่ยอมปล่อยพี่เฟย จนผมกลัว…กลัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นไอ้เมฆมันจะเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของพี่เฟยจริงๆ
ผมจึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดไปว่าพี่เฟยที่ไปบอกเลิกพี่ในวันนั้นคือผมเอง ผมปลอมตัวเป็นพี่เฟย
เสียงของไอ้เมฆดูเหมือนจะอ่อนลงเล็กน้อย แต่ในขณะที่ผมกำลังจะถามว่าพี่เฟยอยู่ที่ไหน มันก็กดตัดสายไปก่อน นั่นทำให้หัวใจของผมแทบหยุดเต้น สมองตื้อคิดไม่ออกไม่พักใหญ่ ผมโทรฯไปใหม่ มันก็ปิดเครื่องไปแล้ว
…ขอร้องละ อย่าทำอะไรพี่เฟยเลย ผลกรรมที่ผมก่อ อย่าเอาไปลงที่พี่เฟย พี่เฟยไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ
ผมออกตามหาพี่เฟยเป็นวันที่สามแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่เฟยอยู่ที่ไหน สถานที่ที่เพื่อนของพี่เฟยบอกว่าเจอไอ้เมฆนั้นผมก็ไปตามหา แต่ก็ไม่พบ นั่นทำให้ผมกระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก…จึงตัดสินใจหาโรงแรมพักก่อน เพราะนี่ก็มืดแล้วจะตามหาตอนกลางคืนก็ดูจะอันตรายเกินไป
…หวังว่าผลกรรมที่ผมก่อขึ้นจะไม่ไปตกอยู่ที่พี่เฟยนะครับ ขอให้ผลกรรมทั้งหมดที่ผมก่อตกมาอยู่ที่ผมเพียงคนเดียว … จะได้ไหมครับ !?!?!?!