Re: [ Will You Be Mine ♥♥♥ คุณครับ...ผมรักมาก ] ตอนที่ Specialแยม 14/02/60 P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: [ Will You Be Mine ♥♥♥ คุณครับ...ผมรักมาก ] ตอนที่ Specialแยม 14/02/60 P.17  (อ่าน 436832 ครั้ง)

Ayla

  • บุคคลทั่วไป
ดื้อก็รัก :mew1:

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่านมาราธอนเลยทีเดียว

 น้องนาวยังดื้อไม่เปลี่ยนเลย แต่ถึงดื้อพี่ตินก็ยังรักนะ

ออฟไลน์ Little_Devil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อยากอ่านโรลกับพี่ฟ้าอีก
แต่เบื่อมะนาว ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบ ไอ้มุมน่ารักมันก็มี แต่ที่ไม่น่ารักมันมีมากกว่า
ทั้งดื้อ เอาแต่ใจ เอะอะโวยวาย ไม่ได้ดั่งใจก็ร้องไห้ ไม่รู้จักกาลเทศะ(เป็นบางครั้ง) แถมยังก้าวร้าวอีก
เหมือนเด็กสปอยล์ที่วันๆ ไม่ทำประโยชน์อะไรซักอย่างอ่ะ  :seng2ped:
อ่านมาห้าสิบตอนนี่ คือมะนาวเหมือนไม่มีพัฒนาการไปในทางที่ดีที่สมควรแก่อายุเลย
สังเกตดูเวลาชวนน้องเจเล่นเนี่ย ชอบเล่นแผลงๆ แบบอันตราย(มาก)ทั้งนั้น
คือด้วยนิสัยแบบนี้มันก็น่าตบกะโหลกจริงๆ มันเลยทำให้เบื่อมะนาวอ่ะ
แต่ชอบคู่พี่ฟ้ากับโรลนะ เราว่ามันน่าสนใจว่าคู่นี้จะดำเนินยังไงต่อไป
อย่างเดียวที่ไม่ชอบในตัวโรลคือความก้าวร้าว หวังว่าต่อไปคงไม่โผล่ออกมานิสัยแย่เหมือนมะนาวนะ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
อ่านจุใจ เอาให้หายคิดถึงกันไปเลย
น้องนาวยังดื้อ ซน และน่ารักเหมือนเดิม
แต่น้องเจนี่สิ พัฒนาการก้าวกระโดด
ดีแล้วล่ะ ดูแล้วไม่น่าเป็นห่วงเหมือนแต่ก่อน
พี่ๆเองก็จะได้วางใจว่าน้องดูแลตัวเองได้แล้ว
ส่วนพี่ฟ้ากับน้องแยมก็ต้องเอาใจช่วยต่อไป
ดูแล้วคงอีกไม่นานน้องแยมคงเปิดใจให้พี่ฟ้า
ถ้าคู่นี้เปิดตัวคงน่ารักไม่แพ้สองคู่นี้แน่เลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ยาวมากกก           พี่ฟ้าแรงเยอะเนาะจับแยมโรลแต่ละทีแทบจะช้ำอะ   ส่วนนาวร้องไห้บ่อยมาก!!!

ออฟไลน์ Supak-davil

  • สาว Y = Why I don't have a boyfriend ??????????
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ยังไม่ได้ตามอ่านเมนท์ มาจิ้มไว้ก่อน กำลังหาเพื่อนอยู่ มีใครตามมาซ้ำที่นี่บ้าง :impress3: :impress3: :impress3: :impress3:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้
นาวดื้อแบบไม่มีลิมิตจริงๆ :laugh:

ส่วนน้องเจน่ารักมากกกกกกกก :mew1:
+1และเป็ด

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เยอะมากกกกกกกว่าจะอ่านจบเพลินเลยสนุกน่ารักเหมือนเดิมมะนาวยังน่ารักแต่ก็ยังโดนดุตลอดฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ white feather

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านยาวววววววเลย เพลินๆชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ
ดื้อตลอดดดดดเลยนะมะนาว ดื้อได้คงเส้นคงวาจิงๆ ติณฑ์ต้องสู้นะ
ต้องสู้กับเด็กดื้อ แต่พอเห็นน้องร้องไห้ก้อแบบอยากให้ติณฑ์ใจอ่อนกะน้องอีกละ 55555
ก้อทำไงได้ น้องนาวน่ารักนี้เนอะ >\\\\<
ชอบคู่พี่ฟ้ากับโรลจังค่ะ อยากให้เขียนถึงคู่นี้อีกนะ อยากอ่านต่อๆ
ไปอยู่ช่วยงานที่ไร่ตั้งนาน ความสัมพันธ์น่าจะมีอะไรคืบหน้านะค่ะ
อยากรู้ๆ คึคึคึ เชียร์คู่นี้ให้เค้าสมหวังกันเร็วๆ :impress2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 51

.....

            [ติณฑ์]

                        นั่งมองดูไอ้เตี้ยมันคลานตามใต้ตู้ใต้โต๊ะครับ แหวนหาย...เฮอะ~ มัน บอกว่าตอนกลับมาจากกาญยังมีติดนิ้วมันอยู่เลย อาบน้ำให้กระถาง (หมา) มันก็เลยถอดไว้บนร่องข้างกำแพงบ้าน...ตรงก๊อกน้ำ ไปดูแล้วมันไม่มี ผมเรียกเด็กในบ้านมาถาม แต่ไม่มีใครเห็นสักคน....ยังไงกันนี่!?!?! สั่งทำให้พิเศษเลยนะ...แพงซะด้วย ไอ้เตี้ยเล่นกูซะแล้ว

            “แม่งหายไปได้ไงว่ะ”มันบ่น เริ่มหงุดหงิดที่ของไม่เจอ

            “มึงจำผิดที่รึเปล่า”ผมถาม

            “ไม่ผิด!!! ก็อาบน้ำให้กระถางก็เนี่ย ๆ  ๆ วางไว้ตรงนี้”

            “แน่ใจ!?!?”

            “เออ!”

            หน้างอไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่มันคนเดียว...แต่เด็กในบ้านก็ช่วยกันหา ทำคนเดือดร้อนกันไปทั้งบ้าน ผมยืนคุมมันอีกที ไม่พอใจนักหรอก...ที่มันทำของที่ผมตั้งใจให้หาย

            “หาให้เจอเดี๋ยวนี้เลยนะ”

            “ก็หาอยู่นี่ไง!!”กล้า ขึ้นเสียงใส่กูเนอะ ตัวเองทำผิดแท้ ๆ ผมจ้องหน้ามัน...ถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายตัวเองออกมาบ้าง แล้วเควี้ยงฟาดเข้ากำแพง...เพราะความโมโห

            “หา!!!”

            ตะคอกใส่หน้าแม่ม...แล้วเดินเข้ามาห้องทำงานตัวเองเลยครับ ไม่อยากชายตามอง...เพราะมันร้องไห้แน่ ๆ พวกเด็กในบ้านก็วิ่งเข้าไปปลอบ ไอ้เรามันก็กลัวใจอ่อนเน้อ...วางระเบิดแล้วชิ่งดีกว่า

            นั่งอ่านหนังสือในห้องอย่างไม่ค่อยมีสมาธิ เลยออกมาเปิดทีวีดู...วันนี้สารคดีทำให้ผมเกิดเบื่อ และอยากรู้มากว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ไม่รักมัน...หรือรักสิ่งของมากกว่ามัน แต่ผมอยากให้มันใส่ใจของทุกชิ้นที่ผมตั้งใจให้ ทุกสิ่งทุกอย่างผมเลือกแล้ว ว่าเหมาะสำหรับมัน...อยากให้มันคุณค่าและทะนุถนอมของของผม

            หึ...ผมคาดหวังกับมันมากไปหรอ?

            เกือบ เที่ยง...ผมนั่งทานอาหารในห้องครัวคนเดียว วันนี้ทำแกงจืดกินเอง...จืดสนิท พอ ๆ กับไข่เจียวที่วันนี้ดูจะผิดรสไปมาก เดินออกมาดูไอ้เตี้ยยังถือไม้กวาดไล่หาแหวนสองวง แดดยิ่งร้อน ๆ หน้ามันก็ยิ่งแดง  เฮ้อ...อยากดัดสันดานมันแต่ทำไมใจแข็งไม่พอว่ะ!?!?!

            เกือบบ่ายสองกว่า...โผล่หน้าออกไปดูอีก เห็นมันนั่งร้องไห้ข้างกำแพง...น่าสงสาร เฮ้อ~ นี่ถ้าครอบครัวมันมาเห็น คงไม่ต้องรอให้ลูกเค้าหาอย่างนี้หรอก แค่โดนแดดนิดเดียว...ผมคงโดนกระทืบตาย

            “ฮัลโหลครับ”ผมกดรับสาย เพราะเห็นชื่อโชว์เบอร์น้องคิ้ว

            “สวัสดีค่ะพี่ติณฑ์ เป็นยังไง...สบายดีไหม”คิ้วถาม

            “ก็ดี...”

            “คิ้วโทรเข้ามือถือไอ้นาวแล้ว ไม่มีคนรับ...มันอยู่กับพี่รึเปล่า”

            “อือ อยู่ที่บ้านนี่แหล่ะ...”ผมตอบ

            “พี่คงไม่ได้...ทะเลาะอะไรกันใช่ไหม”ฉลาดมากน้อง..

            “ก็นิดหน่อย คิ้วมีอะไรรึเปล่าครับ”ผมเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้ใครมาเป็นตัวช่วยมันอีก...เมื่อมันผิดก็ให้มันแก้ไขเรื่องของตัว เอง

            “วันศุกร์นี้ ไอ้ชัดมันจะเลี้ยงฉลองที่ขามันไม่ต้องใส่เฝือกแล้วอ่ะพี่...แต่ช่วงเช้า ต้องช่วยมันยกของกลับไปที่หอ”

            “อ๋อได้ ศุกร์นี้ใช่ไหม”

            “พี่ลากไอ้นาวมาด้วยนะ น้องเจด้วย...”

            “คร้าบ...แค่นี้ใช่ไหม”

            “ค้า ขอบคุณค้า”

            น้องคิ้ววางสายไป ผมกดหาเบอร์โทรไอ้ฟ้า พี่ชายสุดที่เลิฟไอ้เตี้ยทันที... แหม่ ไม่รู้ว่ามันรู้หรือยังนะ ว่าไอ้ชัดจะกลับไปนอนหอกับเมียมัน คึคึ คิดแล้วขำ...แต่เอ๋ ไม่เอาอีกกว่า...ปล่อยให้มันเป็นงี้แหล่ะ ให้มันหาทางแก้เอาเอง ฮาาา คงจะมันส์ล่ะคราวนี้

            ร่างเล็กหน้าแดงโดนลีบเหมือนผีดิบนั่งข้าง ๆ ผม เตี้ยมันถือแหวนมาวงนึง คือวงของผม เอามือผมไปแล้วสอดแหวนใส่ ก่อนจะร้องไห้เอาไหล่ผมเช็ดน้ำตา เด็กน้อย...

            “ฮึก...อีกวงมันหาย~”มันบอกเสียงเบา

            “แล้วจะทำยังไง กูไม่ซื้อใหม่ให้หรอกนะ”ผมบอก มันกำคอเสื้อผมแน่น...ไอ้เราก็โคตรใจแข็ง ปล่อยให้มันร้องไห้อยู่นาน แววว่าจะไม่หยุดสักที...จะลุกไปไหนก็ไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมให้ลุก จนต้องแงะมือมันออก...เดินมาหยิบสร้อยที่เตรียมไว้อยู่แล้ว เป็นสร้อยเงิน...ลายเรียบ ๆ เส้นไม่ใหญ่มาก แล้วเอาแหวนที่นิ้วตัวเองออก...ใส่สร้อยไว้ เตี้ยมันนั่งมอง

            “นี่เป็นแหวนของกู...ต่อไปนี้กูจะฝากไว้บนคอมึง ห้ามถอด! ห้ามหาย! เข้าใจรึเปล่า”ผมถาม มันพยักหน้า...กอดเอวผม เลยต้องจูบหน้าผากบางแรง ๆ ทีนึง เพราะเด็กมันยั่ว หึหึหึ...

            “ขอโทษนะ...”มันบอกคำเดียวสั้น ๆ ก้มมองสร้อยที่คอตัวเอง

            “เอาไว้กูเก็บเงินจะซื้อคืนให้”มันบอก ผมจับหน้ามันมาจ้องตา...

            “กูให้...เพราะอยากให้มึงรักษา ไม่อยากได้ของใหม่...”

            “.....................”

            “ปกติเห็นหวงนั่น หวงนี่...นี่นา”

            “ก็มันเป็นเหตุสุดวิสัย...นะติณฑ์นะ อย่าโกรธนะ..มึงโกรธแล้วน่ากลัว”

            ผมหอมแก้มมันฟอดใหญ่.....

            “อย่าทำให้กูเป็นงี้อีกแล้วกัน ไม่รับประกันความปลอดภัย...หึหึ”กอดมันเล่นอีกสองสามที ไอ้ตัวดี...นี่ท้องร้อง ผมเลยจัดเต็ม ให้เด็กออกไปซื้อตำไทย เพราะมันอยากกิน...สลัดกุ้ง น้ำแอปเปิ้ลแช่เย็น ๆ ข้าวผัดห่อไข่ ในตู้เย็นมีไก่เลยเอามาชุปแป้งทอดซะเลย น้ำเกรวี่ยังเหลือ...ลองเอามาราดดู ปรากฏว่าอร่อยใช้ได้...เลยยกมาเสิร์ฟ~

            “อ้าปาก~”เตี้ยมันสั่ง ผมเลยได้นั่งทานกับมันอีกรอบ...ผลัดกันกิน ผลัดกันป้อน...จะเหลือเหรอครับ ฮ่าฮ่าฮ่า

            “ติณฑ์อยากกินเค้ก”

            “จัดไป~”

            ผมลุกขึ้นมาทำเพนเค้ก...เตี้ยมันอยากทำบ้าง เลยสอนมันทำซะเลย...หน้าเริ่มมีเลือดฝาด ไม่รู้เพราะเขินที่โดนโอบเอว หรือยังร้อนไม่หายกันแน่ก็ไม่รู้...~ หึหึหึ ทั้งจูบ ทั้งหอมแก้ม...มันเล่น ๆ จนได้เพนเค้กมาสี่ชิ้น

            “ไอ้เชี่ย...ร้อน ๆ ๆ”ผมหัวเราะ ตะกละมาก...เมียกู มันชิมแล้วทำหน้าล่องลอย ก่อนจะป้อนผมบ้าง...อืม อร่อย ให้รางวัลเป็นจูบหวาน ๆ ไปที หน้าแดงหูแดงหมดเลยวุ้ย~

            “คาราเมลในตู้เย็น เอาราดไหม หรือจะเอาแยมสตรอเบอรี่?”

            “คาราเมล ไอติมหมดยัง?”ผมส่ายหน้า ตางี้ลุกวาว เปิดตู้เย็นหาเองเลย

            “วิปครีมก็ยังเหลืออออ แท่น แทน แท๊นนนน~ เพนเค้กแสนอร่อย~”

            ดูมันมัว ๆ ยังไงไม่รู้นะ...เพนเค้ก ไอติม คาราเมล วิปครีม จัดวางแบบตามใจฉัน...มันนั่งลงกินเอร็ดอร่อย จนอดยิ้มไม่ได้...

            “มองอยู่นั่นแหล่ะ”

            “เมียน่ารักไม่ให้มองได้ไงว่ะ” หึหึหึ...ไอ้เตี้ยแก้เขินด้วยการ ยกเท้าขึ้นมาวางบนตักผม...แกล้งบีบไข่แมร่ง ฮ่าฮ่าฮ่า มันถลึงตามอง เกือบโดนเอาช้อนฟาดหัว...

 

//////////////////////////////////////////////////////////////////

            ออกจากบ้านกันตั้งแต่ 9 โมง พาเตี้ยไปห้างซื้อของก่อนครับ กำลังจะไปบ้านคิ้วกัน...เมื่อคืนกวนมันจนเพิ่งได้นอนเมื่อตอนตีห้า  เด็กน้อยงอแง...วันนี้จะไม่ออกจากบ้านด้วยซ้ำ ยิ่งบอกว่าจะไปเจอเพื่อนนะ...มันยิ่งหน้ามุ่ยใหญ่ ไม่ใช่อะไร...เมื่อคืนมันกวนตีน...จนผมต้องฝังรอยในที่เปิดเผย ซึ่งมันไม่ชอบ...

            โทรหาเจแล้ว แต่เจคงไม่ไป...เพราะตอนนี้ติดป๊าม๊าใหม่ของมันมาก ผมว่าสิ้นเดือนไอ้พุทกลับมา...คงมีเคืองกันบ้าง เพราะน้องเจเล่นไม่กลับบ้านตัวเองเลย ไม่รู้ว่าบ้านนั้นมีอะไรดี!?!?!

            “นอนรออยู่ในรถไหม”ผมถาม เห็นสภาพมันแล้ว...ไม่รู้ว่าจะเดินไหวรึเปล่า มันพยักหน้า...

            “งั้นกูไปซื้อแปปเดียวไม่นานนะ...”

            “ไม่ต้องดับเครื่อง~”

            “ครับ ๆ จะรีบซื้อ รีบกลับ”รายการซื้อก็เป็นอะไรง่าย ๆ หมู เห็ด เป็ด ไก่ ขาดเหลืออะไรค่อยเข้ามาซื้ออีกที แล้วก็ของใช้ให้น้องลูกชิ้นอีกนิดหน่อย จริง ๆ หลังรถก็มีของฝากจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว ผมซื้อเสร็จรีบออกมาที่รถ เด็กน้อย...นอนหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งรถออกแล้ว ก็ยังนอน...หลับลึกอย่างนี้ ถ้าไม่ใช่ผมมาขับ เขาคงจะเอามันไปขายไหนต่อไหนได้แล้ว

            มาถึงบ้านคิ้ว...เตี้ยมันยังนอนอยู่เลย ผมจอดรถแต่ติดเครื่องไว้ ไอ้ชัดรีบเดินหน้าแป้นยกมือไหว้มา

            “สวัสดีคร๊าบบบบบ อาเฮีย”

            “เออ...ขาหายดีแล้วเหรอว่ะ”

            “ยังเสียว ๆ คร๊าบบบบบ แต่พาไอ้นาวซิ่งได้แน่นอน วะ ฮะ ฮ่า”

            “ไอ้เหี้ย~!”สั้น ๆ ได้ใจความ มันก็ยิ้มหน้าบานเหมือนเดิม ดีใจที่โดนกูด่าว่างั้น? ลูกชิ้นเดินอุ้ยอ้ายท้องใหญ่มาหา...

            “โห...ใหญ่แล้วนี่ ไม่กี่เดือนก็คลอดแล้วสินะ”

            “ค่ะ...”

            “คิ้วละ”

            “อยู่นี่~~~~~~”น้องคิ้วผิวแทน ๆ น่ารักมาก เห็นบอกว่าออกไปอยู่ต่างจังหวัดมาเป็นเดือน ๆ แววตายังสุกสดใสเหมือนเดิมเลย

            “อ้าว ไอ้นาวละ?”คิ้วถาม ผมบุ้ยปากว่านอนในรถ...

            “ให้มันนอนก่อน เมื่อคืนไม่ได้นอน”

            “แน่ะ ทำไรไม่ได้นอน~!!??”ไอ้ชัดทำหน้ากรุ่มกริ่ม เฮอะ ๆ ๆ ๆ

            “เดี๋ยวรอให้มันตื่น กูจะให้มันไล่เตะมึง”ผมบอกไอ้ชัด

            “จะยกขาไหวเร้อ~~”ไอ้ พวกนี้แซว จนผมอดหัวเราะไม่ได้...ช่วยกันยกของเข้าบ้านเสร็จ เตี้ยสุดที่รักก็ยังไม่ตื่น ผมอยากจะให้มันมานอนในบ้านสบาย ๆ แต่ถ้ามันลืมตามาเห็นพวกเพื่อนมัน มันก็จะไม่นอนแน่ ๆ เลยต้องปล่อยให้นอนต่อไปอยู่อย่างนั้น...โดยมีหมอนเน่าและผ้าห่มของผม อยู่บนตัวมัน

            “จุ๊บ~”

 

            (ต่อ 30%)

ผม สะกิดสุดที่รักให้เข้ามานอนในบ้าน...มันก็เดินตามมาด้วยดี ตอนนี้เพื่อนไอ้ชัดผู้ชายสองสามคน มาช่วยกันยกของจะย้ายกลับไปที่หอ แม่มันก็บ่นใหญ่ว่าไม่ยอมใส่กล่องให้ดี ๆ จะได้ยกง่าย ๆ คิ้วกับลูกชิ้นช่วยกันทำกับข้าวในครัว คิ้วบอกว่าแม่ไม่อยู่ไปสมาคม ผมเลยฝากของฝากให้แม่คิ้วด้วย

            “เย็นนี้กินอะไรกันง่าย ๆ แล้วกันนะ”

            “เอาของไปไว้ก่อนไหม พี่ว่าค่อยกลับมาทำ”

            “เดี๋ยวคิ้วเตรียม ๆ ไว้แล้วกัน ชิ้นก็หยุดกินได้แล้ว”คิ้วแกล้งบ่น ลูกชิ้นหัวเราะ...แต่ยังหยิบไส้กรอกกินไม่เลิก ผมส่ายหัวแล้วเดินออกจากครัวมายังห้องรับแขก ไอ้คนที่นอนราบกับโซฟาอ่ะ...เมียผม แต่ไอ้คนที่ยืนจ้องไอ้เตี้ยอยู่น่ะ...แฟนคิ้ว!?

            “หวัดดีครับพี่”กาวยกมือไหว้ ผมยิ้มให้น้อย ๆ ทำไมรู้สึกแปลก ๆ ว่ะ

            “มานานแล้วเหรอ”ผมทัก

            “เพิ่งมาครับ”

            “เฮ้ย มาช่วยยกดิ”ชัดเรียก ผมให้กาวเดินออกไปก่อน แล้วก้มลงกดจูบไอ้เตี้ยแรง ๆ นอนน่าหมั่นไส้...คอขาว ๆ แต่อดไม่ไหว มองซ้ายขวาไม่มีคน ก็ก้มลงดูดคอจนเป็นรอย

            “ตะ ติณฑ์..เจ็บ~” เสียงเจ้าตัวดีคราง...ผมผละออก ไม่รู้ว่าตัวเองมีอารมณ์คุกกรุ่นในใจจนกระทั่งมันร้องนั่นแหล่ะ หึหึหึ...หน้างอเพราะถูกรบกวนการนอนจนได้ มันตบแก้มผมไม่เบา...แต่ก็ไม่แรง

            “เป็นเหี้ยอะไร!? แมร่ง...เจ็บนะ”มันบ่น

            “นอนกินบ้านกินเมือง เห็นไหมว่าเค้าช่วยกันยกของน่ะ”ผมแกล้งบ่นกลับ

            “ก็กูเหนื่อย กูเพลีย...เมื่อคืนบอกว่าไม่ให้ทำ ๆ มึงทำทำไมล่ะ! รู้อยู่ว่าวันนี้กูต้องมาช่วยไอ้ชัดดำมันย้ายสำมะโนครัว!!”

            ผมอมยิ้ม...ร่างเล็กลุกขึ้นนั่ง จับคอตัวเอง...แดงเป็นจ้ำเลย เหอ ๆ ผมแกล้งดูดปากไปอีกที คราวนี้มันดันคางผมหันหนี

            “อีกทีเดียว...จะไปช่วยมันยกของต่อแล้วเนี่ย”ผมบอก

            “ไม่ต้อง สัส...”

            “ปากดีนะจ๊ะเมีย”

            “ควาย”

            “เดี๋ยวมึงจะโดน”

            “มึงก็จะโดนเหมือนกันแหล่ะ ออกไปห่าง ๆ กูเลย กูจะนอนนนนนน!!!!”

            “คร๊าบ ๆ นอนห่มผ้าด้วย จะให้ดีเอาผ้าปิดหน้าไว้เลย...”

            “หน้ามึงสิ”ไอ้เตี้ยหน้างอ นอนลงแล้วถีบผ้าห่มไว้ปลายเท้า...ผมหัวเราะ ไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาสะบัด ๆ แล้วคลุมตั้งแต่หัวยันเท้าของมัน มันก็ถีบออก...หันมาชักสีหน้าดุเดือด

            “มึงบ้าป่ะ!!!!”

            “ห่มงี้แหล่ะ...”ผมบอก มันถีบ ผมก็ห่มให้ใหม่เป็นอย่างนี้จนมันรำคาญ

            “เป็นเหี้ยอะไรเนี่ย!!!!!!! แมร่ง...”น้ำตาคลอแล้วครับ...ผมจูบขมับมันที

            “โอ๋~ ไม่ได้แกล้ง...มึงนอนน่ารัก กูหวง...ไม่อยากให้คนอื่นเห็น”ผมผลักมันนอนแล้วห่มผ้าให้เหมือนเดิม

            “มันหายใจไม่ออก!!!!!!!!”มันบ่น แต่น้ำเสียงเบาลงกว่าเดิม...ผมให้มันหันหน้าเข้าเบาะพิง เอาหมอนเน่าให้กอด และห่มผ้าแบบพอให้มันหายใจได้...

            “ออกยัง เอาแบบนี้นะ...”

            “จิ๊...เรื่องมาก กว่าจะได้นอน ผีเข้าหรือไงว่ะ...”

            หึหึหึ...ผีจะเข้ามึงน่ะสิ เมื่อกี้ผีแมร่งยืนจ้องมึงด้วย บอกในใจ...ไอ้เตี้ยมันไม่รู้ตัวหรอกครับ ผมหันตัวจะเดินออกจากห้อง เห็นกาวยืนหัวเราะหึหึ...แล้วเดินจากไป

            เหี้ยอะไรของมัน???

            ระหว่าง ที่รอไอ้ชัดเอาของกลับไปที่หอ บ้านก็เหลือแต่ผมและลูกชิ้นผู้ซึ่งทำหน้าที่ทำอาหาร ผมเริ่มทำอะไรง่าย ๆ อย่าง ต้มตีนไก่...เพื่อที่ว่าจะรอตุ๋นให้มันนิ่ม ๆ แล้วค่อยเริ่มทำอย่างอื่น

            “ลูกชิ้นไปพักเถอะ...พี่ทำเอง”

            “จะดีเหรอ”

            “ดีสิ...ไปพักได้แล้ว~”ลูกชิ้นลังเล แต่พอเห็นไอ้เตี้ยเดินเข้ามาน้องก็ยิ้มเข้าไปกอดทันที

            “ตื่นแล้วเหรอพี่มะนาว”

            “ครับ...ท้องโตแล้วอ่ะ น่ากลัวจังเลย”ไอ้เตี้ยพูด

            “ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน ชิ้นไปนอนนะ...อยู่กันดีๆ ล่ะ”น้องบอก ไอ้เตี้ยแยกเขี้ยวใส่...หึหึหึ

            มันเดินมากอดเอวผมจากด้านหลัง...เอาหน้าฝังลงกลางหลังพอดี

            “หิว~”หึหึหึ...

            “ล้างหน้ายัง...เดี๋ยวทอดทอดมันให้ก่อนเลย”

            “อย่างเดียว?”

            “มีผัดมะกะโรนี ชิ้นกินเหลือไว้ เอาไหม”มันพยักหน้า...ผมเลยจัดอาหารวางไว้ให้คุณชาย

            “ไปไหนกันหมดอ่า”

            “เอาของไปเก็บที่หอสิ”มันพยักหน้า นั่งทานอย่างอร่อย...ผมกลัวมันไม่อิ่มอ่ะ รีบทำไอ้โน่นไอ้นี่ไปเสิร์ฟ...เตี้ยมันยิ้มแล้วโลกสดใสดี มันยัดข้าวเข้าปากยังเคี้ยวไม่ทันกลืนก็จับไก่ทอดกินอีก แก้มบวมเป่ง ๆ แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี...ผมยิ้มกว้าง ตอนมันป้อนให้ผมกินด้วย...

            ติ๊ด ๆ

            “ฮัลโหลครับ”

            “คุณครับ”

            “ว่าไงมิคัง?”ผมยิ้มน้อย ๆ แต่ต้องหุบยิ้มเมื่อไอ้เตี้ยมันวางตะเกียบจ้องหน้านิ่ง ๆ

            “ผมอยากไปหาคุณจัง”เสียงใสบอก

            “หือ...ทำไมล่ะ”

            “คุณเคยบอกว่าเมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะแยะ มีอาหารอร่อย ๆ ผมอยากไป...”

            “ได้สิ เอาไว้ถ้ามิคังมาถึงเมื่อไหร่ ก็โทรหาแล้วกันนะ...”

            “คุณจะพาผมเที่ยวใช่ไหม”

            “แน่สิ”

            ปัง!!

            ไอ้เตี้ยวางช้อนกระแทกใส่ผม ผมรีบจับแขนมันไว้...ไม่ให้ไปไหน

            “ปล่อยไอ้เหี้ย!!!!!”มันด่า

            “คุณครับ!!! ใครหรอครับ!?!?!?!”มิคังถามเสียงดังปนไม่พอใจอยู่หน่อย ๆ

            “มิคัง แค่นี้ก่อนนะ”

            “ไม่ครับ ผมไม่วาง...ใครหรอครับ”

            “ไอ้เหี้ย...ปล่อยกู!!!!”

            “อย่างี่เง่า...”

            “กูไม่ได้งี่เง่า...ไอ้ควาย ปล่อย!!!”

            “คุณครับ...คุณโอเคไหมครับ”เสียงปลายสายดังรัวไม่หยุด

            “มิคัง...เดี๋ยวลุงโทรกลับนะ”ผมรีบวางสาย เพราะไอ้เตี้ยดิ้นไม่หยุด

            “ไปเลย!!!”

            “จะให้ไปไหน...บ้าป่ะ!!!!!”ผมเสียงดังใส่กลับ กัดปากตัวเองอีกแล้ว...งอนทีไรเป็นงี้ทุกที

            “มากินให้หมด”

            “ไม่กิน ไม่มีอารมณ์!!?!?!”

            “หึงว่างั้น?”

            “ไม่หึง” เสียงสั่นไปนะ...

            “มิคังเป็นลูกของเพื่อนที่ญี่ปุ่น เด็กแค่เจ็ดแปดขวบ...อย่าหึงเลย...”ผมรีบบอก มันทำหน้าอึ้ง ๆ แล้วก็เปลี่ยนเป็นเอ๋อ ทันควัน

            “ใครบอกหึง? บ้าป่ะ...โอ๊ยยย ไก่หมดเนี่ยจะให้กินอะไร!!!!!!”ผมหัวเราะตัวงอ เตี้ยมันหูแดงมาก...อายที่อาละวาดไม่ดูตาม้าตาเรือ

            คิดแล้วหนักใจนิดนึง...ไอ้ที่ว่าเจ็ดแปดขวบนี่ก็แสบไม่น้อย ได้เจอกับเมียกู...นรกคงแตกแบบผมไม่ต้องเกิด ภาวนาอย่าให้มิคังมาเลย...

            “ติณฑ์...”

            “ครับ...”

            “ทำไมต้องทำหน้านิ่งด้วย? หน้ามึงนิ่ง...น่ากลัว”

            ผมยิ้มให้มันน้อย ๆ เอากระดาษเช็ดปากให้โดยไม่พูดอะไรอีก เราสองคนกินอาหารและช่วยกันทำไปเรื่อย ๆ จนเพื่อนมันกลับมาครบทุกคน เลยได้กินอะไรกันพร้อมหน้า ไอ้ชัดว่า...ยังโทรติดต่อโรลไม่ได้ เพราะยังไม่ได้บอกว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยเหมือนเดิม หึหึหึ...มันส์ละงานนี้

 

---------------------------------------------------------------------------

55555555555555555555555+

จบไปอีกตอน...



ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
บทที่ 52

 

 

สงสัย

 

            [ติณฑ์]

            ผม สะดุ้งตื่นตอนไอ้เตี้ยกำชับกอดมากกว่าเดิม แอร์เย็นฉ่ำ...และข้างนอกก็ฝนตก มันซุกซะจนเราจะรวมร่างเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว ก่อนที่จะตบะแตกผมผละออก...ลุกขึ้นไปเปิดแอร์ ไอ้เตี้ยผงกหัวถาม

            “ปิดไม?”

            “หนาว”ผมตอบ ดูนาฬิกานี่มันจะแปดโมงแล้ว ไอ้เตี้ยไปเรียนวันแรกด้วย...ดูเจ้าตัวนั่งนอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่นั่น แล้วบอกว่าจะตั้งใจ? ผมเปิดม่านออกเล็กน้อย...วันนี้ไม่มีแดดจ้า มีแต่ท้องฟ้ามืดครึ้ม...และฝนตกห่าใหญ่ ถ้าออกสายรถคงติดเช่นเคย

            “อากาศดีชะมัด”มันพูด ผมยิ้ม...เดินไปจูบแก้ม อรุณสวัสดิ์...ไอ้เด็กขี้อ้อนมันกอดเอวและนอนตักไม่ยอมให้เดินไปไหน

            “ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว”ผมบอก

            “วันแรกไปก็ไม่ได้เรียน ไปแค่ลงทะเบียน”

            “ครับ ๆ มึงต้องไปทำเรื่องที่ตกด้วยไง”ผมบอก มันเงยหน้าขึ้นมาทำตาดุใส่

            “อย่าย้ำได้ป่ะ!?!?!”เหวี่ยงครับเหวี่ยง

            “กลัวลืม...ปะ อาบน้ำ...วันนี้กินอะไรดี?”ผม ถาม ลูบผมมันเล่น...เมื่อคืนสระให้เลยนะ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ค่อยสระผม ผมเหม็นมาก...ผมเลยจับมันอาบน้ำ คึคึคึ อาบอย่างเดียว...เพราะเด็กมันดื้อ ถ้าไม่รีบอาบเกรงว่าห้องน้ำผมคงเละเป็น... (เติมเอาเอง)

            “แซนวิซ ข้าวผัดไก่ แกงจืดเลือดหมู”มันบอก

            “ครับ จะรีบลงไปทำให้ก่อนเลย อาบน้ำนะ...”

            “อือ”

            “ถ้ามึงนอนต่อ คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

            “ขู่?”

            “ครับ”ผมแสยะยิ้มให้มันด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้เตี้ยกลิ้งไปมาบนที่นอนสองสามที แล้วลุกไปอาบน้ำ...

 

            รถติด...โคตร ๆ เซ็งมาก..ไอ้เตี้ยก็เอาแต่นอน ปรับเบาะ...กอดหมอนเน่าประจำรถ และห่มผ้าหลับสบายไปแล้ว ผมไม่อยากกวนปล่อยให้มันนอน ไอ้เราก็เปิดเพลงสบาย ๆ ฟัง ฮัมแข่งกับเสียงฝนไป กว่าจะมาถึงมหาลัยมันได้ ใจไม่เย็นจริง...ขับฝ่าฝูงชนแม่ง ผมเลี้ยวรถมาที่คณะมันหาที่จอด...เห็นรถคันคุ้นตาเข้ามาจอดตรงข้ามกัน ที่บอกว่าคุ้นตาเพราะสีและยี่ห้อเป็นรุ่นเดียวกับของไอ้เตี้ย ป้ายทะเบียนยิ่งใช่ ผมมองคนในรถ...เห็นฟ้ากับโรลมันกำลังตกลงอะไรบางอย่างกันอยู่ หึหึหึ

            วิญญาณเหี้ย ๆ เข้าสิง บีบแตรเรียกมัน~ คึคึคึ ไอ้เตี้ยนี่สะดุ้งตื่น...พร้อม ๆ กับไอ้สองคนในรถตกใจ ผมโบกมือให้มันสองคน

            “อ๊ะ พี่ฟ้านี่หว่า”เตี้ยพูด ผมควานหาร่มที่หลังเบาะ...ไอ้เตี้ยกำลังจะก้าวออกประตู

            “ร่มก่อน เดี๋ยวไม่สบาย”ผมบอกหยิบร่มเดินอ้อมมาให้มัน ไอ้ฟ้าถือร่มมากับโรล แต่โรลหน้างอเหมือนไม่พอใจอะไร วิ่งฝ่าฝนเข้าใต้ตึกคนเดียว หึหึ

            “มาได้ไงพี่ฟ้า”เตี้ยถามพี่ชายมัน

            “พอดี...พี่มาธุระครับ เลยแวะมาส่งแยม เอ๊ย...โรลก่อน”ฟ้าหัวเราะแฮะ ๆ

            “เสร็จแล้วหรือยัง”

            “อะไรครับ”

            “ธุระพี่ฟ้าน่ะเสร็จแล้วหรือยัง”

            “เสร็จแล้วครับ”ไอ้ฟ้าพยายามส่งสายตาให้โรล ซึ่งยืนนิ่ง ๆ มองดูฟ้าฝนไปเรื่อย

            “งั้นก็กลับไปได้แล้ว”พี่สั่งน้อง...ฟ้ายื่นกระเป๋าเสื้อผ้าให้โรล

            “ไปนะ...”ผมเห็นโรลพยักหน้าให้นิดนึง ท่าทางจะโกรธอะไรกันมาแฮะ

            “เป็นไงบ้างโรล ทำงานกับพี่ฟ้า”

            “ก็ดี เหนื่อยแต่ก็...ดี”ผมเดินตามสองคนที่เดินนำ ฟังมันคุยกันตลอดทาง

            “เออ สิ้นเดือนนี้มึงยังไปเล่นดนตรีที่เจเจอีกป่ะ?”

            “ก็ไปอ่ะ ทำไมเหรอ...?”

            “ชวนกูด้วยนะ กูอยากไปอีก”

            โรลพยักหน้า...เตี้ยมันหันมายักคิ้วให้ผม สังเกตไอ้โรลมันค่อนข้างเหนื่อย ๆ เอื่อย ๆ อย่างไรชอบกล คงไม่ได้เล่นจ้ำจี้ข้ามคืนมาก่อนใช่ไหม?

            สันนิษฐานอย่างนั้นเพราะ...ผมกับไอ้เตี้ยก็เล่นแบบนั้นทั้งคืนเหมือนกัน หุหุหุ

 

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

            แยกจากโรลผมเดินมาส่งเตี้ยที่คณะ ไม่ได้เดินคู่กันไปหรอก...เดินห่างออกมาจากมันนิดนึง ตัวมันเองก็รู้ว่ามีผมเดินตาม แต่ที่ผมไม่เคยรู้เลยว่ากว่าจะขึ้นตึกได้ มันต้องเดินผ่านคนที่แซวและมองมันกี่คน เมียกูไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะเห้ย~ ที่ลิฟท์มีคนยืนรอกับเพียบ มันเดินก้าวขึ้นบันได...ขึ้นไปเรียน ผมก็เดินไปหาเก้าอี้นั่งสบาย ๆ สักพักนึงก็เดินลงมา

            “ติณฑ์ เอาโน้ตบุ๊คมาไหม”มันถาม

            “ไม่ได้เอามา ทำไม?”มันทำหน้าไม่พอใจ ใครจะรู้ว่าต้องใช้...เมื่อเช้าก็ไม่เห็นพูดอะไร

            “จะให้กลับไปเอาไหม ใช้ด่วนรึเปล่า? ”ผมถาม เพราะเตี้ยเริ่มคิ้วขมวด

            “ต้องลงทะเบียนเรียน”มันพูดเสียงเบา นั่งลงโต๊ะหินข้างผม

            “ไปที่ห้องคอมดิ”ผมบอก

            “คนเยอะ กูไม่ชอบ...” อืม ๆ ผมเข้าใจ นี่ขนาดเรานั่งคุยกันธรรมดา คนยังมองกันเพียบขนาดนี้ ไม่ว่าหญิงว่าชาย ถ้าผมไม่มาด้วย ไม่รู้ว่าคนอย่างมันจะต้องเผชิญอะไรอีกบ้าง

            “งั้นวนรถออกไปร้านแถวนี้ แล้วค่อยเข้ามาอีกก็ได้”ผมหาทางเลือกให้มัน

            “เสียเวลา ไหนจะรถติด! ไหนจะหาที่จอดรถ!!!”มันเริ่มตวาด หงุดหงิด...ผมเอานิ้วชี้เคาะหลังมือมันเบา ๆ เชิงว่าเป็นสัญญาณเตือนให้ใจเย็น ๆ

            เมื่อตัวเลือกที่มีมันยากนัก...ผมเลยโทรให้ลูกน้อง เอาโน๊คบุ๊คจากออฟฟิศออกมา ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เตี้ยก็ได้ลงทะเบียนสมใจ มันนั่งทำหน้าปั้นยาก...

            “มึง...”

            “ครับ”

            “กูว่าจะลงเต็มหน่วยกิต เรียนทุกวันจันทร์ถึงอาทิตย์”

            “จะไหวไหม...เอาแค่หกตัวนี้ก็พอ ที่เหลือค่อยไปอัดต่อในซัมเมอร์ไง”ผมช่วยเป็นที่ปรึกษาให้มัน

            “แต่ว่า...ซัมเมอร์กูไม่อยากเรียน อยากพัก”

            “ทนเรียนไปไง แบ่งเฉลี่ยไปเรียน มึงจะได้ไม่ต้องเรียนหนักมาก...เทอมหน้าก็ต้องลงตัวที่มึงตกอีกด้วยไม่ใช่เหรอ”

            “นี่ไง กูว่าจะเอามารวมเทอมนี้...”มันทำหน้าคิดหนัก ผมจับมือมันเบา ๆ ให้กำลังใจ...

            “ไปปรึกษาอาจารย์ไหม”

            สมัยเรียนผมใช้วิธีแบบลงเรียนสบาย ๆ วันละวิชา ค่อย ๆ เก็บไปจนครบหน่วยกิต อาจเพราะเป็นเรื่องวิศวะที่ชอบ เรื่องเรียนเลยง่ายหน่อยสำหรับผม แต่ไอ้เตี้ยมันเรียนบริหารดูก็รู้ว่าใจมันไม่เอาซะเลย แต่ทนเรียนเพื่อให้พ่อมันภูมิใจ หลายครั้งที่ผมเห็นมันทำหน้าเบื่อหน่าย ทั้งผู้คนและวิชาที่มันเรียน ผมก็ไม่เคยถามซะด้วยสิว่าถ้าไม่ใช่บริหาร มันอยากจะเรียนอะไร?

            น้องคิ้วเดินหน้าตาชื่นบานมาสวัสดีผม พาเพื่อนมาด้วยผู้หญิงสองคน เวลาใส่ชุดนศ.แล้วดูเป็นผู้หญิงหวาน ๆ ขึ้นมาทันที ผมยิ้มให้...

            “สวัสดีค่ะ อาเฮีย~”น้องคิ้วทัก น้องอีกสองคนก็ยกมือไหว้

            “ลงทะเบียนเสร็จแล้วเหรอคิ้ว”ผมถาม

            “ค่ะ ลงยังอ่ะ”คิ้วหันไปถามเพื่อนมัน ไอ้เตี้ยส่ายหน้า...

            “ยังไม่ลงตัวว่ะ”

            “ไหนกูดูให้~”

            ให้คิ้วช่วยอธิบายเรื่องระบบและจำนวนรายวิชา ซึ่งไอ้กระผมไม่ค่อยจะสันทัดสักเท่าไหร่ เตี้ยมันก็ตกลงกับตัวเองได้ เป็นจำนวนเต็มหน่วยกิตเหมือนเดิม แต่ว่าเรียนอังคาร-เสาร์ ส่วนอาทิตย์กับจันทร์ มันหยุด...

            “วันนี้ประชุมคณะรึเปล่า”คิ้วถาม

            “ไม่อ่ะ”

            “โอ๊ย...ทำกิจกรรมช่วยมหาลัยบ้างเถ๊อะ”คิ้วหัวเราะ ไอ้เตี้ยมองหน้านิ่ง ๆ คุยเล่นกัน...ไอ้ชัดก็มาถึงพอดีกับแยมโรล~ หึหึหึ

            “มาแล้วขอรับบบบบบ หวาดดีเฮีย~”

            “เออ เสร็จแล้วเหรอ”

            “คร้าบบบ ชัดมีรับน้อง...ชัดเป็นว้ากเกอร์ คึคึคึ”

            “กูสงสัยรุ่นน้องจริง ๆ ที่มีรุ่นพี่อย่างมึง”ไอ้เตี้ยพูด

            “คร้าบบบ รุ่นพี่นาว...ดีมากคร้าบบ ดีที่สุดคร้าบบบ”ไอ้ชัดกวนตีนเพื่อนมัน เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งโต๊ะ ผมจ้องหน้าโรลและโรลก็ต้องหน้าผมกลับ มองดูแล้วคนอื่นบนโต๊ะกำลังคุยกันสนุกสนาน ผมทำปากให้มันรู้ว่า ไอ้คอเสื้อที่มันเปิดกว้าง ๆ ไว้น่ะ มีรอยแดงหลายจุดทีเดียว...

            แยมโรลหน้าแดง...แต่ยังทำเนียน ค่อยยกมือติดกระดุมเหมือนเดิม หึหึหึ ไอ้ฟ้าร้ายไม่เบา~

            “พี่คะ พี่ชื่ออะไรคะ...เพื่อนหนูอยากขอเบอร์”นักศึกษาหน้าตาดี แต่งตัวเกือบจะยั่วยวน...ปรายตามาที่ผมตั้งนานสองนานก่อนเข้ามาทักขอเบอร์ ไอ้เตี้ยมองด้วยหางตานิดนึงแล้วมันก็หันไปหาเพื่อนมันต่อ...

            “เอ่อ...”พวกไอ้ชัด ไอ้โรลมองหน้าประมาณว่า เฮียโดนแล้ว...

            “เพื่อนหนูคนนั้นน่ะค่ะ”น้องคนสวยชี้ไปที่เพื่อนอีกคน ที่นั่งทำหน้าเขินอายที่โต๊ะตัวเอง ตอนนี้ผมรู้สึกมีสายตาจับจ้องมาที่ตัวเองหลายคู่มาก ยกเว้นไอ้เตี้ย~

            “ครับ ๆ เพื่อนน้องน่ารักดีครับ”ผมบอกยิ้ม ๆ เห็นไอ้เตี้ยกัดปากตัวเอง

            “งั้นขอเบอร์ได้ไหมคะพี่ เป็นพี่เป็นน้องกันก็ได้~”แหม...เข้าใจขอนะ เด็กสาวสมัยนี้...

            “ให้ไปเลยเฮีย โสดครับโสด...คนนี้พี่ผม”ไอ้ชัดทำปากหมาแซว เดี๋ยวเมียกูงอน...สัส

            “คิ้วมึงจะไปคณะเมื่อไหร่? กูไปด้วย”ไอ้เตี้ยบอก ลุกขึ้นยืน...คิ้วทำหน้าเอ๋อ ๆ

            “กูยังคุยเล่นไม่เสร็จเลย”คิ้วบอก

            “งั้นกูไปละ”

            ผมรู้ทัน..คว้าข้อมือมันหมับ~

            “รีบ ไปไหน เออ...น้องพี่ให้ไม่ได้จริง ๆ พี่มีแฟนแล้ว”ผมบอก น้องผู้หญิงหน้าเสียไปนิดนึงมองไอ้เตี้ยกับผมสลับกัน คิ้วเดินมาคล้องแขนผม

            “ป่ะ ไปนั่งเล่นที่คณะคิ้วก็ได้ ป่ะ ๆ ๆ”แทบว่าจะโดนลากออกมาละครับ ไอ้ชัดกับไอ้โรลหัวเราะเดินตามหลัง น้องคิ้วสะบัดมือออก

            “โอ๊ะ...อารมณ์เสียอ่ะเฮีย!!!!”

            ผมจับมือไอ้เตี้ยไว้ไม่ปล่อย....รู้ว่ามันหงุดหงิดมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในเขตมหาลัยมันต้องกระโดดทึ้งหัวผมเป็นแน่~

 




(ต่อ)

ระหว่างที่เราเดินไปคณะน้องคิ้วซึ่งเป็นบุคคลผู้ทรงคุณค่าแก่คณะ 5555+ กว่าจะทักคนทั่วมหาลัย ไอ้เตี้ยหน้างออีกรอบ

            “เสร็จจากนี่ไปกินข้าวกัน...พี่เลี้ยง”ผมบอกทุกคน ไอ้ชัดหูตาวาว

            “เอาดิพี่ ฟรี ๆ”

            “คิ้วไปไม่ได้ มีธุระ...”คิ้วบอก “ไอ้เหี้ยชัด แม่มึงบอกให้กลับไปเยี่ยมแม่กับน้องมึงบ้าง ขาดีแล้วหูกระดิกเลยนะ ถ้าไปกินเหล้า กูจะฟ้องแม่มึง”น้องคิ้วหันไปด่าไอ้ชัด ไอ้เชี่ยนี่ก็ยกมือลูบหัวคิ้ว

            “เลี้ยงไม่เคยเชื่องเลย โอ๋ๆ”

            “ไอ้เหี้ย!!! กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ!!!”แล้วสาวงามคนเมื่อสักครู่ ก็ไล่วิ่งเตะไอ้เชี่ยหัวฟูต่อไป

            “แล้วเราละโรล มีธุระที่ไหนรึเปล่า”ผมถาม เชื่อได้ว่าไอ้ฟ้าคงไม่ได้มาส่งอย่างเดียวแน่...โรลมองหน้าผมเลิ่กลัก มีท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัด

            “เอ่อ....”

            เตี้ยมองเพื่อนมัน...

            “เอ่อ....มีครับ”คงไม่ได้ตั้งตัวเลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ไอ้เตี้ยถอนหายใจ

            “ธุระไรว่ะ?”มันถามต่อ ไอ้โรลหน้าเสียไปเลย ผมยืนมองแล้ว...สงสาร ต้องกู้สถานการณ์ฉุกเฉินของมันให้

            “เรื่องทำงานเหรอโรล”ผมแกล้งถาม

            “อะ ฮะ...”

            ผมพยักหน้า...เตี้ยมันก็ไม่ได้อะไรนะ เจ้าตัวนั่นแหล่ะ...อึกอักไปเอง

            “งั้นไปแล้วนะ ไว้เจอกัน”โรลแยกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือผมกับเตี้ยสองคน มันไม่มองหน้าผมเลย...

            “ไปกินข้าวกัน”ผมบอก ไม่สนอ่ะ...จูงมือมันมาที่รถเลย

            “กูเปียกเห็นไหมเนี่ย!!!!!”ฝนครับ...โดนฝน เอาผ้าจากเบาะหลังเช็ดหัวให้มัน จริง ๆ เปียกนิดเดียว อะโห...ร้องยังกับเปียกชุ่มฉ่ำทั้งตัว

            “กินอะไรดีหน๊อ”ผมถาม อารมณ์ดี...

            “กินเหี้ย...”

            “ปากดี!”เห็นมันลอยหน้าแล้วแบบ หมั่นไส้...คว้าคอมาจูบเลย ไอ้เตี้ยตบกกหูผมอย่างแรง..

            “โอ๊ย...เจ็บนะ!!!”ผมทำหน้าดุใส่

            “กะ ก็ มึงนั่นแหล่ะ...ทำกูก่อน กูก็เจ็บเหมือนกันละ”นิ่งไว้ก่อน...จู่ ๆ เตี้ยมันก็ยื่นหน้ามาจุ๊บผมเร็ว ๆ

            “หิวแล้วด้วย~”หน้า แดงและพูดเสียงอ่อย ๆ น่ารักชะมัด ผมยื่นหน้าไปหอมแก้มมันคืน...ไม่ต้องไปไหนละกันวันนี้ ฮา...ไปสิครับบบบ เดี๋ยวเตี้ยไม่ได้กินอะไรจะอาละวาดหนักกว่าเดิม

            “หันมาจุ๊บก่อน”ผมแกล้ง มันเอาหน้าหนีอ่ะ...

            “มาก่อนเร็ว ๆ จะได้รีบพาไปกิน วันนี้กินอาหารญี่ปุ่นด้วยจัดให้ชุดใหญ่เลยด้วย”ผมบอก

            “ออกรถดิ”

            “หันมาจุ๊บก่อนดิ...”

 

 

            เงียบ...ไปนิดนึง แล้วก็หันมาจุ๊บปากเบา ๆ มันเขินเอาผ้าปิดหน้า...หึหึหึ ผมก็ยิ้มหน้าบานสิคร้าบบบบ ขับรถพามันมาที่ห้าง ให้เตี้ยเอาใบลงทะเบียนไปเสียเงินค่าเทอมที่ธนาคาร แล้วตัวผมก็เดินมาคุยโทรศัพท์กับมิคัง ซึ่งร่ำร้องอยากมาเมืองไทยเหลือเกิน ผมเลยรับปากว่าถ้าน้ำตาลกลับมา...มิคังอาจจะมาพร้อมน้ำตาลได้ ถึงจะพอใจวางสายไป

            “เนื้อหอมจังเนอะ”ไอ้เตี้ยเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ

            “ไรครับ เด็กนะครับเด็ก...”

            “มึงชอบไม่ใช่เหรอเด็ก ๆ อ่ะ”

            “ครับ ชอบ...ถ้าไม่ใช่เมียก็ไม่เอานะคร้าบ”ผมแกล้งแซวมัน หน้าแดงอีกละ...สนุกดี

            “ไหนเอามาดู จ่ายจริงรึเปล่า”ผมขอดูบิลจ่ายเงิน เมื่อกี้...ทั้งที่เห็นมันเข้าไปในธนาคารจริง ๆ นั่นหล่ะ หึหึ ไอ้เตี้ยแทบจะปาใส่หน้าให้

            “ตกลงเมียหรือลูกว่ะ...ค่ากิน ค่าอยู่ ก็ออกให้ เงินประจำวันก็ให้...นี่ยังต้องมาจ่ายค่าเทอมให้อีก”ผมแกล้ง

            “ได้เงินจากพ่อจะมาคืนให้หรอกน่า...”มันเสียงสั่น จนรู้สึกได้..ก่อนที่เด็กจะปล่อยโฮกลางห้าง ผมจับมือมัน

            “ไม่อยากได้เงิน....”

            หึหึหึ หน้าแดงสุด ๆ แล้วตอนนี้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

            “ควาย~”

            “ด่างี้ วันนี้ว่าจะซื้อเสื้อให้...ไม่ต้องละ”

            “ติณฑ์อ่ะ!!!!!!!!!!”

            แซวเล่นกันไปตลอดทาง จนถึงร้านอาหารญี่ปุ่น...ไม่คิดว่าจะเจอ ฮ่าาาาาาาาาาาา....ฟ้าและโรล นั่งทานอาหารกันอยู่ โลกมันช่างกลมเสียเหลือเกิน 555

            ไอ้เราไม่รอช้า...คว้ามือไอ้เตี้ยเข้าร้านหมับ ทั้งสามคนยังไม่รู้ตัว...เตี้ยมันก็มองแต่ป้ายเมนูอาหาร ไอ้สองคนนั่นก็นั่งกินไม่พูดไม่จา สนุกละครับ...งานนี้!!!!

 

            ----------------------------------------------------------------------

รู้สึกว่าตัวเองเขียนตอนนี้ออกมาได้อย่างงง ๆ


และหาสาระอะไรไม่ได้เลย... T_T

           


ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ตอนที่ 53

 

ความลับ...แตกไม่แตก?

 

            “วันนี้อยากกินหลายอย่างเลย”เตี้ยมันดูเมนู...

            “ครับ กินเลย...สั่งเลยนะ”ผมลูบหัวมันเบา ๆ ไอ้เตี้ยยิ้มแฉ่ง...

            “อยากได้กระเป๋าตังค์ใบใหม่...”น้ำเสียงมันอ้อนมาก

            “คืนนี้จัดมายกหนึ่ง เดี๋ยวกินเสร็จออกไปซื้อเลย”ผมบอก มันตบหัวผม...

            “ไอ้บ้า!”

            “ว่าแต่มึงจะซื้อทำไม...มีเงินใส่เหรอ?”

            “ก็เงินมึงไง คริคริคริ”ไอ้เตี้ยหัวเราะ...

            “ตลอดครับ เดี๋ยวถ้าได้ตารางเรียนมาเอามาให้กูดูด้วยนะ ต่อไปนี้เข้าไปช่วยกูทำงาน...เดี๋ยวกูจะจ่ายเป็นเงินเดือนให้”

            “ไม่เอาหรอก! ขอมึงง่ายกว่าอีก”มันบอกครับ T_T อาเมน...

            “งั้นกูให้ใช้เท่าที่พ่อมึงให้ดีไหม คราวนี้ไม่ต้องเที่ยวไหน ไม่ต้องชอปปิ้งเงินกูเหลือแน่ ๆ”

            “ช่างมึงดิ”แน่ะ ๆ ทำเสียงงอน

            “อยากได้เงินก็ทำงานแลกเงินสิครับ”ผมแกล้งมันหน้างอ....

            “เออ ไปขอพี่ฟ้าก็ได้ พี่ฟ้ารักกู...เขาต้องให้อยู่แล้ว”

            “จริงเหร๊อ~”

            “แน่สิ ดูนี่สิมึง เลือกไม่ถูกเลย กินอะไรดี....”ระหว่างที่เตี้ยน้อยดูเมนู ผมก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ คึคึคึ...

            “เอ๊ะ นั่นมันฟ้านี่หว่า มากับใครว่ะ”แกล้งพูด...แต่ไอ้เตี้ยหูกระดิกมาก

            “ไหน?”

            “นั่นไง...โต๊ะนั้น”ผมชี้ให้มันดู เตี้ยมันส่องสายตาปราดเดียว มันเดินอาด ๆ ไปหาพี่มันทันที

            “พี่ฟ้า!!!! โรล!?!?!?!?!”สองคนเห็นเมียผมเหมือนเห็นผี หน้าซีดทั้งคู่...หนักหน่อยทางโรล มือกำตะเกียบแน่น ไอ้เตี้ยยืนอึ้งอยู่พักนึง หันไปถาม...

            “ไหนบอกมีธุระ”เมียผมเริ่มจับผิด

            “ครับ ก็เสร็จแล้ว”พี่ฟ้าบอก

            “แล้วทำไมมานั่งกินกันสองคน??????”เต็มที่ครับเต็มที่ นึกถึงวันที่เราโดนจับแยกไว้ครับเมีย...

            “ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ...”ฟ้ามองหน้าผม อยากจะแกล้งต่อแหล่ะ...แต่หน้าโรลแบบว่าไม่ไหวแล้ว

            “กูนัดมาเอง...”ผมบอก เรียกพนักงานให้จัดโต๊ะเพิ่มสองที เตี้ยมันทำหน้างง

            “แล้วทำไมไม่บอก แล้วไปคุยกันตอนไหน?”จับผิดเก่งจังว่ะ!!!!! จู่ ๆ เตี้ยมันก็เหลือบไปเห็นแหวนนิ้วนางข้างซ้ายของแยมโรล มันคงจะไม่อาละวาด...ถ้าไอ้แหวนนั้นมันไม่บังเอิญไปเหมือนกับของพี่ชายมัน ที่นั่งอยู่ เตี้ยคว้ามือโรลมาดู

            “F&R?”

            “เอ่อ.....”โรลมีท่าทีอ้ำอึ้ง ผมเห็นไม่ค่อยดี...เลยจับไอ้เตี้ยออกห่าง คนก็มองเต็มร้าน...

            “นี่มันอะไรกัน!!!!!”มันพยายามจะดึงแหวนที่นิ้วโรลออก ฟ้าก็ดึงแขนโรลไว้...

            “โอ๊ย...กุเจ็บ”โรลร้อง

            “นี่มันอะไร!!!! บอกมาสิ!!!!!!”ไอ้เตี้ยอาละวาด

            “พี่คะ อย่ามีเรื่องกันเลยค่ะ...หนูขอร้อง”พนักงานเดินเข้ามายกมือไหว้ปรก ๆ

            “พี่ฟ้า!!!!! ฮึก...ไอ้ เหี้ยมึงแย่งพี่กูไป มึงแย่งพี่กูไป”ซัดกันนัวครับ...พนักงานจับแยกกันใหญ่ ไอ้โรลหน้าแดงมาก มันถอดแหวนในมือ แล้วเหวี่ยงใส่ฟ้า

            “เอาไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลยนะไอ้เหี้ย!!!”พอคว้ากระเป๋าได้มันก็วิ่งออกนอกร้านไปเลย ไอ้ฟ้าจะไปตามแต่น้องมันคว้ามือเอาไว้

            “โธ่เว้ย!!”

            ผมหันไปขอโทษพนักงานและยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ จับมือไอ้เตี้ยจะเดินออกนอกร้าน...แต่มันยืนจ้องหน้าพี่มันไม่วางตาเลย

            “คบกันมานานแค่ไหนแล้ว!!!!”มันถามพี่มัน ฟ้าเงียบ...ไอ้นี่ก็ไม่ฟังอะไร ซัดพี่มันตุ้บตับ ๆ ผมจับแยกอีกที...ลากมันออกมาเลยครับ
            “จะไปจากเค้าใช่ไหม รักมันมากกว่าเค้าใช่ไหม!!!!!”เตี้ยมันร้องไห้...นั่งทรุดลงที่ลานจอดรถ

            “มะนาวครับ...”ฟ้าทำเสียงเหนื่อย ๆ

            “รักมันมากกว่าเค้าใช่ไหม พี่ฟ้าจะทิ้งเค้าใช่ไหม”

            “มะนาว!!!! ฟังพี่ก่อนสิครับ...พี่ไม่รักใครมากไปกว่าน้องพี่อยู่แล้ว”

            “แต่พี่ให้แหวนไอ้โรล พี่ฟ้า!!!!!”

            “ก็ถ้ามะนาวแต่งงานกับพี่เหมือนที่เราสัญญาไว้ตอนเด็ก ๆ พี่ก็ไม่ให้แหวนโรลหรอกครับ”ไอ้ฟ้ามองเหล่ ๆ

            “อ้าว ไอ้เชี่ยนี่!!!!”ผมสบถ...รู้ว่ามันพูดใส่ผม ไอ้เตี้ยยืนขวางพี่มัน

            “จะทำไรพี่กู!!!”เอ่อ...หันมาด่าผมอีกง่ะ...

            “เค้าไม่ยอมนะ...พูดไว้ก่อนเลย ถึงไอ้โรลจะเป็นเพื่อนเค้าก็ไม่ให้พี่ฟ้าหรอก!!!”

**************************************************

            ขณะนี้เวลา สามทุ่มครึ่ง...ฟ้าจองโรงแรมไว้แล้ว ไอ้เตี้ยก็เกาะแขนพี่มันไม่ปล่อย ไม่ยอมให้กลับโรงแรม...บอกว่าให้นอนที่บ้านผม เหอ ๆ ผมรู้นะว่ามันอยากไปหาโรล และไอ้เตี้ยก็คงระแวงเรื่องนี้เหมือนกัน

            “ไม่ให้ไป”

            “พี่อยากพักนะครับ”ฟ้าบอก

            “จะไปหาไอ้โรลใช่ไหมล่ะ?”เตี้ยตวาด...

            “ไม่ไปครับ ไม่ไปจริง ๆ เดี๋ยวถึงโรงแรมพี่ให้พนักงานโทรมายืนยันก็ได้”

            “ไม่เอา...พี่ฟ้านอนที่นี่ดิ”เตี้ยบอก หันมาทางผม...

            “ห้องไม่ว่าง~”ผมบอก คึคึ ไอ้เตี้ยทำหน้าไม่พอใจ

            “ห้องมีตั้งเยอะ...ไม่ว่างได้ไง???”มันถาม

            “ก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด”

            “งั้นกูไปนอนกับพี่ฟ้าด้วย”

            “เฮ้ยได้ไงอ่ะ??????”ไอ้ฟ้ายิ้มกริ่ม

            “ป่ะครับ ไปนอนกับพี่ก็ได้”

            “ไม่ได้!!!! บ้านก็มีจะไปนอนโรงแรมให้เปลืองเงินทำไม”

            “ไม่เปลืองหรอกครับ ผมจองห้องไว้แล้วด้วย”

            “นั่นดิ กูไปเก็บเสื้อผ้าดีกว่า...”

            “เตี้ย~ กูไม่ให้มึงไปนะ...”

            “งั้นให้พี่ฟ้านอนนี่?”

 

 

            “เออ!!!!!!!!”

 

            “หึหึหึ...”หน็อยแน่ะ ไอ้ฟ้า...กล้าหัวเราะเยาะกูเรอะ!!!!!

 

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

            ตกดึกผมนอนกอดไอ้เตี้ยอยู่ ขอบอกว่ากว่าจะเอามันนอนได้...ต้องปล่อยให้มันกวนจนพลังงานหมด เหนื่อยไปเอง...พอดีกับที่มือถือแบตหมด ผมค่อย ๆ หยิบออกมาจากมือสวย แล้วเอาไปเสียบชาร์จ ใบหน้าหลับพริ้มราวกับเด็กน้อย ๆ ทำให้ต้องยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก หลับแบบนี้...ก็น่ารักไม่มีพิษสงดีอยู่หรอก

            ผมเดินลงมาด้านล่าง อยากจะมาเดินเล่นรับลม...เห็นฟ้านั่งหน้าเครียดอยู่ก่อนแล้ว เลยเดินเข้าไปหา

            “อยากไปก็ไปตอนนี้เลยก็ได้นะ มันไม่รู้ตัวหรอก”ผมบอก นั่งลงข้าง ๆ ม้านั่ง...ฟ้ายิ้มจาง ๆ

            “ไม่เป็นไรครับ”

            “แล้วจะเอายังไงต่อไป”ผมถาม จะว่าห่วงก็ห่วง...ทั้งฟ้า โรล และไอ้เตี้ยนั่นแหล่ะ ยิ่งถ้าลงเอยแบบนี้...ฟ้ามันเป็นกำลังหลักของบ้าน พ่อใหญ่แม่ใหญ่ แล้วก็แม่มันจะยอมรับรึเปล่า?

            ฟ้าส่ายหน้า...

            “โทษทีนะ...ที่ทำให้เรื่องมันยุ่งยาก”ผมบอก ฟ้ายิ้มจาง ๆ

            “มะนาวมีพี่อยู่ด้วย ดีแล้วครับ”ฟ้าบอก

            “ไม่คิดจะไปหาโรลหน่อยเหรอ...ป่านนี้มันอาจกำลังคอย”

            “ผมโทรหาเขายังไม่ยอมรับสายเลย”

            “ก็ไปหาสิ?”ผมบอก ฟ้ามีสายตาลังเล...ผมพอจะเข้าใจ ก็ไอ้คนที่นอนอยู่บนห้องแหละ กลัวมันอาละวาดใช่ไหม...

            “ไม่ต้องห่วงมันหลับแล้ว”ฟ้าเงียบไปสักอึดใจ อย่างกำลังใช้ความคิด...

           

 

            “ไม่เป็นไร...ไม่ไปดีกว่า”ฟ้าตอบ เฮ้อ...! ทำท่าพระเอกนักนะ...

            “เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ไป...อยากเข้าบ้านไปดื่มกันหน่อยไหมละ”พอผมชวน ฟ้าก็พยักหน้า...เราสองคนเลยย้ายที่มานั่งดื่มกันที่บาร์เล็ก ๆ ในบ้าน

            “นายคิดจะบอกให้แม่นายรู้ไหม”

            “ยังไม่เคยเลยครับ”

            “คิดไว้ซะ...! บางทีเด็กมันต้องการความชัดเจน...เหมือนไอ้เตี้ยนี่ไง”

            “............................”

            “นายว่าแม่นายจะทำใจยอมรับได้ไหม ถ้านายเลือกแบบนี้...นั่นหมายความว่าครอบครัวนายจะไม่มีทายาทสืบทอด?”

            “เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกครับ”ฟ้าบอก ผมขมวดคิ้ว

            “หมายความว่ายังไง”

            “พี่บุ้งใกล้กลับมาแล้ว....ถึงวันนั้นช่วยปราบฤทธิ์มะนาวด้วยนะครับ”ฟ้าบอก

            “ทำไม?”

            “.......................................”

           

            ฟ้าไม่ตอบ แต่ซัดต่ออีกหลายแก้ว....

            “นายไปเถอะ ทางนี้ฉันจัดการเอง...”ผมตบไหล่ฟ้าเบา ๆ

            “ไม่เป็นไรครับ”ตอบแบบนี้อีกแล้ว

            “แต่ดึกแบบนี้ ไอ้โรลกับไอ้ชัดคงนอนแล้วละ”ผมยั่ว หึหึหึ...ไอ้ฟ้าหันควับ

            “ชัด?”

            “อือ...”

            “อย่าบอกนะครับว่าชัดกลับไปอยู่หอแล้ว?”

            “งั้นสิ อ้าวนี่...โรลไม่ได้บอกนายเหรอ?”ผมแสร้งทำหน้าซื่อ ๆ เห็นไอ้ฟ้ากระวนกระวายแล้วมันตลกดีครับ...

            “แล้วพี่รู้ได้ไง?”

            “ก็ไปช่วยมันย้ายของมา”

            “แล้วทำไมไม่บอกผมว่ะ!!”เพิ่ง เคยเห็นนายฟ้าบ่นเป็นหมีกินผึ้งมันซัดอีกหลายแก้ว ก่อนจะขึ้นไปหยิบกุญแจรถบนห้อง แล้วเตรียมออกไป...ผมบอกลาว่าให้โชคดี หวังว่าทุกอย่างคงคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

            ก่อนจะกลับขึ้นมาบนห้องของตัวเอง...ไอ้เตี้ยนอนร้องไห้อยู่ ผมเข้าไปกอดมัน...

            “พี่ฟ้าไปแล้วใช่ไหม”มันถามปนสะอื้น

            “เขาไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้รักมึง...”

            เตี้ยน้อยสะอื้นฮึกฮักอยู่ในอกผม...กำเสื้อแน่น ชีวิตมันไม่เคยสูญเสีย...มันเลยไม่มีภูมิต้านทานตรงนี้พอควร ผมลูบหัวแผ่วเบา พร้อมจูบปลอบใจ...

            “ถ้ามึงปล่อยวาง มึงจะมองเห็นอะไรอีกเยอะแยะ”

            “กูรักพี่ฟ้า กูไม่อยากให้พี่ฟ้าไปรักใคร”

            “งั้นกลับกัน ถ้าไอ้ฟ้ามันบอกว่าไม่ให้มึงมารักกู มึงทำได้ไหม”

            “ได้...”ตอบแบบเด็กอยากเอาชนะ โดยไม่คิด...กูก็ผลักมันออกสิครับ

            “อือ....”มันเข้ามาคล้องแขน

            “ไม่รักกูมึงคงทำได้ง่าย ๆ เลยงั้นสิ?”แกล้งยวนมันหน่อยแล้วกัน จะได้ลืมเรื่องไอ้ฟ้า...

            “ติณฑ์อ่ะ!!?”

            “กูถาม!”

            “ชอบตะคอกใส่กูอยู่เรื่อยเลย เห็นไหมว่าหูชาหมดแล้ว”มันกอดและอ้อนเต็มที่ หน้ามุ่ย ๆ แก้มป่องทำให้เอาอยากจะจับมาฟัดหลาย ๆ รอบ

            “มึงนี่มันน่านัก...”

            “มึงก็น่านัก....”

            “พูดตามเดี๋ยวเถอะมึง...จะจัดให้จุกจนพูดไม่ออก...”ผมแกล้ง มันเอามือยันที่นอนดีดตัวให้สูงเท่าผม แล้วจุ๊บปากเบา ๆ

            “ไอ้แก่ขี้หื่นเอ้ย...”

            หึหึหึ...เดี๋ยวได้หื่นจนฟ้าสางหรอกครับ...ผมยิ้มให้มัน พร้อมกอดเบา ๆ

            “ทำใจเรื่องพี่มึงซะ ระหว่างนี้...ถ้าเห็นว่าไปอาละวาดใส่ไอ้โรลอีก เราจะได้เห็นดีกัน!”ผมบอก คราวนี้ไอ้ฟ้าติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ที่เดียว ช่วยจนไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว

            “แหม่...มึงเป็นญาติไอ้โรลหรือไง ช่วยมันจัง?”ปากมันน่าทำให้ช้ำอย่างงี้ไง ไอ้เตี้ย!

            “เออ มันนิสัยดี ...เป็นเมียกูด้วย ไม่รู้หรอกไง?”ผมยักคิ้ว ไอ้เตี้ยทำหน้างอ...

            “ไอ้โรลไม่เอามึงหรอก!”มันบ่นงุบงิบ หน้าแดง...

            “ทำไมกูหล่อขนาดนี้...หล่อกว่าไอ้ฟ้าตั้งสิบเท่า”

            “ก็มึงแก่ไง!!! ไอ้ติณฑ์แก่!”ไม่พูดเปล่า มันดึงหูผมเล่นไปมา...

            “หึหึ พูดจางี้โดนผัวแก่ปล้ำอีกรอบไหมจ๊ะ”

            “อ๊า!!!!!! ไม่เอานะ!!! พรุ่งนี้เรียนเช้า!!!!!”

 

            ภาพตัดไปที่โคมไฟ~ หึ หึ...โคมไฟไม่มีหรอกครับ วิ่งไล่กันสะเทือนห้องอยู่นี่แหล่ะ...กว่าจะจับตัวได้ มันทั้งบิดหู หยิกแก้ม เล็บยาว ๆ นี่ข่วนได้แผลเต็มไปหมด สุดท้ายจับมันได้...ก็นั่งคล้องคอผมที่ปลายเตียง

            “ติณฑ์ กูว่ากูทำใจไม่ได้หรอก...ที่จะเห็นพี่ฟ้ากับไอ้โรลมันจุดจุดจุดกัน”เตี้ยบอก

            “เหี้ยไรจุดจุดจุด...”ผมหัวเราะ

            “กูไม่ชอบ ถ้าเห็นพี่ฟ้าเอาใจไอ้โรลมากกว่ากู”

            “มึงจะให้กูทำไง?”เช็ดเหงื่อให้มัน

            “ไม่รู้ดิ....”เห็นหน้าเศร้า ๆ แล้วสงสาร

            “พี่มึงรักมึงมากรู้ไว้ซะ ไม่ต้องอิจฉาไอ้โรลหรอก...ถ้าให้เลือกไอ้ฟ้ามันต้องเลือกมึงมาอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”

            “จริงนะ”มันทำตาวาว หึหึหึ...

            “อือ”

            “รักติณฑ์ที่สุด~”มันพูด โยกตัวไปด้วย สัส....เดี๋ยวไม่ได้นอนกันคืนนี้

            “ไปอาบน้ำใหม่เลยเหม็นเหงื่อ”

            “ง่ะ...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ค่อยอาบแล้วไปเรียนทีเดียว”มันแอ๊บเนียน คลานขึ้นเตียงไปนอนใต้ผ้าห่ม

            “ไม่กอดหรอกนะ เหม็นเหงื่อ”

            “กูก็เหม็นเหงื่อมึงเหมือนกันล่ะว่ะ!”มันพูดหน้าแดง

            “ดี ๆ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนดีกว่า...ถ้าตัวกูหอมอย่ามากอดกูนะ”โบกมือลามันอย่างกับ จะลาไปไหนอย่างนั้น นึกแล้วขำตัวเอง ต้องมาทำอะไรปัญญาอ่อนตั้งหลายอย่าง เพื่อมันคนเดียวเลย! เดินไปได้สองสามก้าว...ไอ้ตัวแสบวิ่งมากระโดดขึ้นหลัง

            “อาบให้ด้วยนะ”มันพูดเกือบเป็นกระซิบข้างหู ไม่หันหน้าไปก็รู้ว่าหน้าแดงแน่นอน

            ขยันยั่วมันเข้าไป~ อย่าคิดว่าเปิดเทอมมีเรียนทุกวันแล้วจะทำอะไรไม่ได้นะ!!!!!

 

 

[ฟ้าโรล] – ฟ้า

 

            ที่แรกที่จะมาก็คือหอของโรล...

 

            ก๊อก ๆ ผมเคาะประตูรัวหลายครั้งติดกัน เอาหูแนบ...คิดว่าได้ยินเสียงพัดลมแน่นอน ชัดจะอยู่ไหมนะ...ป่านนี้ทั้งสองคนอาจจะกำลังนอนอยู่ในห้อง จิ๊! เตียงมันเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ซะด้วย!!! นี่แหล่ะที่กังวล แม้จะรู้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองคนจะนอนด้วยกันมาตลอดก็ตาม แต่เห้ย! ตอนนี้โรลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วนะ ใครจะยอมให้เมียตัวเอง...ไปนอนกับผู้ชายคนอื่นว่ะ ถึงไอ้คนนั้นมันจะเป็นเพื่อนก็เถอะ!!!

            “อ้าว พี่...หวัดดีครับ พี่อะไรมาดึก ๆ ดื่น ๆ”ชัดออกมาเปิดประตู ด้วยสภาพกางเกงบ๊อกเซอร์จิ๋วตัวเดียว ผมถึงวิสาสะดันตัวเองเข้าไปในห้อง...เห็นแต่ความว่างเปล่า ไร้ร่างของแยมโรล

            “โรลละ?”ผมรีบถาม ไอ้ชัดหาววอด ๆ ลืมตาข้างเดียว...เพราะไฟห้องแยงตา

            “มีอะไรกับมึงรึเปล่าพี่??”

            “ก็มีนิดหน่อย”

            “เหรอ”ชัดทำหน้างง ๆ

            “แล้วโรลไปไหน”

            “พี่มีธุระอะไรกับมัน ด่วนรึเปล่า...ฝากผมไว้ก็ได้”ชัดกำลังถามผมพร้อมสีหน้าแบบจับผิด ผมว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วบอกมันไปให้หมด ๆ เลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งปิดบัง...

            “ชัด...พี่ถามอีกคำ เมียพี่อยู่ไหน”

           

            ช็อค~!!! ไอ้ชัดตาค้างไปเลย มันยกมือปิดปาก...อย่างกับนางเอกหนังไทย

            “ห๊ะ!!?!?!?!??!”

            “ก็อย่างที่บอกแหล่ะ โรลไม่ยอมรับโทรศัพท์พี่เลย...”

            “ดะ เดี๋ยว ๆ  ๆ พี่ฟ้า...พี่กับไอ้โรลเป็นอะไรนะ?”

            “โรลเป็นเมียพี่...”ผมบอกย้ำ ไอ้ชัดอ้างปากค้างอีกรอบ...

            “เอ้า! ที่นี้บอกได้หรือยัง...ว่าโรลไปไหน?”ผมรีบถาม เพราะไอ้ชัดเหมือนจะสติหลุดล่องลอยละลิ่วไปแล้ว

            “ชัด!!!! พี่รีบ!!!!!”ผมทำเสียงเข้ม...เร่งเร้ามันอีกหน

            “อะ เออ ๆ มันกลับบ้าน”กว่าจะหลุดปากบอก...

            “บ้านไหน?”

            “บ้านมันดิพี่ เห็นว่าน้องมันโทรมาบอกว่าแม่มันไม่สบาย”

            “แล้วบ้านโรลอยู่ไหน”

            เอาว่ะ...อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้า แต่ผมอยู่อย่างนี้ไม่ได้จริง ๆ มันกระวนกระวาย ต่อให้ต้องบุกบ้านก็ยอมละว่ะ...ไอ้ชัดยังไม่หายเอ๋อ จนผมต้องกำชับ...ให้มันบอกที่อยู่อีกรอบ

            ในมือมีกระดาษเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ผมขับรถมาไกลถึงสมุทรปราการ...ไปตามที่อยู่ที่ชัดให้มา ร้อนใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว บ้านไม้สองชั้น...ตั้งอยู่ ป้ายเก่า ๆ บอกให้รู้ว่าผมมาไม่ผิดบ้านแน่ บ้านเลขที่เดียวกับที่ชัดเขียนมาให้ และในซอยที่ขับเข้ามาก็ไม่มีหลังไหนสีเขียวเลย ผมกดออดสองสามครั้ง...เจ้าตัวที่ผมตามหาก็เดินออกมา ทำหน้าประหลาดใจ...

            “มาได้ไง!!!!!!”

            “เปิดให้หน่อย จะยืนคุยกับตรงนี้เหรอ?”

            “กลับบ้านไปดิ”

            “โรลครับ หมามันเห่า...ข้างบ้านเขารำคาญแย่นะ”ผมพยายามใจเย็น ซึ่งปกติก็ใจเย็นอยู่แล้ว...

            “พี่บ้าป่ะว่ะ.....”

            “เออบ้า!!! ที่มาหานี่ก็เพราะบ้า แล้วจะบ้าได้มากกว่านี้ด้วย...เปิดดิครับ!!!!!”ผมตะคอก ไอ้ประตูไม้เก่า ๆ เตะที่เดียวก็พังแบบนี้น่ะเหรอ จะกันอะไรได้...ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

            “กลับไปเถอะพี่ผมขอร้อง...เราอย่ามายุ่งกันดีกว่า มันไม่เป็นผลดีต่อใครหรอก”

            “ใครที่ว่าหมายถึงใครล่ะครับ”ผมถาม จริง ๆ ต้องบอกว่าแกล้งถาม...เพราะรู้อยู่ว่าน้องกำลังน้อยใจ และกลัวเรื่องที่เกิดขึ้น กลัวคนจะรู้...

            “กัดปากแบบนั้นพี่จะได้คำตอบไหม โต ๆ กันแล้วไงครับ...มาพูดกันให้รู้เรื่องดิ”ผมบอก

            “พี่นั่นแหล่ะพูดไม่รู้เรื่อง กลับไปดิว่ะ...”

            ผมเขย่าประตู ปึงปัง ๆ จนแยมโรลเดินกระแทกเท้ามาเปิดประตูให้แทบไม่ทัน ลำพังหมาข้างบ้านเห่าก็น่ารำคาญพออยู่แล้วนะ...หึหึ ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ก็ไม่ได้ผล เข้ามาได้...ก็จับร่างเล็กมากอด แยมโรลดิ้นขลุกขลักทั้งทุบทั้งตี

            “กลับไปดิว่ะ พูดไม่รู้เรื่อง!!!!!!”

            “พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือไง”ผมถาม

            “เออ แมร่ง!!!!!! หน้าด้านว่ะ!!!!!”

            ปากนี้อย่างนี้...ต้องโดนจูบสักจุ๊บ ผมจูบปากได้รูปทั้งกัด ทั้งดูด...จนเจ้าของปากสวยน้ำตาคลอ...

            “ฮึก...”

            “กลับไปกับพี่นะ”ผมบอก...จับร่างเล็กที่อ่อนระทวยแล้ว พูดกันให้เข้าใจ แยมโรลส่ายหน้า

            “ผมว่าพี่อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี”

            “ไม่ดียังไง?”

            “ไหนจะน้องพี่ ครอบครัวพี่...สังคมพี่? เราต่างกันเกินไป”แยมโรลบอกเสียงเศร้า

            “เรื่องมะนาวพี่ขอโทษ แต่ถ้าแยมกลับไปกับพี่...สัญญาว่ามะนาวจะไม่อาละวาดอีกแน่นอน พี่จะพูดกับน้องให้เข้าใจเอง แล้วเราก็ไปหาแม่พี่กัน...ถ้าแยมพร้อมน่ะนะ ส่วนสังคมก็ช่างหัวมันเถอะ...มีแค่โรลอยู่กับพี่ก็พอแล้ว”

            “มันง่ายอย่างงั้นเลย?”

            “ก็ไม่มีอะไรยากนี่ครับ....”

            “.........................................”

            “พี่โรล~”เสียง เรียกดังที่หน้าประตูบ้าน ผมกับโรลหันไปมองพร้อมกัน...เด็กผู้ชายอายุประมาณ ไม่เกิน 10 ปี ยืนมองอยู่ โรลผลักผมออกแล้วเดินไปหาน้อง

            “รูน!!!!! ตื่นมาทำไม!!!!”

            “ผมได้ยินเสียงหมาเห่า...ใครน่ะพี่โรล เจ้าหนี้อีกรึเปล่า?”เด็กน้อยถามพี่ชาย โรลเปิดไฟในบ้าน...จนสว่างโร่

            “เพื่อนพี่น่ะ”ผมยิ้ม...

            “คิดว่าเจ้าหนี้อีก...ทำผมนอนไม่หลับเลย”น้องชายโรลพูด ผมยิ้มกว้าง...

            “ขอโทษทีนะ...เจ้าหนี้มาบ้านนี้บ่อยหรือไง”

            “อือ แม่ติดเงินผ่อนอาบังไว้...พี่โรลยังไม่มีไปจ่าย เลยต้องปิดบ้านไว้แบบนี้ไง”

            “รูน!!!!!!”โรลดุน้อง น้องชายปิดปากเงียบ....

            “ไป ๆ ขึ้นไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวแม่สงสัย...”

            “แล้วเพื่อนพี่จะกลับเลยรึเปล่า”รูนถาม

            “จะทำไมกับเขาล่ะ????”ผมไม่เข้าใจ...น้องมันก็ถามดี ๆ นะ แยมโรลนั่นแหล่ะที่อารมณ์ขุ่น ๆ พูดธรรมดาเหมือนกลายเป็นตะคอกไป

            “เปล่า ผมกลัวพวกอาบัง”

            “เออ ๆ มันไม่กล้ามาทำไรหรอกน่า...พี่อยู่ด้วย”โรลบอก ดันน้องชายขึ้นบันไดไปชั้นสอง...แล้วเดินกลับมาที่นี่อีกครั้ง

            “นอนนี่นะ”ผมรีบบอก

            “ไม่เอา!!!! กลับบ้านไปดิ”

            “บ้านอยู่ไกล จะให้ขับรถกลับกลางคืนเหรอ?”ผมทำเสียงอ้อน...

            “งั้นก็กลับโรงแรมไปดิ แมร่ง...วุ่นวาย”

            “พรุ่งนี้ได้ไหม...วันนี้ยังไม่ได้นอนเลย?”ผมทำสีหน้าเหนื่อย ๆ ซึ่งขอบอกว่าเหนื่อยจริง ๆ ไม่ได้แกล้ง โรลทำหน้าคิดนานจนผมแป้วแล้ว

            “โซฟาก็ได้นะ...เหนื่อยมาก”นอนเลยครับ ไม่ต้องรออนุมัติอะไรแล้ว

            “ผ้าห่มไม่มีนะ...หมอนก็ไม่มี”

            “ใจร้าย!!!”

            “ออกไปเลย!!!!”

            “โอเคครับ....พี่นอนได้ แยม....”ผมเรียก...โรลชะงักนิดนึง ผมกอดน้องจูบหลังคอเบา ๆ หยิบแหวนของโรลออกมา...สวมให้น้องกลับคืนเหมือนเดิม

            “อย่าถอดอีกนะ...เราเป็นของกันและกันแล้วจำไม่ได้เหรอ”ผมบอก

            “..........................................”

            “พี่จะไม่มีวันถอดของแยมออกเหมือนกันนะครับ พี่กำลังสู้เพื่อแยมอยู่นะ...ถ้าแยมไม่ยอมรับพี่ แล้วพี่จะทำทุก ๆ อย่างเพื่อแยมไปทำไมกันละ”ผมบอก น้ำตาหยดแหมะ...ที่แขน

            “ผมกลัว~”

            “คนดีของพี่...ไม่ต้องกลัวนะ...”

            “พี่ฟ้า~”

            ผมจับมือนั้นอย่างมั่นคง มันใจตัวเองขึ้นมากกว่า...จะไม่ยอมสูญเสียแยมโรลไปอีก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม...เรื่องของพรุ่งนี้ยังต้องแก้ไขและดำเนินต่อไป ผมหวังว่า...แยมโรลจะอยู่กับผม เคียงข้างผม...ในทุก ๆ วัน

            “พี่นอนนี่แล้วกัน...ผมจะขึ้นไปนอนกับน้อง”

            “อ้าว....”ผมทำหน้าผิดหวัง

            “นอนไม่ได้ก็กลับโรงแรมไปเลย!!!! ออกไปปิดประตูให้ผมด้วย!!!!”พูดเองหน้าแดงเองอะไรหว่า

            “นอนได้ครับ จุ๊บ....”

            “พี่รักแยมนะครับ”

            แยมโรลทำหน้าอึ้ง ๆ หน้าแดงจัด...แต่ก็พยักหน้าอยู่หน่อย ๆ ผมยิ้ม...เหมือนสามารถแก้ไขปัญหาไปได้อีกเปราะนึง...

รักพี่ฟ้า ๆ ๆ ๆ ๆ


รักโรลด้วย...คู่นี้ รักกันเบา ๆ ก็พอเนอะ ยังต้องฟันฝ่าอะไรต่อไปกันอีกเยอะ....


ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมา...


ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆ


เรื่องนี้จะปีนึงแล้ว เอ๊ะ...หรือปีนึงแล้วนะ ฮาาาา


อีกนิดเดียวก็จะจบแล้วนะ...ฮึบ ๆ


เป็นกำลังใจให้ด้วยจ้า...


ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 53

ของขวัญจากต่างแดน

[ติณฑ์]

            วัน ศุกร์ตอนเย็นแบบนี้รถติดเป็นบ้า ผมไปรับไอ้เตี้ยที่มหาวิทยาลัย...กำลังโดนแกล้งอยู่เลย พวกเพื่อนไอ้ชัด...มันแซว ไอ้นี่ก็โกรธหน้าดำหน้าแดง เป็นที่ชอบใจของชาววิศวะเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมชอบนะ...อย่างน้อยมันก็ไม่ได้นั่งเหงาทำหน้าเครียดเหมือนนั่งที่คณะตัว เอง

            น้องคิ้วหาเพื่อนให้...จากการทำกิจกรรมและรู้จักคนหลากหลาย เพื่อนมันเป็นผู้หญิงคน ผู้ชายคน และเป็นแฟนกัน ทั้งสองคนบอกว่า ในคณะใคร ๆ ก็ต่างไม่กล้ามาคุยกับไอ้เตี้ย เพราะมันชอบทำหน้านิ่ง ๆ ไม่สนใจโลก ก็แค่เด็กที่ป้องกันตัวเองจากอะไรบางอย่าง จนสร้างระยะห่างจากสิ่งนั้น ๆ และคนอื่น

            เตี้ยมันก็พอใจอยู่หน่อยกับเพื่อนของคิ้ว ชื่อ ฟ้า กับต้น ก็ลงเรียนวิชาเดียวกันหลายคลาสอยู่ เวลาทำงานกลุ่มมันจะได้ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจ...คนเดียวอีก

            “วันนี้เป็นยังไงบ้าง”ผมถามสารทุกข์ของมัน เห็นเงียบ ๆ มาตั้งแต่ขึ้นรถแล้ว

            “ก็ดี...”

            “อยากย้ายคณะไหม”ผมถาม เห็นมันไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่...แต่ไม่เคยถามจริง ๆ จัง ๆ สักทีว่าตกลงแล้วมันชอบเรียนหรืออยากเรียนอะไร คือถ้ามันต้องใช้ความอดทนในการเรียนบริหารขนาดนี้ ผมว่า...ผมไปคุยกับพ่อมันให้ดีกว่า อย่างน้อยถ้าเขาไม่ยอมหรืออะไรผมก็จะยกเหตุผลนี้มาอ้าง หรือถ้าเขาจะไม่ส่งเสียถ้ามันย้ายคณะ ผมจะส่งมันเรียนเอง..เมียคนเดียวส่งเสียไม่ได้ให้มันรู้ไป (อิเฮียใจป้ำ...)

            ยื่นมือไปแตะหน้าผาก...วัดไข้ ตัวก็ไม่ร้อน...

            มันจับมือผมไปกุมไว้...

            “กูอยากไปหาเจ”เตี้ยบอก ทำหน้าเหงา ๆ

            “น้องเจเพิ่งเปิดเรียน เห็นพี่เจี๊ยบบอกว่ารับน้องดึกทุกวันเลย...”ผมบอก

            “แต่กูไม่ได้เจอเจมาหลายอาทิตย์แล้วนะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว...มึงก็ให้เจไปอยู่กับม๊าด้วย”เตี้ยทำเสียงเง้างอด คืออาทิตย์ที่แล้วน้องเจมาบอกผมว่าจะไปเองครับ ผมเห็นว่าแทนกับธารก็รู้จักกันดี...ก็เลยรับรู้ว่าโอเคน้องไปอยู่บ้านเค้า แล้วถัดจากอาทิตย์นั้นมา พุทมันก็กลับมาแล้ว...สองคนนี้เลยยังไม่ได้เจอกันเลย คงจะเหงา...

            “ครับ ๆ เดี๋ยวโทรบอกพุทให้ครับ...”ผมต้องรับคำไปก่อน เห็นแววมาม่าตั้งแต่ทำหน้าอ้อน ๆ ละ ยิ่งวันนี้วันดี...จะพามันไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อไปรับใครบางคน ยังไม่ได้บอกเตี้ย...และดูท่ามันจะไม่รู้ตัวด้วย เหอ ๆ

            “หิว~!”มันจับมือผมไปวางบนท้องตัวเอง พุงแฟ่บ ๆ หน้าท้องโคตรแบนราบ...

            “กินอะไรดีเย็นนี้?”

            “อยากกินข้าวต้มกุ๊ย”

            “หืม...เอาสิ ดึก ๆ นะ สักสามทุ่ม”

            “โหยยยยย...แต่หิวตอนนี้อ่ะ”บ่นครับบ่น

            “เดี๋ยวพาไปกินครับ นอนก่อนเลยก็ได้”ผมบอก ตอนรถติดก็เอี้ยวตัวไปหยิบหมอนกับผ้าห่มให้มัน ปรับเบาะนอนลง...ท่านชายเค้าร้องหาไอแพด ผมไม่ได้เอามา...เลยต้องยกโทรศัพท์ให้มันเล่น

            โดนขุดคุ้ยตามระเบียบ...

            “มึง...กูยังไม่ได้ถามมึงเลยว่า ไปกินข้าวกับแฟนเก่าเป็นไงมั่ง”มันถาม เราเงียบ...ผมเงียบแค่อึดใจเดียวก็หันมายิ้มให้มัน

            “กินข้าวเฉย ๆ อัพเดตชีวิต...เหมือนเจอเพื่อนเก่าคนนึงละ”

            “แต่คนนี้ไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นคนที่มึงรักเท่าที่ชีวิตไม่ใช่เหรอ”

            “เง้อ...เอามาจากไหน คนที่กูรักเท่าชีวิตอ่ะ...กุมมือกูอยู่ตรงนี้แล้ว ที่กูไปเพราะอยากรู้ว่าเขาเป็นยังไง สุขสบายดีไหมเท่านั้นเอง อย่าคิดมากดิครับ...”

            “เดี๋ยวกูไปกินข้าวกับแฟนเก่าบ้างไหมละสัส...”

            “กูชิลล์ ๆ ครับ บอกเลย...”

            “จริงอ่ะ?”มันทำหน้าไม่เชื่อ อยากจะบีบปากแหลม ๆ นั่นซะละเกิน...

            “ดี ๆ วันนี้มีคนเอาบัตรละครเวทีมาให้ด้วย กูไปละกันนะ”

            “ตลกครับเตี้ย...”

            “ชิส์ ไม่สน จะไป...”

            ผมถอนหายใจกับนิสัยเอาชนะของมัน...จริง ๆ กลัวหึงระเบิดด้วย เลยต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง...ถามเรื่องเรียน มันบอกว่าฟ้ากับต้นช่วยได้เยอะ ดีใจที่เห็นมันมีเพื่อนในคณะสักที

            ผมกับเตี้ยมายืนรอใครบางคนที่สนามบิน ...ซึ่งนัดแนะกันไว้แล้ว ว่าจะมารอตรงนี้ เตี้ยมันก็นั่งเล่นเกมส์ไม่ห่าง...ถามผมจนปากเปียกว่าจะมารับใคร จะเป็นใครเดี๋ยวก็รู้....

            “ช้า อ่ะ...หิวข้าวแล้วนะ”จะไม่ว่าเลยถ้าไม่ทำหน้าอ้อนขนาดนี้ ใจเย็นดิครับที่รัก...ไอ้จะให้มายืนคล้องแขนทำหน้าแบ๊ว ๆ ขนาดนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ จับจูบแมร่ง!

            “อีกนิดนึง ๆ”

            ไม่ได้หาอะไรรองท้องในทาน เพราะเสร็จจากนี้...ก็จะพาไปกินอยู่แล้ว ช่วงนี้ไม่อยากให้มันกินเยอะเกินไป ยิ่งของไม่มีประโยชน์ด้วย ยิ่งต้องระวัง...

            “มารับใครอ่า...กูหิวนะ หิวแล้วน้า”เด็กน้อยของผมมันอ้อนมากไปละ

            “เดี๋ยวพาไปกินข้าวไง ต้มยำกุ้ง วันก่อนบ่นอยากกินไม่ใช่เหรอ”

            “งั้นก็ไปสิ เดี๋ยวค่อยกลับมารับก็ได้”

            “ไม่ได้...ไปกินพร้อมกันสิครับ อุตส่าห์มาถึงแล้วนะ”

            “ท่าทางคนคนนี้จะสำคัญมากนะ มึงถึงต้องมารับด้วยตัวเอง คงไม่ใช่ไอ้เด็กเวร...ที่โทรมาคุยกับมึงบ่อย ๆ นะ”

            “พูดจา...”

            “ชิส์~!”แกล้งบีบปากมัน แหย่เล่น...สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข็นรถออกมา ผมลุกขึ้นยืน...เต็มตัว คิดว่าเธอคงเห็นอยู่เหมือนกัน

            สวยกว่าในคลิปที่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน...

            “สวัสดีครับ”ผมเข้าไปทักทาย เธอไหว้ยิ้มสวย...

            “สวัสดีค่ะ คุณติณฑ์...แล้วนี่มะนาวใช่ไหมจ๊ะ”เตี้ยทำหน้างง

            “พี่ชื่อมิ้กกี้จ่ะ นี่ก็...เลมอนจ่ะ”มิกกี้อายุเท่ากันกับผม แนะนำตัวอย่างยิ้มแย้ม ไอ้เตี้ยสะดุดไปนิดนึง เพราะ...ชื่อน้องผู้ชายวัยสองขวบนิด ๆ นี้ เป็นชื่อเดียวกับมัน ไม่ใช่แค่ชื่อหรอก...แต่หน้าเหมือนไอ้เตี้ยอย่างกับแกะ มันยืนจ้องหน้าเด็กนั่นนาน...

            “มากันสองคนเหรอครับ”ผมหาทางออกในบทสนทนาที่เริ่มกระอักกระอ่วนนี้

            “อ๊ะ ค่ะ...คงต้องรบกวนหน่อยนะคะ”มิกกี้บอก ผมยิ้ม...

            “ญาติมึงเหรอ?”เตี้ยกระซิบถาม

            “เปล่า”

            “อ้าว...แล้วใครอ่ะ”

            “คนรู้จัก...”ผมบอก

            “เขามองกูแปลก ๆ ประหลาดคนจริง”

            “เขาไม่เคยเห็นเด็กน่ารัก ๆ แบบนี้มั้ง น่ารักจนอยาก.........จูบ”ผมเน้นคำหลัง ไอ้เตี้ยหน้าแดงทันที ทุบผมดังอั๊ก...

            “ไอ้บ้า...”

            “แล้วเขินทำไม เขินทำไมคร้าบบบบ...”

            “บ้า~”ด่า แต่ปากดันยิ้ม แฟนใครน่ารักจัง...ผมพามิกกี้ เลมอน และมะนาวขึ้นรถมาร้านอาหารไทย เพราะมิกกี้ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย แต่ไม่เคยมาเมืองไทย...และน้อยครั้งที่จะได้ทานอาหารไทย

            “ทานให้อร่อยนะ”

            กับข้าวเยอะแยะ...เป็นร้านอาหารไทยแบบที่ฝรั่งสามารถมากินได้ เพราะรสชาติอร่อยไม่จัดจ้านเกินไป เตี้ยก็ยิ้มใหญ่ มันอยากกินต้มยำกุ้งมาหลายวันแล้ว น้องเลมอนถูกจับนั่งเก้าอี้เด็ก...เด็กลูกครึ่งน่าตาน่าเอ็นดู

            “เมืองไทยมีที่เที่ยวเยอะใช่ไหม”มิกกี้ถาม ผมพยักหน้า...ไอ้เตี้ยไม่ได้ร่วมวงสนทนาด้วย เพราะมันไม่ค่อยคุยกับคนอื่นก่อน ถ้าไม่ถูกชะตาจริง ๆ

            “เอาไว้จะพาเที่ยวนะ อย่าเพิ่งเบื่ออากาศเมืองไทยไปก่อนละ...เพราะมันร้อนมาก”ผมขู่ มิกกี้ยิ้มกว้าง...

            “มะนาวอายุเท่าไหร่แล้วเหรอ”มิกกี้ชวนคุย ไอ้เตี้ยไม่ตอบ เห็นมิกกี้ยิ้มเก้อ...ผมเลยตอบแทน

            “ปีนี้ 20 แล้ว”

            “น่ารักมาก ๆ หน้าเหมือน...”ชะงัก....ผมกลอกตาไปมา มิกกี้รีบหุบปาก หึหึ....ไอ้เตี้ยไม่ได้สนใจหรอก มันก็นั่งกินอะไรของมันไปเรื่อยแหล่ะ

            ผมได้รู้ว่ามิกกี้เรียนภาษาไทยด้วย ทั้งเรียนในโรงเรียนและที่บ้านก็พูดภาษาไทย...ถึงขั้นมีกฎว่า อยู่ในบ้านต้องพูดภาษาไทยเท่านั้น มิน่า...เธอถึงได้พูดชัดขนาดนี้

            “มันบด”ผมยื่นถ้วยให้เลม่อน เด็กน้อยถือช้อนเอง...น่ารักมาก

            “ติณฑ์ เอาไก่อีก...”

            “หืม...พอแล้วมั้ง ไหนคืนนี้บอกว่าจะไปกินข้าวต้มอีกไง”ผมถาม

            “งั้นก็ได้...แต่กินไอติมต่อนะ”

            “ครับ...”

            “ทั้งสองคนน่ารักดีนะคะ”มิกกี้ยิ้ม

            หึหึ....เหนื่อยใจแทนมิกกี้ซะละ จะเจออะไรอีกบ้างก็ไม่รู้~!!!

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

(ต่อ)

            จัด ห้องให้อยู่ติดกับระเบียงเวลาตอนกลางคืนวิวตรงนั้นจะสวยมาก มิกกี้ชอบใจใหญ่...บอกว่าบ้านที่เยอรมันก็มีระเบียง มองออกไปเป็นทุ่งกว้าง...เราแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างแก่กันนิดหน่อยก่อนที่ผม จะปล่อยให้สองแม่ลูกได้มีเวลาส่วนตัว

            เด็กดื้อไม่ยอมไปอาบน้ำอีกแล้ว กลับมานอนแผ่บนเตียง...ทั้งที่ตัวออกเหม็น ผมนั่งคร่อมมันไว้...เห็นมันหลับตาสบายเลยอยากแกล้ง

            “หลับจริงหรือหลอก”ผมถามคลอเคลียที่ใบหูสวย

            “จริง”น้ำเสียงเหนื่อย ๆ ทำเอาผมยิ้ม

            “เหนื่อยเหรอครับ”

            “อือ”

            “งั้นไปอาบน้ำนะ”สอดมือไปใต้ร่าง...หวังจะถอดกระดุมเสื้อ (ให้ไปอาบน้ำ)

            “อือ เดี๋ยวออกไปกินข้าวต้มอีกค่อยกลับมาอาบ”

            “ห๊ะ จะไปอีกเหรอ?”

            “สัญญาแล้วนะ”มันลืมตามามองค้อน ผมลูบหัวเอาใจทัน

            “ครับ ๆ จะไปก็ไป...ชวนมิกกี้ไปด้วยดีไหม”

            “ไม่เอา!!!! กูอยากไปกับมึงสองคน”

            “แต่จะดีเหรอ เขาเป็นแขกนะ...ยังไงก็ต้องชวน”

            “..................................”

            “นะครับ เด็กเก่ง...ว่าง่าย ๆ หน่อย เหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย”ผมบ่นตามประสา ไม่ได้ตั้งใจ...และไม่ได้ใส่อารมณ์

            “ถ้ามึงไม่มีกูจะลำบากน้อยลงรึเปล่า”มันถาม

            “กูยอมลำบากครับ ขอโทษนะ...ที่พูดเมื่อกี้ มึงไม่พอใจเหรอ”ผมถาม และไอ้เตี้ยมันก็พยักหน้า...มาแนวใหม่ ไม่เหวี่ยงแล้ว...เห็นไหมเด็กผมเป็นเด็กดีแล้ว

            “อย่าคิดมากดิ ผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งเยอะ...ทั้งพูด ทั้งทำให้เห็นขนาดนี้แล้วไง”

            “อือ”

            “อย่าคิดมากนะ”

            “เออ~!”

            “กูรักมึงนะครับ”

            “อือ...”

            “พูดเพราะ ๆ ดิ๊?”

            “...................................”

            “รักนะครับเตี้ย”

            “คร้าบบบบ”มันพูดเขิน ๆ แกล้งทำหน้าทะเล้น ผมนอนกอดมันบนเตียง...ว่าจะอาบน้ำก็เลยไม่ได้อาบทั้งคู่ ฟ้าโทรมาว่าจะมานอนค้างด้วย แน่นอนมีฟ้าตอนนี้ต้องมีโรลเหอ ๆ

            เลยบอกว่า...พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาดีกว่า ขอคืนนี้ให้ผมได้นอนสงบ ๆ ก่อน ไอ้เตี้ยนั่งเล่นเกมส์สักพักก็ไปโทรศัพท์คุยการบ้านกับฟ้า มีแฟนเรียนอยู่แบบนี้...รักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องช่วยทำการบ้านด้วย หึหึ

            มันให้ผมช่วยเขียนรายงาน ย้ำนะครับว่า...เขียน จนเมื่อยมือไปหมด...ตัวมันก็นั่งทำภาพสไลด์ จะพรีเซนงานปลายสัปดาห์ ต้องขอบคุณเพื่อนใหม่มันจริง ๆ ไม่งั้นมันก็คงนอนตาย...ไฟไม่ลนก้นไม่คิดจะทำ

            “วันศุกร์กูไม่ไปเรียนนะ”มันบอก

            “ทำไม?”

            “อาจารย์ยกเลิกคลาส กูก็จะไปหาข้อมูลรายงานกับต้นด้วย”

            “ที่ไหน?”

            “ก็ว่าจะไปหาเพื่อนต้นที่ศาลายา กูทำรายการเกี่ยวกับโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอยู่”

            “เรียนบริหารอะไรมีเรียนเกี่ยวกับโรคด้วย”ผมสงสัย

            “มันเป็นการคิดวิเคราะห์โว้ย เรียนบริหารไม่ได้ความว่าความรู้ต้องจำกัดขอบเขตแค่ในงานบริหารสักหน่อย”

            “ครับ ๆ เก่งครับ...มาจูบที”

            “ตีน!”

            หึหึหึ......

            “แล้วจะไปยังไง ให้กูไปส่ง?”

            “ไม่ต้องหรอก กูไปกับเขานั่นแหล่ะ...ไม่อยากโดนว่า ว่าเป็นลูกแหง่พาพ่อไปด้วย”มันแจกยิ้มเก๋ ๆ จนอดแกล้งตอบไม่ได้

            “เดี๋ยวจะโดนพ่อคนนี้ลากอยู่ให้ถึงเช้านะครับ”

            ฟอดดดดดดดดดดดดดดด~~~~

            “ยี้ มีน้ำลายด้วย ถ้าจะทำแรงขนาดนี้...ช้ำรึเปล่าเนี่ย”มันบอกยกมือลูบแก้มปอย ๆ

            “ไหนครับบบ...ไม่ช้ำสักหน่อย รู้หรอกน่า...เลี้ยงขนาดยุ่งไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมขนาดนี้ ไม่ทำให้เจ็บหรอกครับ”

            “ติณฑ์”

            “หืมม?”

            ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~

            มัน ยิ้มกว้างเหมือนมีไฟนับพันดวงส่องประกายในดวงตา...เตี้ยน้อยยักคิ้วให้ ประมาณว่าตัวเองไม่ชั้นเชิงเหนือกว่า หึหึ เดี๋ยวไม่ได้นอนคืนนี้!!

            “ยั่วนะๆ”

            “เปล่าสักหน่อย...ห้ามทำด้วย!”มันรีบบอกก่อน เป็นข้อตกลงว่าวันไหนมีเรียน..ห้ามเด็ดขาด ไม่งั้นมันจะงอแง จะอาละวาดและไม่ไปเรียน ผมเลยต้องอดทน...อดทน และอดทน

            “คร้าบ ๆ เข้าใจแล้วคร้าบ”

            “คริคริคริ...ดีมาก~! ว่าง่าย ๆ ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย”มันเลียนแบบคำพูดผม ทั้งสีหน้าและเสียงพูด

            “ตลกละ...เสร็จแล้วปิดไฟ มานอนได้แล้วด้วย...พรุ่งนี้กูต้องใช้พลังมาก”

            “ใช้พลังทำไร? พรุ่งนี้จะไปไหน?”

            “ไม่ได้ไป พรุ่งนี้จะลงไปจัดสวน”

            “อ่อๆ”

            ปล่อยให้เตี้ยมันนั่งทำงานรายงานของมันต่อไป ผมก็ผล็อยหลับจนมันมาสะกิด เห็นปิดคอม...ปิดไฟกลางห้องแล้วก็เดินมานอนซบที่อกผม กอดและจูบหน้าผากมัน ก่อนจะหลับไปด้วยกันทั้งคู่~

(ต่อ)

 

 

            เช้า วันรุ่งขึ้น ผมลงมาทำโจ๊กให้คนที่นอนหลับอุตุ...ขยับตัวเองออกมาแล้วเอาหมอนข้างเสียบไป แทน ไอ้เตี้ยมันก็ยังไม่ตื่น ยิ่งฟ้าฝนครึ้มแบบนี้...คาดว่าจะตื่นตอนเที่ยงโน่นเลย วันนี้มันมีเรียนบ่ายสอง...ดีหน่อย ไม่ต้องไปเผชิญรถติด ลงมาข้างล่าง เห็นมิกกี้อุ้มน้องเลม่อนเดินเล่นอยู่ก่อนแล้ว

            “อรุณสวัสดิ์ครับ หนุ่มน้อย”ผมทักทาย มิกกี้ยิ้ม

            “ยังงง ๆ กับเวลาหน่อยค่ะ เลยพาลงมาเดินเล่น”มิกกี้ยิ้มกว้างทักทาย

            “คงอีกสักวันสองวันละครับ เป็นไงบ้างครับ...”ผมขออุ้มบ้าง เด็กน้อยส่งยิ้มเชื้อเชิญจนอดใจไม่ไหว ก้มลงไปฟัดแก้มนุ่ม ๆ หลายที

            “ก็ดีค่ะ บ้านนี้หลังใหญ่จัง...มิกกี้คิดว่าจะมีคนอยู่เยอะกว่านี้ซะอีก”เธอบอก

            “ก็ปกติจะอยู่ที่ญี่ปุ่นกัน เพราะโรงงานอยู่ที่นั่น...ส่วนบ้านของเตี้ย เอ่อ มะนาวน่ะ...อยู่กันหลายคน ทั้งปู่ย่า ตายายก็ด้วย”ผมเล่า เธอพยักหน้าซึมซับเรื่องราวที่ผมค่อย ๆ บอก

            “หิวรึเปล่า กำลังจะทำโจ๊ก...กินอะไรหน่อยแล้วค่อยขึ้นไปนอนพักต่อนะครับ หรือว่าจะรับไข่ดาว ไส้กรอกดีล่ะ”

            “ขอโจ๊กก็ได้ค่ะ ไม่ได้ทานนานแล้ว...”

            ผมทำโจ๊กหมูง่าย ๆ รอข้าวเละหน่อย ก็ทำน้ำซุปพอดีมีกระดูกหมูเหลือ ใส่กุ้ง ใส่ปลาหมึก หมูสับนิดหน่อย ก่อนจะทำเครื่องเคียงให้ครบ เพราะชอบใส่พวก กระเทียมเจียว หอมแดง ผักชีต้นหอม มิกกี้อุ้มน้องเลมอนมายืนดูอย่างสนใจ

            “ป้าคั้นน้ำฝรั่งไว้ให้นะคะ”ป้าสายกน้ำฝรั่งเหยือกใหญ่มาใส่ตู้เย็นไว้ให้

            “ครับ ขอบคุณครับป้า”

            “อยากได้อะไรเพิ่มเรียกเด็กเลยนะคะ”ป้าสาหันไปบอกมิกกี้ เธอไหว้ขอบคุณ...

            “ไปนั่งเถอะ เสร็จแล้วครับ...เลมอน จะทานได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะ”ผมหัวเราะ ตักโจ๊กใส่ชามให้เลมอนคนแรก เพราะจะได้โรยพริกไทยไปหน่อย ให้มีรสชาติ...

         

(มีต่อ)
 :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
(ต่อ ตอนที่ 53)  :katai4: :katai4: :katai4: 


ไอ้เตี้ยเดินหน้ามุ่ยลงมาพอดี

            “อ้าว...ตื่นเช้าจัง”ผมหันไปมอง มันจ้องชามโจ๊กในที่โต๊ะ มิกกี้ยิ้ม

            “มาทานโจ๊กสิคะ น้องมะนาว...พี่ติณฑ์ทำไว้อร่อยเชียว”ไอ้เตี้ยมันไม่สนใจ เดินไปเปิดตู้เย็น...หาอะไรสักอย่าง ผมตักโจ๊กทรงเครื่องให้มิกกี้

            “โว๊ะ!!!!”ท่าทางหัวเสีย

            “หาอะไร”ผมถาม ไอ้เด็กดื้อไม่ตอบ...ทำท่าจะรื้อของในตู้เละ ผมเลยต้องคว้ามือมันให้หยุด มิกกี้ก็มองอยู่....คงอึดอัดแน่ ๆ

            “หาอะไร จะเอาอะไร?”ไม่ตอบ...จ้องหน้ากูยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ อะไรว่ะ?

            “ไม่กินก็ได้แมร่ง!!!!!”มันผลักอกหนีห่าง ผมไวกว่าคว้าข้อมือเล็ก...ออกมาจากห้องกินข้าว เถียงกันต่อหน้าแขกได้อายเขาตาย

            “เป็นอะไรเนี่ย...”เห็นตาแดง ๆ ดราม่าเริ่มมาละ...มันหันไปทางอื่น ไม่ยอมสบตาด้วย...อาการแบบนี้ เขาเรียกว่า ‘งอน’ แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องที่ผมตื่นลงมาก่อนคงไม่ใช่แน่ ๆ เพราะมันก็รู้ว่าผมลงมาเตรียมอาหารให้มัน เอ๊ะ...หรือว่าจะเพราะมิกกี้ แต่มิกกี้ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่...งงวุ้ย!!!!

            “เมื่อคืนไม่ได้พาไปกินข้าวต้ม...วันนี้เลยลงมาทำโจ๊กให้เลยนะ”รีบเอาใจ

            “ใช่เหรอ??? ไม่ใช่ทำให้ไอ้เด็ก....”

            “ชู่ววว...”ผมแตะปากมัน กูรู้ละ...ปกติทำอาหารนะครับ ยกเสิร์ฟพี่เตี้ยคนแรก...นี่เห็นว่านอนยังไม่ลงมา แล้วก็มีแขก...เลยตักให้แขกทานก่อน คงจะไม่พอใจ...

            “ไม่ดื้อนะ...นะครับ ไม่อายแขกเหรอ”ผมเอาใจ

            “ก็มึงน่ะ!!!!”

            “ขอโทษ ๆ เห็นว่านอนไม่คิดว่าจะตื่นตอนนี้...อย่างอนเลยนะ”กอดมันก่อนครับ ให้มันใจเย็นลง...เห็นว่าตามใจ แต่เดี๋ยวนี้ชักจะเคยชินกับการมีคนทำให้เยอะเกินไปละ

            “ก็ไม่ได้อะไรสักหน่อย...แค่หงุดหงิด”

            “ครับ ๆ ไปกินข้าวเถอะนะ...เมื่อกี้จะเอาอะไร”

            “น้ำแอปเปิ้ล”

            “วันนี้ไม่มีอ่ะ ป้าสาเอาน้ำฝรั่งมาให้แทน กินไปก่อนแล้ววันนี้จะออกไปซื้อให้นะ”

            “อือ”

            จุ๊บ...ว่าง่าย ๆ หน่อย ผมจูงมือมันเข้ามาในครัว มิกกี้ยิ้มเห่ย ๆ ให้ คงจะกลัว...ฮ่าฮ่าฮ่า

            “นั่งเลยเดี๋ยวตักข้าวให้ มิกกี้เอาอีกไหม”

            “ไม่เป็นไรค่ะ อิ่มพอดี”มิกกี้ป้อนโจ๊กน้องเลมอน ซึ่งตอนนี้กำลังยื่นมือไปหาไอ้เตี้ย...หึหึ ไอ้นี่ก็นั่งนิ่ง...เด็กเล่นด้วยก็ไม่เล่น อะไรของมัน...

            เพี๊ยะ ๆ

            เลม่อนตีมือพี่มะนาว ไอ้เตี้ยถลึงตาใส่เด็ก...เจ้าตัวเล็กก็หัวเราะชอบใจ

            “อย่าแกล้งพี่เค้าสิ เลม่อน”มิกกี้ปรามลูกตัวเอง เหมือนเจ้าตัวเล็กจะยากไปหาเตี้ย...ขึ้นขั้นจะปีนโต๊ะเลยทีเดียว

            “ไม่เอา ๆ”

            “เล่นกับน้องหน่อยสิ”ผมบอก ไอ้หน้าสวยนี่ก็ทำแบ๊ว เหมือนจะเขิน ๆ

            “แม่พาขึ้นห้องแล้วป่ะครับ”

            “ไม่เป็นไรมิกกี้ มะนาวเขินใช่ไหมครับ”ผมแซว ไอ้เตี้ย...ทำปากร้อง ไอ้เชี่ย...ส่งมาให้ เหอ ๆ มิกกี้ยิ้มเหมือนลุ้นอยู่เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันขั้นแรกครับ...

 

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

             ฟ้าพาโรลมาที่บ้าน ไอ้เตี้ยใช้หางตามองพี่มัน...คงจะงอนอยู่ ยิ่งไอ้โรลมันก็ยิ่งไม่กล้าพูดอะไร ไปนั่งเกร็งหลบอยู่มุมห้อง

            “สวัสดีครับ”ฟ้าทักทายมิกกี้

            “ค่ะ”

            “นี่เหรอครับ เลม่อน...น่ารักกว่าในรูป”ฟ้ากระซิบ มิกกี้หัวเราะ

            “ซนเอาเรื่องเหมือนกันค่ะ”

            “ดูสิ หู ปาก ตา จมูก....เหมือน...”

            “จุ๊ๆ”ผมทำเสียงส่งสัญญาณเตือน ไอ้เตี้ยมันดูทีวีอยู่ก็จริง แต่หูมันกระดิกหยิก ๆ แบบนี้ คงจะฟังอยู่เหมือนกัน

            “นี่วางแพลนจะไปเที่ยวกันหรือยังครับ ยังไงบอกผมล่วงหน้านะครับ...จะได้พาพ่อกับแม่ลงมาด้วย”ฟ้าลืมตัว ไอ้เตี้ยหันขวับ

            “แล้วทำไมพ่อกับแม่ต้องมา?????”

            เงียบ....

            “มีอะไรกัน????”มันจ้องหน้าทีละคน ผมเดินมากอดมันเบา ๆ

            “ก็รวมตัวนัดไปเที่ยวไง...สิ้นเดือนไหม ไปกาญฯกัน ชวนเจพี่พุทไปด้วย....แทนธารด้วยก็นะ ไปกันหลาย ๆ คน”ผมเร้าหาทางออก ไอ้เตี้ยทำหน้าจับผิด...แต่ละคนหน้างี้ซีดมาก

            “ไม่รู้ว่าเดือนกว่า ๆ จะต้องไปญี่ปุ่นอีกไหม...กูอยากอยู่เที่ยวกับมึงให้เต็มที่ก่อน”ผมบอก

            “ไปอีกแล้วเหรอ?”ไอ้เตี้ยหน้าเสียไปแล้วครับ ผมพยักหน้า...รู้สึกแย่ที่โกหก แต่เพื่อความอยู่รอดของหมู่คณะ...

            “ไว้มึงว่าง...เราไปเที่ยวกันนะ ไปกันทั้งหมดเลย”

            “อือๆ”เด็กน้อยทำท่าว่าง่าย...

            “มะนาวครับ พี่ซื้อขนมมาให้ด้วย...เค้กแบบที่เราชอบเลยนะ”ฟ้าบอก ยื่นเค้กให้...แต่อีกคนทำหน้านิ่งมาก

            “นาวครับ~”

            ปล่อยให้พี่น้องเค้าง้องอนกัน ผมแยกตัวออกมา พร้อม ๆ กับโรลออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน  มิกกี้อุ้มเลม่อนเล่นไม่ห่าง

            “อึดอัด?”ผมถาม

            “นิดหน่อยพี่”

            “เดี๋ยวก็ชิน พี่ดีใจที่นายให้โอกาสฟ้า...”ผมบอก ถึงจะแกล้งนายฟ้า...และผมก็รู้ดีว่ารักและเป็นห่วงมาก เหมือนมีน้องชายคนนึง

            “พี่เก่งเนอะ ทนมันได้”

            “ไอ้ฟ้าก็เก่ง”ผมแกล้งแซวกลับ ไอ้โรลมันมาทำตาค้อน

            “ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้โอกาสเขา”

            “มีแค่ชีวิตเดียว เกิดครั้งเดียว...ตายครั้งเดียว กลัวอะไร?”ผมทำหน้านิ่ง ๆ มองตรงไปข้างหน้า...อีกคนหันมามองหน้าก่อนจะกลับไปถอนหายใจ

            “ไม่รู้ดิครับ”

            “ความรักมันไม่ยากขนาดนั้นหรอก”

            “แต่มันทำให้ชีวิตยุ่งยาก!?!?!”โรลตอบเสียงดัง

            “พร้อมจะแลกรึเปล่าล่ะ??? แลก มัน...กับคนที่เดินจับมืออยู่เคียงข้าง”โรลก้มหน้า ผมคิดว่าก่อนมาที่นี่น้องมันคงใช้เวลาตัดสินใจตัวเองไม่น้อย และลึก ๆ แล้วยังคงสับสนกับอะไรบางอย่างอยู่ แต่ผมเชื่อว่า...เวลาจะช่วยให้น้องเข้าใจทุกอย่าง แต่มันก็อยู่ที่ตัวนายฟ้าเองด้วย ว่าจะทำได้รึเปล่า...ทำให้โรลรักสุดหัวใจ

            ตัวผมเองก็เครียดและกังวลไม่น้อย เมื่อคิดมาถึงตรงนี้...

            “ถ้าทุกอย่างมันไม่ได้สวยงามอย่างเทพนิยายละพี่?”

            “ก็ไม่เห็นต้องแคร์...เดินทางตามหัวใจนาย สิ่งที่เหลือ...พี่เชื่อว่านายฟ้าจัดการได้ว่ะ”

            ผมตบบ่าให้กำลังใจโรล....ความรักมันก็หอมกรุ่นเย้ายวนแบบนี้แล

 

            “วันนี้ไม่มีเรียนเหรอไง”ไอ้เตี้ยเดินอาด ๆ ตะโกนถามเพื่อนมัน เห็นฟ้ายิ้มหน้าบานคงอารมณ์ดีมาแล้ว โรลชะงักนิดหน่อย เหมือนตั้งตัวไม่ทัน...คิดว่าไอ้เตี้ยจะอาละวาด

            “อะ เอ่อ....”

            “มีตอนบ่าย ๆ “ฟ้าตอบแทน เตี้ยพยักหน้า...

            “นั่งทำหน้าโง่อยู่ได้”มันพูดใส่เพื่อนมัน...แต่ไม่ได้จริงจัง เหมือนเด็กเขิน ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า ไอ้โรลยังนั่งช็อค

อยู่  เลยทำหน้าเอ๋อ ๆ มองคนโน้นทีคนนี้ที

            “งั้นโรลไปนั่งดูทีวีก่อน ไอ้เตี้ยไปอาบน้ำ แล้วเดี๋ยวพาไปส่งที่มหาลัยฯ”

            “จะไปกันหมดนี่?”เตี้ยถาม หมายถึงทั้งมิกกี้และเลม่อน ผมพยักหน้า...

            “ทำอย่างกับจะไปออกรบ...”มันเดินสะบัดหน้าขึ้นห้อง...

            อยู่กับมึงก็เตรียมพร้อมยิ่งกว่าออกรบอีกครับ อย่างที่ฟ้าบอก...อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามันได้รู้ว่ามิกกี้คือใคร และเลม่อนคือใคร สำคัญยังไงกับมัน ผมเดาทางไม่ค่อยถูก...เด็กน้อยของผม จะส่งอารมณ์ใดออกมา...ดีใจ (?) เสียใจ โมโห โกรธ จะสุขจะทุกข์ผมจะทำให้เขารู้ว่าผมพร้อม .... พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาจริง ๆ

            “พี่มีข้าวไหม? เราสองคนยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย”ฟ้าถาม

            “มีโจ๊กทานได้รึเปล่า อยากได้อะไรบอกแม่บ้านก็ได้นะ”ผมเดินไปสั่งให้แม่บ้านให้ทำไข่เจียวง่าย ๆ ให้ทั้งสองเพิ่ม และแอบยิ้มให้กำลังใจมิกกี้น้อย ๆ ก่อนจะขึ้นห้องมา

            “อาบน้ำไวจัง”รวบเอวไอ้เตี้ยมากอด

            “อย่า! จะแต่งตัว”ผมเอาคางเกยบ่า มองแฟนตัวเองในกระจก...

            “เตี้ย...กูเหนื่อย”มันชะงัก...หันมามองผม

            “ไม่สบายเหรอ?”

            “ไม่รู้ดิ”มือเรียวยกมือวัดไข้ มีสีหน้าห่วงใยอย่างชัดเจน...

            “กินยาไหม มึงได้กินข้าวหรือยัง”ผมส่ายหน้าน้อย ๆ สร้างความไม่พอใจให้อีกคน

            “แล้วทำไมไม่กิน”

            “ทำให้มึงกินก่อนไง”มันชะงัก...

            “ไม่ต้องคิดถึงกูก่อนทุกเรื่องก็ได้”

            “มึงคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตกูนี่ครับ กูทำให้เพราะอยากเห็นมึงยิ้ม หัวเราะ...ดีใจ รู้ไหม”

            “กูใส่ใจมึงน้อยสินะ”เตี้ยมันบอก ผมแค่นยิ้ม...ปล่อยมือออกจากเอว มันหันกอดผมแทน

            “กูดื้อ กูเอาแต่ใจ...มึงเลยเหนื่อย”

            “งั้นไม่ดื้อได้ไหม ไม่เอาแต่ใจได้รึเปล่า”

            “กูก็พยายามอยู่ไง แต่พอเวลาโมโหมันก็ลืม...แฮะ ๆ”

            “พยายามนะ...พยายามให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พยายาม...”

 

            มันไม่ตอบอะไร..แต่คิดว่าคงงงไม่น้อย ที่ผมมาพูดอะไรแบบนี้....หวังว่าทุกอย่างคนคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้มันเจ็บน้อยที่สุด...ผมอยากเป็นคนนั้น เป็นคนที่เวลามันร้องไห้...แล้วมาซบไหล่ผม ผมอยากเป็นทุก ๆ อย่างของมัน...



 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 55

อ่อนแอ

[มะนาว]

            เหนื่อย มาทั้งอาทิตย์เพราะต้องเร่งทำรายงาน วันนี้เป็นวันแรกของการได้หยุดพักจริง ๆ จัง ๆ ผมตื่นสาย สายมาก ๆ ดูนาฬิกามันก็เกือบเที่ยงแล้ว ไอ้ลุงหนวดที่นอนกอดกันอยู่เมื่อคืนก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วลงมากะว่าต้องมีของกินรออยู่ แต่ว่างเปล่า...ที่ครัวก็ไม่มี ไปไหนว่ะ????

            “อ้าว คุณนาวตื่นแล้วเหรอคะ หิวไหม...ป้าตั้งโต๊ะให้”ป้าสาอุ้มเจ้าเด็กตาโตแกว่งไปแกว่งมา เจ้าเด็กนั่นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจใหญ่

            “ติณฑ์ไปไหนครับ”

            “คุณติณฑ์พาคุณมิกกี้ไปธนาคารค่ะ หิวใช่ไหมคะ”ป้าสาถาม ผมพยักหน้า...

            “งั้นป้าฝากดูน้องเลม่อนก่อนนะคะ...เดี๋ยวจะตั้งโต๊ะให้ทาน”แล้วป้าสาก็ผลัก ไสไอ้เด็กตาโต มาให้ผมอุ้ม...มันมองหน้าผมแล้วยิ้ม

            “รัก รัก....”เสียงพูดไม่ค่อยชัด แต่ฟังก็รู้ว่าพูดว่าอะไร....ผมขำออกมา เพราะเจ้าเด็กเลม่อนน้ำลายไหลระหว่างพูด ฮ่าฮ่าฮ่า เหมือนหมาเลย...

            “จุ๊บ จุ๊บ”ไอ้เด็กนี่มันยันตัวเองขึ้น จะจุ๊บผมให้ได้

            “ไม่เอาโว้ยๆ”ยี้ สกปรก...พยายามดึงคอเสื้อออกห่าง แต่เด็กมันรั้นกำเสื้อผมแน่น ๆ

            “รัก จุ๊บ”

            “..........ยี้!!!!”

            “รัก นาว นาว รัก”เด็กนี่พูดย้ำ ๆ ประหนึ่งว่าถูกป้อนคำสั่งมาให้พูด ผมดันหน้าผากเอาไว้ไม่ให้มาใกล้ วางลงให้คลานเล่นที่พื้น

            “ตัวก็หนัก คนหรือหมีว่ะเนี่ย”

            “นาว จุ๊บ”มือเล็กยื่นมา คลานมาบนตัก...จะปีนขึ้นมาให้ได้ ผมหัวเราะ...

            “แบร่ ไอ้อ่อน!!!! ไม่ให้จูบหรอก!!!! คิดจะเปรี้ยวแต่เด็กเหรอไอ้หนู”ผมถอยหลัง มันคลานตาม ผมแกล้งทำท่ารังเกียจ แต่เด็กนี่ก็พยายามจะมาจับ
            “คิคริคริคริ”เสียงหัวเราะผมดังลั่น

            “อ๊ะ เอิ๊ก ฮ่า....”เลม่อนหัวเราะเหมือนกัน จับขาผม...แล้วมองหน้า ผมผลักมือออก...

            “ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้อ่อน”

            “คิคิคิ นาว รัก”เลม่อนพูด

            “หึหึ คิดจะปีนเกลียวหรือไง!!!! เดี๋ยวปั๊ด”

            ร่างเล็กปีนขึ้นมาบนตักได้ก็อยากยืนเต็มตัว ผมต้องสอดมือจับไว้ใต้จักแร้สองข้าง แล้วไอ้ตัวกระเปี๊ยกนี่ก็พุ่งหน้ามาสุดตัว

            เอามือสองข้างประคองหน้าผม แล้วจุ๊บที่ปาก

            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”ผมร้องเป็นตุ๊ดออก จริง ๆ ไม่ได้ตกใจขนาดนั้นแหล่ะ จะแกล้งเด็กมากกว่า แต่ร้องดังไปหน่อย...ตัวเจ้าตกใจ ร้องไห้จ้า

 

            “แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”

            “เอ่อ.....”

            มิกกี้กับติณฑ์เพิ่งกลับมา มิกกี้วิ่งมาอุ้มเลม่อน ผมมองหน้าติณฑ์ที่ทำหน้าดุ ๆ ไม่พอใจ...

            “ทำอะไรน้อง”

            “เปล่าสักหน่อย”

            “เปล่าแล้วทำไมน้องร้องไห้”ติณฑ์ตวาด ผมชักสีหน้า!!!!!

            “ก็ไม่ได้ทำ”

            “นิสัยไม่ดี”มันด่าผมต่อหน้าคนอื่นได้ยังไง

            “เออ ไอ้เหี้ย!!!!!!”ผมตะโกนใส่หน้ามันบ้าง วิ่งออกมาหลังบ้าน...ซุกตัวต้องซอกกำแพง ไอ้เชี่ยเอ้ย!!!! ช่วยเลี้ยงแท้ ๆ ยังกล้ามาด่าอีก ไอ้เด็กเวรนั่นก็ร้องไห้อย่างกับเขื่อนแตก เซ็งชะมัด!!!

            นั่ง อยู่ตั้งนาน...ไม่เห็นออกมาตามสักทีว่ะ ปกติมันต้องวิ่งมาง้อแล้วดิ ผมหงุดหงิด...เหมือนว่าในบ้านก็เงียบ ๆ ไปด้วย อยากรู้ว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เอาอ่ะ...ฟอร์มเยอะ ไม่เดินเข้าไปหรอก นอนเล่นที่ม้านั่งด้านนอก ร้อนก็ร้อน...สักพักทนไม่ไหว ถึงเดินเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียง

            หญิงสาวกับลูกหัวเราะดังลั่นในครัว โดยมีติณฑ์ร่วมวงด้วย

           

            จู่ ๆ ก็ปวดหนึบ...ที่ใจ ผมกำมือแน่น...กัดปากตัวเองยืนนิ่ง ติณฑ์หันมาเห็นพอดี

            “ป้าสาเตรียมข้าวไว้ให้แล้ว มากินสิ”นึกยังไงไม่รู้ เดินเข้าไปนั่ง...บรรยากาศเงียบทันที เจ้าเด็กตาโตพยายามจะยื่นมือมาแตะตัวผม ผมก็ถอยห่าง..ไม่อยากวุ่นวายด้วย แน่นอนว่าการกระทำทั้งหมดถูกจับจ้องด้วยสายตาอีกสองคู่

            “เค้กในตู้เย็นนะ”ติณฑ์บอก ผมไม่ตอบ...เอากับข้าวเทใส่จานเดียว แล้วคน ๆ ทั้งสองคนเงียบไป...ผมรีบ ๆ กิน กิน ๆ ไปให้มันจบมื้อ น้ำตาก็จะไหล...ไม่ต้องเคี้ยวอะไรแล้ว อยากจะกลืนมันลงคอเลยด้วยซ้ำ

            “กินช้า ๆ เป็นอะไร”ทำเสียงดุใส่ ผมเบือนหน้าหนี...

            “เอ่อ...”มิกกี้ทำหน้าอึ้ง ๆ

            ผมตักข้าวคำใหญ่ยัดใส่ปาก กลืนไม่หมดก็ยัดใส่ ๆ จนแก้มป่องไปด้วยอาหาร

            “เดี๋ยวได้ติดคอ!!!!! เตี้ย!!!!!!”ไอ้คนพูด จับมือผม...แต่ผมบิดออก ดื่มน้ำหมดแล้ว...กระแทกดังปัง!!! เลม่อนตกใจกระโดดหาแม่

            “เตี้ย!!!!”

            ผมไม่ตอบ...ลุกเดินออกจากห้องครัว ขึ้นมาร้องไห้คนเดียว...มันไม่ขึ้นมาตามด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกัน...อะไร ๆ ผมก็ผิดอยู่แล้วนี่ คิดจะด่ากัน...มากกว่านี้ก็โดนมาแล้ว ทำไมผมต้องแคร์ด้วย...

            “ลงไปขอโทษมิกกี้เดี๋ยวนี้”ติณฑ์เดินมาหยุดข้างหลัง ผมนั่งกดแป้นพิมพ์นิ่ง สายตาจ้องที่หน้าจอ...แต่ใจหลุดไปแล้ว

            “เตี้ย! ได้ยินไหม...”

            “กูทำไรผิด”

            “ทำนิสัยไม่ดี...ต้องให้กูพูดไหมว่าอะไรบ้าง”มันด่า

            “กูก็เลวมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว มึงไม่รู้เหรอ”

            “อย่าประชด”เห็นหน้านิ่งจริงจังของมัน แล้วเริ่มกลัวขึ้นมานิดนึง...

            “.........................................”

            “ลงไปขอโทษเขาซะ ต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน”

            ผมชะงัก...มองหน้ามัน

            “กูไม่อยากอยู่ ถ้าทุกคนลำบากนัก...กูไปเอง”

            “อย่าประชดได้ป่ะ....เดี๋ยวกูปล่อยให้ไปแล้วจะหนาว”มันพูดท้าทาย รู้ว่าผมไม่มีทางไปจากมันได้

            “.........................................”

            “วันไหนที่ไม่มีกูตาม กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะทำยังไง แต่มึงคงไม่แคร์...เพราะมึงเก่งอยู่แล้วนี่”ไอ้โหดพูดประชดกลับ...ผมจ้อง หน้ามันนิ่ง

            “เออ...งั้นทีหลังอย่ามาเสือ.กเรื่องของกู จำไว้!!!!!!”

            “หัดใจเย็นแล้วฟังคนอื่นบ้าง!!!!”มันด่าต่อ

            “คนอื่นเขาทำเพื่อมึง...มีแต่มึงไม่เคยทำเพื่อใคร”

            ถ้าคนอื่นพูดผมจะไม่อะไรเลย แต่นี่...คนที่พูดคือคนที่ผมรัก จะให้คิดยังไง...เบื่อ? รำคาญ? จนถึงที่สุดแล้วสินะ...ผมกลั้นน้ำตาตัวเอง จะไม่มีวัน...ร้องไห้ออกมาเป็นอันขาด

            แทบจะกลั้นหายใจ...

            ติณฑ์คว้ามือผมไว้...ผมสะบัดออก ยืนนิ่ง  ๆ เพราะร่างชาก้าวขาไม่ออก ไม่เคยเจ็บเท่านี้มาก่อนเลย

            “เตี้ย~”เสียงเรียกอ่อนลง

            ผมยืนหันหลัง...มองออกไปนอกหน้าต่าง เจ็บว่ะ!

 

(ต่อ)

 

พี่ ฟ้าไปรับไอ้โรลที่มหาลัย ดีเหลือเกิน...งานการไม่ต้องทำ มานั่งเฝ้ากันอยู่นี่ ผมเดินผ่านฝูงชนที่พูดคุยหัวเราะอย่างมีความสุข ออกมาใส่รองเท้า...ทุกคนเงียบ ตอนผมเดินผ่าน...รู้สึกแย่อย่างกับตัวเองเป็นตัวร้าย ที่ใคร ๆ ต้องระวัง

            “นาวจะไปไหน”พี่ฟ้าร้องถาม ผมไม่ตอบ...หยิบรองเท้าผ้าใบออกมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว แต่มีมือหนาคว้าไว้ก่อนที่จะออกประตู

            “จะไปไหน”

            “ปล่อย”

            “แล้วจะไปไหน เดี๋ยวก็อาหารเย็นแล้ว...ฟ้าอุตส่าห์ซื้อของมาปิ้งกินกัน”ไอ้ติณฑ์บอก ผมมองมันอย่างแค้นเคือง ก่อนหน้านี้ด่ากูไว้แล้วทำลืม

            บิดแขนตัวเองออก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมกลับจับแรงขึ้น

            “เจ็บนะ!!”

            “ไม่ให้ไป จะไปไหน...งี่เง่าไม่จบใช่ไหม”

            “คำก็งี่เง่า สองคำก็งี่เง่า กูมันเลวนักใช่ไหม!!!!”ได้อยากให้กูบ้านัก...กูจะบ้าให้ถึงที่สุดเลยคอยดู ไอ้ติณฑ์ผงะไปนิดนึง แต่แววตายังแข็งกร้าว พี่ฟ้าเป็นคนมาจับเราแยกออกจากกัน

            “ใจเย็น ๆ มีอะไรค่อยพูดค่อยจา”

            ผมหายใจแรงกว่าเดิม เพราะเริ่มโมโหจัดแล้ว ถ้าจะต้องมีใครเลือดออกสักคน...จะเอาเลือดหัวไอ้ติณฑ์ออกคนแรก ด่ากูดีนัก!!! มิกกี้อุ้มไอ้เด็กเวรมายืนดูด้วย...มันดิ้น ๆ จะออกจากอกแม่มัน มาหาผม...

            “จุ๊ๆ”มิกกี้ร้องห้ามลูก

            “แอ๊ๆๆๆ นาว ๆ รัก”ไอ้เด็กเวรพูดแต่คำเดิม ผมหันหน้าหนีไปอีกทาง...น้ำตาไหล ไม่ต้องมาเรียกชื่อกู!!! ไอ้เด็กซวย...กูอยู่ของกูดี ๆ มาทำให้กูโดนด่า

            “รัก รัก รัก นาว”มันยื่นแขนออกมาสองข้าง...พี่ฟ้ายืนนิ่ง จนมือเล็ก ๆ นั่นเอื้อมเกือบถึงตัว

            ผมกัดปากตัวเอง...ถ้าแตะกูเมื่อไหร่จะ กูจะอาละวาดให้บ้านแตกคอยดู เด็กเดิ่กกูไม่เว้น...บอกแล้ว อยากให้กูบ้านัก!@!!!

            “นาว”ตาใส ๆ ทำเอียงหน้ามองด้วยความสนใจ ผมหันหน้าหนี...ไอ้เด็กผี มันเอามือจับบ่าแล้วเอียงคอมาหา

            “ม่อน หา นาว”ทุกคนเงียบ...

            ผมสะบัดมือเล็ก ๆ ออกอย่างแรง จนแม่ไอ้เด็กนี่จับเกือบไม่ทัน พี่ฟ้ากับไอ้ติณฑ์เคลื่อนตัวอย่างเร็ว เพราะกลัวว่ามันจะตกลงพื้น ผมตกใจเหมือนกันไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดแรง แต่เพราะแม่มันอุ้มไม่แน่นมากกว่า โรลยืนมองอยู่ห่าง ๆ ผมวิ่งขึ้นชั้นสอง ปิดประตูล็อคห้องเล็ก...ร้องไห้อยู่ในนั้นเพียงลำพัง สักพักเสียงประตูก๊อกแก๊ก เหมือนมีคนกำลังไขเข้า ผมรีบเอาผ้าห่มคลุมโปง...

            เตียงยวบลงไปเพราะน้ำหนักของใครอีกคน

            “กูเอง”เสียงนั้นแผ่วเบา แต่ผมก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่คนที่คิด

            “มึง...ใจเย็น ๆ นะโว้ย เฮียไม่ได้ตั้งใจ”เสียงไอ้โรลนิ่ง ผมก็นิ่ง

            “ฮึก”อ้าวเชี่ย...น้ำตาไหล อย่าปลอบ...ขอร้อง

            “อย่าเป็นงี้ดิว่ะ กูทำตัวไม่ถูก”ผมร้องไห้ ร้องอยู่นานมาก...และก็รู้ว่าตลอดเวลาไอ้โรลไม่ได้ลุกไปไหน มันนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่เดิม

            “มึงรักพี่กูรึเปล่า”ผมถาม

            “อะ อืม”มันรับคำ ผมเปิดผ้าห่มออกมานิดนึง

            “มึงคงเกลียดกู กูนิสัยไม่ดี”

            “ไม่หรอก กูเข้าใจ...กูก็มีน้องเหมือนกัน”

            “...................................”

            “กูอิจฉามึงด้วยซ้ำ พี่ฟ้าเค้ารักมึงมาก”

            “แต่เค้าก็เลือกจะทำให้กูเสียใจ ด้วยการคบกับมึง”ผมพูด...อีกฝ่ายเงียบไป ผมรู้สึก......ว่าตัวเองพลาด ที่ทำคำพูดอาจทำให้โรลเสียใจ

            “กู มะ ไม่ได้ตั้งใจ”ผมบอกเสียงเบา

            “ไม่เป็นไร...นาว กูไม่ได้แย่งพี่มึงไปจากมึงเลย...”โรลอธิบาย “พี่มึงรักมึง รักมากกว่าใครทั้งหมด...และทุกคนเขาก็รักมึง”

            “อือ กูนิสัยไม่ดีมากใช่ไหม”

            “มึงก็แค่เป็นมึง”โรลพูด ผมหลับตาด้วยความเหนื่อยอ่อน...รู้สึกว่าไอ้โรลมาลูบหัวผมเบา ๆ แต่ตัวเองลืมตาไม่ขึ้น

            “หมาเอ้ย...ทุกคนเขารักมึงจะตาย กูยังอิจฉาเลย”ผมกระตุกยิ้มให้มัน ก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะอาการปวดหัวนิด ๆ

 

            ตื่นอีกเพราะได้ยินเสียงคนเรียก...

            “เตี้ย~”เสียงเรียก ผมลืมตามอง...ไอ้ติณฑ์ ไอ้เวร!

            “ลงไปกินข้าว”

            “.....................”

            “หรือจะให้ยกขึ้นมาบนนี้”

            “................................................”

            “เพิ่งคุยกับป้าสา ป้าสาบอกมึงช่วยเลี้ยงน้องเหรอ”มันถาม เสียงอ่อนเชียวนะมึง...

            “กูนี่โง่อีกแล้ว คิดว่ามึงแกล้งน้องไง...เด็กตัวเล็กนิดเดียว”

            “กูเลว กูก็ไม่รังแกเด็กหรอก ชาติ......”ผมด่ามัน

            “ชู่วๆ นาวนอนอยู่นะ”ไอ้ติณฑ์พูดกับใครอีกคนในห้อง และคนนั้นก็คลานอยู่บนเตียงผมเนี่ย

            “เอ๋”เสียงเด็ก ผมนอนนิ่ง...อย่ามายุ่งกับกูนะมึง

            “เตี้ยครับ ขอโทษครับ...”ง่าย ๆ แบบนี้นี่แหล่ะมัน ผมน้ำตาไหล...ร้องไห้สะอื้นขึ้นมาอีกรอบ

            “หา นาว”

            “นาวนอน จุ๊ๆ”

            “ฮือออออ นาว”เลม่อนมันร้อง และแรงดึงผ้าห่มออก ทำให้ผมกำมันแน่นกว่าเดิม

            “เตี้ยครับ น้องอยากเล่นด้วย”

            “ไม่ต้องพามันมาใกล้กูเลยนะ!! ตัวซวย!!”ผมด่า

            “เตี้ย!!”ไอ้ติณฑ์ทำเสียงเข้ม

            “เลม่อนมานี่ครับ ปะ ๆ เดี๋ยวพาไปข้างล่างนะ”

            “แง ๆ ๆ ๆ ๆ”ไอ้เด็กเวรมันร้องลั่น ดึงผ้าห่มแน่น แต่แบบ...มันดึงผมกูติดไปด้วย โอ๊ยยย...เจ็บนะ

            “เจ็บ!!!”ผมจับหัวตัวเองไว้

            “โอ๊ะ ๆ ปล่อย ๆ นาวเจ็บ”ติณฑ์บอก ไอ้เด็กนี่ไม่ยอม...เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวมึงเจอกู!!!!!

            “เจ็บนะไอ้บ้า!!!!”ผมด่า

            “เตี้ยอย่าพูดคำหยาบ น้องมันกำลังจำ”

            “กูเจ็บ!!!! มึงพามันออกไปเลยนะ...ทำไมว่ะ กูอยู่ของกูดี ๆ มาวุ่นวายกับกูอยู่ได้!!!!”ผม เปิดผ้าห่มออกมา จ้องหน้ามันและไอ้เด็กนี่ ซึ่งร้องไห้จ้า...ไปแล้ว จะมากอดผมอย่างเดียว...โวยยยยยยยยยยยยยยยยย พ่อแม่ก็ไม่ใช่ จะบ้าเหรอไงว่ะ!!!!!!!!

            “มันอยากหามึงอ่ะ นะ...”

            ผมนั่งนิ่ง ไอ้เด็กเหมือนรู้งานปีนมากอดผมเฉย...

            “รัก นาว” แล้วมันก็กอดอย่างกับเด็กโต...ผมนั่งตัวเกร็ง ติณฑ์ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ

            “ขอโทษ ไม่รู้จะพูดยังไงดี...”

            จุ๊บ....ไม่ยกโทษให้เว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย~!!!!!!

            “กูจะจำทุกคำที่มึงพูด มึงรู้ไว้เลยว่า...ทำให้กูเสียใจมาก!!!!”ผมตะโกนใส่หน้ามัน ผลักได้ตัวที่กอดหนึบออก...แต่มันพยายามจะเด้ง ๆ บนตักผม เด็กเวรนี่อยู่ไม่สุขจริงๆ

            “อ่ะ ให้ตบคืนที่นึง...เอาให้หายโมโห นะครับเตี้ย”ผมจ้องหน้ามัน หึหึ...รู้ว่าผิดแล้วก็เงี้ย

            “กูเสียใจมากด้วย”

            “คราวหลังจะถามก่อน”

            “ถามแล้วพอกูบอก มึงจะเชื่อกูไหม!!!!! อะไร ๆ ก็ผิดตลอดอ่ะกูเนี่ย!!!!!! ไม่เคยดีในสายตาใครเขาหรอก”ผมด่า แม่งหมั่นไส้ ยื่นมือไปดึงหัวแม่ม....

            “อะ โอ๊ย ๆ ๆ”ดึงแรงด้วย ทั้งดึงผมทั้งบิดหูด้วยความหมั่นไส้

            “โอ๊ย เจ็บๆๆ”ติณฑ์ร้อง เลม่อนนั่งงง...

            เพลี๊ยะ!!!! ผมตบหน้าติณฑ์อย่างแรง...มันอึ้งไปเลย แต่ไม่กล้าทำอะไรผม...แรงโมโหตีตื้นขึ้นมาอีก หายใจแรงขึ้นเพราะหมั่นไส้ไอ้ติณฑ์

            “จำไว้ว่ากูเสียใจ!!!!!!!”

            “หายโมโหยัง”มันถาม

            “ยัง!!!!!”ร่างสูงจับแก้มตัวเองซึ่งแดงฉานขึ้นมาทันตาเห็น เป็นรอยนิ้วมือเลย...เลม่อนมันจับมือผมสองข้างไว้ ผมเลยเอามือมันชกไอ้ติณฑ์

            “เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ คิคิ”เลม่อนหัวเราะชอบใจ

            “เจ็บอ่ะ”ติณฑ์พูดเสียงอ่อย ๆ จับแก้มตัวเองอีก...

            “สมน้ำหน้า”ผมอมยิ้มขึ้นมานิดนึง

            “ชกมันเยอะๆ เลย นี่ ๆ ๆ”

            “โอ๊ย อาเจ็บครับเลม่อน เอ๊ยย...โอ๊ย”ไอ้คนตัวโตแกล้งร้องโอดโอย เจ้าตัวเล็กก็ชอบใจหัวเราะร่วน...ทำให้ผมที่เก๊กยิ้มในตอนแรก ต้องยิ้มออกมาตาม...

            แต่ที่ยิ้มน่ะ ยังไม่หายโกรธหรอกเฟ้ย~!!

  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 56

            [ติณฑ์]

            งอน ไม่จบ...มันยังมึนตึงกับผมอยู่บาง ๆ วันนี้ช่วยรายงานเสร็จละ แทบจะถวายพานให้...ไอ้เตี้ยนอนกระดิกเท้าอยู่ที่เตียง เล่นไอแพด โดยมีเจ้าตัวน้องเลม่อนยืนเกาะเตียงดูข้าง ๆ

            “อย่า”เลม่อนจับแขนนาว เขย่งดู...เพราะมองไม่เห็น ไอ้เตี้ยก็รำคาญน้อง

            “เอ๊ะ...”ทำหน้าดุใส่น้องอีก มันหันตัวนอนอีกฝั่ง เลม่อนพยายามปีนเตียงขึ้นมา...หาเตี้ย

            “ม่อนอยากดู”น้องพูดช้า ๆ ถือว่าเป็นเด็กลูกครึ่งที่พูดไทยชัดมากนะ...

            “ไปไกล ๆ โอ๊ยยย...ตายเลย เซ็งว่ะ”มันบ่น เจ้าเลม่อนไม่ยอมแพ้...จะเอาตัวเองแทรกไปนั่งหน้าไอแพด เหอ ๆ

            “วุ้ย!!!! รำคาญจริง...!!!! ไปเลยๆ”มันด่าเจ้าตัวเล็กครับ เลม่อนมันสนใจทีไหน เอานิ้วเขี่ย ๆ ไอแพดเฉย ผมนี่นั่งหัวเราะก๊าก

            “โว้ยยย!!! เอาไปเลยป่ะ...แมร่งกวนตี...”

            “เตี้ย”ผมลงเสียงหนัก ๆ สบถด้วยคำรุนแรงต่อหน้าเด็ก มันเกินไปแล้ว...เหมือนมันจะรู้ตัว ลุกจากที่นอน...แล้วเดินมาหาผม

            “มึง โทรไปบอกพี่ฟ้าให้หน่อย...ลงมาคราวหน้าเอาหมาน้อยกูมาด้วย”

            “กล้าเรียกหมาน้อยเถอะ”

            “หมาน้อยของกู”มันยิ้มหวานแกล้ง ๆ ผมจุ๊บปากมันเบา ๆ

“เหงาอ่ะ ติณฑ์จ๋า...ไปเที่ยวกัน”อุ้ยยยย...ขนลุกซู่ ๆ ผมหัวเราะลั่น...เลม่อนละความสนใจจากไอแพด เดินมาหาเตี้ย

            “หยุด!!! ไม่ต้องมาใกล้ขอร้อง!!!!!!”

            “เตี้ย...อย่าไปแกล้งเลม่อนสิ มานี่ครับ...มาหาอามา”ผมเรียก จับเลม่อนอุ้ม...เพราะน้องเดินเตาะแตะช้า วันนี้มิกกี้ทิ้งเราให้อยู่ตามลำพัง บอกว่าจะไปธุระจริง ๆ ตั้งใจทิ้งลูกไว้ให้เตี้ยมากกว่า

            “ชิส์!”

            “ม่อนหานาว ๆ”ไม่ยอมให้ผมจับเลย แถมยังร้องหาแต่นาวอีก...เหอ ๆ เตี้ยมันเบ้ปาก

            “มาเล่นของเล่นดีกว่า นี่มีโมเดลไดโนเสาร์ด้วย”

            “ติณฑ์!!!! ไม่ให้จับอ่ะ!!!!”โมเดลของผมนะครับ ไอ้นี่หวงแทน

            “ให้น้องเล่นหน่อย”

            “ไม่ให้!!!!! ไปเล่นอย่างอื่นดิ”

            ผมหรี่ตามอง...นิสัยนะครับ

            “มองหน้าเดี๊ยวปั๊ด!”ปากเล็ก ๆ ทำเป็นขู่ ผมยืนนิ่งทำหน้าดุ...สักพักมันก็มาอ้อนเกาะแขน

            “ติณฑ์อ่ะ จะไปเที่ยว!!! ไปเที่ยว!!!!”ลูกคนโตร้องแล้ว ผมเดินหนีเลย...เลม่อนมองตาม

            “พาไปเลยนะ ยังโกรธอยู่ด้วย”ผมส่ายหัว วันนี้จะไม่ออกไปไหน เพราะเดี๋ยวฟ้าจะมาทำรายงานที่นี่งานมันแท้ ๆ มีคนช่วยยังไม่อยากจะสนใจ เดี๋ยวจะปล่อยให้ทำเองละ...

            “เที่ยววว ๆ ๆ ๆ ติณฑ์อยากไปเที่ยว!”

            “เที่ยว นาว..เที่ยว”เลม่อนพูดตามบ้าง

            “นี่ ๆ เห็นป่ะ ไอ้ตัวเล็กก็อยากไปนะ ๆ ๆ พาไปนะ ยาสระผมก็หมด ครีมก็หมด”

            “เดี๋ยวให้คนไปซื้อหน้าปากซอย”

            “............................................”

            “ดีป่ะ?”ผมหัวเราะ

            “..........................................”งอนละ

            “เตี้ย...อุ้มน้องดิ๊”

            หน้างอไม่ตอบอะไร

            “เอาเลม่อนไปอาบน้ำ แล้วแต่งตัวให้น้อง...กูจะลงไปทำกับข้าวให้”

            “ทำไมต้องกู”

            “จะไปไม่ไป”

            “ไปไหน.....”

            “แล้วใครมันอยากไปไหนละ”ผมขึ้นเสียงบ้าง มันยิ้มกว้าง

            “ก็ดะ มานี่...เด็กผี วุ่นวายจัง...แม่แกไปไหนเนี่ย” บลา ๆ ผมส่ายหัวให้ความกระล่อนของแฟนตัวเอง ไม่ยอมโตเลยจริง ๆ ปล่อยให้ทั้งสองคนมีเวลาส่วนตัว คึคึ...ผมลงมาทำอาหารให้ เป็นสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ ไม่เลี่ยนและเลม่อนทานได้ด้วย มีนักเก็ต และแกงจืดเมือวานเหลืออุ่นให้เตี้ยนิดหน่อย เป็นอาหารที่ไม่เข้ากัน...แต่ควรกินให้หมด

            ทำเสร็จจึงวางพักไว้ รอมันอุ้มน้องลงมา เผอิญนึกขึ้นได้ว่าเดือนนี้ยังไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์ คือผมเปิดเบอร์ไว้...สำหรับใช้ส่วนตัว เบอร์นี้ไม่ได้หักเงินผ่านธนาคารเหมือนเบอร์อื่น ๆ เลยต้องเอาบิลไปจ่ายเอง อีกอย่าง...ก็เข้าไปจ่ายค่าคอนโด และค่าส่วนกลางด้วย เลยต้องเข้าไปในห้องทำงานค้นหาเอกสาร

            นานจนคิดว่าควรจะลงมากันได้แล้ว แต่ยังไม่เห็นลงมา จึงต้องเดินขึ้นไปตาม...น้ำเปียกนองเต็มพื้นห้องน้ำ ออกมาเกือบ ๆ ถึงหน้ากระจกบานใหญ่ ผมกัดฟันกรอด...

            เห็นเจ้าแสบสองคนกำลังสนุกสนานกันอยู่กับการลงอ่างขนาดใหญ่แล้วเอาขาตี น้ำ...เตี้ยมันหยิบเป็ดตัวเล็ก ๆ จากมือเลม่อน แล้วโยนออกไปอีกฝั่งที่อยู่ใกล้ออกไป เจ้าตัวน้อยก็กระดึบ ๆ น้ำเข้าปากบ้างอะไรบ้าง ไปหยิบกลับมา ผมนี่โชคดีจัง ได้เห็นภาพนี้คนเดียว เดินออกไปเงียบ ๆ หยิบกล้องมาบันทึกวิดีโอเอาไว้ ยามที่คู่ซี้ต่างวัย หัวเราะให้แก่กัน...เตี้ยมันสวยมาก เหมือนเด็กที่ไม่มีพิษมีภัย ยิ่งดูหน้ายิ่งเหมือนกัน...รวมทั้งอริยบถต่าง ๆ ที่ทำออกมาอย่างเป็นธรรมชาตินั่นก็ด้วย เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ บันทึกได้หลายนาทีพอดู คิดอะไรดี ๆ ออก...และเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองคนจะได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม รักนะเตี้ย...ทำให้ทุกอย่างเพราะว่ารักทั้งนั้น ผมบอกตัวเอง

            “คงจะมีรักจริงรออยู่...ที่ดินแดนใดสักแห่ง~”เตี้ยมันฮัมเพลง นุ่งผ้าผืนเดียว...แต่เช็ดตัวให้เลม่อนก่อน

            “คงมีใครสักคน รออยู่ตรงนั้น~”

            “อ่ะ ร้อน”เลม่อนบอก เตี้ยหัวเราะ...ผมเดินปรากฏตัวเข้าไปพอดี

            “หนาวหรอกโว้ย”

            “หนาว”ผมพูดช้า ๆ ช่วยเช็ดตัวให้ มือเปื่อยทั้งคู่

            “พูดดิ”เตี้ยเร่ง

            “หนาว”ผมพูดย้ำอีก

            “หนาว”น้องพูดตาม เตี้ยมันลูบหัว...แล้วยิ้ม

            “ดีมาก ๆ เชื่องแบบนี้ค่อยน่าเลี้ยงหน่อย เนอะ”หันมาพูดกับผม เหอะ ๆ ไอ้นี่กวน...ผมตีก้นมันเบา ๆ

            “ไปแต่งตัวได้แล้ว~”

            “ม่อน ๆ นี่กับนี่ใครหล่อกว่ากัน”เตี้ยถาม ม่อนทำหน้างง...

            “นี่ กับ นี่....ใครหล่อกว่ากัน”ถามช้า ๆ ม่อนงงไม่ตอบ

            “ไอ้นี่นี่โว้ย...เด็กบ้าบอ”ฮ่าฮ่าฮ่า ผมขำ...แล้วเตี้ยมันก็สะบัดตูด ไปแต่งตัว...

 

       

            พามาร้านเสื้อผ้า เป็นร้านที่ขายเสื้อสำหรับครอบครัว จะแปลงโฉมแก๊งของเราก่อนเดินทาง ผมอุ้มเลม่อนไว้...เตี้ยมันเดินนำ รู้อยู่แล้วว่าจะพามาที่นี่...ทีแรกไม่ยอม แต่พอบอกว่าหลังจากนี่จะพาไปร้านโมเดล มันโอเคตกลงทำตัวง่ายทันที เหอ ๆ

            “เฮ้ย น่ารักอ่ะ”มันอุทาน ให้ดูเสื้อตัวนึง ลายก็สวยดีพนักงานเดินมาต้อนรับ และยิ้ม ๆ ให้ ผมเดินแยกอุ้มเลม่อนออกมา หาให้เลม่อนก่อน

            “กูเลือกลายเองนะ”มันเดินมาบอก

            “เอาสิ เลือกเลย”มันตัวเล็กไซส์ M ก็น่าจะได้ ผมแน่นอนว่า L ส่วน เลม่อนให้พนักงานช่วยหาไซส์ กลายเป็นขวัญใจสาว ๆ ไปชั่วขณะเลยทีเดียว จับเด็กแต่งตัวมันสนุกอย่างนี้นี่เอง มีตัวนึง...ลายกราฟฟิลบนเสื้อ มันเขียนแค่ว่า DAD , MOM , KID ผมเอาให้เตี้ยดู มันส่ายหัว...

            “กูจะเป็น DAD” ฮ่าฮ่า อย่างว่า...ร้านแบบนี้เขาไม่ได้ทำรองรับคู่รักไม่ดาษดื่นอย่างเรา (กร๊ากก) เลยต้องหาคำที่มันดูกลาง ๆ หน่อย

            “เตี้ย ตัวนี้ดีไหม” เป็นเสื้อสีขาว ตัวอักษรสีแดง เล่นคำว่า I Love Family เลม่อนดึง ๆ จะเอาเสื้อ ผมต้องอุ้มไว้แน่น ๆ

            “กูไม่ใช่ Family กับไอ้เด็กนี่สักหน่อย”ผมกระตุกคิด...มันจ้องหน้าแปลก ๆ

            “อะไร?”ถามออกไป ไม่แน่ใจว่ามันจะรู้ความจริงหรือยัง?

            “กูว่าไม่ต้องซื้อหรอก กูรู้สึกแปลก ๆ”มันทำตัวนิ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ทำให้ผมต้องกระตุ้นถาม

            “ยังไง”

            “มึงยังไม่บอกกูเลยว่า สองแม่ลูกนี่...เป็นญาติส่วนไหนกับมึง”

            “อ้าว ทำไมละ?”

            “กูว่าบางทีมันก็เหมือน........”ผมกลั้นใจ....รอฟัง อีกคนทำหน้ายุ่งไปแล้ว...เลม่อนก็จะดึงแต่เสื้ออย่างเดียวเลย

            “เออ ช่างเถอะ! กูไม่อยากคิดไปเอง”ผมทำตัวนิ่ง ๆ พยักหน้านิดนึงก่อนจะให้มันลองเสื้อ...คนโตในห้องลอง และคนเล็กผมก็จับถอดเสื้อเลย

            “ร้อน~!”

            “ไม่ใช่ เลม่อน...หนาวครับ”ผมแก้ให้ใหม่

            “ม่อนร้อน”

            “หนาว เอาพูดใหม่...หนาว”ผมแก้ให้อีก เลม่อนค่อย ๆ พูดตามแล้วกอดผมไว้ แอร์ในห้างเย็นดีจริง ๆ ผมรีบใส่เสื้อให้เลม่อน ปรากฏว่าใส่แล้วพอดีน่ารัก ไอ้เตี้ยเดินออกมาก็น่ารักเหมือนกัน...มันโคตรเหมือนฝาแฝดกันอ่ะ พนักงานยิ้ม ๆ

            “พี่กับน้องหน้าเหมือนกันมากเลยนะคะ”ผมยิ้มเจื่อน ๆ ไอ้เตี้ยก็จ้องเลม่อน เหมือนมันหงุดหงิดนิดนึง...ที่เจ้าตัวเล็กใส่เสื้อเหมือนกัน

            “คุณลุงดีจังนะคะ พาหลาน ๆ มาเที่ยวด้วย”

            ไอ้เวร.....!!! แอบ ด่าพนักงานในใจ ไอ้เตี้ยแมร่งก็ไม่กลั้นขำเลย...หัวเราะเสียงดังมาก ผมสอยอีกสองชุด ทั้งที่ก่อนหน้าจะซื้อเยอะกว่านี้ แม่ม...ไม่มีอารมณ์!!!!

           

            ออก จากร้านมาเตี้ยก็ยังหัวเราะไม่หยุด เลม่อนก็เอากับเขาด้วย...หัวเราะตาม มันยื่นมือไปตีเตี้ย...เดี๋ยวมึงโดนมันกินหัวเอานะครับ ตัวเล็ก...ขึ้นมาบนรถ ก็ย้ายตัวเล็กมาบนตักไอ้เตี้ย...มันเลื่อนเบาะถอยหลังนิดนึง จะได้มีพื้นที่ข้างหน้ากว้าง ๆ

            “จิ๊! ตัวก็หนัก คนหรือคิงคองว่ะเนี่ย”มันบ่น แต่ก็ยอมให้นั่ง...เลม่อนเล่นกระดุมเสื้อไอ้เตี้ย มันทำท่าจะดึงออก

            “เอ๊ะ ทะลึ่งนะมึงน่ะ”

            “เตี้ย...พูดกับน้องดี ๆ”ผมเตือน

            “ก็ดูมันดิ จะแกะเสื้อกูน่ะ”มันฟ้องครับ...ผมเหล่ตาดูนิดนึง ก่อนจะจับมือเลม่อนออก

            “ไม่ได้ครับเลม่อน ตรงนี้ติณฑ์ถอดได้คนเดียวนะครับ”

            “ไอ้บ้า!”มันด่าหน้าแดง...ผมหัวเราะ

            “อย่าเขินดิ”แกล้งแซว เตี้ยมันหยิกแขนผม...

            “โอ๊ยยย เดี๋ยวรถชน!”ผมหัวเราะ

            “ไอ้ติณฑ์บ้า”ด่าอีก ผมยื่นมือไปดึงคางมันเบาๆ  แต่ตายังมองถนนอยู่ เลม่อนมองเราสองคนแล้วจู่ ๆ ก็กรี๊ดลั่นรถ...

            “กรี๊ดดดดดด~!!!!! ฮือออออออออออออออ”เอ้า...เจ้าตัวเล็กร้องไห้กรีดร้องใหญ่เลย ผมกับเตี้ยทำหน้ากันเลิ่กลั่ก ต้องรีบจอดรถเข้าข้างทาง

            “ติณฑ์ มันเป็นอะไรอ่ะ”เตี้ยมันทำหน้าจะร้องไห้ คือเลม่อนกรีดร้องดังมาก...เราสองคนก็ไม่เคยเจอเด็กเล็กขนาดนี้ล่ะนะ หรือว่าตัวอะไรกัดมันหรือเปล่า ตกใจทั้งคู่...เอามือมาตีผมอีกตั้งหาก

            “มา ๆ มาหาติณฑ์ม่ะ ใครทำม่อนน้า...”ไม่ยอมมา...เกาะตักเตี้ยแน่น ไอ้เตี้ยนี่ก็กำแขนเสื้อผมแน่นเหมือนกัน...

            “ฮืออออออ กรี๊ดดดดด”เฮ้ยจะจับไอ้เตี้ยมันก็ร้องขึ้นมาอีก หวงเหรอว่ะ???

            “โอ๋ ไม่จับ ๆ ไม่จับแล้ว...”

            “ตีนาวไม”เลม่อนถาม แต่ค่อย ๆ พูดออกมาทีละคำ ผมกับเตี้ยต้องตั้งใจฟัง

            “ห๊ะ”

            “ตี นาว...ไม”มันร้องไห้สะอื้น ผมหัวเราะ...

            “อ๋อ ๆ ไม่ได้ตีครับ ไม่ได้ตีน้า...นี่ไง รักกัน...ไม่ตีกันเนอะ”ผมจับมือเตี้ยมาจูบ ให้เลม่อนจูบด้วย เมื่อกี้ที่ดึงคางเตี้ยเล่น มันคงเข้าใจว่าผมทำร้ายไอ้เตี้ย...งงได้อีก เตี้ยมันยังงงอยู่...ทำหน้าเลิ่กลั่ก เลยต้องอธิบายให้ฟัง...เด็กมันไม่คิดซับซ้อนนะ มันเห็นอย่างไรมันก็เข้าใจอย่างนั้น ผมจับมือมันกุมไว้

            “รักกันเนอะ ไม่ได้ตีนะครับ”ผมย้ำ เอามือลูบหลังเด็กน้อย ไอ้เตี้ยมันไม่กอดเลม่อนเลยนะ...ปล่อยมันนั่งตักอย่างนั้น ผมเลยเอามือมันวางตรงก้นเลม่อนแล้วจับมือมันตบก้นน้องเบา ๆ

            “เด็กผี”มันบ่นเบา ๆ

            “น้องมันยังเด็ก...”ค่อย ๆ บอกเตี้ย นี่ทำให้เกิดนึกสงสัย...เลี้ยงกันมายังไง ถอดไอ้เตี้ยมาได้ขนาดนี้...ผมเห็นยังช็อค นิสัยแบบนี้ละ...เดาได้เลยว่าคงตามใจมากแน่ ๆ แล้วไอ้นิสัยแบบนี้เหมือนกันที่ไอ้เตี้ยมันติดมาตอนโตอย่างนี้ ผมหาเวลาว่าง...พามันไปเจอปู่ย่าตายายอยู่ ถ้านับตะกูลมันนี่ก็รุ่นเหลนแล้ว ทุกคนคงดีใจ...แต่จะไปยังไงยังคิดอยู่ พ่อกับแม่เตี้ยมันก็รู้แล้วว่ามีหลานอยู่ตรงนี้ จะมาหาก็ลำบาก...กลัวลูกตัวเองน้อยใจ แล้วก็ไม่มีใครกล้าบอก...กรรมเลยต้องตกอยู่ที่ผม ตอนนี้ทุกคนรอผมอย่างเดียวเลย เฮ้ออออ...ลำบากแท้

            แวะทานอาหารก่อนจะพามาร้านโมเดลตามที่บอก เตี้ยมันไม่ยอมอุ้มตัวเล็กเลย ผมก็เมื่อยเหมือนกัน...เลยอยากชวนมันไปซื้อรถเข็นเด็กสักหน่อย

            “ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ เดี๋ยวจะบิลไปเบิกกับแม่แก!”มันบ่น

            “ป่ะ เดินไปที่ขายของเด็กก่อน ค่อยวนมาตรงนี้”ผมบอก

            “ไม่เอา!!!! มึงก็เดินไปกับมันดิ กูรอที่ร้าน”นั่นไง...งอแงละ

            “งั้นกูไม่จ่าย!!!!! ซื้อเสร็จก็ตามมาแล้วกัน”ผมขู่ อีกคนหน้างอไปแล้ว...

            “เตี้ยครับ...เดินไปแปปเดียวเอง”

            “ก็ร้านมันอยู่ตรงนี้แล้วอ่ะ จะเดินย้อนไปย้อนมาทำไม”

            “กูเมื่อย”ผมบอก

            “เมื่อยก็วาง มันก็เดินเองได้...จะอุ้มทำไม”

            “มันยังเล็กอยู่ จะเดินทันเราสองคนยังไงไหว”ขึ้นเสียงกับมัน เตี้ยมันมองสะบัด

            “กูเอาตังค์ให้ไว้แล้วกัน ซื้อเสร็จก็เดินตามมา”เอาบัตรเครดิตออกมาใบเดียว แล้วยื่นทั้งกระเป๋าตังค์ให้มันเลย ไม่งั้น...งอนยาวอีก กูเหนื่อยนะเฮ้ย...สองคนเนี่ย!!!!

            ไม่ยอมรับ...

            “งั้นรอที่นี่ กูไปแปปเดียว...อย่างอแง วันนี้ตามใจเยอะแล้ว...กูเหนื่อยนะเนี่ย”ผมทำเสียงอ่อนลง

            “กูอยากให้มึงอยู่กับกู”มันเสียงเบาตาม

            “งั้นให้เลม่อนเดินไปซื้อรถเข็นเองดีไหม”ไม่อยากจะด่า...มันเงียบ

            “ซื้อให้เลม่อนเพราะเห็นว่ามันต้องอยู่กับเราอีกหลายวัน แล้วถ้าต้องกระเตงไปไหนมาไหนแบบนี้...มีรถเข็นมันสะดวกกว่า เวลาเดินมึงจะได้คล้องแขนกูด้วย”ผมค่อยอธิบาย เวลาเดินเพลิน ๆ เตี้ยมันชอบคล้องแขนนะ...หลายครั้งแล้วที่สังเกต มันจะชอบเดินทางซ้าย แล้วคล้อง...คือไม่ใช่แค่ผม ใครที่เดินขวามือมัน...มันจะคล้องหมด เป็นกริยาที่เกิดขึ้นเองอัตโนมัติ

            “รอไหม หรือจะไปด้วย”ผมให้มันตัดสินใจ เงียบ...ไม่ตอบ

            “งั้นรอนะ”เลือกให้เลย

            “ไปด้วย”งุบงิบเสียงเบา ผมไม่แซวให้เสียอาการ...รู้ว่ามันอยากพุ่งตัวเข้าร้านโมเดลแค่ไหน แต่เดี๋ยวเราก็ต้องเข้าไปอยู่ในนั้นนาน ๆ จะปล่อยเลม่อนวางได้ยังไง อีกอย่าง...เหมือนไอ้ตัวเล็กจะง่วงนอนเข้าให้แล้วด้วย มีรถเข็นมันสะดวกกว่าเยอะ

            “ครับ...ป่ะ”

            ในมืออุ้มเด็กน้อย...ปากก็คอยกล่อมเด็กโต จะมีใครเข้าใจผมบ้าง!!!!!!!!!!!

            ชอป เด็กขนาดใหญ่มีของให้เลือกมากมาย ผมเดินมุ่งตรงไปยังรถเข็นทันที มีหลายแบบ...ลานตามาก แต่ที่ต้องการแบบหนา ๆ นิดนึง เลม่อนจะได้นั่งสบาย...ไปเจอสีนึง แบบก็สวย เหล็กดูแข็งแรง...ไม่น่าจะพังง่าย เลยให้เตี้ยมันตัดสินใจ...ไม่งั้นเดี๋ยวงอน

            “ตั้ง 9000 แน่ะ”มันบ่น เป็นครั้งแรกที่ใช้เงินผมแล้วบ่น ไม่ใช่อะไรหรอก...รู้ว่ามันหวง ไม่อยากให้ผมซื้อให้เลม่อน

            “เอาน่า”ปลอบครับ

            “อยากได้คาร์ซีทด้วย” (เบาะนั่งบนรถของเด็ก)

            “ไม่ต้อง!!!”มันริบกระเป๋าเงินกับบัตรไปแล้ว ทำหน้าที่เมียขึ้นมาดีนิดนึง...หลังจากวางตัวเป็นลูกผมมานาน เหอ ๆ

            “งั้นอุ้มนะ ตักมึงนะ...เมื่อยไม่ต้องบ่นนะ”ผมใส่เป็นชุด

            “กะ ก็มันแพง”

            “แพงนิดหน่อย แต่ใช้ได้นาน”

            “เหอะ ทำอย่างกับมันจะอยู่นี่ตลอดชีวิตงั้นแหล่ะ”มันบ่น

            “แล้วอยากให้มันอยู่ไหมละ”แกล้งถามกลับ มันเงียบ...เดินสะบัดหน้าหนี

            สรุปคือได้แค่รถเข็นอย่างเดียว เตี้ยมันเลือกเป็นสีเขียวแจ่ม ๆ ได้มาก็ถอดพลาสติกอะไรออกที่ร้านนั่นแหล่ะ ใช้เลย...จับเจ้าตัวเล็กลงไปนอน ทีแรกจะให้เตี้ยเข็น...ดูแล้ว กลัวน้องจะไม่รอด...ผมเลยเข็นเองดีกว่า เอานมขวดที่ใส่กระเป๋ามาให้น้องกิน แม่เขาเตรียมไว้ให้...คึคึคึ

            “ตากูบ้าง ๆ ๆ ๆ “กระโดดหน้าบานเข้าร้านของเล่นไปละ...ทีงี้ไม่เห็นบ่นว่าแพงเลย!!!!! มัน เลือกอยู่นานมาก ทั้งเลือกทั้งถามผม ไอ้เราก็เพลินดีเหมือนกัน...อยู่กันสองสามชั่วโมงเลย พนักงานเอารถเข็นที่ห้างมาให้...เพราะได้ทั้งโมเดลหุ่นยนต์ ทั้งเครื่องบินเล็ก เฮลิคอปเตอร์ได้มา 4 ลำ เลโก้รถดับเพลิง...อันนี้ผมกับมันจะช่วยกันต่อ พันกว่าชิ้น...ขี้หูขี้ตาแหกกันเลยทีเดียว ผมซื้อเต่าว่ายน้ำ ตัวเล็ก ๆ ให้เลม่อน ไอ้เตี้ยมองค้อนใหญ่ ของตัวเองตั้งหลายชิ้น...ซื้อให้มันสักชิ้นจะเป็นไร หมั่นไส้ เลยจัดครอบครัวเต่า ปลาวาฬ จระเข้น้อยให้เลม่อนชุดใหญ่เลย มันเห็นแล้วหน้างอแต่ไม่ยอมพูดอะไร...

            ผมไปเห็นไอ้กระดานลื่นของเด็กอ่ะ น่ารักมา...เป็นชุดใหญ่เลย ทั้งกระดานลื่น มีชิงช้าด้วย เอาไว้สวนหญ้าให้เลม่อนเล่นตอนเย็น ๆ ท่าจะน่ารัก จับ ๆ จ้อง ๆ ดูป้ายราคา 17,000 กว่าบาท เตี้ยมันเดินมาบ่น

            “ไม่ต้องเลย!!! ไม่ให้ซื้อนะ”มันงอแงหนักขึ้น ยิ่งเห็นผมดูนาน...มันก็เดินวนเวียนไม่ไปไหนสักที

            “ซื้อแค่อันนี้...ต่อไปไม่ซื้อแล้ว”ผมต่อรอง ของเล่นเด็กมันน่าเล่นดีจริง ๆ บ้านผมไม่มีเด็กเล็กมานานแล้ว...หลังจากนี้บ้านคงไม่เงียบ

            “ไม่เอาอ่ะ!!! ทำไมต้องใช้เงินมึงด้วย...กูไม่ให้!!!!”งอแง พนักงานยิ้มเจื่อน ๆ

            “ของมึงได้ตั้งเยอะ...แพงกว่าน้องตั้งเท่าไหร่”

            “แล้วมันทำไมละ ไหนบอกว่า...กูเป็นเมียไง”หูย...เสียงดังโคตร พนักงานตาโตเลย...ผมจับแขนมันให้ใจเย็น ๆ

            “นี่...ให้มันไหลลงมางี้ คงจะน่าสนุกดี...”

            “แต่มันแพง”เหอะ ๆ ซื้อของให้ตัวเองไม่เห็นบ่นงี้เลย...ที่รัก

            “นะ...วันนี้ตามใจทุกอย่างแล้วไง”

            “งั้นกูอยากได้สระน้ำอีก”

            “ไอ้สระเป่าลมอ่ะนะ จะเอาไปทำไรว่ะ!!!!! อยากเล่นน้ำไปกระโดดในสระโน่น”

            “กูจะเอาอ่ะ”เห้อ....ใครสอนวัฒนธรรมนี้ให้มันเนี่ย ถ้าเลม่อนได้ของหนึ่งชิ้น ไอ้เตี้ยมันต้องได้สองชิ้น...! ใครสอนมันนนนนนน~!!!!

            ผมยืนนิ่ง...คิดอะไรออกชั่วครู่ แล้วจับมือมันบีบเบา ๆ

            “งั้นซื้อทั้งสระ ทั้งชุดนี้เลยนะ”ผมชี้ที่กระดานลื่น ชิงช้าเด็ก เตี้ยมันยืนคิดนิดนึง...

            “แต่มันแพงนะ”มันยังห่วง...ฮ่าฮ่าฮ่า ผมหัวเราะ

            “นาน ๆ ครั้ง คงไม่ได้ซื้ออีกนานเลย...ของเล่นทั้งหมดนี่ด้วย”ผมบอก มันพยักหน้าเบา ๆ พนักงานดีใจใหญ่...ขายของเล่นออกชุดใหญ่ ผมได้บัตรสมาชิกและส่วนลดฟรี แถมเตี้ยก็อารมณ์ดียิ้มหน้าบาน

            โดนค่าของและค่าส่งของไปอีกหลายตังค์ แต่ยอมรับว่าคุ้ม...ผมเก็บบิลทุกใบเอาไว้ เอาไว้เบิกกับพ่อเลม่อนมัน

            ขากลับ...เลม่อนหลับในอ้อมกอดเตี้ย มันปรับเอนเบาะไปนอนด้วยเหมือนกัน...คงจะเหนื่อยกันมาก ผมหยิบกล้องจากโทรศัพท์ถ่ายเข้าไปหลายแชะ...ทุกครั้งที่รถติดเลย ท่านอนเหมือนกันมาก...หยิบผ้าห่มหลังเบาะ มาคลุมห่มให้ทั้งคู่...ก่อนจะขับรถไปยิ้มไปคนเดียว...

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 57

            [ติณฑ์]

            จัดการ ตั๋วเครื่องบินให้มิกกี้ไปพักผ่อนที่ภูเก็ต 2 อาทิตย์ บอกว่าไม่ต้องห่วงเจ้าเลม่อนมาก ผมสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด เธอมีท่าทีกังวลอย่างเห็นได้ชัด ขอโทรคุยกับสามีก่อน...ก็คุยอยู่นานสองนาน ถึงกลับมากระซิบบอกผมว่าตกลง

            ผมให้โทรศัพท์เครื่องที่ไม่ได้ใช้กับเธอไป จะได้โทรคุยกันติดต่อง่าย ไอ้กล้ารับอาสาเป็นธุระหาโรงแรมไว้ให้ และจัดทริปเล็ก ๆ สำหรับเธอโดยเฉพาะ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด...ผมออกเอง (คิดแล้วอยากร้องไห้) แต่ไม่ได้เสียฟรี ๆ หรอกครับ พ่อตาบอกว่าจะสร้างบ้านที่กาญฯ ไว้ให้เป็นของตอบแทน ผมยิ้มกว้างรับหน้าทันที อีกหน่อยถ้าเตี้ยเรียนจบและน้ำตาลกลับมาอยู่เมืองไทย เราสองคนก็คงต้องย้ายลงไปที่กาญฯ หรือถ้าเตี้ยมันอยากจะไปเรียนต่อ ผมก็ไม่มีปัญหา...

            เก็บเสื้อผ้าและของใช้อีกนิดหน่อย ก็ออกมาส่งที่สนามบิน มิกกี้อุ้มเลม่อนไม่วาง ปากพร่ำบอกว่าให้ลูกเป็นเด็กดี เลี้ยงง่าย เลม่อนกำลังสนใจแต่ของเล่นในมือ จนกระทั่งมิกกี้เดินเข้าเกทไปในที่สุด ไอ้เตี้ยนั่งกระดิกเท้า...เล่นเกมส์อยู่ตรงที่นั่ง เชิดและหยิ่งไม่ใจว่าตอนนี้ตัวมันตกเป็นเป้าสายตาขนาดไหน

            “นาววว~”ผมวางเลม่อนให้เดินเตาะแตะ ไปจนถึงเตี้ย...เจ้าตัวเล็กเอามือจับตรงขาไว้ แล้วจ้องหน้าไอ้เตี้ยอย่างสนใจ

            “ป่ะ กลับ”ผมชวนทั้งสองคน เตี้ยมันแล่บลิ้นให้เจ้าตัวเล็ก เจ้าตัวเล็กก็ไม่ยอม...แล่บคืนบ้าง

            “อุ้มม่อน”น้องร้องบอก อ้าแขนให้ไอ้เตี้ย ผมยืนมองว่ามันจะทำยังไง...ไอ้เตี้ยเบาะปาก

            “ฝันไปเถอะ ตัวอย่างกับคิงคอง”คนพูดลุกขึ้นยืนสูงเต็มตัว เดินออกมาทางผม...

            “ไปยังอ่ะ หิวจะตายอยู่แล้ว”มันบอก

            “มึงนี่น้า”ผมเดินไปอุ้มเลม่อน แล้วพาเดินกลับมาที่รถ...นาทีนี้เลม่อนเปลี่ยนความสนใจไปอยู่ที่หนวดผม ที่เพิ่งโกนมาใหม่ ๆ เอามือจับพอจั๊กจี้ก็ผละออก หัวเราะคิกคัก...

            “คิกๆๆๆๆ”น้องหัวเราะน่ารัก ผมก็ยิ้มตามไปด้วย...ขึ้นรถได้ก็นั่งประจำตำแหน่งกัน ย้ายน้องตัวเล็กไปนั่งบนตักเจ้าขี้บ่น

            “วุ้ย...หนักนะเนี่ย!!!! ขาชาหมดแล้ว”มันพูดเวอร์ไว้ก่อน ผมยิ้ม ๆ

            “บอกให้เอาคาร์ซีทตั้งแต่วันนั้นก็ไม่เชื่อ”

            “ก็มันแพงนี่”

            “งั้นอย่าบ่น”ผมตัดบทเรียบ ๆ เตี้ยทำหน้างอ...แก้มป่อง เลม่อนนั่งเฉย ๆ ไม่ได้ต้องพยายามจะรื้อโน่นรื้อนี่ในรถตลอด นี่ก็จะรื้อช่องใส่ของข้างหน้า

            “เอ๊ะ!!!!! มีงูนะในนี้”ไอ้เตี้ยขู่ เลม่อนเชื่อที่ไหนยื่นมือจะเปิดให้ได้...เตี้ยมันตีมือน้องเบา ๆ หลายที

            “งู ๆ ๆ ๆ ๆ”มันตะโกนเสียงดัง น้องตกใจจ้องหน้ามันเลิ่กลั่ก

            “นั่งดี ๆ หน่อยได้ไหมว่ะ...แม่ง หิวก็หิว”มันบ่นตลอดทางละครับ อาหารเท่านั้น...ที่จะทำให้พี่เขาหยุดได้ ผมพามาจัดหนัก ที่ร้านอาหารเกาหลีร้านนึง...เคยมาทานกับคุณประกอบสมัยคุยงานกับชาวเกาหลี อร่อยไม่แพง และที่สำคัญเครื่องเคียงเยอะ แถมยังให้เติมไม่อั้นอีก

            เตี้ยกับเลม่อนนั่งมองผมสั่งอาหาร เพราะทั้งสองคนเพิ่งเคยมาครั้งแรก ไอ้เตี้ยเอาผ้ากันเปื้อน ผูกคอให้น้องอย่างตลก

            “ติณฑ์ ๆ เอากล้องถ่ายมันหน่อย”มันร้องบอกพร้อมขำไปด้วย เลม่อนเอาพยายามจะแกะซองตะเกียบ เลยไม่ได้สนใจเราสองคนเท่าไหร่ ผมหยิบกล้องออกมาถ่ายทั้งคู่ ไอ้เตี้ยทำหน้ายิ้มกริ่ม...ใส่กล้อง

            “เอามันนั่งตักดิ”ผมชักนำมันไปเรื่อย ๆ ไอ้เตี้ยที่กำลังนึกสนุกอยู่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย จับน้องนั่งตักแล้วถ่ายรูปคู่กันแบบหน้าแนบหน้า...โคตรน่ารัก น่ารักทั้งคู่...

            “ขอดูบ้าง”ผมยื่นกล้องให้มันดู เลม่อนจับมือไอ้เตี้ยจะดูบ้าง มันก็ให้น้องดู

            “หน้ายังกับหมีขาวเลย”มันว่าน้อง เอ่อ...เตี้ยครับ หน้ามึงก็เหมือนหน้ามันนะครับนะ...คิดในใจแต่ไม่กล้าพูด

            อาหารมาเต็มโต๊ะเลยครับ ผมย้ายเลม่อนมานั่งใกล้ ๆ ตัว ร้านอาหารที่นี่เป็นร้านนั่งพื้นนะครับ แต่จะมีโต๊ะคล้ายโต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่ ๆ ตรงกลาง ตอนนี้ทั้งโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ทยอยมาลงเยอะแยะไปหมด

            เตี้ยมันร้องจะเอาข้าวปั้น ซึ่งจริงๆ อาหารเกาหลีเรียกว่าคิบับ ไอ้เราก็ไม่รู้หรอกว่าเรียกอะไร ตอนสั่งก็สั่งตามเมนูไปเท่านั้น หลายอย่างกิน ๆ ไปโดยไม่รู้ชื่อ ขอแค่ไม่ใช่เนื้อหมาก็พอ ฮา...ไม่นานข้าวยำของผมกับเตี้ยที่สั่งไว้ก็มา แล้วตามด้วยข้าวเปล่า น้ำซุปเต้าหู้ ไข่ตุ๋น ของเลม่อน ผมคลุกข้าวให้เตี้ยมันก่อน เดี๋ยวมันงอน...แล้วมาคลุกให้เลม่อน แกงกิมจิร้อน ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟ เตี้ยซดใหญ่เลย...มันบอกว่าอร่อยมาก

            “อะไรครับ”เลม่อนชี้ที่หม้อไฟแกงกิมจิบ้าง อยากกินแต่กินไม่ได้...เพราะมันเผ็ด

            “นี่ ๆ อันนี้ดีกว่า อร่อยนะ”ผมหลอกล่อ แกล้งเอาช้อนทำเป็นตักมาจากหม้อ น้องก็ยอมกินโดยดี หลอกง่าย...ทั้งคู่ ฮา

            “อยากกินไข่ตุ๋น”ดูจากหน้าเว้าวอนแล้วต้องกินให้ได้ ผมยื่นถ้วยของเลม่อนให้กิน

            “ไม่เอา ไม่อยากแย่ง...ตัวมันผอมเหลือแต่หัวแล้ว”ผมยิ้ม เรียกพนักงานมาสั่งให้ใหม่...กลัวน้องไม่อิ่ม ก็ไม่เห็นต้องพูดจาแบบนั้นเลย จนเตี้ยมันเริ่มกินอิ่มแล้ว ผมเลยย้ายเลม่อนไปนั่งกับมันบ้าง...แล้วลงมือทานของตัวเอง ป้อนไปกินของเลม่อนไปด้วย กรรม...น้องจะอิ่มไหมนั่น

            “ม่อนจุ๊บนาว”เลม่อนยื่นปาก...ไปหา ไอ้เตี้ยหงายหลังหนีทันที

            “แหวะ ๆ ปากมัน ๆ ไม่ต้องมาใกล้ ไอ้เด็กบ้า”ไอ้เตี้ยเอนตัวนอนด้วยศอก เลม่อนได้ทีก็ยื่นหน้าไปหา จะจูจุ๊บ...

            “ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมหัวเราะ

            “โอ๊ย ลงไป ๆ “มันอุ้มน้องนั่งพื้นดี ๆ เลม่อนยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์

            “พ่อบอก จุ๊บนาว”คือมันพูดเป็นคำ ๆ ต้องมาประติประต่อกันเอาเอง ผมนั่งนิ่งร่างชาไปชั่วครู่ ไอ้เตี้ยจ้องหน้าเลม่อน

            “พ่อแกใครว่ะ! เดี๋ยวจะเอาระเบิดไปปาบ้าน เลี้ยงลูกออกมาไง นิสัย~!”

           

            อาเมน~!!!

           

------------------------------------------------------------------------

            ตอน เย็นเข้ามาทำงานให้คุณประกอบ พรุ่งนี้หลังจากไปส่งแฟนที่มหาลัย คงจะต้องอุ้มกระเตงน้องเลม่อนเข้าออฟฟิศ งานมีปัญหานิดหน่อย...ผมนั่งไล่เอกสารที่คนเอามาให้ดู มีตัวเลขที่ผิดปกตินิดหน่อย...แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลังจากตรวจสอบแล้ว คิดว่าคำนวณผิดพลาดเฉย ๆ

            หมวดแวนโทรมาบอกว่า สายมันรายงานว่าไอ้สินกลับเข้ามาในพื้นที่ ร้านผมปิดไปตั้งนานแล้ว...มันคงไม่ได้กลับมาเพราะเรื่องนี้ มันยังบอกว่า...พักนี้มันไปป่วนเปี้ยนแถวบ้านเก่าของไอ้ชัด และมหาลัยฯ ผมต้องบอกเด็ก ๆ ให้ระวังตัวกันให้มาก ยิ่งน้องคิ้วต้องระวัง...เพราะมักจะไปไหนมาไหนด้วยรถเมล์บ้าง แท็กซี่บ้าง แต่ตามเธอจะไป...

            เสียงทีวียังดังในห้องนั่งเล่น ผมเปิดประตูห้องทำงานเอาไว้เพราะกลัวเลม่อนเดินมาหาแล้วเข้าไม่ได้ ทำงานไปไม่ได้กี่ชั่วโมง เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้น...ลั่นบ้าน ผมวางงานบนโต๊ะแล้วรีบเดินออกมาดู เด็กในบ้านสองสามคน...ก็วิ่งมาเจอกันข้างหน้าห้องพอดี ผมทำหน้าเครียดร้องถาม

            "เสียงอะไร!"ทุกคนส่ายหน้าเป็นคำตอบ แต่เสียงก็ยังไม่หยุด เลยต้องเดินออกมาดู ในห้องนั่งเล่น...เละไปด้วยของเล่น และของกินวางบนโต๊ะ
           ไอ้เตี้ยนั่งกินพิซซ่าบนโซฟา และข้างล่างพื้น...เลม่อนก็นั่งร้องไห้อยู่ น้ำตาไหลพรากน่าสงสาร
           "ทำอะไรน้อง!!!!!!"ผมทำเสียงดุ เดินไปอุ้มเลม่อน...มันเหล่ตามามอง

           "เปล่า"
            "เปล่า แล้วมันร้องทำไม"ไม่เชื่อเด็ดขาด...ไอ้ตัวคนโต มันชักสีหน้า...
            "จุ๊ ๆ เงียบครับเงียบ ใครทำอะไรบอกติณฑ์สิ...เดี๋ยวติณฑ์จัดการให้"ผมโอ๋ตัวเล็กก่อน เพราะตอนนี้น้ำตาไหล สะอื้นไม่หยุดแล้ว มันชี้ไปที่ไอ้เตี้ยอย่างเดียวเลย..

            เอนตัวจะลงจากการประคองของผม แล้วเอามือล้วงไปที่ไอ้เตี้ยนอนทับ

            "เอ๊!!! ไอ้เด็กนี่!!!"มันตวาด

            "เอาอะไรของมันไป เอาคืนมันไป...เตี้ย!"ผมรู้ทันที ไอ้เตี้ยมันแกล้งน้องอีกตามเคย
            เจ้าตัวเล็กหันมาเบะปากใส่ผม...ผมนั่งยอง ๆ ประคองกอด แล้วเป็นคนเอามือล้วงเอง ไอ้เตี้ยทำสะดิ้ง...ยิ่งกดทับแรงมากกว่าเดิม
             "เอาคืนมันไป!!! มึงนี่นะ...แกล้งมันอยู่ได้"ผมบอก ล้วงจนได้ละครับ...
             "โว๊ะ!!!!!! เอาไปเลยป่ะ ของปัญญาอ่อน"

             เป็นตุ๊กตาไดโนเสาร์ตัวเล็ก ๆ ผมเอามายื่นให้เลม่อนถือไว้..
             "ไม่ร้องแล้วน้า จุ๊ ๆ"ค่อย ๆ ปลอบ หันมาหาแม่บ้าน...ยิ้มแล้วเดินหนีไปคนละทาง มองดูกล่องพิซซ่าที่ซื้อมาให้กิน เห็นมีพริกโรยอยู่เต็มหมดแล้ว ไอ้เตี้ยนี่น่าตีจริง ๆ ผมอุ้มเลม่อนไปในครัว เอาพิซซ่าอีกถาดที่สั่งไว้ ใส่จานให้น้องหนึ่งชิ้น และเทน้ำแอปเปิ้ลให้ พร้อมเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง เตี้ยมองตาม...

             "น้ำแอปเปิ้ลกู!"
             "อย่ามาหวงไม่เข้าเรื่อง!!!! ไปเลยนะ...เก็บของเล่นเลย"
             "ไอ้เตี้ยนี่รื้อ...ทำไมกูได้เก็บประจำเลย ว่ะ"มันบ่น ผมเริ่มฉีกพิซซ่าเป็นชิ้น ให้เลม่อนหยิบกินเอง...เคี้ยวตุ้ย ๆ น่าชัง แต่น้ำตายังเต็มสองตา ต้องเช็ดออกให้
             "จะเก็บไม่เก็บ"ผมทำหน้านิ่ง...มันเบ้ปาก แล้วลงมือเก็บ

 

            ปล่อย ให้เล่น ๆ แกล้ง ๆ กันจนถึงเวลานอน...ผมเดินทำโน่นทำนี่ ปล่อยให้ทั้งสองคนนอนเล่นบนเตียง เลยเดินลงมาเอาเอกสารข้างล่าง กว่าจะขึ้นมาอีกที...เด็กสองคนก็นอนท่าเดียวกันบนเตียงกว้าง ผมยิ้ม...หัวใจพองโตมากกับภาพที่เห็น เตี้ยมันยอมใส่ชุดนอนลายเดียวกับเลม่อน หยิบกล้องออกมาอีกที แล้วกดถ่ายไปหลายรูป ก่อนจะเดินมากดจูบที่แก้มใส แฟนสุดที่รักลืมตาขึ้นมามองเหมือนว่าเมื่อกี้ยังหลับไม่ลึก

            “เป็นเด็กดีนะ”ผมกระซิบบอก

            “เมื่อย”มันอ้อน อยากซุกตัวหาผมเหมือนเคย แต่วันนี้เรามีเจ้าตัวเล็กนอนกั้นกลาง

            “นอนนะ”ผมจูบขมับอีกหน จัดท่านอนให้เลม่อนดี ๆ เตี้ยมันเอามือพาดลำตัวเลม่อนไว้ เพราะปกติถ้านอนตะแคงข้าง มันจะต้องมีอะไรไว้พาดทุกที อดใจไม่ไหว...หยิบกล้องถ่ายโดยมีแสงไฟสลัวของโคมไฟ เป็นตัวช่วยทำให้ภาพมันดูอบอุ่นขึ้น

            “เด็กดีของติณฑ์”ผมกระซิบใส่หูเจ้าตัวโต เตี้ยมันยิ้มมุมปากนิด ๆ ก่อนที่เราจะพากันหลับไปในที่สุด

 

           

(ต่อ)

 

            เลม่อนฉี่แตก...เต็มที่นอนเลย ไอ้เตี้ยมันนอนอีกฝั่งดูแล้ว...ไม่โดน แต่ที่โดนคือฝั่งผมเต็ม ๆ จับไปอาบน้ำแต่งตัว และลากผ้าห่มออก...เห็นรอยกว้างเป็นวงยาว

            “นาว”เลม่อนชี้ไปที่ไอ้เตี้ย นอนหลับอุตุไม่รู้เรื่อง ผมยิ้ม...

            “ปลุกนาวหน่อยเร็ว”ผมบอก

            “บอกนาวตื่นหน่อย ลงไปกินข้าว”ถ้าเป็นปกติทั่วไป ผมไม่ค่อยปลุกมันหรอกครับ รู้ว่ามันขี้หงุดหงิด...ตื่นก็ยาก นาฬิกาปลุกยังเอาไม่อยู่ เผลอ ๆ อาจโดนตีนด้วย แต่นี่เห็นว่าเป็นเจ้าตัวเล็ก ไอ้เตี้ยมันคงไม่กล้าทำอะไรแน่ ๆ อยากรู้เหมือนกันว่าเลม่อนจะมีฝีมือแค่ไหน

            ตัวเล็กกระโดดไปมาบนเตียงปากก็ร้องเพลงไปด้วย เอาตุ๊กตาไปตีไอ้เตี้ย แรก ๆ มันก็ขยับตัวหนี แต่พอนอนหงายเท่านั้นแหล่ะ เจ้าตัวเล็กกระโดดคร่อม...จุ๊บปากอย่างเร็ว

            ไม่นั่งเปล่า...คลอเพลงไปด้วย มีความสุขจริง ๆ

            “อือ!!!! ลงไป!!!!!”ไอ้เตี้ยตวาด

            “จุ๊บ ๆ นาวจุ๊บๆ”ตัวเล็กจับตุ๊กตาจุ๊บปากไอ้เตี้ย มันชักสีหน้าใส่น้อง

            “จิ๊ ติณฑ์!!!!!!!”หันมาทางผม

            “ลุก ๆ ได้แล้วครับ ลงไปกินข้าว วันนี้จะพาไปว่ายน้ำ”ผมบอก

            “จะนอน!!!!”

            “ว้า งั้นกูไปกับเลม่อนสองคนนะ...เสียดายอากาศดีด้วย”ยั่วครับ

            “จะไปไม่ไป”ถามก่อนเดี๋ยวงอน

            “..........................................”

            “เอาเครื่องบินไปเทสด้วย”

            “เออ ก็ได้!”รับคำอย่างไว

            “ม่อนฉี่”เลม่อนพูด...

           

            พร้อมฉี่...รดไอ้เตี้ย~~~~ อาเมนนนนน~~~

 

            “โอ๊ยยยย กูจะบ้า!!!!!!”เตี้ยมันเทน้องนั่งข้าง ๆ วิ่งเข้าห้องอาบน้ำ ผมถอดกางเกงให้เลม่อน แล้วอุ้มเข้าไปอาบน้ำใหม่

            “อาบด้วยกันเลย”

            “จิ๊ มารผจญ!!!!”

            “อาบให้น้องหน่อย จะไปเอาเครื่องบินใส่รถ”ผมพูด จริง ๆ หาเรื่องมาล่อมันน่ะ ไม่งั้นไม่ยอมหรอก สีหน้า...อ่อนลงทันที

            “เออ ๆ มานี่ไอ้เตี้ย”น้านน...มันด่าน้อง

            ใส่เสื้อเหมือนกันเลยทั้งสามคน...ลงมาทานอาหารแล้ว เดินลัดเลาะรั้วบ้านมาบ้านน้องเจ ที่มือผมถือเสื้อผ้าและของใช้เต็ม ส่วนไอ้เตี้ยก็อุ้มน้อง...ท่อนบนก็เสื้อยืดธรรมดา แต่ท่อนล่าง...ไอ้เตี้ยใส่กางเกงว่ายน้ำ เลม่อนก็เหมือนกัน

            “เจ!!!”เตี้ยเรียก น้องเจวิ่งมา

            “นี่เหรอใครเหรอ น้องพี่นาว”

            “บ้า ญาติไอ้โหดหรอก”

            “ญาติ?”เจหันมาทำหน้าสงสัย ผมเงียบ...พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร

            “ป่ะ ๆ ลงน้ำกัน”เจชวนอย่างงง ๆ

            “ติณฑ์เป่ายางให้หน่อย”มันยื่นห่วงยางให้ อันใหญ่ของมันไว้เล่นกับเจ แล้วก็เบาะนอนยาว ๆ อันนึง และเป็ดน้อย มีที่ใส่ขาลอดลงไป ของเลม่อน ผมหยิบเครื่องที่บ้านเจออกมาเป่าลมให้

            “น้ำ ๆ”

            “ใจเย็นเซ่ะ”นาวตวาดน้อง แต่ไม่รุนแรงมาก ผมอมยิ้ม...ยื่นห่วงยางอันเล็กให้ เจลงน้ำไปแล้ว...จับห่วงไว้ ไอ้เตี้ยก็หย่อนน้องลงไป

            เจ้าตัวเล็กชอบใจหัวเราะคิกคัก...เตะน้ำป๋อมแป๋ม เตี้ยนั่งลงขอบสระ...เจ้าตัวเล็กก็จับเข่าไว้ ไม่ยอมไปไหน

            “ถีบไหม”คุยกับเจ...ผมกระแอ่มเสียงดัง

            “ล้อเล่นหรอกน่า ม่อนออกจากน่ารักเนอะ”หยิกแก้มน้อง...อย่างหยอกแรง ๆ ไอ้เตี้ยวอนซะละ

            “ถ้าเล่นกันแรง ๆ ก็พอ เก็บกลับบ้าน...ไม่ต้องไปเทสเครื่องบิน”ผมขู่

            “หูย...รู้หรอกน่า แกล้งพูดเฉย ๆ”มันแก้ตัว ไม่ได้ ๆ ต้องดักทางไว้ก่อน

            ปล่อยมันเล่นเล่นป๋อมแป๋ม...กันสามคน เจี๊ยบก็มาตามให้ไปดูอาหารที่จะยกเสิร์ฟเที่ยงนี้ ผมเดินเข้าไปดูและสอบถามถึงสมาชิกคนอื่น ๆ ของครอบครัว เจี๊ยบบอกว่า...ตั้งแต่พุทกลับมา ทุกคนก็ไม่ค่อยได้มากันเท่าไหร่ จะมาก็แต่เวลาที่พุทเรียกมาให้เอาเงินประจำเดือน

            ก็ดีแล้ว...แยก ๆ ไปอยู่บ้านตัวเองกันซะมั่ง ไม่งั้นมากินนอนอยู่นี่ เปลืองค่าน้ำไฟแย่

            “แล้วพุทละ”ผมถามหาเพื่อน

            “ออกไปธนาคารเรื่องจ่ายค่าเทอมน้องเจค่ะ”

            อ่อ...ผมพยักหน้า เดินมาดูอาหารที่วางตรงหน้า มีราดหน้ายอดผัก...เจ้าเตี้ยไม่กินผักอีก เฮ้อ...เจี๊ยบปล่อยให้ผมจัดการในครัวคนเดียว เพราะออกจะเคยชินและหยิบจับอะไรเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ค้น ๆ เห็นมีอาหารทะเล เลยทำข้าวผัดทะเลง่าย ๆ เพิ่มอีกสองที และเฟรนฟายทอดให้อีกหน่อย

            “เจี๊ยบ....เจี๊ยบ”

            “คะ คุณติณฑ์”

            “ไปที่บ้าน บอกใครก็ได้...ตำส้มตำมาให้ผมที เอาตำไทยนะ...”ได้ยินไอ้เตี้ยบ่น ๆ ว่าอยากกิน ให้เด็กเก็บมะละกอมาไว้แล้ว

            “ค่ะ”

            เจี๊ยบเดินออกไป สักแปปเดียว...แปปเดียวจริง ๆ ได้ยินเสียงกรี๊ดลั่น จากทางที่เด็ก ๆ เล่นน้ำ ผมปล่อยของในมือแล้วรีบวิ่งออกไป ยังไม่ทันถึงสระดี เห็นไอ้เตี้ยดำผุดำว่ายไปอีกฝั่ง

            ร่างเล็กของตัวน้อย...กินน้ำไปหลายอึก ผมรีบวิ่งเข้าไป

            “เกิดอะไรขึ้น!!!!!!”

            “แค่ก ๆ”ลากไอ้เตี้ยและเลม่อนขึ้นมา ตัวเล็กร้องไห้และสำลักน้ำ...ผมตบ ๆ และกอดไว้ น้องเจเป็นคนวิ่งไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้

            “เกิดอะไรขึ้น”ผมถามออกไปเสียงแข็งไม่รู้ตัว ไอ้เตี้ยก็คงตกใจ...มันสะอื้นออกมา เหมือนกลัว...มาก ๆ

            “ละ เลม่อนกระโดดลงมาจะหาพี่นาวฮะ”เจตอบ ผมกอดไอ้เตี้ยไว้อีกคน...เรียกขวัญ มันตกใจมาก...

           

            “ฮึก....”เตี้ยร้องไห้ ผมกอด...

            “ชู่ว ๆ ไม่เป็นไรแล้ว”ค่อย ๆ ปลอบ คราวนี้ไอ้ตัวเล็กเห็นนาวร้องยิ่งร้องจ้า...สลับปลอบฝั่งพี่ฝั่งน้อง ผมไม่ได้เปลี่ยนชุดแต่อยากลงน้ำ

            “ลงน้ำอีกนะ”กระซิบบอกเตี้ย มันส่ายหน้า...

            “กูเล่นด้วย...ไม่ต้องกลัว”มันทำหน้าไม่เข้าใจ ผมปล่อยมันออก

            “เจพาพี่นาวลงน้ำ”เจก็ทำตาม...อย่างงง ๆ

            “เจี๊ยบไม่มีอะไรแล้วละ ทางนี้ผมดูแลเอง”เจี๊ยบรับคำค่ะ ๆ แล้วเดินไปทางบ้าน

            ผมอุ้มเลม่อนไว้แล้วค่อย ๆ หย่อนตัวลงน้ำ น้องเกร็งจนถึงเกร็งมาก...เพราะเพิ่งจะจมน้ำตะเกียกตะกายอยู่เมื่อชั่วครู่ ที่พาลงน้ำ เพราะไม่อยากให้เกิดความกลัวติดไป แล้วน้องจะฝังใจ...ไม่อยากลงน้ำ ไอ้เตี้ยก็เหมือนกัน...มันก็จะกลายเป็นคนระแวงเวลาเล่นน้ำ ผมเลยให้ลงน้ำอีกรอบ...สอนและทำให้ดูว่า ถ้ามีเด็กเล็ก ๆ เล่นด้วย...เราต้องระวังมากเป็นพิเศษ

            มันเข้ามากอดผมไว้...แล้วกอดเลม่อนด้วย

            “เกือบไปแล้ว”ปากแดง ๆ บอก

            “ไม่เป็นไรนะ แค่อุบัติเหตุ”ผมปลอบ มันพยักหน้า

            “ไปเอาเบาะนอนมาหน่อย”ผมสั่ง มันกับน้องเจว่ายแข่งกันไปเอาเบาะมา จากนั้นผมเลื่อนตัวเองขึ้นไปนอน โดยมีเลม่อนนั่งอยู่บนพุง

            “หานาว”ม่อนบอก ผมนึกสนุกและอยากทำให้ทุกคนหายกลัว เลยเอามือกวักน้ำ ไอ้สองคนก็ว่ายหนี...เป็นที่ชอบใจของเลม่อนอย่างยิ่ง ทั้งหัวเราะทั้งกรี๊ด...

            “จับให้ได้ดิ”

            ฮ่าฮ่าฮ่า....หลังจากนั้นก็ได้ยินแต่เสียงหัวเราะ...ไอ้เตี้ยมันระวัง มากกว่าทุกครั้ง และค่อยมองเลม่อน...ไม่เพียงแต่น้องเล็กหรอก มันก็คอยดูน้องเจไว้เหมือนกัน...

            ผมหัวใจพองโต...อย่างน้อย บางเหตุการณ์ก็สอนอะไรมันได้หลายอย่าง

 

            หลังจากทานอาหารเสร็จ...ชวนเจไปเที่ยวด้วยกัน เจบอกพรุ่งนี้หยุดเรียน อยากไปสวนสนุก...จัดไปครับ ผมตามใจ...จะพาสองคนไปกระชับมิตรกันด้วย

            “ติ๊ณฑ์~!!!!!”เสียงไอ้เตี้ยตะโกนเรียก ตอนเรากำลังเทสเครื่องบินเล็กกันอยู่

            ผมมอง...ใบพะ พัด....เครื่องหัก!!!!!!!!! รีโมตบังคับอยู่ที่เลม่อน....

            “บอกว่าอย่าให้น้องถือ!!!!!”ผมหัวเสียทันที

            “ก็มันเอาไปเองง่ะ”

            เถียงกันจนเสร็จละครับ...เลม่อนหัวเราะชอบใจใหญ่ วิ่งตามจะเอาเครื่องบินให้ได้....คืนนี้เลม่อนได้เวลาเฟชไทม์กับพ่อแล้วสินะ ....



 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 58

ความสุข....

 

[มะนาว]

            พัก นี้ติณฑ์มันชอบให้เลี้ยงไอ้ตัวเล็กบ่อยเหลื๊อออเกิน เหนื่อยนะ...ก็มันวุ่นวาย ซน แล้วก็ชอบพูดมาก ไอ้กระเปี๊ยกนี่ก็พูดแต่คำเดิมซ้ำ ๆ “รักนาว” “จุ๊บนาว” “กอดนาว” ราวกับเรารู้จักกันมาตั้งชาติก็มิปาน

            ถึงจะอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าปล่อยมันวางทิ้งไว้อีกแล้ว...เพราะรู้สึกช็อคมาก ตอนที่มันกระโดดลงน้ำมาหา...เสี้ยววินาทีจริง ๆ ตอนนั้นผมกลัวมาก...ดีที่ติณฑ์มันก็ไม่ได้ว่าอะไร คงเข้าใจที่ผมเป็นแบบนั้น....วันนี้มันอารมณ์ดีตั้งแต่เช้าแล้ว โทรไปหาพี่ฟ้าให้เอาหมามาให้ แต่แม่ไม่ให้เอามา...เพราะผมเดี๋ยวต้องไปอยู่คอนโดแล้ว ผมไม่อยากไป...อยู่บ้านมันสบายกว่า มีที่วิ่งเล่นด้วย...อ้อนไอ้โหด มันบอกว่า...ถ้าช่วงสอบค่อยไปอยู่ก็ได้ จะได้ขังตัวเองแล้วอ่านหนังสือ ผมก็โอเคหยวน ๆ ยังไงก็ได้

            วันนี้เราจะไปเที่ยวสวนสนุกกัน...น้องเจก็หยุด ผมตื่นได้โดยไอ้เปี๊ยกนี่มันขึ้นคร่อมแล้วกระโดด ๆ ไม่จุกตายก็บุญแล้วครับ ไอ้ติณฑ์ก็ยืนหัวเราะ...สัส อย่าให้ถึงคราวบ้าง...ที่ผมทำไม่ดีด่าเอาด่าเอา

            “เตี้ยแต่งตัวเสร็จรึยัง”เสียงตะโกนถามเข้ามา ไม่นานมันก็เดินเข้ามาหา...ชอบสั่งจริง ผมพยายามจับไอ้ลิงกังนี่ทาแป้ง แต่มันเป็นบ้าอะไรของมัน...พอจับโดนตัว มันก็กรี๊ดแล้วหัวเราะ...รอให้ผมวิ่งไล่

            กูเหนื่อยละ...ไอ้เปี๊ยก

            ไอ้ติณฑ์มาก็ดี...ผมยัดแป้งใส่มือมัน ถอนหายใจแรง ๆ แล้วเดินหน้าบูดไปหาเสื้อให้ตัวเองใส่

            “คริคริคริคริ นาวๆๆๆ”มันไปกระโดดโลดเต้นบนเตียงละ ผงแป้งจากตัวก็ร่วงติดไปทั่วห้อง ทีงี้ละ...ไม่ด่ามัน

            “มาครับ ติณฑ์แต่งตัวให้...จะได้ไปเที่ยวไง”

            เอาใจกันเข้าไป...

            “หิวข้าวด้วย”ผมรีบบอก แต่งตัวแล้วมองกระจก...หล่อว่ะ คึคึคึ ไอ้เตี้ยกว่า...มันเดินมาดูกระจกด้วย เสื้อผ้าก็ไม่ใส่

            “ทำเสร็จแล้ว น้องเจกินอยู่”

            “เจมาแล้วเหรอ”

            “อือ เร็ว ๆ เข้าเถอะ...”มันจับไอ้เปี๊ยกใส่เสื้อ น่าเบื่อจริง ๆ ใส่เสื้อเหมือนกันอีกละ....ผมขี้เกียจเปลี่ยนแล้ว ไอ้ติณฑ์ก็ไม่ยอมใส่เสื้อเหมือนกันอีก เซ็ง...

            โดนไอ้ตัวเล็กทำหน้าทะเล้นใส่...ผมเบ้ปากให้มันเล็กน้อย

            “คิดว่าหล่อนักหรือไง?”ผมแกล้ง สงสัยไม่รู้ว่ากำลังด่า...มันหัวเราะคิกคัก จนไอ้ติณฑ์ก็หัวเราะเยาะผมในความซื่อของเด็กน้อย

            “เอาใจกันเข้าไป~~~~”

            ติณฑ์เอาหวีมาหวีให้เลม่อน...ทำไมมันต้องมาตัดผมทรงเดียวกันกับผมด้วยว่ะ พรุ่งนี้คงต้องเปลี่ยนทรงละ เห็นหน้าไอ้กระเปี๊ยกนี่แล้วรู้สึกว่าหลอนหน้าตัวเอง ที่บังอาจไปเหมือนกับมันเบา ๆ

            “อ่ะ เสร็จแล้วครับ ๆ ยืนนิ่ง ๆ”หลังหวีเสร็จ ไอ้กระเปี๊ยกวิ่งเต็มแรงมากอดขาผมไว้

            “เอาน้องไปกินข้าวด้วย”

            “อีกละ....”

            “เป็นเด็กดีว่าง่าย ๆ”ไอ้โหด...เดินมาหอมแก้มผม แล้วลงไปหอมแก้มตัวกระเปี๊ยก

            “ไปครับ เดี๋ยวเตรียมเสื้อกับของใส่กระเป๋าก่อน”มันบอก

            “ไม่กินข้าวเหรอ”ผมอดห่วงไม่ได้ เห็นมันตื่นมาทำโน่นนี่ให้แต่เช้าแล้ว

            “กาแฟแล้วครับ”

            “กินอีกละ...ฟันเหลืองไม่ต้องมาจูบเลยนะ”มันหัวเราะ ผมลากขาที่มีลิงตัวนึงเกาะอยู่ อย่างกับปลิง...มันก็หัวเราะชอบใจ จนถึงบันไดละ...ต้องเปลี่ยนเป็นอุ้ม ไม่งั้นได้พากันตกบันไดทั้งคู่แน่

 

            น้องเจนั่งทานอาหารคนเดียว พี่ ๆ แม่บ้านกำลังทำงานกันอยู่ในครัวด้วย ป้าสายิ้มให้ผมก่อนจะทักทาย

            “มาแล้วเหรอคะ วันนี้มีข้าวผัดอเมริกัน หรือจะไส้กรอกไข่ดาวก็มีนะคะ”

            “ข้าวอีกว่าครับ ไอ้เตี้ยนี่ด้วย”จับมันนั่งที่เก้าอีกข้าง ๆ เอาผ้ากันเปื้อนของแม่บ้านมาใส่ เพราะไอ้นี่ชอบกินเลอะเทอะ

            “อย่างกับฝาแฝดน่ะพี่นาว”เจหัวเราะ ผมยิ้มขื่น ๆ

            “แต่น่ารักดี”

            “ขอบใจ”ผมพูดกึ่งประชด ทำให้เจหัวเราะร่วนดังกว่าเก่าที่เล่นงานผมได้

            ป้าสาวางอาหารให้ตรงหน้า ผมลงมือทานของตัวเอง แต่ไม่ลืมป้อนไอ้เด็กนี่ด้วย...แต่มันทำหน้าเหมือนไม่อยากกิน น้องเจมอง

            “งือ”แน่ะ...หันหน้าหนี ผมก็ถือช้อนค้างดิ

            “กิน”สั่งมัน

            “.......................................”

            “เออดี ไม่รักละ...บาย”ผมวางช้อน ไอ้เจ้าตัวเล็กหันหน้ากลับมา ปีนเก้าอี้จะมานั่งตักผม

            “ฮ่าฮ่า พ่อลูกๆ”เจแซว

            “ชิ”ทำหน้าใส่น้องเจ...แต่ยังหัวเราะไม่หยุด สุดท้ายจับมันขึ้นมานั่งบนตัก

            “เออเวร...นั่งกินธรรมดาก็ลำบากพออยู่แล้ว”ผมบ่น แต่มันก็ยอมกินอาหารที่ผมป้อน เฮ้อออออออออออออออ.....

 

            หลังจากอาหารเช้า เราทั้งหมด...ก็ได้เวลาออกเดินทาง เจนั่งข้างหน้าคู่ติณฑ์ เพราะ...ไอ้กระเปี๊ยกไม่ยอมนั่งห่างผม ไม่ยอมนั่งเบาะรถอีกต่างหาก...อยากจะดูแต่หน้าต่างอย่างเดียวเลย

            “นาว”

            “อือ”มันเรียก

            “หิวนม”ผมมองหน้าติณฑ์....ที่มองกระจกหลังมาพอดี

            “ในกระเป๋าน่ะ ชงไว้แล้ว”ก็คว้ากระเป๋ามาดูตามที่บอก นมยังอุ่น ๆ ผมเอาหมอนอิงเล็ก ๆ มาวางให้มันหนุน ก่อนจะยื่นนมขวดส่งให้ เจ้าตัวเล็กคว้าไปดูดจ๊วบ ๆ มองหน้าผมแล้วยักคิ้ว มันน่าแกล้งอย่างนี้ไง...ผมอดไม่ไหว ลงไปฟัดพุงมันสองที ไอ้ตัวเล็กหัวเราะกร๊าก สะอึกนม....โดยมีน้องเจนั่งหัวเราะ

            เอากระดาษเช็ดปากให้มัน นมเด็กนี่เหนียวมือดีจริง ๆ เลม่อนยื่นนมมาให้ผม...ด้วยความอยากแกล้งเลยงับจุกมันซะเลย

            “คริคริคริ นาวววววว”ไอ้ตัวเล็กชอบใจ

            “หมั่นเขี้ยวมันว่ะ”ผมพูดขึ้น ติณฑ์หัวเราะ...

            “อย่าทำน้องแรงนะ”มันเตือน ผมยิ้ม ๆ

            “โหย...พี่นาวลืมน้องเจแล้วใช่ไหม”

            “บ้า...ใครจะลืม เจออกจะน่าลัก...ขนาดนี้”

            “รัก หรือลัก”เจถามกลั้วหัวเราะ...

            “น่าลักไปทิ้ง”ผมบอกหัวเราะพร้อมกัน ไอ้ตัวเล็กไม่รู้เรื่องรู้ราวก็หัวเราะไปกับเขาด้วย

            นั่งรถนานมาก....จนพากันหลับไปสองสามตื่น ได้ยินเสียงติณฑ์คุยโทรศัพท์กับคุณประกอบนานมา สงสัยงานจะมีปัญหา ถ้ามันต้องเดินทางไปญี่ปุ่นอีกคราวนี้...ผมจะงอนมันจริงจังละ

            “เสาร์หน้า....ผมตรงดูเวลาอีกทีนะครับ”

            “ได้ครับ...”

            “ครับ...ครับ ครับ....สวัสดีครับ”แล้วก็วางสายไป ผมลุกขึ้นมาเอาคางเกยเบาะพนักพิงของคนขับ

            “ใกล้ถึงแล้วนะ”มันบอก

            “คุณประกอบโทรมาทำไม”ผมถาม

            “เหมือนสินค้าจะมีปัญหา...วันเสาร์อาจจะต้องเข้าไปดู”

            “ที่ไหน”

            “ญี่ปุ่น”

            “อะไรอ่ะ!!!!!!!! เพิ่งไปมาเอง...พี่แสตนด์ พี่น้ำตาลก็อยู่ไม่ใช่เหรอ!!!!”ผมโวยวาย น้องเจตื่นมามองหน้า...แต่ไม่สนใจ จะเหวี่ยง...!!!!

            “งานมันคนละส่วนกัน”

            “ไม่ให้ไป!!!!!” จะดีมาก...ถ้ามันใส่กลับมา นี่เงียบ...แล้วทำเฉย ๆ ไป แม่ม~!!

            “ติณฑ์!!!!!!!”

            “ครับ”

            “ไม่ให้ไปนะ”

            “อือ ๆ บอกคุณประกอบไว้แล้ว...ว่าอาจจะไปไม่ได้ ตกลงงานการจะไม่ให้กูทำเลยใช่ไหม นั่งเฝ้ากันอยู่นี่”มันพูดติดตลก

            “ช่าย เพราะถ้ามึงไม่เฝ้ากู....กูอาจจะหายไปกับใครก็ได้”ขู่ซะเลย มันหัวเราะก๊าก

            “เหรอคร๊าบบบบ”ทำหน้ากวนทีนใส่อีก เดี๊ยะๆ

 

            ถึงแล้ววววววววววว....หลังจากนั่งรถยาวนาน ออกมาบิดขี้เกียจข้างรถ...แดดเริ่มร้อนผมหยิบแว่นดำออกมาใส่ ติณฑ์มันกำลังเอารถเข็นไอ้กระเปี๊ยกนี่ลงมา และข้าวของอื่น ๆ ผมแลเห็นประโยชน์มากมายมหาศาล (เวอร์ไปไหม) ของเจ้ารถเข็นราคาหลายพันนี่แล้วว่า นอกจะบรรทุกเจ้าเด็กขาหมูนี่แล้ว มันยังสามารถวางของอื่น ๆ เข็นไปได้อีก เราเลยเดินสบายแท้...ไม่ต้องถืออะไรให้เมื่อยมือ

            “นาว”นั่น...มันตื่นแล้วพูดคำอื่นเป็นไหม เจหัวเราะ...ผมอุ้มมันออกมาลงรถเข็น

            “จุ๊บ”

            “เอ๊ะไอ้นี่”มันจุ๊บปากผมอีกแล้วนะ แล้ว...แหว่ะ~!!!!! กลิ่นนมติดปากเลย จะอ้วก~!!!!!!

            “คึคึคึ นาวน่ารัก”มันพูด ผมยิ้มลูบหัวมัน

            “ดีมาก ๆ ปากดี ๆ เลี้ยงเชื่องๆ”

            “ฮาาาาาาาาา”เจหัวเราะ

            “ไปครับ เจเดินเร็วร้อน”ติณฑ์สั่ง เราทั้งหมดเดินเข้ามาซื้อบัตร แล้วก็เดินเข้ามาเจอร้านขายของเล่นก่อนเลย มีหมวกด้วย เป็นรูปสัตว์น่ารัก ๆ เจหยิบหูแมวใส่ให้เลม่อน

            “อุ๊ย น่ารักอ่ะ...พี่ติณฑ์อันนี้นะ”เจบอก แต่เลม่อนท่าทางอยากจะเอาออก

            “นี่ ๆ ใส่ไว้น่ารัก นาวก็ใส่ๆ”เจจับไว้ ไอ้กระเปี๊ยกมองหน้าผมนิดนึง...ลองใส่หูแมวเหมือนกัน มันเลยใส่ไว้ไม่ถอด ติณฑ์ยิ้ม

            “น่ารักดี”

            เขินว่ะ...

            “เจเอาด้วย ใส่เหมือนกันเลย”ผมพยักหน้า...พี่ใหญ่ขาโหดยืนรอจ่ายตังค์ ผมเดินเข้ามาเข็นเลม่อนออกมาตรงป้ายสวนสนุก หยิบกล้องออกมา...ถ่าย ไอ้ติณฑ์มันเตรียมพร้อมมาก...เอากล้องตัวใหญ่มาเลย รูปแรกผมกับเลม่อน สลับกัน...เลม่อนกับเจ แล้วพอติณฑ์เดินมาก็ให้ถ่ายผม เจ เลม่อนกันสามคน

            “เล่นอะไรก่อนดี”

            “แกรนด์แคนยอน”เจบอก

            “เมืองหิมะ”ผมบอกบ้าง

            “ป่ะ ๆ ไปเรื่อย ๆ”

            เดินจับมือกับติณฑ์...มันอมยิ้มเล็กน้อย น้องเจก็เข้ากันได้ดีกับเลม่อน พอ ๆ กันกับผม...เด็กนี่อารมณ์ดี แต่ถ้าจะงอแงก็สุด ๆ เหมือนกัน

            “สนุกไหม”มันกระซิบถาม ผมพยักหน้า...ไม่อยากพูดเพราะกลัวหลุดเขิน ติณฑ์คว้ากล้องมาจ่อถ่ายหน้าผม...

            “พอ”ผมร้องห้าม เพราะเขินมากแล้ว

            “น่ารัก”มันก็คงเขินเหมือนกันใช่ป่ะ เพราะหูแดงเชียว...ฮ่าฮ่าฮ่า น่ารักอ่ะ

            มาจนถึงแกรนด์แคนยอน แต่ติดตรงที่เลม่อนเล่นไม่ได้...น้องเจหันมาถามว่าจะเอายังไงดี เดาเอาว่าเจก็อยากเล่นมากแน่ๆ  แต่เล่นคนเดียวจะไปสนุกอะไร....

            “เดี๋ยวดูเลม่อนให้แล้วกัน สองคนไปเล่นเถอะ”ติณฑ์รับอาสา ดี ๆ แก่ ๆ ไม่ต้องเล่น...หัวใจจะวายเสียก่อน เลี้ยงเด็กไปน่ะดีแล้ว คึคึคึ พูดในใจ...กลัวโดนก้านคอ

            ปัญหาคือเลม่อนไม่ยอม....มันกรี๊ดดั่งลั่นมาก ตอนผมกับเจจะแยกออกมา...ติณฑ์อุ้มไว้แล้วปลอบ ว่าเดี๋ยวพาเดินไปดูนาวกับเจ แต่ก็ยังร้องไม่หยุดจนกระทั่ง....เราสองคนเดินเข้ามา

            “เจหลงรักเลม่อนเข้าแล้วละ”น้องเจบอก ผมมองหน้าแกล้งทำหน้าจริงจัง

            “จะบอกพี่พุท!”น้องเจอึ้ง...เงียบ แล้วก็...

            ปั๊ก~!!!

            “โอ๊ย เจกล้าตบหลังพี่เร๊อะ...แกตายซะเถอะ!!!!!!”วิ่งไล่กันไปจนสุดทางละครับ ฮ่าฮ่าฮ่า

 

            เวียนไล่เล่นของทุกชิ้นที่อยากเล่น ส่วนใหญ่เป็นผมกับเจมากกว่า....เจ้าตัวเล็กให้เล่นคนเดียวก็ไม่ยอม จะให้ผมไปเล่นด้วยให้ได้ แต่เดินมาเจอ...ม้าหมุนเป็นแบบม้าตัวใหญ่ ๆ เหมือนในนิยายเลย ผมรีบคว้าเลม่อนมาอุ้มเอง...ติณฑ์มันถ่ายรูปให้เราสามคน

            “เล่นอันนี้แล้วกันเจ กระเปี๊ยกนี่จะได้เล่นด้วยได้”

            “อือ ๆ”

            เป็นม้าหมุนขนาดใหญ่ ผู้ใหญ่สามารถเล่นด้วยได้...ถึงรอบแล้วผมอุ้มเลม่อนขึ้นม้า....แล้วตัวเองก็ นั่งซ้อนทับ มันคงตื่นเต้น หัวเราะกรี๊ดใหญ่ ติณฑ์ยืนข้างนอก...รีบหยิบกล้องมาถ่ายรูป ส่วนน้องเจขึ้นม้าอีกตัวที่อยู่ข้าง ๆ กัน เพลงคลาสสิคขึ้น ม้าหมุนเริ่มทำงาน...เจ้าม้าก็โยกขึ้นโยกลง เลม่อนตีขาใหญ่เลย ฮ่าฮ่า ชอบใจ

            “โบกมือให้ติณฑ์ด้วย”ผมบอก แต่มันไม่กล้าปล่อยมือ...แม้ผมจะกอดมันไว้ก็ตาม เจปรบมือ...คอยเชียร์ สนุกสนานกันใหญ่

            “เอาอีก...”เลม่อนบอก ตอนจบรอบ....ติณฑ์บอกให้อีกรอบ แล้วเดี๋ยวไปเล่นหิมะกัน ผมสลับกับเจให้เจมานั่งกับเลม่อนบ้าง เจ้าตัวเล็ก...หัวเราะจนเหนื่อย จบรอบก็ไม่อยากลง...กว่าจะลากลงมาได้ อายครอบครัวอื่นเสียจริง!!!

            สุด ท้ายไปจบที่เมืองหิมะ...เล่นกันสนุกสนาน ไถลกระดานลื่นลงมา...ผม ติณฑ์ เจ แข่งกัน...โดยติณฑ์มันเอาเลม่อนนั่งตัก เล่นกันไปหลายรอบมาก...สุดท้ายออกมาเอาเลม่อนวางในรถเข็น แปปเดียวหลับ....นมยังไม่ได้กิน ท่าจะเหนื่อยมาก

            “แวะทานข้าวกันก่อนเนอะ”ติณฑ์บอก

            “อือ”

            “แวะหาม๊าได้เลยนะเนี่ย”เจปรับเบาะเตรียมนอน

            “วันหลังแล้วกัน...วันนี้เหนื่อยกันมากแล้ว”ผมยังไงก็ได้....แต่หิวข้าวและอยากนอนมากเหมือนกัน ใช้พลังไปเยอะมาก

            “กินอะไรกันดี”ติณฑ์ถาม

            “ฟูจิ”ตอบพร้อมกัน เป็นอันจบ....ติณฑ์พาไปกินอร่อยล้ำ มีความสุข~~~~~~

            กลับมาบ้าน...ก็พากันนอนเกลื่อนห้องรับแขก ต่างคนต่างนอนไม่สนใจอะไร....ปวดแขนปวดขา ปวด ๆ ๆ  ติณฑ์มานอนลงข้าง ๆ กอดผมไว้

            “สนุกไหม”มันกระซิบถาม

            “อือ”

            “จำวันนี้ไว้นะ”ผมมองหน้ามัน...แล้วพยักหน้า มุดอกหนา ๆ ติณฑ์บอกว่ารอโทรศัพท์จากพ่อเลม่อนอยู่...ไม่รู้ว่าจะโทรมาตอนไหน น่าจะเป็นดึก ๆ ละมั้ง รอให้เจ้าตัวเล็กตื่นซะก่อน~

           
 :mew1: :mew1: :mew1:
 

 

 


ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 59

นาวา

[นาว]

            ถูก ปลุกขึ้นมาอาบน้ำและทานข้าวเย็น น้องเจเป็นคนขอทำอาหารเอง....จริง ๆ ก็เป็นลูกมือนั่นละ ผมเลยรับหน้าที่เอาเลม่อนไปอาบน้ำ อุ้มมันขึ้นมาบนห้อง...ถอดเสื้อผ้าแล้วพากันลงอ่างอาบน้ำกันไป

            “เป็ด”ไอ้กระเปี๊ยกคว้าเป็ดลอยน้ำ มายื่นใส่หน้า

            “เอ๊!!!!”มันหัวเราะคิกคัก

            “นี่นาว นี่ม่อน”ผมอมยิ้ม...มันเลือกตัวเล็กว่าเป็นตัวผม แล้วไอ้ตัวใหญ่ว่าเป็นตัวมัน หึหึหึ...เทียบรุ่นแต่เด็ก

            “ไมนาวตัวเล็กกว่า”ผมถาม มันขึ้นมานั่งตัก...

            “ติณฑ์บอกนาวจอร์จเล็ก”

            !@#$%^&*()@#$%^&*()@#$%^&*()_#$%^&*()_$%^&*()_+$%^&*()_$%^&*(

            แล้วก็พูดออกมาหน้าตาซื่อ ๆ ฮึ่มมมมมมมม....เดี๋ยวเจอกูแน่...!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

 

            อาบ น้ำให้มันเสร็จก็แต่งตัว...หวีผมแล้วลงมาข้างล่าง ได้กลิ่นหอม ๆ ของกับข้าว....ตั้งรออยู่แล้ว ผมจับเลม่อนวางที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วเดินไปหาน้องเจ

            “ต้มยำกุ้งพี่นาว...แซ่บแน่ ๆ”

            “ทำเองเหรอ”

            “ครับ”ผมตวัดตามองไอ้โหด

            “ที่กูไมไม่เคยให้ทำ???”

            “อยากจะทำก็ทำ...ไม่เคยถามนี่นาว่าอยากทำไหม”

            “กูอยากทำ!!!!!”ผมกดเสียงตอบ

            “โอเค ๆ วันหลังจะสอน ไปๆ ทานข้าวกันได้แล้ว...เรียบร้อยหมดแล้ว”ติณฑ์มันถือจานไข่เจียววางบนโต๊ะ เริ่มตักข้าวและทานอาหารกัน....

            “อ้าปาก”ผมป้อนไอ้เตี้ยน้อย...มันควงช้อนหมุนไปมา ผมป้อนมันไม่ยอมน้อยหน้า...ตักข้าวป้อนผมอีกที

            “อั้มมมมม~”

            “อร่อย”

            “ฟันก็หลอยังยิ้มกว้างอีก...ฮ่าฮ่าฮ่า”เสร็จก็เดินออกมาส่งน้องเจที่บ้าน พี่พุทมายืนรอรับที่รั้วบ้านอยู่แล้ว

            “แหม...กลัวส่งไม่ถึงหรือไงพี่พุท”ผมแซว เจวิ่งไปหาพี่พุท...พี่แกหัวเราะยิ้มกว้าง

            “กลัวหลงทาง”

            “บ้าไปแล้ว”เจพูด

            “ไปนะพี่นาว พรุ่งนี้เจจะไปหาแต่เช้า”

            “อือ.....”

            เดินกลับมาติณฑ์พาไอ้เตี้ยน้อยขึ้นห้องไปแล้ว...เลยลงมานอนดูทีวีคนเดียว อย่างนาน ทั้งสองคนหายไปนานมาก ๆ ผมเหงาเลยเดินขึ้นไปตามบนห้อง เห็นกำลังนั่งเล่นคอมกันอยู่...

            “ติณฑ์ทำไร”สีหน้ามันตกใจนิดนึง แต่ก็กลับมาปกติเหมือนเดิม ผมไม่ได้เอะใจอะไร....

            “อ่อ....ไปหยิบแพมเพิร์สมาให้น้องที ในห้องน้องอ่ะ”ไอ้โหดสั่ง....เลม่อนชี้ที่จอ

            “แดดดี้ นาว...แดดดี้”เงียบ....ผมเลิกคิ้วกะจะไปนั่งเล่นด้วย แต่เสียงโหดกำชับมาอีก

            “เตี้ยไปหยิบมาก่อน!!!!!”

            วุ้ย!!!!!! เดิน หน้างอไปหยิบแพมเพิร์สมาให้เลม่อน ห้องก็รก ๆ ผมเดินอ้อมเตียงมาคุ้ย ๆ ลิ้นชัก....ด้วยความอยากรู้ส่วนอื่นดวย เลยคุ้ยของเขานิดหน่อย ไม่ได้กะว่าจะเจออะไร แต่...ลิ้นชักหัวเตียงกลับมี ‘อะไร’ วางอยู่...และสิ่งนั้นทำให้ผมต้องหยิบมันออก

            เป็นคล้าย ๆ บัตรประชาชนบ้านเรา...แต่ในนั้นเป็นรูปเลม่อน ระบุชื่อ......แค่ชื่อก็ทำให้ผมตาโต ย้ำอ่านรู้หลายนาที

 

            NAVATREE

 

            นาวาตรี???????

 

            อะไรก็ไม่เท่า...เด็กนี่นามสกุลเดียวกับผม

 

            ความรู้สึกตีตื้นขึ้นอก...สมองประมวลผมอย่างรวดเร็ว ภาพในหัวมันคิดถึงแต่พี่บุ้ง...น้ำตาไหลไม่รู้ตัว ไม่จริง!!!!!!!! ไม่ใช่!!!!!!!!!! ไม่จริง!!!!!!!!!!!!!!!! เด็กนั่น...ไม่มีวัน!!!!!!!!!!!!!!!! ถ้าใช่...พ่อกับแม่รู้ไหม!!!!!!!! เกิดอะไรขึ้น!!!!!!!!!!!!!!!! ไม่จริง!!!!!!! ไม่ใช่!!!!!!!!!!!!!! ไม่มีวันใช่!!!!!!!!!!!!

 

            พยายามนึกทวนช่วงเวลาที่หายไป...พี่บุ้งไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว นานมากจริง ๆ คือว่า...นี่เป็นเหตุผลที่พ่อกับแม่พยายามห้ามไม่ให้ผมไปเรียนต่อ ไปอยู่กับพี่ชาย ถ้าอย่างนั้นพ่อกับแม่และทุก ๆ คนต้องรู้สิ แล้วติณฑ์ละ? มันรู้ด้วยไหม รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่บอกผม...??????????????

 

            “ฮึก กก....”กำบัตรแน่นจนเกือบจะแหลกคามือได้...ภาพเก่า ๆ มันย้อนกลับมา ติณฑ์มันก็ต้องรู้คำตอบสิ...มันต้องบอกได้แน่ ๆ ว่าไม่ใช่เรื่องจริง!!!!!!!

 

            “นาว ววววว ม่อนมาแล้ววววววววว”เลม่อนวิ่งเข้าห้องมา...ผมลุกขึ้นยืนช้า ๆ มองหน้าไอ้เด็กตัวเล็กที่คล้ายผมอย่างกับแกะ เหมือนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ปาก ที่มองเห็นหน้ามันครั้งแรก...ไม่ใช่แค่ผมอุทานไปคนเดียว เราเหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไง? ใช่สิ...มันไม่แปลก หรอก ก็เรามีสายเลือดเดียวกัน เจ้าเด็กนี่...ต้องเป็นหลานผมอย่างแน่นอน นี่สินะ...มันถึงเรียกชื่อผมประหนึ่งว่าเรารู้จักกันตั้งชาติ ทั้งที่เพิ่งเคยเจอหน้ากัน...เปล่า มีแค่ผมที่เพิ่งเคยเห็นหน้ามัน แต่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเห็นหน้าผมเป็นแน่

            “ได้รึยัง”เสียงไอ้โหดแว่วมาไม่นาน ร่างสูงก็โผล่ที่ทางเข้าประตู

            น้ำตาผมไหลพราก....เหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก เลม่อนจะวิ่งเข้ามาหา...แต่ผมก็ถอยห่าง มองหน้าไอ้โหด...ที่ยืนงงอยู่ตรงนั้น ชูบัตรในมือขึ้นให้มันเห็น

            “................................”มันหน้าซีด....

            “เตี้ย......”เสียงคนตัวสูงเรียก ผมส่ายหน้า....บอกตรง ๆ ว่าผิดหวังกับมันเล็กน้อย ปล่อยให้ผมเป็นตัวตลกสำหรับมันอยู่ได้ตั้งนาน

            “นาวอุ้มม่อนหน่อย”

            “ฮึก......ฮึก....”เจ็บ.....หายใจไม่ออก จู่ ๆ ห้องก็หมุนได้ ตาพร่าไม่รู้ว่าเพราะน้ำตาหรือเพราะสติ มันรู้สึกเคว้งคว้าง...ไม่อยากรับรู้อะไร

            “อุ้ม ๆ”ไอ้ตัวเล็กไม่รู้เรื่องรู้ราว ชูมือจะให้ผมอุ้มมันให้ได้...ผมร้องไห้ส่ายหน้า

            “เตี้ย!!!”

            “ฮึกกกก.....”

            “ร้องไห้ไม อุ้ม ๆ ม่อนหน่อย”

            เจ็บ....เจ็บที่สุด

 

 

 [ติณฑ์]

            ผมคว้ามือออกไปแต่ไม่ทัน...ร่างเล็กล้มตัวลงเกือบทับเลม่อน เด็กน้อย...ทำหน้างง ก่อนจะตกใจ...ที่เตี้ยล้มตัวลงไป

            “นาว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ผมร้อง อุ้มร่างเล็กไว้ในมือ ปากก็ตะโกนเรียกคนในบ้าน นานเกือบห้านาทีมีเด็ก ๆ วิ่งขึ้นมา และป้าสา

            “ว้ายยย...เกิดอะไรขึ้นคะ”ป้าสาตกใจ

            “ป้าเอาเลม่อนหน่อย ผมจะพาเตี้ยไปโรงพยาบาล”ผมร้องบอก เลม่อนร้องไห้ใหญ่เลย...ถึงเด็กตัวเล็กแค่นี้ แต่คงรู้สถานการณ์ดี เตี้ยมันนิ่งไป...แต่ยังหายใจอยู่ ป้าสาวิ่งอ้อมมาแกะมือปลาหมึกเล็ก ๆ ที่กำเสื้อไอ้เตี้ยไว้แน่น

            “ม่อนจะอยู่กับนาว กรี๊ดดด...นาวววว ฮืออออออ แงงงงงงงง นาววว ม่อนอยู่กับนาว”เลม่อนกรีดร้องลั่นห้อง ทำให้การอุ้มไอ้เตี้ยทำได้ลำบากกว่าเดิม เด็ก ๆ มาช่วยกันแยกเลม่อนออก

            “ไปบอกตาชุ่มเอารถออก”ผมสั่ง....ยกเตี้ยขึ้นเตรียมเอาขึ้นรถ เสียงกรีดร้องของเลม่อนสร้างความตื่นตะหนกให้กับทุกคนมากเข้าไปอีก

            “คุณติณฑ์คะ”ป้าสาร้องเรียก ผมหันมอง...รถมาจอดพอดี

            “นาว กรี๊ดดดดดดด...แงงงงงงงง”เลม่อนร้อง ผมยัดร่างไร้สติขึ้นเบาะหลัง ตาชุ่มเป็นคนขับ...ป้าสาวิ่งมาขึ้นนั่งข้าง ๆ

            “ใจขึ้นรถ”ผมสั่งเด็กอีกคน ให้นั่งไปด้วยกันซึ่งใจนั่งอีกด้าน...และรับเลม่อนมาอุ้มไว้เอง

            “แงงงง...”

            “ชู่ววววว เดี๋ยวนาวตกใจ”ผมปลอบ คอยเช็คไปด้วยว่ามันหายใจรึเปล่า...โทรแจ้งรพ.ให้ส่งรถฉุกเฉินมา เจอกันระหว่างทาง แต่อีกนิดจะถึงรพ.แล้วเลยไม่ได้เปลี่ยนคัน โชคดีที่การจราจรคืนนี้ไม่ติดขัด...ไม่งั้นแย่แน่ ๆ เตี้ยถูกจับนอนบนเตียงเลื่อนแล้วมีนางพยาบาลพาเข้าห้องฉุกเฉิน

            “ญาติคนไข้รอข้างนอกนะคะ”

            “กรี๊ดดดดด...นาววววว”เจ้าตัวเล็กร้องไห้หูปากแดงไปหมด...ผมอุ้มโยกหวังปลอบประโลม

            “คุณติณฑ์คะโทรบอกพ่อแม่น้องเถอะค่ะ”ใจเดินพยุงป้าสามา

            “นี่เป็นอะไรคะเนี่ย...คุณติณฑ์ทำอะไรน้อง”ป้าสาเหมือนจะเอ็ด ผมมองหน้าป้า

            “สงสัยไปเจอบัตรของเลม่อนน่ะครับ อยู่ดี ๆ ก็ช็อคล้มลงไปเลย”

            “โธ่คุณพระ! คุณ พระคุณเจ้าคุ้มครองนะคะ”ป้าสายกมือท่วมหัว นั่งลงที่ม้านั่งหน้าห้อง ผมไม่ได้หยิบโทรศัพท์มา แต่ใช้ให้ใจโทรบอกเจี๊ยบให้รายงานพุทกับน้องเจแล้ว ใจบอกว่าอีกสักแปปทั้งสองคนคงมา

            การรอคอยเป็นเรื่องเจ็บปวด...เจ้าตัวเล็กเหมือนจะสงบลงบ้าง ผมเดินวนไปมาอยู่หลายรอบ...มองเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ไม่คิดว่าทุกอย่างจะออกมาสภาพนี้...ผมยินดีให้มันอาละวาด จะเอาให้บ้านพังก็ได้...แต่ไม่ชอบเห็นมันนอนโรงพยาบาล เตี้ยของผม...ถ้ามันต้องเป็นอะไร ผมคงจะไม่ให้อภัยตัวเองแน่ ๆ

           

            พุ ทกับน้องเจมาถึง...น้องเจก็วิ่งมากอดผม เลม่อนหลับไปแล้วในอ้อมกอดเป็นลูกลิงที่เหนี่ยวคอผมอยู่ พุททำหน้าเครียด ๆ แต่มันก็เข้าใจสถานการณ์ดี

            “รู้แล้วใช่ไหม”พุทถาม ผมพยักหน้า...น้องเจเริ่มร้องไห้อีกคน

            “ชู่ว ๆ  ไม่ร้องครับ เดี๋ยวเลม่อนตื่น”ผมรีบบอก...น้องเจพยักหน้าแต่ตาแดง ๆ หันไปหาพุท

            “ป้าสากลับก่อนเถอะครับ ผมจะอยู่เอง...ใจกลับเถอะดึกแล้ว”ใจทำหน้าลังเล

            “อยู่รอฟังหมอก่อนเถอะค่ะ ให้ป้ากลับตอนนี้ไม่สบายใจ”ป้าสาบอก พุทยื่นโทรศัพท์ของผมมาให้ เลยได้โทรหาพ่อกับแม่ไอ้เตี้ย รายงานให้ท่านทราบ...โทรบอกพ่อแม่ผม แต่ยังไม่โทรบอกแม่เลม่อน อย่างน้อยก็ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจว่าเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมด

            คุณหมอเดินออกมาสีหน้าดีกว่าตอนเข้าไป เราทั้งหมดรุดไปยืนรุมล้อมท่าน...ไต่ถามอาการของคนที่เป็นห่วงอยู่ด้านใน

             “คนไข้เป็นลมหมดสติชั่วขณะนะครับ ได้นอนพักก็จะหาย...ไม่ร้ายแรงอะไร”

            “ครับ”

            “หมอจะจัดยาให้นะครับ เดี๋ยวคนไข้ฟื้นก็กลับบ้านได้”ฟู่~~~~ ป้าสาโล่งใจ ผมและทุกคนก็ด้วย

            “ผมอยากให้นอนรพ.ก่อนได้ไหมครับ เผื่อเขาเป็นอะไรแล้วก็ช่วยเช็คร่างกายให้ละเอียดด้วย”หมอมองหน้าก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

            “ได้ครับ ติดต่อห้องที่พยาบาลแล้วกัน”หมอบอก

            “เจนอนกับพี่นาวด้วยนะ”ผมพยักหน้า...

 

 

 

            ร่างเล็กนอนหลับตาพริ้ม...ผมฝากให้พุทเอาเสื้อผ้า นมและของใช้ของเลม่อน และเสื้อผ้าไอ้เตี้ยใส่กระเป๋ามาให้ หลังจากที่เจ้าตัวนอนหลับไปนาน หมอเข้ามาตรวจอีกทีกลายเป็นว่ามีไข้ขึ้นนิดหน่อย...ร่างกายอ่อนล้าเป็นทุน เดิม ทำให้ต้องนอนรพ.อีกคืนไปตามระเบียบ น้องเจกลับไปพร้อมกัน...ผมไม่อยากให้น้องหยุดเรียน ส่วนวันนี้พ่อและแม่ของไอ้เตี้ยจะพากันลงมาดู พร้อมกับฟ้า

            ห้องพักขนาดใหญ่แบ่งเป็นฝั่งห้องพักญาติติดกัน น้องคิ้วแวะมาหาและซื้อผลไม้มาให้ก่อนจะขอตัวกลับไปเรียน ผมบอกว่าตอนเย็นค่อยแวะมาอีกครั้ง ถึงเวลานั้นเจ้าตัวคงจะตื่นแล้ว...หลังคิ้วกลับไปไม่นาน คนบนเตียงก็เริ่มขยับตัวขึ้น ผมฝากป้าสาที่มาอยู่เป็นเพื่อนทั้งคืน อุ้มเลม่อน...แล้วเดินไปหาเตี้ยทันที

            “เตี้ย~”เรียกเสียงเบา เจ้าตัวยังงง ๆ มองรอบ ๆ ห้องอย่างไม่คุ้นชิน

            “ที่ไหน”เสียงแหบ ๆ ถาม

            “รพ.มึงเป็นลมหมดสติหลับข้ามวันเลย”ผมบอก ค่อย ๆ พยุงมันลุกขึ้นนั่งมองรอบ ๆ ห้องไม่เห็นใคร ผมหย่อนก้นลงบนเตียง ค่อย ๆ กอดมัน...ตัวมันก็ร้องไห้กำเสื้อแน่น

            “ฮึก....”

            “ชู่ววววว”

            “ฮึก...ฮึก”

            “ไม่เป็นไรนะครับ...กูเข้าใจ”ผมบอก คนป่วยเหมือนจะมีแรงเหลือเฟือ...เลื่อนมือมาทุบไหล่หนา ผมนั่งนิ่ง...ให้เขาทำให้พอใจ ดีกว่าให้มันเก็บกดไม่มีที่ระบาย

            “ทำไมว่ะติณฑ์ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้”

            “.............................................”

            “มึงรู้ทำไมไม่บอกกู เห็นกูเป็นตัวอะไร”

            “ไม่มีใครอยากให้เป็นอย่างนี้หรอก ใคร ๆ เขาก็อยากบอกมึงกันทั้งนั้น”ผมค่อยอธิบาย

            “แล้วทำไมไม่บอก!!!!!”

            “ก็ถ้าบอกมึงจะรับได้ไหม?”มันเงียบ ผมจับมือ...และมองตาคนตรงหน้า เช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ...ถนอมที่สุดแล้วคนคนนี้

            “ฮึก.....”มันร้องไห้

            “ตอนนี้มึงใจเย็น ๆ ก่อนนะ....เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย พี่มึงก็โตแล้วเขาก็ควรมีครอบครัว...มีทายาทให้พ่อกับแม่ เขาไม่ได้ทิ้งมึงไปสักหน่อย”

            “หึ...!”

            จุ๊บ...ผมจุ๊บมัน

            “มึงก็ยังมีกู เรายังมีกันไม่ใช่เหรอ”มันพยักหน้า...มองมือตัวเอง

            “กูควรทำยังไง...แบบไหนที่ทุกคนพอใจ รู้สึกว่าตอนนี้กูเหมือนกลายเป็นส่วนเกินสำหรับทุกคน”

            “ไม่มีใครคิดอย่างนั้นหรอกน่า....กูโทรหาพ่อกับแม่มึงแล้วนะ ฟ้ากำลังขับรถพามาอยู่”ผมชวนคุยเรื่องอื่น ป้าสาเปิดประตูหาผม มองจด ๆ จ้อง ๆ ที่ไอ้เตี้ย...ไม่กล้าเดินเข้ามา ผมกับเตี้ยก็มองตาม...เลม่อนร้องไห้จ้า เลยเดินไปอุ้ม

            “ผมดูให้เองครับ”ปิดประตูเหลือแค่เราสามคน ไอ้เตี้ยมองหน้าเลม่อน...กัดปากน้ำตาไหล ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าตอนนี้มันจะรู้สึกไม่ดีด้วย แต่น้องยังเล็กอยู่เลย...

            “หานาว”เลม่อนบอก ผมเลื่อนตัวมายืนข้างเตียง...เลม่อนยื่นมือหาไอ้เตี้ย แต่มันขยับหนี...ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ

            “นาวไม่สบาย”พูดเสียงนุ่ม

            “หานาว แงงงงงงงงง”เจ้าตัวเล็กร้องไห้จ้าอีกหน ไอ้เตี้ยกำมือแน่น...ไม่มองหน้าตัวเล็กสักนิด

            “งั้นนั่งตรงนี้ดีกว่านะครับ เดี๋ยวติดไข้ไม่สบาย...นาวไม่สบายอยู่น้า”ผมวางลงบนเตียงนั่งทับผ้าห่มของ ไอ้เตี้ย เห็นมันเหล่ตามามองหน่อย ๆ ด้วยความที่ไม่ได้ระวัง...ไอ้เตี้ยดันดึงผ้าห่มตัวเองออก น้องตัวเล็กก็เซตามแรงกระชาก ขอบเตียงไม่มีที่กั้น

            “เฮ้ย!!!!”ผมร้องช้อนมือไปจับเลม่อนไว้ เพราะอีกนิดเดียว...กลิ้งตกเตียงแน่ ไอ้เตี้ยหันมาก็ตกใจ

            “ติณฑ์!!!!!!”หน้ามันเหวอไปเลย มองหน้าผม...เลม่อนก็คงตกใจเสียงเราสองคนร้องไห้จ้า ผมอุ้มปลอบเด็กขวัญเสีย ส่วนคนโตก็เอื้อมมือไปตบบ่า

            “ไม่เป็นไร ๆ ดีที่รับทัน”

            มันเหมือนกลั้นหายใจไปนิดนึง...แล้วซบหน้ากับเข่าตัวเองร้องไห้

            “ไม่ เป็นไรนะ...ไม่ต้องร้อง”รู้ว่ามันคงตกใจ ผมรู้ว่าสุดที่รักกำลังสับสนเป็นอย่างมาก มันเหมือนเด็กที่แสดงอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลงชัดเจน ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็ไม่ใกล้...และก็รู้ว่ามันหลงรักเลม่อนแล้วด้วยซ้ำ สายเลือดย่อมผูกพันกันมากกว่าเป็นธรรมดา ยิ่งเลม่อน...ที่พ่อสอนให้ดูแต่รู้นาว บอกรักนาว บอกคิดถึงนาว เล่าแต่เรื่องนาวให้ฟัง...เด็กมันก็จำ พอเห็นนาวได้เล่นด้วยกันก็ยิ่งติดหนึบ ไปไหนกันไม่รอดอยู่แบบนี้

            “แงงงงงงงง”

            “ชู่วววว นาวหยุดร้องแล้ว...ม่อนหยุดร้องเร็ว”ปลอบเด็ก...เลม่อนหันมามองหน้าสะอื้น

            “หานาว”ทั้งยื่นมือ ทั้งเอนตัวจะไปหาเตี้ยให้ได้....

            “นาวไม่สบายนะ...เอามือแตะ ๆ ก็ได้”ผมจับมือเลม่อนแตะ ๆ ที่ไหลเตี้ย มันร้องไห้หนักกว่าเดิม...ไม่รู้จะทำยังไง เลยจับตัวเล็กโอบกอด...แล้วผมก็กอดทั้งสองคนไว้ที่ทอดนึง

            “นาวร้องไห้”เลม่อนหันมาหาผม ผมยิ้มอบอุ่นให้...

            “ม่อนไม่ร้อง”เลม่อนบอกซื่อ ๆ ไอ้เตี้ยร้องไห้สั่นตัวโยน...ผมก็ไม่รู้จะปลอบยังไงดี เลม่อนมองตามอย่างงง ๆ

            “ม่อนรักนาว”เด็กน้อยกอดคุณอา กอดทั้งสองมือ...โน้มไปทั้งตัว

            “ติณฑ์ก็รัก”ผมบอก จับมือเตี้ยไว้...

            “ไปกันเถอะ ให้นาวนอนก่อนเนอะ...”แกะไอ้ตัวเล็กออกยากยิ่งกว่าอะไร คงกลัวจะโดนจับแยก...หลอกล่อก็แล้วอะไรก็แล้ว คราวนี้กรีดร้องตามแผนเดิม...

            “เตี้ยครับนอนเถอะ...หยุดร้องได้แล้ว”ผมบอก มันเงยหน้าจากเข่าขยับตัวแล้วล้มตัวลงนอน ไม่สนใจเลม่อน...กลัวเจ้าตัวเล็กเซ้าซี้มาก ๆ จะอาละวาดน่ากลัวอีก...

            “ป่ะ นาวนอนแล้ว ม่อนไปนอนบ้าง”ผมบอกแต่ไม่ยอม ทำยังไงก็ไม่ยอม...

            “แงงงงงงงงงงงงงงง หานาววววววววววววว”ร้องอีกแล้ว...วันนี้ถ้าเป็นอย่างนี้คงร้องไห้ทั้งวัน ผมดึงที่กั้นเตียงขึ้นมา หยิบหมอนมากั้นไว้ไม่ให้เลม่อนหล่นลงมาได้ แต่ที่ก็มีนิดเดียว เลยต้องร้องบอกเตี้ยให้ขยับ

            “เตี้ยขยับให้น้องนอนด้วยนะ”ไอ้เตี้ยที่กำลังเอาผ้าห่มปิดหน้าร้องไห้... ขยับตัวไปอีกฝั่งอย่างรำคาญ ผมเรียกป้าสาร้องหาขวดนมมาให้เลม่อน สักแปปก็เอนตัวลงนอนข้าง ๆ กัน....ห่วงทั้งสองคน

            “น้องนอนข้าง ๆ นะ...ระวังนอนทับกัน”ผมบอกเสียงนุ่ม รู้ว่าเลม่อนไม่ตกแน่ลแล้วเลยเดินเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เตี้ย

            “รักนะครับ”ผมบอก น้ำตามันไหลไม่หยุด...จับมือผมไว้แน่น

            “ไม่เป็นไรน้า มีกูอยู่...”ผมกำชับ

            “ฮึก.....”

            ผมว่าผมเข้าใจความเจ็บปวด ความสับสนที่ตอนนี้มันมี...คนเคยเป็นจุดศูนย์กลาง และมั่นอกมั่นใจในการเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง พอมีอะไรสักอย่าง...ที่ทำให้ความเชื่อของตัวเองสั่นคลอน มันก็อยากจะยอมรับอยู่สักหน่อย ยิ่งเป็นพี่ชายมันที่มันสนิทมาก และมองเขาเหมือนเป็นฮีโร่ในทุก ๆ อย่าง มันยิ่งเหมือนเจ็บช้ำมากขึ้นไปอีก

            ร้องไห้จนหลับไปทั้งคู่...ป้าสาเดินเข้ามาดูอีกรอบ

            “เหนื่อยเลยนะคะคุณ”ผมยิ้ม...มองหน้าทั้งสองคนแล้ว ผมอยากบอกว่าผมยอม...ยอมทุกอย่างจริง ๆ



 :mew5: :mew5: :mew5: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


ตอนที่ 60

 

เด็กเอาแต่ใจ

 [ติณฑ์]

            ไอ้ เด็กดื้อเห็นข้อดีของการเป็นคนไข้ เลยพัฒนาตัวเองเป็นเด็กน่าตีขั้นเต็มร้อย พ่อกับแม่ลงมากรุงเทพฯโดยมีนายฟ้าที่นั่งเฝ้าน้องไม่ห่าง เด็กดื้อไม่อาละวาดแต่ร้องไห้จนตาช้ำหมดแล้ว ผมพาเลม่อนนั่งห่างออกมา...ให้พวกเขาได้ปรับความเข้าใจกัน

            “ตาช้ำหมดแล้ว”แม่พูด พยายามเช็ดน้ำตาให้ลูกชายคนเล็ก...แต่ไม่เป็นผล มันร้องไห้ไม่หยุด...ไม่ยอมหยุด นายฟ้าที่ยืนอยู่อีกฝั่งเตียงก็ประคองกอดน้องไว้

            “เดี๋ยวรอให้พี่เขากลับมา ค่อยพูดกัน...เมื่อเช้าแม่ถามแล้ว หมดอาทิตย์นี่แหล่ะ...กลับมาทั้งสามคนเลย ขิงมันบอกจะซื้อของมาฝากด้วย”

            “ไม่อยากได้!!!!!!!”มันพูดเสียงดัง

            “เอ๊ เรานี่...หยุดร้อง ๆ เดี๋ยวให้พี่บุ้งมาค่อยพูดกัน”แม่ปลอบแล้วปลอบอีก แต่ไอ้คนบนเตียงก็ยังงี่เง่าใส่ไม่เลิก จนพ่อเดินหนีออกมา มานั่งข้าง ๆ ผม สังเกตไอ้เตี้ยมันเหล่ตามองนิดนึง แต่พ่อไม่รู้ตัวยื่นมือมาหาเลม่อน

            “หน้าเหมือนอานาวตอนเด็ก ๆ เด๊ะเลย”พ่อพูด

            “ไม่เหมือน!!!!!”ไอ้เตี้ยตะโกน แม่ตีเบา ๆ

            “เอ๋ เรานี่ยังไงนะ”

            “ไม่เหมือน ยังไงก็ไม่เหมือน...ไม่ต้องเหมือน ไม่ให้เหมือน ฮืออออออ”

            ร้องอีกละ...พ่อส่ายหน้า ดูเลม่อนที่หลับบนตักผมแล้วยิ้ม...

            “เหมือนจริง ๆ”พ่อไม่สนใจ...พูดต่อ “เหนื่อยไหมพ่อติณฑ์....”

            “ไม่ครับ”ผมยิ้มกลับ รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ เต็มใจทำมากแค่ไหน...อยากให้ไอ้เตี้ยได้รับสัมผัสนั้น

            “ถ้าดื้ออาอนุญาตให้ตีได้ แต่ตีเบา ๆ นะ....อาหวง”คุณพ่อพูดยิ้ม ๆ

            “ครับ”คนบนเตียงมองจ้องมาเต็มตา ผมยักคิ้วให้...มันกอดแม่ร้องไห้อีก เด็กเอ้ยเด็ก...ปิดอาการขี้อิจฉาไม่มิดเลย

            พ่อกับแม่แวะมาดูได้ครึ่งวัน...นี่ฟ้าก็เหนื่อยขับรถกลับไปอีก ทีแรกไอ้เตี้ยจะกักแม่ไว้ไม่ให้กลับด้วยซ้ำ แต่ท่านคงเห็นแล้วว่าเตี้ยมันไม่ได้เป็นหนักอะไร แค่เรียกร้องความสนใจธรรมดา ฟ้ายังต้องกลับไปทำงานต่อ...เลยจะกลับกันเลย

            “พี่จะแวะมาใหม่นะ”ฟ้าบอก เตี้ยหน้ายู่ใส่พี่มัน

            “พี่ฟ้าก็อีกคน จะทิ้งเค้าใช่ไหม!?!?!”โดนเหวี่ยงใส่ซะงั้น ฟ้าหัวเราะ...หันมามองแม่ แม่ตีมือเด็กดื้อเพลี๊ยเบา ๆ

            “เรานี่ยังไงนะ...พี่เขาอุตส่าห์ขับรถมาหาเหนื่อย ๆ”แม่บ่น

            “ไม่มีใครรักเค้าจริงสักคน”

            “ไม่เอาน่า วันอาทิตย์พี่ลงมาหาใหม่...เดี๋ยวเอาเงาะมาฝาก”

            “ไม่กินไม่อยากกิน”

            “หึหึหึ ฝากด้วยนะครับ”ฟ้าหันมาบอกผม

            “แม่~~~ ไม่ให้กลับนะ”มันอ้อนแม่ พ่อเดินไปหน้าประตูแล้ว..แต่ไอ้เตี้ยยังเกาะแขนแม่ไม่ปล่อย

            “อยู่กับพี่เขาจะเป็นไรละ แม่ฝากด้วยนะติณฑ์...วันอาทิตย์ถึงจะได้ลงมาหาอีกตามฟ้าว่า”

            “ได้ครับแม่”ผมรับคำ

            “แม่~~~~ ไม่ให้ไปนะ”

            “ยังออกจากรพ.เลยไหม เราก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่...กลับไปกาญฯกับแม่ วันอาทิตย์ให้พี่ฟ้าลงมาส่ง”แม่เสนอทางออก

            “ก็ดีเหมือนกัน นาวจะได้พักผ่อน”พ่อสำทับ

            “อือ”

            เจ้าตัวรับคำเหมือนจะเห็นด้วย...

            “ไปไหม?”ฟ้าถามย้ำอีก เจ้าตัวพยักหน้า...

            “ติณฑ์ก็ไปด้วยนะ เอาเจ้าตัวเล็กไปด้วย...”

            “ไม่!!!!!!!!”ไอ้เตี้ยตะโกน...หน้างอสุด ๆ

            “นาว!”พ่อทำเสียงดุ มันน้ำไหลพราก ๆ สะอื้นขึ้นมาอย่างกับนางเอกหนังฮอลลีวู้ด...

            “ฮึก....ไม่ให้ไป!!!! ที่ของเค้า!!!! ไม่ต้องเหยียบเลยนะ!!!!!!!!”มันร้องไห้ เลม่อนตกใจตื่นเพราะเสียง...ทำหน้างง ๆ เพราะสมาชิกในห้องเยอะขึ้นกว่าตอนแกหลับ

            “น้องตื่นเลย”

            “ไหว้ปู่ก่อนเร็วเลม่อน”ผมสั่ง แต่น้องเพิ่งตื่นและยังทำหน้างง ๆ อยู่ พ่อกับแม่เดินมาดูหน้าเลม่อนใกล้ ๆ

            “โอ๊ย หน้าเหมือนมะนาวตอนเด็ก ๆ เลยนะคุณ”แม่ว่า

            “อย่าร้ายเหมือนอามันก็พอ”พ่อพูดแล้วหัวเราะ

            “ม่อนหานาว”เลม่อนพูดออกมาคำแรก

            “น่ารักจังเลย...เลม่อน”คุณแม่ยื่นมือออกไปอุ้ม

            “แม่ไปอุ้มมันทำไม!!!!!!!!!”ไอ้เตี้ยตวาดออกมา พ่อหันไปดุ

            “พูดไม่เพราะเดี๋ยวจะโดนตีปาก”

            “.......................................ฮึก.......................................”

            “หานาว ๆ ๆ ๆ”เลม่อนดื้อพอกัน ยื่นมือไปหานาว

            “ไม่ต้อง!!!!! เกลียดแล้ว!!!!!”มันทำหน้าเหมือนโกรธเลม่อนมาสักสิบชาติ เลม่อนเบะปาก...รู้ว่าโดนเตี้ยมันด่า

            “นาว!”ฟ้าทำเสียงต่ำ

            “ไม่ต้องมาสะเออะเรียกชื่อเค้า”

            “มะนาว!!!!!!!!!”พ่อ ดุเสียงดังลั่นห้อง ไอ้เตี้ยตกใจร้องไห้...พอ ๆ กับเลม่อนก็ตกใจร้องไห้ ผมเดินมาอุ้มเลม่อนแทนแม่ นึกหัวเราะในใจว่า...ดูสิ ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนกันนะ มันกับเลม่อนมีอะไรหลายอย่างคล้ายกันจนแทบจะเป็นฝาแฝดกันได้เลย

            “พอเถอะคุณ...ลูกก็ไม่หยุดร้องสักที”แม่ปลอบ

            “ฮือออออ”

            “ให้ท้ายตลอด ไป ๆ จะเอากลับบ้านก็ไปแจ้งหมอ ไม่ได้เป็นอะไรมาก...ไปอยู่กาญสักสองสามวัน ค่อยกลับมา”พ่อสั่ง

            “ฟ้าจัดการหน่อย”

            “ครับ”นายฟ้าเดินออกไปนอกห้อง ผมโยกตัวโอ๋...เจ้าตัวเล็ก กระซิบถาม...เตี้ย

            “ให้ไปด้วยไหม?”ผมถาม มันที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่พยักหน้า...

            “แต่ต้องเอาเลม่อนไปด้วย ไม่มีคนดู”มันนิ่ง

            “จะเอาไว้ที่ป้าสาก็กลัว แกแก่แล้ว...ไม่งั้นต้องไปฝากไว้ที่เนิสเซอรี่”ผมชั่งใจ เหมือนเล่นเกมส์กับมัน

            “ก็เอาไปฝากเด่ะ!!!!”พูดเพราะปาก...มันไม่ได้คิดอะไรหรอกผมรู้

            “งั้นโอเคนะ เอาน้องไปฝากกับใครก็ไม่รู้ สักสี่ห้าวัน...แล้วเราก็ไปเที่ยวกัน แต่ต้องหาที่แบบ...ไว้ใจได้ เดี๋ยวไปเจอที่ที่ทำร้าย ตีเลม่อนขึ้นมาละแย่เลย”

            “ตี?”มันเงยหน้าถาม

            “อือ บางที่น่ะ...เด็กเล็ก ๆ ร้องไห้หนัก เขาก็ทำร้ายให้หยุดร้องบ้างอะไรบ้าง”ฮ่าฮ่าฮ่า พยายามบิ้วเต็มที่

            “ทำร้ายเด็กเนี่ยนะ”มันถามอย่างไม่เชื่อ แม่กับพ่อยืนดูผมจัดการไอ้เตี้ย

            “บางคนฝากลูกไว้ กลับมาลูกเขียวเป็นจ้ำ ๆ เลย”

            “?”

            “แต่เลม่อนคงไม่ดื้อหรอก...ใช่ไหม”ผมหันไปถามเลม่อน

            “ม่อนอยากหานาว”เบะปากจะร้องอีกหน ผมจับมันนั่ง...บนเตียง ไอ้เตี้ยเผลอมองเจ้าตัวเล็ก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

            “นั่งดี ๆ ครับ เดี๋ยวโดนแผลนาว”เด็กน้อยพยายามปีนไปนั่งตัก...

            “โว๊ะ...ที่ตั้งกว้าง!!!!!”มันบ่น แม่กับพ่อยิ้ม ๆ

            “เนี่ย ๆ แบบเนี้ยแหล่ะ พี่เลี้ยงเด็กเจอเด็กวุ่นวายบางทีก็รำคาญ...ตีเด็กได้ง่าย ๆ”มันถลึงตามองผม

            “ลองตีเด่ะ...กูเตะคว่ำ”มันบอก...

            “นาว! พูดไม่เพราะเลย”แม่เอ็ด

            “ก็จริงไหมละ เด็กตัวแค่นี้...ลองตีดิ เจอ ..นเค้าแน่”ผมยิ้ม ๆ

            “ก็ถึงบอกไง ว่าต้องเอาเลม่อนไปด้วย....”มันเงียบ....

            “นะ....?”

 

 

 

 

            “ได้ไหม.....?”

 

 

 

                        “อือ”

 

 

 

            ผม พ่อ แม่ หันมายิ้มให้กัน...ในความขบขันท่าทางหยิ่งผยองของไอ้เตี้ย...เลม่อนถูกใจได้ นั่งตักอามะนาว ร้องเพลง...โยกตัวไปมา ในขณะที่เจ้าของตักทำหน้าหงุดหงิดอยากผลักเด็กหนี

            แหม...ช่างน่าเอ็นดูกันเสียจริง....

 

 

 

[ติณฑ์]

            ฟ้า ขับรถนำไปก่อน ส่วนผมมัวแต่เก็บของวุ่นวายคุณอาคุณหลาน เตี้ยมันอยากเอาเครื่องบินไปเล่นด้วย พออนุญาตให้เอาไป มันก็เลือกไม่ได้...ว่าจะเอาลำไหนไปบ้าง

            “เอารถบังคับไปเล่นด้วยดีกว่า”มันเลือก ระหว่างนั้นเลม่อนกำลังเลือกตุ๊กตาของตัวเอง

            “พอไม่ต้อง! เอาแค่เครื่องบินพอ เดี๋ยวพัง!”ผมไม่อนุญาต มันทำปากจู๋ไม่พอใจ ทำท่าจะเขวี้ยงแต่รีบหยิบออกจากมือเสียก่อน

            “ขนไปขนกลับ หนักรถ”

            “ก็อยากเอาไปเล่นอ่ะ”ผมเงียบเดินเอามาเก็บ แล้วหยิบมาแค่สองลำ

            “นี่ก็พอ”ชูให้มันดู งอนไปละ...

            “เตี้ยครับ คนละตัวนะ”เดินไปง้อก่อนเดี๋ยวงอนยาว

            “...........................................”

            จุ๊บ....ผมจุ๊บปากมันที ไอ้เตี้ยยิ้มแล้วหัวเราะ ผลักผมหน้าหงาย...

            “ไอ้บ้า”

            “แงงงงงงงงงงงงงง~!”จู่ ๆ เลม่อนก็ร้องออกมา ผมรีบรุดไปดู...ดึงน้องออกจากกองของเล่น

            “เป็นอะไรครับๆ”อุ้มเด็กตัวเล็กขึ้น ไอ้เตี้ยก็มองหน้า...มองตัวก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ

            “ตัวอะไรกัดมันรึเปล่า”เตี้ยสันนิษฐาน ผมพลิกมือดู...ก็ไม่มีอะไร แล้วร้องทำไม? เตี้ย มันเดินอ้อมเตียงมา...ยืนใกล้ ๆ ดู เจ้าตัวเล็กเห็นคุณอาแตะตัวก็โผเข้ากอด...ไปสะอื้นร้องไห้กับอก ไอ้เตี้ยไม่ได้ตั้งตัวจะบ่ายเบี่ยงหนีก็ไม่ได้ เพราะผมก็ปล่อยมือทันที มันรับไปอย่างงง ๆ ลืมตัวว่าตัวเอง...อยู่ในช่วงสับสนกับเลม่อนอยู่

            “ร้องทำไม???”มันถาม เลม่อนไม่ตอบเอามือกำคอเสื้อเตี้ยแน่น แล้วร้องไห้...ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ลูบหลังปลอบ เพราะไม่รู้สาเหตุ

            “เดี๋ยวเอาของขึ้นรถก่อนนะ อุ้มไว้ก่อน”ผมรีบบอก มันพยักหน้า...ใจชื้นขึ้นนิดนึง เตี้ยมันเดินลงมาข้างล่าง...ผมก็ขนของขึ้นรถ...มีเสื้อผ้านิดหน่อย ไปหนักตรงของเล่นทั้งหลายวันนี้เลยได้ใช้รถคันใหญ่ที่กว้าง ๆ ข้างหลังวางของเต็ม...แล้วเลม่อนก็ไม่มีเบาะเด็กสำหรับนั่ง ต้องนั่งตักไอ้เตี้ยเสียด้วย...เอาไงดีหว่า

            “เสร็จรึยัง”มันเดินมาถาม

            “ไม่มีที่นั่งให้น้องนะ เอาน้องนั่งตักได้รึเปล่า”ผมถามเสียงจริงจัง มันชะงักหน้าเสียไปนิดนึง...แต่คงรู้ว่าเพราะอะไร ทีแรกเจ้าตัวบอกว่าไม่ให้ซื้อ ผมก็ไม่ได้ซื้อตามที่บอก...พอมันต้องใช้จริงกลับไม่มี ก็ลำบากแบบนี้แหล่ะ

            “งั้นขับก็ได้นะ”ผมยื่นกุญแจรถให้ มันถอนหายใจคล้ายเบื่อ ๆ

            “วุ่นวายที่สุด”บ่น ๆ ผมยิ้มหวาน...เข้ามายกกล่องอาหารสำหรับทานบนรถ และตะกร้าขนมเอามาวางที่พื้นเบาะหลัง รถเข็นเด็กพร้อม คงไม่ขาดอะไรแล้วมั้ง

            “ป่ะครับ”ตะโกนเรียกเตี้ยปล่อยเลม่อนบนพื้น พอเรียกก็เดินออกมาคนเดียว...

            “น้องละ”

            “จัดการมันให้ด่วน”แล้วก็เดินเชิดหน้าออกไป ผมเกาหัว...อะไรอีกว่ะเนี่ย เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น...เลม่อนพยายามจะลากตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มหึมาไปด้วย

            “ไม่ ๆ อันนี้ไม่ได้ครับ”ร้องห้ามก่อน

            “ม่อนอยากได้”

            “รถไม่พอครับ เอาไว้ที่นี่แหล่ะ...เดี๋ยวน้องไม่มีที่นั่งนะ”ค่อย ๆ หลอกล่อ แต่ก็จะดึงไปให้ได้ ผมอุ้มเลม่อนขึ้นเลย...เจ้าตัวเล็กดิ้นใหญ่ งอแงด้วย...เฮ้ออออออออออออออ กว่าจะขึ้นรถได้...เตี้ยมันนั่งประจำที่ ผมดันเลม่อนให้ไปนั่งบนตักอามัน

            “เงียบ”คำเดียวสั้น ๆ เลม่อนมองหน้าเตี้ยแล้วเงียบทันที มีการกอดอ้อน ๆ ด้วย ฮา...

            “ก็เลี้ยงได้นี่”ผมแซว มันหันมามองค้อน

            “.........................................”

            “ม่อนอยากได้ตุ๊กตา”เด็กน้อยร้องไห้

            “เดี๋ยวไปซื้อเอาข้างหน้าครับ ไม่ร้องน้า”ผมขับไปปลอบไป ไอ้เตี้ย...เอนเบาะลง เปิดลิ้นชักหยิบแว่นออกมาสวม หันไปมองนิดนึง เพราะน่ารักดี

            “ม่อนอยากได้”

            “ครับๆ”ดูท่าไม่ค่อยดี เพราะเลม่อนงอแงมากกว่าปกติ...ขับมาได้ร้อยกว่าโลก็ยังไม่ยอมนอน จนไอ้เตี้ยก็เริ่มหงุดหงิดอีกคน เลยต้องแวะปั๊ม...

            “เอามันไปทีดิ๊ น่ารำคาญที่สุด!!! บอกแล้วว่าอย่าพามันมา!!!!”แล้ว พี่เขาก็เดินหน้าเชิดเข้ามินิมาร์ทไปเลย เจ้าตัวเล็กมองงง ๆ ผมอุ้มเลม่อนเดินมาตาม ไอ้เตี้ยกำลังเลือกขนมอยู่...เลยวางเลม่อนให้เดินเอง แล้วเดินไปถือตะกร้าจากมัน

            “กินนมเปรี้ยวไหม”เตี้ยมันถาม ก่อนหน้านี้ผมบอกมันว่าท้องไม่ค่อยดี...ดีใจที่มันจำได้และใส่ใจผมมากขึ้น

            “อือ”เดินไปหยิบให้

            “เอาให้น้องด้วย”ผมบอก ไอ้เตี้ยหน้ามุ่ย

            “ตลอด!!!!”ผมหัวเราะเมื่อเห็นมันเดินไปหยิบให้

           

            โครม!!!

            “ว้าย”

            เสียงโครมดังพร้อมเสียงคนร้องขึ้น ผมกับไอ้เตี้ยรีบมองหาเจ้าตัวเล็กพร้อมกัน...เห็นเลม่อนนั่งลงไปกับพื้น ละเลงน้ำแดงที่พื้นเล่น หญิงสาวคนหนึ่งยืนหน้าไม่พอใจอยู่ข้าง ๆ

            “ลูกคุณรึเปล่าคะ ดูแลลูกหน่อยนะคะ!!!!!!”เธอด่า ก็สมควรเพราะชุดที่ใส่อยู่เป็นรอยน้ำแดงราดยาว

            “ขอโทษครับๆ”ผมก้มหัวขอโทษแม้จะดูแล้วอีกฝ่ายอายุน้อยกว่ามากก็ตาม

            “ขอโทษแล้วมันหายไหม เลี้ยงลูกยังไง...ปล่อยให้เด็กวิ่งเข้าในนี้!”

            “โทษทีนะครับ เดี๋ยวค่าชุดผมจ่ายค่าซักให้...ขอโทษทีนะ”ผมหันไปขอโทษพนักงานอีกที แต่เธอคนนั้นยังไม่จบ

            “คิดว่าขอโทษง่าย ๆ แบบนี้แล้วจบหรือไง”

            “แล้วจะเอายังไงละครับ ผมบอกว่าจะจ่ายค่าซักชุดให้”ผมชักหัวเสีย อุ้มเลม่อนออกมายืน ตัวน้องก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนนี้ ออกจะเละกว่าด้วยซ้ำ เพราะลงไปละเลงเล่นกับพื้น

            “จ่ายค่าเสียหายมาห้าพัน”เธอว่า

            “เหอะ!”ไอ้เตี้ยทำหัวเราะ

            “จะบ้าเหรอ ชนน้ำหกแค่นี้จะมีค่าเสียหาย?”ผมหัวเสีย

            “ก็ฉันได้รับความเสียหาย!!!!”

            “นอกจากชุดผมก็ไม่เห็นว่าคุณจะบาดเจ็บตรงไหน????”ผมถาม เธอเงียบ...

            “งั้นฉันจะไปแจ้งความ”

            “.............................................”ผมเงียบบ้าง

            “โอเค เจอกันโรงพัก....”ไอ้เตี้ยบอก อุ้มเลม่อนขึ้นมาโดยไม่สนว่าจะเปียกและเลอะตัวเองแค่ไหน

            “น้องคิดค่าน้ำกับค่าทำความสะอาดมาเลย พี่จ่ายให้เอง”มันพูดยืนถือกระเป๋าตังค์ที่หน้าเคาท์เตอร์ ผู้หญิงตรงหน้ายืนกรี๊ด ๆ อยู่ สักแปปก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ลากผู้หญิงคนนั้นออกไป...แต่ไม่ยอมและขืนตัวไว้

            “ป่ะติณฑ์เอาม่อนไปเปลี่ยนชุด ว่าไง? จะโรงพักไหนอะไรยังไง!!!”ไอ้เตี้ยทำหน้ายียวน

            “พวกแกเล่นรุมฉันเหรอ?????”อ้าว เป็นงั้นไป...เหมือนว่าผู้ชายที่มาใหม่จะรู้จักกันหรือไงไม่ทราบ เท่าที่ดูเหมือนคนทะเลาะกันเลย

            “พี่คะ อย่ามีเรื่องกันในนี้เลยนะคะ เดี๋ยวหนูโดนผู้จัดการด่า”น้องพนักงานพูดผมพยักหน้ารับคำ จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากมีเรื่องสักเท่าไหร่

            “อ้าวอีนี่!!!! เข้าข้างกันเหรอ!!!!”เธอปรี่เข้าไปจะไปหาพนักงาน ผมเลยเอาตัวเองบังไว้ ไม่คิดว่าเรื่องทำน้ำหกแค่นี้จะเป็นประเด็นใหญ่ไปได้

            “หยุด!!!!! กลับ!!!!”ผู้ชายคนนั้นลากผู้หญิงออกไป เลม่อนมองตกใจตัวสั่นในอ้อมอกอา ก่อนออกไปยังมิวาย...คว้าแผงขนมล้มอีกสองสามแผง

            “คนบ้าเปล่าว่ะ!!!”ไอ้เตี้ยบ่น กอดเลม่อนไว้แนบอก ผมเห็นแล้วแต่ไม่พูดอะไร...หันมาทางพนักงาน

            “คือทีแรกน้องเขานั่งดูหนังสืออยู่ค่ะ แต่พี่ผู้หญิงคนนั้นเขาเดินมาสะดุดน้องเอง”พนักงานเล่า แล้วทำไมไม่พูดแต่แรก ไอ้เตี้ยยิ้มแสยะ

            “น่าตบจริงๆ”ผมส่ายหน้า บอกขอบใจพนักงาน...จ่ายเงินทุกอย่างแล้วพากันเดินออกมา

            “ตัวเหนียวเลย”เตี้ยบ่น ผมเปิดท้ายรถหยิบเสื้อให้มันเปลี่ยน พร้อมเสื้อผ้าเลม่อน

            “เอาน้องอาบน้ำที่นี่เลยดีกว่า ไม่งั้นเหนียวแน่ๆ”ผมบอก มันเห็นด้วยพยักหน้า...เป็นคนอุ้มเลม่อนไปอาบน้ำด้วยตัวเอง สงสัยลืมตัว...หึหึหึ ผมแกล้งทำเป็นจัดรถโน่นนี่ รอมันใช้น้ำจากอ่างล้างหน้าล้างตัวให้เลม่อน แล้วอุ้มกลับมาที่รถ

            “หนาว ม่อนหนาว”เลม่อนยิ้มกว้าง กอดเตี้ย...ชอบจริง ๆ ได้ลงน้ำ ผมรับช่วงต่อเนียน ๆ เอาผ้าเช็ดตัวให้แล้วใส่เสื้อผ้า

            “เตี้ย...น้องมีรอยข่วนด้วยนี่หว่า”ผมพลิกแขนดู เหมือนเป็นรอยเล็บ...ซึ่งผมกับไอ้เตี้ยไม่ใช่แน่ ๆ เพราะไม่มีเล็บ อีกทั้งรอยยังสดใหม่ เหมือนเพิ่งโดน...ไอ้เตี้ยดู

            “เจ็บ”น้องร้อง ผมกับไอ้เตี้ยมองหน้ากัน

            “อินั่นแน่เลย”มันด่า...ผมถอนหายใจ กลั้นอารมณ์...ผู้หญิงอะไรว่ะ น่าตบชะมัด

            “ไปเลย ๆ มึงลงไปหามันเลย เอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด”ไอ้เตี้ยบอก

            “จะไปหาที่ไหน ป่านนี้ขับรถไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”ผมบอก

            “แม่ง!!!!!!!!”อ้าว...เหวี่ยง ใส่กูอีกอะไรว้า...ผมไม่พูดอะไร ก่อนอารมณ์จะคุกกรุ่นกันไปมากกว่านี้ เอานมกล่องใส่ขวดให้เลม่อน ให้น้องดูดนอน...เหมือนลูกลิงเลยมันนอนซบอกไอ้เตี้ยแบบนี้

            “แวะกินข้าวก่อนไหม”ผมถาม

            “อือ”

            โอเค...กินข้าวแล้วอาจจะอารมณ์ดีขึ้น ผมขับรถไปเรื่อย ๆ กะว่าจะหาร้านระหว่างทาง ที่พอจะนั่งทานได้บรรยากาศ และรอให้เลม่อนตื่นมาอีกรอบหนึ่งก่อนด้วย เด็กน้อยตาปรือแย่แล้ว...ส่วนคนโตให้ทานขนมเล่นไปก่อน กว่าจะถึงร้านก็อีกชั่วโมงกว่าต่อมา...

 


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อื้อหือ.....มาแบบยาวจุใจมาก
ยังไงนาวก็ยังเป็นนาว บางครั้งนึกสงสารคนรอบข้าง เมื่อไรจะโต
เลม่อนน่ารักมาก

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ตามใจจนจะเสียคนอยู่แล้วนะเนี่ย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โคตรยาวๆๆๆๆๆ...ค่าที่หายไปนานใช่ไหมนี้ :pig4:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
นาวไม่รู้จักโตนะคะ เลี้ยงมาแบบผิดอ่ะ ไม่มีวุฒิภาวะ คนอะไรอิจฉาหลาน จริงๆพอมาถึงจุดนึง ความรักต่อหลานมันต้องมีในฐานะลูกคนของพี่หรือน้องที่เรารัก แถมหน้าตาเหมือนเราอีก สายเลือดเดียวกันแท้ๆยังมีอิจฉา

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
เลม่อนน่ารักต้องชนะใจนาวได้แน่  คึคึ

ออฟไลน์ minah_naja

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มะนาวเอาแต่ใจมากกกกกก
อยากเห็นตอนเจอกับบุ้งอ่ะ
บ้านพังเปนแถบๆแน่งานนี้ :hao7:

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เลม่อนนนนนนนนน :mew1:

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
สงสัยอย่าง ทำไมทิ้งเลม่อนให้อาล่ะ อีกหน่อยก็ต้องแยกกันนี่นา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด