Re: [ Will You Be Mine ♥♥♥ คุณครับ...ผมรักมาก ] ตอนที่ Specialแยม 14/02/60 P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: [ Will You Be Mine ♥♥♥ คุณครับ...ผมรักมาก ] ตอนที่ Specialแยม 14/02/60 P.17  (อ่าน 438008 ครั้ง)

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
เห็นด้วยว่านาวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต
สารภาพว่าบางครั้งอ่านไปก็แอบหงุดหงิดกับนิสัยนาวนะ

ออฟไลน์ Eshardy

  • "ไม่พูด...ไม่ได้แปลว่า...ไม่รู้สึก"
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-3
อ่านทันสักที 

มะนาว เหมือนเด้ก ไม่้โต

แต่ก็ น่ารักนะ   

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ตามอยู่จ๊าาาาาา  นาวเอาแต่ใจจัง

แต่ก็เข้าใจนะ อิคุณติณก้ผีเข้าผีออกด้วย

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
ขอบๆ อยากอ่านต่อแว้ว ชอบนิสัยเด็กๆของนาว ~(*+﹏+*)~

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เลม่อนน่ารักมากเลย นาวต้องหลงหลานแน่

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
มาแบบยาวๆอีกแล้ว อ่านจนเหนื่อยแต่ชอบ :hao3:
อ่านแล้วก็หมั่นเขี้ยว ขออนุญาติพี่ติณห์อย่างหนึ่งได้ไหม
ขอตีน้องนาวสักทีเถอะ งอแงและเอาแต่ใจน่าดูเลย
ตอนว่าง่ายตอนขี้อ้อนก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ตอนดื้อนี่สิ
เป็นคนที่ไม่มีที่ว่างให้กับความผิดหวังในทุกๆเรื่อง
ทั้งๆที่น้องนาวเป็นคนที่น่าอิจฉามากๆในสายตาคนอื่น
สงสัยต้องให้พี่ติณห์อบรมกันอีกยกใหญ่ซะแล้ว
จะได้กลายมาเป็นน้องนาวที่น่ารักที่ทุกคนเอ็นดูจริงๆ
ถ้ารอให้ครอบครัวเป็นคนจัดการคงจะไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะทุกคนกลัวน้ำตาน้องนาวกันทุกคน :mew5:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
นาวไม่เหมือนคนอายุยี่สิบอะ น่าเตะจริงๆ  :katai5:

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :กอด1: สนุกจังงงงงงงง

 o13 มีครบทุกรสชาดเลย อ่านยาวจนตาแฉะ...น้ำตา มีทำเอาเราร้องให้ตามเลย

เลม่อนกะอานาวน่ารัก 5555 แสบเจอแสบกว่าแน่ๆ รออ่านต่อน่ะค่ะ

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 61 สามัคคี


[ติณฑ์]


            ฝาก เลม่อนไว้กับไอ้เตี้ยและแม่ ส่วนตัวผมออกมาที่ไร่ เพราะพ่อชวนให้มาดูที่ดินที่จะเอาไว้ปลูกบ้านให้รับขวัญหลาน ไอ้เตี้ยยังไม่รู้นะเนี่ย...ถ้ารู้มีหวังบ้านแตก โทรบอกมิกกี้แล้วกำลังบินกลับมา...และคงตามมาที่นี่พร้อม ๆ กับพี่บุ้ง คราวนี้คงได้เจอกันตัวเป็น ๆ สักที ผมยังแอบหวั่น...ไอ้เตี้ยมันจะอะไรอีกรึเปล่า เท่าที่เป็นอยู่มันก็ดีขึ้นอย่างมาก ๆ แล้ว
            ที่ดินขนาดกว้างถูกรถขนดินและรถไถกลบหน้าดิน เรียกว่าดำเนินการได้ค่อนข้างเร็ว...คงเพราะทางนี้ก็อยากเอาหลานมาไว้อยู่ เหมือนกัน คุณพ่อชี้ให้ดูที่ดินที่จะแบ่งให้ลูก ๆ แต่ไม่มีส่วนแบ่งของสองสาม ต้มหอมและขิง...ผมถามว่าทำไม พ่อบอกว่าสองคนคงให้ที่ดินในเมือง เพราะเป็นผู้หญิง...แต่ถ้าอยากได้ก็จะแบ่งให้ อาจจะน้อยกว่าลูกชายทั้ง 3 คนหน่อย
            ท่านบอกผมอีกว่า...ในบรรดาลูกทั้งหมด คงจะให้ฟ้าเยอะหน่อย...เพราะช่วยงานไร่มาตั้งเยอะ ที่ดินพัฒนาไปมาก บุ้งก็มีงานประจำทำอยู่มีเงินเดือนที่ดีมากแล้ว ต้นหอมกับขิงก็กำลังจะเรียนจบ...จะห่วงก็แต่ลูกชายคนเล็ก ผมยิ้ม...ตอบท่านไปว่า ผมจะดูแลให้ดีที่สุด
            “ฝากด้วยนะ น้องมันดื้อ”พ่อบอก ผมยิ้มให้...รับปากไปแล้ว มั่นใจด้วยว่าทำได้แน่นอน
            “ทำบ้านให้บุ้งเสร็จ อยากได้ให้ไอ้มะนาวบ้างไหมล่ะ”พ่อถาม ผมส่ายหน้า
            “ยังไม่รู้เลยครับ...บางทีอาจจะต้องไป ๆ มา ๆ ถ้าน้องเรียนจบ”ผมตอบ บ้านใหญ่ที่อยู่ปัจจุบัน...ท่านบอกแล้วว่าจะยกให้เป็นส่วนรวมของลูก ๆ จะปลูกบ้านใหม่ให้นายฟ้า...รายนั้นก็บอกไม่ต้องยุ่ง เขาอยากทำของเขาเอง
            “ดูน้องให้ดี ๆ หน่อยนะ ยังไงพ่อก็อยากให้เรียนจบก่อน อย่างพี่ ๆ ก็ปริญญาโท ปริญญาเอกกันทั้งนั้น อ่อ...นายฟ้าจบแค่ตรี เพราะมาช่วยทำงานก่อน”
            ผมเดินคู่ท่าน...มีลูกน้องเดินตามอีกหลายคน
            “แต่นายฟ้าหัวไว...จบแค่ตรี แต่เก่งรอบด้าน”
            “ครับ”เจ้าตัวไม่อยู่ แต่คงดีใจ...
            “ฝากพ่อติณฑ์ช่วย ๆ น้องหน่อย บางทีพ่อก็อยากให้ไปเรียนต่อเหมือนพี่ๆ มัน แต่ดูมันสิ...ไม่รู้จะดูแลตัวเองได้หรือเปล่า”พ่อบ่น
            ผมเข้าใจท่านนะ...ลูกคนเล็ก มีคนทำอะไรให้ทุกอย่างเลย เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กจนโต นี่เขาก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมันละ มีแต่มัน...ที่ไม่ยอมเข้าใจสักที
           
            หลังจากนั้นจึงเดินกลับมาที่บ้านคนเดียว เห็นบ้านเงียบ ๆ คิดว่าไม่มีคน...แต่ไอ้เตี้ยกับเลม่อนนั่งห่างกันคนละที่ ด้วยความที่อยากแกล้ง จึงทำเสียงดังใส่
            “ทำอะไรกันอ่ะ!!!!”สองคนสะดุ้งพร้อมกัน ผมหัวเราะ...
            “..............ย”ไอ้เตี้ยด่า
            “กินข้าวกันยัง? ทำอะไรครับ”ผมอุ้มเลม่อนขึ้นมา แต่เจ้าตัวเล็กดิ้น ๆ จะลง...เลยต้องวาง มันวิ่งไปนั่งตักไอ้เตี้ย ซึ่งนั่งทำหน้าหงุดหงิด
            “ที่นั่งตั้งเยอะ!”ผลักน้องออก
            “งืออออออออ”
            เอ๋....รู้สึกแปลก ๆ นะ ผมจ้องทั้งสองคน...
            “เตี้ย”เรียกคนโต
            “ไร”ไม่ยอมสบตา เหมือนคนมีความผิด...สีหน้ามันจะออก
            “ทำอะไรกัน...ทั้งสองคน”ผมถาม
            “ทำอะไร ก็เห็นอยู่ว่าดูทีวี”มันเถียง โอเค ๆ ไม่บอกก็ไม่บอก...ไม่ถามเซ้าซี้ต่อ ผมเดินมานอนราบกับโซฟา
            “ไปไหนมา”มันถามขึ้นบ้าง
            “พ่อพาไปดูที่ จะปลูกบ้านให้พี่บุ้งมึงนะ”ผมบอกเรียบ ๆ ที่พูดออกไปก็รอฟีดแบ๊กกลับอยู่แล้ว เตรียมพร้อมรับมันอาละวาดเต็มที่
            “บ้านใคร!!!!! บ้านอะไร!!!!!!!!!”มันโวยวาย
            “บ้านไว้ให้เลม่อน น้องอาจจะต้องมาอยู่ที่นี่”
            “ไม่ให้!!!!! พ่อจะสร้างให้ทำไมอ่ะ!!!!!!!!”
            “เตี้ย!”รู้ว่าโมโห...แต่บางทีมันก็น่าตี มันคลานมาบิดหู...
            “โอ๊ยเจ็บ!!!! อะไรเนี่ย!!!!”มองหน้ามัน เบะปากละ...คว้าตัวเข้ามากอด ยังไงก็เด็กละว่ะ...ไอ้เด็กขี้หวง ผมรู้ว่าตอนนี้มันคงรู้สึกไม่มั่นคงอย่างสุด ๆ
            “โตแล้วไม่ใช่เหรอ”
            “แล้วไง”หน้างอสุด
            “พ่อจะสร้างให้มึงด้วย แต่กูบอกว่ารอเรียนจบก่อน...เพราะพ่อกูก็จะทำบ้านให้ใหม่เหมือนกัน”
            “แล้วบ้านมึง?”มัน ถามเสียงอ่อน รู้ว่ามันก็รักบ้านผมมาก...เราสองคนคล้าย ๆ กันตรงที่เป็นคนติดที่ อยู่ไหนแล้วสบายใจ ก็มักจะไปคลุกอยู่แต่ตรงนั้น อีกอย่าง...บ้านก็ติดกับบ้านน้องเจ ถ้าจะย้ายออกมันก็คงเสียใจ ไม่ได้มีเพื่อนให้ข้ามรั้วไปเล่นอีก
            “พ่อจะให้น้ำตาล แต่คงสร้างรั้วเดียวกันนั่นแหล่ะ”ผมรีบบอก อนาคตพวกนี้...ผมก็คุย ๆ กับครอบครัวบ้าง ไม่ใช่เด็กอายุยี่สิบที่จะคบกันเรื่อยเปื่อย ไม่คิดถึงวันข้างหน้าบ้าง
            ผมคว้ามันมานอนกอด...เลม่อนก็เดินตามมา
            “ไว้ค่อยคิด ว่าอยากอยู่ที่ไหน...”
            “งานมึงอีกอ่ะ”มันทำหน้ายุ่ง
            “อือ ถ้าอนาคต...เราอาจจะต้องแยกกันอยู่....”
            “ไม่!!!!!!!!!!!”มันเถียงขึ้นมา เลือดงี้ขึ้นหน้า...เลม่อนก็สะดุ้ง
            “โอเค ๆ ไว้ค่อยคิด”ผมตบหลังมัน  ที่คิดไว้แล้วว่าบางทีมันคงจะกลับมาอยู่บ้าน ช่วยงานที่บ้าน...ส่วนงานของผมก็คงจะยังอยู่กรุงเทพฯ เราไม่ได้เลิกกัน...เพียงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องดูไอ้เตี้ยเป็นหลัก...
            “ทิ้งกูมึงตาย!!!!!” ผมหัวเราะร่วน
            “ใครจะกล้าทิ้งว่ะ...แสนดีขนาดนี้”แกล้งชม แต่ไอ้เตี้ยยิ้มกริ่มภาคภูมิใจไปละ กร๊ากกก กบ้ายอนี่หว่า
            “มานี่เลม่อน”ผมอุ้มเลม่อนมานั่งพุง
            “ม่อนวันนี้นาวแกล้งรึเปล่า”ผมถาม น้องมองตาแป๋วโตสุกใส
            “แกล้ง”
            “อ้าว ไอ้เว.....”
            “บอกว่าอย่าพูดไม่เพราะกับน้อง”ผมทำหน้าขู่ ไอ้เตี้ยเบ้ปาก...หนุนแขนผมนอน
            “แกล้งยังไง”
            “แกล้งตี”
            “ตอนไหน!!!!!!!!!!!!!!”คนโตตวาดน้อง
            “เตี้ย”
            “มันโกหกอ่ะ เป็นเด็กเป็นเล็ก...เดี๋ยว ๆ โดนจับฟาด”
            “โหดตลอด ทำลงเหรอ?”
            “!@#$%^&*()_+#$%^&*()_+”ขมุบขมิบปาก ผมหัวเราะ
            “นาวแกล้งม่อน เจ็บ”
            “เหรอครับ แกล้งตรงไหน”เลม่อนจับแขนตัวเอง ไอ้เตี้ยตีอกผม...เป็นเชิงว่าห้ามเชื่อ ผมหัวเราะ
            “เพี้ยง....ตรงไหนอีก”เลม่อนชี้ไปทางอื่น
            “ไม่ใช่ ๆ เลม่อน นาวตีม่อนตรงไหน”น้องเหมือนจะมองหาอะไร...ไม่รู้ ไอ้เตี้ยลุกขึ้นนั่ง
            “มา ๆ  ๆ มาเล่นนี่...เพ้อเจ้อไปละ”จับเลม่อนลง...เอาของเล่นให้เล่น ตัวมันก็ย้ายลงไปนอนที่พื้น ผมนอนตะแคงมองทั้งคู่อย่างงง ๆ
            “มีอะไรกัน?”
            “อะไรเล่า”
            “อย่าให้รู้นะ...ทำอะไรน้อง”ผมคาดโทษ นี่อยู่บ้านพ่อบ้านแม่ผมก็ตีได้เหมือนกันนะ ถ้ามันทำผิด
            “โว๊ะ....บ้าบอ”โมโหกลบเกลือน หึหึหึ...อย่าให้รู้ ๆ
           
            “แม่ไปไหน”
            “รีสอร์ต”มันบอก ผมพยักหน้า...ลุกขึ้นนั่ง เพราะเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
            “หิวข้าว”
            “ไม่มีอะไรกินอ่ะ”มันบอก หิว ๆ เดินมาเปิดตู้เย็นสำรวจว่าพอจะมีอะไรทำกินได้บ้าง ของกินเพียบ...เลม่อนกับเตี้ยเดินตามเข้ามา
            “เตี้ยระวังน้องไปกด...ปุ่มเตาอบ”ผมเตือน
            “มานี่ ไอ้เตี้ย”มันอุ้มเลม่อนขึ้น นั่งบนโต๊ะวางของทำกับข้าว
            “นั่งดี ๆ”
            “ม่อนอยากกินแซลม่อน”
            “แพงนะ หัวสูงจริงๆ”อานาวบ่น ผมหัวเราะ
            “หัวสูงเหมือนอานาวเลยยยยยยย”
            “ไอ้เ........ย”มันด่า
            “มีแซลม่อนด้วยนี่”
            “แม่ย่างเกลือไว้”มันบอก
            “ข้าวผัดแซลม่อนดีกว่าเนอะม่อน”ผมวางวัตถุดิบ
            “เผื่อด้วยนะ”มันบอก ผมหันมา...แล้วจุ๊บปากมันอย่างเร็ว ไอ้เตี้ยเม้มปากหน้าแดง ส่วนเลม่อนมองอย่างงง ๆ
            “อือ....”หันหลังหนี ไม่อยากมองหน้าเด็กขี้อาย...
            “นาวของม่อนนะ!!!!!”เด็กน้อยตวาดกอดแขนอาอย่างเหนียวหนึบ ผมหันมาหัวเราะ
            “นาวของติณฑ์”ผมแกล้ง
            “ของม่อน!!!! นาวของม่อน!!!!!!!!”เด็กน้อยแผดเสียง ซึ่งผมไม่ชอบ
            “อ่ะ ๆ ของม่อนๆ”ยกให้คนนึง ไอ้เตี้ยยิ้ม
            “คนมันฮอตอ่ะนะ...เด็กเลยรักเลยหลง”มันโอ่ท่าทางน่าหมั่นไส้มาก
            “แล้วมึงละ”ผมหันไปถามมัน
            “ทำไม?”คนขี้โอ่มองอย่างสงสัย
            “แล้วมึงละ หลงรักเลม่อนไปรึยัง”
            ฮ่าฮ่าฮ่า มันแยกเขี้ยวใส่....จะปล่อยเลม่อนก็ไม่กล้า เพราะตกโต๊ะแน่ ๆ ผมหันไปทำอาหารตรงหน้าตัวเองต่อ...โดยมีสองคนยืนให้กำลังใจ
            “จุ๊บม่อนบ้าง”เลม่อนยื่นหน้าไปหาเตี้ย มีสะกิด ๆ ด้วยนะ ผมหัวเราะ
            “อะไรเล่า! เด็กนี่ปีนเกลียว”
            “หึหึหึ จุ๊บน้องหน่อย...นี่ ๆ ม่อนดู”ผมจับแก้มไอ้เตี้ยแล้วหอมดังฟอดดดดดดด เลม่อนลุกเลยครับ ยืนบนโต๊ะเลย...ไอ้เตี้ยมันก็จับเลม่อนไว้อยู่อ่านะ
            “ม่อนหอมนาวๆๆๆ”น้องร่ำร้อง ไอ้เตี้ยถลึงตาใส่
            “มาๆ ม่อนหอมข้างนี้ ติณฑ์หอมข้างนี้”ผมบอก
            “ทะลึ่งละ ๆ ไปทำกับข้าวดิ๊”มันฝืนตัวหนี
            “เอาน่า ครั้งเดียวจะรีบทำให้อร่อยเลย มีเกี๊ยวด้วย...ไส้กรอกก็มี”เอาใจสุด ๆ ไอ้เตี้ยมองชั่งใจ...
            “ไม่รู้ว่า เสร็จจากที่นี่แล้ว...มิกกี้จะพาเลม่อนกลับเยอรมันเลยหรือเปล่า”ผมบิ้ว อารมณ์ ไอ้เตี้ยแสดงสีหน้าตกใจออกมา เหมือนตอนมันเผลอ  ๆ พอนึกได้ก็ทำสีหน้าเรียบ ๆ แต่ความอยากรู้มันปกปิดไม่มิด
            “ไหนว่าจะมาอยู่ที่นี่”
            “ก็ต้องกลับไปทำเรื่อง คงอีกนานแหล่ะ...เป็นปี”
            “ห๊ะ!!!! ปีหนึ่ง!!!!”มันตกใจ อ้าปากค้าง
            “อือ มาถ่ายรูปกันเถอะ...เดี๋ยวก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
            “ม่อนอยากจุ๊บนาว”เลม่อนอ้อนอีก ระหว่างที่มะนาวเอ๋อ ๆ ผมคว้าโทรศัพท์ออกมา...เลม่อนจุ๊บข้าง ผมจุ๊บอีกข้าง...ไอ้คนตรงกลางหน้ายังเหวอดูตลก
            “ถ่ายอีกๆ”ผมบอก กดไปหลายรูป...น่ารักดี
            “อย่าคิดมาก”ตบบ่าและหัวเราะ...เก็บโทรศัพท์
            “หึ! แล้วมาพูดให้กูคิดทำไม”มันเพิ่งรู้สึกตัว
            “อุ๊ยตาย...มึงคิดมากเรื่องน้องจะกลับบ้านด้วยหรือไง”ผมแซว ทำท่าทางเป็นตุ๊ด...ไอ้เตี้ย ทำหน้าเหวอถูกจับได้
            “อะไร!!!! ใครคิดมาก!!!! จะ กลับก็กลับไปดิ”มันพูด...เลม่อนนี่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยยยยย จะกอดนาวอย่างเดียว...นี่ตัวแค่นี้ผมยังพอให้อภัยนะ ขืนมันโตกว่านี้แล้วยังทำแบบนี้...คงได้มีเรื่องกันแน่ ๆ


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



            ทีแรกพ่อกับแม่จะเอาเลม่อนไปนอนด้วย ติดที่ว่าไม่สามารถแยกน้องจากไอ้เตี้ยได้จริง ๆ แม้ผมจะพยายามกล่อมอีกแรง เลม่อนติดเตี้ยมาก...ระยะหลัง ๆ มา มันนอนกอดกันทุกคืน...ผมไม่ได้แซวมันเรื่องนี้ เพราะกลัวถ้าพูดปุ๊ป ไอ้เตี้ยมันจะตีตัวออกห่างทันที นิสัยมันก็แบบนี้ไม่เหมือนคนอื่นอยู่แล้ว
            “ทานเยอะ ๆ”ย่าพูด อาหารเย็นวันนั้น...ทุกคนสดชื่นมาก หลานคนโตก็ทานอาหารได้เยอะ
            “แม่ตักให้หนูเยอะ...”
            “ผอมจะแย่แล้ว กินแต่อาหารไม่มีประโยชน์”
            “ด่าติณฑ์เลยดิ มันทำให้หนูกินทุกมื้อ”
            “ยังจะเถียงนะมะนาว ทำไมเป็นเด็กแบบนี้นะ”แม่เป็นคนแกะปลาสลิดวางใส่จานให้มัน ถึงมันจะบ่นแต่ก็ไม่กล้าเขี่ยออก ผมตักอาหารใส่ปากเลม่อนบ้าง ตากับยายก็ปรบมือใหญ่
            “บุ้งจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ”ตาถาม ทุกคนเงียบกริบ
            “สองสามวันนี้...”พ่อตอบ คือมันเป็นเรื่องที่มันต้องรู้และทุกคนก็ไม่ปิดบังอะไรมันอีกแล้ว ที่เหลือรอพี่บุ้งของมันกลับมาจัดการ เท่าที่ผมทำให้...คิดว่าน่าจะได้ผล
            “แม่ยังกล้านับเขาเป็นลูกชายอีกเหรอ”เตี้ยถาม ทุกคนมองหน้ามันงง ๆ
            “หนูไม่นับเขาเป็นพี่ชายอีกแล้ว...บอกไว้เลย”ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ เด็กน้อย...พูดแล้วทำให้จริงด้วยเถอะ ทุกคนก็เหมือนจะไม่ใส่ใจคำพูดมันเหมือนกัน
            “จริง ๆ นะ คอยดูไว้เลย”
            “จ๊ะๆ ตอนนี้ทานเยอะ ๆ ก่อน”แม่บอก
            “แม่!  บอกแล้ว~~~!!!”
            “ม่อนชอบปลา ม่อนชอบ”เลม่อนชี้ปลาในจานตัวเอง ทำหน้าชอบใจ
            “เหอะ กินปลาจะได้ฉลาด ๆ มั่ง...ไม่โงงงงงงง่”
            “มะนาว!”พ่อเอ็ด บอกแล้วให้พูดกับน้องเพราะ ๆ
            “พ่อก็ดูมันดิ ชอบทำหน้า...!”เลม่อนกระพริบตาปริบ ๆ เหมือนจะรู้ว่าโดนเตี้ยมันด่าอีกแล้ว
            “ม่อนคิดถึงแดดดี้”อ้าว...ไปคนละเรื่องเลย
            “กินก่อน ๆ นะครับ เดี๋ยวติณฑ์พาไปหาแดดดี้”ผมหลอกล่อ...น้ำตาเด็กน้อยไหลพราก
            “ม่อนอยากหามามี๊”
            “ครับ ๆ นี่อยู่กับนาวไง...ม่อนบอกรักนาวไม่ใช่เหรอ”ผมเบี่ยงเบนความสนใจ
            “เหอะ เด็กเว......”
            “นาว!!!”แม่เรียกเสียงต่ำ ไอ้คุณอาเงียบปาก...ทำงุบงิบ ตักอาหารในจานตัวเองทาน
            “ดื้อเหมือนอาเลยนี่หว่า ถอดกันมาเลย”ปู่พูด
            “ไม่เหมือนหรอก...ยี้”
            “ม่อนรักนาว”ม่อนพูดกระพริบตาทีน้ำตาก็หยดติ๋ง แสดงใช่ไหม!!!
            “ครับ ๆ กินให้หมดก่อนนะ...”กว่าจะป้อนหมดจาน...คิดถูกจริง ๆ ที่ไม่แต่งงานกับผู้หญิง แล้วมีลูกด้วยกัน
           
            หลังจากอาหารเย็น...ผมใช้เวลากับครอบครัวไอ้เตี้ยอีกหน่อย นั่งคุยเรื่องข่าวสารบ้านเมือง และธุรกิจที่ทำ ได้ความรู้ใหม่ ๆ นายฟ้าแวะเอาน้ำมะพร้าวสดมาให้ เล่นอยู่กับหลานเล็กสองสามที จนคนโตหน้างอ...ต้องบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวน้ำตก ถึงจะยอมคุยกับนายฟ้าดี ๆ
            “ง่วง”ไอ้เตี้ยบอก
            “ง่วงก็พาพี่ขึ้นไปนอน มาเหนื่อย ๆ ยังไม่ได้พักกันเลยวันนี้”แม่บ่น
            “ป่ะ”ผมอุ้มเลม่อนขึ้นเดินตาม
            “อาบน้ำกันไป...”สองคนเดินเข้าห้องอาบน้ำ ผมเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้...ได้ยินเสียงอาบน้ำ ปกติก็ไม่ได้ห่วงอะไร...พอดีกับจะเอาไอแพดมาเล่นรอฆ่าเวลา นึกขึ้นได้ว่าอยู่ข้างล่าง...ต้องเดินลงมาเอา
            หิ้วกระเป๋าใหญ่มาสองใบ ไอ้เตี้ยอุ้มเลม่อนมานอนแผ่กลางเตียง แต่งตัวให้ตัวเอง...ผมกลัวน้องจะหนาวเลยต้องรีบเช็ดตัวแล้วทาแป้ง แต่งตัวให้...
            “ม่อนกินนม”
            “ครับ ๆ / เตี้ยไปเอาน้ำอุ่นใส่ขวดดิ๊”ผมสั่ง
            “เรื่อง! ขี้เกียจเดินละ!”
            “ใช้แค่นี้เอง...กูจะอาบน้ำ”ผมทำเสียงสั่ง มันเดินกระทืบเท้าถือขวดนมเดินลงไป
            “ม่อนนอนรอนาวน้า ติณฑ์อาบน้ำก่อน”เลม่อนพยักหน้า...ใช้เวลาอาบไม่ถึง 10 นาที ผมก็เดินใส่บ๊อกเซอร์ออกมา นั่งลงหน้ากระจก มีแต่ของใช้ไอ้เตี้ยอยู่เต็มโต๊ะ
            “ทาแป้งให้หน่อย”ผมบอกไอ้เตี้ยที่เดินเข้ามาในห้อง เอานมไปส่งให้เลม่อน...
            “เรื่อง เหนื่อย...จะนอน!”
            “ทาให้หน่อย ทาไม่ถึง”
            “สั่งจังเลยนะ!!!”
            “ทำให้ได้ไหมละครับ”ผมถามกลับ มันคว้าขวดแป้งไป...แล้วเอาตบหลังผม คาดว่าต้องขึ้นรอยมือแน่นอน
            “เจ็บนะครับเตี้ย~”
            “คริคริคริ”มันหันไปหาเลม่อนแล้วหัวเราะ ชอบจังเลยนะ...รังแกคนอื่นเนี้ย ผมหันตัวคว้าเอวมันมานั่งตัก
            “อืออออ มันมองอยู่”
            “ม่อน ๆ”ผมเรียก จับแก้มนาวหันแล้วจุ๊บ เลม่อนหน้าบึ้งร้อง “อือออออ” ผมจุ๊บอีกที
            “อือออออออออออออออ”ลุกเลยครับคราวนี้ ถึงขนาดจะกระโดดลงจากเตียง
            “เออ ๆ ไม่ให้จุ๊บแล้ว”ไอ้เตี้ยบอก เดินไปอุ้มมันขึ้นไปนอนที่เดิม
            “เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”มันบ่น
            “แล้วหน้าแดงทำไม???”ผมหัวเราะ เดินมาเปิดกระเป๋า...หยิบไอแพดของตัวเองขึ้นมา
           
            เปิดซองหนังขึ้น....แล้วต้องอุทานว่า จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หน้าจอแต๊กกก!!!!! อยากจะร้องให้ตุ๊ดออก
            “เฮ้ยยยยย”ผมมองหน้าสองคน
            “ใคร!!!!!!!!!!!”
            “จ้องหน้ากูไม...กูเปล่า”
            “ไม่ใช่มึงแล้วจะใคร”ผมถามเสียงห้วน
            “อ๊ะ ๆ อย่ามาพูดไม่สุภาพนะ น้องฟังอยู่”ไอ้เตี้ยเถียงกลับ...ห่าน!!!!
            “ใครทำเตี้ย!!!!”ผมจะเหนื่อยใจ
            “น้องทำ????”
            “อือ”ไม่เต็มเสียง
            “ดี!!!! งั้นกูจะเอาไม้มาตีเลม่อน”ผมบอก ทำทีเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าไม้แขวนว่างมาหนึ่งอัน แกะออกให้เป็นไม้ยาว ๆ
            “จะทำอะไรน่ะ!!!!!!!!!!!!!”มันกอดน้องไว้
            “กูจะตีเด็กดื้อ...เลม่อนทำใช่ไหม”
            “งือออออ อย่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
            “อย่าห้าม เด็กดื้อต้องตี!!!!!”
            “อร๊ากกก อย่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กูทำ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”มันรับ...ผมง้างมือค้าง ไม่ได้จะตีจริงนะ...แต่ทำท่าไปงั้น
            “ทำอิท่าไหนมันถึงแตกแบบนี้”ผมถาม
            “ก็หลุดมือ”มันบอกเสียงอ่อย คลานมาหา...กอดคอ
            “ติณฑ์อ่ะ คนเรามันต้องมีอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจกันมั่ง”แก้ตัวให้ตัวเอง
            “กี่ครั้งแล้วที่เล่นแล้วของพัง กูเคยบอกแล้วไง...ให้รักษาของ”มันกอดผม
            “ขอโทษ ๆ นะ”ทำหน้าโคตรอ้อน จะโกรธต่อไหวเหรอ...ผมพยักหน้าเดินถอนหายใจเอาไอแพดไปเก็บ
            “ม่อนเตะแพดกระเด็นเลย คริคริคริ”เลม่อนพูดพร้อมหัวเราะ ไอ้เตี้ยตีปากน้องเบา ๆ     
            “หือ??? ตกลงน้องทำ????”
            “กูทำ”
            โอเค...มันยืนยันว่าอย่างนั้นผมก็ว่าตามนั้น ไม่มีใครรู้นอกจากมันสองคน...แต่ผมดีใจอยู่นิดนึง ที่มันเริ่ม ๆ จะปกป้องคนอื่นเป็นบ้างแล้ว ลงมานอนกอดไอ้เตี้ย อีกฝั่งเอาหมอนกั้นเลม่อนไว้
            “ติณฑ์อยู่กับกูนะ พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปด้วย”มันกระซิบ
            “ครับ”
           

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 62
แลก...ตัวประกัน
[มะนาว]
            ตื่น ขึ้นมา...ก็ไม่เห็นทั้งติณฑ์และไอ้ตัวเล็กอยู่ในห้องแล้ว ดูนาฬิกาก็พบว่าตัวเองนอนตื่นสายมากแล้ว ทีแรกว่าจะนอนต่อเพราะอากาศกำลังดี แต่ก็รู้สึกหิว ๆ เลยเดินลงจากเตียง...อาบน้ำแปรงฟันก่อน เดี๋ยวมันบ่น...พักนี้ยิ่งชอบบ่นมาก ทำตัวเป็นพ่อ...หน้าก็ยิ่งแก่ ๆ
            ผมหยิบน้ำหอมขึ้นมาจะฉีด แต่ก็เปลี่ยนใจอีกที...กลัวไอ้เตี้ยตัวเล็กมันจาม วางก็ดะ...ไม่ใช่อะไร พอมันจาม...ไอ้ติณฑ์ก็ยิ่งชอบมาโทษอีก น่ารำคาญ!
            เปิด กระเป๋าติณฑ์เอาไอแพดมาดู รอยแตกกว้าง...ยังไม่รู้เลยจะซ่อมยังไง เมื่อวานเลม่อนมันเล่นอยู่ผมก็เลยแย่ง แย่งไปแย่งมา...อิตอนเผลอ ๆ เลม่อนยกเท้าเตะ จริง ๆ แรงเด็กมันไม่ได้แรงขนาดนั้นหรอก แต่เพราะผมจับไม่แน่นด้วย ทำหลุดมือ ผลก็คืออย่างที่เห็น...
            เดินลงมาข้างเงี๊ยบเงียบ พี่ฟ้าเดินหน้าบานเข้ามาพอดี ตั้งแต่มีความรักรู้สึกจะไม่ค่อยอะไรกับน้องแล้ว งี้แหล่ะ...เรามันหมาหัวเน่า เห็นแล้วหมั่นไส้
            “ตื่นแล้วเหรอครับบบบบ ทานข้าวหรือยัง”
            “แม่ไปไหน”ผมถาม
            “รีสอร์ตครับ”
            “เค้าหิวข้าว ทำไมไม่มีใครตั้งข้าวให้เค้า!!!”เหวี่ยงเลย หิวอ่ะ
            “ครับ ๆ พี่มานี่ไง....”
            “ติณฑ์ล่ะ???”คือควรจะเป็นมันไหม...ที่ตั้งข้าวให้ผม จึ้ก!!!! ไม่รู้หน้าที่กลับมาจะด่าให้
            “อ้าว พี่เขากลับกรุงเทพฯไปแล้วไม่ได้บอกเหรอ”พี่ฟ้าพูด ผมทำหน้าตกใจ...กลับอะไร กลับตอนไหน...ไม่เห็นมันพูดอะไรนี่ ถึงว่าผมจะนอนแต่มันก็ต้องปลุกสิ
            “แล้วเลม่อน”ผมถาม
            “ก็ไปส่งเลม่อนนั่นแหล่ะ”
            “ส่งไปไหน??????”ผมถามเสียงหลง ไมมันไม่บอกอ่ะ!!!!!!!!!!!
            “นี่ไม่รู้เหรอ ไปส่งหาแม่เขาไง”ผมจ้องหน้าพี่ฟ้า โวยวายเสียงดัง
            “ไม่เห็นมันบอก ฮึก.....”งอนแล้ว...!!!!!!
            “น้องกลับบ้าน  มะนาวไม่อยากให้น้องอยู่”
            “ใครบอก ฮึก...”เดินไปทุบไอ้พี่ฟ้า...หัวเราะร่วนใหญ่ แกล้งหรือจริงเนี่ย!!! แต่น่าจะจริง...เพราะว่าไม่เห็นทั้งสองคนเลย รถก็ไม่อยู่
            “ของ ฮึก...ของมันยังอยู่”ผมเถียง
            “เดี๋ยวพี่ติณฑ์กลับมาไงครับ”
            “ฮือออออออออออออออออออ”
            ทั้งเตะทั้งทุบพี่ฟ้า...
            “ไม่เอาไม่ให้ไป!!!!!!!! ฮือออ ใครอนุญาตใคร!!!!!!! ไม่ให้!!!!!!!! เค้าไม่ให้!!!!!!!!!!!!!!!!!”
            “ฮ่าฮ่า เอ้า...อย่าร้องดิครับ”
            “จะร้องทำไม มายุ่งอะไร!!!!!! ฮือออออออออออ”
            พี่ฟ้าวิ่งไปหลังโซฟา ผมกำมือแน่น...ตาแข็งใส่
            “ไปเลย!!!!!!”
            “พี่ไปใครจะทำข้าวให้เรากิน”
            “ไม่รู้ละ ไปเลย...ไม่กินแล้ว ฮึก”
            “โอ๋ ๆ ใครแกล้งน้องน้า มาหาพี่มาครับ”พี่ฟ้าอ้าแขน ผมไอ้ทีเดินเข้าไปหาแล้วทั้งซัดทั้งถีบ
            “โอ๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ”
            “ฮือออออออ เอามาเลย เอามันกลับมาเลย!!!!!”
            “ฮ่าฮ่า โอ๊ย ๆ พี่เจ็บ”พี่ฟ้าร้อง เดินหนีถอยห่าง...พอดีไอ้สองคนที่พูดถึงเดินขึ้นบันไดบ้านมา ผมชะงัก...มองมัน แล้วมันก็มองกลับมา
            “ร้องไห้ทำไม”มันถาม
            ตวัดสายตามองไอ้พี่ฟ้า!!!!!!!!  ไอ้พี่ฟ้า...เอามือกุมท้องหัวเราะร่วน อ้าปากน่าเกลียด...จนอยากจะลุกขึ้นไปเขกหัว
แต่เจ้าตัวดันรีบออกไปเสียก่อน ผมยืนกำมือแน่น...ทั้งโมโห ทั้งอาย

            "ว่าไงร้องทำไม?"ผมตวัดสายตากลับมามอง...ไอ้คนตรงหน้า

            "ฮึ่ย!!!!!!!!!!!!!!!!"กระทืบเท้าเข้าครัว หาอะไรกิน ไอ้ติณฑ์อุ้มเลม่อนพาดบ่า ในมือถือถุงกับข้าวมาให้
            “เอ้า ๆ ใจเย็น ๆ หม้อมันทำอะไรให้โกรธ”ติณฑ์หยิบหม้อออกจากมือ
            “ไปไหนมา!”ทำเสียงนิ่งใส่
            “ไปซื้อของให้เลม่อน นี่ไงซื้อของกินมาให้ด้วย”
            “แล้วทำไมไม่ปลุก!!!!”ตะโกนใส่หน้าแม่ง...เลม่อนทำหน้าตกใจ
            “นอนอยู่ไง!”ติณฑ์มันชอบใจเย็นแบบนี้ ยิ่งมันเย็นยิ่งหงุดหงิด...
            “........................................”
            “เอาน้องไป...เดี๋ยวทำข้าวให้”ยืนนิ่ง...โกรธแมร่งแล้ว
            “มาอะไรกับกูครับเตี้ย เดี๋ยวเถอะ”
            “ทำไม มึงจะทำไม”
            “ไม่ทำไมครับ...เป็นไรอ่ะ เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่เลย”
            “ฮึก....”น้ำตาไหลอีกแล้ว ไอ้ติณฑ์ดึงผมเข้าไปกอด...
            “จุ๊ๆ”
            “นาวร้องไห้ ม่อนก็ร้อง”
            “ม่อนไม่ต้องร้องม่อนเก่ง”ติณฑ์พูดเบา ๆ กอดผมไว้...
             “ม่อนเก่ง?”
            “ครับ ม่อนเก่งเนอะ...นาวก็เก่ง”ติณฑ์จับมือเลม่อนเช็ดน้ำตา
            “ฮึก...ไอ้พี่ฟ้ามันแกล้งเค้า ไปตบมันเลยนะ”ผมบอก...ติณฑ์หัวเราะ และยิ่งหัวเราะมากขึ้นเพราะผมทำหน้าบูด
            “มึงจะหัวเราะอะไรหนักหนา!!!!!”
            “ฮ่าฮ่าฮ่า เปล่าก็ตลกดี...ไม่เคยได้ยินมึงแทนตัวเองว่าเค้าเลย น่ารัก...”
            เดินหนีแมร่ง...
            “ไปม่อนหานาวนะ...ติณฑ์ทำข้าวให้”ไอ้ติณฑ์ปล่อยเลม่อนเดินเตาะแตะมาหาผม ไอ้เด็กนี่ก็ชอบตาม...จะทำอะไรก็ชอบทำตาม
            เปิดทีวีนอนดูหนัง...เลม่อนมายืนเกาะแขน มือมันเล็กแค่นิดเดียว...แล้วท่าทางมันก็น่าแกล้งด้วย
            “นาวอุ้มม่อนหน่อย”มันเรียก ผมนิ่ง...แต่รู้แหล่ะว่ามันมองอยู่ ก็เล่นเกาะแขนทำหน้าอ้อน ๆ
            “วุ้ย”แกล้งมัน เบี่ยงแขนหนี
            “อุ้มม่อนหน่อย”มือมันไม่ใช่เล่น ๆ มีเล็บด้วย เจ็บจะตาย
            “อุ้มมมม”
            “ไม่อุ้มโว้ยยยยยย”ผมเสียงดังใส่
            “แงงงงงงงงงงงงงงงง”
            ร้องอีกละ...น่าเบื่อ แปปเดียวไอ้ติณฑ์วิ่งถือตะหลิวเข้ามา แหม...หูผีดีจริง ๆ หน้าตาตื่น เตรียมด่าผมเต็มที่
            “ทำอะไรมันอีก”
            “ไม่ได้ทำ”แก้ตัว
            “ม่อนครับ นาวแกล้งอะไร”ติณฑ์ถาม
            “หยุดร้องเร็ว นาวทำใช่ไหม”
            “นาวอุ้มม่อน”มันพูด...
            “อุ้มน้องหน่อย”แน่ะ...มันบังคับอีกละ ไอ้ติณฑ์ทำหน้าแบบเว้าวอน
            “นะ ๆ อย่าดื้อดิ กำลังทำข้าวให้เลย...ทำช้าก็เสร็จช้านะ”
 
            จึ้กกกกกกกกกกกกกก~
 
            ผมยอมอุ้มมันมานั่งพุง...ไอ้ติณฑ์ยิ้มออกมาได้ ก้มจุ๊บหน้าผาก...
            “ทำเร็ว ๆ ด่วน ๆ”
            “ครับๆ”
            ไอ้ตัวเล็กทำหน้าทะเล้น...หัวเราะคิกคัก ร้องเพลงอะไรของมันก็ไม่รู้...พอผมไม่สนใจหันหน้าหนีเพราะจะดูทีวี มันก็เอานิ้วมาดัน ๆ ให้มองมัน
            “คิคิคิ”
            “อย่า...เดี๋ยวงับมือแมร่ง”ผมบอก มันยิ่งหัวเราะ
            “จุ๊บ”
            ไอ้ตัวเล็กก้มมาจุ๊บคาง ยกมือชูสองนิ้วสไตล์กวน ๆ ผมจับมือมันนิ่ง ๆ
            “ทำแบบนี้อีกแล้ว ใครอนุญาต”แกล้งดุมัน เลม่อนหัวเราะคิดว่าเล่นด้วย...ชอบใจใหญ่ ที่ดึงความสนใจของผมออกจากทีวีได้
            “รักนาวววววว”
            “ดีมาก เชื่องแบบนี้~”ผมลูบหัวมัน มันยิ่งทำหน้าน่ารัก
            “รักม่อนนะ...รักนาวด้วย”มันพูดย้ำ ๆ เด็กก็เงี้ย พูดไม่กี่คำ...นี่ถ้าพูดประโยคเดียวจะคิดว่าเป็นหุ่นยนตร์แล้ว อดคิดไม่ได้ว่าพี่บุ้งเลี้ยงยังไงว่ะ...เหมือนผมซะขนาดนี้ เห็นแล้วหลอนตัวเอง
            “เลม่อนไปหยิบน้ำมาให้หน่อย”ผมบอก จับมันเดิน...
            “ไปบอกติณฑ์ เอาน้ำ”
            “น้ำ?”
            “เออน้ำ...เอามาให้นาวหน่อย นาวหิวน้ำ”ผมบอก มันเดินหายไป...หยิบไอ้ขวดน้ำของมันมาให้ ผมหัวเราะลั่น
            “ฮาาาาาา ไม่ใช่ ๆ”โอ๊ยโคตรขำ แล้วหน้ามันก็ซื่อ ๆ ติณฑ์เดินเข้ามาเพราะคงได้ยินเสียง
            “ทำอะไรกัน?”มันถาม ผมชี้ไปที่เลม่อนยืนถือขวดน้ำมันงง ๆ
            “บอกให้ไปเอาน้ำ มันเอาขวดน้ำมันมาให้”
            ติณฑ์ก็หัวเราะ...
            “ใช้น้องเหรอ”
            “อือ บอกให้มันเอาน้ำมาให้ เดินไปหยิบขวดน้ำมาเฉยเลย ดีไม่เอาขวดนมมาให้ด้วย”ผมพูดไปหัวเราะไป
            “เก่งครับเก่ง”ติณฑ์อุ้มเลม่อนขึ้นมา พักนี้มันติดเลม่อนมาก เห็นเป็นต้องอุ้มตลอด...หรือมันอยากมีลูกว่ะ!!!!!! เห็นแล้วเครียด
            “ติณฑ์”
            “ว่า....”
            “เปล่า....”เปลี่ยนใจไม่ถามมันดีกว่า เผื่อมันอยากมีจริง ๆ โอ๊ยยย...คิดแล้วเครียดขึ้นมาเลยอ่ะ เพราะเลม่อนแท้ ๆ วุ้ยยยยยยยย...เครียด!!!!!!
 
            “กินข้าวกัน”มันเรียก ผมเดินไปที่ห้องอาหาร ผัดมะกะโรนี...และต้มยำกุ้ง เข้ากันไหมเนี่ย...นั่งลงกินไม่รอใคร เพราะหิวมากเหลือเกิน
            “ป้อนม่อนด้วย”เลม่อนมันได้อภิสิทธิ์นั่งบนโต๊ะ ถือช้อนเล่น...เหอ ๆ ถ้ามันทำหก ไอ้ติณฑ์ก็เก็บโต๊ะอยู่ดี ผมแบ่งมะกะโรนีใส่ถ้วยให้เลม่อน
            “เย็น ๆ ไปลองเครื่องบินกันนะ”
            “เอาดิ”ผมบอก อยากเล่นอยู่แล้ว...
 
 
 
 




 


 
            [ติณฑ์]
            พ่อ กับแม่ไอ้เตี้ยไปรับลูกชายและหลานสะใภ้ที่จังหวัด ฟ้าก็ออกไปไร่...เห็นว่าจะให้โรลมาหา แต่รายนั้นไม่ยอม...หนีไปทำงานที่ไหนไม่รู้ นายฟ้าโทรตามหลายครั้งแล้ว...ผมหยิบตะกร้าออกมา เอานมม่อนใส่ไว้...เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน และของใช้อื่น ๆ ส่วนของไอ้เตี้ยจัดแค่กางเกงกับเสื้อกล้าม อีกตะกร้ามีแต่ของกินทั้งข้าวผัดเต็มกล่อง น้ำ และขาดไม่ได้คือขนม วันนี้จะพาทั้งสองคนไปเล่นเครื่องบิน ทำใจให้ว่าง ๆ ก่อนที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรข้างหน้า
            “พร้อมแล้วววววว”
            “น้องละ”ผมถาม เตี้ยมันชี้ไปที่ข้างหลัง
            “ถามถึงมันอยู่ได้!!!”
            “นี่น้องนะ ยังตัวเล็กอยู่เลย...”
            “รู้แล้ว ถามถึงมันบ่อย ๆ ทำไม”
            “งอนอะไรอีก?”ผมถามมันก่อน เพราะหน้านี่งอไปแล้ว
            “...............................”
            จับมือมันไว้...ยืนประจันหน้ากัน
            “จะให้ยืนรออีกนานไหม”มันถามใส่เสียงนิ่ง ช้ากว่านี้อาจโดนเหวี่ยงติดเข้าข้างฝา เลยต้องจำยอม...อุ้มเลม่อนเดินตามออกไป ก่อนจะเข้ามาขนของอีกที
           
            ลานกว้าง...เป็นถนนลาดยาง ยาวขนาด 1 ไร่ ผมปูเสื่อใต้ต้นพญาเสือโคร่งขนาดใหญ่ ที่ให้ร่มเงามหึมา...ลมโกรกเย็น ๆ ทำให้รู้สึกสดชื่นไม่น้อย
            “ติณฑ์ ตั้งลำเลยนะ”
            “บ้า!!! กลางวันแสก ๆ มาชวนตั้งลำ...”ผมบอก พร้อมหัวเราะ...คำพูดแฝงนัยยะซึ่งมันไม่เข้าใจ
            “อะไรว่ะ?”
            จับมือมันมาโดน...ลำที่ว่า ไอ้เตี้ยรีบสะบัดออก
            “ไอ้ @#$%^&*()(  พ่อม@#$%^&*(“มันด่าเสียงดัง ผมจุ๊ ๆ ปาก เพราะเลม่อนมองอยู่
            “ไอ้ !@#$%”เลม่อนด่าตาม
            ผมอุ้มเลม่อนบอก
            “ไม่ได้ครับ ๆ ห้ามพูด”น้องมองไม่ค่อยเข้าใจ เตี้ยมันเม้มปาก...หันหน้าไปทางอื่น
            “มึงทำก่อนนะ”มันพูดเสียงเบา ผมจับเลม่อนมองหน้า
            “พูดไม่ได้ ม่อนน่ารัก...ต้องพูดเพราะ ๆ นะครับ”ผมสอน
            “ม่อนน่ารัก คริคริคริ”เลม่อนหัวเราะคิกคัก เหมือนเด็ก ๆ เล่น ยังไม่เข้าใจความหมายหรอก แต่ต้องระวังอย่าให้ได้ยินบ่อยจนติดเป็นนิสัย
            “ระวังหน่อย...เข้าใจไหม”ผมบอกสั้น ๆ ไอ้เตี้ยพยักหน้า เข้ามากอดผมเบา ๆ
            “ก็แกล้งก่อนทำไมละ”
            “ครับ ๆ ขอโทษ”ผมจุ๊บหน้าผากคุณอา...แล้วเลื่อนมาจุ๊บแก้มเลม่อน
            “มาเล่นกันเถอะ”ผมบอก เอาเช็คสภาพเครื่องบินลำเล็ก ก่อนจะ...ไปตั้งที่กลางพื้น
            “ม่อนดู ๆ”ผมบอก เป็นคำเอาเครื่องขึ้นเอง เสียงหัวเราะ...ปนเสียงกรี๊ดดังลั่น ทั้งคุณอาคุณหลาน สนุกสนานกันใหญ่ จนไม่อยากจะ...ให้อะไรมาสร้างรอยร้าวขึ้นอีก ผมผลัดให้เตี้ยมันบังคับบ้าง...
            เลม่อนตบมือ...จะวิ่งตาม ต้องรีบวิ่งไล่จับเสียก่อน ไม่งั้นคงจะหกล้มแน่นอน ขาเล็ก ๆ วิ่งดีเหลือเกิน
            “นาว อุ้มม่อนๆๆๆ”เลม่อนร้อง นาวก็วิ่งหนี...หัวเราะใหญ่ ผมถ่ายรูปมันเอาไว้อีก...มีเยอะแล้ว พรุ่งนี้จะเอาไปปริ๊นให้หมด ใส่กรอบตั้งไว้ที่บ้านคงน่ารักดี
           
            เล่นกันจนเย็น...คงจะหิวมาก ๆ เลยต้องพากันเก็บเครื่องบินกลับบ้าน เตี้ยมันชวนไปเล่นน้ำตกก่อนกลับ...ผมก็ไป เพราะรู้อยู่แล้วว่าเหงื่อทั้งสองคนต้องเยอะ
            กระแสน้ำไหลไม่ค่อยแรงผมก็ลงด้วย ถอดเสื้อให้เลม่อนเหลือแต่กางเกงใน
            “เย็น ๆ”เตี้ยยิ้มหร่าดีใจ
            “เอาน้องไปไหม”ผมบอก...ยื่นเลม่อนไปหาไอ้เตี้ยซึ้งกางแขนรอรับอยู่ ตัวเองก็ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ลงน้ำด้วยเหมือนกัน
            “กรี๊ดดดด เย็นนนนนนน”เลม่อนกรี๊ดร้องหัวเราะถูกใจ กอดเตี้ยแน่น...
            “ชอบไหม”เตี้ยมันถาม เลม่อนกวักน้ำ...แล้วเอาประกบแก้มไอ้เตี้ย แล้วพากันหัวเราะสองคน...
            “จระเข้จะว่ายไปหาแล้วนะครับ”
            “กรี๊ดดดดดด // แอร๊ยยยยยย”เลม่อนกับมะนาวถอยหนี แต่ในน้ำมันเคลื่อนไหวมากไม่ได้...แค่หนึ่งช่วงแขนก็จับได้แล้ว
            “อร๊ากกกกกก ปล่อยๆๆ”เตี้ยร้อง ผมหัวเราะ
            “จับม่อนด้วย แฮ่”
            “กรี๊ดดดดดดดดดดดด แปะ”มือเล็ก ๆ ตีแสกเข้าหน้า!!!!! กรรม!!!!!
            “ฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ยยยย ฮ่าฮ่าฮ่า”ไอ้เตี้ยหัวเราะ...
            “หึหึ...หัวเราะเร้อ!!!?!?!”ผมรัดทั้งสองคนไว้...มันก็กรี๊ดกันใหญ่ จนเตี้ยมันขอขี่หลัง...แล้วให้ผมอุ้มเลม่อนไว้
            “ไปตรงนั้น”
            “ไกลไปครับ”ผมบอก กอดเลม่อนแน่น ๆ และเหวี่ยงไอ้คนข้างหลัง จนมันตกน้ำ...ได้หัวเราะกันอีกรอบ...
            “ฮ่าฮ่าฮ่า...เอาอีก”
            “เย็นแล้ว”
            “เอาอีกน้า....”คุณอาหน้าสวยออดอ้อน ผมเอียงหน้ามอง...มันจุ๊บปากเร็ว ๆ แล้วดึงติ่งหูผมไว้
            “น้า...”เลม่อนนี่เห็นแล้วยอมไม่ได้ เลื่อนตัวขึ้น...แทบจะเหยียบหน้าผม แล้วจุ๊บคุณอาตัวเองอีกนึง
            “หานาว”
            “ป่ะ ๆ อีกรอบ”ผมจับน้องมาอุ้มไว้ ไม่งั้น...งอไปมากันอยู่นี่ พาไปลึกถึงหน้าอก แล้วก็ค่อย ๆ พาเดินขึ้นฝั่ง เปลี่ยนชุด...
            “โทรไปบอกแม่ให้หน่อย ว่าอยากกินปลาทับทิบกรอบราดพริก”เตี้ยบอก
            “ม่อนอยากกินพริก”เลม่อนเอาบ้าง ไอ้เตี้ยหัวเราะ...น้องได้ยินแต่คำหลัง เลยพูดตาม
            “ดี ๆ เอาพริกทั้งสวนเลยดีไหม”เตี้ยบอก เลม่อนยิ้ม...เหมือนว่าถูกใจ ฮ่าฮ่าฮ่า ผมโทรไปตามสั่ง...ที่บ้านทุกคนกำลังรออยู่ครบทุกคนแล้ว
 


มีต่อ....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ต่อ  :katai2-1: :katai2-1:

 
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
            เสียงคุยกันจอแจเงียบลง เมื่อเราทั้งสามคนเดินขึ้นบ้าน...ผมกวาดสายตามองท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย มีคุ้นที่ไม่คุ้นหน้า และคนที่ไม่คุ้นเคยขึ้นสองคน...บุ้งและมิกกี้ ไอ้เตี้ยจากเดินอุ้มเลม่อนยิ้ม ๆ ก็ชักและหน้านิ่งขึ้น
            “มะนาว!!!”บุ้งเรียก ก้มหัวทักทายให้ผม...ส่วนมิกกี้ยกมือไหว้ ผมก็รับไหว้
            “แดดดี้~!!!!!!!!!!!!!!”เลม่อนดิ้นลงจากอ้อมแขนคุณอา แล้ววิ่งเข้ามาพ่อตัวเองอย่างรวดเร็ว
            “ฟอดดดด เป็นไงมั่งครับ....ดื้อใส่คุณอาบ้างรึเปล่า”
            “ม่อนไม่ดื้อ ม่อนรักนาว”เลม่อนบอก ผมยืนนิ่ง ๆ ส่วนไอ้เตี้ยก็นิ่งไปเช่นกัน
            “มาหาพี่เค้าสิลูก คิดถึงกันไม่ใช่เหรอ...”แม่พูดขึ้น นายฟ้า...ยิ้มจาง ๆ
            “..................................”ทุกคนที่ท่าทีกระอักกระอ่วนบาง ๆ มันเป็นบรรยากาศของความอึดอัดที่เกิดขึ้นมาระหว่างนั้น แทบไม่มีใครกล้าพูดอะไร แม้แต่...ผู้ทรงอำนาจของบ้านอย่าง พ่อ ปู่หรือตา
            “เป็นไงบ้างครับ คิดถึงพี่ไหม”บุ้งเดินมาหาน้องชายคนเล็ก...โดยผลัดเลม่อนไปอยู่บนตักแม่ตัวเอง
            “เค้าขึ้นไปอาบน้ำนะ...ถ้าข้าวเสร็จแล้วยกขึ้นไปให้ด้วย”มันพูดแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องไปเลย
            “มะนาว!?!?!”บุ้งตะโกนเรียก เงียบ...อึ้งกันทั้งบ้าน
            “ใจเย็น ๆ ให้เวลาน้องหน่อย”พ่อบอก ผมก็พลอยหดหู่ไปด้วย มีเรื่องราวมากมายที่ผมเพิ่งได้รู้...ว่าแม่กับพ่อต้องการจัดงานแต่งให้ทั้ง คู่ จริง ๆ พวกท่านก็หัวออกจะโบราณเรื่องธรรมเนียมการแต่งงานไม่น้อย และคงเป็นเรื่องที่ไม่งามสำหรับท่าน ที่ลูกตัวเองไปทำลูกสาวเขาท้อง ผมละนับถือ...ที่สามารถปิดบังที่บ้านไว้ จนเลม่อนเกือบจะสองขวบนี่ พ่อแม่มิกกี้เป็นคนไทย แต่ตัวเธอไม่เคยมาเมืองไทย...ครั้งนี้ครั้งแรก  บุ้งบอกว่าพ่อแม่ฝั่งโน้นไม่ได้ต้องการอะไร แค่สามารถดูแลกันไปแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนการให้เลม่อนมาอยู่เมืองไทยเป็นความต้องการของบุ้ง ที่อยากจะเอาหลานมาให้แม่เลี้ยงที่นี่ เลม่อนเป็นเหมือนอีกด้านของมะนาว
            ผมไม่แปลกใจ...ถ้าเลม่อนจะติดมะนาวขนาดนั้น น้องไม่ได้รู้จักไอ้เตี้ยวันนี้วันแรก แต่รู้จักมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ จากที่บุ้งเล่า เวลาเตี้ยมันโทรไปหาพี่มัน เขาก็จะเปิดสปีดเกอร์โฟนให้ลูกชายตัวเองฟัง น้องร้องไห้ ร้องเพลง ดีใจ มีเรื่องเล่าใด ๆ มากมาย เลม่อนรับรู้หมด ความสัมพันธ์ทั้งสองถูกเชื่อมกันไว้แล้ว...อย่างตั้งใจ
            ทุกคนไม่มีใครรังเกียจมิกกี้ และมิกกี้เองก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับไอ้เตี้ย เธอเข้าใจทุกอย่าง...รู้ว่าสามีตัวเองรักน้องมากแค่ไหน เธอก็หลงรัก...น้องชายของสามี ทั้งที่ไม่เคยคุยด้วย...ความผูกพันดำเนินไปในทิศทางเดียว การตัดสินใจมาเมืองไทยของเธอ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เตี้ยได้ทำรู้จักพวกเธอบ้าง ผมยิ้ม...และให้กำลังใจ
            ก่อนเดินขึ้นห้องมา บุ้งมีซีดี...บอกว่าให้เอาขึ้นมาให้เตี้ย ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร และไม่คิดจะเปิดดูก่อนเพื่อปกป้องมัน ถึงเวลาที่มันจะต้องเรียนรู้ความรู้สึกแบบนี้ด้วยตัวมันเอง
            “นอนแล้วเหรอ”ผมทัก มันยังไม่นอน...แต่ปิดไฟในห้องมืด นั่งอยู่ปลายเตียง...เดินไปหา คนตัวเล็กก็อ้าแขนกอด
            “ไม่เป็นไรนะ”
            “กูเกลียดเขา”มันกัดฟันพูดร้องไห้
            “มึงไม่ได้เกลียด มึงแค่น้อยใจ”ผมแก้ให้ มันร้องไห้...ร้องอีกแล้ว หน้าสวย ๆ ต้องเปื้อนน้ำตาอีกแล้ว ไม่ได้ปลอบ...แต่ให้ร้องออกมาน้ำตาจะไม่มีวันแห้ง ถ้ามันไม่ได้ไหลออกมาจากใจให้หมด
            ผมกอดมันเอาไว้...โยกตัวน้อย ๆ ความอบอุ่นจากตัวผมคงไม่พอ เลยตวัดเอาผ้าห่มมาห่มมันไว้ ไม่รู้สิ...ผมคิดเอาเองว่ามันจะทำให้มันอบอุ่นขึ้นได้บ้าง
            “ดูไหม”ผมชูแผ่นซีดีขึ้น เตี้ยมันเงยหน้า
            “อะไร?”
            ผมยักไหล่...เดินลงจากเตียง แล้วเดินไปเซ็ทเครื่องซีดี แม่มาเคาะห้อง....ผมเดินไปเปิด แล้วเปิดไฟ
            “ทำอะไรกันอยู่ ลงไปกินข้าวนะ”แม่บอก จริง ๆ คงอยากมาดูมันมากกว่า เตี้ยมันคราง “แม่~” แม่จึงเดินเข้ามากอด พ่อเลยเดินเข้ามาด้วย ตามด้วยนายฟ้า และย่ายาย เข้ามากันให้หมด...
         
            กดเครื่องเล่นซีดีภาพในจอก็สว่างโร่ เป็นคลิป...ของบุ้งและมิกกี้ ตั้งแต่ตั้งท้อง...และบ้านที่เยอรมัน
            “น้องน้อยโทรมาแล้ววววว”บุ้งพูดใส่คลิป
            “ฮัลโหล พี่บุ้ง!!!! แม่ถามเมื่อไหร่จะกลับ!!!!!”ทันทีที่เปิดสปีดเกอร์โฟน เสียงแหลม ๆ ของเด็กขี้แงตรงนี้ก็พุ่งตรงตามสาย ในภาพมิกกี้เอามืออุดหูหัวเราะเสียงเบา ๆ
            “อะไรกันครับ!!! พูดดี ๆ หน่อย”บุ้งตอบ เอามือถือยื่นไปใกล้ ๆ พุ่งกลมบ๊อกของมิกกี้ (ตอนนั้นคงจะท้องหลายเดือนแล้ว)
            “แม่บอก...จะกลับไม่กลับ!!!! ตัวเองไม่ได้กลับบ้านนานแล้วนะ”
            “ก็อยากกลับอยู่ครับ”บุ้งทำหน้าลำบากใจ
            “แล้วเมื่อไหร่!!!!”
            “ยังตอบไม่ได้เลยครับ...”
            “โว๊ะ!!!!!!!! เค้าเบื่อพี่บุ้งแล้ว ไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ...”
            ปัง...วางสายไป ภาพยังดำเนินไปต่อ
            “ลูกตกใจ...”มิกกี้บอก...แต่เธอก็ยิ้ม ๆ ไม่ได้หาความอะไร
           
            “เสียงเรายังเสียงอะไรแหลม ๆ”แม่พูดยิ้ม ๆ ย่ากับยายนั่งตรงเก้าอี้ก็หัวเราะ
            “แม่อ่ะ”มันทำเสียงเง้างอดใส่
           
            “โห!!!!!!!!!!!!!!!!”เรา ทั้งหมดอุทานพร้อมกัน เลม่อนคลอดแล้ว...กำลังนอนในห้องนอน เหมือนเป็นที่บ้าน แต่ห้องที่ว่า มีแต่รูปไอ้เตี้ยในอิริยาบถต่าง ๆ หมอนนอน หมอนข้าง รูปข้างฝา รูปตั้ง โห....
            เจ้าตัวอ้าปากค้าง...ย่าและยายน้ำตาคลอๆ
           
            “เลม่อนครับ...นี่ใคร”โตขึ้นมาหน่อย...คงเริ่ม ๆ หัดพูด เลม่อนสนใจหนังสือมากกว่า พ่อตัวเองพยายามบิ้ว
            “นาว”
            “ม่อนรักใคร”
            “รักนาว”
            “ดีมาก นาวก็รักลูกนะครับ...เดี๋ยวลูกจะได้ไปเจออามะนาวแล้ว ดีใจไหม”
            เลม่อนพยักหน้า
            “เลม่อนจุ๊บนาวแบบนี้ แบบนี้ แล้วก็แบบนี้แทนพ่อกับนะครับ”เด็กน้อยหัวเราะคิกคัก ก่อนภาพจะตัดไป เป็นมิกกี้ถือกล้องคนเดียว ในสนามบิน...
           
            “ตื่นเต้นจัง....มะนาวจะรักเลม่อนไหมน้า”
            “รัก เพราะม่อนน่ารัก”
            “ใครบอก”
            “แดดดี้”
            “โอเค น่ารักก็น่ารัก...บอกอามะนาวว่า รักเลม่อนเยอะ ๆ นะครับบบบ”
 
            จบ..
 
            ไอ้เตี้ยกอดแม่ร้องไห้...ร้องไห้จ้าออกมาอย่างหนัก บุ้งอุ้มเลม่อนเดินเข้ามา เด็กน้อยวิ่งเข้าหาอาด้วยความเคยชิน
            “ม่อนหานาว”เลม่อนพยายามจะปีนเตียง นายฟ้าที่นั่งข้าง ๆ เตียงต้องอุ้มน้องขึ้น
            “พี่รักมะนาวนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจปิดเรา....”บุ้งบอก น้องก็ร้องไห้ไม่หยุด
            “พูดกับพี่เขาดี ๆ ลูก”แม่บอก
            “ฮืออออออออออออออออออออออออ”อยากจะหัวเราะก็ใช่ที่ ไอ้เตี้ยมันกำคอเสื้อแม่แบบ...เสื้อแทบยาน
            “ขอโทษนะครับ เด็กน้อยของพี่...”บุ้งพูด
            “ฮืออออออออออออออออ”
            “นาวร้องไม”ม่อนถาม
            “อานาวร้องไห้ ม่อนทำยังไงครับที่แดดดี้เคยบอก”เลม่อนทำหน้างง
            “เช็ดอะไร?”บุ้งบิ้ว
            “เช็ดน้ำตา”
            “แล้วทำอะไรต่อ ที่แดดดี้ทำให้เลม่อนไง”
            “จุ๊บแก้ม”ทุกคนยิ้มเอ็นดู มิกกี้ยืนรอหน้าประตู บุ้งเดินไปจับมือเธอเดินเข้ามา
            “ทุกคนรักน้อง...ไม่มีใครทิ้งน้องนะครับ”
            “พี่ก็รักนะจ๊ะ”มิกกี้บอก
            “มันไม่หยุดร้องหรอก ไป ๆ เอาเลม่อนไป”ยายพูดเล่น ยิ้ม ๆ แต่ไอ้คนขี้แงบนเตียงมันอาละวาด
            “ฮึ!!!!!!!!!!!!!!!! ฮือออออ”ทำเสียงใส่ยาย
            “ฮ่าฮ่าฮ่า”
            “เอามันไปเลย”นายฟ้าพูดแกล้งบ้าง ไอ้เตี้ยเงยหน้ามาตีปากนายฟ้าดังเปรี๊ย
            “มะนาว!”
            “ก็แกล้งเค้าก่อนทำไม”
            “นาวไม่รักเลม่อนนี่ครับ เดี๋ยวอีกอาทิตย์ใช่ไหมพี่บุ้ง...จะเอาเลม่อนไปแล้ว”ฟ้าขยิบตา
            “เอาไปดีไหมนะ”บุ้งถาม เตี้ยหน้างอ...
            “ไม่เอาหรอกครับ ๆ น้องช่วยพี่เลี้ยงหลานได้ไหมล่ะ ได้ไหมครับ”ไอ้เตี้ยไม่ตอบ ผมว่าผมเห็นสัญญาณบางอย่างที่ดีขึ้น แม้มันจะไม่พูด หน้างอ และร้องไห้อยู่อย่างนี้ก็ตาม
            คนมันมีทิฐิเยอะ ฟอร์มเยอะละนะ....คงต้องให้เวลาเขาหน่อย ที่ไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดหยิบเก้าอี้ฟาดทั่วห้องก็ดีถมถื่นแล้ว เหอ ๆ ทุกคนในห้องดูผ่อนคลายกันมากขึ้น...   
            “ม่อนหิวข้าว”เด็กน้อยพูดซื่อ ๆ ทำเอาคุณอาและทุกคนในห้องหัวเราะขึ้น
            “นี่พากันไปกินอะไรรึยัง”แม่หันมาถามผม
            “ข้าวผัดนิดเดียวเองครับ”
            “ตาย ๆ ไม่เอาข้าวแพ็คใส่กล่องกันไปกินเยอะ ๆ นะ ไปฟ้า...ลงไปดูข้าว หิวกันแย่แล้ว...”
            “ไอ้โชนเอาปลาทูมาให้ตำ ไม่ใช่ฟ้าเอาไปวางให้แมวกินแล้วเหรอ”ย่าท้วง
            “เออ ฟ้าลืมไปเลย”นายฟ้ารีบลุก...แล้วค่อย ๆ ทยอยลงไปข้างล่าง
            “ติณฑ์เอาน้องลงไปนั่งข้างล่างนะ”พ่อบอก
            “ครับ”
            บุ้งเดินมาหอมแก้มน้องชายตัวเองฟอดใหญ่ ก่อนห้องจะเหลือแค่ผม เลม่อน และไอ้เตี้ย
            “ม่อนหิวนม”เลม่อนบอก เด็กเล็ก ๆ นี่ถ้าไม่หิวเขาคงไม่พูดนะครับ
            “ไปล้างหน้าเถอะ น้องคงหิวแย่แล้ว”มันหัวเราะทั้งน้ำตา เป็นเสียงหัวเราะที่ไม่สุด เพราะยังกั๊ก ๆ ไว้อยู่
            “ป่ะครับ”
            “จะขี่หลัง”มันบอก เอาแต่ใจ...กรรมยังไงก็ยังมาลงที่ผมวันยังค่ำ
            “เร็วดิ”มีเร่งด้วย รู้ว่าเขิน...ที่ร้องไห้กลางประชาชี ผมยอม ๆ ไม่ล้ออะไร...ล้างหน้าแล้วพ่วงลิงสองตัวลงมาข้างล่าง เห็นแม่ มิกกี้ และฟ้า เด็กในครัวสองสามคนกำลังทำอาหารขะมักเขม้น...
           
 
 
               :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:



ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2






ตอนที่ 63

 
            ติณฑ์
            วันนี้ทั้งครอบครัวกำลังนั่งปรึกษากันอยู่เรื่องที่ว่าจะเอาเลม่อนมาอยู่ เมืองไทย ดีหน่อยที่บุ้งและมิกกี้ได้ปรึกษากันมาก่อนหน้านี้แล้ว เธอเองก็ยินดี...ที่จะมาอยู่ที่นี่ ปู่ของเตี้ยเลยบอกให้กลับไปบอกพ่อแม่ แล้วก็ทำเรื่องมาอยู่ที่นี่ถาวร  ส่วนบุ้งก็ยังต้องกลับไปเรื่องเรียนและทำงาน
            “งั้นก็รีบไปแล้วก็รีบกลับ...ทำเรื่องให้เรียบร้อย”พ่อพูดเสียงกังวาน
            “ครับ งั้นผมจะกลับอาทิตย์หน้าเลย”บุ้งพูด
            “อืม”
            “ดีจ๊ะ รีบไปรีบกลับ...แม่จะได้โทรเรียกขิงกับต้นหอมกลับมาบ้านบ้าง”ไอ้เตี้ยเขยิบ ไปกอดเอวแม่...เลม่อนก็ทำตามบ้าง ผมอมยิ้มกับภาพตรงหน้า ไอ้เตี้ยหันมาแล่บลิ้นใส่...
            “วันนี้ไปไร่กันเถอะ”พ่อบอก ลุกขึ้นยืน...นายฟ้าถือมะพร้าวหลายลูกขึ้นบ้านมา
            “ของฝากครับบบบบ”
            “น้ำมะพร้าวววววววววววววว....ทุบเลยพี่ฟ้า”ไอ้เตี้ยวิ่งเสนอหน้าไปคนแรก....ฟ้ายิ้ม
            “ตอนเย็นแล้วกัน วันนี้พี่รีบ...”
            “ง่ะ”
            “เดี๋ยวทำให้ก็ได้”ผมบอก เตี้ยมันยิ้มแฉ่ง
            “ไปคร๊าบบบ ใครจะไปไร่”ฟ้าทำเสียงทะเล้น บุ้งจะออกไปดูที่จะทำบ้าน คงไปพร้อมกันกับมิกกี้...เลม่อนเลยต้องอยู่นี่เหมือนเคย
            “วันนี้กลับเร็ว ๆ นะฟ้า แม่อยากทำอาหารทะเล”แม่บอก
            “คร้าบบบบ”นายฟ้าหอมแก้มแม่ใหญ่ แก้มน้องชายคนเล็กและมาอุ้มเลม่อน
            “พี่ไปหมวกก่อน ฟ้าไปรอที่รถได้เลย”บุ้งบอก นายฟ้าพยักหน้า
            “ไปกับพี่ไหม”บุ้งถาม ไอ้เตี้ยเบะปาก...เดินเชิดหน้าหนีไปหาตา
            “ดูมันนะแม่”บุ้งบ่นยิ้ม ๆ แม่ตีแขนบุ้งเบา ๆ
            “พูดจากับน้องดี ๆ”
 
            บ้านเงียบเพราะทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำโน่นนี่ ผมเห็นมันนอนดูการ์ตูนกับเลม่อนเสียงเงียบ ๆ เลยย่องขึ้นมาข้างบน รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้อย่างไรไม่ทราบ อัดยาพาราฯไปสองเม็ด พอให้มันไปดักไข้...แล้วล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า
            ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะมีใครบางคนมานอนกอดผมไว้...
            “อือ...กี่โมงแล้ว”ผมลูบแขนมัน ไอ้เตี้ยลืมตาสะลึมสะลือ
            “มึงหลับกลางวัน”
            “ง่วง”ผมบอก ไม่อยากให้เป็นห่วง...
            “ตัวร้อนด้วย”
            “รู้ดี”
            “เหอะ ไม่รู้เลยเนอะ...”มันเอาหน้าผากมาชน ผมต้องจับหน้ามันเบี่ยงหนี รู้ตัวแล้วว่าจะเป็นไข้...เพราะไม่ค่อยสบายตัว
            “ตัวร้อนนนน”มันย้ำ
            “ไม่เป็นไรหรอกน่า...กินยาแล้ว”ผมบอก โดนจ้องหน้า...เหมือนเด็กน้อยกำลังจับผิด ผมจับแขนมัน
            “เลม่อนละอยู่กับใคร”ถามเพราะทุกทีจะต้องเห็นอยู่ด้วยกัน
            “นี่ไง”หัวเราะออกมาเพราะว่าเลม่อนนอนอยู่เตียงอีกฝั่ง คืออีกนิดเดียวมันจะหล่นอยู่แล้ว
            “เอาน้องเขยิบมากลางเตียงหน่อย”ผมบอก
            “ติณฑ์อ่ะ มึงเป็นไข้ๆ”มันร้องตื่นเต้น
            “เดี๋ยวก็หาย”
            “มึงเหนื่อยใช่ไหม”มันถาม สายตาผมอ่อนล้ามากกว่าปกติ เหนื่อยก็ยอมรับว่าเหนื่อย...เลยพยักหน้าบอกมันไป
            มันก้มลงมาจุ๊บปาก...แล้วซบลงคว่ำหน้าบนหน้าอก
            “อย่าป่วยนานนะ...ให้ป่วยได้แค่วันนี้”
            “ทำไม”
            “ไม่ชอบ”
            “เอ้า...คนป่วยจะมาบังคับอะไร”ผมหัวเราะ
            “กูป่วยได้ แต่มึงห้าม...เพราะกูไม่รู้จะทำยังไง”
            “ไม่ต้องทำอะไรเลย...ปล่อยกูตายไปเลยก็ได้”ผมแกล้ง มันผุดลุกขึ้นมา...ทำตาขวาง ๆ แล้วตบปาก
            “โอ๊ย”
            “ปากเสีย”
            “ฮ่าฮ่าฮ่า แกล้ง...ไม่เป็นไรหรอก แค่ปวดหัว...มึงอย่าเพิ่งงอแง เพราะจะทำให้กูปวดมากกว่าเดิม”ผมบอก
            “.....................................”
            “พาน้องลงไปนอนข้างล่างเถอะ เดี๋ยวจะติดไข้กันเปล่า ๆ”ผมบอกอย่างห่วงใย ไอ้เตี้ยซึมลงทันที...นานแล้วที่เราไม่ได้แยกกันนอนแบบนี้
            “จะไปบอกแม่ให้ต้มข้าวให้นะ”
            “ไม่ต้อง ไม่ได้ป่วยขนาดนั้น”มันนั่งมองนิ่ง ๆ คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
            “อยากนอน”ผมบอก มันลงจากเตียงปูผ้าที่พื้น...แล้วอุ้มเลม่อนลงไปนอนข้างล่าง ก่อนจะเดินมาห่มผ้าให้ผม
            “ไม่ชินเลย...มึงอ่อนแอ”
            “หึหึ”ผมไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง เพราะอย่างที่บอกว่าเหนื่อย...
            เด็กแสบนั่งนวดมือให้ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการที่ผมปวดหัว จนกระทั่งหลับไปอีกที...หวังว่าระหว่างที่ผมหลับมันคงจะไม่เป็นไปเล่นซนที่ ไหนแน่ ๆ จากสีหน้าและแววตาเมื่อกี้...ทำให้ผมดีใจมาก ที่มันเป็นห่วงขนาดนี้
 
            เกือบบ่ายผมตื่นมา...ไม่เห็นใครอยู่ในห้องแล้ว จึงเดินลงมาข้างล่าง เห็นแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ ท่านดูหยิบจับอะไรก็คล่องไปเสียทุกอย่าง ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของตัวแสบสองคนเล่นกันอยู่ข้างนอก
            “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ มะนาวบอกว่าไม่สบายเหรอจ๊ะ”
            “ครับ เหมือนจะเป็นไข้”ตอนนี้ตัวก็รุ่ม ๆ ท่านมีสีหน้าห่วงใย
            “งั้นมาทานข้าวจะได้ทานยา”ผมยิ้ม...ไม่งอแงหรอกครับ นั่งทานข้าวให้หมดจาน...แล้วทานยาตาม กะว่าจะเดินออกมาดูเด็กสองคนเล่นน้ำเสียงดัง ยังเดินไม่ผ่านบันไดขึ้นสุดท้ายดีก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาเสียก่อน...
           
            “ติณฑ์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เสียงตะโกนลั่นจากคนที่ผมรักที่สุด พร้อม ๆ กับร่างตัวเองที่ไหลลงมาตามบันได...ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงพื้นอยู่แล้ว
            “แม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ไอ้เตี้ยตะโกน ก่อนสติจะดับไป...วูบสุดท้าย

 



 
            ผม ได้ยินเสียงคนเดินวนไปมาอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะค่อยลืมตาขึ้นมา มองรอบห้อง...เห็นไอ้เตี้ยนั่งจ้องหน้าอยู่ก่อนแล้ว คุณแม่กำลังเดินถือเหยือกน้ำเทใส่อีกเหยือก เลม่อน บุ้ง ฟ้า มิกกี้ และคุณพ่อ
            “แม่มันฟื้นแล้ว”เสียงแช่มชื่น...จากคนที่คุ้นเคย ตะโกนดังขึ้น...ทุกคนผุดลุกจากที่นั่งแล้วมายืนล้อมผมไว้
            “ไม่ต้องลุก”พ่อบอก ผมนอนลงอย่างเดิม รู้สึกเจ็บเนื้อเมื่อยตัว...และเวียนหัวเล็กน้อย
            “ปวดหัวอยู่ไหม”แม่ถาม มองมาที่ผม...
            “ครับ”ผมตอบด้วยเสียงอันแหบแห้ง มือน้อย ๆ เลื่อนมากุมมือผม...อดยิ้มนิด ๆ ไม่ได้ มือมันเย็นอย่างกับอะไรอีก
            “จำได้รึเปล่าว่าตัวเองตกบันได”พ่อถาม ผมนึกย้อนก่อนมานอนตรงนี้
            “จำได้ครับ”หลายคนพยักหน้า
            “ดีนะ หัวไม่ฟาดพื้น...ตอนล้มเอามือยันตัวเองไว้”ฟ้าอธิบาย
            “ไปหาหมอเถอะแม่...”ไอ้เตี้ยมันร้องบอกแม่
            “นั่นสิ เอารถออกเถอะฟ้า...ถึงจะไม่มีแผลมีอะไร แต่ไปให้หมอเขาดูหน่อย...เผื่อมีช้ำใน”แม่ว่า
            “งั้นก็ไปเตรียมตัว ไปหาหมอ”พ่อสั่ง ทุกคนเดินออกไป ผมไม่ได้พูดอะไรอีก...นอนฟังอย่างเดียว เพราะว่ารู้สึกปวดหัวอยู่
            “สา...เลว”ไอ้เตี้ยด่าผม ผมมองหน้ามัน
            “บ้าเหรอไง จู่ ๆ มาด่ากัน”ผมพูดเสียงเหนื่อย ๆ เหมือนคนขี้เกียจพูด
            “เออบ้า!!!! อยากบ้าทำไม!!!!”น้ำตามันไหล
            “ไม่เป็นไรหรอกน่า...ไม่มีแผล”ผมบอก ตามตัวไม่มีแผลจริง ๆ ถ้ามีต้องรู้สึกเจ็บมากแล้ว
            “มึงอ่ะ ไม่ระวัง...ถ้าเป็นอะไรขึ้นมานะ!!!!”
            “ครับๆ อย่าเพิ่งวีนตอนนี้...ปวดหัว”มันเช็ดน้ำตา เลม่อนวิ่งลงมาจากโซฟามาเกาะขอบเตียง
            “ม่อนมีพิซซ่า”เด็กน้อยถือของเล่นมาแกว่ง ผมยื่นมือออกไปจับ
            “ขอติณฑ์หน่อย”
            “ไม่ให้ ม่อนให้นาวคนเดียว”
            “ขอเถอะครับ”
            “ไม่ให้! บอกว่าไม่ให้ๆ”น้องร้อง ผมนึกสนุกอยากแกล้ง
            “เดี๋ยวนาวก็เอาให้ติณฑ์อยู่ดี เพราะว่านาวรักติณฑ์...รักมากกว่าม่อน”
            “ม่ายยย”เด็กน้อย จ้องหน้าผู้เป็นอา...
            “ถามนาวดิ รักใครมากกว่า...รักติณฑ์เนอะ”ถามแล้วตอบชี้นำ
            “ม่ายยย นาวรักม่อน”
            “จริงเร้ออออ”ผมลากเสียงยาว เลม่อนจิกขาอา...จนไอ้เตี้ยตีมือดังเพลี๊ย
            “พอ ๆ”
            “รักใคร?”ผมรีบถามกุมมือมันไว้
            “.............................”
            “รักครายยยย”ย้ำอีกหน ไอ้เตี้ยเบิ่งตาดุ ๆ ใส่ เลม่อนก็จ้องอยู่...อยากรู้ในคำตอบ
            แหมะ.....น้ำตาเด็กน้อยร่วง อาไม่ยอมตอบสักที...เลม่อนเริ่มกัดปากตัวเอง ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่ แต่แกก็เฝ้าตามไอ้เตี้ยทั้งวัน อาทำเหมือนไม่รัก...ก็ยังตามติด คู่หูตัวน้อย...อาน่ะรักจะตาย แต่อามันปากแข็ง
            “เออ ๆ รักๆ ๆ ๆ พอใจยัง!!! นี่ก็บีบน้ำตาจังเลยนะ!!!!!”
            ผมหัวเราะกร๊าก....แม่เดินเปิดประตูเข้ามา
            “เอ้ายังนอนอยู่อีก...ลุกไหวไหมพ่อติณฑ์ ฟ้าเตรียมรถแล้วนะ...มะนาวจะไปก็พาน้องไปเปลี่ยนเสื้อ”แม่บ่นยาว เราเลยต้องลุกออกจากตรงนั้น ผมเปลี่ยนใส่เสื้อยืดสบาย ๆ มีฟ้ามาช่วยพยุงลงไปข้างล่าง
 
            “หัวเหม็น”แกล้งพูด ไอ้เตี้ยจิกเล็บใส่มือที่เรากุมกันไว้อยู่...
            “อะ โอ๊ยเจ็บ!”
            “สม!”กำลังนั่งรอผลตรวจกันอยู่ เลม่อนถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้...ผมต้องใส่ผ้าปิดปากด้วย
            “ยิ้มหน่อย หน้าบึ้งใหญ่แล้ว”กระซิบบอก รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี
            “เชิญคุณติณฑ์ในห้องได้เลยค่ะ”
            “ไปด้วย”ผมลุกยืน เข้าไปในห้องตรวจ...คุณหมอถือผลตรวจเอ็กซ์เรย์ในมือ
            “สบายใจได้นะครับ ไม่มีกระดูกแตกร้าวหรืออะไร...ส่วนที่เห็นคงจะเป็นรอยช้ำ จากการถูกกระแทก...หมอก็จะให้ยาทาไป ถ้าปวดมาก...ก็ทานยาแก้ปวด”
            “ครับ”
            “ส่วนอาการก็มีไข้ธรรมดา ต้องนอนพักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ ทานน้ำให้มากหน่อย”
            “ผมขอยาอมแก้ไอด้วยนะครับ”ผมบอก
            “ได้ครับ จะให้นางพยาบาลจัดไว้ให้เนอะ...อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้วครับ ยาที่จัดให้รบกวน..ทานให้ครบทุกเม็ด แม้จะไม่มีไข้แล้วนะครับ”
            “โอเคครับ”ไอ้ข้าง ๆ นี่ถอนหายใจเสียงดังมาก จนคุณหมอยิ้ม
            “สบายใจได้แล้วนะครับ พี่ชายไม่เป็นไร”คุณหมอพูดแซว มันอมยิ้มหน้าแดงเรื่อขึ้น น่าจับมาฟัด...
            เดินออกมานอกห้อง...ทุกคนนั่งเรียงกันอยู่ เตี้ยมันก็เดินไปสาธยายกับแม่ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว หมอพูดอย่างโน้นอย่างนี้ รู้สึกว่าจะพูดมากกว่าตอนขามาเยอะทีเดียว
            “ไหน ๆ ก็มาแล้ว...แวะกินอาหารญี่ปุ่นกัน”เจ้าตัวดีเสนอแนะ รถตู้กว้าง..ตั้งแต่ขึ้นมายังไม่ได้ยินเสียงเงียบจากเจ้าตัว
            “นะ ๆ แม่...หนูอยากกินแซลมอน ซูชิ ชาเขียวววว”
            “ม่อนอยากกินข้าวผัดด้วย”มาแล้วลูกคู่ นั่งอยู่ตักมิกกี้แต่สามารถยื่นหน้ามาพูดได้ สามารถจริง ๆ เหมือนอาไม่มีผิด
            “ข้าวผัดกลับไปกินบ้านเถอะ ชิ้วววว!”ไอ้เตี้ยแกล้งเป่าปากใส่แล้วหัวเราะ ทำเอาทุกคนหัวเราะรวมทั้งผมด้วย
            “นะ ๆ แม่นะ...”อ้อนต่อ ลูกคนเล็กนี่มันดีจริงๆ
            “ถามติณฑ์ก่อนสิว่าไหวไหม พี่เขาไม่สบายอยู่นะ”พ่อพูดเสียงดุ มันหันมาทางผม จะทำหน้าดุก็ไม่เชิง...แต่เหมือนกลั้นใจรอคำตอบมากกว่า ผมปวดหัวแต่ไม่มาก...กลับไปคงได้แต่นอนพัก ก็มาเดินเอาแรงสักหน่อยคงไม่ได้ทำให้ไข้ขึ้นเท่าไหร่หรอก
            “ยังไงก็ได้ครับ”ปวดหัวแต่ต้องเอาใจมัน ไอ้คนข้าง ๆ ยิ้มแฉ่ง
            “ขับไปเลยพี่ฟ้า...พ่ออนุญาตแล้ว!”น้องคนเล็กสั่ง
            “ดีเหมือนกันแม่ อยู่ที่โน่นบุ้งไม่ค่อยไม่ได้กิน...เดี๋ยววันนี้บุ้งเป็นเจ้ามือเอง”พี่ชายบุ้งพูดอย่างเอาใจ
            “กินเยอะ ๆ นะตัวเล็ก”
            “ไม่ต้องมายุ่งกับเค้า”มันพูดอย่างงอน ๆ แม่หัวเราะ...
            ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น
            เปิดห้องสำหรับครอบครัวใหญ่ของเราห้องใหญ่ ทุกคนกำลังก้มดูเมนูอาหารของตัวเอง ผมเลยเอนหลังพักสายตาเพราะเป็นที่นั่งแบบหย่อนขาลงไป และทุกคนก็ดูสบาย ๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร ผมเองก็ไม่ต้องเกร็งเหมือนครั้งแรก ๆ ที่มา หมอนอิงใบใหญ่ถูกนำมารองหนุน...
            “ปวดหัวเหรอ”มันหันมาถาม ผมพยักหน้า...ใครจะรู้ว่ามันยื่นมือมาบีบมือผมให้ แค่นี้ก็ซึ้งใจจะแย่...ไอ้เตี้ยก็เลื่อนมาบีบแขนเบา ๆ
            “กินนี่นะ...ไข่ตุ๋นร้อน ๆ”มันพูด เริ่มสั่งอาหาร...จนคุณแม่ปรามลูกชาย
            “นี่เราจะสั่งให้พี่เค้าจนเลยใช่ไหม”
            “ใช่ที่ไหนกัน แม่ดูหน้าติณฑ์...คนป่วยจะตายแล้วนี่”มันเถียง
            “ไอ้หมูชุบแป้งทอด บะหมี่เย็น มันอาหารสำหรับคนป่วยเหรอ”นายฟ้าพูดพร้อมหัวเราะ...เงยหน้าจากเมนู
            “เออนะ!!!!”สะบัดหน้าใส่พี่ชาย เลม่อนเดินเตาะแตะคาบขวดนมอ้อมมาหาเตี้ย...
            “แม่ถ้ามันไม่สบายไม่ต้องมาโทษนะ เดินมาเองเลย”คุณอาบ่น เลม่อนฟังที่ไหน...จะนั่งตักให้ได้
            “หน้าเหมือนกันเลยนะคะ”มิกกี้พูด หยิบกล้องจากโทรศัพท์เธอออกมาถ่าย
            “เลม่อน มองกล้องหน่อยลูก”คราวนี้...ยกถ่ายกันใหญ่ ฮ่าฮ่าฮ่า โทรศัพท์ใครต่อโทรศัพท์ใคร...ขนาดพ่อใช้โทรศัพท์ไม่ค่อยเป็นยังถ่าย ให้นายฟ้าเข้าเมนูให้...
            ไอ้เตี้ยเริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อย ๆ อายมากก็เหวี่ยงมาก เขินมาก...ก็หงุดหงิดมาก กลบเกลื่อน
            “พอ ๆ เดี๋ยวจะเก็บตังค์”มันพูดแก้เขิน จู่ ๆ เลม่อน เอาขวดนมยัดใส่ปากไอ้เตี้ย ฮาฮ่าฮ่า โอ๊ยยยย...ผมเจ็บคอยังต้องขำกร๊าก
            “ไอ้ม่อน!!!!”ลูกชายคนเล็กเผลอตวาดพูดคำหยาบใส่หน้าน้อง
            “มะนาว!!!!”แม่ว่า
            “ก็แม่ดูมันนะ....แหวะ!”
            “คิกคิกคิก~”
            “ไม่ต้องหัวเราะ!!!!”
 
            อาหารละลานตา...ผมทานไปนิดเดียวคงเพราะกระเพรามันเต็มไปด้วยอะไรไม่รู้ ไม่ค่อยหิว...เจ้าตัวดีทำเสียงเอ็ดดัง
            “กินอีก!!!!”มันตักอาหารใส่จานผม
            “พอแล้ว เดี๋ยวกินยา”
            “ไม่ต้อง กินเลย...”เจ้าตัวตักไข่ตุ๋นป้อนถึงปาก จะไม่ทานก็กระไร...เพราะมันทำแบบนี้ไม่บ่อย แทบจะไม่เคยเลยด้วยซ้ำ ยิ่งต่อหน้าครอบครัวยิ่งไม่เคย...ผมเหล่มองแม่ และทุกคนก็แอบยิ้ม ไม่ได้ว่าอะไร...พ่อก็เหมือนจะรู้นะ แต่ก็นั่งกินข้าวไม่ได้มอง...
            ผมอ้าปาก...รู้สึกว่ารสชาติมันอร่อยกว่าถ้วยเมื่อกี้อีกแฮะ...
            “อ้าอีก”มันเริ่มจริงจังต่อการป้อนอาหารเข้าปากผม
            “โอ๊ยยย”ห่านนน!!!! รู้สึกดียังไม่สุด...มันตักซุปมิโซร้อน ๆ ใส่ปากผม
            “ฮ่าฮ่า ขอโทษ ๆ ๆ ลืมเป่า”มันยิ้มแห้ง ๆ เวร...
            ผมน้ำตาไหล...และหน้าแดง มันร้อนจริงนะนั่น เพิ่งยกมาเสิร์ฟเลย!
            “ลูกจะช่วยพี่ หรือจะฆ่าเค้านั่น”แม่แซว
            “โธ่แม่ แค่อุบัติเหตุหรอก...มึงไม่เป็นไรใช่ไหม”ตาโต ๆ นั่นก้มลงมาจ้อง...ทำเอาผมใจสั่น อยากจุ๊บ...อยากจูบ อยากกอด แต่ทำไม่ได้
            “อือ”
            “ไหนแล่บลิ้นดู”ทำตามมันบอก
            “กินข้าว ๆ”มันเปลี่ยนเลย...ไอ้เตี้ยเอ้ย อยากบริการแต่ตักข้าวเหมือนตักกินเองอ่ะ คือคำใหญ่ ๆ ป้อนเร็ว ๆ คนป่วยเวลาเคี้ยวมันจะปวด ๆ กรามใช่ไหม ผมก็เป็น...พอกินไม่ทันใจมัน มันก็ยัดน้ำซุปนรกมาใส่ปากผม เอ่อ....มึงวางแผนจะฆ่ากูใช่ไหมครับเตี้ย!!!
 
            กลับ มาถึงบ้านก็ขึ้นมานอนบนห้องเลย...เจ้าตัวดีหนีหายไปไหนไม่ทราบ เลยคิดว่าเป็นเวลาดีชิงหลับพักเอาแรงเสียหน่อย ร่างกายที่อ่อนล้าค่อยได้พักผ่อน ลมโกรกจากหน้าต่างทำให้ไม่ต้องเปิดแอร์...ผมรู้สึกเหนียวตัวเล็กน้อย อยากอาบน้ำแต่ก็ทำไม่ได้ ตื่นขึ้นมาว่าจะโทรหาน้ำตาลเพราะใกล้จะกลับไทย ฝากซื้อของให้ภรรยาตัวป่วน...
            กว่าชั่วโมงที่หลับไป...ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงวิ่งตึง ๆ เข้ามาในห้อง
            “อร๊ากกกกก ฮ่าฮ่าฮ่า”
            “นาวอย่าพาน้องวิ่งข้างบนสิ!!!”นายฟ้าตะโกน “พี่ทำงานไม่รู้เรื่อง!!!”
            “แบร่!!!! ป่ะม่อนไปหาติณฑ์”มันอุ้มเลม่อนเดินเข้ามา
            “ตื่นแล้วเหรอ”
            “ทำอะไรกันเสียงดังมาก”ผมพูด พร้อม ๆที่มันปล่อยเลม่อนลงพื้น ธรรมชาติของเจ้าตัวเล็ก...ก็จะวิ่งเข้ามาหาผม จึงต้องห้ามไว้ก่อน
            “เอาน้องออกไปเถอะ เดี๋ยวติดไข้”
            “ทำไมอ่า”
            “เดี๋ยวติดไข้ เด็กเล็ก ๆ น่ะ รับเชื้อโรคได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ ไม่สบายทีใครก็เอาไม่อยู่”ไอ้เตี้ยหน้าบึ้งอุ้มน้องออกไป รู้ว่าอยากเล่นด้วยกัน แต่ต้องให้เป็นเวลามั่ง เจ้าตัวเดินเข้ามาอีกทีหน้างอเพราะถูกขัดใจ
            “หยิบน้ำให้หน่อย”ผมบอก มันกระแทกเท้าเดินไปรินน้ำให้...
            “จับดี ๆ กินไม่ได้”กวนทีนอีก!!!!
            “แค่ก ๆ ๆ ๆ”ผมสำลักน้ำ มันหน้าเสียไปเลย
            “กะ ก็...กินเร็วทำไมละ”แก้ตัวทันควัน...นี่สิถึงจะใช่ตัวจริง เหอ ๆ เสื้อเปียกเลย...แกล้งทำหน้านิ่ง ๆ ใส่ ไม่พูดด้วย...ไม่ใช่อะไร เจ็บคอ...ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับมัน
            เจ้าตัวนั่งนิ่ง ๆ และคงเกร็งมาก...
            “หยิบเสื้อให้หน่อย”ผมบอก
            “.............................................”
            “หยิบให้หน่อย ไม่โกรธหรอก...อยากเปลี่ยนเสื้อ เดี๋ยวเป็นปวดบวม”ผมบอก มันเดินไปหยิบให้เงียบ ๆ
            “ใส่ให้หน่อยได้ไหม”ผมถาม มันพยักหน้า...ค่อย ๆ ถอดเสื้อผมออก หน้าแดงจัด...เพราะเขิน ยังไม่ชินอีก...มือน้อยทั้งสั่นและทันทีที่โดนผิวเนื้อผมก็รู้สึกได้ทันที ว่า มือมันเย็นมาก...จะตื่นเต้นอะไรหนักหนาแค่เปลี่ยนเสื้อให้ผัว?
            “จูบด้วย”ผมสั่ง
            “ไม่เอา เดี๋ยวติดไข้”มันปิดปาก
            “ไปล็อคห้อง...แล้วมาจูบซะดีๆ”
            “ไม่เอา กลัวเป็นไข้”
            “ไม่อยากเหรอ?”ผมถาม
            “ไม่...”
            “จริงง่ะ?”
            “อือ”
 
            “ของดีมีครั้งเดียวนะ...”ผมกระเซ้า...
            “............................................”
            “ไม่ทำอะไรมากหรอกน่า แค่จูบ...จูบเดียว”
            “มึงเป็นไข้...”
            “อือ อยากได้ยาจากคุณหมอคนนี้...ได้ไหมครับ”ผมอ้อน มันจ้องหน้าอย่างชั่งใจ...
            “นะ...”คนตัวเล็กเดินลงจากเตียง ไปล็อคประตูห้อง...ก่อนจะเดินมาหาผมอีกครั้ง รวบร่างเล็กเข้ามากอด...ก่อนจะหอมแก้มสองข้างซ้ายขวา หน้าผาก...แล้วจับมันนั่งตัก
            “อืออ”
            “ฟอดดดดดดดด เมียใครว่ะ...โคตรดื้อเลย”ผมบอก งับติ่งหูเบา ๆ
            “แบร่”มันยิ้มกว้าง...แต่ยังไม่เลิกยั่ว เลยจูบหนัก ๆ ไปที...หายใจหอบเลยทีเดียว
            “อืออออออ ห้ามทำเกินกว่านี้ด้วย”
            “คร้าบบบบ”
 
            ............ป๊อก ๆ เสียงเคาะประตูแต่เบามาก...ฟังยังรู้ว่าไม่ใช่แรงผู้ใหญ่
            “นาว เปิดให้ม่อน...ม่อนอยากเข้า”เสียงเลม่อนตะโกนดังเข้ามา ไอ้เตี้ยจับหน้าผม...เอาหน้าผากชนกัน
            “ไอ้เด็กเวร”
            “เหมือนอา...” ผม ค่อย ๆ บรรจงสอดลิ้นเข้าไปโลมเลียอย่างช้า ๆ ตัวมันก็เหมือนรู้...ค่อย ๆ รับดูดเอาความหวานน้อย ๆ ความรู้สึกคล้ายผีเสื้อดูดกินน้ำหวานยังไงยังงั้น~
           
            “พอ...เดี๋ยวเลยเถิด”
            “หึหึหึ”
            จ๊วบบบบบบบ...”แกล้งดูดปากมัน จนยืดมาด้วย...มันตีแก้มผมดังแปะ!!! เจ็บแทบน้ำตาไหล
            “จะ เจ็บนะ”
            “โอ๋ ๆ ขอโทษครับ...ไม่โกรธน้า ก็มึงน่าหมั่นเขี้ยวอ่ะ”มันลุกขึ้นไปดูกระจก
            “แดงเลย เจ็บมากด้วย”
            “ขอโทษ ๆ”รวบตัวมากอดได้ ก็จุ๊บปลอบไปหนึ่งที
            “นาวววววววว แงงงงงงง เปิดให้ม่อนนนนนนนนน”
            “อย่าไปกวนพี่เค้าลูก”เสียงมิกกี้ดังมาสมทบกัน
            “เปิดนะ...”ผมพยักหน้า...รู้สึกว่าหัวโล่งสบายมาก
            “เข้ามา...อย่าเสียงดัง ติณฑ์ไม่สบายเห็นไหม”
            “แงงงงงงงงงงง”เลม่อนซบคออาร้องไห้ ผมนอนอมยิ้มบนเตียง ทำปากบอกมันว่า...น่ารักมาก ไอ้คนขี้เก๊กมันทำหน้าดุ ๆ ใส่ กลัวโดนล้อว่ารักหลาน...เลยอุ้มหลานหนีหายไปเลย หึหึหึ



 
 




 สดชื่นเหมือนยืนบนไหล่เขาาาา~
  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:


ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2

ตอนที่ 64
พี่พุทน้องเจ...
ไม่รู้เมื่อไหร่ว่าใจถูกทำให้ใจเคลิ้มตามเธอ~
[พุท]
            ผมกำลังจะขับรถกลับกรุงเทพฯ ทันทีที่การประชุมยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเสร็จสิ้น ดูเหมือนว่าโรงงานใหม่เริ่มจะมีปัญหาเสียแล้ว คู่แข่งธุรกิจเกิดขึ้นทุกวัน...และบางทีวิถีทางที่พวกเขาใช้มันก็สกปรกขึ้นตาม คราวนี้ถึงกับสร้างหลักฐานเท็จและโจมตีว่าเป็นของทางฝั่งบริษัทเรา ผมอยู่ช่วยป๊าทำงาน พร้อมพนักงานส่วนหนึ่ง...เอาหลักฐานที่เรามีเตรียมส่งให้ทนายดำเนินการ
            “นอนที่นี่หรือจะไปนอนบ้านน้องเจ”ป๊าถามเสียงนิ่ง เพราะคงเหนื่อยล้าเช่นกัน
            “ไปหาน้องดีกว่าฮะ พรุ่งนี้ผมคงเข้าบ่าย ๆ”ป๊าพยักหน้า เราก็แยกย้ายกัน...
            เหนื่อยแต่อยากกลับไปหาน้อง เมื่อตอนเย็นได้คุยกันแปปเดียวเพราะต้องรีบเข้าประชุม ป่านนี้นอนร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วมั้ง...ขนม ดอกไม้ และรองเท้าซื้อมาให้ตั้งแต่ไปต่างประเทศ จะเอาไปให้ก็ยังไม่มีเวลาว่างมากพอ เจ้าตัวเล็กงอนแล้วงอนอีก จนดอกไม้เหี่ยวคาโต๊ะ...ต้องทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ผมกลับมาบ้านก่อนขนหนังสือที่ซื้อมาฝากน้องเจ ขนมและร้องเท้าให้น้องอีกหลายคู่ขึ้นรถ
            กว่าจะมาถึงก็เกือบตีสอง...บ้านเงียบหมดแล้ว โทรหาลุงหมานให้ออกมาเปิดประตูให้...แกยังว่าทำไมไม่โทรบอกตั้งแต่เย็น จะได้นั่งรอ...ผมนึกขำ ตอบไปว่าเมื่อเย็นยังไม่แน่ใจว่าจะได้มารึเปล่า บอกให้แกปิดประตูให้เรียบร้อยแล้วไปนอน ไม่ต้องมียามอะไรหรอก เพราะที่บ้านรั้วรอบปิดมิดชิด...อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดไม่น่าห่วง
            เรื่องกล้องวงจรปิดนี่ผมให้คนมาติดไว้...ทั้งที่เปิดเผยและส่วนที่ซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น ตามมุมของบ้าน อยากรู้ว่าเจอยู่บ้านทำอะไร ส่วนใหญ่น้องไม่ค่อยไปไหนหรือเอาใครมาบ้านอยู่แล้ว ยิ่งถ้าครอบครัวน้องมา...ก็จะยิ่งหลบมุม อยู่ในห้องคนเดียว
            ผมเดินขึ้นชั้นสามที่ปิดไฟเกือบมืด...ย้ายเจี๊ยบ และไก่ ขึ้นมานอนชั้น 2 เพราะห่วงน้องเจกลัวจะนอนไม่ได้ในตึกใหญ่คนเดียว ทีแรกฝั่งพ่อฝั่งแม่น้องเจไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะห้องของพวกเขาก็อยู่ชั้นนี้ แต่ไม่กล้าขัดผมสักเท่าไหร่
            เปิดประตูแง้มดูช้า ๆ ไฟในห้องปิดมืดทึบ เจ้าของห้องคงหลับแล้วเลยต้องทำอะไรเบา ๆ ใช้ความชำนาญเฉพาะตัว เดินคลำหาแผงสวิทซ์ไฟห้องน้ำ ซึ่งก็ไม่ยากเท่าไหร่...พอเปิดได้ ก็เดินเข้าไปล้างหน้า...ก่อนจะออกมายืนข้าง ๆ เตียง เจ้าตัวคงยังไม่รู้สึกตัว นอนหลับตาพริ้มน่าแกล้งที่สุด...
            แล้วนี่อะไร?
            ไอ้หมีตัวมหึมา...เต็มเตียงสองตัวนี่??? แถมน้องเจนอนกอดซะแน่นอีก??? เด็กน้อยของพี่...ไอ้เราจะก้มลงไปฟัดแก้มป่อง ๆ เป็นปลาทองนั่นก็ทำไม่ได้...ติดไอ้หมีน่าโง่นี่
            เลยเดินไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า แต่งตัวออกมาอีกทีน้องเจนั่งทำหน้ามึนงงอยู่บนเตียง ผมยิ้มหวาน...เปิดไฟในห้องให้สว่างได้มากขึ้น ยิ่งเพิ่มไฟน้องเจก็หรี่ตายี้เลยทีเดียว
            “พี่~”น้องเรียก
            “ครับ...พี่ทำให้ตื่นเหรอ”เจส่ายหัว
            “เปล่า เจตื่นเอง...เจได้ยินเสียงคนอาบน้ำ”
            “ครับ...”
            “พี่พุทเพิ่งมาเหรอฮะ”น้องถาม ขยี้หน้าขยี้ตาและหาวไปด้วย
            “ครับ พี่เพิ่งเสร็จงาน...”
            “ทำไมไม่บอกเจละ เจจะได้รอ”ผมเดินไปหาน้อง จูบกลางกระหม่อม...แล้วไถลนั่งบนขาไอ้หมีโง่ตัวที่ 1
            “ไม่ต้องรอหรอก พี่มาดึก...มีขนม กับรองเท้ามาฝากเราด้วยนะ”
            “เย้!!!”น้องโผกอดคล้องคอ
            “พรุ่งนี้ค่อยลงไปเอา ยังไม่ยกลงจากรถ”
            ฟอดด~ น้องเจหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะผลักตัวผมออกแล้วดึงขาไอ้หมีกลับคืน
            “พี่พุทนั่งทับขาหมีน้องเจ”น้ำเสียงน้องน่ารักดี ผมหัวเราะกับท่าทางขี้อ้อนแบบนั้น
            “ยังไงครับเนี่ย เต็มห้องเลย”จะดึงออกน้องก็ไม่ยอม ตัวใหญ่กว่าตัวน้องอีกแน่ะ เจยิ่งกอดหนักเข้าไปใหญ่ แถมยังเอาเท้าก่ายไอ้หมีตัวโตอีกต่างหาก
            “นี่แหล่ะที่ป๊ากับม๊าซื้อให้ น่ารักไหม”ผมส่ายหน้าแต่ยังยิ้มอยู่ น้องเจหน้างอ
            “ทำไม!!!!! มันน่ารักจะตาย!!!!!”
            “ฮ่าฮ่า น่ารักครับน่ารัก...แต่เจอายุเท่าไหร่แล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ จะมาเล่นตุ๊กตาแล้วนะ”ผมบอก
            “ก็เจไม่มีเพื่อนนี่”
            น้องอาจไม่รู้ตัวว่าคำพูดนั้นทำให้ใจแฟ่บลงได้ง่าย ๆ คิดถูกจริง ๆ ที่กลับมาคืนนี้เลย ผมผิดเองที่ทิ้งให้น้องอยู่คนเดียวบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแกต้องการความรักและการเอาใจใส่มากขนาดไหน
            บทบาททางสังคมของเราต่างกัน ผมมีงานมีหน้าที่รับผิดชอบ ขณะที่เจยังเรียน...ผมก็อยากให้น้องไปเที่ยว ไปมีชีวิตส่วนของน้อง ถึงจะต้องการน้องมากแค่ไหนผมก็ต้องสะกดกลั้นเพราะมีหน้าที่ที่บังคับตัวเองอยู่ โดยลืมไปว่าน้องก็ต้องการผมเหมือนกัน
            ก้มลงค่อย ๆ จูบน้องแผ่วเบา
            “พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่ว่างเลย”น้องกระโดดเข้าหา มานั่งตักแล้วเอามือคล้องคอผมไว้
            “ไม่เป็นไร เจมีพี่หมีแล้ว...มีตั้งสองตัวแน่ะ”
            กอดเจ้าตัวเล็กแน่น ๆ ถ่ายทอดความเหนื่อยหนักที่พยายามจะรักษาบริษัทของน้องไว้ จนถึงวันที่น้องอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ อยากให้น้องเป็นเจ้าของบริษัทที่สมบูรณ์พร้อมทุกสิ่ง น้องจะต้องเป็นคนที่ทุกคนอิจฉา...ผมสัญญา
            “พี่พุท เจเจ็บ”ผมคลายออก หัวเราะยิ้ม ๆ
            จุ๊บ
            “รักเจนะครับ”
            “อือ เจก็รักพี่พุทคร๊าบบบบบบบ”เจ้าตัวเล็กทำหน้าทะเล้น
            “พรุ่งนี้มีเรียนไหม”
            “มีตอนเช้าพี่พุทจะกลับเหรอ”เจทำหน้าละห้อย ผมต้องกอดน้องไว้
            “พี่กลับตอนบ่ายนะ...”คนที่นั่งตักอยู่เงียบไป น้อยใจแต่ไม่พูด...จะชวนไปด้วยก็คงจะได้งอนหนักกว่านี้ เพราะผมจะไม่มีเวลาดูแลน้องเลย ต้องหัวหมุนมากแน่ ๆ
            “เจครับ”ลองเรียก
            “อือ”
            “ตอนเช้าพี่ไปส่งที่มหาลัยนะ”ผมบอกเอาใจ
            “ฮะ”โถ...เด็กน้อยครับ เศร้าไปแล้ว...ผมนี่เป็นแฟนที่แย่ที่สุดในโลกจริง ๆ
            “เลิกเรียนกี่โมง เดี๋ยวพี่ไปรับ”
            “พรุ่งนี้พุทราชวนไปกินข้าวด้วยฮะ”
            “ใครคือพุทรา”ปกติผมรู้สึกเพื่อนน้องทุกคนนะ แม้แต่เพื่อนมหาลัยทั้งสนิทไม่สนิท มีสายรายงานตลอด...แต่ชื่อนี้ไม่เคยได้ยินแฮะ
            “กะ ก็เพื่อนนั่นแหล่ะฮะ”เสียงอ้อมแอ้มจัง เชิดคางน้องขึ้นมาแล้วสบตาเจ้าตัวหาความผิดปกติ
            “เพื่อนจริง?”
            “ครับ”
            “แล้วไปกันสองคน”
            “เปล่า มีเพื่อนพุทราไปด้วย...เจรับปากเพราะตอนเย็นไม่อยากกลับมากินข้าวที่บ้านคนเดียว”น้องค่อย ๆ อธิบายผมพยักหน้าเบา ๆ ทำเหมือนเข้าใจ แต่จริง ๆ ในใจเริ่มขุ่นมัว...ใครว่ะ? ไม่เห็นน้องเคยเล่าว่ามีเพื่อนชื่อนี้ด้วย???
            เวลาเจอกันก็น้อยมาก ไม่อยากจะมาบึ้งตึงอะไรกับน้อง...เลยทำเป็นคุยเรื่องอื่นไป
            “พรุ่งนี้พี่จะเขียนเช็คให้เจเอาไปให้พี่แทนกับพี่ธารนะครับ”
            “ค่าอะไร?”
            “ก็ค่ากินอยู่น้องเจน่ะสิ ไปอยู่กับพี่เขา...ดื้อรึเปล่า”
            “ดื้อที่ไหน...เจไม่ดื้อ ไม่ซนมั่งเหอะ”
            “จริงเหรอ???”ทำเสียงแซว
            “ก็น้อยกว่าพี่นาวละนะ แฮะ ๆ”
                        ดึงน้องนอนลงบนที่นอน...แล้วใช้เท้าเขี่ยไอ้หมีสองตัวลงข้างเตียง น้องเจยกมือตีขาผมดังเพลี๊ย
            “พี่พุท ถีบหมีน้องเจทำไม!?!?!”
            “เกะกะอ่ะ”
            “ไม่เอา เจจะให้พี่หมีนอนด้วย”
            “เจครับ...มันเต็มเตียง แล้วจะให้พี่นอนไหนละ”ตัวเล็กทำหน้าคิด ๆ
            “ก็นอนเบียดกันก็ได้”
            “เจ”
            “ก็เจนอนกับมันทุกคืนนี่นา”
            “วันนี้ให้มันนอนที่พิเศษแล้วกัน เจ้าของเตียงมาแล้ว”ผมบอก
            “พี่ถีบมันทำไม”
            “ขอโทษก็มือพี่ไม่วางนี่...”ผมหัวเราะ เจ้าตัวเล็กที่น่ามุ่ยเก่งขึ้นเพราะเรื่องแค่นี้
            “พรุ่งนี้เจจะให้พี่เจี๊ยบซักให้”
            “เฮ้ออออ หางานให้เจี๊ยบอีกแล้ว...”ผมแกล้งบอก
            “ก็มันสกปรกนี่”
            “เท้าพี่สะอาด พี่เพิ่งอาบน้ำ พื้นห้องก็สะอาด...เจี๊ยบถูทุกวัน”ผมบอก
            “งั้นก็ได้....ให้นอนข้างเตียงก็ได้”
            “ดีมากครับ ฟอดดดดดดดดด”ฟัดแก้มใสให้หายอยาก น้องเจชอบใจหัวเราะคิกคักใหญ่
            “เจง่วง แต่ไม่อยากนอน”
            “ทำไมละครับ”
            “อยากคุยกับพี่พุทก่อน เจอยากกอดพี่พุท”ผมฟัดคนตัวเล็ก...ก่อนจะลุกไปปิดไฟ เหลือแต่ไฟห้องน้ำ เดินกลับมาขึ้นเตียงและไม่ลืมเหยียบขาไอ้หมีไปทีนึง (น้องเจไม่เห็น)
            ลงมานอนกอดน้อง
            “หลับเถอะนะ...พี่ก็ง่วง”
            “พี่พุทเหนื่อยเหรอฮะ....”
            “ครับ”
            “ความจริงไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ก็ได้ บริษัทนั่น...คุณยายสร้างไว้ก็จริง แต่ถ้าทำไปแล้วต่อไปเจดูแลไม่ไหว...พี่พุทก็ลงทุนลงแรงเสียเปล่าอยู่ดี”น้องพูด
            “ถึงวันนั้นเราค่อยพูดกันครับ”
            “.......................................”
            “อยู่บ้านพี่แทนพี่ธารเจทำอะไรบ้าง”ผมถาม
            “ป๊ากับม๊าพาไปกินข้าว ดูหนัง บางทีก็พาไปเที่ยว...แต่ตอนนี้ม๊าไม่ค่อยว่างไปแล้ว ต้องดูแลร้านก๋วยเตี๋ยว...แต่เจก็ไปนอนเล่นที่ร้าน”น้องเล่า
            “.......................................”
            “แต่เจอยากไปกินข้าว ดูหนังกับพี่พุทบ้าง”
            ตัวเล็กสะอื้นเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยิน...พลิกตัวน้องหันกลับมา กอดแนบทั้งตัว...จะร้องไห้ก็ร้องกับอกผมนี่ ผมจะรับมันไว้ทุกอย่าง
            “ชู่ววว พี่ขอโทษครับ...”
            “ฮึก จะ เจ...พยายามแล้ว แต่บางทีมันก็เหงา...ฮึก”
            “ทนหน่อยนะครับ อีกนิดนะครับคนดี...ถ้าบริษัทอยู่ตัวพี่ก็จะมีเวลาอยู่กับเราจนเบื่อเลยนะครับ”
            “ฮึก เจไม่มีใคร ฮึก...ยะ อยาก อยู่ กับพี่พุท ฮึก...”กอดน้องแน่น ๆ
            “พี่รักเรานะครับ รักคนเดียว...ทนหน่อยนะครับ”ได้แต่พูดปลอบ...นานเกือบครึ่งชั่วโมง น้องจึงร้อง...แต่มือยังกำเสื้อแน่น
            “พี่ไปเปิดไฟไหม...ตาเราบวมหรือยังก็ไม่รู้”ผมถาม
            “ไม่เอา...เจอาย”เสียงสารภาพทำเอาผมหลุดหัวเราะออกมา ร้องซะขนาดนี้ยังจะมาอายอีก เจ้าตัวเล็กใช้กำปั้นทุบอก
            “อย่าหัวเราะนะ! ก็พี่พุทนั่นแหล่ะ...”
            “ครับ ๆ จุ๊บ”ผมรีบปิดปากน้อง...คุยเรื่องเดิมจะพาลร้องไห้อีก กอดเค้าแน่น ๆ จูบฝังรอยไปทุกเครื่องหน้า
            “เฮ้ออออ...อยากนอนกอดเราแบบนี้ทุกคืนแล้วสิ”ผมบอก น้องทำเสียงหัวเราะพอใจ...
            “เจก็อยาก”
            “พี่ก็อยาก.....”พูดแล้วเงียบ...ดูปฏิกริยาน้อง
            “...................................”
            “แต่พี่คงอยากมากกว่า...”เริ่มมีดีดดิ้นจะถอยห่าง...หึหึหึ
            “พะ พี่พุท”น้องคราง
            “อยากทุกวัน ทุกเวลา...ถ้ามีเวลายาว ๆ พี่จะขังเราไว้...แล้วเราจะรักกันจนเบื่อเลยดีไหม กระต่ายน้อยของพี่”ผมทำเสียงแผ่ว
            “พรุ่งนี้เจมีเรียน”งุบงิบตอบ ผมยิ้ม...
            “ครับ พี่ไม่ทำเราหรอกน่า...มานี่ มาให้พี่นอนกอด”น้องเจกลับมานอนที่เดิมอย่างว่าง่าย
            “พี่พุทเบื่อเจไหม”น้องถาม
            “ไม่เบื่อครับ ไม่เคยเบื่อ...แต่พี่กลัวเราเบื่อที่พี่ไม่มีเวลาให้”
            “เจก็เบื่อจริง ๆ แหล่ะ เจอยากงี่เง่า...เจอยากร้องไห้ เจอยากอาละวาดแบบพี่นาว แต่เจก็จะไม่ทำ...เพราะเจรู้ว่าพี่พุทก็เหนื่อยมากพอแล้ว”
            ที่รักผม...น่ารักไหมคนนี้ ผมให้รางวัลเขาด้วยการสอดลิ้นเพิ่มความหวานให้...
            “อีกนิดนะครับ แล้วจะให้งี่เง่าได้เต็มที่เลย”ผมบอก น้องเจยิ้มกว้าง...เรานอนเล่นคุยกันไป หยอกกันไป...จนกระทั่งหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน ตื่นมาน้องเจอาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียนแล้ว...
            “พี่จะไปส่ง ทำไมไม่ปลุกครับ”ผมบอก
            “พี่พุทดูเหนื่อย ๆ เจให้ลุงหมานไปส่งก็ได้”น้องบอก เดินไปโต๊ะหนังสือของตัวเอง ค้นหาเล่มที่อยากได้แล้วยัดใส่กระเป๋า
            “มาให้พี่หอมหน่อย”น้องเจเดินมา แล้วยื่นแก้มให้
            ฟอดดดด~
            “หอมจัง เมียใครก็ไม่รู้เนอะ”ผมแซวใส่อีกคนหน้าแดงขึ้นทันที ฮ่าฮ่าฮ่า
            “บ้า! น้องชายเถอะ!!!!!”หึหึหึ...
            “น้องชายอะไร ผลัดกันดึงสโมกกี้ไบรท์แทบทุกคืน”
            “ไอ้บ้า!!??! ไม่ทุกคืนหรอก!!!!!!”น้องเจเขินน่ารักมาก...
            “ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ก่อนก็เกือบทุกคืนละครับ เพียงแต่ตอนนี้มันยังไม่ว่าง...แต่พี่สัญญาเลย หลังจากนี้พี่จะจัดให้ทุกคืนสม่ำเสมอ”ผมแกล้ง
            “บ้า!!!! ทำไปคนเดียวสิ”น้องเจจะวิ่งออกจากห้อง
            “เจ!!!!!! พี่จะไปส่งนะ!!!!!!!”ผมตะโกนบอกพร้อมหัวเราะ น้องวิ่งออกไปและตะโกนกลับมา
            “เจจะกินข้าว รีบ ๆ อาบน้ำเลย เดี๋ยวเจสาย!!!!!!!!!!”
            ที่รักของผม...น่ารักไหมครับ ฮ่าฮ่าฮ่า....
--------------------------------------------------------------------
            มาถึงมหาลัยฯ สายเพราะออกจากบ้านช้า แถมรถยังติดหนักจนน่าโมโห กว่าจะมาถึงได้ก็กินเวลาเรียนไปเกือบครึ่งชั่วโมง เจ้าตัวดีไม่ทันได้ล่ำลาบอกเพียงแต่ว่า...วันนี้จะโทรหาถ้าถึงบ้านแล้ว ผมอดห่วงไม่ได้...มีเวลาว่างคิดจะกลับไปนอนต่อ แต่ก็แอบนั่งรอดูเจ้าตัวเล็กที่มหาลัยฯดีกว่า
            โทรไปหาป๊าว่าขอทำตัวเกเรไม่เข้าบริษัทสักสองวัน คือวันนี้กับพรุ่งนี้...
            “หึหึหึ ว่าแล้ว!!!! แล้วงานนี่จะเอายังไง”
            “ป๊าตัดสินใจได้เลย เดี๋ยวพุทกลับไปเคลียร์เอง”
            “แน่ใจ?”ป๊าถามย้ำ
            “ครับ”
            “เอาเจมาเล่นที่นี่ด้วยก็ได้นะ น้องเป็นยังไงบ้าง”ป๊าถาม
            “ก็...เกือบแย่”ป๊าเงียบไป
            “ดูแลน้องดี ๆ ละ”
            “ฮะ....”ก่อนจะวางสายไป ผมรับทราบข้อมูลโรงงานอีกนิดหน่อย แล้วโทรไปประสานงานกับเลขา ขอโดดงานสัก 2 วัน แต่ยังต้องดีลงานอยู่เป็นระยะ จะหายไปเลยไม่ได้
            นั่งอยู่สักสามชั่วโมง จนเกือบจะยกโทรศัพท์โทรหาน้องเจอยู่แล้ว เจ้าตัวเล็กลงลิฟท์มากับเพื่อน ๆ 2-3 คน เป็นชายหนึ่ง หญิงสอง
            “วันนี้กลับยังไงละ จะไปส่งเปล่า”
            “ไม่ต้องหรอก คนละทางเลย...เดี๋ยวเจกลับแท็กซี่เองดีกว่า”
            “เจจจจจจจจจ”เสียงเรียกของอีกคนดังขึ้น ผู้หญิงน่าตาน่ารัก...แต่ดูเปรี้ยว ๆ ยังไงชอบกล วิ่งมาหาน้อง
            “อ้าว หญิง”
            “อีนี่อีกแล้ว”ผู้หญิงที่เดินลงมากับน้องทำหน้าไม่พอใจ
            “ไปหรือยังพุทราสตาร์ทรถรอแล้ว”
            “อือ ไปก่อนจะพรุ่งนี้เจอกัน 8 โมงที่สยาม อย่าลืมนะ”น้องเจพูดยังไม่ทันจบ ผู้หญิงคนนั้นก็ลากเจออกไป ผมเดินดุ่ม ๆ ออกไปเผยตัว เคยเจอกับกอล์ฟมาก่อนแล้ว
            “อ้าว หวัดดีครับ”กอล์ฟยกมือไหว้
            “เจไปไหน?”
            “ไม่รู้เหมือนกันครับ ปกติก็ไม่ยุ่งอะไรกับกลุ่มนั้นแท้ ๆ”รู้สึกมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ผมขอข้อมูลอื่นแล้วรีบตามออกไป โดยไม่ลืมจำหมายเลขทะเบียนรถเอาไว้
            ใจชื้นขึ้นหน่อยเพราะว่าเด็กพวกนั้นพากันมาที่ห้าง อาจจะมากินข้าวอย่างว่าจริง ๆ ผมจอดรถห่างออกมา แต่พอมองเห็นกันได้ แล้วเดินตามออกมา กลุ่มนั้นเป็นผู้หญิงคนเดียวและมีผู้ชาย 2 คน รวมน้องเจก็เป็น 3
            ร้านอาหารคนพลุกพล่านแต่ทั้งหมดก็เลือกนั่งมุมที่เงียบออกมา ผมไม่รอช้า...นั่งประกบที่โต๊ะหลัง ดีหน่อยที่เก้าอี้มันจะคล้าย ๆ ที่กั้นกลาย ๆ ทำให้มองไม่เห็นกัน
            “ไปเถอะนะ เจ...สนุกนะ”แอบฟัง
            “นั่นสิ ไปครั้งเดียว...เปิดโลกใหม่ ๆ นายจะได้เลิกเหงาไปเลย”ไอ้เด็กพวกนี้จะชวนเจไปไหน?
            “ไม่เอาหรอก ตอนนี้จะไปไหนต้องบอกพี่พุทก่อน ป๊าม๊าอีก...ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง”เจบอก
            “โธ่ นายโตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ ถ้านายจะไปซะอย่าง ใครจะทำอะไรได้”
            “เราไม่กลับบ้าน พี่เจี๊ยบก็ต้องโทรบอกพี่พุทอยู่ดี”ถูกต้องครับ!!!
            “เขาไม่ใช่พ่อนาย แล้วไอ้คนใช้นั่นไม่ใช่เจ้าชีวิตนาย...นายอยากทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้”
            ไอ้เด็กเวรพวกนี้...ไม่ใช่คนดีแล้วละจากที่ผมฟังนะ อยากตบกะโหลกตัวเอง...ว่าวันนี้ไม่หยุดงาน ไม่ตามมาอย่างนี้ จะรู้อะไรแบบนี้ไหม
            “พี่เจี๊ยบไม่ใช่คนใช้นะ!!!!! พี่เจี๊ยบเป็นพี่เลี้ยง เป็นแม่บ้าน”เจแก้ น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
            “เอ่อ อะ ๆ อะไรก็นั่นแหล่ะ ไอ้กิตมันปากเสีย...อย่าไปฟังมัน เจไม่เบื่อเหรอ...อยู่แต่บ้าน”
            “นั่นสิ...แต่ก่อนพุทราก็เป็นอย่างเจนี่แหล่ะ แต่พอค้นพบแล้ว...ก็หลุดเลย ใช่ไหมพุทรา”น้ำเสียงคนชื่อกิตเอ่ยขึ้น
            “พบอะไร”เจถาม
            ผมรอฟัง...
            “เฮ้ย!!!! ไม่เอาอ่ะ!!!!! ยาเสพติดมันผิดกฏหมายนะ!!!!!!!!”เจร้องออกมา ผมใจหายวาบ...มือกระตุก สั่นโมโหจนแทบจะยกเก้าอี้ในร้านทุ่มได้
            “ไอ้เจเสียงดังทำไมว่ะ!!!!!!!!!”คนชื่อกิตทำเสียงไม่พอใจ
            “เจเบา ๆ”ผู้หญิงพูด
            “แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ติดหรอกเจ เรายังไม่ติดเลย”เสียงนี้คงจะชื่อพุทราคนที่เหลือ
            “ยาเสพติดมันจะเสพกี่ครั้ง แค่ได้เสพมันก็ติดอยู่ดี”เจพูด ถูกครับที่รัก...อย่าไปฟังพวกมัน
            “นายมันอ่อนต่อโลก...เดี๋ยวนี้พวกนี้มันมีกันเกลื่อนแล้ว ใคร ๆ เขาก็สูบกันทั้งนั้น”
            “ไม่ใช่เรา...เราจะกลับบ้าน”
            “เดี๋ยวสิ!!!!! คิดว่ามาอยู่กลุ่มเราแล้วจะออกไปได้ง่าย ๆ เหรอไง”ผู้หญิงพูด
            “เราไม่ได้อยู่กลุ่มพวกนาย เราแค่มากินข้าวด้วย...พุทราเราไม่คิดเลยว่าพุทราจะเป็นคนแบบนี้ นายนิสัยดีนะ...แต่ไม่น่ามาอยู่รวมกับคนพวกนี้เลย”
            “อ้าวเหี้ยนี่!!!!!!”
            ผมยืนลุกขึ้นเต็มตัว...เดินลุกไปยังโต๊ะนั้น!!!!! ด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม!!!!!! นิ่ง...และแทบจะฆ่าคนได้!!!!!
            “พะ พะ พี่พุท”เจคราง
            “ออกมาเจ!”น้องหน้าซีดเป็นไข้ต้ม ส่วนไอ้เด็กผีพวกนี้ก็เงียบปากทันทีที่เห็นผม
            “เรื่องเลว ๆ ไม่ต้องมาลากเจไปด้วย...เป็นแค่นักศึกษาริอาจทดลองยาเสพติด ระวังจะพ่อแม่จะได้ไปงานศพก่อนงานรับปริญญา”
            “อ้าวไอ้เหี้ยนี่...ทำไมปากหมาอย่างนี้ว่ะ”ไอ้คนชื่อกิตลุกขึ้นยืน คนในร้านอาหารมองเราเต็มไปหมด พนักงานร้านก็ยังยืนห่าง ๆ ผมดันน้องเจไปยืนข้างหลัง
            “พุท”เสียงเรียกทำให้ต้องหันไปดู นายตำรวจติดยศใส่เครื่องแบบเต็มตัว...ไอ้แวน มาถึงพอดี ผมโทรเรียกมันตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว คิดว่ามันจะมาไม่ทัน
            “อยากลองไปตรวจร่างกายหาสารเสพติดกันหน่อยไหม ไอ้หนู”ผมบอก พวกมันสามคนหน้าซีด...มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
            “พี่อย่ามีเรื่องกันเลย ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วย”พุทราเข้ามายกมือไหว้ หึหึหึ...
            “น่าจะมีอะไรอยู่ที่ตัว ลองไปตรวจดูแล้วกัน”ผมบอก จ่ายค่าอาหารแล้วลากน้องเจออกมา ได้ยินเสียงโวยวายของเด็กสามคนดังลั่นร้าน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป ยืนอยู่นานผมได้โดนข้อหาทำร้ายร่างกายแน่ ๆ
            “พี่~”เจร้องไห้
            “ไม่เป็นไรแล้วครับ”กอดน้อง
            “เกือบไปแล้ว~”เจคราง
            “เดี๋ยวเราต้องเล่าให้พี่ฟังทุกอย่าง รู้จักพวกนั้นได้ยังไง...แล้วเคยไปไหนกับพวกนั้นรึเปล่า”เจส่ายหน้า
            “ปกติก็กินข้าวกันในโรงอาหารมหาลัยกับพวกกอล์ฟแหล่ะ เพิ่งมากินข้างนอกวันนี้วันแรก”น้องบอก ผมรู้ว่าน้องไม่โกหกแน่นอน
            “น้องเจยังเป็นเด็กดีของพี่อยู่ไหม”ผมถาม ลูบหน้าใส ๆ นั้น เจร้องไห้...พยักหน้า
            “เป็นฮะ ฮึก....”กอดและจูบปลอบ...เอาหนังสือและกระเป๋าไปวางไว้หลังรถ
            “ไม่ได้ทำอะไร จะร้องไห้ทำไมนะเรา”ผมยิ้มขำ
            “ก็กลัวพี่พุทโกรธนี่”น้องเช็ดน้ำตาตัวเองปรอย ๆ
            “ถ้าเจไปกับพวกนั้น พี่จะโกรธมาก...รู้ใช่ไหม เวลาพี่โกรธเป็นยังไง”เจพยักหน้า...
            “เจขอโทษนะ”ผมกอดน้อง...
            “วันนี้เป็นเจ้ามื้อเลี้ยงข้าวพี่หน่อยแล้วกัน”ผมบอก
            “เลี้ยงข้าวเหรอ”
            “ครับ หิวจัง...หาอะไรกินกันไหม”เจมองหน้างง ๆ ว่าทำไมเปลี่ยนเรื่องเร็วจัง
            “นั่งรอตั้งหลายชั่วโมง ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนนน~”ผมจับมือเล็ก ๆ ขึ้นมาจูบ
            “คิดว่ากลับไปทำงานแล้วนี่นา”
            “เด็กที่ไหนไม่รู้มาทำให้เป็นห่วง...จนต้องโทรไปบอกป๊าหยุดงานตั้ง 2 วัน”
            “หยุดงาน!!!!!!!!!!!”เจตะโกน ทำตาโต...เหมือนคนตกใจสุดขีด
            “ฮ่าฮ่าฮ่า เพื่อเราเลยนะ”ผมบอกเอาใจ
            “เย้~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน...น้องคงดีใจมาก อารมณ์ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ พูดโน่นนี่ไม่หยุด หึหึหึ...เจ้าตัวเล็ก อย่าเพิ่งหมดพลังก่อนวันละ...คืนนี้อีกยาวนาน ฮาาาาาาา (ยิ้มให้กับผู้ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง)


 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2

ตอนที่ 65
[พุท]
            ตั้งใจจะแวะมาเก็บเสื้อผ้าไประยองกัน ผมให้น้องเจโทรไปยกเลิกนัดกับเพื่อนพรุ่งนี้ เห็นว่าจะไปเดินเล่นที่สยาม รีบโทรทันที กับเพื่อนเดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก...แต่ผมได้หยุดทั้งที อยากพาน้องไปเที่ยวทะเลแล้วก็ไถลพาเข้าไปหาป๊า ให้ป๊าเห็นหน้าหน่อย เอาเจไปอ้อน...เผื่อจะได้หยุดงานเพิ่มอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ เจ้าตัวเล็กจะได้อยู่ชื่นใจกับผมต่อ (มีแผน)
            “เจี๊ยบ เอาครีมกันแดดใส่กระเป๋าไปด้วยนะ”ผมสั่ง เจี๊ยบรับคำ...เรื่องเกี่ยวกับน้องเจต้องยกนิ้วให้คนนี้เลย รู้ดีทุกอย่าง เจอยากได้อะไร...ไม่อยากได้อะไร จัดใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยมีครบทุกอย่างที่ต้องการ
            “พรุ่งนี้คุณพุทจะไปกี่โมงคะ”
            “ยังไม่รู้ อาจจะสาย ๆ หน่อย ตั้งอาหารเช้าสักแปดโมงก็ได้”
            “ค่ะ”
            หยิบเงินค่ากับข้าวให้เจี๊ยบ และซองเงินเดือนของทุกคนในบ้านยื่นให้ ปกติผมจ่ายเป็นเงินสด...จะผ่านเจี๊ยบทั้งหมด ที่เจี๊ยบจะมีสมุดรายการใช้จ่าย และเซ็นรับเงินทุกครั้ง...ผมสอนให้ทุกคนให้ความสำคัญต่อการใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ จะให้เงินใครยืมก็ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ซะ จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันทีหลัง เหมือนแม่บ้านสองคนที่ไล่ออกไปเมื่อนานมาแล้ว ขโมยเงินน้องเจตอนขึ้นมาทำความสะอาด เรื่องมาแดงตอนที่ให้เงินอีกคนยืมแล้วอีกคนไม่ยอมคืน สาวเรื่องกันไปมาสุดท้าย...เงินขโมย เจ้าตัวน้อยนี่น่าตีที่สุด ไม่มีเงินไปเรียนเป็นอาทิตย์ก็ไม่ยอมบอก ข้าวกลางวันไม่ได้ทาน...กลับมาตอนเย็นทีไร กินอย่างกับเสือโหย จนเจี๊ยบมารายงานผมนี่แหล่ะ
            ส่วนครอบครัวน้องเจผมตัดแบ่งเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ไม่อยากให้มายุ่งกับเจมาก รำคาญปัญหามากมาย แล้วอดไม่ได้ที่จะต้องทะเลาะกับน้อง
            เดินลงมาห้องดูทีวีขนาดใหญ่ เป็นห้องที่สร้างไว้บรรยากาศคล้ายโรงหนังในห้าง ผมสั่งทุบกำแพงขึ้นมาใหม่โบกปูนกั้นเป็นห้องอย่างดี ทำเป็นของขวัญให้น้องเจ...น้องบอกอยากได้ห้องดูการ์ตูน ก็ทำให้เขา...ตอนนี้ก็นอนดูการ์ตูนอยู่ในห้อง
            “โตแล้วยังนอนดูวันพีซ เหรอครับ”ผมแซว หมุนไฟในห้องให้เข้มขึ้นอีกหน่อย เจยิ้ม...มีหมีหน้าโง่ ๆ 2 ตัวยักษ์นอนกั้นทางอยู่
            “วันนี้ทานข้าวอะไรดี”ลงไปกอด น้องเจเลื่อนตัวเพราะสนใจหน้าจอด้านหลังมากกว่า
            “อะไรก็ได้”
            “อยากกินเค้กฝีมือน้องเจจังครับ พี่ไม่ได้กินนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย”ขยี้แก้มน่ารัก
            “อือ ไว้ค่อยไปทำที่บ้านพี่พุท”
            “คร้าบบ”เจ้าตัวเล็กไม่ยอมมองหน้าเลย ผมยิ้มแกล้งเค้า...ที่นอนอยู่ เอามือล้วงไปใต้เสื้อดูเหมือนว่าพักนี้จะอ้วนขึ้นกว่าเดิมมาก แก้มที่ป่องอยู่แล้ว...ตอนนี้ป่องขึ้นกว่าเดิมอย่างน่ารัก ผมหัวเราะเบา ๆ
            “อืออออ ปล่อยให้เจดูก่อนพี่พุท”คนใต้ร่างขมวดคิ้ว ผมไม่ยอม...เลิกเสื้อดูใต้ร่างขาว ๆ
            “อ้วนจัง”
            “งือออออ พี่พุท”ได้ผล น้องเจทำตาขวางใส่
            “ทำไมอ้วนขนาดนี้ครับ”
            “ไม่บอก”เจพลิกตัวนอนคะแคงข้างหันหน้าเข้าโซฟา ผมจับไหล่น้องไว้...เอาคางเกย
            “แสดงว่าไม่ออกกำลังกาย?”
            “ไม่อยากบอก”กวนผมกลับ
            “คงต้องตัดเงินเดือนเจี๊ยบใช่ไหม? โทษฐานไม่ยอมทำให้น้องเจมาวิ่งตอนเช้าได้?”
            “ไม่บอก”
            “หึหึหึ”ผมแกล้งลูกแกะในอ้อมกอด กวนอย่างนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ซะแล้ว

[เจ]
            ใจเต้นตึกตัก...ตอนพี่พุทเข้ามาใกล้ เขินจนไม่กล้าที่จะมองหน้า...มือใหญ่ ๆ ชอบมาล้วงอะไรก็ไม่รู้ เจอยากกระโดดออกจากตรงนี้ ใช่ ๆ ต้องหนี!!! พลิกตัวมามองหน้าพี่พุท เขากำลังก้มลงเอาลิ้นดุนปากเจ สัมผัสเล็ก ๆ จากคนตรงหน้าทำให้สติกระเจิงไปชั่วครู่
            “พี่พุท”
            “อือ”
            เจหายใจไม่ถนัด!!!!!! มือหนา ๆ ที่ลูบไล้ทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะ...... >< รู้นะ...ว่าพี่พุทจะทำอะไร เจผลักร่างสูงออก พี่พุททำหน้าเจ้าเล่ห์จะคว้าตัวเจเข้าไป
            “แบร่~!”หนีสิคร๊าบบบบบบบบบ จะอยู่รออะไร!!!! ผมวิ่งออกมานอกห้องอย่างไม่คิดชีวิต ฮ่าฮ่าฮ่า พี่พุทเหมือนจะสติหลุดไปแปปนึง พอรู้ว่าเจวิ่งออกมา...คุณชายก็วิ่งตาม
            “หนีเร๊อะ”
            “อร๊ากกกกกก กรี๊ดดดดด”วิ่งรอบโซฟา หัวเราะตาประกาย...พี่พุทเหมือนคิงคองเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
            “แฮ่กๆ”
            “แบร่ ๆ ไม่ให้จับหรอก”
            “หนีได้หนีไปนะน้องเจ”พี่พุทแกล้งเดินไปในครัว มองแผ่นหลังกว้าง ๆ แผ่นหลังของน้องเจ คนของน้องเจ...วิ่งกระโดดขี่หลังพี่พุท เขาเหมือนยังไม่ได้ตั้งตัว...ถึงกับเซไปนิดนึง
            “ทำแบบนี้อีกแล้ว! ถ้าตกไปจะทำยังไง”
            “คริคริคริ”ที่แรกพี่พุทจะเข้าห้องครัว แต่ดันเปลี่ยนไปเดินเข้าห้องดูทีวีซะงั้น เอ่อ...ภายในห้องมันก็มืด ๆ สุ่มเสี่ยงต่อการโดนกระทำมาก เจยังไม่อยากโดนฉีดยาก่อนลงทะเลนะ!!
            “เจ้าตัวแสบ ตัวก็หนักขึ้น...มานี่เลย”เอนหลังลงแล้วแกะมือเจออก หน๊อยยยยยย...ใครอ้วน!
            “อร๊ากกกก ปล่อยยยย”เจร้อง เพราะพี่พุทรวบมือไว้เหนือหัว แล้วก้มลงมาจูบ
            “อืออออ”
            “เจ้าดื้อของพี่”
            ลิ้นนุ่ม ๆ ถูกดันเข้ามา ทีแรกจะไม่เปิดปากตัวเองเด็ดขาดแต่พี่พุทซะอย่าง...เจขอหายใจสักหน่อย ดันประกบปากตัวเองเข้ามา สายตาโลมเลีย...ทำเอาเขินไม่น้อย
            “พะ พี่พุท”มือหนาปล่อยออก เจจับคอเสื้อพี่พุท...บอกตรง ๆ ว่าก็โหยหาสัมผัสนี้อยู่เช่นกัน พี่พุทเอาหน้าผากชนแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะแลกลิ้นกันอีกครั้ง คนตัวใหญ่ดึงน้องเจนั่งตักโดนที่ตัวเองเอนหลังพิงโซฟาอย่างสบาย
            “ตัวเล็กของพี่ ตัวไม่เล็กแล้ว”
            “ย้ำจัง! เจอ้วนมากเหรอ?”หน้าเสียไปแล้ว ก็กลัวอ้วนจริง ๆ นี่ พักนี้กินเยอะด้วย...มีแต่ของอร่อย และไม่มีใครห้าม เจก็เลยจัดเต็มทุกสิ่งอย่าง
            “กำลังน่ารัก”คำพูดเชิงเย้าจากพี่พุททำเอาเจยิ้มหวานออกมา ปกติเขานิ่งขรึมจะตาย อะไรก็งาน ๆ ๆ ใครจะไปรู้ว่าพี่พุทก็มีมุมนี้กับเขาด้วยเหมือนกัน
            “อือออ จะจับเจโยกทำไมเล่า!”หน้าแดง พี่พุทหัวเราะ...ก็แบบ ไอ้ข้างล่างมันดุกดิก ๆ อ่ะ ><
            ร่างสูงจับคางเจให้โน้มเข้าไปใกล้แล้วบรรจงบอกรักด้วยภาษากาย มือที่คล้องอยู่ที่เอว...เลื่อนเข้ามาใต้เสื้อ พี่พุทครางอย่างพอใจ แล้วถอดเสื้อเจออก...
            “จุ๊บ...”
            อาย >< สายตาพี่พุทให้รู้สึกร้อนระอุขึ้น พยายามจะโน้มตัวไปซบไหล่...แต่พี่พุทก็ดันออก ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะลงลิ้นที่ยอดอกน้องเจ อร๊ากกกก...
            แอ่นรับทุกสัมผัส...ร่างเจสั่นน้อย ๆ จับไหล่หนาไว้แน่น
            “พี่พุท”
            “หวาน~”เสียงงึมงำเบา ๆ ผมพี่พุทหอม...เพราะเพิ่งสระใหม่ ๆ เจชอบกลิ่นนี้เพราะเป็นกลิ่นที่ไม่ฉุนมาก หอมเบา ๆ แต่แอบอบอุ่น ดึงหูหนา ๆ นั่นแทนความรู้สึกเสียวซ่าน เจไม่ใช่ฟาร์มโคนมนะ! ดูดซะแรง!!!
            ร่างสูงตาเยิ้มเงยหน้ามองเจ แล้วก็จูบกันอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง

            พี่พุทเดินแก้ผ้าไปกดล็อคประตู...ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ เจนอนคว่ำหลังจากพี่พุทเปลือยให้ทั้งร่าง ความเย็นจากแอร์ทำเอาสั่น...ผ้าห่มให้คลุมร่างสักนิดก็ไม่มี เขาเดินกลับมาพร้อมกับเจลที่อยู่ในลิ้นชัก...
            “มานี่”
            “ไม่เอา!!!!”
            “มาครับ”
            “ไม่เอา...เจไม่อยากนั่ง”จะร้องไห้เพราะพี่พุทจะแกล้ง...พี่พุทมานอนทับไว้ทั้งตัว ลิ้นร้อนเลียหูเจเบา ๆ โอ๊ยยย..อายอย่างแรง
            “พี่ทำให้ครับ”พี่พุทดึงน้องเจลุกขึ้นแล้วก้มมองใต้ร่าง...ก่อนที่มือหนาจะรูดขึ้นลงช้า ๆ ผวาเฮือกรับสัมผัส...คล้องคอพี่พุทแล้วก้มหน้าลง
            “อึก...อึก”
            “ดีไหม...”
            “อืออออ อ๊ะ อ๊อ อ๊าส์”อ่อนระทวยไปทั้งร่าง พี่พุทจับเจนั่งบนโซฟาแล้วตัวเองเลื้อยลงไปนั่งข้างล่าง จับแก่นกายไว้แล้ว...ก็ก้มลงไปทักทายมัน
            “อ๊ะ พะ พี่พุท”
            “อือ”เสียงครางพอใจ
            “พี่พุท อ๊ะ อ๊ะ.........อ๊ะ ยะ อย่าแรง”แล้วพี่พุทก็ทำให้น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาได้อย่างสวยงาม แฮร่...
            “บอกแล้วว่าอย่ารูดแรง”บอกเขิน ๆ เอาทิชชู่เช็ดหน้าพี่พุท ร่างสูงเดินมานั่งโซฟาแล้วผลักเจนอนลง
            “ตาพี่บ้าง”พี่ใหญ่จับขาเจพาดพนักพิงโซฟาด้านนึง อีกข้างก็ปัดลง...อายนะ
            “กระต่ายน้อยของพี่”พี่พุทพูดเสียงกระเส่า เลื่อนตัวขึ้นมาจูบ
            “กระต่ายที่ไหนไม่เห็นมีกระต่าย”แก้ตัวเขิน ๆ
            “อยู่บนรถ...ให้พี่ออกไปเอาไหม”ส่ายหน้า หมอนกระต่ายที่อยู่บนรถพี่พุทประจำ เป็นหมอนที่เจติดมาก...ไม่ว่าจะไปไหน แค่ขึ้นรถปุ๊ปพี่พุทต้องเอามาวางบนตักแล้ว เวลานอนก็ต้องกอดเพราะมันเละ ๆ นอนสบาย
            “เป็นเด็กดีของพี่...มีอะไรต้องเล่าให้พี่ฟังให้หมด”เจพยักหน้า พี่พุทก็ก้มลงมาจูบอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้ทำเอาเจร้องไห้ เพราะมันอบอุ่นอย่างที่สุด
            “เจรักพี่พุท”พูดเสียงเบา
            “พี่ก็รักหนูนะครับ”มือหนาเลื่อนลงผ่านแก่นกาย และเอาเจลป้าย...ก่อนจะขยับนิ้วเข้าไป หลับตาเพราะไม่กล้าสบตายพี่พุท
            “อึก...อึก”
            “ดีไหม”
            “อึก...พี่ อึก......”เจแอ่นสะโพกขึ้น เกร็งเท้า...และพยายามจะจิกอะไรสักอย่างที่มือพอจะยื่นไปจับไหว พี่พุทเลื่อนมาจับที่ท้ายทอยแล้วจูบที่คอเจ เสียว...ซ่าน สติกระเจิงไปเต็มรูปแบบ...จะสุดปลายทาง จู่ ๆ พี่พุทก็เอานิ้วออก เหมือนสวรรค์หล่นตุ้บพริบตาเดียว เจหอบหายใจเฮือกใหญ่ก่อนลืมตามองพี่พุทอย่างเว้าวอน
            “เดี๋ยวไม่สนุก”ร่างสูงจับเจลุกขึ้นมานั่งตักอย่างทุลักทุเล แน่สิ...ร่างอ่อนระทวยแบบนี้จะทำอะไรก็ได้นี่
            “อ๊ะ...อ๊ะ”แท่งเนื้อพร้อมใช้งานกำลังถูกพี่พุทจับยัดที่ช่องทางรักของน้องเจ สะดุ้งผวากอดเฮือกใหญ่...เพราะมันเจ็บจนต้องกัดฟันหลับตาปี๋
            “อึก...พี่”
            “อีกนิดนะครับ อีกนิด”เสียงปลอบประโลม ก่อนจะทำให้มันมิดด้ามได้...เหงื่อไหลตามรูขุมขนราวกับไปฟิตเนสมาสักสามชั่วโมงได้
            “อึก...”เพลี๊ย! ตีแขนล่ำ ๆ เพราะเล่นสวนสะโพกมาไม่ให้สัญญาณเตือน มองตาพี่พุทค้อน ๆ อีกคนกลับหัวเราะ
            “ขยับให้พี่หน่อย”
            “อืออ”
            “ไม่ทำก็คามันอยู่อย่างนี้ละ”เจเบะปาก...พี่พุทเลยจัดการจูบปาก แล้วขยับเอง...
            “อึก.....”มือใหญ่จับสะโพกเจแล้วยกขึ้นลง อะไรที่เสียดสีกันอยู่ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านเข้าไปอีก จนเจทนไม่ไหว...ต้องขยับเอง เพราะได้จังหว่ะมากกว่า พี่พุทยิ้มอย่างพอใจ...
            “อ๊า....”ต่างคนต่างครางสลับกันเสียงดัง เจกอดคอพี่พุทไว้แน่นก่อนจะถูกยกตัวลอยบนอากาศ แล้วถูกทำในท่าใหม่...คราวนี้กลับทำให้ช่องทางรัดบีบแน่นขึ้น พี่พุทก็ร้องดังขึ้น
            “จะ เจ”
            “อือ...อยากกอด”เจบอกครางไม่ได้ศัพท์แล้วคราวนี้ ร่างสูงจับเจนอนโซฟาแล้วกระแทกตัวเองเข้ามา เอ่อ...จะรีบไปไหนครับ เจหอบหายใจเหนื่อย...ปล่อยร่างตัวเองสะเปะสะปะ จนร่างสูงกระตุกถี่ยิบหลายครั้ง...ก่อนจะรีบหยิบทิชชู่มาปิดปลายทางออกไม่ให้เลอะห้องไปมากกว่านี้
            เหนื่อยมาก...และหอบหายใจแทบไม่ทัน พี่พุทเอากระดาษมาเช็ดร่องทางของน้องเจให้
            “ตัวน้อยเป็นของพี่นะครับ”เสียงกระซิบดังก่อนจะหลับไปเพราะความเหนื่อยสุด ๆ
//////////////////////////////////////////////////////////////////
            [พุท]
             ใช้ชุดเดิมคลุมร่างเล็กไว้แล้วอุ้มเข้าห้องมา บนตึกไม่มีคนเพราะทุกคนหมดงานแล้ว...อยู่ข้างล่างกันหมด ผมอาบน้ำชำระร่างกายตัวเอง ก่อนจะเอาผ้าขนหนูเล็กบิดน้ำพอหมาด ๆ ไปเช็ดตัวให้น้องเจ แล้วใส่ชุดใหม่...ห่มผ้าให้นอนพักร่างกาย ถ้าตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยออกเดินทางเมื่อนั้น
            เดินมาดูกระเป๋าสองใบของน้องเป็นเสื้อผ้าหนึ่งใบ และของใช้ส่วนตัวเค้าอีกหนึ่งใบ เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา...จึงเดินลงมาข้างล่าง ผมไม่รู้ว่าคนใช้บ้านคนอื่นเป็นอย่างไร แต่คนใช้บ้านน้องเจ...เป็นเสมือนญาติที่ดูแลกัน ผมไม่ได้ห้ามว่าทุกคนต้องเข้านอนกี่โมง ตื่นกี่โมง...ทำอะไรบ้าง เพราะรู้หน้าที่กันดีอยู่ นี่ก็นั่งดูทีวีห้องรับแขกเล็ก...อันนี้ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ถ้าไม่มีแขก ทุกคนก็จะรวมกันอยู่นี่...แต่ถ้ามีแขก บางทีก็แยกย้ายกันอยู่ในห้องบ้าง (แต่บ้านนี้ไม่มีแขกนานแล้ว)
            “ดำเอารองเท้าน้องเจใส่หลังรถหรือยัง”ผมโผล่หน้าเข้าไปถาม พวกที่ดูทีวีก็หันมามองกันหมด
            “ใส่แล้วครับ”
            “อือ ตอนเช้าตื่นมาล้างรถให้ด้วยละ”ดำรับคำ ผมจึงเดินออกมาที่ครัว เอาอาหารใส่ถาด...อะไรที่พอจะให้เด็กน้อยรองท้องได้ เพราะตื่นมากลางดึกต้องร้องหิวแน่นอน เจี๊ยบเดินตามเข้ามา
            “คุณพุทคะ”
            “ว่า”
            “จะเอาขึ้นข้างบนเหรอคะ เจี๊ยบจัดการให้ค่ะ”
            “ไม่ต้องหรอก...ไปดูหนังเถอะ”ผมบอก จังหว่ะนั้นเสียงรถแล่นเข้ามาผมกับเจี๊ยบมองออกไปพร้อมกัน
            “ใครมาดึกขนาดนี้”
            “จะมีใครอีกละคะ เจ้าเดิม...เอ่อ คุณพุทคะ...คราวที่แล้ว.....”เจี๊ยบหยุดพูดไปแปปนึง “เอ่อ น้องเจเอาเงินให้เขาไปห้าหมื่น”ผมกัดปากตัวเอง เตือนไอ้ตัวเล็กไว้แล้วนะ!!!!! บอกแล้วว่าอย่าให้!!!!!!!!!!!! และทางฝ่ายนั้นเหมือนกันบอกแล้วว่าใครเงินไม่พอให้มาเอาที่ผม นี่น่าตีจริง ๆ
            “คุณพุทอย่าดุน้องเจเลยนะคะ”เจี๊ยบทำหน้าไม่สู้ดี ผมพยักหน้า...
            “เทนม น้ำส้ม แล้วยกถาดขึ้นไปบนห้องให้ฉันหน่อย”ผมบอก เดินออกมาหน้าบ้าน บรรดาลุงป้าและเด็ก ๆ ที่ดูทีวีกันอยู่ก็ทยอยเดินออกมาสมทบ
            ยืนนิ่ง ๆ รอให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาหา...ผมยกมือไหว้เพราะอย่างไรก็เป็นพ่อของน้อง
            “มาดึกขนาดนี้มีธุระด่วนอะไรไม่ทราบครับ”
            “ผมอยากคุยกับลูกผม คุณไปตามออกมาเดี๋ยวนี้”ผมแสยะยิ้มร้าย
            “มีเรื่องอะไรผ่านผมก็ได้ครับ เจเข้านอนแล้ว”คนตรงหน้ามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมยืนด้วยท่าทีสงบนิ่ง พยายามไม่โต้ตอบอะไร
            “เรื่องส่วนตัวผมกับลูก”คุณพ่อพูดเน้นย้ำคำ...
            “ขอยืนยันอีกครั้งว่า ทุกเรื่อง...ต้องผ่านผมครับ”บอกอย่างใจเย็นที่สุด คนตรงหน้าเห็นว่าคงจะไม่ได้คุยกับน้องแน่ ๆ ก็โมโหกระฟัดกระเฟียดกว่าเดิม
            “อีเจี๊ยบ ไปเรียกเจลงมาเซ่ะ”คำพูดจิกเรียกออกจากปาก ไม่แปลกใจ...
            “กรุณาใช้คำพูดแบบคนมีการศึกษาด้วยครับ”ผมบอก
            “มึงเอาลูกกูมา! ไม่งั้นกูจะไปแจ้งความ!!?!”
            “หึหึ...กล้า? เอาสิครับ? ผมจะรอที่นี่นะ....”บอดี้การ์ดของผมขับรถเข้ามา ปกติถ้าอยู่บ้านจะไม่มีสงสัยเป็นเจี๊ยบที่โทรเรียก คุณพ่อเห็นว่าตัวเองมาคนเดียวแล้วเรามีพวกเยอะกว่า ก็ได้แต่พูดจาว่าร้าย...ชี้หน้าด่าทอฟังแทบไม่ทัน
            แล้วก็ขึ้นรถออกไปเลย โดยที่ผมยังไม่รู้เจตนาว่ามาทำอะไร!?!?!??!?! งงดีไหมละ...
            “ผมไม่อยู่...ปล่อยให้เขาขึ้นตึกรึเปล่า”ผมถามเสียงเครียด ลุงหมานยังตอบเสียงสั่น
            “เอ่อ ใครจะห้ามเขาอยู่ละครับคุณ”
            โอเครับทราบ...ไม่ไปถามตัวเล็กต่อละ น้องเก็บอะไรไว้มากเกินไป ผมสั่งบอร์ดี้การ์ดเฝ้าหน้าบ้าน...ไม่ยอมให้ใครเข้ามาได้อีก และให้รีบออกไปตอนเช้า ก่อนน้องจะเห็น...เจไม่ชอบให้มีคนมาเฝ้า น้องอึดอัด...
            เดินส่ายหน้าก่อนขึ้นห้อง...น้องเจยืนมองตรงกระจกบานใหญ่ ทันทีที่เข้าไปน้องก็หันกลับมามองผม
            “พ่อมาทำไมเหรอฮะ”เจถาม ผมกอดเอวเบา ๆ
            “ไม่มีอะไรหรอก...”
            “พี่พุทไล่พ่อไปรึเปล่า?”เจถามเสียงเบา
 “เปล่าครับ ไม่ได้ไล่เลย”ผมจับตัวเล็กนั่งบนเตียง
 “อย่าคิดมากนะครับ”
“สงสัยเงินพ่อไม่พอจ่ายค่าไฟแน่เลย พ่อโทรบอกเจ”เจ้าตัวพูดออกมาเอง สีหน้าเป็นกังวล...
            “ถ้าเขาโทรหา...เงินไม่พอหรืออะไรให้พูดกับพี่”จะว่าสั่งเสียงแข็งก็ได้ ก็น้องชอบดื้อรั้นไม่ฟังคำสั่งทุกที
            “พี่พุทอย่าว่าพ่อนะ...”ตัวเล็กจะรู้หรือไม่ว่าไอ้แววตาอ่อน ๆ ของตัวเอง ทำให้โดนเอาเปรียบได้ง่าย ผมกอดน้อง
            “พี่ให้เจี๊ยบยกอาหารขึ้นมาให้...เราหิวไหม”
            “พี่พุทต้องบอกออกมาก่อนว่าอย่าว่าพ่อเลยนะ”ไม่ยอมแฮะ ผมพยักหน้า
            “แต่ถ้าเจโดนทำร้ายอันนี้พี่ไม่รับประกัน ไว้ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้นโอเคไหม”น้องทำปากจู๋ ผมจับหัวนั้นโยกลงเล็กน้อย สองสามที
            “พรุ่งนี้จะได้ไปเล่นน้ำแล้วน้า”
            “อือ”
            ยกถาดอาหารมาวางบนเตียง...มีรึจะมีกิน ฮ่าฮ่าฮ่า เคี้ยวตุ้ย ๆ น่าชังก่อนจะร้องหาขนมปังทาแยม กับแฮมอีก...ให้ดีไหมนะ?
            “จุ๊บ...ขอหน่อยน้า ไม่อิ่มเลยอ่ะ”ปากมัน ๆ ยังมาจุ๊บแก้ม ผมหัวเราะก่อนลงไปบอกเจี๊ยบ นี่ก็จัดมาซะชุดใหญ่ เอาใจกันอย่างนี้ไม่ให้น้องอ้วนได้ยังไง
            “กางเกงยังใส่ไซส์เดิมได้เหรอครับ”ผมแกล้งถาม
            “อืออออออออออออออ”ทำเสียงไม่พอใจ แต่ไม่ยอมหยุดกิน
            “ฮ่าฮ่าฮ่า อุ๊ส์”ไอ้ตัวเล็กยัดขนมปังใส่ปาก ผมก็ต้องเคี้ยว...กินไปด้วย
            “เจ...”
            “อือ...ไม่เอา”งับไส้กรอกอันเล็กไว้ ปลายอีกด้านยื่นให้น้องเจ
            “เร็ว...”ตัวเล็กงับแล้วจะปล่อยออก แต่ผมกดท้ายทอยเล็กเข้าหา...ชิมความหวานและป้อนไส้กรอกให้อย่างเนียน


 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2

ตอนที่ 66

วันเล็ก ๆ ของเรา (ติณฑ์นาวม่อน)



[ติณฑ์]
            พ่อของไอ้เตี้ยให้ผมนั่งดูเอกสารสินทรัพย์บางส่วนที่จะแบ่งให้ดูแล ท่านถามว่าผมเห็นด้วยไหม อืม...งานรีสอร์ต ซึ่งในส่วนนี้นายฟ้าดูแลให้อยู่ แต่เหมือนเจ้าตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ผมอยากจะถามคุณพ่อว่า...คุณพ่อน่าจะถามลูกชายคนเล็กนะครับ ผมยังเดาใจมันไม่ถูกเลย...ว่ามันจะชอบหรือไม่
            “ยังไงก็เปรย ๆ ให้หน่อยแล้วกันนะ”นั่นคือคำของคนเป็นพ่อ ฮา...ผมยิ้มรับแล้วเอาเอกสารยัดลงกระเป๋า ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมและหมวกให้ตัวแสบที่พาหลานออกไปซ่าในไร่
            คงเป็นภาพที่ชินตาไปตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ คนงานและทุกคนในบ้านจะเห็นไอ้เตี้ยเดินนำหลาน ซึ่งขาสั้น ๆ เดินตามไม่ค่อยทันอยู่เสมอ บุ้งพามิกกี้มาเยี่ยมชมไร่ วันนี้เลยจะไปปิกนิกกันเล็ก ๆ อุปกรณ์เตรียมมาครบแล้ว ผมเดินเอาเสื้อไปให้มันใส่
            “ไม่เอามันร้อน”ทำหน้างอ ไม่ยอมใส่...
            “แดดเลียผิวไหม้นะมึง”กระซิบบอก เลม่อนทำหน้างง...มองผู้ใหญ่สองคนยัดเสื้อไปในมือของอีกฝ่าย
            “บังคับ?”
            “แดดมันร้อน! เดี๋ยวไม่สบายนะ”
            “ใส่เสื้อนั่นแหล่ะร้อน...วุ้ย”ทำเสียงไม่ค่อยพอใจ ขี้เกียจเถียงครับ เด็กมันดื้อเถียงไปก็เท่านั้น ที่ทำได้คือเดินหนีดีกว่า ไม่อยากเหวี่ยงใส่ให้เสียอารมณ์
            “ม่อนอุ้ม”เลม่อนยื่นแขนเล็ก ๆ จะให้ผมอุ้ม ผมหัวเราะ
            “อุ้มม่อน ไม่ใช่ม่อนอุ้ม”แก้ให้ ยิ้มเยาะ ๆ ให้ไอ้เตี้ยนิดนึง ให้มันยืนกัดปากตัวเองอยู่นั่นแหล่ะ ง้อมากแล้วได้ใจ
            “ป่ะ ม่อนกินแซนวิชดีกว่า ติณฑ์ทำแซนวิชมาให้ม่อนคนเดียวเลยนะ”
            “เย้ ม่อนอยากกินทูน่า”
            “ทูน่าก็มี ไก่ทอดของโปรดใครน้า”พูดเสียงดัง ของโปรดไอ้เด็กข้างหลังนี่แหล่ะ หึหึหึ....ไหนจะข้าวผัดซีอิ้วที่มันอยากกินอีก อุตส่าห์หมักหมูไว้ซะอร่อยเลย นุ่มลิ้นมาก ๆ ใส่ผัก ใส่ไข่แบบเต็มที่เลย แกงจืดปลาหมึกยัดไส้อีก...โอ๊ยยยย หิวกันเลยทีเดียว
            “จะใส่ยังไงละ เสื้อเนี่ย!!!!!!”เด็กข้างหลังบ่นไม่พอจับเสื้อเหวี่ยงกลับด้านไปมา ผมถอนหายใจ...และยืนมองมันอยู่
            “จึ้ก~”จู่ ๆ มาเหวี่ยงโว้ย...ห่า กุต้องเดินกลับไป...วางเลม่อน แล้วดึงเสื้อมาจากมือมัน
            “หน้านี่งอดีจังเลยนะ”
            “เสือก”
            “หึหึหึ....”กลับด้านเอาแขนเสื้อออกให้ได้ตามทรง แล้วยื่นไปให้มัน...เจ้าตัวรับไปใส่หน้างอ ๆ
            “ใส่หมวกด้วยนะ”ผมยื่นหมวกให้มัน มีอีกใบให้เลม่อน...
            “ไม่เอา”พูดเสียงเบาลง...
            “ใส่แล้วน่ารัก ใส่เถอะ...อย่าให้โมโห”
            “มึงชอบบังคับ...”
            “ไม่รักจะไม่พูดด้วยเลยครับ”ใส่หมวกให้อาหลาน แล้วพากันเดินดูต้นไม้ไปเรื่อย ๆ เจ้าตัวเล็กดูคล้ายจะง่วงนอนอยู่หน่อย เพราะออกมานี่กันตั้งแต่เช้าแล้ว
            “หิวกันหรือยัง”
            “อือ”จะเที่ยงแล้ว ผมเดินนำมาที่ปูเสื่อไว้รอ...ข้าง ๆ มีกระติกอาหารอยู่เยอะแยะ โต๊ะเล็กญี่ปุ่นถูกกางไว้เตรียมพร้อม ไอ้เตี้ยวิ่งไปนอนบนเสื้ออีกด้าน เลม่อนก็ดิ้นจะลงแล้วลงไปนอนซบอกผู้เป็นอา
            “หิวววววววววววว”
            “รอบุ้งกับมิกกี้ก่อนแล้วกัน”ผมบอก ไหนจะนายฟ้าอีก แต่คนหลังบอกว่าไม่ต้องรอ...บางทีอาจไม่มีเวลามาอยู่ทานด้วย
            “ติณฑ์...”
            “ครับ”
            “หิวแล้ว~”
            “ไม่รอพี่มึงเหรอ จะกินเลยไหมละ”ผมถาม มันพยักหน้า...เลม่อนนอนกลิ้งกับเสื่อ
            “กรี๊ดดดดดด คริคริคริ”ไอ้เตี้ยฟัดพุงหลานไปสองดอก ไอ้ตัวเล็กนี่ก็ชอบนะ...ไม่ใช่ว่าไม่ใช่ชอบ
            เปิดกล่องผัดซีอิ้วแบ่งใส่จานให้ แล้วเทแกงจืดปลาหมึกออกจากแพ็คที่เก็บความร้อนได้ ยังอุ่น ๆ อยู่เลย...ผมเลื่อนจานแซนวิชออกมาวาง
            “น้ำเปล่านะ”
            “อ้าวววว แปปซี่ไม่มีเหรอ?”
            “กินมากท้องอืด”ผมบอก
            “ก็ดะ”ยื่นมือไปหยิกจมูกรั้น ๆ นั่นสักที วันนี้ว่าง่ายดีจัง
            “พรุ่งนี้กลับแล้วนะ”คนตรงหน้าหันมาทำหน้างอ...เหมือนว่าเสียดาย
            “ทำไมเร็ว”
            “ก็เลม่อนต้องกลับไปทำเรื่อง...แล้วมึงก็ต้องกลับไปเรียน”มันเงียบซึมไปเลย ผมกอดมันเบา ๆ
            “อีกสามสี่เดือนก็ได้เจอกันแล้ว”ผมบอก
            “ทำไมนาน?”ผมยักไหล่ ขำหน้ามัน...หลอกง๊ายง่าย
            กินเก่งกันทั้งคู่...แต่เลม่อนยังติดเล่นและผมต้องป้อนมันบ้าง กินของตัวเองบ้าง ไอ้เตี้ยแทบจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมต้องร้องห้ามเพราะว่าอยากเหลือให้พี่มันกินด้วย นั่งทานกันสักพักบุ้งและมิกกี้ก็เดินเข้ามา
            “เป็นไง อร่อยไหมครับ”บุ้งนั่งข้าง ๆ น้องชายตัวเอง
            “มอมหมี่...ม่อนมีฟันสวยยยย”จู่ ๆ เจ้าตัวก็อวดฟันของตัวเอง เมื่อเช้า...คุณอาแปรงให้เชียวนะ ไม่สวยได้ยังไง
            “ครับ น้องเลม่อนต้องแปรงฟันทุกวันจะมีฟันสวย ๆ”มิกกี้ยิ้มยีฟัน
            “กินเลยไหม”ผมยกจานให้ ทั้งคู่นั่งข้าง ๆ กัน ตักข้าว...เตรียมทานข้าวกลางวัน สงสัยเด็กข้าง ๆ ผมจะยังงอนพี่ชายไม่หาย ถึงกับไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย
            “อร่อยจัง น้องทำเหรอครับ”ผักบุ้งพูดเอาใจ แต่คนตรงหน้าเบะปาก...กิน ๆ ส่วนของตัวเองเงียบ ๆ เป็นอันรู้กันว่าอย่างไปเซ้าซี้ ไม่งั้นระเบิดลงแน่ ๆ มิกกี้เหมือนจะชินที่มันเป็นแบบนี้...เธอก็เงียบ ทำเป็นคุยเรื่องอื่น ๆ ไป
            “ตกลงจะย้ายมาอยู่ที่นี่เลยไหมครับ”ผมถาม เพราะว่าคุณพ่อก็เตรียมถมดินสร้างบ้านให้แล้ว มิกกี้ยิ้มบาง ๆ ป้อนอาหารใส่ปากเลม่อน
            “ก็....ต้องไปเก็บวิชาให้ครบ มิกกี้ก็ต้องกลับไป...หาครอบครัว...”บุ้งมองหน้ามิกกี้
            “ครอบครัวอยู่ที่โน่นหมดเลยเหรอครับ ทำอะไรกัน?”ผมถาม
            “มีบริษัทที่โน่นค่ะ ก็คงกลับไปช่วยที่บ้านก่อน...ส่วนเจ้าตัวเล็กนี่ อาจจะต้องให้มาเรียนที่นี่ สักห้าขวบค่อยดูว่าจะเอายังไงกันต่อ ได้ไหมคะ?”
            ผมยิ้ม...ในใจตอบไปแล้วว่าไอ้ แต่อีกคนกลับเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร หึหึหึ...
            “ม่อนอยากอยู่”เลม่อนมองตาแม่ตัวเอง
            “จ้า อยู่ที่นี่ต้องห้ามดื้อนะ...ไม่มีมอมหมี่แล้ว”
            “ม่อนไม่ดื้อ...ถ้าดื้อนาวไม่รัก”
            “เหอะ! ปกติฉันรักแกเหรอว่ะ?”ไอ้เตี้ยพูดลอย ๆ ผมตบหลังมือมันเบา ๆ
            “ดูแลน้องให้พี่นะ....พี่รู้ว่าเราดูแลได้”ผักบุ้งยิ้ม
            “......................................”
            “โหเงียบแบบนี้ พี่ใจเสียนะเนี่ย...ตัวเล็ก บอกพี่หน่อยเร็ว...ว่าเราจะดูแลเลม่อนได้”
            “.......................................”ผม มิกกี้ และบุ้งแอบยิ้มออกมาพร้อมกัน
            “ถ้าไม่ได้...คงจะต้องจ้างพี่เลี้ยงพี่โน่นละครับ มิกกี้ตอนนี้เป็นตัวหลักของที่บ้านเขา ผมก็ทำงานด้วย...เรียนด้วย เวลาคงจะมีไม่พอ”บุ้งหันมาบอกผม
            “ครับ”
            “แต่จ้างพี่เลี้ยงก็ยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจได้รึเปล่า...เจอโหด ๆ นี่ เลม่อนแย่แน่เลย...แกไม่ค่อยติดใครด้วย”อันนี้ผมเห็นด้วยนะ เลม่อนสนุกสนานกับทุกคนก็จริง แต่รู้เลยว่าถ้าแกติดใคร...จะคอยแต่มองหาตลอดเวลา อันนี้ผมสังเกตเอาจากเวลาเลม่อนตื่นนอน น้องเจกวาดตามองหาไอ้เตี้ยก่อนเลย ถ้าไม่เจอก็จะถามว่าอยู่ไหน...ซึ่งปกติแล้วผมเป็นคนหาข้าวหาน้ำป้อนให้ด้วยซ้ำ แต่น้องไม่เอา TT
            “แพงไม่ว่า...แต่กลัวจะมาทำอะไรลูกเรา”มิกกี้พูดเป็นการเป็นงานขึ้น
            “เอาไงดีครับ”พี่ชายหันไปหาน้องชาย
            “ม่อนอยู่กับนาว...”เลม่อนไปกอดคออาแล้ว รู้ด้วยนะ...ว่าผู้ใหญ่พูดอะไรกัน
            “อานาวเหมือนไม่ให้อยู่ด้วยเลยครับเลม่อน ป๊าพาเรากลับดีกว่า”
            “ไม่!!!!!”เลม่อนกอดคออาแน่น บีบน้ำตา...เห็นไหม ร้องไห้ง่ายจะตาย
            “เจ็บนะ!!!”ไอ้เตี้ยพยายามแกะมือหลานออก แต่ไม่ออก...เดี๋ยวนี้เพิ่มฟังก์ชั่นกระทืบเท้ามาด้วย
            “ม่อนจะอยู่กับนาวววววว”
            “อยู่กับป๊าเห๊อะ...อานาวเบื่อม่อนแล้ว”บุ้งแกล้งลูกตัวเอง
            “ฮึก....”เลม่อนก้มหน้าจ้องตาอา
            “อะไรเล่าไอ้เตี้ย!!! วุ้ย!!!!”เดี๋ยวนี้เรียกหลานว่าเตี้ยนะครับ
            “จุ๊บ....”
            “โว้ยยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวเหอะๆ”เลม่อนเอาปากมัน ๆ จุ๊บปากอาอีกแล้ว หลานตัวเล็ก...กอดคอแล้วหัวชนกับอา ไอ้เตี้ยนี่ก็นั่งหน้าแดง เพราะความอาย เลม่อนเลยนั่งตักกอดแขนไม่ลุกไปไหนอีก
            ไม่บอกก็คงมีคำตอบอยู่แล้วกันทุกคน ทำไงจะแยกอาหลานคู่นี้ได้...เลม่อนติดไอ้เตี้ย จนไม่เอาใครทั้งนั้นแบบนี้ ผมเริ่มเห็นหายนะอีกสองสามวันที่เลม่อนต้องกลับเยอรมัน เดี๋ยวค่อยถาม...ว่าไอ้เตี้ยจะไปส่งหลานไหม
            “หิวนม”
            “เฮ้ย!!!!!!!!”
            “ฮ่าฮ่าฮ่า”หัวเราะกันร่วน แม้กระทั่งเด็กน้อยไหลลงไปนอนตักอาด้วยหน้าที่เปื้อนน้ำตาอย่างนั้น เลม่อนบอกหิวนมแล้วดันเลิกเสื้อคุณอาขึ้น
            “ไอ้นี่...นี่โว้ย!!!”
            “นาวครับพูดกับน้องดี ๆ”
            “ไอ้นี่...โว้ยย”เลม่อนพูดตาม ไอ้เตี้ยตีปากหลาน
            “ถ้าพูดตามจะไม่รัก”ผลักหลานออก...ก้นกระแทกพื้น แต่เลม่อนก็ดีดตัวขึ้นมานอนตักอาใหม่
            “ไม่พูดๆ นาวรักม่อน” (จริง ๆ ต้องม่อนรักนาว) ผมมองหน้าบุ้ง....ใครเสร็จใครครับงานนี้????
            ทานและเล่นกันไปเรื่อย ๆ จนอิ่ม...ผมอยากจะเดินดูไร่อีกสักหน่อย กลับเข้าบ้านคงไม่ได้ออกมาแล้ว ชวนไอ้เตี้ยออกมาด้วย...ไม่ชวนเดี๋ยวมันงอนหนัก หาว่าทิ้ง...ไอ้เตี้ยมา เลม่อนก็ต้องมาตามก้นกัน ฝากของให้บุ้งเก็บ...และเอารถกอล์ฟกลับไปด้วย ผมให้เลม่อนขี่หลัง...เดินมาจนเกือบถึงโรงปศุสัตว์มีวัวและม้าเรียงกันอยู่ในคอกมากมาย
            “ติณฑ์~~~~~~~~~~ ขุนเชื่องงงงงง มะกรูดลูกพ่ออออออออ”ไอ้มะกรูดกลายเป็นหมาประจำโรงปศุสัตว์ไปแล้ว เห็นคุณแม่บอกว่ามีสัตวแพทย์ประจำที่นี่ ขอเลี้ยงไว้...จนมันติดเขาไปเลย
            ไอ้มะกรูดกระโดดดีใจเห็นเจ้านายเก่า ดีดดิ้น...วิ่งไปมา เลม่อนอยากลงไปวิ่งบ้าง...แต่ผมจับไว้แน่น กลัวหมาตะกุยหน้า มะกรูดมันชอบเลียกลัวน้องติดเชื้อโรค ส่วนไอ้เตี้ยภูมิต้านทานมันดี...ไม่เป็นไร ฮา
            บ๊อกๆ ๆ ๆ เสียงเห่าดีเหลือเกิน
            “มันอ้วนขึ้นไหม”ผมถาม ไอ้เตี้ยพยักหน้า
            “ม่อนเอาเปล่า มะกรูด”
            “เอา ๆ ม่อนอยากได้”
            “อย่าจับมัน!!! เดี๋ยวต้องไปล้างมืออีก”ผมร้องห้าม
            “ก็ทำไมละ...จะเอาก็ลงมา”เลม่อนดิ้นลงจนได้ ผมถอนหายใจ...ดูแล้วว่าระวังดี ปลอดภัย จึงค่อย ๆ เดินดูคนงานล้างคอกทำความสะอาด วัวพวกนี้ถูกต้อนเข้ามาแล้ว...แต่บางส่วนจะถูกปล่อยไว้ให้กินหญ้าข้างนอกจนเย็น เดินนับดูมีประมาณ 10 กว่าตัวได้ ส่วนม้าก็ดูแก่ ๆ หลายตัว
            “ติณฑ์เอากลับได้ไหม”ไอ้เตี้ยกอดมะกรูดพร้อมจูบปากหมา คิดในใจ! ระหว่างมันยังไม่แปรงฟันอย่ามาจูบกูนะเฟ้ย! ยี้!!!!
            “เอาดิ”ผมบอกคิดถึงมันเหมือนกัน
            “อะไรครับ ๆ ใครจะเอาหมาไปไหน”เสียงตะโกนดังข้ามคอก ผู้ชายสูงใหญ่ท่าทางมีอายุใส่แว่นเดินเข้ามา
            “ลุงหมอ”ไอ้เตี้ยวิ่งไปกอด
            “เฮ้ย!!!! ลุงเพิ่งไปล้วงก้นวัวมา”ผู้เป็นลุงเอามือออก ไอ้เตี้ยทำหน้ายี้...ผละออกมา ฮ่าฮ่าฮ่า
            “ไปไงมาไงละเรา วิ่งมาเล่นถึงนี่ได้”
            “พาคนมาไม่เห็นวัวเห็นควาย~ มาดูวัวดูควาย~ แถวนี้ละครับ”เน้นคำหลังแล้วหันมามองผม
            “เรานี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
            “สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้
            “ลูกเขยประสิทธิ์เหรอเนี่ย หล่อ ๆ แต่น้อยกว่าลุงนิดนึง”ผมหัวเราะ กับท่าทางใจดีและเป็นกันเองของท่าน
            “ลุงสนิทเป็นพี่ของพ่อกูน่ะ”มันกวนผมต่อ ผมยิ้ม ๆ ไม่ใส่ใจเด็กน้อยตรงหน้า
            “ก็เป็นเครือญาติกันนี่แหล่ะ เป็นไง...สนใจเลี้ยงวัวหน่อยไหม”ลุงสนิทถาม ชี้ให้ดูวัวมากมายเรียงยาวไปสุดใต้หลังคา
            “ก็คิดว่าสนใจดีครับ”ผมตอบกลาง ๆ เป็นคำตอบที่ไม่ให้เสียน้ำใจของผู้ใหญ่
            “อือ ดี...หน่วยก้านดี รูปร่างแบบนี้ดูวัวกระทิงได้ทั้งฝูง”ลุงแซว
            “ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมหัวเราะออกมา ชอบหรือด่าว่ะ!? ฮ่าฮ่าฮ่า
            “แม่บอกไอ้กรูดมันติดลุงแล้วเหรอ ลุงหมอมีดีอะไร...บอกมานะ”ไอ้เตี้ยทำหน้าจริงจัง
            “ให้ข้าวมันกิน...มันก็ติดทั้งนั้นแหล่ะ ขึ้นชื่อว่าหมา”
            “อือ ลึกซึ้ง...จริง ท่านลุง”
            ผมว่าก่อนที่มันจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ ต้องรีบพามันกลับบ้าน...ฟ้ามืด ๆ ไม่นานฝนคงตกแน่ ๆ เราบอกลาคุณลุงสนิทแล้วเดินจากมา ไอ้มะกรูดทำท่าจะวิ่งตามมาด้วย...แต่ถูกกลั้นเข้าคอกเสียก่อน ไอ้เตี้ยกอดเอวผม
            “หมากู~”มันครางเบา ๆ ผมกอดมันไว้รู้ว่ามันก็รักหมาที่ซื้อมาไม่น้อย
            “เอาไว้ค่อยมาเล่นใหม่”ปลอบมันไปตลอดทาง เลม่อนตาปรือ ๆ เหมือนจะหลับ...ผมอุ้มเด็กน้อยไว้จนถึงบ้าน
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
             กลับมากรุงเทพฯ หลายวันแล้ว ไอ้เตี้ยมันไปเรียนปกติ กลับมาก็เหนื่อยอ่อนไปแทบทุกวัน ถามว่าเรียนหนักไหมก็ไม่ตอบ มันบอกแค่ว่า...ใครสักคนในห้องนี่แหล่ะ กวนตีนมัน...ไม่ยอมบอกว่ามีสอบ ทั้ง ๆ ที่อาจารย์ก็บอกทุกคนแล้ว ผมบอกไม่ให้ไปมีเรื่องอะไรอีก วันนี้ก็เหมือนกัน...มีเรียนตั้งแต่แปดโมงเลิกเที่ยง กลับมาก็วางหนังสือ น้ำไม่อาบ ข้าวไม่กิน...เข้าไปนอนในห้องเลย ไอ้เราก็ต้องตามแก้เสื้อผ้า...เปลี่ยนชุดให้ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะเห้ย มีอารมณ์เหมือนกัน...รออีกไม่กี่วันพ่อจะจัดเต็มให้ เอาให้คุ้มสุด ๆ เลย สี่โมงเย็นผมถึงไปปลุกมันตื่น...กลัวว่าจะนอนนานเกินไปเดี๋ยวปวดหัว พรุ่งนี้ตีสี่เลม่อนเตรียมตัวกลับเยอรมันแล้ว...พ่อแม่มันก็มานอนที่บ้านเตรียมไปส่งหลานวันพรุ่งนี้ ปู่ย่าตายายอยากตามมาก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ชอบนั่งรถกันนาน ๆ ปวดเมื่อยกันง่าย
            “เลม่อนมาหาย่าหน่อยเร็ว”คุณแม่เรียกเลม่อน เด็กน้อยสนใจแต่ของเล่น...
            “เลม่อนคุณย่าเรียกเร็วลูก”บุ้งก็เรียก เลม่อนไถรถไปหา...กำลังติดเล่นรถ
            “เอ้านี่คุณย่าให้นะครับ...ไว้กินขนมน้า”โห...เงินเป็นปึกเลยครับ
            “เลม่อนไหว้คุณย่าสวย ๆ”พ่อมันพูดครับ แหม่....มารยาทดีขึ้นมาซะงั้นเลม่อนกราบงาม ๆ ก่อนที่พ่อมันจะเอาเงินในมือออก ไอ้เตี้ยเดินหาวเข้ามา เมียกู...ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาโคตรสั้น!
            “ฮาววววว หิวข้าวอ่ะ”มันเดินบ่นเข้ามา...นั่งกอดเอวแม่
            “พ่อเก็บไว้ให้นะครับ”บุ้งกระซิบบอกลูกชายตัวเอง
            “ไม่!!!! ม่อนจะให้นาว”ฮา เอาแหล่ว ๆ ทุกคนหัวเราะ
            “เอามาให้พ่อเก็บไว้ ซื้อขนมไง...”
            “ไม่เอา ให้นาว”
            “มา ๆ เอามานี่...”ไอ้เตี้ยแบมือออก เลม่อนก็วางเงินบนฝ่ามือ...กร๊าก ๆ
            “ดีมาก...เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องใช้เงิน จำไว้!!!!”เลม่อนเหมือนจะเข้าใจ แต่ทำหน้างง...แล้วไปเล่นรถในมือต่อ
            “เสร็จโจรใช่ไหมแม่”ไอ้เตี้ยยักคิ้วถามแม่มัน แกว่งเงินในมือไปมาเหมือนรำพัด บุ้งก็ไม่กล้าพูดทวงน้องไง...มิกกี้ยิ้มไปยิ้มมาเหย ๆ
            “เอาให้พี่เขาเก็บไว้”
            “แม่ให้มันเยอะเกินไปป่ะเนี่ย”
            “มันเมินอะไร...พูดจา เราใช้เยอะกว่านี้”แม่ลูกเถียงกันละครับ
            “เยอะอะไร ตอนเค้าเด็ก ๆ เค้าไม่เคยจับเงินขนาดนี้เลยเหอะ”
            “ใช้ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าโรงเรียนอะไร”แม่เริ่มมั่วไปทางไหนนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า...คนแก่มักเป็นงี้ละ เถียงเราก็ไม่ทันก็ไปขุดเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ พ่อแม่ผมก็เป็น...แต่มันเป็นการเถียงการสนุก ๆ ภายในครอบครัว ไม่ได้ถือเป็นเรื่องซีเรียสจริงจังอะไร
            “แม่มั่วตลอด”ไอ้เตี้ยหัวเราะ นับเงินในมือ...ห้าหมื่นบาท!!!!!!
            “อะ”มันยื่นให้มิกกี้ เธอตกใจเล็กน้อย...เพราะปกติไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับไอ้เตี้ย ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ หน้าเป็นชมพูเรื่อ ๆ
            ไอ้เตี้ยมันก็เขิน ๆ แต่ทำเป็นนิ่ง...เหอ ๆ พี่สะใภ้กับน้องสามีมือใหม่ก็เงี้ย ไม่เหมือนผม...ผมเข้ากับทุกคนง่าย คืนนี้คือคืนสุดท้ายที่ไอ้เตี้ยและเลม่อนจะได้อยู่ด้วยกัน คุณอานอนริม...ส่วนเลม่อนนอนกลาง กินข้าวอาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงกันเรียบร้อย ผมบอกว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ...นี่สองทุ่มครึ่ง ควรนอนได้แล้ว...เลม่อนขึ้นเครื่องตอนตี 4.30 น.
            “หอมติณฑ์ คึคึคึ”ไอ้เตี้ยสั่ง...เลม่อนวิ่งมากระโดด ๆ ดึงกางเกง
            “อะไรเล่าเห้ย”ผมดึงขึ้นแทบไม่ทัน ไอ้สองคนก็หัวเราะคิกคัก...เลม่อนเห็นว่าผมไม่ย่อตัวให้แน่ พี่ท่านทำไงรู้ไหมครับ จุ๊บตรงหน้าขา แล้ววิ่งกลับไปหาอา...
            “ไม่ได้ๆ ต้องหอมแก้ม”เห็นได้ชัดว่าแกล้งหลาน เลม่อนวิ่งมาอีก...ดึงกางเกงผม
            “ติณฑ์ๆ”
            “วุ้ย...อะไรครับ!!!! ติณฑ์ทาแป้งก่อน”
            “หอมมมม ม่อนจาหอมมมม”ย่อตัวลง ยอมให้ก็ได้...
            “จุ๊บ”ไอ้บนเตียงเอามือกุมท้องหัวเราะ อะไรของมันว่ะ
            “ยี้....”เลม่อนเอามือปิดปากหัวเราะตามอา อะไรของมันสองคนว่ะ...รู้สึกชีวิตไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมาแล้วละสิ นี่หวีผมไปอย่างระแวงสุดฤทธิ์
            “แปะแก้มติณฑ์”ไอ้เตี้ยสั่ง ตัวน้อยก็วิ่งมา...หาผม ยื่นมือขึ้นมา...คราวนี้รู้ละ มันเทนมใส่มือหลานเพื่อจะเอามาแปะแก้มผมให้มันเหนียว ๆ เมื่อกี้...มันคงเอานมเหยาะ ๆ ใส่รอบปากหลาน เพราะผมรู้สึกเหนียวแก้มขึ้นมาทันที กูก็ว่า...ได้กลิ่นนมอะไรว่ะติดจมูก
            “กร๊ากกกๆๆๆๆๆ”
            “ฝีมือใคร!!!”ผมจ้องหน้ามันสองคน
            “หนี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆ”เลม่อนวิ่งหาอาวิ่งไปกรี๊ดไป ไอ้อา...ก็วิ่งกระโดดขึ้นเตียงรอบห้อง เป้าหมายง่าย ๆ ขาสั้น ๆ ก่อนครับ
            “มานี่ซะดี ๆ”ทำเสียงขู่ฟ่อด้วยครับ อุ้มเลม่อนชูขึ้นเหนือหัว...ไอ้นี่ก็กรี๊ดดีจริง ๆ
            “กรี๊ดๆ ๆๆๆๆๆ ตุ้บ ๆ ๆๆๆ ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆ กรี๊ด”
            โอ๊ย...กู!!!!!!! ถูกเลม่อนเอาเท้าถีบหน้า...แถมยังตบหน้าผมไม่ยั้งอีก แทบจะเหวี่ยงหลานฟาดกับนอน
            “ฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ยยย..กูขำไม่ไหวละ!!!!”ไอ้เตี้ยยืนหัวเราะอยู่มุมห้อง ผมวางเลม่อนบนเตียง
            “ฮะ ๆ ยะ อย่าๆๆๆ”
            “มานี่!!!!!”ไอ้เตี้ยมันจะหนีครับท่านผู้ชม กอดรัดกันไปกันมา...มันก็ลงไปนอนกับพื้น ทำตัวหนัก ๆ ให้ผมลากไม่ได้ แต่กูคือคนเหล็ก ฮ่าฮ่า
            “กรี๊ดดดดดด นาวๆๆๆ”เลม่อนหัวเราะบนเตียง กระโดดไปมา...เหย่งๆ
            ผมจับข้อเท้าลากไอ้เตี้ย...เหมือนมวยปล้ำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นแชมป์ปีล่าสุด ไอ้เตี้ยมันดิ้น ๆ หนี แต่ไม่หลุดว่ะ ตีนอีกข้างมันไม่ปล่อยให้ว่างเปล่านะ ถีบบ้างอะไรบ้าง ตุ้บตั้บ ๆ จนต้องรวบ...สองข้าง
            “มานี่...”
            “อร๊ากกกกก ปล่อยกูๆๆๆๆ ปล๊อยยยยยย”
            “กรี๊ดดดดดดดดด นาว ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดด”เลม่อนนี่สะดิ้งแต่เด็กนะครับ เหมือนดีใจที่อามันโดนผมจับได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
            “แฮ่ก ๆ”ไอ้เตี้ยหอบละ
            “ปล้ำเลยดีไหม”ผมมองตามันแกล้งจะทำเป็นถอดเสื้อ
            “เฮ้ย!!!!! ปล๊อยยยย!!!!!”
            “ทำนาวไม!!!!! ทำนาวไม!!!!”เลม่อนดึงคอเสื้อผม แล้วกรี๊ดลั่น
            “ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออ”ผมกับไอ้เตี้ยตกใจพอกัน...ผละออก แล้วอุ้มเลม่อน
            “โอ๋ ๆ ไม่ได้ทำครับ หยุดร้องเร็ว”ผมปลอบ...ไอ้เตี้ยตกใจนั่งกัดเล็บตัวเอง
            “ฮืออๆๆๆๆ”
            ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูรัว
            “ติณฑ์...พ่อกับแม่นะ มีอะไรกันลูก”ผมเดินอุ้มเลม่อนไปที่ประตู เปิดออก...ยืนกันครบเลย
            “มีอะไรกัน...เสียงเลม่อนดังไปถึงข้างล่าง”สีหน้าท่านดูตกใจมาก ๆ ผมยิ้มแหยะ ๆ ให้รู้ว่าไม่มีอะไรร้ายแรง
            “เล่นกันครับ เลม่อนร้องเลย”
            “ฮือออออออออ”
            “โอ๋ ๆ มาหาพ่อมะ”บุ้งอุ้มไปปลอบ ไอ้เตี้ย...พอสภาพตัวเอง เหมือนถูกรุมโทรม...เดินมาหาแม่ แม่ปัดผมมันให้เข้าที่
            “ทำอะไรน้องนะ...มะนาว”
            “ทำที่ไหน ไอ้ติณฑ์หรอก...มันแกล้งอ่ะ”กอดเอวแม่ใหญ่ พ่อมันตบหลังหลานคนเล็ก...ที่สะอื้นไห้ไม่หยุด
            “พูดกับพี่เขาดี ๆ”
            ทุกคนยืนมองเลม่อน...คอยปลอบบ้างอะไรบ้าง
            “น้องไม่หยุดหรอก ต้องให้มะนาวอุ้ม”มิกกี้แนะนำ
            “หยุดครับคนเก่งไม่ร้อง...”บุ้งอุ้มต่อ...แต่ก็ไม่ยอมหยุดจริง ๆ
            “นี่ไง...อานาวไม่เป็นอะไรเลย ยืนดูลูกอยู่นี่”บุ้งหันเหความสนใจ
            “เออ ให้มันดูหน้าอามัน”คุณพ่อพูดนิ่ง ๆ เลม่อนหันไอ้เตี้ยก็อ้าแขนจะไปหา เงียบกริบ...กอดคอแน่น
            “พรุ่งนี้ใครจะเอาอยู่ละเนี่ย”คุณแม่แซว...ตบหลังหลานเบา ๆ ยืนกันอยู่หน้าห้องสักพัก
            “ไป ๆ แยกย้ายกันไปนอน....อย่าพาหลานเล่นอีกนะ”ท่านหันมาเตือนอีกหน ก่อนจะพากันเข้าห้องใครห้องมัน ผมมองหน้ามันแล้วยักคิ้ว
            “มองหน้าผัวทำไมเตี้ย!”
            “หน้ามึง...คล้าย ๆ ว่ากูเคยเห็นที่ไหน”
            “ที่ไหนว่ะ?”เดี๋ยวนี้มันเพิ่มสกิลแล้วนะ มือนึงอุ้มหลาน...อีกมือจับคางผมเบี่ยงไปซ้ายทีขวาที แล้วทำหน้าจริงจัง
            “ตัวที่แม่งชอบเลื้อยในสภาอ่ะ...รู้จักป่ะ”แล้วมันก็หัวเราะคิกคัก เอาหน้าผากชนกับเลม่อนหัวเราะ หน็อยยยย!!!
            จุ๊บ~
            ก้มจุ๊บแม่ง...ไอ้คุณอาเม้มปากตัวเอง หยุดขำแล้วหน้าแดง
            “ใครบอกให้ทำ!”
            “จุ๊บ~” โดนอีกที เลม่อนหัวเราะ...
            “รู้สึกยังไง...ได้จุ๊บเหี้ย?”
            “สัส”
            “หน้าแดงทำไม???? หน้าแดงทำไมครับ?????”มันอุ้มหลานไปวางบนเตียง...เลม่อนไม่ยอม จึงต้องไถลลงไปนอนด้วยกัน
            “หึหึหึ”ผมหัวเราะแบบผู้ชนะ
            “นาวรักม่อน”เลม่อนพูด...กลับกันอีกละ
            “จุ๊บบบบบบบบบ”คุณหลานจุ๊บปากคุณอา
            “รักมากไหม”ผมถาม ห่มผ้าให้ทั้งคู่...
            “มาก ๆ ม่อนรักนาว นาวรักม่อน”ไอ้เตี้ยยิ้ม...โดนหลานเอามือลูบแก้ม
            “พรุ่งนี้ใครจะงอแงก่อนกัน!?”ผมถามลอย ๆ นึกห่วง...ถึงวันต่อไป
            กว่าจะหลับได้...เฮ้ออออออออออออออออออออออออ ได้ยินเสียงมันเล่นกัน...จนเสียงค่อย ๆ เงียบไปเอง ผมค่อย ๆ ย่องเปิดลิ้นชัก เอารูปที่ให้เด็กไปล้างออกมา...เอาไปให้บุ้งกับมิกกี้ชุดนึง ส่วนอีกชุดนึงเก็บไว้เอง เป็นรูปที่อาหลานได้ใช้เวลาร่วมกันอยู่ที่นี่ ก่อนจะกลับมากอดไอ้เตี้ย...มันยิ้มให้กับผมเบา ๆ
            “จุ๊บ...”
            “รักมึงรู้ไหมครับ”มันพยักหน้า
            “ขอบคุณนะ....”จูบหน้าผากแล้วปล่อยให้มันกระชับอ้อมกอดหาหลานต่อไป ผมเดินอ้อมมานอนอีกฟากนึงของเตียง ยืนมือไปจับมือมันไว้ นอนกอดกันทั้งสามคน ไม่อบอุ่นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว~



 :ling3: :ling3: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 67




            [ติณฑ์]
 
            รู้ไหมว่าอะไรน่าเบื่อที่สุดในโลก สำหรับผมแล้ว...ถ้าพูดถึงอะไรที่โคตรของโคตรน่าเบื่อ คือการปลุกไอ้เตี้ยนี่ตื่นนอนเนี่ยแหล่ะ เมื่อคืนกว่าจะนอน...พอถึงเวลาก็ไม่อยากจะตื่น ผมปลุกก็เหวี่ยงกวนตีนใส่อีก แม่งน่าโบกจริง ๆ รอบที่ 2 แล้วนะ มันคนเดียวไม่เท่าไหร่กระชากทีเดียวตัวลอยจากที่นอนได้แล้ว นี่มีไอ้เด็กลิงกังนอนกอดกันปานจะกลืนนี่อีก
            “ตื่นกันหรือยัง เดี๋ยวไม่ทันนะคะ”มิกกี้เดินวนมาหน้าห้อง เตือนรอบที่ 2 เช่นกัน
            “ขนกระเป๋าไปข้างล่างเลย ไม่นานหรอก”ผมบอก...ไอ้เตี้ยไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ แค่ล้างหน้าแปรงฟัน...ก็ไปได้แล้ว
            “เอ้า...พ่อติณฑ์ทำอะไร ไปเลี้ยงน้องมา...เดี๋ยวจะไม่ทันไปส่งกันพอดี”แม่เดินมาบ่นแล้วครับ ผมเดินเข้ามาในห้อง เปิดไฟสว่างโร่
            “เตี้ย! เตี้ย!!!!!”
            “อืออออ”
            “ลุกล้างหน้า!!! เร็ว ๆ เดี๋ยวเลม่อนไปขึ้นเครื่องไม่ทัน”
            “เออออออ”แล้วมันก็นิ่ง ผมจับไหล่มันเขย่า
            “เอออออออออออ อีก 10 นาที!!!!”พูดเหมือนละเมอ เหอะ ๆ ไม่ใช่ปลุกไปเรียนนะครับ!!!!
            “ไม่ 10 แล้ว!!!! เลม่อนจะขึ้นเครื่องวันนี้!!!!”
            “เอออออออ 5 นาเท้!!!!!”โว้ยยยยยยยยยยย...ปวดหัว!!!! ไม่รู้จะทำอย่างไร...แยกเลม่อนออกมา นี่ก็ติดหนึบอีกเหลือเกิน ผมดึงออก...ไอ้หลานก็รีบกอดอกซุกเข้าอกต่อ ไอ้เตี้ยก็กอดหลานซะแน่น!!!
            “เลม่อน...ม่อนครับ เลม่อนนน”
            นิ่งสนิท! มันนอนหรือตายกันว่ะ!?!?!?!
            แงะเท่านั้น!!!! อันดับแรก...กระชากผ้าห่มออกก่อน ผมจับแขนเลม่อนแล้วดึงน้องออกมาเลยครับ แรงพวกมันรึจะสู้แรงผมได้ เลม่อนพอจะรู้สึกตัว...หรี่ตาลืมขึ้นมา มองหน้าผมแล้วมองหาไอ้เตี้ย
            “ม่อนหานาว”พูดเสียงแหบ ๆ
            “นาวบอกให้ม่อนอาบน้ำก่อน...นะครับ”
            “ไม่! ม่อนหานาว!!!”กรรม...พาเดินเข้าห้องอาบน้ำเลยครับ
            “นาวบอกม่อนเหม็น นาวไม่ชอบคนเหม็น”
            “ม่อนเหม็น?”
            “ครับ ๆ อาบน้ำเดี๋ยวนาวพาเที่ยว ตัวหอม ๆ ค่อยไปปลุกนาวนะ”คิดว่าว่าง่าย...ที่ไหนได้ มันหลับครับ ผมก็อาบให้ทั้ง ๆ ที่หลับแบบนี้แหล่ะ เสร็จก็เอาผ้าขนหนูพันร่าง...แล้วอุ้มไปให้พ่อแม่เขาจัดการต่อ ส่วนตัวเองก็เดินเข้ามาในห้อง ไอ้คนหลับอุตุ...เอาแขนซุกตัวเอง เพราะความหนาว เหอะ...อยากนอนท่านั้นก็ตามใจ
            เปิดตู้หยิบมินิคูเปอร์คันเล็กที่สะสมไว้ออกมาใส่กล่อง สีนี้เป็นสีที่ชอบด้วย ผมพ่นเอง...ทำลายเอง ซื้อมาทุกชิ้นส่วนเก็บไว้อย่างดี หวงมากถึงขนาดตู้เก็บต้องมีกุญแจล็อคไว้ ปกติไม่เคยล็อคหรอกครับ ตั้งแต่ไอ้เตี้ยมันทำเจ๊งไปคันนึงนั่นแหล่ะ เลยต้องล็อค ห่างมือมันไว้ดีที่สุด ผมจะเอาคันนี้ให้เลม่อน...เพราะน่ารัก เหมาะกับแกดี
            “จะไปไม่ไปเนี่ย”เดินมาหาไอ้เตี้ย
            “ถ้าไม่ไปนอนอยู่บ้านนะ”ลูบหัวมันเบา ๆ ไอ้เตี้ยขยับตัวช้า ๆ แล้วนอนหงายขึ้น...ค่อยมองเพดาน
            “อืออออออ”บิดขี้เกียจใหญ่ ผมยิ้มแล้วหัวเราะมัน
            “จะไปไหม?”ถามอีกที มันพยักหน้า...
            “ไปแปรงฟัน...ล้างหน้า”
            “อุ้มดิ”
            “ตลกแล้ว...เหอ ๆ โตแล้วนะมึง”
            “ไม่อุ้มไม่ไป”มันพูดอย่าเป็นต่อ ผมหรี่ตามอง
            “ไม่ไปนอนเฝ้าบ้านโว้ยยยย”หัวเราะอย่างข้าเหนือกว่า ไอ้เตี้ยไวมาก...มันยกตีนขึ้นมาถีบเลย อะไรว่ะ!!!!!! แค่นี้ต้องโหดใส่ด้วย
            “อะ โอ๊ยย เจ็บ ๆ”
            “สมน้ำหน้า อยากกวนกูก่อน...หลายครั้งละมึงอ่ะ เห็นว่าไม่หือ...ได้ใจใหญ่เลยนะ”โหหหหห...ดูคำพูดคำจามันนะครับ ไอ้นี่วอน...
            “ครับ ๆ พี่ครับ จะไปไหมครับ มา ๆ นั่งลง...เดี๋ยวอุ้มนะครับ”ผมแกล้งกระชากขา มันตกใจเอาเล็บจิกที่นอน แต่ไม่อยู่ ฮ่าฮ่าฮ่า
            “ไอ้เชี่ยติณฑ์!!!!”
            “ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า หน้าเหวอเลยอ่ะ...”
            “สัส!”ผมหัวเราะท้องแทบแข็ง
            “เร็ว ๆ เลย รีบลุก...คนอื่นเสร็จหมดละ รอแต่มึงคนเดียว”ผมบอก เก็บผ้าห่มขึ้นเตียง...ของเล่นเลม่อนยังวางกอง ไม่ได้เก็บ ไอ้เตี้ยลุกนั่งบนที่นอนแล้วมองซ้ายขวา
            “อ้าว...ไอ้ม่อนอ่ะ”ผมยิ้ม อดไม่ได้กดจูบกลางหน้าผาก
            “อาบน้ำแล้ว...”แล้วมันก็เงียบ ๆ ไป เดินโสเสเข้าห้องน้ำ...ผมส่ายหน้าตามยิ้ม ๆ
            ก๊อก ๆ เสียงเคาะเบา ๆ มีมารยาทแบบนี้...มิกกี้แน่นอน ผมเดินไปเปิดประตู เลม่อนก็กระโจนจากอกแม่มาหาผม เกือบรับไม่ทัน
            “หานาวววววววว เย้”
            “เสร็จหรือยังคะ”
            “เรียบร้อยแล้วครับ ทานข้าวกันเสร็จแล้วเหรอครับ”
            “บุ้งทานอยู่ค่ะ...เดี๋ยวเลม่อนไปกินที่สนามบินก็ได้”
            “ครับ ๆ งั้นรอแปปนึง มันเข้าห้องน้ำอยู่”แล้วเธอก็เดินลงไป เลม่อนร้องเพลงอารมณ์ดี...รู้ไหมเนี่ยว่าจะกลับบ้านตัวเองแล้ว ไอ้เตี้ยผู้ไม่เคยเตรียมผ้าเช็ดหน้าเวลาเข้าห้องน้ำเลย เดินออกมา...ผมโยนผ้าไปให้มัน รับปั๊ปโคตรแม่น
            “นาวววววววว~”
            “หยู๊ดดดด ไม่ต้องมาใกล้!”มันห้ามหลาน เลม่อนมองงง ๆ
            “อ่อ อาบน้ำแล้วหนิ”ไอ้เตี้ยพูดนิ่ง ๆ เลม่อนยิ้มกว้างกระโดดกอดขา เหมือนเป็นลูกละน่ะครับ...ไอ้ตัวอามันก็เดิน นี่ก็เกาะหนึบเชียว
            “หึหึหึ ไอ้ลิงเอ้ย”มึงก็ลิงครับ ผมพูดในใจ
            ใช้เวลาไม่นานไอ้เตี้ยก็พร้อมแล้ว ผมสะพานกระเป๋าเล็ก ๆ มีกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ ไม่ใช่อะไร...พอดีขี้เกียจถือ เอากล่องรถออกมาให้เลม่อน
            “ม่อนครับ อันนี้ติณฑ์ให้”ไอ้เตี้ยเหล่ ทำหน้าเหวี่ยง...คันที่มันชอบด้วย
            “จึ้ก! ให้มันทำไมว่ะ!”
            “เอาน่า ให้หลาน...จะอะไรเนี่ย เอ้า...ม่อนทำไง”
            “ขอบคุณ”
            “ต้องพูดว่าขอบคุณครับ”
            “คร้าบบ”มันพูดแต่คำลงท้าย ผมหัวเราะ
            “ขอบ คุณ ครับ”
            “ขอบ คุง ครับ”หยิกแก้มน้อย ๆ เพราะหมั่นเขี้ยว
            “ชอบไหม”
            “ชอบ ๆ ม่อนมีรถแล้ววววววว”มันกอดแน่นดีใจ
            “เหอะ ๆ รถประสาท”แล้วเดินออกไปทันที ไอ้นี่มันนิสัยยังไงของมันเนี่ยเห้ย!!!! กับหลานก็ยังจะเอาชนะให้ได้ใช่ไหม ผมอุ้มเลม่อนเดินตามออกมา ข้างล่างเตรียมพร้อมกันอยู่แล้ว
            “ทำอะไรกันอยู่ เดี๋ยวพี่เขาตกเครื่อง”แม่บ่น ปัดเสื้อแขนยาวบุ้งแล้วพับคล้องไว้ที่แขน ไอ้เตี้ยเดินไปกอดแม่...
            “กินอะไรก่อนไหม”บุ้งถาม เตี้ยมันส่ายหน้า...ผมว่ามันไม่อยากกินหรอก อยากนอนมากกว่า เลม่อนเดินไปหาอากระพริบตาปริบ ๆ ไอ้เตี้ยก็อุ้มมันขึ้น
            “ฟอดดดดดด กลับมาหาย่าเร็ว ๆ นะเลม่อน”แม่พูด พ่อเดินเข้ามาเรียกว่ารถพร้อมแล้ว นายฟ้าคงขนของเสร็จแล้ว มีของฝากถึงคนที่โน่นเพียบ
            “ถึงโน่นแล้วโทรหาแม่ด้วย โทรหาไอ้หอมไอ้ขิงด้วยนะ...”แม่สั่ง
            “ครับ ป่ะ...เสร็จแล้ว”
            ทุกคนเตรียมพร้อมขึ้นรถเดินทางไปสุวรรณภูมิ ทุกคนเผลอทำโน่นนี่...ไอ้เตี้ยมันก็กอดหลานไว้แนบอก ตั้งแต่นั้นก็นิ่ง ๆ ไม่พูดอะไรอีกเลย


            ตอนนี้เลม่อนเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าต้องขึ้นเครื่อง สัญชาตญาณเด็ก...เกาะอาแน่นไม่ยอมปล่อย ใครเรียกอุ้มก็ไม่ยอม ไอ้เตี้ยก็ทำมึน...เดินอย่างกับพามาเดินชมวิวในสวนทุ่งทานตะวัน
            “เร็วหน่อยได้ไหมเนี่ย!”
            “จะรีบไปไหน เขายังไม่เรียกสักหน่อย”
            “ไม่เรียกก็ต้องไปเช็คอินก่อน”ผมบอก ไอ้คนตรงหน้าเบะปาก...มันเริ่มจะกวนตีนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการเดินช้าลงกว่าเดิน หรือไม่ก็ทำเป็นเดินดูโน่นดูนี่
            “เดี๋ยวเดินไปก่อนเลยนะครับ ผมพามะนาวไปเข้าห้องน้ำก่อน”ผมบอกขึ้น ทุกคนหันหน้ามามอง แล้วต่างก็พยักหน้า ผมลากไอ้ตัวเจ้าปัญหาออกมาอีกทาง...ไอ้เตี้ยร้องโวยวาย แต่ไม่กล้าสะบัดมาก...กลัวเลม่อนหล่น
            “เจ็บนะโว้ย!!!!”
            “เอาน้องมา กูอุ้มเอง”ผมบอก
            “อะไรอีกละ?”มันทำหน้าเหวี่ยง ๆ
            “เอาน้องมา...เดี๋ยวกูอุ้มไปเอง”
            “ก็เดินไปด้วยกันมึงจะอะไรหนักหนา!!!!”ทำเสียงแบบไม่พอใจอย่างมาก เลม่อนมองตามเราสองคนแต่เกาะคอเสื้อไอ้เตี้ยไว้แน่น
            “ก็เดินด้วยกัน กูอุ้มเลม่อนให้ไง”
            “ก็เดินไปดิ”มันเถียงครับ ผมถอนหายใจ...
            “หนักไหม...มาอุ้มให้”ผมทำเสียงอ่อนลง ยืนรั้งมันเอาไว้...ทำหน้าเฉย ๆ ถ้าเวลาปกติมันต้องดันเลม่อนมาหาผมแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ไอ้คนปากแข็งมันเองก็ไม่อยากให้หลานไป ถึงได้ทำอะไรแปลก ๆ แบบนี้
            “ไม่หนัก”
            “จริงเหรอ...”
            “อือ”มันยืนนิ่ง ๆ ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ ผมยืนจ้องหน้ามัน...และยังยืนยันคำเดิมว่า
            “มาอุ้มให้”ไม่ใช่อะไร...เดี๋ยวไปแยกกันข้างหน้า ยิ่งจะดึงสองคนนี่ออกจากกันยาก...
            “จึ้ก!!! ก็อุ้มไปดิ”มันบอก แต่เกาะหลานแน่น...ผมดึงเลม่อนมา แต่มือเหนียวดีจริง ๆ
            “ไม่ไป!!!! ม่อนจะให้นาวอุ้ม”
            “ติณฑ์อุ้มก็เหมือนกัน นาวจะเข้าห้องน้ำ”ผมบอก
            “ไม่เอา!!!!”ซบบ่าอาแน่น ไอ้อามันก็ไม่ได้ให้ความร่วมมืออะไรเลย รู้ทั้งรู้ว่าหลานติดตัวเองขนาดนี้นะ
            “เลม่อนครับ”ผมดึง ๆ ตัวไอ้เตี้ยก็เซตามมาด้วย
            “อะ โอ๊ย!”แฟนผมร้อง...
            “มานี่ ๆ เดี๋ยวติณฑ์ให้รถบังคับ”ผมพยายามรั้งเลม่อนมาหา แรงผมกับแรงเด็กสองคนใครจะชนะ? เลม่อนจิกเสื้อไอ้เตี้ยแน่นแค่ไหนก็ต้องมีปล่อย
            “ฮึก...”น้ำตาร่วงเผาะ ผมอุ้มเลม่อนให้กระชับมือ...เพราะแกดิ้น ๆ
            “กรี๊ดดดดด หานาวๆๆๆๆ ฮือออ”ผมกำมือเล็ก ๆ ที่ตีหน้าอยู่ออก...และรั้งไอ้เตี้ยเข้ามาหา เพราะมันร้องไห้สะอื้นน่าสงสารเป็นที่สุด 
            “ไม่เป็นไรสักหน่อย...เลม่อนไปแปปเดียวไม่กี่อาทิตย์ก็ได้เจอกันแล้ว”ผมปลอบเสียงเบา ไอ้เตี้ยทั้งทุบทั้งตีผมร้องไห้เสียเบา
            “หานาว!!!”เลม่อนก็ร้องไห้เหมือนกัน ไอ้เตี้ยหันหน้าไปทางอื่นละ...ไม่อยากให้หลานเห็นน้ำตาตัวเอง ผมตบบ่ามันเบา ๆ รู้ว่ารู้สึกยังไง...
            “ฮือออ ม่อนหานาว”
            “ฮึก....”เอ้าละสิกู...ต่างคนต่างร้องไห้ เลม่อนก็ดิ้นจะไปหาอาอย่างเดียวเลย
            “ล้างหน้าไหม”ผมถามไอ้เตี้ย มันก้มหน้ามองพื้นแต่ยังส่ายหน้า...ยื่นมือมาจับมือเลม่อนเอาไว้
            “หานาว”เลม่อนย้ำคำเดิม
            “นาวอยู่นี่ไง...ป่ะครับ เดี๋ยวติณฑ์อุ้มเอง”ผมบอก ไอ้เตี้ยเอาหน้าเช็ดกับเสื้อผม แล้วมองหน้าเลม่อน...ตาแดงหมดและแฟนกู พอ ๆ กับเลม่อน...
            “เลม่อนกลับบ้านซื้อชอคโกแลตมาฝากติณฑ์ด้วยนะครับ”ผมบอก
            “ฮึก ๆ ไม่ซื้อ ม่อนจะซื้อฝากนาวคนเดียว”
            “อ้าว...”ผมร้องหัวเราะออกมา ไอ้เตี้ยก็เหมือนกัน เราจ้องตากันเล็กน้อย
            “งั้นติณฑ์จะกินกับนาวก็ได้”
            “ไม่ให้กิน ม่อนให้นาว ม่อนรักนาว”
            “แล้วไม่รักติณฑ์เหรอ น้อยใจนะเนี่ย”ผมแกล้งทำเสียงอ่อน มือนึงอุ้มหลาน...ส่วนคุณอาเดินคล้องแขนผมไว้
            “ม่อนรักนาว ฮึกกก”เด็กน้อยร้องไห้น่าสงสาร ผมเดินผ่านร้านอาหารซื้อน้ำโค้ก และพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เบอร์เกอร์แอนด์เฟรนฟาย ซึ่งก็ช่วยได้พอประมาณ เสร็จจากนั้นเราก็รีบเดินมาหาทุกคนที่นั่งรออยู่ เอาเลม่อนไปเช็คอินก่อนขึ้นเครื่อง ไอ้เตี้ยนั่งเงียบ...ไม่พูดไม่จา
            “ถึงโน่นก็โทรมาบอกพ่อนะ ลูก”แม่บอก หอมแก้มลูกชาย ลูกสะใภ้ นายฟ้า...เอากระดาษส่งให้บุ้ง บอกว่าฝากซื้อของ ก่อนกลับมาเที่ยวหน้า บุ้งทำหน้าประหลาดใจ...เพราะว่าของที่ฝากซื้อไม่น่าจะใช่ของที่นายฟ้าใช้ อาทิเช่น...กระเป๋า หรือรองเท้า นายฟ้าทำตาขยิบให้พี่ชายสองที่ ว่าไม่ให้พูดอะไรต่อหน้าพ่อแม่
            “แล้วจะโทรหาแล้วกัน”ฟ้าบอก
            “ซื้อไปฝากไอ้โรลละสิ”ไอ้เตี้ยโพล่งออกมา ฟ้าทำตาดุ ๆ
            “ใครคือโรล?”บุ้งถามงง ๆ
            “เออน่า ๆ อย่าไปฟังน้องมาก...ไป ๆ เดินทางดี ๆ”ฟ้าบอก
            “ไปลูก...เดินทางกันดี ๆ ปลอดภัย”ล่ำลากันอยู่นาน พอถึงเวลาเข้าเกตจริง ๆ ผมเองก็รู้สึกใจหาย แม้รู้ว่าเลม่อนจะกลับมาในอีกไม่กี่อาทิตย์ แต่ก็รู้สึกผูกพันกับแกเหลือเกิน
            “พี่ไปนะครับ ตัวเล็ก”ไอ้เตี้ยพยักหน้า มิกกี้กำลังลาพ่อกับแม่อยู่
            “เดี๋ยวมิกกี้มาคราวหน้าอยากได้อะไรไหม พี่จะซื้อมาให้”พี่ชายกอดน้องชายแน่น ไอ้เตี้ยน้ำตาซึมกอดพี่ตัวเองนาน ผมส่งต่อเลม่อนให้มิกกี้ เพราะเธออ้าแขนรับรออยู่แล้ว
            “ม่อนจาหานาววววววว”เลม่อนกรีดร้องออกมาอีกระลอก ดันตัวเองจะไปหาอาให้ได้ แต่ผมดึงไว้อีกแรง ไอ้เตี้ยกลั้นน้ำตาตัวไม่ไหว ร้องไห้ออกมาเสียงดัง...
            “ฮึก...”
            “โอ๋ ๆ เดี๋ยวกลับมาหานาวใหม่นะ”บุ้งบอก เลม่อนดื้อมาก...ทั้งถีบทั้งตีพ่อตัวเองสะเปะสะปะ
            “เลม่อน!”มิกกี้พยายามปลอบ แต่แกก็ไม่เอาใครทั้งนั้น บุ้งอุ้มลูกตัวเอง
            “ผมไปนะครับพ่อ แม่”ไหว้ล่ำลา ปนเสียงกรีดร้องของเลม่อน มิกกี้หันมาทางผมบอกว่า...จะเมล์บอกอีกทีวันไหนจะกลับมา ผมตกลง...แล้วทั้งหมดก็เดินเข้าเกตไป
            “จะร้องทำไมเดี๋ยวหลานก็กลับมาแล้ว”แม่เอากระดาษซับ ๆ เช็ดน้ำตาให้ลูกชาย ผมยิ้ม...
            “ไป ๆ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงข้าว”พ่อบอก
            “ไม่”ไอ้เตี้ยดื้อ
            “กลับไปนอนดีกว่าใช่ไหม”ฟ้ากับผมหัวเราะออกมาพร้อมกัน
            “ฮึก...”
            “โอ๋~~~~~”นายฟ้ากอดน้องกับแม่ปลอบไปด้วยกัน ผมกับพ่อยืนดูหัวเราะขำ ๆ
            “กลับไปนอนก่อนก็ได้ครับ แล้วสักสิบโมง...เดี๋ยวผมจองห้องอาหารไว้”ผมบอกพ่อ
            “ฟ้า...นัดเกษตรไว้กี่โมง”พ่อหันไปถามฟ้า
            “ฟ้าบอกให้เขามาพรุ่งนี้ครับ...วันนี้ให้ยกเลิกไป”
            “งั้นขับรถกลางคืนจะไหวไหม”พ่อถาม ฟ้าพยักหน้า
            “จะดีเหรอคุณ...กลางค่ำกลางคืน”แม่ท้วง
            “แม่~~ อยู่กับหนูก่อน”ไอ้เตี้ยอ่อนแม่ตาแดง ๆ
            “อะ จ๊ะๆ งั้นอยู่กับลูกชายคนเล็กก่อน ฟอดดดด”แม่หอมแก้ม มันเดินกอดแม่ไปจนถึงรถ
            กลับมาถึงบ้านนายฟ้าก็รีบออกไปข้างนอกต่อ แม่ท้วงว่าจะไปไหนก็ไม่บอก ท่านเลยบ่นว่า...แทนที่จะพักเอาแรง เพราะเดี๋ยวก็ไปทานข้าวข้างนอก
            “ฟ้าไปรับโรลมากินข้าวด้วย”ฟ้าบอก
            “อ้าว โรลที่ไปทำงานที่ไร่ใช่ไหม...แม่ไม่ได้เจอนานแล้ว”
            “ฮะ...”
            “ไม่โทรไปละลูก จะได้ไม่ต้องขับรถไปเอง”
            “ไม่เป็นไรฮะ ฟ้าไปเองสะดวกกว่า”นายฟ้าดื้อเพ่ง แล้วรีบออกไป พ่อส่ายหน้าตาม...
            “มันมีแฟนรึเปล่าว่ะ???”พ่อถาม
            “มี!!!!”ไอ้เตี้ยพูดออกไป สีหน้านิ่ง ๆ
            “ใครเขาจะเอามันว่ะ?”พ่อถามต่อ คงไม่รู้ว่าลูกชายที่วัน ๆ คลุกแต่ในไร่...จะร้ายกาจเพียงไหน
            “ก็ไอ้โรลไง”ไอ้เตี้ยพูดแล้วเดินสะบัดหน้าขึ้นไปบนบ้าน พ่อกับแม่ยืนอึ้ง ๆ
            “ห๊ะ!!! จริงเหรอว่ะ!!!! ไอ้หนู!!!!! มาบอกก่อนสิ!!!!!”พ่อเรียกลูกชายคนเล็กไว้ แต่มันทิ้งระเบิดไว้แล้วก็ชิ่งหนี พ่อหันมาถามผม
            “จริงเหรอ?”ผมหัวเราะพยักหน้า
            “เดี๋ยวกลับมา...จะเพ่นกระบาลมันสักหน่อย!!!!!!!”
            งานนี้...ตัวใครตัวมัน ขอรับบบบบบบบบบบ!!!!


                                   ----------------------------------------------------------------------------------


 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 68
            [ติณฑ์]
            ตื่นเช้าอารมณ์ดี ๆ ทำไมต้องให้หงุดหงิดด้วยว่ะ!!!!! ผมลงไปข้างล่างทำโน่นนี่เรียบร้อย มันยังนอนไม่ตื่น...แล้วบอกว่ามีเรียนเช้า!?!?!?! พอไปส่งไม่ทันก็งอนกูอีก? มันใช่เรื่องไหม!!!!!!!! ผมเดินมาขอบเตียง...เรียกครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ตื่นไปเรียนไม่ทันก็ช่างแม่ง!!!!! ดีที่พ่อแม่มันกลับบ้านไปเมื่อหลายวันก่อนแล้ว...ไม่งั้นแม่มันก็ได้บ่นอีก
            “เตี้ยตื่น!!!!! ตื่น!!!!!!!!! เดี๋ยวไปเรียนสายนะมึง...รถยิ่งติด ๆ ไหนบอกจะตื่นเช้าไงว่ะ!!!!! กูบอกแล้ว...อย่าเล่นคอมดึก ต่อไปนี้ไม่ต้องเล่นแล้วนะ!!! ตื่น....!!!!!!!”
            มันผงกหัวขึ้นมา...เอาหมอนปิดหน้ามุดเตียงนอนต่อ จับมันเขย่า...
            “ตื่นนนน!!!! อย่าต้องให้พูดซ้ำซาก!!!!!”
            “วุ้ย!!! จะบ่นอะไรหนักหนาเนี่ย!!!”มันเหวี่ยงใส่ เห็นหน้าตรง ๆ แล้วตกใจ ตาบวมมาก จมูกก็แดง ๆ ผมนั่งลงบนเตียง จับไอ้เตี้ยพลิกขึ้น มันเอามือปัดป้อง
            “เป็นอะไร? ร้องไห้อีกแล้ว?”
            “อืออออ อย่ามายุ่งงงง!!!!!!!”มันเบี่ยงตัวออกหนี ผมรวบกอดมันไว้...จับหน้ามามองเต็ม ๆ
            “ไม่ร้องยังไง ตาบวมขนาดนี้!!!!”
            “จึ้ก!!!! ปล่อยจะไปอาบน้ำ!!!!!”เหวี่ยงตาขวางละครับ ถามดี ๆ ก็หงุดหงิดใส่ได้มึงท้องรึเปล่าเนี่ย ผมก้มลงหอมแก้มฟอดใหญ่ มันเบี่ยงตัวออกคงเพราะจั๊กจี๋หนวดที่ขึ้นหร่อมแหร่มอยู่ปลายคาง
            “เจ็บบบบบ”
            “เดี๋ยวนี้หอมไม่ได้เลยใช่ป่ะ?”แกล้งทำเสียงเหวี่ยง
            “ก็มันเจ็บจริง ๆ นี่!!!!!”มันลูบแก้มตัวเองปอย ๆ
            “งั้นให้หอมคืน”ผมทำแก้มป่อง ๆ ยื่นให้...มันเอามือผลัก
            “ตลก!!! ใครจะหอม”
            “เอ้า....เร็ว ๆ ตื่นมาต้องหอมแฟนก่อนดิ ชีวิตจะได้เจริญ!”ผมบอกปนหัวเราะ มันยิ้มออกมาได้
            “มีที่ไหนว่ะ ปล่อย...จะไปอาบน้ำละ”ตาบวม ๆ หน้าแดง ๆ แฟนใครว่ะ โคตรน่ารัก ผมทำปากจู๋ยื่นไปให้มัน ไอ้เตี้ยเม้มปาก นั่งนิ่ง ๆ ก่อนจะยื่นปากสวยมาประกบ แล้วรีบเอาออก...มันกำลังอาย ผมยิ้มให้ก่อนจะโยกหัวมันน้อย ๆ ปล่อยให้เจ้าตัวแสบวิ่งเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ
            จัดที่นอนเอาไอแพดที่ซ่อนใต้หมอนออกมาดู สไกป์เปิดอยู่...เมื่อคืนคงคุยกับเลม่อนแน่ ๆ พักนี้อาหลานเขามั่งจะคุยกันผ่านโซเชียลนี่ละ ผมอมยิ้มมีภาษาอังกฤษคำง่าย ๆ ที่เลม่อนเขียนเป็นลายมือมาให้อา ‘I love u’ ไม่รู้ว่าแม่จับมือพิมพ์หรือแม่พิมพ์ให้ แต่เดาได้เลยว่าไอ้เตี้ยคงปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก มันเขียนกลับไปเหมือนกันว่า ‘love u too’ น่ารักมาก ผมต้องคอยระวังไม่ล้อมันเรื่องนี้ เพราะเดี๋ยวมันจะต้องโกรธมากแน่ ๆ เอาไอแพดวางไว้บนหัวเตียง แล้วเดินลงไปดูอาหารข้างล่าง
            มาส่งที่มหาลัยฯ เจอแยมโรลลงจากรถเมล์ กำลังจะเดินเข้า ไอ้เตี้ยเห็นคนแรก...มันชี้เพื่อนมัน ผมบีบแตรเรียก...ไปจอดข้าง ๆ แล้วลดกระจกลง ดีที่ด้านหลังไม่มีรถตามมา ไม่งั้นจอดแช่แบบนี้...มีหวังได้โดนด่า
            “เฮ้ย!”ไอ้เตี้ยเรียกเพื่อนมัน
            “อ้าว! ยังมีชีวิตอยู่เหรอมึง”โรลทัก
            “หึหึหึ ไอ้นี่!!! ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงซะละ”มันแซวเพื่อนมัน แล้วหันมาหาผม “ไปกับโรลนะ” ผมพยักหน้า
            “แล้วจะให้มารับกี่โมง”
            “ไม่ต้อง...เดี๋ยวกลับเอง”
            “จริงอ่ะ?”ทำเสียงไม่น่าเชื่อ!!!! ปกติคุณชายไม่ค่อยไปเบียดฝูงชนสักเท่าไหร่
            “เดี๋ยวไปกินข้าวกับฟ้าเหอะ”อ่อ...เพื่อนมัน ฟ้ากับต้น
            “แล้วโทรหาด้วยนะ”มันพยักหน้า แล้วรีบลงไป...ผมมองตามมันคุยกับเพื่อนเดินเข้าไปตามทาง สีหน้าแยมโรลดูเหนื่อย ๆ ที่บ่ามีกระเป๋ากีต้าร์ใบใหญ่ พากันเดินเข้ามหาลัยผมเลยตีรถออกมา...เข้าบริษัท สะสางงานที่คั่งค้างก่อนจะไถลดูงานที่โรงงานต่อ...สักพักมีสายเข้า น้องคิ้วโทรมา...ผมขมวดคิ้วรีบกดรับสาย
            “พี่ติณฑ์~~ ลูกชิ้นกำลังจะคลอดลูกแล้ว”คิ้วทำเสียงตื่นเต้น ผมก็อดตกใจไม่ได้
            “เฮ้ย! จริงดิ...อยู่ไหนเดี๋ยวพี่รีบไป”หลังจากทราบแล้วว่าอยู่ที่ไหนผมก็รีบบึ่งรถไปหาทันที มีแม่ลูกชิ้น ไอ้ชัด คิ้วกับแม่ และแม่บ้าน คนขับรถอยู่ด้วยกัน
            “เฮียหวัดดี”ไอ้ชัดร้องทักทาย ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะถามไถ่ว่าเป็นยังไง
            “คลอดรึยังครับ?”
            “กำลังเลยพี่ติณฑ์ หมอเพิ่งจะมาถึง”คิ้วมีน้ำตาคลอ ๆ ผมบีบมือน้องเบา ๆ ให้กำลังใจ ไม่กี่ชั่วโมง...ที่นั่งรอ นางพยาบาลก็ออกมาบอกว่าคลอดแล้ว ลูกสาว...ทุกคนร้องเฮกันใหญ่
            “เป็นลุงแล้วนะมึง!!! ทำตัวดี ๆ ให้หลานเห็นละ”คิ้วตบบ่า ไอ้ชัดพยักหน้าสองสามที ถลาไปกอดแม่มัน...ผมยิ้ม เดินห่างออกมาโทรหาไอ้พุทกับน้องเจ แจ้งข่าวดี...แล้วค่อยโทรหาไอ้เตี้ย
            “เตี้ย ลูกชิ้นคลอดน้องแล้วนะ”ผมบอก
            “เฮ้ย คลอดแล้วเหรอ..ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”
            “ผู้หญิง”
            “ดีใจอ่ะ เดี๋ยวๆ แล้วนี่มึงอยู่ไหน”มันถามกลับมา
            “รพ.”ผมบอก เดี๋ยวได้งอนอีกแน่ ๆ
            “ทำไมไปไม่บอก?”
            “กะทันหันครับ...นี่เรียนเสร็จรึยัง”ผมถาม
            “เสร็จตั้งนานละ เดินห้างอยู่ฟ้า ต้น เนี่ย!!!”
            “ให้ไปรับไหม?”ผมถาม
            “อือ...อยากไปหาลูกชิ้น แต่ขี้เกียจขึ้นแท็กซี่...”มันบอก เพราะเคยขึ้นไปแล้วเจอคันที่แบบ...มีกลิ่นบนรถซึ่งมันไม่ชอบ จากนั้นก็ไม่ค่อยนั่งอีก
            “ครับ ๆ งั้นรอที่นั่นนะ”
            “อือ ติณฑ์”
            “หือ?”
            “มาเร็ว ๆ เดี๋ยวฟ้ามันจะกลับแล้ว”
            “ครับผม”เดินตามคิ้วไปดูนางพยาบาลเอาผ้าพันน้องตัวเล็ก คิ้วหลับไปแล้ว...คงเหนื่อยมาก ผมบอกผู้ใหญ่ว่าจะไปรับไอ้เตี้ยที่ห้างก่อน แล้วจะกลับมาอีกครั้ง...ไอ้ชัดบอกซื้อข้าวเข้ามาให้ด้วย มันยังไม่ได้กิน ผมหัวเราะ...เดินออกมาที่รถ เห็นคนเดินสวนไปหน้าคุ้น ๆ พอหันไปมองอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว


/////////////////////////////////////

ผมพาไอ้เตี้ยเดินเลือกซื้อของสำหรับคุณแม่มือใหม่ ไม่รู้ว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง...แต่แค่เราเดินไปที่แผนกเด็กเล็กที่อยู่ในห้าง บอกพนักงานก็พาเราเดินไปดูของที่ต้องการได้สะดวกขึ้น
            “อันนี้ซื้อแล้วนี่นา”ไอ้เตี้ยบอก ผมมองดูของเล่นเด็กในมือมัน ซื้อให้ลูกชิ้นตั้งแต่ท้องใหม่ ๆ
            “อันเอาเซ็ทผ้าอ้อมไหม นี่ไงน่ารักดี”ผมบอก
            “สีนี้ ๆ หวาน ๆ”มันเลือก เพราะบางอันอยู่สูงเกินกว่าคนเตี้ย ๆ อย่างมันจะเอื้อมมือถึง ผมก็ยืนช้อนหลังแล้วหยิบให้ พนักงานอมยิ้มกันหน่อย ๆ ถามว่าอายไหม...ตอบเลยว่าไม่ ฮา แต่ถ้าไอ้นี่รู้ตัวมันต้องด่าแน่ ๆ
            “นี่หรือนี่”ผมถาม
            “สีชมพู”หยิบลงมาให้
            “เอาสีฟ้าด้วย สีน้ำเงินก็สวยเท่ห์ ๆ ดี”เริ่มเรื่องมากละ มันหันมาทำตาอ้อน ๆ
            “สีไหนดีว่ะ...สวยทุกสีเลย”ทำเสียงอ้อน คือถ้าผม...เลือกให้ มันก็จะงอนอีก...ในกรณีนี้ความต้องการของพี่เค้าคือทุกสี
            “ก็เอาไปหมดนี่เลยก็ได้...ได้ใช้อยู่แล้ว”
            “เนอะ ๆ ก็มันสวยทุกสีนี่หว่า!”ยิ้มหน้าบานไปแล้ว
            “เอาอะไรอีกไหม”ผมถาม
            “อยากได้นี่ด้วย”มันเลือกเบาะนอนเด็ก รองเท้า เสื้อผ้า ผมให้ได้แค่เสื้อ...เพราะเด็กเล็กรองเท้ายังไม่ต้องใส่
            “ทำไมอ่ะ!!!!!!!”
            “น้องเพิ่งจะออก...มันยังไม่ได้ใช้ ซื้อไปก็รกเปล่าๆ”ผมบอก
            “จะเอาอ่ะ เดี๋ยวก็ได้ใช้”
            “มันยังไม่ได้ใช้ตอนนี้ไงครับเตี้ย! เอาไปเก็บเถอะ”
            “ทำไมอ่ะ”ผมยืนจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ ไอ้เด็กแสบเริ่มจะส่งสายตาอ้อน ๆ มา ยื้อยุดกันสองคน...จนพนักงานหนีหายไปคนละทาง ผมจับมือมันไว้...กลัวมันทุบกลางห้าง อีกมือมันถือของอยู่
            “เดี๋ยวก็ได้มาซื้อเรื่อย ๆ ไง”ผมพยายามพูดใส่
            “ก็อยากได้ตอนนี้...”กูขอถอนหายใจ~~ มันยืนถือเบาะนอนเด็กแน่น ถ้าไม่ให้...วันนี้คงได้ยืนอย่างนี้ทั้งวัน เฮ้อออ...
            “ไป ๆ เอาไปใส่รถ แล้วพอนะ...ไม่ต้องหยิบ”ไอ้เตี้ยเริ่มยิ้มทำหน้าทะเล้นออกมา บอกแล้ว...มันแค่กวนตีน!!!!
            “ติณฑ์”ชูจุกดูดนมให้ดู
            “พอ!!!!”
            “ง่ะ นิสัยว่ะ!!!!”
            “ไป ๆ จ่ายเงิน!!!!!”
            “ติณฑ์อ่ะ ไอ้ขี้งก!!!!!!!”
            “งกก็ผัวมึงแล้วกัน”ผมตอกกลับ มันชะงัก...
            “นิสัย~”หึหึหึ...แล้วก็หน้าแดงไปละ ไม่รู้ว่าอายหรือโกรธ จ่ายค่าเสียหายแล้วเอาของใส่รถเข็น เดินซื้อของกินแพ็คใส่กล่องอีกหน่อย แล้วก็ไปรพ. ย้ายมาห้องพิเศษแล้ว...เด็กน้อยอยู่อีกห้อง ลูกชิ้นหลับ...
            “หวัดดีพี่สะใภ้”ไอ้ชัดแซวไอ้เตี้ย มันทำหน้ากวนใส่เพื่อนมัน
            “คิ้วละ”ผมถาม
            “กลับไปแล้ว ไปเอาเสื้อผ้า...”ไอ้ชัดบอก มันนั่งจ้องถุงอาหาร...พอไอ้เตี้ยวางก็เดินมาเปิดกิน
            “แม่กินข้าวก่อน ไอ้เหี้ยนี่แทนที่จะให้แม่กินก่อน”ไอ้เตี้ยด่าเพื่อนมัน
            “ไม่เป็นไรลูก ทานกันเลย...แม่ยังไม่หิว”
            “ข้าวมันไก่อร่อยนะแม่...ผลไม้ก็มี”ไอ้เตี้ยบอก ผมอมยิ้ม
            “จ้า ๆ ขอบใจนะ”แม่เดินไปดู ไอ้ชัดเปิดกล่องข้าวให้ดู
            “ติณฑ์อยากดูน้อง”ไอ้เตี้ยเดินมาอ้อน
            “ไปดูไหมละ”ผมอยากกอดมันที่สุดตอนนี้ ไอ้ตัวเตี้ยพยักหน้า...
            “น้องชื่ออะไรว่ะชัด”ผมร้องถาม
            “น้ำมนต์ มลฤดี”แม่เป็นคนตอบ
            “เดี๋ยวผมพานี่มันไปดูก่อนแล้วกันครับ”
            “อือ ๆ”ไอ้ชัดข้าวเต็มปากแต่ยังร้องบอก ผมส่ายหน้าในความกวนของมัน ก่อนจะจูงมือไอ้เตี้ยเดินตรงออกมายังห้องรวมเด็กเล็ก ๆ ไว้ ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าห้องอะไร แต่มีเด็กหลาย ๆ คนนอนหลับตาพริ้มอยู่ในกระบะใครกระบะมัน หน้ามีนางพยาบาลหลายคนส่วนนี้เราเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ยืนดูมุมห้องที่เป็นบานกระจกใหญ่ ๆ
            “ไหนว่ะ”ไอ้เตี้ยร้องหา
            “นั่นป่ะ ๆ”ผมชี้ อ่านชื่อช้า ๆ น้ำมนต์ มลฤดี ไอ้เตี้ยยิ้ม
            “น่ารักว่ะ~~~~”มันยิ้มออกมาปากกว้าง ผมเผลอจ้องเรียวหน้านั้นอย่าสติหลุดลอย น่ารักดิ...โคตรน่ารักเลย
            “เนอะ”
            “อือ”
            “เป็นบ้าอะไรยืนยิ้มแบบนั้น!?!?!?!”มันหัวเราะ 
            “หึหึหึ....”กูมีความสุข ก็จะยิ้ม...แยกเขี้ยวใส่มันครับ
            “โรคจิตป่ะเนี่ยมึงอ่ะ...ยืนยิ้มอยู่ได้”
            “เอ้า...ใครบอกว่าห้ามยิ้มละ?”
            “ประสาท ตีนกาก็ขึ้น!!!!”มันพูดยั่วกะจะให้ผมโมโหว่างั้น!?!?! เหอะ ๆ ไอ้เด็กน้อย
            “ตีนกาขึ้นไม่เป็นไร อย่าให้ตีนกูขึ้นแล้วกัน...”
            “ประสาท”มันด่าอีกครั้ง ก่อนจะยืนจ้องน้องน้ำมนต์คนสวย มือเรียวของมันเกาะกระจกทั้งสองข้าง ทำอย่างกับตัวเองเป็นจิ้งจกแปะข้างห้องอย่างนั้นแหล่ะ ผมปล่อยมันเพลิดเพลินกับเด็กน้อยสองสามนาที สายตาดันเลื่อนไปเห็น...มืออันว่างเปล่าของมัน ตากระตุกเลยครับ!!!!!
            “เตี้ย...แหวนไปไหน?”ถามเสียงเรียบ ๆ มันนิ่งทำเป็นไม่ได้ยิน
            “เตี้ย...แหวนไปไหน”ผมถามอีกที คราวนี้จับไหล่มันด้วย
            “อะไรเล่า”หึหึหึ...มีพิรุธ ไม่หายก็ขายแดก? เอ่อ...อย่างหลังคงเป็นไปได้อยากหน่อยละนะ ถึงแม้ว่าพ่อจะตัดเงินเดือนมัน แต่ผมก็ยังให้มันพอใช้จ่ายอยู่ดี อย่าเป็นอย่างแรกแล้วกัน...อาละวาดแม่ง!!!!!!! วงที่สองละนะ!!!!!!!
            “หายไปไหนทำไมไม่ใส่!”ทำเสียงเข้ม มันหันมาเอาหลังพิงราวเหล็กกั้นรอบห้องกระจก และเอามือดึงเสื้อที่พุงผมไว้
            “อะไรเล่า!!!!!”
            “อย่าให้ต้องโมโห? หายใช่ไหม?”ใกล้ละ...กูใกล้จะระเบิดละ
            “ปะ เปล่า จึ้ก”มันทำหน้าเบื่อปนกลัวผมหน่อย ๆ กลัวอาละวาด~
            “แล้วทำไมไม่ใส่!?!?!?!”
            “อือ....”
            “อืออ้าเหี้ยไร...!!!!!!! เดี๋ยวกลับบ้านก่อนมึงจะโดนไม่ใช่น้อย!?!?!”
            “จึ้ก”เถียงไม่ออก อาการนี้เป็นไม่บ่อย...เป็นเฉพาะทำเรื่องไม่ดีมา อีหรอบนี้...กูว่าหายอีกชัวร์ ๆ ทำไมว่ะ!??!?! ผมบอกให้มันใส่ติดนิ้วไว้แท้ ๆ ขนาดวงมันก็ไม่ได้หลวมที่จะหลุดมือออกง่าย ๆ และไม่ได้คับเวลาใส่แล้วอึดอัดขนาดนั้น!!! ขนาดผมยังใส่ติดมือเลย...อาบน้ำก็ยังไม่ถอด
            “จะกลับเลยไหม”ไอ้เตี้ยยืนกัดปาก ดี!!!! โกรธแล้วทำร้ายตัวเอง ผมจิกแขนมัน!!! ไม่แรงอะไรหรอก...รู้อยู่กลัวมันช้ำอยู่เหมือนกัน
            “กวนตีนอะไร?”ผมถาม
            “ก็มึงอ่ะ!!!! ทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วยเล่า!!!”มันเถียงออกมา หน้ามุ่ยลงทุกที
            “อย่ามาขึ้นเสียงใส่นะเตี้ย!!!!! ความผิดครั้งนี้...มึงทำเองใช่ไหม กูบอกว่าไง...ให้มึงช่วยรักษาของหน่อยน่ะ แค่แหวนวงเดียวมึงยังรักษาไม่ได้เลย อีกหน่อย...คงทิ้งกูง่าย ๆ เลยสินะ”
            “ฮึก....”ร้องไห้ละ...ร้องง่ายเหลือเกิน ผมกอดมัน...
            “ฮึก มะไม่ใช่สักหน่อย...ทำไมต้องพูดแบบนั้น ฮึก...”
            “กูโมโห”บอกสั้น ๆ ไม่พูดอะไรอีก ให้มันคิดอะไรได้เองมั่ง!!!!!!
            “ติณฑ์”ทำเสียงอ้อนน้ำตาไหลพราก ผมกัดฟัน...เช็ดน้ำตาให้ไอ้เตี้ย ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวแบบนี้ว่ะ!?!?!?! กูนี่จะทนไม่ไหวเอา เดี๋ยวนี้ใช้บ่อยนะไอ้น้ำตาเนี่ย!!!
            “ฮึก...”ร้องก็ร้องไปกูไม่โอ๋ละ ครั้งนี้มันเกินไปจริง ๆ ทุกทีก็เห็นใส่ติดมือตลอดนี่หว่า...พามันไปล้างหน้าในห้องน้ำ ไอ้เตี้ยไม่อยากเดินเข้าไปให้เพื่อนมันแซวอีก และลูกชิ้นคงจะยังไม่ตื่นง่าย ๆ เราเลยขอตัวลากลับบ้านกันก่อน พรุ่งนี้คงจะได้มาเยี่ยมใหม่อีกครั้ง
           


ร้องไห้เมื่อเช้าตาก็ยังบวม ๆ วันนี้ไม่ให้สไกป์กับเลม่อนละ อาหลานมันคุยอะไรกันทุกวี่ทุกวัน....ผมไม่คุยกะมันด้วยหรอก ให้เข้าใกล้ได้ที่ไหน...คือถ้ามันรู้ว่าผมแอบฟัง มันจะต้องแยกห้องนอนทันทีซึ่งผมยอมไม่ได้ บ้าเปล่า...ไม่ให้นอนกอดเมีย!!!
            จับหมวกของไอ้คนที่นอนเอาหมวกปิดหน้านั่นขึ้น บอกมันว่าถึงบ้านแล้ว...ไอ้เตี้ยผุดลุกขึ้นรวดเร็ว จะลงรถโดยไม่มองหน้ากัน ผมจับมือมันไว้...ยังไม่ดับเครื่อง
            “เดี๋ยว ๆ คุยกันก่อนไหม”
            “................................”
            “อย่ามางอนงี่เง่า...ใครควรจะโกรธกูหรือมึง วงแรกหายก็น่าจะรู้ว่าพอซื้อให้อีกวงก็น่าจะรักษาไว้สิ”ผมบ่น มันนั่งนิ่ง ๆ น่าโมโห...ถ้ามันแก้ตัวว่าอาบน้ำแล้วลืมอะไรก็ว่าไป อารมณ์ไม่ขึ้นขนาดนี้เลย มันทำเหมือนไม่ใส่ใจ...หายก็หาย
            “จะเข้าบ้าน”
            “ไม่แคร์ใช่ป่ะ? หายแล้วก็หายเลยใช่ป่ะ”ผมถาม กูก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะ!!!!!
            “แล้วจะให้ทำยังไงเล่า!”มันกระชากเสียง...เริ่มมีอารมณ์อยู่เหมือนกัน
            “หายที่ไหน...หายตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนกลับจากกาญมันยังมีอยู่เลย...หรือว่าไปเรียนแล้วถอดออก”ทำหน้าดุ ๆ คุยกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องลงรถกันละวันนี้ แม่บ้านเดินมาด่อม ๆ มอง ๆ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าเรียกสักคน แค่มองก็เดินหายเข้าตึกไป เดี๋ยวป้าสาได้บ่นเหมือนเคยว่ารังแกน้อง ปกป้องมันกันเข้าไป ทีผม...ไม่เห็นมีใครสนใจมั่ง!!!!
            “ตกลงหายใช่ไหม?”ผมถามให้แน่ใจ มันกัดปาก...ก้มหน้าจิกหน้าขาตัวเองแน่น ไม่พูดอะไร...
            “ดี!!!! ดี!!!!!”ถอดวงที่สอง ที่ติดอยู่กับนิ้วตัวเองออก...วงแรกเก็บใส่กล่องไปนานแล้ว เพราะไม่มีคู่ เหวี่ยงแหวนฟาดกับกระจกหน้ารถ แรงอยู่เหมือนกัน ไอ้เตี้ยสะดุ้งตกใจ! ตัวแหวนกลิ้งไปไหนไม่รู้...กระจกรถไม่เป็นไร
            “ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!!”ผมสบถออกมาเสียงดัง
            ปัง!!!!!
          ดับเครื่องลงจากรถ ออกมาสงบสติอารมณ์ตัวเอง พอละ....ไม่ซื้อให้แม่งละ ถ้ารู้ว่าไม่รักษาของแบบนี้ ต่อไปนี้...ไม่ซื้ออะไรให้ละ นี่ยังไม่ได้ถามหานาฬิกาที่เคยซื้อให้นะ เพราะไม่เห็นใส่นานแล้วเหมือนกัน หายได้หายดี!!!!
            “จะลงไม่ลง? ไม่ลงก็อยู่บนรถนี่ละ”ผมโผล่หน้าเข้าไปถาม เห็นมันนั่งก้มหน้าเหมือนเดิม แต่หน้าขา...เปียกไปด้วยน้ำตาแล้ว ปิดประตูรถกระแทก...แล้วเดินขึ้นตึกอย่างโมโห ป้าสาเดินกึ่งวิ่งเข้ามาถามหาไอ้เตี้ย
            “น้องละคะคุณ”
            “บนรถ”ตอบนิ่ง ๆ
            “ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอคะ? เป็นอะไรกันอีกละคะเนี่ย”ป้าสาร้องถาม
            “คนดีของป้าสิครับ....ทำแหวนผมหายอีกแล้ว วงที่สองแล้วนะครับ”ผมยกน้ำขึ้นดื่มดับอารมณ์
            “พูดกับน้องดี ๆ สิคะ...ไปเรียกเข้ามาเถอะค่ะ รถดับเครื่องไว้เหรอคะ? น้องจะหายใจได้ไหมคะเนี่ย!!!!”ป้าสาเตือน เพราะเห็นกุญแจที่แกว่งอยู่ในมือ ผมถอนหายใจ...ห่วงก็ห่วงนะ แต่มันก็กวนตีนซะละเหลือเกิน
            “คุณติณฑ์คะ~”ป้าสาทำเสียงเหนื่อย ๆ
            “ครับ ๆ”ยอมเดินออกมาที่รถ ไอ้ตัวแสบร้องไห้เช็ดหน้าตัวเองปอย ๆ ผมเดินไปเปิดประตูรถข้างมัน
            “ลงมา”มันทำนิ่ง หันหน้าไปอีกทาง อุ้มแม่งเลย...มันก็ดิ้น ๆ มีเหรอจะยอมง่าย ๆ
            “จะทำอะไร ปล่อย!!!!”
            “แล้วจะนั่งให้ได้อะไร ร้อนเปล่า ๆ อย่ามางี่เง่าวิธีนี้”ผมบอก ดิ้นดีนัก...หัวเลยรถกับขอบรถ ดังโป๊ก~~
            “โอ๊ย...”มันร้องหยุดดิ้นทันที ผมเตะประตูให้ปิด แล้วอุ้มมันขึ้นตึก
            “เจ็บนะ...”มันบอก เออรู้แล้ว ป้าสายกน้ำส้มกับของว่างมาให้เต็มโต๊ะ
            “ทานขนมใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ ป้ามีน้ำส้มด้วยนะ เดี๋ยวกับข้าวใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ...รอแปปนึงนะคะ คุณมะนาวอยากได้อะไรบอกป้าเลย เดี๋ยวป้าให้เด็กจัดมาให้”ป้าสาเอาใจ แต่เด็กนี่มันอารมณ์ไม่ดี...เลยทำเมิน ผมพยักหน้าให้ป้าสา เชิงว่าจัดการได้ แกก็ออกไปข้างนอกทันที
            “นิสัยไม่ดี”ผมบอกมัน ไอ้เตี้ยรัวมือเป็นรำพัดใส่อกบ้างหน้าบ้าง ตุ้บ ๆ เพลี๊ย ๆ จนเจ็บไปหมด!!!
            “หยุด!!!!”ผมตวาด
            “หยุด!!!!!!”เหวี่ยงมันลงบนโซฟา
            “ไม่!!!!”
            “หยุด ไอ้เตี้ย...เจ็บนะ!!!!”
            “กูก็เจ็บ!!!!!”มันเถียงคำต่อคำ ไอ้เด็กนี่ทำไมนิสัยอย่างนี้ว่ะ!!!!!!!!!











ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ลุกขึ้นไปปิดม่านใหญ่ ล็อคห้องรับแขก...แล้วเดินเร็วมาหาไอ้เด็กแสบ มันยกตีนขึ้นมารอรับก่อนเลย..ผมบิดข้อเท้ามัน (เบามือ) ตีนน้อย ๆ แค่นี้...เอาพุงดันมันก็พับหนีแล้ว จนตัวมันเอนหลังลงบนโซฟา
            “อย่านะ!!!”
            “อย่าอะไร? มึงมานี่...”
            “ติณฑ์อย่า...”
            “อย่าอะไรมานี่ กูจะทำโทษมึง...”
            “ไม่เอานะ!!!!!”
            “อวดดีนัก...จะกวนตีนก็กวนให้สุด!!!!!!!”
            จูบแม่ง...กวาดลิ้นร้อน ๆ ไปหามัน ไอ้เตี้ยเบี่ยงหน้าออกหนีแต่ผมก็ล็อคมันไว้ เอาให้แบบหายใจไม่ทัน...ขาดใจตายไปเลย
            “อือ อือ...ยะ อย่า อือ อือ”มันร้อง
            “แฮ่กๆ ตะ ติณ ติณฑ์ อื้อออออ”
            ล็อคแขนมันรวบไว้บนเหนือหัว ไม่ปล่อยให้มันพูดอะไร ประกบปาก...จูบต่อ ดิ้นได้ดิ้นไป...มันพยายามจะดันลิ้นผมบอก เลยดูดแม่งแรง ๆ สักที...คราวนี้อ่อนลงกว่าครั้งแรกมาก ยอมให้จูบง่าย ๆ ดี...จะได้ไม่ต้องเหนื่อยทั้งสองคน
            ผมผละหน้าออก...จ้องหน้ามัน ไอ้เตี้ยหลบตา...น้ำตาคลอ
            “รู้รึเปล่าว่าตัวเองผิด”มันเงียบไม่ตอบไม่ว่า แต่ทำหน้าหยิ่ง ๆ
            “ไม่ตอบกูจูบ”
            “อ๊ะ....”พูดจริงทำจริง ก้มจูบมันอีกหน...เนิ่นนานกว่าจะผละออก ไอ้เตี้ยหอบหายใจ...แฮ่ก ๆ
            “ซื้อให้แล้วทำไมไม่รักษา?”ผมถาม เงียบ...ไม่พูด จูบต่อ~
            “อื้ออออ...ปะ ปล่อย ไอ้ติณฑ์ ไอ้เห้ อุ๊ปส์”แกล้งดูดลิ้นมัน...ไอ้เตี้ยดิ้นเป็นแมวดูน้ำร้อนลวก ผมใช้ทั้งตัวทับมันไว้
            “อืออออ”
            “แฮ่ก ๆ ฮึก...ฮืออออ”ร้องไห้แล้ว ผมก้มลงจูบและกัดปากล่างมัน
            “เจ็บ ฮึก...”กอดมันไว้ทั้งตัว รู้ว่าเจ็บเพราะปากแดงแจ๋ขนาดนี้ มือหลุดจากพันธนาการ มันก็กอดผมไว้แล้วหยิกหลังจนเจ็บ
            “ฮึก...”ก้มลงจูบมันทุกเครื่องหน้า ไอ้คนอยู่ข้างใต้ตัวสั่นแต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามดันผมออกทุกเมื่อ
            “จ๊วบๆ”ดูดแก้มมันจนเป็นสีชมพูเรื่อขึ้น ไล่จากแก้มไปใบหูแล้วซอกคอ ไอ้เตี้ยนอนน้ำตาไหล
            “ไอ้ติณฑ์ ปะ ปล่อย”เสียงมันเริ่มอ่อนแรง กำเสื้อผมแน่น ผมถอดเสื้อตัวเองออกอย่างรวดเร็ว...ไอ้เตี้ยใช้ความไวจะลุกหนี แต่ผมก็ไวเหมือนกัน...กดมันนอนลงที่เดิม
            “อุ๊ปส์!!! เจ็บนะ”
            “คิดจะหนีทำไม?”ผมทำเสียงเหวี่ยง
            “ฮึก...ไม่อยากทำ มันเจ็บ”
            “ดี...เจ็บ ๆ จะได้จำ!!!!!”ผมบอก ซุกไซ้มันไปเรื่อย
            “ฮึก...เจ็บ นะ~ ติณฑ์...มันเจ็บ ฮึก...”มันร้องสะอื้นไป พูดไปน่าสงสาร ผมหยุดบังคับมันก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้า เมียตัวเองร้องไห้ขนาดนี้ ใครจะไปทำลง...จริง ๆ ไม่อยากบังคับอะไรมันด้วย ในเมื่อมันไม่ต้องการ
            ผละลุกขึ้นได้มันก็สะอื้นร้องไห้ฮึกฮักน่าสงสาร รู้ว่าตัวเองก็ผิดอยู่เหมือนกัน ต่อไปนี้จะจำไว้ว่า...มันไม่รักษาของ ต่อให้ซื้อและตั้งใจให้แค่ไหน มันก็สามารถทำหายได้ง่าย ๆ ลุกออกยืนกลางห้อง...หยิบเสื้อขึ้นมาใส่
            “กูจะไปนอนคอนโด”ผมบอก
            “ฮืออออออออออออออออ....”มันร้องหนักกว่าเดิม
            “แยกกันอยู่ดีไหม มึงจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว?”ผมบอก มันร้องไห้ส่ายหน้า...แต่ผมก็ยังจะไป เดินหากุญแจรถ...รีบไปก่อนจะใจอ่อน ไม่หันกลับไปมองมันอีก...ยังเดินไม่ทันพ้นประตูไอ้เตี้ยทำสิ่งที่ผมไม่คาดฝัน คือมันวิ่งมากอดผมไว้
            “ฮึก...อย่าทิ้ง”มันพูดปนสะอื้น
            “ไม่ได้ทิ้ง...แค่แยกกันอยู่ กูโมโหมาก...เดี๋ยวมึงจะเจ็บตัวเปล่า ๆ”ผมบอก
            “ไม่ให้ไป...ฮึก ฮืออ”ถอนหายใจ...เฮ้ออออออออออ ผมแกะมือไอ้เตี้ยออกอย่างยากลำบากทันทีที่หันหน้าไปหามัน แล้วส่งเสียงดุ ๆ ใส่
            “จะรีบไป!”ผมบอก
            “ฮึก...ไม่ให้ไป”ยืนจ้องหน้ากัน ตาแดง ๆ น่าสงสารเป็นที่สุด จู่ ๆ ไอ้เตี้ยก็ถอยหลังหนึ่งก้าว ถอดเสื้อผ้ามันออกหมด...เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว มันยืนกุมส่วนล่างไว้
            “ฮึก...ให้ทำก็ได้ อย่าไปนะ”สีหน้ามันเว้าวอน ตัวเล็ก ๆ ผิวขาวยืนน้ำตาคลอ ตัวก็สั่น...ปากก็แดง ผมเห็นแล้วใจอ่อนยวบ...อยากตีหัวตัวเอง ไม่น่าจะเอาของนอกกายมาตีราคาความรู้สึกคนที่ผมรักเลย...เดินไปกอดมัน มันก็โผกอดตอบ
            “จุ๊ ๆ”ผมกอดและปลอบให้มันหยุดร้องไห้ อารมณ์แบบนี้กันทั้งคู่...จะคาดคั้นว่าหายตอนไหน และหายแล้วทำไมไม่บอก ก็คงจะไม่ได้คำตอบ เอาไว้ค่อยตะล่อมถามทีหลังก็ได้...เดาเอาว่ามันคงจะรู้ตัวก่อนเป็นแน่ เพราะครั้งแรกที่ท้วงมันไม่ได้ท่าทีตกใจว่าแหวนหายแต่อย่างใด
            “มึงมันน่าตีรู้ไหม”ผมพูดเสียงนิ่ง...มันพยักหน้าเข้ากับอก เฮ้อ...ยอมมันจนได้
            จับจูบเสียให้เข็ด...ไอ้คนตัวเล็กก็ยอมง่าย ๆ กว่าทีแรก ผมเช็ดน้ำตาให้มัน...ทำตรงนี้คงไม่เหมาะ ใส่เสื้อผ้าให้แล้วอุ้มขึ้นห้อง ขึ้นมาจัดการต่อ...ไอ้เตี้ยกระโดดขึ้นเตียง กอดหมอนข้างแน่น ผมจับเหวี่ยงทุกสิ่งออก ดึงตัวมันเข้าหา...ไล่วนจูบทุกส่วนสัดอย่างหื่นกระหาย
            “ติณฑ์...อ๊ะ”มันร้องตอนผมวนจูบที่ราวนม ไล่ลิ้นลงส่วนร่างไปเรื่อย ๆ มือก็ปรนเปรนส่วนนั้นของมัน สะโพกมันแทบไม่ติดพื้น ครางเสียงดัง...ผมก้มดูดจอร์จ ไอ้เตี้ยยิ่งสติกระเจิง ดิ้นพล่านเพราะความเสียวซ่านร้องครางไม่หยุด แต่พอใกล้จะสุดผมกลับหยุดชะงัก มันเหมือนลอยค้างกลางอากาศทำหน้าตัดพ้อ
            “ตะ ติณฑ์”ผมแสยะยิ้ม ดึงมือมันสองข้างกำของตัวเอง
            “อยากเสร็จก็ทำเอง”บอกเสียงนิ่ง ๆ หึหึหึ....ว่าโรคจิตก็ยอม ถือเป็นการแก้แค้นเล็ก ๆ มันทำหน้าจะร้องไห้
            “อะ ไอ้...”เอานิ้วแตะน้ำบนส่วนหัวจอร์จไอ้เตี้ยก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมา ยอมรูดเองขึ้นลง หน้าแดงเพราะความอาย...หลับตาหนีผม หึหึหึ
            “อึก...”
            “อย่ากลั้นสิครับ จะร้องก็ร้อง”บอกเสร็จมันยิ่งกัดปากแน่นกว่าเดิม ไม่ยอมส่งเสียงใด ๆ เล็ดลอด ผมจับสองมือมันตั้งแท่นไว้มั่น แล้วลงลิ้นให้อย่างดูดดื่ม ไอ้เตี้ยตัวสั่นกลั้นเสียง...โคตรน่ารัก
            “อึก...อึก อ๊ะ อ๊ะ”มันร้องงึมงำในลำคอ
            “หึหึหึ อยากกลั้นก็ตามใจ....”
            “อึก อึก...อ๊าส์~ ตะ ติณฑ์”ร้องออกมาในที่สุด...ผมหัวเราะ
            “มะ มะ ไม่ ไหวแล้ว~”มันร้องคราง รีบรูดจอร์จตัวเอง สองคนสี่มือช่วยกันตั้งเทียน...จนน้ำใส ๆ พุ่งออกมา
            “อึก อ๊าส์~~~ ติณฑ์ อึกกก~!!!!”ตัวมันกระตุกหลายทีติดกัน หอบหายใจใหญ่ ผมเลื่อนตัวขึ้นคร่อมมัน
            “ตากูบ้าง...”จับตัวมันนั่งพิงหัวเตียง ใช้เวลามันเหนื่อย ๆ แบบนี้ปลุกเร้าอารมณ์อีกครั้ง จอร์จตั้งได้ที่...ก็เอาเจลทาทางเข้าถ้ำไอ้เตี้ย มันสะดุ้งเพราะ...เจลก็เย็น ๆ โดนนิ้วนำร่องไปก่อน กัดฟันไม่ยอมครางให้อาย หึหึหึ...อยากทนก็ทน! เบิกทางเข้าพอที่จะเอาจอร์จมุดถ้ำ ก็เปลี่ยนให้ตัวเองนั่งพิงหัวเตียงแทนมัน แล้วให้มันนั่งเทียน...ไอ้เตี้ยสั่นหัว
            “ไม่เอานะ”มันส่ายหน้ารัว
            “มึงไม่ต้องครับ มีคดีอยู่...”
            “ติณฑ์อ่ะ!!!!”
            “หึหึหึ มานี่...อย่าอิดออด ยังไงมึงก็ต้องโดน”ผมรวบเอวมันขึ้นมาค่อย ๆ นั่ง มันทั้งตีแก้ม ทั้งดึงหู...โคตรเจ็บ!!!!!
            “โอ๊ย!!!!”ผมร้องออกมา หมั่นไส้แม่ง...แทงสะโพกสวนขึ้นไปเลย!!!
            “อะ โอ๊ย ไอ้เหี้ย!!!!! กูจุก!!!!!”มันด่า!!!! ผมแสยะยิ้ม
            “ตีกูก่อนไหม?”
            “อึก...อึก...กูเจ็บนะ”มันเสียงสั่น แล้วนั่งนิ่ง ๆ ทำตาขวาง
            “กูก็เจ็บครับ...หูแดงเลยนี่”ผมจับหูตัวเอง มันเบะปาก
            “หน้ามึงหนา เจ็บกับเขาเป็นด้วยเหรอ? โอ๊ะ ....ติณฑ์ ติณฑ์!!!!!!!!”มันจับมันแทงจอร์จขึ้นหัวสั่นหัวคลอน ไอ้เตี้ยยังด่าไม่จบยังต้องหยุดด่า!!!! เปลี่ยนเป็นครางแทน
            “เตี้ยครับ รักกูไหม?”ผมถาม เหงื่อเต็มกายทั้งคู่....เปลี่ยนท่าโน่นนี่หลายท่า ไอ้เตี้ยแล่บลิ้น
            “จุ๊บ...”ผมดูดลิ้นมัน
            “อือ...ไอ้ติณฑ์!!!!”
            “พูดกับผัวขึ้นไอ้นะมึง”
            “อึก ๆ ทีมึงยังเรียกกูไอ้เตี้ย ๆ พูดอยู่ได้ อึกก อ๊ะ...อ๊ะ ไอ้เหี้ย...ช้าหน่อยไม่ได้รึไง!”
            ผมไม่รอให้มันพูดจบ...ยกคนตัวเล็กอุ้มขึ้น ไอ้เตี้ยคงกลัวตกผวากอดคอแน่น
            “ติณฑ์ไม่เอา...ท่านี้!”มันร้อง
            “แน่นดี...อู๊ยยย ดีไหมครับ”
            “อ๊ะ ติณฑ์...ไม่เอา...ปล่อยลง!!!”มันคราง แต่ผมยังรู้สึกดี...เพียงแต่มันเหมื่อยไปหน่อย วางมันลงบนปลายเตียงแล้วสั่นสะโพกต่อ เสียงเนื้อตีกันพั่บ ๆ เลื่อนขึ้นไปจูบ
            “จะเสร็จแล้วนะ”
            “เสร็จสักที กูเหนื่อย!!!!”แหม...คนพูดหน้าแดง น่ารักขนาดนี้ อยากจัดให้สักสิบยก...ผมกระแทกจอร์จแรง ๆ ก่อนจะปล่อยในสุดตัว ไอ้เตี้ยร้องครางเกร็งร่างแน่น ทางมุดเข้าถ้ำตอดรัดตุ้บ ๆ ทำเอาจอร์จกระตุกใน...อยู่หลายที
            “แฮ่กๆๆๆ”มันเหนื่อยหอบพอ ๆ กับผม เหงื่อนี่ยิ่งกว่าเข้าโรงยิมอีก ผมทำปากจู๋หามัน
            “จุ๊บ”มันยื่นหน้ามาจุ๊บ ยังไม่ถอนกายออก...ลูบผมมันออก ผมเริ่มยาวจนมัดได้แล้ว ตัวมันหายใจสั่นจนอกกระเพื่อมเซ็กซี่เป็นบ้า!!!
            “ไม่ซื้อให้แล้วนะ...แหวนน่ะ”ผมบอก มันกัดปากแต่พยักหน้า
            “หายเมื่อไหร่ทำไมไม่บอก”ผมค่อย ๆ ถาม มันหลบตา...แต่เอามือมาสอดประสานมือหนาผมไว้ทั้งสองข้าง ขามันอ้ากว้างเพราะยังมีสิ่งแปลกปลอมคาอยู่
            “ไม่อยากพูดใช่ไหม?”ผมถามเสียงเรียบ มันพยักหน้า...ผมถอนหายใจ
            “ไม่พูดก็ไม่พูด...มาจุ๊บอีกที”ผมยื่นหน้าไป มันผงกหัวจุ๊บ...ว่าง่าย จับเอวคอดมันไว้ก่อนจะถอนกำลังออก ไอ้เตี้ยสะดุ้งจิกหัวกูแน่น สัส! เจ็บ!!!! แต่รู้สึกดีชะมัด!!!! ลูกชายนับล้านไหล่ออกมาด้วย ผมเอาเสื้อมันเช็ดพื้นก่อนจะอุ้มไอ้ตัวดีไปอาบน้ำ...
            “ติณฑ์...”
            “หือ....”กำลังวางมันลงอ่าง
            “ขอโทษนะ”มันบอกเสียงเบา ก้มหน้า...ผมชะงัก ปกติมันไม่มีทางพูดเด็ดขาดนี่หว่า พอมันพูดขึ้นมาก็รู้สึกผิดในใจว่าทำมันแรงเกินไปรึเปล่า หัวใจพองโต...จะว่าดีใจก็ดีใจ อยากกอดรัดมันแรง ๆ อีกหน
            “ไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดว่ามึงจะโกรธขนาดนี้”มันพูด ผมจูบหน้าผากมัน
            “ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว...อาบน้ำนะครับ”เปิดน้ำให้อุ่นให้มันแช่ไปก่อน ผมเดินออกไปเอาผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินมานั่งเป็นเพื่อนมัน คิดเหรอว่าจะปล่อยให้...อาบสบาย ๆ ยิ่งทำตัวน่ารัก...ยิ่งอยากให้รางวัล~~
            “กูรักมึงมากรู้ไหม”ผมกระซิบบอก มันตัวแดง...พยักหน้า หันหน้ามาจูบผมตอบเช่นกัน~
 


//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2






ตอนที่ 69


            [ติณฑ์]

            “กินเองไม่เป็นแล้วใช่ไหม?”ผมถามพลางหัวเราะ อาหารเช้าคือไข่คั่ว ใส่หัวหอมใหญ่สักหน่อย ต้นหอม พริกตำละเอียด แล้วมิกซ์รวมกันก่อนเอาไปทอดใช้น้ำมันน้อย ๆ คลุกกับข้าวสวยร้อนหอมสุด ๆ ไอ้เด็กขี้เกียจมันหน้างอ...เพราะว่าเจ็บตัวจากเมื่อคืน และมันก็ทำให้ไอ้เด็กดื้อขี้เกียจหยิบช้อนตักข้าว
             “ตอนเที่ยงไปรับด้วย”
            “คร๊าบ...ยกนมดื่มให้หมดแก้วดิ”ผมบอก ไอ้เตี้ยทำตาม
             “ตอนกลางวันก็ไปหาลูกชิ้น เย็น ๆ ค่อยกลับบ้าน วันนี้เจกลับมาใช่ไหม...ตอนเย็นก็ชวนเจมากินข้าว พอตอนกลางคืนก็สไกป์กะไอ้เตี้ย”ไอ้เตี้ยทำหน้าวางแผน แล้วก็กล้าเรียกเลม่อนว่าไอ้เตี้ยเนอะ! หึหึ
            “กูอยากไปเที่ยว”
            “เอาสิ รอเลม่อนกลับมาก่อนจะได้ไปพร้อมกัน”
            “โห กว่ามันจะมา!”
            “จุ๊บ....”
            “อื้อ!!! ปากมัน ๆ ทำไมชอบจุ๊บกูจังว่ะ!!!!”มันบ่น หยิบทิชชู่มาเช็ดปากตัวเอง
            “ทำปากเชิดน่าจูบทำไม?”ผมแกล้ง ไอ้เตี้ยไม่พูดอะไร....หยิบหนังสือตัวเองลุกขึ้น เดินไปใส่รองเท้า
            “เร็ว ๆ เดี๋ยวสาย!!!!”มันตะโกนกลับมา
            “คร๊าบ ๆ”ผมรีบยัดแซนวิชชิ้นสุดท้ายเข้าปาก แล้วเดินไปใส่รองเท้าบ้าง ไปส่งมันที่มหาลัยฯ วันนี้ฟ้ากับต้นยืนรอหน้าลิฟท์ตัวแรก โดนแซวว่าเหมือนพ่อมาส่งลูก ไอ้เตี้ยหัวเราะใหญ่
            “มึงมันแก่!!!”มันพูด หึหึหึ...เดี๋ยวมึงจะโดนฤทธิ์คนแก่ ไอ้เตี้ยรีบวิ่งเข้าลิฟท์พร้อมเพื่อน ผมจึงกลับมาที่รถ...เข้าไปดูงานที่บริษัท เห็นว่ามีเงินกองอยู่เต็มโต๊ะมากมาย เลขาสาวสวยของคุณประกอบ...เป็นคนยกงานมาให้เพิ่ม สิ้นปีครอบครัวผมคงจะกลับมาพร้อมหน้ากัน พ่อกับแม่บ่นอยากเจอไอ้เตี้ย แสตนด์กับน้ำตาลก็ซื้อของเล่นไว้ให้ตั้งมากมาย กลับมาคราวนี้ไอ้เตี้ยได้ของเพียบถูกใจมันแน่
            “มีงานอะไรด่วนอีกไหมครับ?”ผมถาม เลขาฯ ยกมาให้อีกหอบ...ไม่ต้องไปไหนกันละ ยังเซ็นให้ครบ...ล่วงเลยมาจนเกือบบ่าย เลขาฯกลับเข้ามาอีกหน
            “คุณติณฑ์จะรับกาแฟเพิ่มไหมคะ หรือว่าอยากจะรับประทานอาหารอะไร จะได้ให้เด็กจัดมาให้ถูก”ผมเงยหน้า...มองนาฬิกา
            “ตายละ!!!!! บ่ายโมงกว่าแล้ว นี่เอกสารผมเซ็นให้ครบแล้ว...ส่วนที่เหลือให้คนเอาไปให้พี่บ้านแล้วกัน”ผมสั่งงานก่อนจะรีบออกมา ป่านนี้ไอ้เตี้ยคงรอและหน้างอมากแน่ ๆ แล้ว รีบโทรหาก่อนเลยแต่มันไม่รับสาย...
            ที่ใต้ถุนตึกเรียน มีนักศึกษามากมายเดินลงมามันเป็นทางเชื่อมไปยังโรงอาหารใหญ่ จึงมีเด็กเยอะมาก ผมส่องดูแถวโต๊ะหิน เห็นมีแยมโรลนั่งดีดกีต้าร์อยู่ แล้วก็ไอ้เตี้ย...จึงรีบเดินไปหา
            “เฮียมาละ...รีบ ๆ ไปเถอะ”โรลบอก หันหน้ามาไหว้ผมแล้วมองไอ้เตี้ย ซึ่งตวัดสายตามอง
            “หายไปไหนมา!!!!!”
            “เข้าบริษัท เข้าไปเคลียร์งาน...นี่ก็ยังไม่เสร็จนะ รีบมารับก่อน...กลัวมึงรอนาน”ผมบอก มันทำหน้าไม่พอใจ
            “แล้วก็ไม่บอก!!!”ปล่อยมันเหวี่ยงต่อไป ผมนั่งลง
            “โรลกินข้าวรึยังไปด้วยกันสิ”
            “กินแล้วครับ กินกับนาวเนี่ยแหล่ะ...มันหิวเลยไปกินกันก่อน”ผมมองเด็กข้าง ๆ
            “อ้าวเหรอ! ว่าจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยว!!!”
            “โห! ใครจะรอเมิ๊งงงง...”มันเหวี่ยง ผมส่ายหัว...หยิบหนังสือมันมาถือไว้
            “งั้นพี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”โรลพยักหน้า ไอ้เตี้ยเดินนำไปไกลแล้ว ท่าเดินก็โคตรตลก...มันต้องเจ็บก้นมากแน่ ๆ
            “งอนอะไรอ่ะ...ไปทำงานนะไม่ได้หนีไปที่อื่น”ผมบอก
            “แล้วมึงควรจะโทรบอกกูก่อนไหม!!!!! สัส!!!!! ให้นั่งรออยู่ได้ตั้งนาน...ถ้าไม่เจอไอ้โรล ก็ต้องนั่งรอคนเดียวเลยดิ”มันบ่นยาว ผมวางหนังสือที่เบาะหลัง...เปิดแอร์ให้พี่เค้าใจเย็น ๆ
            “แล้วฟ้ากับต้นไปไหน คิดว่าลงมาด้วยกัน”
            “มันก็กลับแล้วดิ มึงบอกจะมารับอ่ะ!!!!! แทนที่จะมาตรงเวลา...ให้นั่งรออยู่ได้!!!!”ทำหน้าเคือง ๆ ผมลูบหัวมันเบา ๆ
            “ครับ ๆ ขอโทษครับ ขอโทษนะ...ทำไมหงุดหงิดง่ายจังอ่า”ผมหัวเราะ มันหน้าแดง...หันหน้าออกมองกระจก
            “มานั่งรอร้อน ๆ อย่างกูบ้างไหมละ”ยิ่งจ้องมันเหมือนจะยิ่งเขิน ยิ่งเขินมันก็ยิ่งจะเหวี่ยงมากขึ้น หึหึหึ ผมออกรถ...พามาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ ๆ โรงพยาบาล คนที่บอกว่ากินข้าวแล้วก็ยังซัดอาหารไปอีกหลายอย่าง ธารโทรมาหา...บอกว่าอยากจะนัดกันไปเที่ยว ไปกันทั้งหมด ผมยังไม่รับปากเพราะว่าติดไอ้เตี้ย...มันยังต้องทำรายงาน และพรีเซ้นท์งานอะไรของมันก็ยังไม่เสร็จสักอย่าง ขืนปล่อยให้เที่ยวและหยุดเรียนบ่อย ๆ พ่อมันได้ตามมาด่าผมแน่
            “ม๊าโทรมาเหรอ?”ไอ้เตี้ยถาม
            “เออ เที่ยวทะเล”
            “เย้!!!!!”
            “แต่กูยังไม่รับปากนะ”ผมรีบบอก คีบลูกชิ้นเข้าปากมัน...ไอ้เตี้ยนี่ก็งับดีเหลือเกิน
            “อ้าวทำไมอ่า?”
            “การบ้านมึงเสร็จสักอย่างมั่งรึยัง!!!! ไหนจะรายงานอะไรอีก...หยุดบ่อย เรียนไม่ทัน...ได้ลงเรียนใหม่อีกนะมึง แล้วงี้เมื่อไหร่จะจบสักที”
            “เออน่า...กูจบแน่ ๆ 4 ปี มึงจะบ่นทำไม!!!”
            “กูเป็นห่วงครับเตี้ย มึงคิดดู...กว่ามึงจะเรียนจบ กูนี่อายุเท่าไหร่แล้ว!!!”ผมบอก คีบลูกชิ้นเข้าปากมันอีก
            “ตอนนี้มึงก็แก่เหอะ กว่ากูจะเรียนจบมึงก็จะแก่ไปอีก”มันพูดทำหน้าสะใจ
            “เหอ ๆ ครับ ๆ ไอ้เด็ก...มึงมันเด็กมาก เด็กตลอด...”แกล้งกัดฟันพูด มันทำหน้ายิ้ม ๆ
            “กูน่ารัก...”
            “หึหึหึ เรื่องชมตัวเองขอให้บอกเลยนะ”
            “หรือไม่น่ารัก...”มันทำหน้าเหวี่ยงโหด ๆ ผมหัวเราะ
            “ครับ ๆ น่ารักสุด ๆ น่ารักไม่มีใครเหมือน...”กัดฟันพูด ไอ้เตี้ยตัวแทบลอยติดเพดาน แฟนใครว่ะ...โคตรน่าจับมาตีก้น       
            “อิ่มแล้ว”
            “อิ่มจริงอ่ะ ยังเหลือหมูเลยนะ”มันส่ายหน้า
            “กินไม่ไหวแล้ว ไปเถอะติณฑ์กูอยากไปดูน้องตัวเล็กแล้ว”มันอ้อนจับแขนผม
            “ป่ะ ๆ จ่ายเงิน...”
            ซื้อขนมมาหลายถุง....ออกจากลิฟท์โรงพยาบาลขึ้นชั้น 11 ห้องลูกชิ้นอยู่เกือบสุดริมทางเดิน เราต้องเดินผ่านห้องเด็กเล็กก่อน ผมไม่ทันได้ระวังตัว พอ ๆ กับไอ้เตี้ยมันกำลังกดโทรศัพท์ดูอะไรสักอย่าง เสี้ยววินาที...ไอ้เตี้ยร้อง “โอ๊ย...”ผมหันกลับเข้าไปดู มีดคมก็เสียบเข้าที่หน้าท้องแล้ว
            “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”นางพยาบาลกรีดร้องลั่น ไอ้เตี้ย...ขว้างของทิ้ง ตอนที่ผมล้มลง...เจ็บตัวแบบไม่ทันตั้งแต่
            “ไอ้เหี้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”มันเตะผู้ชายคนนั้น...ล้มลง ทั้งสองคนต่อสู้กัน...จนกระทั่งมีคนมากมายเริ่มเข้ามามุงดูเยอะขึ้น ไอ้เหี้ยคนนั้น...มันวิ่งหนีลงไปทางบันไดหนีไฟ
            “อย่าตาม!!!!!!”ผมร้องเอามือกุมแผลไว้ ดึงขาไอ้เตี้ยไว้ด้วย
            “ฮึก...ไอ้เหี้ย ไอ้สัส...ฮือออ”ไอ้เตี้ยร้องมาจับตัวผม นางพยาบาลสามคนวิ่งเข้ามาหา แล้วอีกหลายคนวิ่งไปโทรศัพท์
            “มึงเห็นหน้ามันรึเปล่า”ผมถาม ไอ้เตี้ยพยักหน้า
            “ไอ้สิน ไอ้เหี้ยสิน!!!!!! ฮือออ ละ เลือด เลือดดดดดด...”มันกรีดร้อง ผมเอามือกุมแผล
            “เอารถเข็นมาที...”นางพยาบาลร้องเรียก แล้วทั้งชั้นก็โกลาหลไปหมด
            “ฮึก...ติณฑ์...ติณฑ์”ไอ้เตี้ยร้องไห้ไปตลอดทาง เหงื่อผมเริ่มไหลเยอะขึ้น...และเยอะขึ้น ก่อนที่ดวงตาจะพร่าลง

////////////////////////////////////////////////////////////////////////



ตื่นมาอีกที ก็มีคนอยู่ในห้องพยาบาลหลายคนแล้ว พ่อกับแม่ผมก็ด้วย ผมค่อย ๆ กวาดสายตามองคนที่นั่งบ้าง นอนบ้าง อ่าหนังสือ เล่นคอมอยู่ในห้องบ้าง เสียงคนกำลังคุยโทรศัพท์ พอจับใจความได้หน่อย ๆ คงเป็นน้ำตาล
            “ส่งข้อมูลมาในเมล์ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะได้เช็คดูโดยละเอียด”
            ทันทีที่ผมเริ่มขยับตัว ก็รู้สึกปวดแผลจนรู้สึกได้...แม่เงยหน้าจากหนังสือที่อ่านแล้วสบตากันเราสองคน ก่อนที่จะเดินลุกขึ้นมาลูบหน้าผมแผ่วเบา
            “เป็นอย่างไงบ้างติณฑ์ เจ็บแผลไหมลูก”แม่ถาม สีหน้าเป็นห่วง ผมยิ้มจางๆ จะให้ยกมือไปจับมือแม่ยังไม่มีแรงพอ
            “ฮะ”แค่พูดนิดเดียวก็เจ็บที่แผล
            “ตื่นแล้วเหรอ”พ่อเป็นอีกคนที่พูดเสียงดังขึ้น คราวนี้ทุกคนในห้อง...ต่างก็วางสิ่งของที่ตัวเองกำลังทำแล้วหันมาสนใจผมกันหมด
            พ่อแม่ผมยืนอยู่อีกด้าน อีกด้านพ่อแม่ไอ้เตี้ย ฟ้า คิ้ว ชัด แม่ชัด เกือบปลายเตียงมีน้ำตาล ผมสำรวจทุกคนทีละคน...ทุกสายตามองมาอย่างเป็นห่วง ผมรู้สึกซาบซึ้งแต่ว่าคนที่ผมอยากเจอที่สุด และคิดว่าควรจะมีมันยืนอยู่ตรงนี้...มันหายไปไหน?
            “หมอบอกว่าไม่เป็นไรแล้วนะติณฑ์ แผลไม่โดนที่สำคัญ...อีกไม่กี่วันก็หายแล้ว”แม่จับมือผมไว้
            “แล้ว.....”เหมือนพ่อจะรู้ว่าผมถามอะไร
            “โตแล้วยังไปมีเรื่องกะไอ้พวกโจรกระจอกอยู่เหรอ เราน่ะ...จะเป็นผู้บริหารอยู่แล้วนะ ทำให้พ่อแม่เป็นห่วงหนักหนาว่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตเลย”พ่อบ่น ผมยกมือพนมไหว้
            “พ่อฮะ ผมขอโทษ”
            “คุณพ่ออย่าบ่นพี่ติณฑ์นักเลย รอดมาได้ก็น่าจะดีใจแล้วไม่ใช่เหรอคะ”น้ำตาลพูดดีสมเป็นน้องพี่
            “เฮีย เจ็บแผลไหม...”ไอ้ชัดร้องถาม ผมพยักหน้า...รู้สึกปวด ๆ อยู่เหมือนกัน
            “เดี๋ยวให้คุณตำรวจมาสอบปากคำเลยนะ แกก็บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันเข้ามาแทงได้ยังไง”พ่อบอก
            “ฮะ...”
            “โถพ่อ...คงเจ็บแย่”แม่ไอ้เตี้ยจับมือผมไว้ น้ำตาคลอ ๆ
            “แล้วคนร้าย?”ผมพูดได้สั้น ๆ เพราะเจ็บแผล ทุกครั้งที่เกร็งหน้าท้องก็จะเกิดอาการเสียวแปลบที่แผลทันที
            “ไอ้สินไง จำได้ไหมเฮีย”ไอ้ชัดพูดเสียงเครียด
            สิน? สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วมีไม่กี่คนที่มีชื่อนี้ผ่านเข้ามาในชีวิต ไอ้สิน...คนเดียวกับที่ข่มขื่นลูกชิ้น คนเดียวกับที่มันจ่ายเงินเพื่อจะทานข้าวกับไอ้เตี้ย คนเดียวกับที่จะหลอกฟันเมียกู!!!!!!!
            “ไอ้สิน!!! โอ๊ะ...โอ๊ยยย!!!!”ผมร้องออกมาอย่างลืมตัว ทุกคนเข้ามาจับใหญ่เลย
            “ขยับตัวช้า ๆ สิลูก เดี๋ยวแผลฉีก”แม่ไอ้เตี้ยบ่น พอ ๆ กับแม่ผม
            “ช้า ๆ”พ่อไอ้เตี้ยร้องบอก ผมปล่อยตัวเองนอนลงอีกครั้ง
            “ถึงว่ามันหน้าคุ้น ๆ”ผมบอก
            “แกไม่ต้องห่วงมันแล้ว ตอนนี้มันเข้าคุกไปเรียบร้อย...ติดคุกอีกนาน และคงตลอดชีวิตเพราะไอ้แวนมันบอกว่ามีหลักฐานเรื่องที่มันค้ายา แล้วตาชัดก็ไปแจ้งความข่มขื่นน้องสาวแล้วด้วย”พ่อผมพูดยาว จริงสิ...ไม่เห็นไอ้แวน ไอ้กล้า ไอ้พุท เพื่อนยากของผมเลย พวกมันไปไหนกันหมด
            “ลูกชิ้นว่ายังไงบ้าง”ผมร้องถามชัด น้องยังเด็ก...และคงสะเทือนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อย ไอ้ชัดเม้มปาก
            “โอเคพี่...นี่แม่ผมก็เฝ้าไว้อยู่”มันยิ้มเล็ก ๆ ผมพยักหน้า
            “ดี มันจะได้จบ ๆ ไปซะที”ผมพูดอย่างเหนื่อยล้า
            “น้ำตาลไปตามหมอเข้ามาดูพี่หน่อยดีกว่า...หน้าเริ่มซีด ๆ แล้ว”แม่บอก น้ำตาลรีบเดินออกไป ผมยังไม่ทันบอกเลยว่าไม่ต้อง ผมไม่ได้เป็นอะไร...
            “แม่....”ผมเอ่ยเสียงแหบแห้ง
            “เมียผมละ?”ผมโพล่งออกไป ทุกคนทำหน้าเฉย ๆ นิ่ง ๆ ราวกับจะค้นหาคำตอบอยู่ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่มันเกี่ยงงอนไม่ยอมตอบของแต่ละคน ผมเริ่มสงสัย...และจับพิรุธ ไอ้เตี้ยมันไปไหน? ไม่มีห่างที่มันจะห่างตัวผม ยิ่งรู้ว่าผมเจ็บแบบนี้มันไม่มีทางจะออกห่างจากตัวผมแน่นอน เกิดอะไรขึ้นกับมัน??? นึกย้อนไปก่อนที่สติผมจะดับวูบเพราะมีดคมกรีดแทงที่หน้าท้องด้านซ้าย ผมจับมือไอ้เตี้ยไว้...จับได้ว่ากำแน่น และตะโกนห้ามมันไม่ให้ตาม....หรือว่าเกิดอะไรไม่ดีกับมัน??? สมองเริ่มคิดฟุ้งซ่าน ผมดีดตัวจากที่นอน...แม้จะเจ็บแผลมากก็ตามที
            “ไอ้เตี้ยละครับ!?!?!??!”เสียงร้องโวยวาย ผมนิ่วหน้า...เจ็บแผลมาก แต่จะไปหามันให้ได้
            “ติณฑ์ใจเย็น ๆ น้องปลอดภัยดี”พ่อไอ้เตี้ยร้องห้าม กดให้ผมนอนลงอย่างเดิม
            “แล้วมันไปไหนครับ???”
            “ลงไปซื้อของข้างล่างจ่ะ...ไปกับน้องเจ”แม่ผมพูดบอก รู้สึกแปลกที่ผมคลายความกังวลลงมาก ยอมนอน...ลงที่เดิม ผัวนอนซมขนาดนี้ มันยังคิดลงไปซื้อขนมกินน่ะคิดดู!!!! กลับขึ้นมาจะเล่นให้หนัก!!!!
            “แม่ปล่อยให้ลงไปได้ยังไงสองคนครับ!!!”ผมทำเสียงหงุดหงิด
            “สองคนที่ไหน เอ๊...ตาติณฑ์นี่ พุทก็ไป กล้าก็ไป เรานี่มันขี้โวยวายเหมือนพ่อไม่มีผิด”แม่ส่ายหน้าอย่างระอา ผมถอนหายใจโล่งอก คิดว่ามันเป็นอะไร...นี่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมันจริง ๆ ผมต้องบ้าแน่!!!! อุตส่าห์ถนอมของของผมอย่างดี สักครู่นึงก็มีหมอเข้ามาตรวจ ทุกคนจึงถอยหน้าออกไป...ผมนอนนิ่ง ๆ ให้ตรวจแต่โดยดี หมอบอกว่าแทงไม่เข้าจุดสำคัญ และยังโชคดีที่เกิดเหตุในรพ. จึงสามารถรักษาได้ทันท่วงที แต่บอกผมว่าระหว่างนี้อย่างขยับแรง...เพราะแผลยังเย็บไม่สนิทดี ต้องรออีกสักสองสามวัน
            “เดี๋ยวน้องจ่ายค่ารักษาพ่อติณฑ์ให้นะคะ”แม่ไอ้เตี้ยคุยกับแม่ผม เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้เข้าขากันดีเป็นอย่างมาก
            “ไม่เป็นไรค่ะ เล็กน้อย”แม่พูด แล้วสาว ๆ ก็คุยกับเรื่องผมกับไอ้เตี้ยได้ถูกคอ ฟ้าเดินมาข้าง ๆ เตียง
            “หายไว ๆ นะครับ”มันพูด ผมยิ้ม ไม่นานฟ้าก็พาพ่อกับแม่ไอ้เตี้ยกลับกาญฯ เพราะเห็นว่าผมไม่ได้เป็นอะไรมาก ที่มีอยู่ก็คือมีไข้เล็กน้อยเท่านั้น ไอ้ชัดกับไปหาน้องมัน คิ้วก็ขอตัวไปเรียน เหลือแต่พ่อแม่ผมและน้ำตาล
            “แม่เมื่อไหร่มันจะมา”ผมถามเอาแต่ใจ แม่ตวาดแบบผู้ดี
            “ติณฑ์เรียกน้องให้มันดี ๆ หน่อยสิ ต่อหน้าแม่เขาก็ต้องพูดดี ๆ เรียกน้อง...ว่ามันได้ยังไง”ผมยิ้มเจื่อน ๆ
            “มันติดครับ”
            “เดี๋ยวก็มา เอาคุณ...จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านกันเลยไหมละ”พ่อเรียกแม่
            “น้ำตาลอยากอาบน้ำแล้วค่ะพ่อ”น้ำตาลยืนที่ข้างเตียง จับมือผมไว้...แล้วหันไปพูดกับพ่อแม่
            “นี่กลับมากันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ แล้วรู้ได้ยังไงว่าผม...เป็นยังงี้”
            “จะใครซะอีกละ น้องนาวร้องไห้...เอาเบอร์พี่กดโทรหาพ่อน่ะสิ พ่อบอกว่าร้องไห้ใหญ่...พูดก็ไม่รู้เรื่อง”น้ำตาลพูดขำ ๆ ผมนึกสภาพเมียตัวเองออกเลย
            “คิดอยู่เลยว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ รีบพาแม่แกกลับมาเลย ให้แสตนด์อยู่ที่โน่นคนเดียว”พ่อบอกอีก
             “มาด่วนแบบไม่ได้เตรียมตัวนะคะพี่ติณฑ์ ขอที่ซื้อไว้ไม่ได้ยกมาด้วย...น้องจะโกรธรึเปล่า”น้ำตาลกระซิบถาม ผมหัวเราะ
            “ไม่มั้ง?”ทำเสียงล้อน้ำตาล น้องทำหน้ากระอักกระอ่วน...รู้กิตติศัพท์พี่สะใภ้ตัวเองดี (?)
            “ง่ะ...เดี๋ยวให้พี่แสตนด์ส่งทางเรือมาให้ น้องคงเข้าใจแหล่ะเนอะ”น้ำตาลยิ้ม แม่ก็หัวเราะ
            “ไป ๆ จะกลับบ้านก็รีบกลับ แล้วเดี๋ยวมาใหม่...ติณฑ์อยู่ได้นะลูก”แม่บอก ผมยิ้ม
            “ครับ เดี๋ยวมะนาวก็ขึ้นมาแล้ว...ผมอยู่ได้ ไปพักผ่อนกันเถอะครับ”ผมบอก แม่กับพ่อเดินมาจุ๊บแก้ม
            “หายไว ๆ”ผมยิ้มอบอุ่นในความรักที่ท่านทั้งสองมีให้ น้ำตาลก็เดินมาจุ๊บแก้มด้วยอีกคน
            “อื้อออ....รักนะคะพี่ติณฑ์ หายไว ๆ”น้องสาวสุดสวยอวยพร
            “อือ....บ้านรกหน่อยนะ เข้าไปก็อย่าตกใจละ”ผมบอกไว้ก่อน คือสภาพก่อนหน้านี้มันเป็นบ้านแบบสะอาดเอี่ยมเหมือนไม่ค่อยมีคนอยู่ ป้าสาแกก็ขยันทำความสะอาดทุกวัน พอมีไอ้เตี้ยมาอยู่ด้วย...จะให้เก็บทุกวันคงไม่ไหว เพราะของเล่นมันเอย โมเดลเอยใครจะแตะได้ที่ไหน...หายไปชิ้นนึง มันจมูกไวอีก...โกรธและงอนอาละวาดแน่ ๆ
            “คริคริคริ...ป่ะค่ะแม่”น้ำตาลเรียกแม่ จูงมือพอออกไป...ห้องพักฟื้นจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
           
            เสียงกลุ่มคนเดินเข้ามาในห้อง ไอ้ผมก็รีบหลับตาลง...ได้ยินเสียงชัด ๆ เปิดประตูห้องผมเข้ามา
            “ร้อน ๆ โอ๊ยยย...แอร์เย็นฉ่ำ”เสียงเมียกู!!!!!!!! แค่ได้ยินเสียงมันแช่มชื่นก็รู้สึกหายห่วงมาก ๆ
            “เจเอาโรตีไปแช่เย็นนะฮะพี่พุท อยากกินเย็น ๆ”เจร้องบอก ได้ยินเสียงกุกกักในห้อง
            “เอาไอติมแช่ด้วยน้องเจ”คราวนี้เสียงไอ้กล้า ระหว่างที่กำลังนอนฟังเสียงคนเคลื่อนไหว...มืออุ่น ๆ มาแตะที่หว่างคิ้วผม
            “คิ้วขมวดจัง...สงสัยฝันร้าย”ไอ้เตี้ยพูดเสียงเบา
            “พี่ไปดูหนังในห้องเล็กนะ น้องนาว”ไอ้พุทเรียก
            “อือ เค้าเฝ้ามันเอง”ไอ้เตี้ยร้องบอก พอในห้องกลับมาเงียบ ผมค่อยลืมตาขึ้นมาสำรวจห้อง...ไอ้เตี้ยมัวแต่วุ่นวายจัดของกินบนโต๊ะ




ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2

/////////////////////////////////////////////////////////


เสียงกลุ่มคนเดินเข้ามาในห้อง ไอ้ผมก็รีบหลับตาลง...ได้ยินเสียงชัด ๆ เปิดประตูห้องผมเข้ามา
            “ร้อน ๆ โอ๊ยยย...แอร์เย็นฉ่ำ”เสียงเมียกู!!!!!!!! แค่ได้ยินเสียงมันแช่มชื่นก็รู้สึกหายห่วงมาก ๆ
            “เจเอาโรตีไปแช่เย็นนะฮะพี่พุท อยากกินเย็น ๆ”เจร้องบอก ได้ยินเสียงกุกกักในห้อง
            “เอาไอติมแช่ด้วยน้องเจ”คราวนี้เสียงไอ้กล้า ระหว่างที่กำลังนอนฟังเสียงคนเคลื่อนไหว...มืออุ่น ๆ มาแตะที่หว่างคิ้วผม
            “คิ้วขมวดจัง...สงสัยฝันร้าย”ไอ้เตี้ยพูดเสียงเบา
            “พี่ไปดูหนังในห้องเล็กนะ น้องนาว”ไอ้พุทเรียก
            “อือ เค้าเฝ้ามันเอง”ไอ้เตี้ยร้องบอก พอในห้องกลับมาเงียบ ผมค่อยลืมตาขึ้นมาสำรวจห้อง...ไอ้เตี้ยมัวแต่วุ่นวายจัดของกินบนโต๊ะ
            “จุ๊บ...”ไอ้เตี้ยเดินมาจุ๊บปากผม ตัวเองโคตรสั่นอ่ะ
            “เมื่อไหร่จะตื่นเนี่ย! หมอบอกว่าไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นแล้วนี่นา....”เสียงเงียบไป มันกำลังกดโทรศัพท์หาใครสักคน
            “แม่ฮะ ทำไมติณฑ์ยังไม่ตื่นละ เหรอฮะ...สงสัยจะหลับไปอีก ไม่เป็นไรฮะ...ไม่ต้องมาหรอกฮะ อยู่ได้...ครับ ๆ”มันพูดสุภาพขนาดนี้ สงสัยโทรหาแม่ผมรึเปล่า...อันนี้ไม่แน่ใจ
            “มึงมันควาย...ตัวอย่างกับควาย ยังเสียทีให้ไอ้สิน!!! จุ๊บ!!!!”หัวใจพองโต...เพราะเสียงเง้างอดของไอ้เตี้ย! ได้ยินเมียเป็นห่วงแบบนี้ก็ชื่นใจ
            “...........ติณฑ์..........”มันสะกิด ผมแกล้งทำเป็นนอนนิ่ง
            “ตื่นมาซะที...”มันพูดเสียงเบา บีบมือผมไว้แน่น
            “ไม่ได้ยินเสียงมึงแบบนี้ ไม่ชอบเลย”ไอ้เด็กแสบก้มหน้าร้องไห้บนเตียง ผมรู้เพราะได้ยินเสียงสะอื้น...เลยลืมตาขึ้นมาเพราะทนไม่ได้ มันเป็นห่วงผม...ผมรับรู้และรู้สึกได้ในอารมณ์ตรงนี้ ผมเองก็เป็นห่วงมันไม่น้อย ไม่อยากนึกย้อนกลับไป แต่ก็อดไม่ได้...ถ้ากลับกัน เป็นมันที่โดนแทง...ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ป่านนี้...คงต้องติดคุกในข้อหาฆ่าคนตายแน่ ๆ
            “เตี้ย”เรียกเสียงเบา คนตัวเล็กหยุดนิ่ง...แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา ผมมองดูทุกส่วน...พิจารณาร่างกายมัน เพื่อให้เห็นว่ามันปลอดภัยดี มันปลอดภัย...ผมจ้องหน้ามัน และมันก็จ้องหน้าผม
            “ร้องไห้ทำไม?”ผมถามเสียงเบา อยากยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้
            “ตื่นแล้วเหรอ?”มันไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับมาย้อนถามผม...เสียงสั่น ผมพยักหน้าแล้วเราก็มองหน้ากันอย่างกับจากกันไปซะสี่ห้าชาติก็ไม่ปาน ไอ้เตี้ยยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา...แต่มือข้างซ้ายพันผ้าพันแผลเอาไว้ ผมรีบถามเสียงรัว
            “มือไปโดนอะไร!!!!!”น้ำเสียงกร้าวขึ้นอัตโนมัติ ไอ้เตี้ยสะดุ้งตกใจ เม้มปากแน่น!!!!
            “อ่อ....ก็แค่สั่งสอนไอ้เหี้ยนั่น!!!”มันพูดไม่แยแส
            “เหี้ยไหน? ไอ้สิน? มึงตามมันไป?”มันเงียบ...ขณะที่ผมจ้องหน้าเอาเรื่อง กล้า พุท และน้องเจเหมือนจะได้ยินเสียงเราสองคน จึงเดินเข้ามา
            “เกิดอะไรขึ้นกับมึง!!!! ไอ้กล้าทำไมมือไอ้เตี้ยเป็นยังงี้!!!!”ผมตวาดไอ้เพื่อนรัก มันต้องรู้แน่ ๆ น้องเจเดินมากอดไอ้เตี้ยไว้
            “ไม่มีอะไรหรอกน่า...นาวมันแค่วิ่งไปจัดการไอ้สิน ไม่งั้นยามจะจับมันทันเหรอว่ะ!”ผมหรี่ตามองทุกคน
            “มึงวิ่งลงไปจริง ๆ ด้วย กูบอกว่าไม่ให้ลงไปไง!!!! ถ้ามันทำอะไรมึงจะทำยังไง!!!!”เริ่มหัวเสียละ ไอ้เตี้ยมันกัดฟัน...กลั้นน้ำตา และไม่ยอมมองหน้าผมเลย คาดว่าคงโกรธไปแล้ว!!!!!
            “เอาน่า...น้องมันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”ไอ้พุทพูด ผมนี่โคตรโมโห
            “ตอนนี้ไม่เป็นแล้วถ้ามันเกิดเป็นละว่ะ!!!!!”
            “มึงใจเย็นหน่อยได้ไหม”ไอ้พุทพูดเสียงนิ่ง ผมจ้องหน้าไอ้เตี้ย
            “สัสเอ้ย!!!!!”
            “น้องมันไม่ได้เป็นอะไร มึงจะโวยวายทำไมว่ะ...ไอ้แวนก็จับไอ้สินไปแล้ว มันไม่มีทางออกมาจากคุกได้อีกแล้ว มึงควรจะพอใจ”ผมได้ยินเสียงหอบหายใจหนัก ๆ ของตัวเอง ไอ้เตี้ยเลื่อนมือมาจับมือผม...ทำให้ต้องหันไปมองหน้ามัน
            “ขอโทษ...ฮึกๆ ขอโทษ...ฮืออออออ ขอโทษ”หัวใจกระตุกวาบ ตัวมันสั่น...และพูดพร่ำออกมาไม่ขาดปาก
            “ตอนเห็นมึงล้ม กูก็ไม่คิดอะไร....ตามไปเพราะมันทำมึงเจ็บ”มันพูดไปสะอื้นไป แล้วก้มลงซบไหล่ผม
            “มึงไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลยหรือไง!!!”ทำเสียงแข็งไปงั้น กูใจอ่อนหมดละ...ใครอยากมาสอนให้มันอ้อนแบบนี้ ถ้ารู้ว่าเจ็บตัวแล้วมันจะทำให้ไอ้เตี้ย...น่ารักมากขึ้นอย่างประหลาดอย่างนี้ ยอมโดนตั้งแต่ต้นเรื่องละ (ฮา)
            “ก็กูห่วงมึง...”เหมือนมีเสียงแอคโค่ในหัว กูห่วงมึง...กูห่วงมึง....กูห่วงมึง
            “สัส จะยิ้มก็ยิ้ม...”ไอ้กล้าแซว ผมขยิบตา...
            “พี่ติณฑ์แกล้งพี่นาวเหรอ!”น้องเจขัดขา ไอ้เตี้ยผุดลุกขึ้นจ้องหน้าผม...งอน ๆ
             “ไม่ได้แกล้ง ห่วงมึงจริง ๆ”
             “ติณฑ์อ่ะ...”มันกอดผมอ้อน ๆ กลิ่นยาสระผมของมันที่ผมโคตรจะคุ้นเคย แตะเข้าที่จมูก
            “เตี้ยอย่ากดแรง โดนแผล”ผมบอก มันตกใจผละหนี
            “อ๊ะ...โดนเหรอ”หน้าเสียไปแล้ว ผมพยักหน้าเล็กน้อย
            “ดูแลกันไปแล้วกันนะ กูไปนอนก่อนว่ะ...มีอะไรเรียกนะอยู่ห้องข้าง ๆ”ไอ้คุณพุทพูด ผมเพิ่งสังเกตว่าสีหน้ามันก็ดูเหนื่อยล้าไม่แพ้ใคร
            “เจไปด้วย”น้องเจวิ่งไปกอดแขน แล้วไอ้พุทก็เดินตามออกไป ห้องมันเชื่อมกันนี่เอง...
            “หิวน้ำ”ผมบอก ไอ้เตี้ยวิ่งไปรินให้อย่างรวดเร็ว
            “ติณฑ์เจ็บไหม?”มันถามเสียงอ่อน ผมจับมือมันเบา ๆ
            “เจ็บ...แต่เดี๋ยวก็หาย”
            “หายไว ๆ นะ...กูเหงา”คำพูดนั้นของมันทำให้ผมรู้สึกมีแรงขึ้น อยากหายมันซะวันนี้พรุ่งนี้ซะด้วยซ้ำ
            “ไม่ดีเหรอ ไม่มีกูคอยบ่น”
             “ไม่ดี!!! กูจะไม่ดื้อไม่ซนแล้วนะ...มึงต้องหายเร็ว ๆ นะ”มันอ้อน
            “ครับ...อยากให้กูหายมึงต้องดูแลกูนะครับ”
            “อือ...”เราสองคนยิ้มให้กัน จู่ ๆ ผมก็นิ่งไปอีกที....มองหน้าไอ้เตี้ย
            “เตี้ย...”
            “หืม?”
            “ที่แขนมึงมีเลือดซึม...ออกมา”พูดเสียงนิ่ง ส่วนมันก็นั่งตัวแข็งทื่อไปแล้ว
            “ติณฑ์...”มันจิกแขนผมไว้แน่น
            “ไปเรียกไอ้กล้าให้มันพาออกไปทำแผล”
            “ติณฑ์~”
            “ออกไปทำแผล!!! สัส!!!! ก่อนที่กูจะโมโห”มันยอมเดินออกไปเงียบ ๆ จนได้...ไอ้เหี้ย!!!! กูว่าละ...มันมีมีด แล้วไอ้เตี้ยนี่ก็คงเก่งมากเนอะ วิ่งลงไปจับโจรมือเปล่า!!!! มันน่าโมโหตรงไม่มีใครบอกกูสักคำ นี่ถ้ากูไม่เห็น...ไอ้เตี้ยมันก็คงไม่ปริปากพูดด้วยซ้ำ!!!! สัส...ไอ้จั๊ดง่าว!!!! ตอนนี้รู้สึกอยากฆ่าไอ้สินมาก สัส...เมียกู กูปกป้องมันมาอย่างดี ไอ้เตี้ยแมร่งก็โคตรไม่ระวังตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดโว้ย!!!!!!!
            หายออกไปทำแผลสักพักมันก็เดินหน้าจ๋อยเข้ามา ไอ้พุทเดินมาหัวเราะผมปลายเตียง
            “อยู่ดี ๆ อย่าตะคอกมันอีกละ”ไอ้พุทเดินหายเข้าไปในอีกห้อง ไอ้เตี้ยก็เดินมานั่งข้าง ๆ เตียง ทำหน้ายู่
            “ไม่เจ็บหรอก....”มันพูด ไม่เจ็บแต่มันใช่เรื่องที่สมควรโดนไหม
            “นวดขาดิ๊...”ผมสั่ง ไอ้เตี้ยมองหน้า ก่อนจะยื่นมือบีบ ๆ ไม่คิดว่ามันจะทำจริง เฮ้ย...ใช้ง่ายวุ้ย
            “ปวดเหรอ หมอบอกพรุ่งนี้ถ้าแผลไม่ติดเชื้อก็กลับบ้านได้”เสียงเจื้อยแจ้วของมันทำให้ผมยิ้ม หึหึหึ...ยังไม่อยากหายซะละ
            “กลับไปใครจะดูแลกู แผลนี่ยังเจ็บอยู่”ไอ้เตี้ยทำหน้าคิด ๆ ตาแป๋วใสของมันกำลังจ้องผม
            “กูไง”                 
            “เหอะ!!!! ยังไม่อยากได้แผลเพิ่มนะครับ...ที่รัก”
            “โธ่ กูก็ทำได้มั่งเหอะ แค่ล้าง ๆ เช็ด ๆ แผล...หรือมึงอยากจะให้นางพยาบาลหน้าห้องมาทำให้ งั้นมึงก็จ้างกลับไปดูแลที่บ้านซะเลยสิ”มันพูดใส่อารมณ์ เง้อ...เมื่อกี้กูยังเป็นต่ออยู่ ไงเกมส์พลิกเร็วขนาดนี้
            “ก็ดี เดี๋ยวไปบอกเลย...จ้างสักสองคน ทำแผลคน...ป้อนข้าวป้อนยาอีกคน ดีไหม?”
            “เออ!!!!”มันกระแทกเสียง กำมือจะทุบผมเกร็งตัว...โดยอัตโนมัติ แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ
            “โอ๊ย...”กระแทกตัวลงนอนอย่างเดิม ไอ้เตี้ยหน้าเสียไปแล้ว
            “ติณฑ์!!!!!”มันตกใจมาก ถอยกรูดออกไป ผมจับแผล...นอนเฉย ๆ ให้มันอยู่ตัว ก่อนจะเรียกมันเดินมาหา มีรึจะมา...ไอ้เตี้ยส่ายหน้ายิก ๆ
            “มา”
            “ไม่เอา มึงเจ็บ”
            “ไม่เจ็บแล้วเมื่อกี้ลืมตัว”ผมปลอบ
            “ไม่มา...งั้นกูจะลุกไปหานะ”ผมบอก พยายามจะลุกขึ้นเอง...ทั้งที่เจ็บมาก เสียด ๆ ที่แผล ไอ้เตี้ยถลามาจับบ่าแล้วกดผมนอนลง
            “มึงชอบแกล้ง”มันทำหน้าเชิด ๆ
            “แกล้งเฉย ๆ เองครับ มึงก็รู้ว่ากูไม่มีทางให้คนอื่นมาดูแลหรอก...”
            “ก็มึงพูดประชดทำไมละ!”
            “ครับ ๆ กูแกล้งเล่นนิดเดียวเอง ว่าแต่...พูดจริงเหรอว่ะ ว่าอยากพยาบาลกู”ผมถาม มันพยักหน้าจริงจัง
            “มึงรู้เหรอไงว่าจะล้างแผลยังไง”ผมถามก่อน
            “ดูจากนางพยาบาลไว้แล้ว เดี๋ยวกูถ่ายคลิปแล้วกลับไปทำที่บ้านก็ได้”เฮ้ย...เมียกูจริงจังโว้ย!!!!
            “ตามใจ แต่ดูแลกูนะ...ไม่ใช้มาเพิ่มแผลให้กูอีก”
            “เออน่า!!!!!”กูเริ่มไม่ค่อยไว้ใจเพราะคำสุดท้ายของมันนี่แหล่ะ
            เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นผมบอกให้ไปเรียกไอ้พุทหรือไอ้กล้ามาให้ ผมต้องการเข้าห้องน้ำ...มันคนเดียวประคองผมไม่ได้แน่ ทีแรกก็หน้างอ...อยากทำเอง แต่สุดท้าย...ก็ยอมเดินไปเรียก ทุกคนเดินมาในห้องหมดเลย เพราะต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวกับผมยังไง และผมก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน...ไม่เคยเป็นคนไข้นี่หว่า!!!! ไอ้พุทประคอง ไอ้กล้าจับสายน้ำเกลือ อีกข้างที่แตะแขนอยู่ก็ไอ้เตี้ย น้องเจยืนเปิดประตูห้องน้ำรอแล้ว...
            “อู๊ย...”ผมร้อง สะเทือนที่แผล...ไอ้พวกนี้หยุดเดินทันที แต่ผมเดินต่อไปจนถึงห้องน้ำ
            “หนักหรือเบา?”ไอ้พุทถาม
            “เบา.....แต่นาน~”ผมหัวเราะ แต่แรงไม่ได้...แผลกระเทือน
            “ไอ้เหี้ย...ป่วยยังปากดี เอ้า...เข้าไปช่วยมัน เสร็จแล้วเรียกละ”ไอ้กล้าแขวนถุงน้ำเกลือไว้ตรงที่แขวนในห้องน้ำ ไอ้เตี้ยเงอะ ๆ งะ ๆ ไม่รู้จะทำยังไง...ผมเอามือจับราวเหล็กไว้ พอให้ยืนได้ตรง
            “ถอดกางเกงให้หน่อย”ผมบอก
            “เอ่อ...ต้องถอดด้วยเหรอว่ะ?”มันเตี้ยถามหน้าอึ้ง ๆ
            “แล้วกูจะปัสสวะยังไงว่ะครับ!!!!! เร็ว ๆ ปวด!!!”แกล้งทำหน้าจริงจัง ไอ้เตี้ยแล่บลิ้น...บ่นพึมพำฟังไม่ออก แก้เชือกแล้วกางเกงสีเขียวก็หล่นลงพื้น จอร์จบวมน้ำแย่ละ...ไอ้เตี้ยถอยไปยืนหันหลังให้
            “อ้าว...เมียครับ!!! ไม่จับให้มันจะตรงไหมครับ!!?!?!”
            “มึงก็จับเองดิ มือไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย”ไอ้เด็กดื้อพูด เห็นแต่หูซึ่งแดงมาก ผมหัวเราะ
            “แล้วบอกจะดูแลกู แค่นี้ทำไม่ได้ละ? ฉี่รดขาล้างให้กูด้วยนะ”ผมแกล้งบอก
            “จึ้ก!!!!”มันจ้องหน้า รู้ว่า...พยายามไม่มองลงต่ำ ฮา...กลัวเห็นจอร์จ
            “เร็ว ๆ ครับเตี้ย...ฉี่รดขานี่เรื่องยาวเลยนะ”
            “มึงเรื่องมาก!!!”มันยืนหันหลังนะ แต่เอื้อมมือมาจับจอร์จให้...หึหึหึ ผมกดมือมันลงอีกนิด ได้ระดับพอดี...แล้วปัสสวะอย่างสบายใจ
            “ทำความสะอาดด้วย”ผมบอก ไอ้เตี้ยปล่อยมือแบบขยะแขยงแล้วหยิบทิชชู่ชุบน้ำมาเช็ด ก่อนจะเช็ดด้วยทิชชู่อีกที หน้าแดงแบบว่าแดงมาก ๆ ผมยืนขำมัน....ดีว่ะ ไม่สบายแล้วโคตรคุ้ม!!!!
            “ใส่กางเกงด้วยสิครับ นางพยาบาลอะไรว่ะ...ต้องให้บอกทุกขั้นตอนเลย”ผมแซว มันไม่ยอมตอบ...แต่ใส่กางเกงให้ผม แล้วเปิดประตูเรียกไอ้พวกที่อยู่หน้าประตูเข้ามาประคองไปที่เตียงเหมือนเดิม
            “ไปล้างมือด้วยครับ”ผมบอก มันมองหน้าคนอื่นเลิ่กลั่ก...ด้วยความอาย วิ่งกลับไปล้างมือ...ทุกคนหัวเราะ
            “พี่พุท...เจไปห้องลูกชิ้นนะ อยากไปดูน้อง”น้องเจขออนุญาตแฟน
            “เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง มะนาวจะไปไหมครับ”
            “ไปไหน?”ไอ้เตี้ยโผล่หน้าออกมาถาม
            “ไปเล่นกับน้องตัวเล็ก”พุทบอก มันหันมามองหน้าผม...ถ้าปกติคงไป แต่คราวนี้...
            “อยากไป...แต่ไว้รอติณฑ์หายก็ได้ จะได้ไปพร้อมกัน”ไอ้เตี้ยโคตรน่ารัก ผมยิ้มกว้าง
            “เบื่อคนมีคู่โว้ยยยยย!!!”ไอ้พุทแซวเสียงดัง เดินหายไปอีกห้อง
            “งั้นอยู่นี่นะ...พี่พาเจไปก่อน”ไอ้พุทบอก
            “อือ...”
            “เดี๋ยวถ่ายรูปมาฝากนะพี่นาว”เจยิ้ม เดินออกไปแล้ว ไอ้เตี้ยเดินมานั่งข้างเตียง
            “มึงหิวไหม?”มันถาม ผมส่ายหน้า
            “หิว...”
            “กูซื้อขนมมาเยอะเลย กินไหม...”
            “ต้องรอน้ำเกลือหมดขวดนี้ก่อนครับ”ผมเตือนมัน ไอ้เตี้ยทำหน้าเหมือนบรรลุ
            “อ่อลืมไป”
            “มึงหิวละสิ”
            “เปล่า”พูดเสียงโคตรอ่อย
            “หิวก็ไปกินครับ....”
            “แต่ว่ามึงนอนอยู่”
            “ไม่เป็นไร ไปกินเถอะ...”ผมบอก มันยิ้มกว้าง...วิ่งใส่ของกินที่ซื้อมา แล้วย้ายตัวเองไปนั่งโซฟาในห้อง ผมให้มันเปิดทีวีแก้เบื่อ แต่สุดท้ายต้องดูมวยปล้ำสุดโปรดของมัน เพลียจิตที่สุด!!!!
 
            นอนอยู่ไม่กี่วันผมก็กลับมาบ้านได้...น้ำตาลนี่ดีใจออกนอกหน้า เพราะอยากให้สนิทกับไอ้เตี้ย ผมให้มันเปิดดูแผลน้องประจำ น้ำตาลมันช่วยเช็ดล้างแผลไอ้เตี้ยให้ ผมไม่ได้มองตรง ๆ กลัวเห็นแล้วโมโหใส่ไอ้เตี้ยอีก มันบอกว่าแค่ถาก ๆ ไม่ได้โดนเฉือนจังๆ  ผิวขาวเมียกูเป็นรอยหมด ให้มันทาฮีรูดอยทุกวัน ผมขู่ว่า...ถ้าแผลเป็นไม่หาย กูจะไม่จูบแขนมันอีกเลย...ไอ้เตี้ยหน้างอ อยากให้จูบอ่าดิ
            “ขอที่พี่ซื้อให้พี่แสตนด์ให้คนหิ้วมาส่งแล้วนะ”น้ำตาลบอกกลางโต๊ะอาหารเช้า วันนี้พ่อกับแม่จะเข้าบริษัท...แต่จะไปส่งไอ้เตี้ยที่มหาลัยฯก่อน มันกลายเป็นลูกรักไปซะละ นี่ก็ให้คน...ไปตามเฝ้ามันด้วย กลัวเกิดอะไรขึ้นอย่างที่ผ่านมา
            “เย้ ๆ ๆ มีโมเดลรถไหม”
            “อือ มีตัวต่อบ้าน โรงแรม ปราสาท อะไรเยอะแยะ...ของเล่นเพียบ”น้ำตาลยิ้ม
            “แล้วของเจละ”ไอ้เตี้ยถามเผื่อน้อง
            “ก็มีรองเท้า เสื้อ หมวก กระเป๋า...แล้วก็พวกขนม”
            “ทำไมเจมีขนมละ???”มันท้วง พ่อแม่หัวเราะออกมาพร้อมกัน
            “ขนมแบ่ง ๆ กันจ้า...”น้ำตาลแก้ หึหึหึ...ยังไม่รู้ฤทธิ์อาละวาดของมันนะครับ
            “อ่อ แต่ต้องให้เค้าเป็นคนแบ่งนะ...เอาแบบยุติธรรมที่สุด”มันพูด
            “หึหึหึ ไม่น่าได้ยินคำนี้จากปากเลยเนอะ”ผมแซว มันมองค้อน ต่างคนต่างรีบทานข้าว...เพราะกลัวรถติด ผมอยู่บ้านคนเดียว น้ำตาลมันจะออกไปหาเพื่อน...สักเที่ยงคงกลับ
            ลากสังขารขึ้นมาบนห้อง เห็นไอแพดวางอยู่...ของไอ้เตี้ยมัน สงสัยลืมเอาไปเลยยืมเล่นหน่อย มีข้อความสไกป์มาเพียบ รีบกดรับ...ไม่ใช่ใครอื่น เจ้าหลานตัวน้อยจอมซน ผมรีบเปิดกล้องทันที
            “สวัสดีค่ะ อ้าว...เป็นยังไงบ้างคะ เห็นมะนาวบอกว่าพี่ติณฑ์เกิดอุบัติเหตุ”มิกกี้ร้องถามคำแรก ผมยิ้มโบกมือให้ทั้งมิกกี้และเลม่อนที่นั่งบนตัก
            “ดีขึ้นแล้วครับ แต่ยังเจ็บเสียด ๆ นิดหน่อย”
            “ได้พยาบาลดีสิคะเนี่ย สีหน้าดูขึ้นมากเลย...มะนาวถ่ายรูปตอนนอนรพ.มาให้ดู บุ้งยังตกใจเลยค่ะ...”
            “เหรอครับ”ผมยิ้ม
            “หายไว ๆ นะคะ”ผมยิ้มรับ
            “ติณฑ์มารับม่อนหน่อย!!!”เลม่อนพูดเสียงดัง จับไอแพดของตัวเองไม่ให้แม่ถือ มิกกี้เลยต้องปล่อยให้จับเอง เพิ่งสังเกตว่าเจ้าตัวเล็กแต่งตัวหล่อจัดเต็ม มีหมวกและกระเป๋าสะพายพร้อมมาก
            “สวัสดีครับเลม่อน”ผมยิ้ม โบกมือ
            “มารับม่อนหน่อย!!!!”เลม่อนพูดซ้ำ มิกกี้หัวเราะดัง...จนได้ยินเสียงทางลำโพง
            “จะไปไหนครับเนี่ย แต่งตัวหล่อเชียว”ผมร้องทัก
            “มารับม่อน...ม่อนอยากหานาว!”เลม่อนทำหน้าจริงจังสุด ๆ เวลาทำแล้วยิ่งเหมือนไอ้เตี้ย...คือมันน่าขำมากจริง ๆ
            “แกเก็บกระเป๋าทุกวันแล้วละค่ะ อยากไปหาอาแย่แล้ว...ไม่อยากอยู่กับหม่ามี๊แล้วใช่ไหมครับ”มิกกี้ถาม
            “ม่อนอยากไปหานาว...”ทำหน้ามุ่ยใส่แม่
            “ครับ ๆ เดี๋ยวได้ไปนะ”มิกกี้ยังต้องยอมแพ้
            “นาวอยู่ไหน?”เลม่อนถาม
            “ไปเรียนครับ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”ผมบอก
            “อยากหานาว...หานาว”เลม่อนเริ่มงอแง แม่ลูกเลยเถียงอะไรกันไม่รู้...เลม่อนทิ้งไอแพดตัวเองลง ก่อนมิกกี้จะเดินมาหยิบอีกที
            “เอกสารพร้อมแล้วนะคะ...คนทางโน้นพร้อมรึยัง”มิกกี้ถาม
            “พร้อมนานแล้วละครับ”ผมตอบพร้อมหัวเราะ
            “เดี๋ยวคุณลุงคุณป้ามิกกี้จะไปเมืองไทย คงจะฝากเลม่อนเดินทางไปด้วย...ยังไงพี่ติณฑ์ช่วยไปรับที่สนามบินได้ไหมคะ”
            “เอาสิ มาทำอะไรกันละ”ผมถาม
            “ไปดูงานค่ะ”
            “งั้นเราค่อยนัดเวลากันอีกทีก็ได้นะ ยังไงอย่าเพิ่งบอกไอ้เตี้ยนะครับ...ผมอยากเซอร์ไพรส์”
            “ค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”มิกกี้หัวเราะ เอกสารเสร็จละ...ข่าวดีสิเนี่ย!!!

            :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
ตอนที่ 70
            [ติณฑ์]
            ผมเปิดแผลดู...เนื้อสนิทติดกันดีแล้ว หลังจากที่ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด...มีน้ำตาลมาช่วยดูแลอาหารการกินให้ ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ไอ้เตี้ยก็พลอยกินเยอะกว่าเดิม...เพราะน้ำตาลช่วยไปร้านอาหารโน่นนี่ วันนี้นายฟ้าก็แวะเอาผลไม้มาให้หลายอย่าง และพวกนม ขนมปังที่น้องมันชอบ ไอ้เตี้ยถามหาของที่แสตนด์ที่จะส่งมาทุกวัน...จนผมเริ่มเบื่อความจริงของมาถึงแล้ว แต่ให้คนเอาไปซ่อนไว้ รอเลม่อนกับน้องเจมาค่อยเปิดพร้อมกัน ไม่งั้นไอ้เตี้ยมันถือวิสาสะ...เปิดทุกกล่องแน่ ๆ
            น้องเจไปอยู่ระยองกับไอ้พุทหลายวันแล้ว ไอ้เตี้ยเลยไม่มีเพื่อนเล่น พุทมันรอเทอมหน้าจบ...ทำเรื่องย้ายน้องเจไปเรียนต่อที่สวิสเซอร์แลนด์ เรื่องนี้มันยังไม่ได้บอกไอ้เตี้ย ไม่รู้ว่ามันจะว่ายังไงบ้าง แต่เจไปแค่ 2 ปีก็กลับมาแล้ว ส่วนเรื่องต่อโทไอ้พุทมันบอกให้เจตัดสินใจ ถุ้ย!!!! เดี๋ยวมันก็หาทางหลอกล่อจะให้อยู่โน่นจนได้น่ะสิ!!!!
            “ไงครับ วันนี้ไปไหนกันมา”ผมถาม ทันทีที่ไอ้เตี้ยและน้ำตาลวางถุงชอปปิ้งมากมายเกลื่อนพื้น และที่เด็กยกเข้ามาอีก ด้วยความอยากรู้เลยไปเปิดดู มีถุงเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวอะไรของเขาน่ะ
            “ไม่มีของฝากเหรอ?”ผมถาม ป้าสาเดินยกน้ำเข้ามาให้ ไอ้เตี้ยยกดื่มกระเจี๊ยบจนหมดแก้ว ท่าจะหิวจริงจังแฮะ
            “ไม่มี...อยากไม่ไปเอง”ไอ้เตี้ยทำหน้าโอ่ ๆ ผมละหมั่นเขี้ยวมันซะจริง
            “เอาอีกไหมคะ”ป้าสาถาม ยกแก้วน้ำจะไปเก็บ...ไอ้เตี้ยส่ายหน้า
            “หิวข้าวม๊ากมากกกกก..คร๊าบบบบ”มันอ้อนป้าสา ทุกคนหัวเราะ
            “คุณติณฑ์ทำรอแล้วค่ะ มีแต่ของชอบคุณทั้งนั้นเลยนะคะ...จะให้ป้าตั้งโต๊ะเลยไหม”ป้าสาถาม
            “ตั้งเลยฮะ!!!”ไอ้เตี้ยทำตาวาว
            “หึหึ งั้นขึ้นไปอาบน้ำเลย...แล้วค่อยลงมากิน”ผมบอก
            “ง่ะ...กินก่อนไม่ได้เหรอ”
            “ไม่ได้...เจอฝุ่นมาทั้งวัน ไป ๆ อาบน้ำ น้ำตาลก็ด้วยนะ...”
            “คุณพ่อคุณแม่จะกลับมาทานพร้อมกันไหมคะ?”น้ำตาลหันมาถาม ผมส่ายหน้า
             “คงจะไปนอนโรงแรมละมั้ง พรุ่งนี้ไปภูเก็ตอีก”ผมบอก วันนี้ผมก็เพิ่งเข้าไปที่บริษัทมา...โดนประชุมอยู่ครึ่งค่อนวัน สรุปว่างานหน้า...โปรเจ็คใหม่ จะเปิดตัวผมซึ่งเป็นประธานรุ่นสี่ อย่างเต็มตัว
            “พี่ต้องไปไหมคะ?”
             “ไม่ต้อง แค่ไปดูที่เฉย ๆ”น้ำตาลพยักหน้าเข้าใจ ถือถุงของตัวเองแล้วหันมาทางไอ้เตี้ย
            “พี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ เมื่อยตัวมาก...ขอแช่น้ำอุ่นสักครึ่งชั่วโมง”แล้วก็บ่นอะไรไม่รู้อีกสองสามคำ ไอ้เตี้ยไถลนอนโซฟายาวอย่างคนขี้เกียจ ผมตีก้นมันเบา ๆ
             “ไปอาบน้ำ”
            “ขอนอนพักก่อนแปปนึง”
            “แล้วแต่นะ...กับข้าวหมดไม่รู้ด้วย”
            “............................”
            “แล้วแต่นะครับ...แล้วแต่”พูดยั่ว ๆ มันเข้าไว้
            “มีอะไรกิน?”
            “เยอะครับ...ไปดูเองไหม”
            “ก็บอกมาเด่ะ...จะได้รู้ว่า กับข้าวที่มึงทำกูควรจะไปอาบน้ำหรือว่าควรจะนอนก่อนกันดี?”หึหึหึ...ต้องมีอะไรที่ทำให้มันกวนได้สักอย่างสิน่า!!!
            “ครับ ๆ ปากนี่ดีตลอด กูทำผัดเผ็ดกุ้งสด แต่ไม่เผ็ดมาก...มึงกินได้ แกงจืดเต้าหู้...ใส่หมูเด้งที่มึงชอบด้วย”
            “เยอะไหม”
             “เยอะครับ...”ผมยิ้ม “แล้วมีอะไรอีก...อ่อ ไก่สับชุบแป้งทอด ไข่ตุ๋นที่มึงบ่นว่าอยากกิน ต้มยำปลากะพง”
             “กูอยากกินมันฝรั่งอบชีสด้วยอ่ะ!?!?!”มันทำหน้าอ้อนสุด ๆ ผมก้มลงไปจุ๊บปากมันเบา ๆ แล้วลูบที่หางคิ้ว
            “ให้คนไปซื้อแล้ว เพิ่งได้มันฝรั่งมาเมื่อเย็นเอง...เอาไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยทำให้กินนะ”ผมบอก จริง ๆ จะรอเลม่อนมากินด้วยกันมากกว่า สองอาหลานชอบชีสอย่างกับอะไรดี
            “อือ...อย่าลืมนะ ถ้าลืมกูโกรธแน่”มันทำปากจู๋ ผมบีบปากมันสั่นเล็กน้อย
             “เก่งกะกูตลอด”แกล้งมันอีกสักสองสามทีแล้ว พาขึ้นไปอาบน้ำ...ไอ้เตี้ยเดินผ่านไอแพดของตัวเอง แล้วหยิบขึ้นมาดูทำหน้าคิ้วขมวด
            “ไอ้เตี้ยมันหายไปไหนของมันว่ะ...ไม่เห็นออนสไกป์หลายวันละ”ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน หยิบเสื้อผ้าและผ้าขนหนูไปวางไว้ในห้องน้ำให้ ก่อนลงไปนอนบนเตียง...สรุปคือ กูมีเมียหรือมีลูกครับ?
            “ติณฑ์!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ไอ้เตี้ยวิ่งมาตะโกนใส่หน้าผม ซึ่งกำลังเคลิ้ม ๆ ด้วยความตกใจ...เลยรีบลุกขึ้น
            “อะไร ๆ มึงเป็นอะไร!?!?!?”ถามออกไปอย่างตกใจ ไอ้เตี้ยหัวเราะตัวงอ...แล้ววิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป
            “สัส...เดี๋ยวมึงจะโดน!!!!”ผมตะโกนด่ามันไล่หลัง มันยิ่งชอบใจ












           
หลังจากทานอาหารเสร็จ มันก็ขึ้นไปเฝ้าไอแพด...ซึ่งผมก็พอจะรู้ว่ามันคงรอหลานมาสไกป์เช่นเคย แต่ว่าพอผมเปิดประตูเข้าห้องไป มันก็ทำเป็นเล่นเกมส์บ้างฟังเพลงบ้าง กลัวผมจะแซว ไอ้เราก็พยายามไม่ใส่ใจเดินเข้าห้องล้างมือล้างเท้าแล้วก็หยิบไอแพดตัวเองมาดูงานเหมือนกัน มันเหล่มองที่ผม
            “ทำไมต้องมานอนตรงนี้ด้วยอ่ะ”มันถาม เหล่มองที่ผม...ก็ทุกที ผมจะแกล้งเล่นคอมบ้าง หรือเดินไปข้างนอกให้มันมีเวลาคุยกับหลาน แต่วันนี้จะให้ออกไปไม่ไหวละ อยากนอนเล่นสบาย ๆ
            “เอ้า...ไม่ได้เปิดเสียงกวนสักหน่อย”ผมบอก มันทำหน้าไม่พอใจ
            “ไปนอนที่อื่นเด่ะ!!!”
            “หึหึหึ จะทำไรว่ะ...? ดูเว็บโป๊เหรอ?”ผมหัวเราะ
            “ไปเลย...”
            “อะไรเล่า ก็นอนเล่นใครเล่นมันไปดิ”มันกัดปากตัวเอง...ทำหน้าไม่พอใจ
            “ออกไปเลย...”พูดเสียงเบา
            “จะทำอะไร? จะคุยกับใคร? มีชู้เหรอมึง”ผมแกล้งถามมันกลับ ไอ้เตี้ยทำปากเชิด ๆ
            “เออ...จะมีใหม่แล่ว แก่ ๆ อย่างมึง ไม่อยากเอา...เหนียงก็ยาน”พูดแล้วก็ทำหน้าแบบไอ้เด็กแพ้ไม่เป็นโว้ย
            “ไหนเอามาดูดิ๊...มีความลับอะไรหนักหนา”ผมดึงไอแพดมันมา ไอ้เตี้ยตกใจชักของมันคืนกลับไป แล้วคือมือมันลื่นหรือจับไม่แน่นหรืออะไรไม่ทราบ ไอแพดมันไม่ได้ใส่ซอง ลอยหวืดกลางอากาศ ฟิ้วววว...ตุ้บ! ไปตกอยู่ตรงโต๊ะ มันกับผมมองหน้ากันอึ้ง ๆ
            “โอ๊ะ...”ผมวิ่งออกจากเตียงคนแรก แต่ไม่ทันไอ้เตี้ย...มันหยิบไอแพดที่คว่ำหน้าของมันขึ้นมา รอยแตก....เป็นทางยาวเลย มันยืนนิ่งเงียบ เอาละ...กูเริ่มตั้งรับแล้ว อาละวาดแน่นอน
            “มึงดึงทำไม ไอ้เหี้ย!!!!!!!!”มันด่าน้ำตาคลอ
             “ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ มึงจับไม่แน่นเองนี่”
            “ความผิดกูละสิ!!!!!! กูก็ถือของกูดี ๆ มึงมาแย่งไปทำไมล่ะ”
            “กูแค่จะดูเฉย ๆ ไม่คิดว่ามันจะหล่น”ผมแก้ตัว ไอ้เตี้ยชูไอแพดขึ้นเหนือศีรษะ ผมหลับตา...ภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามันจะฟาดลงมา ก็ขอแบบทีเดียวแล้วนิ่งสนิทเลย อย่ามาแบบ...ฟาดหลาย ๆ ทีซ้ำ ๆ เจ็บนานแล้วเจ็บยาวด้วย!!!!
            “เพราะมึงแท้ ๆ กูถือของกูดี ๆ”มันด่า เห็นว่ามันไม่ได้โยนไอแพดสักทีเลยลืมตาขึ้นมา ไอ้เตี้ยยืนตาแดง...ทำหน้าน้อยใจตรงหน้าผม ผมรีบกอดมัน...แต่มันผละออก ไปนอนคลุมโปงเรียบร้อย
            “ขอโทษครับ ๆ เดี๋ยวเอาไปซ่อมให้ เอาของกูไปใช้ก่อนก็ได้อ่ะ...เตี้ยครับ”ผมดึงผ้ามันออก
            “ไม่ต้องมายุ่งกะกูเลย...ฮึก ฮึกกกก”
            “อย่าร้อง กูขอโทษแล้วไง...อ่ะ เอาของกูไปใช้ ไหนดูสิ...มึงจะใช้อะไร อะครับ”
            “ฮึก...มันพังแล้วด้วย หน้าจอแตกเลย...”เครื่องนี้ไอ้ฟ้าซื้อให้มันครับ มันอ้อนพี่มันตอนไปเดินห้าง...ฟ้ามันขี้ใจอ่อน น้องทำเป็นโกรธนิดเดียวมันก็หาของมาประเคนแล้ว พอ ๆ กะกูเลย คึคึคึ...
            “ครับ ๆ เดี๋ยวจะเอาไปซ่อมให้นะ”
            “ซ่อมให้เหมือนเดิมด้วย...”
            “ครับ ๆ”ว่าง่ายวุ้ย...ไม่อาละวาดด้วยดีจัง เมียกู ผมยิ้ม...มานอนลงที่เตียงข้าง ๆ มัน ไอ้เตี้ยเอาไอแพดผมไปลาก ๆ อะไรไม่รู้ ผมก็สำรวจของมัน แตกไม่เยอะหรอก...แต่มันน่าเกลียด ไม่รู้ว่าค่าซ่อมจะเท่าไหร่ ถ้าแพงมาก...ก็ซื้อให้มันใหม่แม่งเลย
            “เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาไปซ่อมให้เลยนะ”ผมบอก ก่อนซ่อมขอดูดข้อมูลมันออกมาดูหน่อยเถอะ เหอ ๆ
            “ไหนว่าพรุ่งนี้ไปทำงาน?”มันถามจับผิด ผมบิดพลิ้วตัวได้ทัน...
            “อ๋อ พ่อบอกไม่ต้องไปแล้ว...อีกสองสามวันน้ำตาลก็จะกลับญี่ปุ่นแล้วนะ”ผมบอก
            “อ้าว...ของขวัญกูละ??????? มึงโทรไปถามพี่แสตนด์ดิ๊ ตกลงได้ส่งมารึยังเนี่ย!!!!!”มันทำหน้าเอาเรื่อง
            “เออ ๆ พรุ่งนี้จะถามให้แล้วกัน วันนี้แตนด์มันเข้าประชุม”ผมโกหกมัน ของยังอุ่น ๆ ในห้องพระ...เป็นที่เดียวที่ไอ้เตี้ย ไม่กล้าเข้าไปรื้อของวุ่นวาย มันไม่แม้แต่จะเปิดประตูเข้าไป เพราะของในนั้นอลังการมาก...ทั้งเครื่องพระที่พ่อผมสะสม รุ่นตาทวด ปู่ทวด ที่สำคัญ...มีรูปบรรพบุรุษผม รูปญาติ ๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว...ตั้งอยู่ในนั้น
            “ถามเลยนะ ห้ามลืมด้วย”
            “ครับ ๆ มาจุ๊บที”ผมยื่นหน้าไปหามัน ไอ้เตี้ยก็ไม่สน...ตามองแต่จอไอแพด จนผมต้องก้มลงไปจุ๊บเอง
             “จุ๊บ...”จ้องหน้ามันแปปนึง แล้วก็...
            “อีกที....”
            “อืออออ ไม่เอา....มันจะตายแล้วววววว ยะ อย่า....”
            “จุ๊บทีเดียว”
            “ไม่เอา...”ไม่สนแม่งละ...ก้มลงจุ๊บปากมันแล้วผละออก
            “สนแต่ไอแพดไม่สนกูเลย”
            “มึงน่าสนนักนี่?”มันกวนโทสะขนาดไหน ผมวางไอแพดมันที่โต๊ะข้างหัวเตียง แล้วกอดหมอนกอด
            “เออ ๆ ไม่สนก็ไม่สนใจ ปิดไฟด้วย”
             “เรื่อง...ใครอยากปิดคนนั้นก็เดินไปปิดเอง”มันพูด
            “มึงนี่นะ...มันโคตรเด็ก โคตรของโคตรเด็กเลย!!!!”ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามันดี...ไอ้เตี้ยทำหน้าเชิด ลอยหน้าลอยตา กูเริ่มหมั่นไส้มันละ...เอามือลูบขาเนียน ๆ
            “อย่า...เอ๊ะ มึงนี่!!!!”มันเบี่ยงตัวหนี ผมเริ่มสนุก...เลื่อนมือไปหาจอร์จแล้วเขี่ยเบา ๆ ไอ้เตี้ยสะดุ้ง
            “ไอ้เหี้ยนี่...เดี๋ยว ๆ!!!!!”มันทำท่าจะลงจากเตียง ผมหัวเราะรั้งมันไว้
            “มานอน...”
            “ปล่อยเด่ะ!!!!! กูจะไปปิดไฟละ”
            “อ๋อ เออ..ไปปิด”ผมปล่อยมันง่าย ๆ มันทำหน้างง...แต่ยอมเดินไปปิดทันที คิดว่าปิดแล้วผมคงจะนอนไม่กวนมัน หึหึหึ คิดผิดว่ะ...เมีย ยิ่งปิดกูยิ่งคึก...ตับ ๆ ๆ ๆ  มันถอยหน้าไปนอนไกล ผมนี่ลากมันมาติดแผงอก...แล้วเอาขาล็อคไว้
            “มันอึดอัด!!!”มันด่า
            “บอกให้จุ๊บดี ๆ ก็จบ...ได้นอนละ”ทำเสียงหื่น ๆ ใส่มัน ไอ้เตี้ยหน้างอ
            “ก็จุ๊บไปแล้วไม่ใช่เหรอไง!!!!!”มันตะคอกใส่หน้า
            “ก็กูไม่อยากได้แค่จุ๊บแล้วอ่ะ”
            “สัสหื่น!!!! ไปช่วยตัวเองในห้องน้ำเลยไป!!!!!”
            “ไม่เอาอ่ะ เมียนอนอยู่นี่...ทำไมกูต้องเมื่อยมือด้วยว่ะ”ผมหัวเราะ ไอ้เตี้ยหน้าแดง เห็นหน้ามันเพราะแสงจากไอแพด!!!! หน้ามันเหมือนผลเชอรี่สุกแบบนั้นเลย
            “ก็เรื่องของมึง”มันพูดเสียงเบา ผมหัวเราะ...หอมแก้มมันฟอดใหญ่
            “ทำให้หน่อยดิ...ยังเจ็บ ๆ แผลอยู่เลย”อันหลังโม้ครับ เผื่อมันจะเห็นใจ ไอ้เตี้ยตวัดสายตามองอย่างกับเสือดาว
            “งั้นนอน!!!!”
            “นอนไม่ไหว มันมาแล้วอ่ะ...”ผมทำหน้าเว้าวอน ใต้กางเกงมันเริ่มผงาดมาละ ไอ้เตี้ยทำหน้าเซ็งสุดชีวิต
            “มึงเอานี่ไปเปิดหนังโป๊ดูเลยไป!!!!!!”มันจับไอแพดยัดใส่มือ ผมหัวเราะ
            “กูว่ามึงมากกว่ามั้ง ที่อยากดู แหม...ทำเป็นไอ้ชัดชวนไปดูรายงาน สัส...แอบไปดูหนังโป๊ คิดว่ากูไม่รู้?”ผมทำเสียงขึ้นใส่มัน ก็วันที่นอนโรงพยาบาลนั่นแหล่ะ ไอ้เหี้ยชัดมันเล่นพิเรนท์เอาหนังโป๊ไปงุบงิบดูในห้องพักอีกด้านนึงของผม คิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ เสียงมันคุยกันดังออกปานนั้น...ไม่ใช่แค่มันสองคนนะ ไอ้พุทกับเจก็เอาด้วย!!!! ดูกันไม่เห็นใจคนป่วยนอนอยู่บ้างเลย
            “มึงรู้...”
            “ไม่รู้มั้ง สัส...เสียงพวกมึงสาธยายดังขนาดนั้น”ผมบอก มันกัดปากตัวเอง เหมือนว่าอายมากแทบจะอยากเอาหน้ามุดลงเตียง คว้าไอแพดมากด ๆ เอง แล้วดันมันลงนอนเอาหัวทับแขนผม
            “ทีหลังอยากดูบอกกูก็ได้ครับ หรืออยากจะไปเอากับอีชะนีคนไหนก็ได้ มึงไม่รักกูอยู่แล้วนี่...ทำอย่างที่มึงอยากทำเลย”ผมบอก ไอ้เตี้ยมันหันมากอดผมแน่น
            “ไอ้เลว!”บ่นงุบพร้อมกอดแน่น สงสัยร้องไห้แน่ ๆ ตัวมันสั่นน้อย ๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงสะอื้น ผมกอดมันตอบ...คิดอะไรชั่ว ๆ ออก
            “เป็นกูนี่มันน่าเศร้าเนอะ มีเมีย...เมียก็ไม่รัก”แกล้งพูดไปงั้น มันเอาเล็บจิกเนื้อไม่ยอมโผล่หน้าขึ้นมา
            “โอ๊ย ๆ เจ็บ”ผมร้อง ไอ้เตี้ยงึมงำ “สมน้ำหน้า!!!”
            ระหว่างนั้นผมกดเสิร์จหาสิ่งที่ต้องการออกมาทางหน้าจอ กดเพลย์ไว้รอมันโหลดให้ครบ จนไอ้เตี้ยมันเงยหน้ามามองหน้าผม ผมก็ก้มไปดูหน้ามัน มองไม่ค่อยเห็น...จู่ ๆ มันก็เลื่อนตัวขึ้นมาแล้วจุ๊บปากผมอย่างรวดเร็ว คือกูยังไม่ทันตั้งตัวเลย!!!
            “แค่เนี้ย!!!!”ผมร้องอย่างเสียดาย มันก้มหน้าลงไปมุดแผงอกผมอีก...
            “แค่นี้เองเหรอครับเตี้ย...ไม่คุ้มเลยว่ะ”
            “ได้คืบจะเอาศอกนะมึงน่ะ”มันด่า ผมหัวเราะ...จับมันพลิกหน้าออกไปหาไอแพด ไอ้เตี้ยก็หมุนตัวตาม...
            “เอ้าดู...”ผมกดเล่นคลิปวิดิโอ คนในภาพ...ทำให้ไอ้เตี้ยร้องออกมา
            “ไอ้สัส!!!!!”มันตวัดสายตามามอง หน้าแดงจัด...แบบจัดมาก ๆ
            “ซี้ด....อ้าส์”เสียงจากในจอ เคล้าคลอภาษาญี่ปุ่นที่แปลไม่ออก ไอ้เตี้ยตีแขนผมหนึ่งที...ผมหัวเราะ
             
            “สัส...อยากดูมากนักเหรอไง”มันทำเสียงดัง ผมเลยพูดเสียงให้ดังกว่ามัน
            “อยากดูทีหลังดูกับกูนี่!!!! ห้ามไปดูกับคนอื่น...เข้าใจไหม”ผมคาดโทษมันไว้ ไอ้เตี้ยเงียบเสียง...สายตายังจ้องที่หน้าจอทั้งที่เจ้าตัวหูแดง หน้าแดงขนาดนั้น...
            “ปิดเลย!!!! กูไม่ดูแล้ว...”
            “ให้ปิดจริงอ่ะ”ผมกระซิบข้างใบหู ล้วงมือไปหาจอร์จมันเบา ๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว...
            “อะ อือ...”
            “จริงอ่ะ?”แกล้งอีก มือล่างกำจอร์จมันแน่น
            “อึก...ยะ อย่า”ผมปล่อยไอแพดร่วงหล่นมือ เสียงจากจอภาพดำเนินต่อไป แต่ตัวเองขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวไอ้เตี้ยเรียบร้อยแล้ว
            “ตะ ติณฑ์! ยะ อย่า”
            “อย่าช้า โอเค...ได้ครับ”ผมร้องบอก ปล้นจูบมันหมดแม็ก ไอ้เตี้ยยังเหวอโดนแกล้งตามไม่ทัน โดนจูบก็สติกระเจิง กว่าจะรู้เท่าทันผมก็ปากช้ำหมดละ
            “ไม่เอา...อย่า”มันร้องบอก แต่ผมถอดเสื้อ กางเกงมันออกอย่างรวดเร็ว...
            “ท่าไหนแล้วว่ะเนี่ย!!!!”ผมเหลือบไปดูหน้าจอ ไอ้เตี้ยจะคว้าจอกลับไป...ผมก็ดึงกลับมา
            “ดูกันนัก...มากูจัดให้เจอของจริง!!!!”เลื่อนจูบไปทั่วหน้า ไอ้เตี้ยจะเบี่ยงหน้าหนีก็ไม่ได้...ผมล็อคไว้หมด ทั้งเสียงที่ดังออกมาคือตัวกระตุ้นชั้นยอด ทำให้ไอ้เตี้ยขึ้นเร็วกว่าทุกที ผมดูดทุกส่วนที่ลิ้นไปถึงอย่างกับตัวเองเป็นปลิง ตัวมันก็สะดุ้งทุกครั้ง
            “ติณฑ์”พูดปนหอบ ผมไม่ตอบ
            “ตะ ติณฑ์...อึก ตะ...”ผมเลื่อนตัวลง...ไล่วนจูบทุกที ไม่เว้นแม้แต่สะดือส่วนหน้าท้องน้อย ไอ้เตี้ยเอามือจิกหัวผมไว้...มันหลับตาพริ้ม แอ่นกายขึ้นทุกครั้งที่โดนปลุกเร้า
            “อึก...อึก...”
            “อือ...อืมมม”ผมร้องพอใจ ลุกขึ้นไปนั่งตรงกลาง...จอร์จน้อย ๆ ของมันลุกขึ้นมาทักทาย กูก็ถอดเสื้อผ้าสิครับ จะรออะไร ไอ้เตี้ยกลืนน้ำลายดังเอือกเมื่อเห็นจอร์จผม
            “ติณฑ์...”มันทำเสียงอ่อน รู้ว่าต้องโดนแน่ ๆ แล้ววันนี้มันจะไม่ใช่แค่รอบเดียวด้วย!!!
            “ไง...เจอของจริงยังไม่ชินเหรอไงว่ะ!!! ของกูกับในจอภาพอันไหนมันจะเด็ดกว่ากัน มาดู...”ผมบอก ก้มลงจัดการครอบครองของไอ้เตี้ยก่อน ทำเสียงแบบในคลิปด้วย ไอ้เตี้ยยิ่งจิกผมแน่น...ร้องออกมาแข่งกับเสียงในไอแพด
            “อึก...แฮ่ก ฮึก...อึก อ๊า...ตะ ติณฑ์”
            รู้สึกเมื่อยปากละ ผละออกแล้วรูดให้มัน ขึ้นไปจูบมันอย่างดุเดือด ที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด ไอ้เตี้ยเอามือมาคล้องคอผม
            “มึงทำเจ็บ”
            “เบา ๆ ก็ไม่สุดดิ”ผมบอก จูบมันแรง ๆ อีกที ก่อนจะ...ผลักมันนอนลง แล้วไปยืนเข่า...ตรงหน้ามัน
            “เอาดิ เร็วๆ”ผมร้องบอก มันไม่ยอมเปิดปากอ่ะ
            “หึ!!!”
            “หึหึหึ...”ผมหัวเราะในลำคอ เอาจอร์จตีปากแม่ง!!!! เห็นว่าไม่ยอมจริง ๆ จึงต้องบังคับ บีบปากมันแล้วยัดของผมลงไป ไอ้เตี้ยทำท่าจะอ้วก...เอามือตีขาผม โคตรเจ็บ!!!!! มันดันผมออกห่าง
            “ไอ้เหี้ย!!!!!”ด่ากูอีกละ
            “ก็มึงไม่ยอมทำให้ดี ๆ อ่ะ”ผมทำหน้าละห้อย
            “กูไม่อยากทำ...!!!!!”น้ำตาคลอแล้วเมียกู
            “ครับ ๆ ไม่ทำ ๆ”ต้องจับมือมันขึ้นมาแล้วให้มันจัดการจอร์จให้ ผมร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเจลมาทาให้มันเตรียมพร้อม
            สองร่างแทบจะหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางของมันกับผมดังสลับกันลั่นห้อง ภาพหน้าจอดับไปแล้ว...เหลือแต่เพียงเราเท่านั้น ผมเปิดไฟหัวเตียงให้พอมีแสงสลัว...ไอ้เตี้ยนอนตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ส่วนร่างเรายังติดกัน...ไม่ผละไปไหน
            “อึก ๆ ๆ ติณฑ์...”มันร้องเรียกผมทุกครั้ง มือน้อย ๆ ดันอยู่ที่พุงผม เพราะแรงและเร็วเกินไป...มันก็หอบหายใจแทบไม่มัน ผมเร่งเครื่อง...ถอนแล้วกดมิดอยู่สี่ห้าครั้ง ก่อนจะคว้าเอาเสื้อมันมาอุดปากทาง...พุ่งลูกนับล้านตัวในเสื้อ ไม่ให้เปื้อนที่นอน ไอ้เตี้ยสะดุ้งโหยง...ตอนที่ดึงออก แล้วร่างมันก็ทิ้งตัวลงนอน...เหมือนคอนโทรลไม่ได้ หอบหายใจแรงมาก...ทั้งคู่
            “ทีหลังจะดูก็ไม่ว่า...แต่ถ้ากูจับได้ มึงจะโดนจัดเต็ม...เข้าใจไหมครับ”ผมขู่ ไอ้เตี้ย...ทำปากเบะ ๆ เหมือนไม่สน อดไม่ได้ก้มลงไปจูบมันอีกที
            “อือ...อยากอาบน้ำ!!!”
            “บอกมาก่อน...จะดูอีกไหม”ผมขู่ บีบปากมันเบา ๆ โยนเสื้อลงพื้น
            “ไม่ดูแล้ว!!! พอใจยัง!!!!!”
            “ดีมาก ถ้าดูอีก...เจอแบบเมื่อกี้หรืออาจจะมากกว่านี้ จำเอาไว้!!!”
            “มึงชอบขู่...”
            “ก็มึงดื้ออ่ะ ผัวนอนอยู่แท้ ๆ ไอ้ชัดก็อีกตัว...เดี๋ยวกูยังไม่เจอหน้ามัน จะเล่นให้แม่งน่วม ไอ้พุทอีก...แล้วเจก็ยอมดูด้วยเนอะ!!!”ผมทำหน้าโหด
            “ก็อยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้อะไรสักหน่อย”
            “หึหึ ก็คิดว่ามึงอยากเอากับผู้หญิง ถ้าอยากเอามาก...ก็บอก เดี๋ยวกูจัดหามาให้!!!”มันหน้างอ...น้ำตาคลอมาอีกละ มาง่ายจริง ๆ สัส!!!
            “แค่ดูเฉย ๆ ทำไมต้องว่า!”เช็ดน้ำตาให้ตัวเอง ผมกดจูบที่ซอกคอมัน...หลังใบหูทั้งสองข้าง
            “หึง โคตรหึง!!!!! ไอ้สัสเอ้ย...ยิ่งคิดยิ่งหึง!!!!!!”มันหน้าแดง ตัวสั่นไปทั้งตัว...
            “..................................”
             “หึงมากนะ...รู้ไหมครับเตี้ย”ผมบอก เอาหน้าผากชนหน้าผากมัน...ไอ้เตี้ยพยักหน้าขึ้นลงน้อย ๆ ยื่นปากมาจูบผม
            “กูแค่ดู ไอ้ชัดมันชวนดู...พี่พุทกับเจ ก็อยู่...ก็เลยไม่ได้คิดอะไร”
            “ครับ กูจะเชื่อมึงนะ”ผมบอก มันเอามือคล้องคอไม่ยอมให้ผมถอยหนี
            “อีกรอบ...ละกัน จะได้นอนหลับสบาย ๆ”
            หึหึหึ กูชั่วได้อีก!!!! ไอ้เตี้ยทำหน้าเหวอ แต่ไม่ทันละ...

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2

///////////////////////////////////////////


เก้าโมงกว่าไอ้เตี้ยมันยังไม่ตื่น ผมเห็นว่าสายมากแล้ว...เลยต้องปลุก ไม่ได้บอกมันว่าจะไปรับเลม่อน ซึ่งตอนนี้อยู่โรงแรม X เดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไอ้เตี้ยขึ้นรถได้ก็นอนต่อไม่ร้องโวยวายหิวข้าวเหมือนทุกที ก็ดีเหมือนกัน มันไม่มีแรงแม้แต่จะถามว่าผมจะไปไหน ผมก็ไม่ต้องโกหกมัน ได้เบอร์ติดต่อก็รีบโทรไปหาทันทีลุงกับป้าของมิกกี้รออยู่ก่อนแล้ว ผมบึ่งไปถึงก็รีบจอดรถทันที
            “เตี้ย...ตื่นเร็ว”
            “หือ?”
            “ตื่นครับ ถึงแล้ว”หน้าตามันงัวเงียขี้ตามาก ไอ้เตี้ยมองไปรอบ ๆ
            “ที่ไหน”
            “โรงแรม x ป่ะ...ลงเถอะ”
            “พามาทำไม? กินข้าวเหรอ?”มันทำเสียงอ่อน คงจะเหนื่อยมาก ผมเอามือลูบแก้ม
            “อือ เดี๋ยวพาไปกินของอร่อย ๆ เหนื่อยเหรอ?”ถามเพราะเป็นห่วง
             “ก็เพราะมึงนั่นแหล่ะ กูปวดตัวไปหมด”
            “ครับ ๆ เดี๋ยวพาไปกินของอร่อย ๆ ไง กลับบ้านเดี๋ยวนวดให้...ดีไหม”ผมเอาใจ มันเหล่ตามอง
            “ไม่ต้อง!!! เดี๋ยวเลยเถิดอีก!!!”ผมหัวเราะ หอมแก้มมันฟอดใหญ่ ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบแว่นออกมาให้มันใส่ไว้ หล่อโว้ย เมียใครไม่รู้...ไอ้เตี้ยบิดขี้เกียจข้างรถ ผมก็หยิบกระเป๋าสตางค์แล้วลงมาทันที
            “ป่ะครับ”มันยืนมองหัวจรดเท้า ไม่ออกเดิน...จนผมต้องหันหลังไปหามัน
            “?”
            “จึ้ก!!! ชอบทำตัวเกินหน้าเกินตา...!!!”แล้วมันก็เดินเหวี่ยง ๆ นำไปเลย อะไรว่ะ? อยู่ดี ๆ ก็หงุดหงิด เหอ ๆ
            เดินไปที่ล็อบบี้ก่อนแทนที่จะเป็นห้องอาหารตามที่มันต้องการ ไอ้เตี้ยยืนงงแต่ไม่พูดอะไร คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองมันใหญ่ ทราบห้องของเลม่อนแล้วก็รีบลากมันขึ้นลิฟท์ไปชั้น 31 ทันที
            “ไปไหน????”
            “หาเพื่อนแปป...”
            “แล้วทำไมไม่บอกว่ะ!!!! จะได้ลงไปรอที่ห้องอาหาร!!!!!”มันเริ่มหงุดหงิด รู้งี้ให้กินข้าวมาก่อนดีกว่า
            “ครับ ๆ แปปเดียวนะไม่เกิน 10 นาที”ผมกอดเอวให้มันใจเย็น ๆ ไอ้เตี้ยฟึดฟัด แต่ไม่กล้าแรงมาก มันเกร็ง ๆ แบบนี้ทุกครั้ง เพราะกลัวโดนแผลของผม แม้มันจะติดสมานกันดีแล้วก็ตาม
            “กูหิวข้าว”
            “ครับ รู้ครับ...แปปนึงนะ คนเก่งของกู”ดูเหมือนคำนั้นจะทำให้มันใจเย็นลงได้ ยอมยืนนิ่งไม่บ่นจนถึงหน้าห้องของเป้าหมาย ผมเคาะห้อง...สองสามที ไอ้เตี้ยเอาหลังพิงกำแพง
            ประตูห้องค่อย ๆ เปิด ผมก็ใจระทึก...มองภายในห้องระดับเดียวกันกับสายตา คุณป้าซึ่งเป็นคนมาเปิดประตูอุ้มเลม่อนมาด้วย เจ้าตัวเล็กเห็นหน้าผมก็ร้องกรี๊ดดีใจ
            “กรี๊ดดดดดดดด”กระโดดมาหาผม จนเกือบรับไม่ทัน ไอ้เตี้ยยืนอึ้ง ๆ
            “ฟอดดดดดดด สวัสดีครับคุณป้า ผมติณฑ์นะครับ...ส่วนนี้มะนาว”ผมแนะนำตัว คุณป้าของมิกกี้ก็รับไหว้ ท่านก็เป็นคนไทยนี่แหล่ะ แต่ดูภูมิฐานมาก ไอ้เตี้ยยกมือไหว้หน้าเหวอ ๆ
            “หานาว ๆๆ”เลม่อนร้อง อามันอ้าแขนรับหลานไปทันที
            “ร้องทุกวัน บ่นทุกวัน...เป็นไง ได้เจอแล้ว...”ป้าหัวเราะ เชิญผมกับไอ้เตี้ยเข้าไปในห้องพัก มีคุณลุงนั่งรออยู่แล้ว ผมยกมือไหว้ นั่งลงที่โซฟา
            “มากันแล้วเหรอ”คุณลุงร้องทักทายอย่างเป็นกันเอง
            “สวัสดีครับ”
            “เอ้านั่ง ๆ ห้องรกไปหน่อย เจ้าเลม่อนมันอาละวาด”คุณลุงพูดไปหัวเราะไป เศษทิชชู่เต็มห้อง...ก็คงจะฝีมือเลม่อน
            “ม่อนคิดถึงนาว...”เลม่อนอ้อน ไอ้เตี้ยเบะปาก...ยิ้ม ๆ
            “พูดมาก”
            “เดินทางเหนื่อยไหมครับ”ผมชวนคุย
            “ก็พอได้พัก แต่เจ้านี่ร้องจะไปอย่างเดียวเลย ถ้าขืนมาช้ากว่านี้...ได้อาละวาดห้องพักแน่ ๆ”คุณป้าบอก
            “เดี๋ยวผมดูแลต่อเองครับ แล้วคุณลุงคุณป้ามาที่นี่กี่วันเหรอครับ ไปพักที่บ้านผมไหม...จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินเช่าห้อง”
            “โอ๊ย...พรุ่งนี้เช้าก็ไปสิงค์โปรแล้วจ๊ะ ขอบใจมาก...นี่บุ้งก็ฝากของมาให้พวกเอกสารของเขาน่ะ”ป้าเดินไปหยิบมาให้
            ผมรับมาตรวจดูคร่าว ๆ แล้วถือไว้
            “เป๋าม่อน!”เลม่อนตัวน้อย ไปลากกระเป๋าใบโตของตัวเองออกมา
            “เอ้า...จะไปแล้วเหรอ!!!”คุณลุงร้องแซวเสียงดัง
            “ม่อนไป จะหานาว”เลม่อนลากกระเป๋าก็ไม่ไป เพราะของหนักกว่าตัว ไอ้เตี้ยหัวเราะหลานมัน
            “หน้าเหมือนกันเลย”คุณป้าที่สังเกตไอ้เตี้ยกับเลม่อนจู่ ๆ ก็พูดขึ้น คุณลุงก็เลยอุทานต่อว่า...เหมือนมาก ไอ้เตี้ยหน้าแดง
            “ดื้อเหมือนกันด้วยครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมหัวเราะ ไอ้เตี้ยมันลากกระเป๋าหลานมาแก้เขิน คุณลุงชวนคุยอีกไม่นาน...ก็ขอตัวพาเลม่อนออกมาเลย เพราะจะได้พักผ่อนกันเต็มที่
            “เลม่อนจ๊ะ บ๊ายบาย”คุณป้าโบกมือ แต่เลม่อนไม่สนใจแล้ว...กอดไอ้เตี้ยไว้อย่างเดียว ทุกคนเลยหัวเราะ
            “งั้นผมไปก่อนนะครับ”ยกมือไหว้ท่านทั้งสองและพาไอ้เตี้ยเลม่อนลงมา
            “หิวข้าว”มันพูดก่อนเดินออกจากโรงแรม
            “จะทานที่นี่เหรอ...หรือว่าไปกินอาหารจีน?”ผมถามมันกลับ ไอ้เตี้ยทำหน้าคิดหนัก
            “หิว แต่ก็อยากกินอาหารจีน”
            “งั้นเข้าไปกินอะไรรองท้องป่ะ”มันพยักหน้า
            “ม่อนมีของเล่น”เลม่อนชวนอาคุย ผมยิ้ม...ลากกระเป๋าตาม
            “เตี้ย ๆ งั้นมึงเข้าไปกินก่อน กูเอาของไปเก็บที่รถแปปเดียว”
            “ไม่เอา...งั้นรอ”มันขมวดคิ้ว
            “ครับ ๆ จะรีบไป”ผมรีบเอาของเก็บที่รถแล้วเดินกลับไปหามัน ไอ้เตี้ยกดโทรศัพท์ถ่ายรูปคู่กับหลาน
            “อะไร ๆ ถ่ายไม่รอเลย...มานี่”ผมแซวหยิบโทรศัพท์จากมือมาถ่ายเราสามคน
            “เสือกเนอะ...”ไอ้เตี้ยทำหน้ายิ้ม ๆ กดดูแล้วอัพขึ้นเฟสบุคอะไรของมัน
            “ปากดี เดี๋ยวจะโดน”พามันมากินอาหารเช้าฝรั่ง ก่อนจะรีบพากันไปทานอาหารจีนร้านโปรด
“พอละ...อุ้มจนปวดแขน!!!!”ไอ้เตี้ยยื่นเลม่อนมาให้ เจ้าตัวเล็กเกาะแน่นไม่ยอมปล่อย ผมหัวเราะ
            “นาวปวดแขนแล้ว เดี๋ยวมาหาติณฑ์ก่อน”ผมบอก
            “งืออออออ”เลม่อนจอมดื้อ เริ่มหงุดหงิด...ไอ้เตี้ยก็เหมือนกัน เพราะมันหิวมาก ๆ แล้วอาหารวางอยู่ตรงหน้าแต่ก็กินไม่ถนัด
            “นี่ไง...นั่งตักติณฑ์เหมือนกัน ไม่งั้นนาวจะไม่อุ้มอีกนะ”ผมบอก เลม่อนรีบมองหน้าอา
            “เออ จะกินข้าวก่อนเดี๋ยวก็อุ้มเหมือนเดิมละน่า!!!”มันทำหน้าหงุดหงิดใส่หลาน เลม่อนเข้าใจหรือไม่ก็ไม่รู้แต่ยอมให้ผมอุ้มมานั่งตักโดยดี
            “อร่อยไหม”ผมถาม ตักเป็ดในจานคลุกข้าวให้เลม่อน เด็กน้อยพยักหน้า ตอนนี้อามันอยู่ในโลกส่วนตัวไม่สนใจผู้คนไปแล้ว ผมสั่งติ่มซำมาเพิ่ม...ยิ่งเห็นมันกิน ก็ยิ่งอร่อยตามไปด้วย
            “ติณฑ์...”มันเงยหน้ามา
            “ว่า...”
            “นั่งมองอยู่ได้ทำไมไม่กิน”
            “หึหึหึ ก็กินไปดิครับ...”ผมบอก มันทำหน้านิ่ง ๆ แล้วก็คีบเป็ดยื่นมาที่ปากผม โอ้...คุณพระคุณเจ้า ภูเขาจะถล่มทลายมันจะป้อนผมเหรอเนี่ย!!!! กูซาบซึ้งน้ำตาแทบไหล!!!!! นี่ใช่มันตัวจริงรึเปล่าว่ะเนี่ย...สงสัยคิดนานไปหน่อย ไม่อ้าปากสักที มันส่งเสียงดุ ๆ ใส่
            “จะกินไม่กิน”กูนี่รีบอ้าปากงับทันที...
            “มองอยู่ได้...”ไอ้เตี้ยงึมงำ แล้วกินของตัวเองต่อ
            “ป้อนม่อน ๆ”เลม่อนเอาบ้าง ผมตักป้อนแต่แกไม่ยอมกิน สุดท้ายต้องไอ้เตี้ย...
            “แจ่บ แซ่บบ”เลม่อนพูดอย่างน่ารัก ผมหัวเราะพรืดออกมา
            “อะไรนะเลม่อน”
            “แจ่บแซ่บ”ไอ้เตี้ยก็หัวเราะร่วน
            “ใครสอนให้พูดว่ะ”
            “นาวบอกแจบแซ่บ”เห็นเราสองคนขำ เลม่อนยิ่งพูดใหญ่
            “สอนมันเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมถาม ไอ้เตี้ยเอามือปิดปากพยักหน้า...แล้วขำใหญ่
            “นาวแจบแซ่บ”
            “ไม่ใช่ครับ แซ่บ”ผมพูด เลม่อนมองปาก
            “แซบ”
            “อือ แซ่บแซ่บ”
            “แซบแซ่บ”
            “นั่นละครับ!!!! ฮ่าฮ่าฮ่า”ตบมือให้คนเก่งหน่อย....ผมกับไอ้เตี้ยหัวเราะจนปวดท้องไปหมด เลม่อนกระโดดวิ่งเล่นในห้องอาหาร ดีที่จองเป็นห้องส่วนตัวไม่งั้น...แขกคนอื่นและพนักงานต้องปวดหัวแน่ ๆ
            “เตี้ยป้อนอีกดิ”
            “มือมีก็กินเองดิ”มันบอกหน้าแดง
            “ใจร้ายว่ะ ปวดแผลด้วยเนี่ย...”แค่นั้นละ ไอ้เตี้ยคีบไก่ร้อน ๆ ยัดปาก
            “มึงมามุกนี้ตลอดนะเดี๋ยวนี้!!!!! แม่ง!!!”
            “หึหึหึ....”ผมหัวเราะ พากันทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแล้วก็กลับบ้าน น้องเจโทรมาหาว่ารออยู่ที่บ้านแล้ว คงเห็นรูปเลม่อน แทนธารก็มา...

///////////////////////////////////////////////////////



[มะนาว]

            ไอ้ติณฑ์มันสนุกสนานกับการทำครัวมากถึงขนาดปล่อยเลม่อนไว้กับผมนานละ ไอ้เด็กนี่ก็ไม่หลับไม่นอนกลางวันเหมือนเด็กคนอื่นเขาบ้างหรือไงกันว่ะ มันเอาสีเทียนวาดรูปจนเปื้อนออกมาถึงขอบโต๊ะ ภาพเละ ๆ แต่ดูมันตั้งใจมาก ขีดเส้นเกือบตรงแล้ววงกลมที่หัว ทำแบบนี้สามอัน มันบอกว่าคือผมกับมัน
            เห็นมันมุ่งมั่นในการทำโต๊ะหรูไอ้ติณฑ์พังมาก ผมเอานิ้วจิ้มเกลือที่ไอ้ติณฑ์ใส่ถ้วยมาให้จิ้มมะม่วง ป้ายปากเลม่อนนิดหน่อย มันเอาลิ้นออกมาเลียแล้วทำหน้านิ่ง ๆ วาดรูปต่อไป ผมหัวเราะเบา ๆ แล้วทำแบบเดิม คราวนี้เลม่อนทำหน้ายุ่ง
            “งือ!!!”มันเช็ดปากตัวเอง ผมหัวเราะลั่น
            “ฮ่าฮ่าฮ่า”เลม่อนมันพ่นน้ำลายออกมา ผมรีบเอากระดาษเช็ดเดี๋ยวไอ้ติณฑ์ออกมา โดนมันด่าอีกง่ะ
            “ม่อนตี”เลม่อนทำมือยกขึ้นสูง ผมก็ยกเหมือนกัน
            “ลองดิ ตีคืนแน่”ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากัน สุดท้ายผมเองที่เอานิ้วจิ้มหน้าผากมัน
            “ตัวเตี้ยแล้วอย่ามาเจ๋อ!!”
            “ม่อนฟ้องติณฑ์”ทำเสียงจริงจังมากไอ้เตี้ย เวลามันทำหน้ามุ่งมั่นแล้วโคตรตลก ผมยิ้มเยาะเย้ย
            “ไปฟ้องเลย!!! นี่ ๆ ทำโต๊ะติณฑ์เปื้อน ติณฑ์ตีแน่ ๆ”ผมเยาะเย้ยมัน เลม่อนมันมองตามเห็นซึ่งความผิดของตัวเอง มันรีบเอากระดาษมาปิดไว้ เอามือปัดผมตัวเองสองที แล้วมันก็ทำหน้าเชิด ๆ เอาแขนทับกระดาษไว้ด้วยนะ ฮา....มันจะฮาไปไหนว่ะเนี่ย!!!! พอติณฑ์เดินเข้ามาไอ้เตี้ยก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว
            “เตี้ยทำไรอ่ะ”ติณฑ์ถาม ยกไส้กรอกทอดกับเฟรนฟายมาให้ วันนี้มันลองทำกุ้งชุบแป้งทอดด้วย ผมกะเลม่อนเป็นหน่วยกล้าตายรุ่นแรก รอเหยื่อรายต่อไป...มากินอาหารมัน
            “เปล้า!”ผมหัวเราะคนเดียว ติณฑ์ยกน้ำส้มวาง
            “อันนี้ของอา แล้วก็น้ำส้มปั่นของหลาน กินเยอะ ๆ นะครับ”มันพูด ใส่ผ้ากันเปื้อนแอ๊บเด็กด้วยนะ นึกสภาพเป็นกระทิงตัวถึก ๆ แล้วมีผ้ากันเปื้อนลายแอ๊บแบ๊วดิ ฮ่าฮ่าฮ่า โคตรอนาถอ่ะ มันนั่งลงที่พื้น...แล้วเริ่มป้อนอาหารเลม่อน ผมกดทีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ เมื่อไหร่เจจะมาว่ะ!!!
            “พี่มึงอยู่กรุงเทพฯ ด้วยนี่เตี้ย”ติณฑ์ชวนคุย
            “ใคร?”
            “พี่มึงไง ฟ้าอ่ะ...โทรชวนมากินข้าวด้วยดิ”ผมหันไปมองหน้า เลม่อนมันยังหยิ่งไม่ยอมเขยื้อนตัวมาก แต่ปากมันก็งับช้อนอาหารที่ติณฑ์ป้อน
            “มึงนี่รู้ดีเนอะ รู้ด้วยว่าพี่กูอยู่กรุงเทพฯ”นี่ก็จะมาบ่อยขนาดนี้ ซื้อบ้านอยู่นี่เลยไหม!!!
            “โทรมาหากูสองรอบละ ถามว่าเลม่อนมาหรือยัง สงสัยบุ้งบอกให้มาดูน้องกะหลาน”
            “อ่อ เลม่อนจะมานี่...รู้กันอยู่แล้วใช่ป่ะ ทำเป็นปิดบังนะมึงน่ะ!!!”ผมบอก ไอ้ติณฑ์ยักคิ้ว...คิดว่าหล่อเหรอสัส!!! ผมเม้มปาก มองไอ้เตี้ยตัวเล็ก...มันเอนตัวเอาแขนปิดโต๊ะไว้อย่างฮา
            “ม่อนไปหยิบรถมาให้หน่อย”ผมใช้ เลม่อนมองหน้า
            “นั่นน่ะ หยิบมาให้หน่อย”ติณฑ์มองตาม
            “ใช้หลานนะ ลุกไปหยิบเอง!”มันตีจอร์จผม เลยโบกหัวมันไปที
            “ทะลึ่งนะ สัส!!!”
            “บอกว่าอย่าพูดคำหยาบคายไง...”แล่บลิ้นใส่แม่ม กวนตีน!!!!
            “ม่อนหยิบมาให้นาวหน่อย นาวจะเอารถ”ผมทำเสียงอ้อน เลม่อนเผลอลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปหยิบมา
            “ดีมาก”จู่ ๆ มันก็ก้มลงมาจุ๊บปากผมอีกละ!!!!! รีบเช็ดออก
            “ไอ้นี่!!!! บอกว่าเวลาปากมันอย่ามาจูบ”ไอ้ติณฑ์นั่งหัวเราะ
            “กวน....ตีน”ผมไม่ได้ออกเสียงคำหลัง เลม่อนมันลืมง่ายนะ แล้วมันก็วิ่งไปหยิบของเล่นมาเล่นต่อ ลืมว่าทำอะไรไว้ ผมยื่นมือไปเลื่อนหยิบกระดาษมันออกมาดู
            “โอ๊ะ....”แกล้งทำเสียงตกใจ ไอ้ติณฑ์มองตาม ผมเลยชี้ที่โต๊ะ...เท่านั้นละ
            “เฮ้ย!!! ทำไมเปื้อนขนาดนี้อ่ะ”
            “จะมีใคร๊!!!”ผมแกล้งทำเสียง กะว่ามันต้องจัดการเลม่อนแน่นอน เลม่อนมันก็ไม่สนใจ...สายแบ๊วนะมึงน่ะ!!!!
            “เฮ้อ...ช่างมัน ๆ เดี๋ยวเอาผ้าเช็ด”มันพูด ผมดีดตัวขึ้น
            “แค่เนี้ย!!!????”กูขึ้นเสียง มันทำหน้างง ๆ
            “อะไร?”
            “อะ อ๋อ...เปล่า ๆ”สัส คิดว่ามันจะด่าเลม่อนเยอะกว่านี้ซะอีก ไม่สะใจเลย!!!
            “มึงก็มานั่งกินให้หมด ๆ”ไอ้ติณฑ์หยิบเฟรนฟายเข้าปาก ผมนึกอะไรสนุก ๆ ได้ ก็ลงไปนั่งตักไอ้ติณฑ์ แล้วเอามือมันสองข้างมาโอบผมไว้
            “ทำอะไรของมึงครับ...ยั่วกูจังนะ”
            “ตลก! กูจะแกล้งไอ้เตี้ยหรอกเว้ย!!!”ผมบอก ไอ้ติณฑ์มันส่ายหน้า ได้ทีเอาหน้ามาซุกที่คอกูเฉย!!!
            “ไปแกล้งมัน!!!”
            “โอ๊ย...รักติณฑ์จังเลยเนอะ”ผมทำเสียง เลม่อนที่กำลังเอามือไถรถตัวเองเงยหน้ามามองแล้วนิ่ง
            “รักจัง...”ผมแกล้งทำเสียงแรด ๆ เลม่อนก็ยังนิ่ง...แต่มองไม่วางตา
            “ติณฑ์รักใคร...รักนาวป่ะ?”ผมโยกตัวไปด้วย เสียงแรดไม่พอ...หน้าต้องแรดด้วย
            “มึงไปหาแกล้งมัน เดี๋ยวมันร้อง”ไอ้ติณฑ์มันว่านะ แต่มันก็ไม่ปล่อยมือ
            “นาวรักติณฑ์เนอะ...”ผมฉีกยิ้ม เงยหน้าขึ้นไป จูบที่คางไอ้โหด...มันนั่งตัวแข็งทื่อ
            “เดี๋ยวมึงจะโดน!”ผมงี้หัวเราะร่วน จุ๊บอีกที...เลม่อนมันลากไอ้รถของเล่นมันมายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้ว เลม่อนมันทิ้งรถแล้วจะมานั่งตักผม ผมแกล้งผลักมันออก มันก็ดันตัวเองเข้ามาอีก เป็นอย่างนี้สองสามครั้ง
            “พอ ๆ ถ้ามันร้อง กูจะตีมึงนะครับ”ไอ้ติณฑ์เตรียมจะลุกหนี ผมไม่ยอม
            “งือ ม่อนหานาว”เลม่อนพูดออกมา จะดันตัวเองมาหาให้ได้ สุดท้ายมันก็มานั่งตักผมจนได้...ดูมัน ๆ
            “ไปเลย ใครอนุญาตว่ะ!”ผมแกล้งอุ้มมันออก เลม่อนยืนอึ้ง แล้วก็...แล้วก็....

       

ออฟไลน์ A_THan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
     “แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”ร้องไห้จ้า ผมหัวเราะ...ไอ้ติณฑ์แม่งรีบคว้าเลม่อนมากอดเลย ผมที่นั่งตักมันอยู่เลยล้มก้นจ้ำเบ้า แม่ง!!!!
            “โอ๋ๆ นาวแกล้งม่อนเล่นครับ รักกัน ๆ ติณฑ์ก็รักม่อน”ชิส์!!!!
            “ไม่รักเว้ย”
            “เตี้ย...!”มันทำเสียงหนัก ๆ สายตาดุพร้อม
            “แงงง แงงง แงงงงง”น้ำหูน้ำตาไหลเป็นทางยาว ผมอ้าแขนออก...มันก็รีบวิ่งมากอด สะอื้นใหญ่
            “พอแล้วไม่ต้องแกล้งมันแล้วนะ”ไอ้ติณฑ์บอก ยื่นหน้ามากดจูบหนัก ๆ จนกูเจ็บปากไปหมด!!!!!!!
            “ฮึก...ฮึก”
            “หยุดร้องได้แล้ว”ผมบอกเลม่อน
            “ม่อนรักนาว”
            “เออ ๆ นาวก็รักม่อน”คำหลังกระซิบใส่หูให้มันฟังคนเดียว ไอ้เตี้ยเหมือนจะได้ยิน...มันทำหน้ากรุ่มกริ่มแต่ไม่ได้ล้อ
            “เหอะ”แล้วมันก็สะบัดตูดเข้าครัวไปเลย ผมเช็ดน้ำตาให้เลม่อน หน้ามันโคตรของโคตรตลก
            “หน้าโคตรตลก”ผมบอกมัน
            “ม่อนหน้าเหมือนนาว”เลม่อนสวนกลับมา สัส!!! ใครสอนให้มันพูดแบบนี้ฟ่ะ กูเหมือนโดนมันด่า!!!!!!!
            ตอนเย็น ๆ น้องเจก็มาถึงพร้อมพี่พุท พี่ฟ้ามากับแยมโรล ไอ้โรลเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน ตาโคตรโหล...โคตรโทรมเลยเพื่อนกู
            “พี่เจมาแล้ววววววววว”เสียงเจมาก่อนตัว พี่ ๆ แม่บ้านออกไปยกของเข้ามา มีของกินเต็มเลย แปปซี่เป็นลัง ๆ และแน่นอน พวกนี้กินเบียร์กันอีกละ เลม่อนได้ยินเสียงเจก็ดีใจ กระโดดพร้อมกรี๊ดวิ่งทั่วห้อง
            “กรี๊ดดดดดดดดดด”
            “มาให้พี่เจกอดหน่อย”น้องเจวิ่งไล่จับ ไอ้โรลเอาเท้ามาเขี่ย ๆ ผม แล้วนั่งลงอีกด้านโซฟา
            “เอามาหมอนมาดิ๊”มันสั่ง อะไรของมันว่ะ
            “มึงไปออกรบมาเหรอว่ะ ดูโทรมสุด ๆ”ผมหัวเราะ มันถลึงตาดุ ๆ ใส่ คว้าหมอนไปนอน แล้วนอนจริงจังด้วย
            “อะไรของมึงเนี่ย!!! เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอว่ะ”ผมถามเสียงดัง ยังงงกับมันไม่ทันหาย พี่ฟ้าเดินตามเข้ามา...ยืนตรงหัวผมแล้วก้มจูบหน้าผาก
            “พี่ฟ้า...ไอ้โรลมันเป็นอะไรน่ะ”ร้องถามพี่ฟ้า พี่ฟ้าหัวเราะ...
            “ทำงานหนักมั้ง”
            “ว่าละ...บอกแล้ว อย่าทำงานกลางคืนเยอะ”ผมพูด พี่ฟ้ายิ่งหัวเราะ อารมณ์ดีอย่างนี้มันต้อง...!!!?!?!
            “พี่ฟ้า ติณฑ์มันทำไอแพดเค้าพังละ”
            “ห๊ะ...เพิ่งซื้อเองนะ ไปทำอีกท่าไหน”
            “มันขว้างกระเด็นเลยอ่ะ พี่ฟ้าซื้อใหม่ให้เค้านะ”ทำตาปริบ ๆ
            “เพิ่งซื้อไปเองนะครับ”พี่ฟ้าบอกเสียงอ่อน
            “ก็มันพังแล้ว เค้าไม่มีใช้”ผมกระแทกเสียงขึ้น ลืมตัว ๆ ต้องแบ๊วเข้าไว้
            “ไหนเอามาให้พี่ดู เดี๋ยวพี่เอาไปซ่อม”
            “ไม่เอา...ซ่อมก็ไม่เหมือนเดิม มันมีรุ่นใหม่ออกแล้วด้วย นะ ๆ”
            “จะดีเหรอ มะนาวใช้ของไม่ทนเลย...ไหนสัญญาว่าจะใช้นาน ๆ ไง”
            “ก็มันใช่ฝีมือเค้าทำไหมละ เค้าอยู่ของเค้าเฉย ๆ ไอ้ติณฑ์นั่นละ...มันมาแย่ง หน้าจอแตกเลยด้วย”ผมฟ้อง พี่ฟ้าถอนหายใจ
            “ซื้อให้หน่อยก็ไม่ได้!!!!”แกล้งร้องไห้แม่ม!!!! พี่ฟ้ารีบมานั่งยอง ๆ ลูบผม ผมทันที
            “อ่ะ ๆ เดี๋ยวจะพาไปดูแล้วกัน”
            “เย้ๆ”กูดีใจ ยิ้มกว้างเลยครับ คึคึคึ เดี๋ยวตอนไปดูค่อยหลอกล่อเกมส์ด้วยดีกว่า...คึคึคึ
            ติณฑ์มันขึ้นไปลากกล่องของฝากจากพี่แสตนด์ลงมา อร๊ากกกก...เหมือนถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง พากันแกะ...สนุกสนาน แต่มีหนึ่งศพนอนไม่สนใจใคร พี่ฟ้าบอกไม่ต้องปลุกให้มันนอน ขนาดเลม่อนกรี๊ดดังขนาดนี้ มันยังไม่ตื่น หลับหรือตายว่ะนั่น!!!!
            “อิอิอิ ลั๊นล้า ลั้นลั้นล้า...”เลม่อนถือหุ่นยนต์แล้วร้องเพลงน่ารัก ในมือทุกคนมีโทรศัพท์ถ่ายรูปกันใหญ่ มันดีใจได้ของเล่นเยอะเพียบเลย ของเจก็ได้เสื้อตัวใหม่ กางเกงยีนส์ รองเท้า และกระเป๋า ที่พิเศษคือมีนาฬิกาด้วยอันนี้ผมกับเจได้ลายด้วยกันแต่คนละสี คนละเรือน เลม่อนได้นาฬิกาเบนเทน รองเท้าเบนเทน กระเป๋าเบนเทน แล้วก็ชุดไอรอนแมน...มันร่ำร้องจะใส่
            “ติณฑ์ ลูกมึงร้องแล้ว”พี่พุทเรียก ไอ้ติณฑ์เดินเข้ามา เห็นเลม่อนจะเปลี่ยนชุด มันช่วยเลม่อนแก้ผ้าออก จน...เหลือแต่กางเกงใน ติณฑ์มันนั่งนิ่งอึ้ง ๆ
            “แหวน”มันหยิบแหวนที่คล้องสร้อยบนคอเลม่อนขึ้นมาดู ตั้งแต่กลับมาผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลม่อนตลอดมันเลยไม่เห็น อุตส่าห์ซ่อนไว้ในเสื้อแล้ว...เห็นจนได้!!!
            “เตี้ย?”ติณฑ์มันทำหน้างง แหวนที่มันเข้าใจว่าหายนั่นแหล่ะ ผมเอาให้เลม่อนไว้ตั้งแต่ก่อนไปเยอรมัน ไอ้ติณฑ์มันจั๊ดง่าวไง คิดเองเออเอง
            “ของม่อน”เลม่อนดึงคืน รีบหยิบชุดไอรอนแมนจะใส่ ๆ ไอ้ติณฑ์เลยต้องรีบใส่ให้ ผมยักคิ้วยั่ว ๆ ใส่มัน
            “กลิ่นใหม่หอมมาก”น้องเจปลื้มปริ่ม ของผมเป็นโมเดลที่ชอบ แล้วก็ที่สุดของที่สุดคือ มีน้ำหอมกับครีมทาผิวมาด้วย โคตรรักพี่สแตนด์เลยอ่ะ แบบที่ชอบ กลิ่นที่ชอบทั้งนั้น!!!
            “เย้!!!”เลม่อนใส่ชุดครบเครื่อง แต่รองเท้าดูไม่แมตซ์เท่าไหร่นะ...รองเท้าผ้าใบ ฮ่าฮ่าฮ่า เอ้า...ถ่ายรูปกันใหญ่ เป็นที่สนุกสนาน ติณฑ์มันลากผมออกมานอกห้อง ทั้งกอดทั้งจูบ...
            “ปล่อย เดี๋ยวคนมาเห็น...ห่า กลางวันแสก ๆ”ผมบอก ผลักมันออก แต่มันก็ยังกอดไว้แน่นอยู่ดี
            “คิดว่าหายอ่ะ ทำไมมึงไม่บอกอ่ะ...”
            “เหอะ!!! ฟังกูบ้างไหม!!!”ผมเบะปาก มันจูบ ๆ เอาใจ
            “ครับ ๆ ขอโทษน้า คิดว่าหายจริง ๆ นี่ ตั้งใจซื้อให้เลย...มึงเอาให้มันใส่เหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่...กลับจากกาญฯ รึเปล่า”มันถามรัว ผมพยักหน้า...
            “แล้วก็ไม่บอก...จุ๊บ จุ๊บ”เหมือนมันจะตื่นเต้นดีใจมาก
            “ทำกูเจ็บตัวด้วย...”บอกมันเมื่อนึกถึงว่าผมโดนอะไรบ้าง ติณฑ์มันจ้องตาผมนิ่ง
            “ขอโทษนะครับ ที่รักอยากทำอะไรคืน...เดี๋ยวให้ทำหมดเลย”
            “ให้กูแทงตูดมึงมั่งไหมละสัส!”มันหัวเราะ...!!
            “กล้าไหมละ!”พูดยั่วกูอีก...
            “หึหึหึ...”ผมตีปากมัน
            “เดี๋ยวคืนนี้มีของอะไรพิเศษให้ด้วย”ไอ้ติณฑ์ทำหน้าชั่ว ๆ ผมระแวง..
            “อะไร?”รีบถามใหญ่เลย มันทำหน้ามีเลศนัยอย่างยิ่ง
            “เออน่า คืนนี้...เดี๋ยวให้ดู ดูกันสองคน...อย่าไปบอกใครละ”
            “ทำไมว่ะ?”ผมถามเพราะสงสัยมากๆ ไอ้ติณฑ์ไม่ตอบ กลับจูบผมแทน...ปากกูช้ำหมดละ เลม่อนวิ่งมาหาจากไหนไม่รู้ ไอรอนแมนเคยโดนเตะกระเด็นไหมครับ!!!! ติณฑ์มันรีบอุ้มไอรอนแมนขึ้นมา
            “ถอดหน่อย ม่อนร้อน”ฮา....ผมหัวเราะลั่น ไอรอนแมนเหงื่อเยอะเกินไปนะครับ ขนาดในห้องแอร์มึงยังเหงื่อขนาดนี้...อย่าใส่ไปไหนเลยเถอะ ติณฑ์รีบถอดให้เลม่อน แล้วมันก็มาหยุดดูที่สร้อยอีกละ ชิส์!!! ผมเดินเข้าครัว...ไปหยิบของกินมานั่งกินกันในห้องรับแขก สนุกสนาน เกือบทุ่มกว่า...ป๊าแทนม๊าธารก็มาถึง น้องเจวิ่งกระโดดใส่ม๊า จนเกือบหงายหลัง โดนพี่พุทดุ
            “คิดถึง ๆ”ม๊ากอดเราสามคน แล้วอุ้มเลม่อนขึ้นมา
            “สวัสดีคร้าบ”ป๊าหิ้วของกินมาอีก คุ้น ๆ เหมือนจะเป็นถุงพิซซ่า กูรีบกระโดดไปช่วยเลยครับ เหอ ๆ เจมันกำลังโม้กะม๊าอยู่
            “ไงเรา...หายดีแล้วใช่ไหม”ป๊าถาม ผมโชว์แขนให้ดู แผลสนิทไม่มีรอยแผลเป็นแม้แต่นิดเดียว
            “มีดมันไม่คมอ่ะ มีดหั่นของเล่นเด็ก”ผมโอ่ ไอ้ติณฑ์เดินตามหลังมา
            “ถุ้ย! ล้างแผลให้ร้องอย่างกับป่าช้าแตก!”
            “มึงก็เหมือนกันละ”ผมแกล้งเหยียบตีนมัน แล้วเดินเข้าบ้าน ให้มันด่าตามหลัง...ไม่นานบ้านสวย ๆ ก็กลายสภาพเป็นรังอะไรสักอย่าง ซึ่งรกมาก ๆ
            “แทน เอายำใส่จานเลย”ม๊าร้องบอกป๊า ผมรีบเดินไปดูมีอาหารที่ม๊าทำมาไว้แล้ว จัดใส่จานอย่างเดียว พี่ ๆ แม่บ้านมาช่วยทำ แล้วติณฑ์ก็ให้แบ่งเอาไปกินกันหลังบ้านด้วย อีกส่วนก็โทรเรียกพี่เจี๊ยบพี่เลี้ยงน้องเจมาเอาไปกินอีก ก็เลยต้องทำอาหารเยอะ ๆ ไง
            “ว้าวววว”กูร้องถูกใจครับ กร๊ากกกกกก...เจอก่อนไอ้เปรียบเว้ย!!!!!! เรดเค้ก!!!! กูรีบเคลียร์ตู้เย็นครับ...หึหึหึ ไอ้ติณฑ์เดินมาข้างหลัง
            “ทำไรอ่ะ!!”สะดุ้งเลย พี่พุทยืนหันหลังอยู่ก็หันมามอง
            “หึหึหึ เอาเค้กซ่อนน้องเหรอ มะนาว”พี่พุทแซว ผมหัวเราะแฮะ ๆ ไอ้ติณฑ์เดินมาตบศีรษะอันเป็นของสูงผมหนึ่งที
            “มานี่ ๆ จะแบ่งให้ แหม...ฉลาดนะมึงน่ะ!!!”
            “คึคึคึ”ยื่นไปให้มันอย่างเสียไม่ได้ครับ ม๊ากับน้องเจเดินเข้ามาพอดี เจเห็นเค้กแล้วตาโต เลม่อนก็ร้องว้าว...ถูกใจ
            “ม่อนจะเอาๆ”
            “เอาติณฑ์แบ่งให้ ฟ้าปลุกโรลขึ้นมากินดิ๊ เดี๋ยวไม่ทันไอ้เด็กพวกนี้”ติณพ์มันตะโกนบอกพี่ฟ้า  แบ่งใส่จานให้สี่คน แล้วเอาส่วนที่เหลือยัดเข้าตู้เย็น
            “ใครจะกินมากบอกก่อน”ชิส์!!! ทุกคนหัวเราะมองที่ผมก่อนเลย
            “ดูหน้ามันดิ ต้องคิดอะไรอยู่แน่ ๆ เลย”ไอ้ติณฑ์บอก ทุกคนก็ยิ่งหัวเราะ ติณฑ์มันแสนรู้...เทน้ำแอปเปิ้ลใส่แก้วให้คนละแก้ว ยกออกมากินกัน ม๊าป้อนเลม่อน
            “ธาร มีกุ้งชุบแป้งทอดด้วย”ป๊าตะโกนบอกม๊า
            “ตักมาเลยแทน”ม๊าตอบ ไอ้โรลเพิ่งตื่นจากตาย พี่ฟ้าขอใช้ห้องอาบน้ำ...ให้มันเดินงัวเงียขึ้นไปอาบ แล้วลงมานั่งกินอาหารพร้อมกัน คุยเล่นกันไป ส่วนพวกนั้นก็กินจิบเบียร์คุยอะไรกันไม่รู้
            “เลม่อน....กินอีกสิครับ”ม๊านี่เลี้ยงเด็กโคตรเก่ง
            “ม๊าเอามันไปเลยไหม”ผมหัวเราะ
            “เฮ้ย ให้จริงก็เอาจริงนะ”
            “เอาเลย ๆ”น้องเจเชียร์เสียงดัง
            “ตลก ๆ”ผมเปลี่ยนเรื่องคุย ไอ้โรลเห็นตัวผอม ๆ มันเงียบ...แต่ฟาดเรียบนะครับ กระเพาะมันคงพองตัวให้ได้มาก กินไม่คุยแถมกินเยอะอีกนะมึง!!! กูรีบเงียบปากแล้วกินต่อทันที ปล่อยให้เจฝอยกะม๊าไปสองคน โดยมีเลม่อนรื้อของเล่นอยู่ในห้อง
           
            “ธาร!!”ป๊าเรียกม๊าอย่างตกใจ หลังจากพวกผมได้ยินเสียงรถใครสักคนแล่นเข้ามา ม๊าเงยหน้ามองป๊าแล้วเลิกคิ้วถาม
            “อะไร?”
            “มาดู...ใครมา”ป๊าเรียกอย่างตื่นเต้น พวกผมก็พลอยอยากรู้ไปด้วย รีบเดินออกมาตรงที่ตั้งวง เป็นชายหนุ่มสูงใหญ่เพื่อนพี่พุท กับเด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาว ตัวเล็ก ๆ ที่ดูน่ารักกว่านั้นอีกคือเด็กตัวเล็กที่อุ้มอยู่ในมือ
            “น้องเจไหว้พี่ฐาครับ”พี่พุทสั่ง น้องเจยกมือไหว้
            “นี่เจเหรอว่ะ โตแล้วเกือบจำไม่ได้”เขาหันมาก็เลยพากันยกมือไหว้ทั้งหมด ไอ้โรลมันเดินเงียบ ๆ ไปนั่งตักพี่ฟ้าละ
            “นี่น้อง...”ม๊าทำหน้านึกความจำ
            “ทามไงฮะ”เด็กนั่นทำเสียงใส เหมือนว่าจะรู้จักกัน...เลม่อนยื่นมือจะไปดึงน้อง ม๊ารีบเบี่ยงตัวออก กลัวจะได้รับบาดเจ็บ
            “ทามไท? ใช่จริง ๆ ด้วย ทามไท!!!!”ม๊าเขย่ามือ ร้องดีใจลั่น พี่ฐาและคนอื่น ๆ ทำหน้างง...เว้นน้องเจ
            “อ๋อ...ที่เคยไปนอนบ้านม๊า เจจำได้ละ”
            “ฮะ ทามไทไง”เด็กนั่นน้ำตาคลอ
            “รู้จักกันเหรอ”พี่พุทถาม
            “ที่เจเคยเล่าให้พี่พุทฟังไง...ที่บอกว่ามีน้องน่ารักๆ ด้วย นี่ไง...น้องจีน”น้องเจเล่า
            “อ๋อ โลกกลมว่ะ!!!!”
            “แล้วนี่ทำไมมาด้วยกันละครับ”ม๊าถาม
            “อ่อ ฐามันเป็นเจ้าของเกาะที่ไอ้กล้าบอกว่าจะจองไว้ให้ไปเที่ยวกันไง แล้วก็เป็นหุ้นส่วนบริษัทด้วย คนที่มาลงทุนโรงแรมของน้องเจไง”พี่พุทบอกน้องเจ
            “แล้วก็....เป็นแฟนทามด้วย”พี่ฐาพูดยิ้ม ๆ เด็กตัวเล็กนี่หน้าแดง ทุกคนอึ้ง ๆ
            “แล้วลูก?”ผมถามเอง
            “ลูกทามเอง...น่ารักไหม”สีหน้ายิ้มแย้มและเป็นกันเองสุด ๆ ม๊า...ยืนยิ้มกับป๊าสองคน น้องเจก็เล่นกับน้องจีน
            “อือ”ผมตอบ แล้วบ้านทั้งบ้านก็ได้ยินเสียงจอแจวุ่นวายไปทั่ว เลม่อนมันจะเอาน้อง...เพราะคิดว่าน้องเป็นตุ๊กตา มันจะอุ้ม ๆ อย่างเดียวเลย ม๊าตามจับแทบไม่ไหว พี่พุทกับพี่ฐาคุยกันออกรสชาติ มีพี่ฟ้าฟังบ้างมุ้งมิ้งกะไอ้โรลบ้าง ผมนั่งข้าง ๆ ไอ้ติณฑ์ เอามือมันมาเขียนด้วยนิ้วของมัน
            “รัก นะ โว้ย”มันยิ้มเมื่อรู้ความหมาย
            “คืน นี้ นะ”มันเขียนตอบกลับมา กูจ้องหน้ามันนิ่ง ๆ ยิ้มให้โคตรหวานแล้วเขียนตอบกลับไปสั้น ๆ
            “สัส!”ไอ้ติณฑ์หัวเราะร่วน น่าตบ...มันยื่นหน้าเข้ามากูรีบผลักออกเลยครับ คนเยอะแยะ...หยิกมันจนปากเบี้ยวอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า....ถ้ากูล้มไปนะ มีเรื่องแน่!!! ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!

*******************************************




จบ



เฮ้ออออออ...จบห้วนไปไหม แต่มันจบแล้วจริง ๆ นะ





ขอบคุณที่ติดตามอ่าน มึงครับ...กูรักมาก จนจบ


ขอบคุณที่ทวงถาม และขยันทวงบ้าง จิกกัดกันบ้าง ฮาาา เพื่อให้เรื่องจบ


ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน...และชินก็มีความสุขมากกกกกก


ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ


*ไม่รู้จะพูดคำว่าอะไรอีก...รักทุกคนนะ รักมากกกกกกกกกก*







จบแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



















ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ว้าวว ชุลมุนกันมาก เลม่อนนี่ท่าทางจะเป็นมะนาวในอนาคตนะคะ  :laugh:

สองคนนี้รักกันตีกันจริงๆ แต่อยากเห็นนาวเวอร์ชั่นโตจัง

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ janji

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สนุกมากคนแต่ง จบแล้วจิงหรอ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ saradino1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ขอตอนพิฌศษ ฟ้า-แยมโรล

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
สนุกมากก อ่านไปยิ้มไปทุกตอน ขอบคุณคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องน่ารักๆแบบนี้ให้เราได้อ่าน เครียดๆมาเจอนิยายเรื่องนี้แบ้วยิ้มเลย ^^  ขอให้มีผลงานดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆนะคะ จะคอยติดตามเป็นกำลังใจค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :a5:อ่านๆไป อ่าวจบแล้วหรือ ตกใจนิดๆน่ะ แต่ก็ :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สนุกมาก เลม่อนน่ารักมากเลย นิสัยเหมือนนาวเด๊ะเลย 5555
อาก็หลงรักหลาน หลานก็บอกแต่รักนาว รักนาว พ่อสอนมาดี

+1 แทนคำขอบคุณค่ะ
 :กอด1:  :L2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: [ Will You Be Mine ??? ???????...???????? ] ?????? 61- Last 20/12/13 P.15
«ตอบ #449 เมื่อ22-12-2013 11:30:01 »

?????? ?????? ?????? :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด