ตอนที่ 66
วันเล็ก ๆ ของเรา (ติณฑ์นาวม่อน)
[ติณฑ์]
พ่อของไอ้เตี้ยให้ผมนั่งดูเอกสารสินทรัพย์บางส่วนที่จะแบ่งให้ดูแล ท่านถามว่าผมเห็นด้วยไหม อืม...งานรีสอร์ต ซึ่งในส่วนนี้นายฟ้าดูแลให้อยู่ แต่เหมือนเจ้าตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ผมอยากจะถามคุณพ่อว่า...คุณพ่อน่าจะถามลูกชายคนเล็กนะครับ ผมยังเดาใจมันไม่ถูกเลย...ว่ามันจะชอบหรือไม่
“ยังไงก็เปรย ๆ ให้หน่อยแล้วกันนะ”นั่นคือคำของคนเป็นพ่อ ฮา...ผมยิ้มรับแล้วเอาเอกสารยัดลงกระเป๋า ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมและหมวกให้ตัวแสบที่พาหลานออกไปซ่าในไร่
คงเป็นภาพที่ชินตาไปตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ คนงานและทุกคนในบ้านจะเห็นไอ้เตี้ยเดินนำหลาน ซึ่งขาสั้น ๆ เดินตามไม่ค่อยทันอยู่เสมอ บุ้งพามิกกี้มาเยี่ยมชมไร่ วันนี้เลยจะไปปิกนิกกันเล็ก ๆ อุปกรณ์เตรียมมาครบแล้ว ผมเดินเอาเสื้อไปให้มันใส่
“ไม่เอามันร้อน”ทำหน้างอ ไม่ยอมใส่...
“แดดเลียผิวไหม้นะมึง”กระซิบบอก เลม่อนทำหน้างง...มองผู้ใหญ่สองคนยัดเสื้อไปในมือของอีกฝ่าย
“บังคับ?”
“แดดมันร้อน! เดี๋ยวไม่สบายนะ”
“ใส่เสื้อนั่นแหล่ะร้อน...วุ้ย”ทำเสียงไม่ค่อยพอใจ ขี้เกียจเถียงครับ เด็กมันดื้อเถียงไปก็เท่านั้น ที่ทำได้คือเดินหนีดีกว่า ไม่อยากเหวี่ยงใส่ให้เสียอารมณ์
“ม่อนอุ้ม”เลม่อนยื่นแขนเล็ก ๆ จะให้ผมอุ้ม ผมหัวเราะ
“อุ้มม่อน ไม่ใช่ม่อนอุ้ม”แก้ให้ ยิ้มเยาะ ๆ ให้ไอ้เตี้ยนิดนึง ให้มันยืนกัดปากตัวเองอยู่นั่นแหล่ะ ง้อมากแล้วได้ใจ
“ป่ะ ม่อนกินแซนวิชดีกว่า ติณฑ์ทำแซนวิชมาให้ม่อนคนเดียวเลยนะ”
“เย้ ม่อนอยากกินทูน่า”
“ทูน่าก็มี ไก่ทอดของโปรดใครน้า”พูดเสียงดัง ของโปรดไอ้เด็กข้างหลังนี่แหล่ะ หึหึหึ....ไหนจะข้าวผัดซีอิ้วที่มันอยากกินอีก อุตส่าห์หมักหมูไว้ซะอร่อยเลย นุ่มลิ้นมาก ๆ ใส่ผัก ใส่ไข่แบบเต็มที่เลย แกงจืดปลาหมึกยัดไส้อีก...โอ๊ยยยย หิวกันเลยทีเดียว
“จะใส่ยังไงละ เสื้อเนี่ย!!!!!!”เด็กข้างหลังบ่นไม่พอจับเสื้อเหวี่ยงกลับด้านไปมา ผมถอนหายใจ...และยืนมองมันอยู่
“จึ้ก~”จู่ ๆ มาเหวี่ยงโว้ย...ห่า กุต้องเดินกลับไป...วางเลม่อน แล้วดึงเสื้อมาจากมือมัน
“หน้านี่งอดีจังเลยนะ”
“เสือก”
“หึหึหึ....”กลับด้านเอาแขนเสื้อออกให้ได้ตามทรง แล้วยื่นไปให้มัน...เจ้าตัวรับไปใส่หน้างอ ๆ
“ใส่หมวกด้วยนะ”ผมยื่นหมวกให้มัน มีอีกใบให้เลม่อน...
“ไม่เอา”พูดเสียงเบาลง...
“ใส่แล้วน่ารัก ใส่เถอะ...อย่าให้โมโห”
“มึงชอบบังคับ...”
“ไม่รักจะไม่พูดด้วยเลยครับ”ใส่หมวกให้อาหลาน แล้วพากันเดินดูต้นไม้ไปเรื่อย ๆ เจ้าตัวเล็กดูคล้ายจะง่วงนอนอยู่หน่อย เพราะออกมานี่กันตั้งแต่เช้าแล้ว
“หิวกันหรือยัง”
“อือ”จะเที่ยงแล้ว ผมเดินนำมาที่ปูเสื่อไว้รอ...ข้าง ๆ มีกระติกอาหารอยู่เยอะแยะ โต๊ะเล็กญี่ปุ่นถูกกางไว้เตรียมพร้อม ไอ้เตี้ยวิ่งไปนอนบนเสื้ออีกด้าน เลม่อนก็ดิ้นจะลงแล้วลงไปนอนซบอกผู้เป็นอา
“หิวววววววววววว”
“รอบุ้งกับมิกกี้ก่อนแล้วกัน”ผมบอก ไหนจะนายฟ้าอีก แต่คนหลังบอกว่าไม่ต้องรอ...บางทีอาจไม่มีเวลามาอยู่ทานด้วย
“ติณฑ์...”
“ครับ”
“หิวแล้ว~”
“ไม่รอพี่มึงเหรอ จะกินเลยไหมละ”ผมถาม มันพยักหน้า...เลม่อนนอนกลิ้งกับเสื่อ
“กรี๊ดดดดดด คริคริคริ”ไอ้เตี้ยฟัดพุงหลานไปสองดอก ไอ้ตัวเล็กนี่ก็ชอบนะ...ไม่ใช่ว่าไม่ใช่ชอบ
เปิดกล่องผัดซีอิ้วแบ่งใส่จานให้ แล้วเทแกงจืดปลาหมึกออกจากแพ็คที่เก็บความร้อนได้ ยังอุ่น ๆ อยู่เลย...ผมเลื่อนจานแซนวิชออกมาวาง
“น้ำเปล่านะ”
“อ้าวววว แปปซี่ไม่มีเหรอ?”
“กินมากท้องอืด”ผมบอก
“ก็ดะ”ยื่นมือไปหยิกจมูกรั้น ๆ นั่นสักที วันนี้ว่าง่ายดีจัง
“พรุ่งนี้กลับแล้วนะ”คนตรงหน้าหันมาทำหน้างอ...เหมือนว่าเสียดาย
“ทำไมเร็ว”
“ก็เลม่อนต้องกลับไปทำเรื่อง...แล้วมึงก็ต้องกลับไปเรียน”มันเงียบซึมไปเลย ผมกอดมันเบา ๆ
“อีกสามสี่เดือนก็ได้เจอกันแล้ว”ผมบอก
“ทำไมนาน?”ผมยักไหล่ ขำหน้ามัน...หลอกง๊ายง่าย
กินเก่งกันทั้งคู่...แต่เลม่อนยังติดเล่นและผมต้องป้อนมันบ้าง กินของตัวเองบ้าง ไอ้เตี้ยแทบจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมต้องร้องห้ามเพราะว่าอยากเหลือให้พี่มันกินด้วย นั่งทานกันสักพักบุ้งและมิกกี้ก็เดินเข้ามา
“เป็นไง อร่อยไหมครับ”บุ้งนั่งข้าง ๆ น้องชายตัวเอง
“มอมหมี่...ม่อนมีฟันสวยยยย”จู่ ๆ เจ้าตัวก็อวดฟันของตัวเอง เมื่อเช้า...คุณอาแปรงให้เชียวนะ ไม่สวยได้ยังไง
“ครับ น้องเลม่อนต้องแปรงฟันทุกวันจะมีฟันสวย ๆ”มิกกี้ยิ้มยีฟัน
“กินเลยไหม”ผมยกจานให้ ทั้งคู่นั่งข้าง ๆ กัน ตักข้าว...เตรียมทานข้าวกลางวัน สงสัยเด็กข้าง ๆ ผมจะยังงอนพี่ชายไม่หาย ถึงกับไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย
“อร่อยจัง น้องทำเหรอครับ”ผักบุ้งพูดเอาใจ แต่คนตรงหน้าเบะปาก...กิน ๆ ส่วนของตัวเองเงียบ ๆ เป็นอันรู้กันว่าอย่างไปเซ้าซี้ ไม่งั้นระเบิดลงแน่ ๆ มิกกี้เหมือนจะชินที่มันเป็นแบบนี้...เธอก็เงียบ ทำเป็นคุยเรื่องอื่น ๆ ไป
“ตกลงจะย้ายมาอยู่ที่นี่เลยไหมครับ”ผมถาม เพราะว่าคุณพ่อก็เตรียมถมดินสร้างบ้านให้แล้ว มิกกี้ยิ้มบาง ๆ ป้อนอาหารใส่ปากเลม่อน
“ก็....ต้องไปเก็บวิชาให้ครบ มิกกี้ก็ต้องกลับไป...หาครอบครัว...”บุ้งมองหน้ามิกกี้
“ครอบครัวอยู่ที่โน่นหมดเลยเหรอครับ ทำอะไรกัน?”ผมถาม
“มีบริษัทที่โน่นค่ะ ก็คงกลับไปช่วยที่บ้านก่อน...ส่วนเจ้าตัวเล็กนี่ อาจจะต้องให้มาเรียนที่นี่ สักห้าขวบค่อยดูว่าจะเอายังไงกันต่อ ได้ไหมคะ?”
ผมยิ้ม...ในใจตอบไปแล้วว่าไอ้ แต่อีกคนกลับเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร หึหึหึ...
“ม่อนอยากอยู่”เลม่อนมองตาแม่ตัวเอง
“จ้า อยู่ที่นี่ต้องห้ามดื้อนะ...ไม่มีมอมหมี่แล้ว”
“ม่อนไม่ดื้อ...ถ้าดื้อนาวไม่รัก”
“เหอะ! ปกติฉันรักแกเหรอว่ะ?”ไอ้เตี้ยพูดลอย ๆ ผมตบหลังมือมันเบา ๆ
“ดูแลน้องให้พี่นะ....พี่รู้ว่าเราดูแลได้”ผักบุ้งยิ้ม
“......................................”
“โหเงียบแบบนี้ พี่ใจเสียนะเนี่ย...ตัวเล็ก บอกพี่หน่อยเร็ว...ว่าเราจะดูแลเลม่อนได้”
“.......................................”ผม มิกกี้ และบุ้งแอบยิ้มออกมาพร้อมกัน
“ถ้าไม่ได้...คงจะต้องจ้างพี่เลี้ยงพี่โน่นละครับ มิกกี้ตอนนี้เป็นตัวหลักของที่บ้านเขา ผมก็ทำงานด้วย...เรียนด้วย เวลาคงจะมีไม่พอ”บุ้งหันมาบอกผม
“ครับ”
“แต่จ้างพี่เลี้ยงก็ยังไม่รู้ว่าจะไว้ใจได้รึเปล่า...เจอโหด ๆ นี่ เลม่อนแย่แน่เลย...แกไม่ค่อยติดใครด้วย”อันนี้ผมเห็นด้วยนะ เลม่อนสนุกสนานกับทุกคนก็จริง แต่รู้เลยว่าถ้าแกติดใคร...จะคอยแต่มองหาตลอดเวลา อันนี้ผมสังเกตเอาจากเวลาเลม่อนตื่นนอน น้องเจกวาดตามองหาไอ้เตี้ยก่อนเลย ถ้าไม่เจอก็จะถามว่าอยู่ไหน...ซึ่งปกติแล้วผมเป็นคนหาข้าวหาน้ำป้อนให้ด้วยซ้ำ แต่น้องไม่เอา TT
“แพงไม่ว่า...แต่กลัวจะมาทำอะไรลูกเรา”มิกกี้พูดเป็นการเป็นงานขึ้น
“เอาไงดีครับ”พี่ชายหันไปหาน้องชาย
“ม่อนอยู่กับนาว...”เลม่อนไปกอดคออาแล้ว รู้ด้วยนะ...ว่าผู้ใหญ่พูดอะไรกัน
“อานาวเหมือนไม่ให้อยู่ด้วยเลยครับเลม่อน ป๊าพาเรากลับดีกว่า”
“ไม่!!!!!”เลม่อนกอดคออาแน่น บีบน้ำตา...เห็นไหม ร้องไห้ง่ายจะตาย
“เจ็บนะ!!!”ไอ้เตี้ยพยายามแกะมือหลานออก แต่ไม่ออก...เดี๋ยวนี้เพิ่มฟังก์ชั่นกระทืบเท้ามาด้วย
“ม่อนจะอยู่กับนาวววววว”
“อยู่กับป๊าเห๊อะ...อานาวเบื่อม่อนแล้ว”บุ้งแกล้งลูกตัวเอง
“ฮึก....”เลม่อนก้มหน้าจ้องตาอา
“อะไรเล่าไอ้เตี้ย!!! วุ้ย!!!!”เดี๋ยวนี้เรียกหลานว่าเตี้ยนะครับ
“จุ๊บ....”
“โว้ยยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวเหอะๆ”เลม่อนเอาปากมัน ๆ จุ๊บปากอาอีกแล้ว หลานตัวเล็ก...กอดคอแล้วหัวชนกับอา ไอ้เตี้ยนี่ก็นั่งหน้าแดง เพราะความอาย เลม่อนเลยนั่งตักกอดแขนไม่ลุกไปไหนอีก
ไม่บอกก็คงมีคำตอบอยู่แล้วกันทุกคน ทำไงจะแยกอาหลานคู่นี้ได้...เลม่อนติดไอ้เตี้ย จนไม่เอาใครทั้งนั้นแบบนี้ ผมเริ่มเห็นหายนะอีกสองสามวันที่เลม่อนต้องกลับเยอรมัน เดี๋ยวค่อยถาม...ว่าไอ้เตี้ยจะไปส่งหลานไหม
“หิวนม”
“เฮ้ย!!!!!!!!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”หัวเราะกันร่วน แม้กระทั่งเด็กน้อยไหลลงไปนอนตักอาด้วยหน้าที่เปื้อนน้ำตาอย่างนั้น เลม่อนบอกหิวนมแล้วดันเลิกเสื้อคุณอาขึ้น
“ไอ้นี่...นี่โว้ย!!!”
“นาวครับพูดกับน้องดี ๆ”
“ไอ้นี่...โว้ยย”เลม่อนพูดตาม ไอ้เตี้ยตีปากหลาน
“ถ้าพูดตามจะไม่รัก”ผลักหลานออก...ก้นกระแทกพื้น แต่เลม่อนก็ดีดตัวขึ้นมานอนตักอาใหม่
“ไม่พูดๆ นาวรักม่อน” (จริง ๆ ต้องม่อนรักนาว) ผมมองหน้าบุ้ง....ใครเสร็จใครครับงานนี้????
ทานและเล่นกันไปเรื่อย ๆ จนอิ่ม...ผมอยากจะเดินดูไร่อีกสักหน่อย กลับเข้าบ้านคงไม่ได้ออกมาแล้ว ชวนไอ้เตี้ยออกมาด้วย...ไม่ชวนเดี๋ยวมันงอนหนัก หาว่าทิ้ง...ไอ้เตี้ยมา เลม่อนก็ต้องมาตามก้นกัน ฝากของให้บุ้งเก็บ...และเอารถกอล์ฟกลับไปด้วย ผมให้เลม่อนขี่หลัง...เดินมาจนเกือบถึงโรงปศุสัตว์มีวัวและม้าเรียงกันอยู่ในคอกมากมาย
“ติณฑ์~~~~~~~~~~ ขุนเชื่องงงงงง มะกรูดลูกพ่ออออออออ”ไอ้มะกรูดกลายเป็นหมาประจำโรงปศุสัตว์ไปแล้ว เห็นคุณแม่บอกว่ามีสัตวแพทย์ประจำที่นี่ ขอเลี้ยงไว้...จนมันติดเขาไปเลย
ไอ้มะกรูดกระโดดดีใจเห็นเจ้านายเก่า ดีดดิ้น...วิ่งไปมา เลม่อนอยากลงไปวิ่งบ้าง...แต่ผมจับไว้แน่น กลัวหมาตะกุยหน้า มะกรูดมันชอบเลียกลัวน้องติดเชื้อโรค ส่วนไอ้เตี้ยภูมิต้านทานมันดี...ไม่เป็นไร ฮา
บ๊อกๆ ๆ ๆ เสียงเห่าดีเหลือเกิน
“มันอ้วนขึ้นไหม”ผมถาม ไอ้เตี้ยพยักหน้า
“ม่อนเอาเปล่า มะกรูด”
“เอา ๆ ม่อนอยากได้”
“อย่าจับมัน!!! เดี๋ยวต้องไปล้างมืออีก”ผมร้องห้าม
“ก็ทำไมละ...จะเอาก็ลงมา”เลม่อนดิ้นลงจนได้ ผมถอนหายใจ...ดูแล้วว่าระวังดี ปลอดภัย จึงค่อย ๆ เดินดูคนงานล้างคอกทำความสะอาด วัวพวกนี้ถูกต้อนเข้ามาแล้ว...แต่บางส่วนจะถูกปล่อยไว้ให้กินหญ้าข้างนอกจนเย็น เดินนับดูมีประมาณ 10 กว่าตัวได้ ส่วนม้าก็ดูแก่ ๆ หลายตัว
“ติณฑ์เอากลับได้ไหม”ไอ้เตี้ยกอดมะกรูดพร้อมจูบปากหมา คิดในใจ! ระหว่างมันยังไม่แปรงฟันอย่ามาจูบกูนะเฟ้ย! ยี้!!!!
“เอาดิ”ผมบอกคิดถึงมันเหมือนกัน
“อะไรครับ ๆ ใครจะเอาหมาไปไหน”เสียงตะโกนดังข้ามคอก ผู้ชายสูงใหญ่ท่าทางมีอายุใส่แว่นเดินเข้ามา
“ลุงหมอ”ไอ้เตี้ยวิ่งไปกอด
“เฮ้ย!!!! ลุงเพิ่งไปล้วงก้นวัวมา”ผู้เป็นลุงเอามือออก ไอ้เตี้ยทำหน้ายี้...ผละออกมา ฮ่าฮ่าฮ่า
“ไปไงมาไงละเรา วิ่งมาเล่นถึงนี่ได้”
“พาคนมาไม่เห็นวัวเห็นควาย~ มาดูวัวดูควาย~ แถวนี้ละครับ”เน้นคำหลังแล้วหันมามองผม
“เรานี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้
“ลูกเขยประสิทธิ์เหรอเนี่ย หล่อ ๆ แต่น้อยกว่าลุงนิดนึง”ผมหัวเราะ กับท่าทางใจดีและเป็นกันเองของท่าน
“ลุงสนิทเป็นพี่ของพ่อกูน่ะ”มันกวนผมต่อ ผมยิ้ม ๆ ไม่ใส่ใจเด็กน้อยตรงหน้า
“ก็เป็นเครือญาติกันนี่แหล่ะ เป็นไง...สนใจเลี้ยงวัวหน่อยไหม”ลุงสนิทถาม ชี้ให้ดูวัวมากมายเรียงยาวไปสุดใต้หลังคา
“ก็คิดว่าสนใจดีครับ”ผมตอบกลาง ๆ เป็นคำตอบที่ไม่ให้เสียน้ำใจของผู้ใหญ่
“อือ ดี...หน่วยก้านดี รูปร่างแบบนี้ดูวัวกระทิงได้ทั้งฝูง”ลุงแซว
“ฮ่าฮ่าฮ่า”ผมหัวเราะออกมา ชอบหรือด่าว่ะ!? ฮ่าฮ่าฮ่า
“แม่บอกไอ้กรูดมันติดลุงแล้วเหรอ ลุงหมอมีดีอะไร...บอกมานะ”ไอ้เตี้ยทำหน้าจริงจัง
“ให้ข้าวมันกิน...มันก็ติดทั้งนั้นแหล่ะ ขึ้นชื่อว่าหมา”
“อือ ลึกซึ้ง...จริง ท่านลุง”
ผมว่าก่อนที่มันจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ ต้องรีบพามันกลับบ้าน...ฟ้ามืด ๆ ไม่นานฝนคงตกแน่ ๆ เราบอกลาคุณลุงสนิทแล้วเดินจากมา ไอ้มะกรูดทำท่าจะวิ่งตามมาด้วย...แต่ถูกกลั้นเข้าคอกเสียก่อน ไอ้เตี้ยกอดเอวผม
“หมากู~”มันครางเบา ๆ ผมกอดมันไว้รู้ว่ามันก็รักหมาที่ซื้อมาไม่น้อย
“เอาไว้ค่อยมาเล่นใหม่”ปลอบมันไปตลอดทาง เลม่อนตาปรือ ๆ เหมือนจะหลับ...ผมอุ้มเด็กน้อยไว้จนถึงบ้าน
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
กลับมากรุงเทพฯ หลายวันแล้ว ไอ้เตี้ยมันไปเรียนปกติ กลับมาก็เหนื่อยอ่อนไปแทบทุกวัน ถามว่าเรียนหนักไหมก็ไม่ตอบ มันบอกแค่ว่า...ใครสักคนในห้องนี่แหล่ะ กวนตีนมัน...ไม่ยอมบอกว่ามีสอบ ทั้ง ๆ ที่อาจารย์ก็บอกทุกคนแล้ว ผมบอกไม่ให้ไปมีเรื่องอะไรอีก วันนี้ก็เหมือนกัน...มีเรียนตั้งแต่แปดโมงเลิกเที่ยง กลับมาก็วางหนังสือ น้ำไม่อาบ ข้าวไม่กิน...เข้าไปนอนในห้องเลย ไอ้เราก็ต้องตามแก้เสื้อผ้า...เปลี่ยนชุดให้ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะเห้ย มีอารมณ์เหมือนกัน...รออีกไม่กี่วันพ่อจะจัดเต็มให้ เอาให้คุ้มสุด ๆ เลย สี่โมงเย็นผมถึงไปปลุกมันตื่น...กลัวว่าจะนอนนานเกินไปเดี๋ยวปวดหัว พรุ่งนี้ตีสี่เลม่อนเตรียมตัวกลับเยอรมันแล้ว...พ่อแม่มันก็มานอนที่บ้านเตรียมไปส่งหลานวันพรุ่งนี้ ปู่ย่าตายายอยากตามมาก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ชอบนั่งรถกันนาน ๆ ปวดเมื่อยกันง่าย
“เลม่อนมาหาย่าหน่อยเร็ว”คุณแม่เรียกเลม่อน เด็กน้อยสนใจแต่ของเล่น...
“เลม่อนคุณย่าเรียกเร็วลูก”บุ้งก็เรียก เลม่อนไถรถไปหา...กำลังติดเล่นรถ
“เอ้านี่คุณย่าให้นะครับ...ไว้กินขนมน้า”โห...เงินเป็นปึกเลยครับ
“เลม่อนไหว้คุณย่าสวย ๆ”พ่อมันพูดครับ แหม่....มารยาทดีขึ้นมาซะงั้นเลม่อนกราบงาม ๆ ก่อนที่พ่อมันจะเอาเงินในมือออก ไอ้เตี้ยเดินหาวเข้ามา เมียกู...ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาโคตรสั้น!
“ฮาววววว หิวข้าวอ่ะ”มันเดินบ่นเข้ามา...นั่งกอดเอวแม่
“พ่อเก็บไว้ให้นะครับ”บุ้งกระซิบบอกลูกชายตัวเอง
“ไม่!!!! ม่อนจะให้นาว”ฮา เอาแหล่ว ๆ ทุกคนหัวเราะ
“เอามาให้พ่อเก็บไว้ ซื้อขนมไง...”
“ไม่เอา ให้นาว”
“มา ๆ เอามานี่...”ไอ้เตี้ยแบมือออก เลม่อนก็วางเงินบนฝ่ามือ...กร๊าก ๆ
“ดีมาก...เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องใช้เงิน จำไว้!!!!”เลม่อนเหมือนจะเข้าใจ แต่ทำหน้างง...แล้วไปเล่นรถในมือต่อ
“เสร็จโจรใช่ไหมแม่”ไอ้เตี้ยยักคิ้วถามแม่มัน แกว่งเงินในมือไปมาเหมือนรำพัด บุ้งก็ไม่กล้าพูดทวงน้องไง...มิกกี้ยิ้มไปยิ้มมาเหย ๆ
“เอาให้พี่เขาเก็บไว้”
“แม่ให้มันเยอะเกินไปป่ะเนี่ย”
“มันเมินอะไร...พูดจา เราใช้เยอะกว่านี้”แม่ลูกเถียงกันละครับ
“เยอะอะไร ตอนเค้าเด็ก ๆ เค้าไม่เคยจับเงินขนาดนี้เลยเหอะ”
“ใช้ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าโรงเรียนอะไร”แม่เริ่มมั่วไปทางไหนนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า...คนแก่มักเป็นงี้ละ เถียงเราก็ไม่ทันก็ไปขุดเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ พ่อแม่ผมก็เป็น...แต่มันเป็นการเถียงการสนุก ๆ ภายในครอบครัว ไม่ได้ถือเป็นเรื่องซีเรียสจริงจังอะไร
“แม่มั่วตลอด”ไอ้เตี้ยหัวเราะ นับเงินในมือ...ห้าหมื่นบาท!!!!!!
“อะ”มันยื่นให้มิกกี้ เธอตกใจเล็กน้อย...เพราะปกติไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับไอ้เตี้ย ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ หน้าเป็นชมพูเรื่อ ๆ
ไอ้เตี้ยมันก็เขิน ๆ แต่ทำเป็นนิ่ง...เหอ ๆ พี่สะใภ้กับน้องสามีมือใหม่ก็เงี้ย ไม่เหมือนผม...ผมเข้ากับทุกคนง่าย คืนนี้คือคืนสุดท้ายที่ไอ้เตี้ยและเลม่อนจะได้อยู่ด้วยกัน คุณอานอนริม...ส่วนเลม่อนนอนกลาง กินข้าวอาบน้ำแล้วก็ขึ้นเตียงกันเรียบร้อย ผมบอกว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ...นี่สองทุ่มครึ่ง ควรนอนได้แล้ว...เลม่อนขึ้นเครื่องตอนตี 4.30 น.
“หอมติณฑ์ คึคึคึ”ไอ้เตี้ยสั่ง...เลม่อนวิ่งมากระโดด ๆ ดึงกางเกง
“อะไรเล่าเห้ย”ผมดึงขึ้นแทบไม่ทัน ไอ้สองคนก็หัวเราะคิกคัก...เลม่อนเห็นว่าผมไม่ย่อตัวให้แน่ พี่ท่านทำไงรู้ไหมครับ จุ๊บตรงหน้าขา แล้ววิ่งกลับไปหาอา...
“ไม่ได้ๆ ต้องหอมแก้ม”เห็นได้ชัดว่าแกล้งหลาน เลม่อนวิ่งมาอีก...ดึงกางเกงผม
“ติณฑ์ๆ”
“วุ้ย...อะไรครับ!!!! ติณฑ์ทาแป้งก่อน”
“หอมมมม ม่อนจาหอมมมม”ย่อตัวลง ยอมให้ก็ได้...
“จุ๊บ”ไอ้บนเตียงเอามือกุมท้องหัวเราะ อะไรของมันว่ะ
“ยี้....”เลม่อนเอามือปิดปากหัวเราะตามอา อะไรของมันสองคนว่ะ...รู้สึกชีวิตไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมาแล้วละสิ นี่หวีผมไปอย่างระแวงสุดฤทธิ์
“แปะแก้มติณฑ์”ไอ้เตี้ยสั่ง ตัวน้อยก็วิ่งมา...หาผม ยื่นมือขึ้นมา...คราวนี้รู้ละ มันเทนมใส่มือหลานเพื่อจะเอามาแปะแก้มผมให้มันเหนียว ๆ เมื่อกี้...มันคงเอานมเหยาะ ๆ ใส่รอบปากหลาน เพราะผมรู้สึกเหนียวแก้มขึ้นมาทันที กูก็ว่า...ได้กลิ่นนมอะไรว่ะติดจมูก
“กร๊ากกกๆๆๆๆๆ”
“ฝีมือใคร!!!”ผมจ้องหน้ามันสองคน
“หนี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆ”เลม่อนวิ่งหาอาวิ่งไปกรี๊ดไป ไอ้อา...ก็วิ่งกระโดดขึ้นเตียงรอบห้อง เป้าหมายง่าย ๆ ขาสั้น ๆ ก่อนครับ
“มานี่ซะดี ๆ”ทำเสียงขู่ฟ่อด้วยครับ อุ้มเลม่อนชูขึ้นเหนือหัว...ไอ้นี่ก็กรี๊ดดีจริง ๆ
“กรี๊ดๆ ๆๆๆๆๆ ตุ้บ ๆ ๆๆๆ ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆ กรี๊ด”
โอ๊ย...กู!!!!!!! ถูกเลม่อนเอาเท้าถีบหน้า...แถมยังตบหน้าผมไม่ยั้งอีก แทบจะเหวี่ยงหลานฟาดกับนอน
“ฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ยยย..กูขำไม่ไหวละ!!!!”ไอ้เตี้ยยืนหัวเราะอยู่มุมห้อง ผมวางเลม่อนบนเตียง
“ฮะ ๆ ยะ อย่าๆๆๆ”
“มานี่!!!!!”ไอ้เตี้ยมันจะหนีครับท่านผู้ชม กอดรัดกันไปกันมา...มันก็ลงไปนอนกับพื้น ทำตัวหนัก ๆ ให้ผมลากไม่ได้ แต่กูคือคนเหล็ก ฮ่าฮ่า
“กรี๊ดดดดดด นาวๆๆๆ”เลม่อนหัวเราะบนเตียง กระโดดไปมา...เหย่งๆ
ผมจับข้อเท้าลากไอ้เตี้ย...เหมือนมวยปล้ำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นแชมป์ปีล่าสุด ไอ้เตี้ยมันดิ้น ๆ หนี แต่ไม่หลุดว่ะ ตีนอีกข้างมันไม่ปล่อยให้ว่างเปล่านะ ถีบบ้างอะไรบ้าง ตุ้บตั้บ ๆ จนต้องรวบ...สองข้าง
“มานี่...”
“อร๊ากกกกก ปล่อยกูๆๆๆๆ ปล๊อยยยยยย”
“กรี๊ดดดดดดดดด นาว ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ดดดด”เลม่อนนี่สะดิ้งแต่เด็กนะครับ เหมือนดีใจที่อามันโดนผมจับได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
“แฮ่ก ๆ”ไอ้เตี้ยหอบละ
“ปล้ำเลยดีไหม”ผมมองตามันแกล้งจะทำเป็นถอดเสื้อ
“เฮ้ย!!!!! ปล๊อยยยย!!!!!”
“ทำนาวไม!!!!! ทำนาวไม!!!!”เลม่อนดึงคอเสื้อผม แล้วกรี๊ดลั่น
“ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออ”ผมกับไอ้เตี้ยตกใจพอกัน...ผละออก แล้วอุ้มเลม่อน
“โอ๋ ๆ ไม่ได้ทำครับ หยุดร้องเร็ว”ผมปลอบ...ไอ้เตี้ยตกใจนั่งกัดเล็บตัวเอง
“ฮืออๆๆๆๆ”
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูรัว
“ติณฑ์...พ่อกับแม่นะ มีอะไรกันลูก”ผมเดินอุ้มเลม่อนไปที่ประตู เปิดออก...ยืนกันครบเลย
“มีอะไรกัน...เสียงเลม่อนดังไปถึงข้างล่าง”สีหน้าท่านดูตกใจมาก ๆ ผมยิ้มแหยะ ๆ ให้รู้ว่าไม่มีอะไรร้ายแรง
“เล่นกันครับ เลม่อนร้องเลย”
“ฮือออออออออ”
“โอ๋ ๆ มาหาพ่อมะ”บุ้งอุ้มไปปลอบ ไอ้เตี้ย...พอสภาพตัวเอง เหมือนถูกรุมโทรม...เดินมาหาแม่ แม่ปัดผมมันให้เข้าที่
“ทำอะไรน้องนะ...มะนาว”
“ทำที่ไหน ไอ้ติณฑ์หรอก...มันแกล้งอ่ะ”กอดเอวแม่ใหญ่ พ่อมันตบหลังหลานคนเล็ก...ที่สะอื้นไห้ไม่หยุด
“พูดกับพี่เขาดี ๆ”
ทุกคนยืนมองเลม่อน...คอยปลอบบ้างอะไรบ้าง
“น้องไม่หยุดหรอก ต้องให้มะนาวอุ้ม”มิกกี้แนะนำ
“หยุดครับคนเก่งไม่ร้อง...”บุ้งอุ้มต่อ...แต่ก็ไม่ยอมหยุดจริง ๆ
“นี่ไง...อานาวไม่เป็นอะไรเลย ยืนดูลูกอยู่นี่”บุ้งหันเหความสนใจ
“เออ ให้มันดูหน้าอามัน”คุณพ่อพูดนิ่ง ๆ เลม่อนหันไอ้เตี้ยก็อ้าแขนจะไปหา เงียบกริบ...กอดคอแน่น
“พรุ่งนี้ใครจะเอาอยู่ละเนี่ย”คุณแม่แซว...ตบหลังหลานเบา ๆ ยืนกันอยู่หน้าห้องสักพัก
“ไป ๆ แยกย้ายกันไปนอน....อย่าพาหลานเล่นอีกนะ”ท่านหันมาเตือนอีกหน ก่อนจะพากันเข้าห้องใครห้องมัน ผมมองหน้ามันแล้วยักคิ้ว
“มองหน้าผัวทำไมเตี้ย!”
“หน้ามึง...คล้าย ๆ ว่ากูเคยเห็นที่ไหน”
“ที่ไหนว่ะ?”เดี๋ยวนี้มันเพิ่มสกิลแล้วนะ มือนึงอุ้มหลาน...อีกมือจับคางผมเบี่ยงไปซ้ายทีขวาที แล้วทำหน้าจริงจัง
“ตัวที่แม่งชอบเลื้อยในสภาอ่ะ...รู้จักป่ะ”แล้วมันก็หัวเราะคิกคัก เอาหน้าผากชนกับเลม่อนหัวเราะ หน็อยยยย!!!
จุ๊บ~
ก้มจุ๊บแม่ง...ไอ้คุณอาเม้มปากตัวเอง หยุดขำแล้วหน้าแดง
“ใครบอกให้ทำ!”
“จุ๊บ~” โดนอีกที เลม่อนหัวเราะ...
“รู้สึกยังไง...ได้จุ๊บเหี้ย?”
“สัส”
“หน้าแดงทำไม???? หน้าแดงทำไมครับ?????”มันอุ้มหลานไปวางบนเตียง...เลม่อนไม่ยอม จึงต้องไถลลงไปนอนด้วยกัน
“หึหึหึ”ผมหัวเราะแบบผู้ชนะ
“นาวรักม่อน”เลม่อนพูด...กลับกันอีกละ
“จุ๊บบบบบบบบบ”คุณหลานจุ๊บปากคุณอา
“รักมากไหม”ผมถาม ห่มผ้าให้ทั้งคู่...
“มาก ๆ ม่อนรักนาว นาวรักม่อน”ไอ้เตี้ยยิ้ม...โดนหลานเอามือลูบแก้ม
“พรุ่งนี้ใครจะงอแงก่อนกัน!?”ผมถามลอย ๆ นึกห่วง...ถึงวันต่อไป
กว่าจะหลับได้...เฮ้ออออออออออออออออออออออออ ได้ยินเสียงมันเล่นกัน...จนเสียงค่อย ๆ เงียบไปเอง ผมค่อย ๆ ย่องเปิดลิ้นชัก เอารูปที่ให้เด็กไปล้างออกมา...เอาไปให้บุ้งกับมิกกี้ชุดนึง ส่วนอีกชุดนึงเก็บไว้เอง เป็นรูปที่อาหลานได้ใช้เวลาร่วมกันอยู่ที่นี่ ก่อนจะกลับมากอดไอ้เตี้ย...มันยิ้มให้กับผมเบา ๆ
“จุ๊บ...”
“รักมึงรู้ไหมครับ”มันพยักหน้า
“ขอบคุณนะ....”จูบหน้าผากแล้วปล่อยให้มันกระชับอ้อมกอดหาหลานต่อไป ผมเดินอ้อมมานอนอีกฟากนึงของเตียง ยืนมือไปจับมือมันไว้ นอนกอดกันทั้งสามคน ไม่อบอุ่นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว~