,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}  (อ่าน 89093 ครั้ง)

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
พฤติกรรมของขิงกับแม่ดูแปลกๆนะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
โห .. เอ่อ ... เฮ้อออออออ

ไม่หนักไปทาง "ดราม่า" หรอกเนอะ
รับไม่ได้อะ หัวใจบอบบาง สงสารน้องขมิ้น

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :3123: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
-22-




       ผ่านคืนที่ใจเต้นหนักมาแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะผมใช้หมอนข้างคั่นกลางเอาไว้ ถึงจะอย่างนั้น พี่ไฮท์ก็ชอบแอบตีเนียนหยิบมันปาทิ้งอยู่เรื่อย และก่อนจะหลับสนิท ผมก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูว่า รัก

   ผมกลับมาบ้านหลังใหญ่เพราะอยากคุยกับคุณลุงเจ้าของบ้าน แต่ดันพบว่า มีคนพาลุงแกออกต่างประเทศไปเมื่อเช้ามืด สรุปแล้วผมก็ต้องรับของพวกนั้นใช่ไหม ทำไมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย

   “มาแล้วเหรอ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงแม่ดังมาจากด้านหลัง ผมที่กำลังจะก้าวขาขึ้นชั้นบนจำใจต้องเดินตามแม่ไปในสวนข้างบ้านแทน “ที่แกพูดหมายความว่ายังไง จะไม่เป็นพี่แกแล้ว”

   “ก็ตามที่พูด ผมจะกลับไปอยู่บ้าน จะกลับไปเป็นไอ้ขมิ้น”

   “ไม่ได้ ฉันไม่อนุญาต”

   “แม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะกักขังผมไว้ ผมเป็นพี่ขิงตลอดไปไม่ได้ เพราะชีวิตของผมจะหายไป ชีวิตของขมิ้นจะหายไป แม่เข้าใจไหม ผมช่วยพี่ขิงมาเยอะแล้ว โดนด่า โดนตบ โดนต่อยแทนมามากพอ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”

   “นั่นพี่แกนะ แกไม่รักพี่แกเหรอ”

   “แล้วพี่ขิงรักผมไหม พ่อเคยบอกว่าอย่ารักคนที่ไม่รักเรา เพราะเราจะเจ็บเอง”

   “อย่าพูดถึงพ่อแกต่อหน้าฉัน”

   “พ่อผม พ่อผม พ่อผม”

   ตีรวนจนแม่ยกมือจะฟาด หากมีมือใหญ่คว้าเอาไว้ทัน ตอนนี้ใบหน้าพี่ไฮท์นิ่งมาก เรียกได้ว่าไร้ความรู้สึกใดๆ ต่างจากแม่ผมที่ยืนตัวสั่นด้วยความโมโห

   “แกเป็นใคร เข้ามาในบ้านนี้ได้ยังไง!”

   “ผมเป็นแฟนของขมิ้น”

   “แฟน...แฟนขมิ้น? นี่แกมีผัวเป็นผู้ชายเหรอฮะ ไอ้ลูกชั่ว” เจ็บมากกับคำๆ นี้ ผมกัดริมฝีปากแน่นจนรู้สึกคาวในปาก “ฉันให้แกมาเป็นขิง ไม่ได้ให้มาหาผัว เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบ” สายตาของแม่ตอนนี้ดูรังเกียจผมมาก ร่างผอมๆ ขยับออกห่าง

   “ขมิ้นไม่ได้หาหรอกครับ ผมยัดเหยียดให้เอง ขอโทษด้วยที่ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อไฮท์ รุ่นพี่ของขิง” พี่ไฮท์ตอบเสียงเย็นมาก มือใหญ่ดึงให้ผมมายืนด้านหลัง ผมรีบจับแขนเสื้อพี่ไฮท์แน่น “คุณน้าไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ เพราะไม่ว่าจะรักกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเกิดจากความรักจริงๆ มันก็มีความสุข อ้อ ฝากบอกขิงด้วยนะครับ ว่าไอ้นาว ผู้ชายของขิง มันตาสว่างแล้ว และจะไม่เข้าไปตอแยอีก มันคงเข็ดขยาดที่ถูกเสี่ยของขิงทำร้ายเอา ฝากด้วยนะครับ”

   ตอนนี้สติของผมแทบไม่เหลือ สมองมันว่างเปล่าไปหมด ผิดหวังมากที่แม่พูดแบบนั้น พี่ไฮท์ดึงผมขึ้นมาบนห้องและเป็นคนเก็บเสื้อผ้าผมยัดลงกระเป๋า ดีที่ข้าวของผมมีไม่มาก

   “อย่าลืมสิ ว่าขมิ้นมีพี่อยู่ข้างๆ” พี่ไฮท์จับหน้าผมด้วยมือทั้งสองข้าง ทั้งแววตาและรอยยิ้มที่ส่งให้ผม ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา “ไปกันเถอะ”

   พี่ไฮท์จูงมือผมลงมาชั้นล่าง เจอแม่ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ และพอเห็นผมก็รีบเดินมาขวาง

   “ที่แกพูดหมายความว่าไง ผู้ชายของขิงอะไร เสี่ยอะไร”

   “ผมขอไม่อธิบายก็แล้วกัน คุณน้าลองไปถามขิงดูนะครับ”

   ตอบแค่นั้นก่อนพี่ไฮท์จะรีบพาผมไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านนอก และไม่รอช้าที่จะออกตัวไป จบสิ้นสักที บ้านหลังนี้ ผมจะไม่มาเหยียบอีกเลย ลาก่อนการเป็นพี่ขิง ต่อไปนี้ ผมคือขมิ้น

   “ขอบคุณที่ปกป้องผม” บีบมือพี่ไฮท์ที่ยังจับมือผมไว้ไม่ปล่อย

   “แฟนคนเดียวปกป้องไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว”

   “ขอบคุณจริงๆ ครับ”

   แทบยกมือไหว้ หากติดอยู่ที่มือข้างหนึ่งถูกจับไว้แน่นเลยยกได้ข้างเดียว พี่ไฮท์ขำออกมาเสียงดังที่เห็นผมยกมือไหว้
 
   แม้ในวันที่เลวร้ายที่สุด ก็จะมีเรื่องดีที่สุดเช่นกัน

   ผมบอกทางกลับบ้านให้พี่ไฮท์ แต่ดูเหมือนสิ่งที่ผมบอกจะไม่เข้าหูคนขับรถเลย ตอนนี้รถคันนี้มุ่งหน้ากลับบ้านของตัวเองซะงั้น

   “ทางไปบ้านพี่ไม่ใช่เหรอ”

   “อืม”

   “อ่าว ทำไม...”

   “จะกลับทั้งที่สภาพเป็นแบบนี้เหรอ” ผมก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง มันก็ไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาด จนพี่ไฮท์ถอนหายใจออกมา “หมายถึงสภาพจิตใจ อยากให้พ่อมึงเป็นกังวลเหรอ ที่เห็นลูกไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนน่ะ”

   “ก็จริง” ผมเม้มริมฝีปากนึกภาพตามที่พี่ไฮท์ว่า สภาพผมตอนนี้คงจะแย่มาก ความรู้สึกภายในใจมันตีปนกันไปหมด “ขอบคุณที่พี่เตือนผม” ขืนกลับไปตอนนี้ ผมต้องโดนคั้นแน่ คงต้องรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน “แต่ผมอยู่บ้านพี่ตลอดไปไม่ได้หรอกนะ เกรงใจ”

   “ยังต้องเกรงใจอะไรอีก ทุกวันนี้กูแทบจะเป็นฝ่ายเกรงใจมึงกับพ่อกูอยู่แล้ว ทำเอาซะกูเหมือนเป็นผู้อาศัยซะงั้น” รอยยิ้มของพี่ไฮท์มันทำให้ผมยิ้มตาม

   อยากขอบคุณนับพันครั้ง ที่ทำให้ผมยิ้มได้ในยามอ่อนแอ

   “พี่ตลกเหมือนกันนะเนี่ย”

   พี่ไฮท์หัวเราะออกมา ก่อนผมจะหัวเราะตาม ต้องขอบคุณความเลวของพี่ขิงที่มันทำให้ผมได้รู้จักพี่ไฮท์ หากพี่ชายฝาแฝดของผมไม่ทำเรื่องชั่วๆ กับเขา วันนี้ผมก็อาจได้แค่มองแล้วก็ผ่านเลยไป




***

   จากวันที่ออกจากบ้านหลังใหญ่นั้น ผมก็มาอาศัยอยู่กับพี่ไฮท์ คอยช่วยเหลือคุณหมอเรื่องงานบ้านแลกค่าอาหารกับที่พักแทน แม้คุณหมอจะบ่นว่าไม่อยากให้ผมคิดแบบนั้นก็เถอะ แต่จะให้ผมมานั่งๆ นอนๆ ใช้น้ำ ใช้ไฟฟรีๆ มันก็ไม่ดี อะไรที่พอช่วยได้ ผมก็อยากจะช่วย

   “วันนี้พี่กลับดึกนะ มีพรีเซ็นต์งาน ไม่รู้เลิกกี่โมง” พี่ไฮท์บอกก่อนจะออกรถไป ส่วนพ่อของพี่เขาก็กลับดึกทุกวันอยู่แล้ว

   “แล้วจะกลับมากินข้าวไหม หรือจะกินมาจากข้างนอก” ถามแบบนี้ทุกวัน จากเขินๆ ก็เริ่มชิน

   “เดี๋ยวพี่โทรบอกอีกที” พี่ไฮท์เตรียมจะออกรถ แต่มือก็กวักเรียกผมให้เข้าไปหา พอเข้าไปยืนใกล้ก็ทำมือให้ก้มลงเหมือนจะกระซิบบางอย่าง

   “พี่ไฮท์!” โวยวายเมื่อถูกฉกหอมแก้ม โคตรเจ้าเล่ห์ ไอ้เราก็คิดว่าจะมีเรื่องคุย ที่ไหนได้ “รีบๆ ไปเลย เดี๋ยวเข้าสาย”

   “ครับๆ” เสียงหัวเราะร่าทำให้นึกภาพวันแรกๆ ที่เจอแทบไม่ออก

   เมื่อท้ายรถลับตาไป เสียงข้อความมือถือในกางเกงก็ดังขัด ผมลูบหัวแจ็คที่มาอ้อนขอขนม อีกมือก็กดดูข้อความ ซึ่งผมได้ข้อความแบบนี้มาเกือบสิบ และผมก็ทำแบบเดิมคือไม่สนใจ ไม่รู้หรอกว่าพี่ขิงอยากเจอผมทำไม หากอยากจะคุยเรื่องให้ผมใช้ชีวิตแทนละก็ ผมไม่มีทางกลับไปแน่นอน

   ผมทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ทักทายปุยเมฆและนอนแผ่บนโซฟากับหมาอ้วนสองตัว กำลังจะเคลิ้มๆ เสียงข้อความก็ดังขึ้นมาอีก คราวนี้มาแบบรัวๆ จนต้องเปิดดู

   ‘ขมิ้น ได้โปรด พี่อยากเจอจริงๆ ก่อนที่พี่จะไม่อยู่ อยากปรับความเข้าใจกับขมิ้นจริงๆ นะ มาหาพี่หน่อย นี่เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ’

   ย่นคิ้วเมื่ออ่านข้อความจบลง พี่ขิงจะไปไหน นี่คือสิ่งที่สงสัย หรือจะไปต่างประเทศวะ อ่านทวนซ้ำไปซ้ำมาอย่างลังเล สุดท้ายก็ตัดสินใจไปเปลี่ยนชุด เอาวะ อย่างน้อยถ้าพี่ขิงไปที่อื่นจริง นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอ

   ผมซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปตามโลเคชั่นที่พี่ขิงบอก ไม่รู้หรอกว่าปลายทางมันคือที่ไหน เพราะยิ่งขี่ไปก็ยิ่งไกลจากตัวเมืองเรื่อยๆ นี่ผมโง่หรือเปล่าวะที่ออกมา

   ตอนนี้สองข้างทางแทบไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ นอกจากต้นไม้และพงหญ้า ผมว่า ผมคงโง่จริงๆ ที่มาตามคำบอกนั่น มันต้องมีอะไรแน่ๆ และดูเหมือนผมจะคิดได้ช้าไป ทันทีที่ชะลอรถเพื่อจะเลี้ยวกลับ ก็มีมอเตอร์ไซค์ขี่ออกมาจากข้างทางแล้วประชิดรถของผม

   “จอด” คำสั่งที่ไม่ได้มาแค่ลมปาก ยังมีวัตถุสีดำด้ามมันปราบที่ตอนนี้ปลายกระบอกหันมาทางหัวของผม “เจอกันอีกแล้วนะ” คนถือปืนทักทาย ก่อนจะเดินลงมาจากมอเตอร์ไซค์อีกคัน เพื่อมาซ้อนด้านหลังของผม “ขี่ตามคันข้างหน้าไปดีๆ อย่าตุกติก ไม่งั้น...ตาย”

   สูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความกล้าและสติ ตอนนี้ปืนจ่อท้ายทอยของผมอยู่ ผมรู้ว่ามันไม่ได้ขู่เฉยๆ ดูท่าว่าถ้าผมทำอะไรไม่คิด ลูกตะกั่วต้องฝั่งเข้ามาในร่างผมแน่
 
   มึงมันโคตรโง่เลยไอ้ขมิ้น ก่นด่าตัวเองแบบนี้ตลอดทางที่ขี่รถตามคันข้างหน้า ไม่นึกเลยว่าพี่ขิงจะทำกับผมแบบนี้ อุตส่าห์เชื่อใจ สุดท้าย กลายเป็นควายเฉย นี่แหละ ข้าวไม่ชอบกิน ชอบกินแต่หญ้า

   “จะไปไหนเนี่ย” ผมถามคนซ้อนด้านหลัง

   “อะไรนะ”

   “ถามว่าจะไปไหน” ผมเลื่อนเปิดหน้ากากหมวกกันน็อกแล้วถาม “ที่ไปเนี่ย จะไปไหน นี่มันออกนอกเมืองมาไกลแล้วนะ”

   “เดี๋ยวก็รู้เอง ตามๆ ไปเถอะ” ไอ้คนซ้อนมันตอบ

   “ทำไมถึงบอกไม่ได้ล่ะ มีกันอยู่แค่สองคนเนี่ย บอกหน่อยสิ” ตื้อโดยไม่สนใจสิ่งที่จ่อท้ายทอย จะกลัวอะไรกับความตายวะ “พี่ครับ บอกหน่อย”

   “โกดังเก่าของเสี่ย” สุดท้ายคงทนผมรบเร้าไม่ไหวเลยบอกออกมา

   “โกดังเก่า? มันอยู่ตรงไหน”

   “จะอยากรู้ทำไม เดี๋ยวก็ไปถึง รีบๆ ขี่ไปเดี๋ยวก็ยิงทิ้งหรอก”

   ผมเบ้ปากเมื่อถูกตัดบท และไม่นานคันที่ขับนำหน้าก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนลูกรัง รอบๆ บริเวณมีแต่ทุ่งนา และปลายทางที่เห็นไกลๆ ก็คงเป็นโกดังอย่างที่ไอ้คนซ้อนผมว่า

   “เลี้ยวซ้ายตรงกิโลเมตรที่หกสิบสอง เข้าถนนลูกรัง” ผมว่าออกมาโดยที่ไอ้คนข้างหลังก็นั่งเฉยๆ ไม่สนใจ “เข้ามาแล้วจะเห็นหลังคาโกดังอยู่ลิบๆ”

   “บ่นอะไรของมึงวะ รีบๆ ตามไปสิ” โดนปืนขยับจี้

        “รู้แล้วๆ” ว่าออกมา ก่อนจะบิดตามทางไปเรื่อยๆ “ไม่มีคนเฝ้าประตูโกดัง เข้าไปได้เลยนะ”

   “เออ เข้าไปเลย” เสียงตอบจากด้านหลัง ผมก็ขี่ผ่านประตูเข้าไป

   โกดังที่ว่า เป็นโกดังร้างอยู่กลางทุ่งนา สภาพด้านนอกเก่าและทรุดโทรมมาก สนิมกินโครงเหล็กพุพัง จนคิดว่าไม่น่าใช้งานได้แล้วแน่ๆ ผมถูกปืนจี้ที่เอวบังคับให้เดินเข้าไปในโกดัง ไม่รู้เลยว่าด้านในจะมีอะไรบ้าง

   “พี่ขิงล่ะ พี่ขิงอยู่ไหน” ถามไอ้คนด้านหลัง มันไม่สนใจเอาแต่บังคับให้ผมเข้าโกดัง พอเข้ามาแล้วก็เจอลังไม้มากมายวางเรียงรายเต็มไปหมด “พี่ขิงล่ะ” ถามอีกคนที่เดินนำเข้ามาก่อน มันยักไหล่แล้วเดินไปนั่งบนลังไม้

   “ถ้าเห็นก็แปลว่าอยู่ แต่นี่ไม่เห็นแสดงว่าไม่อยู่” คำตอบตีรวนของไอ้คนที่นั่งลังไม้ทำเอาคิ้วผมกระตุก หากไม่มีปืนของคนด้านหลังจี้เอว ผมคงกระโดดถีบขาคู่ไปแล้ว “คิดเหรอ ว่าพี่มึงจะมาจริงๆ สมองน่ะ ใช้บ้าง”

   “อ่าว ไอ้นี่” เผลอสบถด่าออกมา ไอ้คนว่าผมก็ทำแค่ยักไหล่ “ถ้าพี่ขิงไม่อยู่ ผมก็จะกลับ”

   “คิดว่ามาแล้วจะกลับได้เหรอ ตลกน่าไอ้หนู”

   “ต้องการอะไรกันแน่ ตั้งแต่ที่มหาลัยแล้ว จะเอายังไง”

   “พวกเราสองคนไม่ได้จะเอายังไง แต่คนที่เอา นู้น ไอ้ขิงนู้น”

   “หมายความว่ายังไง”

   ตอนนี้คนด้านหลังผมเดินไปยืนข้างกับเพื่อนมัน แต่มือก็ยังถือปืนเล็งมาทางผมอยู่

   “ลองคิดตามนะ ถ้าเกิดเราอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม แต่งานที่ทำอยู่มันทำให้กลับไปไม่ได้” ไอ้คนพูดค่อยๆ เดินวนรอบตัวผม สายตามันสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “มันจะดีไหม หากหาคนมาทำแทน ยิ่งไปกว่านั้น คนๆ นั้นหน้าเหมือนเราอย่างกับแกะ”

   “หมายความว่ายังไง” เพราะผมไม่อยากคิดไปเองเลยต้องถามย้ำ

   “ก็หมายความว่า” รีบหลับตาเมื่อปลายมีดอันแหลมคมช้อนคางให้ผมเงยหน้าขึ้น “ไอ้ขิงอยากให้น้องฝาแฝดมาทำงานแทน โดยที่มันจะกลับไปเป็นคนดังตามเดิมไง”

   “โกหก”

   “พูดความจริงก็หาว่าโกหกว่ะ” แล้วพวกมันสองคนก็หัวเราะ โดยที่ผมกัดฟันข่มความโกรธเอาไว้ “แล้วใครที่นัดมึงออกมาล่ะ”

   “ข่มขู่พี่ขิงให้ทำหรือเปล่า” เหมือนกับที่บังคับให้ผมมาที่นี่

   “คนอย่างไอ้ขิงน่ะเหรอที่จะขู่มันได้ ทุกวันนี้มันต่างหากที่ข่มขู่พวกเรา ใช้ความเป็นคนโปรดของเสี่ยสั่งนั่นสั่งนี่” ไอ้คนพูดส่ายหน้าไปมา “พี่มึงเลวกว่าที่คิดเยอะ”

   “เลวยังไง” ถามปุ๊บ พวกมันก็หัวเราะกันอีก “พี่ขิงทำงานอะไรให้เสี่ยเจ้าของบ่อนนั่น”

   “มึงบอกไปซิ ว่างานอะไรบ้าง” คนที่เอามีดจ่อผมพยักพเยิดไปที่อีกคน ก่อนมันจะเดินย้อนกลับไปนั่งบนลังไม้ที่เดิม “เล่าให้น้องมันฟังให้หมดล่ะ เพราะต่อไป มันจะต้องทำแทน”

   “งานของมันก็ง่ายๆ แค่หาเด็ก”

   “หาเด็ก? เด็กไหน”

   “อ่าวไอ้นี่ ก็หาเด็กส่งออกไง ลูกค้าสั่งมายังไงก็หาแบบนั้น เข้าใจยากตรงไหน” ผมเบิกตาโตตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เอกสารหลักฐานของลุงเจ้าของบ้านแวบเข้ามาในหัวทันที นี่พี่ขิงเป็นพ่อเล้าเหรอวะ “แต่พูดแล้วก็เสียดายไอ้นายแบบนั่น เกือบได้อยู่แล้วเชียว หากไม่ไหวตัวไปซะก่อน” ประโยคนั่นทำให้ผมหันขวับไปมอง

   “นั่นสิ สเปคนายหัวเขาล่ะ จ่ายไม่อั้นด้วย กูละเสียดายแทนไอ้ขิง”

   “นายแบบคนไหน” ขัดกลางปล้องจนถูกมองหน้า

   “ก็คนที่ถ่ายแบบกับพี่มึงบ่อยๆ นั่นไง สูงๆ หน้าคม” ตอนนี้ภาพในหัวผมมีหน้าคนๆ หนึ่งที่ลอยเด่นชัด เขาคือคนที่ผมไปยืนถ่ายแบบด้วยคราวนั้น ต้องใช่แน่ๆ เขาแสดงออกเลยว่าเกลียดพี่ขิง “แต่พลาดคนนั้นก็ได้คนอื่นแทน สมแล้วที่ทำงานแบบนั้น หาเด็กง่ายดี”

   “เลว” ด่าออกมาตรงๆ จนถูกมองอีกรอบ ผมมองคนที่พูดเรื่องการค้ามนุษย์เหมือนเป็นเรื่องตลกอย่างโมโห คนทั้งคนนะเว้ย “บ้านเมืองนี้มีกฎหมาย สักวัน พวกมึงต้องโดนจับ”

   “ใครหน้าไหนจะมาจับได้วะ ก็ในเมื่อ...” ไม่จบประโยคพวกมันก็หัวเราะ ผมรู้ว่าเพราะอะไรพวกมันถึงไม่กลัวถูกจับ “กูจะบอกให้นะ ตั้งกี่คนแล้วที่จะจับเสี่ย สุดท้ายก็เด้งหมด” ไอ้คนถือมีดพูดอย่างมั่นใจพร้อมแสยะยิ้ม “เอาล่ะ มาพูดเรื่องของเราดีกว่า”

   “พี่ขิงอยู่ไหน” ไม่อยากฟังเรื่องบ้าบอ อยากรู้ว่าตอนนี้คนที่นัดผมอยู่ที่ไหนมากกว่า

   “ก็มันไม่ได้อยู่ที่นี่ไง”

   “แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ”

   “กูไม่รู้ มันอาจจะอยู่กับเสี่ย หรือไปทำงานให้เสี่ย ซึ่งกูไม่ได้เสือกมาให้มึง”

   “ในลังไม้พวกนั้นของหนีภาษีเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่องแทบจะทันทีที่พวกมันชักสีหน้า “หรือยาเสพติด”

   “ก็ทั้งคู่” ไอ้คนถือปืนเปิดฝาลังที่มันนั่งให้ดู ในนั้นมีกระเป๋าแบรนด์เนมที่คงจะนำเข้าแบบผิดกฎหมาย “ของพวกนี้กำไรโคตรงามเลยนะ”

   “หยุดสาธยายเรื่องไร้สาระสักที มาเข้าเรื่องได้แล้ว” ไอ้คนถือมีดตวาด ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมอีกรอบ “มึงต้องมาทำงานแทนไอ้ขิง”

   “กูไม่ทำ” ตอบทั้งๆ ที่มันพูดไม่จบด้วยซ้ำ และไม่กลัวปลายคมของมีดที่จ่อแก้มด้วย ผมรู้ว่ามันไม่กรีดหรอก เพราะถ้าทำ หน้าผมเป็นรอย พวกมันต้องเดือดร้อนแน่ “เรียกพี่ขิงมาที่นี่ให้กู”

   “อย่าออกคำสั่งกับกู เพราะกูไม่ชอบ” ถูกตวาดข้างหูจนสะดุ้ง “แค่พี่มึงคนเดียวกูก็จะบ้าตายอยู่แล้ว”

   “กูจะไม่ตกลงอะไรถ้าพี่ขิงไม่อยู่ที่นี่” ยืนยันหนักแน่น ไม่กลัวการถูกข่มขู่ใดๆ ทั้งสิ้น “พาพี่ขิงมากูถึงจะยอมคุย”

   “มึงไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ เพราะมึงต้องทำ และถึงแม้ไอ้ขิงจะมายืนต่อมึง มันก็จะพูดแบบที่พวกกูพูด ว่ามึงต้องทำงานพวกนี้แทนมัน ไอ้ขิงน่ะ ไม่เห็นมึงเป็นน้องหรอกนะกูจะบอกให้”

   “ที่พวกกูตามมึงก็เพราะมันสั่ง” เสียงไอ้คนถือปืนที่นั่งบนลังไม้พูดเสริม “ที่มหาลัย ที่บ้าน ทุกที่ พี่มึงสั่งทั้งนั้น มันเกลียดมึงจะตาย”

   “โกหก”

   “มันเกลียดที่มึงเอาคนที่มันชอบไป เกลียดที่มึงเอาสมบัติของมันไป เกลียดที่มึงเอาชีวิตของมันไป”

   “กูไม่ได้เอาอะไรของพี่ขิงไปสักอย่าง” พอผมเถียง พวกมันทั้งคู่ก็ยักไหล่ นี่พี่ขิงจะมาโยนความเลวมาให้ผมได้ยังไง ในเมื่อทุกอย่างพี่ขิงทำตัวเองทั้งนั้น

   “มึงต้องไปบอกมันเองหลังจากนี้ว่ะ เพราะกูไม่ใช่คนส่งสาร” ไอ้คนถือมีดยักไหล่ “มึงนี่เหมือนไอ้ขิงอย่างกับคนๆ เดียวกันจริงๆ ทั้งหน้า ทั้งผิว”

   “ตัวหอมด้วย เมื่อกี้กูซ้อนมันมาเกือบห้ามตัวเองไม่ได้ไอ้ห่า” รีบตวัดสายตาขุ่นมองคนพูด ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกหรอกนะครับตอนขี่รถมาเมื่อกี้ ไอ้คนซ้อนมันลูบเอวผมด้วย เกือบพามันนอนวัดกับพื้นถนนอยู่หลายรอบแล้ว “ถ้าเราลองก่อนส่งของให้เสี่ย จะได้ไหมวะ”

   “นั่นสิ กูไม่เคยนอนกับผู้ชายด้วย อยากรู้ว่ามันน่าติดใจอย่างที่เขาบอกไหม” เริ่มขยับหนีเมื่อถูกโลมเลียทางสายตา ขนแขนผมลุกชัน ไม่ได้กลัว แต่รู้สึกขยะแขยง “วันก่อนเห็นความร่านของไอ้ขิงตอนเอากับเสี่ยในห้องทำงาน กูก็ขึ้นเหมือนกันว่ะ อยากลองจริงๆ”

   “ไอ้สัด” ด่ากราดไปแต่พวกมันไม่สน ตอนนี้คางผมถูกบีบจนปวดกรามไปหมด “ปล่อยกู”

   “ปากมึงนี่น่าจูบกว่าผู้หญิงอีกนะ” หน้าเหี้ยๆ ของไอ้คนถือมีดโน้มเข้าใกล้ ผมใช้จังหวะที่มันเผลอกระทุ้งเข่าเข้าจุดกลางลำตัวมันเต็มแรงจนมันหวีดร้องแล้วทรุดลงไปกองกับพื้น

   “แต่กูไม่ใช่ผู้หญิงไงไอ้สัด” ด่าพร้อมกับเตะเสยเข้าคางมันไปอีกรอบ ผมผู้ชายนะครับ ไม่ได้อ่อนแอหวาดกลัว มือเท้ามีเหมือนกัน พอผมล้มไอ้คนถือมีดได้ ไอ้ถือปืนก็ปรี่เข้ามาหา กำลังจะพุ่งหมัดแต่มันดันยิงปืนถากไหล่ผมไป ความแรงของลูกตะกั่วทำให้ชาไปทั้งแขน

   “อยากตายเหรอมึง” รีบหลับตาเมื่อด้ามปืนถูกเงื้อจะฟาดเข้าหน้า แต่แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมลืมตาขึ้นมาเห็นคนที่จะทำร้ายผมกระเด็นไปนอนอยู่ข้างลังไม้


   “พี่ไฮท์” ร้องออกมาอย่างดีใจ น้ำตาแทบไหล คนที่ผมเรียกชื่อเพิ่งวางเท้าลงเพราะกระโดดถีบไปเมื่อกี้ “กว่าจะมา”

   “เหาะมาได้กูก็เหาะมาแล้ว” พี่ไฮท์ว่าก่อนจะเข้าไปกระทืบไอ้คนยิงผม “ทำร้ายแฟนกูเหรอไอ้สัด” แทบนับจำนวนการถูกเตะไม่ได้ หากไม่ได้พี่บิ๊กที่เข้าห้าม ป่านนี้ไอ้คนที่นอนกองนั่นคงตายไปแล้ว

   “เป็นไงบ้างมึง” เจมส์ประคองให้ผมยืน ความห่วงใยผ่านน้ำเสียงและสีหน้าทำให้ผมยิ้มให้เพื่อน แม้จะรู้สึกเจ็บที่ไหล่ก็เถอะ

   “สบายมาก แค่เกือบตาย” พูดติดตลก แต่เจมส์ดันไม่ขำ มันปล่อยน้ำตาไหลออกมาเฉย “เอา ขี้แยอีก”

   “ก็มึงทำบ้าอะไรแบบนี้ กูหัวใจจะวายตาย”

   ผมขำเจมส์ที่มันโวยวายทั้งน้ำตา แต่แล้วเสียงบางอย่างก็ทำให้ผมหยุดนิ่ง และปรายตามองไปอีกด้าน เสียงร้องโอดโอยไม่ได้มาจากคนที่พี่ไฮท์กระทืบ เพราะตอนนี้พี่ไฮท์มายืนข้างผมแล้ว...แล้วนั่น

   ภาพหน้าโกดังที่เห็นคือ ไอ้คนที่ผมเตะกล่องดวงใจไปเมื่อกี้ มันกำลังถูกกระทืบ และคนที่กำลังกระทืบเป็นผู้ชายรูปร่างสูง สวมเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขน ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด รอบๆ ตัวของเขามีรังสีความโหดเหี้ยมแผ่ออกมาจนขนลุกไปหมดทั้งตัว ผู้ชายคนนั้นทั้งเตะ ทั้งกระทืบ จนคนที่นอนเลือดกองเต็มพื้นไปหมด


   โหดแบบไร้คำบรรยายใดๆ


   “มึงเคยพูดว่าอะไรนะ มึงบอกอยากลองนอนกับเมียกูเหรอ เฮอะ” พูดจบรองเท้าสแลคสีดำมันปราบก็ซัดเข้าที่ปลายคางจนเลือดกระเซ็นออกจากปาก ก่อนเขาจะยื่นมือขยุ้มกลุ่มผมจนไอ้คนเจ็บจนมันทำหน้าบิดเบี้ยว “กูจะบอกอะไรให้มึงฟัง ฟังและจำลงไปในรอยหยักของสมอง ว่าแม้แต่ขี้เล็บเมียกู มึงก็ไม่มีสิทธิ์ได้สัมผัส ไอ้สัด” ช่างเป็นภาพความโหดร้ายที่น่ากลัวมากที่สุดในชีวิต ที่ได้เห็นเองกับตาแบบนี้

   “พี่...เขา” แทบพูดไม่ออกเมื่อเจอภาพแบบนั้นในระยะใกล้ ผมดึงชายเสื้อพี่ไฮท์ยิกๆ เพราะอยากรู้ แต่พี่ไฮท์ไม่ทันได้ตอบ ก็มีคนเดินเข้ามาจากหน้าโกดัง ผู้ชายผอมสูงทำหน้าเบื่อหน่ายมองภาพการกระทืบเหมือนเรื่องธรรมดา ก่อนคนนั้นจะตะโกนเรียกใครสักคนให้เข้ามา

   “ไอ้เกรียน มาห้ามผัวมึงได้แล้ว เดี๋ยวมันก็ฆ่าคนหรอกไอ้ห่า”

   “พี่จอมทำไมไม่ห้ามเล่า” แล้วคนที่ถูกเรียกก็ตามเข้ามา ตอนแรกผมก็งงๆ ใครวะไอ้เกรียน แต่พอเห็นหน้าตาปุ๊บผมก็แทบทรุด “พี่โช พอแล้ว เดี๋ยวมันตายนะ”

   “กูอยากกระทืบมันจมดินด้วยซ้ำ” คนถูกห้ามพูดจบ หน้าแข้งก็ฟาดเข้าท้องคนนอนอยู่อีกรอบจนร่างนั้นแน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหว ว่าสภาพคนที่พี่ไฮท์กระทืบแย่แล้วนะ อีกคนนี่ต้องเรียกได้ว่าเละ!

   “เอาปีศาจออกร่างได้แล้ว เดี๋ยวเขาก็กลัวกันหมดหรอก” พี่กลอยทำหน้ายุ่งแล้วดึงคนที่กระทืบโหดเข้ามาหาพวกผม ทันทีที่ถูกดวงตาดุมอง ผมก็รีบขยับไปยืนซ้อนหลังพี่ไฮท์ทันที

   โคตรน่ากลัว

   “ขอบคุณครับที่มาช่วย” พี่ไฮท์พูดพร้อมยกมือไหว้ ผมมองภาพนี้ด้วยความงงปนสงสัย “แล้วเรื่องนั้น?”

   “เดี๋ยวก็คงได้เรื่อง” คนกระทืบโหดบอกเสียงนิ่ง “แล้ว...นั่นไม่เป็นไรใช่ไหม” สะดุ้งเมื่อถูกถาม หากไม่เห็นพี่เขากระทืบคนเมื่อกี้ ผมคงจะไม่รู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้

   “ครับ ขอบคุณครับ” รีบยกมือไหว้ แต่ความเจ็บแปลบที่หัวไหล่ทำให้ต้องนิ่วหน้าจนพี่ไฮท์ตกใจ

   “โดนอะไร หรือเสียงปืนเมื่อกี้ มันยิงมึงเหรอ ไอ้สัดเอ๊ย” พอพี่ไฮท์เห็นแผลก็แทบจะพุ่งเข้าไปหาคนที่ยิงผม แต่ได้พี่บิ๊กดึงไว้

   “แค่ถากไปนิดเดียวเอง มันขู่เฉยๆ” ผมว่า พยายามทำให้พี่ไฮท์ใจเย็น แต่สีหน้าและท่าทางไม่ได้เย็นลงเลย เพราะพร้อมที่จะพุ่งเข้าไปกระทืบได้ทุกนาทีหากพี่บิ๊กปล่อย “พี่ได้อัดเสียงที่ผมคุยกับมันไว้ใช่ไหม” เมื่อพี่ไฮท์มองไอ้คนยิงผมไม่วางตา เลยต้องหาเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

   “เออ” ตอบโคตรห้วน “ต่อไปไม่ให้ทำแบบนี้แล้วนะ”

   “ไม่มีอีกแล้วแน่นอน”

   ผมยิ้มอ้อนเมื่อถูกดุ ก่อนเสียงคนเดินเข้ามาใกล้จะทำให้ผมยกแขนขึ้นตั้งการ์ด พอเกิดเรื่องแย่ๆ แบบนี้กับตัวเอง ประสาทสัมผัสทุกส่วนมักจะไวเป็นพิเศษ แต่พอเห็นว่าเป็นใคร ผมก็รีบยกมือไหว้ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจ 
   
       “ถ้าต่อยกูมา กูสวนนะมึง อ่ะ ไอ้แทมโทรมา” ผู้ชายร่างผอมที่เรียกพี่กลอยเข้ามาเมื่อกี้ทำหน้าโหด ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาตรงกลางวง ผมมองหน้าทุกคนอย่างมึนงงและสงสัย เพราะไม่รู้จักใคร ทั้งที่ยืนอยู่ด้วยกันและบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องแพง

   “ไงมึง ทางนั้นจัดการเรียบร้อยไหม” พี่โหดเอ่ยถามออกมา คนที่อยู่อีกฟากก็ยิ้มร่าทันที

   (เรียบร้อยสิวะ พวกลุงกูก็พยายามหาทางจับพวกนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีหลักฐานที่สาวไปถึงตัวใหญ่ๆ ต้องขอบใจคนที่เอาหลักฐานมาให้ นี่ถ้าออกใบอนุโมทนาบัตรได้ คงออกให้ไปแล้ว)

   “ใบอนุโมทนาบัตร? เอามาทำไมวะ”

   (มุกไอ้ห่า ว่าแต่มึงเถอะ ไม่ใช่ว่ากระทืบพวกนั้นจนมันตายหรอกนะ)

   “กูไม่ได้โหดขนาดนั้น” คำพูดพร้อมรอยยิ้มเท่นั่นผมคงจะเชื่อ หากไม่เห็นกับตา ว่าคนที่พี่เขากระทืบนอนเป็นผักไร้ความรู้สึกอยู่หน้าโกดัง

   “แล้วคนอื่นล่ะครับ” คราวนี้พี่ไฮท์ถามบ้าง คนปลายสายมองหน้าก่อนจะยิ้มออกมาอีก

   (สบายมากไอ้น้อง พ่อพี่สั่งลูกน้องกวาดเรียบหมดละ ทั้งบ่อน ทั้งซ่อง อ่อ เดี๋ยวโกดังที่นั่นด้วยนะ มีคนซัดทอดว่าของอยู่ที่นั่น รีบๆ ออกมาก่อจะซวย) พูดจบก็ตัดสายไปจนพี่โหดสบถเอาผมสะดุ้ง น่ากลัวไปไหนครับพี่

   “เอาล่ะ หมดเรื่องละ กลับเถอะ” พี่โหดว่า ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ก่อนจะเดินออกไป พี่กลอยก็เดินย้อนเข้ามาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

   “ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะ ทำตัวแบบพี่เบิร์ดก็พอ”

   “แบบพี่เบิร์ดเหรอครับ?”

        “ก็แบบสบายๆ ยังไงล่ะ” แล้วพี่กลอยก็หัวเราะอยู่คนเดียว และผมก็คงจะสบายตาม หากพี่กลอยไม่ตบไหล่ข้างที่ผมถูกปืนถาก พอผมร้องโอยออกมาพี่เขาก็รีบชักมือกลับ “โทษที ไม่ได้ตั้งใจ”

   “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับที่มาช่วยผม หากไม่ได้พวกพี่ ผมคงแย่” ไม่รู้หรอก ว่าทำไมพี่กลอยกับพวกถึงมาช่วย แต่ยังไงแล้ว ก็ต้องขอบคุณอยู่ดี

   “อย่าคิดมาก ช่วยกันได้ก็ช่วยไป เราคนกันเอง” แทบอยากกราบพี่เขา หากไม่ได้ยินประโยคถัดมา “อย่าลืมเลี้ยงชาบูชุดใหญ่นะ จะล้างท้องรอ” แล้วพี่กลอยก็หัวเราะเสียงดังอีกรอบพลางกับเดินเข้าไปกอดแขนพี่โหด

   “พี่ไฮท์...”

   “กูถึงเตือนไง ว่าอย่าเข้าใกล้ไอ้กลอยมันมาก ไม่ใช่เพราะมันเพี้ยนหรอกนะ แต่เพราะแฟนมันโหด” เงยหน้ามองพี่ไฮท์เมื่อเข้าใจในความหมาย เพราะแม่งโหดจริง “กลับเถอะ เดี๋ยวไปแวะทำแผลที่คลินิก”

   “แล้วพี่ขิง” ผมชะงักแล้วถามหาคนที่นัดผมมาที่นี่ “พี่ขิงละ”

   “คงกำลังถูกตามจับ หรือไม่ก็ถูกจับแล้ว” เจมส์ตอบแทน มันยิ้มก่อนยื่นมือมาจับมือผม “มันไปไกลกว่าที่พวกเราคิดมาก”

   “ติดคุกยาวแน่พี่มึงน่ะ” พี่บิ๊กขัด ซึ่งผมก็พยักหน้าเห็นด้วย “กลับเถอะ เดี๋ยวตำรวจมาพวกเราจะซวย”




.
.

(มีต่อด้านล่างค่า )
 
   

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
(ต่อด้านบนอีกนิดค่า)
.
.


ผมย้ายมานั่งรถของพี่ไฮท์โดยให้พี่บิ๊กขี่มอเตอร์ไซค์ผมกลับแทน เพราะขืนให้ผมขี่เองคงลงข้างทางสักที่ ระว่างนั่งรถ ผมก็ซักถามเรื่องทั้งหมดทันที

   “พี่กลอยมาช่วยผมได้ยังไง” ถามด้วยความสงสัย แม้กับพี่ไฮท์ก็ยังไม่ใช่เพื่อนสนิทเลยด้วยซ้ำ อยู่ๆ จะมาช่วยขนาดนี้ มันก็ดูแปลกไปสักหน่อย

   “คืนวันก่อนพอดีไอ้แน่อยากกินเหล้าหลังมอ ก็เลยไปเจอกลุ่มของไอ้กลอย มันก็ถามหามึง กูก็เลยตัดสินบอกว่ามึงไม่ใช่ไอ้ขิง” ตกใจที่พี่ไฮท์บอกคนอื่นแบบนั้น ถึงแม้ผมจะเลิกเป็นพี่ขิงแล้วก็เถอะ “มันก็งงๆ ถามวนไปวนมา ไอ้บิ๊กเลยตัดสินใจเล่าเรื่องมึงให้ฟัง”

   “พี่เขาเชื่อเหรอ” เพราะเรื่องพวกนี้ จะว่าไปก็เหมือนละคร

   “เชื่อไม่เชื่อ มันก็ร้องหาหลักฐานที่เรามี มันบอกมีคนที่รู้จักที่น่าจะช่วยได้”

   “เอาให้ไปแบบนั้นมันโคตรเสี่ยงเลยว่ะ” ผมว่า “พี่นึกยังไงวะ”

   “ก็เราไม่มีทางเลือก อีกอย่าง กลุ่มเพื่อนไอ้กลอยก็ยืนยันเอง ว่าไว้ใจมันได้ กูก็เลยเอาสำเนาให้ไป” ผมพยักหน้าเข้าใจในเหตุผล ก็เราไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ เก็บไว้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร “พอกูให้ตอนเช้าอีกวัน ตอนบ่ายมันก็มาที่คณะแล้วพากูไปเจอแฟนมัน”

   “พี่โหดเมื่อกี้น่ะนะ” ภาพตอนเท้าเสยหน้าปลายคางไอ้เลวจนเลือดพุ่งออกมายังติดตาผมอยู่เลย คิดแล้วก็สยอง

   “อืม เขาชื่อพี่โช พี่เขาเอาหลักฐานที่ได้ให้กับพ่อเพื่อนตัวเองไป แล้วก็เป็นอย่างที่ได้ยิน ว่าพ่อเขาจัดการเรียบร้อย”

   “แปลว่า พ่อเพื่อนพี่โชนี่ก็ต้องใหญ่พอสมควรสิ” เพราะขนาดคนของลุงเจ้าของบ้านยังสู้กลุ่มเสี่ยบ่อนนั่นไม่ได้ “ไอ้ที่ช่วยก็ส่วนหนึ่งนะ แต่ผมว่า พี่เขาเหมือนอยากมากระทืบคนซะมากกว่า แถมกระทืบถูกคนซะด้วย” แต่ที่ทำให้ผมนึกไม่ออก นั่นคือ ไอ้บ้านั่นมันพูดตอนไหน ว่าอยากจับพี่กลอยไปทำเมีย เหมือนได้ยินแค่ว่าหน้าตาใช้ได้เองนะ หรือผมจำผิดวะ

   “ก็คงส่วนหนึ่ง ไม่รู้ไอ้กลอยไปใส่ไฟอะไรบ้าง ตอนแรกที่ไปเจอก็ดูเฉยๆ แต่พอไอ้กลอยพูดเรื่องถูกลวนลามขึ้นมา พี่โชเขาก็แทบอยากมาซะตั้งแต่ตอนนั้น” ได้แต่หัวเราะแกนๆ เมื่อได้ยิน ความโหดนี้ผมจะจำไม่ลืมเลือนเลยทีเดียว และก็จะไม่ลืมบุญคุณของพวกเขาที่ช่วยผมด้วย แล้วก็ไม่ลืมชาบูด้วย...

        ที่จริงตอนผมลังเลว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี พี่ไฮท์ก็โทรเข้ามา บอกว่าวันนี้พวกตำรวจและทหารจะเข้าจับกุมเสี่ยเจ้าของบ่อนนั่น พอได้ยิน ผมเลยตัดสินใจบอกในสิ่งที่คิดไป ว่าผมอยากจะไปหาพี่ขิง แม้ตอนแรกพี่ไฮท์จะไม่เห็นด้วย แต่ผมก็อยากไปเจอพี่ชายตัวเองก่อน และเมื่อห้ามผมไม่ได้ ก็เลยสั่งให้ผมทำตาม นั่นคือระหว่างการเดินทาง ผมต้องบอกทุกอย่างที่เห็นรอบตัวและเปิดโทรศัพท์ระบบติดตามตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อสะดวกแก่การตามหา ผมคิดตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน พยายามหาเหตุผลในการชักจูงใจพี่ขิง เผื่อผมจะสามารถเกลี้ยกล่อมพี่ชายฝาแฝดให้ยอมมอบตัวได้ เพราะอย่างน้อย โทษก็น่าจะเบากว่า
แต่ที่ไหนได้ ผมกลับเป็นฝ่ายโดยล่อลวงซะเอง   

   “ขอบคุณที่พี่มาช่วยผม” บอกอย่างตื้นตัน พี่ไฮท์หันมายิ้มอ่อนโยนให้ผม มือใหญ่ยื่นมาลูบแก้มผมเบาๆ “ตอนถูกปืนจี้ ผมนึกถึงหน้าพ่อกับหน้าพี่ตลอดเลย กลัวไม่เห็นหน้าก่อนตาย”

   “มึงไม่มีทางตาย ถ้ากูไม่อนุญาต”

   “โอ๊ย มดเต็มรถแล้วครับ อย่าลืมว่าผมนั่งมาด้วย ไม่ใช่ตอไม้ รู้แบบนี้ไปซ้อนพี่บิ๊กซะก็ดี” เสียงเจมส์ขัดขึ้น ตอนนี้หน้ามันบูดบึ้งเหมือนเด็กทำให้ผมกับพี่ไฮท็ก็พากันขำ “แล้วนี่ เราต้องไปโรงพักกันไหม”

   “นั่นสิ” ผมมองหน้าพี่ไฮท์อย่างขอความเห็น ซึ่งก็ได้การพยักหน้าตอบกลับ ไม่รู้ป่านนี้พี่ขิงจะอยู่ไหน จะถูกตำรวจจับหรือเปล่า “ผมหวังว่าเรื่องมันจะจบจริงๆ”

   ไม่มีใครพูดอะไรต่อ มีเพียงมือใหญ่ที่ยื่นมือลูบศีรษะผมเบาๆ พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ หากเมื่อกี้ผมตายไป คงจะรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้อีก

   โชคดีจริงๆ



...TBC

กว่าจะลงตอนนี้ได้ แก้แล้วแก้อีก แก้จนเกือบเผลอลบตอนไปด้วยความเบลอ T^T พยายามที่จะไม่ทำให้เรื่องมันงง เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาในเรื่อง แบบอยากให้มาแล้วจบไป แต่ก็เข้าใจอยู่ (งงไหมคะ) คล้ายๆ กับว่า อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไม่เคยอ่านเรื่อง Just you and I เข้าใจด้วยแบบนี้นา เพราะวางเรื่องในพี่โชมาตอนเดียวจริงๆ หากใครที่อ่านแล้วมันงงๆ ก๊งๆ ช่วยบอกด้วยนะคะ จะได้รีบแก้ไข พยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ ค่ะ

ได้โปรดเมตตาด้วยนะคะ (ไหว้ย่อ)

แล้วพบกันตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
วันนี้เจอก่อนอัพทางเพจ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
วันนี้เจอก่อนอัพทางเพจ  :z1: :z1: :z1:


ขอบคุณค่าาา

แต่กว่าจะอัพเล้าได้ ใช้เวลานานมากค่าา จะก็อบลิ้งไปวางที รอนานมากเลย  :m15: :m15:


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

มีขบวนการตลบหลังด้วย

แถมมีหลอกเล็ก ๆ เรื่องกินหญ้าด้วยนะ  แหม่

ออฟไลน์ KawinCa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จะถึงจุดจบของขิงซักที ให้ขมิ้นได้เฉิดฉายบ้าง
พี่กลอยน่ารักและใจดีมาช่วยน้องด้วย งื่อออ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 22] [P.9] // {05/05/61}
« ตอบ #249 เมื่อ: 05-05-2018 22:50:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
นังขิงติดคุกยาวๆไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ที่สุดก็ถึงมือ "พี่โช" ตามอย่างที่แนะนำอิกลอยไป
555+
แต่ไม่คิดว่ากลอยจะแหลได้ถ้วย นายแน่มากกลอย ...
ไม่มีอะไรจะทำให้พี่โชเดือดได้เท่านี้แล้ว อิอิ

ส่วนขมิ้น ก็ฉลาดเนอะ เก่งอะที่ปรึกษาแฟน
ยอดเยี่ยม ไม่โง่เป็นนางเอกละครไทย

เรื่องตัวละครเพิ่ม .. เราโอเคนะ เพราะเราอยู่ก๊วนอิกลอย
แต่มีคำผิดนะคะ

“ขมิ้นไม่ได้หาหรอกครับ ผมยัดเยียดให้เอง
ขอโทษด้วยที่ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อไฮท์ รุ่นพี่ของขิง”

..... ยัดเยียด

สุดท้าย
จะรอดู "ผลกรรม" ของขิง ... อย่าปล่อยให้ "คนชั่วมาก" ลอยนวลนะคะ
ไม่งั้นคนอ่านจะงอนคนเขียน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
จบเรื่องบ้าๆซะที คนที่ผิดก็รับกรรมกันไปนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบบบบบบบบ   :katai2-1:
พี่ไฮท์  ขมิ้น   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

แล้วพี่โช กลอย  พี่จอม ก็มา   :hao5: :sad4:
คิดถึงพี่โช กลอย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขิง เลวมาก ทำตัวเองทั้งนั้น
แล้วหาว่าขมิ้นมาแย่ง แย่มาก เลววววววววววววว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
หมดเรื่องแล้วเนอะ ดีนะพี่โชพี่จอมกับกลอยมาช่วย
ขอให้ขิงโดนจับให้ได้เถอะ


ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-23-





        รถยนต์ของพี่ไฮท์เลี้ยวเข้ามาที่สถานีตำรวจ พวกเราก็ต่างมองหน้ากันอย่างตกใจ เมื่อลานจอดรถ มีรถของสำนักข่าวหลายช่อง และบรรดานักข่าวก็ยืนออเต็มหน้าโรงพักไปหมด ถ้าให้ผมเดา พวกเขาคงมารอทำข่าวของพี่ขิงแน่

   “เอาหมวกไหม” พี่ไฮท์ถามพร้อมยื่นหมวกแก็ปมาให้ “คงจะไม่ค่อยดีถ้าเขาเห็นหน้ามึง”

   “ก็จริงอย่างที่พี่ไฮท์ว่านะมึง เดี๋ยวเขาจะคิดว่ามึงเป็นไอ้ขิง” เจมส์พูดเสริมออกมาทำให้ผมพยักหน้าตกลง

        รับหมวกมาสวมพร้อมดึงให้ปิดหน้าไว้ ส่วนแผลที่ไหลก็ยังเจ็บอยู่บ้าง เพราะระหว่างทางแวะทำแผลมาแล้ว เราสามคนเดินเกือบจะถึงที่นักข่าวยืนอยู่ รถตำรวจก็วิ่งเข้ามาจอด มีตำรวจหลายคนวิ่งกรูมาจากด้านในเข้ามากั้นนักข่าวเอาไว้ เมื่อประตูรถเปิด แสงแฟลชมากมายก็สาดใส่คนที่ลงจากรถมา 

   “พี่ขิง” เผลอหลุดเรียกชื่อออกมาเบาๆ พี่ชายฝาแฝดของผมถูกจับใส่กุญแจมือ ใบหน้าขาวบูดบึ้งราวกับรำคาญ ด้านหลังพี่ขิงเป็นผู้ชายแก่อายุน่าจะเกินห้าสิบถูกใส่กุญแจมือเหมือนกัน ปากก็โวยวายว่าจะเอาเรื่องทุกคนให้ถึงที่สุด

   “จะติดคุกตลอดชีวิตละยังปากดีอีก” เจมส์แขวะ แต่ก็ถูกพี่บิ๊กที่เพิ่งถึงมาปรามไว้

   แสงแฟลชยังถูกสาดอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งคำถามมากมายที่ส่งไปถึงพี่ขิง แต่คนถูกถามกลับเงียบไม่ตอบพลางชักสีหน้าใส่จนเดินหายเข้าไปด้านใน นักข่าวที่ถูกกันไว้ด้านหน้าต่างพากันคุยอย่างเซ็งแส้เรื่องพี่ขิงถูกจับคาบ่อน แถมเป็นพ่อเล้าค้ามนุษย์อีก เรื่องพวกนี้ไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าเรื่องที่ว่า พี่ขิงถูกรวบคาบ่อนเถื่อนนี่แหละ 

   พวกเราสี่คนเดินเบียดนักข่าวเพื่อจะตามพี่ขิงเข้าไป หมวกที่ผมสวมเกือบหลุดเมื่อถูกแขนนักข่าวชน ยังดีที่พี่ไฮท์คว้าทันก่อนจะจับไว้อย่างนั้นจนพ้นวงล้อมนั่น ใจหายแวบเลยทีเดียว พอเข้ามาด้านใน ผมก็เห็นพี่ชายตัวเองนั่งไขว่ห้างอยู่หน้าโต๊ะของร้อยเวร มีตาแก่เจ้าของบ่อนนั่งถัดอีกโต๊ะ

   “พี่ขิง” ร้องเรียกเบาๆ จนคนที่นั่งหันหน้ามามอง “พี่ขิงทำเรื่องพวกนี้จริงๆ เหรอ” ไม่มีเสียงตอบกลับ แถมยังเบือนหน้าหนีทำเป็นไม่สนใจอีก

   “แม่งทนไม่ไหว กูขอถามหน่อยเถอะ มึงหลอกไอ้ขมิ้นไปให้พวกนั้นจับได้ยังไง มึงเป็นพี่มันนะเว้ย” เจมส์คงทนไม่ไหวระเบิดอารมณ์ออกมา มันคว้าต้นแขนพี่ขิงเขย่าไปมาอย่างเหลืออด “นี่น้องมึงนะขิง”

   “กูมีน้องด้วยเหรอ” เสียงนิ่งที่ตอบกลับทำเอาเจมส์พูดไม่ออก พี่บิ๊กรีบดึงเจมส์ให้กลับมายืนที่เดิม ก่อนพี่ขิงจะปรายตามองพี่ไฮท์ “มึงปกป้องมันจริงๆ สินะ”

   “ก็กูบอกแล้ว ว่ากูจะปกป้องคนที่กูรัก” พี่ไฮท์ตอบอย่างไม่แคร์ “และถ้าน้องมึงไม่ขอกูไว้ ตอนนี้กูคงกระทืบมึงคาโรงพักนี้แล้ว” หลังจากพี่ไฮท์พูดจบ พี่ขิงก็เค้นเสียงขำในลำคอ ผมแตะแขนพี่ไฮท์เมื่ออยากคุยกับพี่ชายตัวเอง และทุกคนดูจะเข้าใจยอมถอยห่าง เพื่อให้ผมคุยกับพี่ขิงได้สะดวก

   “พี่ทำแบบนี้ไปทำไมวะ” ถามเสียงเครียดเมื่ออยู่กับพี่ขิงแค่สองคน แต่คนถูกถามดูไม่ได้สนใจสักนิด “พี่ทำเรื่อง พวกนี้ลงไป ไม่สงสารแม่เหรอ ไหนจะเรื่องเรียน เรื่องการพนัน แล้วยังเป็นคนหาเด็กให้พวกบ้ากามอีก พี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอวะ”

   “รู้สึกสิ รู้สึกว่ามันก็สนุก ท้าทายดีนะ มึงไม่ลองทำดูล่ะ”

   “กับผม พี่คงไม่รู้สึกผิดอะไรที่ทำแบบนี้ แต่กับแม่แล้วก็ลุงเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะคุณลุง เขารักพี่มากนะ รักขนาดให้ทุกอย่างที่พี่อยากได้ แต่ทำไมพี่ยังคิดทำร้ายเขาได้ลงคอ นี่พี่ยังเป็นคนจิตใจปกติดีอยู่หรือเปล่า”

   “มันให้กูเองนี่ ทำไมกูจะต้องรู้สึกผิดอะไร” พี่ขิงตอบอย่างไม่ยี่หร่า “แล้วที่บอกว่ารักกู รักเหี้ยอะไรถึงแอบติดกล้องวงจรปิดในห้องเพื่อจับกู”

   “เขาติดไว้ป้องกันขโมย ก็พี่อยากเป็นขโมยทำไม เงินไม่กี่แสนแค่ขอเขาก็ให้แล้ว ขนาดรถราคาเป็นล้านเขายังให้พี่เลย”

   “ก็ถ้ากูบอกติดหนี้บอล มันจะให้กูไหม! สมองมึงมีหัดคิดซะบ้าง!” คิ้วผมกระตุกยิกๆ เมื่อถูกพี่ขิงตะคอก

   “อะไรทำให้พี่เป็นแบบนี้วะ คนที่มีเงิน มีหน้าตาทางสังคม มีงานที่ดี มีเพื่อนที่รัก แถมได้เรียนในสิ่งที่ชอบ ชีวิตพี่โคตรดีทุกอย่าง แล้วอะไรทำให้พี่เลวแบบนี้ล่ะ”

   “เพราะทุกคนทำให้กูเลวไง”

   “ไม่ใช่” ผมพูดออกมาทันทีที่พี่ขิงพูดจบ “ทุกคนไม่ได้ทำ แต่เพราะพี่เลือกจะเป็นคนเลวเอง พี่เลือกเองทั้งหมด”

   “มึงไม่เป็นกูมึงไม่รู้หรอก ว่ากูพยายามแค่ไหนกว่าจะมาถึงวันนี้ กูพยายามอย่างหนักเพื่อจะเรียนให้ได้ที่หนึ่งอย่างที่พ่อหวัง กูพยายามตัวตัวให้เด่นที่สุดในงานอย่างที่แม่ชอบ และความรักที่กูพยายามทำให้เขามอง แต่เขากลับไม่ใส่ใจ” พี่ขิงปรายตามองไปยังพี่ไฮท์ที่นั่งอยู่ข้างพี่บิ๊ก “กูพยายามทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น แล้วกูล่ะ ทำไมไม่มีใครพยายามทำเพื่อกูบ้าง พอมึงเข้ามา ยิ่งทำให้กูรู้ว่า ความพยายามของกูโคตรไม่มีค่าอะไรเลย คนที่แม่งเกิดมาหน้าตาเหมือนกู แต่ด้อยกว่ากูทุกอย่าง กลับได้สิ่งที่กูอยากได้ มันใช่เหรอวะ มึงแม่งไม่น่าเกิดมาเลยว่ะ”

   “พี่โคตรปัญญาอ่อนว่ะ” ว่าเสร็จก็เค้นขำออกมา “สิ่งที่พี่พยายามทำเพื่อคนอื่นนั้น ผลสุดท้ายคนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือตัวพี่เองไม่ใช่เหรอ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน มันทำให้พี่มีชีวิตที่ดีไม่ใช่เหรอ”

   “ชีวิตที่ดี? ดียังไง กูต้องสูญเสียอะไรไปบ้างกับชีวิตที่ดีอย่างที่มึงว่า”

   “ถ้าพี่หมายถึงเรื่องเรียนหรือเรื่องงานผมไม่รู้ ว่าพี่ต้องเสียอะไรไปบ้าง แต่ถ้าหมายถึงเรื่องความรักละก็ พี่ไม่ได้สูญเสียอะไรเลย เพราะคนที่สูญเสียก็คือพี่ไฮท์ เขาเสียคนที่รักไปเพราะความเห็นแก่ตัวของพี่ ซึ่งพี่เรียกมันว่าความรัก”

   “กูไม่ได้เห็นแก่ตัว เพราะอีนั่นมันไม่ใช่คนดี ถ้ามันดีจริงจะยอมมานอนกับกูเหรอ ถ้ามันรักไอ้ไฮท์จริง จะนอกใจเข้าโรงแรมกับคนอื่นเหรอ” พูดไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อได้ยิน ซึ่งมันก็เป็นความจริงอยู่ส่วนหนึ่งเหมือนกัน “กูแย่งอีนั่นออกมาจากมัน แล้วมึงก็มาแย่งมันไปจากกู”

   “ผมไม่เคยแย่งพี่ไฮท์”

   “ทำไมจะไม่แย่ง! มึงนั่นแหละ แย่งความรักของกูไป ถ้าไม่มีมึง อีกหน่อยเขาก็อาจสนใจกู ถ้ากูหลุดออกมาจากวงจรอุบาทนั่นได้ แต่พอมีมึงเข้ามา ทุกอย่างที่กูหวัง มันก็พังลง มึงควรตายตั้งแต่เป็นเด็กขี้โรคนั่น ไม่น่ารอดมาอยู่ร่วมโลกกูเลย”

   “พี่ขิง!” ผมแหวออกมาเมื่อทนฟังคำพูดแย่ๆ นั่นไม่ได้ “พี่เลิกโทษคนอื่นซะที แล้วก็เลิกโยนความผิดที่พี่ก่อให้กับคนอื่น เพราะคนที่พี่ต้องโทษ คือตัวพี่เอง พี่ทำเลวเอง”

   “มึงด่ากูเหรอ”

   “หรือพี่จะคิดว่าผมชมล่ะ จากตอนแรกที่รู้ว่าพี่ติดหนี้บอล ผมก็คิดอยากหาทางช่วย ตอนเจอไอ้พี่นาว ผมก็คิดแค้นเขา เพราะคิดว่าเขาเป็นต้นเหตุ แต่ที่ไหนได้ พี่กลับเลือกทำเอง เลือกที่จะเอาชีวิตไปเกลือกกลั้วความเลวเอง อีกอย่างนะ ถึงไอ้พี่นาวมันจะไม่ใช่คนดีมาก แต่เขาก็รักพี่จริงๆ ผมรู้สึกได้”

   “รักเหรอ อย่างมันเนี่ยเหรอรักกู อยากใช้กูเป็นทางลัดหวังดังน่ะสิไม่ว่า”

   “แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่ารักล่ะ แบบที่พี่ทำกับพี่ไฮท์น่ะเหรอ” ว่าจะไม่พาดพิง แต่ก็ขอหน่อยเถอะ ตอนนี้พี่ขิงเอาแต่เหลือบตามองคนด้านหลังผมเป็นระยะ “พี่เรียกความเห็นแก่ตัวว่าความรักเหรอ อยากจะหัวเราะเป็นภาษามนุษย์ต่างดาว”

   “ไอ้ขมิ้น!”

   “ถ้าพี่รู้จักความรักจริงๆ พี่จะไม่มีทางคิดทำลายความรักของเขา ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม เพราะมันคือความรักของเขา”

   “ถ้ากูไม่ทำลายความรักของมันในตอนนั้น แล้วตอนนี้มึงจะได้รักกับมันไหม มึงต้องขอบใจกูด้วยซ้ำไอ้ขมิ้น ถ้าไม่มีกู ชีวิตของมึงคงไม่มาเจอเรื่องดีๆ แบบนี้” พี่ขิงเหยียดยิ้มออกมา ราวกับตัวเองดีเลิศ

   “ชีวิตเจอแต่เรื่องดีเหรอ งั้นผมคงต้องกราบขอบคุณพี่สินะ ขอบคุณพี่ที่ทำให้ผมเจอพี่ไฮท์ ขอบคุณที่พี่ทำเรื่องดีๆ เอาไว้ให้ผมต้องเจอในทุกๆ วัน เรียกได้ว่า ตั้งแต่วันแรกในการเหยียบมหาลัยด้วยซ้ำ ขอบคุณที่พี่มีเพื่อนพี่น้องทั่วมหาลัย ไม่ว่าผมจะไปทางไหน ก็มีคนอยากสัมผัสร่างกายผมด้วยมือและตีน ผมโคตรจะซาบซึ้งในความดีของพี่เลยว่ะ” ถ้านี่เรียกว่าประชดก็คงใช่ แต่มันสุดจะทนแล้วจริงๆ กับคนที่ทำเรื่องแย่ๆ แต่กลับไม่มีความสำนึกเลยสักนิด “ตั้งแต่เกิดมา พี่เคยคิดว่าตัวเองทำผิดบ้างไหม”

   “ในชีวิตกู ไม่เคยทำอะไรผิด”

   คนแบบนี้พูดไปก็เปลืองน้ำลายจริงๆ ผมเม้มริมฝีปากเพราะไม่อยากต่อความกันอีก ก่อนที่ตำรวจจะกันผมให้ออกไปรอด้านนอก ก็อดไม่ได้ที่จะบอกเรื่องสุดท้ายที่อยู่ภายในใจ

   “ปุยเมฆมันรอเจอพี่ไม่ไหว มันไปสบายแล้วนะ” พูดเสร็จผมก็เดินตามพี่ไฮท์ออกไปรอด้านนอก พี่ขิงไม่มีท่าทางตกใจอะไร ใบหน้าเหมือนผมนิ่งไร้ความรู้สึก ถึงพี่ขิงจะไม่ได้รัก แต่อย่างน้อยก็ควรได้รับรู้ ว่ามันไม่อยู่แล้ว




   ภายในห้องกระจกนั้น ผมไม่รู้เลยว่าตำรวจสอบสวนพี่ขิงกับเจ้าของบ่อนว่ายังไงบ้าง เห็นก็แต่ตาลุงเจ้าของบ่อนชี้มือชี้ไม้ตะโกนด่ากับพี่ขิงที่นั่งคอเชิดไม่สนใจ

   “เรื่องใหญ่จริงๆ ว่ะ” เสียงของพี่บิ๊กทำให้ผมละสายตาจากห้องกระจก ก่อนโทรศัพท์เครื่องแพงจะถูกยื่นมากลางวง “ข่าวไอ้ขิงลงเว็บเต็มไปหมด กูว่า อนาคตมันดับแน่ๆ”
 
   “ไม่ต้องเดาหรอก มันก็เห็นๆ กันอยู่” พี่ไฮท์ตอบ “แล้วนี่ ไม่โทรบอกแม่เหรอ”

   “เออใช่”

   พี่ไฮท์เตือนปุ๊บ ผมก็รีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาเลื่อนๆ หาชื่อของแม่ กดโทรออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่มีใครรับสาย พอลองโทรเข้าที่บ้านหลังใหญ่ถึงได้รู้ว่า แม่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบใหญ่ออกจากบ้านไป แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ไหน ผมพยายามโทรหาแม่ดูอีกรอบ เผื่อแม่จะสามารถมาประกันตัวพี่ขิงได้

   “ไม่รับเหรอ” พี่ไฮท์ถามเสียงเครียด ผมก็พยักหน้าทั้งที่โทรศัพท์ยังแนบหู “อาจจะยุ่งก็ได้”

   “รับแล้วๆ” ผมยิ้มกว้างออกมาเมื่อปลายสายมีการกดรับ “แม่อยู่ไหน มาช่วยพี่ขิง...”

   (ฉันอยู่สนามบิน กำลังจะบินไปอเมริกา) ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค แม่ก็พูดสวนกลับมา (แล้วแกก็ไม่ต้องโทรหาฉันอีก เพราะฉันจะปิดเครื่อง)

   “แม่จะไปเมืองนอกทั้งที่พี่ขิงกำลังเดือดร้อนเนี่ยนะ”

   (มันก่อเรื่องเอง ก็ให้รับโทษไปสิ แกรู้ไหมว่าฉันอายแค่ไหนที่มันทำเรื่องเลวแบบนั้น แล้วแบบนี้จะให้ฉันทนแบกหน้าอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันอาย)

   “ชื่อเสียงของแม่สำคัญกว่าลูกเหรอ”

   (ถ้ารู้ว่ามันชั่วแบบนี้ ฉันจะไม่พามันไปออกงานสังคมอย่างเด็ดขาด แกรู้ไหมว่าวันนี้ฉันต้องทนกับเสียงโทรศัพท์กี่ร้อย กี่พันสายเพราะข่าวของพี่แก ชื่อเสียงของฉัน หน้าตาของฉัน จะเอาไปไว้ที่ไหน ป่นปี้หมดแล้ว)

   “แม่มาประกันตัวพี่ขิงหน่อยสิ” พยายามทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่แม่พูด เพราะถ้าพี่ขิงได้ยินก็คงเสียใจ ขนาดผมยังรู้สึกเสียใจแทนเลย

   (แค่นี้นะ ฉันจะขึ้นเครื่องแล้ว)

   แล้วแม่ก็ตัดสายไป ทั้งที่ผมยังคุยไม่จบด้วยซ้ำ พอโทรกลับไปก็ไม่มีสัญญาณแล้ว นี่แม่ทิ้งพี่ขิงไปจริงๆ เหรอวะ ผมก็ไม่ได้อยากว่าแม่หรอกนะครับ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่า แม่เห็นแก่ตัวจริงๆ ผมมองเหม่อผ่านกระจกใส เห็นพี่ชายตัวเองกำลังถูกพาเข้าไปด้านใน

   “ตำรวจจะเอาพี่ขิงไปไหน” ถามทั้งที่สายตายังอยู่ในห้องสอบสวน

   “คงเอาไปขังก่อนละมั้ง” พี่ไฮท์ตอบพลางวางมือบนบ่าผมเบาๆ เพื่อปลอบ “แม่มึงไปเมืองนอกแล้วเหรอ” ผมไม่ได้ตอบไป ทำเพียงแค่พยักหน้า แค่นั้นน้ำหนักมือที่วางบนบ่าก็แรงขึ้น

   หมดหวังที่จะช่วยแล้วใช่ไหม พี่ขิงต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อใช่ไหม


   “ไอ้ขมิ้น” ระหว่างที่กำลังน้ำตาคลอ เสียงเรียกแสนคุ้นหูก็ดังขึ้น ผมและคนอื่นๆ หันไปมอง แค่นั้นน้ำตาผมก็ไหลอาบแก้ม “พี่มึงล่ะ”

   “พ่อมาได้ยังไง”

   “ขับรถมาสิวะ”

   “ผมหมายถึง พ่อมาที่นี่ได้ยังไง แล้วรู้เรื่องพี่ขิง...”

   “ข่าวลงทีวีเกือบทุกช่อง ว่าจับนายแบบไฮโซคาบ่อน แล้วชื่อกับหน้ามันก็เต็มจอ กูไม่เห็นก็คงตาบอดแล้ว” พ่อตอบยาวเหยียดแต่สายตากำลังมองหาใครสักคน “พี่มึงล่ะ”

   “ตำรวจเอาเข้าห้องขังไปเมื่อกี้”

   พ่อเงียบเมื่อผมตอบ ก่อนจะหันมาทำตาดุใส่

   “มึงมีเรื่องขนาดนี้ ไม่คิดจะบอกพ่อมึงเหรอวะ หรือไม่เห็นกูเป็นพ่อ”

   “ไม่ใช่แบบนั้น ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้” ที่จริงไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง “พ่อจะเข้าไปหาพี่ขิงไหม”

   “ไปสิ นั่นลูกกูนะ”

   พูดจบพ่อก็ผลักบานประตูเข้าไป โดยมีผมเดินตามเข้าไปคนเดียว คุยกับตำรวจไม่นานก็ได้เข้าไปด้านในซึ่งมีห้องขังขนาดกลางที่มีพี่ขิงกับเจ้าของบ่อนนั่งอยู่คนละมุม

   “ขิง” พ่อเรียกเบาๆ เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมามองช้าๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง “เป็นยังไงบ้างลูก”

   “ติดคุกแบบนี้คงสบายมั้ง” น้ำเสียงและท่าทางของพี่ขิงไม่ได้ทำให้พ่อโกรธ ต่างจากผมที่อยากจะต่อยหน้าขาวๆ นั่นเหลือเกิน “มาทำไม”

   “พ่อขอโทษที่ไม่ได้ดูแลขิง” เสียงพ่อเริ่มสั่น ผมรู้ว่าพ่อก็รักพี่ขิงไม่น้อยไปกว่าผม แต่ทุกครั้งที่พูดเหมือนไม่สนใจก็เพราะปากแข็ง “พ่อจะช่วยขิงเองนะ”

   “ขอบใจ แต่ไม่ต้อง เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”

        และท่าทางหยิ่งยโสนั่นทำให้ผมอดไม่ไหว..

   “ในเมื่อไม่สนิทก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน พี่ก็รับกรรมความชั่วของพี่ไป” แม้พ่อจะปรามผม แต่ผมก็ไม่ยอมหยุด “รับโทษแบบนี้ก็ดี พี่จะได้คิดทบทวนว่าในชีวิตของพี่ ทำอะไรผิดมาบ้าง”

   “ไอ้ขมิ้น พอได้แล้ว” พ่อตบหัวของผมเบาๆ เมื่อพูดห้ามไม่ได้ “แล้วขิงต้องการอะไรไหม เดี๋ยวพ่อ...”

   “ต้องการความสงบ อย่ามายุ่ง อย่ามาให้เห็น ไม่ชอบ เข้าใจไหม”

   “เข้าใจแล้ว พ่อกลับ”

   ผมดึงแขนพ่อให้ออกมาจากตรงนั้น แต่พ่อยังยื้อตัวเองเอาไว้

   “แล้วแม่ล่ะ แม่อยู่ไหน ขิงไม่ตามแม่มาช่วยล่ะ”

   “ป่านนี้หอบสมบัติหนีแล้วมั้ง” พี่ขิงตอบเหมือนตาเห็น เพราะแม่เป็นแบบนั้นจริงๆ “กลับไปในที่ของพวกคุณเถอะ เพราะผมไม่ต้องการ”

   “ขิง...ลูก”

   จากนั้นพี่ขิงก็ลุกหนีไปนั่งมุมห้องด้านใน ส่วนพ่อน้ำตาคลอมองตาม ผมเพิ่งเคยเห็นพ่อจะร้องไห้ก็คราวนี้ โคตรสงสารพ่อตัวเองเลยว่ะ



   เราสองคนเดินลอยๆ ออกมาจากห้องด้านใน พ่อปลีกตัวไปคุยกับตำรวจ ส่วนผมเดินออกมาหาพวกพี่ไฮท์ที่นั่งรอกันอยู่ พอทุกคนเห็นผมก็รีบเดินเข้ามาหา

   “ไหวไหม” พี่ไฮท์ถามพลางลูบศีรษะผมเบาๆ

   “ก็ต้องไหวแหละมั้ง” ตอบพลางสูดขี้มูก

   “ร้องไห้ออกมาเลยมึง จะได้ดีขึ้น” เจมส์จับมือผมเขย่าเบาๆ เพื่อปลอบ

   “ไม่เอา เดี๋ยวกูตาบวม” เพราะไม่อยากให้ทุกคนเครียดไปกับผม เลยต้องทำเป็นตลก “ไม่รู้พ่อจะคุยได้เรื่องไหม”

   “ถ้าเรื่องประกันตัวคงไม่ได้ว่ะ เพราะกูไปถามแล้ว” พี่บิ๊กบอกออกมา “เขาบอกเป็นคดีร้ายแรงกลัวหลบหนี”

   “อย่างนี้ไอ้ขิงก็ต้องติดคุกน่ะสิ” เจมส์พลั้งปากออกมาก่อนจะรีบตะครุบปากตัวเอง “ขอโทษที่ปากไวไปหน่อย” ผมยิ้มให้เจมส์บางๆ เพราะไม่ได้คิดมากอะไร

   รออยู่ไม่นานพ่อก็เดินคอตกออกมา ใบหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

   “เป็นไงบ้างพ่อ ตำรวจว่าไง”

   “เขาไม่ให้ประกันตัวว่ะ กลัวมันหนี” เป็นอย่างที่พี่บิ๊กบอกจริงๆ “เฮ้อ”

   “พ่ออย่าเครียดสิ เดี๋ยวความดันขึ้นนะ”

   “มึงยังมาทำตลกอีก”

   “ก็ไม่อยากให้พ่อเศร้า เห็นพ่อเป็นแบบนี้แล้วเหมือนไม่ใช่พ่อผมคนเดิม”

   “กูก็อยากหัวเราะ แต่มันยิ้มไม่ออก” พ่อบอกพลางถอนหายใจออกมาอีก “แล้วนี่ใคร”

   “นี่เจมส์เพื่อนพี่ขิง” ชี้ไปที่เจมส์ “นี่พี่บิ๊กรุ่นพี่ของพี่ขิง” ชี้ไปทางพี่บิ๊ก “และสุดท้าย” เอาวะ พ่อคงไม่กระทืบผมจนม้ามแตกหรอก “นี่พี่ไฮท์...”

   “รุ่นพี่ไอ้ขิง?”

   “แฟนผม”

   เงียบไร้เสียงตอบกลับ พ่อกระพริบตาปริบๆ มองผม พออ้าปากจะพูดก็งับลงไป ทำแบบนั้นอยู่หลายรอบก่อนจะตวัดสายตามองพี่ไฮท์

   “เรื่องนี้ไว้คุยกันอีกที แล้วนี่ มึงจะกลับบ้านพร้อมกูไหม หรือต้องกลับไปบ้านคนรวยนั่นอีก” แม้จะพูดกับผม แต่สายตาพ่อยังจ้องพี่ไฮท์ตาไม่กระพริบ

   “ผมออกมาจากบ้านนั้นแล้ว” พูดจบพ่อก็ตวัดสายตามามอง

   “แล้วมึงไปอยู่ไหน”

   “อยู่...”

   “ไปอยู่บ้านผมครับ” ตาผมถลนจนจะพุ่งออกจากเบ้าเมื่อถูกแย่งพูด พี่ไฮท์ยกมือไหว้พ่อช้าๆ พร้อมส่งรอยยิ้มสุดเท่ไปให้ “สวัสดีครับคุณพ่อ”

   “นะ นี่มึง กับลูกกู ได้กันแล้วเหรอ!” พ่อตะโกนโรงพักแทบแตก มือไม้ก็ชี้มั่วซั่วไปหมดจนผมต้องรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

   “ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่”

   “มึงไปอยู่บ้านมัน แล้วมันกับมึงอยู่ด้วยกัน ไอ้ขมิ้น!”

   “ไม่ใช่พ่อ ฟังผมก่อน อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น”

   “ไอ้...โอ๊ย นี่กูต้องเครียดเรื่องไหนก่อนวะ เรื่องลูกติดคุกหรือลูกมีเมียเป็นผู้ชาย นี่กูจะเครียดสองเรื่องพร้อมกันไม่ได้ โอย ความดันขึ้น”

   “พ่อใจเย็นๆ พ่อ”

   แล้วพวกเราก็ต้องวิ่งวุ่นหายาดม ยาหอมมาให้พ่อของผม ไม่รู้ป่านนี้คิดเรื่องผมกับพี่ไฮท์ไปไกลแค่ไหน นี่คิดไกลกว่าผมอีก
 


   “พ่อมึงกำลังเข้าใจผิดนะ” พี่ไฮท์กระซิบข้างหูผม

   “นั่นสิ พ่อผมเข้าใจผิด คิดมาได้ว่าเรามีอะไรกันแล้ว”

   “นั่นก็ใช่ แต่ที่กูหมายถึงไม่ใช่เรื่องนี้”

   “แล้วพี่หมายถึงเรื่องอะไร”

   “เรื่องที่เข้าใจผิด คือเรื่องที่มึงมีเมียเป็นผู้ชายไง”

       ผมหันไปมองหน้าพี่ไฮท์อย่างงงๆ ไม่เข้าใจในความหมาย

   “คือยังไง”

   “ก็มึงไม่ได้มีเมีย แต่มึงจะเป็นเมียให้กูต่างหาก”

        พูดจบก็ขยิบตาให้ผมมาสองที จนผมต้องถลึงตาใส่

   “มันใช่เวลามาคิดทะลึ่งแบบนี้ไหมเนี่ย”

   “หน้าแดงด้วยว่ะ”

   “พี่ไฮท์!”

   ผมถลึงตาใส่พี่ไฮท์ที่หัวเราะความเขินของผม แต่ก่อนที่บรรยากาศสีชมพูจะกลืนกินทุกอย่าง เสียงของพ่อผมก็ดังขึ้น...

   “พวกมึงสองคนหยุดจีบกันแล้วสนใจกูบ้าง ความดันกูขึ้นเนี่ย โอย บ้านหมุนว่าแย่แล้ว นี่โรงพักหมุน กูจะตายไหมวะเนี่ย”

   ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าผมได้เลือดพ่อมาเต็มๆ

   จะตายก็ขอตลกไว้ก่อน...สักมุกก็ยังดี


..TBC

อีกประมาณ สองถึงสามตอนจะจบแล้วค่าาาาา เรามาเกือบสุดปลายทางแล้ววววววว

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่พาคู่รักแป้งเด็กมาไกลถึงขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่าาา

ตอนที่เหลือเราจะมาหาความหวานกัน ไม่รู้จะเจอไหม คงต้องให้ความรักของพี่ไฮท์ทำนายแล้ว

แล้วพบกันค่าาา


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อีตัวแม่เนี่ย  เลวได้ไจ  ไม่แปลกที่ขิงซึ่งเป็นลูกที่ถูกเลี้ยงด้วยแม่จะนิสัยแบบนี้

ส่วนขมิ้นถูกเลี้ยงด้วยพ่อก็มีนิสัยอีกแบบ

ถึงแม้จะสายเลือดเดียวกัน แต่นิสัยสันดานมันเกิดจากการเลี้ยงดูจริง ๆ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
โอ้โหกำลังโกรธขิงกับแม่อยู่ดีๆเจอพ่อเข้าไปอารมณ์เปลี่ยนเลย  :laugh: :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 23] [P.9] // {11/05/61}
« ตอบ #259 เมื่อ: 11-05-2018 22:52:08 »





ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ขิงจะมีวันสำนึกไหมนี่  แม่ขิงควรได้รับความสุญเสียกว่านี้นะ

แต่พ่อมาตอนท้ายจากเครียดๆนี่ฮาได้เลย

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
แม่ เลี้ยงขิง ขิงเลยเป็นแบบแม่
พ่อ เลี้ยงขมิ้น ขมิ้นเลยเป็นแบบพ่อ
นี่สินะที่เขาว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
... แต่ พ่อฮามากเลยค่ะ #ทีมพ่อ (พ่อไฮและพ่อขมิ้นเลยค่ะ)

ป.ล. มีคำสะกดผิดและคำใช้ผิดค่ะ ขออนุญาตช่วยแก้นะคะ
ส่วนแผลที่ไหล (ไหล่) ก็ยังเจ็บอยู่บ้าง
พากันคุยอย่างเซ็งแส้ (เซ็งแซ่)
พี่ขิงตอบอย่างไม่ยี่หร่า (คำนี้ต้องใช้ ยี่หระ ส่วน ยี่หร่า เป็นเครื่องเทศค่ะ)
ถ้ากูหลุดออกมาจากวงจรอุบาท (อุบาทว์)

แล้วจะรอความหวานของคู่แป้งเด็กนะคะ
เกือบลืมย้ำ อย่าปล่อยอินังขิงออกมาจากคุกนะคะ
คนเลวไปถึงสันขวานแบบนี้ ต้องโดนลงโทษค่ะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ขิงเกินเยียวยาแล้วล่ะ คงต้องปล่อยให้ชดใช้กรรม จะสำนึกรึเปล่าก็ไม่รู้ คุณแม่นี่ก็เลว หอบผ้าหอบผ่อนหนีอีก

แอบซึ้งมากตอนคุณพ่อรีบมา และคุณพ่อก็ทำเราปรับอารมณ์ไม่ทัน ซึ้งๆน้ำตาซึม นี่ตลกมาเลย โอยยคุณพ่อน่ารัก ดูๆแล้วน่าจะเข้าขากะพ่อพี่ไฮท์นะเนี่ย

//จะใจบาปไปไหมถ้าจะแอบชิปคู่นี้
 :-[

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีแล้วคนแบบขิงให้ไปสำนึกผิดในคุก

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
คนอย่างขิงนี่...มันสุดเกินไปแล้วอ่ะ
ไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ก้ออย่างว่าโตมากับแม่แบบนั้น

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ตอนเห็นชื่อเรื่องนึกว่าเกี่ยวกับเด็กซะอีก ฮ่าๆๆ ขิงนี่ดูไม่สำนึกเลยนะว่าทำอะไรไม่ดีไว้บ้าง ส่วนแม่ขิงนี่ก็เห็นแก่ตัวสุดๆเลยจริงๆ แถมเรื่องนี้มีพวกนังกลอยมาแจมด้วยอีก กลอยยังเกรียนเหมือนเดิมส่วนพี่โชก็ปีศาจอัพเวลชัดๆ ชอบๆ รอฉากหวานของคู่แป้งเด็กนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นี่ถ้าพ่อแม่ ขิง ขมิ้น อยู้ด้วยกัน
ขิงคงเหมือนลูกจริง
แล้วขมิ้นเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง ทั้งที่หน้าเหมือนกัน
ดีแล้วที่เลิกกัน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :-[ รอตอนต่อไป :ling3:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
พ่อตลกจัง อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด