,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}  (อ่าน 89675 ครั้ง)

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ขิงถึงขั้นปลอมเป็นน้อง ... เลวจริง ๆ
เอาน้ำร้อนราด สาดลงท่อน้ำเสีย กทม. เหอะ

ส่วนขมิ้น ... กลับไปอยู่กับพ่อ ดีแล้ว
ระหว่างนี้ อยู่ใกล้พี่ไฮน์เข้าไว้นะ (ฮียินดีแน่นอน เชื่อป้าเหอะ)

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ขนาดพ่อเลี้ยงยังต้องหนี แล้วขมิ้นอยู่รออะไร

ทำไมขิงต้องทำน้องถึงขนาดนี้ แม่ก็ด้วย ไม่เข้าใจเลย
คือไม่รัก ไม่เลี้ยงดูไม่ว่า แต่ถ้าแม่เป็นใจก็ไม่ไหวนะ
ไฮท์คือดี ห่วงมาก รักมากแต่ไม่แสดงออก
ขมิ้นโชคดี อย่างน้อยก็ยังเจอคนดี มีคนห่วงใย


ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วเนี่ย
ขิงกับแม่ ทำอะไรไว้ ขมิ้นหนีด่วนเลยลูก ไม่ต้องรงต้องรอแล้ววววว

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ขิงเลวขนาดนี้ก็โอเคล่ะ จะได้จบๆ ถ้าเลวครึ่งดีครึ่งอาจจะยาก

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-20-




       “มองซ้ายมองขวาดีๆ มีอะไรไม่ชอบมาพากลขี่กลับเข้ามาเลยเข้าใจไหม” พี่ไฮท์เท้าเอวทำหน้าเครียดบอก ในขณะที่ผมจะออกตัวอยู่หลายรอบ พี่แกก็พูดขึ้นมาอีก นับได้ก็หลายนาทีอยู่ แดดก็ร้อนด้วย หน้าตึกเนี่ย “มีอะไรก็โทรหากูเลยเข้าใจไหม”

   “เข้าใจครับ ผมไปได้หรือยัง”

   “กดเบอร์กูรอไว้เลยก็ดี เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้โทรออกได้เลย”

   “พี่ไฮท์เว้ย ผมแค่ไปซื้อของหน้ามหาลัยนี่เอง ไม่ได้ออกไปต่างจังหวัด” สั่งซะยืดยาว ทำอย่างผมจะไปออกรบ

   “ก็กูเป็น...”

   “เป็นอะไร เป็นห่วงล่ะสิ”

   “เออ เป็นห่วง”

   ผมยิ้มก่อนยื่นหมัดไปชกหน้าอกแน่นของพี่ไฮท์เบาๆ

   “จะรีบไปรีบกลับ ใครเข้าใกล้เดี๋ยวผมเตะคว่ำให้หมด พอใจหรือยัง”

   “ให้มันได้อย่างที่พูด”

   “พี่กลับเข้าไปทำงานเถอะ เดี๋ยวส่งไม่ทันเย็นนี้นะ”

   “เออ ดูแลตัวเองด้วย”

   “ครับๆ”

   ที่จริงวันนี้ผมมีเรียนเช้า แต่อาจารย์ยกเลิกคลาสไปซะนี่ แล้วเจมส์ก็ดันท้องเสีย เข้าออกห้องน้ำบ่อยจนพี่บิ๊กทนไม่ได้ต้องพาไปส่งห้องพยาบาล ส่วนผมอาสาออกไปซื้อเกลือแร่ให้ เมื่อคนอยู่ห้องพยาบาลโทรมาขอเพราะของหมด และกว่าผมจะขี่รถออกมาได้ ก็อย่างที่เห็นกัน นี่หากพี่ไฮท์ไม่รีบทำรายงานละก็ คงตามผมมาด้วยแล้ว

   จากตึกคณะมาหน้ามหาวิทยาลัยไม่ค่อยไกลมาก ผมจอดรถไว้หน้าร้านก่อนรีบเข้าไปซื้อเกลือแร่ในร้านขายยา เคยดูรายการสุขภาพอะไรสักอย่าง คุณหมอแนะนำว่าท้องเสียอย่าทานยาฆ่าเชื้อ ให้ทายเกลือแร่ ดังนั้นผมก็เหมาเกลือแร่มาอย่างเยอะจนพี่เภสัชกรขำ     

   ได้ของที่ต้องการเสร็จผมก็ควบมอเตอร์ไซค์ตัวเองก่อนพุ่งกลับคณะ มันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากหางตาผมไม่เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง

   “คนโดนรุมเหรอวะ?”

   กลุ่มคนประมาณสี่ถึงห้าคนกำลังรุมทำร้ายนักศึกษาอยู่ใต้ต้นไม้ในมุมลับตา ตอนแรกผมก็ไม่อยากยุ่ง แต่มือดันเลี้ยวรถไปตามทางนั่นแล้ว ใกล้ถึงผมก็บีบแตรลั่นจนพวกที่กำลังรุมกระทืบสะดุ้งตกใจแล้วรีบควบมอเตอร์ไซค์หนีไป จะว่าโชคดีก็ใช่ที่พวกนั้นไม่หันมามอง เกิดเห็นว่าผมว่าคนเดียว อาจโดนลูกหลงถูกกระทืบไปด้วยอีกคน เสียงไอโขลกๆ ของคนโดนกระทืบทำให้ผม รีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้วลงไปดู ใบหน้าขาวมีรอยแดงเด่นชัด ที่จมูก ปากและหางคิ้วมีเลือดออก

   “เป็นอะไรมากไหมครับ” ผมประคองคนเจ็บให้ลุกขึ้นนั่ง

   “เจ็บสิถามได้” หากผมเป็นคนใจร้อน คงผลักคนเจ็บให้นอนตามเดิม เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น “มึง?”

   “ไปห้องพยาบาลเถอะพี่นาว” นั่นละครับคนที่ผมเจอ สภาพเละไม่เป็นท่าด้วย เมื่อกี้เห็นโดนเตะอัดเข้าท้องหลายที ไม่รู้เครื่องในพังไปหรือยัง

   “ช่วยกูทำไม ทั้งที่มึงสั่งพวกมันมา” พูดจบพี่นาวก็ไอแห้งออกมา ดูท่าจะเจ็บหนัก

   “ผมเนี่ยนะสั่ง จะบ้าเหรอ” รีบปฏิเสธ อยู่ๆ ก็ถูกใส่ร้ายเฉย “ไปห้องพยาบาล...”

   “อย่ามายุ่งกับกู” พี่นาวสะบัดแขนพร้อมพยายามจะลุกขึ้นเอง แต่ก็ล้มลงมานั่งอีก “แม่งเอ๊ย”

   “ขาพี่อาจจะหักนะ ไปห้องพยาบาลกัน” โดนสะบัดอีกรอบ คราวนี้ผมเริ่มทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นยืนเท้าเอว “อย่าเรื่องมากได้ไหม เจ็บจะตายอยู่แล้วยังท่ามากอีก หรืออยากตายตรงนี้” ความเหลืออดของผมทำเอาคนเจ็บเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ “จะไปดีๆ หรือจะให้ลากไป ไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะ แล้วก็ไม่ได้ใจเย็นเหมือนพัดลมไอน้ำด้วย”

   “มึง...มึงไม่ใช่ไอ้ขิงที่กูรู้จัก” พี่นาวขมวดคิ้วจ้องหน้าผมเหมือนไม่เคยรู้จัก

   “เออ ไม่ใช่ พอใจหรือยัง” ความล้งความลับไม่ต้องมีแล้ว ผมจะไม่อยู่แล้ว ไม่แคร์แล้วด้วย “จะไปไหมห้องพยาบาลเนี่ย”

   “มึงไม่ใช่ไอ้ขิง แล้วมึงเป็นใคร” เจ็บจนอ้าปากพูดแทบไม่ได้ ยังอยากรู้เรื่องอีก “ฝาแฝด?”

   “เออ” ตอบแบบห้วนๆ

   “งั้นที่ผ่านมา มึงก็ไม่ใช่ไอ้ขิง?”

   “เออ เมียของพี่ ไม่ใช่ผม โอเคยัง รู้เรื่องนะ”

   พี่นาวพยักหน้าช้าๆ แต่ก็ยังดูมึน ผมเข้าประคองให้ลุกขึ้นยืน คราวนี้ไม่ได้ขัดขืนอะไรนอกจากยื่นหน้ามาซะแทบติดกับหน้าผม

   “โคตรเหมือน”

   “ใกล้กว่านี้พี่ก็สิงผมเลย” พูดจบคนเจ็บก็หัวเราะออกมา ก่อนจะซี๊ดปากเพราะความเจ็บ “แล้วนี่พี่ไปเหยียบตีนใครเข้าล่ะ เขาถึงส่งคนมากระทืบน่ะ” ระหว่างพาพี่นาวไปที่มอเตอร์ไซค์ก็อดที่จะถามไม่ได้

   “ไอ้ขิงส่งมา” คำตอบนั่นทำให้ผมแทบโยนพี่นาวลงพื้น แต่ยังดีที่พอมีสติเหลืออยู่ “ก็ไม่เชิงไอ้ขิงหรอก”

   “อ่าว สรุปพี่ขิงหรือไม่ใช่”

   “มันก็เกี่ยวกับไอ้ขิงนั่นแหละ” ตีหน้างงใส่ พี่นาวพิงเบาะรถผม ในขณะที่ผมเดินย้อนไปเก็บของคนโดนกระทืบที่กระจายอยู่บนพื้นหญ้า “เสี่ยส่งคนมาเพราะไอ้ขิงบอกว่ากูไปยุ่งกับมัน”

   “เสี่ย? เสี่ยไหนวะ แล้วพี่ไปยุ่งกับพี่ขิงอีกเหรอ” อยากรู้ก็อยากรู้ ของก็ต้องหา แม่งบอกให้หามือถือแต่ตกอยู่ไหนไม่รู้
 
   “กูไปเจอมันที่บ่อนก็เลยทักทาย ไม่คิดว่ามันจะไปบอกให้ผัวเสี่ยมันส่งคนมากระทืบ แม่ง เจ็บฉิบหาย” อยากตอบว่าสมควรแต่ก็ยั้งปากไว้ “ขอบใจที่ช่วยกู”

   “หมาผมยังช่วยเลย สบาย” ตอบแบบไม่ได้คิดอะไร แต่ได้ยินพี่นาวขำในลำคอออกมา “ครบละ ไปห้องพยาบาลกัน” ผมขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ตัวเองโดยมีคนเจ็บซ้อนด้านหลัง พยายามออกตัวช้าๆ จะไม่ได้กระทบกระเทือนคนเจ็บ “ผมไม่ได้ขี่ไว พี่ไม่ต้องรัดเอวผมก็ได้” รัดซะแน่น

   “กันเหนียวไว้ก่อน เผื่อมึงเทกู” พูดอย่างกับผมใจร้าย ในเมื่อแกะมือไม่ออกก็ปล่อยให้กอดไป

   “ผมถามอะไรหน่อย” ระหว่างทางก็เกิดคำถามในใจจนต้องถามออกมา “พี่พาพี่ขิงเข้าบ่อนทำไม ทำให้พี่ทำติดการพนันทำไม”

   “พาไปจริง แต่มันเล่นของมันเอง กูไม่รู้เรื่อง มารู้อีกทีก็ตอนมันติดหนี้บอล”

   “โกหกหรือเปล่า”

   “กูโกหกแล้วได้มึงเป็นเมียหรือเปล่าละ”

   “พี่ใช้หัวแม่ตีนคิดหรือเปล่า”

   “ปากมึงนี่ไม่ต่างจากพี่มึงเลยนะ” แล้วพี่นาวมันก็หัวเราะออกมา “ตอนมันอยู่กับกูโคตรน่ารักเลย อ้อนจะเอานั่นเอานี่ ใช้กูทุกอย่าง กางเกงในมันกูก็ซักให้ แต่ดูมันตอบแทนกู”

   “พี่รักพี่ขิงจริงๆ เหรอ หรือแค่ว่าอยากได้”

   “กูก็คนนะ หัวใจก็มี”

   “คมว่ะ”

   “หึ ไอ้ขิงมันชอบไอ้ไฮท์กูก็รู้” คำพูดพี่นาวทำเอาผมเหยียบเบรกกะทันหัน คนรู้เลยเอาคางพุ่งมาชนไหล่เสียงดังกึ๊ก กรามเบี้ยวไหมนั่น “มึงขี่ดีๆ สิวะ แม่ง”

   “โทษทีๆ ก็ผมตกใจ” รู้ด้วยว่าพี่ขิงชอบพี่ไฮท์ “รู้แล้วทำไมถึงคบล่ะ”

   “ก็มันน่ารัก อ้อนเก่ง ตอนแรกกูก็กะเอาเล่นๆ พออยู่กับมันไป ก็ชอบมันขึ้นมาจริงๆ” อยากจะหันไปมองหน้าคนพูดมาก อยากเห็นตอนพี่นาวเล่าถึงความรัก เพราะคงจะยิ้มมีความสุข “พอมันติดบอล นิสัยก็เปลี่ยน ก้าวร้าว ด่าแม้กระทั่งกูตด”

   “ถ้าเหม็นผมก็ด่าว่ะ”

   “มึงนี่นะ...พี่มึงมันติดหนี้บอลเยอะ แถมยอมเอาตัวเอาแลกเพื่อลดหนี้ กูโคตรช็อค”

   “พี่เลยมาหาเรื่องผมล่ะสิ”

   “ก็กูคิดว่ามึงเป็นไอ้ขิง กูก็แค้นบ้างอะไรบ้างสิวะ”

   “แล้วตอนนี้พี่จะเอายังไงต่อล่ะ”

   “ก็ไม่เอายังไง มันขู่ไม่ให้กูยุ่ง กูก็ไม่ยุ่ง หาเมียใหม่ก็จบ” พยักหน้าให้กับสิ่งที่ได้ยิน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับที่คิดได้แบบนี้ “มึงอยากเป็นเมียกูหรือเปล่า กูรวยกว่าไอ้ไฮท์นะ” อันนี้ไม่ถูกต้องแล้วว่ะ

   “รวยหนี้เหรอ ไม่เอาหรอก” แกล้งพูดขำๆ ที่จริงอยากจะบอกว่า ถ้าไม่ใช่พี่ไฮท์ผมก็ไม่เอาใคร แต่ก็ดูไม่ค่อยดี “พี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ”

   “อ่าว แล้วเห็นกูเลวเหรอ”

   “พี่พูดเองนะ ผมไม่ได้พูด”

   รถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวผ่านโค้งตึก สายตาก็เห็นใครบางคนยืนกอดอกพิงเสาอยู่ พี่ไฮท์ชะเง้อคอมองมาเห็นผมก็ขยับยืนตรง แต่พอเห็นบางอย่างที่มันผิดปกติไปจากเดิม หน้าขาวๆ ก็ติดบึ้ง

   “พี่มารอนานแล้วเหรอ” ตอนอยู่ในร้านขายยา พี่ไฮท์ส่งข้อความมาบอก ว่าจะรออยู่หน้าตึกพยาบาลและก็เจอจริงๆ “พี่นาวลงสิ”

   “เออ” คนซ้อนหลังผมค่อยๆ ลงรถอย่างยากลำบาก ขาที่โดนเหยียบคงร้าวน่าดู

   “มันมาด้วยได้ยังไง” พี่ไฮท์ไม่มองหน้าพี่นาวเลย ขายาวปรี่เข้ามาคว้าแขนผมจนรถที่กำลังจะตั้งขาตั้งแทบล้ม “ขมิ้น!” ขึ้นเสียงด้วยว่ะ

   “ผมเจอพี่เขาถูกซ้อมที่หน้ามอ ก็เลยพามาห้องพยาบาล” คราวนี้พี่ไฮท์ยอมหันไปมองคนเจ็บ “พี่พาพี่นาวไปห้องพยาบาลหน่อยสิ”

   “ทำไมต้องกู”

   “งั้นเดี๋ยวผมพาไปก็ได้”

   “กูพาไปเอง” พอพูดจบก็เดินไปดึงแขนพี่นาวให้เดินตาม แต่คนเจ็บร้องโอดโอยพี่ไฮท์เลยผ่อนแรงจับลง “สำออยนะมึง”

   “มึงลองมาโดนดูไหมละ”

   ผมเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้คนเจ็บกับคนประคองเดินนำหน้าไป มีปากเสียงกันบ้างแต่ก็ดูสมน้ำสมเนื้อดี พอไปถึงห้อง ผมก็ปลีกตัวไปหาเจมส์ มันนอนหลับอยู่บนเตียง มีพี่บิ๊กนั่งเฝ้าไม่ห่าง

   “เป็นไงบ้างพี่” ยื่นเกลือแร่ไปให้ พี่บิ๊กมองผมครู่เดียวก่อนก้มไปมองเจมส์ “หนักเหรอ”

   “อืม ถ้าไม่ไหวคงต้องไปโรงพยาบาล”

   ไม่รู้ไปกินอะไรมา แต่ผมเห็นข่าวอยู่ว่าช่วงนี้คนอาหารเป็นพิษเยอะ บางคนหนักถึงขั้นช็อกก็มี ยืนมองเพื่อนได้ไม่นาน พี่ไฮท์ก็เดินเข้ามาหา ผมก็ชะเง้อคอมองหาอีกคนเลยถูกดีดหน้าผาก

   “มันทำแผลนู้น”

   “อ่อ”

   “ใจดีนักนะมึง”

   “ขนาดหมาผมยังช่วยเลย พี่ก็รู้”

   พี่ไฮท์พยักหน้ารับเอื่อยๆ แต่แอบเห็นหรอกว่ายิ้มน่ะ

   ผมกับพี่ไฮท์อยู่ห้องพยาบาลอีกไม่นานก็ออกมา เพราะรายงานพี่ไฮท์ยังทำไม่เสร็จ แต่ที่มารอผมที่นี่ก็เพราะเป็นห่วง โคตรซึ้งใจจริงๆ





   “พี่โกรธเหรอ” ถามขณะเดินขึ้นตึก พี่ไฮท์ขี่มอเตอร์ไซค์โดยมีผมซ้อนท้ายมาจอดหน้าตึกคณะ ตอนแรกที่ขึ้นรถ พี่ไฮท์ถอดช็อปตัวเองมาเช็ดเบาะรถทั้งที่มันไม่ได้เปื้อนอะไรเลย “พี่ไฮท์”

   “ไม่ได้โกรธ” เสียงโคตรนิ่งแบบนี้ไม่ได้โกรธแน่เหรอวะ ก่อนจะหยุดเดินจนผมแทบชน “ต่อไปอย่าแกว่งตีนหาเสี้ยนอีก เกิดพวกที่กระทืบไอ้นาวมันลากมึงเข้าไปด้วยจะทำยังไง ใช้สมองคิดบ้าง”

   “ก็ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออก ผมขอโทษ ผมโง่เอง”

   “ยอมรับก็ดี”

   “ยิ้มหน่อยสิ”

   พี่ไฮท์ไม่ยอมมองหน้าผมสักนิด แม้ผมจะพยายามเรียงร้องความสนใจยังไงก็ไม่คิดจะมอง หางตาก็ไม่แล ผมเลยตัดสินใจเดินขึ้นหน้าแล้วหันหน้ามาประชัน

   “ทำอะไรของมึง” คงเพราะผมกำลังเดินถอยหลังอยู่

   “ก็พี่ไม่มองหน้าผม” ทำไมผมเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นวะ “พี่ไม่ได้โกรธแล้วทำไมไม่มองหน้าผมล่ะ”

   “เบื่อหน้ามึง”

   “จริงเหรอ เบื่อหน้าผมจริงดิ่”

        คนบอกว่าเบื่อหันหน้าไปทางอื่นพร้อมอมยิ้ม ก่อนจะปั้นหน้านิ่งหันกลับมาอีกรอบ 

   “เออ เบื่อโคตร เจอแม่งทุกวัน”

   “เหรอ” พี่ไฮท์ไม่ตอบ แต่กลับก้าวขายาวขึ้น ในขณะที่ผมต้องถอยหลังเร็วขึ้นเพื่อให้ทันจังหวะการเดิน “ตอนเห็นพี่นาวซ้อนผม พี่ไม่รู้สึกอะไรเหรอ” อยู่ๆ ก็อยากถาม พี่ไฮท์เลิกคิ้วมองไม่ได้ตอบอะไรออกมา “ไม่รู้สึกหวงเหมือนหวงของเล่นเหรอ”

   “ไม่”

        สั้นแต่ได้ใจความสุด

   “โห”

   “หวงมึงไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร” ทำไมผมรู้สึกใจแป้ววะ ขาที่เดินถอยหลังก็ชักก้าวไม่ค่อยออก “เพราะยังไงซะ มึงก็ไม่สนใจคนอื่นนอกจากกูอยู่แล้ว กูเลยไม่จำเป็นต้องหวง”

   “ผมต้องเขินใช่ป่ะ” พูดไปงั้น แต่เขินไปแล้ว หน้าร้อนมากตอนนี้

   “หรือกูพูดไม่จริง?”

   “ก็ตามนั้น”

   “อีกอย่าง ไอ้นาวก็ไม่ใช่คนที่จะทำให้มึงหวั่นไหว”

   “จะบอกว่า พี่ทำให้ผมหวั่นไหวได้คนเดียวงั้นสิ?”

   “ทำนองนั้น”

   “โคตรมั่นใจว่ะ”

   “แน่นอน”

   ผมขอเกลียดท่าทางมั่นใจของพี่ไฮท์ได้ไหม

   “แล้วถ้าเกิดมีคนทำให้ผมหวั่นไหวอีกล่ะ พี่จะทำไง”

   พี่ไฮท์ไม่ตอบ แต่สายตาที่ตวัดมองดูดุจนผมลอบกลืนน้ำลาย

   “มึง...”

   “หืม? โอ๊ย เจ็บ”

   เสียงหัวเราะของพี่ไฮท์ไม่ได้น่าสนใจเท่าสภาพหัวของผม มัวแต่เดินถอยหลังไม่ระวัง หัวเลยโขกเข้ากับเสาตึกอย่างแรงจนมึน เห็นดาวลูกไก่ด้วยนะเมื่อกี้ ผมย่อตัวนั่งลงกับพื้น มือยกกุมหัวด้านหลังตัวเองไว้แน่น ไม่รู้จะปูดหรือเปล่า

   “ไหนดูหน่อย” พี่ไฮท์พยายามจะยกมือผมออก แต่ผมก็ปัดมือนั่นทิ้ง มันปวดจนน้ำตาแทบไหล “อย่าดื้อ กูดูหน่อย หัวแตกหรือเปล่า”

   “พี่ทำไมไม่บอกว่าข้างหลังผมเป็นเสา” ช้อนตาขึ้นมองด้วยความขุ่นเคือง

   “จะเตือนแล้วแต่ไม่ทัน ไหนดูหน่อย” มือผมถูกดึงออกจนได้ พี่ไฮท์คลำบริเวณที่ชนเบาๆ ก่อนพึมพำว่าไม่ปูด ไม่แตก ถึงงั้นมันก็เจ็บ “เดินไม่เหมือนชาวบ้านเขาก็สมควรโดน”

   “ซ้ำเติมอีก ไม่ต้องยุ่งเลย” รีบปัดมือพี่ไฮท์ออก ผมลุกขึ้นจะเดินหนี แต่ข้อศอกถูกดึงเอาไว้ คนดึงขยับเข้ามาจนชิด “อะไร”

   “กูมั่นใจว่ามึงจะไม่หวั่นไหวกับคนอื่นอีก” ใช้หางตาเหล่มองคนพูดชิดใบหู “และมึงก็มั่นใจได้เลย ว่ากูก็จะไม่มีทางหวั่นไหวกับคนอื่น”

   “เชื่อได้เหรอ”

   “ก็ลองคบกับกูดู จะได้รู้ ว่าเชื่อได้หรือเปล่า”

        คบกันเหรอวะ? 

   “มัดมือชกผมเหรอ”

   “ไม่ได้บังคับ”

   “ผมอยากรู้”

   “ขี้เสือกเหรอมึง”

   “พี่ไฮท์!”

   “ล้อเล่นน่า มึงคบกับกูแล้วนะ”

   “เอาจริงดิ่”

   “เอา”

        โคตรสองแง่สองง่ามว่ะ

   “แต่ผมเป็นผู้ชายนะ พี่รับได้เหรอ”

   “แค่มึงคนเดียว”

   “เหตุผลล่ะ?”

   “ไม่มี รู้แค่ต้องเป็นมึง”

   “ผมเขินได้ป่ะ”

   “ได้ เพราะกูก็เขิน”

   ผมไม่รู้ว่าความรักนี้มันจะยั่งยืนหรือเปล่า เราจะรักกันได้นานไหม และต่อไปจะเป็นยังไง เพราะนั่นมันเป็นเรื่องของอนาคต สิ่งที่ผมสนคือ วันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ และที่ตรงนี้ มีคนที่ทำให้ผมใจเต้นแรง คนที่พร้อมปกป้องผม ดูแลผม คนที่เป็นห่วงเป็นใยเหมือนพ่ออีกคนของผม แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นๆ ที่จะตามมาก็ปล่อยให้มันเกิดก่อนค่อยคิดแก้ไข

   “พี่ไม่รีบทำรายงานส่งเหรอ”

   “เออจริง กูลืม ไอ้บิ๊กก็ชิ่งงานเลยแม่ง”

   “ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลย ขอโทษนะ”

   “แค่มึงมานั่งให้กำลังใจข้างๆ แค่นั้นก็พอแล้ว”

   “เลี่ยนว่ะ”

   “กูชอบเห็นมึงเขินนะ” เกิดมาเพิ่งจะเคยยืนม้วนจนแขนแทบพันกัน “พร้อมเดินไปกับกูหรือยัง” ผมมองมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า ก่อนช้อนตาขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือก็ยิ้มกว้างส่งมาให้
 
   “ครับ”

   ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะไม่จับมือนั้น ฝ่ามืออุ่นแม้จะชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่ก็อบอุ่น ผมกับพี่ไฮท์เดินจับมือกันขึ้นตึก รู้สึกดีใจปนตื้นตันที่พี่ไฮท์ไม่อายใครที่จะจับมือผม ไม่สนคนอื่นที่มองด้วย อีกไม่นานมันต้องมีผลกระทบอะไรตามมาแน่ แต่ไม่ว่ายังไง ตราบใดที่มืออุ่นนี้ยังกุมมือผมอยู่ ผมก็ไม่กลัว

   “พี่รับได้แน่นะ ที่จะเป็นของผมน่ะ” ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจอีกรอบ
 
   “รับได้ในที่นี้หมายถึงความรู้สึก แต่เรื่องบนเตียงไม่มีใครรู้”

   ผมว่า บางทีเราก็ต้องมีเรื่องที่ข้ามๆ ไปบ้าง อย่างเช่นเรื่องบนเตียง...



...TBC

คบกันอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ คู่แป้งเด็กของเรา >w<
ทำไมรู้สึกหลงรักพี่ไฮท์ อยากขอพี่ไฮท์จากขมิ้นมาเป็นของเราซะจริงค่ะ 5555
ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบพี่ไฮท์กับน้องขมิ้นนะคะ (ก้มกราบ)
จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ หากมีตรงไหนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่า ^^~

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


น้องขมิ้นน่ารักดีออก เด็กดีมีน้ำใจ ใสๆซื่อๆกวนๆ

 เดี๋ยวพี่นาวจะมาหลงเสน่ห์น้องขมิ้นอีกคนไหมพี่ไฮท์

แต่ดูแล้วน้องขมิ้นยังต้องมีวิบากกรรมกับพี่ขิงอยู่อีกนะ

สู้ สู้ 



 :hao3:   :hao3:  :hao3:   :hao3:  :hao3:  :hao3:


ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราขอพี่ไฮท์ได้ป่าวขมิ้นอยากเก็บไว้เองแล้วอะ :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

นิสัยของขิง มันเกิดจากสันดานหรือการอบรมหว่า?

ถ้าดูลึก ๆ แล้วน่าจะเป็นการอบรมสั่งสอน  เพราะขิงนิสัยโขกแม่มา  ส่วนขมิ้นก็นิสัยโขกพ่อมา




ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เค้าคบกับแล้ว เย่! คู่รักแป้งเด็กแคร์
 :-[ :-[

เท่าๆที่ดูนาวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ คนที่เลวสุดก็คงนังขิง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 20] [P.8] // {20/04/61}
« ตอบ #219 เมื่อ: 21-04-2018 00:11:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยย!!...ใจ ซีกนึงก็ร้าววว อิพี่ขิงมันร้ายกับน้องได้ขนาด DNA ในตัวมันไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันพี่น้องเล้ยยยยย อีกซีกก็แทบจะระเบิดออกเพราะความหวานของพี่ไฮท์ คนแมน รักจริง ยอมจริง....ไรท์ เรื่องนี้ดีสุด น่าติดตามสุดๆ ในทุกๆเรื่องของไรท์แล้ว ต้องขอบคุณที่เขียนงานดีๆแบบนี้ออกมาให้พวกเราได้ชื่นชมนะคะ..ทีมไรท์จ้า..^^

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ขมิ้นกลับไปใช้ชีวิตตัวเองได้แล้ว  ส่วนขิงก็ปล่อยไปให้ขิงกับแม่จัดการกันเอง

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่นาวน่ารักเชียว ถึงขั้นซักกางเกงในให้นังขิงตอนคบกัน เฮ้อออ อย่างว่าหล่ะคนเลวๆอย่างนังขิงคงไม่คู่ควรกับความรักดีๆ  :ruready

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โอ้ยยยยยยดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆชอบบบบบบ :mew1:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อยากรู้เรื่องขิงแล้วค่ะ ทำไมร้ายได้แบบนี้ล่ะ ระรานไปทั่วเลย

ไฮท์คะ นี่กะขอเป็นแฟนแบบเนียนๆเลยหรอ
ขมิ้นน่ารัก มีความซื่อและดื้อนิดๆ

วันนี้รอดไปอีกหนึ่งวัน ขิงจะส่งคนมาป่วนอีกตอนไหนนะ
บางทีก็อยากให้มาเจอกลอยอีกรอบ แล้วให้โชจัดการ 5555

ออฟไลน์ nixnix

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :L1: :really2: :really2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชอบพี่นาว จริงๆก็ดูไม่เลวร้ายนะ มีหัวใจกะเขาด้วย แต่ชอบพี่ไฮท์มากกว่า  :hao7:

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ขิงนี่นิสัยแย่กว่าที่คิดอีก รู้สึกห่วงขมิ้นเลย
รีบกลับบ้านไปหาพ่อดีกว่านะ ตามที่คุณลุงบอก

พี่นาวนี่น่าสนใจนะ มาชอบตอนหลังๆนี่แหละ
ตอนที่รู้ความจริง อิอิ

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากให้รู้ว่ายังมีคนรออยู่นะคะ..^__^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 20] [P.8] // {20/04/61}
« ตอบ #229 เมื่อ: 27-04-2018 21:02:39 »





ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-21-




         ตอนแรกคิดว่าจะตรงไปบ้านพี่ไฮท์เลย แต่เพราะเจมส์ทวงรายงานที่ผมยืมไป ผมเลยต้องวนกลับมาเอาที่บ้านหลังใหญ่ก่อน พอมาถึงก็รีบวิ่งขึ้นชั้นสอง แต่ประตูห้องทำงานของลุงเจ้าของบ้านเปิดอยู่มันทำให้ผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าห้อง

   หรือมีขโมยอีก?

   คิดได้แบบนั้นผมก็ค่อยๆ ย่องไปที่ประตู เผื่อเป็นขโมยจริงจะได้หาวิธีรับมือถูก ตอนนี้หัวใจเต้นแรงเพราะความกลัวผสมความตื่นเต้น เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปดู ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลก็มลายหายสิ้น เพราะคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงานคือเจ้าของห้องนั่นเอง

   “คุณลุงไปเมืองนอกไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม...”

   “พวกมันไม่ให้ฉันออกน่ะสิ” เสียงทุ้มตอบกลับ ลุงเจ้าของบ้านขยับตัวขึ้นนั่งตัวตรง หลังจากเอนหลังหลับตาอยู่ “ไม่คิดเลยว่าจะเล่นกันขนาดนี้” เสียงพึมพำนั่นทำให้ผมก้าวเข้าไปหา

   “มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าครับ” ถามด้วยความเป็นห่วง เพราะใบหน้าเคร่งเครียดของลุงเจ้าของบ้านนั้นทำให้ผมคิดไปในทางลบซะมากกว่า

   “พวกนั้นขู่ให้ฉันลบคลิปขโมยเงินของพี่เธอ แล้วนี่เธอยังไม่ได้เปิดซองที่ฉันให้ไปใช่ไหม” คำตอบที่ปิดท้ายด้วยคำถาม ผมพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนคุณลุงจะเอนหลังพิงพนักตามเดิม “เก็บไว้ให้ดี เผื่อฉันเป็นอะไรไป หลักฐานจะได้ไม่ถูกทำลาย”

   “ทำไมถึงพูดเป็นลางแบบนั้นล่ะครับ” รู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “หรือมีคนคิดจะทำร้ายคุณลุงเหรอ” อย่างเช่นฆ่าทิ้งเหมือนในละคร

   “ตอนนี้ยัง แต่มันก็ไม่แน่ เพราะพวกมันเล่นงานธุรกิจฉันไม่ได้” ริมฝีปากที่ขยับพูดเหยียดยิ้มออกมานิดๆ ก่อนลุงเจ้าของบ้านจะมองหน้าผม “ธุรกิจมืดมักโหดร้ายเสมอ พวกนี้มองคนเหมือนผักปลา คิดจะฆ่าเมื่อไหร่ก็ได้”

   “ธุรกิจมืด? คุณลุงก็ทำธุรกิจมืดเหรอครับ” ความหวาดกลัวมันผุดขึ้นมาจนต้องเม้มริมฝีปาก ผมไม่รู้หรอกว่าลุงแกเปิดบริษัทอะไร หรือทำธุรกิจอะไร เพราะไม่มีใครบอก อีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผม เพราะที่ผมมาอยู่ที่นี่ ก็เพราะแม่ขอร้องให้มาเป็นพี่ขิง ดังนั้นเรื่องอื่นนอกจากนั้นก็ไม่รู้เลย 

   “กว่าบริษัทฉันจะใหญ่โตขนาดนี้มาได้ มันก็ต้องมีบ้าง” ลุงเจ้าของบ้านตอบพร้อมขำในลำคอ “เธอลองไปถามดูสิ ว่ามีบริษัทใหญ่โตในบ้านเมืองนี้ที่ไหน ที่ธุรกิจมีแต่สีขาวบ้าง คนพวกนี้ไม่เทาก็ดำ ขนาดองค์กรการกุศลยังไม่ขาวสะอาดเลย”
มันก็จริงอย่างที่ลุงแกว่า แต่มันก็น่าตกใจอยู่ดี เคยดูแต่ในละคร ไม่คิดว่าจะได้เจอในชีวิตจริง ถึงว่า ลูกน้องลุงแกแต่ละคนพกปืนติดตัวกัน ที่แท้ก็เพราะป้องกันตัวเองจากคนอื่นนี่เอง

   “หลักฐานที่ให้ผม ทำไมคุณลุงไม่เอาไปให้ตำรวจจัดการล่ะครับ เพราะให้ผมมามันก็ไม่มีประโยชน์”

   “ถ้าตำรวจจัดการได้ ฉันก็เอาไปให้แล้วสิ” ขมวดคิ้วหลังจากได้ยิน ก่อนคลายความสงสัยด้วยประโยคถัดมา “ไอ้เสี่ยเจ้าของบ่อนนั่นมีคนหนุนหลังที่ใหญ่กว่าคนของฉัน”

   “คนหนุนหลังนี่หมายถึงคนที่มียศสูงๆ เหรอครับ” ลุงเจ้าของบ้านพยักหน้ารับช้าๆ “ไม่น่าเชื่อ” อย่างกับละครหลังข่าวจริงๆ
 
   “ถึงบอกไง ธุรกิจพวกนี้ หากไม่มีพวกนี้คุ้มหัวก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่โดนจับก็โดนฆ่าหมด”

   “ที่เขาเรียกจ่ายแต๊ะเอียหรือเปล่าครับ”

   “แป๊ะเจี๊ยะต่างหาก แต๊ะเอียเขาให้วันตรุษจีน”

   หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีที่มันทำให้ลุงเจ้าของบ้านคลี่ยิ้มออกมา

   “แล้วคุณลุงจะทำยังไงต่อไปละครับ”

   “ก็อยู่เฉยๆ อย่างที่พวกมันบอก”

   “ทำไมเราไม่หาคนยศใหญ่ๆ ให้เขาช่วย”

   “ถ้าหาได้ง่ายฉันก็เอาหลักฐานให้ไปแล้วสิ” แล้วคุณลุงก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมรู้ว่าลุงเขาเครียด เป็นผมๆ ก็เครียด โดนตามขู่จะฆ่าแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดานะครับ “แล้วอีกซองที่ฉันให้ เธอเปิดดูหรือยัง”

   “อีกซอง? ยังครับ” ซองเอกสารที่ผมได้นั้น อยู่ในลิ้นชักห้องนอนของพี่ไฮท์หมด “มันมีอะไรเหรอครับ หรือหลักฐานเด็ด”

   “ไม่ใช่ มันเป็นของที่ฉันจะเอาให้พี่ชายเธอ แต่ตอนนี้ ฉันให้เธอน่าจะดีกว่า”

   “ของให้พี่ขิง? อะไรเหรอครับ”

   “ไปเปิดดูก็จะรู้เอง แต่มีบางอย่างที่ฉันตั้งใจให้เธอ ไม่ใช่ของๆ ขิง”

   ชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าของที่ตั้งใจให้ผมคืออะไร


   “ไหนคุณบอกไปเมืองนอกไง ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ!”

   ระหว่างที่ผมกำลังยืนมองคุณลุงเจ้าของบ้าน เสียงแหลมจากด้านหลังก็ดังขึ้น คนพูดปรี่เข้ามายืนข้างกับผม ใบหน้าแม่แน่นด้วยเครื่องสำอาง

   “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ” คำตอบกลับของลุงเจ้าของบ้านทำเอาแม่กระทืบกรี๊ดขึ้นมาจนผมสะดุ้ง “หนวกหู ออกไปได้แล้วไป ทั้งแม่ ทั้งลูก”

   “คุณกล้าไล่ฉันแบบนี้ได้ยังไงฮะ!”

   “ก็นี่มันห้องทำงานผม แล้วนี่ก็บ้านผม คุณลืมไปแล้วหรือไง”

   แม่ผมกรี๊ดออกมาอีกรอบจนตู้กระจกสั่น ผมยกมืออุดหูพร้อมหันหลังเดินออกมา ไม่ได้ดูว่าแม่เป็นยังไงหรือทำอะไรต่อ บางทีผมก็คิดว่าตัวเองเป็นลูกที่แย่เหมือนกัน ที่ไม่ได้ดูแลใส่ใจแม่เท่าที่ควร เดินออกมาจากห้อง ผมก็ตรงไปยังห้องนอนที่ตอนนี้แทบไม่ได้นอน แต่เพียงแค่จับลูกบิด เสียงแม่ก็หวีดเรียกชื่อผมจนสะดุ้ง

   “แม่จะตะโกนทำไม ผมไม่ได้อยู่นอกโลกนะ ถึงจะต้องใช้เสียงดังน่ะ” ในหูผมตอนนี้ได้ยินแต่เสียงวิ้งๆ เหมือนยุงบิน

   “นี่แกด่าแม่เหรอฮะ” แล้วแม่ก็ปรี่เข้ามาหยิกริ้วแขนจนผมต้องรีบดึงมือแม่ออก “อย่าทำนิสัยเหมือนพ่อแกนะ”

   “พ่อทำอะไรผิด แม่ถึงต้องพาลไปด่า”

   “ปกป้องพ่อแกทำไม คนนิสัยอันธพาลแบบนั้น”

   “อันธพาลตรงไหน แม่นั่นแหละที่พาล หาเรื่องลุงเขาไม่ได้เลยมาลงที่ผมกับพ่อล่ะสิ” แม่ชักสีหน้าทันทีที่ผมรู้ทัน ก่อนใบหน้าขาวจะสะบัดหันหนี “แม่เรียกผมทำไม ถ้าไม่มีอะไรผมจะไปเก็บของ”

   “แกไปนอนที่ไหน ทุกวันนี้ฉันไม่เคยเห็นหัวแกอยู่บ้านเลยสักวัน อย่าลืมว่าแกเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะของขิง ไม่ใช่ขมิ้น”
 
   จุก ความรู้สึกเดียวในตอนนี้ ผมเม้มปากมองแม่ที่ปั้นหน้านิ่งไม่สนใจความรู้สึกของผม

   “ผมรู้ ว่าผมมาที่นี่ทำไม และผมไม่ใช่พี่ขิง” รีบกระพริบตาไล่น้ำที่มันเริ่มบดบังการมองเห็น “แต่แม่รู้ไหม ว่าผมก็ไม่ได้อยากเป็นพี่ขิง ถ้าให้ย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ผมจะไม่มาที่นี่แบบที่พ่อเคยเตือน พ่อบอกที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม และไม่เหมาะกับคนแบบผม ตอนนี้รู้แล้ว ว่าพ่อพูดโคตรจะจริง”

   “คำพูดพ่อแกเชื่อได้ด้วยเหรอ” แล้วแม่ก็ส่งเสียงฮึดฮัดขึ้นจมูก “มะรืนฉันรับงานไว้...”

   “แม่ให้พี่ขิงไปก็แล้วกัน” รีบตัดประโยค “ผมรู้ว่าแม่ติดต่อกับพี่ขิงมาตลอด และพี่ขิงก็มาหาแม่บ่อยๆ”

   “ถึงจะอย่างนั้น แต่พี่แกก็ยังทำไม่ได้”

   “ทำไม พี่ขิงเป็นอะไร ทำไมถึงทำไม่ได้”

   “เขากำลังทำธุรกิจ แล้วงานก็ยุ่งมาก”

   “ธุรกิจ? พี่ขิงทำธุรกิจอะไร แม่บอกผมได้ไหม”

   “ฉันก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือพี่แกเอาเงินมาให้ฉันทีละหลายแสน ช่างเป็นลูกที่น่ารักจริงๆ”
 
   “แม่ได้ถามหรือเปล่า ว่าหลายแสนที่ให้มา ได้มาจากงานอะไร”

   “ถามทำไม ลูกให้เงินแม่ มันผิดเหรอ”

   ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ไม่คิดว่าแม่จะมีตรรกะความคิดแบบนี้ ถามว่าผิดหวังไหม ก็คงมี แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ในเมื่อแม่ยังชื่นชมพี่ขิงอยู่อย่างนี้

   “ผมว่า แม่ควรสนใจพี่ขิงให้มากกว่านี้” แม่ทำเพียงแค่ปรายตามองมา เพราะกำลังอวดแหวนเพชรเม็ดโตที่แสงส่องเข้าตาผมจนพร่าไปหมด “บางที แม่อาจจะรู้ว่า สิ่งที่แม่คิดว่ามันถูก มันดี แท้จริงอาจเป็นแค่สิ่งหลอกลวง”

   ต่อให้ผมพูดหรือแสดงออกมากกว่านี้แม่ก็ไม่สนใจอยู่ดี และที่เรียกผม ก็เพราะอยากอวดแหวนที่ซื้อใหม่จากเงินที่พี่ขิงเอามาให้ ผมรู้ ว่าแม่เคยคิดอยากจะเอาผมกับพี่ขิงออกตอนรู้ว่าท้องแรกๆ แต่ปู่กับย่าขอร้องทั้งน้ำตาเพื่อให้เก็บหลานของท่านไว้ เรื่องพวกนี้ผมไม่เคยโทษหรือโกรธแม่เลย แม้แต่เรื่องที่แม่เลือกพี่ขิงมาอยู่ด้วย เพียงเพราะว่าตอนเด็กผมขี้โรค ผมก็ไม่เคยโกรธ พ่อด่าผมเสมอว่าผมโง่ที่ไม่โกรธแม่ จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อผมไม่เคยได้รู้จัก ไม่เคยได้อยู่ใกล้ ผมคิดเสมอว่าถ้าได้อยู่ด้วย แม่ก็คงรักผม ตอนนี้รู้แล้วว่าพ่อพูดจริง ผมมันโง่ที่คิดไปแบบนั้น


   แม่ไม่ได้ไม่รักผม เพราะแม่ไม่เคยสนใจผมตั้งแต่แรกเลยต่างหาก ต่อไปผมจะไม่เถียงพ่ออีกแล้ว


   สะบัดศีรษะไล่ความคิดเรื่องเสียใจให้ออกจากสมอง ผมเดินเข้าห้องหยิบของที่ต้องใช้ พอดึงรายงานที่ซุกไว้ในตู้ ปลายเท้าก็มีสมุดโน้ตเล่มเล็กตกลงมาอยู่ใกล้ๆ ด้วยความอยากออกจากที่นี่ ผมก้มลงหยิบสมุดนั่นใส่กระเป๋าเป้มาด้วย แล้วจ้ำอ้าวออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างโดยไม่สนใจแม่ที่ยังอวดความหรูหราของเครื่องประดับให้แม่บ้านฟัง

   “จะไปไหนอีก!”

   “ไปนอนบ้านเพื่อน” ก้าวขาไปได้สองก้าวผมก็หยุดนิ่ง “ผมจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ แม่บอกพี่ขิงให้กลับมาได้แล้ว หรือถ้าไม่กลับก็แล้วแต่ ผมจะไม่ยุ่งเรื่องนี้อีก”

   ไม่อยู่รอคำถามหรือคำตอบของแม่ ผมรีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปทันที ในเมื่อแม่ไม่ได้สนใจผมอยู่แล้ว ผมก็ขอเป็นลูกเนรคุณที่ไม่สนใจแม่เช่นกัน มันบาปผมรู้ แต่ผมขอกลับไปใช้ชีวิตเป็นไอ้ขมิ้นคนธรรมดากินปลากระป๋องครึ่งเดือน กินบะหมี่อีกครึ่งเดือนยังดีซะกว่า





***

   มาถึงบ้านพี่ไฮท์ก็เจอลูกชายเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ที่โรงจอดรถ ที่เท้ามีหมาตัวใหญ่สองตัวฟุบหลับ คงจะรอนานสินะ ถึงนั่งหน้าบูดขนาดนั้น ทันทีที่หันมาเห็นผม พี่ไฮท์ก็ลุกขึ้นยืนก่อนบิดขี้เกียจ

   “มารอนานแล้วเหรอ” ถามขณะประตูเลื่อนเปิด

   “เออสิ หลับไปตั้งหลายรอบ” พี่ไฮท์ตอบหน้าบึ้ง แต่กลับทำให้ยิ้มออก หลังจากเจอเรื่องเครียดเมื่อกี้ “ทำไมมาช้าวะ”

   “มีเรื่องนิดหน่อย ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” ผมบอกก่อนจะใช้เท้าไถรถเข้าบ้าน มีพี่ไฮท์ช่วยดันอยู่ด้านหลัง และหมาสองตัวที่สะดุ้งตื่นก็เห่าต้อนรับพร้อมกระดิกหางจนตัวอ้วนๆ บิดไปมา “แล้วเมื่อกี้พี่นั่งหลับเหรอ”

   “ไม่ได้หลับ พูดไปงั้นแหละ” อยากจะหัวเราะให้ หลักฐานคือตาแดง ยังบอกไม่ได้หลับอีก “กินข้าวมายัง”

   “ยัง หิวมาก กินหมาพี่ได้ทั้งสองตัวเลย”

   “ไอ้ฆาตกร”

   ถูกตราหน้าพร้อมชี้ ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด พี่ไฮท์เหมือนพ่อผมอยู่หลายอย่าง แต่ที่เหมือนมากคือทำปากร้ายไปงั้น แท้จริงแล้วใจดีจะตายไป บางทีแกล้งทำเหมือนไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วใส่ใจมากที่สุด

   “ขอบคุณที่ทำให้ผมหัวเราะ”

   “ก็กูไม่ชอบเห็นมึงทำหน้าเศร้า มันรู้สึกเหมือนกูเป็นแฟนที่แย่” ไปต่อไม่ถูกเลยเมื่อได้ยินคำว่าแฟนออกจากปากพี่ไฮท์ แม้พี่เขาดูแข็งกระด้างไปนิด “กูพูดเพราะกับผู้ชายไม่เป็น” พี่ไฮท์ยกมือถูจมูกไปมา คงจะเขินเหมือนผม แต่ผมเก็บอาการเก่งกว่า
 
   “ผมรู้ จะพูดยังไงก็ได้ เอาที่พี่สบายใจ” บอกตามความจริง พี่ไฮท์เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด อยู่ๆ ก็เปลี่ยนแนว มันก็ต้องปรับตัวมากเป็นธรรมดา “เพราะพี่ก็แฟนคนแรกของผมเหมือนกัน แถมแจ็คพอร์ตเป็นผู้ชายซะด้วย”

   “อ่าว แล้วมันดีหรือไม่ดี มึงพูดให้มันเคลียร์ๆ นะ” พี่ไฮท์ตาแทบถลนแล้วโวยวาย ผมรีบเกาะแขนแล้วดึงเข้าบ้าน อยู่ข้างนอกบ้านแถมพูดจาเสี่ยวๆ ใส่กัน คนข้างบ้านเขาจะแอบมองได้ “เนียนเลยนะมึง”

   “ไม่จับก็ได้” รีบผละออก แต่ก็โดนดึงเข้าไปใหม่ คราวนี้ไม่ใช่ผมที่กอดแขน แต่เป็นพี่ไฮท์ที่โอบไหล่ผมแทน

   “มึงไม่จับ งั้นกูจับเอง เพราะมึงบอกเมื่อกี้ว่าเอาตามที่กูสบายใจ” แล้วคนสบายใจก็ลอยหน้าลอยตาโอบไหล่ผมขึ้นชั้นสองของบ้าน

   ห้องนอนของพี่ไฮท์ก็ไม่ได้ตกแต่งมากมายสักเท่าไหร่ มีแค่เตียงที่วางอยู่กลางห้อง มีตู้เสื้อผ้าชิดผนัง มีโต๊ะและตู้หนังสือที่เต็มทุกชั้น เห็นห้องสะอาดๆ แบบนี้ไม่ใช่เจ้าของห้องทำความสะอาดเองหรอกนะครับ แต่เป็นคุณลุงหมอที่เก็บกวาดให้ งานคลินิกก็ยุ่งแล้ว ยังทำงานบ้านอีก ไอดอลผมเลยแบบนี้

   จะว่าไป พ่อผมก็ประมาณนี้เหมือนกันนะ หากตัดความขี้บ่นออกไปก็คงเป็นไอดอลผมได้

   “พี่เห็นซองสีน้ำตาลที่ผมเอาไว้ที่นี่ไหม” วางเป้ลงก็เริ่มมองหาซองเอกสาร พี่ไฮท์บุ้ยปากไปที่บนโต๊ะหนังสือตัวเอง “พี่อ่านแล้วเหรอ” เพราะมีแผ่นกระดาษปึกหนึ่งวางอยู่บนซอง

   “โกรธกูไหม ที่กูอ่านของมึง” ผมมองพี่ไฮท์ด้วยแววตาไร้ความรู้สึก มองจนคนถูกจ้องใจไม่ดี “ขอโทษจริงๆ ต่อไปพี่จะไม่ทำแล้ว ขมิ้นอย่าโกรธ...”

   “ไม่ได้โกรธสักหน่อย” หลุดยิ้มออกมาเมื่อพี่ไฮท์ง้อ เวลาได้เห็นคนแข็งๆ อ้อนนี่มันก็น่ารักดีนะครับ ทำตาเล็กตาน้อยด้วย
 
   “เฮอะ” คนถูกหลอกสะบัดหน้ากอดอก ก่อนจะหันมายิ้มให้ “ชอบให้กูง้อละสิ แผนสูงนักนะ”

   “ชอบทุกอย่างที่เป็นพี่นั่นแหละ”

   แล้วผมก็ถูกผลักจนหงายหลังลงเตียง

   “อย่าทำให้กูเขินบ่อย กูใจไม่ดี”

   ผมมองคนเขินจนใจไม่ดีเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะลุกมาที่โต๊ะหนังสือ หลักฐานที่คุณลุงเจ้าของบ้านว่า คือเอกสารรายการที่คนข่มขู่ทำผิด ทั้งเรื่องของผิดกฎหมาย ของหนีภาษี รวมทั้งบัญชีที่มีการนำไปฟอก เอาเป็นว่า ละเอียดจนผมทึ่งในการหาข้อมูลมาก แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ เอกสารสองแผ่นที่จั่วหัวว่า รายชื่อคนที่ใช้บริการและข้อมูลเกี่ยวกับการค้าประเวณีในและนอกประเทศ นี่มันอะไรกัน ทำไมเรื่องมันชักจะน่ากลัวขึ้นทุกที มีการค้ามนุษย์ด้วย ไล่ดูแล้ว มีทั้งผู้หญิง ผู้ชายที่ถูกนำมาค้า นี่คนนะ ไม่ใช่สัตว์ถึงได้มีการค้าขายแบบนี้

   “พี่...” เรียกคนที่เดินออกจากห้องน้ำมา ตอนแรกจะถามเรื่องเอกสารพวกนี้ แต่หน้าและผมพี่ไฮท์เปียกปอนก็ทำให้ต้องตกใจแทน “พี่อาบน้ำเหรอ ทำไมเปียกหมดทั้งตัววะ” น้ำที่ศีรษะไหลลงมาจนเสื้อเปียกไปหมด

   “กูร้อน เลยเอาน้ำราดหัว เย็นดี”

   “เหรอ” ก็ตามนั้น เอาที่พี่เขาสบายใจ

   “มีอะไร” พี่ไฮท์ขยับเข้ามาหา มือยกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าขึ้น โคตรเท่ “อ่านแล้วเหรอ”

   “อืม มิน่า ลุงเขาถึงโดนเล่นงาน หลักฐานมันแน่นขนาดนี้นี่เอง”

   “ต้องเอาไปให้ตำรวจ”

   “ผมก็บอกแล้ว แต่พวกเขาเส้นใหญ่” แล้วพี่ไฮท์ก็เงียบไป “พี่ว่า พี่ขิงจะทำส่วนไหน ระหว่างค้าของหนีภาษี กับค้ามนุษย์” พี่ไฮท์ไม่ได้ตอบ เพียงแต่ยักไหล่ไม่ออกความคิดเห็น ผมโคตรกลัวเลย กลัวว่าพี่ขิงจะทำเรื่องชั่วๆ แบบนี้ เมื่อย้อนนึกถึงที่แม่ว่า พี่ขิงเอาเงินมาให้ทีละเยอะๆ “ผมหวังว่า พี่ขิงจะไม่ทำทั้งสองอย่าง”

   ผมเก็บเอกสารใส่ซองตามเดิม ก่อนจะเปิดอีกซองที่ยังปิดสนิท

   “อันนี้ไม่ได้เปิดนะ”

   “ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ร้อนตัวนะเรา”

   “เออ ร้อนไปทั้งตัว”

   ไม่ได้สนใจคนพูดสักเท่าไหร่ ผมดึงแผ่นกระดาษจากซองออกมา หน้าตาโคตรจะคุ้นๆ
 
   “โฉนดที่ดิน” อ่านตามตัวหนังสือบนหัวกระดาษ “ที่ดินกับบ้านเลขที่คุ้นๆ พี่ดูสิ”

   “กูไม่เห็นคุ้นเลย” พี่ไฮท์พลิกโฉนดที่ดินอีกด้าน ไล่ดูแต่ละช่องจนไปหยุดที่ช่องสุดท้ายที่มีชื่อผมอยู่ “เจ้าของบ้านชื่อคุ้นๆ ว่ะ”

   “ชื่อจริงผมเอง แต่เดี๋ยว ทำไมมีชื่อผม” แย่งโฉนดมาดูใกล้ๆ ก่อนจะตาโตเมื่อจำได้ว่า เลขที่บ้านที่เห็นมันคือบ้านที่พ่อกับผมอาศัยอยู่ “พี่ บ้านผมอะ”

   “โฉนดบ้านมึง?”

   พยักหน้ารัวๆ ก่อนจะย้อนนึกถึงใบหน้ายิ้มนิดๆ ของลุงเจ้าของบ้านยามบอกว่ามีของที่ตั้งใจให้ผม นี่ลุงเขาไปซื้อบ้านแล้วโอนเป็นชื่อผมเหรอ ทำไมทำแบบนั้นได้ล่ะ

   “พี่ไฮท์...”

   “ไม่ดีใจเหรอ ทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออก”

   “ทำไมเขาโอนบ้านให้ผมล่ะ”

   “จะรู้ไหมล่ะ ถ้าเจอก็ลองถามดูสิ” รีบพยักหน้ารัวๆ มือที่ถือโฉนดบ้านสั่นไปหมด “นอกจากบ้านแล้ว เขาให้นี่ด้วยนะ” หันไปมองพี่ไฮท์ที่หยิบใบเล็กๆ ออกมาจากซอง “ฉิบหาย”

   “อะไรหายเหรอ”

   “เงิน”

   “เงินหาย ทำไงอะ ไปแจ้งความ”

   “หน่วย สิบ....ห้าสิบล้าน!”

   “เงินหายห้าสิบล้าน ชีวิตแล้ว”

   “ไม่ใช่ พ่อเลี้ยงมึงนอกจากให้บ้านแล้ว ยังให้เงินอีก ห้าสิบล้าน!”

   “พี่ล้อเล่นหรือเปล่า อย่างเขา...เชี่ย!”

   เช็กเงินสดห้าสิบล้านบาทจริงๆ ผมนับแล้วนับอีกก็ได้จำนวนที่พี่ไฮท์ว่า ก่อนที่เราทั้งคู่จะตกใจจนสติหลุด ในซองยังมีกระดาษโน้ตอีกหนึ่งแผ่น ข้อความคร่าวๆ ว่าคุณลุงเจ้าของบ้านได้ให้ทนายจัดการซื้อและโอนบ้านให้ผม เพราะผมจะได้ไม่ลำบากตอนไป ยังไงซะผมก็เหมือนลูกอีกคนของเขา แม้จะไม่ได้เลี้ยงมาก็ตาม ส่วนเงินนั้น ตอนแรกเป็นของพี่ขิงที่เขาฝากไว้ให้ แต่ตอนนี้เอาให้ผมแทน ให้ใช้เป็นค่าเล่าเรียนเท่าที่ผมอยากจะเรียน แม้ตอนแรกๆ จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าผม เพราะผมทำหน้าบึ้งใส่ แต่พอได้เจอบ่อยๆ ถึงรู้ว่าผมเป็นเด็กดีและฉลาด

   “เด็กดีและฉลาด...ต่อไปก็ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ”

   “พี่ไฮท์ก็” จะรู้สึกดีใจแต่ก็ไม่สุด เพราะยังไงซะ ทุกอย่างที่ได้มามันก็มากเกินไป “ผมว่า มันเยอะเกินไป”

   “มันยังน้อยกว่าที่พี่มึงได้อีก” ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แต่ผมก็รู้สึกไม่ค่อยกล้าดีใจอยู่ดีนั่นแหละ “เอาน่า ไว้ค่อยกลับไปถามก็ได้ อย่าคิดมากสิ ดูซิ ทำหน้าบูดเป็นปลาบู่เลย” พี่ไฮท์ยื่นมือสองข้างมาบีบแก้มผมจนปากจู๋ แถมยังขยับไปมาอีก ก่อนจะชะงักแล้วรีบปล่อยมือออก

   “พี่หน้าแดง เขินผมเหรอ” ถามจี้ คนหน้าแดงขยับหนีไปอยู่อีกฝั่ง “ขี้เขินนะเรา”

   “กับมึงคนเดียวนั่นแหละ”

   การยอมรับของพี่ไฮท์มันทำให้ผมรู้ว่า ผมโคตรจะสำคัญ

   “ขอบคุณที่ให้ผมเป็นคนนั้น”

   “อย่าทำให้ห้องมันเป็นสีชมพู” พี่ไฮท์ขว้างหมอนใส่ผม

   “ห้องพี่เป็นสีขาวนะ ตาบอดสีเหรอ”

   “ไอ้ขมิ้น”

   แกล้งพูดไปงั้น แท้จริงกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง ผมดีใจที่ถูกรัก และผมก็รักคนไม่ผิด

   เขินกันไปมาจนเสียงไลน์ดังขัด เจมส์ถามหารายงานตัวเองผมก็เพิ่งนึกได้ รีบเอาการบ้านออกมาถ่ายรูปส่งไปให้ว่ามาเอาได้ ส่วนพี่ไฮท์กำลังหยิบสมุดโน้ตที่ผมหยิบติดมือมาไปเปิดดู

   “ของมึงเหรอ”

   “ไม่ใช่ คงจะของพี่ขิง” ตอบขณะส่งรูปส่งไปให้เจมส์ “มีอะไรเหรอ”

   “มีเรื่องของกู”

   “หา?”

   เหมือนโดนด่าแปลกๆ แต่พอฟังดีๆ คงจะไม่ใช่ ผมยื่นหน้าไปดู พร้อมๆ กับพี่ไฮท์ยื่นมาให้

   “เอาไปดูเอง”

   รับมาแบบงงๆ ก่อนเปิดอ่าน หน้าแรกก็ไม่มีอะไรแค่เขียนคำว่า เริ่มต้น คงจะหมายถึงเริ่มเรียนปีหนึ่งละมั้ง และหน้าต่อๆ ไปเริ่มมีรูปที่ถ่ายจากกล้องโพลารอยด์แปะ จากที่เป็นรูปดอกไม้ ก็เริ่มเป็นรูปบรรยากาศรอบมหาลัย ก่อนจะเป็นรูปพี่ไฮท์ที่มีทั้งยิ้ม และหน้าบึ้งยืนอยู่กับเพื่อนๆ

   “พี่เล่นบาสด้วยเหรอ” ถามพร้อมยื่นสมุดโน้ตให้ดู พี่ขิงถ่ายรูปพี่ไฮท์แล้วแปะติดไว้ในหน้ากระดาษ พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า พี่ไฮท์ปีสอง...เท่มาก

   “ก็แค่เล่นๆ” คนในรูปถ่ายตอบพลางยักไหล่

   ผมละความสนใจพี่ไฮท์มาดูรูปต่อ จนมาสะดุดอยู่รูปหนึ่งที่พี่ไฮท์คล้ายจะนั่งเหม่อ ทั้งที่เพื่อนเล่นบาสในสนาม แต่ดวงตาเหม่อมองไปคนละทาง

   “อยากปลอบจัง” ผมอ่านข้อความที่พี่ขิงเขียน พี่ไฮท์รีบยื่นหน้าเข้ามาดู

   “ไปนั่งทำไมตรงนั้นวะ” แล้วผมจะรู้กับพี่ไหมล่ะ “จำไม่ได้แล้วว่ะ” มือกำลังจะพลิกหน้ากระดาษ อยู่ๆ คนจำไม่ได้ก็ร้องออกมา “อ๋อ น่าจะช่วงที่โรสมันตาย”

   “โรสตาย? ดอกกุหลาบเหรอ”

   “หมา”

   “โรส...อ๋า แจ็คกับโรสสินะ” นั่นปะไร ผมเคยพูดชื่อนี้ด้วย ตอนทายชื่อของอเล็ก “มันเป็นแฟนของแจ็คเหรอ”
 
   “เปล่า เป็นหมาตัวแรกที่เลี้ยง แม่ตั้งชื่อให้” ผมพยักหน้ารับรู้ “มันแก่ตาย”

   “ที่ข้างๆ ปุยเมฆใช่ไหม ที่พี่เคยบอก”

   “อืม”

   “นี่มัน...” รูปหน้าต่อไปเป็นอะไรที่พีคสุดๆ รูปหมาขนปุยสีขาวตัวเล็กเท่าฝ่ามือ “พี่ไฮท์ตั้งชื่อให้ว่า ปุยเมฆ น่ารักว่ะ” อ่านตามข้อความอีกรอบ ผมเบิกตาโตมองหน้าพี่ไฮท์ทันที “พี่เคยเห็นปุยเมฆด้วยเหรอ ทำไมไม่บอก”

   “ก็มึงไม่ได้ถาม” ก็จริง ผมไม่ได้ถามเอง แต่ใครมันจะไปรู้เองได้วะ “ที่จริง มันซื้อให้กู” อยู่ๆ พี่ไฮท์ก็พูดขึ้น พร้อมๆ กับผมพลิกหน้าสมุดไป ซึ่งก็เป็นแบบนั้น พี่ขิงเขียนระบุไว้ชัดเจนว่าซื้อให้พี่ไฮท์ เป็นหมาพันธุ์เดียวกับตัวที่ตายไปที่ชื่อโรส “แต่กูไม่เอา เพราะแม่ไม่อยากให้มันมาแทนที่หมาตัวที่ตายไป”

   “ผมว่า พี่ขิงไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดว่าพี่รังเกียจ ดูสิ” ยื่นข้อความที่พี่ขิงตัดพ้อให้ดู เพราะแบบนี้หรือเปล่า ถึงทิ้งขว้างปุยเมฆ จากรูปที่เห็นก็ดูรักนะ พาขึ้นไปนอนด้วย ดูแลอย่างดี แต่ทำไมถึงยังทิ้งลง ผมโคตรไม่ชอบเลย คนที่ทำแบบนี้ สัตว์เลี้ยงมันไม่ได้ขอมาอยู่ด้วย เราต่างหากที่ไปพามันมา ดูแลไม่ได้ก็อย่าทำ

   พลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ จนหน้าสุดท้ายที่มีรูปและข้อความ นั่นคือรูปของพี่ไฮท์กับผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าทั้งสองคนยิ้มแย้มดูมีความสุข แต่ข้อความที่พี่ขิงเขียนมันต่างกันสุดขั้ว

   ในวันที่เห็นเขามีความสุข แต่เราเศร้า ทำไมถึงไม่เห็นกัน ทำไมไม่มองมาทางนี้บ้าง ทำไมไม่สนใจความรู้สึกที่มีให้ พี่ทำให้ผมรู้สึกว่าพี่หมือนสายลมที่พัดมาให้รู้สึก แต่กลับสัมผัสไม่ได้ ผมชอบพี่จริงๆ นะ พี่ไฮท์...

   พี่ขิงคงรักพี่ไฮท์จริงๆ แต่คนรักกัน ต้องทำร้ายกันเหรอวะ แค่เขาไม่รักตอบถึงขั้นไปทำลายความรักของคนอื่น โคตรโง่เลยว่ะ

   “ไม่อ่านแล้วเหรอ” พี่ไฮท์ถามเพราะผมล้มตัวนอนตะแคงข้างบนเตียง

   “มันหมดแล้ว” ตอบทั้งที่ยังหลับตา ผมไม่ได้รู้สึกเห็นใจหรือสงสารพี่ขิง แต่สิ่งที่ผมรู้สึกคือ ผมคิดถึงปุยเมฆ มันต้องมาทนกับเรื่องบ้าๆ ของคนโง่ที่ทำอะไรไปโดยไม่รู้จักคิด เอาชีวิตเล็กๆ มาแล้วทิ้งขว้างมัน พี่ขิงไม่คิดว่ามันจะเสียใจ ร้องไห้เป็นเหรอ หมามันก็มีความรู้สึกนะ

   “ร้องไห้เหรอ” พี่ไฮท์ขยับมานั่งชิดด้านหลัง แขนข้างหนึ่งยื่นมาคร่อมตัวผมไว้กับเตียง “ร้องไห้ทำไม”

   “สงสารปุยเมฆอะ” บอกพร้อมเสียงสะอื้น ผมจำแววตาของมันได้ ตอนที่เห็นหน้าผมครั้งแรก จากที่กลัวจนตัวสั่นก็ขยับออกมาหา คงคิดว่าเป็นพี่ขิง แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่ามันรักพี่ขิงมากแค่ไหน

   “มันไปสบายแล้ว” ผมสะอื้นนิดๆ เมื่อถูกมือลูบศีรษะ “อย่าคิดมาก”

   “ห้ามคิดว่าหัวผม เป็นหัวไอ้อเล็กนะ”

   “จะเศร้าหรือจะฮา เลือกเอาสักอย่าง”

   “อยากจะเศร้าแต่ก็ไม่อยากเศร้า”

   “งง”

   ผมก็งงครับ ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ มือพี่ไฮท์ก็ลูบมาที่หน้า ผมถูแก้มที่ฝ่ามือนั่น ทำให้พี่ไฮท์ชะงักไปนิดๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา

   “ขมิ้นยังมีพี่อยู่ข้างๆ นะ พี่ไม่ทิ้งไปไหน”

   คลี่ยิ้มให้กับประโยคที่ได้ยิน รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ผมขยับหน้าเพื่อจูบฝ่ามือร้อนที่แก้มเป็นคำขอบคุณแทน และพี่ไฮท์ก็ไม่ตอบอะไรกลับมา นอกจากโน้มหน้ามาจูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา ผมลืมตาขึ้นก็เจอดวงตาคมคู่สวยที่กำลังจ้องมองผมอย่างอ่อนโยน ก่อนใบหน้าขาวจะค่อยๆ ชัดขึ้นเมื่อขยับเข้ามาใกล้...


   “ไอ้ไฮท์โว๊ย! มุดหัวอยู่ไหน กูอยู่หน้าบ้านมึงเนี่ย ไอ้ไฮท์!”

   เสียงตะโกนแหวกอากาศดังขึ้น ผมกับพี่ไฮท์สะดุ้งก่อนจะรีบผละออกจากกัน เกือบแล้ว เกือบจูบกันแล้ว ตอนนี้หัวใจเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมาอยู่ข้างนอก

   “พี่บิ๊กมา” บอกเจ้าของบ้านเบาๆ พี่ไฮท์จิ๊ปากเสียงดัง พลางลุกออกไปที่ระเบียงห้องนอน

   “ตะโกนหาพ่อมึงเหรอ!”

   “พ่อกูไม่ได้อยู่บ้านนี้ไอ้สัด รีบๆ ลงมาเปิด กูรำคาญหมามึงเห่า”

   พี่ไฮท์ผลุบเข้ามาในห้อง ปรายตาคมมองผมที่ยังนั่งบนเตียง

   “กลัดกระดุมเสร็จค่อยลงไปนะ”

   “หา?”

   ตอนแรกก็งงๆ ว่ากลัดกระดุมอะไรวะ แต่พอก้มมองเสื้อตัวเอง ฉิบหาย พี่ไฮท์มือโคตรไว ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาผมออกตอนไหนวะ แถมปลดหมดแถวแล้วด้วยนะ

   คนๆ นี้ช่างน่ากลัวซะจริงๆ



...TBC

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าาา ไม่ว่าจะเม้นท์หรือแค่กดเข้ามาอ่าน ทุกๆ อย่างก็ถือเป็นกำลังใจค่ะ จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ และจะไม่ช้ามากไปกว่านี้ (ก้มกราบ)

ขอบพระคุณมากๆ ค่า ที่ชอบพี่ไฮท์น้องขมิ้น ฝากคู่รักแป้งเด็กไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ >w<

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เรื่องราวมันซับซ้อน ขิงระวังตัวด้วยนะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เรื่องราวใหญ่โตไปเลย ขนาดคุณลุงเจ้าของบ้านยังควบคุมไม่ได้  :mew2:

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ได้เงินเยอะมาก
ดีแล้วเอาไว้เรียนที่ตัวเองอยากเรียนนะขมิ้น

เหตุการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ ตอนนี้สงบเกินไป
ยังไงก็ระวังด้วยนะขมิ้น

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
อ่านครึ่งแรกอยากทำตัวเป็นผู้หวังดีแล้วกระโดดขาคู่ใส่แม่ของขมิ้นจริงๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เป็นผู้หญิง เป็นภรรยา เป็นแม่  ที่เกินเยียวยาจริง ๆ

ไม่รู้ว่าพ่อของขมิ้นเอามาทำเมียได้ยังไง

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เรื่องราวซับซ้อนมาก

ออฟไลน์ KawinCa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กี๊สสสสสสสสสสส ขมิ้นรู๊กแม่เกือบไปแล้ว
พี่บิ๊กมาขัดจังหวะงะะะ โกดดดดดด
จุดนี้รอวันที่ขิงจะได้รับกรรม สงสารลุงเจ้าของบ้าน
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :z13: ไว้ก่อน เดี๋ยวใกล้จบจะมาตามอ่านค่ะ

กลัวดราม่ามาก แง้ ป.ล. ตามมาจากคุณหมีรีวิว

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขมิ้นต้องระวังตัวด้วยนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด