,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนพิเศษ หมูกะทะพาเพลิน] [P.12] // {15/09/61}  (อ่าน 88481 ครั้ง)

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอยยยย ทำไมไฮท์ทำแบบนี้ มาทำสะดุด
แย่แล้วขมิ้นคนดี จะตอบจริงหรือโกหกต่อไป

ไฮท์มีอาการนะคะ หึงล่ะสิ แต่ยังบอกไม่ได้

ขมิ้นตลกดี น่ารักด้วย น้องซื่อสัตย์กับตัวเองดี

เจมส์เอ้ยย จะเขินทำเพื่อ ยังไม่ชินหรอ
หรือบิ๊กรุกหนักขึ้น 55555

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ไฮท์น่าจะสงสัยมาตั้งนานแล้วน่ะนะ ก็ขมิ้นต่างกับขิงซะขนาดนี้ แถมหลุดให้พี่เขาได้ยินบ่อยๆอีก ว่าแต่ขมิ้นนี่เสน่ห์แรงจะเลยนาาา  :z1: :katai2-1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
คิดถึงแล้ว :call: :call: :call:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-14-




        “มึงจะบอกกูได้หรือยัง ว่ามึงชื่ออะไร”

   ทันทีที่ถูกถาม ผมเกือบเซตกบ่อน้ำ พยายามก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องจับผิด พี่ไฮท์ต้องรู้แล้วแน่ๆ ทำยังไงดี ไอ้ขมิ้นจะแถยังไงดีครับเนี่ย ผมปั้นสีหน้าแล้วช้อนตาขึ้นมอง ปากก็ฉีกยิ้มกว้าง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

   “พี่หมายถึงอะไร ผมชื่อขิงไง นี่ขิงเอง” ชี้เข้าตัวเอง ทำตัวให้ดูปกติที่สุด แม้จะลนลานไปบ้าง

   “อยากให้พี่เกลียดเราเหรอ อยากให้เกลียดเหมือนที่เกลียดไอ้ขิงเหรอ” เสียงทุ้มพูดออกมา สายตาที่จ้องผมตอนนี้ไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนเก่า ยิ่งคำเรียกแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปนั้นผมถึงกับขมวดคิ้ว “พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าเราเป็นใคร แล้วมาเป็นไอ้ขิงทำไม แต่อยากให้รู้ไว้ พี่ไม่ได้โง่ที่จะดูไม่ออก”

   “พี่...รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

   ยอมจำนนแต่โดยดีเลยครับ พอพี่ไฮท์ได้ยินผมว่าแบบนั้นก็เหยียดยิ้มออกมา

   “ก็สังเกตมาเรื่อยๆ”

   “นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่เกลียดพี่ขิงละก็ ผมคิดว่าพี่ชอบพี่ผมแล้วนะเนี่ย เชี่ย” ตะครุบปากแทบไม่ทันเมื่อหลุดชื่อพี่ขิงออกมา พี่ไฮท์หัวเราะออกมาเสียงดังจนผมต้องยิ้มตอบ “ผมขอโทษ”

   “ขอโทษทำไม”

   “ก็เรื่องที่ผมปลอมตัวมาเป็นพี่ขิง”

   “เป็นน้องไอ้ขิงเหรอ? แฝด?” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ พี่ไฮท์ถึงกับขมวดคิ้วมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า “เป็นแฝดที่โคตรเหมือน”

   “ผมก็ว่างั้น พี่ไม่โกรธผมใช่ไหม”

   “ก็ทำไมต้องโกรธ หรืออยากให้โกรธล่ะ”

   “ไม่ๆ ไม่โกรธดีกว่า เนอะ”

   แล้วพี่ไฮท์ก็หัวเราะเสียงดังออกมาอีกรอบ ทำไมรู้สึกสบายใจที่ได้บอกความจริง ตอนแรกคิดว่าจะถูกกระโดดถีบตกบ่อน้ำซะอีก

   “รีบล้างตัวเถอะ เดี๋ยวมืด”

   “นี่ยังไม่มืดอีกเหรอ”

   ที่บอกแบบนั้นเพราะแทบมองไม่เห็นทางแล้ว ผมรีบลุกขึ้นยืน แต่เพราะตรงที่ผมอยู่มีน้ำจากการล้างตัวเมื่อครู่ ความลื่นทำให้ผมสไลด์ขาแยกออกจากกัน โชคดีที่พี่ไฮท์ยืนอยู่ตรงหน้าเลยคว้าตัวผมไว้ทันก่อนที่ขาจะฉีกเกินร้อยแปดสิบองศา
 
   “ทำไมไม่ระวัง”

   “ไม่ได้ตั้งใจ” ยิ้มแหยๆ ส่งให้คนดุ “ขอบคุณครับ”

   พี่ไฮท์ดึงตัวให้ผมยืนปกติ ฝ่ามือใหญ่จับข้อมือผมไว้จนต้องมอง

   “จับไว้ จะได้ไม่ลื่น”

   สิ่งที่พี่ไฮท์ให้ผมจับคือชายเสื้อด้านหลังของตัวเอง เจ้าของเสื้อขำน้อยๆ ก่อนจะเริ่มเดินโดยมีผมเดินตาม หลังกว้างที่ผมมองอยู่ให้ความรู้สึกเหมือนพ่อ







   ตอนนี้เส้นทางกลับโรงเรียนมืดสนิทจนดูน่ากลัว มีเพียงแสงไฟจากโทรศัพท์ของพี่ไฮท์ที่ทำให้เรามองเห็นทาง ไม่งั้นผมว่า เราทั้งคู่อาจตกร่องน้ำได้ เสียงแมลงร้องดังฟังดูหลอนพิกล ผมเริ่มสืบเท้าเดินชิดคนตรงหน้ามากขึ้น

   “พี่!!” ผมร้องดังลั่นเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างพุ่งมาชนที่ขา ความแรงของมันทำให้ผมสะดุ้งจนกระโดดตัวลอย

   “อะไร มีอะไร” เพราะผมเสียงดัง พี่ไฮท์เลยพลอยสะดุ้งไปด้วย

   “มีอะไรไม่รู้ชนขาผมอะ งูหรือเปล่า งูกัดผม” เมื่อกี้รู้สึกเจ็บด้วยนะครับ งูกัดผมแน่ ไอ้ขมิ้นจะตายแล้ว

   “งูกัด ตรงไหนวะ”

   “ตรงขาๆ”

   พี่ไฮท์ย่อตัวนั่งลง พร้อมกับส่องไฟจากโทรศัพท์มอง

   “ไม่เห็นมีรอยเขี้ยวงูเลย”

   “แต่มันเจ็บ”

   เจ็บไม่เจ็บไม่รู้ ตอนนี้สมองผมกำลังจินตนาการความทรมานและความตาย มือที่จับบ่าพี่ไฮท์นั้นขยำแน่นด้วยความกลัว

   “ไม่มี” พี่ไฮท์ยืนยันหนักแน่น “ไม่ใช่งูหรอก แต่นู้น”

   คำว่านู้นทำให้ผมหรี่ตามองข้างหนึ่ง แสงไฟที่สาดส่องไปมองเห็นรูปร่างของตัวที่ชนขาผม

   “เชี่ย” หมูสีดำตัวเล็กทำจมูกฟุดฟิดยืนมองหน้าผมอยู่ในระยะไม่ไกล พี่ไฮท์ขำพรืดออกมาเมื่อเห็นตัวต้นเหตุ พอเดินเข้าหา หมูตัวนั้นก็หวีดร้องแล้ววิ่งหนี “มันคงกลัวพี่ฆ่ามันอะ”

   “พี่น่ากลัวเหรอ?”

   “ไม่น่าถาม”

   รีบหรี่ตาเมื่อพี่ไฮท์ยกหมัด แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากหัวผมถูกเขกเบาๆ พี่ไฮท์พูดอะไรอีกนอกจากเดินนำหน้า ผมก็รีบวิ่งตามพร้อมยื่นมือดึงชายเสื้อตามเดิม กว่าจะมาถึง ทุกคนก็อาบน้ำกันหมดแล้ว เจมส์รีบวิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

   “มึงไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ระหว่างที่เจมส์ถาม ตามันก็เหล่มองพี่ไฮท์ คงกลัวว่าผมจะถูกหักคอ

   “กูปลอดภัยดี ตอนนี้อยากอาบน้ำสุดๆ”

   “เออๆ”

   แล้วเจมส์ก็รีบดึงแขนผมไป ไม่รู้มันจะกลัวอะไรนักหนา ผมเห็นมันกระสับกระส่ายเหลียวซ้ายและขวาอยู่ตลอด

   “มึงเป็นอะไรวะ หนีอะไร”

   “พี่บิ๊ก”

   “หนีพี่บิ๊ก? หนีทำไมวะ”

   “ก็เรื่องมึงนั่นแหละ” เจมส์แหวออกมา “ถูกกำลังถูกคาดคั้นเรื่องมึง กว่าจะหนีออกมาได้กูต้องหลอกล่อลำบากแค่ไหนมึงรู้ไหม”

   “พี่ไฮท์รู้แล้ว”

   พอผมพูดแทรกจบ เจมส์ก็หยุดเดินกึก หน้าซีดๆ นั่นยื่นมาจ้องผมในระยะประชิดจนต้องยกมือดันหน้ามันออก

   “มึงพูดจริงดิ่ พี่ไฮท์รู้แล้วจริงดิ่ โกรธมึงไหม จะฆ่ามึงหรือเปล่า แล้วกูจะทำยังไงดี กู...”

   “มึงหยุดโวยวายก่อน กูไม่เป็นอะไร” เลื่อนมือที่ดันหน้าผากลงมาปิดปากเจมส์ “กูสบายดี”

   “อื้อ อื่อ อื้อ”

   “กูฟังไม่รู้เรื่อง”

   “อือ อือ”

   “ขอโทษที”

        ผมรีบชักมือกลับเมื่อเจมส์ตีมือผม มันมองตาขวางนิดๆ แต่ผมก็ยิ้มส่งให้

   “มึงไม่เป็นอะไรแน่นะ พี่ไฮท์มันไม่ด่า ไม่ว่า ไม่กระทืบมึงจริงๆ เหรอ” แล้วเจมส์มันก็จับตัวผมหมุนไปหมุนมาจนเวียนหัว “โคตรแปลก หรือจะเป็นอย่างที่ไอ้อินว่า”

   “ไอ้อินว่า? ว่าอะไร”

   “มันบอกว่า พี่ไฮท์หึงมึงกับมัน”

   “หา? หึงกูกับไอ้อินเนี่ยนะ” แทบยกมือขยี้รูหูตัวเอง “อย่าบอกว่าพี่ไฮท์กับไอ้อิน เชี่ย เจ็บ” โวยวายเมื่อโดนฝ่ามือเจมส์ตบจนหน้าคว่ำ

   “กับมึงสิไอ้ห่า พี่ไฮท์จะเอาไอ้อินไปทำไม ตัวใหญ่เท่าควาย คิดละขนลุก” พอคิดภาพตามแล้วก็อดที่จะขนลุกตามไม่ได้ พี่ไฮท์กับไอ้อิน โอ้โหเลยครับ

   “แล้วมันบอกมึงตอนไหน”

       “มันกระซิบกูตอนมึงลงไปจับปลา ที่จริงมันว่า มันสัมผัสได้ถึงรังสีบางอย่าง ที่ออกจากสายตาพี่ไฮท์ ตั้งแต่ตอนเช้า”

   “สายตาพี่ไฮท์? กูว่าสายตามันนั่นแหละกำลังมีปัญหา” ส่ายหัวให้กับความคิดเพี้ยนๆ นั่น

   “แต่กูก็รู้สึกนะ”

   “รู้สึกอะไร”

   “ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พี่ไฮท์สนใจมึง”

   “เขาคิดว่ากูเป็นพี่ขิงไง เขาก็เลยสนใจที่จะหาเรื่องกู มึงก็เห็นนี่หว่า แทบจะต่อยกูตั้งหลายครั้ง”

   “นั่นมันช่วงแรกเว้ย มึงไม่สังเกตเหรอ พี่ไฮท์จะต่อยมึงแค่วันแรกๆ พอผ่านไปเขาก็แค่มองมึงนิ่งๆ..”

   “ด่ากูด้วย”

   “เออนั่นแหละ แต่ตอนไอ้ขิงอยู่ พี่เขามองมันเหมือนธาตุอากาศเลยนะ ขนาดเดินผ่านยังทำเหมือนไม่เห็น”

   “เหรอวะ” ผมเริ่มคิดตามแล้วเนี่ย “แล้วพี่ไฮท์จะมาหึงกูกับไอ้อินทำไม แปลก”

   “ไอ้โง่ ก็เพราะ...”

   ยังฟังเจมส์พูดไม่จบดีการมองเห็นของผมก็ถูกดับไป สาเหตุมาจากผ้าขนหนูที่ถูกโยนมาจากด้านหลังคลุมหัวผมพอดิบพอดี
 
   “ไม่อาบน้ำหรือไง” เสียงเรียบเอ่ยถามขณะที่ผมดึงผ้าออกจากหัว พี่ไฮท์เดินเข้ามาผลักหัวผมอีกรอบก่อนจะเดินผ่านไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล


   นี่เหรอคนที่กำลังหึงผมกับไอ้อิน มั่วสุดๆ


   “เจมส์มึง...”

   มีเรื่องจะถามเจมส์สักหน่อย แต่พอหันมา คนที่จะคุยก็ถูกลากไปแล้ว เลยได้แต่ยืนหันไปหันมา สุดท้ายก็เดินไปเข้าห้องน้ำ กลิ่นโคลนที่ติดตัวนี่เหม็นเอาเรื่องเลยนะครับ แต่พอนึกย้อนกลับไปแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน ผมไม่เคยลงบ่อจับปลาแบบนั้นเลย เป็นความทรงจำที่ดีอีกอย่างในการมาเป็นพี่ขิง

   เสียงน้ำกระเซ็นดังมาจากห้องท้ายสุด พี่ไฮท์คงกำลังอาบอยู่ ผมเลือกจะเข้าห้องข้างๆ ไม่อยากไปไกล ห้องน้ำที่เงียบแบบนี้ก็หลอนเอาการ หลังจากถอดเสื้อผ้าเสร็จก็ตักน้ำในโอ่งอาบ ความเย็นเหยียบจากขันแรกทำเอาขนลุกไปทั้งตัวจนต้องกระทืบเท้า

   สบู่?

   ลืมไปเลยว่าทั้งตัวมีแต่ผ้าขนหนูที่พี่ไฮท์โยนมาให้ เสื้อผ้าข้าวของอย่างอื่นไม่มีติดตัวมาเลย ฉิบหายแล้วไอ้ขมิ้น ผมเม้มปากขมวดคิ้วลังเลว่าจะร้องทักคนข้างห้องดีไหม แต่ถ้าไม่ ผมก็อาบไม่ได้

   “พี่ไฮท์” ลองเรียกดูเพราะไม่ได้ยินเสียงน้ำแล้ว “พี่ไฮท์ยังอยู่ไหม ตอบด้วย”

   “มีอะไร” กว่าจะตอบกลับผมก็กลั้นหายใจจนเกือบตาย กลัวพี่เขาออกไปแล้ว

   “ขอยืมสบู่หน่อยสิ ผมไม่ได้เอามา” ถ้าบอกว่าพี่ไฮท์ไม่เอามาให้เดี๋ยวจะถูกด่า “พี่อาบเสร็จหรือยัง”

   “จะเอายังไง”

        พี่เขาหาเรื่องผมหรือเปล่าวะ 

   “จะเอาสบู่ ไม่เอายังไง”

   “กวนตีนนะ”

   “ขอยืมสบู่หน่อยครับ”

   “มาเอาเอง”

   พอได้คำอนุญาตผมก็รีบเปิดประตูออกไปยืนรอหน้าห้องที่พี่ไฮท์อยู่ แป๊บเดียวคนอยู่ด้านในก็เปิดออกมา ผมยิ้มแฉ่งยื่นมือไปรอรับสบู่ แต่อีกคนกลับสะดุ้งแล้วรีบหันหน้าหนี

   “ไหนสบู่” พอถามหาปุ๊บ ก็มีสบู่ก้อนสีชมพูยื่นมาให้ “ขอบคุณครับ”

   “เออ แต่ต่อไปถ้าจะออกมา ช่วยปิดๆ บ้างก็ดี”

   “ครับ?”

   ไม่รู้ความหมายประโยคของพี่ไฮท์เท่าไหร่ แถมเจ้าตัวก็ผลุบเข้าห้องน้ำไปแล้ว อะไรของพี่เขาวะ ผมยักไหล่แล้วกลับเข้าห้องตัวเองบ้าง สบู่สีชมพูหอมๆ ทำให้กลิ่นโคลนหายไปหมด ชอบจริงๆ แถมน้ำเย็นก็ทำให้ตื่นเต็มตายิ่งกว่ากาแฟเข้มซะอีก

 
   “อ่าวพี่” อาบเสร็จก็เปิดประตูออกไป เจอพี่ไฮท์ยืนอยู่หน้ากระจก พอพี่เขาเห็นผมก็รีบเดินหนี แต่ครู่เดียวก็กลับมาใหม่ “พี่ทำอะไรวะ”

   “เอาไปใส่ จะโป๊กลับเต็นท์หรือไง” พี่ไฮท์ถอดกางเกงขาสั้นตัวเองแล้วยื่นให้ผม คงกลัวคนด้านนอกตกใจถ้าผมจะพันผ้าเช็ดตัวที่เอวเดินกลับเต็นท์

   “ก็พี่ไม่เอาเสื้อผ้ามาให้ผมด้วย”

   “กูผิดเหรอเนี่ย”

   “ไม่ผิดครับ”

   ผมปลดผ้าขนหนูออกเพื่อจะสวมกางเกง พี่ไฮท์ถึงกับร้องลั่นแล้ววิ่งออกไป ดีที่พี่เขาเอาผ้าขนหนูพันเอวตัวเองไว้ก่อนหน้า ไม่งั้นคนด้านนอกคงตกใจที่เห็นรองประธานค่ายใส่แค่กางเกงในวิ่ง คิดแล้วก็น่าขำ








   “หายไปเป็นชาติ คิดว่าไหลลงท่อไปซะแล้ว” ไปแต่งตัวในเต็นท์เสร็จก็ออกมานั่งข้างเจมส์ เหลือบตามองเห็นพี่ไฮท์นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนตัวเอง “กินป่ะ ปลาที่มึงจับ”

   “ขอบใจที่เหลือก้างให้กู” เจมส์หัวเราะร่วนก่อนจะยื่นปลาที่แกะเนื้อใส่จานมาให้

   งานรอบกองไฟแม้จะไร้แอลกอฮอล์แต่ทุกคนก็ดูสนุกสนาน บ้างก็เหมือนคนเมาน้ำเปล่า เสียงกีต้าร์ เสียงกลองดังอึกทึกคึกโครม ยังมีเสียงหม้อ เสียงฝาหม้อดังกระทบกันอีก ชาวบ้านที่มาร่วมวงด้วยต่างก็พากันขำความรั่วของพวกที่โชว์

   “ไอ้ขิง” แรงหนักๆ ที่พาดบ่าพร้อมกับเรียกชื่อของไอ้อิน ทำให้ผมหันมาสนใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กำลังหัวเราะพี่แน่ดึงพี่ไฮท์ไปเล่นกีต้าร์ให้ “คืนนี้ขาพวกกูขาด มึงสนใจป่ะ”

   “ขาขาด?” แวบแรกผมนึกว่าขาจริงๆ ของมันขาด แต่ถ้าขาจริงขาดคงเดินมาหาผมไม่ได้หรอก “ไพ่เหรอวะ”

   “เงียบๆ สิวะ”

   “กินตังค์ไหม กูไม่มีตังค์”

   “รวยอย่างมึงเนี่ยนะ กูเห็นมึงพกเงินเป็นฟ่อนๆ”

   “นั่นมันตอนนั้นไง แต่ตอนนี้กูไม่มี”

   “อะไรวะ”

   “ถ้าไม่กินตังค์กูก็ไป”

   “ยืมกูก่อน แล้วมึงค่อยมาใช้”

   “เออๆ ก็ได้”

   รับปากเสร็จ อินมันก็ลุกไปหากลุ่มเพื่อนตัวเอง ส่วนผมก็เจอเจมส์มองด้วยสายตาประหลาดๆ

   “อย่าไปนะมึง”

   “ทำไมวะ” ตอนนี้เจมส์มันดูจริงจังจนผมแปลกใจ “หรือพวกมันจะโกง”

   “มึงก็รู้ว่าพี่ไฮท์จ้องมึงอยู่ ถ้ามึงไปเล่นด้วย พวกนั้นถูกจับได้แน่”

   “เหรอวะ” เจมส์มันพยักหน้าแทนคำตอบ “เออๆ”

   รับปากเสร็จผมก็หันไปสนใจดนตรีตรงหน้าต่อ ตอนนี้พี่ไฮท์เป็นคนดีดกีต้าร์ให้พี่แน่ร้อง สีหน้าและแววตาของพี่เขายามเล่นดูมีเสน่ห์กว่าเดิมซะอีก มากซะจนไม่สามารถหลบสายตาที่มองมาได้ พื้นที่ในหัวใจของผมกำลังสั่นไหวอีกแล้ว มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้แต่กับผู้หญิงสวยหุ่นดีก็ไม่เคย แต่ทำไมถึงมีปฏิกิริยากับคนนี้คนเดียว หรือว่าผม...กำลังจะชอบพี่ไฮท์วะ แต่พี่เขาชอบผู้หญิงนะ ดังนั้นผมควรเลิกฟุ้งซ่าน


   งานรอบกองไฟจบลงแล้ว จบลงแบบอบอุ่นและซาบซึ้งจนผมแอบน้ำตาคลอเมื่ออาจารย์พูดขอบคุณทุกคน รวมถึงประธานและรองประธานค่าย ผมว่าค่ายนี้จะเกิดไม่ได้หากทุกคนไม่มาด้วยใจ ความลำบาก มันสาหัสจริงๆ ผู้หญิงทุกคนก็ด้วย ไม่กลัวความเหนื่อยเลยสักคน ค่ายนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการมาเป็นพี่ขิง ผมจะไม่มีวันลืมเลย

   “ไอ้ขิง เต็นท์กูนะ” อินเดินมากระซิบข้างหูโดยไม่รอฟังคำตอบ ผมกะว่าจะบอกปัดแต่มันไม่อยู่ฟัง เลยได้แต่ถอนหายใจ เอาไงดีวะ จะไปดีหรือไม่ไปดี จะกลับเต็นท์หรือไปเต็นท์มันดี แต่สรุปแล้ว ไปสักแป๊บนึงละค่อยกลับก็ได้

   เต็นท์ของอินห่างจากพวกปีสามพอสมควร มิน่าถึงเล่นได้ พอผมมุดเข้าไป เพื่อนมันก็นั่งล้อมวงรอกันอยู่แล้ว ทุกคนดูตกใจคราวแรก แต่พออินมันดึงผมไปนั่งข้าง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ

   “กูไม่ได้เอาตังค์มา” กระซิบบอกอินไป มันก็แบ่งของมันมาให้ผม ไพ่ที่วางตรงหน้ามีแค่สองใบ “ป๊อกเด้งเหรอวะ” ถามปุ๊บ คนแจกไพ่ก็พยักหน้ารับ

   “กินไว กินเร็ว ทันใจดีมึง”

       เจ้ามือบอก ผมไม่ได้ตอบอะไรไปเพราะกำลังลุ้นไพ่ใบมือ ใบแรกก็ลางไม่ค่อยดีแล้ว ได้ตัวเคสีดำ อย่าบอกว่าตาแรกผมก็จะถูกกินแล้ว

   “ใครเอาอีก มึงเอาไหมไอ้ขิง”

   “ไม่ว่ะ”

   ที่ผมไม่เอาเพราะใบในมือคือเลขเด็ด ผมต้องไม่นกในมือแรก และพอได้วางไพ่ ผมก็กินรอบวงอย่างไม่พลาด

   “ไอ้เหี้ยขิงตาแรกก็สองเด้งเลยนะมึง” เจ้ามือบ่น ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์ ก่อนคืนเงินที่ยืมอินไป มันก็ทำหน้าเอือมๆ เพราะเงินที่ผมคืนก็เงินมัน อัดยายซื้อขนมยายชัดๆ

   ผ่านไปสองรอบ สามรอบจนขึ้นรอบที่สี่ ไพ่ใบมือผมบอดสนิทศิษย์บุญก็ไม่ช่วยเลยทีเดียว เห็นหน้าเจ้ามือแล้วก็เหงื่อตก มันต้องเด็ดแน่นอน พอถูกสั่งให้วางมือก็เริ่มสั่น แต่จังหวะที่วางนั้น ผ้าเต็นท์ด้านหน้าก็ถูกดึงขึ้น กลุ่มไพ่ต่างก็สะดุ้งตกใจกันทุกคนจนไพ่ปลิวเต็มเต็นท์ไปหมด


   “พวกมึงทำอะไรกันฮะ! พรุ่งนี้ต้องกลับแต่เช้านะเว้ย” พี่ไฮท์พูดเสียงเข้มทำเอาทุกคนก้มหน้าก้มตาหนีความผิดกันหมด ก่อนสายตาดุนั่นจะกวาดมามองผม “กี่โมงแล้ว”

   “พี่ถามผมเหรอ”

   ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา นอกจากคนถามเดินจากไป ผมมองตามแผ่นหลังที่เห็นลางๆ อย่างงงๆ จนอินมันสะกิดให้ผมลุก

   “พี่เขามาเรียกมึงอะ ตามไปสิ”

   “ตามกูทำไม”

   “ก็มึงนอนกับพี่เขา”

   เออว่ะ ผมก็ลืมไปว่านอนเต็นท์เดียวกับพี่ไฮท์ ตอนแรกนัดแนะกับเจมส์เป็นอย่างดีว่าจะกลับเต็นท์เดิม แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเพื่อนถูกพี่บิ๊กลากเข้าเต็นท์ไปแล้ว ผมบอกลาเพื่อนใหม่รอบวงพร้อมรวบเงินที่ได้ไปด้วย แอบคิดว่าเป็นโชคเหมือนกันที่ไม่ต้องเสียเงิน เมื่อกี้ถ้าพี่ไฮท์ไม่มา ผมหมดตูดแน่ พอกลับมาที่เต็นท์ที่นอนเมื่อคืน กลิ่นเมนทอลตลบอบอวลไปทั่วจนต้องนิ่วหน้า

   “พี่ทายาเหรอ”

   “เหม็นเหรอ”

   “เปล่า แค่ถามเฉยๆ”

   “แบกปูนเลยปวดแขน”

   พี่ไฮท์พูดหลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ ผมที่กำลังจะล้มตัวนอนก็เด้งลุกขึ้นมานั่งใหม่

   “ปวดแขนเหรอ ผมมีพาสเตอร์แก้ปวดด้วยนะ” ว่าแล้วก็รีบค้นกระเป๋า แม่ให้ผมมาในตอนแรก ไม่คิดว่าจะได้ใช้ “พี่ปวดตรงไหนเหรอ”

   “ตรงนี้”

   “ตรงนี้มันไหล่ไม่ใช่แขน”

   “พูดมาก” หลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นพี่ไฮท์ทำหน้าบึ้ง ก่อนจะเลิกชายเสื้อยืดคนปวดไหล่ขึ้นแต่เจ้าของกลับดึงลง “อะไรของมึง”

   “ก็จะติดพาสเตอร์ให้ไง พี่ถอดเสื้อสิ”

   “ไม่ต้อง กูทายาแล้ว”

   “แปะพาสเตอร์เพิ่มจะได้หายไวๆ ไง เนี่ย ผมแกะแล้ว”

   “ไม่ต้อง”

   “กลัวผมปล้ำหรือไง” เหมือนผมพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด พี่ไฮท์ถึงกับหันขวับมามอง “ขอโทษครับ” พี่ไฮท์ไม่ตอบแต่ยอมถอดเสื้อออก ไหล่ด้านขวามีรอยช้ำอย่างเด่นชัด “ช้ำขนาดนี้ พี่แบกปูนหรืออะไรเนี่ย”

   “ขี้บ่นจังวะ”

   ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ไฮท์ทำหน้ายังไงตอนพูด เพราะสิ่งที่ผมสนใจตอนนี้คือ จะแปะพาสเตอร์ยังไงไม่ให้เบี้ยว เล็งอยู่นานจนหน้าแทบจะติดกับไหล่อยู่แล้ว

   “เสร็จแล้ว...”

   ช็อตจังหวะสบตาเหมือนในละครกำลังเกิดขึ้นกับผม นัยน์ตาสีน้ำตาลของพี่ไฮท์สั่นไหวเล็กๆ ยามที่ผมมองในระยะใกล้ ยิ่งกระทบกับแสงไฟดวงเล็กๆ จากตะเกียง ยิ่งทำให้เห็นนัยน์ตาพราวระยิบระยับเหมือนดวงดาวจนไม่อาจถอนสายตาได้

   “ชื่ออะไร”

   “หา?”

   เสียงถามคำถามฉุดสติให้กลับมา ผมรีบขยับออกห่างจนเกือบจะชิดกับผ้าเต็นท์อีกฝั่ง

   “ชื่อจริงๆ ชื่อว่าอะไร”

   “ชื่อจริงหรือชื่อเล่น อูย” กะจะเล่นมุกซะหน่อย เจอสายตาโหดซะงั้น “ชื่อขมิ้นครับ”

   “ขิง...ขมิ้น หึๆ” พี่ไฮท์ขำในลำคอก่อนจะรีบสวมเสื้อแล้วนอนลง “รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”

   “ครับ”

   “ฝันดีนะ ขมิ้น”

   ทำไมใจของผมต้องเต้นแรงยามที่พี่ไฮท์เรียกชื่อจริงๆ ด้วย ผมจะทำยังไงดี






   “ขึ้นรถตามเดิมเลยนะคะ พี่ไม่เช็คชื่อแล้วนะ”

       เสียงตะโกนของรุ่นพี่คนสวยบอกขณะผมกำลังเดินขึ้นรถทัวร์ มีเจมส์เดินตามทำสีหน้าเหมือนปวดขี้ทั้งๆ ที่ก็เข้าห้องน้ำโคตรนาน

   “เป็นอะไรวะ” ถามขณะนั่งลงที่เบาะว่าง

   “จะดีเหรอวะ” เจมส์ถาม ท่าทางมันดูกังวลจนผมต้องตบบ่าเพื่อนเบาๆ “มันจะดีแน่เหรอวะไอ้ขมิ้น”

   “ดีสิ ก็พี่เขาบอกแล้วว่าไม่เช็คชื่อ อีกอย่างกูถามมาแล้ว รถคันนี้มีเบาะว่าง” ตอบอย่างมั่นใจ พร้อมเอนหลังหลับตาเตรียมงีบ สารภาพเลยว่าเมื่อคืนตาปิดไม่สนิท มัวแต่ใจเต้นที่พี่ไฮท์เรียกชื่อตัวเอง “อย่ากังวลไปเลย กูว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เชื่อกู”

   “เหรอ”

   “ใช่”

   เสียงตอบทำไมดูทุ้มกว่าเจมส์วะ พอลืมตาก็เป็นไปตามที่คิดไว้ คนที่ทำให้ผมนอนไม่หลับจนต้องหนีมาขึ้นรถทัวร์อีกคันเพื่อจะพักเอาแรง พี่ไฮท์กำลังยืนเท้าเอวส่งสายตาดุมาให้ เจมส์ที่ว่าแน่ยังต้องทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน

   “ชื่อมึงอยู่คันนี้เหรอ”

   เสียงดุไปอีก

   “ก็พี่เขาบอกไม่เช็คชื่อแล้ว ก็เลย...”

   “ก็เลยคิดว่าจะนั่งมั่วที่ไหนก็ได้อย่างงั้นสิ” พยักหน้าแทนคำตอบเลยถูกมือยาวๆ ยื่นมาตบหัว “ปัญญาอ่อน”

   “เอ๊า ด่าผมทำไมเนี่ย” ลูบหัวตัวเองป้อยๆ มันก็ไม่ได้เจ็บมากแต่ก็เจ็บเอาการ “ไอ้อินไง มันอยากไปนั่งคันนู้น” รีบชี้ไปที่คนกำลังขึ้นมาจากด้านนอก อินทำหน้าเลิกลั่กมองอย่างงงๆ

   “อย่ามาใส่ร้ายกูไอ้ขิง กูไม่เคยบอกว่าอยากไปนั่ง”

   “ก็วันแรกมึงบอกกูเองว่าอยากนั่งสบายๆ”

   “พี่ไฮท์อย่าไปเชื่อมัน มันมั่ว ลุกเลยมึงอะ นั่งที่กู”

   “มึงแหละที่มั่ว”

   เถียงไปก็เท่านั้น ตอนนี้ผมถูกอินมันดึงให้ลุกจากเบาะรถแล้ว ส่วนเจมส์มันไปยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างพี่ไฮท์ เพื่อนทำไมทิ้งเพื่อนวะ และสุดท้ายผมก็ต้องกลับมานั่งข้างพี่ไฮท์ตามเดิม ด้วยความง่วงจัดทำให้เผลอหลับไปนอนไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ก่อนสติหลุดคือหัวผมถูกดันให้เอนมาซบไหล่คนข้างๆ หวังว่าตื่นมาแล้วเสื้อพี่เขาจะไม่เปียกน้ำลายของผม ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้ามองหน้าไปอีกนาน




...TBC

แกหายไปไหนมาห๊าาาา << ด่าตัวเองแทนทุกคนแล้วค่า ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน ไม่มีคำใดๆ ที่จะแก้ตัวนอกจากคำกล่วขอโทษ สำนึกผิดแล้วค่าาา ได้โปรดให้อภัยด้วย (คุกเข่าอ้อนวอนด้วยน้ำตา)

...
พี่ไฮท์รู้ความจริงแล้ว ต่อไปขมิ้นจะใช้ชีวิตง่ายขึ้นแล้วนะคะ แล้วพบกันตอนหน้าค่า มีคนที่ตามไปทุกเรื่องโผล่มาแว๊บๆ ด้วย แล้วพบกันค่าาา

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มาต่อแล้ว เย้+

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
รู้แล้วความจริง ใจก็สั่นไหวได้เต็มที่เลยค่ะคุณพี่

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
  o13 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 14] [P.5] // {22/02/61}
« ตอบ #129 เมื่อ: 23-02-2018 05:55:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
พี่ไฮท์ตลก หึง หวง เขินน้องขมิ้นตอนโป๊อีก 5555
พอขมิ้นยอมรับอะไรตรงๆแล้วก็ทำให้บรรยากาศดีขึ้นไปอีกแน่ๆ
พี่ไฮท์จะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ หุหุ

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
5555

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พี่ได้ยินจากปากน้องซะที
"ขมิ้น" นะครับพี่ อย่าเรียกผิด
งุ้ยยยย มีเขินๆๆ ขาวเว่อร์เลยอ่ะดิ
 :hao6:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขมิ้นคงอึดอัดลดลงเยอะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราจะได้เจอกลอยปะเกรียนเหรอ :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สักทีนะพี่นะ กว่าจะเอ่ยปาก นึกว่าจะเก็บงำไว้ก่อน
ไฮท์ชอบขมิ้นจริงจังนะ ขนาดคนอื่นยังดูออก

สงสารไฮท์ คือจะเขิน จะเคือง ก็ทำตัวไม่ถูก
แล้วมาเจอขมิ้นแก้ผ้าโชว์อีก หลับคืนนี้ฝันดีแน่พี่ไฮท์

ขมิ้นคนซื่อ ก็ไม่คิดมากอะนะ
ก็รอให้พี่ไฮท์ชัดเจนก่อนแล้วนั้นเนาะ
มีความเนียนนะ หนีวงมาเฉย 5555

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แวะมาปักจุดรอนะคะไรท์... :mew1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

-15-





       หลังกลับจากค่าย ตัวผมดำลงนิดหน่อย แค่นิดเดียวเท่านั้น แต่แม่กลับโวยวายหาว่าผมตัวดำเหมือนถ่าน จับผมไปขัดตัวนวดหน้าซะขี้ไคลหลุดหมด ไม่ได้เป็นห่วงว่าผมจะหมดหล่อหรอกนะครับ แต่เดี๋ยวจะรับงานไม่ได้เพราะผิวกร้าน ไอ้ขมิ้นคนนี้เลยได้แต่ทำใจ

   “เจอกันบนห้องนะเว้ย” ผมตะโกนบอกเจมส์หลังจากออกไปกินข้าวหน้ามหาลัยแล้วดันซวย มอเตอร์ไซค์สุดที่รักเหยียบตะปูล้อแบนจนต้องเข็นกลับเข้ามา และที่ซวยไปกว่านั้นคือร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่หลังมหาลัย ดังนั้นผมต้องจูงรถจากด้านหน้ามาด้านหลังเพื่อไปปะยาง แม้หนทางจะยาวไกลแต่ก็ต้องยอม ไม่งั้นผมกลับบ้านไม่ได้แน่

   ผมจูงรถมอเตอร์ไซค์ KSR สีดำคู่ใจผ่านตึกคณะศิลปกรรม เพิ่งรู้ว่าตึกนี้ดูขลังดี ปกติขี่รถผ่านก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ อาจเพราะสภาพตึกครึ่งเก่าครึ่งใหม่ด้วย นักศึกษาที่เดินแถวนั้นดูเป็นตัวของตัวเองสุดโต่ง ทั้งทรงผมและเสื้อผ้า เดินจูงรถผ่านตึกนั้นมาก็เจอสวนขนาดใหญ่ที่เป็นทางผ่านไปหลังมหาลัย ระหว่างผ่านไปครึ่งทาง ผมเห็นผู้ชายสวมชุดนักศึกษานั่งหันหลังกำลังทำอะไรสักอย่าง ด้วยความสงสัยเลยรีบจูงรถไปในระยะที่จะสามารถเห็นชัด

   “เหี้ย!” หลุดสบถออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ จนคนที่นั่งอยู่สะดุ้งแล้วหันมามอง “ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจ” พอเห็นสีหน้าคนตกใจแล้วก็รู้สึกผิด ถุงในมือของเขาร่วงทันทีที่ได้ยินเสียงผม

   “เออ ไม่เป็นไร ไม่ถือ” เสียงเล็กๆ ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่น่ามองจนลืมสนใจคำห้วนๆ นั่น
 
   “นั่นมันอะไรเหรอครับ” ผมชี้ไปที่ตัวที่นอนอยู่ข้างๆ เขา

   “เพื่อนสนิทผมเอง” คนว่ายิ้มแป้นจนตาหยี

   “เพื่อนสนิท?” เหมือนมีเครื่องหมายคำถามผุดเข้ามาในหัว “หมายถึง...ไอ้นั่น”

   “อยากรู้จักป่ะ มานี่สิ” คนที่ยืนอยู่ในสวนกวักมือเรียก ผมก็บ้าจี้เดินเข้าไปหา โดยจอดรถตัวเองไว้ชิดขอบฟุตบาท กันรถอื่นชน พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกได้ว่า ผู้ชายคนนี้น่ารักชะมัด ตัวเล็กกว่าผมน่าจะหลายเซ็นอยู่ ตัวขาวแก้มป่องเชียว “เซย์ไฮเขาสิ นี่” มัวแต่มองคนพูดจนถูกเรียกซ้ำสองรอบ กว่าจะก้มลงไปดูที่เขาชี้ ขาผมก็เกือบถูกงับ

   “ตัวเหี้ยเนี่ยนะ ที่บอกว่าเป็นเพื่อน” กระโดดหนีแทบไม่ทัน หัวใจก็เต้นแรงมากยามลิ้นมันตวัดออกมา คงเพราะผมยืนอยู่ข้างถุงไก่ปิ้ง

   “ตัวเงินตัวทองเว้ย เหี้ยอะไรไม่น่ารักเลย” อยากจะหัวเราะให้กับใบหน้ายู่ๆ แสนตลกนั่น แต่ก็ขำไม่ออก ตอนนี้ไอ้ตัวสี่ขากำลังเดินต้วมเตี้ยมๆ แลบลิ้นไปมาดูน่าขนลุก

   “ทองก็ทอง ว่าแต่มันไม่กัดจริงๆ เหรอ” หน้าตามันดูไม่น่าคบหาเลยให้ตาย

   “กัดสิ แต่เมื่อก่อนนะ กว่าจะสนิทใจก็เสียเงินโคตรเยอะ” คนตอบทำหน้ายู่อีกรอบจนผมสงสัยว่า มหาลัยพี่ขิงมีผู้ชายน่ารักแบบนี้สักกี่คน “แล้วจะจูงรถไปไหน ทำไมไม่ขี่ไปวะ”

        “ไปปะยางมอเตอร์ไซค์อะ” ชี้ไปที่รถที่จอดอยู่

   “หลังมอใช่ป่ะ”

   “ก็ใช่อยู่”

   “ฝากซื้อลูกชิ้นทอดกับไก่ย่างหน่อยสิ ขี้เกียจเดิน”


   นี่ผมกับเขาสนิทกันถึงขนาดฝากซื้อของได้แล้วเหรอครับเนี่ย ไอ้ขมิ้นงง


   “ก็คงได้มั้ง”

   พูดจบคนตรงหน้าก็ล้วงเงินจากกระเป๋ากางเกง จังหวะที่ผมยื่นมือออกไปหยิบแบงค์สีแดง เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจนเราสองคนสะดุ้งเฮือก และเพื่อนต้วมเตี้ยมก็รีบหนีไป

   “บีบแตรหาเหี้ยหรือไงวะ แม่งตกใจ” คำอุทานช่างไม่เข้ากับใบหน้าซะจริง “แต่เหี้ยมันเพื่อนกูนี่หว่า หรือมันจะรู้จักวะ...ใครอะ” หลุดขำออกมาจนได้ เมื่อคนที่ยืนข้างผมพูดเองเออเอง ก่อนจะยื่นมือมาสะกิดถาม

   ผมหรี่ตาดูรถบีเอ็มสีดำที่คนขับกำลังลดกระจกลง เจ้าของรถชะโงกหน้ามาอีกฝั่งถึงได้เห็นชัดๆ ว่าเป็นใคร

   “ไปทำอะไรตรงนั้นวะ!” พี่ไฮท์ตะโกนถามมา

   “มึงถามกูเหรอ!” กำลังจะอ้าปากตอบ คนตัวเล็กที่ยืนด้านหลังดันตอบไปซะก่อน

   “กูไม่ได้ถามมึง” พี่ไฮท์ก็ตะโกนตอบกลับมาทันที 

   “ก็มึงไม่ระบุชื่อ ใครจะไปรู้ เขาเรียกมึงอะ นู้น”

   เผลอหลุดขำออกมาอีกรอบเมื่อเห็นใบหน้าง้ำงอนั่น ผมเดินไปหาพี่ไฮท์ที่จอดรถข้างกับรถของผม คนนั่งหลังพวงมาลัยเอาแต่ขมวดคิ้วมองคนที่ยังยืนอยู่ในสวน

   “รู้จักกันเหรอวะ” มาใกล้ปุ๊บก็ถูกถามปั๊บ ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่รู้จักแต่ไปยืนคุยกันเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า แล้วนี่จะไปไหน” ผมต้องตอบคำถามไหนก่อน

   “รถผมยางแบน จะเอาไปปะยางหลังมอ พี่ไฮท์จะไปไหนเหรอ”

   “กลับบ้าน งั้นรอแป๊บ เดี๋ยวมา”

   พูดเสร็จพี่ไฮท์ก็ขับรถไปทันที ไม่รู้ขับไปไหนแต่บอกให้ผมรอ ผมก็ต้องรอใช่ไหม คงใช่แหละเนอะ คิดแบบนั้นผมก็เลยเดินย้อนกลับไปหาคนที่ยังนั่งกวักมือเรียกตัวเงินตัวทอง แต่มันไม่ยอมเดินมาหา
 

   ว่าแต่ นั่นเรียกตัวเงินตัวทอง หรือเรียกหมูวะครับ เรียกอู๊ดๆ เนี่ย


   “มันอิ่มแล้วมั้ง” ผมย่อตัวนั่งลงข้างๆ รู้สึกตัวเองก็บ้าจี้ตามคนแปลกหน้า เขาทำอะไรผมก็ทำตามเฉย เมื่อกี้ก็เผลอยกมือกวักเรียกด้วย

   “สงสัยจะอิ่มจริงว่ะ กินไปตั้งหลายไม้” เหล่ตามองคนข้างๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเขาหันมา ทำให้เราสบตากันพอดี “หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน”

   “ครับ?” ขมวดคิ้วยามถูกดวงตากลมโตมองสำรวจ ไม่แน่อาจเคยเจอพี่ขิงมาก่อน หรือไม่ก็เคยเห็นผ่านป้ายโฆษณา “รู้จักผมด้วยเหรอ”

   “ก็เหมือนเคยเห็น อ๋อ” พอเจอคำสร้อยสุดท้ายผมก็ทำตาโตไปด้วย พร้อมรอฟังในสิ่งที่เขาคิดออก

   “จำได้แล้วเหรอครับ”

   “ไม่อะ” แทบทรุดตัวนั่งกับพื้นหลังจากได้ยิน “ช่างมัน ไม่อยากคิด แค่ข้อสอบเมื่อกี้หัวก็จะระเบิดอยู่ละ เครียด อยากกินลูกชิ้นทอด!”

   เอ่อ ผมต้องปรับอารมณ์ตามเขาด้วยไหมเนี่ย อยู่ๆ ก็ตะโกนออกมาเฉย ผมกำลังจะอ้าปากถามชื่อ แต่พี่ไฮท์ดันตะโกนเรียกซะก่อน

   “ผมไปก่อนนะครับ” บอกลาคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก เขาก็ยิ้มหวานให้ส่งท้ายทำเอาซะผมสมองว่างเลยทีเดียว


   โคตรน่ารักเลยว่ะ



   “ไหนบอกว่าไม่รู้จักไง” เดินมาถึง พี่ไฮท์ก็เริ่มถาม ใบหน้าบูดบึ้งยามมองเลยไปหาคนด้านหลัง “คุยซะสนิทเลยนะมึง”

   “แล้วพี่จะอารมณ์เสียทำไมเนี่ย”

   “กูไม่ได้อารมณ์เสีย”

   “แต่หน้าพี่บึ้งอยู่ คิ้วขมวดจนจะรวมกันอยู่แล้ว”

   “แค่หงุดหงิด ไม่ได้อารมณ์เสีย”

   “มันต่างกันเหรอพี่”

   “ต่าง”

   “ก็ได้ ต่างก็ต่าง”

   ผมขำให้กับคนที่อารมณ์แปรปรวน หลังกลับจากค่ายมา พี่ไฮท์ดูใจดีกับผมมากขึ้น แต่บางครั้งก็ยังเหวี่ยงหากเผลอเรียกชื่อผมเป็นพี่ขิง

   “ขี่ยังไงให้เหยียบตะปูได้วะ” พี่ไฮท์ปัดมือผมออกแล้วจูงมอเตอร์ไซค์ให้แทน

   “ถ้าตาผมอยู่ที่ล้อ คงไม่เหยียบหรอก”

   “กวนตีนนะมึง”

   แม้จะด่า แต่พี่ไฮท์ก็ยังยิ้ม หากเป็นเมื่อก่อนผมอาจถูกกระโดดถีบไปติดต้นไม้สักต้นในสวนแล้วก็ได้

   “พี่รู้จักคนที่ผมคุยเมื่อกี้ไหม”

   “ถามทำไม”

   “ก็แค่อยากรู้”

   “มันเรียนศิลปกรรม” ผมจ้องหน้าคนพูด จนพี่ไฮท์ต้องถอนหายใจในความอยากรู้ของผม “อยู่ปีเดียวกับกูนี่แหละ”

   “จริงเหรอ ผมนึกว่าอยู่ปีหนึ่งไม่ก็ปีสองซะอีก” เขาหน้าเด็กมากจริงๆ นะครับ ผิวก็ขาวกว่าผมนิดหน่อย “เขาชื่ออะไรเหรอ”

   “ไอ้กลอย”

   “กลอย? ชื่อน่ารักสมตัว” แล้วผมก็ถูกเขกหัวโดยไร้สาเหตุ

   “ถ้าไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเหมือนพี่มึง อย่าไปยุ่งกับมัน”

   “ทำไม? หรือเขานิสัยไม่ดี แต่ผมว่า เขาน่ารักดีนะ ดูใจดีด้วย”

   “มันเป็นเพื่อนของคนที่พี่มึงขี่รถชน”

   เหมือนมีดาวตรงหางตาเมื่อได้ยิน คนที่พี่ขิงขี่รถชนเหรอ หมายถึง คนที่ทำให้ผมถูกต่อยหน้าตึกคณะในวันแรกที่มาเรียนใช่ไหม

   “พี่นี่รู้จักเขาดีเนอะ” พูดตามความรู้สึก แต่พี่ไฮท์กลับหยุดเดินแล้วหันมาจ้องหน้าผม “อะไร”

   “กูไม่ได้สนใจเขา”

   “หา?”

   ใบหน้าตึงราวกับฉีดโบท็อกซ์ทำให้ผมงง พี่ไฮท์หมายถึงอะไร

   “ช่างมัน” พูดจบก็เดินต่อเฉย ผมเลยต้องรีบก้าวขาให้ยาวขึ้นจะได้เดินทัน “กินข้าวหรือยัง”

   “กินแล้วครับ” ตอนแรกว่าจะถามกลับ แต่เพราะแถวนี้มีแค่ผม ฉะนั้นพี่ไฮท์ก็ต้องถามผมแน่นอน “พี่กินหรือยัง”

   “อืม” สั้นๆ แต่ได้ใจความสุด “พ่อกูให้ชวนไปกินหมูจุ่มที่บ้าน”

   “วันนี้เหรอ” พี่ไฮท์ไม่ตอบ “วันนี้ไม่ได้ ตอนเย็นผมต้องไปคุยงานกับแม่”

   แม่ผมไปรับงานมาอีกแล้ว แถมไม่บอกผมเลย ที่จริงวันนี้ผมก็เกือบไม่ได้มาเรียนแล้ว เพราะแม่จะลากผมไปคุยงาน ไม่เข้าใจจริงๆ นะ แม่เจอพี่ขิงแล้ว ทำไมไม่ให้พี่ขิงไปถ่าย อยากรู้จริงๆ ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้พี่ขิงหายไป

   “นี่มึงต้องเป็นไอ้ขิงอีกนานแค่ไหน”

   “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน”

   “มึงนี่นะ หัดเป็นตัวของตัวเองบ้าง อยากเป็นพี่มึงตลอดหรือไง”

   พี่ไฮท์ก็พูดถูก ถ้าผมยืนกรานจะเป็นตัวเองก็คงได้ แต่ก็ไม่ทำ

   “แม่บอกอีกไม่นานพี่ขิงก็จะกลับมา พอถึงตอนนั้น ผมก็คงกลับไปเป็นไอ้ขมิ้นเหมือนเก่า” ผมพูดจบ พี่ไฮท์ก็ไม่ถามอะไรต่อ แต่ปากบางๆ นั่นเหมือนพึมพำอะไรอยู่ “ถ้าพี่ขิงกลับมาแล้ว ผมก็คงต้องกลับบ้าน อยากให้ถึงวันนั้นจัง”

   “ไม่ดี”

   “พี่ว่าอะไรนะ”

   “เปล่า รีบๆ เดิน ร้อน”

   เมื่อกี้ผมเหมือนได้ยินพี่ไฮท์พูดอะไรบางอย่าง แต่ถ้าพี่เขาบอกเปล่าผมก็ต้องเชื่อ ไปคาดคั้นก็คงไม่ได้ เราสองคนจูงรถมาจนถึงร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ นั่งรอคิวเปลี่ยนยางแทบหลับ รู้แบบนี้ทิ้งรถไว้แล้วไปเล่นเกมส์ดีกว่า ร้านก็อยู่ไม่ไกลด้วย เห็นป้ายที่ติดหน้าซอยข้างๆ บอกมีแปลงของคณะเกษตร อยากเห็นจังว่าจะปลูกอะไรบ้าง

   “แล้วรถของพี่ล่ะ” นั่งเฉยๆ ก็ง่วง เลยลองชวนคนข้างๆ คุย พี่ไฮท์กวาดสายตามองรอบร้านอย่างสนใจ

   “เอาไปจอดที่ลานศิลปกรรม” ตอบผม แต่ตาก็ยังมองอะไหล่รถอยู่

   “ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”

   “ก็มึงเป็นรุ่นน้องกู”

   “พี่บอกว่าผมไม่ใช่รุ่นน้องไม่ใช่เหรอ”

   “ความจำดีนะมึง”

   แล้วเราทั้งคู่ก็เผลอหัวเราะออกมา พอดีกับรถซ่อมเรียบร้อยแล้ว เราเลยเดินไปรับ พี่ไฮท์ควักแบงค์สีเทาออกมาจ่ายให้ แม้ผมจะปฏิเสธแต่ลุงเจ้าของกลับหยิบไปแล้ว

   “เงินผมก็มีนะพี่”

   “กูเต็มใจออกให้”

   “ขอบคุณครับรุ่นพี่”

   “กวนตีน”

   ผมขยิบตาให้ก่อนถูกพี่ไฮท์เขกหัว แล้วเราก็หัวเราะพร้อมกันอีกครั้ง

   พี่ทำผมใจเต้นอีกแล้ว





***


   บนรถตู้คันแพง ผมนั่งถอนหายใจรอบที่ร้อยและถูกบิดแขนจนช้ำรอบที่ล้าน หลังจากไปคุยงานเรื่องคอนเซ็ปการถ่ายโปรโมทกางเกงชั้นในมา นี่ผมต้องใส่กางเกงในถ่ายแบบเหรอวะ บ้าไปแล้ว

   “แม่ให้พี่ขิงมาถ่ายนะ ผมไม่ถ่าย” ยืนยันไปอย่างหนักแน่น แม่ก็รีบเงยหน้าจากจอมือถือทันที “ผมพูดจริง”

   “ขมิ้นนี่ยังไงนะ แม่ก็บอกแล้วว่าพี่ขิงมาไม่ได้”

   “ก็ทำไมถึงมาไม่ได้ล่ะ แม่ก็บอกมาสิ”

   “พี่เขา...”

   “หนีหนี้เหรอ แม่มีเงินตั้งเยอะก็ใช้ให้ไปสิ”

   “หุบปากเลยนะขมิ้น” คำสั่งมาพร้อมแรงที่ตีเข้าปากจนผมสะดุ้ง ความชายังคงแผ่ไปทั่วใบหน้า โดยเฉพาะริมฝีปาก “แม่สั่งให้ทำก็ต้องทำ”

   “ผมควรเชื่อพ่อ ว่าไม่ควรมาที่นี่” ความอดกลั้นมันก็ถึงจุดสูงสุด ผมโพล่งออกมาแม่ก็ยกมือเตรียมจะฟาดลงมาอีก แต่พอเห็นผมนั่งนิ่งไม่ขยับก็เลยลดมือลงไป “แม่รักผมบ้างป่ะ”

   “แกเป็นลูกฉันก็ต้องรักสิ”

   พอได้ยินผมก็ขำออกมา ไม่ได้ดีใจหรอกนะครับ แต่ขำเพราะสมเพชตัวเอง น้ำเสียง สีหน้าและแววตามันสวนทางกันอย่างชัดเจน

   “รีบๆ ให้พี่ขิงกลับมา ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว” พูดจบผมก็เงียบตลอดทาง อยากร้องไห้นะ แต่น้ำตามันไม่ไหล หัวใจผมตอนนี้เหมือนถูกเข็มจิ้มจนพรุน

   กว่าจะถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่ม ลงจากรถปุ๊บ ผมก็ตรงไปควบมอเตอร์ไซค์ทันที ไม่สนว่าแม่จะโวยวายอะไร ตอนนี้ผมต้องไปจากตรงนี้ซะก่อน ผมกำลังอ่อนแอ ผมไม่ใช่คนเข้มแข็ง ผมร้องไห้และผมก็เจ็บเป็น

   มอเตอร์ไซค์คู่ใจทะยานด้วยความเร็วพอประมาณ ผมใช้ลมที่กระทบหน้าขับไล่น้ำตาให้เหือดหาย ความสับสนในหัวทำให้ผมกลับมาบ้านของตัวเอง ตอนนี้ในบ้านปิดเงียบ พ่อคงหลับไปแล้ว ถ้าเข้าไปพ่อจะตกใจเป็นห่วง ผมเลยถอยออกมา เสียงหมาเห่าบ้านข้างๆ ทำให้ผมนึกถึงปุยเมฆ และพาลนึกถึงที่ๆ ปุยเมฆอยู่ ถ้าผมไปที่นั่น จะได้ไหม
 
   ได้ไม่ได้ผมก็มาแล้ว จากบ้านผมมาที่บ้านพี่ไฮท์ใช้เวลาประมาณชั่วโมง พอมาถึงก็เกือบเที่ยงคืน แม้บ้านพี่ไฮท์จะยังเปิดไฟ แต่ผมก็ไม่กล้ายื่นมือไปกดเรียก ผมว่าผมควรกลับไปเผชิญความจริง

   จังหวะที่หันหลังจะกลับ เสียงหมาสองตัวเห่าแข่งกันจนเสียงดังลั่นพร้อมๆ กับตะกุยประตูกระจกจนแทบพัง ก่อนผ้าม่านชั้นบนจะถูกแหวกออก ทำให้เห็นหน้าลูกชายเจ้าของบ้าน พี่ไฮท์สวมเสื้อยืดสีขาวมองลงมาอย่างตกใจ

       “มึง...รอเดี๋ยวนะ” ผมยืนรอพี่ไฮท์ที่รีบวิ่งออกมาจากตัวบ้าน โดยมีสองอ้วนวิ่งพันแข้งพันขาติดออกมาด้วย “มาได้ไงเนี่ย” 

   “ผมนอนด้วยได้ป่ะ” พี่ไฮท์มองผมอย่างสงสัยก่อนจะพยักหน้าช้าๆ พอผมเดินตามเข้าบ้านก็ถูกสองอ้วนกระโจนใส่ ทำไมผมรู้สึกว่า พวกมันดีใจที่ผมมาเลยกอดให้หายคิดถึง “พ่อพี่ล่ะ”

   “หลับไปแล้ว มึงนั่นแหละ ไปไหนมาวะ” คงเพราะเห็นผมสวมสูทเต็มยศ “อ่อ ลืมไปว่ามึงไปคุยงานกับแม่ เป็นไงบ้างล่ะ”

   “ก็ดีมั้ง” ตอบแบบขอไปที “ถ่ายแบบกางเกงใน ผมไม่ชอบเลย”

   “ฮะ? กางเกงใน มึงจะถ่ายแบบกางเกงในเหรอ” หลังจากได้ยินผมพูด พี่ไฮท์แทบตกบันไดเพราะหันมามองผม โชคดีที่ผมดันร่างไว้ทัน ไม่งั้นอาจตกลงไปทั้งคู่ “งานไอ้ขิง ก็ให้มันมาถ่ายสิ”

   “ผมก็บอกแม่แล้ว ว่าไม่อยากถ่าย แต่แม่ไม่เข้าใจ”

   “ไม่อยากถ่ายก็ไม่ต้องถ่าย มึงไม่ใช่ไอ้ขิงสักหน่อย ตัวก็ผอม กล้ามก็ไม่มี ของก็เล็ก ถ่ายยังไงก็ไม่สวย” เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว หากไม่มีประโยคต่อๆ มาด้วย

   “มันเล็กเฉพาะตอนหลับเถอะ” มันใช่เรื่องที่ผมต้องเถียงไหมเนี่ย “ว่าแต่ พี่เห็นของผมตอนไหน แอบมองเหรอ” ยกมือปิดเป้ากางเกงตัวเองจนเกือบถูกถีบตกบันไดชั้นบนสุด โชคดีที่ขยับหนีทัน แม่งขาจะไวไปไหน

   “มึงแก้ผ้ามาให้กูเห็นเองเถอะไอ้ห่า” พอเห็นผมตีหน้างง คนเห็นของลับของผมก็รีบอธิบายเพิ่มจนผมต้องร้องอ๋อแล้วยิ้มเขิน “ตอนค่ายที่มึงยืมสบู่กู”

   “อ๋อ แบบนั้นนั่นเอง ผมไม่ถือ” หลบเท้าได้ แต่หลบมือไม่ได้ ฝ่ามือใหญ่ๆ เลยฟาดเข้าหัวผมดังป๊าบ “ขอยืมชุดหน่อยได้ไหมครับ”

   แม้จะมองตาขวาง พี่ไฮท์ก็ยังเดินไปค้นชุดในตู้มาให้ และมันเป็นชุดเดิมที่ผมใส่ตอนมานอนครั้งแรก ผมอาบน้ำใหม่อีกรอบเพราะตัวเหม็นเหงื่อ กลัวถูกเจ้าของห้องไล่กลับ จะว่าไป ผมควรไปนอนกับเจมส์มากกว่าหรือเปล่าวะ ทำไมถึงนึกถึงพี่ไฮท์คนแรก ไม่สิ ผมนึกถึงปุยเมฆต่างหาก มันทำให้ผมมาที่นี่

   ออกจากห้องน้ำมา เจ้าของห้องนั่งพิงหลังกับหัวเตียง บนตักมีจอแล็ปท็อป ข้างๆ ตัวก็มีหนังสือกับกระดาษวางอยู่เต็มไปหมด

   “พี่ทำการบ้านเหรอ”

   “เขาเรียกรายงาน”

   “แล้วมันไม่ใช่การบ้านเหรอ”

   “กวนตีน”

   หลุดขำออกมาก่อนจะคลานขึ้นเตียง มือหยิบกระดาษขึ้นมาดู มีแต่ตัวเลขเยอะแยะไปหมด

   “พี่เก่งว่ะ เป็นผมทำไม่ได้หรอก”

   “แล้วมึงมาเรียนแทนพี่มึงได้ยังไง”

   “ก็มีเจมส์ช่วย” ผมตอบพร้อมเม้มริมฝีปาก มันมีเรื่องที่อยากถาม ไม่รู้ถ้าถามไปพี่ไฮท์จะตอบหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ “ผมถามอะไรพี่หน่อยได้ป่ะ” พี่ไฮท์เงยหน้าขึ้นมามองก่อนพยักหน้าลง “ถ้าเกิดผมเป็นพี่ขิง พี่จะทำยังไง”

   “ถ้ามึงเป็นไอ้ขิงแล้วมาบ้านกูๆ ก็จะกระทืบแล้วไล่กลับ”

   โหดเหี้ยๆ

   “ทำไมพี่ถึงเกลียดพี่ขิง บอกได้ป่ะ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร” มันอาจเป็นความลับเลยต้องบอกแบบนั้นไป พี่ไฮท์ยังทำไม่สนใจ นิ้วกดแป้นพิมพ์รัวๆ “พี่ไฮท์ ทำไมเกลียดพี่ขิง...”

   “พี่มึงไม่ใช่คนดี” นิ้วที่พิมพ์แป้นหยุดลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม “มึงรู้ใช่ไหม” ผมรีบพยักหน้ารัวๆ “แต่ที่กูเกลียดมัน ไม่ใช่เพราะมันเป็นคนไม่ดี ในเมื่อกูก็ไม่ใช่คนดี”

   “พี่เป็นคนดี ผมยืนยัน” แวบหนึ่งเห็นพี่ไฮท์ยิ้ม แต่แล้วก็ปั้นหน้านิ่งตามเดิม “แล้วทำไมถึงเกลียด”

   คราวนี้พี่ไฮท์วางแล็ปท็อปลงบนเตียง ตัวใหญ่ขยับนั่งหลังตรงเพื่อมองหน้าผม

   “มึงรู้เรื่องอะไรของพี่มึงบ้าง” ท่าทางจริงจังทำให้ผมต้องลุกขึ้นนั่งด้วย จากที่นอนคว่ำมือค้ำคาง พอผมส่ายหน้าพี่ไฮท์ก็ถอนหายใจออกมา “รู้ไหมว่าพี่มึงมีผัวเป็นผู้ชาย” อันนี้ผมรีบพยักหน้าเพราะถูกเรียกเมียจ๋ามาแล้ว “แล้วรู้ไหมว่าพี่มึงมาแย่งแฟนกู”

   “รู้สิ ผมเคยเกือบถูกพี่กระทืบตอนวันแรกที่มาไง” ยังจำไม่เคยลืมเลือน คอยเตือนตัวเองเอาไว้เสมอ
 
   “ที่มันมาแย่งแฟนกู ก็เพราะ...”

   “เพราะ”

       ทำไมต้องทำให้ผมลุ้นขนาดนี้วะ

   “เพราะว่าพี่มึงมาอ่อยกู แล้วกูไม่เอา”

   “เชี่ย” สบถเสียงดังลั่นหลังจากได้ยิน “พี่พูดจริงเหรอ พี่ขิงชอบพี่เนี่ยนะ” รู้สึกสมองเบลอเลยไอ้ขมิ้น

   “จริง มันมาสารภาพกับกูเอง ว่าชอบกู แต่กูคิดกับมันแค่น้องในคณะ มันก็ยังยืนยันจะคบ ตามตื้อกูอย่างน่ารำคาญ แล้วอยู่ๆ กูก็รู้ข่าว ว่ามันควงคนของกูเข้าโรงแรม คงไม่ต้องบอกว่าเข้าไปทำไมใช่ไหม”

   เข้าโรงแรมไปกินข้าวแน่นอน ผัดตับ...ตับ ตับ ตับ ตับ

   “พี่ พูดจริงๆ เหรอ” ยิ่งกว่าสมองเบลอ นี่พี่ขิงทำขนาดนั้นเลยเหรอวะ

   “ถามไอ้บิ๊กสิ ไม่ก็เจมส์เพื่อนมันน่ะ”

   “เจมส์ก็รู้เหรอ” ทำไมมันไม่บอกผมวะ

   “มันคงไม่อยากให้มึงเกลียดพี่ตัวเอง” ไม่รู้ตอนนี้ผมทำหน้ายังไง เพราะเรื่องที่เพิ่งรู้กำลังตีกันในหัวจนมึนไปหมด “ไอ้ขิงคงคิดว่า ถ้ามันได้กับแฟนกูแล้วกูจะยอมคบมัน โคตรโง่”

   “โง่จริง” เผลอพูดออกมาโดยไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ “แล้วแฟนพี่เขา...ทำไมถึงยอมนอนกับพี่ขิงล่ะ”

   “คนมันดัง ออดอ้อนเป็น”

   “ตอแหลเก่งว่างั้น” ได้ยินพี่ไฮท์หลุดขำออกมา “แต่เป็นผมๆ ก็คงตามกระทืบพี่ขิงเหมือนกัน” พี่ขิงนี่ทำเรื่องให้ตัวเองโดนเกลียดเอง ทุกเรื่องเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นคนดัง น่าจะทำตัวดีให้คนชื่นชม นี่อะไร ทำตัวให้คนจ้องกระทืบอยู่ได้ “แล้วพี่เกลียดผมด้วยไหม”

   “ทำไมต้องเกลียดมึง?”

   “ก็ผมหน้าเหมือนพี่ขิง”

   “ตรรกะอะไรของมึง อยากให้กูเกลียดเหรอ”

   “ไม่เลย”

   “งั้นก็เลิกถาม เพราะถ้ากูจะเกลียดมึง กูเกลียดไปนานแล้ว ตั้งแต่รู้ว่ามึงไม่ใช่ไอ้ขิง”

   “แปลว่า พี่ก็ชอบผมอะสิ”

   ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า พี่ไฮท์ถึงหูแดงขึ้นมาแล้วก็หันไปสนใจงานในหน้าแล็ปท็อป แต่เท่าที่คิดย้อนไป มันก็ไม่มีอะไรผิดนะ

   “นอนไปเลยมึง จ้องหน้ากูทำงานไม่ได้”

   “พูดไม่เพราะเลยนะ คนเราเนี่ย”
 
   พูดไม่จบดีก็ถูกหมอนฟาดเข้าเต็มหน้า ผมถึงกับล้มตัวหงายหลัง โชคดีที่หัวไม่โขกกับหัวเตียง ผมแยกเขี้ยวส่งให้พี่ไฮท์ก่อนจะขยับหันหลังให้ ไหนบอกไม่เกลียด แต่ชอบทำร้ายร่างกายผมอยู่เรื่อย โดยเฉพาะทำให้หัวใจผมทำงานหนัก

   “ฝันดีนะพี่ไฮท์”

   “เออ ฝันดี” มันน่าจะจบแล้วหากไม่มีประโยคต่อท้าย “หันตูดมาอย่าตดนะมึง ไม่งั้นกูถีบตกเตียง”

   นี่นะหรือ คนที่บอกไม่ได้เกลียดผม เอะอะถีบ เอะอะตบ ใจร้ายโคตร แต่เพราะแบบนี้ทำให้ผมลืมความเสียใจที่เพิ่งเจอไปจนหมด อยากหันไปขอบคุณแต่ก็กลัวถูกด่าอีกว่าไปกวนเขา ผมเลยได้แต่ขอบคุณในใจพร้อมกับหลับตาลง คืนนี้ผมคงจะนอนฝันดีอย่างแน่นอน



...TBC

แท้แด้~~~~~~ สาเหตุที่แท้จริงที่พี่ไฮท์เกลียดขิงอย่างเข้าเส้นเลือดได้เปิดเผยแล้ว ช่วยขมิ้นเก็บเป็นความลับด้วยนะคะ (โดนตบหัว) ขอโทษที่มาช้าค่า คงจะเบื่อคำโทษแล้ว แต่ก็ยังจะพูด เป็นคนดื้อนั่นเอง ถถถ

ในตอนนี้มีกลอยประเกรียน (Just you and I เพราะนายคือของฉัน) มาทักทายนิดๆ หน่อยๆ ด้วยค่า หวังว่าจะยังไม่ลืมกันเน้ออ >w<

ขอบคุณมากๆ ค่า เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ   

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ,,รักนี้ แค่นาย,, [ตอนที่ 15] [P.5] // {28/02/61}
« ตอบ #139 เมื่อ: 28-02-2018 23:51:07 »





ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อยู่ๆ มนุษย์หลุดโลกก็โผล่มาตกใจ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ขมิ้นควรกลับไปหาพ่อได้แล้ว  ปัญหาของขิงและแม่ก็ให้เขาจัดการเอง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เมื่อไหร่ขิงจะกลับมาอ่ะ สงสารน้องขมิ้น คุณแม่ใจร้ายกับน้องขมิ้นอีกแล้ววว.... :mew6:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราไม่ลืมกลอยหรอกคิดถึงจะตาย  แต่อันที่จริงไฮท์น่าจะบอกขมิ้นนะว่าอย่ายุ่งกับกลอยเพราะมีปีศาจ(ผัว)คอยคุม o18 o18 o18

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ขิงเหมือนคนที่ไปยุ่งกับคนมีอำนาจ เลยต้องเงียบหายไปอะ แต่แบบนี้ไม่ดีเลยวะ แนะนำให้ขมิ้นต่อต้านได้แล้ว งานพวกนี้มันไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับขมิ้นซักหน่อย ในเมื่อท้ายสุด ชื่อที่ขึ้นอยู่บนจอแก้วหรือโปสเตอร์ ก็คือชื่อขิง ขมิ้นเหมือนคนไม่มีตัวตนสำหรับคนพวกนั้นอะ และการที่แม่ทำแบบนั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่เพื่อทนให้ตัวเองเจ็บปวดเลยอะ เอาตามตรงนะ กลับไปหาพ่อเถอะ ให้คนพวกนั้นเขาแก้สถานการณ์กันเองเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเรา แม่ก็แม่เหอะวะ ไม่ได้เลี้ยงดูมา ไม่เคยมาดูแล มีแต่กดขี่ด้วยความเป็นแม่ ทุเรศวะ #อินเนอร์มา

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โมเม้นน้องพี่นี่น่ารักจริง :o8: :-[ สงสารขมิ้นทำไมแม่ถึงทำแบบนี้อะไม่เข้าใจถึงคุณจะไม่ได้เลี้ยงขมิ้นมาแต่ขมิ้นก็เป็นลูกคุณอีกคนเหมือนกันนะ ตอนนี้ไม่ชอบแม่ขมิ้นเลย แต่อดีตของขิงนี่แรดจัง5555555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 นี่ชอบมากใช่ไหมไฮท์ เลยต้องรุนแรงกับน้องตลอด

สงสารขมิ้นนะ อยากให้หมดความอดทนสักที
คิดถึงปุยเมฆจริงหรอ ไม่ได้คิดถึงเจ้าของบ้านเนาะ

นานๆ ที จะมีคนชมกลอยให้ได้รู้ ว่าน่ารัก แก้มป่อง
ความเกรียนไม่เคยขาด ไม่แปลกใจทำไมคุยกับทองรู้เรื่อง 5555

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด