Shadows ที่ 47 ปีกสีขาวที่หวนคืน เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ผมพาซินมาอยู่ที่นี่ ผมถามซินว่าทำไมซินถึงได้มาเป็นครูพี่เลี้ยงที่เนอสเซอรี่แห่งนั้น แต่ว่าแม้แต่ซินเอง ก็ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจน ตัวเขานั้น ไม่มีความทรงจำอะไรเลย เขาจำได้เพียงแค่ ตัวเองชื่อซิน
เขาตื่นขึ้นที่บ้านหลังนั้น และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไรต่อไป เขาจึงได้พบกับสถานที่ที่มีเด็กๆ และตัดสินใจเริ่มทำงานที่นั่น โดยความช่วยเหลือของผู้ใหญ่ที่อยู่ในละแวกนั้น
เมื่อได้ฟังเรื่องราวของซิน ผมก็ยิ่งแน่ใจว่า ซินได้ถูกทำให้ลืมเลือนทุกอย่างเหมือนกับผม และปล่อยเขา ให้ใช้ชีวิตในแบบมนุษย์ทั่วไป
ไม่มีอำนาจ สามารถเจ็บได้ มีอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างเหมือนกับพวกเรา พี่เบลล์เองก็ไม่สามารถแก้ไขได้ พี่เขาบอกแค่เพียงว่า ซินกำลังชดใช้โทษของเขา เป็นสิ่งที่ซินได้รับเพราะการทำผิดมาตลอดเมื่อครั้งที่ถูกสาปให้เป็นซาตาน
ผมอาบน้ำให้ซิน พวกเราอาบน้ำด้วยกันในอ่างใบใหญ่ ผมมองดูร่างกายของซินที่ขาวสะอาด ไม่มีร่องรอยของคำสาปใดๆ อีกแล้ว ผมจำได้ดี ซินเคยมีรอยสักอยู่ที่คอและมือ แต่ว่าตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นหลักฐานได้อย่างดีว่า ซินไม่ได้ถูกสาปอีกแล้ว
ผมทั้งดีใจ ทั้งสงสารซิน การที่ต้องใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ทั่วไป สำหรับคนที่เป็นเหมือนดั่งเทพ บางทีมันอาจจะยากลำบากก็ได้ แต่ว่า ผมจะคอยอยู่ข้างๆ เขา ไม่ให้เขาต้องโดดเดี่ยว ในโลกที่ไม่คุ้นเคยนี้
"มองจนน้ำจะเดือดแล้ว" ซินพูดแบบนี้ ก่อนจะมุดน้ำจนมองเห็นแค่เพียงดวงตาเท่านั้น
ผมหน้าขึ้นสีระเรื่อ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ยังคงไม่อาจละสายตาจากซินไปได้
ซินที่เสียความทรงจำไปนั้น เหมือนกับความคิด อารมณ์และความรู้สึกของเขาเป็นเด็กลงไปมาก แต่ว่า ก็แค่บางเวลาเท่านั้นแหละนะ เพราะว่ามีหลายครั้ง ที่อยู่ดีๆ ซินก็กลายเป็นเสือตัวใหญ่
"เดี๋ยวซิน จับตรงไหนน่ะ" ซินมุดน้ำแต่ว่ามือนั้นก็ไม่อยู่สุขเลย ผมหัวเราะและจับมือปลาหมึกของซินไว้ จะเสียงดังมากไปก็ไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้ พวกเราอยู่กันที่บ้านของผม
"เดี๋ยวก่อนซิน" ผมตีซินที่ดึงตัวผมเข้าไปและสวมกอดจากด้านหลัง ผมหน้าขึ้นสีแดงอย่างชัดเจน หัวใจเต้นแรงอยู่ในอก
ซินกอดผมและหลับตาลง แนบแก้มเนียนลงที่ข้างแก้มของผม ให้พวกเราทั้งสองใกล้ชิดกัน ผมกอดแขนซินเอาไว้ หลับตาลงด้วยรอยยิ้ม
ช่วงเวลาที่พวกเราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ ได้ใช้ชีวิตอย่างปกติด้วยกัน มันเป็นเหมือนภาพที่ผมฝันมาตลอดชีวิต
"ผมรักซิน" ผมพูดเบาๆ และจุมพิตเบาๆ ลงที่แก้มขาวนั้น มองซินที่ค่อยๆ ลืมตา ซินใช้มือเกลี่ยเบาๆ ที่แก้มของผม ไล่ลงมาที่ริมฝีปาก
"ถ้าจำได้แล้ว พวกเราจะยังเหมือนเดิมอยู่ไหม จะทำให้เจ็บปวดอีกหรือเปล่า" คำถามของซินแฝงไปด้วยความหม่นหมองในแววตา ราวกับมีความกลัวอยู่ในหัวใจของเขา
ผมยิ้มและพลิกตัวขึ้นมากอดซินเอาไว้ พวกเรานอนกอดกันอยู่ในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ผมแนบร่างกายกอดก่ายคนที่ผมรัก ลูบแขนซินเบาๆ อย่างปลอบประโลม
"ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดอีกมากมายแค่ไหน ผมก็จะไม่มีวัน ให้พวกเราต้องพรากจากกันอีก"
"สัญญาได้ไหม" ผมยิ้มให้กับคำขอของซิน ผมยกนิ้วก้อยขึ้นมาและเกี่ยวกับนิ้วก้อยของซินไว้แน่น
"สัญญา ด้วยทุกสิ่งที่ผมมี"
จุมพิตที่อ่อนโยน แนบสนิทและแสนเนิ่นนาน ความอบอุ่น ความรัก ความรู้สึกที่พวกเรามีให้กัน เป็นเหมือนพันธนาการ ยึดเหนี่ยวพวกเราไว้ ไม่ให้พรากจากกัน
8 เดือนผ่านไป เป็นเวลาแปดเดือนมาแล้ว ที่พวกเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ซินเหมือนกับกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพวกเรา
ซินย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันกับผม ช่วยงานร้านกาแฟที่ผมสร้าง กิจการร้านของพวกเราขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเฝ้ามองซินที่ตั้งใจทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะอบขนม ชงกาแฟ และต้อนรับลูกค้า ผมไม่เคยหุบยิ้มลงได้เลย ทุกวันที่มีซินอยู่ด้วยนั้น ทำให้ผมมีความสุขจนเต็มล้นหัวใจ
ผมไม่เคย เล่าให้ซินฟัง ว่าก่อนหน้านี้ ชีวิตของเขาเป็นเช่นไร และซินนั้นก็ไม่เคยถาม ผมรู้สึกว่าภายในจิตใจลึกๆ ของเขา มีความกลัวเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ว่ามันอาจเป็นความทรงจำที่ทำให้สองเราต้องเจ็บปวด เขาเลือก ที่จะลืมสิ่งที่เลวร้ายเหล่านั้น
แต่ทว่า มีอยู่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เขาอยากรู้
เขาอยากรู้...ว่าก่อนที่เขาจะลืมทุกสิ่งไปนั้น
เขา...รักผมมากแค่ไหน
"เกือบจะปีนึงแล้วนะ ถ้ามีลูกได้ป่านนี้คงวิ่งกันให้พล่านแล้วมั้ง"
"เดี๋ยวเถอะ พอเลยนะพี่เบลล์ คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่นะ"
เสียงหัวเราะท่ามกลางงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผม ตอนนี้ ผมอายุครบยี่สิบห้าปีแล้ว แต่ทุกสิ่งก็ยังคงเหมือนเดิม ยังคงมีความรัก ให้กับคนคนเดิม
"เรื่องเด็กๆ น่ะเอาไว้ทีหลัง จะจัดงานแต่งเมื่อไหร่ดี เอาอันนี้ก่อน" นี่เป็นคำพูดของคุณแม่ ที่ทำผมเขินจนหน้าแดง มองซินที่ยิ้มมุมปากเล็กๆ เหลือบมองผมอยู่เช่นกัน
"ต้องแบบนี้ค่ะคุณแม่ จะข้ามขั้นได้ยังไง" ฟ่างได้ทีก็ช่วยเสริม น่าตีจริงๆ เพื่อนคนนี้
"รู้สึกจะข้ามขั้นไปไกลแล้วสิไม่ว่า"
"พี่เบลล์" ผมส่งเสียงดุพี่เบลล์ด้วยใบหน้าที่แดงจัดยิ่งกว่า "ไม่เอาล่ะ ไม่อยู่ตรงนี้ดีกว่า เดี๋ยวไปเอาขนมเพิ่มให้นะ" ผมบอกทุกคนและลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้าน งานเลี้ยงเล็กๆ ของพวกเราจัดขึ้นในสวน โดยมีเพียงสมาชิกในครอบครัวและคนสนิทเท่านั้นที่ได้รับเชิญ
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกสงสารมาก พี่ตะวันยังคงดีกับผมมาก ถึงแม้จะรู้ว่าผมได้เจอคนที่คิดถึงแล้ว
ผมเดินเข้ามาในครัวและรินผสมน้ำหวานลงในเหยือกใสใบใหญ่
"ทำอะไร" การที่อยู่ๆ ก็ถูกจู่โจมเข้าที่ด้านหลัง ทำให้ผมตกใจและแทบเผลอทำเหยือกตกแตก
ผมหันไปหาซินที่เดินตามมาเงียบๆ ในความมืด และตีแขนไปทีสองทีด้วยความเคืองเล็กๆ
"ทำไมไม่ส่งเสียงแต่แรกล่ะซิน ผมตกใจนะ"
"ขวัญอ่อน" ซินกอดผมจากด้านหลังและเริ่มมองผมผสมน้ำหวานต่อ
"อื้อ ขอโทษนะที่ขวัญอ่อน" ผมพูดแบบงอนๆ แต่ก็อมยิ้ม ซินที่เห็นแบบนั้นก็หอมแก้มผม ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
"แบบนี้แหละดีแล้ว" ผมหันไปเลิกคิ้วเล็กๆ
"ทำไมถึงดีล่ะ"
"ไวท์ที่ไม่กลัวอะไร ก็ไม่น่าแกล้งน่ะสิ" ผมพ่นลมหายใจเบาๆ
"ซิน คนใจร้าย" ผมแกล้งพูดและมองซินที่มีสีหน้าหม่นลงไปเล็กๆ "ซิน ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่า..."
"สุขสันต์ วันเกิดนะ" ผมมองซินที่ได้โอกาส ก็ผูกข้อมือเส้นหนึ่งที่ข้อมือของผม
ผมมองข้อมือเส้นนั้น ด้วยแววตาที่สั่นระริก หัวใจพองโตไปด้วยความสุข นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ผมได้รับจากซิน
จากซิน...คนที่ผมรักที่สุดในหัวใจ
"ไม่รู้ว่า จะชอบไหม...."
แทนคำตอบนั้น ผมกอดซินไว้แน่น ซบหน้าลงที่อ้อมอกอันแสนอบอุ่น นี่เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับผมมาก ซินนั้นมีค่ากับชีวิตของผมมากเหลือเกิน
"ขอโทษนะ ที่ไม่มีวันพิเศษ ให้ไวท์ได้ฉลอง" ผมยิ้มทั้งน้ำตา และโน้มจับใบหน้าของซินให้เข้ามาใกล้
"ทุกๆ วันที่มีซินอยู่ คือวันพิเศษสำหรับผม อยู่ด้วยกัน ตลอดไปนะซิน" ผมกอดซินไว้อีกครั้ง ให้ความรักของผม ส่งไปถึงคนตรงหน้าให้มากที่สุด
"อยากจำให้ได้ ว่าเคยรักไวท์มากแค่ไหน ยังจะมากกว่าตอนนี้ได้ไหม" ซินพูดเบาๆ และก้มลงหอมที่หน้าผากของผม
นี่เป็นคำบอกรักจากซิน ผมดีใจมาก มากจนไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ พวกเรากุมมือกัน กอดและจูบกัน แสดงออกทุกอย่าง ให้รู้ว่าพวกเรารักกันมากแค่ไหน
ผมอยากบอกเขา ว่ามันไม่สำคัญเลย ว่าซินคนไหนที่รักผมมากกว่ากัน ไม่สำคัญ เท่าพวกเราอยู่ด้วยกันตรงนี้
หลังจากอยู่ในครัวกันนานเกินไป ผมก็พาซินกลับไปที่สวนของบ้าน ที่ที่ทุกคนกำลังรออยู่ ผมนั่งอยู่ข้างๆ ซิน จับมือซินเอาไว้ มองดูผู้คนที่ผมรัก กำลังพูดคุยและเล่นกันอย่างสนุกสนาน
ในช่วงดึกนั้น พวกเราซื้อพลุและไฟเย็นมาเล่นกัน ผมพาน้องๆ ของผมมานั่งที่ใต้ต้นไม้ และจุดไฟเย็น ส่งมันให้เด็กๆ ได้ถือเล่น
ผมมองคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังอิงซบกันมองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้า มองดูพี่เบลล์ที่แอบจุดไฟเย็นด้วยพลังตัวเอง มองดูฟ่างที่ชี้ให้ข้าวหอมมองดูพลุสีสวยอันใหญ่ที่กำลังพุ่งขึ้นฟ้า
ผมมีความสุข มองดูเหล่าไฟสีสวยที่แตกกระจายบนท้องฟ้าและเลือนหายไป เหลือแต่เพียงหมู่ดวงดาว ที่ส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับอยู่บนนั้น
ผมเงยหน้ามองดู ดวงดาวดวงหนึ่งที่กำลังส่องแสงแรงกล้าที่สุด มันสวยงามและผมอยากจะได้ดูมันกับคนที่ผมรัก และตอนนี้ ผมก็มีโอกาสนั้นแล้ว
ผมละสายตาจากหมู่ดวงดาว และมองไปที่ด้านหลัง ที่ที่คิดว่าคนที่ผมรักจะยืนอยู่ตรงนั้น...
แต่ว่ามันก็ไม่เป็นเช่นนั้น
ซิน...หายไป
หัวใจของผมราวกับมีหลุมที่ลึกและสูบทุกอย่างให้หายไป ความสุข รอยยิ้ม ทุกสิ่งเหมือนกำลังแตกสลาย
ผมเริ่มน้ำตาไหล ลนลาน และออกวิ่งตามหา ผมมองหาทุกที่ที่คิดว่าซินน่าจะอยู่ วิ่งลัดเลาะไปตามต้นไม้ วิ่งออกจากสวน ไปที่ตัวบ้าน
ผมเริ่มตัวสั่น ความทรงจำเลวร้ายทุกอย่างไหลเข้ามาในหัวใจจนผมแทบสำลัก
ผมขาดซินไม่ได้ พวกเราไม่เคยออกห่างจากกัน อย่าไป อย่าหายไปไหนอีก หัวใจผมมันรับไม่ไหวอีกแล้วหากต้องเสียซินไป
ผมเริ่มร้องไห้มากขึ้น และตามหาคนที่เป็นเหมือนดั่งชีวิตและลมหายใจของผม
เพล้ง!
เสียงแก้วที่แตกกระจาย ดังมาจากด้านบน ผมรีบเปลี่ยนเป้าหมายและวิ่งอย่างสุดแรงไปตามเสียงนั้น ผมวิ่งขึ้นบันไดทีละสามขั้น และวิ่งไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของผมที่เปิดกว้างเอาไว้
แสงสว่างที่สว่างจนผมไม่อาจลืมตาขึ้นได้ถนัด กำลังปะทุระเบิดออก ผมยกแขนขึ้น ปกป้องดวงตาที่มองเห็นแต่แสงจ้า หรี่ตามองดูสิ่งสิ่งหนึ่ง ที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ
ขนนกสีขาวที่ขาวบริสุทธิ์ กำลังเปล่งแสงแรงกล้า และตรงหน้าขนนกนั้น คนที่กำลังลอยอยู่ในห้วงแห่งพลังนั่น...
ผมน้ำตาไหลโล่งใจทรุดลงกับพื้น มองดูขนนกที่ส่องแสงสว่างไสว ค่อยๆ แตกออกเหมือนกับหิ่งห้อยนับล้าน
ผมมองดูมันค่อยๆ ลอยอยู่ในอากาศและรวมตัวกันลอยเข้าสู่ร่างกายของผู้เป็นนายของมัน
และจากนาทีนั้น ปีกสีขาวที่สว่างยิ่งกว่าแสงตะวัน กางออกแผ่ขยายไปในอากาศ เงามืดที่เคยปกคลุมคนคนนี้ ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ทูตสวรรค์ที่สง่างามที่สุด ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ซินหันมองผมด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เท้าของซินค่อยๆ แตะลงที่พื้นอย่างแผ่วเบาดุจขนนกที่ลอยสู่พื้น
ผมมองซินที่แววตาของเขา กลับไปเป็นเหมือนดั่งวันวาน วันวานที่พวกเราได้พบ ได้ต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างด้วยกัน และรู้ว่ารักกันหมดหัวใจ
"ไวท์" ซินโผเข้าหาผมและกอดเอาไว้แน่นจนพวกเราล่องลอยไปด้วยกัน โอบกอดกันด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ
"จำได้แล้ว ว่ารักมากแค่ไหน"
ผมร้องไห้ด้วยความดีใจกับคำพูดนั้น
ซิน...ได้กลับมาแล้ว
และพวกเรา จะไม่พรากจากกันอีกแล้ว...
THE END