จะจบแล้ววววว
-------------------------------------------------------------------------------------------
Pui’s Part
“นี่ตกลงว่าปุยผิดเหรอเฮียบวก? ปุยผิดเหรอที่รักพี่กรีนและก็ไม่อยากให้ใครที่ไหนมายุ่ง ปุยผิดใช่มั้ย?!!”
ผมจิกทึ้งหมอนในมืออย่างระบายอารมณ์โดยที่มีเฮียบวกนั่งอยู่ข้างๆ พี่บวกชวนผมมาที่บ้านแหละ บ้านพี่บวกนะไม่ใช่บ้านเฮียผิง สองคนนี้ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ=___= แต่ประเด็นก็คือ....ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว!!
พอทะเลาะกันยังไม่ทันจะจบดีพี่กรีนก็เดินหนี ผมเลยประชดขับรถมาที่นี่แม่งเลย ตอนแรกก็ไม่ได้กะมาที่นี่หรอก แต่บังเอิญตอนนั้นเฮียบวกโทรมาพอดีผมเลยได้ที่หลบซ่อนซะงั้น-_- พี่กรีนก็โทรมานะ แต่แน่นอนว่าผมไม่มีทางรับแน่ กร๊าซซซ!!!!
ถ้าถามว่าผมเสียใจมั้ย มันก็แค่ตอนนั้นแหละ แต่หลังจากนั้นสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกคือโกรธ โกรธมาก โกรธที่สุด! โกรธที่พี่กรีนพูดอย่างนั้น โกรธที่พี่กรีนเข้าข้างแพร โอเค ผมมันแพ้แล้วพาล ผมยอมรับผมมันชั่ว แต่พี่กรีนจะลองคิดหน่อยได้มั้ยว่าทำไมผมอย่างนั้นลงไปถ้าไม่ใช่เพราะว่าผมรัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่ารักมาก มากจนเสียให้ใครไปไม่ได้....
ถ้าไม่รัก...ผมจะทำอย่างนั้นทำไม?
“ปุยไม่ผิดหรอก ใครจะอยากโดนแย่งแฟน..”เฮียบวกพูดเรื่อยๆทำให้ผมเสริมทันที
“ใช่มั้ยล่ะ...?”
“แต่ปุยก็ต้องลองคิดในแง่ของกรีนด้วยนะ”
“....ฮะ?”
ดวงตาสีฟ้ามองตรงมายังผม ขณะที่ผมยังคงงง แง่ของพี่กรีน?อะไร?...
“เฮียบวก....?”
“ก็แง่ของกรีนไง ปุยลองคิดดูสิว่าถ้าปุยเป็นกรีน ปุยจะรู้สึกยังไงถ้าแฟนของปุยมาทำอย่างนี้”
“ที่แน่ๆปุยคงไม่พูดอย่างพี่กรีน.....”
“ปุยไม่รู้เหรอว่าที่กรีนทำไม่ใช่เพราะห่วงแพรนะ.....แต่เพราะห่วงปุยต่างหาก”
เหมือนมีสายฟ้าฟาดลงโครมใหญ่ทันทีที่จบประโยคของเฮียบวก ผมมองคนตรงหน้าอย่างนิ่งอึ้ง หมายความว่าไง? เพราะห่วงผมเนี่ยนะถึงพูดแบบนั้น?!...
เพราะห่วงผมเนี่ยนะ?!!!
“อย่ามาขำเหอะเฮีย....”
ผมหัวเราะฝืดเฝื่อนแต่เฮียบวกกลับทำหน้าจริงจัง
“เฮียไม่ได้เล่นมุกซักหน่อย เพราะห่วงน่ะแหละถึงทำอย่างนั้น ฟังนะปุย ปุยไม่ผิดก็จริงแต่ถ้าคนนอกที่เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรมารู้เรื่องก็ต้องคิดว่าปุยผิดอยู่แล้ว กรีนเขาห่วงปุยนะ รู้มั้ยว่าทำอย่างนี้ถ้าแพรรู้เขาไปแจ้งความได้ข้อหาหมิ่นประมาท เอาเรื่องของเขาไปประจานทำให้เสียชื่อเสียง กรีนคงรู้....ลึกๆกรีนไม่ได้โกรธปุยหรอก.....”
“........”
“กรีนน่ะแค่สงสารแพร แต่กรีนรักปุย ไม่ใช่แพร”
Green’s Part
“ไอ้ควาย!!!! มึงไปพูดอย่างนั้นทำไมวะ?!!!”
ไอ้พีทแทบจะตบหัวผมคว่ำเมื่อได้ฟังการทะเลาะกันของผมกับปุยเมื่อคืน มันรุนแรงมากผมรู้ แถมอยู่ๆปุยก็ขับรถออกไปจากบ้าน โทรไปก็ไม่รับอีก ผมต่อสายถึงเฮียผิงทั้งคืนถึงพึ่งรู้ว่าปุยไปอยู่บ้านบวก และที่แน่ๆ...ไม่ยอมกลับง่ายๆแน่
ที่ผมพูดอย่างนั้นไป ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าปุยเลยนะ แต่ตอนนั้นผมแค่ห่วงปุย แล้วเรื่องมันก็รุมเร้าทั้งวันจนไม่รู้จะคิดยังไงต่อ ถ้าปุยโดนจับได้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะ!!!
แต่ไม่ว่ายังไง.....วิธีที่ผมพูดมันก็คงแรงไปหน่อย....
“ก็กุเครียดนี่หว่า มึงลองคิดดูดิ ถ้าจู่ๆแฟนมึงก็ไปมีส่วนในการประจานผู้หญิงคนนึงเฉย แถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นพยาบาลที่อยู่แผนกเดียวกันกับมึงอีก มึงจะเครียดมั้ย!”
“เครียดแค่ไหนกุก็ไม่พูดอย่างนั้นหรอกไอ้โง่!!! เป็นหมอซะเปล่ามึงไม่คิดบ้างเลยเหรอไงวะว่าปุยจะรู้สึกยังไง สัส รอดน้ำท่วมมาได้เสือกมาทะเลาะกันเรื่องโง่ๆอีก”ไอ้พีทบ่นขณะที่ผมถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผมจะมีหน้าไปง้อปุยเหรอไงเนี่ยยยย โว้ยยยย!!!
“กุไม่ได้ตั้งใจ.....”
ผมบ่นพึมพำย้ำกับตัวเองและย้ำกับคนตรงหน้า ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ….
“ปุยคงเชื่อมึงหรอก”
ไอ้พีทว่าขณะเกาที่บริเวณต้นคอ ผมจึงดึงมือมันออกทันทีตามประสาหมอที่ดี
“คันเชี่ยไรวะ? ให้กุดูให้ป่ะ?”
“คันหูมั้งสาสสสส!! มึงไม่ต้องยุ่งหรอก-_-”
มันปัดมือผมออกอีกที ทำอย่างนี้ผมก็ยิ่งอยากรู้สิครับ=___= คันอะไรวะ?!
“ไอ้พีท มาให้กุดูเลยมึง”
ผมลุกขึ้นจากหลังโต๊ะแล้วเดินไปหาคนที่นั่งอีกฝั่ง ขณะนี้พวกเราอยู่ในห้องทำงานของผมดังนั้นพวกพยาบาลก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าห้ามกวน ไอ้พีทขยับจะหนีทันทีที่เห็นผมเดินไป
“เฮ้ยยยย กุไม่เป็นไร!!”
“ไม่เป็นไรก็ให้กุดูหน่อยดิ!! มึงมีความลับกับเพื่อนเหรอไง?”
ผมจะคว้าคอเสื้อมันไว้แต่ไอ้เพื่อนเวรกลับหลบไปอีกทางผมเลยคว้าเสื้อกาวน์ไว้ ไปๆมาๆก็ลงไปกองที่พื้นทั้งคู่ ไอ้พีทโวยวายขณะที่ผมชักจะบ้ากับการกระชากเสื้อดูรอยของมันสุดๆ เป็นคุณคุณจะคาใจมั้ยล่ะถ้าอยากรู้แล้วไม่ได้รู้น่ะ!
“ไอ้สัส ให้กุดูตั้งแต่แรกก็จบ”
ในที่สุดผมก็ขึ้นคร่อมมันสำเร็จ รู้สึกเหมือนได้รางวัลโนเบล5555 ผมจับแขนทั้งสองข้างมันไว้ก่อนจะก้มลงดูรอยแดงๆที่ซอกคอคนตรงหน้าโดยที่เจ้าตัวได้แต่ทำหน้าบึ้ง
“เชี่ยไรของมึงเนี่ยกรีน อกหักแล้วมาแกล้งกุเหรอไง?!”
“อกหักพ่อมึงสิ! แค่รอยยุงกัดนี่หว่า.....”
“ก็ใช่ไง.....”
ครืด....!
“....พี่กรีน....”
เสียงเลื่อนประตูดังขึ้นพร้อมเสียงที่กระตุกให้ใจผมหายวาบไปที่พื้น ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นก็พบเจ้าของใบหน้าน่ารักที่ผมรักนักรักหนามองมาทางผม ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ชิบหายแล้ว....
ปุย!!!
“ปุย.....”
“ทำไมพี่กรีนทำแบบนี้?!! เบื่อปุยแล้วใช่มั้ยถึงต้องมาหาพี่พีทน่ะ!!!”
ผมยังไม่ทันจะแก้ไขความเข้าใจปุยก็สะบัดหน้าแล้วก้าวขาออกไปทันทีทำให้ผมรีบลุกแล้วตามออกไป โว้ยย แม่ง สภาพผมกับไอ้พีทก็ส่อจริงๆน่ะแหละ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ!!
ผมวิ่งตามออกมาก็พบว่าปุยเดินจนแทบจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ผมคว้าแขนเรียวนั่นไว้ทันที ไม่สนแล้วว่าใครจะมองยังไง
“ปุย! ฟังพี่ก่อนนะ นะปุย”
“ฟังอะไร? ที่พี่ว่าปุยเมื่อวานเพราะปุยรักคนอื่นแล้วใช่มั้ย?! พี่กรีนทำอย่างนี้กับปุยได้ไง?!”
ปุยแทบจะร้องไห้แต่เห็นได้ชัดว่าคงโกรธมากกว่า ไม่จริงนะ....มันไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย!
“ปุย พี่ขอโทษ เรื่องเมื่อวานพี่ไม่ได้ตั้งใจ เมื่อกี๊มันก็ไม่ใช่อย่างที่ปุยคิดนะ ฟังพี่เถอะนะปุย”
ผมขอร้องจนแทบจะเป็นวิงวอน ปุยหลบสายตาผมก่อนจะค่อยๆบิดแขนออกจากการเกาะกุม วินาทีนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายลงไปตรงนั้น....
“เราค่อยคุยกันทีหลังเถอะนะพี่กรีน”
โดนคนอ่านตบ
:beat:มันใกล้จะจบแล้วแน่เหรอออออ