ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose  (อ่าน 310526 ครั้ง)

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อิอิ  ต่อเลยน้า  หวานป่าวหว่า   :oni1:

+++++++++++++++++++++++++++++++++

เกียรติยศ กบฏหัวใจ 9 confession / คำสารภาพ

http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2BADA40PB0&Autoplay=1

เพราะไม่อาจพูดถึงสิ่งที่อยู่ในใจลึกๆได้ เลยมีแต่ความเจ็บปวด มอง...ได้แต่เฝ้ามอง หวั่นใจอยู่ลึกๆ กลัวที่จะสูญเสีย โอบกอดไว้ในวงแขน แนบแก้มเย็นเฉียบเข้ากับอก หัวใจที่เริ่มชืดชาเต้นแผ่ว ดวงตาสีน้ำตาลลืมขึ้น ภานุจึงค่อยๆนำวงแขนบางสอดรอบเอว
 
“ยังเช้าอยู่ จะนอนต่ออีกหน่อยก็ได้”
 
สายตาของคุณหมอเหลือบมองอกไปนอกหน้าต่าง  ท้องฟ้าสีแดงบอกว่าเป็นเวลาใกล้รุ่งสาง ต้นธาราถอนใจน้อยๆรู้สึกปวดเมื่อยอ่อนล้าไปทั่วกาย ภายในลำคอยิ่งแห้งผาก ภานุได้ยินเสียงงึมงำเบาๆจึงคลายวงแขนที่กกกอด เดินไปรินน้ำส่งให้ ต้นธารารับมาดื่มอย่างง่ายดาย มองใบหน้าขรึมอยู่ชั่วครู่ใหญ่ ภานุรอรับแก้วเปล่า คุณหมอพรูลมหายใจ เช็ดใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอย่างไรดีกับคนตรงหน้า รอให้อีกฝ่ายพูดก็ยังไม่ยอมเอ่ยเสียที ต่างเงียบงันราวกับมีบางอย่างปิดปากไว้
 
“ทำไมถึงมาที่นี่อีกล่ะ”
 
ในที่สุดต้นธาราก็เป็นฝ่ายตัดสินใจทำลายความเงียบ ร้อยเอกหนุ่มกลับเดินไปหยุดตรงหน้าต่าง หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบพ่นควันกระจาย ต้นธารารอคำตอบด้วยความอดทนอยู่บนเตียง
 
“อยากจะรู้เหตุผลรึ”
 
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ดวงตาสีน้ำตาลหรุบต่ำ
 
“ถ้าไม่อยากรู้เหตุผลก็คงไม่ถามหรอก”ตอบเสียงแข็ง นึกไม่ชอบใจกับนิสัยของผู้กองปากร้าย
 
 ภานุขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ เข้ามาใกล้ใบหน้าซีด ต้นธาราสบตาคู่นั้นตรงๆ อยากรู้นักว่าตัวเขาเองผิดอะไร ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ ยังนึกฝันกับความรู้สึกดีๆที่มอบให้กันและกัน พอตื่นขึ้นมามันเหลือแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นหรือ ภานุค่อยๆยื่นมือโอบอุ้มดวงหน้าที่ซ่อนรอยเจ็บช้ำ สายตาที่สื่ออกมา ราวกับจะต่อว่าต่อขาน ในใจของคุณหมอธารมีคำถามมากมาย อยากรู้เหลือเกินว่าต้องเจ็บช้ำ ต้องทุกข์ทรมานไปอีกเมื่อไร ยิ่งทำยิ่งรู้สึกไร้ค่า....พอเรียกหาก็รีบโผล่สู่อ้อมกอด พอถูกทอดทิ้งได้แต่หลบมุมนั่งเสียใจอยู่เงียบๆ อยากหลุดพ้นจากวังวน
 
“ทางของเรามันจบลงแล้วหรือ”
 
มองคนที่ครั้งหนึ่งเคยก้าวออกจากชีวิตของเขา คนที่คอยตอกย้ำความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน ภานุบีบมือบางเอาไว้ จุมพิตที่ทำให้ใจเจียนคลั่ง
 
“ผมขอโทษ”
 
คำพูดของภานุช่างอ่อนเบา ต้นธาราได้ยินก็นึกว่าตังเองนั่นหูฝาดเฝื่อนไปเสียแล้ว กระพริบตาถี่ๆ ภานุหน้าแดง
 
“มันอาจจะสายไปที่มาพูดเอาป่านนี้ ผมขอโทษกับทุกๆสิ่งทุกอย่างที่ทำให้คุณเจ็บปวด”
 
ต้นธารายิ้ม...รอยยิ้มนั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่น่ายินดีสักนิด
 
“ขอโทษ...น่าแปลกนะที่พูดออกมาได้ เพราะอะไรครับผู้กอง”
 
ต้นธาราไม่ค่อยเข้าใจนัก อยากรู้เหลือเกินว่าเหตุผลใดถึงทำให้ภานุซึ่งชิงชังเขากล่าวแบบนี้ ได้แต่คิดเอาเองฝ่ายเดียวว่าเป็นเพราะความสงสาร ผู้กองหนุ่มจึงเอ่ยรึเปล่า หาเหตุผลร้อยแปดมาไขข้อข้องใจ ต้นธาราทำหน้านิ่งฟังคำตอบออกจากปากของชายตรงหน้า
 
“ผมรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมทำร้ายคุณไว้มากเหลือเกิน เเค่คำขอโทษในตอนนี้มันไม่พอชดใช้กับสิ่งที่ผมทำ เเต่ก่อนที่เราจะจากลากัน ผมอยากบอกคำๆหนึ่งซึ่งมันอาจจะช้าไป...ผมอยากบอกคุณว่า...ผมรักคุณ”
 
 คุณหมอหนุ่มชักมือออก หัวเราะขันๆแต่แฝงความปวดร้าว
 
“อยากล้อเล่นรึไงครับ คุณสะใจใช่ไหมที่ทำแบบนี้”
 
คำว่ารักที่เอ่ยออกมากลายเป็นคมมีดซึ่งตัดให้ความรู้สึกขาดกระจุย
 
“ผมเจ็บยังไม่พออีกหรือ กลายเป็นคนโง่ให้คุณว่ายังไม่พออีกหรือ”หลับตาลง สิ่งที่อดกลั้นมานานค่อยๆพังทลายลงทีละน้อย ....ทำไมถึงมาพูดตอนนี้...มาพูดในตอนที่เขาคิดว่าเขาจะตัดใจ
 
“จะเอาจากผมอีก?”ต้นธาราถาม  ภานุลุกขึ้นทรุดนั่งข้างกายของคนที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ
 
“ผมไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากคุณเลย ผมรักคุณนะธาร”ภานุเรียกชื่อคุณหมอหนุ่ม กรีดน้ำตาออกจากใบหน้าให้อย่างอ่อนโยน “ที่ผ่านมา ระหว่างเราสองคนมันอาจจะมีเเต่ความผิดพลาด ผมเกลียดคุณตั้งเเต่เเรกก็จริง แต่ตอนนี้ผมรักคุณ เราสองคนมาเริ่มต้นเดินไปด้วยกันใหม่เถอะนะธาร”ชายหนุ่มเน้นย้ำ
 
 ต้นธารายังไม่อยากปักใจเชื่อว่าที่ชายหนุ่มพูดมาคือความรู้สึกที่เเท้จริง ภานุอาจจะเเค่สงสารที่เขาเหลือเวลาในชีวิตอีกไม่นานนัก ตัวเขาเองก็ยังไล่ตามความรักลมๆแล้งๆ
 
“จะให้เชื่อได้ยังไง วันนี้คุณพูดว่ารักได้แล้ววันพรุ่งนี้ล่ะจะคิดแบบนี้หรือเปล่า ความเกลียดชังมันไม่อาจเปลี่ยนเป็นคำว่ารักได้หรอก”
 
ผู้กองมีสีหน้าสลดทันใด แม้ต้นธาราจะเสียใจแต่เป็นการป้องกันตัวเองเอาไว้  สำหรับตัวเขาเองจะก้าวออกจากชีวิตของคนๆนี้เสียที คนมีมองเขา มีค่าเท่ากับก้อนหินกลวงๆ ไร้ประโยชน์....นายทหารหนุ่มกลืนน้ำลายยิ่งพูดเท่ากับว่าตัวเองนั้นเป็นฝ่ายที่ต้องเจ็บ
 
“ทุกครั้งผมจะเฝ้าถามตัวเองว่า เพราะอะไรความรู้สึกที่มีต่อคุณมันถึงเปลี่ยนไป เมื่อก่อนผมยอมรับว่าผมชิงชังคุณ ทว่าผมยิ่งเกลียดมากเท่าไร ผมก็ยิ่งคิดถึงมากเท่านั้น พยายามคิดไปว่ามันเป็นเพราะความชิงชังที่สั่งสมเอาไว้ในใจ จนมาถึงบัดนี้ผมถึงได้รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกัน”
 
 คุณหมอนั่งเงียบๆ  อยากจะด่าให้สาสมกับความเจ็บช้ำที่ได้รับ  คำสารภาพที่ได้ฟังตอนนี้ มันเป็นความรักที่ต้องฟังด้วยน้ำตาและความเจ็บช้ำ ทั้งๆที่เริ่มทำใจได้ ทั้งๆที่ไม่อยากรื้อฟื้น เขาจึงสร้างกำเเพงขึ้นมาต่อต้านชายหนุ่ม
 
“พอที!ผมไม่อยากรับฟังเหตุผลของคุณอีกแล้ว คุณไม่มีอะไรให้ผมเชื่อถือได้เลย”
 
ภานุพยายามกลั้นอารมณ์หงุดหงิด ใจจริงอยากจับบ่าของร่างที่นั่งบนเตียงเขย่าๆให้เชื่อฟังเสียด้วยซ้ำ เขายอมทุกอย่างแล้ว ทำไมถึงไม่เชื่อกันอีกนะ อยากตะโกนถาม สุดท้ายได้แต่ปิดปากนิ่งเงียบ ใบหน้าคมสันบูดบึ้ง
 
“ผมไม่ได้อยากแกล้งหรือทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไหมการที่ผมมาพบกับคุณอีกครั้งผมดีใจ ตื้นเต้น ทำตัวไม่ถูกแต่พอมาเจอคุณกับพันเอกชานเนนแล้วผมหึง ที่จริงผมจะใช้การพบกันครั้งนี้เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายแล้วผมจะหนีหน้าไปอยู่เงียบๆแต่แล้วผมก็ทำไม่ได้”  ใบหน้าเอาแต่ใจตัวเองอ่อนลง เหลือเพียงความซึมเศร้า
 
 “ถึงจะพูดไป ค่ามันก็เท่าเดิม เราไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้อีกแล้ว คุณทำกับผมมามากจนเกินพอแล้ว”
 
ไม่อาจเปลี่ยน...คำๆนั้นสลักอยู่ในใจของภานุ
 
“แล้วความรู้สึกเมื่อคืนล่ะ”
 
แสงสว่างค่อยๆเรืองจับขอบฟ้า เป็นแสงอรุโณทัยแรกดูสดใสยิ่งนัก ต้นธาราแตะดวงหน้าของตัวเอง เรื่องเมื่อคืนยิ่งกว่าความฝัน การที่ได้อยู่ในอ้อมกอดคนที่เคยรัก มีสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งทำให้หวั่นไหว
 
“มัน...”ต้นธาราพูดไม่ออก ภานุทรุดนั่งจับมือทั้งสองกุมไว้แน่น แนบริมฝีปากอุ่นๆประทับหลังมือ มองดูผิวสีเข้มกับใบหน้าดุดัน
 
“ผม....รัก...คุณ”ชายหนุ่มพูดย้ำราวกับจะให้คำพูดนี้ตอกย้ำลงกลางใจของต้นธารา
 
------------------------------------------------
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2008 15:56:42 โดย มูมู่น้อย »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เมื่อไม่อาจเรียกวันเวลาเก่าๆกลับคืนได้ ต่างก็พยายามรักษาระดับของความไว้เนื้อเชื่อใจ บางทีชายหนุ่มอาจจะบังคับอีกฝ่ายมากเกินไปก็ได้ กิ่งไผ่จึงเงียบงัน เอาแต่เก็บปากเก็บคำไม่ยอมพูดจาใดๆ ธีรเดชอึดอัดกับท่าทีเฉยเมย
 
“เส้นทางนี้จะเชื่อมถึงเขตแดนประเทศไทยได้”ร่างโปร่งหันมาบอกทางเป็นครั้งคราว
 
 ธีรเดชผงกหัวก่อนจะก้าวตามร่างที่เอาแต่เดินจ้ำ
 
“อีกกี่วัน”
 
ขนาดธีรเดชคิดว่าตัวเองฝึกภาคสนามมาดีแล้วยังเกิดอาการเหนื่อยหอบเมื่อก้าวผ่านเนินเตี้ยๆ เท้าย้ำเศษใบไม้แห้งกรอบแกรบ
 
“ไม่ต้องห่วงชาตินี้ถึงแน่ๆ”
 
คำตอบยียวนกวนประสาท ฝ่ายนายทหารหนุ่มเก็บปากเก็บคำ รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหัวเสีย
 
“คำขอของผมมันทำให้คุณรำคาญนักใช่ไหม”อดไม่ได้ที่จะโพลงถาม  “ต่อให้คุณบอกว่าถูกฝึกหนักขนาดไหน คุณก็น่าจะพักบ้าง ร่างกายของคุณแย่แล้วรู้ไหม ถึงจะบอกว่าพิษไข้ลดลงแล้วก็เถอะ”
 
กิ่งไผ่หันมา ดวงตาคู่นั้นฉายแววรำคาญ
 
“ต่อให้ผมตายอยู่ตรงนี้ ผมก็ไม่หยุด อย่ามาทำเหมือนผมสะบัดสะบิ้ง อ่อนแอจะได้ไหม?”กิ่งไผ่โต้กลับ ไม่มีแม้แต่อาการหอบให้ธีรเดชเห็น แต่ความเป็นจริงเเล้วร่างโปร่งปวดหัวและเจ็บร้าวไปทั่วแผ่นหลัง
 
“ผมไม่เคยเห็นใครดื้อด้านแบบนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ”
 
ธีรเดชอดหัวเสียตามไม่ได้ ห่วงไปก็ไร้ประโยชน์ เขาควรปล่อยคนดื้อให้ตายอยู่ตรงนี้ดีไหมนะ อดคิดอย่างหงุดหงิดไม่ได้ ก่อนจะเดินนำไปก่อน กิ่งไผ่มอง รู้อยู่เต็มอกว่าโกรธแต่เขาเองก็ไม่ใช่คนง้อใครเสียด้วยสิ
 
“อยากจะตายก็เชิญ!”เพราะความหงุดหงิด ธีรเดชจึงพูดแรง พร้อมกับเดินหายลับไปในพุ่มไม้ข้างหน้า
 
ร่างโปร่งนิ่งงันทบทวนกับการกระทำของตัวเอง รู้ขีดจำกัดของตัวเองดีว่าไปได้ขนาดไหน แต่ยิ่งเก็บงำความเจ็บปวดเอาไว้ ความรู้สึกสะกดกลั้นเหล่านั้นค่อยๆทำร้ายกายอย่างช้าๆ กิ่งไผ่ค่อยๆทรุดลง มือเเตะต้นขา พร้อมกับบีบนวด นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะรู้สึกปวดเมื่อย เขายืดตัวขึ้นโดยเร็วเมื่อชายหนุ่มย้อนกลับมา
 
“ดื้อด้าน”ธีรเดชว่า
 
 ร่างโปร่งเดินไปสบทบ ฝ่ายธีรเดชนั้นทำหน้าเรียบเฉย
 
“จะหยุดพักหน่อยไหม ตรงหน้า มีลำธารพอดี”
 
ดวงหน้าละมุนผงกรับ เพราะเริ่มเกินขีดความสามารถในการอดทนของตนเองแล้ว นายทหารหนุ่มสังเกตอยู่แล้วว่าร่างโปร่งเริ่มทนไม่ไหว แต่ชายหนุ่มไม่พยายามช่วยร่างที่เดินช้าลงๆ
 
 ธีรเดชหยุดอยู่ตรงโขดหินริมน้ำ เหลียวมองคนที่เดินตามหลัง ที่ลากเท้าเดินตามมาช้าๆ ร่างโปร่งทรุดนั่งด้วยความเหนื่อยเเละปวดขาเหมือนตะคริวกิน  กิ่งไผ่อดมองใบหน้าของนายทหารหนุ่มไม่ได้จะดูรอยเยาะหยันต่อความอวดดีของเขา ทว่าไม่มีอะไรสื่อออกมาจากสายตาคู่นั้นเลย
 
“คุณคงปวดขามากสินะ ทั้งแบกของหนักทั้งเดินทางไกล ยื่นขาออกมาสิ”
 
กิ่งไผ่ไม่ยอมทำตามคำบอก หดขานั่งขัดสมาธิอยู่แบบนั้น ข่มความเจ็บปวด คนที่มีความอดทนน้อยต่อทิฐิของร่างโปร่งเป็นฝ่ายดึงขาออกมาเอง พร้อมกับลงมือบีบนวดต้นขา เพื่อคลายกล้ามเนื้อและให้เลือดหมุนเวียน สีหน้าของผู้ถูกนวดผ่อนคลาย รู้สึกคลายความเจ็บ กล้ามเนื้อทุกมัดสัมผัสด้วยมือหนาอย่างอ่อนโยน
 
“หันหลังมาสิ จะนวดให้”
 
กิ่งไผ่เผลอทำตาม เพราะรู้สึกปวดทั่วกาย การเดินทางแสนไกลและแบกสัมภาระหนักๆส่งผลถึงกล้ามเนื้อหลังช้ำและกล้ามเนื้ออักเสบ
 
“เป็นไงล่ะ ผมบอกเเต่เเรกแล้วไม่ยอมฟัง”
 
มือหนาสัมผัสแต่ละครั้งประดุจมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆไหลเวียน  รู้สึกลมหายใจผ่านริมหู ยิ่งหลับตาพริ้ม ธีรเดชอดอมยิ้มไม่ได้ที่เห็นท่าทีผ่อนคลาย ชายหนุ่มค่อยๆจับร่างของกิ่งไผ่เอนนอนทับท่อนขาของตัวเอง กิ่งไผ่รู้สึกตัวก็สะดุ้ง ขืนตัวเอาไว้
 
“อย่า...แล้วคุณล่ะไม่เมื่อยบ้างรึ”กิ่งไผ่ถามอย่างตกใจ ธีรเดชหัวเราะร่วน
 
“ไม่หรอก ผมมันพวกเหล็กไหล...ห่วงตัวคุณเองเถอะ ยังไม่หายป่วยแล้วยังทำเป็นเก่งอีก ”
 
รั้งบ่าบางเอาไว้เอนทับตัวเอง แสงแดดอ่อนลอดผ่านกิ่งไม้ สายลมอ่อนๆพัดโชย บรรยากาศชวนให้รู้สึกสบายใจ ทั้งๆที่อยู่ในวงล้อมของศัตรู
 
“มัวชักช้าอยู่แบบนี้ ถ้าพวกมันตามรอยเจอจะทำไง?”
 
กิ่งไผ่ขืนตัวเองเอาไว้สุดฤทธิ์ เเต่ธีรเดชก็ไม่ปล่อยร่างโปร่งง่ายๆ
 
“เราพักกันไม่กี่นาทีหรอกน่า อีกอย่างถ้ามีใครตามมาก็น่าจะตามเรานานแล้ว” ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่อนาทรร้อนใจ
 
“คุณรู้จักพวกมันน้อยไป มันจะมากันโต้งๆให้เห็นรึไง”เอ่ยอย่างหงุดหงิด
 
“ถ้ามาจริงๆตอนนี้ ผมก็ไม่เสียใจหรอก...ตายด้วยกันดีออก ไม่เหงาด้วยตอนไปเมืองผี”
 
ธีรเดชก้มมองเสี้ยวหน้างามต้องแสงแดด เส้นผมยาวสลวยถูกมุ่นไว้เริ่มยุ่งเหยิง หลุดจากมวย บางปอยระใบหน้า  ดวงตาที่มีขนตายาวเป็นเเพกระพริบถี่ๆ ริมฝีปากสีเเดงขบเเน่นด้วยความหงุดหงิดต่อความขี้เล่นไม่เลือกเวลาของชายหนุ่ม นายทหารหนุ่มรู้สึกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะเมื่อเผลอมองใบหน้าที่เหมือนผู้หญิง
 
“ไม่เข้าใจคุณจริงๆ ให้ตายสิ”กิ่งไผ่มองอย่างระอากับการกระทำของอีกฝ่าย
 
“ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ”ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มอบอุ่น อีกฝ่ายจึงปิดเปลือกตาราวกับไม่อยากคุยต่อ
 
“อยากฟังเพลงไหม?”ชายหนุ่มถาม กิ่งไผ่เพียงลืมตาครึ่งหนึ่ง เเสดงความสงสัย
 
“เพลง?”ร่างโปร่งย้อนถามอย่างงุนงง
 
“เป็นเพลงที่ซึ้งมากนะ...แต่เพลงนี้นานมาแล้วสมัยพ่อผมยังเป็นหนุ่มนู่น เกี่ยวกับความรักของหญิงไทยกับหนุ่มชาวพม่า....”ธีรเดชเกริ่น มองใบหน้าที่งงงวยด้วยรอยยิ้ม
 
“เรื่องอะไร”กิ่งไผ่ถามขึ้นอย่างสงสัย หนุ่มไทยยิ้มนิดๆเพราะคนที่นิ่งเงียบเริ่มสนใจและยอมพูดคุยด้วยโดยดีแล้ว
 
“เลือดสุพรรณน่ะ”ชายหนุ่มบอก กิ่งไผ่ทำหน้าสงสัย ธีรเดชจึงร้องเพลงให้ฟัง
 
“ดวงจันทร์งามพักตร์พิศเพียงพระจันทร์
 อย่ามาแกล้งยอฉัน ฉันเป็นดวงจันทร์ที่ถูกเมฆบัง
เมื่อเมฆขยาย จันทร์จะฉายท้องฟ้า
แต่ไม่ลอยลงมา พี่ก็ไม่มีหวัง
 จะหวังอะไร ที่ในตัวฉัน
พี่รักดวงจันทร์ อยู่เจียมจะคลั่ง
ห่วงการข้างหน้า พะว้าพะวัง
 แล้วยังห่วงหลัง อยู่ทางเมืองโน้น
 ดวงจันทร์ งามพักตร์พิศเพียงพระจันทร์
 อย่ามาแกล้งยอฉัน ฉันเป็นดวงจันทร์ที่ถูกเมฆบัง
 เมื่อเมฆขยาย จันทร์จะฉายท้องฟ้า
 แต่ไม่ลอยลงมา พี่ก็ได้แต่ฝัน
 จะฝันอะไร ในตัวคนยาก
พี่ฝันจะฝาก ชีพไว้สุพรรณ
 พอเสร็จการทัพ คงกลับเขตขัณฑ์
จะมาหาดวงจันทร์ ไม่ไปอื่นเลย....”


กิ่งไผ่ยิ้มกับเนื้อเพลง แม้ไม่เข้าใจในเนื้อเพลงทั้งหมดก็ตาม จากอารมณ์หงุดหงิดเริ่มผ่อนคลาย ผู้กองธีรเดชทำหน้าเขินๆก่อนจะขอความเห็น
 
“เพราะดี...เพิ่งเคยมีคนร้องให้ฟังแบบนี้เป็นครั้งแรก...ทุกครั้งมีเเต่คนเกรงผมตลอดเวลา”
 
สายตาสีดำทอดมองอย่างอ่อนโยน“อย่างน้อยๆตอนนี้คุณก็ไม่ได้ตัวคนเดียว”
 
คำปลอบใจของคนๆนี้ ซึมลงไปหัวใจจนรู้สึกอบอุ่น.... จนกิ่งไผ่คิดว่าหากได้รับมากเกินไปตัวเองไม่อาจจะตัดใจได้...คิดกับใจที่เริ่มเอนเอียง...และหลงใหลกับความใจดี ทั้งๆที่อีกฝ่ายนั้นไม่คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ ร่างโปร่งตกใจกับความคิดของตัวเองยิ่งนัก
 
------------------------------------------------
 

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
หวานแบบเศร้าๆ ก็ยังดีที่ผู้กองยังมาบอกรัก นึกว่าจะไม่พูด  o7

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
บอกไปแล้ว   :a2:  ผิดคาดแฮะ  คุณหมอไม่ดีใจเลยหรอ

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ในที่สุดผู้กองปากหนักก็สารภาพรักจนได้ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

(จริงๆอ่านตอนนี้จากบอร์ดอื่นไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร อ่านใหม่ก็ยังกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดได้อยู่  :m4: )

pupper

  • บุคคลทั่วไป
พูดซะที รอตั้งนาน ยังไม่ได้อ่านเลยตอนใหม่ แต่ขอจิ้มก่อน เหอะๆๆๆ

pupper

  • บุคคลทั่วไป
รักกัน แต่เค้าอุปสรรคก่อตัวอีกแล้ว คนแต่งใจร้ายนัก เหอะๆๆ

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้หวานนนนแล้วนะคะ ผู้กองปากหนักสารภาพรักแล้วด้วย (หลังจากพิศาลมานานแสนนานจนคนอ่านคงอยากฆ่าคนเขียน :jul1:)

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย สองตอนนี้จะตายเอาได้น่ะเนี่ย

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ฝากจิ้มทะลุไปหาคนแต่งจ้า


เข้ามากด +1 ให้น้า

จ๊วบบบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณมากคร้าบที่แวะมาเป็นกำลังใจให้  :L2:

Mr.TaiKi

  • บุคคลทั่วไป
 :a2: :a2: :a2: :a2:
เยส เยส เยส เยส
ในที่สุด คนปากแข็งก้อพูดซักที  ลุ้นตั้งน้าน นาน  :man1:
แต่ตอนเน้ก้อรอพิสูจให้คุณหมอ เชื่อใจ   :oni1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:a2: :a2: :a2: :a2:
เยส เยส เยส เยส
ในที่สุด คนปากแข็งก้อพูดซักที  ลุ้นตั้งน้าน นาน  :man1:
แต่ตอนเน้ก้อรอพิสูจให้คุณหมอ เชื่อใจ   :oni1:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับเห็นด้วยอย่างยิ่ง

แต่ทำไมพี่หมอไม่เชื่อละครับ

แต่อาจเป็นเพราะพี่หมอไม่เคยคาดคิดมาก่อน อิอิ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

benxine

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
555 ในที่สุดผู้กองปากแข็งก็สารภาพ  มาอ่านต่อดีกว่าว่าจะหวานกันรึเปล่า  :oni1:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=

เกียรติยศ  กบฏหัวใจ 10 Confession/ คำสารภาพ [Part2]
 
การที่นิ่งสงบมันอาจจะเป็นวิธีที่ดี สำหรับเรื่องในตอนนี้ เพราะความรักที่กลั่นออกมาจากใจทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว คำพูดนี้มันสะกิดบาดเเผลที่ฝังลึกในใจ มันช่างนานเหลือเกินที่จมจ่ออยู่กับมัน  เนิ่นนานนักที่ใจสองดวงจะคล้องเป็นหนึ่งเดียว ตลอดมาความทุกข์ทำให้ใจเจียนมลาย รอสักครั้งที่จะได้ลิ้มรสความหวาน หากท้ายที่สุดแล้วได้แต่ความขมขื่น ยากนักที่จะเชื่อว่าสองใจถักทอร้อยเรียงจนเป็นหนึ่งเดียว  วงแขนใหญ่โอบกอดแนบแน่น ต้นธารากอดแขนคู่นั้นไว้แน่น ในหัวใจอยากจะเชื่อที่ผู้กองปากร้ายเอ่ยบอกรัก
 
“เรารักกันได้จริงๆหรือ”คำถามของคุณหมอร่างบอบบางทำให้วงแขนแกร่งยิ่งกอดร่างผอมแน่น
 
“ได้สิ...ที่ผ่านมาผมมัวแต่โง่งม ทำตัวเป็นไอ้บ้า ทำร้ายคุณตลอดมา ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าคุณเป็นลำธารที่ไหลเย็น เป็นลำธารที่ทำให้ใจผมชุ่มชื่ม ”ชายหนุ่มกล่าว
 
ต้นธารายกมือขึ้นกอดภานุอย่ากล้าๆกลัวๆ....ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือความจริง
 
 “กอดผมตามที่คุณต้องการเถอะ”
 
ต้นธารากอดแน่น ซุกหน้ากับอกหนา ร้องไห้จนแผ่นอกชุ่มหยาดน้ำตา
 
“ผมอยากให้คุณรู้อยู่เสมอว่าผมรักคุณ แต่คุณก็มองผมเป็นเพียงเศษฝุ่นละออง รักมากแค่ไหน มันก็ไม่เคยได้กลับคืน....รู้อะไรไหม ผมตามหาคุณเพราะเป็นความรักของผม.....”
 
คุณหมอค่อยๆสารภาพด้วยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย ภานุรับฟังน้ำเสียงขาดห้วง
 
“ครั้งแรกที่ผมพบหน้าเขา  ตอนนั้นเขาคนนั้นเดินสวนสนามท่ามกลางไอแดด ใบหน้าเข้มแข็งขึงขัง น้ำเสียงเฉียบขาดตะโกนออกคำสั่ง ผมมองตามดวงตาดุดัน มันติดอยู่ในใจจนไม่อาจลืมเลือน ผมคิดเอาเองฝ่ายเดียวว่าตัวเองคงบ้า ทำไมถึงคิดถึงคนที่ผมไม่รู้จักและเพิ่งได้พบหน้าเพียงครู่เดียว ยิ่งพยายามลืม ใจของผมก็ยิ่งโหยหาแต่เขา...ผมรู้ว่ามันบ้า...บ้าที่สุดที่รู้สึกเช่นนี้แต่ยิ่งรู้ใจตัวเองมากเท่าไร ก็ยิ่งตามหาเขาเพราะไม่อาจตัดใจได้ จนกระทั่งผมได้พบเขา...สุดท้ายแล้วระหว่างเขากับผมก็มีแต่ความเสียใจ ผมอยากจะบอกรักเขา แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะสารภาพ ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ในอก เฝ้าคิดเฝ้าฝันอยู่ฝ่ายเดียวว่าเมื่อไรที่ผมกับเขาจะได้เดินไปด้วยกัน ความหวังมันก็รางเลือนลงทุกที...ทุกที มือคู่นี้คงเอื้อมไม่ถึงอีกแล้ว”
 
“ทำไมผมถึง...”ชายหนุ่มกล่าวเบาๆเมื่อร่างบางเงียบไป
 
“ก็ผมไม่มีค่าพอควรแก่การจดจำหรอก...ภานุ รู้ไหมว่าชื่อของคุณมันอยู่ในใจของผมเสมอมา”
 
ดวงตาคู่งามหลับตาลงนึกถึงความหลังในวันที่ฟ้าสดใส คนที่ถูกกล่าวถึงนิ่งอึ้ง เพิ่งรู้ว่ามีใครบางคนรอให้เขาเหลียวมอง หัวใจของคนๆนั้นเรียกร้องถึงเขา ทุกข์อยู่คนเดียว เฝ้าฝันอยู่ตามลำพัง  ไม่อาจสรรหาคำใดมาบอกกล่าวได้นอกจากแรงกอดที่แน่นขึ้น...แน่นขึ้น
 
“ธาร...”
 
ต้นธาราเงยหน้าขึ้นเพราะชายหนุ่มเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นครั้งแรก มันชื่นฉ่ำหัวใจเหลือเกิน ดั่งสายฝนประพรมกลีบดอกไม้แรกผลิ วาบหวาม ซาบซ่านจนเต็มเปี่ยมหัวใจที่บอบช้ำ
 
“ต่อจากนี้ไปเราเริ่มกันใหม่ได้ไหม นับหนึ่งแล้วเดินไปพร้อมๆกัน”
 
ริมฝีปากหนาเเละเอาเเต่ใจประทับรอยจุมพิตหน้าผากมน มือหนารั้งร่างบางแนบชิดแอบอิงไออุ่น ยอมทุกอย่างเพื่อหยุดเวลาที่แสนมีค่านี้ไว้...ความเข้าใจผิด เเละความชิงชังที่มีมาเนิ่นนาน ทลายลงไปจนไม่เหลือแม้เเต่เศษซาก.... หัวใจที่หยิ่งทระนงมีร่างอยู่ในวงแขนเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์
 
“แล้ว...เรื่องของผู้พันชานเนล่ะ?”
 
ความกังวลใจใหม่ถาโถมเข้ามาในอกที่พองฟูราวกับลูกโป่ง หวาดกลัวว่าความรักที่ได้ครอบครองนั่นจะสูญสลาย ต้นธารายกมือปิดปากผู้กองหนุ่มเอาไว้
 
“อย่าพูดถึงเขาเลย...ในเมื่อผมรักคุณแล้ว ใจของผมคงไม่อาจรับใครเอาไว้ได้อีก”ถอนใจน้อยๆค่อยๆซึมซับไออุ่นที่ถ่ายทอดมาให้
 
“ผู้พันเป็นคนดี...เป็นคนที่อยู่เคียงข้างตอนที่ผมล้มลง”
 
คุณหมอเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปพักใหญ่ ภานุยิ่งกอดคนรักแน่น
 
“ทว่าผมก็ไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งๆที่เขาน่าจะทำให้ผมสบายใจได้แท้ๆ ทำไมนะคนที่ทำให้ผมเจ็บปวดกลับทำให้ผมรัก ผมรู้สึกสมเพชเมื่ออยู่กับเขาแล้วผมนึกถึงคุณอยู่ตลอดเวลา ใจหนึ่งอยากจะเลิก แต่คุณก็ก้าวเข้ามา ยิ่งเป็นการบีบผมให้ทรมานกับความรักที่ห่างไกลเกินฝัน”

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ท้องฟ้าเริ่มจ้าแสง แต่คนทั้งสองยังไม่ลุกจากเตียง ค่อยๆเล่าค่อยๆเผยความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้มาเนิ่นนาน  เล่าความรู้สึกที่แต่ละฝ่ายได้ประสบ แล้วผล่อยหลับไปพร้อมๆกัน ใต้ผ้าห่มผืนหนา ใต้ห้องอันแสนอบอุ่น เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเบาๆปล่อยสายลมเย็นยะเยือกให้สองกายแนบชิด ตื่นขึ้นมาก็เพราะรู้สึกกลัวพอมองเห็นเสี้ยวหน้าแกร่งยังหลับสนิทก็เบาใจลงที่ตัวเองไม่ได้อยู่ตามลำพัง ยิ่งเบียดกายแนบชิดก็ยิ่งถูกกกอดแน่น  และยามเย็นก็มาเยือน เปิดเปลือกตาแสนหนักอึ้ง มองเห็นร่างสูงถือถาดอาหารเข้ามาในห้องนอน ควันร้อนฉุยของกาแฟลอยกรุ่นหายไปกับอากาศ
 
“ทานข้าวเช้า เที่ยงแล้วก็เย็นไหม?”
 
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขบขัน ต้นธาราหัวเราะเบาๆที่เห็นชายหนุ่มชูถ้วยกาแฟขึ้น
 
“ผมลุกไม่ไหว”ต้นธาราว่า
 
 ภานุประคองต้นธาราขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงก่อนผู้กองหนุ่มจะถือถาดอาหารกับกาแฟนั่งข้างเตียง ยื่นให้อย่างเอาใจ
 
“ผมกินไม่ได้หรอก” ต้นธารากุมศีรษะ ทั่วทั้งห้องโคลงเคลง รู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมาทันที....ร่างบางรู้ว่าอาการป่วยกำลังกำเริบขึ้นอีกครั้ง ภานุรีบวางถ้วยกาแฟลง เข้าไปดูอาการคนรักอย่างเป็นห่วง
 
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก ไม่เป็นไร”
 
ต้นธาราพยายามฝืนยิ้ม  ศีรษะพิงไหล่ของชายหนุ่ม ภานุโอบเอวบางเอาไว้
 
“ผม...ผมกลัวเสียคุณไป”ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงสั่นๆ
 
 ต้นธาราปิดเปลือกตาเอ่ยตอบเบาๆพร้อมกับบีบมือกร้านแน่น
 
“ผมไม่ตายง่ายๆหรอกน่า อย่างแช่งผมสิ”
 
ร่างโปร่งหัวเราะน้อยๆเพื่อไม่ให้ภานุสบายใจ เงยหน้าขึ้นเรือนผมถูไถกับอกแน่นเต็มไปด้วยมัดกล้าม
 
“หิวแล้ว...มีอะไรกินบ้าง”
 
 ภานุยกจานอาหารขึ้นมา ซึ่งเป็นข้าวผัดทะเล ค่อยๆป้อนเข้าปากแห้งผาก ต้นธารากินน้อยเหลือเกิน แต่ก็พยายามฝืนกิน
 
“พอแล้ว พอแล้ว”
 
มือสั่นระริกโบกปฏิเสธ ภานุวางช้อนลงมองข้าวเหลือครึ่งจาน รินน้ำเปล่าจรดริมฝีปาก ต้นธาราดื่มอย่างกระหาย
 
“แล้วคุณไม่ทานหรือครับผู้กอง?”
 
ดวงตาคู่งามมองหาจานข้าว ภานุชี้มาทางกาแฟถ้วยเดียวพร้อมกับข้าวที่เหลือ
 
“แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับผม ธารนอนก่อนเถอะ”
 
ค่อยๆประคองร่างโปร่งนอนลงบนเตียงนุ่มๆ ต้นธารามองแผ่นหลังแกร่ง
 
...คงใช้เงินไปไม่น้อยสินะกับค่าห้องสุดหรู...
 
คิดแล้วก็สะท้อนใจเพราะร้อยเอกภานุเป็นข้าราชการจนๆได้เงินเดือนไปเท่าไรแต่ก็ยอมจ่ายยอมเสียเพื่อให้ได้อยู่กับเขา ต้นธารากำหมอนแน่น น้ำตาไหลแต่ต้องรีบเช็ดออกโดยเร็ว เขาอยากช่วยแต่ตัวเองช่างไร้ความสามารถเหลือเกินมาเป็นโรคร้ายอีก ลำบากทั้งพ่อ ลำบากทั้งคนรอบกาย กลัวว่าตัวเองจะตายโดยไม่ได้ตอบแทนคุณพ่อ เพราะตัวเองก็ทำให้พ่อเสียใจมามากแล้ว หยาดน้ำตาซึมหายกลายเป็นวงกว้าง....ขอเเค่เวลา!
 
 ภานุนั่งทานข้าวที่ต้นธาราทานเหลือรู้สึกฝืดคอ....รู้เช่นกันว่าตอนนี้มันช้าไปแล้ว...เวลาของพวกเขามันเหลือเเค่เพียงน้อยนิด....ภานุนึกโกรธตัวเองเพราะช่วยอะไรคนรักไม่ได้เลยสักอย่าง.... ถ้ารู้ถ้าเข้าใจกันได้เร็วกว่านี้คงได้เป็นแรงใจให้ กำช้อนแน่น น้ำตาไหลพรากทั้งๆที่ยังกินข้าวอยู่ ชายหนุ่มพยายามกินข้าวอย่างเงียบงัน วางช้อนลงเมื่อไม่อาจกลืนไหว  ล้างหน้าล้างตา มองดูเงาของตัวเอง หันกายเข้าไปในห้อง ทรุดนั่งกำมือแน่นก่อนจะคลายออก วางมือลงบนศีรษะลูบผมนุ่มมือ
 
“ธาร...หลับเเล้วเหรอครับ?”
 
ชายหนุ่มถามเสียงแผ่ว ต้นธาราไม่ไหวติง ลมหายใจสม่ำเสมอ ภานุเห็นว่าหลับแล้วจึงออกมานั่งนอกห้องทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเงียบๆ
 
 
ตกดึกภานุติดต่อไปทางโรงแรมว่าต้องการพักต่ออีกสองคืน พอติดต่อเสร็จก็กลับมานั่งถอนใจ วางแผนจะพาต้นธาราเที่ยวอยู่ในใจก่อนจะส่งตัวกลับ ชายหนุ่มเคาะโต๊ะ เสียงต้นธาราร้องเรียกหาเบาๆจึงลุกขึ้น
 
“มีอะไรครับ”ชายหนุ่มทรุดนั่งถามเสียงนุ่ม ต้นธารายกแขนกอดคอทำหน้าโล่งอก
 
“ผมนึกว่าคุณออกไปไหนแล้วซะอีก” คุณหมอว่า ภานุหัวเราะขันในลำคอ รับอ้อมแขนบางอย่างเต็มใจ
 
“ผมจะไปไหนได้ครับธาร ผมอยู่ที่นี่ตลอดแหละครับ”
 
ต้นธารายิ่งออดอ้อนมากเท่าไร ชายหนุ่มก็ยิ่งเอ็นดูและรักมากยิ่งขึ้น ยิ่งไม่อยากปล่อยมือ
 
“ไม่รู้สิ...ก็...มันกลัว”
 
ต้นธาราว่า ไม่ใช่ว่าตัวเองมารยาสาไถ แต่เพราะความกลัวฝังใจเพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างภานุและต้นธารามันไม่มั่นคงเลย...เมื่อได้เริ่มต้นก็อยากให้มันคงอยู่ตราบเท่าเวลาจะยื่นให้
 
“ไม่ต้องกลัวหรอก ผมจะไม่ไปไหน”
 
ภานุนั่งกอดต้นธาราจนหลับไปอีกครั้ง ชายหนุ่มนอนตาม อ้อนแขนบางกอดรัดกระหวัดแน่น
 
“ธาร...”
 
เขย่าตัวเบาๆต้นธาราครางอือ ลืมตางัวเงีย พอภานุลูบศีรษะเบาๆ ต้นธาราจึงฝืนลืมตา
 
“กวนอะไรหรือ”
 
ต้นธาราถามอย่างระโหย ภานุจูบข้างแก้ม ต้นธาราดันหน้าออก แก้มสากสัมผัสแก้มนวลจนจั๊กกะจี้
 
“พอเถอะ  อยากนอน”
 
คุณหมอว่า แต่ผู้กองหนุ่มไม่ยอม
 
“นอนมากแล้วจะนอนอีก เดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก”ภานุบอก คร่อมร่างบางเอาไว้ ต้นธาราอ่อนใจเสียจริง
 
“แล้วคุณไม่ง่วงหรือครับผู้กองภานุ”
 
ต้นธาราถาม จ้องมองดวงตาเปี่ยมสิเน่หาตรงๆ ดวงตาประสานดึงดูดซึ่งกันและกัน
 
“ผมง่วงผมก็พลาดสิ่งดีๆน่ะสิ”
 
มือหนาปัดเรือนผมปรกหน้าของร่างโปร่ง เอื้อมมือสุดแขนหรี่โคมไฟให้อ่อนแสง ต้นธารากอดคอชายหนุ่มเอาไว้  ภานุเเนบริมฝีปากจุมพิตร่างโปร่งเเผ่วเบาเหมือนผีเสื้อขยับปีก เเละค่อยๆจูบล้ำลึกจนอีกฝ่ายหายใจหอบกระชั้น...สายใยเเห่งรักหล่อหลอมทั้งคู่ให้เป็นหนึ่งเดียว  ร้อยเรียงความสุขเเสนหวานจนเหมือนกาลเวลาจะตรึงทั้งคู่เอาไว้แนบสนิทนิจนิรันดร์
 
------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2008 17:31:21 โดย มูมู่น้อย »

benxine

  • บุคคลทั่วไป
เห้อ....


กว่าจะลงเอยยย


แล้วจะมีอุปสรรคอะไรอีกไม๊

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม อิอิ

tsuya

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจเป็นที่สุด  มีกำลังใจอ่านหนังสือขึ้นมาเลย อิอิ :man1:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ในที่สุด  ก็เข้าใจกัน

 o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับ ในที่สุดก็รักกัน

สรภาพจนได้นะครับผู้กอง

ขอให้ความรักครั้งนี้สมหวัง

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

pupper

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 2 นี่หวานได้ใจจังนะครับ ความรักที่ไม่มีกำแพงอะไรขวางกั้นอีกต่อไป
แต่ก็ยังไม่ไว้ใจคนแต่งอะครับ ดีไม่ดีเดี๋ยวหักหลังคนอ่านให้เสียน้ำตาอีก
ไงก็ขอให้มันสดใสไปตลอดนะครับ อะไรก็ลงตัว ติดที่ว่าหากหมอธารกลับไปแล้วมันต้องมีปัญหาที่พ่อตาของผู้กองภาณุอีกแน่ๆเลย

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
หวานไหมคะ? หวานถูกใจใช่ไหม 55+ ฉลองหลังจากโศกมานาน พิศาลมาครึ่งเรื่อง หวานให้ชื่นใจกันหน่อยค่ะ :n1:



pseudoboy

  • บุคคลทั่วไป
ยังมีอีกคู่นะคะที่ยังไม่ happy 

อยากเห็นกิ่งไผ่ตอนหวาน ๆ มั่งอ่ะค่ะ

มาต่อเร็ว ๆ นะค้า... :bye2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ตอนนี้เอาคู่นี้ไปก่อนนะ  อีกไม่นานคู่น้องไผ่กับธีมาแน่  :oni1:
ขอบคุณที่เม้นต์น้า  คิดถึงๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เกียรติยศ กบฏหัวใจ 11 Confession/ คำสารภาพ [Part3]

แสงแดดส่องลอดม่านปลุกให้สองร่างที่นอนกอดตระกองตื่นจากการหลับใหล ต้นธารากุมหน้าผากเมื่อชันตัวขึ้น ภานุยังคงงัวเงียวงแขนหน้าที่พาดทับดอกตระกองถูกมือบางจับออกจากตัว ก่อนจะลุกขึ้นทั้งตัวเปลือยเปล่า ต้นธาราทรุดนั่งยังเก้าอี้ เท้าแทนลงบนโต๊ะไม้

“ธาร...”

ภานุงัวเงียตื่นขึ้นมาเห็นคนรักนั่งกุมขมับ ใบหน้าซีดเซียวเตรียมลุกขึ้นไปหาเพื่อดูอาการแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ ล้มตัวนอนมองร่างขาวจัด ใบหน้าเหม่อลอย ท้ายที่สุดต้นธาราก็ลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวคลุมกายเดินเข้าห้องน้ำ ภานุจึงลุกจากเตียงกุมมือตัวเองเอาไว้วางบนหน้าตัก ทบทวนเรื่องที่ผ่านมา....ว่าตัวเองเกือบกลายเป็นโง่ไปเสียแล้ว เกือบทำให้ดวงใจดวงสำคัญสูญหาย ยิ้มกับตัวเอง....กับความรักที่เริ่มต้นใหม่

ฝ่ายต้นธาราหลังจากที่ลากสังขารอันอ่อนล้าเข้าห้องน้ำได้ก็นั่งพิงผนัง ทรุดกองกับพื้นยกมือปิดปากตัวเองไว้แน่น เพราะรู้สึกอยากอาเจียน ต้นธาราพยุงตัวเองลุกขึ้นโก่งคออาเจียนจนหมดไส้หมดพุง หลังจากที่กดชักโครกชำระคราบสิ่งสกปรกก็ล้างปากด้วยมืออันสั่นเทา

...ระเบิดเวลาที่ฝังไว้กับตัวเอง เริ่มเดินต่อ นึกถึงยาที่ตัวเองไม่ได้ทานก็ปิดเปลือกตาลง มือบางแตะกระจก ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่ใช้ไป มันค่อยๆจางหาย กลัว...กลัวกับเวลาแห่งความเศร้าโศกมันจะเดินมาเร็วกว่าที่คิดไว้

ต้นธาราพยายามปัดความรู้สึกหวาดหวั่นออกจากใจ ก้าวลงอ่างอาบน้ำ...ทว่าความรู้สึกผิดที่ผู้กองนาคีตายเพราะตัวเองยังกินลึก ต้นธาราหลับตาลง รู้สึกอ่อนล้า เขาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งผู้กองนาคีตายไป.....ผู้กองใจดี คอยดูแลเขาเสมอ นึกถึงร่างใหญ่โตคล้ายกับภานุแต่ใจดี ยิ้มง่ายก็ยิ่งอยากให้ตัวเองเป็นฝ่ายที่ตายแทนเสีย วันนี้เขามีความสุขพอแล้ว....และความสุขที่เหลือก็จะเป็นของผู้กองนาคี ต้นธาราเอนศีรษะพิงขอบอ่างจนกระทั่งเผลอหลับไป ลำตัวไหลเลื่อนจมสู่ใต้น้ำอุ่นๆ

“ธาร....”

เสียงเรียกชื่อแผ่วๆ คุณหมอนิ่วหน้า ดวงตาค่อยๆเปิดขึ้น แสงจ้าสว่าง นี่เขาตายแล้วหรือ ทำไมมันช่างอบอุ่นนักล่ะ มือหนาตบแก้มของต้นธาราเบาๆ พยายามเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

“ธาร”

ใครกันนะที่เรียกชื่อของเขา เขม่นมองภาพรางเลือน มองเห็นผู้กองนาคียืนอยู่ข้างหลังร่างโต

“ผู้กอง...”

ต้นธาราเอ่ยเสียงแผ่วเบา พยายามยกมือหนักอึ้งไปหา หากผู้กองนาคียังนิ่งส่งยิ้มใจดีเหมือนเคยมาให้และสั่นหน้าคลายปฏิเสธ

“ธารคุณเป็นอะไร ตื่นขึ้นมาสิครับ ตื่นขึ้นมามองผม”

ภานุเขย่าบ่ามองร่างที่นอนราบอยู่บนพื้นห้องน้ำเย็นเฉียบ แววตาหวั่นใจยิ่งนัก

“ธาร”

ภานุที่เอะใจว่าเหตุใดจ้นธาราถึงเข้าห้องน้ำนานนัก พยายามเคาะเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับจึงเคาะแรงขึ้นแล้วตัดสินใจเปิดทันทีชายหนุ่มก็ต้องพบภาพน่าหวาดหวั่นเพราะร่างของต้นธาราจมอยู่ใต้น้ำ ดวงตาปิดสนิท เรือนผมลอยเป็นแพ ภานุตัวแข็งลืมหายใจไปชั่วขณะก่อนตั้งสติได้ รีบคว้าร่างของคนรักขึ้นจากน้ำ ตรวจดูชีพจรแล้วปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันทีเมื่อต้นธารายังเหลือลมหายใจอ่อนๆ ขณะเป่าปากไปพร้อมกับปั๊มหัวใจก็ร้องเรียกชื่อไปพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งริน

“คุณจะทิ้งผมไปแบบนี้หรือธาร”

ต้นธาราก็ไอแค่กๆพร้อมกับคลายน้ำในท้อง มือพยายามไขว่คว้าบางสิ่งบางอย่างจนภานุแปลกใจ

“ธารคุณหาใคร...คุณเรียกใครกัน”

ภานุประคองใบหน้าเล็กพร้อมกับตบเบาๆเป็นการเรียกสติ วงแขนหนากอดร่างต้นธารากระชับเมื่อได้ยินเสียงเรียกแผ่วๆ

“ผู้กองนาคี...”

ต้นธาราเรียกชื่อเพื่อนของเขา! ดวงตาเลื่อนลอยยังไม่คลายความเจ็บปวดและความผิดที่ทำให้นาคีตายสินะ

“ธาร...ไอ้นาคีมันไม่ได้โทษคุณหรอกนะที่ทำให้มันตาย ผมเองต่างหากที่บีบคั้นคุณเกินไป ธาร...ผมขอโทษที่ผมบีบคั้นคุณจนเกินไป”

แรงกอดกระชับแน่นมากยิ่งขึ้น เขาคงคิดอะไรง่ายเกินไป...จนไม่นึกถึงผลที่จะตามมาภายหลัง ต้นธาราหายใจสม่ำเสมอ ดวงตาพร่าเลือนแจ่มชัดจับจ้องยังผิวเข้ม

“เจ็บ....”

ชายหนุ่มกอดแรงจนเจ็บแทบหายใจไม่ออกนั้นทำให้คนถูกกอดร้องอุทธรณ์

“ผม...เมื่อกี้ผมใจหายหมดเลย”

ชายหนุ่มกล่าวเสียงสั่นเครือ ต้นธาราพยายามลุกขึ้นแต่ว่าก็ยังทรงตัวไม่ดีนักจนร่างใหญ่ต้องช่วยประคอง

“ผมเป็นอะไร”

ต้นธาราถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าราวกับจำไม่ได้ ภานุยังไม่ให้คำตอบ ลากเก้าอี้พร้อมกับหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่างบาง ต้นธารานอนนิ่ง เพราะยังไม่ทุเลาจากอาการวิงเวียน ภานุต้มน้ำร้อนรอจนเดือดยกมาให้คุณหมอดื่ม

“อย่าเพิ่งคุยเลย ดื่มน้ำอุ่นๆก่อนเถอะ”ภานุทรุดนั่งตรงกันข้าม กับร่างบาง

“ผมทำอะไรลงไปหรือ”น้ำเสียงแหบเครือแฝงรอยอ่อนล้า

ภานุจับมือบางมากุมไว้“คุณจมน้ำ หลับในหรือ”

ต้นธาราพยายามนึก เขาจำได้ว่าแช่อ่างอยู่ดีๆก็รู้สึกเหนื่อยจนอยากนอน ค่อยๆปิดตาลงจนไม่รู้สึกอะไรอีกเลยนอกจากรู้สึกตัวเบาสบาย พอรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บนพื้นห้องน้ำแล้ว

“อื้อ...”

ต้นธาราผงกหัวเพราะคิดอะไรไม่ออกเลยในตอนนี้ ภานุบีบมือเบาๆไม่เซ้าซี้อะไรมาก

“จะพักอีกรึเปล่า หรือคุณอยากจะกลับ?”

ต้นธาราเงยหน้ามองใบหน้าขรึม

“ภานุ...คุณจำสัญญาที่เคยบอกได้ไหม ก่อนที่คุณจะไปลาดตะเวน”

สายตาสีน้ำตาลมองใบหน้ากร้านแดน รออยู่เนิ่นนานก่อนผู้กองหนุ่มจะเอ่ยตอบ

“จำได้สิ....ผมสัญญาว่าจะพาคุณไปดูประเพณีขึ่มสึ ขิ่ทมี้ อาเผว่...”

ชายหนุ่มตอบ ต้นธาราผงกหัวเมื่อชายหนุ่มจำได้

“แล้วคุณยังจะรักษาสัญญาไหม”

ผู้กองหนุ่มนิ่งงันก่อนตอบรับไป

“ต้องทำสิ ในเมื่อผมสัญญากับคุณแล้ว แต่ว่ามันยังไม่ถึงวันที่จัดประเพณีนั่นเลยนี่”ภานุแย้ง น้ำเสียงห่วงใย

“สัญญาก็คือสัญญาไม่ใช่หรือ”ต้นธาราย้อนด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

ภานุมองหน้าต้นธาราก่อนเอ่ยถาม

“ทำไมถึงอยากไปนัก” ชายหนุ่มจ้องฟน้าต้นธาราตรงๆ... ตอนที่ต้นธาราจมน้ำ ชายหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุพอได้ยินคุณหมอเรียกชื่อเพื่อนสนิทก็แน่ใจว่าต้องเป็นการกระทำอัตวิบากกรรมตัวเองอย่างแน่นอน

“ก็ไปตามที่คุณสัญญาไว้ไง”ดวงตาไร้ซึ่งสิ่งเคลือบแฝงมองตรงๆ

“ธารแน่ใจหรือว่าคุณจะไปจริงๆ”ผู้กองหนุ่มตั้งต้นคำถาม

“แน่สิ ไหนๆคุณก็เป็นฝ่ายพาผมออกมาแล้วแท้ๆทำไมไม่ทำให้มันสุดๆไปเลยละ”

อีกฝ่ายตอบด้วยรอยยิ้ม ภานุจำต้องยอมแพ้ ยอมเก็บข้อสงสัยเอาไว้ในใจเงียบๆก่อน

“แล้วถ้าผมโดนพ่อคุณตามล่าเเน่”ภานุงึมงำ

ต้นธารายิ้มน้อยๆ“จะกลัวตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ คุณล้วงลูกเสือออกมาแล้วนี่ กล้าๆหน่อยสิ พาผมมาถึงที่นี่แล้วแท้ๆ”คุณหมอบอก

ภานุอ่อนอกอ่อนใจกับความกล้าได้กล้าเสียของต้นธาราเสียแล้ว นึกทึ่งที่ต้นธารารักเขาเสมอมา รัก....จนต้องตามหามาตลอด

“ครับๆ ผมล้วงลูกเสืออกมาแล้วผมจะปฏิบัติให้ได้ถึงที่สุดครับ”ภานุลุกขึ้น สั่งให้คุณหมอเตรียมตัวเช็กเอาท์ออกจากโรงแรม คุณหมอยิ้มมองดูแผ่นหลังของนายทหารหนุ่มก่อนจะฟุ่บหน้าลงบนโต๊ะอย่างอ่อนล้า รอยยิ้มสดใสกลายเป็นเศร้าโศก

“ผมเตรียมตัวเสร็จแล้ว เดี๋ยวขอโทรหาท่านอรุณก่อนนะ”

“ครับ...”

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ภานุไม่ทันสังเกตเห็นรอยอ่อนล้า เสียงภานุดังแผ่วเบาลอดจากห้องทำให้ต้นธาราตั้งใจเงี่ยหูฟัง

“งั้นหรือครับ...แต่ท่านนายผมครับผมอยากชะลอเวลาอีกสักหน่อย...ผมเข้าใจครับว่าจะเจออะไร...แต่..”

เสียงค่อยๆขาดหายไป ต้นธารารู้ดีว่าต้องมีปัญหาแน่ๆ

“ธาร”ภานุเอ่ยเรียก

ต้นธารามองเสี้ยวหน้าคมเข้มรอดูว่าภานุจะบอกอะไรหรือหรือเปล่าแต่ชายหนุ่มปิดปาก ต้นธาราก็ไม่เซ้าซี้อะไร

“เสร็จแล้วใช่ไหม ลงไปข้างล่างเถอะ ผมจะได้เช็คเอาท์ออกก่อนกำหนดเราจะเดินทางไปยังเชียงรายกัน”

“แล้วลุงอรุณไม่พูดอะไรบ้างรึ”

ต้นธาราเลียบเคียงถาม ภานุกลับนิ่งแล้วไม่พูดอะไรอีกเลย ต้นธาราก็ไม่พยายามขอคำตอบ ปล่อยให้ชายหนุ่มจัดการธุระจนเสร็จ ต้นธาราคอยอยู่ตรงล๊อบบี้โรงแรม คอยให้ภานุวนรถมารับ

“เราต้องซื้อเสื้อผ้าเพิ่มซักตัวสองตัว”

ภานุกล่าวเพราะไม่อยากเสียเวลาวนกลับไปยังที่พักของเขาเองและของคนรักอีกอย่างเป็นการกันคนของท่านนายพลพิภพที่จะออกติดตามหาบุตรชาย

“จอดรถซื้อแถวๆนี้ก็ได้”ต้นธาราชี้มือไปทางตลาด ใกล้ๆโรงพยาบาล

“รอสักครู่ ผมไปซื้อเอง”

ภานุสั่งก่อนจะออกไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น หลังจากหอบของมาหอบใหญ่ก็โยนใส่หลังรถ

“รู้สึกเหมือนกับหนีตามกันยังไงก็ไม่รู้”

ต้นธาราเอ่ยหลังจากรับกระป๋องน้ำอัดลมจากร่างสูง ภานุเปิดกระป๋องเครื่องดื่มยกกรอกปากดับอากาศร้อนๆที่เพิ่งเผชิญ

“ตอนนี้คุณเองก็ดูเหมือนจะสนุกไม่ใช่รึ?”

ต้นธาราหัวเราะในลำคอ พิงเบาะรถด้วยท่าทางสบายใจ

“มันก็สนุกดี.....”คุณหมอรำพึงดวงตาเลื่อนลอยมองท้องฟ้า มือสัมผัสกระป๋องน้ำอัดลมเย็นๆ

“ครั้งแรกที่ผมนอนกับคุณ เริ่มต้นจากการที่คุณอยากฆ่าผม...”

ต้นธาราทวนความหลัง มองท้องฟ้านอกกระจก ภานุขับรถไปเรื่อยๆฟังต้นธาราเล่า

“ผมก็บ้า...ทั้งๆที่รู้ว่าคุณจะฆ่าผมแต่ผมก็ยังยอมและฉวยโอกาสจากคุณ”

ภานุหันมองใบหน้าของต้นธารา ริมฝีปากโค้งขึ้นราวกับจะเยาะตัวเอง

“ผมก็มีส่วนผิดด้วยแหละที่แทบฆ่าคุณตาย”

พอหันมาสบตากัน ทั้งคู่ก็หัวเราะกับเหตุการณ์ในอดีต

“ตอนนั้นผมโกรธคุณจริงๆเรื่องของเจ้านาคี”

ต้นธาราหันมาก้มหน้าลง“ผมเข้าใจคุณเป็นเพื่อนรักกันมานาน ย่อมนึกโกรธเคืองอยู่แล้วกับเรื่องที่ผมทำลงไป”ต้นธาราพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ผู้กองตายเพราะผมไม่เชื่อฟัง เขาใจดีกับผมจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ”

ภานุฟังด้วยความสงบนิ่ง แม้ในอดีตเคยโกรธเคืองแต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณหมอเลย มือหนาขยี้ศีรษะเบาๆ

“คุณเลิกโทษตัวเองเสียทีเถอะ เจ้านาคีมันคงดีใจที่ได้คุ้มครองคุณ”

คนที่เคยเกลียดมาตลอดพูดให้คลายความเจ็บปวด

“ผมยอมรับไม่ได้หรอกว่าควรมีความสุข”

คำพูดค่อยๆพรั่งพรูจากริมฝีปาก ภานุนั่งฟังเงียบๆ

“ธาร...คุณรู้อะไรไหม....เจ้านาคีมันรักคุณมาตลอด รู้ตัวไหม”ภานุตัดสินใจพูด “นับตั้งแต่คุณมาประจำค่าย คุณก็จับใจเจ้านาคีแล้ว มันอยากปกป้องคุณ...มันดีกับคุณจนผมอดไม่ได้ที่จะหึง....”

ต้นธารานิ่งฟังอย่างตกตะลึง

“ผมก็แอบพึงใจคุณอยู่เงียบๆแต่เพราะท่าทีของคุณทำให้ผมไม่ค่อยชอบนัก ท่าทีใจดีกับทุกๆคนเหมือนกับสวมหน้ากากพอเกิดเรื่องเจ้านาคีผมเลยระเบิดอารมณ์ เพราะคุณเหมือนกับหลอกลวงเจ้านาคีมัน”

“ผมรู้...ผมถึงไม่เคยโกรธคุณไง”

ภานุคลายมือที่กำพวงมาลัยแน่นเมื่อรถแล่นไปยังถนนมุ่งสู่เชียงราย

“แต่ผมมันก็เป็นคนที่น่าสงสารและแย่ที่สุดนะ....”

“ทำไมล่ะ”ถามอย่างข้องใจ

ต้นธาราก็พูดออกมาทันใด“ก็....คงเป็นเรื่องที่ตามหาคุณมั้ง ทั้งๆที่พ่อก็เตือนแล้วแท้ๆผมก็ยังห้ามใจไม่ได้”

“นั่นมันอดีต....ต่อไปนี้ผมจะกลายเป็นฝ่ายไล่ตามธารบ้างดีไหม?”ภานุเอ่ย

“อือ ผมก็อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคุณเหมือนกันถึงจะรู้ว่าเจ็บปวดหรือโง่เขลาสักเพียงไหน”ต้นธาราจับมือของภานุไว้เเน่น

“ผมทำให้พ่อต้องเสียใจคุณว่าไหม”

“ไม่หรอก....อย่าคิดมากสิ”

ภานุเอ่ยปลอบประโลมเมื่ออีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงทุกข์ระทม.....ในเวลาที่เหลือให้พวกเขาเเค่เพียงน้อยนิดนี้ ภานุอยากให้ต้นธารามีความสุขที่สุด

“....แล้วคุณจะบอกถึงความอึดอัดที่อยู่ในใจให้ผมได้ฟังบ้างหรือเปล่าว่าลุงอรุณท่านพูดอะไรกับคุณ แล้วพ่อผมละท่านพูดอะไร”

ภานุยังเงียบเหมือนเดิม

“อย่าฟังเลย ผมไม่อยากให้คุณทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น ขอให้เรามีความสุขกัน.....ในตอนนี้เถอะ”

เมื่อได้รับคำตอบ ต้นธาราเบือนหน้าหนี

“แสดงว่าคุณไม่เคยเชื่อผมเลยนะสิ”ต้นธาราตั้งแง่

ภานุสั่นหัว“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกธาร รู้ไหมคุณเสียใจมาตลอด หากเพิ่มพูนความเสียใจนั่นก็จะยิ่งทับถมให้คุณเจ็บปวดกับมัน คุณมีความสุขบางเถอะ”

“ผมแค่อยากฟังบ้างเท่านั้นว่าคุณจะยอมเล่าอะไรให้ฟังหรือเปล่า แต่ได้แค่นี้ก็ดีแล้วละ ผมจะรอสักวันให้คุณเอ่ยความจริงออกมาเสียที”

พูดจบต้นธาราก็นิ่งเงียบ...แม้ว่าจะรัก...หากเส้นขนานของความเข้าใจยังขีดกั้น บางทีเส้นบางๆที่ยังขวางกั้นคงขาดสักวัน

------------------------------------------------


benxine

  • บุคคลทั่วไป
เห้ออออ..... o2

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เหมือนจะมีแววเศร้าปรากฏ

pupper

  • บุคคลทั่วไป
บีบคั้นกันเข้าไปหัวใจคนอ่าน แต่ละตอนอ่านแทบหยุดหายใจ ไม่อยากจะคิดเลยกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น เฮ้อ เหนื่อยเเทนตัวละครจริงๆเลยครับ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :m23:  แอบอ่านมาสามวันตามทันแล้ว สนุกดีครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด