สงสัยต้องแก๊งหัวโปกรุ่นเดอะ มาอธิบายกันเน้อ
จนกว่าคุณอาแบะคุงจะแวะมาเยี่ยม
ฝากด้วยนะคุณสอง
.......................................................................
!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลย (ภาค2) !!!
ต่อจากกระทู้ที่แล้วนะจ๊ะ ขึ้นกระทู้ใหม่ตามคำแนะนำ ต่อเลยละกัน...
----------------------------------------------------------------
ฉันกับอีบริทย์เดินเข้าไปในโรงเรียนกันสองคนอย่างเซ็งๆ แปลกที่วันนี้ไม่เห็นอีนกมายืนรอที่ท่ารถเหมือนเคย สงสัยคงมาสายหล่ะมั้ง
ฉันเดินผ่านเห็นน้องนี กับเอกนั่งคุยกันอยู่ใต้ตึก ทั้งคู่ดูมีความสุขกันดี ปกติฉันคงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่วันนี้ไม่ใช่เลย ฉันกับอีบริทย์พากันเดินไปบนห้องเรียน วันนี้ขอโดดเข้าแถวหน่อยเฮอะ...
.........................................................
วันนี้มีเรื่องดีๆ อยู่บ้างนะ อาจารย์สอน 2 คาบแรกน่ะ ไม่ว่างมาสอน สั่งให้นั่งทำการบ้านในห้อง เลยได้พักผ่อนกันสบายไปเลย วันนี้สบายหูหน่อยด้วย เพราะอีนกยังไม่โผล่หัวมาเรียนเลย ฉันก็เลยได้ฟุบกับโต๊ะงีบกันไป ในใจห่วงอีต๋องพิกล
"แบะๆ " มีคนมาสะกิดฉันให้ตื่น ใครวะมันช่างบังอาจ ฉันเงยหน้าขึ้นมอง อ้าว! เอกเองหรอ
"ว่าไงอ่ะ" พูดทั้งที่ยังง่วงอยู่ ฉันฟุบหัวไปกับโต๊ะตามเดิม
"ป๊าเราซื้อมือถือให้หน่ะ ดูสิ สวยไหม" (โด่เอ๊ย ที่แท้ก็อยากโชว์ โทรศัพท์โนเกีย 3310 สมัยนั้นหรูมาก)
"อืออๆ สวยๆๆ" ฉันเหลือบหางตาไปดูนิดๆ แล้วตอบตามมารยาท ดูนานไม่ได้ อิจฉา (เพื่อนเค้ามีเพจเจอร์กันหมดแระ กรูยังไม่มีปัญญาเลย)
"แบะ จดเบอร์เราไว้หน่อยสิ" เอกสะกิดให้ฉันลุกอีกรอบ - -" คนจะนอนกวนอยู่ได้...
"017108......." ฉันค่อยๆ เอาปากกาจดไว้ด้านหลังปกสมุดการบ้านเล่มนึง ขอบใจนะที่บอก แต่ก็คิดจะโทรไปหาหรอกจร้า เปลืองตังค์ตายชัก จดเสร็จเอกก็ยิ้มให้ แล้วเอกก็นั่งทำการบ้านอยู่ข้างๆฉัน ส่วนฉันก็หลับยาวจนเกือบหมดคาบ.. ตื่นมาได้ ก็รีบเอาของอีบริทย์มาลอกตาเหลือก (อีบริทย์ก็ไปเดินลอกเค้ามาทั่วห้อง) จนมีส่งอาจารย์จนได้น่ะ
...............................................
"ไอ้เอกนี่มันยังไงกันแน่วะ กรูเห็นตามจอแจเมิงจ้อยเลย" อีบริทย์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"จอแจเชี่ยไรหล่ะเมิง มันมาอวดโทรศัพท์ใหม่กะกรูอ่ะดิ พ่อมันซื้อให้" ฉันตอบอย่างเซ็งๆ
"อ้าว! หรอวะ กรูก็นึกว่ามันมาให้เบอร์เมิงอ่ะดิ ตกใจเลย" อีบริทย์พูดพลางทำท่าโล่งอก ฉันมองหน้ามันด้วยความสงสัย
"ให้เบอร์แล้ววว...เป็นยังไงหรอวะ?" ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ
"อ้าว..อิโง่ ถ้าให้เบอร์ใคร ก็แสดงว่ามันชอบหน่ะสิ"
โถๆๆ อิบริทย์นี่ วันนี้เมิงช่างจุดประกายความหวังให้กรูซะเหลือเกิน ^^ (คุยกันเสร็จ ก็ไปเลี้ยงขนมหวานอีบริทย์ซะ 1 ถ้วย สบายใจกันไป)
......................................................
ตกเย็นฉันกับอีบริทย์ก็พากันกลับบ้าน อีบริทย์กลับไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านได้ไม่ถึง 15 นาที มันก็โผล่หัวมาบ้านฉันแล้ว ฉันกับอีต๋องช่วยกันล้างจาน ส่วนอีบริทย์ก็ไปหุงข้าวให้ (เมิงจะแดกข้าวบ้านกรูอีกหล่ะสิ กรูรู้ทันนะเมิง) หุหุ เพื่อนแต่ละคน
แป๊ปเดียวงานบ้านก็เสร็จ ฉันนึกอยากกินปลาเห็ด (ทอดมัน) ขึ้นมา จึงวิ่งไปหยิบตังค์ (ของแม่) แล้วพากันปั่นจักรยานกันออกไปที่ตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน ได้ปลาเห็ดมาถุงนึง 10 บาท หลายชิ้นอยู่เหมือนกัน เอาไว้กินกับต้มยำไก่ที่แม่ทำไว้ (นึกแล้วหิวขึ้นมาซะง้าน)
พวกเราถีบรถจักรยานเล่นกันอีกแป๊ปนึง ก็พากันกลับบ้าน เมื่อมาถึงบ้านก็เจอ พ่อแม่ พวกพี่ๆ และ ...... พ่ออีต๋อง นั่งเปิดไฟคุยกันหน้าบ้าน อีต๋องหน้าเสียไปเลย
พวกฉันจอดจักรยาน แล้วไปล้างเท้า กะจะรีบวิ่งเข้าบ้านไปอย่างไว แต่ก็โดนเรียกเข้าจนได้
"ต๋อง ต๋องเอ้ย มานี่ลูก" แม่ฉันเรียก ต๋องหน้าเสียค่อยๆเดินเข้าไป พวกฉันเดินยกขบวนตามกันไป
"พ่อเอ็ง เค้ามารับกลับบ้านแน่ะ" แม่ฉันเอามือลูบหัวอีต๋อง อีต๋องกลัวพ่อมันจนตัวสั่น ก็ดูพ่อมันสิ จ้องหน้ามันอย่างกับจะฉีกหัวมันกิน
"เอางี้หล่ะกัน เดี๋ยวให้พวกมันกินข้าวกันก่อน เดี๋ยวพี่ไปส่งมันเอง" พ่อฉันพูด แต่ก็นะ...
"ไม่เป็นไรพี่ มันมารบกวนพี่มากแระ" พ่อมันตอบ ก่อนหันมาตวาด " ไอ้ต๋องไปใส่รองเท้า กลับบ้าน" อีต๋องก้มหน้า น้ำตามันไหลหยดลงพื้น แม่ฉันเอามือลูบหัวมัน และปลอบใจมันว่า
"ไม่ต้องร้องนะลูก โตแล้วเค้าไม่ร้องไห้แล้ว" (ตัวแม่เองยังน้ำตารื้นๆอยู่เลย โตกว่ามันตั้งเยอะ -*- )
แม่ฉันเอามือเช็ดน้ำตาให้มัน พ่อมันลุกขึ้นไปสตาร์มอเตอร์ไซด์ อีต๋องกลับไปใส่รองเท้า แล้วเดินตามไป มันหันหลังกลับมาไหว้พ่อแม่ และพี่ๆ ฉัน แล้วขึ้นซ้อนมอไซด์พ่อมันไป น้ำตามันเจิ่งนองหน้า โถ อีต๋อง กรูจะช่วยอะไรเมิงได้เนี่ย....
.......................................................
คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ ฉันเดินออกมานั่งข้างล่างคนเดียว ป่านนี้อีต๋องเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ ฉันกลัวพ่อมันจะทำร้ายอีต๋องอีก ฉันไม่แน่ใจ ว่ามันโชคร้ายที่เกิดมาเป็นกระเทย หรือซวยที่ดันมีพ่อแบบนี้มากกว่า มิหน้า แม่มันถึงได้หนีพ่อมันไป กำจริงๆ
"อ้าว มาเปิดไฟนั่งทำไรนี่ ทำไมไม่นอนอีก" แม่ฉันเดินลงมาข้างล่าง ทาหน้าขาววอกตามเคย
"หนูนอนไม่หลับ" ฉันก้มหน้ามองพื้น ตอบแม่ไปด้วยความหดหู่เต็มทน
"เป็นไรอ่ะ ห่วงเพื่อนหรอ" แม่ถามกลับมา ฉันได้แต่พยักหน้าตอบ แม่ถอนหายใจแล้วเดินมาหาฉัน
"หัวอกพ่อแม่น่ะ พวกเอ็งไม่เข้าใจหรอก"
"แล้วทำไม พ่อกับแม่ไม่เป็นแบบน้าพงษ์ (พ่อไอ้ต๋อง) หล่ะ" ฉันเถียง
แม่มองหน้าฉัน แล้วตอบ
"คนเรามันไม่เหมือนกัน บางคนรับได้ บางคนเค้ารับไม่ได้" ฉันฟังแล้วก็ยังส่ายหัวอยู่ดี แม่เอามือมาผลักหัวฉัน แล้วนั่งลงข้างๆฉัน
"วิทยุมันบอกว่า ถ้าเราเลี้ยงลูกไม่ดี ลูกจะเป็นกระเทย.." ฉันมองหน้าแม่ทันที แม่ก็มองฉันเหมือนกัน
"แต่แม่ไม่เชื่อหรอก" ฉันยิ้มออกมา ในตารื้นไปด้วยน้ำตา ฉันเอาหัวซุกแขนแม่ ในใจอยากบอกว่า แม่เลี้ยงหนูมาดีที่สุดของที่สุดแล้ว แม่เอามือมาลูกหัวฉัน
"แม่" ฉันเรียกแม่เบาๆ แม่ฉันแหงะหัวมาหน่อยนึง
"หนูขออะไรแม่อย่างนึงสิ" แม่เอียงหน้ามารอฟัง
"แม่อย่าทาหน้าขาว เดินไปเดินมาในบ้านดึกๆได้ไหมอ่ะ หนูกรัวววววววววววว" แม่เอานิ้วชี้ผลักหัวฉันออกจากแขนจนหน้าหงาย - -* (หุหุ ย้อเย่นก็ม่ายด่ายยย)
...................................................
เช้ามืดวันต่อมา ฉันและเพื่อนๆมารอรถกันที่ท่ารถตามเคย วันนี้อีต๋องได้มาโรงเรียนด้วย แสดงว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ฉันเอาหัวพิงเสาแล้วงีบ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย ตื่นแต่เช้าเลยไม่ไหว อีบริทย์กะอีต๋องเม้าท์กันอย่างเมามันอยู่ข้างๆอิฉันนี่แหล่ะ
รถลุงมาแล้ว ฉันขึ้นรถและไปนั่งหลับต่อตามระเบียบ ตื่นมาตอนใกล้ถึงโรงเรียนแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย ถึงโรงเรียนแล้วพวกเราลงรถแล้วพากันเดินเข้าโรงเรียน
"แบะ ๆ" เพื่อนชะนีร่วมห้องของฉันส่งเสียงร้อง เอ้ย! เรียก
"ว่าไง เสียงดังแต่เช้าเลย"ตอบทักตอบ
"นกอ่ะ มันโดนรุมตบ รู้หรือยัง?"
"หาาาาา อีนกโดนตบ!" ทุกคนตกใจกันหมด อีนกไปมีเรื่องกับใครตั้งแต่เมื่อไร หรือว่ากับพวกอีตือ
"เมื่อไหร่" ฉันถาม
"เมื่อเย็นวันก่อน" ถึงว่าสิ เมื่อวานมันถึงขาดโรงเรียน
"แล้วใครทำ"
"กระเทยเด็กวัดไทร (จำชื่อโรงเรียนเต็มๆไม่ได้)"
"เฮ้ย มันโดนเด็กตบหรอวะ" อีบริทย์ถามโง่ๆ ก็โรงเรียนนั้นมันมีแค่ ม.3 เมิงจะถามอีกทำไมเนี่ย
"มันเป็นไรมากเป่า" ฉันถาม
"เห็นเค้าบอกกันว่า เยินซะ" (ไอ้เค้า น่ะมันใครวะ ชะนีนี่ช่างเมาท์)
"เออ ขอบใจที่บอก" ฉันกับพวกเดินแยกกันไปนั่งที่ศาลา อีนกเสียท่าให้พวกกระเทยเด็กได้ไงเนี่ย..
"เอาไงดีวะ อีแบะ" อีต๋องถาม อีบริทย์รอฟังอย่างใจจดจ่อ ฉันคิดอยู่ซัก 20 วินาที ก่อนจะสรุปได้ว่า
"ตบเด็ก" ในมือฉันกำหมัดแน่น (ก็เด็กมันยั่วววว - -* )
...................................
พวกเราแยกย้ายกันเข้าเรียน ฉันกับอีต๋องเรียนไป 3 คาบก็เป็นเวลาพักทานข้าว เราเดินลงมาใต้ตึกเพื่อหาข้าวกิน พอเดินมาสุดกระได ก็เห็นน้องนีนั่งทานข้าวอยู่กับเพื่อนๆของนาง เดี๋ยวไอ้เอกต้องเข้าไปทักแน่เลย ฉันคิดในใจ
"นีพักหรอครับ" ป๊าดติโถ! ตดยังไม่ทันหายเหม็น ไอ้เอกวิ่งหางชี้เข้าไปหาจริงๆ
"ค่ะ อาจารย์ไม่มาสอน เลยมากินข้าวกัน" น้องนีตอบอย่างเขินอาย แรดจิงๆ (เชอะ ไม่สนใจหรอก)
ฉันเดินเชิดหน้าออกไปอย่างแรง เอกนะเอก..ทำกันได้ ชิส์ ไหนอีบริทย์ว่ามันชอบกรูไง อีเชี่ยยยยนี่โกหกกรู เอาขนมกรูคืนมาเลยเมิง - -
พวกเราทานข้าวกันจนอิ่มแล้ว ก็เดินไปหาที่นั่งย่อยกันใต้ศาลา อีกตั้งคาบนึงแน่ะกว่าจะขึ้นเรียน
"ตู้ม!" เสียงน้ำกระจาย เด็กเวรที่ไหนไม่รู้อายุซัก 7-8 ขวบ ขว้างก้อนหินลงไปในบ่อปลาข้างศาลา น้ำกระจายเปียกนักเรียนที่นั่งแถวนั้นกันหมด แต่ละคนรีบจับหนังสือมาปัดมาเช็ดน้ำกันใหญ่
"น้องๆ อย่าปาหินลงไปสิคะ ดูซิเปียกคนอื่นกันหมดแล้ว" รุ่นพี่ที่นั่งแถวนั้นเตือน แต่ดูจะไม่เป็นผล ไอ้เด็กนี่ไม่ฟังใครเลย
"อย่ายุ่ง" ดูมันพูด "ตู้มมมม" ว่าแล้วมันก็เหวี่ยงหินก้อนโตลงไปอีก แล้วหัวเราะด้วยความสนุกสนาน พวกรุ่นพี่คว้าหนังสือแล้วพากันลุกเดินหนี
"นิสัยไม่ดีเลย ลูกอาจารย์ดิเรกเนี่ย" เสียงบ่นกันให้ระงม อ้าว! ไอ้เด็กเปรตนี่มันลูกอาจารย์นี่เอง ถึงว่า มากร่างในโรงเรียน
ฉันมองหน้าอีบริทย์ พวกเราหยิบหนังสือแล้วเตรียมจะย้ายไปที่อื่นกัน พวกฉันเดินอ้อมหลังไอ้เด็กนรกที่มันกำลังง่วนกับการก้มหาหินก้อนใหม่ของมันอยู่
พอเดินไปใกล้ๆมัน ฉันเอื้อมมือตบกะโหลกมันดัง โป๊ก มันหัวผงะตามแรงโบก
"โอ๊ยย" เด็กเวนร้องดังลั่น พวกฉันวิ่งกระจายกันไปคนละทิศละทาง ได้ยินเสียงมันร้องไห้ตามหลังงงง กร๊ากกส์ๆๆๆ สมน้ำหน้าเมิง ไอ้เด็กเชี่ย..
...............................................
พวกฉันกลับมาถึงบ้านกัน วันนี้รถลุงขับโคดช้า อากาศก็ร้อน อบอ้าว ฉันกลับมาทำงานบ้านเสร็จก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ค่อยสบายหน่อย นี่มันหน้าฝนแล้วสิ อีกไม่นานฝนต้องตกแน่ ^^ (แอบดีใจ เพราะชอบฝนตก)
"พ่อเมิง ไอ้เอ็มมันป่วยอีกแล้ว เมื่อกลางวัน มันตัวร้อนจี๊ดเลย" แม่ฉันพูดกับพ่อ ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับบ้านฉัน เอ็มมันป่วยบ่อย โดยเฉพาะช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (อ่ะจึ๋ย Season Change ซะง้าน)
"เป็นอะไรมากหรือเปล่า" พ่อเอามือจับหน้าผากมันที่กำลังนั่งกินข้าวและดูทีวีอยู่พร้อมๆกัน (สบายจริงๆเลยนะเมิง - -* )
"ตัวไม่ค่อยร้อนแล้วนี่ นอนพักพรุ่งนี้ก็คงหาย" พ่อพูด
"ค่อก ๆ ๆ " ไอ้เอ็มแกล้งไอกระแอมเบาๆ (ร้ายนะเมิงงง ชอบหล่ะสิตอนป่วยน่ะ พ่อแม่เอาใจนิ)
"อ้าว ไอด้วยนี่ เจ็บคอป่าวลูก" แม่ฉันถามอย่างเป็นห่วง มันรีบพยักหน้าตอบทันควัน พร้อมทำหน้าเหนื่อยอ่อน ปานกับเพิ่งไปสู้ศึกสงครามโลกมายังไงยังง้าน - -*
"ง้านกินข้าวเยอะๆ แล้วเดี๋ยวไปนอนเลยละกัน" พ่อฉันพูดจบ ไอ้เอ็มรีบโซ้ยข้าวเข้าไปเต็มปาก (เหอๆ เมิงป่วยยังไงของเมิงเนี่ย) ตามันก็ดูการ์ตูนในทีวีอย่างสบายอารมณ์ กินเสร็จ แม่ก็สั่งให้ฉันเก็บจานชามให้มันตามคาด T_T (อร๊ายยยยยยส์ เมื่อไรกรูจะป่วยมั่งเนี่ย)
ฉันรีบเก็บสำรับไปล้างอย่างสุดเซ็ง ล้างเสร็จก็ขึ้นห้องไปอ่านการ์ตูน ฝนเริ่มตกแล้ว อากาศมันเย็นสบายยังไงบอกไม่ถูก เสียงน้ำฝนหล่นกระทบหลังคาบ้านฉัน ดัง เปาะ แปะๆ ก่อนจะตกลงมาจ๊ากใหญ่ มันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันอ่านการ์ตูนได้ไม่เท่าไร ก็รีบเข้านอนเก็บแรงไว้ พรุ่งนี้มีสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธ์กะเทยน้อยรออยู่ หุหุ
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
....................................
วันนี้เหมือนโชคเข้าข้าง เรามีเรียนพละกันพอดี การได้ใส่ชุดวอร์มออกศึกก็ดูจะคล่องแคล่วไม่น้อย ฉันเลิกเรียนกันก็บ่ายสองแระ โรงเรียนวัดไทรอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนฉันเท่าไหร่ วันนี้อีนกดูตื่นกลัวอยู่ไม่น้อย
"เฮ้ย เมิงเอาจริงหรอวะ กรูว่าหยุดเหอะ กรูไม่อยากมีเรื่อง" อีนกร้องขอ
"เมิงจะกลัวอะไรของเมิงวะ ไม่อยากเอาคืนหรอไง" อีต๋องกอดคอมันปลอบใจ
"แต่พวกมันเยอะกว่านะเมิง เรามีกันแค่ 4 คนเอง พวกมันตั้ง 7-8 คนแน่ะ"
อีต๋องกับอีเบสมองหน้าฉัน ฉันหันไปบอกอีนกว่า
"แล้วไงวะ ตบแหลก ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น" อีต๋องกับอีเบสยิ้มขานรับทันที
"ง้าน กรูขอไม่ไปได้ไหมอ่ะ" อีนกกลัวจนลนลาน ดูมันเสียขวัญอยู่มาก
"เฮ้ย! ได้ไงวะเมิง นี่มันเรื่องของง......." อีบริทย์ตวาดใส่อีนก แต่ฉันห้ามมันไว้
"ตามใจเมิง เมิงชี้ตัวให้พวกกรูก็พอ" อีนกดูรู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราออกเดินทางกัน จุดมุ่งหมายของเราก็คือ โรงเรียนวัดไทร..
................................................
"โน่นแน่ะ อีเบ้นซ์ มันเป็นหัวหน้ากลุ่ม" อีนกยื่นมือชี้ ลำตัวแอบอยู่กับโทรศัพท์สาธารณะ กลัวแม้กระทั่งเด็ก มันน่าจะโดนตบซ้ำนะเมิงน่ะ
กระเทยเด็กกลุ่มใหญ่พอสมควร กำลังนั่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เท่าที่ดูมันก็แรงไม่ใช่น้อย เสียงกรี๊ดกร๊าดดดดดดวี๊ดว้ายดังมาจากโต๊ะพวกมันดังสนั่น
"มันนั่งรออะไรของมัน" โรงเรียนเลิกแล้วแต่พวกมันยังไม่มีวี่แววจะแยกย้ายกลับบ้าน
"มันรอเล่นวอลเล่ย์ตอนเย็น" อีนกตอบ นัยตามันดูหวาดกลัว
"ง้านรออีกพักนึงก่อน" ฉันพูด
........................................................
เกือบ 5 โมงเย็น กระเทยเด็กกลุ่มนั้นย้ายกันไปตรงสนามวอลล์บอล พวกมันเล่นตีบอลไปมากันอย่างสนุกสนาน เสียงดังกรี๊ดกร๊าดได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ฉันส่งสัญญาณให้อีต๋อง กับอีบริทย์ที่ยืนกินไอติมกันอยู่
"เลิกแดกได้แล้ว ไป" เราสามคนเดินเข้าไป ทิ้งอีนกไว้ข้างหลัง มันเกาะรั้วโรงเรียนมองลอดเข้าไป
ฉันเดินตรงไปที่อีเบนซ์ หัวโจกประจำกลุ่ม เมื่อพวกมันเห็นพวกฉันเดินเข้าไปใกล้ พวกมันก็หยุดเล่นกัน แล้วรวมกันเป็นกลุ่ม มันคงจำชุดโรงเรียนฉันได้
"ได้ข่าวว่าเก่งใช่ไหมพวกเมิง" ฉันเก๊กหน้าเครียดถามเหล่ากระเทยเด็กที่กำลังเสียขวัญ
"พี่เป็นใคร" อีเบนซ์ทำใจดีสู้เสือ ถึงมันจะเรียกพวกฉันว่าพี่ แต่ท่าทีก็ดูกวนตีนไม่ใช่น้อย พวกเพื่อนมันยืนเกาะกันอยู่ด้านหลัง
"ก็เป็นคนที่จะมาเอาเลือดปากเมิงออกน่ะสิ" อีบริทย์พูดจบ มันเดินไปกระชากคอเสื้ออีเบนซ์ทันที มันเซมาข้างหน้าฉัน กระดุมเสื้อมันขาดหล่นพื้นสองสามเม็ด เพื่อนมันยืนเกาะกันตัวสั่น อีนกคงจะลุ้นน่าดู
"อะไรหล่ะพี่ หนูทำอะไรให้หล่ะ" อีเบนซ์เริ่มเอ่ยปากขอความเป็นธรรม ฉันเดินไปข้างหน้า บีบขากรรไกรมันจนปากมันเผยอ
"พวกเมิงตบอีนกทำไม" ฉันถามมัน มือฉันบีบหน้ามันแน่น นัยตามันเต็มไปด้วยความกลัว เพื่อนๆมันไม่มีใครคิดจะช่วยเพื่อนมันซักคน
"อี อี นกมันจะมาจีบเด็กพวกหนู" อีนกพยายามจะพูด ฉันค่อยๆคลายมือจากหน้ามัน มันเอามือมานวดหน้ามันยกใหญ่
"โป๊กก" ฉันเอามือตบหัวมันดังสนั่น อีเบนซ์เซตามแรงตบ เพื่อนมันส่งเสียงร้องวี๊ดว้าย
"แล้วเมิงรู้จักบ้างไหม รุ่นพี่ รุ่นน้องน่ะ" อีเบนซ์มองตามอย่างเคียดแค้น "พวกเมิงชอบใช้กำลังใช่ไหม มาเลย พวกกรูอยู่นี่แล้วไง มาสิมา เก่งนักนี่" ฉันกระชากคอเสื้อมันกลับมา เขย่าตัวมันไปมา อีเบนซ์กลัวจนตัวสั่น
"พี่หนูขอโทษ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว" อีบริทย์เอามือดึงหนังหัวมันข้างหน้าจนหน้าแหงน
"แล้วเพื่อนกรูหล่ะ เคยได้รับความปราณีจากเมิงไหม" อีบริทย์เอามือหยิกผมมันหมุนไปหมุนมา อีเบนซ์ร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเพื่อนมันยืนเหงื่อแตกอยู่ด้านหลัง
"ตอนทำคนอื่นเค้าน่ะ ไม่คิดหรอกนะเมิง ว่าเค้าจะเจ็บ จะปวดแค่ไหน" ฉันเอามือบีบคอมัน อีเบนซ์พยายามจะแกะมือฉันออก แต่มันคนละรุ่นกันแล้ว ชิส์
"พี่ หนูขอโทด" อีเบนซ์ยกมือไหว้ลนลาน น้ำตามันเอ่อล้นดวงตา ฉันยืนระงับความโกรธ ไม่นานฉันก็คลายมือออกจากมัน อีต๋องง้างมือจะตบมันซ้ำ.
"พอแล้วเมิง แค่นี้มันคงเข็ดแล้วหล่ะ" ฉันเอามือชี้หน้ามัน แล้วบอกมัน
"เมิงจำไว้นะ ถ้าเมิงทำอีก กรูไม่ปล่อยเมิงไว้แน่" พวกฉันเดินหันหลังกลับ ฉันเห็นอีนกทำหน้าสะใจอยู่ด้านนอกโรงเรียน
"ลุงงงงงง ลุงงงง จับพวกมันไว้ พวกมันตบหนู" เสียงอีเบนซ์ตะโกนเรียกภารโรงดังลั่น คน 2 - 3 คนกำลังวิ่งเข้ามา
อ้าว! ชิบหายหล่ะสิ อีบริทย์ อีต๋อง วิ่งงงงงงงงงงงงง (ดอกเบ้นซ์เอ๊ยย ร้ายจัดเลยนะเมิง - -* )