กำ จะดีใจแทนอาแบะคุงดีไหมนี่ มีแต่หนุ่มรุมทึ้ง
************************************************************************************
!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย ( ภาค 8 ) !!!
"เฮ้ย เอาน่าอีแบะ อีบริทย์มันหวังดีน่า" อีต๋องช่วยอีบริทย์ใหญ่ ฉันด่ามันตั้งแต่ขึ้นรถ จนนี่จะถึงบ้านอยู่แล้ว
"เมิงไม่ต้องเข้าข้างมันเลยนะ" ฉันยังตวาด แว๊ดๆ " เมิงรู้ไหม กรูแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ตอนไอ้เอกมันพูดน่ะ" อายชิบหาย อร๊ายยยยส์
"ไม่เห็นต้องอายเลยนี่หว่า ตอนแรกเมิงก็กะจะบอกมันอยู่แล้วไม่ใช่หรอ" อีบริทย์พูดเสียงอ่อย ถึงแม้ว่าเมิงจะพูดเรื่องจริง แต่กรูก็ยังอายอยู่ดีแระ อีเชี่ย ทำไรไม่ปรึกษา
"เอาเหอะว่ะ ยังไงๆ เรื่องก็ผ่านไปแล้ว" อีต๋องพูด อีบริทย์รีบพยักหน้า
"ถึงมันรู้ ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่หว่า" อีต๋องมองหน้าฉัน ก่อนพูดต่ออีกว่า "หรือไอ้เอกมันไม่เหมือนเดิมกับเมิง"
"ไม่รู้สิวะ" ฉันตอบไม่ถูกจริงๆ จะว่าเหมือนเดิมก็ไม่ใช่ พักหลังนี้เอกทำตัวพิกลๆไงก็ไม่รู้ เป็นเพราะเมิงนี่แหล่ะอีบริทย์ (น่าน พาลไปหามันอีก -*- )
"ถึงว่า กรูรู้สึกว่ามันแปลกๆ" ตั้งแต่เปิดเทอมมาเนี่ย มันไม่เหมือนเดิมจิงๆ น๊าาา - -"
วันต่อมาไอ้จ๊อดขาดเรียนไปทั้งมัน ฉันแอบคิดมากนิดหน่อย กลัวว่าจะด่ามันแรงไป แต่คิดไปคิดมา ก็หมั่นไส้ อยากบ้าผู้หญิง ตัวก็ใหญ่ยังกะหมีควาย ร้องไห้เป็นเด็กๆ คริคริ นึกแล้วขำ
วันรุ่งขึ้น
พวกฉันกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติ ไอ้จ๊อดมาต่อหลังฉันแน่แล้ว ได้กลิ่นน้ำหอมมัน ยืนอยู่เฉยๆ ก็พอว่า ซักพักแมร่งมีสะกิด ไอ้นี่นิ ชักลามปามใหญ่แล้ว ฉันหันไปเตรียมจะฉะ
"ไอ้จ๊...............เอิ๊ก สวัสดีค่ะจารย์" ฉันเปลี่ยนโหมดกระทันหัน จากไอ้จ๊อด เปลี่ยนเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองไปแล้ว T-T ซวยแล้วกรู
"นี่ไว้ผมทรงไรเนี่ย" จารย์ฝ่ายปกครองถาม ลืมบอกว่าแกดุมากกกกกกก เป็นจารย์อยู่คณะศิลปกรรม
"อ๋อ ทรงคล้ายๆอาจารย์เลยน่ะค่ะ แต่รู้สึกหนูจะสระผมบ่อยไปหน่อย มันเลยยาวกว่าจารย์นิ๊ดดดนึง" ฉันแถเอาชีวิตรอด แต่ดูท่าจะรอดยากแระ จารย์ยกกรรไกรคู่ชีพที่เพิ่งปลิดชีวิตไอ้จ๊อดขึ้นมา อ๊ากกกกก ไม่นะจารย์ T-T
"เด็กเก่าหรือเด็กใหม่น่ะเรา" จารย์ถาม อ่ะ พูดงี้ก็มีโอกาสรอดน่ะสิ ฉันดิ้นเฮือกสุดท้าย
"เด็กเก่าสิจารย์ เนี่ยเรียนโรงเรียนนี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่แระจารย์ รักโรงเรียนจะตาย" สงสัยจะโม้มากไปหน่อย อาจารย์กับไอ้จ๊อดหัวเราะ โห เดี๋ยวก่อนเหอะเมิงไอ้จ๊อด โดนก้อนหัวแหว่งยังจะมาขำกรูอีก เพราะเมิงน่ะแร่ะ ไอ้เชี่ย
"ดีเลย เด็กเก่า ไม่มีตังค์ตัดผมใช่ไหม เดี๋ยวครูตัดให้" จารย์ยกกรรไกรมาข้างหู ฉันเอี้ยวหัวหลบ โอ้วไม่
"เอ่อ..จารย์คะ วันนี้วันพุธ บ้านหนูเค้าถือกันอ่ะค่ะ" จารย์เริ่มลังเล หุหุ โบราณว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะจารย์ จารย์คิดอยู่นิดนึง ก่อนจะเก็บกรรไกรใส่กระเป๋า โอ้ว แม่จ้าววว
"เอาบัตรนักศึกษามา" เย้อออออออออ เอาไปทำไมอ่ะจารย์
"พรุ่งนี้ไปตัดผมมา แล้วไปรับบัตรคืนที่ห้องพักครู" จารย์เก็บบัตรฉันใส่กระเป๋า แล้วเดินไปตรวจแถวอื่นๆ ต่อไป เง้อๆๆ กรูบอกเมิงแล้วใช่ไหมไอ้จ๊อด ว่าอย่าทำตัวเป็นจุดเด่น เป็นไงหล่ะ ฮืออออ กรูอยากจะร้องไห้ T-T
ทำไงดีหล่ะ ไม่อยากตัดผมน้าาา
"เพราะเมิงน่ะแร่ะ ไอ้จ๊อด" ฉันยังเอาเรื่องมันไม่เลิก ทำไมต้องมายืนหลังกรูด้วยอ่ะ ฮือๆ ผมกรู
"เห่อ เราก็โดน เห็นมั้ยเนี่ย หัวแหว่งเนี้ย" ไอ้จ๊อดเอานิ้วชี้ให้ดูกบาล ผมมันหายเป็นกระจุกๆ
"เมิงเสือกทำหัวตั้งทำไมหล่ะ" ฉันเถียงสู้มันขาดใจ ไอ้จ๊อดถึงกับเซ็ง
"เอ๋า ก็คนมันหล่ออ่ะ" ป๊าดดด หยุดเรยไอ้สาด กรูจะอ๊วก ชมตัวเองก็ได้นะ
"หล่อสุดตรีนเลย เชี่ย" แล้วกรูจะทำยังไงหล่ะเนี่ย พรุ่งนี้อาจารย์ให้ไปหาอีก อุตส่าห์ไว้จนยาวป่านนี้แระ (แค่คอ) ฉันคิดอะไรไม่ออก มันตื้อไปหมด นี่ถ้าตัดผมสั้นมา ไอ้จ๊อดต้องขำกรูตายแน่เลยยย - -*
เลิกเรียน พวกฉันพากันดิ่งไปที่ตลาด มีซอยนึงขายของเฉพาะพวกกิ๊ฟชอพ พวกเครื่องเสริมสวยไรเงี้ยะ
"เมิงเอาจริงหรอวะ อีแบะ" อีบริทย์ถาม ฉันไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร เพราะกำลังง่วนเลือกดูวิกผมอยู่
"ตอนนี้กรูก็ทำได้เท่านี้แหล่ะ" ฉันตอบแบบไม่ได้สบตาเพื่อนเลยด้วยซ้ำ ไอ้จ๊อดสนุกกับการหยิบวิกผมมาใส่เล่นใหญ่
"นี่ๆ เป็นไงสวยไหม" โถ่ไอ้เวร เมิงอย่าริมาเป็นกระเทยเชียว เสียชื่อสมาพันธ์กระเทยไทยหมด ฉันยังซีเรียสไม่เลิก เลยไม่มีอารมณ์เฮฮาซักเท่าไร
"พี่คะ อันนี้เท่าไร" ฉันหยิบวิกทรงผมบ๊อบสั้นๆ ขึ้นมา 1 ชิ้น แม่ค้ารับไปพลิกดูราคา แล้วตอบว่า
"1500 จ่ะ" โอ้ว ลมแทบใส่ กรูนึกว่า 300 ตายๆ เอาไงดีวะเนี่ย ฉันเริ่มคิดหนัก
"นี่ๆ อีแบะ เอาอันนี้สิ แค่ 500 เอง" อีบริทย์ส่งวิกหัวพังค์หลากสีมาให้
"เอาไปให้พ่อเมิงใส่เฮอะ" ฉันตอบ ไอ้จ๊อดหัวเราะดังลั่น โถๆ เมิงก็ไม่ได้ดีกว่ามันซักเท่าไรเลยนะ หัวแหว่งยังจะมาเดินตลาดอีก ทำได้ไงเนี่ย สุดยอด -*-
"มันไม่ยาวไปหรอวะ อันนี้น่ะ" อีต๋องหยิบวิกผมที่ฉันจับอยู่เมื่อกี้ขึ้นมาดู
"น้องจะใส่ไปไหนหล่ะจ๊ะ รับปริญญาใช่ไหม มีคนซื้อไปเต็มเลย ไปตัดออกนิดหน่อยก็ได้แระ" พี่แม่ค้ารีบเชียร์ ใส่รับปริญญาเค้าใส่กันหนเดียว แต่หนูต้องใส่อีกสองปี แถมไม่รู้ใส่ไปจะรอดหรือเปล่าเลย โอ๊ย เครียด
"เดี๋ยวหนูขอไปนอนคิดก่อนนะพี่" ฉันบอกลาแม่ค้า ตอนนี้กลุ้มใจค่าวิกมั๊กๆ แพงขนาดนี้ถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ซวยตายเลย ถึงถ้าจะซื้อ ก็ต้องรอถอนเงินจากแบงค์พรุ่งนี้อยู่ดี
อีพวกเหลือขอนั่นรีบเก็บวิกให้พี่เค้าเข้าที่ สนุกกันดีจังเลยนะ บนความทุกข์ของกรูเนี่ย ไป กลับกันได้แล้ว
ตกกลางคืนฉันนอนก่ายหน้าผาก หลายคนอาจคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง แค่ตัดๆ ผมไปซะ ก็ไม่ต้องเสียเงินแล้ว แต่กับฉันมันไม่ใช่ บางครั้งความรู้สึกมันละเอียดอ่อน และอธิบายไม่ได้ ฉันรู้เพียงว่าฉันอยากเป็นผู้หญิง และถึงแม้จะทำเต็มที่แล้วจะได้แค่ใกล้เคียงก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็แอบสุขใจ
คืนนั้นฉันสรุปได้ว่าจะถอนตังค์ไปซื้อวิกพรุ่งนี้เช้า เอาวะ ลองดู (เง้อออ ตังค์ในแบงค์ลดฮวบเรย ยิ่งหายากส์ๆ อยู่ แม่รู้ โดนด่าแน่)
"โอ๊ย แดดร้อนฉิบหายเรย" อีบริทย์ยกหนังสือขึ้นบังหน้า ตรอกนี้ตอนสายๆ ไม่มีร่มเงาใดๆ ให้บังแดดได้เลย
"อ้าว ร้านพี่เค้ายังไม่เปิด" โถ่พี่ เสียเวลาจริงๆ นี่พวกหนูโดดเรียนกันมานะเนี่ย ฉันหล่ะ สุดเซ็ง
"เดินดูของกันก่อนเหอะ" อีบริทย์ชวนเดินเข้าไปร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยใกล้ๆ
"กรู อยากได้กระจก กับตลับใส่แป้ง" มันคงหมายถึงกระจกอันเล็กๆ กลับตลับพลาสติกกลมๆ สมัยนั้นนิยมเอามาใส่แป้งฝุ่น กับวาสลินไว้ทาปาก
อีบริทย์เลือกไปเลือกมา ฉันมองเห็นวิกผมกองอยู่กองเบอเริ่มเทิ่ม เลยไม่รอช้า เค้าไปเลือกๆ ดู แล้วก็ถามราคาพี่เค้า
"1200 จร้า" ฮ้าาา แบบเหมือนเมื่อวานเลย ร้านนี้ถูกกว่าตั้งเยอะ โห่ อีพี่คนนั้นหน้าเลือดโก่งราคากันนี่นา
"พี่ลดให้หนูหน่อยไม่ได้หรอ เมื่อวานหนูดูร้านโน้นมา ราคาไม่ถึงเลย" กรูนี่ขี้โม้จริงๆ ใครจะว่าลูกอีช่างต่อก็ไม่สนใจหรอก ดูดิ ยัยพี่คนนี้ลังเลใหญ่เลย เค้าหยิบวิกผมอันนี้ไปถามเจ๊ แล้วก็วิ่งมาบอกว่าลดให้เหลือ 1000 นึง เห็นบอกว่ารับมาก็ 800 แล้ว
ฉันมองหน้าอีบริทย์ เอาวะ พันนึงก็พันนึง ยังถูกกว่าร้านนั้นตั้งเยอะ สรุปฉันลองเลือกวิกมาสวม เอาอันที่ดูเข้าท่ามากที่สุด (เลือกของเค้าเกือบจะหมดร้านอยู่แระ - -*) เมื่อได้แล้วก็จ่ายตังค์พี่เค้าไป
เฮ้อ กระเป๋าเบาหย๋องเลยยยย เง้อออ
พูดถึงเรื่องผมขึ้นมา ฉันก็จับผมตัวเองขึ้นมา (ตอนนี้ยาวจะถึงสะโพกอยู่แล้ว) จับๆลูบๆ บริเวณปลายผม 555 หลายปีที่แล้ว ฉันเคยดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของมันแค่ไหน คิดแล้วขำ ตอนนี้มันแตกปลายหมดแระ ว่าจะเล็มก็เสียดาย มันมีความทรงจำฝังอยู่
------------------------
"ก๊ากกกก ๆๆ" พี่ช่างตัดผม ขำใหญ่เลยตอนที่ฉันสวมวิกให้แกตัดให้ แกเป็นกระเทยเหมือนกัน เราตัดผมกันมานานแระ
"พี่หยุดขำได้แระ.." ถึงฉันจะรู้ว่ามันสุดแสนจะตลก แต่ขอได้มั้ย เลิกซ้ำเติมหนูซักทีเหอะ พี่แกค่อยๆ จับวิกเข้าที่ แกเอาหวีมารองบริเวณข้างหู ค่อยๆ เอากรรไกรเล็มออกอย่างระวัง
อีบริทย์นั่งอ่านแมกกาซีนเพลินไปเลย วันนี้โดดเรียนกันทั้งวัน
"มันเอาออกเยอะไม่ได้นะ นี่ก็จะถึงฐานมันอยู่แระ" ฉันมองตามที่พี่แกพูด ความจริงเอาตรงท้ายทอย ตรงข้างหูออก และข้างบนอีกนิดหน่อยก็น่าจะโอเคแล้วนะ ฉันคิด
"คนอะไรไม่มีขวัญ" พี่แกยังเหน็บแนมไม่เลิก อร๊ายยยยยยยยส์ เลิกกัดได้แล้ว เดี่ยวเบี้ยวค่าตัดผมเรยหรอก
ซักพัก พี่แกปัดเศษขนลงจากตัวฉัน มันกองที่พื้นเป็นกระจุกใหญ่ เฮ้อ ตัดออกไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ดูแบบคนละทรงกะตอนแรกเลย ฉันมองดูตัวเองในกระจก และปฎิเสธไม่ได้ว่ามันดูทุเรศ และไม่เข้ากับหน้าฉันซะเลย ดีนะ อีบริทย์มันหลับ ไม่ง้านมันคงขำฉันตาย
ฉันจ่ายค่าตัดผมพี่แกไป 30 บาท ก่อนจะปลุกอีบริทย์ เดินเข้าไปโรงเรียนกัน ตอนนี้หล่ะ ลุ้นชิบ....
ที่ห้องฝ่ายปกครอง ฉันเข้าไปตอนแรกเจอนักศึกษาฝึกงานอยู่ ฉันแจ้งว่ามารับบัตรนักศึกษาคืน พี่แกบอกให้รอจารย์แป๊ปนึง หายใจยังไม่ทันทั่วท้อง จารย์เดินแบกกระเป๋าเข้ามาในห้อง อีบริทย์กะฉันเริ่มเกร็ง
"ตัดมาแล้วหรอ" จารย์ถาม ตอนเข้าไปนั่งโต๊ะ ฉันพยักหน้ารับ
"ไหนเอียงซิ" อาจารย์พูดพลางทำท่าเอียงหัว ฉันค่อยๆ เอียงซ้าย เอียงขวา จารย์ดูไปก็บ่นไป
"เราเป็นเด็กเก่าน่ะ ยิ่งต้องทำตามกฎ อาจารย์เองก็ไม่ชอบหรอก ไล่ตัดผมนักเรียนน่ะ เข้าใจอาจารย์ไหม" จารย์เปิดลิ้นชักโต๊ะ เลือกบัตรนักศึกษาที่มีรูปฉันออกมาจากจำนวนหลายสิบใบ จารย์ให้ฉันเซ็นชื่อไรซักอย่างก่อนปล่อยตัวไป
ฉันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่รู้สึกว่าดีใจมากๆ ฉันกระโดดโลดเต้นกับอีบริทย์อยู่สองคน มันแบบว่า สุดยอดจริงๆเลยนะ ถึงจะแพงไปซักหน่อย แต่ก็คุ้มหล่ะวะ
ปล. จากวันนั้นถึงวันนี้ ฉันยังไม่เคยตัดผมอีกเลย ( แต่ว่าก็เริ่มขอเอก จะตัดสั้นแระ แต่เอกยังไม่โอเค เรยระงับโครงการไว้ก่อน)
วันต่อมา ฉันแอบไม่เข้าแถว (เพื่อความปลอดภัย) พอคนอื่นเลิกแถวกันฉันถึงเดินเข้าโรงเรียนจ้ำอ้าวขึ้นห้องเรียน ฉันกะอีบริทย์ดิ่งไปนั่งหลังห้องเหมือนเดิม
"เฮ้ยๆๆ ดูหัวดิ อร๊ากกกกกกกๆๆ" ไอ้จ๊อดหิวส้นตรีนแต่เช้า คนยิ่งไม่มั่นใจอยู่ สาดด
"ก็ดีกว่าหัวเมิงอ่ะ เหม่งมาเชียว" ฉันล้อมันกลับ ไอ้จ๊อดตัดสกินเฮดมา สงสัยช่างคงแก้ไม่ได้ ไอ้จ๊อดแหยไปเลย
"ไมอ่ะ เท่ห์อ่ะ" ถุย พูดมาได้ มันพูดลอยหน้าลอยตา
"แล้วทำไมเมื่อวานไม่มาเรียน" เฮ้อ เมิงจะซักให้ได้พระแสงไรขึ้นมาเนี่ย
"ก็ไม่อยากจะมาเห็นหัวเหน่งๆ ของแกไง" พูดเสร็จ ฉันกับอีบริทย์ก็ปล่อยกร้ากกกส์ออกมาเสียงดัง ไอ้จ๊อดคงอาย โดนล้อไม่เลิก มันเลยหยุดพูดไป
ก่อนอาจารย์จะเข้าสอน เอกเดินเข้ามาทักฉันหน่อยนึง
"เดี๋ยวผมมันก็ยาว ไว้เรียนจบก่อนค่อยไว้ใหม่ก็ได้นะ" เอกคงนึกว่าฉันตัดผมไปจริงๆ เลยทำทีมาปลอบใจฉันใหญ่
ฉันได้แต่ยิ้มแหยๆ กลับไป ไม่ดีแน่ถ้าจะไปประกาศกับใครต่อใครว่าฉันใส่วิกมาโรงเรียน (อาจโดนล้อหนักกว่าเก่า) ฉันยอมให้ใครตราหน้าว่าเป็นกระเทยหัวโตยังงี้ ยังจะดีเสียกว่า T-T
ผ่านไปได้ซักช่วงหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างเอกกับอีเบนซ์คืบหน้า เอกเล่าว่าอีเบนซ์ถึงขั้นชวนไปเที่ยวด้วยกันนู่น เอาหล่ะวะ ยังไงๆ ถ้าจะไปก็ระวังตัวหน่อยละกัน คนอย่างอีเบนซ์มันร้าย อาจวางยานอนหลับแล้วข่มขืนก็ได้ พอไปเตือนมัน มันก็เอาแต่ยืนหัวร่อ เดี๋ยวเฮอะ โบราณว่าจิ้งจกทักยังต้องฟัง นี่กระเทยทักตัวเบอเร่อ จะไม่ฟังได้ไง
"วันนี้คาบหลังไม่เรียน รู้หรือยัง" เอกถามฉัน ฉันพยักหน้าตอบ อาจารย์สอนเค้าป่วยเลยลากะทันหัน ว่างตั้ง 2 คาบแน่ะ
"ไปติวหนังสือกันไหม อาทิตย์หน้าเริ่มสอบแล้ว" เอกหมายถึงสอบเก็บคะแนนน่ะสิ ดูซิ แป๊ปๆ จะกลางเทอมอีกแระ
เฮ้อ ใจจริงฉันอยากกลับไปนอนบ้านมากกว่า แต่คิดไปคิดมา ไปติวก็ดีเหมือนกัน เผื่ออีบริทย์จะได้ฉลาดกับเค้ามาบ้าง ฉะนั้นก็เลยตอบตกลงไป ไอ้จ๊อดขอตามไปด้วยอีกเหมือนเคย
"นี่แกจะตามอะไรพวกฉันนักหนาเนี่ย" ฉันหล่ะหมั่นไส้ เพราะได้ข่าวว่าเพื่อนเก่ามันก็นัดกันติวด้วยเหมือนกันนี่
"เอ๋า คนเค้าอยากได้ความรู้เนาะ แค่นี้ก็มาว่า" ไอ้จ๊อดโยนขี้กลับมาให้เฉยเลย แล้วไมเมิงไม่ไปให้อีเนสติวให้หล่ะ มันก็เก่งไม่ใช่เหรอไง
"ไม่เอาโว้ย เป็นไส้ศึกรึเปล่าก็ไม่รู้" ฉันพูดล้อมันไม่เลิก แต่ไอ้เชี่ยนี่มันทั้งด้านทั้งหนา มันรู้สึกอะไรเสียที่ไหนหล่ะ
"เหอๆ ไม่อยากให้ไปเป็นก้างก็บอกมาเฮอะ" มันพูด ก้างบ้าก้างบออะไรของเมิงอีกเนี่ย
"รู้นะ ว่าแอบกุ๊กกิ๊กกันกับไอ้เอกใช่ไหมหล่ะ" เย้ย ไอ้สาดนี่เพ้อเจ้อ ฉันสาบานได้ตอนนั้นไม่ได้คิดไรเกินเลยกับเอกเลยจริงๆ
"พูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าอีกแระ" ฉันด่ากลับ มันทำหน้างอนๆ พอแระๆ ไม่อยากจะเถียงไรกับมันแระ ลำพังใส่วิกก็ปวดหนังหัวพอตัวอยู่แล้ว ทั้งมัด ทั้งรั้ง ติดกิ๊ปอีกเพียบ ไปเถียงกับมันอีกเดี๋ยวไมเกรนแดกกันพอดี - -*
พอเรียนคาบสุดท้ายเสร็จ พวกเรานั่งรถไปบ้านเอกกัน บ้านเอกอยู่ไม่ห่างจากท่ารถขนส่งเท่าไรเลย ดีหล่ะ พอเลิกจะได้เดินมาขึ้นรถตรงนี้ได้เลย
"ป๊าหวัดดี" เอกยกมือไหว้พ่อ ทุกคนรีบไหว้ตามกันใหญ่ ป๊าเอกดุชะมัด ดูดิ จ้องพวกฉันตาเขม็งเลย
"พาเพื่อนมาติวหนังสือกันอ่ะป๊า แล้วแม่ไปไหนหรอ" เอกถามหา ป๊าแกชี้นิ้วเข้าไปทางหลังบ้าน เอกเลยพาพวกเราเข้าบ้านไป หมาบ้านเอกเห่าฉันกับอีบริทย์ไม่เลิก (หมาบรรลัย ชื่อไอ้ขนุน)
"แม่หวัดดี" พวกฉันเฮโรหวัดดีตาม อีกเหมือนเดิม แม่เอกยกมือรับไหว้
"มาทำไรกันเยอะแยะ" แม่เอกถาม
"ติวหนังสือกัน" เอกตอบแม่สั้นๆ ก่อนไปเปิดตู้เย็นหาผลหมากรากไม้ ใส่จานเบอเร่อ สงสัยเอามาเซ่นพวกฉันแน่ๆ หุหุ ดีหล่ะจะได้แอบใส่ถุงกลับบ้านไปด้วย ^^
เอกพาพวกฉันขึ้นไปห้องนอนของเอกชั้นสอง เข้าไปในห้องมีโปสต์เตอร์นักบอลติดอยู่เพียบเลย ฉันไม่รู้จักหรอกนะว่าใครเป็นใครน่ะ และไม่ใส่ใจจะถามด้วย ไปถึงฉันก็ขึ้นไปนอนแผ่หลาบนเตียงเอกหล่ะ เฮ้อ นุ่มสบายดีจัง อีบริทย์ตามมาติดๆ
"กินส้มไหม" เอกถาม พลางส่งยิ้มให้ ว่าก็ว่าเหอะ ฉันว่าเอกแปลกๆ เหมือนจะชอบฉันไงก็ไม่รู้ (หรือว่าคิดไปเองหว่า - -*)
"เหอะ ขี้เกียจแกะอ่ะ" จะแดกยังไม่วายขี้เกียจอีก กรูนี่ เอกนั่งลงข้างๆที่นอน เค้าปอกส้ม กองๆเอาไว้ (ไว้ให้ตูแน่เยย คริคริ) ฉันกับอีบริทย์ก็จกกินเรื่อย ไอ้จ๊อดมัวแต่สนใจกองซีดีอยู่เป็นตั้งๆ ในห้องเอกอยู่
"โห เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลย ยืมได้ป่ะ" ไอ้จ๊อดพูด เอกลุกขึ้นไปดู
"เรื่องนี้ไม่ค่อยหนุกนะ จะเอาไปดูก็ได้อ่ะ" เอกตอบ ไอ้จ๊อดคัดแยกเอาไว้เลย
"แผ่นนี้ไรอ่ะ" มันโชว์แผ่นซีดีขาวๆ ไม่มีชื่อเรื่องให้เอกดู
"เกมส์อ่ะ เอาไปก็ได้นะ" โหใจดีจริงๆเลยเนี่ย อดีตสุดที่รักเนี่ย ถ้าเป็นฉันน่ะหรอ จ้างก็ไม่ให้ยืม เดี๋ยวแผ่นลายหมด
"แล้วไม่มีหนังโป๊มั่งหรอ" ป๊าดดดดดดด ไอ้จ๊อดนี่เมิงชั่วจิงๆเลยนะ ฉันมองหน้าแมร่ง
"ก็มีนะ" ไอ้เอกตอบทันควัน เอ๋า แล้วทำไมเอกเป็นคนยังงั้นหล่ะน่ะ เง้ออออ เสียใจนะเนี่ย เอกหันมามองหน้าฉันยิ้มๆ แล้วพูด
"แต่ของพ่อน่ะ อยู่ห้องพ่อนู่น" เง้อ โทดพ่อเลยเชียว ดูจนตาแฉะหมดแระสิ ไอ้จ๊อดทำท่าเสียดายยยยยย สาดดดดด กรูให้มาติวหนังสือ ไอ้นี่เสือกมาถามหาหนังโป๊ จะดูไปทำไมอ่ะเมิง เมียเมอก็ยังหาไม่ได้เลย วุ้ย ว่าแล้วก็จกส้มใส่ถุงไปฝากพ่อฝากแม่ดีก่า เปรี้ยวหวาน หร่อยดี
ติวหนังสือกันเสร็จ พวกฉันนั่งรถกลับไปถึงบ้าน อีต๋องไปนั่งรออยู่ที่บ้านฉันเรียบร้อยแล้ว
"ทำไมกลับเย็นกันจังว้า" อีต๋องเห็นหน้าก็ถามเลย เดี๋ยวก่อนๆ ขอกรูไปล้างจานหุงข้าวก่อน เดี๋ยวพ่อมาไม่ได้กินข้าวบ่นกรูอีก ว่าแล้วฉันก็โยนหนังสือเข้าไปเก็บในบ้าน แล้วก็พับขากางเกงล้างหม้อข้าวส่งให้อีต๋องหุงให้ จากนั้นฉันก็ลุยกับจานกองเบอเร่อ ล้างไปล้างมา อยู่ดีๆ อีบริทย์ก็พูด
"เออ อีแบะ ตอนเมิงไปเข้าห้องน้ำน่ะ" เข้าห้องน้ำไหน ตอนอยู่บ้านไอ้เอกน่ะหรอ ไมวะ มีไรแปลกประหลาดแค่คนเข้าห้องน้ำ
"ไอ้จ๊อดมันถามไอ้เอกเว้ย" อีบริทย์พูดไปหัวเราะไป มันมีไรขำนักหนาวะ อีต๋องรอฟังด้วยเหมือนกัน
"มันถามว่า ไอ้เอกเป็นแฟนกะเมิงหรอ" เย้ออออ พูดเสร็จอีบริทย์ก็ขำก๊ากกกออกมา "กรูหล่ะหัวเราะแทบขี้แตก" หัวเราะหาพ่อเมิงหรอ ขนาดนั้นอ่ะ - -"
"ไอ้สาดจ๊อดนี่แมร่ง ชอบหาเรื่องให้กรูทุกวี่ทุกวัน" ฉันเริ่มใส่อารมณ์กับจานชามที่อยู่ในมือ รมณ์เสียอ่ะ เสียงจานชานดังโคร้งเคร้งๆ ไปหมด
"เมิงรู้ไหม ไอ้เอกตอบว่าไง" (แล้วกรูจะไปรู้กะมันเหรอ อีนี่ถามโง่ๆ เดี๋ยวกรูเอาซันไลต์กรอกปากเรย -*-)
"มันบอก เปล่าเว้ย แต่แมร่งหน้าแดงเป็นลูกตำแยเลย" จิงๆมันต้องลูกตำลึงไม่ใช่หรอวะ หรือว่ากรูจำผิด - -* อีต๋องขำฉันจนน้ำตาเล็ด เออๆ สนุกกันเข้าไป พวกเชี่ยนี่
"ยังไม่จบแค่นั้นนะเว้ย" อะไรอีกอ่ะ อีบริทย์เตรียมเผาฉันต่อ เมิงคงกะให้ไหม้เป็นจุญไปเลยสิ
"พอไอ้เอกตอบใช่ป่ะ ไอ้จ๊อดแมร่งก็เลยบอกว่า บอกว่า.." อีบริทย์พูดไปขำไป กรูจะไปรู้เรื่องกะแม่เมิงไหมเนี่ย
"ดีแล้วหล่ะ อย่าไปจีบเลยอีแบะน่ะ มันบอกเมิงดุอย่างกับหมาอ่ะ" พูดจบอีพวกนี้หัวร่อกันเอาเป็นเอาตายยย สาดเห็นคนอื่นด่ากรูแล้วชอบใจกันใหญ่ อร๊ายยยยยยยยยส์ แค่กรูแอบไปเยี่ยวนิดเดียว เมิงตีท้ายครัวกรูเลยใช่ไหม เดี๋ยวก่อนเหอะเมิง ไอ้จ๊อดด... ฮึ่ม..
วันรุ่งขึ้นฉันไปโรงเรียน พอดีเจอหน้าไอ้จ๊อดเข้า เรยเข้าไปเคลียร์ซักกะหน่อย
"โอ๊ยๆ ไม่ได้ด่า" ไอ้จ๊อดร้องเสียงดัง เวลาหัวเหม่งโดนตบนี่มันเสียงดีจริงๆ ดังแป๊ะ อีบริทย์ยืนขำ
"ไม่ยอมรับหรอ ไม่ลูกผู้ชายเลยนีหว่า แอบนินทาผู้หญิงลับหลัง" แหม ฉันสะบัดสะบิ้งไม่ใช่น้อย แหม ทำไปได้
"ผู้หญิงบ้าอะไร" ไอ้จ๊อดเริ่มเถียง
"ชอบใช้กำลัง"
"พูดก็ไม่เพราะ"
"แถมขี้เหร่อีกต่างหาก" โห - -* ว่ากรูซะไม่มีดีเลย เมิงด่ากรูยังงี้เมิงเอามีดมาฆ่ากรูดีกว่ามา ไอ้จ๊อดด่ามาเป็นฉากๆ ทนไม่ไหวแล้ววุ้ย ฉันยกมือจะบ้องหูมัน ไอ้จ๊อดยกมือป้องไว้ ปากรีบตะโกนใหญ่
"เราล้อเล่น ล้อเล่น" ไอ้จ๊อดเงยหน้ามามองแหยงๆ ไอ้นี่เล่นแรง กรูเคืองนะเนี่ย อีบริทย์อีต๋องยืนขำด้วยความสะใจ อีพวกนี้นิ เห็นเพื่อนโดนด่าแล้วมีฟามสุข -*-
"นี่แน่ะ หาว่ากรูขี้เหร่หรอ" ฉันเขกกะโหลกมันไปอีกทีนึง ไอ้จ๊อดเอามือเกาหัวใหญ่ เจ็บๆคันๆหล่ะเซ่ะ ชอบปากหมาดีนัก
"โห เบลอหมดแล้วเนี่ย" ไอ้จ๊อดบ่น พวกฉัน 3 คนหัวเราะร่าสมน้ำหน้ามัน มันมองหน้า
"แต่ เบลอว่ารักแถบ แบบว่ารักเธอนะ กร๊ากกกกกกส์ๆๆ" พูดจบไอ้จ๊อดใส่เกียร์หมาวิ่งขึ้นตึกไหม ฉันกะถอดรองเท้าเฟี่ยวหัวแมร่งแล้ว แต่แบบว่าเกรงใจ (คนตรึม)
แหม ไอ้นี่ มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ จิงๆ
ฉันวิ่งตามมันขึ้นห้องไป วันนี้ต้องเรียนติดกับห้องอีเบนซ์ด้วยสิ ฉันเห็นเอกนั่งคุยกับมันอยู่น่าห้อง เรยไม่คิดจะขัดจังหวะ ฉันกับอีบริทย์วางรองเท้าแล้วเดินเข้าไปอย่างสงบ แม้จะรู้ว่าอีพวกนี้ทำท่าล้อเลียนอยู่ข้างหลังก็เหอะ ทีใครทีมันโว้ย
เอกเดินตามฉันเข้ามาทันที เห็นบอกว่าจารย์มาสอนแล้ว เอ๋า จารย์จะขยันไรแต่เช้าเนี่ย ว่าจะเฉ่งกะไอ้จ๊อดซักหน่อย ดูดิ มันหลบหัวซุกหัวซุนอยู่มุมห้องโน่นน่ะ 555
วันนี้อาจารย์ติวข้อสอบให้พวกเรา วิชานี้ค่อนข้างยากส์เลยทีเดียว ฉันหล่ะกลัวกับอีบริทย์มาก เพราะเนื้อหามันค่อนข้างซับซ้อน กว่าฉันจะจับจุดได้ก็เล่นเอาแย่เหมือนกัน
"เดี๋ยวเมิงติวให้กรูด้วยน้า" อีบริทย์สะกิดฉัน
"เออ" ฉันตอบอย่างรำคาญ กรูเคยทิ้งเมิงหรือไงหล่ะ อีบริทย์ยิ้มอย่างพอใจ ไอ้จ๊อดคงอิจฉา มาอ้อนให้ติวให้ด้วยอีก
"ไม่โว้ย" อยากกวนตรีนดีนัก "เรื่องไรต้องติวให้" ฉันตอกย้ำ ไอ้จ๊อดเบะปาก
"ไม่มีน้ำใจ" ไอ้จ๊อดตั้งใจบ่นให้ฉันได้ยิน ฉันได้แต่แอบสะใจ เมิงก็ไปให้เมียเก่าเมิงติวให้เซ่ะ ฉันคิดในใจ ไอ้จ๊อดงอนงุดๆๆ
พวกฉันเห็นแล้วก็อดขำมันไม่ได้
"จำไว้" โห ดูมัน มีอาฆาตด้วย ฮ่าๆๆๆ
กว่าจะหมดคาบของจารย์แกได้ เล่นเอาฉันมึนไปเลย ฉันเร่งให้อีบริทย์เก่งของเร็วๆ เพราะตอนนี้หิวข้าวแย่แล้ว มันเรยรีบกุลีกุจอเก็บของแล้วเดินตามมา
"เอ๋า เร่งคนอื่นเค้าอ่ะ ตัวเองก็หัดเร็วๆบ้างดิ" ไอ้จ๊อดยืนตะโกนห่างจากฉันแค่ไม่ถึง 3 ก้าว เดี๋ยวดิ ไอ้เชี่ย กรูหารองเท้าไม่เจอเนี่ย ฉันก้มๆ เงยๆ หารองเท้า
"เอ... จำได้ว่าจอดไว้ข้างๆเมิงนี่นา" ฉันพูดกับอีบริทย์ ที่ตอนนี้ใส่รองเท้าเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว อีบริทย์มุดลงมาช่วยฉันหาใหญ่
"นี่ไง รองเท้าแบะ" ไอ้จ๊อดโพล่งขึ้น ฉันรีบเงยหน้าไปดู เออใช่ของกรูจิงๆ ด้วย ไปอยู่นั่นได้ไงน้า
"แต่... มีข้างเดียว" ไอ้จ๊อดพูดต่อ เย้ยยยย หายไปไหนอีกข้างหล่ะ คนอื่นเค้าก็ลงกันไปหมดแล้ว ไม่เห็นเหลือรองเท้าใครเลย มีคนแกล้งเปล่าว้าา
"หรือมีคนใส่ผิดไป" อีบริทย์พูด ฉันตบกะโหลกแมร่งไปทีนึง
"ใส่ผิดข้างเดียวเนี่ยน้า" ไอ้จ๊อดแอบขำ ฉันเดินเท้าเปล่าไปดูตามห้องใกล้เคียง ดูแล้วดูอีกก็ไม่มี ตอนนั้นในใจนึกสงสัยอีเบนซ์มากที่สุด เพราะเพิ่งเรียนห้องติดกันมา แต่ว่ามันจะกล้าขนาดนี้เลยหรอ อีบริทย์เริ่มหาตามซอกตามหลืบ หรือแม้แต่ในถังขยะ
"เฮ้ยยย อยู่นี่" อ๊ากกกก สัดเชี่ย รองเท้าอยู่ในถังขยะ ฉันรีบไปดู โห อยู่ลึกด้วยอ่ะ เอาไงหล่ะเนี่ย เอื้อมไม่ถึงแน่ๆเลย (ถังสูงเมตรกว่าได้มั้ง สีเขียวๆอ่ะมีฝาปิด)
"เอียงถัง ได้ไหมอ่ะ" ฉันกับอีบริทย์ลองเอียง แต่ไม่ไหวแฮะ วันนี้ขยะเยอะเหลือเกิน เหม็นมากด้วย พอดีไอ้จ๊อดวิ่งไปหาไม้สั้นๆ มาได้อันนึง เอาไม้เขี่ยนี่หล่ะวะ
"ถอยๆ" ไอ้จ๊อดเคลียร์พื้นที่ พวกฉันหลบออกมา
"โห ลึกเลยอ่ะ" ไอ้จ๊อดพยายามเอื้อมมือไป แต่สงสัยไม่ถึง เพราะมีขยะอย่างอื่นทับอยู่อีกอ่ะ นี่ถ้าไม่ติดเสียดายตังค์ ฉันจะตัดใจซื้อใหม่จริงๆด้วย
จ๊อดเอื้อมอย่างสุดเอื้อม มันเขย่งเท้าแล้วพยายามมุดเข้าไปในถังขยะ ฉันได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ และแล้วมันก็เขี่ยรองเท้าฉันออกมาได้
"โห เสื้อเปื้อนเลย" อีบริทย์พูด ไอ้จ๊อดรีบมองเสื้อขาวจั๊วะของตัวเอง มันเอามือปัดๆ โหซึ้งใจจิงๆเลย ฉันวิ่งวุ่นไปทำความสะอาดกับรองเท้าอยู่นี่หล่ะ เป็นนานสองนาน ก็ใครจะใส่เข้าไปลงอ่ะ แขยงเท้าอ่ะ
กว่าจะได้กินข้าวก็เที่ยงกว่าแระ ไอ้จ๊อดโซ้ยข้าวเต็มที่ แต่เป็นฉันซะอีกที่กินไม่ค่อยลง
"อ้าว ทำไมไม่ค่อยกินอ่ะ ไหนบอกหิว" อีบริทย์ถาม
"ก็เหม็นไอ้จ๊อดอ่ะ ทั้งกลิ่นน้ำหอม กลิ่นขยะ ตีกันมั่วไปหมด กรูจะอ๊วกอยู่แล้วเนี่ย" ฉันตอบ ไอ้จ๊อดแดกข้าวเต็มปาก หันมาเคืองใหญ่ มันมองหน้า ฮ่าๆๆๆ ฉันนี่ก็ไม่ไหวเลย คนอุตส่าห์ช่วยแท้ๆ (แต่มันเหม็นจิงๆน้า วันนั้นไม่อยากเข้าใกล้เลยจิงๆ หง่ะ)