Because you're my love. (UP! Special4 P.5) [10/02/2014]<< END ย้ายได้เลยค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Because you're my love. (UP! Special4 P.5) [10/02/2014]<< END ย้ายได้เลยค่ะ  (อ่าน 67862 ครั้ง)

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! Special3 P.4) [09/08/2013]
«ตอบ #120 เมื่อ08-02-2014 17:35:45 »

กลับมาลงนิยายต่อ  คราวนี้จะลงรวดจนจบเลยนะคะ อีกแค่ 3 ตอนก็จะจบแล้ว  :mew1:




Special 3 : การทะเลาะกันของคู่รัก (2) - เรื่องราวความรักที่พุ่งเข้าหาโดยไม่รู้ตัวของทิว




               นับว่าเป็นเรื่องน่าแปลกที่คืนนี้เจ้าลูกชายมันกลับมานอนที่บ้าน  ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่กลับมานอนบ้านเลย…เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสองคนนั้นกันแน่นะ  แต่ถึงจะสงสัยมากมายเพียงไร  ก็ต้องหยุดมือของตนที่กำลังยื่นไปเคาะประตูไว้เพียงแค่นั้น  ลูกชายของเขาที่โตแล้ว  ไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไป  คงได้แต่หวังว่าจะแก่ปัญหาของตัวเองได้ล่ะนะ
 
                ภายในห้องนอนของเขา  บนเตียงที่เคยนอนกอดคนที่รักเอาไว้  ตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
 
                “นี่เราพูดแรงไปรึเปล่านะ”
 
                เมื่อมานึกย้อนดูการกระทำของตนเองแทมินก็ส่ายหัว  ไม่หรอก  เขาไม่ได้เป็นคนผิดสักหน่อย  เป็นเพราะไผ่ที่เอาแต่ใจมากเกินไปต่างหาก  อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาเขาตามใจไผ่มากเกินไปมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้  แต่…มันก็จริงอย่างที่ไผ่พูด  ช่วงนี้เขาอาจจะทำงานมากเกินไปจริงๆ  บางทีไผ่อาจจะทำเพราะความเป็นห่วงก็ได้   แล้วอีกอย่าง  ที่เขาทำงานหนักขึ้นในช่วงนี้ก็เพราะอยากทำให้ความปรารถนาของไผ่เป็นจริงก็เท่านั้นเอง…
 
                “เวรจริง  ดันเผลอปากบอกเลิกไปซะแล้วอ่ะ…ทำไงดีวะเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!”
 
                จะมานึกเสียใจอะไรตอนนี้กันนะ  เพราะความหงุดหงิดไม่เข้าท่าของตัวเองไม่ใช่เหรอ  ตัวเขาที่ทำงานมาเหนื่อยๆ  พอเจอสถานการณ์กดดันก็เลยโมโหง่าย  แล้วทีนี้จะขอโทษไผ่ยังไงดี
 
                “ใครก็ได้ช่วยตูด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
 
                เสียงตะโกนแหกปาก  ทำให้ผู้เป็นพ่อที่ยังคงยืนลังเลอยู่หน้าห้องของแทมินเผยรอยยิ้มพึงพอใจ  คิดได้แล้วสินะ  เจ้าลูกชายสมองทึ่ม…
 
                …
 
                …
 
                …
 
                หลังจากที่ไผ่ร้องไห้จนผล่อยหลับไป  คนเป็นพี่เช่นเขาได้แต่จมอยู่ในห้วงคิด  ทำอะไรไม่ได้นอกจะรับฟังและคอยปลอบใจ  ทั้งๆที่ใจเขาอยากโอบกอด  และจูบซับน้ำตาที่รินไหล…หึ  น่าสมเพชตัวเองชะมัด  ผ่านมาตั้งสองปีแล้วก็ยังไม่สามารถตัดใจได้  ทิวก้มลงมองคนที่เขารักในคราบของน้องชายฝาแฝด  มือข้างหนึ่งเช็ดน้ำตาที่ยังคงมีเหลืออยู่บนใบหน้า
 
                เขาจะไปถามพี่แทมินให้รู้เรื่องว่ามันเป็นยังไงกันแน่  และหากพี่แทมินไม่ต้องการไผ่แล้วจริงๆล่ะก็  มันคงไม่สายเกินไป…ถ้าเขาจะลงมือทุบกระจกบานนั้น  กระจกที่ขวางกั้นระหว่างเขากับไผ่
 
                เช้าวันนี้ทิวเตรียมแต่งตัวเพื่อไปมหาวิทยาลัยโดยยืมชุดของไผ่ใส่ไปก่อน
 
                “ทิว..ไผ่ไม่อยากไปเรียนเลย  T^T”
 
                น้องชายเริ่มงอแง  ทิวได้แต่ยิ้มปลอบ
 
                “เอาน่า  ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปก็ได้  ขาดเรียนสักวันคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ ^^”
 
                “แต่ว่าวันนี้มีสอบย่อยด้วย  ทำไงดี T^T”
 
                “ง่ะ นั่นสินะ  ไว้ค่อยไปขออาจารย์สอบใหม่วันหลังดีไหม”
 
                ไผ่คว้ามือของทิวเข้าไปกุมไว้แล้วทำสายตาเว้าวอนสุดชีวิต
 
                “พี่ชาย  ไปเรียนแทนเค้าทีสิ”
 
                “ O_o!!!!!”
 
                ทิวอึ้ง!  ไม่ใช่อึ้งกับคำขอแต่อึ้งกับสายตาหวานเยิ้มที่สาบานได้เลยว่าคนทำหน้าตาเหมือนกับเขา  ตกลงว่าถ้าตูทำก็ออกมาแบบนี้ใช่ไหมเนี้ย!!!!!!!!!  อ่ะ  แต่ก็คงไม่น่ารักเท่าไผ่หรอกมั้งนะ  >///<
 
                “นะๆๆ  วันนี้วันเดียวนะ  ไปเรียนแทนที”
 
                “เอ่อ  เอางั้นก็ได้  ยังไงวันนี้พี่ก็มีเรียนแค่คาบเดียวเองแถมยังเป็นวิชาเรียนรวมด้วย  เขาไม่เช็คชื่ออยู่แล้วล่ะ  ^^”
 
                สุดท้าย..ก็ทนลูกอ้อนไม่ไหว
 
                “เย้  รักทิวที่สุดเลย!”
 
                ว่าแล้วก็โผเข้ากอดพี่ชาย  ทำเอาทิวอึ้งหนัก  ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลย  เขาจะเขินตายอยู่แล้ว TOT
               
                …
 
                …
 
                …
 
            และแล้วก็กลายเป็นว่าวันนี้ผมต้องมาเรียนแทนไผ่  นี่ดีนะที่ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่กรุงเทพพร้อมกับแม่เฒ่า  สีผิวของผมก็ขาวขึ้นเหมือนกับไผ่  แล้วยังทำผมทรงเดียวกันอีกต่างหาก(เพราะความประสงค์ของไผ่)  เลยทำให้แทบจะไม่มีใครแยกพวกผมออกเลยแม้แต่พี่แทมิน  จะมีให้ดูก็ตรงที่ผมจะยิ้มกับทุกคนไปทั่วนั่นล่ะทุกคนถึงจะแยกออก
 
                ว่าแต่ว่า….ข้อสอบพวกนี้มันอาร้ายยยย!  ไม่เห็นจะรู้เรื่องสักตัว -*-  ไผ่น้องรัก  ถ้าการสอบครั้งนี้ทำให้น้องมีสิทธ์ได้เกรดอันไม่พึงประสงค์ก็ได้โปรดยกโทษให้พี่ด้วยก็แล้วกันนะT^T  บอกตามตรงครับว่าถึงจะอยู่มหาลัยเดียวกัน  เป็นฝาแฝดกัน  แต่ถ้าทำข้อสอบข้ามคณะกันแบบนี้ ดับสนิทแน่นอน =_=”
 
            “เฮ้ยว่าไงไอ้ไผ่  สอบคราวนี้เต็มอีกแล้วใช่ไหมมึง”
 
                คนที่ทัก  ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเพื่อนของไผ่  เห็นเดินไปไหนมาไหนเดียวกันประจำ….ชื่อไรแล้วน้า  …เน  เน…..เนม!  เออใช่มันชื่อเนม
 
                “จะขอขอบคุณพระเจ้าเลยถ้าได้เต็มอย่างที่เนมว่า”
 
                “โห  ไม่ต้องมาทำเป็นแกล้งโง่เลยวะ  แม่งสอบทีไรมึงล่ะได้เต็มทุกที  กูล่ะโคตรรรรรจะอิจฉา”
 
                เหอะๆ  ก็รู้อะนะว่าไผ่ฉลาด  แต่ไม่นึกว่าจะได้เต็ม  แล้วนี่ถ้าอาจารย์สงสัยขึ้นมาจะทำยังไงล่ะทีนี้
 
                “เออ  ว่าแต่ที่เราตกลงกันไว้  ว่าไงวะ”
 
                อ่าว  ชิบหายแล้วไหมล่ะ  ตกลงอะไรกันอีก
 
                “เอ่อ….โทษทีนะเนม  เราลืมไปแล้วว่าตกลงอะไรเอาไว้ ^^” “
 
                เอาแล้วไง  เนมมองผมตาไม่กระพริบ  จะบอกให้นะว่าถึงนายจะหน้าตาขาวตี๋  สูงเพรียวและดูเท่แค่ไหน  ผมก็ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด (แล้วจะบรรยายความหล่อของมันเพื่อ?????)
 
                “ไอ้เรื่องนั้นไว้ทีหลัง  ว่าแต่วันนี้กูว่ามึงแปลกๆนะ  ทุกทีเห็นแทนตัวเองด้วยฉันไม่ใช่เหรอ”
 
                อ่าว   แล้วผมจะรู้ไหมเนี้ย!  ซวยแล้วเนมมองผมด้วยสายตาจำผิดอย่างรุนแรง
 
                “ก็…ไม่มีอะไร  แค่อยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศ”
 
                แน่ะ  ยังทำสายตาไม่เชื่อมาอีก -*-
 
                “งั้นก็แล้วไป  ว่าแต่มึงนึกไม่ออกจริงอ่ะว่าเรื่องอะไร”
 
                “ใช่  พอดีว่าช่วงนี้เบลอๆสงสัยจะอ่านหนังสือมากไป^^”
 
                “นั่นแน่  อ่านหนังสือมากไปหรือว่ามัวแต่จึ้กกะดึ้ยกับแฟนกันแน่ว้า”
 
                ง่ะ….
 
                “จะบอกใหม่อีกครั้งก็ได้  คราวนี้ห้ามลืมอีกนะเฟ้ย”
 
                “อืม”
 
                เนมหันซ้ายหันขวา  เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแล้วก็กระดิกนิ้วให้ผมเข้ามาใกล้ๆ  เพื่อที่เขาจะได้กระซิบบอกผมได้ถนัด
 
                “เรื่องที่ว่าก็คือ….แบบนี้ไงล่ะ!”
 
                ว่าแล้วเนมก็จัดการหอมแก้มของผมเข้าไปฟอดใหญ่!!!!!
 
                “ฮะๆๆๆ  ว่าแล้ว  เป็นทิวจริงๆด้วย  ก๊ากๆๆๆ”
 
                “เล่นงี้หมายความว่าไง  แล้วรู้ได้ไงเนี้ย!”
 
                “ก็…สังเกตมาตั้งแต่ตอนที่ตั้งใจจะลอกข้อสอบแล้วล่ะ  เห็นทำผิดเยอะก็เลยเริ่มสงสัย^^”
 
                ทำผิดเยอะ - -*  ใช่สิ  ก็ผมไม่รู้เรื่องจริงๆนิ  ว่าแต่ถ้าถึงขนาดที่รู้ว่าผมทำผิด  มันก็คงจะฉลาดพอ  แล้วจะหันมาลอกผมทำมายยยยยยยยย  เนมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  เหอะๆ  โดนจับได้ซะแล้ว  แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะเครียด!
 
                “แล้วมาหอมแก้มเราทำไม  ต้องการอะไรกันแน่!”
 
                “ใจเย็นๆ  อย่าเพิ่งโกรธ  หน้าบึ้งๆน่ะ  ให้ไอ้ไผ่มันทำคนเดียวก็พอแล้ว”
 
                “งั้นก็บอกมาสิว่าต้องการอะไร”
 
                “ก็…แค่อยากจะแกล้งเท่านั้นไม่ได้ต้องการอะไรสักหน่อย”
 
                “งั้นก็แล้วไป  ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
 
                “ไม่มีทาง”
 
                “อะ อะ  ไอ้……..”
 
                ให้ตายสิ  ตอนนี้ความอดทนของผมกำลังจะหดหาย  ไผ่นะไผ่  คบคนแบบนี้เป็นเพื่อนได้ยังไงเนี้ย
 
                “พูดคำหยาบเนี้ยมันไม่ดีน้า ^^”
 
                แล้วทีเอ็งล่ะ  เล่นขึ้นมึงกูกันเลยไม่ใช่เรอะ!!!
 
                “เอาน่าๆ  อย่าเพิ่งโกรธเลย  ว่าแต่ไอ้ไผ่มันไปไหนเหรอถึงไม่มาเรียน”
 
                เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยนะ - -^
 
                “ไผ่ไม่สบายนิดหน่อย”
 
                “อ่าว  ไม่ใช่เรื่องแฟนหรอกเหรอ  เห็นบ่นๆอยู่ว่าช่วงนี้แฟนแปลกไป”
 
                รู้อยู่แล้วจะถามเพื่อ??
 
                เมื่อเนมเห็นทำทำหน้าประมาณว่าอยากจะฆ่ามันใจจะขาดมันก็หัวเราะเสียงแห้งไปเลย
 
                “เอาเป็นว่าเราไปเรียนคาบต่อไปกันดีกว่านะ  เดี๋ยวจารย์จะเช็คสายเอา”
 
                ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร  เนมก็จัดการจับมือของผมพาวิ่งซะอย่างนั้น  เฮ้ย เดี๋ยวจะ  ทำไมต้องจับมือด้วยเล่า!!!!
 
            โอยยยย  ผมอยากจะบ้าตาย  จะขอสาบานตรงนี้เลยว่าจะไม่มาเรียนแทนไผ่อีกเด็ดขาดไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ  ไม่งั้นไอ้บ้าเนมมันจะทำให้ผมบ้าตามมันไปจริงๆ  และไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้  รถฮอนด้าที่ผมคุ้นเคยก็เข้ามาจอดใกล้ๆกับม้านั่งที่ผมกับเนมนั่งอยู่พอดี
 
                “ไผ่  ทำไมถึงไม่รับสายมินล่ะ”
 
                ครับ  รถคันนี้เป็นของพี่แทมินนั่นเอง  แล้วจะให้ผมรับได้ยังไงในเมื่อผมไม่ใช่ไผ่  ผมหันไปมองหน้าเนมเป็นเชิงขอตัว  ซึ่งดูเหมือนว่าเนมก็คงเข้าใจในเรื่องที่ทำไมวันนี้ผมถึงมาเรียนแทนไผ่
 
                “ผมว่าคุยตรงนี้ไม่สะดวกนะ พ…แทมิน”
 
                เกือบจะหลุดคำว่าพี่ไปแล้วไหมล่ะ -*-  ผมกับพี่แทมินพากันไปนั่งตรงม้านั่งที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก
 
                “บอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงไม่รับสาย”
 
                “พวกเราไม่ได้ป็นอะไรกันแล้วนี่ครับ”
 
                “ไผ่  มินขอโทษ  ตอนนั้นมินเหนื่อยแล้วก็หงุดหงิดไปหน่อย  ขอโทษจริงๆ”
 
            ทำไมกันนะ  ต้องให้รู้ตัวก่อนว่าผิดพลาดรึไง  ถึงได้มาสำนึกผิด
 
                “แล้วไงครับ”
 
                “เรากับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิมเถอะนะ”
 
                “ผมไม่ใช่ของตายนะครับ  ที่นึกจะเลิกเมื่อไหร่ก็ไป  นึกจะคืนดีเมื่อไหร่ก็มา”
                น่าน  ประชดซะ
 
                “ผมถามจริงๆเถอะ  แทมินรักผมแน่เหรอ”
 
                “รักสิ  รักมากที่สุดเลยด้วย”
 
                “ถ้าหากว่ารัก  แล้วทำไมถึงรับในสิ่งที่ผมเป็นไม่ได้ล่ะครับ  รึว่าแทมินยึดติดกับตัวผมคนเดิมที่แทมินรู้จัก”
 
                “ไม่  ไม่ใช่แบบนั้น  มินรักไผ่จริงๆนะ”
 
                ผมถอนหัวใจออกมาเฮือกใหญ่  ไม่ว่ายังไงก็ยังรักไผ่อย่างนั้นสินะ  ในเมื่อเจ้าตัวว่าอย่างนั้นแล้วตัวผมจะทำอะไรได้  นอกจากให้ไผ่เป็นคนตัดสินใจเอง
 
                “ผมคิดว่าเรื่องนี้  พี่แทมินควรจะไปพูดกับไผ่จะดีกว่านะครับ”
 
                “เอ๋  แล้วนี่…”
 
                แทบจะขำก๊าก กับท่าทีตะลึงจนตาโตของพี่แทมิน  นี่แสดงว่าไม่ได้เอ่ะใจเลยสินะ  จริงๆสิ  นอกจากเนมแล้วไม่มีใครดูออกเลยสักคนนี่นา
 
                “ผมทิวต่างหากล่ะพี่แทมิน  ไผ่เขาอยู่ที่อพาร์ทเมนท์  ไปหาสิ^^”
 
                “อืม”
 
                “พี่แทมิน…”
 
                “อะไรเหรอ”
 
                “พูดในสิ่งที่ใจพี่คิดเถอะนะ  อย่าใช่อารมณ์อีกเลย  ผมไม่อยากเห็นไผ่ต้องเสียใจอีก  และถ้าหากพี่ไม่ต้องการไผ่  ทำให้ไผ่ต้องเสียใจอีกล่ะก็  ผมก็ขอให้พี่ปล่อยมือจากไผ่ไปซะ”
 
                “ทิว…”
 
                “และเมื่อถึงตอนนั้น  ผมจะขอรับตัวไผ่ไว้เอง”
 
                นี่ไม่ใช่การขู่  แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ  ถ้าหากคนๆนี้ทำให้ไผ่ต้องร้องไห้อีกครั้ง  ผมก็จะไม่ลังเลที่จะทุบกระจกบานนั้นแล้วเอื้อมมือไปคว้าไผ่…
 
                พี่แทมินขับรถออกไปแล้ว  เนมก็เดินมานั่งตรงหน้าผม
 
                “เป็นไง  ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม^^”
 
                “ไม่รู้สิ  คงต้องแล้วแต่ไผ่ล่ะมั้ง  ถ้าเป็นอย่างที่เนมพูดก็ดีน่ะสิ”
 
                “ทิวเนี้ยรักน้องชายจังเลยเนอะ”
 
                “แน่อยู่แล้ว  ไม่ห่วงน้องชายแล้วเราจะไปห่วงใครล่ะ”
 
                “เอาแต่ห่วงเรื่องของคนอื่น  แล้วเรื่องของตัวเองล่ะ  เคยห่วงมักรึเปล่า”
 
                จะล้อเล่นอะไรผมอีกล่ะ  ถึงได้ถามอะไรแบบนี้ -*-
 
                “อยากจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ  เราไม่ได้ฉลาดพอที่จะเดาความคิดของเนมได้หรอกนะ”
 
                “ทิวจะเป็นแฟนกับเนมได้ไหม”
 
                “โธ่เอ้ย  เรื่องแค่นี้เอง…….หา!!!!!!”
 
                “เนม..ชอบทิวนะ  จะเป็นแฟนกับเนมได้ไหม”
 
                ตายล่ะสิครับ  ไอ้นี่มันต้องล้อผมเล่นอีกแน่ๆเลย
 
                “จะล้อเล่นอะไรเราอีกล่ะเนม….เราไม่ขำนะ”
 
                “ไม่ได้ล้อเล่นนะ!!!”
 
                ผมสะดุ้งกับเสียงที่ดังขึ้นและท่าทีจริงจังของเนม  นี่อย่าบอกนะว่า…
 
                “เนมชอบทิว  ชอบตั้งแต่ตอนที่ไผ่แนะนำทิวให้รู้จักแล้ว  ถึงพวกนายจะเหมือนกันสักแค่ไหน  แต่ยังไงทิวก็โกหกสายตาของเนมไม่ได้หรอก  เนมรู้…รู้ตั้งแต่ที่เจอกันวันนี้แล้วว่าคนที่เข้าห้องมาไม่ใช่ไผ่  แต่เป็นทิว”
 
                อ้าว  ตกลงที่บอกว่ารู้ตอนลอกข้อสอบก็โกหกอ่ะดิ  แล้วที่หอมแก้มผมไปก็….
 
                “ช่างเถอะ  เอาเป็นว่าเมื่อกี้เนมพูดเล่นก็แล้วกัน  ขอโทษนะ”
 
                เนมทำท่าจะลุกขึ้นแต่ไม่รู้ทำไมเจ้าแขนเฮงซวยของผมดันไปคว้าเสื้อของเขาซะได้  แล้วทีนี้ผมจะพูดกับเขาว่าไงดีล่ะครับ -*-
 
                “มีอะไรเหรอ”
 
                “เอ่อ….คือเรื่องเมื่อกี้….”
 
                “????”
 
                “ตอนนี้…เราก็ยังไม่มีแฟน  ถ้ายังไง……จะคบด้วยก็ได้”
 
            “O.O!!!!!”
 
                “แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าเราไม่ได้คิดอะไรกับนาย”
 
                สีหน้าที่ดูจะมีความหวังขึ้นมาของเนมก็พลันหมองลงเล็กน้อย
 
                “ถ้าไม่ได้คิดอะไรด้วยแล้วจะตอบตกลงคบกับเนมทำไม”
 
                “คือ…เราคิดนะ…ก็แค่คิด”
 
                หากเราทุบกระจกบานนั้นแล้วผลมันจะเป็นยังไง  ถ้าไผ่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเราล่ะ  เราจะทำยังไง  เราจะกล้ามองหน้าไผ่ได้ยังไง  ความสัมพันธ์ของพวกเราก็คงจะไม่เหมือนเดิม  กับยิ่งห่างกันออกไป  สุดท้าย…ผมก็ยังคงขี้ขลาด  ไม่กล้าที่จะทุบกระจก  ได้แต่ปากเก่งไปอย่างนั้น
 
                “ถ้าเนมทำให้เรารักได้ก็ไม่มีอะไรเสียหายไม่ใช่เหรอ  ถึงตอนนี้จะกลายเป็นแฟนโดยที่เราไม่ได้คิดอะไรด้วย  แต่เนมก็มีโอกาสมากกว่าเมื่อก่อนจริงไหม”
 
                เมื่อผมพูดจบเนมก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีและ…ขโมยหอมแก้มผมไปอีกฟอด
 
                “ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะ  ทิวสุดที่รัก  ^^”
 
                “อ่ะนะ  -*-“
 
                และเรื่องราวความรักของผมกับเนม  ก็เริ่มขึ้น…
 
            -----------------------------------------------------------------------------------------------

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! Special3 P.4) [09/08/2013]
«ตอบ #121 เมื่อ08-02-2014 17:39:31 »

Special 3 : การทะเลาะกันของคู่รัก (จบ)


                 ภายในอพาร์เมนท์ที่ถึงแม้จะมีผู้คยพลุกพลานมากมายเพียงไรแต่ภายในห้องของผมกลับเงียบเหงา  ทั้งๆที่คิดว่าคงจะไม่ได้สัมผัสความรู้แบบนี้อีกแล้วแท้ๆ  แต่สุดท้ายผมก็คงไม่เหมาะกับคำว่าความสุข…ความเหงาที่ต้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียว  ความเดียวดายเพราะไม่มีใครต้องการ…ทำไมกันนะ  ผมน่าจะชินกับมันได้แล้วนี่นา…แล้วผม…ร้องไห้ทำไมกัน
 
                หยดน้ำตาที่คิดว่าได้หยุดไหลไปแล้วกลับไหลลงอีกครั้ง  เกลียดตัวเองเหลือเกินที่กลายเป็นคนอ่อนแอไปเสียแล้วกับเรื่องแค่นี้  ชินสักทีสิ  เคยอยู่คนเดียวมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ  คราวนี้จะอยู่คนเดียวอีกมันจะเป็นไรไป….
 
                ปลอบใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนบ้า  เพียงเพราะได้สัมผัสกับแสงสว่างเลยทำให้ตัวเองอ่อนแอลง  แทมิน…ทำไมถึงได้ผิดสัญญา  ไหนบอกว่าจะเป็นความสุขให้ผมไง  ไหนบอกว่าจะไม่ทำให้ผมร้องไห้ไง…
 
                แทมินมาถึงหน้าห้องของไผ่แล้ว  ใจอยากจะรีบทะลุประตูไปกอดไผ่ซะเดี๋ยวนี้  แล้วขอโทษ  ขอโทษจนกว่าไผ่จะยกโทษให้  แต่ประตูก็ล็อค  โชคดีที่เขาพากุญแจสำรองมาด้วย
 
                แกร๊ก
 
                แทมินไขประตูเข้าไป  ภายในห้องมืดสนิท  มีเพียงเสียงร้องไห้แผ่วเบาที่ทำให้หัวใจของเขารู้สึกเจ็บ  เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟ  แล้วก็พบไผ่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง
 
                “ไผ่…”
 
                แทมินตรงเข้ามากอดผมแนบแน่น  และกระซิบคำว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
 
                “มาหาผม…มีธุระอะไรรึเปล่าครับ  พี่แทมิน”
 
                แทมินคลายอ้อมกอดลงทีนทีที่ได้ยินผมเรียกเขาว่าพี่…
 
                “ไม่เอานะไผ่  อย่าเรียกมินแบบนั้นนะ  มินขอโทษ  ไผ่อย่าทำอย่างนี้เลยนะ”
 
                “พวกเรา…เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอครับ”
 
                “ไผ่  มินผิดเอง  ขอโทษที่โมโหใส่ไผ่นะ  เพราะฉะนั้นอย่าทำแบบนี้เลย”
 
                “ทั้งๆที่สัญญาแล้ว  ว่าจะไม่ทำให้ผมร้องไห้….”
 
                “ขอโทษ  มินจะไม่ทำอีกแล้ว  อย่าร้องไห้นะ”
 
                “ไหนบอกว่าจะเป็นความสุขให้ผม…แล้วทำแบบนี้ทำไม  ฮืออ”
 
                “อย่าร้องนะ  มินจะไม่ทำให้ไผ่เสียใจอีกแล้ว  หยุดร้องนะคนดี  เรามาดีกันนะ  มินสาบานเลยว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
 
                ผมกอดตอบแทมินแล้วร้องไห้หนัก  เพราะผมรักเขาถึงได้ยอมยกโทษให้ง่ายๆ  ผมถึงได้เกลียดตัวเองยังไงล่ะ  ไม่ว่าอะไรก็ให้อภัยเขาไปซะหมด  ไม่ว่าจะเป็นเซน  พ่อกับแม่  ทิว  หรือแม้แต่แทมิน  แต่ถ้าหากผมต้องเสียใจเพราะเขาอีกครั้งล่ะก็  ผม…จะไม่ยกโทษให้เขาอีกเพราะหัวใจของผมไม่ได้มีหลายดวงไว้ให้เขาทำให้มันแตกสลายและทำให้รัก
 
                “ผม…กลัวเหลือเกิน”
 
                “…”
 
                “กลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว  เหมือนความรู้สึกเมื่อสมัยก่อนมันกลับมาทิ่มแทง”
 
                แทมินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
 
                “ตอนที่ผมเป็นเด็ก  ผมเฝ้ารอพ่อกับแม่ที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่อยู่เพียงลำพัง  ทั้งเหงาทั้งกลัว  จนสุดท้ายผลที่ได้รับจากการรอคอยก็คือทำให้พ่อกับแม่ไม่พอใจ  มัน…เหมือนกับเมื่อวานเลย”
 
                ผมระบายความในใจให้แทมินได้รับรู้  ผมจะบอกเขาว่าผมคิดยังไงกับการกระทำของเขาตลอดช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
 
                “ขอโทษนะ”
 
                คำขอโทษที่แทมินเอ่ยซ้ำไปซ้ำมา  มันยิ่งตอกย่ำถึงความใจดีของตัวผมเอง  ถ้าหากผมเข้มแข็งกว่านี้อีกสักนิดก็คงไม่ต้องเกลียดตัวเองอยู่แบบนี้…
 
                “ตั้งแต่เล็กจนโต  ผมไม่เคยทานข้าวกับครอบครัวเลย  ต้องอยู่คนเดียว  ทานข้าวคนเดียว  มันเหงามากเลยแทมิน  ผม…”
 
                น้ำตาที่แห้งไปเริ่มคลออีกครั้งเมื่อนึกถึงตัวเองเมื่อครั้งเป็นเด็ก  บนโต๊ะทานข้าวที่ดูใหญ่โตเหลือเกินในสายตาเด็กอย่างเขา  และมีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนั้น  ทุกวัน…ทุกวัน
 
                “และที่ผมทนไม่ได้คือคำพูดของแทมินที่ว่า ‘ทำโอที  ก็เพราะอยากจะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ  เพื่ออนาคตของเรา’  แทมินรู้ไหมว่ามันเหมือนกับคำพูดของพ่อแม่ที่กรอกหูผมมาตั้งแต่เล็ก ‘ที่พ่อกับแม่พยายามทำงานหนักก็เพื่อครอบครัวของเรานะ’  เพราะคำพูดพวกนั้นมันทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักจนแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย  จนในที่สุดพวกเขา…ก็ลืมผม  แทมินกำลังจะเป็นเหมือนพวกเขา  อีกไม่นานแทมินก็จะลืมผมเหมือนกันใช่ไหม…”
 
                 “ไม่  ไม่นะที่รัก   อย่าร้องไห้”
 
                 “ถ้าเพียงคำพูดพวกนั้นแล้วผมต้องเหงาอยู่คนเดียวแบบนี้  ผมก็ไม่ต้องการ…ไม่อยากได้”
 
                 “มินไม่ลืมหรอก  ที่มินทำงานหนักในช่วงนี้ก็เพื่อที่จะได้ขอลาหยุดยังไงล่ะ”
 
                 คำพูดของแทมินทำให้ผมต้องหันไปมองเขา…ลาหยุด?
 
                 “นี่อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้  เมื่อวันก่อนไผ่บอกมินว่าอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นดูสักครั้งไม่ใช่เหรอ”
 
                 “ผม…เคยพูดเหรอ”
 
                 “เคย =_=”
 
                 ผมพยายามจะนึกทบทวนดูว่าเคยพูดแบบนั้นจริงๆเหรอ
 
                 ‘โห  แทมิน  ซากุระสวยจัง’
 
                 ผมเอ่ยเมื่อได้ดูรายการรอบดึกเซย์ฮันโหล(รู้นะว่ารายการไร  มะเอ่ยถึงๆ เพราะมะได้ค่าสปอนเซอร์ ฮ่าๆๆ)
 
                 ‘นั่นสินะ’
 
                 ‘นี่ๆแทมิน  ของลาหยุดแล้วไปเที่ยวกันเถอะ’
 
                 ‘พูดง่ายจังนะไผ่ -*-‘
 
                 ‘ไม่รู้ล่ะ  ยังไงก็จะไปอ่ะ  ลาหยุดให้ได้นะ  ถ้าไม่ได้จะโกรธจริงๆด้วย  แล้วจะไม่ให้ทำด้วย - -^’
                 ‘เอ๋  ได้ไงอ่า’
 
                 ‘ไม่รู้ไม่ชี้ - -^^^’
 
                 จบการย้อนอดีตเพียงเท่านี้  นี่ตกลงผมเคยพูดแบบนี้จริงๆสินะ  -*-  แถมยังบอกเองด้วยว่าจะไม่ให้ทำด้วย  ง่า  ตกลงนี่ผมผิดเต็มเลยใช่ไหมเนี้ย
 
                 “ดูท่าจะนึกออกแล้วสินะ =_=”
 
                 ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้แทมิน  ตัวเองพูดเองแล้วดันลืมเอง  ชีวิตช่างน่าเศร้า T^T
 
                 “แต่ยังไงมินก็ผิดเหมือนกันที่โมโหใส่ไผ่  เวลามินเหนื่อยจะชอบหงุดหงิดน่ะ  ขอโทษนะ”
 
                 “ไม่เป็นไร  ครั้งนี้ถือว่าแล้วกันไปก็แล้วกัน  ว่าแต่ว่า…”
 
                 “???”
 
                 “คืนนี้จะไม่ปล่อยแล้วนะ  ผมอดทนมาหลายวันแล้วด้วย^^”
 
                 เมื่อได้ยินดังนั้นแทมินก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์แสนหื่นมาให้ผม  นี่สิที่ผมต้องการ  รอยยิ้มที่ทำให้ผมแพ้ทางแทบจะทุกครั้ง
 
                 “นั่นสินะ  พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ซะด้วย  ถึงเช้าเลยดีไหม”
 
                 “ก็ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว”
 
                 “ไผ่นี่น้า  นอกจากนิสัยจะเปลี่ยนแล้ว  เรื่องอย่างว่านี่ก็…”
 
                 “แทมินเคยพูดนี่นา  เมื่อสองปีก่อนบนชิงช้าสวรรค์  จำได้ไหม”
 
                 แทมินผลักผมลงบนเตียงและจูบผมอย่างกระหาย  บดขยี้ริมฝีปากของผมจนช้ำแดง
 
                 “จำได้สิ  มินบอกว่าอยากจะเก็บไผ่เอาไว้เป็นของมินเพียงคนเดียว  อยากจะครอบครองไผ่ ทำให้ไผ่ขาดมินไม่ได้และเรียกร้องหาแต่มิน^^”
 
                 “ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่ความปรารถนาของแทมินเป็นจริงแล้ว  ตอนนี้ผมต้องการแทมินเหลือเกิน  รีบๆเติมเต็มผมเร็วๆสิ”
 
                 “ได้เสมอ  ที่รัก”
 
                 เสื้อผ้าของผมถูกปลดออกพร้อมกับของเขา  ริมฝีปากร้อนที่พรมจูบตามซอกคอเรื่อยมาจนถึงยอดอก  เสียงดูดที่ดังและมือซุกซนของแทมินที่หยอกล้อสวนอ่อนไหวของผมมันทำให้ผมเสี่ยวซ่านจะแทบทนไม่ไหว
 
                 “แทมิน  ให้ผมทำบ้างสิ”
 
                 “^^”
 
                 ผมกุมแท่งอารมณ์ของเขาที่ตอนนี้ตั้งชูชันแล้วรูดขึ้นลง  ล้นของผมเลียส่วนปลายของเขาก่อนขะอมด้วยโพรงปากอุ่น  ขนาดที่ใหญ่ของมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัดและคับปากไปหมดแต่ผมก็ยินดีทำให้เขา  เพราะผมรักเขา
 
                 “อา…อย่างนั้นล่ะ  เข้าไปให้สุดสิไผ่”
 
                 เสียงครางทุ้มของแทมินทำให้อารมณ์ของผมยิ่งลุกโชน  และนานน้ำรักของเขาก็ทะลักลงคอของผม  แม้ว่าในตอนแรกที่ทำมันทั้งรู้สึกคาวและรู้สึกแปลกแต่ตอนนี้ไม่มีคำนั้นอีกแล้ว  แทมินจับผมแยกขาออกและพาดมันไว้ที่บ่า
 
                 “จะเข้าไปแล้วนะ”
 
                 ส่วนแข็งที่จ่อช่องทางของผมกดแทรกเข้าไปเมื่อเห็นผมพยักหน้า
 
                 “อา  อึก  อื้ออออ”
 
                 “พร้อมนะไผ่”
 
                 “เอาเลย  ..อ่ะ  อ๊า”
 
                 ส่วนแข็งที่กระแทกเข้าออกอย่างถี่หยิบทำให้ผมแทบคลั่ง  ตอนนี้ในหัวของผมขาวโพลน  ไม่อยากจะคิดอะไรทั้งนั้นนอกจากบุคคลตรงหน้านี้  และทันทีที่ส่วนแข็งของเข้าแตะโดนจุดกระสันมันทำให้ผมแทบสะดุ้ง
 
                 “อ๊าาา  ตรง..นั้น  อ่ะ  อา”
 
                 และเหมือนต้องการจะกลั่นแกล้ง  แทมินกระแทกลงไปที่จุดนั้นอย่างเร็วและเร็วจนผมกลั้นอารมณของตัวเองไม่ไหว
 
                 “อ๊า  ฮ่า  อีก  แรงอีก อ๊ะ  แทมิน อ๊าาาา”
 
                 ผมปลดปล่อยออกมาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องทั้งของผมและของแทมิน  แต่เขาก็ยังกระแทกเข้าออกอีกสองสามครั้งก่อนที่จะนิ่งไปพร้อมความรู้สึกอุ่นๆที่แทรกเข้าในในกาย
 
                 “ยังไม่เหนื่อยใช่ไหมไผ่”
 
                 “ก็พูดเองไม่ใช่เหรอ…ว่าจะทำจนถึงเช้า”
 
                 แล้วเขาก็เริ่มบรรเลงบทรักอีกครั้ง  ท่ามกลางความกระหายอยากของคนทั้งสอง  ปลดปล่อยหลายครั้ง  ขึ้นสวรรค์หลายครา  แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ….
 

 

 

 
                 และแล้ว  ก็ถึงเวลาที่ผมรอคอย  ใช่แล้ว  แทมินขอลาหยุดได้หนึ่งอาทิตย์  เขากลับมาบ้านพร้อมกับตั๋วเครื่องบินสองใบในมือ
 
                 “แจ๋วไปเลยแทมิน  นี่ๆ  คราวหน้าไปเวนิสกันนะ^^”
 
                 “ง่ะ  กะ…ก็ได้จ้า  T^T”
 
                 ดูท่าว่าผมคงจะแก้นิสัยเอาแต่ใจไม่ได้แล้วสิ  ก็ในเมื่อที่รักของผมคนนี้เล่นตามใจผมตลอดเลยนี่นา  ^^

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป
Re: Because you're my love. (UP! Special3 P.4) [09/08/2013]
«ตอบ #122 เมื่อ08-02-2014 17:57:51 »

Special 4 : ประสบการณ์หื่น ณ แดนปลาดิบ(?)


“แทมิน  นี่ๆไอ้นี่มันคืออะไรอ่า”  ไผ่ชี้ไปที่ตุ๊กตาล้มลุกสีแดงหน้าตาดุๆด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น  ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้แทมินต้องสกัดกั้นความต้องการ (?) อย่างสุดความสามารถก็เพราะท่าทางไร้เดียงสาแบบนี้ของคนรัก
 
                “เขาเรียกว่าตุ๊กตาดารุมะ  ถ้าดูให้ดีๆจะเห็นว่าที่ขายอยู่จะไม่มีตา  ผู้คนเขาเชื่อว่าตุ๊กตาตัวนี้จะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงโดยจะเขียนตาหนึ่งข้างลงไปพร้อมอธิษฐาน  เมื่อความปรารถนาเป็นจริงแล้วก็ตาเติมตาอีกข้างลงไป  สุดท้ายก็นำไปเผาซึ่งในหนึ่งปีจะมีแค่ครั้งเดียว  ถ้าพลาดล่ะก็ต้องรอปีถัดไป”  ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ไปหาข้อมูลมานะเนี้ย   มาเที่ยวญี่ปุ่นตามคำขอของไผ่ทั้งทีถ้าไม่รู้อะไรเลยก็คงจะน่าเบื่อ  ยิ่งการสื่อสารด้วยภาษาญี่ปุ่นก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะแทมินเรียนภาษาเกาหลีมา  ส่วนภาษาอังกฤษ…อย่าหวังเลยว่าจะได้ใช้  เพราะภาษาอังกฤษที่คนประเทศนี้ใช้นั้นเหนือคำบรรยาย (ใครเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นคงรู้เนอะ  ส่วนใครไม่เคยเรียนจะยกตัวอย่างง่ายๆให้ดูนะเจ้าคะ  อย่างเช่นประเทศอังกฤษ England  คนญี่ปุ่นจะออกเสียงเป็น อิ-คิ-ริ-สุ -*-)
 
                “เหรอ  รู้ดีจังเลยเนอะ^^  งั้นผมซื้อสักตัวด้วยดีกว่า”  ว่าแล้วไผ่ก็เดินเข้าไปในร้านขายของที่ระลึก  ภายในร้านมีตุ๊กตาดารุมะมากมายหลายขนาดและหลายสี
 
                “ผมเอาตัวนี้ก็แล้วกัน  แทมินว่าดีไหม”  ตัวที่ไผ่หยิบมาเป็นตัวเล็กขนาดสองมือกุมสีน้ำเงิน
 
                “แต่ว่าเราคงอยู่จนถึงวันเผาตุ๊กตาไม่ไหวหรอกนะ”  แทมินหยิบตุ๊กตาดารุมะตัวใหญ่กว่าของไผ่เล็กน้อยสีดำขึ้นมาพิจารณา  เอียงซ้ายเอียงขวาเหมือนจะหาตำหนิ
 
                “เรื่องแบบนั้นผมไม่ถือหรอก  จะเผาเมื่อไหร่  ยังไงมันก็ต้องเผาเหมือนกันนั่นแหล่ะ”  มาแล้วไง  เริ่มเอาแต่ใจอีกแล้ว
 
                “จ้าๆ  งั้นเอาเป็นว่าเราไปจ่ายเงินกันเถอะ”  แทมินตัดสินใจซื้อตุ๊กตาตัวที่เขาสำรวจอยู่เมื่อครู่  ป้าคนขายมองทั้งสองตาไม่กระพริบ
 
..เอ่อ..ไม่ต้องส่งสายตาหื่นๆมาก็ได้ครับ  เกรงใจ -*-
 
                เมื่อเดินออกมาจากร้านขายของที่ระลึกภายในศาลเจ้า  ไผ่ก็หยิบเอาพู่กันที่วางไว้ตรงซุ้มที่เขาเอาไว้เขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นไม้  วาดตาหนึ่งข้างให้กับตุ๊กตาดารุมะที่เพิ่งซื้อมาอย่างอารมณ์ดี
 
                “อะไรกัน  วาดไปแล้วเหรอ  แล้วไผ่อธิษฐานอะไรลงไปบอกมินหน่อยสิ”
 
                “ผมขอให้แทมินรักผมตลอดไป  และจะไม่มีอะไรทำให้เราผิดใจกันได้อีกไงครับ”  ว่าแล้วก็หันมายิ้มให้แทมิน  ไผ่เองนั้นก็รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นเอาแต่ใจมากมายเพียงไร  จึงได้อธิษฐานต่อท้ายภายในใจ
 
                …ขอให้ช่วยอดทนผมหน่อย
 
                …ได้โปรดอย่าได้เบื่อที่ผมเป็นแบบนี้เลย
 
                “ดูท่าคำอธิษฐานนั้นคงเป็นจริงแล้วล่ะไผ่”  แทมินหยิบพู่กันจากมือของไผ่มาแต้มตาให้ตุ๊กตาดารุมะอีกข้างหนึ่ง  ท่ามกลางความงุนงงของไผ่
 
                “มินจะรักไผ่ตลอดไป  และจะไม่มีอะไรมาทำให้พวกเราต้องผิดใจกันอีก  สัญญา…”  ไม่ว่าไผ่จะเป็นยังไง  ไผ่ก็คือไผ่  คือคนที่เขาจะรัก…ตลอดไป
 
                “พูดแบบนี้ผมก็เขินแย่สิ  ว่าแต่แทมินจะขออะไรกับตุ๊กตาเหรอครับ”  ไผ่จ้องแทมินตาแป๋วเมื่อแทมินเริ่มลงมือวาดตาให้ตุ๊กตาของตนเองบ้าง
 
                “หึหึ  ความลับ^^”  คำตอบนั้นทำเอาไผ่ส่งสายตาจิกกัดมาเต็มที่จนแทมินเริ่มเสียวสันหลังวาบ
 
                “โกงกันนี่นา  ผมยังบอกเลยว่าผมปรารถนาอะไร  ถ้าไม่บอกผมโกรธจริงๆด้วย”  ว่าแล้วก็กอดอกหันหลังให้แทมินซะอย่างนั้น  รู้ตัวไหมว่าเวลางอนน่ะน่ารักแค่ไหน  >///<
 
            “เอาน่า  อีกไม่นานไผ่ก็จะรู้แล้วล่ะ”  แต่ไผ่ก็ยังคงงอนอยู่เช่นเดิม  จนแทมินต้องเปลี่ยนประเด็น
 
                “งั้นไผ่วางตุ๊กตาไว้ที่นี่ก็แล้วกัน  ถึงเวลาเขาก็คงเอาไปเผาให้เองนั่นล่ะ  ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”  แทมินจับมือไผ่เดินนำเหมือนผู้ชำนาญทาง (?)  หยิบเอาแผ่นพับในกระเป๋าออกมาดู
 
                “จะกินอะไรดีล่ะไผ่  ราเมงดีไหม”  แทมินชี้รูปราเมงในแผ่นพับให้ไผ่ดู
 
                “ไม่เอาหรอก  ไม่อยากกินก๋วยเตี๋ยว  อยากกินข้าวมากกว่า”  ไผ่ชี้ไปที่รูปข้าวในแผ่นพับ...จากภาษาอังกฤษที่บรรยายข้างๆ  นั่นมันร้านอาหารไทยไม่ใช่เหรอ -*-
 
พูดก็พูดเถอะ  มาถึงที่นี่ทั้งทีอะไรที่เป็นอาหารมีชื่อเสียงของเขาทำไมถึงไม่ลองกินดูสักครั้งนะ  แทมินคิดในใจ  แต่ก็คงขัดใจไม่ได้จนเดินตระเว้นหาร้านขายข้าว
 
                ผู้คนเดินสวนไปมามากมายกว่าที่คิดและตาของไผ่ก็ไปสะดุดกับร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่งที่มีคนต่อแถวยาวออกมาถึงนอกร้าน
 
                “แทมิน  ผมอยากลองกินร้านนั้น”  แทมินมองตามทิศทางที่ไผ่ชี้ไป  คนเยอะมากเลยไม่ใช่เหรอ  อย่าบอกนะว่าจะรอ -*-
 
                “แล้วมันเป็นร้านขายอะไรไผ่รู้รึเปล่า”  คนเยอะแบบนั้นก็คงจะอร่อยอ่ะนะ
 
                “ไม่รู้หรอก  แต่อยากกินร้านนั้น”   ไม่ทันรอให้แทมินตอบกลับไผ่ก็จัดการลากแทมินตรงไปยังร้านอาหารร้านนั้นทันที  ดูจากความยาวของแถวแล้ว  ไม่รู้ว่ารออีกครึ่งชั่วโมงจะได้กินหรือเปล่า  ในระหว่างที่รออยู่นั้นเอง  แทมินก็นึกอะไรบ้างอย่างได้ขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย
 
                “ไผ่ๆ  โทษนะ  ช่วยยืนต่อคิวสักแปบได้ไหม”
 
                “จะไปไหนน่ะแทมิน”  ไผ่เอ่ยถามอย่างสงสัย
 
                “มินขอตัวไปหาห้องน้ำก่อนนะ  มันเริ่มจะไม่ไหวแล้วล่ะ”  ว่าแล้วก็ทำสีหน้าบรรยายไม่ถูกออกมาจนไผ่รีบพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต  แล้วแทมินก็รีบวิ่งออกไปทันที
 
                …
 
                …
 
                …
 
                เมื่อเห็นว่าไกลจากตำแหน่งที่ไผ่ยืนอยู่มากแล้วแทมินก็หยุดวิ่งทันที  หวังว่าไผ่คงไม่แอบตามเขามาหรอกนะ
 
            …จำได้ว่าเห็นอยู่แถวๆนี้นี่นา
 
                แทมินหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาสิ่งที่เขาต้องการ  อยู่ไหนหว่า  จำได้ว่าร้านนั้นมันมีป้ายไฟสีม่วงขนาดใหญ่อยู่หน้าร้าน
 
                แทมินพยายามหาร้านที่มีป้ายอย่างที่เขานึก  เอ…ป้ายม่วง  ป้ายม่วง….ร้านนั้นป่าวหว่า
 
                เมื่อพบร้านที่คาดว่าจะเป็นร้านนั้นแทมินก็เดินเข้าไปใกล้ๆ  อา..แบบนี้ใช้แน่ๆ  ร้านที่กำลังตามหา  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาอย่างเงียบงั้น
 
                …
 
                …
 
                …
 
                …ช้าจังเลย
 
                จากแถวที่ยาวเหยียดตอนนี้เหลืออีกเพียงสองคนก็จะถึงคิวของไผ่แล้ว  กินเวลาไปกว่าสี่สิบนาทีเลยทีเดียว  แต่ถึงกระนั้นแทมินก็ยังไม่กลับมา
 
                …จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ  ตกส้วมไปแล้วรึไงกัน…รึว่าหลงทาง  ไม่หรอกมั่ง-*-
 
                “ไผ่  คอยนานไหม”  คนที่บ่นถึงเมื่อครู่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าอารมณ์ดีเกินเหตุ  ทำเอาไผ่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแทน  อุตส่าห์เป็นห่วง- -*
 
                “นานจนนึกว่าตกส้วมตายไปแล้วล่ะ - -^^”  ประชดเข้าให้หนึ่งดอก
 
                “โทดที  หาห้องน้ำไม่ได้น่ะ  ก็เลยกลับไปเข้าที่โรงแรม  แต่นี่ก็รีบมาแล้วนะ  อ่ะนั่น  ถึงคิวเราแล้ว  เข้าไปกันเถอะ^^”  แทมินจับมือไผ่เดินเข้าไปในร้าน  กลิ่นหอมเหมือนแกงกระหรี่รอยฟุ้งเต็มร้าน  ร้านนี้มันมันร้านขายข้าวแกงกระหรี่นี่นา
 
                “ไผ่จะสั่งอะไร”  แทมินยังคงอารมณ์ดีต่อไป จนไผ่เริ่มสงสัย  แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
 
                “นั่นล่ะครับปัญหา  ผมอ่านออกซะเมื่อไหร่ล่ะ”  ไผ่มองแผ่นไม้ที่คาดว่าคงเป็นรายการอาหารที่แขวนอยู่ที่ฝาผนัง  ตัวอักษรญี่ปุ่นมากมายลายตาทำเอาเขาปวดหัว
 
                “งั้นเราก็ดูราคาที่เขียนไว้ที่ป้ายก็แล้วกัน  ชอบราคาไหนก็ชี้ให้เขาดูดีไหม”  นับว่าข้อเสนอของแทมินแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดีและดูเหมือนพนักงานของร้านจะเข้าใจที่ทั้งสองพยายามจะสื่อสาร
 
                ไม่นานข้าวราดแกงกระหรี่ร้องๆก็ถูกเสิร์ฟตรงหน้าของทั้งสองโดยของไผ่เป็นข้าวราดแกงกระหรี่กุ้งเทมปุระส่วนของแทมินเป็นข้าวราดแกงกระหรี่หมูทอด
 
                ไผ่มองดูกุ้งในจานด้วยท่าทีไม่เชื่อ
 
                ...กุ้งสองตัว  น้อยไปรึเปล่าเนี้ย  แต่ก็น่ากินดีนะ
 
                “กินกันเลยนะ  จะได้กลับโรงแรมกันสักที”  แทมินจับช้อนตักข้าวเข้าปากอย่างมีความสุขท่ามกลางความสงสัยของไผ่ที่เพิ่มมากขึ้นทุกที
 
                ...แทมินเป็นอะไรกันนะ  ดูจะอารมณ์ดีเกินเหตูมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
 
                ...กลับไปโรงแรมจะถามให้รู้เรื่องให้ได้เลย
 
...

...

...

ต่อ เรปล่าง

bjinkn

  • บุคคลทั่วไป

 
            …
 
            …
 
            ประตูห้องพักถูกเปิดออก  แทมินยิ้มระรื่นเข้าห้องมาเป็นคนแรก  ไผ่ถอดแจ๊กเก็ตถอดไว้บนเก้าอี้แล้วหันมาทำตาขวางใส่คนรัก
 
                “วันนี้ดูแทมินจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ  มีเรื่องอะไรดีๆอย่างนั้นเหรอครับ”  น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นเยียบไม่ได้ทำให้แทมินสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย  แต่เจ้าตัวกลับถอดเสื้อผ้าเตรียมตัวอาบน้ำเสียอย่างนั้น
 
                “เรื่องนั้นช่างมันเถอะนะ  เราไปอาบน้ำกันดีกว่า ^^”  ว่าแล้วแทมินก็ส่งสายตาแสนหื่นมาทางไผ่จนไผ่ต้องหลบสายตา
 
                “ไม่เอาหรอก  ผมชอบอาบคนเดียวมากกว่า  แทมินไปอาบก่อนสิ”  ไม่ใช่ว่าชอบอาบคนเดียวหรอก  แต่กลัวว่ามันจะมีอะไรที่มากกว่าการอาบน้ำน่ะสิ  และเขาเองก็ไม่ค่อยชอบกระทำในที่ชื้นแฉะเสียด้วย
 
                “งั้นก็ตามใจ”  แทมินเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมฮัมเพลงอย่างสบายอุรา(?)  ไผ่ได้แต่นั่งคิดทบทวนเหตุการณ์ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แทมินอารมณ์ดี  ก็ไม่น่าจะมีนี่นา  อะไรที่พิเศษหรือประทับใจ  แต่พอมาคิดๆดู  แทมินเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่ตอนไปซื้อตุ๊กตาดารุมะแล้ว
 
                ... หึหึ  ความลับ^^
 
                หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับคำอธิษฐาน  ไหนจะหายไปเป็นเวลานานตอนต่อแถวที่ร้านแกงกระหรี่นั่นอีก  ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว  ไผ่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงมองเพดานอย่างเซ็งๆ  แล้วก็เหลือบไปเห็นถุงตุ๊กตาดารุมะที่แทมินซื้อมา
 
                ...แปลก  ทำไมมันขนาดใหญ่กว่าเดิม  หรือว่าเราคิดไปเอง?
 
                ไม่ทันที่มือจะเอื้อมจับถุงต้องสงสัยใบนั้น  เสียงประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดอย่างรวดเร็ว
 
                “ไผ่มาอาบต่อเร็ว”  อะไรกัน  แทมินอาบเสร็จแล้วเหรอ  เร็วชะมัด  พักเรื่องถุงไว้ก่อนก็แล้วกัน  อาบเสร็จเมื่อไหร่จะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง
 
                เมื่อไผ่เขาไปในห้องน้ำ  แทมินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
 
                “ดีนะที่ออกมาทัน  ขืนให้ไผ่เห็นตอนนี้ล่ะก็ตายแน่”  แทมินเปิดถุงดูและยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์  แล้ววางถุงใบนั้นลงที่เตียง  เดินไปที่ทีวีเปิดตู้ใต้ทีวีเพิ่งหาหนังมาดู  โรงแรมที่นี่ดีจริงๆเลยมีวีดีโอให้ดูด้วย  เพียงแต่มันเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยทำให้ไผ่ไม่ค่อยสนใจอยากดูเท่าไหร่  นิ้วไล่ดูทีล่ะเรื่องและหยิบเรื่องหนึ่งขึ้นมาดู
 
                “ผีชีวะภาคญี่ปุ่นเหรอเนี้ย  คงจะดูสนุกพิลึก”  เมื่อทำท่าจะวางวีดีโอที่เดิมแทมินก็สังเกตุเห็นว่าข้างในยังมีวิดีโออยู่อีกหนึ่งแถว  ด้วยความอยากรู้จึงหยิบขึ้นมาดู  แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็แสยะออกมามากกว่าเก่า
 
                ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก  ไผ่เดินออกมาในสภาพที่มีผ้าขนหนูพันเอวปกปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น  สายตามองหาแทมินและก็พบเขานั่งอยู่ตรงหน้าทีวี
 
                “ฟังไม่รู้เรื่องก็ยังจะดูอีก  แปลกคนจัง”
 
                “อ้า.....อ๊ายยยย”  เสียงปริศนาดังแว่วขึ้นทำให้ไผ่รีบหันมาตามที่มาของเสียง...ดังมาจากทีวีงั้นเหรอ
 
                ไผ่ตรงเข้ามาหาแทมินและแล้วเขาก็ได้คำตอบ  แทมินกำลังดูวีดีโอโป๊!!!!
 
            “ทะลึ่ง  ลามกที่สุด  ไปเอาของแบบนี้มาจากไหน!”
 
                “ก็เอามาจากในชั้นนั้นไง”  แทมินชี้ไปที่ตู้ใต้ทีวี  อะไรกัน  โรงแรมมีของแบบนี้ด้วยงั้นเรอะ  ประเทศนี้มันอะไรกันเนี้ย!!!!!
 
                “ทุเรศที่สุด  กล้าเอาของแบบนี้มาวางไว้ได้ยังไง  ผมจะไปบอกพนักงานให้เอามันออก”  ไม่ทันที่ไผ่จะเดินออกไปเพื่อแต่งตัว  มือใหญ่ก็คว้าข้อมือของไผ่เอาไว้
 
                “พูดไปก็เท่านั้นแหล่ะ  รู้ไหมว่าประเทศนี้น่ะเขาเปิดเสรีเรื่องแบบนี้  ขนาดในร้านเช่าวิดีโอยังมีวางไว้เลย  เอาน่า  มานั่งดูด้วยกันดีกว่า”  แทมินฉุดมือไผ่ให้นั่งลง  ซึ่งไผ่เองก็ดูจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่
 
                “อ๊า....อี๊~  โม๊ตโตะ!  โม๊ตโต๊~ ฮ้าาา”  เสียงครวญคราวที่ฟังไม่ได้ศัพท์ของสาวชาวยุ่น  แม้มันจะฟังแปลกๆแต่ดูไปดูมาก็เพลินดีเหมือนกัน  ไผ่เหลือบตามองแทมินก็พบว่าแทมินเองก็มองเขาอยู่เช่นกัน
 
                “ชักมีอารมณ์แล้วล่ะ  ไผ่  มาทำกันเถอะ”แทมินเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆไผ่  และริมฝีปากอุ่นก็ประกบกัน  เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามารุกรานในโพลงปากจนไผ่ต้องจับเสื้อของแทมินไว้เป็นที่มั่น  เมื่อแทมินปล่อยให้ปากของไผ่เป็นอิสระเขาก็อุ้มไผ่ขึ้นไปวางบนเตียง
 
                “ไผ่  หลับตาสิ  มินมีของจะให้ไผ่ด้วยนะ”  คำพูดนี้เรียกความสงสัยจากไผ่ได้มากพอสมควร  และเพราะรอยยิ้มของแทมินทำให้ไผ่ยอมหลับตาแต่โดยดี  อะไรกันนะ  ที่แทมินบอกว่าจะให้  รู้สึกได้ว่ามือทั้งสองข้างของเขาถูกแทมินรวบขึ้นไปพาดไว้บนหัวเตียง...ต้องการจะทำอะไรกันแน่
 
                แกร๊ก....
 
                เสียงเหมือนอะไรสักอย่างลงล็อคทำให้ไผ่รีบเปิดตาขึ้นมาดูทันที  และพบรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนรักรออยู่แล้ว
 
                “เอาล่ะ  เรามาสนุกกันดีกว่านะที่รัก”  คำพูดกับรอยยิ้มนั้นดูจะเข้ากันได้ดีเกินเหตุ  ไผ่เตรียมขยับเพื่อที่จะอยู่ในท่าที่ตนคิดว่าจะเป็นอันตรายจากคนๆนี้น้อยที่สุด(?)  แต่แล้วเขาก็รู้แล้วว่าเสียงเมื่อครู่คืออะไร  ไผ่เงยหน้าขึ้นไปมองที่ข้อมือและพบว่าเขาถูกใส่กุญแจมือติดกับราวเหล็กที่หัวเตียง!!!
 
                “จะทำอะไรน่ะแทมิน  ปล่อยผมนะ”  ไผ่พยายามดิ้นจนทำให้ข้อมือเสียดสีจนรู้สึกเจ็บ
 
                “อย่าดิ้นเลย  เดี๋ยวข้อมือไผ่ก็เป็นแผลหรอก”  แทมินหยิบเอาสายหนังที่ดูเหมือนจะเป็นเข็มขัดเส้นเล็กๆสองเส้น  พร้อมจับขาของไผ่พับให้ข้อเท้าติดกับขาแล้วจัดการรัดเข็มขัดในสภาพนั้น
 
                “แทมิน  ผีเข้ารึไง  ทำไมถึงทำแบบนี้เนี้ย  พอแล้ว  ผมไม่ขำนะ!!”  ไผ่ในตอนนี้กำลังอยู่ในสภาพอ้าขาให้กำแทมิน  บ้าจริง  ขยับไม่ได้เลย  แทมินเป็นอะไรไป!!!
 
            “อยากรู้ไหมไผ่  ว่ามินอธิษฐานอะไรกับตุ๊กตาดารุมะเมื่อตอนนั้น”  เมื่อเอ่ยเสร็จก็ก้มลงดูดยอดอกสีกุหลาบจนไผ่เสี่ยววาบ
 
                “อ่ะ  ใครจะไปรู้ล่ะ  อืออ”  แย่ล่ะสิ  เริ่มจะมีอารมณ์เสียแล้ว  แต่ว่าถึงจะเป็นแบบนั้น  ถ้าต้องมีอะไรกันในสภาพนี้มันก็คงไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่
 
                “มิน  อธิษฐานไปว่า  อยากจะเห็นไผ่ในสภาพที่กระหายในเซ็กเหมือนพวกผู้หญิงในวีดีโอเมื่อกี๊ไง”  มือซุกซนเลื่อนไปกุมส่วนอ่อนไหวที่ตอนนี้ตั้งขึ้นแล้วรูดขึ้นลงจนไผ่ผวา
 
                “คิดได้ยังไง  อ้ะ  ที่ผ่านมายังไม่พออีกหรือไง  อาาา”  ไม่ไหว  ขยับตัวไม่ถนัดเลย  มันทำให้เขาอึดอัด  อยากเอากุญแจมือกับเข็มขัดออกไปเหลือเกิน
 
                “อ้า  แทมิน  มะ...มันจะ...”  ไม่ทันที่จะถึงสวงสวรรค์  แทมินก็ปล่อยมือออกทำให้ไผ่อารมณ์ข้างอยู่แบบนั้น  พร้อมหัวเราะน้อยๆอย่างชอบใจ
 
                “แล้วรู้ไหมว่าตอนที่มินให้ไผ่ต่อแถวรอ  มินไปทำอะไร”  ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบถุงที่วางไว้บนเตียงขึ้นมาเพื่อหยิบอะไรบางอย่างข้างในถุง
 
                “กะ  ก็ไปห้องไง  หยุดแกล้งผมสักที  เร็วๆเข้า”  ยิ่งอึดอัดมากขึ้นไปอีก  ที่ต้องอยู่แบบนี้  มันทรมานเหลือเกิน
 
                และแล้วสิ่งที่แทมินหยิบออกมาจากในถุงต้องทำให้ไผ่ชะงักค้าง  และหน้าแดงอย่าเห็นได้ชัด
 
                “น่ะ...นั่นมัน....บ้า  ทุเรศ  โรคจิต!!!!”  ไผ่พยายามดิ้นแต่ก็ไร้ผล  เขาขยับไปไหนไม่ได้นอกจากยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
 
                เจลใสหล่อลื่นถูกเทลงบนสิ่งที่ผู้คนต่างเรียกมันว่าของเล่น (คงรู้นะเจ้าคะว่ามันคืออะไร  หึหึ)  ที่มีขนาดใหญ่โตไม่ต่างจากของแทมิน  และแทมินก็ส่งสิ่งนั้นมาจ่อตรงช่องทางของไผ่
 
                “ไม่  เอาออกไปนะ  ผมไม่เอา  อึก!!”  ของเล่นนั้นถูกแทงพรวดเข้าไปจนจมมิดอย่างง่ายดายเพราะเจลใสที่ถูกชโลมไว้เมื่อครู่  แล้วของเล่นชิ้นนั้นก็เริ่มสั่นในช่องทางของเขา
 
                “อ่ะ  อ้า   เอาออกไปนะ  อื้ออออ”  ไร้ผลแทมินไม่คิดจะทำตามที่ไผ่บอก  แต่กับหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวของเขาอย่างชอบใจ
 
                “ยังไม่หมดนะไผ่  ดูสิๆ”  แทมินหยิบเอาสายยางเล็กพอๆกับสายน้ำเกลือออกมาจากถุง  แล้วหันมายิ้มหื่นๆให้ไผ่
 
                “ไผ่รู้ไหมว่าไอ้นี้มันใช้ทำอะไร”  ไผ่ส่ายหัว  จะไปรู้ได้ยังไง  ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องพรรณนี้เหมือนคนตรงหน้านี้สักหน่อย
 
                สายยางเส้นเล็กแทงเข้าไปในทางที่ปลดปล่อยน้ำรักตรงปลายส่วนอ่อนไหวทำเอาไผ่ร้องลั่นพร้อมหยดน้ำตา
 
                “เจ็บ!!  แทมิน!”  ไม่คิดเลยว่าจะต้องมีเจอเรื่องแบบนี้  ทรมานเหลือเกิน  ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลย
 
                แทมินก้มลงเลียคราบน้ำตาของไผ่เอาแผ่วเบาแต่มือกับไปขัยบของเล่นให้ขยับเข้าออกจนคนเบื้องล่างกระตุกเกร็งพร้อมเสียงคราง
 
                “อ๊า...  อา  แทมิน  อึ่ก  อ๊าาา”  มันรู้สึกแปลกๆ  ทั้งๆที่รู้สึกอดอัดและทรมานกับร่างกายที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกนี้และความรู้สึกต้องการค่อยๆมีมากขึ้นจนเขาแทบทนไม่ไหว
 
                “อึ่ก  แทมิน  ไม่เอานะ  อ้า”
 
                “ไม่เอาแน่เหรอ  ดูทำหน้าเข้าสิ  ออกจะต้องการซะขนาดนั้น”  แทมินยิ่งขยับของเล่นให้เข้าออกถี่ขึ้น  สายยางที่เสียบไว้ตรงส่วนปลายทำให้แม้อยากปลดปล่อยออกออกมาได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น  ทรมาน ทรมาน  ทรมาน!!!!!
 
            “อื้อ  ไม่เอา  ผม  อา...ต้องการแทมิน  อั่ก  อ๊า”  แทมินหยุดมือและยิ้มให้กับไผ่
 
                “ได้เสมอถ้าที่รักต้องการ”  ขอเล่นถูกถอดออกแทนที่ด้วยส่วนแข็งของแทมินที่สอดแทรกเข้ามาจนจมมิดเพราะช่องทางได้ขยายเต็มที่พร้อมที่จะรองรับ  เสียงครางดังออกมาพร้อมกับจังหวะเข้าออกของร่างสูง
 
                “อ๊า  ปล่อยผม  อ่ะ  ผมอึดอัด  อา”  ไผ่ไม่สามารถขยับร่างกายตอบรับกับจังหวะของแทมินได้  มันยิ่งทำให้เขาทั้งทรมานและสุขสมในเวลาเดียวกัน
 
                “แต่มินว่าแบบนี้มันก็แปลกไปอรกแบบนี่นา”  แทมินจับไผ่พลิกตัวและกระแทกตัวอย่างเร็ว  จนเตียงขยับตามแรงกระแทก
 
                ไผ่พยายามที่จะปลดปล่อยแต่มันก็ออกมาเพียงเล็กน้อยตามรอที่สายยาง  ทำให้ไผ่ยังคงมีอารมณ์แม้ว่าปลดปล่อยออกมากี่ครั้งก็ตาม
 
                “แท..มิน  อ้าาา  ผม  ทรมาน  อ๊า  แฮ่กๆ..”  แทมินหยุดการกระทำแต่ก็ยังคงค้างอยู่ภายในช่องทาง  กระซิบแผ่วเบาข้างหูของไผ่
 
                “แล้วชอบไหมล่ะ  ที่รัก”  เสียงที่ฟังดูแหบเล็กๆ  ฟังแล้วมันช่างเซ็กซี่  จนไผ่เริ่มลังเลที่จะตอบ  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบแทมินก็จับสายยางสอดมันให้ลึกเข้าไปอีก
 
                “อ่ะ  เจ็บ  อือ...”  หยดน้ำตาหลั่งไหลอีกครั้ง  มันเจ็บก็จริงแต่ว่า  ตอนนี้  เริ่มไม่เป็นอย่างนั้นเสียแล้ว
 
                “ว่าไง  ชอบไหม  บอกมินสิ”  เสียงนั้นยังคงกระซิบอยู่ข้างหู  ไผ่หน้าแดงจนถึงใบหูจนแทมินสังเกตได้  และคำตอบแผ่วเบาจากร่างเล็กนั้นทำให้เขายิ้มอย่างพอใจ
 
                “ชะ...ชอบ”  ถึงแม้จะอึดอัด  ถึงแม้มันจะทรมาน  แต่เขาชักรู้สึกชอบกับสัมผัสแบบนี้เสียแล้ว  เหมือนอาหารรสชาติแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยลิ้มลอง
 
                “ต้องแบบนี้สิ  ที่รักของมิน”  แทมินเริ่มบรรเลงบทเพลงรักต่อไปอีกอย่างเนิ่นนาน...
 
                ...
 
                ...
 
                ...
 
                “อ๊าาาา”  แทมินถอนส่วนแข็งออกจากช่องทางที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำรักของเขาจนนองชุ่มต้นขาขาวไปจนถึงผ้าปูเตียง
 
                “ตีสี่แล้วเหรอ  ถ้าทำต่ออีกสักยกก็คงจะเช้าพอดีเลย  ไผ่ว่าไง^^”  แทมินจ้องมองใบหน้าที่ตอนนี้แดงซ่านและมีหยดน้ำตาประปรายตามใบหน้า
 
                “ผมยังมีอารมณ์อยู่เลย  เร็วๆเข้าสิ  เข้ามาเร็วๆ  ช่วยปลดปล่อยผมที”  เสียงหวานกระเส่าเรียกหาคนรักอย่างกระหาย  แทมินหยิบเอาสายยางออกจากส่วนอ่อนไหวของไผ่อย่างแผ่วเบา
 
                “อื้ออออ”  แม้แต่ตอนเอาออกก็ยังเจ็บ  แทมินจูบซับน้ำตาระกระซิบข้างหูต่อ
 
                “ทีนี้ก็ปลดปล่อยให้เต็มที่เลยนะ”  แทมินปลดเข็มขัดที่มัดขาของไผ่ทั้งสองข้างออกพร้อมกับปลดล็อคกุญแจมือให้ด้วย  และเริ่มสอดใส่ส่วนแข็งเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง
 
                “อ้า  อาาา”
 
                บทรักของทั้งสองเริ่มต้นอีกครั้งเหมือนคนที่ไม่รู้จักพอ
 
                ...
 
                แสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาภายในห้อง  ปลุกให้ร่างเล็กลืมตาตื่นขึ้น
 
                “อูย...ปวดเอวจัง”  เป็นเพราะไอ้เครื่องมือบ้าๆของแทมินเลยทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้  แต่ก็ยอมรับนะว่ามันก็มีความสุขไปอีกแบบ
 
                “อืออ  ตื่นแล้วเหรอที่รัก”  คนขี้เซาข้างกายยีตาก่อนจะรวบคนตัวเล็กเข้ากอดสูดดมกลิ่นหอมของเส้นผมอย่างมีความสุข
 
                “เป็นไง  เมื่อคืนนี้สนุกไหม”  ไม่วายที่จะถามความเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ผ่านพ้นไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
 
                “แทมินกลายเป็นพวกซาดิสไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  รู้ไหมว่าไอ้สายยางบ้าๆนั่นทำผมเจ็บ”  และมีความสุขด้วยในเวลาเดียวกัน  แต่ไผ่ละไม่ยอมตอบ  ขืนตอบคงจะต้องโดนอีกแน่
 
                “แต่เมื่อคืนไผ่ก็บอกว่าชอบมันไม่ใช่เหรอ  ไผ่เอาก็เป็นพวกมาโซ  สินะ  จริงสิ  วันนี้พาไผ่ไปร้านนั้นด้วยดีกว่า”
 
                “ร้าน?”  ไผ่มองหน้าแทมินตาไม่กระพริบ  ร้านอะไร  ร้านข้าวราดแกงกระหรี่เรอะไง
 
                “ก็ร้านที่มินซื้อของพวกนี้มาไง  เรายังมีเวลาอยู่ที่นี้อีกตั้งสองวัน  ให้ไผ่ไปเลือกเลยดีไหมว่าจะเอาของเล่นอะไรมาสนุกกันอีกในคืนนี้”  แทมินพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาไผ่หน้าแดงก่ำไปแล้ว
 
                “อะ....ไอ้บ้า  ไอ้ทุเรศ  โรคจิต  ไปไกลๆเลยนะ!!!!”  ไผ่ลุกพรวด  จับหมอนตีแทมินเป็นการใหญ่  แทมินจับหมอนนั้นไว้นิ่งพร้อมมองหน้าไผ่อย่างยิ้มๆ
 
                “หรือว่าไผ่จะรอเซอร์ไพรซ์เอง  ว่าคืนนี้จะโดนแบบไหน^^”  ไม่พ้นส่งสายตาโรคจิตมาให้
 
                “อ้ากกกกกกกกกกกกกก”
 
                แทมินเอามือปิดหูแล้วหัวเราะกับท่าทางเขินของคนรัก  และดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างออก  จึงหยิบเอาถุงที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาพร้อมกับปากกาในกระเป๋า
 
                “ขอบคุณนะ  ที่ทำให้ความปรารถนาของฉันเป็นจริง^^”  แล้วลูกตาอีกข้างก็ถูกแต้มลงไปที่ตุ๊กตาดารุมะสีดำ
 
                “ว่าไงไผ่  เลือกได้หรือยังว่าต้องการแบบไหน”  แทมินเข้ากอดไผ่ที่หน้าแดงซ่านไว้พร้อมเอาหน้ามาซุกที่ต้อนคอขาว
 
                “ไม่รู้  ไม่เอาอะไรทั้งนั้น!!”  เจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดยังอาละวาดไม่เลิก
 
                “พูดแบบนี้  ต้องทำโทษ”  แทมินขบใบหูของไผ่เบาพร้อมกระซิบข้างหู
 
                “ขอทำอีกรอบก็แล้วกันนะ”  พูดเสร็จก็จัดคนตัวเล็กกดลงไปบนเตียงพร้อมพรมจูบที่บริเวณซอกคอ
 
                “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”  และเสียงครวญครางก็ดังขึ้นภายในห้องอีกครั้ง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

END แล้วค่ะ   จบจริงๆแล้วสำหรับเรื่องนี้   จะมีต่ออีกทีคือเรื่องของเซนนะคะ  ซึ่งเราจะเอามาโพสที่เล้าเร็วๆนี้ค่ะ  ที่เก่าที่โพสไว้โดนแบนไปซะแล้ว  :mew5:  จะเอามาอัพลงในนี้แทน  คิดว่าคงถึงเวลาเลิกดองสักที บอกตรงๆว่ารู้สึกผิดกับคุณพี่ผู้อ่านมากๆค่ะ TwT

สำหรับเรื่องของเซน จะมีชื่อเรื่องว่า Punishment ทัณฑ์รัก จะโพสลงเล้า เร็วๆนี้ เข้ามาอ่านกันได้นะคะ ^^

ลิ้งค์ค่ะ >>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40947.0

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เซนเป็นเมียเอฟไปแล้วรึ :katai5:

ขอให้เป็นครอบครัวที่เรียกได้ว่าครอบครัวจริงๆสักทีเน้อออ

ก่อเกิดคู่ใหม่เรียบร้อยค่ะ ตอนนี้ไผ่มีความสุขกับสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวแล้วล่ะ  :mew1:

ในตอนต่อๆไป  จะมีเรื่องราวของเซนให้รู้บ้างมั๊ย


เพราะไผ่มาทิ้งให้ผมสงสัย ในเรื่องของเซนอีก 2 ปีข้างหน้า

มีแน่นอนค่ะ จะลงในเล้าเร็วๆนี้ ^^

ไผ่ ยกโทษให้ง่ายจังนะ

ไผ่เป็นเด็กดีและขี้ใจอ่อน บางครั้งก็ดี แต่บางทีก็ดีเกิน :เฮ้อ:

เอฟนี่ก็แปลกเนอะะ พอตอนที่เซนดีๆก็ไม่สนใจ
ที่ตอนนี่มาขอให้ๆอภัย น่าเตะจริงงๆ  :z6:

น่าน มีคนหมั่นไส้นายเอฟเพิ่มมา 1 คน  :hao7:

อ่านตอนเซนทีไหร นึกถึงตอนทีเซนนั่งอยู่บนรถเข็นทุกทีเลยยย สงสารร
คนแต่งสู้น่ะจ๊ะ ไว้จะตามไปอ่านเน้อออออ  :mew3: :mew3:

ขอบคุณที่ยังติดตามอยู่ค่ะ  :mew3:  อีกไม่นานจะลงเรื่องของเซน ว่าเหตุใดถึงได้ไปนั่งอยู่บนรถเข็นเน้อ

เราพึ่งเคยโพสต์เป็นครั้งแรกที่จริงก็กะจะเก็บเวอร์จิ้นนี้ไว้  :oo1: แต่เพื่อสนองความต้องการของตัวเองเเล้วนั้นไซร้ ต้องโพสต์เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราชอบมากจริง ๆ (เราสมัครสามชิกมมานานเเล้วแต่ไม่เคยคิดจะโพสต์) และที่สำคัญอยากรู้ว่ามีเรื่องของเซนแยกต่างหากไหม ?? ถ้ามีขอลิ้งค์หน่อย  :mew2:  แต่ถ้าไม่มี  :o12:  เราก็ขอให้คนเขียนมาเขียนต่อเร็ว ๆ ด้วยน่ะ :katai4: 
เราจะรอ... :katai5:

โว้ว ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ได้เป็นนิยายเรื่องเเรกที่โพสนะคะ  เรื่องของเซน มีลิ้งค์แน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้โดนแบนอยู่ เหอๆ สงสัยเรทเกิน  แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ เราเอามาลงในเล้าแน่นอน เร็วๆนี้ ^^

กลับมาต่อเถอะนะคะTwT

มาแล้วค่ะ  มาทีนี้ ต่อจนจบเลย  :really2:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สงสารเซน ใครทำกับเซนแบบนั้น เอฟหรือ

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอบคุณครับ ชีวิตไผ่เนี่ยมีหลายรสชาติจริงๆ ไหงตอนหลังไผ่หื่นจัง อิอิอิ ชอบนะครับ เดี๋ยวจะตามอ่านเรื่องอื่นๆนะ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
 สงสารเซน


แต่ในที่สุดไผ่ก็มีความสุขเสียที

ออฟไลน์ freesia

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กำลังจะโบ้หัวแทมินพอดีทำมาบอกเลิกนี่ถ้ามีคนคิดเสียบแทนที่แล้วสำเร็จจะขำก๊ากเข้าให้=_= ดีที่คิดได้ไวไม่งั้นแม่เข่าใส่แน่

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0
จจบแล้วทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่แบ่งปันขอรับ

manawzaa_25

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณแคนมากเลยค๊า ที่แต่งมาให้ได้ฟินกัน
เนื่องจากไม่ทราบอายุของแคนเลยไม่รุจะเรียก พี่ น้อง หรืออะไรดี
เม้นนี้เพื่อเป็นกำลังใจนะจ้ะ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยจ้ะ (ยังไม่ถึงขั้นร่วงเผาะๆ เพราะเค้าภูมิต้านทานแนวดราม่าเยอะ) :z6:
แต่อ่านแล้วมันจี๊ดๆ ในทรวงตามแบบฉบับดราม่ารสเลิศ เยี่ยมค่ะ!! :-[
รอติดตามเรื่องของเซนต่อนะจ๊า แหม่ ใจจริงเราแอบเชียร์คุณพี่ทิวนะจ้ะ โผล่มาตอนแรกๆ คะแนนนิยมสูงปริ๊ดดดดด
เรางี้จับจิ้นเองตลอด (แนวอินเซทบันซายยยยยย)
ตอนหลังๆ ดันมีคู่ซะแระ  :z3: แต่ก็ดีที่ทุกคนมีความสุข
เหลือเซนที่เราต้องตามไปดูความมาม่า เอ้ย ดราม่า!!! ให้ถึงทรวงใน คืนนี้ไม่จี๊ดถึงใจ ไม่นอนนนนนนนน

//เพ้อ  :hao7:

ที่อยากบอกคือชอบมากจ้ะ ไอ้ที่เพ้อด้านบนน่ะอย่าใส่ใจเลยนะจ้ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ ChaBuShi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อยากอ่านเรื่องเซนๆอยากรู้เรื่อง มันค้างๆๆ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ Baruda

  • มีความสุข
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
หวังว่าพ่อแม่แบบนี้จะไม่มีอยู่จริง  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ Flowerrice13

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้ำตาไหลเบย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ chanabang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักอะ

ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับไผ่ไม่ใช่จากคนอื่น แต่เป็นจากพ่อแม่ ของไผ่ต่างหาก มันไม่มีทางเหมือนเดิม ความรู้สึกที่แตกสลาย ต่อยังไงก็ไม่มีวันเหมือนเดิม ดีใจนะที่อย่างน้อยตอนจบไผ่ก็มีความสุข :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ มาชิ มาชิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เสียดายไม่ได้อ่านคู่เซน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Bambocop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านจบแล้วเรารู้สึกโกรธพ่อแม่ของไผ่มาก คนๆหนึ่งจะถึงกับลืมกันไปเลยเหรอ ถ้าหากมีแบบนี้จริงคงรู้สึกแย่มากแน่ๆเลย เราอ่านไปน้ำตาไหลไปเลยถ้าหากเป็นเราเราจะทำยังไงนะ รู้สึกเหมือนทิวจะโชคดีกว่าไผ่มากที่มีย่าคอยดูแล แต่ไผ่ไม่มีใครเลย ขอบคุณคนเขียนมากๆเลยนะคะที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่าน แต่ยังมีคำผิดอยู่นะคะ ถ้าแก้ไขจะเพิ่มอรรถรสในการอ่านได้ดี เป็นกำลังใจให้พัฒนาต่อไปจ้า
ปล.เรื่องของเซนแลดูเศร้า ไม่กล้าอ่านเลยจริงๆ

ออฟไลน์ fager_yaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โกรธพ่อแม่ไผ่กะทิวบอกเลย โหกธมากให้อภัยไม่ได้จริงๆ มันเกินไปนะ  เข้าใจความรู้สึกของไผ่เลย ยู่บ้านเดียวกันแต่กลับไม่ได้รับความรัก คือไรหรอ แล้วอย่างตอนที่มาเห็นมาเห็นห้องไผ่แล้วจำไม่ได้ว่าห้องอะไรคือมันบ้ามาก. ..ไม่ให้อภัยย

สุดท้าย อยากให้มีเรื่องแยกเอฟกับเซน อยากรู้เรื่องราวต่อ อยากให้มีภาคต่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด