ตอนที่ 44 4 ต่อ 4 ตะลุยสวนสนุก...เฮ้~~
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“วู้วววววววววววววววววว”กรีดร้องอย่างสุดเสียง 555555+ วันนี้มาเล่นเครื่องเล่นกันครับ ก็ตามที่นัดกับเพื่อนๆอีกสี่คนไว้แหล่ะมันมากกกกกกกกก พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ความมันส์มันสื่อถึงกันได้ครับ 555+ เล่นหมดอะ บางอันที่ต้องเจอน้ำก็เปียกปอนไปตามๆกัน แต่แดดกำลังดีแบบนี้ เดินไปเดินมาเดี๋ยวก็แห้งแล้วครับ
“ไปเล่นไอ่นู่นกานนนนนนนนนนน” ไอ่แนน น้องเม กับมาเรียและเจเน็ท สี่สาวนี่รวมพลังกันแล้ว พลังล้นเหลือจริงๆครับ เข้าขากันได้ดีเยี่ยม ต้องขอบใจความเป็นกันเองอย่างล้นเหลือของไอ่แนน และความเป็นเยี่ยมทางภาษาของน้องเม สองสิ่งนี้รวมตัวกันแล้วทำให้สื่อสารกับชาวบ้านได้ง่ายขึ้นอย่างเหลือเชื่อล่ะครับ สี่สาววิ่งพรวดเดียวไปต่อคิวเครื่องเล่นอย่างไวว่อง คึกคักกันสุดๆ ผมก็เดินลากสังขารตามพวกมันไป แบทเริ่มหมด แหะๆ
“ไหวมั้ย?” ไอ่แจ๊คที่ตอนนี้เดินข้างๆผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง จริงๆผมไม่ใช่คนขี้โรคนะครับ...ทั้งหมดนี่ก็เพราะมันนั่นแหล่ะ เหอะๆ ผมหันไปมองมันแบบอาฆาตสุดๆ เพราะมึงไงไอ่เวร งืออออออออออ
“อะ...อ่อ...แหะๆ” ไอ่แจ๊คยิ้มเจื่อนๆเลย ก็เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ล่อไปเกือบเช้า มันบอกว่าชดเชยที่ไม่ได้ทำนาน นานตรงไหนของมัน เพิ่งทิ้งห่างไปสองสามวันเอง จะขัดมันก็กลัวจะโดนหนักกว่าเดิม พอเลยตามเลยผลมันก็ออกมาเป็นอาการปวดแบบนี้ไงครับทุกท่าน
“เออ...กูไหว...แต่อย่าบ่อยนักละกัน....” ผมบอกมันตรงๆนี่ล่ะ ใช่ว่าไม่เคยนี่ แหะๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพร้อมรับทุกศึกนะครับ -*-
“เฮ้ย! สวีทกันอยู่ได้ กูอิจฉาว้อยยยยยย รีบตามมาเลยมึง จะถึงคิวแล้วววววววววว” ไอ่แนนตะโกนลากเสียงยาวๆมาซึ่งดังโคตรๆ เล่นเอาบางคนเขาหันมามองขำๆ คือเสียงมันอึกทึกอยู่แล้วน่ะครับ ทั้งเสียงเพลงที่เปิดและเสียงจากเครื่องเล่นต่างๆ ทำให้ไม่มีใครว่าพวกเราเรื่องทำเสียงดัง แหะๆ ถึงมันจะดังจริงๆก็เถอะ
“เออๆไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” ผมกับไอ่แจ๊คก็รีบเดินไปสมทบพวกมันแล้วเริ่มพิธีทรมานตัวเองบนความสูงปนความหวาดเสียวอีกรอบ 5555+ แต่มันก็สนุกจริงๆอะแหล่ะ
พอลงมาคนที่ยังคงหน้าตาสดชื่นอยู่ก็ยังเป็นไอ่แนนกับไอ่แจ๊ค คู่หูบรรลัยนี่แหล่ะ ผมกับน้องเมนี่หน้าเริ่มซีดแล้ว คือผมไม่ได้อ่อนแออะไรนะครับ แต่ถ้าเทียบความแข็งแรงของร่างกายอาจจะแพ้ไอ่แนนมัน (อ้าว!) ก็...มันเป็นนักบาสอะ ไอ่แจ๊คก็ล่อทั้งบาสและฟุตบอล ดังนั้นไอ่สองตัวนี้จึงทรหดอดทนกันมากครับ
ส่วนบรรดาเพื่อนๆต่างชาตินี่ไม่ต้องพูดถึงครับ Alert กันสุดๆ - -*
“อันต่อไปขอเบาๆนะพี่ๆ เมขอพักซักแปปนึงอะ แล้วค่อยจัดแบบหนักๆอีกรอบนะๆ” สังเกตคำพูดของน้องเมนะครับทุกท่าน คงเริ่มคิดคำพูดแบบไอ่แนนมาแหงๆ เมื่อก่อนน้องเขาจะพูดแบบเรียงประโยคเป๊ะๆ แบบค่อนข้างสุภาพและตรงประเด็นเลยอะครับ แต่ตอนนี้น้องเขาก็ยังสุภาพนะ แต่คือหมายถึงจะพูดจาขี้เล่นขึ้นกว่าเดิม ผมว่ายังไงน้องเขาก็น่ารักอยู่แล้วล่ะครับ
“งั้นไปเล่นชิงช้าสวรรค์กัน” ไอ่แนนลูบหัวน้องเมเบาๆด้วยความเอ็นดู ถ้าไม่รู้จักพวกมันคงนึกว่าเป็นคู่รักกันแหงๆ ตอนผมเดินรั้งท้ายกับไอ่แจ๊ค ได้ยินบทสนทนาเล็กๆจากคู่หญิงสาวชาวต่างชาติที่เดินผ่านไอ่แนนและน้องเมครับ เขาพูดประมาณว่าเป็นคู่รักที่น่ารักจริงๆ กรรม...555+ พอผมกับไอ่แจ๊คเดินผ่านพวกเขาไปได้ซักพักหลุดขำกันเลยครับ เออ แต่มันก็เหมือนอยู่ไม่หยอกนะ
ไอ่แจ๊คเองก็ดูสนุกสนานครับ อย่างว่าแหล่ะ ทักษะภาษามันค่อนข้างดี มันชวนเท็ดดี้กับเควินคุยตลอด ผมเองก็ยิ้มบ้างตอบบ้างไปเรื่อย
พอพวกผมเดินไปถึงจุดชิงช้าสวรรค์นั่นแหล่ะ ถึงรู้ว่ามันเป็นชิงช้าสวรรค์เล็กแบบนั่งสองคนครับ คือจริงๆมันมี 2 แบบคือแบบใหญ่และแบบเล็ก แต่พวกผมไม่ทันดู เห็นว่าที่นี่ใกล้ เลยเดินมาเลย แล้วตัวกระจกของชิงช้าสวรรค์เล็กก็ค่อนข้างทึบเลยทีเดียว ตอนแรกที่ผมเห็นก็ไม่ได้เอะใจอะไรอะ แต่พอถึงคิวนั่นแหล่ะ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้นั่งเป็นคู่ พวกผมก็เชิญเพื่อนๆขึ้นไปก่อนเป็นมารยาท เจเน็ทนั่งกับเท็ดดี้ มาเรียก็นั่งกับเควินไอ่แนนและน้องเมจับมือกันกระโดดเข้านั่งเลยครับ เจ้าหน้าที่เขาก็มองแบบยิ้มๆ หรือเขายิ้มให้ทุกคนวะ ก่อนปิดประตู ไอ่แนนก็แซวยกใหญ่ว่าอย่าทำอะไรกันล่ะ แล้วจะให้กูทำอะไรวะ -*-
แต่พอผมหันไปทางไอ่แจ๊คนั่นล่ะ รู้เลยว่ามันคิดอะไร ไอ่เหี้ยนี่ อย่านะว้อยยยยยยยยยยย เหมือนมันอ่านสายตาผมออกครับ มันยิ้มตอบกลับมาน้อยๆ แล้วหันไปถามเจ้าหน้าที่ว่ารอบหนึ่งมันกี่นาที เขาก็ตอบมาว่าประมาณ 10 นาที แล้วชิงช้าอันที่ต้องขึ้นก็มาจอดตรงหน้าครับ จะบอกว่าไม่ขึ้นก็ไม่ทัน มันคว้าแขนผมขึ้นไปแหล่ว T^T
พอขึ้นไปนั่งก็รู้สึกถึงความแคบอะครับ แต่นั่งสบายนะไม่ได้เหม็นอับหรืออะไร ผมเสมองหน้าต่างอะไรไปเรื่อย มันติดฟิล์มแบบว่าข้างในมองออกข้างนอกได้ ข้างนอกมองเข้ามาข้างในไม่ได้อะครับ
ผมนั่งดูวิวไปได้ไม่กี่อึดใจ ก็รู้สึกถึงสัมผัสบริเวณหัว หัวผมนี่ล่ะครับ ไม่ใช่หัวล่าง -///-
แจ๊คมันเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆครับ หน้ายิ้มๆ ทีแรกผมก็ตกใจแต่เห็นว่ามันลูบๆหัวแบบเวลาเราลูบหัวหมาอะครับ ผมก็งงๆ แต่ก็นั่งให้มันลูบไปอะ เพลินดี 55+ (ว่าง่ายจัง)
“ฮึๆ...” มันเอามืออกจากหัวผมแล้วเอามือตบที่ตักตัวเองแปะๆ...จะให้กูไปนั่งเนี่ยนะ คือเพดานมันค่อนข้างสูงครับ แต่ถึงแบบนั้นมันก็แคบอยู่ดีนะ ผมส่ายหน้าไม่ไปๆ มันก็ตบๆที่ตักมันนั่นแหล่ะ
“ไม่เอา...ไม่ดื้อสิ มานี่มา...”
“เรียกซะเป็นหมาเลยนะมึง” -*-
“เอ้า....ก็เรียกด้วยความเอ็นดู...หรืออยากให้ดูเอ็น...จะเอาแบบไหน?” ยักคิ้วกวนตีนๆใส่ผมอีก เอ็นดู....ดูเอ็น....เฮ้ย! งั้นไปดีกว่าว่ะ แหะๆ (มันเพิ่งรู้ตัว)
ผมก็ขยับตัวไปนั่งบนตักมันอย่างเก้ๆกังๆ กลัวมันหนักด้วยแหล่ะ มันก็ขยับตัวให้ผมนั่งตรงหว่างขามัน แล้วเอาคางมันเกยไหล่ผม มือก็กอดเอวไว้หลวมๆ...มันเคยบอกว่ามันชอบเวลาที่ผมมานั่งกับมันแบบนี้มากที่สุด เห็นมันบอกว่ากอดถนัดดี...
“เฮ้อ......” ตอนนี้ทั้งผมและไอ่แจ๊คผ่อนคลายตัวเองอย่างเต็มที่ แจ๊คมันถอนหายใจยาวๆ เหมือนผ่อนคลายความเหนื่อยล้า...มันก็อุ่นๆดีอะนะ...
ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างผมกับมัน ต่างคนต่างนั่งอยู่ในอ้อมกอดกันและกันเงียบๆ ผมเองก็เอนหลังพิงแผงอกมันไว้ จนชิงช้าสวรรค์ใกล้จะหมดรอบผมก็ลุกออกจากตัวมัน แล้วกลับมานั่งสบตายิ้มๆ กับมันที่เดิม....ก็ไม่เลวนักหรอก...
พอจังหวะที่ใกล้จะถึงพื้น แจ๊คมันเอี้ยวตัวมาหอมแก้มผมเร็วๆแล้วผละไป เล่นเอาผมงง ไอ่ห่านี่มือไวชะมัด มันก็ยิ้มๆตามสไตล์มันอีก พอประตูชิงช้าสวรรค์เปิดออกก็เห็นไอ่แนนกับน้องเมยืนยิ้มเผล่อยู่ ทำนองอยากรู้ว่าพวกผมทำอะไรกันนั่นแหล่ะ เวร -*-
ออกมาไอ่แนนก็แซวตามระเบียบ... ชินแล้วครับ น้องเมนี่ไม่ค่อยแซวนะ แต่บทน้องเขาจะถามขึ้นมานี่เล่นเอาชะงัก ถามแบบตรงๆถึงแก่น เล่นเอาผมพรวด! มาหลายครั้งละ ส่วนเพื่อนๆชาวต่างชาติของเราเขาก็มองแบบยิ้มๆน่ะนะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้กันรึเปล่า แต่ถึงจะรู้ก็....ก็ช่างมันเหอะเนาะ -*-
พอเที่ยงก็ไปนั่งทานอาหารบริเวณฟู๊ดคอร์ทกันครับ ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ คนเลยไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่ได้โหรงเหรงอะไร การต่อคิวซื้ออาหารจึงไม่ได้ใช้เวลามากนัก ไม่นานทุกคนก็ได้อาหารมากองอยู่ตรงหน้า ซึ่งไอ่แนน ไอ่แจ๊ค เท็ดดี้กับเควินนั้น ล่อคนละสองชุดครับ *0* ผมว่ามันก็ให้เยอะแล้วนะ มิน่า พลังงานล้นเหลือกันจัง
“แล้วนี่พวกคุณกำหนดกลับกันเมื่อไหร่?” เท็ดดี้สุดหล่อถามขึ้นมาครับ น้องเมก็ตอบไปว่าอีกประมาณ 1 เดือน....ก็ไม่เชิงหนึ่งเดือนอะครับ จริงๆก็เหลือประมาณ 3 อาทิตย์นิดๆล่ะตอนนี้
“จริงๆเรามีกำหนดการเล็กๆว่าจะไปเที่ยวเอเชียกัน” เจเน็ทสาวผิวสีคนสวยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดๆครับ
“เมื่อไหร่เหรอ?” ไอ่แจ๊คถามกลับครับ
“น่าจะช่วงปิดภาคของเรา แต่ก็ยังไม่แน่นอนเท่าไหร่ จะรบกวนมั้ย ถ้าเราอยากให้พวกคุณนำเที่ยว” เจเน็ทพูดแล้วหัวเราะน้อยๆครับ
“ไม่มีปัญหา!!! เมื่อไหร่ก็ยินดีทุกเมื่อ” ไอ่แนนครับ เจเน็ทได้ยินดังนั้นก็ยิ้มใหญ่เลย และบทสนทนาถัดมาก็คือเรื่องการไปท่องเที่ยวที่บ้านเรานี่ล่ะครับ
“แล้วอยากไปไหนกันคะ?” น้องเมถามเจเน็ทกลับครับ
“ก็อาจจะเริ่มที่กรุงเทพก่อน....แล้วก็เอ่อ มาเรีย....ที่ไหนนะที่คุณอยากไปน่ะ?” เจเน็ทหันไปถามมาเรียครับ
“ไม่แน่ใจเรื่องชื่อ....แต่ดูเหมือนจะเชนมาย....อะไรซักอย่าง” เล่นเอางงกันทั้งโต๊ะ อะไรง่ะเชนมาย???
“บางทีคุณอาจจะหมายถึงเชียงใหม่????” ไอ่แนนครับ
“เอ้อ!! อาจจะใช่”
“งั้นก็สบาย....ที่นั่นเป็นบ้านเกิดของเรา” ไอ่แนนว่าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วมันก็บรรยายวัฒนธรรมบ้านมันยาวเหยียด เพื่อนต่างชาติเราก็นั่งฟังกันใหญ่ ท่าทางเขาสนใจกันมากครับ
พอมื้อเที่ยงหมด ก็ตะลุยขึ้นเครื่องเล่นกันต่อ ซึ่งไอ่แต่ละอย่างที่เลือกเล่นกันเนี่ย....โอย พาลเอาข้าวเที่ยงจะพุ่ง สูงได้อีก เร็วได้อีก หวาดเสียวได้อีกคราบบบบพี่น้อง แต่ก็ต้องตามน้ำเขาไป เดี๋ยวทำเขากร่อยมันไม่ดี
“อ่าว นั่นมันแมกซ์นี่หว่า...” ไอ่แจ๊คพูดขึ้นเมื่อเห็นไอ่แมกซ์ไวๆ ไอ่แนนโดดเหยงเลยทีเดียว แต่จะว่าไป เจอก็ไม่แปลกอะ ก็มันทำงานในนี้นี่หว่า แต่จะว่าไปก็ไม่เห็นไอ่แอรอนเลย.....แต่ไม่เห็นก็ดีแระล่ะ.... (ผมมารู้ทีหลังว่ามันเปลี่ยนงานไปทำที่โรงแรมแทนครับ ไปเป็นการ์ดของสวนน้ำในร่มที่โรงแรมแทน)
“ปะๆๆๆๆ ต่อๆๆๆ” ไอ่แนนรุนหลังไอ่แจ๊คที่ทำท่าจะตะโกนเรียกไอ่แม็กซ์ให้หันมา คาดว่าคงจะเรียกมาอำไอ่แนนนั่นแหล่ะ พวกผมสี่คนก็ฮากันไป เพื่อนชาวต่างชาติเขาก็ถามพอเป็นพิธี เลยเล่าเขาไปนิดหน่อยว่ามีคนมาจีบงู้นงี้ เขาก็ขำๆกันน่ะครับ
ตกบ่ายแก่ๆ พลังเริ่มหมดก็ไปเล่นเครื่องเล่นที่เบาลงมาหน่อย.....ถ้วยหมุนครับ -*- (เบา....แต่มึนชิบ)
นั่งกัน 4 คนสองถ้วย เพราะถ้วยมันก็ใหญ่พอดู แบ่งๆกันนั่งอะครับ ผมกับน้องเมไปนั่งกับเจเน็ทและเควิน ส่วนไอ่แนนกับไอ่แจ๊คนั่งกับเท็ดดี้และมาเรีย จะแยกกันนั่งกลุ่มใครกลุ่มมันก็คงยังไงๆอยู่ อุตส่าห์มาเที่ยวด้วยกันทั้งที พอลงมาผมนี่หัวหมุนเลย จะเป็นลมง่ะ เจเน็ทเข้ามาพยุงผมทันพอดีตอนวูบๆ ไอ่แจ๊คมันก็รี่เข้ามาหา แต่ผมก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแหล่ะ เดี๋ยวเขาจะไม่สนุกกันเปล่าๆ
ตกเย็นก็เดินไปส่งเพื่อนๆที่รถเขาครับ พวกผมปฏิเสธคำชวนของเท็ดดี้ที่ว่าจะขับรถไปส่ง ด้วยการชี้ไปที่อพาร์ทเม้นท์ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสวนสนุก พวกเขาก็ฮากันไป เพราะไม่นึกว่าจะอยู่ใกล้ขนาดนี้ ทีแรกพวกผมอยู่ชวนเขาทานอาหารเย็นต่อนะครับ แต่พอดีเจเน็ทต้องไปทำธุระต่อ เลยเลื่อนไปโอกาสหน้า ผมแอบคิดในใจว่ารีบๆหน่อยละกัน เพราะผงปรุงอาหารไทยเริ่มร่อยหรอแล้วครับ ฮ่า~
และแล้วก็ลากสังขารเหนื่อยล้ากลับอพาร์ทเม้นท์กันครับ ต่างคนต่างพึ่งอาหารสำเร็จรูปเป็นแถว ทำไม่ไหวครับ เหนื่อยมาก แถมห้องครัวก็เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่แย่งกันใช้เตาทำอาหารจนแทบจะตีกันตายอยู่แล้ว เลยพึ่งไมโครเวฟอย่างเดียวดีกว่า พอกินเสร็จก็กลับห้องล่ะครับ ไม่นานนักผมก็จัดการธุระตัวเองเรียบร้อย นอนเหยียดขาดูทีวีเหมือนอย่างเคย ไอ่แจ๊คก็เข้าไปอาบน้ำต่อ
พอมันออกมาผมก็เคลิ้มๆจะหลับแล้วแหล่ะ เหนื่อยงะ เลยโงหัวขึ้นมาจากที่นอนฝากให้มันปิดทีวีให้หน่อยเพราะเริ่มไม่ไหวแล้ว แล้วผมก็หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว ZZZzzzzzZZzzzzzzzzzz
……………………………………………
ย้อนมาที่ไอ่แจ๊ค (ตอนเย็นๆ) ---
“นี่...” ผมหันไปตามเสียงเรียก.....มาเรียครับ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดเดินอยู่ที่ลานจอดรถที่เท็ดดี้จอดรถไว้
“ครับ?” ผมหันไปพูดคุยกับเธออย่างสุภาพ ยังไงก็ควรจะรักษามารยาทไว้นี่ครับ...
“คุณโสดรึเปล่า?” มาเรียถามผมแบบทีแล่นทีจริง ผมอึ้งไปนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าเธอจะถามคำถามแบบนี้ ผมยิ้มน้อยๆเป็นคำตอบ มาเรียเองก็ยิ้มแบบเซ็งๆ แล้วยักไหล่ขึ้นเหมือนเข้าใจ เธอหันไปมองภาพข้างหน้าที่บรรดาเพื่อนๆเราเดินทิ้งห่างไปเล็กน้อย แล้วจงใจหันไปทางที่น้องเมและไอ่แนนกำลังเดินด้วยกัน เธอยืนกอดอก มืออีกข้างชี้ไปทางสองคนนั้นเป็นคำถาม ผมส่ายหัวเป็นคำตอบ....
“แฟนคุณอยู่ที่เมืองไทย?” เธอถามต่อครับ ซึ่งผมก็ส่ายหัวและยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มเดิม…
“???” มาเรียขมวดคิ้วเป็นเครื่องหมายคำถามเลยล่ะครับ ผมขำออกมาเล็กน้อย เดินตรงเข้าไปจับไหล่เธอแล้วกระซิบใส่หูเธอเบาๆถึงชื่อแฟนของผม....
เท่านั้นล่ะ......เธอยืนตัวแข็งเป็นหินเลยล่ะ นิ้วเรียวสวยชี้ไปที่ร่างเล็กๆที่เดินคู่กับเควินที่คุยกันอยู่อย่างออกรส ผมพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงบอกลา แล้วก็เดินนำหน้าเธอไปเลย.....
แต่เธอก็เร่งฝีเท้ามา เมื่อเธอตั้งสติได้ มาเรียเดินตีคู่มากับผม ผมหันไปยิ้มจางๆให้เล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร จนเดินมาถึงรถของเท็ดดี้ เธอก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆมาให้ผมหนึ่งแผ่น แล้วก็ลากลับไป
ผมกลับที่พัก ทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยก็มานั่งพักในห้อง ผมกะจะบอกไอ่ตัวแสบซะหน่อยแต่ก็...
“ว่าจะคุยอะไรด้วยซักหน่อย หลับซะงั้น.....” ในมือผมขยำกระดาษแผ่นเล็กๆแน่น.....ที่อยู่อีเมล และเบอร์โทรศัพท์.....ไอ่อาการแบบนี้ ไม่ต้องฉลาดนักก็รู้แหล่ะ ว่าจะมาไม้ไหน.....
“ตื่นมาค่อยบอกละกัน...”
จบตอนที่ 44 4 ต่อ 4 ตะลุยสวนสนุก...เฮ้~
*******************************************
อีดิทอีกรอบ ลืมลงรูป
ช่วงนี้มึนๆ เหนื่อยๆ นอยด์ แดกกกกกก
หัวข้อ...กำลังทำอยู่ อาทิตย์หน้าส่งใบคาดว่า&ถ่ายรูป เชี่ยยยยยยยยย~ แล้วหัวกรูก็แดงมาเชียว ย้อมเมื่อซัก 3-4 เดือนที่แล้ว สีแม่งยังอยู่เรย
เพื่อนบางคนบอกจะใส่วิก มะเหงกอะ ไม่เอาว่ะ ไปย้อมกลับก็ได้วุ้ยยยยยยยยย เอาให้ดำสนิทแบบพังค์ไปเลย
ว่าแต่ชื่อใบคาดว่าจะจบ.....หมายความว่า จะจบหรือไม่จบกันแน่วะ
มึน....ไปละ
ป.ล เดี๋ยวมา + ให้...