[เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม  (อ่าน 67548 ครั้ง)

[W]olf[T]ricky

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #30 เมื่อ17-04-2009 20:39:43 »

เกี๊ยววววววววววววว

จูบไปกับคุณบอลแล้ววววววว

โฮกกกกกกกก  แล้วคุณโอมอ่า ๆๆๆเชียร์โอมอ่ะ ชอบโอม รักโอม

อยากให้โอมเป็นพระเอก หุหุๆๆๆๆ

รีบๆๆๆมาต่อนะคะ o18

salemon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #31 เมื่อ17-04-2009 20:43:26 »

เคยอ่านอยู่ แต่สงสาร :z3:
เลือกไม่ถูกจิงๆ
ขอบคุณนะค่ะที่นำมาลงอ่านที่นี่
 :pig4:

White..BroccO

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #32 เมื่อ17-04-2009 21:55:57 »

 :a5: :a5:

เป็นเด็กเป็นเล็ก

jedi2543

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #33 เมื่อ17-04-2009 22:52:27 »

เคยอ่านเรื่องนี้สมัยลงเด็กดี ดีใจมากๆ ที่คนเขียนเอามาลงใหม่ คราวนี้อย่าลืมแต่งให้จบนะคะ เอาใจช่วย

patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #34 เมื่อ17-04-2009 23:16:37 »

บอลรุกเร็วเหมือนกันนะเนี่ย หึ หึ หึ

 o18

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #35 เมื่อ18-04-2009 05:40:29 »

มอบแต้ม+ ที่ 9 และรอตอนใหม่นะคร้าบ  :pig4:

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #36 เมื่อ18-04-2009 12:19:44 »

ตอน 4

  ผมก็ต้องนั่งรอจนกว่าไอ่บอลมันจะอาบน้ำเสร็จอีก จะว่าไปถ้าผมแอบหนีตอนนี้ก็ยังทัน คนตัวเล็กรวบรวมความกล้าที่มีอยู่ เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นที่ดวงหน้าหวานเพิ่มความท้าทายมากขึ้น แล้วผมก็ต้องทำตัวเป็นโจรย่องเข้าบ้านคนอื่นต่างกันตรงที่ผมกำลังย่องลงบันไดมาก็เท่านั้น

“ก็กูบอกให้เมิงรออยู่ในห้องไง” เอาแล้วไง วันนี้ผมโดนหักคอจิ้มน้ำพริกตาแดงชัวร์ มันเล่นมาล็อกคอผมทั้งๆที่ยืนอยู่ตรงบันไดเนี่ยนะ ตกลงไปตายห่าด้วยกันทั้งคู่
 
“กะ ก็...คะ คือ กูปวดฉี่” ผมแก้ตัวหน้าด้านๆ แกล้งเอามามากุมที่เป้าตัวเองทำเนียนเพื่อความสมจริง
 
“เออๆ รีบไปก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจไม่ไปส่งเมิง” แล้วใครใช้ให้เมิงไปส่งกูเล่า ไม่ได้ขอเลยสักนิด ผมก็เลยต้องเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เข้าไปนั่งทำหน้าเหียกสักพัก แล้วค่อยออกไป
 
   ความรู้สึกร้อนๆที่หน้า ปวดหัวตุบๆจนบอกไม่ถูก เวลากระพริบตาทีมันก็ร้อนๆที่เปลือกตายังไงก็ไม่รู้ จะกลืนน้ำลายทีผมแทบไม่อยากจะกลืน ก็มันเจ็บแปล๊บๆที่ในคอเหมือนมีใครเอามีดมากรีดไว้ยังงั้น ทุกอย่างตอนนี้ก็ดูเหมือนจะพร่ามัวไปหมด นี่ไข้ผมขึ้นไวขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมถึงได้อ่อนแอยังงี้นะ ผมไม่ชอบเลย (เป็นไข้ใครมันชอบกันฟร่ะ)
 
“ขี้แตกรึไงว่ะ เข้าไปเป็นชั่วโมง” อันที่จริงผมเข้าไปแอบนั่งหลับในห้องน้ำต่างหาก กะแค่พักสายตาสองสามนาทีพอรู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงกร่ำซะแล้ว
 
“เออ กูท้องเสีย” ผมตอบปัดๆ ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรแล้วนอกจากจะกลับไปนอนที่นอนอุ่นๆของผมอย่างเดียว ลงบันไดผมก็แทบจะเดินหลับตาลงมาอยู่แล้ว ก็นอนในห้องน้ำมันยังไม่อิ่มดีเลย
 
“อ้าว เฮ๊ย ไอ่โอมวันนี้ไปดวลบอลกะใครมาอีกว่ะ” เสียงไอ่บอลที่พูดกับใครบางคนทำให้ร่างบางเบิกตาโพลง
 
“ก็พวกไอ่หนึ่งนั่นแหละว่ะ จะมีใครซะอีก” พวกไอ่โอมกับเพื่อนของมันยืนออกันอยู่เต็มหน้าร้านในมือ ถือขวดน้ำอัดลมเป็นเป็นแถว
 
“แล้วเมิงกลับไงเนี่ย” เมิงจะคุยกันอีกนานม๊ายย กูอยากกลับบ้านโว้ยยยย ก็ไอ่อาการปวดเศียรเวียนกล้าคล้ายจะเป็นลมของผมมันมากขึ้นเรื่อยๆ ตาผมจะปิดเหล่ไม่ปิดเหล่แล้วเนี่ย
 
“กะจะให้ไอ่ยะไปส่งว่ะ มีไร” โอมถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย
 
“งั้นดีเลย เมิงเอาไอ่ก้างนี่กลับไปด้วยแร่ะกัน แมร่ง กูจะช่วยแม่ปิดร้านว่ะ” ไอ่ก้างที่ว่านี่มันหมายถึงผมเองแหละ ผมพยายามทำตัวเนียนก็ถุงกระสอบใส่ข้าวข้างๆแล้วมันก็ดันหาเรื่องให้ผมจนได้ ไอ่ทึกนี่ก็ผลักผมไปหาไอ่โอมทั้งๆที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว กูไม่ใช่ของเล่นนะเว้ยจะได้ส่งไปส่งมาแบบนี้
 
“ก็ได้” ไอ่โอมมันมองหน้าผมแปลกๆแถมยังอมยิ้มกรุ่มกริ่มจนดูน่ากลัว คนป่วยเมิงจะไม่ละเว้นเลยรึไงฟร่ะ
 
“งั้นพวกกูกลับก่อนนะเว้ย” แล้วไอ่โอมก็ล่ำลากับลูกทีมของมันเสร็จก็เหลือแต่ ผม ไอ่โอม และ ไอ่บอล ท่ามกลางความเงียบอีกครั้ง พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกด้วย
 
 ผมก็ได้แต่เดินตามหลังไอ่โอมไปต้อยๆ ที่มันไม่ได้เอารถจักรยานก็เพราะไอ่พวกนั้นไปรับไปส่งมันถึงที่บ้านนี่ครับ ใครๆก็อยากเป็นเพื่อนมันยกเว้นผมคนหนึ่งแหละ (ความแค้นมันฝังใจ)
 
“เห้ย เมิงจะยืนเหม่ออีกนานมั้ย” อาศัยรถกูแล้วยังมาหลอกด่าอีก เจริญมั้ยล่ะ
 
   มันทำยังกะว่ารถที่มันควบอยู่เป็นรถจักรยานของมันยังงั้นแหละ เดี๋ยวพ่อกระโดดก้านคอซะนิ แต่ตอนนี้ฝากไว้ก่อนเพราะผมกำลังมึนเดี๋ยวมันจะได้เปรียบ ผมก็เลยจำใจไปนั่งซ้อนท้ายมันอย่างช่วยไม่ได้
 
   รถจักรยานสีน้ำเงินดำออกตัวไปช้าๆ ไม่รู้ไอ่โอมมันขับรถฯเป็นรึเปล่าขับช้ายิ่งกว่าเต่าซะอีก รถฯปั่นทวนกระแสลมอ่อนๆที่พัดปะทะกลับมา แสงอาทิตย์ร่ำไรในตอนเย็น ประกอบกับเสียงนกกาที่ร้องดังชวนให้ผมเคลิ้มดีจริงๆ ผมไม่ได้หลับน้า แค่พักสายตาเท่านั้นเอง
 
   แล้วหัวก็เริ่มเอียงทีล่ะนิด หลังจากนั่งสับปะโงกได้สักพัก มันก็กลายเป็นหลับถาวร ดวงหน้าหวานเผลอโน้มไปซบกับแผ่นหลังคนตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว จนโอมสะดุ้งหันมาดูคนข้างหลังด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
 
“ไอ่นี่มันไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาว่ะเนี่ย” ถึงร่างสูงจะบ่นกระปอดกระแปดแต่ริมฝีปากเรียวกลับยิ้มอย่างไร้เหตุผล
 
“งืมๆ” เสียงครางเบาๆในลำคอทำให้ร่างสูงกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ นอนดีๆไม่พอขนาดหลับยังทำเนียนละเลงน้ำลายซะเต็มหลังผมเลย (โอมคิด)
 
   ท้องฟ้าที่แดงค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นดำสนิท ดวงไฟนีออนสีส้มข้างถนนสว่างเป็นทาง นานๆทีจะมีรถสักคันผ่านมาก็ไม่แปลก เพราะที่นี้ค่อนข้างจะอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควรแต่ก็ยังพอมีความเจริญอยู่บ้าง เรียกว่าอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงจะเหมาะกว่า แถวสี่แยกถึงจะเจอรถเยอะๆบ้าง
 
   มือหนาเอื้อมไปจับข้อมือเล็กที่ห้อยโต่งเตงอยู่ข้างลำตัวร่างบางขึ้นมาโอบเอวแกร่งของตัวเองไว้อย่างหลวมๆ สัมผัสนุ่มนิ่มในมือมันทำให้คนตัวสูงมีความสุขกว่าครั้งไหนๆ หัวใจมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะจนแทบจะหลอมละลายให้ได้แล้ว
 
...
 
   แต่ข้อมือเล็กๆอุ่นๆ กับสัมผัสร้อนๆที่หลังตั้งแต่เมื่อกี้ทำให้โอมเดาได้ไม่ยากว่าคนที่ซบเขาอยู่ตอนนี้กำลังป่วยอยู่แน่ๆ
 
   จากที่จะแกล้งปั่นจักรยานช้าๆเพื่อที่เขาจะได้อยู่กับคนตัวเล็กแบบนี้นานๆ กลับทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าขึ้นกว่าเดิม อาการกังวลปรากฏที่ดวงหน้าคมทันที มือหนากระชับแขนคนตัวเล็กแน่น ก่อนจะกุมมือนิ่มที่อยู่บริเวณหน้าท้องของตัวเองเบาๆ ขณะที่อีกมือก็บังคับรถจักรยานแล่นลิ้วปะทะลมทำให้ร่างบางสั่นเล็กๆเพราะอากาศที่หนาวเกินกว่าร่างกายของเขาจะรับไหว
 
“อย่าเป็นไรนะเว้ย” คนตัวสูงเอ่ย น้ำเสียงสั่นเครือ เพราะกลัวว่าคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้
 
เอี๊ยดด รถจักรยานจอดหน้าร้านบะหมี่เกี๊ยวที่ปราศจากผู้คน มีเพียงผู้เป็นพ่อกับแม่ของคนที่กำลังหลับใหลนั่งอยู่เท่านั้น
 
 “น้าพงษ์ครับ ไอ่เกี๊ยวมันเป็นไรไม่รู้ตัวร้อนจี๋เลย” ร่างสูงเอ่ยรัว ในอ้อมแขนประคองคนตัวเล็กด้วยความห่วงใย
 
“อุ้มขึ้นไปห้องนอนก่อนไป” คนตัวสูงพยักหน้าอย่างรับรู้ก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินอุ้มคนตัวเล็กขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตน
 
“พ่อ เอาผ้าชุบน้ำขึ้นมาด้วยนะ” ผู้เป็นแม่สั่งก่อนจะรีบเดินตามหลังโอมขึ้นไป
 
“สงสัยจะเป็นไข้ ไปทำอะไรมาอีกเนี่ย จริงๆเล้ย” เหมือนแม่จะบ่นแต่ในน้ำเสียงกลับเจือปนด้วยความห่วงใย แม่บรรจงซับผ้าขนหนูอุ่นๆที่ดวงหน้าหวาน พ่อที่คอยอยู่ข้างๆก็คงเป็นห่วงไม่แพ้กัน
 
“เกี๊ยวกินยาก่อนนะลูก” พ่อช้อนท้ายทอยคนตัวเล็กให้อยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน ส่วนแม่ก็เขย่าตัวเกี๊ยวเบาๆเพื่อเรียกสติ ยาเม็ดเล็กถูกสอดเข้าไปในปากบางตามด้วยน้ำเปล่า เกี๊ยวขัดขืนเล็กน้อยก่อนจะยอมกลืนยาไปแต่โดยดี ดวงหน้าหวานบูดเบี้ยวทำให้รู้ว่าสิ่งที่กินเข้าไปคงไม่ถูกปากมากนัก
 
 แล้วแม่ก็ถอดเสื้อเกี๊ยวเพื่อจะเปลี่ยนตัวใหม่ให้คนที่นอนอยู่เพราะน้ำหกเลอะเสื้อที่ใส่อยู่จนเปียกหมดแล้ว ขืนให้ใส่ยังงี้ต่อไปมีหวังพาลจะทำให้ไข้ขึ้นซะเปล่าๆ
 
“อะ เอ่อ น้าพงษ์น้าดางั้นผมกลับก่อนนะครับ” คิดจะถอดก็ถอดกันต่อหน้ายังงี้ ก็มีหวั่นไหวมั้งสิครับ (โอมคิด)
 
“อืม ขอบใจมากนะโอมที่อุตส่าห์พาเจ้าเกี๊ยวมันมาส่งน่ะ” น้าพงษ์พูดพลางลูบหลังคนตัวสูงเบาๆ
 
“คะ ครับ ไม่เป็นไรครับ” แล้วผมก็ต้องลุกลี้ลุกลนออกจากห้องไอ่เกี๊ยวมันแทบไม่ทัน ก็น้าดาเล่นถอดซะเกือบหมดทุกชิ้น ถ้าผมยืนอยู่มีหวังเลือดกำเดาไหลน้าพงษ์กะน้าดาคงไม่ให้ผมเข้าใกล้ลูกชายเค้าแน่ๆ (โอมคิด)
 
 อีกใจหนึ่งผมก็ห่วง แต่ถ้าเป็นไข้หวัดธรรมดาพักสองสามวันก็คงหาย ไอ่นี่มันไม่ตายง่ายๆหรอกมั้ง ต้องอยู่ให้ผมแกล้งไปอีกนาน หายไวๆนะเว้ยไอ่เกี๊ยว (โอมคิด)



 “พ่อๆ เอารถออกเร็ว เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน แค่กๆ” เสียงเล็กเร่งกระเส้าอย่างกระวนกระวาย หลังจากที่นอนซมอยู่ทั้งคืน จากไข้ที่เคยขึ้นสูงเหลือทิ้งไว้เพียงไอ่น้ำเมือกใสๆในจมูกที่ไหลเยิ้มตลอดเวลาจนน่ารำคาญ
 
“สภาพยังงี้จะไปไหวเร้อ หยุดสักวันดีกว่ามั้ย” พ่อพูดพลางเอามืออุ่นๆเตะที่หน้าผากมนอย่างห่วงใย
 
“ไหวพ่อ รีบไปเหอะ” มือเล็กกระตุกชายเสื้อพ่อเบาๆ ก่อนจะสูดน้ำมูกดังฟืดฟาด
 
“เอ้า ไปก็ไป” เหมือนพ่อจะคิดลังเลอยู่ลักพัก สุดท้ายก็ต้องยอมคนตัวเล็กที่ยืนมองสายตาเว้าวอนอยู่ตรงหน้า
 
   ยิ่งพ่อขับรถเร็วเท่าไรก็เหมือนผมกำลังนั่งอยู่ในตู้แช่เย็นอาเฮียร้านข้างๆซะยังงั้น ไม่นานผมก็เห็นท้ายรถนักเรียนคันเก่าๆที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ด้านหน้า แล้วค่อยๆชะลอความเร็วจนหยุดเช่นทุกคราว
 
“เอายาไปรึยัง” เสียงพ่อตะโกนถามตามหลังคนตัวเล็กที่เพิ่งจะก้าวขึ้นรถ เกี๊ยวเพียงแต่พยักหน้าหงึกๆ ร่างบางที่สั่นระริกกับดวงหน้าหวานที่ซีดปานกระดาษ ริมฝีบางอมชมพูระเรื่อจนเกือบไม่มีสี เสียงหอบเบาอยู่ในลำคอจนน่าสงสาร
 
   ขาเล็กที่หมายจะก้าวไปหาที่นั่งข้างหน้า แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่รั้งกระเป๋าอันหนักอึ้งของเขาไว้อย่างกะทันหันจนเกือบเสียหลักล้มคะมำไปกองกับพื้น โชคดีที่เขาตั้งหลักทันซะก่อน
 
“เมิงน่ะ จะไปไหน มานั่งนี่” ไอ่คนที่ดึงกระเป๋าผมจะใครที่ไหนได้ก็มีแต่ไอ่บอลที่นั่งอยู่ตรงนั้น คนตัวเล็กมองที่ว่างข้างๆร่างสูงอย่างหวาดหวั่น ไม่รู้คราวนี้ผมจะโดนมันแกล้งอะไรอีก
 
“ต่อไปนี้เมิงต้องมานั่งที่นี้ทุกวัน เข้าใจมั้ย!!” ไม่รู้ไอ่บอลมันจะตะโกนหาพระแสงอะไรของมันทั้งที่ผมก็นั่งข้างๆมันแล้วแก้วหูแทบแตก
 
“เออ” เสียงหวานแหบพร่า เบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ดูเหมือนไอ่คนที่เพิ่งออกคำสั่งจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก
 
   ใครจะเชื่อกันล่ะว่ามันจะมีวันนี้ได้ วันที่ผมได้มานั่งที่เดียวกะพวกไอ่บอล ที่นั่งเบาะยาวหลังรถที่ผมได้แต่มองมันห่างๆทุกวัน สิ่งที่ทุกคนอยากมีไม่ว่าจะเป็นใคร สิ่งที่ใครๆเรียกมันว่า เพื่อน ผมไม่แน่ใจว่าในตอนนี้ผมอยู่ในฐานะไหนกันแน่ คนที่พวกมันเห็นว่าเป็นเพื่อน หรือแค่ของเล่นที่ไว้แกล้งแก้เซ็งงั้นเหรอ
 
 ไอ่บอลนั่งนิ่งบางครั้งผมก็เหมือนจะได้ยินเสียงมันฮัมเพลงเบาๆ อันนี้ผมอาจจะคิดไปเอง ตอนนี้สมองผมมันโล่งโหวงไปหมดแล้ว ก็เพราะน้ำมูกที่มันไหลไม่หยุดเนี่ยแหละ ส่วนไอ่ข้างๆผมที่นอนพิงไอ่เคนอย่างสบายอารมณ์ก็คงเป็นไอ่โยสินะ
 
เวลา 8 นาฬิกา ประเทศ...
 
   อีกเช่นเคยที่พวกผมวิ่งตาลีตาเหลือกไปเข้าแถว เสียงหอบดังระงมไปทั่วบริเวณ แสงอาทิตย์อุ่นๆกับปุยเมฆสีจางๆตอนรับเช้าวันใหม่อย่างสดใส ถึงอากาศตอนนี้จะเริ่มเย็นกว่าปกติ แต่ถือได้ว่าช่วงนี้อากาศดีมากเลยทีเดียว เสียที่ผมเป็นหวัดก็เท่านั้น
 
“เฮ๊ย” คนตัวเล็กร้องเสียงหลงขณะเดินขึ้นบันไดที่แออัดไปด้วยนักเรียนอีกหลายชีวิต ผมเดินขึ้นบันไดอยู่ดีๆ ไอ่เชี่ยที่ไหนไม่รู้มาผลักมาจากข้างหลังซะเกือบล้ม ผมก็ได้มองหาไอ่ตัวการอย่างเคืองๆ แต่ก็ไม่เจอใครที่น่าจะใช่สักคน อย่าให้จับได้นะเว้ยว่าใครแกล้ง จะโดนไม่ใช่น้อย
 
หมับ~!! จู่ๆไอ่บ้าไหนก็ไม่รู้เดินมากอดคอผมเฉยเลย คนยิ่งมึนๆอยู่
 
“หายเป็นไข้แล้วเหรอว่ะ ถึงได้หอบสังขารมาเรียนได้” ผมมองหน้าไอ่โอมที่ยืนกอดคอผมยังกะสนิทกับมันมา 10 ปียังงั้น (ประชด)
 
“แล้วเมิงเห็นว่ากูนอนอยู่ที่บ้านรึไงเล่า” ไอ่เสียงที่ไม่ค่อยมีอยู่แล้วแหบเล็กยิ่งกว่าเดิม ผมรีบมุดหัวออกจากแขนของไอ่โอมตอนมันเผลอแล้วรีบเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนที่จะมีเรื่องซวยๆเกิดขึ้นอีก
 
   เกือบตลอดทั้งวันที่ผมได้แต่นั่งทำหน้าเอ๋อ ส่วนไอ่สิ่งที่มันขีดเขียนบนกระดานมันก็แทบจะไม่หัวของผมเลยสักนิด นี่ผมคิดผิดคิดถูกที่หอบสังขารมาโรงเรียน บางที่ผมน่าจะหยุดเรียนสักวัน แต่ไหนๆวันนี้มันก็มาแล้วนี่ทำไงได้ล่ะ



ตุบ
 
“อะไร” เสียงเล็กถามพร้อมกับมองกองสมุดที่ถูกโยนมาบนโต๊ะอย่างไม่เข้าใจ
 
“การบ้าน ทำให้เสร็จด้วยล่ะ” ร่างสูงออกคำสั่งหนักแน่น
 
“แต่กู...” อะไรกันมันจะให้ผมทำหมดนี่คนเดียวจริงๆเหรอ สมุดการบ้านตั้งหลายเล่มแถมแต่ละวิชายากๆทั้งนั้น ผมเองก็ใช่ว่าจะทำเสร็จเหมือนกัน
 
“ถ้าเมิงทำไม่เสร็จเจอดีแน่” บอลยื่นคำขาด ร่างสูงโน้มตัวลงให้จ้องดวงหน้าหวานก่อนจะยักคิ้วเย้ยคนตัวเล็กที่นั่งไหล่ห่ออยู่ตรงหน้า
 
   ภายในห้องที่เงียบสงัดปราศจากผู้คน ก็ใช่สิ นี่มันเวลาพัก แต่ผมกลับต้องมานั่งทำการบ้านงุดๆให้ไอ่บอล ดูมันใช้ผมอย่างทาส ถ้าไม่ติดว่ามันเคยช่วยผมไว้นะ
 
“เชี่ยเอ๊ย” มือเล็กทุบโต๊ะแรงระบายโทสะที่ซ้อนอยู่ภายในออกมาอย่างบ้าคลั่ง
 
   จนในที่สุดก็ถึงคาบเรียนตอนบ่าย ผมชวดโอกาสกินข้าวเที่ยง แต่งานที่กองสูงอยู่ตรงหน้าทำให้ผมต้องข่มความหิวเอาไว้ก่อน โชคยังดีที่ผมนั่งอยู่หลังห้อง เลยแอบทำการบ้านใต้โต๊ะได้สบายหน่อย วันนี้ครูสอนอะไรผมก็ไม่รู้เรื่องเลยสักวิชา แต่ถ้าการบ้านไอ่บอลไม่เสร็จผมต้องตายอย่างเขียดแน่ๆ
 
“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจเบาราวกับกระซิบดังมาจากข้างหลัง ไม่รู้ไอ่เกี๊ยวมันทำอะไรอยู่ใต้โต๊ะตั้งแต่เที่ยงแล้ว ผมไม่เห็นมันไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยสิ (โอมคิด) ร่างสูงแอบมองคนตัวเล็กที่ก้มหน้างุดด้วยความสงสัย
 
   เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น พร้อมกับร่างกายที่อ่อนล้าของผมมันอยากจะพักเต็มที เหลืออีกแค่ไม่กี่หน้าผมก็เอาไปส่งครูได้แล้ว ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไรแต่ดูเหมือนภายในห้องจะเงียบลงทุกที
 
   มือเล็กขีดเขียนบางสิ่งบางอย่างลงไปในสมุด ลมเย็นๆพัดผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องที่เงียบงัน เสียงลมแผ่วเบาเหมือนจะกล่อมให้กับคนที่นั่งอยู่ นัยน์ตาสวยดำดิ่งสู่ความมืดมิดในที่สุด เปลือกตาที่ปิดสนิทกับเสียงลมหายใจที่ดังเป็นจังหวะ สมุดหนังสือมากมายเปิดกว้างกระจายเต็มโต๊ะ
 
   ใครบางคนกำลังทิ้งตัวนั่งข้างๆร่างบางที่นอนหมอบอยู่บนโต๊ะอย่างช้าๆ ราวกับว่ากลัวคนที่นอนอยู่จะตื่นขึ้นมาซะยังงั้น
 
   นิ้วมือเรียวเกลี่ยปอยผมที่ตกมาบดบังดวงหน้าสวยขึ้นเผยพวงแก้มเนียนที่แดงระเรื่อ กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนตัวเล็กทำให้ริมฝีปากเรียวเผลอยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
 
   ดวงหน้าคมเคลื่อนเข้าไปหาคนที่นอนอยู่เรื่อยๆ จนได้ยินเสียงหายใจของเกี๊ยวดังข้างๆหู ภายในใจกลับตื่นเต้นจนเกินกว่าจะบรรยาย คนตัวสูงจุมพิตริมฝีปากบางแผ่วเบา ริมฝีปากนุ่มนิ่มทำให้ร่างสูงเตลิดไปไกล ในใจมันล่องลอยเหมือนกับจะบินได้ สัมผัสที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนมันหวานหอมยิ่งกว่าสิ่งใด
 
“งืม” รสจูบที่เนิ่นนานต้องจบลง เพราะดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะเริ่มรู้สึกตัว ร่างสูงผละออกจากริมฝีปากบางอย่างน่าเสียดาย
 
“ไอ่เชี่ยเกี๊ยว เมิงมานอนอะไรตรงนี้” คนตัวสูงเปลี่ยนสีหน้า พยายามข่มทำตัวให้เป็นปกติ มือหนาก็พลางเขย่าตัวคนที่นอนหมอบซะเกือบตกเก้าอี้
 
“หืม” เสียงหวานงัวเงียอยู่ในลำคอ มือเล็กขยี้ตา ผมยุ่งๆที่ดูน่ารักไปอีกแบบทำให้คนที่ยืนอยู่รีบชักมือกลับมา ดวงหน้าคมดูตื่นๆเล็กน้อย
 
“แมร่ง เมิงจะกลับบ้านมั้ยเนี่ย” ไอ่เชี่ยที่ไหนมันมาปลุกผมเนี่ย คนกำลังนอนได้ที่
 
“ชริปหายแล้ว” คนตัวเล็กตะโกนลั่น ผมยังไม่ได้ไปส่งการบ้านให้ไอ่บอลเลย ผมกวาดสมุดที่กองอยู่บนโต๊ะก่อนจะสะพายกระเป๋าวิ่งไปห้องพักครู
 
   ผมเกือบส่งการบ้านไม่ทันแน่ะ เพราะคุณครูก็กำลังจะกลับบ้านพอดี แล้วผมก็ต้องรีบวิ่งขึ้นรถนักเรียนที่กำลังจะออกไปอย่างฉิวเฉียด ถ้าไอ่โอมไม่ปลุกผม ผมคงนอนยาวจนถึงเช้าแน่ๆเลย ก็บรรยากาศมันน่านอนนี่หว่า แล้วผมก็ต้องไปนั่งข้างๆไอ่บอลเหมือนเดิม
 
“หายหัวไปไหนมาว่ะ แล้วส่งการบ้านให้กูยัง” กูก็หายหัวไปทำการบ้านให้เมิงนั่นแหละ
 
“เออ” คนตัวเล็กตอบสั้นๆ แถมเอาแต่ส่งสายตาเคืองๆไปให้ร่างสูงที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักเท่าไร
 
   ผมชอบอากาศแบบนี้จัง ไม่ร้อนไม่หนาว กำลังเย็นๆสบาย แสงอาทิตย์ตอนเย็นในช่วงปลายปีแบบนี้ ถ้าตัดไอ่บอลไปนี่ชีวิตผมคงจะเจริญขึ้นไม่น้อยเลย
 
“มองหน้าหาแป๊ะเมิงเหรอ” ไอ่บอลด่าผมไม่พอตบท้ายได้การตบหัวผมอีก 1 ที เออ...กูไม่มองก็ได้ว่ะ
 
 ผมก็เลยเปลี่ยนความสนใจมาที่ไอ่โยที่มันนั่งข้างๆผม ปกติมันเจอผมมันก็จะทักผมตลอดแต่วันนี้มันนั่งเงียบก้มหน้าก้มตาเล่นเกมบอยของมันอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมก็เลยขอส่วนกุศลจากมันด้วยคน แค่ได้ดูมันเล่นก็มันส์แล้ว อย่างผมคงไม่มีปัญญาเล่นเกมแพงๆเหมือนมันได้ เจียมตัว
 
“ซ้ายๆ เออๆ ยังงั้น” ไอ่โยมันเล่นเกมแข่งรถจนผมเผลอออกเสียงเชียร์อย่างไม่รู้ตัว
 
   ผมกำลังลุ้นจนตัวเกร็งอยู่ข้างๆไอ่โย ก็มันเล่นหวาดเสียวทำเอาหัวใจผมตกไปอยู่ตาตุ่มหายครั้ง แต่มันเล่นเก่งจนผมนับถือจริงๆ ความรู้สึกร้อนๆที่ต้นคอผมตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ผมกำลังสนใจเกมที่อยู่ในมือของไอ่โยมากกว่า
 
“เห้ย ไอ่เกี๊ยวถึงบ้านเมิงแร่ะ จะลงมั้ย” ไม่พูดเปล่าไอ่โอมคว้าคอเสื้อผมติดมือมันไปด้วย
 
“เออๆ รู้แล้วน่า” ทำไมผมต้องมีบ้านใกล้ไอ่เชี่ยโอมด้วยก็ไม่รู้ ส่วนไอ่บอลก็จ้องหน้าผมเขม็งเลย ถ้าตาผมไม่ฝาดผมเห็นมันหน้าแดงด้วยนี่หว่า ไม่ทันที่ผมจะได้ล่ำลาไอ่โย ก็ถูกไอ่โอมลากลงรถซะแร่ะ
 
“ไปนะเว้ย” ผมตะโกนบอกไอ่โย
 
“พรุ่งนี้เจอกัน” ไอ่โยตะโกนกลับมา พร้อมกับโบกมือให้ผมทั้งๆที่มันยังไม่ละสายตาจากเกมในมือ
 
   ผมจัดคอเสื้อที่ยับยู้ยี้ให้เข้ารูป แล้วผมก็แกล้งเดินเหยียบเท้าไอ่โอมแรงๆ 1 ที ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลยใส่เกียร์หมาวิ่งเข้าบ้านอย่างเดียวมันก็ทำอะไรผมไม่ได้แล้ว
 
“ร้ายจริงๆเลยนะเมิงเนี่ย” โอมบ่นกับเอาตัวเอง ขาเรียวยกเท้าข้างที่โดนเหยียบขณะที่มือหนากุมเท้าตัวเองโดดหย่องๆไปทั่ว ดวงหน้าคมแหยเกเพราะความเจ็บ
 
 หลังจากผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากินยา พอหัวตกถึงหมอนบุบผมก็แทบจะหลับทันที คนป่วยก็ต้องการพักผ่อนสิครับ ผมไม่ได้อู้งานนะเออ
 
 อะไรบางอย่างทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเอง ตอนนี้มันก็ยังไม่เช้านี่หว่า มีบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่ปลายเท้าของผม ผมมองเงาตะคุ้มๆนั่นด้วยใจระทึก แสงจันทร์นวลสีเหลืองผองที่สาดส่องผ่านเข้ามาทำให้มองเห็นเลือนลาง นี่ผมโดนผีหลอกเหรอเนี่ย เงามืดๆนั่นคลานเข้ามาใกล้ผมทุกที
 
 ผมรีบหลับตาคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม มือไม้ก็ไหว้พลางสวดมนต์ไม่เป็นคำ เนื้อตัวสั่นไปหมดเพราะความกลัวแถมเหงื่อที่ออกท่วมตัว... สักพักผ้าห่มผมก็ถูกดึงออก
 
“นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ ...” ผมไหว้ทั้งที่หลับตาปี๋ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยแล้วผมจะอุทิศส่วนกุศลไปให้นะครับ
 
“เกี๊ยว” เสียงทุ้มที่เย็นเยือกเรียกชื่อผม ทำเอาเจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก
 
“อ้าว ไอ่เชี่ยบอลเมิงเข้ามะ...” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบ จู่ๆไอ่บอลก็พุ่งเข้ามาจูบผม ลิ้นสากๆที่วนเวียนอยู่ภายในปากของผมเหมือนกับตอนนั้นที่มันช่วยผมตอนผมจมน้ำ
 
   ร่างสูงคร่อมทับร่างบางไว้ข้างใต้ มือหนาสอดเข้าไปสัมผัสความอบอุ่นใต้เสื้อเชิ้ตผืนบางที่ปกปิดเรือนร่างของอีกฝ่าย เสียงครางเบาของคนตัวเล็กเหมือนจะยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย นิ้วมือเรียวบดขยี้เม็ดทับทิมด้วยอารมณ์ที่พุงพล่าน
 
“เมิง จะ ทำ อะ ไร น่ะ แฮ่กๆ” เสียงหอบแรงพร้อมกับเสียงหวานที่เอ่ยกระเส้าเบา มือเล็กพยายามผลักคนตัวสูงที่ทาบทับตนอยู่ด้วยแรงอันน้อยนิด
 
“เฉยๆไว้เหอะน่า” ร่างสูงกระซิบที่ข้างๆหูของอีกฝ่ายก่อนจะเม้มติ่งหูเล็กๆ ลิ้นสากเลียปนดูดเม้มสลับกันไปที่ซอกคอขาวๆ
 
“อะ อย่า หยุด กู ขอ ...” มือเล็กปัดไปมา บอลใช้มือบีบคลึงที่สะโพกนุ่มนิ่ม พลางบดเบียดความเป็นชายของตัวเองเข้าไปหาอีกฝ่าย อีกมือก็ช้อนท้ายทอยคนตัวเล็กให้เอียงรับรสจูบที่เร้าร้อน เสียงหายใจหอบดังระงมไปทั้งห้อง
 
   ร่างกายของทั้งสองเหมือนจะแนบชิดรวมกันเป็นเนื้อเดียวมีเพียงเสื้อผ้าบางๆที่กั้นระหว่างทั้งสองเท่านั้น บอลจัดการถอดเสื้อผมออกไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ความรู้สึกเย็นวาบจากบรรยากาศภายนอกถูกแทนที่ด้วยความร้อนจากร่างกายอีกฝ่ายที่ผลัดเปลี่ยนให้ความอบอุ่นด้วยกัน
 
“อ๊ะ อย่า” ร่างบางอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร มือหนาที่กำลังสอดเข้าไปในกางเกงขาสั้นกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่สั่นระริกแถมยังน่ารักเหมือนเจ้าของอีก
 
 เกี๊ยวเบียนหน้าหนี พวงแก้มเนียนแดงกร่ำด้วยความอายกับคำขอร้องที่ไม่เป็นผล ริมฝีปากเรียวดูดเม้มไปทั่วหน้าอกเล็กที่แอ่นรับความเสียวซ่านอย่างรู้ความ
 
“อ๊ะ อ๊า แฮ่กๆ” ความรู้สึกที่พุงพล่านทำให้คนตัวเล็กควบคุมตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป ความปรารถอย่างแรงกล้าเข้ามาแทรกความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจนหมดสิ้น
 
 ริมฝีปากบางกลับถูกประกบครั้งแล้วครั้งเล่าจนไม่สามารถท้วงออกมาได้ มีเพียงเสียงครางอู้อี้ในลำคอ
 
“บอล กู ไม่ ไหว แล้ว” คนตัวเล็กเรียกชื่อผู้กระทำอย่างเว้าวอน นิ้วเรียวจิกที่ส่วนปลายเบาๆจนร่างบางกระตุกและปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาเปรอะเต็มมือแกร่งในที่สุด
 
   คนตัวเล็กหอบแรงอย่างเหน็ดเหนื่อยทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรมาก บอลมองดูร่างบางพร้อมกับกรีดยิ้มอย่างไร้ความหมาย แผงตาคู่สวยปิดลงอย่างช้าๆ ภาพที่บอลกำลังเลียนิ้วมือเลอะๆของตัวเองเลือนลางอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจก่อนที่ความคิดของผมจะลอยเคว้งไปไกล
 
 เสียงรถเก็บขยะที่ดังในตอนเช้าปลุกให้คนที่หลับใหลตื่นขึ้น  เกี๊ยวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะหาววอด เป็นครั้งแรกที่ผมตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่
 
“เฮ๊ย...” ร่างบางร้องเสียงหลงเพราะกางเกงที่เปียกชื่นของตัวเอง นี่ ผะ ผมเยี่ยวรดที่นอนเหรอเนี่ย แล้วทำไมฉี่มันถึงขาวๆหว่า สงสัยจะแห้งแล้วมั้ง อึย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
 
 ร่างบางอาบน้ำอย่างลวกๆ ก่อนจะรีบหอบที่นอนไปตากไว้หลังบ้าน ถ้าเรื่องที่ผมฉี่รดที่นอนรู้ไปถึงหูพวกไอ่บอล มันคงโดนล้อไปตลอดชาติแน่ๆ ผมก็เลยต้องโกหกแม่ไปว่าที่นอนมันเหม็น ไม่ได้โกหกน้า... ก็ที่นอนมันเหม็นเพราะฉี่ประหลาดผมจริงๆนี่นา
 
 เมื่อคืนเหมือนผมจะฝันอะไรบางอย่างแต่ผมก็จำไม่ได้ว่าฝันถึงอะไรเหมือนกัน พยายามคิดเท่าไรๆมันก็คิดไม่ออกสักที ผมนั่งคิดจนกระทั่งรถโรงเรียนมาจอดอยู่หน้าบ้านผม ต้องเจอหน้าไอ่โอมกับไอ่บอลพร้อมๆกันแต่เช้า รู้งี้ผมนอนตื่นสายแบบเดิมก็ดีหรอก
 
“จะไปมั้ยโรงเรียนน่ะ” ไอ่บอลตะโกนถามผมเพราะผมทำท่าเหมือนจะไม่ขึ้นรถ เสียงไอ่บอลดุทำเอาผมสะดุ้ง แถมยังรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าอีกด้วย เป็นห่าอะไรอีกว่ะเนี่ยกู
 
   ผมไปนั่งข้างๆมันเหมือนเคย ไม่รู้เพราะอะไรทำให้ผมรู้สึกแปลกๆเวลาอยู่ใกล้มัน ผมเลยนั่งหันหลังให้มันทำเป็นว่าดูไอ่โยเล่นเกมแต่ที่จริงผมไม่กล้ามองหน้ามัน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ผมกลัวมันขนาดนี้

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2009 12:31:17 โดย tanuki »

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #37 เมื่อ18-04-2009 12:30:29 »

อ๊าก--มีใจให้บอล อิอิอิ
*******

ขอบคุณที่มาต่อนะคร้าบบบ  :pig4:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #38 เมื่อ18-04-2009 14:10:44 »

 :o8:

 :oo1:

 :m20:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #39 เมื่อ18-04-2009 15:34:49 »

 :z1:
คริๆ นึกว่าเรื่องจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
« ตอบ #39 เมื่อ: 18-04-2009 15:34:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #40 เมื่อ18-04-2009 20:45:06 »

บอลทำคะแนนนำโอมไปแล้วสิแบบนี้

 :z1:

ISACBTMN

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #41 เมื่อ18-04-2009 21:36:15 »

เชียร์โอมจ้า อิอิ

wiwanana

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #42 เมื่อ18-04-2009 21:50:13 »

แ ล้วโ อมหล่ะ??????


ตดลงเ รื่องนี้ใ ครเ ป็นพระเ อกเ นี๊ย


งงงงงงงงงงงงคร๊าบบบบบบ

speedboy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #43 เมื่อ19-04-2009 00:38:04 »

เฮ้อโอมเอ้ย  ช้าจังเลยอะ

 :oni2: :oni2: :oni2:

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #44 เมื่อ19-04-2009 12:26:58 »

ตอน 5 บ้านร้าง

“เฮ๊ยๆ เร็วดิว่ะ” เสียงไอ่บอลสั่งลูกน้องมันดังลั่นทั่วห้อง
 
   วันนี้พวกไอ่บอลมันดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ ตั้งแต่เช้าแล้ว ผมเห็นมันนั่งไม่อยู่สุขเอาแต่สุ่มหัวคุยเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ ท่าทางดูซีเรียสไม่ใช่น้อยเพราะผมเห็นไอ่โยทำท่าขนลุกหลายที
 
   พอเสียงกริ่งดังเป็นสัญญาณเลิกเรียนปุบพวกมันก็รีบเก็บข้าวเก็บของยัดใส่กระเป๋า สายตาที่ดูมุ่งมั่นจนน่ากลัวทำให้ผมอยากรู้ซะแล้วว่ามันจะไปทำอะไรกัน หรือว่าไอ่บอลจะไปตีกะใครอีกเนี่ย นิสัยวอนบาทาอย่างมันคงไม่พ้นเรื่องพวกนี้แน่ๆ
 
   ร่างบางรีบก้าวฉับเดินตามกลุ่มเด็กชายที่เพิ่งวิ่งออกไปก่อนหน้านี้ อย่างผมนี่เค้าไม่ได้เรียกว่าเสือกนะก็แค่อยากรู้ผิดด้วยเหรอ กลายเป็นว่าผมต้องเดินหลบตามเสาและสุ่มทุมพุ่มไม้ไปตลอดทาง แต่...ที่หน้าแปลกคือหนึ่งในนั้นมีไอ่โอมเดินร่วมอยู่ด้วย ผมก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าพวกมันวางแผนจะทำอะไรกันแน่
 
   เส้นทางที่คดเคี้ยว ทางเดินเล็กๆที่มีหญ้าสีเขียวขึ้นรกสองข้าง เผลอๆอาจจะมีงูตามแถวนั้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมมุดออกจากตัวโรงเรียนมาทางด้านหลังที่มีช่องเล็กๆให้ลอดออกมาได้ ยิ่งไกลออกไปจากโรงเรียนเท่าไรก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆชอบกล ลางสังหรณ์มันบอกให้ผมกลับไปแต่ผมมันก็แค่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถเอาชนะความอยากรู้ของตัวเองได้
 
   ต้นไม้ใหญ่ขึ้นสูงทึบไม่ต่างกับป่าย่อมๆ แล้วภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ผมแทบกลืนน้ำลายไม่ลง บ้านร้างทรงไทยผสมหลังใหญ่ที่ถูกซ่อนอยู่ปรากฏขึ้นตรงหน้า สภาพประตูด้านหน้าที่ปิดตาย กระจกเก่าๆแตกกระจาย ใยแมงมุมระโยงรยางค์รอบๆตัวบ้าน นี่ขนาดแค่เย็นๆบ้านหลังนี้ยังดูน่ากลัวขนาดนี้ ไม่อยากคิดว่าถ้าเป็นกลางคืนมันจะน่ากลัวขนาดไหน
 
   พวกไอ่บอลเดินหายเข้าไปในบ้าน ผมควรจะเดินตามมันเข้าไปหรือเลี้ยวกลับตอนนี้ก็ยังไม่สาย แต่ในเมื่อพวกมันเข้าไปได้แล้วทำไมผมจะเข้าไปไม่ได้ล่ะ ผมก็ลูกผู้ชายไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ผีมีจริงซะที่ไหนกัน ผมพยายามปลอบใจตัวเองแล้วก็รีบปีนหน้าต่างเข้าไปข้างในบ้านร้างหลังนั้น
 
   ข้างในมันน่ากลัวกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ มันทั้งมืดมีแสงสลัวๆเข้ามาเล็กน้อย แถมไอ่กลิ่นแปลกๆที่ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นกลิ่นธูปหรืออะไรสักอย่างชวนให้บรรยากาศมันน่าขนลุกขึ้นไปอีก ฝุ่นหนาๆที่เกาะตามโต๊ะเก้าอี้ มีธูปเก่าๆปักอยู่ที่มุมห้องแล้วก็ไอ่ยันต์แปลกๆที่ติดตามผนังอีก โอย...จะหลอนไปถึงไหน   
 
   ผมพยายามก้าวเดินแต่ขามันเหมือนจะด้านชาก้าวไม่ค่อยออก ร่างบางสั่นระริกมือเล็กกำขากางเกงแน่นก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปอย่างเชื่องช้าเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดของบันไดไม้ที่บ่งบอกอายุ เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นที่ดวงหน้าหวานทั้งที่อากาศภายในบ้านค่อนข้างจะเย็นสบายซะด้วยซ้ำ
 
   ผมว่าชั้นหนึ่งทำเอาผมแทบคลั่งแล้วนะ แต่บนชั้นสองนี่ดิเอาเป็นว่าถ้าพรุ่งนี้ผมไม่จับไข้หัวโกร๋นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแร่ะ ผนังไม้เก่าๆที่ผุเป็นรู พอมองขึ้นไปก็มีขือไม้วางพาดสลับไปมาด้านบน ลมที่พัดลอดมาตามรูผนังพัดเอากลิ่นอับแปลกๆเหม็นคลุ้งยิ่งกว่าเก่า
 
“พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผมไม่ได้มาหลบหลู่นะครับ” ผมยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียกขวัญที่มันตกไปอยู่ตาตุ่มของผมคืนมา มือเล็กสั่นยิ่งกว่าเก่า ทุกอณูขุมขนในร่างกายลุกชันจนผิดปกติ
 
    ผมตัดสินใจเดินไปจะหันกลับหลังก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีก ผมมาไกลเกินกว่าจะถอนตัวแล้ว จะให้พวกไอ่บอลโขกสับผมยังดีกว่าต้องอยู่คนเดียวในที่แบบนี้ อยู่คนเดียวมันเปล่าเปลี่ยวยังไงไม่รู้ ผมไม่อยากได้เพื่อนใหม่ตอนนี้ด้วย
 
    คนตัวเล็กที่ยืนลีบอยู่หลังเสาไม้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าพวกไอ่บอลจะจับได้ว่าผมตามมา อีกใจหนึ่งก็กลัวผี นัยน์ตาหวานมองกลุ่มคนที่นั่งจับกลุ่มกันอย่างกล้าๆกลัวๆ
 
    สัมผัสเยือกเย็นแตะที่บ่าเล็กทำให้ผมสะดุ้งเฮือก ร่างบางหลับตาปี๋ พร้อมกับยกมือไหว้มือไม้สั่นริมฝีปากบางเอ่ยไม่เป็นภาษา ผมไม่ได้มาร้ายนะครับ แล้วผมจะอุทิศส่วนกุศลไปให้อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย
 
“เกี๊ยวววว” เสียงยานเนิบฟังดูแล้วคุ้นเคยเอ่ยกระซิบเบาข้างๆหูคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังเล็กให้
 
“เฮ๊ย” เกี๊ยวร้องเสียงหลง คนตัวเล็กกระเด็นออกมาจากหลังเสาด้วยความตกใจ ร่างกายอ่อนปวกเปียกอย่างคนไม่มีแรงเพราะตกใจ
 
“ฮ่าๆ ขวัญอ่อนชริปเลยว่ะ” เสียงทุ้มเย้ยยันอย่างมีความสุข ร่างบางมองคนตรงหน้าแบบไม่พอใจก่อนจะลุกขึ้นปัดก้นตัวเองแถมส่งสายตาค้อนไปให้ตัวการที่ทำให้เขาตกใจจนเสียฟอร์ม
 
“ไอ่เกี๊ยวเมิงตามพวกกูมาเหรอว่ะ” ผมพยักหน้าให้กับไอ่โยที่มันตะโกนถามมาจากกลุ่มที่พวกมันนั่งล้อมวงกันอยู่ ตอนแรกผมก็ลืมสังเกตไปว่าไอ่บอลมันหายไปไหน ส่วนไอ่โอมก็หันมายิ้มเหมือนจะสมเพศผมไงงั้นแหละ
 
“ไม่อยากเชื่อว่าขี้ขลาดอย่างเมิง จะกล้าตามพวกกูมา” ไม่พูดเปล่าไอ่บอลเดินมาตบไหล่ผมแรงสองสามที แถมยังต่อด้วยการลากคอผมเดินไปหาไอ่โย ไอ่เคนที่มันนั่งอยู่
 
“อะ เอ่อ กูเดินเองได้เว้ย” ผมพยายามแกะแขนที่มันล็อกคอผมแต่แรงมันทึกกว่าผมตั้งเยอะ จะสู้ไหวได้ไง
 
   แล้วสุดท้ายผมก็ได้มานั่งล้อมวงกะพวกมัน ความเงียบกลับมาอีกครั้ง ตรงกลางมีแผ่นกระดาษที่เรียงตัวอักษรและพยัญชนะไทยครบครัน ไอ่บอลควักไฟแช็คออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะจุดธูปดอกเดียวในมืออย่างชำนาญ
 
“ยะ อย่าบอกนะว่า...” พวกมันยาอะไรผิดรึเปล่า ถึงคิดจะมาเล่นผีถ้วยแก้วในที่แบบนี้
 
“ชูวว์” ไอ่โย่ส่งเสียงเตือนผม ก่อนจะเพ่งสมาธิไปที่ธูปในมือของไอ่บอล
 
   ไอ่โอม ผม ไอ่บอล ไอ่โย และก็ไอ่เคนนั่งนั่งล้อมกระดาษแผ่นนั้นเป็นวงกลมกลางห้องโถงที่โล่งกว้าง หน้าต่างไม้ที่ปิดทำให้กลิ่นธูปคลุ้งแรงยิ่งกว่าเดิม
 
“กูขอดูเฉยๆแล้วกันว่ะ” ผมทำท่าว่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกไอ่โอมดึงเสื้อไว้ทันซะก่อน
 
“ถ้าเมิงไม่เล่นก็กลับไปซะ ถ้าจะอยู่ก็ต้องเล่น” ไอ่โอมยืนคำขาดขณะที่ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม กดดันนะเว้ยอย่ามองดิ
 
“ปล่อยมันไปเหอะว่ะ แมร่ง ป๊อดๆอย่างมันไม่กล้าหรอก เริ่มเลยเสียเวลา” คำพูดของไอ่บอลที่ดูถูกผม มันเหมือนโดนต่อยแล้วรุมกระทืบซ้ำ ลูกผู้ชายอย่างผมฆ่าได้หยามไม่ได้
 
“ก็ได้ กูจะเล่น” ร่างบางเอ่ยหนักแน่น แต่สีหน้ากลับซีดเผือกจนเห็นได้ชัด
 
“จะเริ่มได้รึยังว่ะ ลีลาอยู่นั่นเดี๋ยวแมร่งก็มืดพอดี” เสียงไอ่เคนบ่นเป็นกระสัยเร่งอย่างไรอารมณ์ตามแบบฉบับของมันอย่างเคย เชื่อมันเลยบรรยากาศเป็นใจขนาดนี้พวกมันดูไม่กลัวกันสักนิดยกเว้นผมกะไอ่โยที่จะแสดงอาการผวาจนออกนอกหน้ากันอยู่สองคน
 
“เอามือแตะที่แก้ว นิ้วเดียวก็พอนะเว้ย จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามเอามือออกเด็ดขาด แต่...ถ้าเมื่อไรที่แก้วล้มระหว่างที่วิญญาณยังอยู่ในนั้น ก็...ตัวใครตัวมันแล้วกันว่ะ” เสียงไอ่บอลกดต่ำชวนขนลุก มันจะสร้างบรรยากาศไปถึงไหนแค่นี้ก็สยองพออยู่แล้ว
 
   แล้วผมก็ค่อยแตะนิ้วชี้ไปที่แก้วขนาดเล็ก ปกติก็จะเห็นแก้วแบบนี้ตามร้านเหล้าตองออกเกลื่อน ภายในห้องที่พวกผมอยู่เงียบยังกับป่าช้า แก้วใสๆวางอยู่บนกระดาษนิ่ง
 
“ขออันเชิญวิญญาณที่สิงสถิติในบ้านหลังนี้มาในแก้วนี้ด้วย พวกผมแค่อยากจะถามคุณสองสามข้อเท่านั้น ขออันเชิญวิญญาณ...” แล้วไอ่บอลก็พูดพึมพำด้วยเสียงที่เบาพอสมควรแต่ในที่เงียบแบบนี้มันเลยดังชัดเจนก้องอยู่หูของผม
 
   ไอ่บอลปักธูปไว้ที่ร่องกระดานไม้ที่พวกผมนั่งอยู่ก่อนจะใช้เข็มจิ้มนิ้วตัวเองจนมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย เลือดสีแดงถูกหยดบนกระดาษก่อนที่มันจะใช้นิ้วแตะที่ถ้วยแก้วที่มีนิ้วพวกผมอยู่ก่อน กลิ่นคาวเลือดนิดๆผสมกับกลิ่นธูปแล้วคราวนี้มันก็พูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา
 
ปัง~!!!
 
   เสียงบางสิ่งบางอย่างกระทบกัน หรือไม่ก็เสียงอะไรสักอย่างตกลงพื้นดังมาจากชั้นล่างทำเอาใจคอผมไม่ดียิ่งกว่าเดิม ทุกคนหันไปทางบันไดโดยอัตโนมัติ เสียงไอ่บอลพูดเร็ว จู่ๆผมรู้สึกว่ามีลมวืดผ่านหน้าไป
 
“คุณอยู่ในแก้วแล้วใช่มั้ยครับ” ไอ่บอลถาม ผมมองถ้วยแก้วที่มีนิ้วห้านิ้วแตะอยู่ด้านบนด้วยใจระทึก
 
   สักพักแก้วที่เหมือนจะแน่นิ่งก็ขยับก็จะพุ่งตรงไปที่คำว่า ใช่ บนแผ่นกระดาษ ตั้งแต่ผมเกิดมาผมก็ไม่เคยเจอผีตัวเป็นๆขนาดนี้มาก่อน มันทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวผสมกันจนบอกไม่ถูก แต่ละคนมองหน้ากันเลิ่กลักจนไอ่บอลพูดทำลายความเงียบอีกครั้ง
 
“คุณชื่อว่าอะไรครับ” คราวนี้แก้วที่นิ้มผมมันหมุนวนไปมาจนไปหยุดที่ตัวอักษรบนแผ่นกระดาษทีละตัว
 
“เ” พวกผมพูดพร้อมกันชนิดที่ว่าไม่ได้นัดหมาย
 
“ม” ผมอ่านตามตัวอักษรที่ถ้วยแก้วในมือไปหยุด เลือดสูบฉีดขึ้นหน้าจนผมเกร็งไปทั้งตัว
 
“ฆ” แล้วถ้วยแก้วก็ไปหยุดอยู่ที่ตัว ฆ
 
“เมฆ” เสียงไอ่เคนพูดขึ้น คราวนี้ดูมันตื่นๆเล็กน้อย
 
“อะ เอ่อ คุณฆ่าตัวตายใช่มั้ยครับ” ไอ่บอลถามอีก ถ้วยแก้วหมุนวนอีกจนไปหยุดอยู่ที่คำว่า ไม่ใช่
 
“คุณถูกฆ่าเหรอครับ” ผมรู้สึกว่าถ้วยที่นิ้วผมแตะอยู่มันแกว่งแรงก่อนจะไปหยุดอยู่ที่คำว่า ใช่ 
 
“คุณตายยังไงครับ” เสียงไอ่บอลดูสั่นๆจนผมเองก็เริ่มหวั่นๆเพราะถ้วยแก้วนี่มันหมุนติ้วจนนิ้วผมเกือบหลุดหลายที ถ้วยแก้ววนอยู่บนกระดาษแล้วขยับไปที่ตัวอักษรทีละตัว
 
   หลังจากที่ถ้วยขยับไปขยับมาจนได้คำว่า โดนฆ่า นิ้วผมสั่นแล้วก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ กลิ่นธูปกลิ่นเลือดคาวคลุ้งทำเอาผมแทบจะสลบคาให้ได้ ความกลัวที่ถาโถมเข้ามาแต่ไอ่บอลก็ยังมุ่งมั่นที่จะถามต่อไป
 
“บอล พอเหอะว่ะ” เสียงไอ่โอมท้วง เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นดีเห็นงามกับไอ่โอม ทุกสายตามองไปที่ไอ่บอลเหมือนจะอ้อนวอนอย่างไร้หนทาง
 
“รู้แล้วน่า กูขออีกสักคำถาม” ริ้วคิ้วคมบดเบียดเข้าหากันจนจะเป็นบม ไอ่บอลทำหน้าเคร่งเครียดก่อนจะเอ่ยคำถามต่อไป
 
“คุณตายที่ไหนครับ” เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างมันจะแย่ลงเรื่อยๆ แสงที่ลอดผ่านเข้ามาน้อยลงทำให้รู้ว่าเวลามันล้วงเลยมาเกินมากแล้ว
 
    ถ้วยแก้วขยับเร็วจนผมแทบดูไม่ทันว่ามันไปหยุดที่ไหนบ้าง
 
“ห้องนี้” เสียงไอ่โยพูดบวกกับหน้าตาสยองๆของมันทำเอาขนลุกไปตามๆกัน ผมคิดผิดจริงๆที่ตามพวกมันมา
 
“พอเหอะว่ะ กูไม่ไหวแล้ว” ร่างบางพูด น้ำเสียงที่เหนื่อยอ่อนกับเหงื่อที่ไหลมาท่วมตัวจนเสื้อชุ่ม ผมอยากจะเอานิ้วของตัวเองกลับมาแล้วออกไปจากที่นี่แต่ก็ยังทำไม่ได้ตอนนี้
 
“คำถามสุดท้ายแล้วนะครับ ใครเป็นคนฆ่าคุณ” พอไอ่บอลพูดจบ ถ้วยในมือมันหมุนติ้วและแรงกว่าเดิม
 
แคร๊ง
 
“ชริปหายแล้ว” เสียงไอ่เคนอุทานเบาๆ ทำเอาทุกคนอึ้งไปตามๆกัน
 
   แล้วสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดมากที่สุดในตอนนี้ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ ถ้วยแก้วเอียงกะเท่เร่กลิ้งไปมากับพื้น พวกผมลุกพรวดออกจากห้องนั้นกระจายไปคนละทิศละทาง ปัง ปัง ปัง!!! เสียงดังปึงปังเหมือนมีใครเอามือทุบกับผนังดังก้องอยู่ในหัวของผม
 
   คำถามสุดท้ายที่มันถามดูเหมือนไม่ค่อยจะถูกใจพี่เมฆสักเท่าไร มันน่าจะถามว่าหวยงวดนี้ออกเลขอะไร หรือไม่ก็เลขท้ายสองตัวก็ยังดี
 
“ผะ ผมไม่ได้ มะ มาหลบหลู่จริงๆนะครับ” คำพูดที่ฟังดูไม่เป็นภาษา เสียงทุบดังระงมไปทั่วจนเหลือเพียงความเงียบอีกครั้ง ผมวิ่งเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าขาของผมมันจะพาไปที่ไหน พวกไอ่บอลมันหายไปไหนกันหมด ผมพยายามมองหาทางออกแต่วิ่งไปก็เจอแต่ทางตันทุกครั้งไป
 
“แฮ่กๆ” เสียงหอบดังท่ามกลางความเงียบ เงาอะไรบางอย่างวิ่งผ่านประตูตรงหน้าผมไป คนตัวเล็กยืนนิ่งดั่งถูกสะกด นัยน์ตาสวยเบิกกว้าง ภายในใจมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ มือเล็กพนมไหว้ทั้งที่ยังสั่นๆแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ
 
    จู่ๆก็มีมือใครบางคนมาคว้ามือผมไป ประมาณว่ากึ่งวิ่งกึ่งถูกลากเลยครับ ผมวิ่งตามคนที่มันลากผมไปแบบไม่คิดชีวิตเลย
 
“เจอพวกไอ่บอลมั้ยว่ะ” ไอ่โอมพาผมวิ่งมาอีกห้องหนึ่ง ผมได้แต่ยืนหอบก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ สักพักพอผมตั้งสติได้ผมก็ช่วยไอ่โอมมองหาทางออก ก็บ้านทั้งหลังมันมีห้องไม่รู้กี่สิบห้องผมเองก็จำตอนเข้ามาไม่ได้ซะด้วย
 
   อีกแล้วที่ผมเห็นเงาแว๊บๆวิ่งผ่านไป ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย ผมเดินไปจนชนกับหลังของไอ่โอมพอมันมองผม ผมก็เลยต้องทำฟอร์มเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ต่างคนต่างเงียบทำไมฟ่ะ บรรยากาศมันยิ่งวังเวงอยู่
 
แกร๊ก
 
“ได้ยินอะไรมั้ย” คนตัวเล็กดึงเสื้อของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาคู่สวยมองไปรอบๆอย่างหวาดหวั่น
 
โครมมม
 
  ร่างบางตกใจสุดขีด มือเล็กกอดคนตัวสูงตามสัญชาติญาณ นัยน์ตาหวานหลับปี๋ด้วยความกลัวที่มียวดยิ่ง สติมันกระเจิงไปไกลเกินกว่าจะเรียกกลับมาได้ทันที
 
   ผมรู้สึกสงสารไอ่คนที่มันกอดผมอยู่ตอนนี้ซะแล้วสิ ทั้งๆที่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่แผนของไอ่บอลที่มันกะจะแกล้งไอ่เกี๊ยวแท้ๆ แต่ผมบอกมันไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะเมิง (โอมคิด)
 
   โอมถือโอกาสกอดคนตัวเล็กแน่น สิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับจากคนในอ้อมแขน ถือว่าเป็นกำไรเล็กๆน้อยๆก็แล้วกัน เขาอยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้ อยากจะกอดคนที่ทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวไว้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แผ่นหลังเล็กๆ เอวนุ่มนิ่มในมือกับดวงหน้าหวานที่ซุกอยู่ในอกของเขาทำเอาร่างสูงเคลิบเคลิ้ม ภายในมันร้อนรุ่มแทบจะละลายให้ได้
 
“อะ เอ่อ” คนตัวเล็กเหมือนจะรู้ตัวรีบผละมือออกจากอีกฝ่าย โอมยิ้มเขินๆแต่ด้วยความที่ร่างบางกำลังกลัวจึงไม่ทันสังเกต
 
“จะยืนรอให้เมฆมาหักคอจิ้มน้ำพริกรึไงว่ะ” จู่ๆไอ่โยก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ผมเลยรีบวิ่งตามมันไป ส่วนไอ่โอมก็วิ่งตามหลังมาติดๆ ผมไม่น่าไปกระโดดกอดมันเลย ถ้ามันเอาผมไปขายก็เสียหายกันหมด คงโดนล้อว่าเป็นพวกขี้ขลาดตาขาวอีกแน่
 
   ไม่นานผมก็เห็นบานหน้าต่างที่ผมปีนเข้ามาปรากฏอยู่ข้างหน้า มีไอ่เคนกับไอ่บอลยืนอยู่ก่อนแล้ว แต่ไอ่อาการที่พวกมันแสดงออกทำให้ผมสงสัย
 
“พวกเมิงหัวเราะอะไรกันว่ะ” ตอนนี้ผมทั้งหอบทั้งเหนื่อย ผมมองหน้าพวกมันที่พากันหัวเราะคิกคักเอาเป็นเอาตายกันอยู่
 
“ฮ่าๆ วิ่งตับแลบเลยดิเมิง” ผมมองไอ่บอลที่หัวเราะท้องแข็งอย่างงุนงง
 
“พวกเมิง แกล้งกูใช่มั้ย” คำพูดที่เรียบนิ่งของคนตัวเล็ก น้ำเสียงที่ดูเย็นชากับสีหน้าที่เศร้าหมอง สายตาหวานมองไปที่โยเพื่อรอฟังคำตอบ ส่วนโยได้แต่ก้มหน้างุดไม่พูดอะไร
 
“แล้วเมิงจะทำไม” บอลก้าวเข้ามาหาคนตัวเล็กที่ยืนกำมือแน่น
 
   สะใจมากใช่มั้ยที่เห็นกูเป็นตัวตลก กูคิดผิดเองที่หวังจะเป็นเพื่อนกะเมิงได้ สำหรับเมิงกูคงเป็นแค่ตัวตลกที่เมิงไว้แกล้งเล่น กูมันก็เป็นได้แค่นั้นใช่มั้ย ไอ่บอล(เกี๊ยวคิด)
 
   เกี๊ยวสบตากับร่างสูงด้วยความโกรธเคืองแต่ภายในกลับซ้อนความรู้สึกเสียใจมากมายไว้เช่นนั้น คนตัวเล็กเดินชนไหล่แกร่งออกมาโดยไม่เหลียวกลับไปมอง
 
“เกี๊ยว” เสียงไอ่โยตะโกนตามหลัง ผมไม่ว่ามันหรอก มันอาจจะทำไปเพราะความจำเป็น แต่ผมไม่มีวันยกโทษให้ไอ่บอล ในเมื่อมันไม่เคยคิดว่าผมเป็นเพื่อนมัน ผมก็จะคิดซะว่าผมไม่เคยรู้จักคนอย่างมัน
 
“เฮ๊ย เมิงทำเกินไปรึเปล่าว่ะ” เสียงเคนท้วงเพราะดูท่าคราวนี้ไอ่เกี๊ยวมันคงโกรธไม่น้อย
 
“ช่างมันเหอะ เดี๋ยวมันก็หายโกรธเองแหละ ไปแดรกน้ำแข็งใสกันดีกว่าว่ะ” ร่างสูงเอ่ยปัดๆ ก่อนจะเดินหันหลังออกไปอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
“ถ้าไม่มีไรแล้ว กูกลับก่อนนะ” โอมเอ่ยก่อนจะเดินแทรกไปพร้อมกับท่าทีที่ผิดจากเคย
 
“เป็นไรของมันว่ะ” บอลมองหลังแกร่งของโอมที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่เข้าใจ
 
    ตลอดทางกลับบ้านไอ่เกี๊ยวก็หายหน้าไป ไม่รู้ว่ามันไปนั่งที่ไหน ไม่รู้มันจะโกรธเรื่องตอนเย็นอยู่อีกรึเปล่า ปกติกูก็แกล้งมันออกจะบ่อยไม่เห็นมันจะว่าอะไรเลยนี่นา หรือว่าคราวนี้กูทำกับมันเกินไปจริงๆ แล้วทำไมกูต้องไปแคร์มันด้วย มันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อยนี่หว่า (บอลคิด)
 
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #45 เมื่อ19-04-2009 12:31:22 »

 :z13:

 :z13:

 :z13:

จิ้มก๊าบ

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #46 เมื่อ19-04-2009 12:43:17 »

มอบแต้ม+ ที่ 10 ให้คร้าบ
***************

สงสัยนิ้ดนึงคร้าบ
ทำไมถึงเป็น-[เรื่องสั้น]คร้าบ
แม๊คว่าน่าจะยาว--ไม่อยากให้รีบจบคร้าบผม  :pig4:

ออฟไลน์ piggie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #47 เมื่อ19-04-2009 13:20:41 »

ขอให้เป็นเรื่องยาวค่ะ

เรื่องน่ารักมากๆๆ แต่ยังเดาพระเอกของเราไม่ออกเลย

หรือว่าจะหักมุมเหมือนแฟนฉันกันค่ะ ^^~

รอตอนต่อไปค่ะ

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #48 เมื่อ19-04-2009 13:56:29 »

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น ทุกคะแนนเสียงเลยนะครับ
ยังกะลงสมัคร สส. เลยเว่ย อิอิ  :impress2: :impress2:
ที่เป็นเรื่องสั้นเพราะมีสิบกว่าตอนก็จบแล้วครับ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์อ่านเรื่องของผมนะครับ ปลื้มคับผม  :-[

 :man1:  :man1: :man1: :man1:

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #49 เมื่อ19-04-2009 14:04:25 »

มอบแต้มที่ 11 ให้นะคะ สงสารเกี๊ยวจัง โดนแกล้งตลอดเลย ยิ่งครั้งนี้ด้วยแล้วดูน่ากลัว ถ้าเป็นคนจิตอ่อน ไม่เป็น
บ้าไปเลยเหรอเนี่ย แล้วเมื่อไหร่เกี๊ยวจะเอาคืนเจ้าหัวโจกพวกนี้ได้บ้างล่ะ จะรอลุ้นตอนต่อไปนะคะ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
« ตอบ #49 เมื่อ: 19-04-2009 14:04:25 »





mackerel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #50 เมื่อ19-04-2009 14:20:17 »

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น ทุกคะแนนเสียงเลยนะครับ
ยังกะลงสมัคร สส. เลยเว่ย อิอิ  :impress2: :impress2:
ที่เป็นเรื่องสั้นเพราะมีสิบกว่าตอนก็จบแล้วครับ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์อ่านเรื่องของผมนะครับ ปลื้มคับผม  :-[

 :man1:  :man1: :man1: :man1:


แค่สิบกว่าตอน!!!
ป้าแดง 7 สี-สั่งยืดด่วน
เรตติ้งดี คริคริคริ

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #51 เมื่อ20-04-2009 08:26:32 »

สงสารเกี๊ยว
โดนแกล้งตลอด


โกรธมันไปเลยไอ่บอลอ่ะ
เดี๋ยวให้ไอ่โอมไปปลอบ หุหุ

baros

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #52 เมื่อ20-04-2009 10:17:08 »

 :เฮ้อ:สรุปว่าใครเป็นพระเอกเนี่ย

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #53 เมื่อ20-04-2009 10:51:40 »

ว่าจะเชียร์ บอล สักหน่อย  แต่ดันทำตัวน่า  :beat:

ทำตัวให้มันดีๆ หน่อยสิ

gon_natt

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #54 เมื่อ20-04-2009 11:18:58 »

สงสารเกี๊ยว
ทำไมโดนแกล้งตลอด
 :m15:
บอลลบ้า!!~ ชริส์ :beat: :z6:

รอตอนต่อไปน้า
อยากรู้...ใครเป็นพระเอก
 :really2:

wiwanana

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #55 เมื่อ20-04-2009 11:31:58 »

เหอๆๆๆ


หนุกหนานๆๆๆ :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #56 เมื่อ20-04-2009 13:10:31 »

 :really2:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #57 เมื่อ20-04-2009 18:12:50 »

นายเอกโนแกล้งตลอดเลย

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #58 เมื่อ20-04-2009 19:42:32 »

 :seng2ped:

โดนแกล้งตลอดเลยอ่ะ

 :seng2ped:

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คนเนี๊ยะ!!!แฟนผม
«ตอบ #59 เมื่อ20-04-2009 20:19:49 »

 ตอน 6.1 ซวย!

 เป็นอีกวันที่ผมตื่นสายจนไม่ทันขึ้นรถโรงเรียนอย่างเคย แล้วไม่รู้พ่อแกคิดยังไงถึงไปส่งผมที่โรงเรียนสงสัยขับรถเพลินไปหน่อย แต่ไอ่แก่พ่อวันนี้มันขับช้าเกินไปจริงๆ กว่าจะไปถึงโรงเรียนก็สาย คนอื่นเค้าขึ้นเรียนกันไปหมดแล้ว ผมก็เลยโดนครูปกครองโวยยกใหญ่หูชาไปตามระเบียบ
 
“ขออนุญาตเข้าห้องครับ” คนตัวเล็กยืนตัวลีบอยู่หน้าห้อง ดวงหน้าหวานถอดสีเพราะเขากลายเป็นจุดเด่นในทันที
 
“เข้ามาได้” คุณครูขยับแว่นหนาบนหน้าของแกก่อนจะหันมามองผม ร่างบางรีบจ้ำอ้าวไปที่นั่งหลังห้องของตัวเอง ตั้งแต่ที่คนตัวเล็กเดินเข้าห้อง บอลก็เอาแต่จ้องชนิดที่ว่าแทบจะไม่ละสายตาเลยทีเดียว ผิดกับเกี๊ยวที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินเพราะความอายที่ท้วมท้นจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
 
   ไอ่สิ่งที่ครูสอนกระดานมันก็ไม่เคยเข้าหัวผมเลยสักนิด ตอนนี้ผมกำลังจดจ่ออยู่กับโงกุน ก็ทรงผมเท่ๆที่ผมบรรจงวาดเองกับมือมันไม่ต่างกะที่เห็นในทีวี ฉายแววแต่เด็ก ผมเป็นพวกชอบวาดรูปวาดโน้นวาดนี่ไปเรื่อยจนทุกวันนี้มันก็เลยกลายเป็นพรสวรรค์ของผมอย่างช่วยไม่ได้ อาการที่ก้มหน้าขีดๆเขียนๆวาดรูปโงกุนของผมอยู่เลยดูเหมือนว่าผมกำลังตั้งใจจดไปซะงั้น
 
“ขออนุญาตไปปัสสาวะครับ” นิ้วเรียวสะกิดหลังครูผู้สอนที่กำลังมันส์กับการเขียนสูตรเลขบนกระดาน ส่วนอีกมือก็กุมเป้าตัวเองแถมยังซอยเท้าหย่องๆอยู่กับที่เล็กน้อย
 
“รีบไปรีบมา” ครูทำเสียงดุก่อนจะหันหลังให้ผม ร่างเล็กก้มเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ อีกไม่กี่สิบนาทีก็จะพักแล้วแต่ถ้าจะให้ทนถึงตอนนั้นผมคงเยี่ยวราดกางเกงแน่ๆ
 
   ขณะที่ผมกำลังจดจ่อกับการทำธุระส่วนตัวอย่างมีความสุข จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาในห้องน้ำ คงเป็นเวลาพักแล้วมั้งผมก็เลยไม่ได้หันไปดูว่าใครเข้ามาบ้าง หลังจากที่ยืนเยี่ยวจนหมดก๊อกไอ่ที่ปวดๆเมื่อกี้ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
 
“ใช่ย่อยนี่หว่า” เสียงทุ้มดังเรียบ ไอ่โย่งที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ ทำเอาผมเก็บอาวุธแทบไม่ทัน ไม่รู้มันยืนดูนานเท่าไรแต่ไอ่เชี่ยนี่มันต้องโรคจิตอ่อนๆชัวร์ แกล้งกูอยู่ได้
 
“...” ผมมองหน้าไอ่บอล ก่อนจะเดินไปล้างมือทำเหมือนกับว่าไม่เห็นมัน ผมไม่อยากจะเอาชีวิตเข้าไปเกี่ยวข้องกับมันอีกต่อไปแล้ว ต่างคนต่างอยู่เหอะว่ะ
 
   คนตัวเล็กล้างมือลวกๆ ก่อนจะเช็ดมือเปียกๆกับกางเกงนักเรียนอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่กำลังจะพาตัวเองออกจากห้องน้ำแต่ก็มีมารมาขัดขว้างอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เจอหน้าไอ่บอลถ้าไม่โดนมันแกล้งผมคงถูกหวยรางวัลที่หนึ่งแร่ะ
 
   ไอ่บอลใช้แขนยาวๆของมันกั้นทางออกที่กว้างประมาณประตูปกติได้เอาไว้ ผมมองหน้ามันแทนคำว่า หลีก มันกลับยักคิ้วมาให้ ผมเลยทำท่าว่าจะมุดแขนมันออกไป แต่มันกลับมายืนบังทางออกซะมิดจนหัวผมไปชนกับหน้าท้องมันอย่างจัง
 
“ถอยดิ กูจะออกไป” สุดท้ายผมก็ต้องยอมพูดกับมันจนได้ ถึงยังงั้นผมก็พูดไปทั้งที่ไม่ได้มองหน้ามัน
 
“ไม่” มันตอบสั้นๆแถมยังทำหน้ากวนตีนใส่ผมอีก
 
“หลบไปสิว่ะ” คราวนี้ผมผลักมันสุดแรงเกิด
 
    วืด...มันเบียงตัวหลบต่อหน้าต่อตาผมแบบสโลโมชั่น ชริปหายแล้วไง แล้วมือผมก็เลยจมดินเปียกๆหน้าห้องน้ำซะมิดทั้งสองมือ เสียงหัวเราะร่าแบบสะใจของมันดังขึ้นตามหลังทันทีที่เห็นผมอยู่ในสภาพไม่ต่างกับคนที่กำลังจับกบ
 
“ได้กี่ตัวว่ะนั่น” ” คำเย้ยยันตอกย้ำจากปากมันที่ผมได้ยินจนชิน ทำเอาผมเลือดขึ้นหน้า
 
“สัดเอ๊ย” ผมด่ามันแต่มือก็พยายามจะเอาโคลนเปียกๆที่ติดมือแปะใส่เสื้อนักเรียนขาวๆของไอ่บอล ไม่รู้ไปอยู่อีท่าไหน ผมถูกมันรวบข้อมือด้วยมือหนาๆของมันข้างเดียว และเสื้อผ้ามันก็ไม่เปื้อนเลยสักนิด กูจะบ้าตาย นี่ผมจะทำอะไรมันไม่ได้เลยรึไง
 
    มือก็ใช้ไม่ได้งั้นก็เหลือแต่ปากล่ะว่ะ ผมกะจะงับไอ่มือที่มันจับผมซะแน่น แต่มือควายๆที่ไหนไม่รู้ก็ดันไหล่ผมจนไปติดกับกำแพง หมดทางสู้จริงๆแล้วตอนนี้ อยากจะฆ่าตัวตายวันละหลายร้อยครั้งจริงๆเลยกู ผมทั้งสะบัดมือ ทั้งเตะ แต่มันก็ยังไม่ปล่อยผมแถมบีบแน่นกว่าเดิมอีก
 
“ปล่อยกูนะเว้ย” ผมแหกปากลั่นแต่เลเวลเสียงมันก็ดูเบาๆอยู่ดี
 
“ทำไมวันนี้เมิงถึงมาสาย” กูมาสายแล้วไปหนักส่วนไหนของเมิงว่ะ ไอ่เชี่ยนิ
 
“กูบอกให้ปล่อย” ผมไม่ตอบคำถามงี่เง่าของมันหรอก เรื่องอะไรผมต้องตอบ ในเมื่อมันก็ไม่ใช่พ่อผมสักหน่อย ผมยังใช้ความพยายามในการดิ้นและเตะมันต่อไป
 
“กูถามว่าวันนี้ทำไมเมิงมาสาย” คนตัวสูงกดน้ำเสียงต่ำดูหนักแน่นจนน่ากลัว มือหนาที่บีบไหล่เล็กเปลี่ยนมาบีบคางเรียวแทน
 
 
“สัด เรื่องของกูเว้ย” ร่างบางพยายามเค้นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น ก็ถูกบีบคางซะแทบจะขยับปากพูดไม่ได้ ท่าทางมันดูเหมือนจะโมโหไม่น้อย แล้วกูมาสายเมื่อเดือดร้อนอะไรเนี่ย
 
“ลืมไปแล้วเหรอ ว่าเมิงอยู่ในฐานะอะไร ห๊ะ” คนตัวสูงกระแทกเสียงแรง ทำให้เกี๊ยวเริ่มกลัวขึ้นบ้างแล้ว
 
“อะ เอ่อ” พอมันเอาเรื่องนี้มาอ้างผมถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก เรื่องท้วงบุญคุณนี่เก่งนักนะเมิง
 
“กูจะแกล้งเมิงเท่าไรก็ได้จนกว่ากูจะพอใจ แล้วเมิงก็ไม่มีสิทธิโกรธด้วย เข้าใจมั้ย” อ้าว กูก็คนนะเว้ย เมิงทำยังกะกูเป็นแค่ของเล่นสนุกที่เมิงจะทำอะไรตามอำเภอใจได้ยังงั้น
 
“...” ร่างบางปิดปากเงียบ ขณะที่ดวงหน้าหวานเบือนหนีคนตรงหน้าอย่างหมดหนทาง การที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างคนอื่นมันไม่สนุกสักนิด
 
“ต่อไปนี้เมิงต้องทำตามที่กูสั่งเท่านั้น” ร่างสูงออกคำสั่งเสียงแข็ง มือหนาดึงดวงหน้าเล็กให้หันมาสบตากับตัวเอง ไม่รู้ว่าตอนนี้ร่างสูงกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ยิ่งมองสายตาที่ดูเศร้าของคนตรงหน้ามันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย  
 
“...” แล้วเมื่อไรมันจะถึงวันนั้น วันที่เมิงพอใจ
 
   ผมอาศัยตอนมันเผลอกระทุ้งเข่าไปที่ท้องมันเต็มๆ ต่อให้ทึกแค่ไหนมันก็ต้องมีจุกบ้างแหละ เป็นอย่างที่คิดไอ่บอลรีบชักมือกลับไปกุมหน้าท้องแน่น ดวงหน้าคมบิดเบี้ยวเพราะความจุก ขณะที่เหยื่อเล็กๆหลุดหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
 
“แสบนะเมิง” ร่างสูงกรีดเจื่อนๆยิ้มขณะที่มือหนายังกุมท้องตัวเองอยู่
 
    เกี๊ยวล้างโคลนเหนียวที่เกาะมือเล็กหนืบเป็นตังเมออกด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก ริมฝีปากเล็กขมุบขมิบบ่นเป็นกระสัยกับตัวเองเบาๆ ขืนไปโรงอาหารตอนนี้ผมเดาว่าไอ่บอลมันคงไปดักรอผมที่นั่นแล้วแน่ๆ ไอ่ผมก็เลยจำเป็นต้องหิ้วไส้แห้งๆมานั่งใต้ต้นไม้ข้างสนามบอลแทน
 
   พอนั่งดูพวกมันเล่นเตะไอ่ลูกกลมๆที่กลิ้งไปกลิ้งมาบนสนามหญ้าสีเขียว เลือดนักกีฬาของผมมันก็สูบฉีดใหญ่เลย แต่ผมก็ทำได้แค่ดูมันมาตลอด ร่างบางนั่งคอตกจมอยู่กับความคิดของตัวเองท่ามกลางเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังไกลๆ นี่ผมต้องถูกมันแกล้งเท่าไรมันถึงจะพอใจ แล้ววันนั้นที่มันว่ามันคือวันไหน จ๊อก จ๊อก (เสียงท้องร้องดังขัดจังหวะ)
 
อึก (เสียงกลืนน้ำลาย) หิวนี่ครับ
 
    หลังจากที่นั่งตาลายหิวข้าวจนเสียงกริ่งสัญญาณดังเตือนว่าถึงเวลาเรียนคาบบ่าย นักเรียนที่เคยเกลือนกลาดอยู่เต็มสนามก็ทยอยกันขึ้นตึกรวมถึงตัวผม ทำยังไงไอ่อาการปวดแสบปวดร้อนเจ็บแปล๊บๆที่ท้องมันก็ไม่หายสักที อุตส่าห์พยายามไม่คิดถึงเรื่องที่ชวนน้ำลายส่อ แต่มันก็ยังหิวอยู่ดี
 
    ร่างบางหิ้วท้องมาจนถึงห้องคนตัวเล็กที่พยายามเดินเลียบๆเคียงๆฝาผนังตลอดทาง เพราะสงครามเตะบอลกระดาษบนทางเดินกำลังเข้มข้นกินพื้นที่เกือบร้อยเปอร์เซ็นบนทางเดินที่ดูคับแคบไปถนัดตา เด็กนักเรียนที่เดินแข่งกันพลุกพล่านยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการเอาชีวิตรอดเข้าไปในห้องเรียนด้วยความยากลำบาก
 
ปึก
 
“โอ๊ย...” อีกนิดเดียวก็จะถึงประตูหน้าห้องผมอยู่แล้ว จู่ๆไอ่พวกที่มันเตะบอลกระดาษกันนัวเต็มทางเดินก็เสยศอกเข้าเต็มๆกลางหลังเล็ก ศอกแหลมโครต จุกสิครับ ศอกเฉยๆไม่พอผมยังไปสะดุดขาพวกมันอีกกี่ตีนละนั้น เจ็บหน้าแข้งชริป จะหันไปด่าพวกมันมีหวังผมคงได้เจ็บหนักกว่าตอนนี้แน่
 
    ไอ่ที่ผมว่าซวยแล้ว มันยังไม่เท่ากับที่มือทั้งสองข้างผมดันไปจับหน้าอกของไอ่โอมที่มันเสือกยืนตรงหน้าห้องพอดี เต็มไม้เต็มมือเลยงานนี้ ร่างบางหน้าซีดเผือก ไม่มีอารมณ์ได้ไปขอโทษขอโพยหรืออั้มอึ้งอะไรทั้งสิ้น หน้าแข้งผมตอนนี้คงเขียวตายห่าแล้ว
 
“เฮ๊ย เป็นไรป่ะว่ะ” คนตัวสูงมองร่างเล็กที่กำลังลูบหน้าแข้งตัวเอง ดวงหน้าหวานซีดเซียว รอยสีม่วงอมเขียวจางๆเป็นจ้ำปรากฏที่หน้าแข้งสวยในบัดดล
 
“...” ผมมองหน้ามันเฉยๆ ก็มันจุกจนกว่าจะพูดได้ ไม่รู้ศอกใครแทงหลังผมงี้แทบกระอักเลือด คนตัวเล็กเดินกะแพล๊กๆเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไร
 
“ทำ หน้า เหมือน คน ขี้ ไม่ ออก เลย เมิง” พอผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ เสียงจากโต๊ะข้างๆดังขึ้น ไอ่เนี่ยมันเป็นเพื่อนผมตั้งแต่สมัยอนุบาลแร่ะ มันเป็นคนไม่ค่อยพูด เรียนเก่ง เล่นบอลเก่ง แต่แสดงความรู้สึกไม่เก่งสักเท่าไร
 
“ก็เอ้อ... ช่างเหอะว่ะ” ผมตอบปัดๆ มือเล็กก็ยังลูบหน้าแข้งตัวเองไม่เลิก หิวข้าวก็หิวยังเจือกหาเรื่องเจ็บตัวอีกจนได้  
 
“ของใครว่ะ” แล้วนัยน์ตาหวานก็เหลือบไปเห็นขนมปังกับนมที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความงุนงง จะตะโกนถามก็ไม่ใช่นิสัยของผม ผมเลยถามไอ่เอ็มว่าเป็นของใครกันแน่
 
“ของเมิงป่ะ” ผมหันไปถามไอ่เอ็ม หน้าตาซีดๆไร้อารมณ์ของมันทำผมจิตตกหลายที
 
“ไม่ รู้ ว่ะ” ไอ่เอ็มตอบเสียงยานเนิบทีละคำ ก่อนจะขยับแว่นเล็กน้อยเพื่อจ้องไอ่สิ่งที่อยู่ในมือผม คนยิ่งหิวๆอยู่ไม่มีใครเป็นเจ้าของจะแดรกแล้วนะโว้ย
 
   ไอ่เอ็มก็บอกว่าไม่ใช่ของมัน ส่วนไอ่โอมก็คงไม่ใช่แน่ๆ รอบโต๊ะผมก็มีมันสองคนที่ใกล้ที่สุด ไอ่หน้าไหนที่มันมาลืมขนมปังกะนมไว้ที่โต๊ะผมก็ไม่สนแล้ว ถือว่าเป็นลาภลอยก็แล้วกัน ไม่ไหวๆ หิวจัด
 
   ผมแอบคิดอยู่ในใจก่อนจะเลียปากเลียคออย่างคนไม่ได้กินข้าวมาสามวันยังไงยังงั้น ครูก็ยังไม่เข้าผมเลยจัดแจงแกะซองพลาสติกที่ห่อขนมปังไว้หมูหยองออกก่อนจะยัดมันเข้าปากโดยไม่รีรอ อีกมือก็ยัดหลอดนมเข้าไปในปาก ถึงมันจะไม่อิ่มเท่ากับกินข้าว แต่ก็ช่วยปะทังความหิวของผมได้บ้าง หารู้ไม่ว่าไอ่สิ่งที่ตัวเองกำลังยัดเข้าปากนั่น มีคนจงใจซื้อให้ต่างหากเล่า
 
   เสียงกริ่งดังเตือนเป็นรอบที่สองแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าครูประจำวิชาที่ผมต้องเรียนตอนนี้จะเข้ามาสักที ผมก็เลยใช้เวลาไปกับการนั่งเขี่ยรูปบนเศษกระดาษเหมือนอย่างเคย
 
“อ๊ะ” ระหว่างที่ร่างบางกำลังวาดรูปเล่นเพลินๆ ไอ่โอมมันก็ยื่นตลับยาหม่องตราลิงถือลูกท้อมาให้คนตัวเล็ก พลางกับมองมาที่หน้าแข้งเรียวที่ช้ำเป็นจ้ำๆ
 
“อะไร” ผมรู้ว่ามันเอายาหม่องมาให้ผมทำไม แต่ไม่รู้ผีอะไรมาเข้าสิงมันถึงได้มาทำดีกะผม ทีเมื่อวานมันยังรวมหัวกับไอ่บอลแกล้งผมอยู่เลย
 
“ยาหม่องสิ ฟาย ตาบอดรึไง ตกลงจะเอามั้ย” แค่นี้ก็ด่ากูซะ
 
“...” ถึงตอนนี้ผมก็ยังมึนอยู่ดีว่ามันคิดยังไงถึงได้มาทำดีกับผม
 
“มานี่ กูทาให้ก็ได้ว่ะ” ไม่ว่าเปล่า มือหนาคว้าท่อนขาเรียวออกมา ก่อนจะใช้นิ้วเรียวบรรจงทายาหม่องที่หน้าแข้งสวยอย่างเบามือ
 
“เชี่ย เบาๆดิว่ะ คนนะเว้ย” ร่างบางมองมือหนาขณะที่กำลังลูบที่รอยช้ำอย่างใจจดใจจ่อ เสียงหวานสบถออกมาเบาๆ
 
“ก็อยู่นิ่งๆดิว่ะ กระตุกอยู่ได้” มือแกร่งยึดขาเรียวแน่นก่อนจะบรรจงแต้มยาหม่องไปที่บริเวณรอยช้ำ เกี๊ยวเผลองับริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ
 
“พอๆ” ร่างบางรีบชักขาของตัวเองกลับก่อนจะส่งเสียงซี๊ดเบาๆในลำคอ
 
“อ๊ะ เผื่อได้ใช้” แล้วไอ่โอมก็โยนตลับยาหม่องมาให้ผม นี่มันหวังดีหรือแช่งให้ผมเจ็บตัวอีกกันแน่ ยังดูคลุมเครือ รอยยิ้มบางๆเปื้อนที่ดวงหน้าคม โดยที่ไม่รู้เลยว่า มีใครอีกคนที่ยืนมองทุกการกระทำอยู่นานแล้ว
 


   ร่างสูงเดินวนไปวนมาท่าทางที่ดูเหมือนกระวนกระวายนิดๆ ดวงหน้าคมคล้ายกับครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่ในหัว ริ้วคิ้วหนาเริ่มขยับเข้าหากัน มือแกร่งซุกอยู่ในกางเกงทั้งสองข้าง
 
“เฮ๊ย ไอ่บอลมันเป็นเชี่ยไรว่ะนั่น” โยกระตุกแขนเสื้อคนข้างๆก่อนจะสะกิดให้มองคนที่เดินไปมาจนดูน่าปวดหัว
 
“ไม่รู้” เคนส่ายหน้าเบาๆสองสามที
 
“ขอกูเล่นมั้งดิว่ะ” เคนเอ่ยขอเพราะเขานั่งมองโยเล่นเกมบอยมาเกือบร่วมชั่วโมงแล้ว
 
“ไม่เอา กูเคลียร์ก่อนแล้วเมิงค่อยเล่น” ร่างบางพูดเชิงเอาแต่ใจ ก่อนจะหันหลังให้อีกฝ่ายไปซุ่มเล่นคนเดียว
 
“ใครบอกให้เมิงทำยังงั้นเล่า มานี่เดี๋ยวกูเล่นให้ดู” เคนโน้มตัวโอบโยจากด้านหลัง ก็เล่นนั่งหันหลังให้ยังงั้นเองนี่หว่า มือหนากุมมือเล็กขณะที่นิ้วเรียวประจำอยู่ที่ปุ่มกดทั้งสองข้างเรียบร้อยแล้ว คางแหลมเกยที่ไหล่มน นัยน์คมคมก็จ้องอยู่ที่สกรีนหน้าจอสีเหลี่ยมขนาดเล็ก โยนั่งนิ่งในอ้อมแขนของเคน นัยน์ตาคู่สวยเองก็จ้องสิ่งที่วิ่งไปมาในสกรีนจอช่องสี่เหลี่ยมชนิดที่ว่าลุ้นตัวโก่งกันเลยทีเดียว  
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด