มาต่อแว้ว เนื่องจากนิยายที่พี่เคทหลายเรื่องเซฟไว้ใน thumb แล้วหายหมด
เลยต้องเขียนใหม่ และประกอบกับพี่เคทมีนิยายหลายเรื่องออกพิมพ์
ไปอุดหนุนกันได้นะครับ
http://katesnk1405.invisionplus.net/index.php?mforum=katesnk1405&showtopic=1111*******
นนนี่ทำงานกับผมมานานแล้ว เธอค่อนข้างจะรู้ใจผมดี ว่าผมต้องการอะไร เธอเป็นคนที่ทำงานดีมาก เรียบร้อย และสามารถจัดการงานต่างๆ หลายอย่างได้ดีจนผมสามารถไว้วางใจให้นนนี่ช่วยดำเนินการให้ในบางอย่าง
ที่สำคัญเธอยังเป็นคนรักษาความลับได้ดีมาก การตัดสินใจทุกอย่างในเรื่องการงาน เมื่อบอกเธอไปแล้ว จะไม่มีการหลุดกระเด็นไปให้ใครได้ยินเด็ดขาด
ผมจึงเชื่อใจเธอมาก และกล้าบอกอะไรหลายอย่างให้เธอรู้ แม้แต่เรื่องเกี่ยวกับเคน ซึ่งเธอก็รับฟังอย่างเข้าใจ แม้จะไม่แสดงความคิดเห็น แต่ก็ไม่เคยตั้งท่ารังเกียจ หรือพูดให้ผมไม่สบายใจ แถมยังดูจะเชียร์ให้ผมชอบกับเคนอีกด้วย
“มีอะไรหรือคะเจ้านาย”
เลขาสุดสวยของผมรับสายด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง มันทำให้ความหงุดหงิดของผมเมื่อครู่คลายลง ผมบอกเธอถึงเรื่องที่คับข้องใจทันที
“อ๋อ เรื่องนี้เอง พอดีว่าตอนแรกไม่ได้มีชื่อของเคนในลิสต์พนักงานที่จะไปเที่ยว เพราะเราไม่ได้ให้พวกลูกจ้างชั่วคราวไป เพิ่งมาเปลี่ยนตอนหลังนี่เองตามคำสั่งของเจ้านายไงคะ
ทีนี้ห้องมันก็ไม่ว่าง เพราะเรามาเพิ่มตอนหลัง คุณชาตรีเลยสั่งให้คนจัดการเรื่องห้องพักให้เคนไปนอนเบียดกับพนักงานคนอื่นๆค่ะ”
เลขาสาวอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจึงถึงบางอ้อ และแอบเขินนิดหน่อยที่ตัวเองเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจเลยก่อให้เกิดความยุ่งยาก เป็นเพราะผมเองที่จัดการเรื่องนี้ล่าช้า ก็เลยทำให้ไม่มีห้องเพียงพอสำหรับลูกจ้างชั่วคราวที่ไม่ได้อยู่ในโผตั้งแต่แรกที่จะไป ทว่าผมได้ตัดสินใจไปแล้ว ยังไงเคนก็ต้องไปพักใกล้ๆกับผม
ไม่มีวันที่ผมจะให้สามีสุดที่รักไปนอนเบียดคนอื่นอย่างลำบาก หรืออยู่ไกลหูไกลตาของผมแน่ๆ ผมสาบานว่ามันจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมจะใช้อำนาจที่มีอยู่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์บริษัทที่ผมเป็นคนตั้งขึ้น และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมจะปฏิบัติตามกฎของผมด้วยความตรงไปตรงมา
และเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ผมต้องการ ผมจึงเอ่ยปากขอให้เลขาของผมช่วยจัดการให้
“ให้เขามานอนที่เดียวกับผมได้ไหม เรือนพักวีไอพีที่ผมได้พัก มันไม่ได้มีห้องเดียวไม่ใช่เหรอ ก็ให้เขามานอนอีกห้องแล้วกัน เพราะเขาเป็นเลขาของผมนะ ถ้าผมต้องการอะไรด่วนๆขึ้นมา จะได้เรียกใช้เขาได้”
อะไรด่วนๆที่ว่านี่หมายถึงเรื่องอย่างว่าด้วย นึกแล้วก็อดหื่นไม่ได้ ต้องรีบกัดริมฝีปากตัวเอง กลัวว่าคำพูดจะหลุดออกมา
“รับทราบค่ะ คุณเคลวิน เดี๋ยวนนนี่เคลียร์ให้ค่ะ แต่จะให้เคนนอนอีกห้องหนึ่งหรือคะ แน่ใจนะว่าไม่ให้เคนมาอยู่รับใช้ในห้องเดียวกัน”
นนนี่รับปาก จากนั้นก็แซวด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดี เพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ จึงไม่ได้ถือสากับคำพูดแซวของเธอ แต่รับมุขที่โยนมา และท้าทายให้เธอทำ
“เอาสิ ถ้าคุณจัดการให้ผมได้นะ แล้วหาข้อแก้ตัวดีๆให้ผมด้วย ไม่ใช่ไม่อยากทำนะ ผมไม่อายหรอก กลัวเคนจะอาย ถ้าคุณทำให้ผมกับเขานอนห้องเดียวกันได้ โดยไม่มีใครนินทาทั้งบริษัท ผมขึ้นเงินเดือนให้คุณสองเท่าเลยเอ้า...”
“โห เจ้านายขา รางวัลยั่วใจนะนั่น อยากทำให้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าต้องเล่นกับความรู้สึกชอบใจไม่ชอบใจของคนหมู่มากนี่ มันเกินกว่ากำลังของนนนี่ค่ะ ให้ทำงานอื่นยังง่ายกว่า อย่างโน้มน้าวใจให้เคนชอบเจ้านาย อันนี้สบายมากค่ะ”
เลขาที่แสนจะรู้ใจผมตอบกลับ ในเวลางานเธอจะพูดคุยกับผมอย่างสุภาพ ไม่พูดเล่นหยอกเอิน รักษาหน้าผมในฐานะเจ้านาย แต่นอกเวลางาน หรือถ้าไม่มีพนักงานคนอื่นอยู่ใกล้ๆ เธอก็จะมีหยิกหยอกผมบ้าง แลผมก็ไม่เคยถือสาหาความอะไร เพราะเราทำงานรู้จักรู้ใจกันมานาน
“ทำได้จริงๆเหรอนนนี่...”
ถามอย่างไม่อยากเชื่อ ขนาดผมเอง โน้มน้าวเอาตัวเข้าแลกอย่างไร เคนก็ไม่ใจอ่อนง่ายๆ แล้วเขาจะเชื่อคำพูดไม่กี่คำของเลขาผมได้อย่างไร
--------------------
“ต้องลองดูค่ะ คุณเคลวิน อยากให้ลองพูดดูไหมคะ”
“ไม่ดีกว่า”
ผมเปลี่ยนใจกระทันหัน ที่จริงก็อยากจะใช้ตัวช่วยเหมือนกัน แต่ถ้าทำแบบนั้นแล้ว เคนอาจจะไม่ได้ยอมรับรักผม เพราะเขารู้สึกดีกับผมจริงๆก็ได้
“ผมอยากจะลองพยายามทำด้วยตัวเองดูก่อน ถ้าหากไม่สำเร็จ ผมถึงจะขอให้คุณช่วยแล้วกัน”
“ตกลงค่ะคุณเคลวิน นนนี่เอาใจช่วยนะคะ เพราะนนนี่ก็อยากให้เจ้านายมีความสุขมากๆ เคนเขาเป็นคนดี เขาต้องเป็นคนรักที่ดีให้กับเจ้านายได้เช่นเดียวกัน”
ประโยคสุดท้ายของเลขาสาวสวย ทำให้ผมใจพองโตคับอก แม้แต่นนนี่ ยังเห็นดีเห็นงามไปด้วย เธอไม่ได้แสดงท่ารังเกียจที่เจ้านายที่เป็นเกย์อย่างผม หรือใช้คำพูดโน้มนำให้เปลี่ยนใจ แต่กลับคอยมองหาคนดีๆให้ผมด้วย และที่ยิ่งประทับใจก็คือ เธอเห็นด้วยว่าเคนเหมาะสมกับผมจริงๆ
คิดถึงเคนขึ้นมาอีกแล้ว ป่านนี้สามีของผมจะตื่นขึ้นมาหรือยังหนอ ผมทำกับเขาหลายครั้งมากจนทำให้เขาเหนื่อยอ่อน นอนหลับไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง
ผมกลัวว่าเขาจะนอนจนเลยเวลาอาหารจัง กลัวว่าเขาจะไม่สบายตัว กลัวจะหิวจนแสบท้อง หรือไม่ก็พาลเป็นไข้ เห็นทีว่าผมจะต้องไปปลุกสุดที่รักของผมเสียแล้ว
ร่างที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่ฟูกหนานุ่ม ดึงดูดให้ผมรีบคลานขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว ผมดึงตัวเขามากอดในอ้อมแขน อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบที่แก้มและปากของเขา
มีเสียงหัวเราะดังออกมาให้ได้ยิน ผมก้มลงมอง ก็เห็นเคนลืมตาแป๋วๆขึ้นมองผม เขายิ้มให้อย่างล้อเลียน
“นิสัยแมว ยังไงก็อดที่จะขโมยกินปลาไม่ได้ ใช่ไหมครับ”
อายจัง สามีว่าผมเป็นแมวเหรอ ส่วนตัวเขาเป็นปลา ผมไม่ค่อยเข้าใจสำนวนไทยนัก ไม่รู้ว่าที่เขาเปรียบมันเข้ากับเราสองคนหรือเปล่า แต่ผมก็อดหัวเราะไม่ได้ ผมไม่ได้อยากจะขโมยนะ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆนี่นา ก็เคนอยากน่ารักทำไมล่ะ ใครอดใจไหวก็บ้าแล้ว
“เคนชอบหรือเปล่าละครับ”
ถามแล้วก็ไม่รอคำตอบ ผมประกบปากกับเคนทันที หัวใจผมเต้นรัวแรง เมื่อเคนจูบโต้ตอบผม รู้สึกดีจัง เขาไม่ชิงชังรังเกียจการจูบกับผู้ชาย หลังๆมานี้เขาเผลอตัวสนองตอบผมบ่อยๆ
ไม่รู้ว่าผมเล้าโลมเก่ง หรือว่าเขามีใจให้กับผม ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย อีกไม่นานเคนก็คงรับรักผมอย่างแน่นอน ความคาดหวังว่าเรื่องดีๆจะเกิดขึ้นกับผมในวันข้างหน้า ทำให้ผมทุ่มเทกับการจูบในครั้งนี้มาก
“โอ๊ย พอแล้วครับ เรี่ยวแรงมาจากไหนเนี่ย”
ทันทีที่ผมถอนริมฝีปากออก เคนก็ต่อว่าผม หน้าแดงก่ำ เขาอ้าปากหอบหายใจ โกยอากาศเข้าเต็มปอด หน้าตาตอนนี้ของเขาน่ารักมาก
ผมอยากจะจูบเขาอีก แต่กลัวว่าจะทำให้เขาหายใจไม่ออก เลยเปลี่ยนมาหอมที่แก้มแรงๆแทน เคลยิ้มขำกับท่าทางคลั่งไคล้เขาที่ผมแสดงออก จากนั้นก็เอ่ยปากถามผม
“ที่มาปลุกผมนี่ นอกจากจะเพื่อลวนลามแล้ว เคลวินยังต้องการอะไรอีกหรือเปล่าครับ”
ต้องการตัวคุณยังไงล่ะ เกือบจะตอบแบบนี้ออกไปแล้ว ถ้าไม่เห็นเคนจ้องผมกลับมาอย่างรู้ทัน ผมเลยบอกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริง
“จะมาปลุกไปกินข้าวครับ นี่เย็นแล้วนะ ไม่หิวหรือครับ ตอนกลางวันก็ไม่ได้กินมาครั้งหนึ่งแล้ว เดี๋ยวแสบท้องแย่”
“ก็ใครล่ะ ที่ทำให้ผมไม่ได้กินข้าว”
เขาต่อว่าผม คงจะนึกหมั่นไส้ที่ผมเป็นต้นเหตุให้เขาท้องว่าง แถมยังมาพูดแบบไม่สำนึกผิดอีก คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกอาย แต่ผมก็ไม่ได้สำนึกว่าจะต้องเลิกลวนลามเขา ยอมเป็นคนลามกหื่นกามตามแต่เขาจะคิด ก็ด้านได้ อายอดนี่นา
...................................................................
--------------------