[story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ  (อ่าน 84876 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เขินไรต้นผมว่าเรื่องนี้แหละประทับใจสุดๆ

อะไรที่มันออกมาจากความรู้สึกลึกๆมันจะมีค่าในอารมณ์เสมอ

 :impress2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
   Break – Summer Time
    ผมจะบอกทุกคนว่า ตอนนี้เรื่องสุขภาพของไอ้เบียร์ ทุกคนก้อรู้กันแล้วนะครับ ว่าตอนนี้ (หมายถึงในเรื่อง) มันก้อแข็งแรงดีแล้ว

    การรักษาและบุญที่มันทำมาดี ช่วยมันเอาไว้มากมาย

    แต่เรื่องราวของผมกับมันที่กำลังจะนำมาเล่านี่ มันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของร่างกายของมันเปนเรื่องใหญ่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นน่ะสิ...

    ถ้ายังไม่เบื่อกัน ผมก้อจะขอเล่าต่อไปเรื่อยๆนะครับ

    สิบกว่าตอนที่จบไปนั้น เปนแค่เรื่องตอนมอ 4 เรื่องราวใหญ่ๆที่เกิดขึ้นตอนนั้นสำหรับพวกผมก้อมีเรื่องนี้แหละครับ

     แต่ว่า พอขึ้นมอ 5 ก้อมีเรื่องให้ผมต้องปวดหัวอีกจนได้ แต่ว่า เรื่องราวต่อไปหลังจากนี้ ขอเกริ่นไว้ก่อนเลยแล้วกัน...

    จะมีเรื่องของไอ้ชัย ผู้หญิงที่ไอ้เบียร์มัน(เคย)จีบ ผู้หญิงที่ผมแอบชอบ และเพื่อนๆของผมเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหลายคนอย่างเลี่ยงไม่ได้

    (ถ้าผมไม่ตัดสินใจภายหลังว่า มันจะยืดเยื้อเกินไปจึงจะตัดออกล่ะก้อนะ)...

    ยังไงก้ออยากให้ลองติดตามกันต่อไปดูนะครับ

    (ทั้งนี้ ทางบริษัทขอสวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

    แต่ว่าเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าตอนนี้ ให้เปนเหมือนเรื่องแถมก้อแล้วกันนะครับ มันเปนช่วงเบรกของ 2 ฉากใหญ่ (มอ 4 และ มอ 5)

   ให้มันเปนปิดเทอมซัมเมอร์ของเรื่องนี้ไปด้วยเลยแล้วกัน

    เดี๋ยวจะหาว่าผมกับมันไม่ค่อยมีเรื่องกุ๊กกิ๊กหวานๆ อะไรกับเขามั่งเลย (อ่ะนะ ก้อคนมันไม่หวานนี่หว่า... ทั้งกุทั้งมันอ่ะ) คือ... กุก้อมีเหมือนกันนะเว้ยย

    ......................................

    ขอบอกว่า เรื่องทั้งหมดเนี่ย เค้นออกมาสุดๆจากสมองน้อยๆของผมนะคับ บางเรื่องก้อลืมไปแล้วเขียนๆอยู่ถึงนึกขึ้นมาได้ก้อมี

    เพราะงั้นที่ผ่านๆมาถ้างงตรงไหน ก้อบอกมาและกันนะค้าบบ จะมาแก้ไขให้ :)

    ......................................

    (1)
    พอ(พวกผม)ปิดเทอม ไอ้เบียร์ก้อต้องเรียนชดเชยหนักเปนการใหญ่ ทั้งเพื่อตามงานที่ผ่านมา ทั้งมีอาจารย์ในและนอก รร มาสอนมัน

    ทั้งเพื่อนๆที่มารุมกดดัน ด้วยการไปหามันที่บ้านบ่อยเหลือเกิน

    (ผมไม่ค่อยไปหรอกนะ ไม่เหมือนใครบางคน... ไปเปนลูกบุญธรรมแม่มันซะเลยมั๊ยล่ะ สาดด)

    แต่มันก้อทำงาน สอบผ่านได้ขึ้น มอ 5 จนได้ในที่สุด (อิอิอิ นึกแล้วก้อน่าสงสารซะไม่มีอ่ะ 555555)

    และช่วงนั้นเอง เพื่อนผมที่ห้องก้อวางแผนจะไปเที่ยวทะเลกันครับ เปนการผ่อนคลายและเชื่อมมิตรภาพถายในห้อง...

    ไม่ใช่ว่าห้องผมไม่รักกันนะครับ แต่ตรงกันข้าม รักกันมากกกก ทั้งหญิงทั้งชาย สนิทกันสุดๆ ยังไม่เคยมีปัญหากันเลย

    พวกเราก้อเลยอยากไปเที่ยวกันเองบ้าง...

   เพิ่งจะเปนหนุ่มเปนสาวกันนี่นา ก้ออยากจะผจญภัย ทำอะไรกันเองสักครั้งนึงแหละวะ เกาะพ่อแม่มากันนานและ...

   สุดท้ายเลยตัดสินใจไปเกาะพ่อแม่เพื่อน ที่บ้านเพื่อนที่ชะอำแทน 55555 อ่ะนะ ก้อเงี๊ยแหละ ค่ารถฟรี กินฟรี อยู่ฟรี 3 วัน 2 คืน

   แล้วววมันเรียกกันว่า “ไปเที่ยวกันเอง มีแต่พวกเรา” ได้ยังไงวะ นึกแล้วก้อขำจิงๆ

    แต่ที่ผมพูดมาทั้งหมดเนี่ย... กุไม่ได้ไปหรอกนะ -*- เซงสาดดดอ่าาาา แม่ไม่ให้ไปคับ เซงมากมาย

    เพื่อนผมทั้งห้อง มี 40 นิดๆชีวิต ไปกันทั้งหมด 25 คนอ่ะ อยากไปมากกก แต่ก้อนะ

    แน่นอนว่า มีอีกชิวิตนึง ที่อดแดกแหงๆแน่นอน นั่นก้อคือไอ้เบียร์ครับ 5555...

    ก้อแล้วมันจะไปได้ยังไงอ่ะ ยังกะเดกในหลอดแก้วขนาดนั้น ผมก้อยังถือซะว่าอยู่เปนเพื่อนมันเว้ย 3 วัน 2 คืน (โดยที่ไม่มีไอ้ชัย 555)

    แต่ไม่ได้แบบว่า ไปค้างอยู่ด้วยกันหรอกนะครับ อันะนั้นก้อคงจะเกินไป...

    วันก่อนหน้าที่เพื่อนผมจะออกจากกรุงเทพไปกัน ผมก้อโทคุยกับมันตามปกติ

    “เปนไงมั่งแล้ววะ” ผมทักมันก่อน

    “อืมม ก้อดีว่ะ แต่โคตรเบื่อเลยอ่ะ อยากไปเที่ยว”

    “เอาน่าาา กุก้อไม่ได้ไปเหมือนกัน อุตส่าห์อยู่เปนเพื่อนมึงนะเนี่ยย”

    “เหรอ ใจดีจังนะมึง นึกว่าแม่ไม่ให้ไปซะอีก” มันแขวะผมอ้ะ

    “เฮ้ยย กุขอแม่ไม่ไปต่างหากเล่า จิงๆแล้วแม่กุอ้อนวอน ขอแล้วขออีกให้กุไปเถอะน้า ให้กุไปเถอะน้า แม่อยากให้ลูกไปสนุกกับเพื่อนๆ

     แต่กุก้อปฏิเสธหัวชนฝา ว่ายังไงๆก้อจะไม่ไป เพราะจะอยู่เปนเพื่อนมึงไงล่ะ”

    “ไอ้ตอแหล 5555”

    “เออๆ เอาน่า ว่าแต่มึงออกไปดูหนังกับกูได้มั๊ยอ่ะ ไม่มีไรทำว่ะ” ผมชวนมันไปหาเรื่องอีกแล้ววว

    “ไม่รู้ว่ะ ต้องลองขอแม่ดูก่อน แต่ว่า ก้อคงดูสถาพดินฟ้าอากาศด้วยอ่ะ” ครับ...

   ถ้าฝนตกก้อไปไม่ได้แน่นอน แดดออกก้อไม่ได้ ฝุ่นเยอะก้ออด คนเยอะก้อแห้ว...

    “ไม่น่าจะมีปัญหานะ ออกตอนเย็นๆ แล้วพรุ่งนี้วันพุธ คงไม่ค่อยมีคนหรอกมั๊ง” ผมยังหาเรื่องจะลากมันออกไปอยู่ดี

    “อืม งั้นขอขอแม่แปบ...” แล้วมันก้อหันไปถามแม่ ผมได้ยินแว่วๆ ว่า แม่จะไม่ให้ครับ

    แต่มันดื้อ บอกจะออกมา เพราะไม่ได้ไปเที่ยวไหนมานานแล้ว แค่ดูหนังเอง อะไรของมันไม่รู้...

    “ฮัลโหล เออ”

    “แม่มึงว่าไงมั่งล่ะ”

    “โอ๊ยยย มีรึจะกล้าขัดใจลูกชาย 5555” อ่ะนะ ไอ้ลูกชายคนเดียวลูกชายคนเล็ก หมั่นไส้ว้อยยย

    “เออก้อดีแล้วว กุอยากดูหนังมาชาตินึงแล้ว ไม่ได้ดูสักที มัวแต่...”

    “มัวแต่มาเยี่ยมกูใช่มั๊ย...” มันทำเสียงเครียด

    “ไอ้บ้า! กุไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย กุจะพูดว่า มัวแต่เครียดเรื่องสอบเนี่ย ปิดเทอมก้อยังไม่ได้ทำไรนอกจากไปช่วยงานแม่ที่ รร เลย

    เซงจะตายห่าอยู่แล้ว เบื่อออ่ะ” ผมแก้ตัวตามระเบียบ...

    จริงๆก้ออยางที่มันว่าแหละครับ มัวแต่เครียดเรื่องมัน ผมไม่มีอารมณ์จะไปดูหนังหรอก

    .....................................................................

    หลังจากผ่านไป 2 ชม

    “เฮ้ยเบียร์ แล้วเรื่องนัท มึงจะเอาไงต่ออ่ะ...” ผมแกล้งเสี่ยงๆถามมันไปงั้นแหละครับ

    “อืมมม... ไม่รู้ว่ะ กุก้อเหนื่อยนะแต่ก้อยังอยากจะคบเค้าอยู่ดีอ่ะ” คำตอบของมันเล่นเอาผมอึ้ง

    “...เหรอ... อืมก้อดีนะ…”

    “มึงอย่ามาบ้าน่าาาา ยังจะมีหน้ามาถามอีกเรอะ อยากให้กุไปคบกับเค้านักรึไงห๊ะ ไอ้หัวตูด” มันทำเสียงทะเล้น

    “อ้าว ก้อกูนึกว่า มึงพูดจริงๆอ่ะ ก้อคนอย่างกู...”

    “คนอย่างมึงทำไมวะ หา อย่าคิดมากดิ่... กูเขินนะเว้ย อย่ามาบังคับให้กุต้องพูด…”

    “พูดไร ไหนมึงจะพูดไรวะ พูดดิ่พูดดิ่พูดดิ่” ผมเร่งเร้ามัน มันจะพูดไรวะๆ

    “ไม่เอา ไม่พูดเว้ย ไม่พูดๆๆๆๆๆ” มันก้อยังดื้อ

    “เออ ไม่ต้องพูดก้อได้ กูก้อไม่อยากรู้นักหรอก” กุงอน

    “เออ ไม่พูด” อ๊าวววว ซะงั้นอ่ะ ไอ้หน้าส้นตีน

    “เออ”

    “เออเด่ะ พรุ่งนี้ 5 โมงเย็นมึงไปสายเจอเตะแน่นะ ไอ้ตูด”

    “อ้าว ตกลงยังอยากจะไปเหรอไง” กุยังงอนอยู่

    “ก้อได้นะ มึงไม่ไปก้อเรื่องของมึง งั้นแค่นี้นะ”

    “เฮ้ยๆๆๆ ไปดิ่ๆ กุล้อเล่น โกดจิงหงอ”

    “จริง ถ้าไปสาย กุไม่หายโกรธแน่ ไปแล้วนะ จะนอนแล้ว”

    “คับๆๆๆๆ บายๆคับ ฝันดีนะ”

    “อืมม ฝันดี” แล้วก้อวางกันไปตามระเบียบ... นี่แหละครับ ทั้งๆที่ตอนแรกผมเปนฝ่ายงอนนะ

    ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับมัน 2 คนมานานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย...

    แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลนะครับ ไอ้ที่ไปไหนมากัน สองคนเนี่ย ไม่ได้ไปทำไรมากกว่า นั่งดูหนังกันต่างคนต่างดู

   กินกันก้อแบบต่างคนต่างแดกเลย ไม่มีอะไรแม้แต่นิดเดียว...

    แม่งโคตรเพื่อนอ่ะครับ ตกลงมันคิดไงกะกุแน่วะเนี่ย บางทีก้อแอบสงสัยมานานแล้วอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ไม่คิด ไอ้ผมมันยิ่งประเภทคิดมากอยู่ด้วยดิ่

    วันแรก

    ตื่น 7 โมงรอบนึง 11 โมงครึ่งอีกรอบนึง... รอบแรกเพื่อนที่ไปเที่ยวแม่งโทมาปลุก เพราะกำลังรวมพลกันที่ รร

   แล้วเจือกอยากให้กุได้ร่วมรู้สึกถึงบรรยากาศ... สาดดดกุจานอน ไอ้หน้าส้งตีงง!

   แต่ตื่นเองจริงๆ 11 โมงครึ่ง พร้อมกับอารมณ์ดีสุดๆอ่า จะได้ไปอยู่กับมันสองคน... ก้อนะ เปนใครจะไม่ดีใจมั่งล่ะว้า ได้อยู่กับคนที่เรารัก... :)

    ออกจากบ้านสายก้อไม่ได้ ไม่งั้นแม่งด่าตาย... ไปเจอมันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว (ห้างท้องถิ่น อิอิ) 5 โมงตรงเป๊ะ

    แต่แม่งมาถึง 5 โมงครึ่ง หัวดอมากๆ... แล้วเลยขึ้นไปดูหนังกันก่อนดีกว่า ดูจบแล้วค่อยหาอะไรกิน

    ...ระหว่างที่หนังฉาย...

    “เฮ้ย หนาวว่ะ มึงว่าแอร์มันแรงป่าววะ” ผมถามมัน ขนแขนกุซาแต๊นอั้พหมดและเนี่ย

    “นิดนึงว่ะ กุคงชินกับอากาศเย็นๆมั๊ง”

    “อืมมมม” ผมก้อยังนั่งหนาวอยู่ต่อไปจนหนังเริ่มมาได้ จะ 30 นาทีแล้ว

    “ยังหนาวอยู่เหรอ” มันถาม

    “อืมม ทรมานว่ะ” มันทรมานจิงๆนะครับ อากาศหนาวๆเนี่ย

    “เอ้า” โอ๊ะๆๆๆๆๆ มันยื่นมืออกมาเว้ยยยย! นี่มันจะเอามาทำอะไรเนี่ย กูไม่ได้ต้องการไอ้บ้า อายคนเขามั่งมั๊ยเนี่ย

     (ถึงที่นั่งแถวนั้นจะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆเลยก้อตาม)

    เปนผู้ชายมานั่งจับมงจับมือ กุรับไม่ได้จริงๆนะเนี่ย ไอ้ห่า ถ้ากุอยากจับนักกุจับไปนานแล้ววว ไอ้บ้า บ้าบ้าบ้าบ้าบ้า... และไวเท่าความคิด

    กุรีบยื่นมือออกไปจับมือมันมากุมทันที (กลัวมันจะชักกลับ)

    กุไม่ดีใจหรอกนะเว้ย นั่งจับมือมึงเนี่ย ที่กุจับเพราะมันหนาวต่างหาก อย่ามาเข้าใจกุผิดนะเว้ย แต่กุก้อดูหนังไม่รุเรื่องแล้วว มัวแต่นั่งไม่ดีใจอยู่อย่างนั้นอ่ะ...

    “ดีขึ้นมั๊ย” มันถาม

    “อืมม ขอบใจว่ะ” แล้วก้อหยิบเอาแขนทั้งแขนมันมากอด 555 นั่งไปสักพักผมก้อนึกขึ้นได้ เลยถามมัน

    “เปนเหน็บรึเปล่าอ่ะ เมื่อยมั๊ย”

    “เปนมาได้ 5 นาทีแล้วว่ะ เมื่อยดิ่” มันหันมาทำหน้าตาน่าสงสารไปด้วย

    “เหรอ ทนหน่อยและกัน ลูกผู้ชายป่ะมึงอ่ะ หึหึหึ (หัวเราะดังไม่ได้ อยู่ในโรงหนัง)”

    “เออ ทนดิ่ แค่ไหนก้อทนเพื่อมึงนี่หว่า” o_O”

    “พูดไรนะ” ผมแกล้งถามมันด้วยสีหน้าที่แบบว่า กุไม่ได้ยินมึง จริงๆจังๆ อิอิอิ

    “เปล่าๆ ดูหนังต่อไปเหอะ” แม่งไม่ยอมมองหน้ากู

    “อืมม...”

    หนังผ่านไปอีกประมาณ 20 นาที ผมก้อยังไม่เอามือออก


    “เบียร์...” ผมเรียกมัน มันก้อหันหน้ามามอง “...รักกูป่าววะ”

    “กุจะดูหนังว่ะ” พูดจบก้อหันกลับไปดูหนังด้วยสีหน้าเย็นชา แม่งมาทำตัวกวนตีนอีกนะ กุเครียดนะเนี่ย

    “กูถามจริงๆนะ” ผมเริ่มซีเรียสแล้ว หรือมันจะคิดกับกูแค่เพื่อนวะ...

    “ตอบจริงๆไง จะดูหนัง” เออ สัด กูไม่ถามก้อได้ โคตรเคืองเลย... (แต่กุก้อยังไม่ปล่อยมือที่กุมอยู่)

    “...รักดิ่ ไม่รักจะทำอย่างนี้รึไง ฮึ” มันพูดพร้อมเขย่ามือ แต่ไม่ยอมหันมามองผมอยู่ดี

    แค่นี้กุก้อพอใจแล้ว... :)

    ผมเลยผีเข้า ทำลงไปเพราะขาดสติ ยื่นมือไปจับหน้ามันดึงมาหาผม แล้วเลยหอมแก้มซะเลยยยย นี่แน่ะๆ!

    …………………………

    อ่านไปก้อซึ้งไป คิดถึงเวลาเก่าๆ


***************************************************

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
 :like6: แอบหอมแก้มกันในโรงหนัง หวานซ้า  :impress2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Part 2

*******************************************************************

    ตอนที่ 14
[/b]

    ซัมเมอร์ผ่านพ้นไป คราวนี้พวกผมก้อไม่ใช่น้องเล็กสุดของมอปลายแล้ว (ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย) อยู่มอ 5 แล้วครับ เริ่มจะต้องเตรียมตัวเอ็นท์...

    ขี้เกียจชิบเป๋งเลยอ่ะ เรียนพิเศษหนักมากมายเลยครับ หนักกว่าตอนมอ 4 เยอะเลย

    ถามจริงๆตอนนั้นผมก้อยังไม่รู้หรอกว่าอยากจะเรียนอะไร รู้สึกจะคิดว่ามันยังเร็วไปที่จะคิดน่ะครับ รออีกหน่อยให้รู้ก่อนดีกว่าว่าเรียนอะไรได้ดี...
   
   รวมถึงไอ้เบียร์ก้อเหมือนกัน ผมเคยถามมันเหมือนกัน ว่าอยากเรียนอะไร คำตอบของมันคือ

    “ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่ถึงตอนนี้”... เปนไงครับ คำตอบมัน

    ยังดีนะ มันใช้คำว่า ตอนนี้ ไม่ใช่คำว่า ตอนนั้น... ถ้าเปลี่ยนเปน

    “ไม่รู้ว่ะ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่ถึงตอนนั้น”... คงเศร้าแน่ที่มันยังคิดว่ามันจะตายอยู่อีก

    หมอบอกมาว่า ให้อยู่ในช่วงดูอาการ ที่ต้องคอยระวังเป็นพิเศษ ประมาณ 5 ปีครับ

    ถ้าหาย คือ หายเลย

    แต่ก้อนะ... ผมเล่าให้แม่ฟัง หรือไม่ว่าใครๆ ก้อมีแต่คนบอกว่า “โรคนี้มันรักษาไม่หาย” กันทั้งนั้น

    ซึ่งผมก้อคิดว่าจริงนะ ต่อให้มันจะแข็งแรงแค่ไหน หรือต่อให้เวลาจะผ่านไป 10 ปี หรือ 20 ปี มันก้อคงยังมีโอกาสที่มันจะกลับมาป่วยอีกรอบอยู่ดี...

    ที่ทำได้ตอนนี้ก้อคงแค่ คอยระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุดเท่านั้นแหละครับ

    กำลังใจของไอ้เบียร์ก้อดีขึ้นมากเหมือนกัน

    พอๆกับความแรดของมันที่เพิ่มตามไปด้วย

    ชอบเหลือเกินครับ มีโอกาสนิดๆหน่อยๆ พี่แกก้อจะแวบไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเชียร์ะบอล ไปนู่นไปนี่ตลอด

    ผมอ่ะ โคตรรรเซ็งเลยครับ บอกตามจริง

    ทะเลาะกับมันบ่อยมากก

    แต่ก้อดีกันครับ มันก้อเปนคนอ่อนโยนขึ้นเยอะ

    อันนี้ผมดีใจมาก เคยถามเพื่อนด้วยเหมือนกันว่า มันเปลี่ยนไปเยอะมั๊ย รึกุคิดไปเอง

    ซึ่งเพื่อนผมก้อคิดเหมือนผมครับ ว่ามันดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยเหมือนกัน

    ปลื้มครับ ปลื้ม หุหุ

    ..............

    แต่พูดกันจริงๆ ผมมันเปนคนขี้เบื่อครับ สารภาพเลยตรงๆ

    แถมขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ

    เวลาทะเลาะกันมากๆ หรือมีเรื่องผิดใจกันบ่อยๆ ผมก้อเหนื่อยเหมือนกันนะครับ

    อย่างว่าแหละ ที่เขาเคยมีพูดกันว่า

    “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” หรือ “ถ้าไม่เสียไป ก้อไม่รู้ถึงคุณค่า”

    มันโดนสุดๆเลยครับ

    ใครนะ มันช่างคิดคำเหล่านี้ขึ้นมา

    ถ้าจะให้พูดตรงๆ ผมไม่เล่าเปนฉากๆแล้วและกันนะครับ

    กลัวจะเบื่อกันเสียก่อน เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ

    คือ ปัญหาใหญ่ๆ เรื่องนึงของผม ที่ทะเลาะกับมันตอนนั้น และเป็นเรื่องที่ ไม่อยากจะยกโทษให้เลยครับ

    แล้วมันก้อหัวแข็ง ทั้งโกหก (ทั้งๆที่รู้ว่าผมเกลียดการโกหก) ทั้งปิดบัง... ใครรู้ว่ามันทำอย่างนั้นทำไม ช่วยบอกผมทีเถอะ

    ทั้งๆที่ ถ้าพูดกันตรงๆ ผมจะไม่โกรธเลยนะ...แต่ทำไมต้องโกหกกันด้วยล่ะ (วะ)

    เรื่องนั้นคือ เรื่องบุหรี่ ครับ

    มันทำเอาผมเกลียดบุหรี่จนถึงทุกวันนี้ไปเลย

    เรื่องของเรื่องคือ ตอนนี้ เพื่อนๆผมในห้องมันเริ่มสูบบุหรี่กันหนักมากก

    เอาเปนว่า ผู้ชายในห้อง เกือบเกินครึ่งที่สูบบุหรี่

    และถึงกับโดดเรียนไปนั่งสูบกันในห้องน้ำเลยครับ

    ผมเซงมากๆ

    ผมเลยต้องจับตามองไอ้เบียร์เปนพิเศษใช่มั๊ยล่ะ กลัวมันจะไปล่อกับไอ้พวกนั้นด้วยอ่ะดิ่

    ไอ้ชัยก้อนะ... มันก้อเอาตัวรอดดีนะครับ พูดไป

    มันน่ะไม่สูบหรอก แต่ เสือก ช่วยไอ้เบียร์โกหก ปิดบังผม เรื่องบุหรี่น่ะสิ

    แถมยิ่งกว่านั้น ยัง ไม่เหนมันจะ ว่า เตือน หรือ ห้าม ไม่ให้ไอ้เบียร์สูบเลยด้วยซ้ำ

    ผมงี้เคืองสุดๆอ่ะ

    โอ๊ยยย เกลียดมัน!!

    พอผมจับได้ว่ามันสูบ มันก้อบอกเปล่า

    พอผมเจอบุหรี่ในกระเป๋ามัน มันก้อบอกของเพื่อน

    พอผมได้กลิ่นบุหรี่ที่ตัวมัน มันก้อบอกไปอยู่กับพวกไอ้แบงค์มา กลิ่นเลยติด

    ว้อยยย... กุล่ะเหนื่อยยย!

    แต่ที่ผมรู้ ที่ผมจับมันได้บ่อยๆอ่ะ เพราะผมมีสายครับ (และมี sense ด้วย)

    คนคนนั้นคือ ไอ้บาสครับ... เพราะว่าไอ้บาสมันก้อ(แอบ)สูบ เหมือนกัน (กลัวคนที่มันชอบอยู่จะรู้)

    และมันก้อเปนห่วงไอ้เบียร์ไม่แพ้ผมเหมือนกัน เพราะงั้นผมกับมันจะคุยกันเรื่องไอ้เบียร์บ่อยมาก

    ผมจะปรึกษาเรื่องไอ้เบียร์กะใครได้ ก้อคือมันนี่แหละครับ (ไอ้แบงค์นี่ไม่ต้องพูดถึง ชวนกุสูบอีกต่างหาก)

    สุดท้าย จนผมตกลงกันได้ว่า

    “มึงจะสูบก้อได้ แต่กุขอให้มันน้อยลงหน่อยนะ ขอแค่อาทตย์ละ 2 มวน ทำได้มั๊ย... แล้วก้อ ถ้าจะสูบทุกครั้ง ให้โทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง”...

    ผมเจ็บปวดมากเลยนะครับ ที่ถึงขนาดจะต้องเอ่ยปากออกไปแบบนั้นอ่ะ

    ซึ่งมันก้อรับคำครับ และผมก้อคิดว่ามันทำได้ดีทีเดียว... ถึงมันจะปวดใจนิดหน่อยก้อเถอะ ที่ต้องรับรู้ว่า มันสูบบุหรี่จริงๆ

    เพราะมันก้อโทมาบอกผมจริงๆอ่ะ ว่า “กูกำลังเดินกลับบ้าน และก้อสูบอยู่”

    ใจมันเจ็บจี๊ดๆเลยล่ะครับ

    ก้อเพราะเรารักและเปนห่วงมันนี่

    เราถึงได้เจ็บ...

    มันเหมือน... เรายื่นยาพิษให้คนที่เรารักน่ะครับ มันจะตายเพราะบุหรี่ซะรึเปล่าก้อไม่รู้

    ถ้ามันเปนอะไรไปอีก ผมก้อมีส่วนเต็มๆแล้วล่ะครับ

    แต่ว่าจะให้นั่งทนฟังมันโกหก ทั้งๆที่ผมก้อรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมก้อทำไม่ได้หรอก
    ...................... ...................................

beta

  • บุคคลทั่วไป
TT^TT เข้าใจครับ

เศร้าเลย TT^TT มาต่อไวๆนะคับ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านทันครับ
เรื่องนี้น่ารักดีนะครับ แต่ดูท่าแล้วเศร้าซะเยอะเลยอ่ะ เศร้าหลายแบบหลากอารมณ์อีกด้วย
เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณผู้แต่งและคุณคนโพสต์นะครับ :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 15

ตอนนี้ร่างกายของไอ้เบียร์ก้อแข็งแรงดีแล้วล่ะครับ โดยรวมๆแล้วก้อหมดห่วงได้เลย

ผมกับมันก้อยังเหมือนเดิม คือโทรคุยกันทุกวัน และ ก้อมีทะเลาะกันบ้างบางอารมณ์ (ผมอ่ะ อารมณ์เปนห่วงมัน)

นิสัยมันก้อเงี้ยแหละครับ ดูแข็งๆ ไม่ค่อยแคร์ นานๆทีเวลามันทำหวานที ก้อทำเอาใจกุแทบจะละลายย

แต่ผมว่า ผมกับมันก้อคงเหมือนๆกับคู่อื่นอีกหลายๆคู่ล่ะมั๊งครับ

เพื่อนผมหลายคนก้อบ่นเหมือนกัน ว่าตอนก่อนคบ กับ หลังคบ ทำไมมันช่างต่างกันอย่างนี้ 555 (ช-ญ นะครับ)

ผมก้อเลยไม่ค่อยคิดมาก เพราะมันก้อคงเปนเรื่องธรรมดาแหละ แม่งก้อแรด ส่วนกุก้อห่วงมัน มันก้อเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกระทบกระทั่งกันบ้างเนอะ

แต่อยางที่ว่าแหละครับ นานๆทีบางครั้งมันก้อเหนื่อยเหมือนกันนะ

เพราะผมเปนคนไม่ค่อยจะยอมใครอยู่แล้ว แต่แม่งยอมไอ้เหี้ยนี่ชิบหาย

เพื่อนผมบางคนก้อมีแซวเหมือนกันนะ ว่าผมกับมันเปนไรกันรึเปล่า ดูผมห่วงมันเกินเพื่อนซะเหลือเกิน

ผมก้อบอกเปล่าดิ่ (แหลหน้าด้านๆ)

แต่หลังๆมันก้อชินกันครับ สุดท้ายมันก้อเชื่อว่าผมแค่ห่วงไอ้เบียร์มันในฐานะเพื่อนสนิทธรรมดาไป

เพราะผมเปนคนรักเพื่อนมากอยู่แล้วด้วย

แต่ไอ้นี่มันเปนยิ่งกว่าเพื่อนอ่ะ ก้อยิ่งรักมากยิ่งห่วงมากเข้าไปใหญ่ดิ่

จนมีอยู่วันนึง ที่ผมทะเลาะกับมันใหญ่ เพราะผมรู้มาว่า มันกลับไปคุยกับนัทอีกรอบ

พอผมถามมัน มันก้อปฏิเสธครับ... ไอ้นี่แหละ ที่ทำให้ผมโมโหและเสียใจมากที่สุด

ไอ้เรื่องที่มันกลับไปคุยกับเขาน่ะ ผมไม่ได้ซีเรียสเลยนะครับจริงๆ

แต่ทำไมมันต้องโกหกผมว่า “เปล่า”... ใครรู้ช่วยบอกผมทีครับ

ทั้งๆที่มันก้อรู้ว่า ถ้าโกหก ผมจะเคืองมาก

วันนั้น คุยกันนานมาก คุยกันอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ ว่าเราเปนยังไงกันแน่ ว่ามันเหนผมเปนยังไงกันแน่

แต่ก่อนหน้านั้นคือ ต้องคุยจนกว่ามันจะยอมรับให้ได้ก่อนแหละครับ ว่ามันคุยกับเขาจริง

สุดท้ายมันก้อยอมรับ ว่ามันกลับไปคุยกับเขาจริงๆ (อ้อ นัทนี่ก้อเพื่อนในห้องนะครับ)

เพราะว่า มันก้อคิดถึงเขาอยู่บ้างเหมือนกัน เลยคิดจะแค่กลับไปโทคุยให้เหมือนปกติ

ไม่ได้คิดจะจีบหรือคบกับเขาหรอก

แล้วก้อเพราะว่า แม่มันกับแม่เขารู้จักกัน แม่มันก้อเอาแต่ถามถึงบาส จนมันลำบากใจ

ก้อถ้าบอกกุมาแต่แรก กุก้อไม่ว่าหรอก... ทำไมต้องโกหกกันด้วยวะ (ใครคิดรู้ช่วยบอกผมที!!)

ผมจึงถามมันไปว่า คิดยังไงกับผมกันแน่ เปนแค่เพื่อน เพื่อนสนิท หรือ มากกว่านั้น

มันบอกว่า มากกว่าเพื่อนสนิทแน่นอน “กูรักมึง” มันบอกผมครับ...

ถ้าเปนทุกครั้งคงดีใจนะ แต่ครั้งนี้ทำไมผมถึงรู้สึกค้างๆคาๆใจยังไงไม่รู้สิ

สรุป คืนนั้น ผมก้อเคลียร์กับมันรู้เรื่องได้ ส่วผมก้อกลับไปทำหน้าที่ “คนกลาง” ให้มันเหมือนเดิมโดยที่ผมสมัครใจเอง

(ถ้าเปนเพื่อนๆ อยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับผม จะรู้สึกยังไงกันบ้างครับ -"

ที่ผมไม่ค่อยหึงมันเท่าไหร่ก้อเพราะ เปนบาส คนนี้ด้วยแหละครับ เพราะผมรู้ว่า เขาไม่ได้ชอบมันแบบนั้นหรอก

ผมเลยพอโล่งใจอยู่บ้าง

แต่ถามว่าเคืองมั๊ย เคืองมากกนะครับ แล้วก้อถึงจะวางโทรศัพท์ไปคืนนั้น ผมก้อไม่ได้หายโกรธมันเรื่องที่มันโกหกด้วย

มันก้อรู้แหละครับ มันก้อเคืองๆผมเหมือนกัน ที่เคืองมัน ที่คิดเล็กคิดน้อย...

มันให้เหตุผลว่า “กูก้อเปนอย่างนี้แหละ จะคิดมากอยู่อีกทำไม”

ว๊อยยยยย! แล้วมึงไม่คิดจะเข้าใจกูบ้างรึไงวะ หาาา!!

(ผมยังเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนที่ผมชอบเลยนะครับ)

ผมก้อยังหงุดหงิดๆ อยู่ไปอีกสักพัก (2-3 วัน) จนถึงวันที่ผมต้องไปเรียน รด.

รด ปี2 ผมย้ายที่ครับ ไม่ได้เรียนที่เดิมกับตอน ปี1 แล้ว และที่ที่ผมเรียนนี่ก้อ เปนที่เดียวกับที่เด็กปี 1 รร ผมเรียนเหมือนกัน...

แล้วมีเด็กอยู่คนนึงครับ ผมมองมันมาตั้งแต่ผมอยู่ มอ 4 แล้ว

น่ารักมากกกกกกกกกกกก

ผิวขาวครับ ตาสวยเชียว (ผมชอบคนตาสวยแหละ) ยิ้มหวาน และแน่นอนตัดสกินเฮด

ทั้งหล่อทั้งน่ารักเลยว่ะ ถ้าพูดจริงๆ หน้าหวานๆหน่อย แต่ดูแมน

แต่ไม่ได้สนใจอะไรมันหรอกนะครับ แค่มองเฉยๆ เพราะมันเด่นสุดแล้วในกลุ่มมัน

ที่มันเด่นก้อเพราะ หนึ่งคือ มันหล่อมากกกกครับ สองคือ ผมเหนมันอยู่กับผู้หญิงซะส่วนใหญ่อ่ะ

ผมเปนคนที่มองไม่ค่อยออกหรอกนะครับ ว่าใครเปนเกย์ไม่เปน

ไอ้น้องคนนี้ ผมก้อดูไม่ออกหรอก แต่คิดไปคิดมา รู้สึกว่าจะไม่แน่ เพราะว่ามันอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงบ่อยเหลือเกิน

แต่น้องเขาก้อไม่แสดงออกหรอกนะครับ แมนๆนี่แหละ

กุชอบ

หุหุหุ

เรื่องของเรื่องก้อคือ ผมไปเรียน รด วันนั้น แล้วผมบังเอิญมองไปเจอน้องเขาเข้า

เขาคงจำผมไม่ได้หรอกครับ (รึเปล่า) ผมก้อมองๆเขา เพราะมันน่ามองนี่หว่า

รู้สึกว่า วันนั้นน้องเขาจะเรียภาคปฏิบัติน่ะครับ ส่วนพวกผมเรียน ทฤษฎี เลยสบาย

ตอนเบรกสุดท้ายก่อนจะกลับ ผมก้อนั่งดูดน้ำอยู่กับเพื่อนๆ แล้วเหนน้องเขาเดินมาล้างหน้าล้างตาแถวๆที่ผมนั่งอยู่ มอมแมมมาเชียว

ผมคงมองจนน้องเขาเห็นแหละมั๊งครับ เพราะอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วที่ที่เขาล้างหน้ามันจะหันหน้ามาหาผมพอดี เขาก้อต้องเหนผมอยู่แล้วล่ะ

(เพราะกุหล่อสุดในบรรดาที่นั่งกันอยู่ 5555)

ที่ผมสังเกตว่าเขาคงรู้ว่าผมมองเขา ก้อเพราะว่า หลังจากที่เขาล้างหน้าล้างตัวเสร็จแล้ว

ผมเหนเพื่อนเขาจะกลับไปที่ที่พวกเพื่อนๆเขาอยู่ แต่น้องหล่อกลับดึงแขนเพื่อนให้มาซื้อน้ำที่ร้านข้างๆผม

แล้วยังนั่งกินอยู่ตรงข้ามหน้าผมเลยอีกต่างหาก

ผมก้อเขินดิ่ เลยไม่กล้ามองเขาบ่อยๆ

ประมาณ 5 ครั้งต่อนาทีเอง

จนผมแน่ใจแล้วว่า

“แม่งปิ๊งกุชัวร์”

55555

พอเลิกเรียน รด. ผมก้อมองหาน้องเขาครับ เผื่อฟลุ๊กเจออีก

แหมม มันช่างเหมือน พรหมลิขิต... น้องเขามาคนเดียวซะด้วย กำลังเดินข้ามสะพานลอยมาแล้ว

ผมเลยบอกเพื่อนให้กลับไปก่อนเลย ผมจะกลับบ้านเลย ไปคนละสายกับพวกมัน (แน่นอน ว่าแหล)

ก้อเลยขยับไปยืนตรงที่ กะว่า แม่งเดินมาต้องเหนกุแน่ๆ...

........................................................

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
คนนึงก็โกหก อีกคนก็เจ้าชู้ ชิส์ๆๆ
ว่าแต่ถ้าต้นไปกุ๊กกิ๊กกะน้องหล่อนั่น เบียร์จะเป็นยังไงน๊อ . . .

BlackySheep

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วนึกถึงรุ่นน้องที่ร.ร. เพื่อนมันก็ชอบเรียกว่าน้องหล่อเหมือนกัน  :teach:

น้องหล่อที่ว่าจะเป็นกิ๊กใหม่อะเปล่า?  :haun5:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
 :o ผมเลยกลายเป็นคนเจ้าชู้ไปเลย 5555  :laugh:

จะว่าไปก็คิดถึงไอ้น้องหล่อมันเหมือนกันนะเนี่ย เป็นไงมั่งแล้วหว่า


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 16

พอผมเห็นน้องเขาเดินมาใกล้ๆ ก้อแกล้งทำเปนมองส่องหารถเมล์ทันที

ทำเปน... กุไม่ได้เหนมึงเลยนะ มึงมาเจอกุได้เนี่ย บุพเพแท้ๆเลยนะเว้ยย... ประมาณนั้นครับ

พอน้องเขาเดินมา ผมก้อแอบชำเลือง เหนเขามองผมอยู่เหมือนกัน แปลว่ามันก้อคงแปลกใจใช้ได้แหละ ที่เจอผม

แล้วผมเลยเดินสวนน้องเข้าไปนั่งในศาลาครับ แต่ตอนเดินผ่านก้อมองหน้าเขานิดนึง

แต่ไม่ได้มองแบบเชิญชวนนะ... มองแบบธรรมชาติอ่ะ ถ้าไม่มองเลยเด๋วจะผิดสังเกตไปหน่อยนึง

รถเมล์ผ่านมาคันแล้วคันเล่า น้องเขาก้อไม่ขึ้นสักที... (กุก้อไม่ขึ้น)

เอ หรือว่าเขาจะรอเพื่อนหว่า เหนชอบหยิบมือถือขึ้นมาบ่อยๆ

น้องเขายืนสักพักคงเมื่อยอ่ะครับ เขาเลยเดินเข้ามานั่งตักผม

เอ๊ยยย ม่ายช่ายย!!

เขาเดินมานั่งในศาลา ตรงข้ามกับผมครับ

เลยประจันหน้ากันตรงๆเลย

เขินชิบหาย... ทำไงได้อ่ะ ผมก้อเลยมองไม่วางตาเลยดิ่

หุหุหุ

มองรถเมล์นะครับ มองรถ

น้องเขาเข้ามานั่งได้สักประมาณ 5 นาที ผมก้อทนไม่ไหวแล้วครับ ทำตัวไม่ถูก

เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จะโทหาเพื่อนว่ามีใครอยู่ ที่เซ็นทรัลบ้าง

โทรศัพท์ผมมันก้อดังขึ้นมาพอดี

ไม่ต้องเดาเลยครับว่าเปนใคร

ไอ้เบียร์โทมาครับ

“ฮัลโหล มีไร”

“ทำไมไม่กลับมาพร้อมพวกไอ้แบ๊งค์” มันถามผมเสียงเครียด จะหาเรื่องทะเลาะอีกแล้วรึไงวะเนี่ย

“ก้อคนมันเยอะ แถมตัวยังกะควายอัดกันไป กุไม่กลับอ่ะ”

“แต่มันบอกว่ามึงจะไปไหน ถึงไม่กลับกับมัน” เอาล่ะสิ ลืมไปเลย ว่าผมบอกพวกไอ้แบ๊งค์ว่าผมจะกลับบ้าน

แล้วไอ้ทางเนี๊ย มันมีสายไหนกลับบ้านผมได้เลยที่ไหนเล่า

“ว่าไง จะไปไหน ทำไมไม่มาที่เซ็นทรัล” มันถามย้ำ

“ก้อ ตอนแรกว่าจะกลับบ้านเลย ว่าจะไปทางเจเจ จะได้ขึ้นรถคนไม่เยอะ ที่เซ็นคนมันเยอะอ่ะ” ผมก้อเฉไปเรื่อย

“เหรอ แล้วทำไมยังไม่กลับ”

“ก้อรอรถอยู่ไง”

“รอห่าอะไร จะ 45 นาทีแล้วนะ ทำไมยังไม่กลับ แล้วอยู่กับใคร”

“ก้อ รถมันแน่นนี่หว่า เลยรอคนไปกันเยอะๆก่อน ค่อยกลับ” ผมคุยกับมัน ก้อแอบมองน้องเขาไปด้วย

เหนอยู่ครับ ว่าเขาก้อมองผมเหมือนกัน แล้วก้อได้ยินเรื่องที่ผมคุยด้วยแน่ๆอ่ะ ก้อนะ...

ตอนนั้นไม่ได้คิดไรหรอกครับ แต่นึกไปนึกมา เนี่ยมันบทสนทนาของคนโดนแฟนโทตาม (มาด่า) ชัดๆเลยนี่หว่า

น้องเขาก้อคงคิดเหมือนกันมั๊งเนี่ย

“แล้วอยู่กับใคร อย่าบอกนะว่าอยู่คนเดียว จะไปหาเดี๋ยวเนี๊ย” ดูมัน ผีเข้าเหรอวะ

“เฮ้ยย จะบ้ารึไง กว่ามึงจะมาถึง กุก้อกลับก่อนพอดีอ่ะ ไอ้บ้า” ผมว่ามัน มันบ้ารึเปล่าเนี่ย

“ไม่สน จะไป รออยู่นั่นแหละนะ อย่าเพิ่งกลับ” มันจะมาจริงๆด้วยอ่ะ ทำไงดีๆ

“แล้วกุบอกมึงยัง ว่ากุอยู่คนเดียวอ่ะ...” มันเลยเงียบไป “กุอยู่กับพวกไอ้โจ้กับเพื่อนห้องมันอีก 3 คน”

ผมแหลอีกแล้วครับ

แล้วเลยเหนน้องเขานั่งยิ้มๆ ผมก้ออดขำไปด้วยไม่ได้

ก้อนั่งกันอยู่ 2 คนที่ศาลา กับมีเด็กรอรถอยู่ข้างนอกอีกไม่ถึง 20 คนอ่ะ

พอน้องเขาหันมาเหนผมมองเขาแล้วยิ้มอยู่ ก้อกลายเปนการสบตากันจริงๆครั้งแรกเลยครับ

แล้วเราก้อยิ้มให้กัน (ในความกะล่อนของผม)

“แล้วไง พวกไอ้โจ้จะมาที่เซ็นทรัลรึไป จะกลับมาพร้อมมันมั๊ย” เสียงมันอ่อนลงเยอะเลยครับ

“ก้อ คงไม่อ่ะ ขี้เกียจ ถ้าไงกูขึ้นรถแท็กซี่ไป เจเจ เลยก้อได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” ผมบอกมัน

“อืมม ก้อได้”

“แล้วทำไมอ่ะ ยังไม่กลับบ้านรึไง เลิกเรียนตั้งแต่เที่ยงเนี่ย” ผมย้อนมันมั่ง

“ก้อ... กะจะรอเจอมึงอ่ะ” คำตอบมันทำเอาผมสะอึกไปนิดนึง

“รอทำไม” ตาผมทำเสียงดุมั่งและหละ

“ก้อ เปล่า อยากรอ แต่ไม่เปนไรหรอก กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวกุก้อกลับแล้วเหมือนกัน”

“เออ งั้นกุกลับบ้านก่อนนะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน ถึงบ้านเดี๋ยวโทไปหา”

“อืมๆ บาย” แล้วเราก้อวางกันไป

ดูมันดิ่ ผมอ่ะยังเคืองมันอยู่นะ แต่แม่งชอบทำตัวแบบเนี๊ยอ้ะ

ผีเข้าผีออก

ผมปรับอารมณ์ตามมันไม่ทันจริงๆ... แต่ก้อดีใจนะครับ ที่มันโทมา

แต่ไม่ได้หรอก ตอนนี้กุถือไพ่หนือกว่า ขอเบ่งอีกหน่อยเหอะ ไอ้เบียร์

5555

และระหว่างที่กำลังนึกอะไรอยู่คนเดียวก้อมีเสียงนึงขัดขึ้นมา

“พี่จะไป เจเจ เหรอครับ” น้องเขาถามผมอ่ะ ตกใจมากมาย ทำตัวไม่ถูก โอ๊ยๆ

“อ่ะ ครับ คิดว่างั้นนะครับ” ผมตอบไป มองหน้าน้องเขา ยิ้มๆอยู่

น่าร๊ากกกกกกกกก

“ขอโทษนะครับที่ถาม พอดีได้ยินที่พี่คุยโทรศัพท์น่ะครับ”

“อ๋อ ครับ หึหึหึ” ผมแอบขำนิดนึง น้องเขาก้อยิ้มๆ

แล้วตอนนี้เองที่ผมนึกขึ้นมาได้ว่า บทสนทนาเมื่อครู่นี้ ไม่ว่าใครฟังก้อต้องนึกแน่ๆว่า แฟนโทมาตาม แต่...

สรรพนามที่ใช้เนี่ย มันใช้กะผู้ชายอ่ะ... มึง กู... เงี๊ย และเมื่อจับมันมายูเนี่ยนกัน

ก้อเท่ากับ ผมโดนแฟนผู้ชายโทมาตามซึ่งเท่ากับกูเปนเกย์อ่ะดิ่ แล้วคนที่ได้ยินก้อมีแค่น้องเขา งั้นก้อ...

ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรได้ต่อ น้องเขาก้อถามว่า

“งั้นพี่กลับแท็กซี่กับผมมั๊ยครับ ผมก้อจะไปเหมือนกัน”

“อ่ะ หา อ๋อ ทำไมล่ะครับ บ้านอยู่แถวนั้นเหรอ”

“ก้อ บ้านป้าน่ะครับ” น้องเขาตอบมา

“ครับ แล้วทำไมน้องถึง เอ่อ เพิ่งกลับล่ะครับ” ผมถาม นึกคำที่พอจะดูดีหน่อย ดีกว่าถาม ทำไมน้องยังไม่กลับสักทีล่ะครับ... มันคงเสียมารยาทไปนิดมั๊งเนอะ

“ก้อลังเลอยู่น่ะครับ ว่าจะกลับไหนดี บ้านตัวเอง เซ็นทรัล หรือ บ้านป้าเนี่ยแหละครับ”

“อ๋ออ ครับ” เอ่อคือ น้องเขาคิดอยู่ว่าจะกลับไหน ถึงยังนั่งอยู่นะเว้ย ไม่ใช่มึงนาไอ้ต้น ที่ไม่กลับเพราะมารอเจอน้องเขาอ่ะ ไอ้ม่อ!!

“แล้วพี่ล่ะครับ ทำไมยังไม่กลับ”

“ก้อเหมือนกันครับ คิดอยู่ว่าจะกลับไหนดี รร หรือว่า เจเจ” ผมก้อเลียนแบบดิ่ 555

“ครับ” น้องเขาตอบแค่นี้ แล้วยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ

“แล้ว เอ่อ... น้องชื่อไรอ่ะครับ พี่ชื่อต้นนะ” ขอชื่อและเบอร์โทด่วนเลยน้อง

“ผมจอน ครับ” น่านนน ชื่อหรูซะด้วยยย

“ครับ งั้นเรากลับกันเลยมั๊ยครับ” ผมชวนน้องเขากลับเลยแล้วกัน เพราะมันก้อเย็นมากแล้ว

แล้วเราก้อนั่งแท็กซี่กัน ระหว่างที่อยู่บนรถ ก้อคุยกัยไปเรื่อยเปื่อย ก้อรู้ว่าน้องเขาอยู่ห้องอะไร สายไหน อะไรเงี๊ยบ้างครับ

การจราจรก้อช่างเปนใจเหลือเกิน รถติดสุดๆๆๆๆๆๆอ่ะ

เซ็ง แต่ก้อแอบดีใจนิดนึง... แต่เซ็งมากกว่าว่ะ

น้องเขาคงเหนผมทำท่าหงุดหงิดมั๊งครับ เลยถาม

“พี่รีบเหรอครับ”


“อ๋อ ก้อ เปล่าหรอกครับ แต่รถติดอ่ะ ไม่ชอบ” ผมบอกน้องจอน

“แถวเนี๊ยก้อเงี๊ยแหละครับ เวลาเย็นๆก้อเหมือนถูกขังอยู่ในนรกห้องแอร์”

“555 ครับ”

“กลัวแฟนพี่จะรอนานเหรอครับ”

“เฮ้ย เปล่าๆๆ ไม่มีแฟน ยังไม่มี” ผมปฏิเสธ... ไปตามสัญชาตญาณ

“จริงอ่ะ ไม่จริงม๊างง เหนคุยโทรศัพท์เมื่อกี๊ ก้อพอ เดา ได้แล้วค้าบบ”

เอาล่ะสิ แม่งรู้จริงๆด้วยดิ่

“ก้อ ไม่ใช่แฟน เพื่อนน่ะเพื่อน” ผมยังบอกปัด

“เพื่อนเหรอ ดูเปนห่วงกันดีออกนี่” น้องจอนถาม แถมยังยิ้มเจ้าเล่ห์... หล่อซะไม่มีอ่ะมึงง

“ก้อเพื่อน สนิทไง คุยกับแฟนพี่คงพูด มึงกู หรอกม๊างง” ชิบหายแล้ว กู หลุด

พูดจบก้อเสียววืดๆเลยครับ โอ๊ย เวรกกรมกู

“ก้อพูดได้นะ มันก้อมีอยู่กรณีนึง” แล้วเขาก้อยิ้ม

“อ่ะ เหรอ กรณีไหนอ่ะ” ผมถาม เริ่มใจสู้ เพราะถ้าแมงพูดขนาดนี้ มันก้อต้องเปนเหมือนกันชัวร์แล้วล่ะ

“ก้อกรณี อย่างที่ชัยพูดกับอ๋องไง”

“แต่พี่ก้อไม่ใช่อ๋องซะด้วยดิ่ ที่จะพูดเพราะๆแบบนั้นได้”

แล้วเรา 2 คนก้อหัวเราะกันใหญ่
.
.
.
.
คือ

กุล้อเล่น

มา กลับมาสู่ความเปนจริงกันต่อ

.

.

.

“อ่ะ เหรอ กรณีไหนอ่ะ” ผมถาม เริ่มใจสู้ เพราะถ้าแมงพูดขนาดนี้ มันก้อต้องเปนเหมือนกันชัวร์แล้วล่ะ

“อย่าว่าแต่พี่เลย เราเหอะ มีแฟนยัง หล่อๆแบบเนี๊ย สาวตอมหึ่งไปดิ่” ผมถาม (พร้อมหยอด)

“ไม่มีหรอกครับพี่ ไม่มีใครเอา”

“ก้อไม่แน่นะ” ผมมองหน้าจอน แล้วยิ้มมั่ง

ยังไม่ทันจะคุยกันต่อ โทรศัพท์ดังอีกแล้วครับ

ไอ้เบียร์นั่นแหละ

“ครับ”

“ว่าไง อยู่ไหนแล้ว” มันถาม

แต่คราวนี้ ผมอยู่บนบรถแท็กซี่ เสียงมันก้อเงียบอ่ะดิ่

ตอนนี้ น้องจอนต้องได้ยินเสียงมันแน่ๆ

“อยู่บนแท็กซี่”

“ยังไม่ถึงเหรอ”

“ยัง รถติด ใกล้แล้วล่ะ”

“อืมๆ กูถึงบ้านแล้วนะ โทมาบอกเผื่อจะเปนหว่งกูมั่ง”

น้องจอนมองหน้าผมแล้วยิ้มนิดนึง เปนการแสดงออกว่า กุได้ยินนะมึง แล้วก้อหันกลับไปเหมือนเดิม

“ใครเขาจะห่วงมึง ไอ้บ้า เปนไรกั๊น”

“ไม่รู้ รู้เองแล้วกัน กูไปแล้วนะ แม่เรียก”

“เออ ไปเหอะ ถึงบ้านแล้วจะโทไปบอก”

“อืมๆ กลับดีๆนะคับ”

“อืมๆๆ บายๆ”

หลังจากผมวาง น้องเขาก้อหันมา

“ไหนบอกไม่ใช่แฟนไง”

“เอ่ออ ก้อ ไม่รู้ดิ่” ก้อไม่รู้จริงๆนี่ครับ ผมกับไอ้เบียร์ยังไม่เคยคุยกันเลยว่า เราเปนแฟนกันแล้วนะอ่ะ

บอกตามตรง ผมอ่ะ งงกับพฤติกรรมมันจะตายห่าอยู่แล้ว

“พี่ต้น ผมขอโทษครับ ที่ละลาบละล้วง” น้องเขารีบขอโทษที่ผมทำหน้าไม่ดี

“เอ้ยๆๆ เปลาๆ ไม่เปนไรๆ พี่ไม่ถือ”

แล้วหลังจากนั้น เราก้อคุยกันไปเรื่อย จนถึงป้ายรถเมล์ น้องจอนก้อบอกให้รถจอดแล้วลง

“แล้วบ้านเราอยู่ไหนอ่ะ ทำไมลงพร้อมพี่ล่ะ” ผมถาม

“ก้อ เดินไปอีกหน่อยเดียวครับ มาส่งพี่ก่อน”

“เฮ้ยยย ไม่เปนไรๆ กลับก่อนก้อได้ครับ ไม่ต้องส่งหรอก ตลกน่า ให้คนเด็กกว่ามารอส่งเนี่ย”

“ไม่อ่ะครับ จะรอ ก้อเกรงใจพี่ไง”

“อ่ะนะ งั้นตามใจ 555”

“พี่ต้น ผมขอเบอร์พี่ไว้หน่อยได้ป่าว” เอาแล้วไง ทำไงดีอ่ะ จะตอบว่าไงดีวะ...

“ได้ดิ่ครับ”

แล้วเราก้อแลกเบอกันโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจเลยสักนิด

ทำไงดีๆ

หุหุ

แล้วผมก้อขึ้นรถกลับบ้านครับ

หลังจากถึงบ้าน ผมก้อโทหาเบียร์

แต่คุยกันแค่ ไม่ถึง ชม เพราะผมเหนื่อย แล้วก้อยังเคืองๆมันด้วย

ก้อคุยกวนตีนๆมันไป จนวางแหละครับ

แต่พอผมกำลังจะเข้านอนนี่ดิ่ (กำลังเคลิ้มๆ)

ก้อมีคนโทเข้ามามือถือผม
.........

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
กำลังลุ้นเลย

รีบมาต่อไวๆ นะค่ะ  :yeb:

BlackySheep

  • บุคคลทั่วไป
น่านกะแล้ว กิ๊กใหม่แหงมๆ  :-[

หุหุ รอลุ้นๆ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบน้องจอน (ดูดี เรียบร้อยเกินไป)
จะเอาแบบเบียร์อ่ะ กวนๆๆ เร้าจายยยย น่าค้นหา มีเรื่องให้คิดตามไม่เว้นแต่ละวันดี ชอบๆๆ หลากมิติดี

ตกลงคุณต้นเนี่ยเจ้าชู้ป่าวน๊า งง เดาไม่ออกแล้ว แต่ที่แน่ๆ หน้าม่อ แหงมๆ :kikkik:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ อ่านทันอีกเรื่องแล้ว  :yeb:

beta

  • บุคคลทั่วไป
555+
ตาต้นนี้ล่ะก็ หุหุหุ

มาต่อไวๆนะคับ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
หุหุ เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์
ต้นหน้าหม้อ หุหุ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หม้อสุกี้เอ็มเคแล้วกัน อร่อยดี  :laugh:


suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากสนับสนุนคนชอบมีกิ๊กเลยจิง จิ๊ง แต่ก็นะ  :untrust:
ยังไงก็รออ่านอยู่นะ :haun6: :haun6:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 17

5 ทุ่มกว่าจะเที่ยงคืนแล้วครับ แถมไปเรียน รด. มาด้วย

ถึงจะไม่ได้ออกสนามก้อเถอะ แต่แบกชุดหนักๆ เดินทางไกลๆเนี่ย มันก้อเหนื่อยเหมือนกันนะครับ

ผมหยิบมือถือขึ้นมา แล้วแอบบ่นๆนิดนึง

เพราะรู้ว่าต้องไม่ใช่ไอ้เบียร์แน่ๆ

แล้วใครโทมาวะ... จะนอนอ้ะ

แต่พอเหนเบอที่โชว์อยู่ก้อตาสว่างทันที

“ฮัลโหลครับ”

“ครับ พี่ต้นนอนยังครับ นี่จอนนะครับ”

“ครับผม ยังไม่นอนหรอกครับ”

“แล้วผมกวนพี่ป่าวครับ ทำไรอยู่”

อ๋อ กำลังจะออกไปว่ายน้ำครับ เวลานี้คนทั่วไปเขาว่ายน้ำกันนิคับ จริงๆแล้วจะผัดข้าวผัดกินพอดีเลย ไปเชียร์ะบอลด้วยกันเลยมั๊ยะครับ... อันนี้คิดในใจ

“อ๋อเปล่าครับ ไม่ได้ทำไร นอนเล่นๆ” คือ... กุง่วงไง จาหลับแล้ววว จนเอ็งโทมาเนี่ยแหละ

“ครับ คุยได้ป่าวอ่ะ”

“ได้ดิ่ครับ มีไรป่าว” จริงๆก้อเริ่มรู้ตัวแล้วล่ะครับ ว่ากุกำลังจะโดนเด็กจีบเอาเข้าแล้วรึป่าวเนี่ย

“ก้อ ไม่มีไรหรอกครับ พรุ่งนี้พี่มา รร ป่าวครับ”

“อ้าว ไปสิครับ ทำไมจะไม่ไปอ่ะ”

“เปล่าครับ ผมแค่ถามดูเฉยๆ... แล้วปกติพี่ไปถึง รร กี่โมงครับ”

“พี่ไปเช้าครับ หกครึ่งก้อถึงแล้วล่ะ”

“โห พี่ ออกจากบ้านกี่โมงครับเนี่ย ปกติพี่ตื่นกี่โมง”

“ตื่นก้อ ตี 4 ครึ่งได้มั๊ง ออกจากบ้านก้อ ไม่เกินตี 5 ครึ่งอ่ะครับ” เพราะงั้นกุถึงต้องนอนเร็วไงค้าบบ โทมาไมเนี่ยยย

“เหรอครับ ตื่นเช้าจัง”

“อืมม แล้วเราอ่ะ ไปถึงกี่โมง”

“ก้อประมาณ 7 โมงนิดๆแหละครับ ผมชอบไปนั่งที่โรงอาหารก่อน”

“พี่ก้อเหมือนกัน ปกติพี่จะมีกลุ่มเพื่อน คนละห้องนะ ไปนั่งกันตอนเช้าที่โรงอาหารกันเหมือนกัน”

.

.

.

แล้วเราก้อคุยกันไปเรื่อยล่ะครับ

ผมก้อยอมรับนะ ว่าแอบหวั่นไหวนิดนึงเหมือนกัน

น้องเขานิสัยดีอะครับ เรียบร้อยดี แต่ก้อแอบมีกวนๆตามประสาเด็กผู้ชายเหมือนกัน

ก้อคุยกันไป จนน้องเขาถามมาว่า

“แฟนพี่ เปนผู้ชายใช่มั๊ยคับ”

ผมก้ออึ้งเลยดิ่ แบบ ก้อคิดว่าน่าจะเดาออกตั้งแต่เมื่อเย็นอ่ะนะ แต่ไม่คิดว่าจะถามตรงๆแบบนี้

“ก้อ... เอ่อ” ผมอึกอักๆ

“ไม่เปนไรครับ ผมไม่บอกใครหรอก” น้องจอนรับคำ เหมือนจะอ่านความคิดผมออก

“ก้อครับ แต่ไม่รู้เรียกว่าแฟนรึเปล่าเหมือนกัน” ผมตอบ

“อ้าว จีบกันอยู่เหรอครับ” ทำไมถึงอยากรู้นักวะ หาาาา

“ก้อเปล่าหรอก ไม่เอาๆ เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะนะ แล้วเราล่ะว่าไง” ผมใช้คำถามกว้างๆไว้ก่อน เพราะไม่รู้จะถามน้องเขายังไงเหมือนกัน

“ก้อ ไม่รู้สิครับ”

“แล้วไม่มีผู้หญิงน่ารักๆมั่งเหรอที่ห้องอ่ะ เพิ่งได้เพื่อนใหม่ๆกันนี่นา”

“โหพี่ ต้องให้ผมบอกเหรอครับ ว่าผมไม่สนผู้หญิงอ่ะ”

“5555555 ครับๆ” แหม เด็กมันตรงดีเนอะ

“พี่ไม่ต้องขำเลยอ่ะ กลุ้มใจเหมือนกันนะเนี่ย”

“อ้าว กลุ้มเรื่องไรครับ” ผมงง

“ก้อไม่รู้สิครับ อยากมีแฟนมั๊ง”

“โธ่ มีทำไมครับ มีแล้วก้อลำบากใจ เรื่องมาก วุ่นวายใจป่าว” ให้ตายเถอะ เผลอพูดจากใจจริงไปหน่อย

“โห่ พี่มีแล้วพี่ก้อพูดได้ดิ่” อ้าวนี่กุพูดจริงๆนะเนี่ย

“ครับๆ ตามสบายๆ”

แต่เรื่องของเรื่อง คือ ผมคุยกับน้องเขาเนี่ย จับได้ใจความเดียวเลยครับ

ว่ามันจีบกูแน่ๆ

ทั้งๆที่มันก้อรู้ว่าผมมีไอ้เบียร์แล้วอ่ะนะ

แต่ผมไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอกนะครับ เขาดูไม่ใช่เด็กแบบนั้นอ่ะ

อย่างที่บอกน่ะครับ ว่าเปนเด็กเรียบร้อย นิสัยดีทีเดียว

แอบหวั่นไหวนะครับ เพราะเบื่อไอ้เบียร์อยู่เหมือนกัน

น้องจอนนี่ เหล้าก้อไม่กิน บุหรี่ก้อไม่สูบ เที่ยวก้อไม่เที่ยว

ถ้าได้เปนแฟน (ก่อนมีไอ้เบียร์) นี่รักตายเลยนะ

แต่ผมก้อทนไม่ได้ครับเลยบอกน้องเขาไปตรงๆ

“จอนครับ แต่พี่มีแฟนแล้วนะ พี่ว่าถ้าเราคุยกันแบบนี้ทุกคืนคงไม่ดีมั๊งครับ”

น้องเขาก้อเงียบๆไปพักนึงแล้วก้อพูดขึ้นมาว่า

“ผมรู้ครับ แต่ว่า... ผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขอผมเปนน้องชายพี่คนนึงแล้วกันนะครับ พี่ไม่ต้องคิดอะไรกับผมก้อได้นี่ครับ

เหนผมเปนแค่น้องชายคนนึงก้อพอ พี่ไม่รังเกียจผมก้อพอแล้วครับ”

“เฮ้ย พี่จะไปรังเกียจอะไรล่ะครับ ได้สิครับ น้องชาย อิอิ”

“ครับ ขอบคุณครับพี่ต้น งั้นยังไง พรุ่งนี้เจอกันที่ รร นะครับ”

“ครับผม บายครับ”

แล้วเราก้อวางโทรศัพท์กันครับ

ผมขอเล่าเรื่องที่คุยกับน้องเขา สรุปๆให้ฟังแล้วกัน

น้องเขาเปนลูกชายคนเดียวครับ พ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปต่างประเทศบ่อย

มีคอนโดอยู่แถวปากทางลาดพร้าว อยู่คนเดียวซะส่วนมาก

บ้านป้า อยู่ที่แถวๆจตุจักร พ่อแม่เลยไม่ค่อยห่วง

เขาบอกว่า เหนผมครั้งแรกก้อที่ รร ตอน มอ 4 แหละครับ

แล้วก้อมาเจออีกที ที่ตอนเรียน รด จนได้มาได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์ จึงชัวร์เลยว่า ผมมีแฟนผู้ชาย

เขาบอกว่า เพิ่งรู้ตัวเองว่าชอบผู้ชายตอนมอ 4 นี่แหละ

เคยมีแฟนผู้หญิงมาแล้ว หลายคน คนล่าสุดเพิ่งเลิกกันไป

แล้วรู้สึกเบื่อมากๆ ขณะเดียวกันก้อเริ่มรู้สึกแปลกๆ เวลามองผู้ชาย

พยายามจะไม่คิดว่าตัวเองเปนอะไรแบบนั้น

แต่ว่า หลังจากมาเจอผม ทำให้น้องเขาตัดสินใจได้น่ะครับ ว่าไม่อยากหลอกตัวเอง

เค้าอยากรู้ว่า ผมกับไอ้เบียร์คบกันยังไง เริ่มยังไงอะไรทำนองนี้

ผมก้อเล่าให้เขาฟังนะครับ น้องเขาก้อรู้สึกดีขึ้น

เขาเลยอยากให้ผมเปนเหมือนพี่ชาย ที่เขาจะได้คุยด้วยได้

(แต่ตอนแรกก้อยอมรับเหมือนกัน ว่ามองผมอยู่อ่ะ ฮิๆๆ เสน่ห์มันแร๊ง 555)

ไม่เคยผ่านมือทั้ง หญิงและชายครับ

เปนเด็กดีอยู่ในโอวาทของป้าตลอด เพราะไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ

น่าสงสารเหมือนกันนะครับ วัยกำลังหัวเลี้ยวหัวต่อ

ถ้าเกิดเค้าเครียดมากๆเรื่องพรรค์นี้ แล้วไม่มีใครให้พูดด้วยได้ เค้าอาจเลือกเดินทางผิดก้อได้นะผมว่า

ผมเลยยินดี ที่น้องเขาเหนผมเปนพี่ชายคนนึงน่ะครับ

เพราะผมก้อไม่มีน้องชายเหมือนกัน

พูดจากใจว่า

ไอ้เบียร์มีคู่แข่งซะแล้วล่ะครับ

555555

ถ้ามันไม่ปรับปรุงตัวด่วยนะ มีเรื่องแน่ๆ

หลังจากวางจากน้องจอนไป ผมก้อลังเลเหมือนกันนะครับ

ว่าผมจะเอาไงดี

คือทั้งๆที่รู้ว่า น้องเขาก้อขอเปนแค่น้องชายนะ (แต่ผมกับน้องเขาก้อเหมือนรู้กันแหละ จริงๆคงต้องบอกว่า ‘ขอเริ่มต้นที่การเปนน้องชาย’ มากกว่าแหละมั๊งครับ)

แต่ใจผมมันแอบเอนเอียงไปแล้วสิครับ

เลยเครียดๆนิดนึง

แต่ผมยังไม่คิดจะบอกไอ้เบียร์นะครับ เพราะว่า

1.คือผมยังไม่เหนว่ามันเปนเรื่องใหญ่น่ะครับ ผมกับน้องจอนมันก้อไม่ได้มีไรกัน ไม่อยากให้มันเครียดโดยเปล่าประโยชน์น่ะครับ

ไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกันเปล่าๆ

2. คือ... ผมแอบสงสัยใจตัวเองอ่ะ เลยไม่กล้าบอก


...เลวเนอะ...
..................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
ท่าจะมีเรื่องนะเนี่ย หุหุ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เลวหรอกครับ
มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ ไม่นานมันก็ผ่านไป
มันไม่เหมือนกับอารมณ์ของคนรักกันเป็นแฟนกันหรอกครับ ความผูกพันธ์กับความห่วงใยมันห่างกันเยอะ
ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องคิดมาก ปล่อยให้มันเป็นไป
อย่างผมเองนี่ก็แอบชอบคนนู้นคนนี้ไปทั่ว วันๆนึงนี่ตั้งเป็นทีมฟุตบอลยังไม่ได้เล้ย . . . เยอะเกิน
ตามอ่านครับ :yeb:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
 :monkeysad:

อยากให้ติดตามเรื่องรักครั้งแรกของผมจนจบนะครับ
ใครอ่านๆอยู่ก็รีมาคุยได้นะครับ เพราะว่าผมน่าจะมาคุยได้บ่อยๆแล้วล่ะ
คิดว่าพอจบแล้วหลายคนคงมีอะไรอยากถามแน่ๆเลย

แล้วก้ออีกอย่าง เรื่องสั้นของผม เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ จบแล้วนะครับ ไปอ่านกันได้นะ


BlackySheep

  • บุคคลทั่วไป
อืมมมมมม ท่าจะตัดสินใจยากเนอะ

ถึงตอนนี้เป็นแค่น้องชายก็เหอะ แถมคุณเบียร์ก็ขี้หึงน่าดูชม  :confuse:

ลุ้นต่อไปคับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ ตอนแรกขอเป็นแค่น้องชาย พอนาน ๆ ไปพี่ชายอาจหวั่นไหวได้นะ  :kikkik:  :kikkik:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เจ้าของเรื่องตัวจริง เข้ามาขอกำลังใจเองเลย

อย่าลืมคอมเมนท์กันเยอะๆ นะครับ คนแต่ง คนโพสต์จะได้มีกำลังใจ

 :yeb:

---------------------------------------------------

ตอนที่ 18

วันรุ่งขึ้นผมก้อไป รร แต่เช้า ปกติครับ

แต่ที่ผิดปกติก้อคือ ผมเจอน้องจอนตั้งแต่ ยังไม่ 7 โมงเลยครับ

พอผมเจอน้องเค้า ผมก้อทักทายปกติ คุยกันแปบนึง ก้อเดินกลับมานั่งที่กลุ่มเพื่อน

แต่เพื่อนผมยังไม่ค่อยมากันหรอกครับ มากันแค่ 3 คน

มันก้อถามว่า รู้จักกันได้ไง น้องเค้าเปนใคร ผมก้อบอกไปตามตรงว่ารู้จักกันที่ ตอนกำลังจะกลับจาก รด เมื่อวาน

แต่ไม่ได้บอกว่า มีเบอกันแล้ว รึไรหรอกนะครับ

รู้จักกันได้ยังไง ก้อแหลๆไป (เด๋วต้องไปเตี๋ยมกะน้องเค้าอีกสิเนี่ย) บอกแค่อาศัยรถกลับคันเดียวกัน

จนเพื่อนผมเริ่มมากันเยอะ จะครบคนแล้วครับ

ก้อเดินไปซื้อข้าวมากินกัน ผมก้อเจอน้องเขากำลังซื้อข้าวเหมือนกัน

ก้อยิ้มทักทายกัน

โอ่ยยยยยยยย เพื่อนผู้หญิงผมตื่นเต้นกันใหญ่ จ้องจะงาบกันเข้าไป

ผมก้อต้องเล่าให้พวกมันฟังอีกรอบนึง

เพื่อนสาวผมทั้งหลาย ก้อขอให้ผมติดต่อขอเบอร์ให้หน่อยกันใหญ่

ส่วนเพื่อนผู้ชายบางคนก้อแซวขำๆ ว่าระวังโดนเด็กงาบละกัน

5555

ใครจะงาบใครวะ ฮี่ๆๆ

ไอ้เบียร์อ่ะ มาสายครับ มาซะเกือบเข้าแถว

เจอกันก้อทักทายกันปกติครับ ยิ้มให้แล้วจับตูดมันทีนึง

มันก้อมีทำสะดิ้ง

ตอแหลซะไม่มีอ่ะ ยิ่งกว่าตูดก้อจับมาแล้ว

5555

แต่มีครั้งนึง มันลืมทำสุดุ้งตอนผมจับตูดครับ

ซวยเลยอ่ะ เพื่อนผมแซวกันใหญ่ว่า มันชอบให้ผมจับตูด

ตั้งแต่นั้นมา มันลืมสะดุ้งแล้วก้อด่าผมทุกครั้งที่จับไม่ได้เลยครับ

ฮิฮิฮิ

จนถึงตอนนี้แล้ว พูดกันตามตรงนะครับ

ผมหึงไอ้ชัยมากๆเลยครับ

ทำไมมันต้องสนิทสนมกับไอ้เบียร์ขนาดนั้นด้วย

ไอ้เบียร์ก้อเถอะครับ ทำไม่กัน รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบใจ

มันก้อไม่คิดแม้แต่จะห่างออกมาสักนิดนึงเลย

มันให้เหตุผล (ที่ผมก้อต้องยอมรับ) ว่า

“ต้น ถ้ากูถามมึงว่า เพื่อนกับแฟน มึงเลือกใครล่ะ... มึงก้อต้องตอบว่าเพื่อนเหมือนกันถูกมั๊ย”

...

ครับ

นั่นแหละ เลยต้องจำใจยอมรับไปตามระเบียบ

เชื่อมั๊ยครับว่า ไอ้ชัยไปบ้านไอ้เบียร์ทุกวัน

ผมก้อไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ ทำได้แค่ทำใจจริงๆ

เย็นวันนั้น ไอ้ชัยจะไปนอนค้างที่บ้านเบียร์ครับ

โดยที่ผมรู้จากไอ้บาสนะ ไม่ได้รู้จากไอ้เบียร์เองเลย

ผมเลยเดินไปถามมัน

“เบียร์ วันนี้ไปไหนรึเปล่า” ผมเดินไปถามมัน

“ก้อเปล่าหรอก” มันตอบ แล้วเก็บกระเป๋าไปด้วย

“ไปเซ็นทรัลด้วยกันหน่อยดิ่ อยากไปซื้อของอ่ะ”

“อืมม กูไม่ว่างว่ะ ต้องกลับบ้าน แม่บอกให้รีบกลับ” มันตอบโดยที่ยังไม่เงยหน้ามองผมเลยครับ

“เบียร์... กูรักมึงนะ” ผมเริ่มเครียดมากจนน้ำตาคลอแล้วครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะ อาจเปนเพราะ เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยช่วงนี้

อาจเปนเพราะเมื่อวานมันอุตส่าห์โทหาผมก่อน แล้วผมงี่เง่าใส่มัน

อาจเปนเพราะ วันนี้ผมกับมันแทบไม่ได้คุยกันเลย เนื่องจากวันนี้มีงานกลุ่มตลอด

แล้วผมเอาแต่มองหามันทั้งวัน แต่ไม่เคยเหนสายตามันหันมาทางผมเลย

หรืออาจจะเปนเพราะ เรื่องไอ้ชัย ที่ผมรู้มาจากปากของไอ้บาสแทนที่จะเปนมัน

หรือบางที ผมอาจจะเสียใจ ที่ทำไมตัวเองเปนคนงี่เง่าแบบนี้ก้อไม่รู้สิครับ

มันเงยหน้าขึ้นมามองผม

“เปนอะไร” มันถามแล้วเอามือดึงแขนผมไปนั่งยองๆข้างๆมัน

“เปล่า ไม่มีไร” ผมตอบมัน

“แล้วทำไมตาแดง จะร้องไห้ทำไม ฮึ” มันถามแล้วเอามือจับหัวผม

“มึง... มาหากูที่ห้องน้ำหน่อยนะ” แล้วผมก้อเดินออกจากห้องไป

พอมันเดินตามมาถึงที่ห้องน้ำ มันก้อปิดประตูแล้วล็อก

ใครก้อไม่ต้องเข้ากันล่ะมึง อั้นไว้ก่อนเหอะนะ

“เปนไร ต้น” มันถามหลังจากล็อกห้องเส็ด

“กู... กูก้อไม่รู้”

“ไม่รู้ได้ไง มึงเครียดอะไรอีก” ผมเปนคนคิดมากครับ มันก้อรู้

“ทำไมไม่บอกกู ว่าไอ้ชัยจะไปนอนบ้านมึงคินนี้”

“ก้อ กูว่าจะบอกอยู่ มึงก้อบอกให้กูมาที่เนี่ย” มันตอบ

“แล้วทำไมถึงบอกว่า แม่ให้รีบกลับ” ผมเริ่มจะน้ำตาคลออีกรอบ

“ก้อ แม่กูให้รีบกลับจริงๆนี่หว่า มึงอย่าบอกนะว่ามึงเครียดเรื่องแค่นี้”

“ใช่ ถ้าเปนเรื่องแค่นี้ กูจะให้มึงด่าว่ากูเลยเบียร์ แต่เรื่องแค่นี้สำหรับมึง มันเปนเรื่องใหญ่สำหรับกูที่ว่า มึงมีอะไร

ทำไมถึงไม่บอกกู ทำไมกับไอ้แค่ ‘เรื่องแค่นี้’ กูต้องรู้จากปากคนอื่น กูถามจริงๆเถอะ ถ้ากูไม่บอกมึงว่ากูรู้แล้ว มึงจะบอกกูมั๊ย ว่าไอ้ชัยไปนอนกับมึง”

“ต้น มึงอย่าทำให้เปนเรื่องใหญ่ได้ป่ะ กะแค่ไอ้ชัยไปนอนบ้านกูแค่เนี๊ย” มันเริ่มจะทำหงุดหงิด

“มันไม่ใช่เรื่องนั้น มึงไม่เขาใจกูรึไง! ไอ้ชัยจะไปนอนกับมึงจะไปทำห่าอะไรกับมึงน่ะ กูไม่สนหรอก!

แต่กูสนมึง กูมีอะไรกูบอกมึงตลอด แต่ทำไมมึงต้องปิดบังกูเรื่องแค่นี้ด้วย แค่มึงบอกกูว่า ต้น วันนี้ชัยไปนอนบ้านกูนะ บอกไม่ได้รึไง!”

มันงียบ...

ส่วนผมเริ่มจะร้องไห้แล้ว

“มึงรู้ได้ไงว่ากูจะไม่บอกมึง” มันถามผมในที่สุด

“ก้อเพราะกูรู้นิสัยมึงไงเบียร์!! กี่ครั้งแล้วที่มึงทำอะไรมาแล้วไม่บอกกูแต่กูรู้เองน่ะ

มึงคงไม่รู้ใช่มั๊ยล่ะ ว่ากูรู้มาตลอดแหละ มึงโกหกกูมั่ง ปิดบังกูมั่ง กูก้อไม่ว่า กูยอมทนเสียใจ พยายามไม่คิดมากมาตลอด

แต่วันนี้กูทนไม่ไหวแล้วนะเบียร์ ที่มึงยังทำเปนไม่รู้ไม่สนใจอยู่แบบนี้อีกน่ะ”

มันก้อเงียบอีก

ผมกับมันเงียบไปสักพักนึง มันก้อดึงตัวผมเข้ามากอด แล้วบอกผมว่า

“กูขอโทษ”

ผมมองหน้ามัน มันเอามือมาเช็ดน้ำตาผมออก

แต่ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะครับ ผมเหนตามันแดงๆเหมือนกัน

“ต่อจากนี้ไป มึงก้อไม่ต้องคิดมากเรื่องของกูอีกแล้วล่ะนะ” มันพูดจบก้อเดินออกจากห้องน้ำไป

นี่มันบอกเลิกผมใช่มั๊ย

แต่แปลกนะครับ หลังจากคำพูดของมัน

ผมไม่ร้องไห้แล้ว

ผมเช็ดน้ำตา ล้างหน้าแล้วเดินออกมา

เก็บกระเป๋าที่ห้อง แล้วเดินออกมาจากตึก โดยไม่สนใจใครเลย

มันเหมือนความฝันเลยครับ

ทุกสิ่งที่ผมพูดออกไป

สิ่งที่มันพูดกลับมา

เรื่องราวทั้งหมดมันเหมือนผมฝันไปจริงๆ

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าห้าง

นั่งลง แล้วก้อตั้งต้นคิดทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง

น้ำตาผมมันก้อเริ่มจะไหลออกมา

ผมเองก้อพยายามกลั้นมันไว้ให้ถึงที่สุด

ทำไมเวลาที่กูต้องการมึง มึงถึงไม่เคยอยู่กับกูเลย

ทำไมมึงถึงหันหลังเดินออกไปจากกูได้ง่ายๆอย่างนี้

ไอ้เบียร์....

ยังไม่ทันที่ผมจะได้นึกอะไรต่อ

น้องจอนก้อโทมา...

.....................................................................................................................................................................


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
บางทีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อสะสมกันมากขึ้น ไม่พูดจาทำความเข้าใจกัน
เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งก็สร้างปัญหาได้ไม่น้อยเลย  :try2:

ตอนนี้ชอบฉากที่บรรยายความน้อยใจของต้นว่าเกิดจากอะไร

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะ อาจเปนเพราะ เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยช่วงนี้
อาจเปนเพราะเมื่อวานมันอุตส่าห์โทหาผมก่อน แล้วผมงี่เง่าใส่มัน
อาจเปนเพราะ วันนี้ผมกับมันแทบไม่ได้คุยกันเลย เนื่องจากวันนี้มีงานกลุ่มตลอด
แล้วผมเอาแต่มองหามันทั้งวัน แต่ไม่เคยเหนสายตามันหันมาทางผมเลย
หรืออาจจะเปนเพราะ เรื่องไอ้ชัย ที่ผมรู้มาจากปากของไอ้บาสแทนที่จะเปนมัน
หรือบางที ผมอาจจะเสียใจ ที่ทำไมตัวเองเปนคนงี่เง่าแบบนี้ก้อไม่รู้สิครับ

เข้าใจความรู้สึกของต้นมาก ๆ เลยค่ะ  :myeye:
รออ่านต่อไป  :yeb:

BlackySheep

  • บุคคลทั่วไป
ที่เบียร์ว่าอาจจะไม่ใช่คำบอกเลิกก็ได้มั๊ง

บางอย่างคนสองคนก็ต้องหันมาปรับความเข้าใจกันน่ะนะ

แต่เบียร์...พูดไม่เคลียร์เท่าไหร่  :sad4:

อย่างนี้น้องจอนก็...?

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เข้าใจต้นครับ เท่าที่อ่านมาต้นนิสัยเหมือนผมเลยครับ
ถ้าผมได้คุยกับเบียร์แบบต้น ผมก็คงคิดเหมือนกันอ่ะครับ
ว่าเป็นสัญญาณของอะไรบางอย่าง




สงสารต้นอ่ะ :monkeycry2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตกันไป
 :yeb:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด