พิมพ์หน้านี้ - [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-12-2006 10:44:38

หัวข้อ: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-12-2006 10:44:38
ขอบคุณ คุณ ExecutioneR ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ ExecutioneR ก่อนนะครับ


ขอบคุณครับ

หมูพูห์  :teach:


**********************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**********************************************************

ผมเองเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองชอบแบบไหน ว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นยังไงกันแน่ก้อราวๆ

มอ 4 น่ะครับ ตอนนั้นก้ออายุ 15..........

อืม จริงๆแล้วจะใช้คำว่า “รู้ตัว” ก้อคงไม่ได้ มันแค่เริ่มสงสัยตัวเองอ่ะนะ

แต่ว่า ด้วยความที่ไม่อยากยอมรับ และไม่อยากจะคิดเรื่องพรรค์นี้

วันๆก้อเอาแต่เรียน เที่ยวเล่น อยู่กับเพื่อน

มันก้อเลยเหมือนไม่ได้สนใจหมกหมุ่นเรื่องนี้สักเท่าไหร่

เพราะด้วยความที่มีเพื่อนเยอะเลยช่วยได้มาก

วันๆนึงหลังเลิกเรียนก้อมีแต่เที่ยวเล่นกัน พอกลับบ้านก้ออาบน้ำนอน

แต่ปัญหามันก้อมีอยู่ว่า ไอ้คนที่ทำให้ผมเริ่มสงสัยในตัวเองเนี่ย

มันดันเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มของผมเองซะด้วยสิ ไอ้จะไม่คิดอะไรเลย

สุดท้ายก้อทำไม่ได้สักที...

เรื่องที่ผมจะเล่านี่ ผมจะพยายามเล่า ทุกๆเรื่อง ไล่มาตั้งแต่อดีต

จนถึงปัจจุบันเลยนะครับ อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ

**************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-12-2006 10:48:32
ถ้าจะให้เริ่มกันจริงๆก้อคงเป็นตอนประมาณ มอ 3 ครับ

ที่ รร ผมตอนนั้น พอขึ้นมอ 2 ก็จะมีการ เปลี่ยนห้องใหม่ เพื่อนใหม่หมด

และเริ่มเรียง ตาม แผนกวิทย์ และ ศิลป์ครับ (ผมอยู่สายวิทย์ครับ) ตอนมอ 2 ก้อเจอเพื่อนใหม่ๆเต็มไปหมด

แต่ว่ามีเพื่อนที่มาจาก มอ1 ด้วยกัน ถึง 12 คน ซึ่งถือว่าเยอะกว่าพวกห้องอื่นๆมากเลยครับ ดังนั้นเลยอุ่นใจไปนิดนึง

จริงๆนิสัยผม ผมเป็นคนคบคนง่ายครับแค่จะขี้อายกับคนที่เพิ่งรู้จักแรกๆเท่านั้น ไม่ค่อยชอบออกสังคม

แต่ปกติฮาแตกเป็นประจำ หน้าด้านเป็นที่หนึ่ง ก้อเลยทำให้มีเพื่อนๆเยอะพอสมควรทั้งหญิงแล้วก้อชาย...

จนพอขึ้นมอ 3 กลุ่มๆในห้องผมก้อเริ่มแบ่งหวกกันชัดมากขึ้น คือ กลุ่มผมก้อจะมี 7-8 คนน่ะครับ

อีกกลุ่มก้อจะเป็นประเภท ถึกๆหน่อย พวกเล่นกีฬา (ส่วนมากจะเป็น ฟุตบอล แต่ผมชอบเล่นบาสครับ)

ตัวควายๆ ไม่ใช่หุ่นนักกีฬาหน้าตาดีสักนิดต้องขอบอกไว้ก่อน แต่เราก้อยังสนิทกันเหมือนเดิมนะครับ

เพียงแค่ความสนใจมันคนละทาง จนมาถึงตอนนี้ มันจะมีอยู่คนนึงครับ ที่ผมไม่ค่อยสนิทด้วยเลย

เรียกได้ว่า แทบไม่เคยคุยกัน มันชื่อ ไอ้เบียร์ครับ แต่ว่าเพราะอะไร จนถึงตอนนี้ ผมก้อนึกไม่ค่อยออกเหมือนกัน

แต่มีวันนึงผมจำได้ว่า วันนั้นเป็นคาบชุมนุมครับ พวกผู้ชายห้องผมส่วนมากจะอยู่ ไฟฟ้ากัน ซึ่งมันก้ออยู่ด้วยครับ...

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 22-12-2006 12:43:25
มารออ่านต่อคับ............. :angellaugh2: :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-12-2006 13:38:17
มาเป็นกำลังใจครับ ต้องลำบากพูห์มากเลย นี่ยังอุตส่าห์จัดหน้าซะสวยเชียว
ขอให้มีแฟนน่ารักๆนะครับ

อิอิ

 :love2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-12-2006 14:10:43
ตอนนั้นเวลาพักกำลังจะหมดครับ คาบกำลังจะเริ่มแล้ว ผมก้อนั่งอยู่ในห้องกำลังอ่านการ์ตูนอยู่

รอเพื่อนๆกลุ่มผมมันมาจากโดนอาจารย์ด่าเรื่องเตะบอลในห้อง มันโดนด่าที่ห้องข้างๆที่ผมเรียนชุมนุมนี่แหละ

พอกริ่งดังปุ๊บ พวกที่ไปเตะบอลกันมาก้อเริ่มทยอยๆกันเข้ามา รวมถึงพวกกลุ่มผมด้วย

แล้วไอ้เบียร์มันก้อเข้ามากับเด็กห้องอื่นกลุ่มนึงประมาณ 3-4 คน ซึ่งหน้าหยั่งแก่ แบบว่า สายศิลป์ชัวร์ๆ

ผมก้องงๆครับ ว่าพวกแม่งมาคุยไรในห้องกูวะ สักพักไอ้เบียร์ มันก้อเดินมาหาผมแล้ว มาถามว่า ผมมี 50 รึเปล่า

มันจะขอยืม แต่ว่าด้วยน้ำเสียงส้นตีนมากๆ ผมก้อ เออๆ ทำท่าเหมือนกำลังจะควัก เพื่อนผมอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ

มันก้อ พูดขึ้นมาครับว่า ไอ้ต้นมันไม่มีหรอก มันเพิ่งเลี้ยงข้าวกูไป...

ผมก้อเงยหน้ามามองหน้าเพื่อนงงๆครับ ไอ้เบียร์มันก้อทำหน้าส้นตีน แล้วก้อบอกว่า ไม่เป็นไร พร้อมกับเดินจากไป

เพื่อนผมจึงเฉลยกับผมว่า มันจะเอาเงินไปซื้อบุหรี่กัน ผมก้อถึงบางอ้อ ว่า งี้นี่เอง เพื่อนผมมันช่วยไว้ครับ

ไม่งั้นมันก้อจะมาไถผมอีกบ่อยๆแน่ๆ แล้วไอ้พวกหน้าแก่นี้กับไอ้เบียร์มันเคยอยู่ด้วยกันตอนมอ 1 นี่เอง

ตั้งแต่วันนั้น ผมก้อเริ่มมองไอ้เบียร์แบบไม่ค่อยดีเลยครับ เหมือนมันเป็นคนอันตรายๆคนนึง

เพราะตอนนั้นผมถูกเลี้ยงมาแบบ พ่อแม่เข้มงวดพอควรเลย เพราะท่านเป็นครูทั้งคู่

เรื่องบุหรี่ เที่ยว เหล้ายานี่ ของต้องห้ามเลยแหละครับ...

ไม่ใช่ว่าผมมองคนกินเหล้า สูบบุหรี่ไม่ดีนะครับ ไม่ได้ทำตัวกระแดะ ดัดจริตอะไรหรอกนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด

แต่ว่าตอนนั้น เพื่อนๆกลุ่มผม ต้องบอกว่าหลายๆๆๆคน มันไม่มีใครสูบบุหรี่หรอกครับ น้อยมากๆๆๆ

แต่ว่ามีที่สังเกตอย่างนึงคือ ไอ้เบียร์มันจะไม่ค่อยมาเรียนครับ ผมก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

มิน่า ตอนมอ2 ผมถึงไม่ค่อยเหนมัน เพราะตอนนั้นมันก้อหยุดยาวไปช่วงนึงเหมือนกัน

ผมเลยไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกะมันมากนัก... จนกระทั่งพวกผมเรียนจบมอ 3 ครับ

ตอนแรกก้อว่าจะไปสอบเตรียมเหมือนกัน แต่ขี้เกียจขึ้นมาซะงั้น อยู่ที่นี่ก้อดีอยู่แล้วครับ

เพราะก้อ รร กุก้อมีชื่อเหมือนกันนี่หว่า รร ผมก้อดังอยู่นะครับ ไม่แพ้เตรียมเชียว (ขอคุยหน่อยนึง)



********************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: hippoworld ที่ 25-12-2006 00:16:18
ทำไมพูแปะไว้ห้องนี้อ่ะ ไมไม่อยู่ในห้องฟิคหว่า
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-12-2006 07:07:46
คนเขียนให้แก้ไขชื่อตัวละครนิดหน่อยอ่ะครับ
เด่วจะย้ายกลับที่เดิมอีกทีนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 27-12-2006 16:43:07
ใช่ที่เล่า ในปาลม์ป่ะเรย์...

เอิ่ม....แก้ชื่อตัวละครเหรอ...อึมๆ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-01-2007 15:31:31
มอ 4 แล้วว เปนเด็ก มอปลายแล้วเว้ยย! ตอนนั้นดีใจมากครับ เข็มก้อเปลี่ยนสีแล้วด้วย เท่มากมาย

ได้เบ่งใส่รุ่นน้องที่แก่กว่าตั้ง 3 ชั้นปี และแน่นอนครับ... ว่าไอ้เบียร์ก้อมาอยู่ห้องเดียวกะผมด้วย

ยอมรับว่าตอนแรกๆเซงครับ เพราะเพื่อนในกลุ่มผมกระจายกันไปหมด มีเพื่อนที่ผมเคยบอกว่า อยู่กลุ่มถึกมา 2 คนครับ

แต่ผมก้อสนิทกับมันนะ แล้วก้อเลยได้เพื่อนใหม่อีกหลายคนจากพวกมันนี่แหละ

ไอ้ถึกคนแรกชื่อว่า ไอ้แบงค์ครับ ไอ้เชี่ยนี่ ไม่ต้องนึกไรมากครับ อ้วนดำ ตัวควายๆ แต่นิสัยดีผิดกะหน้ามัน

ส่วนอีกคนชื่อ ป๋อม ไอ้นี่ นักบาสครับ แต่หุ่นไม่เท่ให้สาวๆกรี๊ดหรอกนะครับ ไม่ได้หล่อขนาดนั้น

แต่ก้อไม่ได้ขี้เหร่หรอก ถึงตัวจะดำๆ แต่ตาหวาน หุ่นดูเหมือนล่ำ แต่ถ้าถอดเสื้อแล้ว แม่งอ้วน พอนึกออกป่ะครับ นั่นแหละ

ส่วนไอ้เบียร์ อยากรู้รึยังครับว่ามันหน้าตายังไง... ยังอ่ะ ยังไม่บอก เพราะตอนนั้นไม่ได้พิศวาสมันแม้แต่นิดเดียว

เดี๋ยวจะหาว่า บรรยายไม่ตรงความเป็นจริง แล้วนอกจากนั้นก้อมีเด็กใหม่ครับ 3-4 คน มีคนนึงหน้าตาดีมั๊งครับ

ไม่รู้ดิตอนนั้นไม่ได้สนผู้ชาย เลยไม่ค่อยมองใครหล่อเท่าไหร่ รู้แต่ สาวๆห้องผมน่ารักมากกกกหลายคนเชียว

แต่คราวนี้ ไอ้เรื่องของเรื่องคือ ที่นั่งครับ ...เกลียดอะไรได้อย่างนั้น... ผมน่ะไม่ได้นั่งข้างคู่กะไอ้เบียร์หรอกครับ

แต่นั่งติดกัน งงป่ะเนี่ย คือ มีทางเดินคั่นครับ ระหว่างผมกะมัน

ช่วงแรกๆก้อไม่ค่อยได้คุยหรอกครับ ช่วงนี้มันต้องรู้จักเพื่อนใหม่กันก่อน ผมก้อได้นั่งกับเด็กที่มาจากสายศิลป์ครับ

เพิ่งรู้จักกันนี่แหละ ไอ้แบงค์มันจับผมนั่งคู่กัน มันชื่อว่า บาส ครับ เป็นลูกคนจีน แน่นอนว่า ขาวตี๋ หน้าใส

ตอนแรกก้อเกรงๆมันนะครับ เพราะมันมาจากสายศิลป์ แต่แม่งนิสัยโคตรดีเลยครับ

และมันนี่แหละที่กลายมาเปนซี้ในอนาคตของผม... แต่ไปๆมาๆรื่องมันเหมือนหักมุมครับ

ตรงที่เพื่อนๆผมแทบทุกคน (หมายถึงในกลุ่มๆผมน่ะนะ) รวมถึงพวกเพื่อนห้องอื่น มันเหมือนมีจุดศูนย์กลาง

อยู่ที่ไอ้เบียร์ครับ อาจเปนเพราะบ้านมันใกล้ รร มั๊ง แถมยังรวยด้วย (แล้วแม่งมาขอเงินกุทำไมวะ)

พอได้เริ่มคุยกัน ผมถึงได้รู้ครับ ว่ามันก้อเปนคนดีเหมือนกันนะเนี่ย ยิ้มง่าย คุยเก่งครับ มีกวนตีนๆหน่อย

แต่ ผมก้อ กวนตีน ยิ่งกว่ามันอีกมั๊ง แรกๆ ก้อไม่ค่อยถูกชะตามันหรอกครับ แม่งกวนส้นตีน ผมก้อกวนกลับ

เคยจะมีเรื่องกันก้อหลายครั้ง จน... วันนึงผมเริ่มเหนมันหล่อครับ

เรื่องของเรื่องคือวันนั้นจำได้ว่าพวกผมคุยเรื่อง ใครน่ารักสุดในห้องครับ ก้อว่ากันไปคนนู้นคนน

ตอนนั้นยังไม่ค่อยสนิทกับพวกผู้หญิงกันเท่าไหร่หรอกครับ แอบนินทากัน แล้วก้อเลยวกมาเรื่อง ใครหล่อสุด

พวกผมก้อเริ่มสำรวจครับ ดูหน้าดูตากันดีๆ เพิ่งเหนครับ ว่าตอนนั้น มันก้อหน้าตาดีนี่หว่า...

มันตัดสกินเฮดครับ ขาว และ ล่ำ... ล่ำค่อนข้างมาก แต่ก้อไม่ดูน่าเกลียดทั้งๆที่มันเตี้ย แหะๆ มันไม่สูงครับ

แม่งตัวเท่าผม แหะๆๆ (และพไอ้ด้วยการที่ผมก้อไม่สูง ตัวพอๆกัน เลยเริ่มรู้สึกดีที่แม่งเตี้ยเหมือนกู) ตามันก้อสวยครับ

 ยิ้มหวาน แม่งก้อดูดีนี่หว่า... แต่สุดท้ายก้อไม่ได้ลงคะแนนกันหรอกนะครับ ว่าใครหน้าตาดีสุด ออกแนวขำๆกันมากกว่า

เอามาด่ากันซะส่วนใหญ่ มันก้อโดนด่าว่าไอ้เตี้ย (กุรอดได้ไงวะเนี่ย) ตัวผมเองก้อไม่ได้ขี้เหร่นะครับ

แต่ทำตัวลีบๆอยู่กลางวงเพราะไม่อยากให้ใครมาด่ากุ... ไม่เคยคิดหรอกครับว่าตัวเองหน้าตาดีบ้างรึเปล่า

ไม่กล้าแม้จะคิดครับ กลัวกลายเปนคนประเภทหลงตัวเอง แต่ที่พอมีกำลังใจบ้าง ก้อตรงมี สาว มาขอเบอร์บ้างแหละวะกู

(ช่วงนั้นการขอเบอร์กันเปนอะไรที่ บูมมาก) มีคนชมบ้าง กุก้อพอใจและ ตอนนั้นคิดงี้ครับ

พอพวกผมเริ่มสนิทกัน ผมก้อเริ่มสนิทกับมันมากขึ้นเรื่อยๆครับ

เริ่มโทรศัพท์หามัน คุยกันนานๆมากขึ้น (ตอนมอ 2 มอ 3 ก้อมีคุยกะเพื่อนคนนึง นานๆเหมือนกัน)

แต่ตอนนั้นมันต่างๆไปครับ ที่เคยโทหาเพื่อนสนิทคนนึงตอนมอต้นมันดูเปนแบบเด็กๆน่ะครับ

เริ่มถึงวัยคุยโทรศัพท์นานๆ แต่ตอนนี้มันก้อรู้สึกแปลกๆไปนิดหน่อย... แรกเริ่มคุยกันเรื่องผู้หญิงครับ

มันชอบผู้หญิงในห้องอยู่คนนึงครับ แล้วคุยกันไปคุยกันมา เลยสนิทกันมากขึ้น ผมกลายเป็นเหมือน พ่อสื่อมันครับ...

ตอนนั้นผมเองก้อมีจีบผู้หญิงคนนึงอยู่เหมือนกันนะ ก้อเลยช่วยๆๆกันไปน่ะครับ... และก้อไอ้เรื่องผู้หญิงนี่แหละ

ที่ทำให้เราได้ คุยกันนานขึ้น คุยกันหลายเรื่องมากขึ้น และสนิทกันมากขึ้น

แต่ตอนนั้นให้ตายก้อยังไม่ได้คิดอะไรกัมันนะครับ แค่เปนเพื่อนสนิทคนนึงเท่านั้น...

******************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-01-2007 15:42:26
     ตอนที่ 2 ครับ

    หลังจากเปิดทอมไปได้ประมาณ 2 เดือน อะไรหลายๆอย่างก้อเริ่มที่จะเข้าที่ ผม 2 คนก้อกลายเปนเพื่อนสนิทกันเต็มตัว

โดยที่คนอื่นๆก้อรู้ครับ ผมน่ะ รักมันมากจริงๆๆ เพราะเวลามีปัญหาอะไร มันคอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง

ไอ้การที่เราคุยโทรศัพท์กันนานๆเนี่ย มันได้เรียนรู้กันจริงๆนะครับ เราสองคนผูกพันกันเร็วมาก

เวลาที่มันหรือผมขาดเรียนก้อจะช่วยกันเก็บงานไว้ให้ หรือช่วยๆกันทำงานตลอด ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก

หลังจากที่ตอนแรกๆแอบเหงาอยู่เหมือนกันที่ไม่มีเพื่อนสนิทหลุดติดมาด้วยเลย...

และช่วงนั้นที่คนอื่นๆในชั้นก้อเริ่มรู้จักสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย ทำให้เพื่อนๆห้องผมเริ่มกล้าเล่นกล้าทำอะไรกันมากขึ้น

อย่างนิดๆหน่อยๆเช่นพวกผมเวลาเจอกัน หรือเปนห่าเหวอะไรก้อจะ กอดกัน ครับ

จนเปนเรื่องธรรมดาโคตรๆที่จะเหนผู้ชายกอดกันในห้องของผม ลองไปกอดไอ้เพื่อนห้องอื่นดูดิ่ครับ

แม่งได้สะดุ้งแล้วไล่เตะแน่นอน...

เวลาผมมา รร ตอนเช้า ซึ่งก้อจะเช้ามากก่อนใครเลย ส่วนไอ้เบียร์เนี่ย มักจะมาตอนเกือบๆเข้าแถวแล้วครับ

เวลาเจอหน้ากัน ก้อจะเดินเข้ามากอดกัน ครับ จนมีสาวๆบางคนแซวเหมือนกัน

แต่สุดท้ายพวกมันก้อเหนจนเปนเรื่องธรรมดา เพียงแต่ พวกผมสองคนเนี่ย จะชอบทำอีกอย่างคือ นั่งตักกัน

โดยที่มันชอบมานั่งตักผม (มวลโดยรวมของมันน่าจะมากกว่าผมประมาณ 2 เท่าได้)

แล้วผมก้อจะกอดเอวมันจากด้านหลัง ซบมันมั่ง มันซบผมมั่ง ไปเรื่อยน่ะครับ จนเพื่อนคนอื่นๆก้อเริ่ม

ทำกันบ้างจนเปนเรื่องปกติ

    และก้อมีอยู่วันหนึ่ง เปนวันที่มันชวนผมและเพื่อนอีกสองคนไปบ้านมัน และผมก้อยังไม่เคยไปเลย..
   
“ไอ้ต้น วันนี้ไปบ้านกูป่าว” มันเข้ามากระซิบถามผม ที่กำลังนั่งเล่นป๊อกเด้งกะเพื่อนๆอยู่
   
“ไปทำไรวะ? ” “แล้วทำไมต้องกระซิบกุด้วยเนี่ย ไอ้บ้า” ผมก้อด่าย้อนมันดิ่

คือผมเปนคนที่ หูนี่ เปน สป็อต ผมเลยครับ ห้ามโดนแตะต้องเด็ดขาด มันสยิวว
   

“เปล๊า ก้อจะชวนมึงกะไอ้ท็อปแล้วก้อไอ้นุก ไปเล่นเกมเฉยๆ.... แล้วไอ้ที่กระซิบเนี่ย ต้องการจะให้มึงสยิวเล่นไงจ๊ะ”

แม่งพูดเส็ดพร้อมกับยักคิ้วทำหน้ากวนส้นตีนอีกแล้วคับ
   

”เออๆ ไอ้ห่า มึงนี่กวนตีน ไปดิ่ ไปก้อได้ กุยังไม่เคยไปบ้านมึงเลย แต่ว่ากุต้องรีบกลับนะเว้ย เด๋วแม่ด่า” พอผมตอบกลับ

มันก้อยิ้มแล้วเอามือขยี้หัวผมครับ ผมโคตรชอบให้คนเล่นหัวเลยครับ เลยมองหน้ามันแล้วยิ้มๆ

มันก้อรู้นะแม่งก้อทำตาหวานใส่ แล้วก้มลงมาพูดให้ได้ยินกันสองคนว่า
   

”มือเนี่ยกุเพิ่งไปจับไข่ไอ้เต้มาว่ะ” แล้วมันก้อวิ่งหนีผมไปพร้อมเสียงหัวเราะ ผมเลิกเล่นไพ่เลยครับ ไปวิ่งไล่เตะมันแทน

    พอเลิกเรียนก้อประมาน บ่ายสามนิดๆ พวกผม 4 คนก้อเดินไปบ้านมันกันครับ พอถึงบ้านมัน ตกใจชิบหาย หมาเยอะชิบ
   

 ”เอาแม่ ไอ้เหี้ย!!” ไอ้นุกสบถลั่นเลยครับ เพราะมันทะเล่อทะล่าทำซ่าส์ พอรู้ว่าบ้านหลังไหนก้อเดินไปเปิดประตูบ้าน

ทำท่าจะเข้าไปทันทีเหมือนเปนบ้านตัวเอง
    ”555555 สมน้ำหน้า ไอ้บ้า!” ไอ้เบียร์สะใจซะสุดขีด แล้วค่อยเดินมาห้ามหมาครับ ส่วนไอ้นุกน่ะ

กลัวขี้หดมาหลบอยู่ข้างหลังผมนี่

    “เฮ้ยนี่แม่กู ไหว้ซะ” ไอ้เบียร์มันว่า ผมก้อมองไปที่ตัวประตู เหนผู้หญิงคนนึงกำลังเดินมา

    “แม่นี่ ไอ้ต้น ไอ้ท็อปแล้วก้อไอ้นุก” พวกผมก้อไหว้แม่มันตามระเบียบ แล้วมันก้อพาพวกผมไปที่ห้องนั่งเล่น

    ในบ้านมันจะแบ่งเปนส่วนๆครับ ก่อนจะถึงห้องนั่งเล่น ก้อนะมีห้องคอมครับ แยกออกมาเหมือนต่อเติมเพิ่มเข้าไป

ผมก้อเลยไม่จำเปนต้องเข้าไปถึงในตัวบ้าน ก้อนั่งเล่นคอมกันอยู่ใน ห้องคอมนั่นแหละครับ

 แม่มันก้อคอยมาเทกแคร์โคตรๆจนผมเกรงใจ เด๋วขนมเด๋วน้ำหวาน มาบริการไม่หยุด

จนประมาณ 5 โมงผมต้องกลับแล้ว

    ”เฮ้ย พวกมึงกุกลับก่อนนะ เย็นแล้วว่ะ บ้านกุไกล” ผมบอกพวกมันที่เล่นเกมกันอย
ู่
    ”เออๆ กุกะไอ้นุกก้อจะกลับเหมือนกัน” ไอ้ท็อปมันตอบกลับมา

    ”ไอ้เบียร์ ไปส่งพวกกุหน้าบ้านมึงหน่อยดิ่ กุกลัวหมาว่ะ” ไอ้ท็อปหันไปพูดกะไอ้เจ้าของบ้าน

    ”ไม่ไป” ไอ้เบียร์ตอบหน้าตาเฉย

    ”เอ๊า ไอ้เหี้ยไรวะ พวกกุต้องกลับแล้วเว้ย กุต้องไปทำธุระให้แม่อีก เด๋วแม่กุเอาตาย มึงจาให้พวกกุอยู่ทำเหี้ยไรอีกวะ

 เย็นแล้วนะเว้ย...” ไอ้นุกบ่นยาวว ตามประสามันครับ แต่ถูกไอ้เบียร์ขัดขึ้นมาก่อน

    ”พอๆไอ้สัดนี่ กุจะบอกว่า ให้พวกมึงแค่สองคนลับไปก่อนได้ กุจะเดินไปส่ง แต่ไอ้ต้นอ่ะอยู่กะกุก่อน”

    ”อ้าว ทำไมวะ” ผมก้องงครับ

    ”กุรู้ว่า บ้านมึงไกล ไม่เปนไรเด๋วกุให้แม่กุโทบอกแม่มึงก้อได้ กุจะให้มึงช่วยสอนเลขกุทีก่อน”

    ”เฮ้ย เอางั้นเหรอวะ”

    ”เออดิ่ หรือมึงจะกล้าเดินออกไปเองป่ะละ กุไม่ว่านะเว้ย หมากัดตูดแหกไม่ต้องร้องนะมึง”

    ด้วยคำตอบของมัน ผมเลยตัดสินใจอยู่ต่อครับ แล้วไอ้เบียร์ก้อตกลงไปส่งไอ้สองคนนั้นที่ปากซอยบ้านเลยครับ

    มันบอกให้ผมนั่งเตรียมตัวสอนมันไป ผมก้อนั่งเบื่อเลยดิ่ คงอีกสักพักกว่ามันจะกลับมา

    ”ลูกต้น”

    ผมหันไปมองตามเสียงเรียกครับ

    ”ครับ?” แม่มันเรียกผมครับ

    ”แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับต้นหน่อยน่ะลูก”

    “อ่ะ ครับได้ครับ”

    “ต้นสนิทกับเบียร์มานานหรือยังลูก”

    “ก้ออ ไม่นานหรอกครับ เพิ่งตอนมอ 4 นี่แหละครับ”

    “จ้ะ แม่เหนเบียร์เค้าพูดถึงลูกบ่อยช่วงหลังๆนี้ แม่เลยบอกให้เค้าชวนลูกมาเที่ยงที่บ้านบ้างน่ะ”

    “อ๋ออ ครับ” อย่างนี้นี่เอง ที่มันถึงชวนผมมาบ้าน เพราะแม่มันบอกนี่เอง

แล้วแม่งเอาอะไรเกี่ยวกะผมไปเล่าให้แม่มันฟังบ้างวะเนี่ย

    “ต้น รู้มั๊ยลูกว่าทำไมช่วงมอต้น เบียร์ถึงไม่ค่อยได้ไป รร”

    “ผมก้อคยสงสัยเหมือนกันนะครับ แต่ว่าตอนนั้นผมไม่ค่อยสนิทกับเขา ก้อเลย...” ผมไม่รู้จะพูดต่อยังไงครับ

เพราะไม่สนิทกับเขาก้อเลยไม่ได้สนใจ... ก้อไม่ใช่นะเว้ย

คือ เพราะมันไม่ค่อยมา ผมถึงไม่สนิทกัยมันต่างหากล่ะ ผมคิดในใจ

    “จ้ะ แม่รู้ แม่แค่จะบอกต้นว่า ตอนนี้หนูเบียร์เค้าไม่ค่อยสบาย” แม่ไอ้เบียร์พูดพร้อมกับทำหน้าเศร้ามากครับ

จนผมเริ่มรู้สึกไม่ดี

    ตอนนี้ทั้งผมทั้งแม่ไอ้เบียร์ก้อเงียบกันไปอึดใจนึงครับ

    “เค้าไม่รู้ตัวหรอกนะว่าตัวเค้าเปนอะไร แม่ยังไม่เคยบอกเค้าเลยแต่แม่จะขอต้นว่า

หลังจากนี้ให้เล่นกับเค้าแบบปกติได้มั๊ยลูก ช่วยดูแลเค้าที่ รร ต้นที จะได้มั๊ยลูก” แม่ไอ้เบียร์พูดจบน้ำตาก้อเริ่มไหลออกมา
   

“คะครับ ได้สิครับ ผมไม่มีวันทิ้งมันไปไหนเด็ดขาดครับ” ผมตกใจมากครับ ที่สถานการณ์ตอนนี้

มันเปนแบบนี้ อึดอัดมากๆ แล้วก้อสงสัยมาด้วยว่ามันเปนโรคอะไรอยู่

    แม่มันก้อ เงียบไปอีกพักหนึ่ง

    ”ขอบใจมากนะลูก”

    “ไม่เปนไรครับ แม่ไม่ต้องเปนห่วงนะครับ”

    “เบียร์... เป็น ลูคิเมีย น่ะต้น”

    พอได้ยินแค่นั้น ผมตกใจมากครับ ผมอึ้งไปเลย ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าสีหน้าของตัวเองตอนนั้นเป็นยังไง
   
ไอ้โรคนี่เนี่ย คือมะเร็งเม็ดเลือดขาวไม่ใช่เหรอ โรคที่เค้าว่ารักษาไม่หายนี่หว่า

โรคที่เพิ่งทำให้ อาที่รักของผม ต้องจบชีวิตลงทั้งที่อายุเพิ่งจะ 26 นี่!

    ผมช็อกมากครับ นั่งนิ่งไปอีกประมาณ 5 นาที แต่เหมือน ราวกับ เราสองคนเงียบกันไป 20 นาที

    ในหัวผมมันมีเพียงว่า

    เพื่อนกูกำลังจะตาย

    เพื่อนกูกำลังจะตาย

    คนที่กูรัก กำลังจะตาย... อีกแล้ว


    *******************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-01-2007 16:02:24
ขยันจังพูห์  จัดเรียงเรื่องใหม่เสร็จแล้วหรือ เอิ้กๆ
สู้ๆ ปีใหม่หนีเจ้านายมาหยุดทั้งที่  ยังต้องมาลงนิยาย
 :laugh:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนี้นะครับทั้งคนเขียนทั้งคนโพส
ขอให้มีแฟนรักมากๆนะ ก็นิสัยดีกันแบบนี้
 :haun6:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 04-01-2007 05:32:22
มาแนวเศร้า แง่ม ๆ จาเสียน้ำตาอีกไหมครับนี่ แหะ ๆ ...  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-01-2007 14:04:06
     ตอนที่ 3
    “ไอ้เบียร์!” ผมร้องขึ้นมาครับ มันมายืนอยู่ข้างหลังแม่มันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย สีหน้ามันตอนนั้น ผมเดาไม่ถูกเลยครับ ว่ามันคิดอะไรอยู่กันแน่

เราสามคนเงียบกันไปพักนึงซึ่งน่าอึดอัดมากๆเลย จนแม่ของมันพูดขึ้นมาว่า

    “ต้น เดี๋ยวต้นจะติวหนังสือให้เบียร์ใช่มั๊ยลูก งั้นแม่ไปโทหาที่บ้านต้นก่อนนะลูกว่าจะกลับดึก” แล้วแม่มันก้อเดินออกไปครับ

    “เดี๋ยวแม่ นี่แม่มาคุยอะไรกับไอ้ต้น” มันถามแม่มันตอนที่แม่กำลังจะเดินสวนมันออกไป หรือว่านี่มันจะยังไม่ได้ยินที่พวกผมคุยกัน

    “แม่แค่เข้ามาขอเบอร์บ้านของต้นแค่นั้นแหละ”

    “ผมให้ไปแล้วนี่”

    “แม่ทำหายไปแล้ว แก่แล้วก้อขี้หลงขี้ลืม งี้แหละ”

    “อืมๆ”

    พอแม่มันเดินออกไป มันก้อเข้ามนั่งข้างๆผม แล้วก้อมองหน้าผม

    “เปนไรวะ ทำหน้าเหมือนขี้ไม่ออก” แล้วมันก้อยิ้มให้ผม

    “ป่าวว่ะ รอมึงอ่ะเบื่อ แม่งไปนาน” ผมตอบกลับไปอย่างนั้นเองแหละครับ ผมไม่กล้ามองหน้ามันด้วยซ้ำครับ “มาดิ่ มาเรียนกัน กุจะได้รีบกลับบ้านซะที”

    “อะไรว้า นานๆได้อยู่กันสองคนที จะรีบกลับทำไมอ่ะ กุเหงานะ” มันทำเสียงเศร้าๆ จนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองมัน...

มันก้มหน้าอยู่แต่สีหน้ามันเศร้าจริงๆครับ นี่เปนครั้งแรกเลย ที่ผมมองหน้ามันแล้วรู้สึก หวั่นไหวมากๆ... นี่มันจะตายงั้นเหรอ มันจะต้องตายงั้นเหรอ...

แล้วมันก้อเงยหน้ามาสบตาผมครับ มันคงเห็นน้ำตาผมที่คลอเบ้าอยู่น่ะครับ มันจึงเอามือมาจับหัวผม แล้วชะโงกหน้ามาพูดว่า

    “เฮ้ย เปนอะไรวะ ต้น”

    “ป่าวนี่ แสบตา แอร์มันเป่าตากุแห้ง”

    “เหรอ งั้นกุไปเบาแอร์ให้” มันจึงลุกไปที่รีโมทแอร์ที่ติดอยู่กับผนังห้องแล้วพูดขึ้นมาว่า

    “ไม่เปนไรหรอกต้น มันไม่สำคัญหรอกว่า ระยะเวลาที่เราคบกันมันจะนานแค่ไหน แต่มันสำคัญที่ เราจะเก็บ ‘สิ่งๆนั้น’ เอาไว้ให้นานเพียงใดต่างหากล่ะ”

    “ไอ้เบียร์!?” ผมตกใจมากเลยครับ ที่มันพูดแบบนั้น นี่มันรู้แล้วหรือไง

    “อืม กูรู้อยู่แล้ว” มันบอกพร้อมกับหันหน้ากลับมา “กูรู้นานแล้วล่ะ จากพี่กูเอง แม่กูเค้าไม่รู้ว่ากูรู้ เค้าจะสบายใจกว่า กูเลยปล่อยให้เค้าคิดแบบนั้นต่อไป”

พอมันพูดจบมันก้อเดินมาหาผมพร้อมกับลูบหัวผมครับ

    “กูไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังมึงนะต้น กูแค่...” แต่ผมจับมือมันออกจาหัวผมครับ ตอนนี้ผมร้องไห้จริงๆแล้ว

    “พอเหอะ เบียร์”

    “เฮ้ยต้น กูขอโทษ กู…” เสียงมันเริ่มสั่นๆแล้ว มันคงคิดว่าผมเคืองมัน แต่ผมไม่ได้รอให้มันพูดอะไรต่อหรอกนะครับ ผมลุกขึ้นแล้วหันไปกอดมันทันที

พร้อมกับปล่อยให้น้ำตามันไหลรินออกมา ผมไม่อั้นมันไว้แล้วครับ ผมไม่แคร์แล้วว่าใครจะว่าผมว่า ผู้ชายร้องไห้เปนเรื่องน่าอาย

กูจะร้อง กูจะร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของมันนี่แหละ จะให้มันรับรู้ว่าผมเสียใจแค่ไหน ให้มันรับรู้ว่าผมรักมันมากแค่ไหน... เรากอดกันนานมากครับ

    ผมไม่อยากเสียมันไปจริงๆ

    กูไม่อยากเสียมึงไป

    กูไม่อยากเสียมึงไป

    กูไม่อยากเสียมึงไป

    “กูไม่อยากเสียมึงไปนะ เบียร์” ผมพูดออกมาในที่สุด

    “กูไม่ไปไหนหรอก” มันพูดพร้อมจับไหล่ผมดึงออกมา มันมองมาที่ตาผมแล้วพูดว่า

    “มึงมองตานะต้น ไอ้ขี้แย” แล้วมันก้อยิ้ม “กูไม่ได้เปนอะไรเลยเหนมั๊ย กูสบายดี แข็งแรงจะตาย

มึงไม่ต้องเปนห่วงหรอกนะ ไป ไปล้างหน้าไป แล้วสัญญา กับกูข้อนึงนะ ว่ามึง จะไม่ร้องไห้เพราะกูอีก”

    “อืม” ตอนนี้ผมหยุดร้องแล้วครับ เพราะมันยังไม่ร้องเลย ผมไม่อยากเปนเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว ของแบบนี้มันต้องร้องทั้งคู่ดิ่ถึงจะได้อารมณ์

    “ไป ไปล้างหน้า”

    พอผมเดินออกมาจากตัวมัน แล้วหันกลับไปมองจึงแอบเหน ว่ามันกำลังช็ดน้ำตาอยู่ครับ มันคงไม่อยากให้ใครเหนความอ่อนแอของมัน

มันคงต้องการจะแสดงให้ผมเหนว่า มันต่อสู้กับโรคนี้มา สาม ปีแล้ว มันทำใจได้และพร้อมที่จะสู้ต่อไป ผมจึงเดินออกมาจากห้องเงียบๆ...

    หลังจากที่ผมสอนเลขมันเส็ด ก้อประมาณทุ่มกว่าๆแล้วครับ ระหว่างที่เรียนกันอยู่เราสองคนก้อไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กันอีกเลย หลังจากการบ้านจบหมด

แม่มันก้อเอาข้าวปลามาให้ผมกับมันทาน พอทานกันเส็ด มันจึงพาผมซ้อนมอไซค์มาส่งผมปากซอย

ตอนแรกผมขอขี่ครับ แต่มันไม่ให้ เพราะมันไม่ไว้ใจ มันบอกว่า

    “ไม่เอาอ่ะ ที่นี่ถิ่นกู กูคุ้นรถคุ้นถนนมากกว่า ไว้กุไปบ้านมึงก่อน ค่อนซ้อนมึง โอเคป่ะ”

    “มึงจะไปเหรอบ้านกุอ่ะ ไกลนะเว้ยย” ผมดีใจมากครับ (แต่เก็บอาการ) ที่มันบอกจะไปบ้านผมน่ะ

เพราะเพื่อนๆผมแต่ละคนไม่มีใครอยากไปสักคน เนื่องจากอยู่ไกลมากกกกกกก

    “เออ ไปดิ่ ถ้าอยากให้กุไปอ่ะนะ เตรียมของแดกรอไว้เยอะๆเลยมึง จะไปถล่มให้หมด 555”

    “เอาเห๊อ ขอให้มาจริงและกัน”
    ...
    พอมาถึงปากซอย มันก้อเดินมาส่งผมขึ้นรถเมล์ พอรถผมมาและผมกำลังจะก้าวขึ้นรถ มันก้อบอกผมว่า

    “คืนนี้ โทหากุนะ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร รถเมล์ก้อปิดประตูแล้วครับ

    และคืนนั้นเอง ที่ผมได้รู้ตัวเองว่า... ผมรักมันเกินเพื่อนไปแล้ว... (รึเปล่า)

*************************************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-01-2007 15:00:51
ตอนที่ 4

ปกติอยู่บนรถเมล์ถ้าผมเหงาๆเบื่อๆ ก้อจะโทคุยกับมันนี้แหละครับ แต่วันนี้ตอนนั่งรถกลับ ผมกลับนั่งนึกถึงแต่เรื่องของมัน

ถามว่าจริงๆแล้ว... ผมก้อสบายใจขึ้นนิดนึงนะครับ ที่ได้เหนรอยยิ้มของมันตอนที่ผมติวเลขให้มัน เราไม่ได้คุยเรื่องนั้นกันเลย

ก้อช่วยให้ผมไม่จมปลักกับความเครียดมากเกินไปจริงๆ ผมยังนึกอยู่ว่าคืนนี้ กุจะโทหามันดีมั๊ย คือ ปกติคุยกันทุกคืนอยู่แล้วนะครับ

แต่วันนี้ มัน...

จะคุยกันเรื่องอะไร ยังไงดีวะ กุจะทำไงดีวะเนี่ย สุดท้ายก้อทนเครียดไม่ไหว ผมกำลังกดโทรศัพท์ หาเพื่อนสนิทผมคนนึงเป็นผู้หญิงครับ ชื่อ ต่าย

แต่... อีกใจก้อไม่อยากโทหาใคร ไม่อยากเล่าให้ใครฟังเพราะรู้ว่า มันไม่ดีแน่ๆถ้ารุ่งเช้าทุกคนรู้เรื่องของไอ้เบียร์หมด

เปนกูกูจะทำหน้ายังไงถ้าเพื่อนๆมารุมถามเรื่องอาการป่วยของตัวเอง ทั้งๆที่กุเองก้อไม่ได้อยากให้ใครคิดว่ากุอ่อนแอกว่าคนอื่นตรงไหน...

แต่เครียดชิบหายว่ะ เอาไงดีวะ คิดไปคิดมาตัเสินใจโทครับ เพราะผมรู้ว่าผมไว้ใจเพื่อนผมคนนี้ได

“เฮ้ย ต่ายเหรอ ทำไรอยู่ป่าววะ”

“เปล่าๆ กำลังนั่งดูทีวีอยู่ มีไรอ่ะ นี่แกอยู่ไหนวะ” มันถามผมครับ คงเพราะเสียงบรรยากาศรอบตัวผม

“อืม กำลังกลับบ้านว่ะ ไปบ้านไอ้เบียร์มา”

“อ่อๆ เออใช่ วันนี้แกไปบ้านมันนี่หว่า เปนไงมั่งวะ”

“แย่ว่ะ” ผมตอบมันไปตามตรง

“อ้าว ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอไงวะ เหนพวกแกรักกันดีจะตาย” มันทำเสียงตกใจ

“ก้อ... เปล่าหรอก” แล้วผมก้อเงียบไปอึดใจนึง

“เฮ้ย แกเปนไรป่าวเนี่ย”

“เปล่าๆ...” แล้วผมก้อนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างนึง

“เฮ้ยต่าย ถามจริงๆดิ่ แกรู้รึเปล่า ว่าเราคุยโทรศัพท์กะไอ้เบียร์ทุกวันเลยเนี่ย”

“อ่ะ ไม่รู้อ่ะว่ะ รู้แต่คุยบ่อย ไม่รู้ว่าคุยทุกวัน”

“แล้ววันๆนึง นี่เราคุยกะมันไม่ต่ำกว่า 2-3 ชม นะ นี่ก้อไม่รู้ใช่ป่ะ”

“เหอะ ไม่อ่ะ แกนี่สวีทกันจังนะ ไอ้ต้น” มันพูดขำๆครับ ผมก้ออดนึกขำไม่ได้

“แกว่า มันแปลกป่าววะที่เราคุยกะมันขนาดนั้น” ผมถามไปตรงๆครับ

เพราะตอนนี้ผมเริ่มรู้สึก แปลกๆ แล้ว เพราะผู้ชายคุยโทรศัพท์กันนานขนาดนั้นนี่... มันผิดวิสัยไปรึเปล่า

“เอาจริงๆนะ เราว่าไม่นะ แต่ก้อไม่แน่เหมือนกัน เพราะเราว่า ปกติผู้ชายมันจะเอาเรื่องอะไรมาคุยกันขนาดนั้นอ่ะแก ไม่ใช่ว่าคุยจีบสาว

 หรือคุยกะแฟนสักหน่อย แต่เราเดาว่าแกก้อคงคุยกันเรื่องผู้หญิงที่ไอ้เบียร์มันจีบอยู่ใช่มั๊ยล่ะ งั้นก้อคงไม่แปลกหรอก ที่จะคุยกันนานอ่ะนะ”

มันพูดมาก้อเกือบถูกครับ ถูก แต่ไม่ทั้งหมด ผมคุยกับมันนี่สารพันเรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรมั่ง เยอะแยะไปหมด ไปสรรหาอะไรมาคุยนักไม่รู้

แล้วถ้าคุยเรื่องคนที่มันจะจีบ จะคุยเหี้ยอะไรทุกวันๆวะ บางวันวันละ 3-4 หน

“อืมๆ ก้อเออดิ่ แม่งชอบเครียดเรื่องคนที่มันชอบอ้ะ” ผมก้อตอบไปงั้นแหละ

“เออ แล้วที่แกทำเสียงเครียดเนี่ย เรื่องนี่เหรอไงวะ เปนไรวะ ไม่เหนน่าเครียดเลย”

“เปล่า... ต่าย แกอย่าบอกใครได้มั๊ยเรื่องที่เราจะบอกแกนี่อ่ะ”

“อืมๆ ได้ดิ่” แล้วผมก้อเล่าให้มันฟังทั้งหมดตั้งแต่ที่แม่มันมาหาผมครับ มันดูตกใจมากๆพอๆกันกับผมทีเดียว

แต่เราก้อคุยกันว่า เราจะไม่บอกใครอีกและไอ้ต่ายก้อจะทำตัวปกติเหมือนไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย จนกว่าผมจะบอกเบียร์ครับ ว่าไอ้ต่ายรู้แล้ว...

หลังจากวางโทรศัพท์กับต่าย ผมก้อยังคิดๆอะไรอยู่ เลยกดโทรศัพท์ส่งเมสเสจหาไอ้แบงค์ครับ ว่า ...

ผู้ชายคุยโทรศัพท์กันทุกวัน เรียกว่าไรวะ?...

3 นาทีถัดมามันส่งกลับมาครับ...

“เกย์”

สาดดด ทำกุเครียดเลย ไอ้เชี่ยย ตกลงกุเปนไงวะเนี่ย

พอกลับถึงบ้านก้อ 4 ทุ่มกว่าๆแล้วครับ หลังจากอาบน้ำ เรียบร้อยก้อหยิบโทรศัพท์บ้านขึ้นมา

จะกดจะกดจะกด อยู่ประมาณ 5 นาที

หยิบวาง หยิบวาง อยู่อีก 5 นาที

จนสุดท้ายตัดสินใจไม่โทรครับ เพราะทำตัวไม่ถูกจริงๆไม่รู้จะคุยอะไร

แต่เดี๋ยวก่อน

ปกติกุก้อโทหามันทุกวันอยู่แล้ว ทำไมวันนี้มันต้องบอกกุว่า ให้โทไปหามันด้วยวะ

คิดได้แค่นั้น ก้อตัดสินใจโทเลยครับ

“ฮัลโหล เออกุถึงบ้านและนะ”

“อืมๆ นานจัง”

“เปล่าหรอก ถึงได้สักพักแล้ว อาบน้ำด้วย ทำนู่นทำนี่อีก เลยกว่าจะได้โทหามึงก้อนี่แหละ”

“เปล่า ก้อที่ว่านานเนี่ย หมายถึงนานจังกว่าจะโทมา”

“อ้าว อะไรวะ รู้ได้ไงว่ากุทำอะไรนานกว่าจะโทหามึงอ่ะ”

“ไม่บอก กุเก่ง” น่านน มีกวนส้นตีนอีกนะ

แล้วผมก้อคุยกับมันไปเรื่อยๆอ่ะครับ ก้อมีเรื่องผู้หญิงของมัน ผู้หญิงของผม แล้วก้อเรื่อยๆเปื่อยๆ ผ่านไปอีก ชม ครึ่ง

 จากนั้นผมกับมันก้อเงียบไปแปบนึง

“เบียร์” ผมเริ่ม

“เรื่องมึงอ่ะ มีใครรู้บ้างรึเปล่านอกจากกู”

“เอ่ออ.. ก้อมีว่ะ” มันทำเสียงอึกอักๆ พอผมได้ยินอย่างนั้น

แรกๆก้อแอบๆเคืองนะครับ แม่งนึกว่ากุคนแรก นึกว่ากุสำคัญสุดประมาณนั้น คิดแบบเด็กๆน่ะครับ

เสือกคิดไปอีกว่า อ้าวงี้ก้อมีคนกอดมันร้องไห้ ก่อนกุแล้วดิ่

“เหรอ ใครอ่ะ” ผมถามมัน เสียงเรียบๆครับ

“ไอ้แบงค์น่ะแหละ มันรู้ตังแต่มอสองแล้ว” อ้าวว สาดดดด ไอ้แบงค์ซะงั้นอ่ะ

“อ้าว แล้วมันรู้ได้ไงอ่ะ” ผมสงสัยครับ ตั้งแต่มอ2 เนี่ยนะ แถมใครบอกมันวะ ไม่ใช่ไอ้เบียร์แน่ๆ

“ก้อบ้านมันอยู่ใกล้บ้านกุอ่ะ มันมาหากุ แม่กุก้อเลยบอก”

“อ่อ อืม” ผมก้อถึงบางอ้อ แม่มันนี่เอง กุก้อว่า

“แล้ว... มึงรู้ตัวเมื่อไหร่วะเบียร์”

“ตอนมอ 3 ว่ะ ช่วงนั้นกุ เอ่อ.. กุสูบบุหรี่ แล้วพี่กุจับได้ เค้าก้อร้องไห้ใหญ่หาว่าทำไมไม่ดูแลตัวเอง อยากตายรึไง กุก้อไม่รู้หรอกว่า ทำไมต้องขนาดนั้น

 ตอนนั้นที่บ้านเค้าบอกว่ากุเปน ภูมิแพ้ กุก้อเถียงเค้าว่า แม่ยังสูบได้เลย แล้วกุก้อไม่ได้เปนภูมิแพ้บุหรี่สักหน่อย

เค้าก้อเลยบอกความจริงกุ แล้วก้อกำชับว่า อย่าให้แม่หรือพ่อรู้ ว่ากูรู้แล้ว”

“อืมม...” ผมอึ้งๆครับ ถ้าเปนผมเองมารู้ความจริงว่า ผมเปนโรคนี้ ผมจะเปนยังไงเนี่ย คงเครียดจนบ้าแน่ๆ

“แล้วตอนนี้ ยังสูบอยู่รึเปล่าล่ะ”

“เฮ้ย เลิกแล้วดิ่” มันตอบผมครับ...

“ดีแล้วล่ะ ดูแลตัวเองนะเว้ย...”

“ครับผม รับทราบครับ” มันทำเสียงแบบนายทหารรับคำสั่ง ล้อเลียนผมครับ

“ไอ้บ้า!” ผมด่ามัน กวนตีนจิงๆไอ้บ้านี่ แล้วเราก้อเงียบกันไปอีกพักนึง ผมจึงสารภาพกับมัน

“เบียร์ กุบอกมึงตามตรงนะว่ากุเครียดมากวันนี้ ตอนนังรถกลับน่ะ กุเลยโทหาไอ้ต่าย แล้ว...

เอ่อ เล่าให้มันฟัง จะได้มั๊ยวะ มึงจะโกรธกูป่าวอ่ะ แต่กูกำชับมันไว้แล้วนะ ว่าไม่ให้บอกใคร”

“อืมม” มันอืมครับ หลังจากมันเงียบไปนิดนึง ผมใจไม่ดีเลย

“ไม่เปนไรหรอก อย่าให้คนอื่นรู้ก้อแล้วกัน กุไม่อยากให้มันเปนเรื่องใหญ่”

“ได้ กุไม่บอกใครหรอก ไอ้ต่ายก้อเหมือนกัน” ผมรับคำมัน หลังจากนั้นก้อเงียบกันไปพักนึง

ไอ้เบียร์มันเปนคนดื้อครับ มันเปนคนแข็งแรงมาก (เชี่ยแม่ง ล่ำซะขนาดนั้น) ใครจะไปนึกว่ามันจะป่วยเปนอะไรได้ และไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น

จิตใจมันก้อด้วย มันไม่อยากยอมรับว่าตัวมันป่วย มันไม่ชอบคิดว่ามันน่ะ จริงๆแล้ว อ่อนแอ ดังนั้นมันเลย ไม่ชอบที่จะมีใครมาแสดงความเปนห่วง

ห่วงใยมันเหมือนมันเปนคนอ่อนแอ กว่าคนอื่นๆเขา เพราะงั้นถ้า มีคนรู้มากขึ้นเมื่อไหร่ แล้วใครต่อใครพากันมองมันด้วยความสงสาร

 หรือแสดงความห่วงใยมันมากกว่านี้ มันคง โมโหมากแล้วเปลี่ยนเปนคนละคนกับที่มันเปนอยู่แน่นอน กลายเปนคนที่ผมเคยสัมผัสมาหนนึง

และขอบอกว่า ส้นตีนมากก ...

“เฮ้ย ต้น กุง่วงแล้วว่ะ” มันเรียกผมจากภวังค

“หา อืมๆ ไปดิ่ไปนอนดิ่ ว่าแต่จะไม่โทหาเด็กมึงก่อนเรอะ”

“ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจ คุยกะมึงคนเดียวก้อพอและ” ผมตกใจครับ ที่มันพูดแบบนั้น

เพราะปกติ แม่งเปนคนแข็งยังกะหิน ไม่เคยหรอกครับ ความอ่อนหวาน ปากหวานๆน่ะ ตรงข้ามกับผมที่เปนคนที่คิดอะไรก้อทำอย่างนั้น

แต่วันนี้จะว่าไป มันก้ออ่อนกับผมเยอะเหมือนกันนะ

“หา อะไรนะ” ผมทวนคำมันครับ เพราะไม่เชื่อหุตัวเอง

“เปล่าๆ ไม่มีไร”

“เฮ้ย เอาจริงๆดิ่ อะไรวะ”

“เปล่าๆ ก้อบอกว่าเปล่า ไอ้เหี้ยนิ” ผมก้อตื้อมันอยู่สักพักครับ แหย่มันเล่นแล้วก้อเลยไล่มันไปนอน

“ไป ไปนอนเหอะมึง รีบๆนอนแล้วมาเช้าสักวันเหอะ บ้านก้อใกล้แม่ง ตื่นซะสาย ส้นตีน”

“เออๆน่า บ้านกุใกล้ไม่บ้านนอกเหมือนมึงนิ”

“เอ๊ะ ไอ้เหี้ยนี่ กวนตีนและ” ผมก้อแหย่ๆมันเล่นงี้อีกสักพัก

“ไอ้เบียร์...” ผมเรียกมัน

“อะไรวะ เรียกแล้วไม่พูด กุง่วงนะเว้ย”

ตอนนั้นมันเปนไรไม่รู้ครับ เปนครั้งแรกที่ผมเคยพูดคำๆนี้ออกมาในชีวิตทีเดียว อะไรหลายๆอย่าง มันบินเข้ามาในหัวผมทำให้ผมพูดคำนี้ออกไป

“………........……กูรักมึงนะ”
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 07-01-2007 15:41:21
สนุกมากเลย มาต่อไวๆนะครับ

รอครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 07-01-2007 23:04:07
จะรออ่านนะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-01-2007 10:09:36
ตอนที่ 5
พอผมหลุดออกไปเท่านั้นแหละ ตามันมั่งเลยครับ
   
“หาๆ อะไรนะ เมื่อกี๊มึงว่าไงนะ!”
   
“เปล่าๆ มึงไปนอนเห๊อะ ไป๊ โชคดีๆ ฝันดีเว้ย” แล้วผมก้อวางเลยครับ เช็ดแม่ตอนนั้นโคตรอายเลย ไม่ใช่แค่ผมพูดกับผู้ชายเท่านั้น แต่ดันเป็นมันด้วยดิ่

ผมก้อไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกุต้องเขินขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย ทำเหี้ยไรไม่รุจักความอายมาก้อหลายอย่างแต่ทำไม...

โอ๊ยยย พรุ่งนี้เจอหน้ามันจะทำไงวะ ถ้าแม่งเซ้าซี้ถามเรื่องคืนนี้ กุจะตอยว่าไงวะ...

คิดไปต่างๆนาๆครับ พยายามไม่คิดเรื่องที่มันไม่สบาย แล้วก้อนอนหลับไป...

วันรุ่งขึ้น เจอหน้ามันที่ รร ทุกอย่างก้อเหมือนเดิมครับ กอดทักกันตอนเช้า แค่นั้น

ปกติอยู่ในห้องผมก้อไม่ได้เกาะติดกับมันแจหรอกนะครับ อย่างที่เคยบอกน่ะแหละ ว่ามันเป็นเหมือนจุดรวมของเพื่อนๆเลย

มีเพื่อนมาติดมันก้อเยอะ แล้วผมมันประเภทชอบทำอะไรสวนกระแส

วันนี้ก้อเลยเหมือนไม่ค่อยได้คุยกับมันมากกว่าวันอื่นๆด้วยซ้ำ ก้อไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเปนอะไรให้ตายเหอะ

ปกติมันก้ออย่างนี้อยู่แล้วนี่หว่า แต่วันนี้เหนมันไปคุยกับคนอื่น ดูสนิทสนมกับไอ้ชัย แล้วผมหงุดหงิดๆว่ะ

ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเปนอะไร มันก้อคงดูออกแหละครับ

แต่มันก้อมีเข้ามาทักผมนะ แต่ผมก้อตอบเปล่าไม่มีไร แม่งก้อเลยไม่สนใจผมเลย

อย่างที่บอกแหละ ว่าแม่งปกติแข็งอย่างกับหิน ไม่ค่อยแคร์อะไรใครเท่าไหร่หรอก นิสัยมันก้องี้แหละครับ เดายากชิบหาย
   
วันนี้ตอนพักเที่ยงผมไม่ได้ไปกินข้าวกับเพื่อนๆครับ เพราะไม่หิว ไม่อยากด้วย

นั่งอ่านการ์ตูนไปเรื่อยเปื่อย (ตอนนั้น love hina มาแรงมาก) แล้วเลยได้คุยกับ ต่าย แปบนึง เรื่องไอ้เบียร์ครับ

ต่ายมันก้อคิดเหมือนกันว่า อย่าเพิ่งคิดอะไรให้มากไปเลย แค่ตอนนี้มันยังแข็งแรง ร่าเริงดี ก้อป่วยการที่จะไปนั่งคิดว่ามันจะตาย เหมือนแช่งมันเปล่าๆ

ก้อจริงนะครับ มันน่ะดูให้ตายก้อไม่คิดว่าแม่งจะเปนได้แม้แต่หวัด และผมก้อไม่ได้เผชิญเรื่องนี้เปนครั้งแรกด้วย

ปู่ของผมจากโลกนี้ไปเมื่อปีก่อน ตา เมื่อ 2 ที่แล้ว และอาของผม เมื่อ 3 ปีก่อน ทุกคนล้วนเป็นโรคร้ายกันทั้งสิ้น

แต่ผมก้อทำได้แค่ดูแล และใช้เวลาอยู่กับพวกเขาให้นานที่สุด ตอนนั้นผมเองก้อไม่เคยคิดว่า เค้าจะต้องตาย สักคน มันเหมือนกับแค่...

เมื่อถึงเวลาที่มันจะมา เราถึงจะรู้ตัวนั่นแหละครับ ผมไม่ได้เครียดตลอดเวลาที่พวกท่านทั้ง 3 คนป่วยหรอก

มันนอกจากจะไม่เปนการให้กำลังใจกับพวกเขาแล้ว ยังเปนการบั่นทอนกำลังใจตัวเองและคนรอบข้างด้วย ซึ่งต่ายมันก้อคิดเหมือนผมครับ...

คุยกันจบ ต่ายมันก้อไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ซึ่งตอนแรกมันจะอาสาอยู่เปนเพื่อนผม แต่ผมบอกไม่ต้อง เพราะผมไม่ได้เปนอะไรจริงๆ มันก้อโอเค แล้วลงไป

    “ต้น” มีเสียงหนึ่งดังขี้นมาตรงหน้าผม

    “หือ อ้าว ทำไมวะ กลับมาเร็วจัง” ผมตอบกลับ ไอ้เบียร์นั่นเองครับ “แล้วขนมปังนี่...”

    “อืม กูซื้อมาเผื่อมึงเอง เดี๋ยวก้อหิวหรอก ปกติก้อผอมจะตายห่าอยู่แล้ว” แม่งซื้อมาเพียบเลยครับ ทั้งขนม ทั้งน้ำ

    “โห ไอ้บ้า เยอะชิบหายกุกินไม่หมดหรอก แต่... ถ้าเลี้ยงแบบนี้ กุสามารถว่ะ 555” ผมตอบพร้อมกับแกะถุงดูว่ามีอะไรมั่ง

    “เฮ้ยๆๆๆ จ่ายตังดิ่ ไอ้บ้า 85 บาทถ้วน” แม่งรีบแย้งเลยครับ

    “โห เฮ้ยไรวะ แค่นี้เก็บตังด้วย แถมซื้อมาตั้งเยอะ ไม่เอาอ่ะ ไม่แดกหรอกว่ะ กุไม่หิว”

    “แดกซะดีๆ กุอุตส่าห์ซื้อมาให้ อย่ามาเรื่องมาก” มันเริ่มทำหน้าดุใส่ผม ผมก้อเริ่มฉุน

    “เปนเหี้ยไรอีกอ่ะ กุขอร้องให้มึงซื้อมารึไงวะ สัดนี่” ผมยังพูดน้ำเสียงเรียบๆตามเดิม

    “เออ ไม่แดกก้อไม่ต้องแดก” แล้วมันก้อลุกไปครับ พร้อมเอาถุงขนมไปด้วย แล้วแม่งก้อโยนทิ้งออกนอกหน้าต่างเลยครับ แล้วผมเรียนอยู่ ชั้น 8 นะน่ะ

    “เฮ้ย! มึงทำเหี้ยไรวะ!!” ผมถามมัน ตกใจกับพฤติกรรมมันมาก

    “เหนกุทำเหี้ยไรล่ะ คนไม่แดก ก้อให้หมามันแดกไปดิ เงินกุกุจะทำไรก้อเรื่องของกุ” มันเน้นคำว่า เรื่องของกู ด้วย

    ผมงี้ฉุนสัด แต่ก้อเฉยๆ หันกลับมาอ่านหนังสือต่อ ส่วนมันไปไหนแล้วไม่รู้ครับ แต่ท่าทางน่าจะไปห้องน้ำ

    จนเพื่อนเริ่มกลับมา และไอ้บาส ก้อมานั่งข้างผมเบียร์รียมเรียนวิชาต่อไป

    “เมิงเปนไรวะไอ้ต้น” มันถามผมครับ

    “เออ ไอ้เชี่ยเบียร์แม่งผีเข้า” แล้วผมก้อเริ่มเล่าให้มันฟัง

    “อืมๆ เด๋วกุไว้ไปถามๆมันดูแล้วกัน ว่าแม่งเปนไงมั่ง”

    “เฮ้ออ มึงอย่าไปยุ่งกะมันเลย แม่งไม่ชอบให้ใครมายุ่งหรอก เด๋วแม่งก้อหาว่ากุเอาเรื่องของแม่งมานินทาให้มึงฟังอีกอ่ะ” ครับ

    นี่คือความจริงว่า ผมมีอะไรก้อเล่าให้เพื่อนฟัง (ถ้ามันไม่ใช่ความลับหรือเรื่องอะไรที่ไม่สมควรเล่าอ่ะนะ)

    แต่ไอ้เบียร์นี่จะตรงกันข้ามครับ ให้ตายแม่งก้อไม่เคยเปิดปากเล่าอะไรให้ใครฟังหรอก

    “เออน่ะ กุรู้น่าว่าจะทำไง” ไอ้บาสยังยืนยันครับ พร้อมทำหน้าตาเหมือนเปนเรื่องสนุก ผมก้องงๆ ว่าแม่งอะไรวะ

    พอถึงเวลาเปลี่ยนคาบที่ต้องเดินไปเรียนที่ห้องแลบชีวะเท่านั้นแหละ ไอ้บาสก้อเริ่มเลย

    “เฮ้ย เอาแม่เนี่ย ตอนกูเดินจะไปขี้ ที่ห้องน้ำหลังตึกอ่ะ แม่งอยู่ดีๆมีถุงขนม แม่งตกมาตรงหน้ากูเลยเว้ย นมเนิมงี้แตกกระจาย!

    กูโคตรงงเลย แต่แม่งดูจากความรุนแรงแล้ว น่าจะมาจากชั้นสูงๆชั้น 6 ไปว่ะ ไม่รู้ใครแม่งเล่นห่าไร ตกมาแถวๆห้องเราเนี่ยแหละ”

    พรืดดดด!!! พอผมได้ยินมันฝอยปุ๊บ ผมงี้ขำแทบน้ำตาเล็ด เพื่อนคนอื่นก้อขำนะ

    แต่ คนที่ขำสุดๆ คงไม่พ้นผมเนี่ยที่รู้ความจริง ว่าแม่ง แหล ทั้งเรื่อง แล้วมันก้อตั้งต้นเล่าเปนเรื่องเปนราวเลยครับ

    ผมเลยได้ดูปฎิกิริยา จากไอ้เบียร์ไปด้วย หน้ามันนิ่งๆครับ ผิดสังเกตจากคนอื่น ที่หัวเราะงอหายกับเรื่องราวของไอ้บาส

พอหันมาที่คนเล่าเรื่องอีกทีก้อได้ยินมาว่า

    “แม่ง นมแม่งกระเด็นมาโดนกูด้วยดิ่ หน้าแข้งกูงี้เปรอะหมดอ่ะ สาดด!!” เอ๊า ไปกันใหญ่แล้วครับ

    “ถ้ากูรู้นะว่าใครทำแม่ง...” มันเว้นไปครับ ทำหน้าแบบว่าเอาเรื่องสุดๆ

    “กูจะให้มันซื้อขนมปังให้กูแดกทั้งแบงค์ตย์เลย สาดดด รวยนักนะมึง”

แล้วผมก้อต้องตกใจที่ไอ้บาสมันหันมามองไอ้เบียร์แบบเต็มๆแล้วทำหน้ามีเลศนัยอีกต่างหาก

    พอถึงห้องชีวะ ไอ้บาสกับไอ้เบียร์มันนั่งกลุ่มเดียวกันครับ ผมแอบเห็นมันนั่งคุยกันหน้าเครียดๆสองคน

    แต่ก้อไม่ได้พยายามคิดอะไรมากจนเลิกเรียน กำลังเดินกลับห้อง ไอ้บาสเดินมาข้างๆผมแล้วบอกกับผมว่า “คุยแล้ว” แล้วมันก้อเดินไป

    พอเลิกเรียน ผมถึงได้รู้ความจริงว่า ขนมปังที่มันซื้อมาตั้งเยอะนั่นน่ะ ไอ้เบียร์มันไม่ได้ซื้อมาให้ผมคนเดียวครับ มันตั้งใจจะมากินกับผมด้วย!

    มันก้อไม่ได้กินข้าวเที่ยงเหมือนกัน ข้าวเช้ามันก้อไม่ได้กิน

    มันขอตัวไม่ไปกินข้าวกับเพื่อนเพื่อไปต่อแถวซื้อขนมปังมาให้ผม และตั้งใจว่าจะมานั่งกินด้วยกันบนห้อง

    พอผมบอกว่า “กุไม่ได้ขอให้มึงซื้อมา” มันก้อเลยโมโหมาก ที่มันเปนห่วงผมแต่ผมกลับพูดจาหมาไม่แดกใส่มัน...

    พอผมรู้แล้วก้อ ตายห่า ชิบหายแล้วกู ผมก้อเครียดๆไปนิดนึงเลยครับ แม่งเหนเราไม่ค่อยได้คุยกันวันนี้เพราะไอ้ชัยเกาะติดมันแจ

   มันเลยตั้งใจหนีมาเพื่อจะได้กินข้าวกับผมสองคนงั้นเหรอ

    แล้วเลยนึกไปถึงที่มันเคยพูดที่บ้านว่า “ไม่ค่อยได้อยู่กัน 2 คนแบบนี้นะ” ขึ้นมา ผมก้อเคืองตัวเองมากเลยครับ

    ทำไมกูงี่เง่าอย่างนี้วะเนี่ย ไอ้บาสเห็นผมเครียดมันก้อเลยพูดขึ้นมาว่า

    “เฮ้ย ไม่เปนไรน่ะมึง มันไม่ได้เคืองมึงแล้ว มันบอกมันแค่โมโหหิวอ่ะ”

    “เออ แล้วมึงไปคุยกับมันยังไงวะเรื่องเนี๊ย” ผมก้อนึกสงสัยขึ้นมา ว่ามันไปเริ่มคุยอีท่าไหน ไอ้บาสก้อทำท่ายักไหล่

    “กุก้อแค่ เข้าไปกระซิบมันว่า กุรู้นะว่าจริงๆแล้วเปนมันที่โยนขนมปังลงมา เพราะจริงๆแล้วกุเหนหน้าต่างที่ถุงหล่นลงมาว่าเปนห้องเรา
 
    แล้วกุก้อรู้ไงว่า มันแยกจากพวกกุไปไม่ได้กินข้าว แล้วมันจะไปไหน กุก้อเดาๆเอา แล้วเลยเค้นเอาความจริงจากมัน
   
    กุก้อเลยทำท่าไปประมาณว่าขอค่าปิดปาก ก้อเลยได้คุยกัน เอาน่าๆ กุเก่งกุบอกแล้วไง”

    เอาเหอะ ผมก้อทึ่งกะมันตั้งแต่เล่นลพครลิงแล้วล่ะครับ แม่งประสาทแดกไอ้บ้านี่ สนุกของมันไปเรื่อย
 
    “แล้วทำไมมึงต้องแต่งเรื่องเล่าให้ทุกคนฟังด้วยวะ” ผมถามมัน

    “ไม่มีไรอ่ะ สนุกๆ เอาน่าๆ เหมือนใช้มัดตัวมันไง ว่ากุเหนจริงๆนะเว้ย นมเปื้อนกุด้วยซ้ำไปเนี่ย” แล้วมันก้อชูหน้าแข้งขึ้นมาลูบๆ จนผมอดขำไม่ได้…

    “ฮัลโหล ไอ้เบียร์ มึงอยู่ไหนวะ” ผมโทหามันครับ

    “อยู่บ้าน เพิ่งถึงบ้าน” เสียงมันราบเรียบมากจนเกือบจะเรียกได้ว่าแข็งทื่อเลยแหละครับ

    “เหรอ ทำไรอยู่อะ”

    “เปล่า ไม่ได้ทำไร มีไรป่ะ”

    “เปล่าไม่มี ไม่มีโทมาไม่ได้เหรอไงวะ” ผมเริ่มฉุน (อีกแล้ว) ที่มันกวนตีนผม

    “เปล่า”

    “เออ งั้นมึงทำไรก้อไปทำเหอะ กูขอโทษที่โทมากวนมึงแล้วกัน กูผิดเองอ่ะ แค่นี้นะ” แล้วผมก้อวางเลยครับ

    โอ๊ยยยยยยยยยยยยย นี่กุเปนเหี้ยไรเนี่ย จะโทไปขอโทษมัน เสือกกลายเปนโทไปหาเรื่องทะเลาะกับมันอีก

    ตอนนั้นอารมณ์หมาไม่แดกสุดๆ ไม่อยากกลับบ้านเลยเว้ยย ผมเลยเดินเล่นอยู่ห้างใกล้ๆ รร อีกนานจนจิตใจเริ่มสงบลงนั่นแหละครับ

    ถึงกลับบ้าน แต่เวลาก้อปาไป จะทุ่มนึงแล้ว...

    ตกลง กูกับมันนี่ เป็นยังไงแน่วะ เรื่องไหนเรื่องจริงกันแน่วะเนี่ย ผมสับสนตัวเองมากๆครับตอนนั้น

    ทั้งเรื่องที่มันป่วย เรื่องที่มันทำดีกับผมที่บ้านมันนั้น เรื่องที่ผมพูดไปว่า รักมัน เรื่องที่มันไม่สนใจผมเลยในห้อง เรื่องที่มันซื้อขนมมาให้
 
    แต่ก้อยังกวนตีนตอนผมโทไปหา แล้วก้ออะไรอีกหลายๆๆๆๆอย่างที่ผ่านๆมา... นี่มันยังไงกันแน่เว้ยยยยยยย!! กุจาทำไงดีเนี่ยย!!!
    ....................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-01-2007 12:51:14
โอ้ย อ่านแล้วปวดจาย คนใจร้าย
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 08-01-2007 15:29:46
มาต่อไวๆนะครับ สนุกมาๆเลยครับ

อิอิ

จะรอนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 08-01-2007 16:13:05
 :myeye: รออ่านต่อ ๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 08-01-2007 21:08:55
 :yeb:งอนกันไปงอนกันมา นี่แหละนะที่เค้าเรียกว่ารสชาติของความรัก หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 08-01-2007 22:31:09
มาต่อไวดีจัง   :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-01-2007 15:44:37
ตอนที่ 6

    สองคืนติดกันแล้วครับ ที่ผมนั่งรถกลับบ้านดึกๆแล้วเครียดเรื่อง “ไอ้บ้า” นั่น...

     ตลกดีนะครับ ผมเลยนึกแปลกใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอหาต่าย ไหนๆก้อไหนๆ ทำให้มันเหมือนเดิมไปเลยและกันวะ แล้วผมก้อเล่าให้มันฟัง

    “เฮ้ย แกจะเครียดทำไมเนี่ย” อ่ะนะเพื่อนกูถามเหี้ยไรเนี่ย

    “อ้าว เมิงงง ให้กุดีใจดีมั๊ยล่ะที่กุทะเลาะกะเพื่อนสนิทตัวเองอ่ะ หรือจะให้กุรู้สึกเฉยๆ ไอเบ้า ก้อเพื่อนกันนะเว้ยกุก้อรู้สึกแย่ดิ่” ผมก้อสวนเลย

    “เออ ดีและ ที่แกพูดมา ได้ยินคำพูดตัวเองรึเปล่าล่ะ ว่าพูดอะไรออกมา” มันสวนกลับซะงั้นอ่ะ

    “หา เอ่อ ทำไมวะ” ผมยังโง่อยู่

    “ต้น แกฟังเราให้ดีๆนะเว้ย แกพูดเองว่าแกเครียดเรื่องมัน เพราะแกสนิทกับมัน แล้วแกคิดว่ามันจะเครียดเรื่องแกมั๊ยล่ะ

    เออ แกไม่ได้เครียดอยู่คนเดียวหรอกนะ แน่นอนว่ามันก้อต้องก้อเครียด เพราะแกก้อเพื่อนสนิทมันเหมือนกัน

แถมคงเครียดกว่าแกอีกด้วยที่แกทำร้ายจิตใจมันอ่ะ

    หรือถ้ายิ่งกว่านั้นมันอาจจะเครียดที่ทำให้แกเครียดอีกด้วยซ้ำ ยิ่งกว่าแกสองเท่านะเว้ย” พอมันพูดจบผมก้ออึ้งๆครับ แต่ก้อยังดื้ออยู่

    “แต่ แต่ว่า กุไม่เหนมันจะเครียดเลย นิสัยอย่างมันอ่ะนะจะมาสนใจเรื่องของกู แล้วทำไมตอนกุโทไปมันพูดจาหมาไม่แดกใส่กูวะ”

ผมยังยืนยันว่า กุถูกๆ มันผิดอยู่

    “เฮ้ออ ไอ้บ้า มัวแต่คิดเล็กคิดน้อย ถ้าคนมันกำลังอารมณ์ไม่ดี มันคงจะรับโทรศัพท์แกพร้อมร้องเพลง เอบีซี ไปด้วยมั๊งมึง”

     อ่ะนะ ผมก้ออดขำไปกับที่มันพูดไม่ได้ แต่ก้อจริงของมันนะ เปนผมผมก้อคงทำน้ำเสียงไม่ดีอยู่และมั๊ง

    “แล้วแกจะให้เราทำไงอ่ะ ให้โทไปหามันอีกรึไง ทำไมแม่งไม่เปนฝ่ายโทมาหากุมั่งล่ะวะ” ผมเริ่มน้อยใจ

    “นี่ไอ้ต้น เราจะบอกว่า เวลาคนเราต้องการที่จะคืนดีกับใครสักคนอ่ะนะ บางครั้ง เราก้อเปนฝ่ายที่ต้องยอมอ่อนลงบ้าง

    เรารู้ว่านิสัยแกมันตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ่อนให้ใครง่ายๆ แต่ถ้าแกไม่อ่อนลง แล้วยังมาเครียดแบบนี้ ก้อไม่ต้องแคร์มันไปเลยดิ่

    ทำได้ป่ะละ ไม่ต้องแคร์มันเลยน่ะ ไม่ต้องคิดไม่ต้องสนใจ เพราะแกไม่ผิด ทำได้มั๊ย” อึ้งเลยครับ
    .........................
    “ฮัลโหล ทำไรอยู่ป่าว”

    “เปล่า นั่งดูทีวีอยู่”

    “อืม กินไรยังอ่ะ”

    “กินแล้ว มึงอ่ะ แล้วถึงบ้านนานยัง”

    “กินแล้วว่ะ เพิ่งถึงได้สักพักเนี่ย”

    “อืม ดีแล้ว”

    “…เบียร์ กูขอโทษนะวันนี้อ่ะ”

    “อืม ไม่เป็นไร” (หาาา! แค่เนี๊ยยนะ?)

    “อ่ะอืม”

    “...”
    “กู กูไม่รู้อ่ะว่ามึงไม่ได้แดกข้าวมาด้วย กูไม่ได้ตั้งใจจะพูดว่ามึงนะเว้ย”

    “อืม ไม่เปนไร ช่างมันเหอะ ไอ้บาสบอกเหรอ”

    “อืม โทดทีว่ะ”

    “บอกแล้วไง ว่าไม่เปนไร เชียนี่ ขอโทษอยู่ได้”

    “เออๆ สาด อุส่าขอโทษยังทำเล่นตัว”

    “เออ มีไรป่ะละ มึงผิดนิ กูไม่ผิด”

    “เออๆๆๆ กวนตีนนะมึงเนี่ย เด๋วพัดด่า”

    “5555”

    “อ่ะนะ สัดนี่ ขำซะงั้นอ่ะ มึงจะไปดูทีวีต่อมั๊ยกูจะได้ไม่กวน”

    “เออ งั้นกูไปก่อนนะ บาย” (เฮ้ย แค่นี้เนี่ยนะ ไรวะแม่งไม่มีเยื่อไย)

    “เออๆ บาย”
    ..........................

    “ฮัลโหลครับ?”

    “เออ ทำไรอยู่”

    “นอนฟังเพลงอ่านการ์ตูนกินขนมว่ะ”

    “โหไอ้ขี้เกียจ เด๋วก้ออ้วนหรอกมึง”

    “อ้าว ไหนบอกกุผอมไง ที่งี้มาห่วงว่ากุจะอ้วน”

    “เปล๊า ใครเขาห่วงมึง ไอ้ตูด”

    “อ้าวไอ้เชี่ย ตูดมึงอ่ะดิ่หล่อได้ขนาดนี้”

    “ถุยไอ้หน้าตูด มึงอ่ะมันก้อหล่อได้แค่ระดับตูดกุไง 5555”

    “อ้ายสัดนิ ถ้ามึงจะโทมาด่ากุนะ วางเลยดีกว่าป่ะ แล้วนี่ดูทีวีจบแล้วเรอะ ไม่คิดว่าจะโทมาหากูนะเนี่ย สงสัยคืนนี้ฝนจะตก”

    “เออ จบแล้ว ไม่มีไรทำว่ะเลยโทหามึง โทกลับหน่อยดิ่ กุไม่อยากใช้ pct โทเข้ามือถือ เปลือง”

    “เออๆ เด๋วกุโทกลับ รอแปบนึง”
    ............................

    ในที่สุดครับ ในที่สุดผมกะมันก้อคุยกันปกติ ดีใจชิบหายยยย เดินลงบันไดมาหน้าอย่างยิ้ม จนแม่ถาม “แฟนโทมารึไง ยิ้มอยู่ได้”

หุหุ ตอนนั้นรู้สึกดีกว่าแฟนจริงๆโทมาซะอีกด้วยซ้ำ...

    “ฮัลโหล เออว่าไง”

    “อืม โทกลับเร็วดีนี่หว่า”

    “อ้าว กูก้อแค่เดินลงมาแล้วกดเบอ ทำไมจะช้าวะ”

    “เปล่า ก้อนึกว่าไม่ค่อยอยากโท”

    “ไอ้บ้า คิดไรของมึงวะ”

    “เออ กูตั้งใจจะบอกขอโทษมึงเมื่อเย็นนี้ว่ะ”

    “เรื่องไรวะ กุลืม” คือตอนนั้น ลืมจริงๆนะครับ จำห่าไรไม่ได้แล้ว

    “เออ ที่กูพูดไม่ค่อยดีกับมึงอ่ะ คือ... กูเพิ่งทะเลาะกะแม่เรื่องหมาว่ะ กูเลยเซ็งๆ มึงก้อเปนแพะรับบาปให้กูไป”

    “อ่อ เออ ไม่เปนไรหรอก ช่างมันเหอะ”

    “อืม แค่นี้แหละ”

    “เฮ้ยไอ้บ้า แค่นี้จิงดิ่ ให้กูโทมาแค่นี้เนี่ยนะ!?”

    “อืม”

    “โหนะมึงนี่ กวนส้นตีน…”

    .................................................................................................. แล้วก้อคุยกันยาวอีก 2 ชม. ถึงได้แยกย้ายกันวาง (^_^)

    หลังจากนั้น ชีวิตผมกับมันก้อเป็นปกติครับ มีทะเลาะกันบ้างนิดหน่อย แต่ผมก้อยังนึกถึงที่คุยกับต่ายเอาไว้เสมอ ที่เราต้องยอมเปนฝ่ายขอโทษบ้าง

ทำให้ไม่ค่อยทะเลาะกันได้นาน ซึ่งก้อดีแล้ว

    แต่มีอย่างนึงที่ผมเห็นทีไรก้อขัดใจทุกที คือเรื่องของไอ้ชัยครับ ไม่รู้เปนเหี้ยไร หงุดหงิดทุกครั้ง ที่เหนมันอยู่ใกล้ๆไอ้เบียร์

เวลาคุยแม่งก้อชอบทำเหมือนมันสนิท ซี้ กะไอ้เบียร์ซะเหลือเกิน รู้ดีไปซะทุกอย่าง สาดนี่ (เคือง)

     แต่จริงๆแล้วผมก้อรู้นะว่า มันไม่จำเป็นสักหน่อยที่ไอ้เบียร์มันต้องมีเพื่อนสนิทแค่คนเดียว ผมเอง ยังสนิทกะไอ้บาสเลยนี่หว่า

(แต่ไม่ได้โทหามันทุกคืนนะ ทำไม่ลง - -")...

     แต่ไม่รู้เปนเหี้ยไร เหนหน้าไอ้เชี่ยชัยแล้ว ขัดใจทุกที กุหึงเหรอเนี่ย บ้าแล้ววววว ไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่แน่ๆ แต่ทำไมกันวะ...

     ตอนนี้แหละครับ ที่ผมเริ่มจะสับสนตัวเอง เวลาที่ไอ้เบียร์มันมาอยู่ใกล้ๆ เวลาที่ได้กอดมัน หรือเวลาที่มันมานั่งตักผม ผมจะมีความสุขมากๆ

     แต่ถ้ากับเพื่อนคนอื่น ก้อแค่กอดเฉยๆแค่นั้นเอง แต่ยังคิดอยู่ว่า เปนเพราะเราสนิทกับมันแค่นั้น พยายามไม่คิดเปนอย่างอื่นครับ ยังไม่อยากเบี่ยงเบนตัวเอง

    เรื่องร่างชัยของไอ้เบียร์ก้อดีครับ นานๆทีก้อไปหาหมอที แต่รวมๆแล้วก้อแข็งแรงดี ไม่มีปัญหา นานๆทีผมก้อไปหามันที่บ้านมั่ง

ไปกับเพื่อนๆนั่นแหละครับ บางครั้งก้อไปกะมันสองคน

    แต่ส่วนมากแล้วเนี่ยไอ้เชี่ยชัยแม่งก้อไปด้วย แล้วแม่งไปบ่อยกว่าผมอีก บางครั้งโทหาไอ้เบียร์ แม่งเสือกรับสายซะงั้น ผมงี้โคตรโมโหเลย

 คือกุไม่ได้จะโทหาเมิงงายยย สาดดดดดด... ทุกอย่างก้อดูปกติดี

   แต่จะมีอยู่แค่อย่างนึงก้อคือ เรื่องที่ไอ้เบียร์มันป่วย ตอนนี้เริ่มรู้กันบ้างแล้วในหมู่พวกผู้ชาย แต่ไม่เยอะหรอก มีไม่กี่คนที่รู้ (กุเดาว่าไอ้ชัยปากสว่าง)

   แต่ไม่มีใครพูดเท่านั้นเอง ซึ่งตัวมันเองก้อรู้นะครับ ว่าเพื่อนรู้แล้ว มันก้อไม่ได้ว่าอะไร จนมาถึงช่วงสอบไฟนอลของเทอม 1

เรื่องราวของเราก้อพลิกผันไป............

.........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 09-01-2007 19:56:07
สนุกมากเลยครับ มาต่อไวๆนะครับ อยากอ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 09-01-2007 20:48:29
กะลังสะหนุกเลยคร๊าบ อยากให้เปงแฟนกานเร็ว ๆ จาง ชิร์....
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 09-01-2007 22:28:14
 :serius2:ค้างอย่างแรง  เอิ๊กๆ มาต่อด่วน :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-01-2007 11:31:38
ตอนที่ 7

    ใกล้จะสอบแล้วครับ จะหมดเทอม 1 แล้ว ตอนนี้ผมก้อรับภาระหนักเลย นอกจากจะต้องอ่านของตัวเองแล้ว ยังต้องรับภาระดูและเพื่อนๆอีก 5 คน

    เพราะคะแนนของพวกแม่งตอนมิดเทอมนี่เน่ามาก รวมถึงไอ้เบียร์ด้วยครับ

    แต่มันนี่พิเศษหน่อยตรงที่แม่มันฝากกับผมมาโดยตรงเลย ว่าให้ไปติวให้มันที่บ้านหน่อย

    ผมก้อไปบ้านมันแทบทุกเย็นเลยครับ กลับก้อดึก โคตรรรรเหนื่อยเลยช่วงนั้น

    เพราะพ่อแม่ผมเค้าไม่ให้ผมค้างบ้านเพื่อนครับ เค้าบอกว่า  “ถ้าอยากไปค้างบ้านเพื่อน แถมยังต้องเป็นคนติว ก้อให้เค้ามาบ้านเราซะสิ”

    ผมก้อแบบ... ใครมันจะมาว้า สาดดด ไกลชิบหาย แต่แล้วผมก้อนึกถึงคำที่ไอ้เบียร์เคยพูดไว้ครับ

    ว่า สักวันมันจะมาบ้านผม ได้การแล้วผมก้อทวงสัญญาทันที

    ......................................

    “เฮ้ย พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปอ่านหนังสือบ้านกูกันมั๊ย” ผมพูดขั้นมากลางวงไพ่ (ในห้องเรียน)

    “มึงพูดจริงพูดเล่นวะไอ้ต้น ไกลชิบหาย จะไปกันจริงอ่ะ” ไอ้แบงค์พูดขึ้นมา

    “แต่กูก้ออยากไปนะเว้ย กูอยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่บ้านนอก 5555” ไอ้บาสมันแซว

    “เออ บ้านนอกอากาศดี ติวหนังสือรู้เรื่องนะเว้ยย” ผมเสริม

    “เอาจริงเหรอวะต้น แล้วพวกกุต้องออกจากที่นี่กี่โมงวะกว่าจะไปถึงบ้านมึงกันอ่ะ” ไอ้เบียร์ที่นั่งอยู่บนตักผม หันหัวมาพูด

    “ก้อกี่โมงก้อได้ว่ะ แล้วแต่พวกมึง เพราะแม่กูให้พวกมึงค้างได้ ถ้าอยากอ่ะนะ”

    “เฮ้ย จริงดิ่” ทั้งวงพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน

    “เออ แต่ใครจะไปได้มั่งวะเนี่ย กุจะได้บอกแม่กุก่อน แล้วกุจะได้ติวให้มึงทั้งเลขทั้งอิ๊งเลย”

    ....................................

    สรุปคือ คนที่ไปก้อมี ไอ้บาส ไอ้แบงค์ ไอ้ป๋อม ไอ้นุก แล้วก้อ ไอ้ต่อครับ ทั้งหมด 5 คน (ยังดีไม่มีไอ้ชัย)...

    ใช่แล้วไอ้เบียร์มันบอกมันไม่ไปครับ เพราะว่าไกล

    “แล้วคนที่จะค้างอ่ะ มึงค้างกันหมดเลยป่าว” ผมถามก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทหาแม่

    “ไม่รู้ว่ะ กุดูก่อน” ไอ้บาสบอก “กูอาจต้องมาเฝ้าร้าน” บ้านมันเป็นร้านคอมครับ มันก้อต้องเฝ้าร้านอยู่บ่อยๆ

    แล้วเราก้อหารือกัน ว่าจะเอายังไง โดยที่มีไอ้เบียร์นั่งอยู่บยตักผมคอยป่วนวงครับ แม่งไม่ไปแล้วยังกวนตีนชาวบ้าน

    “ไอ้เบียร์ แล้วมึงจะอ่านเองเหรอวะ จะสอบแล้วนะเว้ย” ผมถามมัน

    “ไม่เปนไรหรอกน่า กุเก่ง... ไว้ให้มึงติวทางโทรศัพท์ไง” มันยิ้ม

    “ส้นตีนแน่ะ ไอ้พวกนี้ก้ออยู่ที่บ้านกุ แล้วจะไปติวให้มึงยังไงวะ ไอ้บ้า”

    “เออๆ ช่างมันๆเหอะ ไว้ค่อยคิด” แล้วมันก้อลุกมายืนอยู่ข้างหลังผมแทน สักพักนึงมันก้ออกไปจะไปห้องน้ำ ผมก้อเลยลุกตามไปด้วย

    “ไหนบอกเปนคนไม่ชอบผิดสัญญาไงวะ” ผมถามมัน

    “เออดิ่ ไม่ผิดแหงอ่ะ ถ้าไม่ลืมอ่ะนะ”

    “เออ แล้วที่บอกว่าจะมาบ้านกูไง ลืมแล้วรึไง”

    “อ่ะ เออ ยังหรอก แต่กุไม่ได้บอกว่าเมือ่ไหร่นี่หว่า” แม่งยังทำมาเล่นลิ้นกับกุอีกนะ

    “เหรอ อืม ช่างมันเหอะงั้น” แล้วผมก้อเดินออกจากห้องน้ำไป แล้วกลับไปเล่นไพ่ต่อ จนเลิกเรียน

     คืนนั้นผมก้อไม่ได้โทหามันครับ เพราะมัวแต่คุยกับพวกเพื่อนๆว่าจะเอายังไงวันพรุ่งนี้ดี

    ตอนเช้า ผมนัดพวกมันที่ รร ตอน 9โมงครับ แม่งกว่าจะมาครบล่อไป 9 ครึ่ง พอครบแล้วผมก้อบอก

    “ไปเหอะป่ะ เช้าๆรถไม่ติด”

    “เดี๋ยวๆ ยังมาไม่ครบๆ” ไอ้นุแย้ง

    “อะไรวะ ก้อครบแล้วไง 5 ตัวกะอีก 1 คน ไปได้แล้วไอ้บ้า” ผมด่ามัน

    “เออ พวกกุ 5 คน กะมึงอีก 1 ตัวอ่ะดิ่ ไอ้เชี่ยต้น กุหมายความว่ารอไอ้เบียร์มันก่อน มันโทมาเมื่อกี๊บอกจะถึงแล้ว”

    “อ้าววว” ผมพูดได้แค่นั้น ก้อเหนมันเดินตรงมาพอดี วันนี้แม่งโคตรหล่อเลยยยยยย

     เสื้อยืดสีขาว (สีที่ผมชอบ) ทับด้วยเชิ๊ตสีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์ (ที่ไม่ค่อยเห็นมันใส่) ผมเกรียนๆ เดินหน้าเข้มมาแต่ไกล

    “อ้าว ตกลงไปด้วยเรอะ” ผมถามมัน

    “อืม ไปด้วยได้ป่ะละ ไม่ได้กุกลับก้อได้” แม่งทำงอน

    “อืม กลับไปดิ่ อยากกลับก้อ” ผมย้อน

    “โอ๊ยยย มึง 2 ตัวนี่เปนไรกันวะ กัดกันอยู่ได้ ไปๆๆ รีบไปเร็ว กูหิว จะไปแดกข้าวบ้านมึง ไอ้ต้น”

    ผมกับไอ้เบียร์ก้อมองหน้ากันแล้วก้อยิ้มๆให้กัน รู้กันแล้วครับว่าพูดเล่นๆกันไม่ได้จริงจัง

    (รู้สึกดีอีกครั้ง ที่ไม่มีไอ้เชี่ยชัย กลัวอยู่ว่าถ้าไอ้บียร์ไปแม่งจะหน้าด้านตามมาด้วยอ่ะเด่ะ)

    กว่าจะถึงบ้านผม มันบ่นกันอุบเลยล่ะครับ เพราะต้องนั่งรถถึง 3 ต่อ (รวมเข้าซอยด้วยนะ)

    มาถึงบ้านประมาณ 11 โมง ข้าวเที่ยงพอดี... วันนี้พ่อกับแม่ผมไปดูบ้านที่ต่างจังหวัดกัน ทิ้งตังแล้วก้อของกินไว้ให้พวกผมเพียบ

    แต่ข้อแม้คือ ถ้าเขากลับมาบ้านไม่เรียบร้อย ผมโดนชุดใหญ่แน่

    “นี่บ้านมึงเหรอวะ ไอ้ต้น ยังกะสวนสัตว์แน่ะ” ไอ้ต่อทัก

    “เออ ก้องี้แหละ ทำไมวะ กลัวรึไง” บ้านผมมีนก ประมาณ ร้อยกว่าตัวครับ หลากหลายพันธุ์ ทั้งหงหยก กระตั้ว นกเขา ขุนทอง เอี้ยง เลิฟเบิร์ด และอีกสารพัด

    นอกจากนี้ก้อมี บ่อปลาบ่อใหญ่ (และบ่อเล็กๆอีกหลายบ่อ) ดัลเมเชี่ยน 1 ตัว แมว 3 ตัว งู 3 ตัว แมงป่อง 1 กระต่าย 2 แล้วก้อหนู แฮมสเบียร์อร์ อีก 12 ตัว

    แถมบ้านผมยังอยู่แถบชานเมือง ยิ่งได้บรรยากาศแบบซาฟารีเข้าไปใหญ่

    “เปล่า ไอ้บ้า” ไอ้ต่อตอบ “แต่มึงอย่าปล่อยงูนะ สัด”

    อันนี้เพื่อนผมทุกคนเหนพ้องครับ ว่าอย่าปล่อยงูออกมาเด็ดๆ แม่งโคตรกลัวงูกันเลย

    ( ไอ้หลามตัวเท่าขาตัวนึง แล้วก้อพันธุ์อะไรอีกไม่รู้ของน้องสาวอีกสองตัว)

    “บ้านมึงฝุ่นเยอะว่ะ ต้น” ไอ้เบียร์บ่นให้ผมฟังระหว่างที่คนอื่นไปหาของแดก “กุไม่ได้ว่านะเว้ย คงเพราะสัตว์มึงเยอะแหละ แต่ว่ากุมัน... เอ่อ มึงก้อรู้...”

    ครับ ผมก้อลืมนึกไปว่า มันป่วยอยู่ แม่มันไม่ให้มันโดนพวกฝุ่น แดด อะไรพวกนี้เด็ดขาด เพราะจะทำให้ต่อมห่าเหวอะไรของมันทำงานผิดปกติไปด้วย

    “เออว่ะ กุลืม ขอโทษที เอางี้มึงไปรอบนห้องกุก้อได้ เปิดแอร์ซะ คงดีขึ้น เนี่ยขึ้นชั้น 2 ไป ห้องตรงหน้ามึงเลย เด๋วเอาของกินไปให้”

     แล้วมันก้อว่าง่ายครับ ขึ้นไปรอดีๆ

    “เฮ้ย พวกมึงว่าบ้านกุฝุ่นเยอะป่าววะ” ผมเข้ามาในครัวถามพวกมัน

    “ไม่นะ เฉยๆว่ะ ทำไมอ่ะ” ไอ้นุกตอบ

    “เปล่าๆ ไม่มีไรหรอก” แล้วผมก้อหยิบของกินมาส่วนนึงจะไปให้ไอ้เบียร์ “พวกมึงเส็ดแล้ว ตามไปห้องกุนะ ชั้นสองห้องแรกที่มึงเหน”

    พอเปิดประตูไป ก้อเจอไอ้เบียร์กำลัง นอน อยู่บนเเตียงผมครับ

    “อ้าว ไอ้เหี้ยนี่ มาถึงก้อนอนเลยเรอะ”

    “อืมม ก้อลองดู ว่าคืนนี้ จะนอนสบายรึเปล่าไง” ผมตกใจกะคำพูดมันมากเลยครับ แบบว่า ว่าไงนะ มันจะนอนห้องกุเรอะ จิงดิ่ อำป่าววะ

     เพราะแม่มันไม่ค่อยให้ไปไหนหรอกครับ ต้องดูแลมันเปนพิเศษหน่อย อันนี้ก้อแน่นอนอยู่แล้ว

    เปนแม่ผมคงไม่ให้ผมไปไหนมาไหนเด็ดขาดเหมือนกัน นี่ก้อเปนอีกเหตุผลนึงที่เพื่อนๆไปบ้านมันบ่อย เพราะมันออกจากบ้านไม่ค่อยได้ไงครับ

    “มึงพูดจริงพูดเล่น” ผมถามมัน มันก้อค่อยๆลุกแล้วคลานมานอนคว่ำอยู่ตรงปลายเตียงที่ผมยืนอยู่

    “อยากให้กุนอนป่าวล่ะ” มันพูดพร้อมยิ้ม ทำตาหวานไปด้วย โอ๊ยยยยย เอาแม่นี่ จะทำกุหวั่นไหวไปถึงไหนวะ สาดดด

    “เอ้าๆ ไอ้ต้นหลบดิ๊ เกะกะว่ะ มึงนิ” ไอ้แบงค์พูดพร้อมดันตัวผมเข้ามาในห้อง “โหห้องใหญ่เหมือนกันนี่หว่า”

    “ก้อแหงอ่ะ ไม่งั้นกุไม่ให้พวกมึงขึ้นมาบนนี้หรอกสาด ตัวยังกะ ควาย ควาย ควาย ควาย ควาย ขืนอยู่ข้างล่าง บ้านกุพังแน่”

     ผมพูดพร้อมมองหน้าพวกมันทีละคน เรียงตัว...

    จริงๆแล้วบ้านผมขั้นล่าง มันก้อไม่ได้แคบหรอกครับ เพียงแต่ว่า ของตกแต่งมันเยอะจนน่าอึดอัด แล้วทำให้บ้านดูเล็กลงไปด้วย

    เลยตัดสินใจว่าวันนี้คงอยู่บนห้องผมทั้งวัน (แล้วที่รักก้อโดนฝุ่นไม่ได้ด้วยนิ อิอิ”)

    “เฮ้ย แล้วพวกมึงนอนกันรึเปล่าคืนนี้” ผมถามพวกมัน โดยที่ไอ้เบียร์นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียง

    “อืมม คงไม่ว่ะ พวกกุคุยกันแล้ว ตอนแรกว่าจะนอนนะยกเว้นไอ้บาสกับไอ้ป๋อม เสื้อผ้ากู 3 คนก้อเอามากัน

    แต่ไม่นอนดีกว่าว่ะ พวกกุอยากกลับไปแทงนุ๊กว่ะ 5555 บอกแม่ไว้แล้วด้วยว่ามานอนบ้านมึง จะได้แรดได้ทั้งคืน 555”

    “อ้ายเหี้ยยยยยยย จะสอบแล้วนะเมิงงง” ผมด่าพวกมัน แต่ก้อแค่นั้นแหละครับ ผมก้อรู้นิสัยพวกมันดี แค่มันยอมมาเรียนนี่ก้อดีถมไปแล้ว...

    เฮ้ย แล้วงั้นนี่ กุกะไอ้เบียร์ต้องนอนกันสองคนเหรอวะเนี่ย........

   *****************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 10-01-2007 23:41:22
ว๊าว.....จานอนด้วยกานแล้วง่า........อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 11-01-2007 01:09:06
    :serius2:จบแบบนี้อีกแล้วอ่ะ เหอะๆ  ต่อด้วยน๊า :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-01-2007 15:39:19
ตอนที่ 8

    วันนั้นทั้งวัน ผมก้อสอนเลขให้พวกมันครับ ตั้งแต่บ่ายโมงจนถึง 6 โมงกว่าๆ พวกมันก้อกลับกันไป โดยที่ผมเรียกแท็กซี่ให้มันไปลงที่ รร

    ถ้าให้กลับกันเอง มันต้องหลงป่าตายอยู่แถวบ้านผมแน่ๆ 555 แต่ก่อนพวกมันกลับผมก้อทำสปาเก็ตตี้ให้พวกมันกินกันก่อนนะ สงสารมัน

   ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ความรู้ไปเท่าไหร่ คุ้มกับค่ารถรึเปล่าไม่รู้...

    พอส่งพวกมันเส็ดผมกับไอ้เบียร์ก้อเดินกำลังจะกลับเข้าบ้าน

    “กลับไปจะให้กุติวต่อเลยป่าว” ผมถามมัน

    “ขอกุเบรกแปบเหอะนะมึง ขอดูทีวีหน่อยดิ่”

    “อืมม ก้อได้ดิ่ กุก้อไม่ได้ว่าไรสักหน่อย กุอ่ะเหนื่อยกว่าพวกมึงอีกนะ สาดด” ก้อจริงๆนะครับ สอนหนังสือเนี่ย มันเหนื่อยกว่าเรียนอีกนะเนี่ย ผมเพิ่งรู้ก้อวันนี้

    ยิ่งต้องสอนไอ้พวกลิงพวกนี้อีกด้วย โอ๊ยย สุดๆไปเลยล่ะครับ

    “งั้นมึงจะทำไรก้อไปทำเหอะนะ กุไปล้างจานที่พวกมันกินกันไว้ก่อน” ผมบอกมัน มันก้อเลยเดินไปนั่งหน้าทีวี กดรีโมท ท่าทางสบายใจสัดอ่ะ

    แม่งงง ไม่คิดจะช่วยกุเลยเหรอวะเนี่ยยยยยย

    “เบียร์ ทำไมอยู่ดีๆมึงถึงมาได้วะ” ผมตะโกนถามมันจากในครัว

    “กุก้อขอแม่ดิ่” แม่งตอบกวนส้นตีน

    “เออ กุรุว่ามึงต้องขอแม่ แต่ทำไมถึงให้ได้วะ”

    “ก้อ ตอนแรกก้อไม่ให้หรอก แต่กุ... เอ่อ กุแค่บอกเค้าว่า กุอยากทำคะแนนเทอมนี้ให้มันดีๆ ถ้าไม่ได้มึงช่วยกุต้องแย่แน่ๆ ประมาณเนี๊ย

    แล้วพี่กุก้อช่วยกุพูดด้วย กุเลยมาได้ว่ะ” มันตะโกนตอบผม

    “อืมม แล้วมึงไม่โทหาแม่มึงบ้างเหรอวะ เด๋วเค้าก้อเปนห่วงเอาหรอก”

    “เออ เค้าโทมาสามรอบแล้วไงวันเนี๊ย กุขี้เกียจโทว่ะ”

    “เฮ้ยไอ้บ้า โทไปดิ่ นิดๆหน่อยๆเอง เค้าจะได้ไม่ต้องเปนห่วงมึง ไอ้ที่เค้าโทมาหามึงเนี่ย ก้อเพราะเค้าเปนห่วงนะเว้ย ไม่งั้นเค้าก้อไม่โทหรอก มึงรู้ป่าว…

     เฮ้ยย ได้ยินกูป่าววะ ทำไรอยู่เมิงอ่ะ” มันเงียบไปครับ

    “รับทราบแล้วครับ” มันมากระซิบอยู่ข้างๆหูผมอีกแล้ว

    “เฮ้ยยยยยย!!!! ไอ้เหี้ยนี่ เล่นอะไรพิเรนทร์ๆนะมึง!!” ผมสะดุ้งสุดตัวเลยครับ ทำเอาน้ำสาดกระจายไปทั่ว

    “เฮ้ยๆ กุขอโทษๆ ไม่นึกว่ามึงจะตกใจขนาดนี้” มันขอโทษขอโพยผม ทั้งๆที่ตัวมันน่ะเปียกไปหมดแล้ว

    “เออๆ ช่างมันเหอะ พื้นน่ะมึงไปเอาไม้ถูพื้นตรงนั้นมาเช็ดเดี๋ยวนี้เลย ถูเปนป่าววะไอ้คุณชาย” มันเปนคุณชายครับ ชีวิตไม่เคยลำบาก มีคนรับใช้ทำให้ตลอด

    “เปนดิ่ ไอ้นี่ กวนตีนกู” มันตอบพร้อมเดินไปหยิบไม้มาถู

    “มึงนะ เล่นบ้าๆไอ้เบียร์ บ้านกูยิ่งไม่ค่อยธรรมดาอยู่” ผมพูดพร้อมกับหันหน้ามามองมันครับ เพราะล้างจานเส็ดแล้ว

    “พูดไรของมึงวะ ไม่ขำนะเว้ย” มันกลัวผีมากกกกครับ ไอ้บ้านี่

    “อ้าว กุพูดจริงๆ จะอำมึงทำเพื่อ ก้อที่กุเคยเล่าไงว่ากุเลี้ยง รักยม เอาไว้อ่ะ แล้ว...”

    “พอแล้วไอ้ต้น มึงหยุดเด๋วนี้เลย!!” มันพูดพร้อมทำท่าจะเอาไม้ถูพื้นฟาดผมครับ มันดูกลัวจริงๆนะเนี่ย

    “เออๆ กุไม่เล่าก้อได้” ผมนึกขำครับ เพราะผมเปนคนไม่กลัวผี เวลาเหนสีหน้าคนที่กลัวผีนี่ บางทีมันก้อตลกดี โดนเฉพาะมัน ที่ชอบทำตัวกวนส้นตีน

     แถบหุ่นแบบมันก้อไม่น่าจะกลัวผีเลยจริงๆให้ตาย

    “แม่ง ทั้งหุ่นทั้งหน้าตาก้อออกจะแมน แต่เสือกกัวผีอย่างนี้ หญิงไหนจะเอามาว้า” ผมแหย่มัน

    “กุก้อหาคนที่ไม่กลัวดิว่ะ จะได้ช่วยๆกัน”

    “55555 ช่วยๆมึงอ่ะดิ่ ไม่ใช่ช่วยๆกัน”

    “เออๆๆ กุอยากอาบน้ำแล้วว่ะ เปียกอ่ะ”

    “ไปดิ่ ไปอาบน้ำในห้องน้ำที่ห้องกูนะ เด๋วกุขอเก็บตรงนี้แปบ”

    มันยืนนิ่งครับ... “ไม่เอาอ่ะ”

    “อารายของเมิงงง เปนไรวะ ไปอาบซะดิ่ไอ้บ้า... อ่อๆๆ มึงกลัวผีอ่ะดิ่ 55555 ไอ้ป๊อด!”

    “เออ กุกัว สาดให้กุทำไงอ่ะ แม่ง รู้งี้กลับกะพวกไอ้แบงค์ก้อดีอ่ะ”

    “5555 เสียใจว่ะ มึงไม่สามารถแล้วว่ะ 555 เอางี้ มึงอาบห้องน้ำข้างล่างนี่ก้อได้ กุก้อเก็บของอยู่ตรงนี้ มีไรจะได้เรียกกูได้ โอเคป่ะ”

    “ไม่เอาอ่ะ รอมึงเก็บเส็ดก่อน”

    “5555 เออๆ ตามใจมึง รอกุก่อนและกัน” จากนั้นผมก้อหันไปเก็บพวกจานชาม แล้วก้อขนมที่มันกินไว้เข้าที่ และกำลังจะเอาขยะไปทิ้งมันก้อทักผมมาว่า

    “มึงไปไหนอ่ะ”

    “เอาขยะไปทิ้งหน้าบ้าน”

    “กุไปด้วยๆๆๆ” มันรีบวิ่งตามผมมา พอเส็ด มันกำลังจะเดินเข้าบ้าน

    “ไอ้เบียร์” ผมดึงแขนมันไว้ “มึงแหงนหน้าดิ่” ผมชวนมันดูดาวครับ ถึงจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่สำหรับคนในกรุงเทพ จะมีสักกี่คนกันที่ มีโอกาศแบบนี้

    “เออ สวยดีว่ะ บ้านมึงมีดาวด้วย... ไอ้บ้านนอกกก 5555”

    “เออๆ ระวังอย่าเผลอนะมึง กุจะจับมึงปล่อยให้หลงอยู่ที่บ้านนอกเนี่ยแหละ”

    พอกลับเข้ามาในบ้าน ผมก้อพามันไปอาบน้ำครับ โดยที่ผมให้มันอาบก่อน แล้วผมนั่งรอมันที่ห้องข้างหน้าห้องน้ำ

    มีข้อแม้คือ ต้องคุยกับมันตลอด ห้ามเงียบเด็ดขาด

    “เออ ก้อได้ มึงก้อรีบๆอาบและกัน”

    “เออ อาบอ่ะกุจะรีบ แต่กุปวดขี้ว่ะ ขอขี้ก่อน”

    “ไอ้เหี้ยย นี่กุต้องมานั่งคุยกะคนที่กำลังนั่งขี้เหรอวะ แค่นึกก้อเหี้ยแล้วมึง” ผมด่ามัน

    “มึงก้อไม่ต้องนึกดิ่ ไอ้เชี่ยนี่”

    และสุดท้าย ผมก้อคุยกับมันไปเรื่อยครับ เรื่องนู้นเรื่องนี้ จนมันขี้เส็ดมันก้อตะโกนออกมา

    “ขี้เส็ดและ จะอาบน้ำและนะค้าบบ”

    “เออออ กุรู้ตั้งกะได้ยินเสียงชักโครกแล้ว อาบเร็วๆเข้า กุหนาวแล้ว”

    “เออๆ คุยไปนะเว้ย ห้ามเงียบ เงียบเปนเรื่องแน่มึง” แน่ะ ยังมาทำปากดีกะกุอีกนะ

    ผมเลยกะแกล้วมันสักหน่อยด้วยการเล่าเรื่องผีให้มันฟัง มันก้อโวยวายใหญ่ให้ผมหยุดเล่าๆ แต่ใครจะหยุดล่ะ ปากดีนักมึง ทำไรกุได้ล่ะมึง อยู่ในห้องน้ำนี่

    “ไอ้สัดต้น!!”   สิ้นเสียงมัน มันก้อเปิดประตูออกมาทันที ฟองยังอยู่บนตัวมันอยู่เลยครับ มันพันผ้าเช็ดตัวออกมา

      ผมเองก้อเพิ่งเห็นหุ่นมันแบบเต็มๆตาก้อวันนี้แหละ

    แม่งล่ำจริงๆด้วย ถึงจะไม่ได้มีกล้ามท้องแบบผม

    แต่กล้ามอกแม่งโคตรสวยเลย ยอมรับว่า หุ่นมันดีมากจริงๆ หัวนมชมพูมากก ยังไม่เคยโดนดูดแน่นอน

     มีไรขนตรงสะดือไล่ลงไปหายไปในผ้าขนหขูสีขาวของมัน

    ผมมัวแต่ตกใจมองมันเพลิน มันก้อกระชากความคิดผมกลับมา

    “ไปอาบกะกูเดี๋ยวนี้เลย”

    “หะ หา! มึงว่าไงนะ!?”

    “เออ เข้าไปกะกูเลยมึง ปากดีนัก อยู่ข้างนอกนี่เด๋วมึงก้อแกล้งกุอีก”

    “ไอ้บ้า ไม่เอาเว้ย เดี๋ยวฟ้าผ่าตายห่า แล้วไม่อายกูรึไง”

    “อายดิ่ สาด แต่กัวผีมากกว่า มึงไม่ต้องอาบพร้อมกูหรอก นั่งรอกูข้างในแหละ กูปิดม่านซะ ก้อพอแล้วนี่ ไปเร็วๆๆๆ กูหนาววว”

    แอร์มันเป่าตัวมันครับ หนังมันงี้ยังกะหนังไก่ต้ม เหนแล้วก้อสงสาร

    “เออๆ ก้อได้ งั้นเด๋วกูตามเข้าไป มึงเข้าไปรอกูก่อนก้อได้ ไม่ต้องล็อกประตูนะ ขอกุไปหยิบผ้าเช็ดตัวกุก่อน จะได้อาบต่อจากมึงเลย”

    แล้วมันก้อวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำหายไปเลยครับ ส่วนผมงี้ใจเเต้นตุ๊มต่อมๆ บอกไม่ถูกเลย ทำไมกุต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยวะเนี่ย…

    พอผมเปิดประตูเข้าไป ก้อเหนมันกำลังอาบน้ำอยู่ครับ (เหนแบบผ่านม่านห้องน้ำนะ เปนเงาดำๆ)

    “ทำไรอยู่วะ ฟอกสบู่หรือสระผม ใกล้เส็ดยัง” ผมถามมัน (ยอมรับล่ะวะ ว่าถามแก้เขิน)

    “สระผม... ห้ามเปิดม่านแอบดูนะเว้ย พ่อเตะจริงๆด้วย”

    “เออๆ กุก้อไม่ได้ยากดูน้องเล็กของมึงหรอกน่า”

    “อย่ามาดูถูกกูเชียวนะมีง เคยได้ยินป่าว น้องเล็กยังร้ายอยู่อ่ะ 5555 มันสามารถกลายร่างเปนพี่ใหญ่ได้นะเว้ย”

    “เออๆ รีบๆอาบเร็วเข้า” โอ๊ยยย ผมนะโคตรเขินเลยครับ ไม่กล้ามองกระทั่งเงามันอ่ะ

    “...ต้น กูถามไรอย่างดิ่”

    “หืม ไรวะ”

    “อย่างกุเนี่ย จะมีคนมารักกุจริงบ้างไหมวะ” มันถามผมเสียงเครียดเชียวครับ

    เพราะว่าผู้หญิงแต่ละคนที่เข้ามาหามันก้อมีแต่เพราะหน้าตาและฐานะของมันเท่านั้นแหละครับ ไอ้คนที่มันไปชอบเขา เขาก้อไม่ได้ชอบมัน

    “ไอ้บ้า คิดมากน่า มีอยู่แล้วล่ะ”

    “แล้วทำไม นัทเขาถึงไม่สนใจกูเลยวะ เขาเหมือนไม่แคร์กูเลยนะเว้ย”

    “ของแบบนี้ มันต้องใช้เวลาว่ะกูว่า แต่อันดับแรกนะ มึงต้องถอดเกราะที่มึงมีอยู่ออกไปก่อนนะเว้ย

    เปนตัวตนจริงๆของมึงอย่างที่มึงเปน เปนอย่างที่มึงเปนกับกูเนี่ย กูว่าเค้าต้องมองมึงบ้างแหละ”

    “แล้วคนอย่างกู ถ้าเปนตัวจริงของกูแล้วเนี่ย มันมีอะไรดีวะ” มันยังเครียดไม่เลิก

    “อย่าพูดแบบนั้นดิ่วะ งั้นถ้ากูถามบ้างล่ะว่า กูมันมีอะไรดี กูก้อไม่เหนข้อดีของกูเองเหมือนกันนั่นแหละ...”

    ผมยังไม่ทันจะพูดต่อมันก้อพูดขึ้นมาว่า

    “มึงก้อเปนคนน่ารักไง ถ้ากูเปนคนที่มึงชอบนะ กูคงดีใจตายเลยว่ะ...” ...เฮ้ย! อะไรนะ ผมไม่เชื่อหูตัวเอง

    “คือ คือกูหมายถึง ถ้ากูเปนผู้หญิงอ่ะนะ แบบว่า มึงเปนคนอ่อนโยนดี เข้าอกเข้าใจคนอื่นไง ถ้ามึงไปชอบใครหรือจีบใครนะ
 
    กูว่าเขาต้องชอบมึงเหมือนกันแน่ๆ”

    มันรีบพูดต่อจากประโยคแรก แต่ช้าไปแล้วครับ ผมได้ยินแค่ประโยคแรกไปแล้ว

    “ถ้ากูชอบมึง มึงจะชอบกูกลับเหรอวะ” ผมถามมัน ตาก้อจ้องไปที่เงาของมัน

    “ไอ้บ้า พูดไรของมึงวะ เดี๋ยวได้ฟ้าผ่าตายอ่ะ ยิ่งอยู่ห้องน้ำเดียวกันด้วย”

    เออ ก้อจริงของมัน กุจะคิดอะไรของกุวะเนี่ยเลอะเทอะใหญ่แล้ว ไอ้ต้นเอ๊ยยยย

    “แต่กุไม่เหนว่าพลอยเขาจะชอบกุเลยว่ะ” ผมบอกมัน

    “มึงพูดเองนี่ ว่าต้องใช้เวลาน่ะ” มันพูดเส็ดพร้อมกับรูดม่านออกมา มันอาบเส็ดแล้วล่ะครับ

    “ไง จะให้กุรอด้วยป่าว”

    “ไม่ต้องอ่ะ มึงไปแต่งตัวดูทีวีข้างนอกเหอะไป ดูทีวีไปด้วย จะได้ไม่ประสาทแดก แล้วโทหาแม่มึงซะด้วยนะ”

    “เออๆ รู้แล้วน่า เปนแม่กุซะเลยมั๊ยล่ะ ห่วงจัง”

    “ไปเลย มึงรีบไปเลย กุจะอาบน้ำแล้ว” ผมไล่มันครับ มันก้อเดินออกไปดีๆ

    แต่ระหว่างที่ผมอาบน้ำอยู่ ก้อคิดถึงแต่คำพูดของมัน การกระทำของมันที่ผ่านมาทั้งหมด แล้วก้อคิดถึงใจตัวเอง ว่า “จริงๆแล้วกูชอบใครกันแน่วะ”

    กุหวั่นไหวไปจริงๆจังๆซะแล้วเว้ยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!

    ......................................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 11-01-2007 21:34:10
ว๊าวๆ.........อยากอ่านต่อครับ มาต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-01-2007 10:05:03
ยิ่งอ่านยิ่งมาน
เร้าจายจัง

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 12-01-2007 14:20:25
รีบมาต่ออย่างด่วนเลย  :pigangry2: ค้างคา
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 12-01-2007 21:38:45
จะรออ่านน๊า  ไบ๋บาย :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-01-2007 10:38:59
ตอนที่ 9

    ระหว่างอาบน้ำ ผมก้อคิดอะไรไปต่างๆนาๆ แต่ที่ผมคิดหนักที่สุดก้อคงเปนเรื่องที่ว่า

    “กุชอบมันรึเปล่าวะ”

    ...ตั้งแต่ตอนที่รู้จากแม่มันแล้วนะเว้ย แล้วหลังจากนั้นทำไมมึงต้องรู้สึกดีเวลาเจอหน้ามัน เวลาเหนรอยยิ้มมัน แล้วที่สำคัญ

    ทำไมมึงต้องหึงมันจากไอ้ชัยด้วยวะ...

    ไอ้บ้า กูไม่ได้หึงนะเว้ย กูแค่เกลียดหน้าไอ้ชัยมันเท่านั้นแหละ กุแค่ไม่ชอบที่แม่งทำตัว...

    ทำตัว ทำตัวเหี้ยไรล่ะ ทำตัวใกล้ชิดไอ้เบียร์มากกว่ามึงน่ะเรอะ นั่นแหละมึงหึงแล้วเว่ย ไอ้ต้น มึงชอบมันเข้าไปแล้วแหละ...

    ไอ้บ้า กูเปนผู้ชายนะเว้ย แถมกุยังชอบพลอยอยู่อีกต่างหาก จะไปชอบมันได้ไงวะ.. แต่ แต่ว่า แล้วทำไม... เว้ยยย อะไรวะเนี่ยย!!

    แม่งหมือนเปยบ้าอยู่คนเดียวเลยครับ แช่อยู่นั่นอ่ะจนไอ้บัยร์ตะโกนถามว่าเส็ดรึยัง เพราะผมอาบไปจะครึ่งชั่วโมงแล้ว

    “ช้าจังนะมึง กว่าจะออกมา อาบนานอย่างกับผู้หญิงแน่ะ” มันแซวผม หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว

    “เออ กุขอโทษที่ปล่อยให้คนกลัวผีอย่างมึงนั่งเล่นกะรักยมคนเดียวนานไปหน่อย”

    “ไอ้ต้น!!” ว่าแล้วมันก้อรีบเขยิบเข้ามาใกล้ๆผมเลย

    “อะไรเมิงง กุล้อเล่น ถอยไปเลยไป กุจะแต่งตัว กุหนาว” แล้วผมก้อหยิบกางเกงขาสั้นมาใส่ ปกติผมก้อนอนถอดเสื้ออย่างนี้แหละครับ

    และเปิดแอร์ประมาณ 19 องศาด้วย

    “เออๆ กุขอโทหาบาสแปบ” แล้วมันก้อหยิบโทรศัพท์มาโทหาบาสครับ ผมก้อนั่งมองมันคุยโทรศัพท์ไป ใจก้อคิดอะไรไปเรื่อย

   (ก้อคิดเรื่องของมันนี่แหละ แม่งงง)

    ..........

    “อ้าว วางแล้วเรอะ ทำไมวางเร็วอ่ะ” ผมถามมัน เพราะเหนมันคุยไปได้แค่ประมาณ 5 นาทีเอง

    “ก้อเงี๊ยแหละ แม่ง เฮ้อออ กุเบื่อว่ะ ทำไมผู้หญิงมันเข้าใจยากอย่างนี้วะ” ว่าแล้วมันก้อหันมามองหน้าผม

    ผมเลยรีบหลบตามันหันไปดูทีวีเหมือนเดิม (กุเปนเหี้ยไรวะเนี่ยย)

    “ถามแม่มึงดูดิ่”

    “อ้าว ไอ้เชี่ยนี่ เออ แล้วกุโทหาแม่กุแล้วนะ มึงจะได้ไม่ต้องคะยั้นคะยอให้กุโทอยู่ได้”

    “อืม ก้อดีแล้ว” ตาผมยังดูทีวีอยู่ แต่ในหัวเนี่ย มันไม่ได้รับรู้อะไรในจอที่ฉายอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

    “เฮ้อออ เบื่อวะ... นี่ต้น เครากุขึ้นแล้วอ่ะ มีแหนบป่ะ”

    “มี เด๋วไปหามาให้ กุจำไม่ได้ว่าไปวางไว้ไหน” คือผมเปนคนชอบถอนเคราครับ ไม่ชอบโกน โกนทีไรสิวขึ้นทุกที

    แล้วเปนพวกมืออยู่ไม่สุขด้วยเลยชอบดึงชอบถอนเคราเล่น

    จนเคยถอนให้ไอ้เบียร์บ่อยๆ ตอนแรกมันก้อหาว่าบ้าที่ใช้วิธีถอน ไม่ยอมโกนเนี่ย แต่ไปไปมามามันก้อติดใจซะงั้นอ่ะ

    “เอ้า เอาไป” ผมโยนแหนบให้มันแล้วก้อนั่งลงดูทีวีต่อ (นั่งที่พื้นห้องนะครับ มันอยู่บนเตียง)

    “ไม่เอา”

    “อะไรไม่เอาวะมึง” ผมหันมามองหน้ามัน ไอ้เหี้ยนี่จะเรื่องมากอะไรอีกอ่ะ

    “ถอนให้กุหน่อยดิ่ ทีทุกครั้งยังถอนให้กุเลยอ่ะ”

    “หา เอ่อ เออๆๆ ก้อได้ แต่กุจะดูทีวีด้วยอ่ะ มึงลงมาข้างล่างนี่แล้วกัน” แล้วมันก้อยิ้มแป้นคลานลงมาหาผมข้างล่างแล้ว

    ไถลตัวมันมานอนหนุนหัวอยู่บนตักผมทันที...

    กุเปนเหี้ยไรวะ มือไม้สั่นจับแหนบแทบไม่อยู่ แม่งก้อนอนหนุนตักกันมากี่รอบแล้วก้อไม่รู้ แถมยังที่ รร ต่อหน้าคนหลาย 10 กุยังไม่เปนเหี้ยไรเลย

    แต่ตอนนี้... ใจมันเต้นเปนอีเกิลลี่เบอร์รี่เลยครับ... มันนอนหนุนตักผมแล้วแหงนหน้า หลับตาพริ้ม โอ๊ยยยยยยย ปากน่าจูบชิบหาย

    ตัวมันก้อขาว ปากก้อชมพู แถมยังหอมกลิ่นสบู่อีกต่างหาก

    “ถอนดีๆนะมึง ถ้ากุเจ็บ ไข่มึงแหว่งแน่”

    “ไอ้เหี้ยย มึงลุกเลยไป พูดแมวๆ” ผมพูดไปก้อถอนให้มันไป

    “นี่ไอ้ต้น” มันพึมพำขึ้นมา เพราะพูดไม่ถนัด ก้อโดนผมจับคางอยู่อย่างนั้น

    “อะไรวะ อย่าเพิ่งพูดดิ่ เด๋วก้อหนีบเนื้อหรอกมึง”

    “ที่มึงเคยพูดอ่ะ...” มันพูดนิดนึงแล้วก้อหยุดไป

    “อาไรของมึงวะ ไอ้เบียร์” ผมงงกะมันจริงๆ จะพูดแล้วก้อไม่พูดให้จบ...

    “เอ้าเส็ดแล้ว ลุก”

    “อือ ขี้เกียจอ่ะ กำลังเคลิ้มเลย” น่าน ดูมัน เฮ้ออ เอาวะ กะแค่นอนตัก แต่...

    “ถ้าจะนอน ก้อไปนอนบนเตียงเลยดิ่ ง่วงแล้วเหรอ” ผมพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวมันเล่น

    “อืมมม... วันนี้เดินทางไกลมา เหนื่อย” มันพูด ทำเสียงแบบคนกำลังเคลิ้มสุดๆ แม่งโคตรน่า...

    “ไอ้เบียร์... มึงต้องดูแลตัวเองดีๆนะเว้ย เข้าใจป่าว” ผมบอกมัน มือก้อยังลูบหัวเกรียนๆของมันเล่นไปด้วย

    “อืมม... ทำไมวะ” ดูมันย้อน

    “อ้าว ร่างกายมึงเอง มึงก้อต้องดูแลดิ่ แล้วอีกอย่าง ถ้ามึงเปนไรไป แม่มึง ครอบครัวมึงจะเสียใจแค่ไหนวะ”

    “อืม” มันพูดแล้วเอามือมาจับมือผมให้หยุด “แล้วมึงล่ะ... จะเสียใจมั๊ย” ตอนนี้ตามันลืม จ้องหน้าผมแล้วครับ

    “อ่ะ เออ เสียใจดิ่ ถามอะไรบ้าๆน่ะมึง” ผมชักมือกลับ แล้วก้อเงยหน้าไปดูทีวีแทน... โอ๊ยยย โคตรเขินเลย เช็ดแม่ง!!

    “อืมม” แล้วมันก้อหลับตาลงเหมือนเดิม... จนเวลาผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ผมนะอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แค่นี้จริงๆ

    ให้มันนอนอยู่บนตักผมไปอย่างนี้นานที่สุดเท่าที่จะเปนไปได้

    “ดูแลตัวเองนะเว้ย ไอ้เบียร์ เข้มแข็งไว้นะมึง... กูรักมึงนะ” ผมลูบหัวมันแล้วก้อกระซิบ เหมือนกับพูดคนเดียวน่ะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะสื่อถึงมันหรอก

    “พูดจิงป่าว” มันพูดพร้อมกับยิ้มออกมา อ้าว!! มึงไม่ได้หลับหรอกเรอะ ไอ้ส้นตีนนน!!

    “อ่ะ อ่ะ ยังไม่หลับเรอะ นึกว่าหลับแล้ว” ผมตกใจจริงๆครับ เขินชิบหายเลยด้วย

    “ถ้าหลับแล้วจะได้ยินเรอะไง” มันยิ้มหวานอีกแล้ว

    “เออ ก้อกุรักมึงอ่ะ มึงเปนเพื่อนที่กุรักมากที่สุดตั้งแต่กูเกิดมาเลยนะเว้ย ถ้ามึง...” ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค มันก้อพูดแทรกขึ้นมาว่า

    “ต้น กูรอคำนี้อีกครั้งมานานมากแล้วมึงรู้ป่าว คือ กูก้อไม่ได้ชอบผู้ชายรึชอบให้ผู้ชายมาบอกรักหรอกนะ

     แต่ว่า อย่างน้อยมึงก้อเปนคนแรกที่พูดคำนี้กับกูว่ะ” อ่อ อย่างนี้นี่เอง...

    “เออ ต่อไปนี้กุจะพูดให้มึงฟังบ่อยๆเลยก้อได้วะ 5555” ผมกลบเกลื่อน

    “ไม่ต้องก้อได้มึง พูดมากๆ จะอ้วก” ว่าแล้วมันก้อลุกขึ้น “เฮ้ออ กุง่วงว่ะ นอนกันเหอะ”

    “เออๆ นอนดิ่” ...มันไม่ได้ชอบผุ้ชาย... มันก้อบอกมาแล้วนี่หว่า มึงก้อไม่ได้ชอบผู้ชายเหมือนกันนี่ไอ้ต้น ก้อดีแล้วนิ แล้วทำไมมึงต้องรู้สึกเซ็งๆด้วยวะเนี่ย

    คืนนั้นผมกับมันก้อเลยเข้านอน มันน่ะคงหลับไปนานแล้วล่ะครับ แต่ผมนอนไม่หลับเลยยยย คิดถึงแต่ไอ้ตัวเหี้ยที่แม่งหลับอยู่ข้างๆกุเนี่ย โอ๊ยยย สับสนเว้ยย!!

    “ขอกอดทีดิ่” อ้าว!! มันยังไม่หลับนี่หว่า อยู่ดีๆหันมาบอกขอกอดกุซะงั้นอ่ะ

    “อ้าว ยังไม่หลับเหรอ” ผมถามมัน

    “อือ แอร์มึงหนาวอ่ะ มึงนอนถอดเสื้อได้ไงวะเนี่ย”

    “ก้อกุมีไอ้อ้วนมานอนเบียดอยู่ข้างๆกุเนี่ย จะหนาวอีกเหรอวะ 555”

    “ใครอ้วนมึง ของกุเนี่ยกำลังดี หล่อ...” ดูมันหลงตัวเอง “ไปใส่เสื้อเหอะต้น เดี๋ยวมึงจะไม่สบาย แล้วกูจะได้กอดได้ด้วย” อ้าวมึงห่วงกูหรือแขยงกูกันแน่วะ

    “เออๆ” แล้วผมก้อลุกไปสวมเสื้ออีกตัวนึง แล้วก้อล้มตัวลงมานอนข้างๆมัน โดยนอนหงายนะครับ มันก้อเข้ามซุกแล้วก้อกอดผม

    “มีแต่กระดูกว่ะมึงเนี่ย” มันว่าผม

    “กระดูกเหี้ยไร เขาเรียกกล้ามเว่ย กล้าม”

    “กล้ามหรือก้างวะ กอดไปไม่มีเหี้ยไรเลย”

    “เออ งั้นก้อไม่ต้องกอด กุก้ออึดอัด ใครจะไปอ้วนเหมือนมึงเล่า” กุปากไม่ตรงกับใจอีกแล้ววว
   
    แต่...ผิดคาดครับ มันเงียบ ไม่เถียงตอบผมเหมือนทุกทีแฮะ แต่มันก้อไม่ยอมปล่อยมือที่กอดผมนะ (ก้อยังดีวะ ที่มันไม่เลิกกอดจิงๆ อิอิ)…

   เลยกลายเปนกูยิ่งนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิมม -__-“

    “กุก้อรักมึงนะไอ้ต้น” แล้วมันก้อกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

    o__O”
............................................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 13-01-2007 11:42:34
เขินแทน บอกรักกานแล้ว ฮิฮิ ... :-[
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 13-01-2007 11:45:45
กะลังน่ารักเรยอ่ะ  :-[  ไม่อยากให้ถึงโหมดเศร้าเยย   :myeye:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Kimhan ที่ 13-01-2007 13:22:14
อ่านแล้วอิน
   อินหลายเรื่อง
เพราะว่าเคยให้เพื่อนนอนตัก แล้วถอนหนวดแล้วก็เคราให้มัน
     เคยให้เพื่อนมาค้างที่ห้องเพื่อติวให้มัน
     เคยนอนกอดมัน
     ทำไมคล้ายกันจัง

  อยากบอก นายจังว่าเราคิดถึงอยู่นะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 13-01-2007 17:26:13
น่ารักจังเลย  อ่านจบแล้วยังนั่งยิ้มเลย :laugh: บ้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: tonsai_2520 ที่ 13-01-2007 21:06:30
          เอาไงดีหว่า . . . .

เรื่องนี้  อ่านเพราะชอบเรื่องเด็ก ๆ  แถมเด็กนั้นกวนซะด้วย
   
 
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 13-01-2007 21:45:20
เห้ยยยย กะลังสนุกเลยอ่ะ มาต่อไวๆนะค๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-01-2007 17:19:39
          เอาไงดีหว่า . . . .

เรื่องนี้  อ่านเพราะชอบเรื่องเด็ก ๆ  แถมเด็กนั้นกวนซะด้วย
   
 

รักเด่ะว่างั้นคุณต้นสาย

คุก คุก คุก

สวัสดีครับ คุณปวีณา

พูห์ คนเลวก้อชอบเด่ะเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-01-2007 17:26:16
ตอนที่ 10
[/b]


ผมตื่นขึ้นมากลางดึกประมาณ ตี2 ได้ หิวน้ำก้อเลยเดินลงมาที่ห้องครัว พอกลับขึ้นไปที่ห้อง ก้อเห็นไอ้เบียร์ยังหลับอุตุอยู่...

นี่เปนครั้งแรกที่ผมได้เหนหน้ามันตอนหลับนะครับ เพราะตอนมอ 2 มอ 3 ที่ไปเข้าค่ายลูกเสือกัน มันก้อไม่ได้ไป (ก้อแหงล่ะ)

มันหลับเหมือนเด็กๆเลย นอนตะแคง คุดคู้ตัว ตัวกลมๆของมันเลยดูยิ่งกลมเข้าไปใหญ่ ผมนั่งมองหน้ามันแล้วก้ออดยิ้มไม่ได้

“อือออออ... กี่โมงแล้วอ่ะ” มันตื่นแล้ว ถามผมเสียงงัวเงียๆ

“ตี 2 กว่า นอนไปเหอะ”

“แล้วเมิงง ลุกมาทำมายย อ่า” มันขยี้ตา ทำหน้าเบ้ๆ

“กุหิวน้ำ ลุกมาเอาน้ำ”

“เกนน ด้วยย ดี่~” มันขอกินน้ำด้วยครับ ผมเลยยื่นแก้วให้มัน พอมันกินเส็ด ก้อล้มตัวลงไปนอนต่อ

ผมเลยลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วกำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ ก้อเหลือบไปเหนนุ๊กากางเกงมันซะงั้นอ่ะ มันนอนดิ้นจนผ้าห่มมันหลุดๆลงไป...

แม่งโคตรตุงเลย นี่มันใส่กางเกงในนอนนี่หว่า (แต่กุอ่ะ ไม่ได้ใส่) แล้ววว นี่กุคิดอะไรอยู่เนี่ยยยย...

อย่างที่บอกนะครับ ว่าตอนนั้นผมไม่ได้มีอารมณ์อะไรกับผู้ชายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทำไมตอนนั้นผมถึงได้ใจสั่นแปลกๆยังไงไม่รู้

“นอนKตุงแล้วมึง” ผมบอกมัน แล้วก้อล้มตัวลงนอนข้างๆมัน

“อืมมมม” มันงึมงำๆ แล้วก้อเอามือมาจับKมันให้เข้าที่ “ครายใช้ให้มองวะ กุอายย” แต่ตามันยังปิดอยู่

“เปล่า แค่สังเกตเหนมันเล็กๆแต่ดูแข็งๆ เลยข้องใจว่า นี่แข็งรึยัง ถ้ามึงแข็งแล้วก้อแปลว่าน้องมึงเล็กอ่ะดิ่”

มันพลิกตัวหันมามองหน้าผมแล้วพูดว่า

“ยังไม่แข็งเว้ย แค่กึ่มๆ แต่ตอนเนี๊ยมึงทำกุตื่นมันเลยแข็งหมดแล้ว”

“อุบาทว์ว่ะมึงเนี่ย ไปนอนไกลๆกุเลยนะ แขยง” น่านน ปากกุไม่ตรงกับใจอีกแล้วว...

แต่ตอนนั้นก้อยังไม่ได้คิดอยากจะมีอะไรกับมันจริงๆนะครับ ยังรับไม่ค่อยได้

“อืมๆ” แล้วมันก้อหลับต่อ ส่วนผมอ่ะ นอนKแข็งซะงั้นอ่ะ ไม่รู้เปนเหี้ยไร

ผมก้อนอนKแข็งไปอีกประมาณเกือบ ชม ได้ (ใครจะไปหลับลงวะเนี่ย)

อยู่ดีๆไอ้เบียร์มันก้อพลิกตัวมานอนกอดผมครับ แล้ววว ไอ้ตำแหน่งแขนมันที่มาพาดบนตัวผมเนี่ยยอยู่ต่ำกว่าสะดือนิดเดียว เกือบจะโดนหัวน้องกุแล้วว

ผมยิ่งตกใจใหญ่ ไอ้ครั้นจะยกมือมันออก ก้อไม่อยากปลุกมัน (หรือมึงไม่อยากพลาดโอกาสกันแน่วะ) สักพักมันก้อเอาขามาพาดผม แล้วยังซุกหน้าลงมาที่คอผมอีกนะ

แว้กกกกกกก...

กุขนลุกซู่...

เพราะไอ้ลมหายใจมันเนี่ย เสือกมาเป่าใส่หูผมด้วยดิ่

“อึ อึ๊ยย” ผมเผลอตัวครางออกมาเพราะแม่งโคตรเสียวววเลย ทั้งแขนทั้งขา ทั้งหูผม ไม่ไหวแล้วเว้ยยย...

สักพักมันก้อเริ่มขยับตัวอีกครั้ง แล้วมือของมัน ก้อเลยโดนKผมจังๆ ผมงี้สะดุ้งสุดตัวเลย

แต่คราวนี้ผมเริ่มขยับหนีแล้วครับ ไม่ไหวแล้ว ขืนเปนงี้กุไม่ได้นอนแน่ๆ หน้ากุเริ่มมืดแล้วนะเว้ย

พอผมขยับตัวจนมือมันหลุดจากKผมแล้ว มันก้อขยับตัวอีกครั้ง เปนนอนหงายครับ ผมก้อเลยกลับมานอนอีกครั้ง

แต่นอนตะแคงหันหลังให้มันแทน ทีนี้กุจะได้หลับสักที จนผมก้อเริ่มเคลิ้มๆ...

แม่งมากอดกุอีกและ!!

กุทนไม่ไหวแล้วเว้ย!!!

คราวนี้ผมหันหน้าไปหามันเลยครับ เผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัว 555

แต่พอผมหันหน้าไป มือผมมันก้อเลยไปโดนเอาKมันเข้า เพราะถ้าไม่เอามือไปกอดมันเนี่ย มือผมก้อต้องวางพาดตัวไว้ใช่มั๊ยล่ะ

นั่นแหละ เลยไปเฉี่ยวๆโดนของมันเข้า มันยังไม่แข็งครับ นิ่มๆ แต่ผมไม่ได้จับนะ แค่มือไปโดนเฉยๆเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วขนาดเท่าไหร่

แต่Kกุเนีย่ แข็งจนจะระเบิด

ตอนนี้ผมก้อไม่รุแล้วครับว่ามันหลับอยู่รึเปล่า มันจะตื่นมั๊ยเนี่ย แต่ผมเอามือไปจับของมันแล้ว

โคตรร ตื่นเต้นเลย

ทั้งเสียว ทั้งกลัวมันตื่น กลัวจะเสียเพื่อนก้อกลัว แต่... กุหน้ามืดแล้วเว้ยย

ตอนนั้นผมแค่เอามือไปกุมอยู่เฉยๆ ไม่ได้จับรูดๆอะไรหรอกนะครับ แต่สักพักมันก้อเริ่มแข็งขึ้นๆ จนล้นมือผม ผมก้อกะขนาดคร่าวๆ... ดูๆแล้ว... อืมม.... กูใหญ่กว่าว่ะ 55555 แอบดีใจนิดหน่อย หุหุหุ

ผมไม่อยากเสียเพื่อนครับ สุดท้ายก้อตัดสินใจ เอามือออก แล้วก้อกอดมันแทน แต่... ถ้าผมไม่เอาน้ำออกเนี่ย ผมนอนไม่หลับแน่ๆ เลยหอมแก้มมันไปทีนึง แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ

ไม่ต้องถามหรอกนะว่าตอนว่าวนึกถึงเรื่องอะไร

หุหุ

แทบไม่ต้องนึกเลยอ่ะ ว่าวๆไปไม่ถึง 5 นาที ก้อออกแล้ว

พอสบายตัวผมก้อเดินออกจากห้องน้ำ แล้วก้อมองหน้ามันทีนึง แล้วจึงเข้านอน
.............................
“ปายไหนมาอีกอ่า” มันทักผมอีกแล้ว

“ไปเยี่ยว” เยี่ยวเหนียวอ่ะมึง มีไรป่ะ

“เหรอ สะบัดหมดดียัง”

“สาดนี่ มึงไม่ต้องมายุ่งกะKกุหรอกนะ รีบๆนอนไปไป๊” แล้วผมก้อล้มตัวลงบนเตียง หันหลังให้มันเหมือนเดิม

“ไม่ยุ่งได้ไงเล่า กุนอนไม่หลับแล้วน้า อย่าหนีเอาตัวรอดคนเดียวดิ่คับ” มันตะแคงตัวหันมาพูดกับผม แล้วมือมันก้อเอื้อมมาจับที่เป้าผมจังๆ

“เฮ้ยย” ผมตกใจครับ เลยหันหน้าไปหามัน ปากก้อเลยประกบเข้ากับปากผมพอดี บังเอิญชิบหายยังกะในหนัง

แต่ผมนึกว่ามันจะถอนปากออก มือมันกลับจับKผมแน่นกว่าเดิม เหมือนกลัวผมจะหนีไปไหน แล้วมันก้อเริ่มต้นจูบปากผมจริงๆแล้ว

“ไอ้เบียร์!!” พอปากผมหลุดออกมา ผมก้อถามมัน “นี่มึงจะทำ...”

ยังไม่ทันพูดจบ มันก้อเอามือผมไปวางไว้ที่เป้ากางเกงมันแล้ว แต่เอ๊ะ ไม่มีกางเกงในนี่หว่า... สงสัยแม่งแอบถอดตอนผมเข้าไปว่าวแน่ๆ

“ต้น กุรักมึงนะ” ผมตกใจโคตรๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย แต่ว่า มันเองก้อไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านี้เหมือนกัน มันคงรอดูปฏิกิริยาผมก่อนด้วยมั๊ง

“อ่ะ เอ่อ กุ...” ผมพูดอะไรไม่ออก มันเหนผมไม่พูดอะไร มัน้ลยพลิกตัวหันกลับไปอีกข้าง หันหลังให้ผมแล้วพูดว่า

“กุขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจ”

“เฮ้ยเบียร์ กุไม่ได้ตั้งใจจะว่ามึง กุแค่... ไม่รู้เหมือนกัน กู...” ผมไม่รู้จริงๆว่าจะพูดว่ายังๆไง

“อืม กุเข้าใจ กุก้อเหมือนมึงนั่นแหละ” มันพลิกตัวกลับมานอนหงายแล้วครับ

 “กุก้อไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่ากุเปนอะไร กุไม่รู้ว่ากุรักมึงแบบไหนกันแน่... มึงเปนเพื่อนรักกูนะ กุขอร้องล่ะนะ อย่าเกลียดกูเลย” แล้วมันก้อหันหน้าหนีกลับไปอีกแล้วครับ...

“กุก้อเหมือนกันเบียร์… แต่ตอนนี้กุรู้แล้วว่ากุรักมึงแบบไหน” แล้วผมก้อกอดมันแล้วหอมแก้มมันครับ มันเลยหันกลับมาสบตาผม

“แล้วแบบไหนอ่ะ” มันยิ้ม

“แบบนี้ไง” ผมยิ้มตอบแล้วเอื้อมมือไปจับKมันที่หดลงไปหน่อยแล้วครับ แต่ยังไม่ทันจะหดลงไปหมดหรอก โดนมือผมเข้าไปก้อกลับมาสู้อีกที

มันยื่นหน้าเข้ามาจูบปากผมอีกครั้ง เราแลกลิ้นกันนานมาก ผมเพิ่งรู้ก้อคราวนี้แหละครับ ว่าการได้จูบกับคนที่เรารักแถมยังเป็นจูบแรกของรักแรกด้วย มันรู้สึกดียังไง

แล้วมันก้อเริ่มไซร้คอผม ไล่ลงไปเรื่อยๆ ผมงี้เสียวชิบหาย แล้วก้อเริ่มล่าลงไปที่หัวนม ตอนนี้มันจับผมนอนหงายอยู่ข้างล่างมันแล้ว มือมันก้อค่อยๆถอดเสื้อผมออกไปด้วย

“ซี้ดดด เบียร์ กุเสียว” ผมเผลอตัวครางออกมาไม่ได้ แต่มันไม่หยุดแค่นั้นสิ พอมันถอดเสื้อเส็ดมันก้อหันมาถอดกางเกงผมแทน Kผมมันก้อดีด ออกมา แข็งเด่อยู่ตรงหน้ามัน

“ใหญ่นี่หว่ามึง ใหญ่เกินตัวนะเนี่ย” ว่าแล้วมันก้อเอาปากมันครอบลงไป ผมงี้เย็นวาบบไปทั้งตัวและหัวK

“ซี๊ดดดส์ เบาๆดิ่ อาาาา”

ฟันมันโดนของผมบ้างแต่ว่า ผมไม่ค่อยเจ็บหรอกครับ เพราะผมขลิบแต่เด็ก มันเลยด้าน

มันค่อยๆใช้ลิ้นเลีย ไล่จากตรงโคนขึ้นมา จนถึงหัวแล้วเอาปลายลิ้นฉกตรงรูเยี่ยว ทำเอาผมงี้แอ่น

ทำไมมันเก่งอย่างนี้วะ ถึงจะโดนฟันมั่งก้อเหอะ

แม่งล่อซะน้ำเงี่ยผมเล็ดออกมาเต็มหัวK

“น้ำมึงเยอะจังว่ะต้น นี่ขนาดเอาออกไปแล้วนะเนี่ย”

“มึงรู้ได้ไงว่ากุเอาออกมาแล้ว”

“ก้อเยี่ยวเหี้ยไรล่อหายไปซะนาน”

เออกุยอมแพ้มึง มึงจับกุได้

คุยกันจบมันก้อหันไปดูดKผมต่อ แล้วก้อไล่ลงไปดูดไข่ผมด้วย จนมันหดทั้งเพราะแอร์แล้วก้อทั้งเสียว

“โอ๊ยยยย เบาๆหน่อย กุเสียว” ผมครางไปเอามือจับหัวมันไป

“พอและเมื่อย” มันพูดเส็ดก้อเงยหน้าขึ้นมาจูบปากผมต่อ ปากมันมีรสเค็มๆด้วยครับ

คราวนี้ผมก้อรู้แล้วว่า ต่อไปคือหน้าที่ผมแล้วสิ

ผมจึงจับมันถอดเสื้อออก แล้วเลียหัวนมมันเบาๆ สลับกันซ้ายที ขวาที มันมันร้องเสียงหลง แล้วก้อค่อยๆไล่ลงมาที่กางเกงขาสั้นของมัน แต่ผมยังไม่ถอดมันออก

ผมงับเข้าไปทั้งกางเกงของมันนี่แหละ

ผมใช้ลิ้นเลียจนกางเกงของมันเปียกชุ่มไปหมด

นึกภาพสิครับ กางเกงที่ใส่นอนมันก้อบางๆอยู่แล้ว ผมเลียจนเหนเป็นท่อนลำสีดำชัดเจน แล้วก้องับตรงหัวKมันเบาๆเปนระยะๆ

“โอ้ยย ซี้ดดด กุไม่ไหวแล้ว ต้น เอาออกมาเถอะ” ได้เลยมึง ผมจึงจัดการดึงกางเกงของมันลง Kมันเลยดีดออกมาตรงหน้าผม ผมไม่รอช้ารีบงับลงไปที่ส่วนหัว แล้วดูดแรงๆจนมันร้องออกมา

“โอ๊ยยยยยยยยย ไอ้ต้นน เบาๆ กุ สะเอี๋ยวว อ๊าาา” มันร้องครางเสียงกระเส่าไปหมดแล้ว

น้ำมันก้อเยิ้มตั้งแต่แต่อยู่ในกางเกงแล้วด้วย

ผมจัดการดุดให้มันไปสักพัก มันก้อไม่ไหวแล้ว

“ซี้ดดด ต้นกุไม่ไหวแล้วว่ะ” ผมจึงผละจากKมันแล้วขึ้นมานอนดูดปากข้างๆมันแทน

มือมันก้อชักว่าวของมันไป ผมก้อชักของผมไปด้วย จนมันทนไม่ไหว

“โอ๊ยยยย กุไม่ไหวแล้วต้น จะออกแล้วๆ” พูดจบน้ำมันก้อพรุ่งปรี๊ดออกมา เลอะมาถึงคางมันแน่ะครับ ผมเองก้อจะไปแล้วเหมือนกัน

“ซี้ดดด น้ำมึงพุ่งแรงจังวะ อาาา กุก้อจะออกแล้วๆ” แต่ไอ้เบียร์กลับปัดมือผมออกแล้ว ชักให้ผมแทน

“โอ๊ยย อกแล้ว เบียร์กุออกแล้ว” แล้วผมก้อน้ำแตกเปนรอบที่ 2 ครั้งนี้น้ำจึงมีไม่เยอะมากนัก

แต่มันยังไม่หยุดรีด K ผมครับ แถมยังเอานิ้วมาบี้ๆที่หัวKผมอีกต่างหาก

“โอ๊ยยๆๆๆๆๆ พอๆๆๆ เสียวชิบหายเลยยย อย่าแกล้งกูดิ่”

มันยิ้มหวานใส่ผม แล้วเราก้อจูบกันอีกครั้งก่อนลุกขึ้นไปล้างตัวกัน

พออยู่ในห้องน้ำผมกับมันก้อช่วยกันล้างตัวให้กัน ผมถึงได้เห็นของมันเต็มๆตาว่า หัวยังไม่เปิดเลยนี่หว่า แถม พูดตามตรง ว่าKมันสวยมากกก มีหนังหุ้มนี่มันน่ารักดีจริงๆ เหมือนของเด็กเลย

ผมยังแซวมันเลยว่าหัวยังปิด แถมยังเล็กอีกต่างหาก แม่มันจับจู๋มันสต๊าฟไว้ตั้งแต่ปอสี่หรอ 555 แล้วผมก้อแหย่มันจนมันแข็งอีกรอบ ลองรูดดูก้อรูดได้ไม่สุด ไม่เหมือนของกุเลย แม่งทั้งดำทั้งด้าน

มันก้อแซวผมเหมือนกัน ว่าเหมือนของเงาะซาไก (อันนั้นก้อเกินปายย) หลังจากอาบน้ำเส็ด เราก้อใส่เสื้อผ้านอนกอดกันยันเช้า... :)

.......................................


คือ... ผมเขียนเรื่องเซ็กส์ไม่เปนงะ

ตลกว่ะ ครั้งหน้ากุไม่เขียนแล้วว้อยย

ขออภัยถ้าอ่านแล้วเสือกขำแทนที่จะสยิวนะคับ

...
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 14-01-2007 22:21:00
 :try2:ตอนที่10 ออกแนวน่ากลัวมากๆ   
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 15-01-2007 18:20:41
รีบมาต่ออย่างไวเลยนะ  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 15-01-2007 22:02:34
สนุกดีครับ มาต่อไวๆนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 15-01-2007 22:28:33
 :-[ :-[ มีอารายกานแล้ว...
รออ่านตอนต่อไปดีก่า ฮิฮิ...
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 17-01-2007 11:52:38
ยังไม่มาต่ออีกเหยอ 3 วันแล้ว :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-01-2007 13:42:05
   
ตอนที่ 11

    หลังจากคืนนั้น ผมกับไอ้เบียร์ก้อยังทำตัวปกติกันเหมือนเดิมครับ ไม่ได้สวีทไปมากกว่าเดิม หรือไม่ได้สู้หน้ากันไม่ติดแต่อย่างใด 
 
    ผมก้อยังโทหามันทุกคืน มันก้อมีโทมาหาผมบ้างเวลาผมกลับบ้าน ว่าถึงบ้านรึยัง...

    อยู่ที่ รร เราก้อเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีใครผิดสังเกตเราสองคนเลย จะมีวันหยุด เราก้อไปดูหนังกันสองคนบ้าง

   ไปเดินห้างบ้าง บางทีก้อเจอเพื่อนๆเหมือนกัน

    แต่ก้อไม่มีใครทักหรือแซวอะไรหรอกครับ ก้อมันรู้กันอยู่แล้วว่าผมสนิทกันอยู่แล้ว...

   แต่ว่าเราก้อไม่ได้ตกลงกันว่า กุกะมึงเปนแฟนกันนะ หรืออะไรพวกนี้หรอกนะครับ ซึ่งผมก้อไม่คิดจะพูดหรอก (อ้วก)...

   แหม สำหรับผมแล้วผมคิดว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูดใช่มั๊ยล่ะ

   เอาเปนว่า ผมเปนคนที่รู้ใจมันที่สุด ส่วนมันก้อรู้ผมดีที่สุด เท่านี้ก้อน่าจะพอแล้ว

    ส่วนเรื่องนัท ผู้หญิงที่มันชอบ มันก้อเลิกโทตามตื๊อเค้าแล้วล่ะ (เมิงก้อลองไม่เลิกดิ่ สาดด)

    ผมเองก้อห่างๆจากพลอยไปเหมือนกัน เอาเวลามาใช้ด้วยกันดีกว่า

    และสุดท้ายก้อถึงวันสุดท้ายของการสอบไฟนอลครับ วันนี้มีแค่ สอง วิชา เลยจะทำให้พวกผมสอบเส็ดตั้งแต่ ยังไม่เที่ยง

    แน่นอนว่า วันนี้พวกเพื่อนๆผมก้อนัดรวมกันไปเที่ยวแหง คิดว่าจะไปดูหนังกันอ่ะครับ...

    วันนี้ผมก้อมา รร ตั้งแต่เช้าเหมือนเดิม จนพอได้เวลาใกล้เขาแถว ผมก้อจะเดินเอากระเป๋าไปวางไว้หน้าห้องสอบ แต่...

    ทำไมไอ้เบียร์ยังไม่โทมาวะ สงสัยแม่งจะมาสายแหง... จะโทไปดีป่าววะ ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากโทหาแม่ง กุเล่นตัว...

    จนเข้าแถว ผมก้อยังไม่เหนมันมา... จนเดินเข้าห้องสอบมันก้อยังไม่มา... จนอาจารย์เรียกเข้าสอบ มันก้อยังไม่มา...

    เฮ้ยย... นี่มันอะไรกันวะ

    เมื่อคืนโทไปหามัน แม่มันก้อรับบอกว่ามันนอนแล้ว ก้อเลยไม่ได้คุยกัน...

    พอสอบเส็ดวิชาแรก ผมก้อลองถามไอ้แบงค์ครับ ว่ามันรู้รึเปล่าว่าทำไมไอ้เบียร์ไม่มา เพราะเหนมันบ้านใกล้กัน

    มันก้อตอบผมว่าไม่รู้ ว่าจะโทถามมันเหมือนกันเนี่ย ผมเลยตัดสินใจบอกมัน.. กุโทเอง

    ไอ้เบียร์มันใช้ pct ครับ แต่ผมโทหามันกี่ทีๆ มันก้อไม่รับสาย... ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วครับ (เสียไปหลายตังอยู่) มันเปนอะไรไปรึเปล่าวะ

    เพื่อนผมก้อเริ่มสงสัยกันใหญ่แล้ว ว่าทำไมมันไม่มา แต่ว่าคนที่จะสนใจจริงๆ ก้อมีแค่ไม่กี่คนหรอกนะครับ เพราะคนอื่นมันไม่รู้เรื่องร่างชัยของไอ้เบียร์กัน...

    พอสอบวิชาที่สองเส็ด ผมตัดสินใจโทเข้าบ้านครับ มีคนรับแล้วครับในที่สุด เปนคนใช้บ้านมันครับ พอผมขอสายเบียร์เท่านั้นแหละ
 
   คำตอบที่ผมได้ยินกลับมามันทำให้ผมถึงกับเข่าอ่อนเลยทีเดียว...

    คำตอบที่ผมได้กลับมาคือ เสียงร้องไห้ครับ...

    ไอ้เหี้ย มึงร้องไห้ทำไมวะ กุขอสายไอ้เบียร์ แล้วมึงจะร้องไห้ทำเหี้ยอะไรเนี่ย!

    ผมก้อถามพี่เขาว่า เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมมันไม่มาสอบ พี่เขาจึงตอบกลับมาว่า ไอ้เบียร์อาการทรุดหนัก ถูกหามส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน

    ตอนนี้พวกคนงานที่บ้านก้อยังไม่รู้เลยว่า มันเปนยังไงบ้าง เพราะยังไม่มีใครติดต่อกลับมาที่บ้านเลย...

    แค่นั้น ผมก้อวางหูไปแล้วครับ ผมแทบไม่ได้ยินอะไรเลยด้วยซ้ำ หลังจากคำพูดที่ว่า มันถูกหามส่งโรงบาลตั้งแต่เมื่อคืน...

    หลังจากวางโทรศัพท์ น้ำตาของผมมันก้อเริ่มไหลลงมาแล้ว... เพื่อนผมรีบเข้ามารุมถามกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

    ผมก้อบอกพวกมันไปตามที่ผมได้ยินมาครับ ตอนนี้ผมไม่แคร์แล้วล่ะ ว่าจะมีใครรู้ไม่รู้เรื่องของไอ้เบียร์บ้าง

    กูรู้แต่ว่า... คนที่กูรัก กำลังจะจากกูไปอีกแล้ว...

    เพื่อนผมหลายคนก้อตกใจมากที่ได้ยินข่าวนี้ มันช่างเหมือนไฟลามทุ่งจริงๆ...

    ทุกคนที่รู้จักไอ้เบียร์รู้เรื่องของมันภายในเวลาไม่ถึง ชม ระหว่างรอเข้าห้องสอบวิชาต่อไป

    เพื่อนผมหลายคนรวมทั้งไอ้แบงค์และไอ้ต่ายก้อเข้ามาปลอบผม ว่าอย่าคิดมาก มันอาจจะไม่เปนอะไรก้อได้ อย่าเพิ่งคิดไปเองเลย

    แต่หน้าไอ้ต่ายน่ะซีดเผือด ส่วนไอ้แบงค์ก้อตาแดงแล้วเหมือนกัน... นึกดูสิครับ หามส่งโรงพยาบาล...

    พ่อกับแม่ก้อไม่ได้ติดต่อที่บ้านเลยตั้งแต่เมื่อคืน... นี่มันเหี้ยอะไรกันเนี่ย!

    ผมเข้าสอบวิชาต่อไปอย่างไม่มีวิญญาณเหลืออยู่เลย ผมไม่รู้แม้แต่นิดเดียว ว่าผมกาอะไรลงไปบ้าง

    พอทำเส็ด ผมก้อตรงออกจาก รร ตั้งใจจะกลับบ้านทันที ผมไม่คิดจะอยู่รอใครแล้ว ไม่คิดจะรับรู้อะไรอีกทั้งนั้น

    ในหัวของผมมันมีอยู่เพียงอย่างเดียวก้อคือ

    ไอ้เบียร์... มึงเป็นยังไงบ้าง มึงจะเปนอะไรมั๊ย มึงจะจากกุไปมั๊ย มึงห้ามเปนอะไรนะเว้ย...

   แล้วน้ำตาของผมมันก้อไหลออกมาโดยที่ผมไม่สนใจจะหยุดมัน แล้วก้อไม่สนใจสายตาคนรอบข้างแล้วล่ะครับ

    ผมตั้งใจที่จะตรงกลับบ้านทันที แต่ว่าขาของผมมันไม่มีแรงจะก้าวเดินอีกต่อไปแล้ว...

    ที่ที่ผมหยุดแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น คือ ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างที่อยู่ใกล้ รร ผม ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา ผมก้อไม่สนใจใครทั้งนั้น

   ผมปิดโทรศัพท์ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสอบ แล้วตอนนี้ผมก้อยังไม่พร้อมที่จะเปิดมัน ผมไม่รู้ตัวว่าผมนั่งอยู่นานขนาดไหน

   จนเพื่อนผมกลุ่มใหญ่ เดินเข้ามาหาผม นำมาโดยไอ้ต่าย...

   พวกมันมาตามหาผมกันครับ...

   เออ กุก้อโง่นะ เสือกมาหยุดอยู่กลางทางระหว่าง รร กับทางเข้าห้าง...

    แต่ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้นแล้ว ไอ้ต่ายจึงบอกให้ทุกคนกลับไปก่อน แต่มันกลับมานั่งอยู่ข้างๆผมแทน (แล้วทำไมมึงไม่ไปวะ)

   มันปล่อยให้ผมอยู่เงียบๆสักพักนึง จนผมรู้สึกดีขี้นแล้วเกรงใจมัน จึงบอกให้มันกลับไปก่อนเถอะ ผมไม่เปนไรแล้ว จะกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงหรอก...

   ไอ้ต่ายจึงบอกกับผมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจที่แกจะมีให้มันนะ

    อย่าลืมว่าเมื่อไหร่ที่แกทิ้ง ‘สิ่งๆนั้น’ ไป นั่นเท่ากับแกทอดทิ้งมันไปแล้วจริงๆ...

    ผมหันมาแล้วยิ้มให้มัน แล้วจึงออกเดินกลับบ้านไป...

    ต่ายมันพูดถูกทุกอย่างครับ ทำไมผมต้องตีโพยตีพายด้วย มันไปโรงบาลเพื่อที่จะไป ‘รักษา’ ไม่ใช่เรอะ ไม่ใช่ว่ามันไปวัด เพื่อไป เผา สักหน่อย

    กุเองควรจะต้องเข้มแข็งไว้สิ แล้วรอข่าวจากแม่มัน ว่ามันเปนยังไงบ้าง ไม่ใช่ไปคิดแต่ในแง่ร้ายว่ามันจะจากเราไป...

    เราต้องเปนกำลังใจให้มันเสมอสิ ต้องเชื่อในตัวมัน มันแข็งแรงจะตาย มันต้องไม่ปนอะไรง่ายๆแน่นอน...

    แล้วถ้ามีอะไร แม่ไอ้เบียร์ต้องโทมาบอกกุแน่นอน หรืออย่างน้อยๆ... ไอ้แบงค์ก้อต้องรู้แล้วบอกกุแน่ๆล่ะวะ...

    แต่ผมไม่มีวันรู้เลยครับ ว่าไอ้ความแข็งแรงของมันเนี่ยแหละ ที่ทำให้เรื่องราวมันแย่ลงไปอีก...

...............
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 17-01-2007 14:29:53
 :impress: ลุ้น ๆ จะเปนไรมากป่าวไม่รู้...
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 17-01-2007 15:39:26
โหเพิ่งHappy อยู่เมื่อกี้ เข้าโหมดเศร้าอีกล่ะ ฮือ ๆๆ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 17-01-2007 21:56:34
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-01-2007 10:48:17
ตอนที่ 12
[/b]

หลังจากกลับถึงบ้าน ผมตัดสินใจโทหาไอ้ต่าย เพื่อบอกมันว่าผมกลับถึงบ้านโดนสวัสดิภาพแล้ว ไม่ต้องเปนห่วง แล้วก้อขอบใจมันมาก ผมไม่เปนอะไรแล้ว...

 อีกคนที่ผมโทหาคือ ไอ้แบงค์ เพื่อที่บอกมันว่าไม่เปนอะไรแล้ว แล้วถามมันด้วยว่า พอรู้เรื่องของไอ้เบียร์รึยัง (ตอนนั้นเปนเวลาประมาน บ่ายโมงนิดๆ)

มันก้อยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน

แต่มันสัญญาว่า จะให้แม่มันลองสืบถามดูให้ เพราะแม่มันรู้จักกันครับ และมันจะโทมาบอกผมเปนคนแรกแน่ๆ...

พอวางโทรศัพท์ ผมก้อตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่เศร้า ไม่กระต่ายตื่นตูมไป มันช่างน่าอายจริงๆวันนี้ ที่ผมเปนไปซะขนาดนั้น...

ผมเลยตัดสินใจจะอาบน้ำนอนซักงีบ พักผ่อนสมองสักหน่อย ไหนๆก้อสอบเส็ดวันสุดท้ายแล้วนี่

แต่พอเดินขึ้นไปบนห้องเท่านั้นแหละ... ภาพทุกอย่างมันก้อพรั่งพรูเข้ามาหาผมจนตั้งตัวแทบไม่ติด...

นั่นเปนการมาบ้านผมครั้งแรกของไอ้เบียร์... แล้วมันจะเปนครั้งสุดท้ายมั๊ยวะ... ผมเริ่มสะอึกแล้ว

ผมมองไปยังหน้าทีวี ภาพที่มันนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักผม มันก้อหมุนเข้ามา

ใบหน้าของมัน ที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม...

น้ำเสียงของมันที่พูดว่า กูก้อรักมึง

เสียงหัวเราะของมัน

ใบหน้ายามหลับของมัน

ความอบอุ่นที่มันกอดผมเอาไว้

ความรู้สึกดีๆ ที่ผมกับมันเคยมีให้กัน

ผมหยุดไม่ได้แล้ว... ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้จริงๆ

ผมทำได้แค่ทิ้งตัวลงบนเตียง ซุกหน้าลงกับหมอน แล้วร้องไห้ออกมาดังๆเท่านั้น

.........

มีใครเคยเป็นเหมือนผมมั่งมั๊ยครับ

เวลาที่รู้สึกเศร้าสุดๆเนี่ย

ยิ่งเวลาพยายามจะทำใจกับมันไปด้วยแล้ว

แต่พอมีอะไรมากระทบเราหน่อยนึง

มันเหมือนจะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมซะอีก

ใครจะรู้ว่า จริงๆแล้วผมเปนคนที่อ่อนไหวมากๆเลยนะครับ

และสิ่งที่ผมเกลียด และกลัวมากที่สุดก้อคือ

“การสูญเสีย”

ผมมักเลือกที่จะเปนฝ่ายเดินจากไป มากกว่าจะให้ใคร มาจากผมไป

ผมเลือกที่จะเจ็บและสูญเสีย มากกว่า จะให้ใครต้องมาสูญเสียสิ่งใดเพราะผม

.........

ผมโทษตัวเองทุกๆอย่าง

เพราะความเอาแต่ใจ

เพราะความเห็นแก่ตัวของผม

ที่ผมอยากให้มันมาที่บ้าน

ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ ว่าร่างกายมันเปนยังไง

ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ ว่าแม่มันเฝ้าคอยดูแลมันขนาดไหน

ทั้งๆที่รู้... ว่าเพื่อนคนไหนชวนมันไปเที่ยว มันก้อไม่เคยไปเลยด้วยซ้ำ

แต่กู... กูกลับเอาแต่ใจจะให้มันมาให้ได้

ถ้าแม่มันจะโกรธ จะเกลียดมึง... มันก้อสมควรแล้ว

ไอ้เหี้ยต้น!

...........

วันนั้น ผมร้องไห้จนหลับคาหมอน ทั้งชุดนักเรียนนั่นแหละ

ตื่นมาอีกทีก้อ บ่ายสี่กว่าๆแล้ว ใกล้ได้เวลาที่บ้านผมเริ่มจะกลับมากันแล้ว

ผมจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วจึงลงมาหาอะไรกิน เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง...

แล้วโทรศัพท์ผมก้อดัง

แม่ไอ้เบียร์โทมา!!

ผมรีบกดปุ่มรับทันที

“ฮัลโหล ครับ”

“ต้นเหรอลูก”

“ครับใช่ครับแม่ เบียร์เปนยังไงมั่งครับ” ผมรีบถามถึงมันก่อนเลย

“ใช่ต้นจริงๆด้วย ที่โทเข้าบ้านแม่เมื่อเช้าใช่มั๊ยลูก”

“เอ่ออ ครับ ผมเองครับ ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกลูก จะขอโทษทำไมล่ะ แม่สิต้องขอโทษที่ไม่ได้โทบอกต้นไวๆ เผอิญแม่ก้อยุ่งๆกันน่ะลูกนะ”

“ครับ ผมเข้าใจครับ ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ... แล้วอาการมันเป็นยังไงบ้างครับ” ผมยังอยากรีบๆรู้อาการของมันจะแย่อยู่แล้ว

มือไม้ผมสั่นไปหมด กลัวคำตอบที่ผมจะได้ยินจริงๆ...

“... เบียร์เค้าไม่เปนอะไรหรอกลูก แต่ช่วงนี้ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักระยะ คงอาจจะตลอดช่วงปิดเทอมน่ะแหละ

เกร็ดเลือดเค้าลดลงเยอะ หมอต้องให้อยู่ในห้องปลอดเชื้อตลอด

ตอนนี้เค้าก้อฟื้นแล้ว แล้วก้อบอกให้แม่โทมาบอกต้นนี่แหละลูก เค้ากลัวต้นจะเปนห่วง”

แม่มันตอบผมมา หัวใจผมผองโตเลยครับ เพิ่งรู้นี่เองว่า เวลาคนเราดีใจจนตัวลอยมันเปนยังไง ผมงี้ทั้งดีใจ ทั้งโล่งใจ หลายๆๆอย่าง

“อ่อครับ แล้วตอนนี้มันอยู่ที่โรงพยาบาลไหนอ่ะครับ พวกผมไปเยี่ยมได้รึเปล่า” ผมใช้คำว่า พวกผม แฮะ

“ตอนนี้เค้าอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬา แม่เพิ่งย้ายเค้ามาจากโรงพยาบาลประจำ มาที่นี่เค้ามีรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ

ส่วนเรื่องมาเยี่ยม คงต้องรอสักพักนะลูก เพราะว่าเค้ายังอ่อนแออยู่มาก รอให้เค้าดีขึ้นกว่านี้อีกนิดนึง แล้วแม่จะโทไปบอกต้นเองนะ

แต่ว่า ต้นจะไปเยี่ยม ไปนั่งคุยกับเค้าคงไม่ได้นะ เพราะมันเปนห้องปลอดเชื้อ เราเข้าไปไม่ได้น่ะ”

โอ๊ยยย ผมไม่สนใจหรอกครับ ขอแค่ให้ได้เจอหน้ามัน ผมก้อดีใจแล้ว

“ครับ ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทบอกพวกไอ้แบงค์ก่อนนะครับ พวกมันก้อเปนห่วงเบียร์อยู่เหมือนกัน ขอบคุณๆคุณแม่มากๆนะครับ ที่โทบอกผม”

แล้วผมกับแม่มันก้อร่ำลากันสักพัก ผมก้อกดปุ่มโทหา ไอ้แบงค์และคนอื่นๆทันที เพื่อเล่าข่าวดีให้พวกมันฟัง...

จริงๆแล้ว ผมน่ะจำไม่ได้หรอกนะครับ ว่าไอ้เกร็ดเลือดน่ะ มันควรจะมีอยู่เท่าไหร่ แล้วไอ้เบียร์มันมีอยู่แค่ไหนบ้าง แม่งไม่รู้เปนห่าอะไร

ผมจำไม่เคยได้เลย ทั้งๆที่เพื่อนผมมันก้อคุยกันเรื่องนี้ออกบ่อยนะ -*-

ตอนนี้ผมรอที่จะได้ไปเจอหน้ามันไม่ไหวแล้วล่ะครับ

............

หลังจากนั้น ผมก้อโทหาไอ้เบียร์ทุกวันเลยครับ

คุยได้นานมั่ง สั้นมั่ง ผมก้อยังรู้สึกดีกว่าที่จะไม่โทหามันเลย... ผมไม่เอาแล้วล่ะครับ ที่ไม่ได้คุยกับมันคืนนึง

วันรุ่งขึ้นมันอาการทรุดหนักโดนหามไปอีกน่ะ ยังดีที่หมอเขาให้มันเอา pct เข้าไปในห้องได้ แต่มันนะ เรียกร้องให้แม่มันซื้อทีวีเข้าไปให้มันด้วย

ซึ่งแม่มันก้อยอมครับ แถมเกมที่มันอยากได้อีก เหนมั๊ยครับว่าแม่มันรักมันแค่ไหน... ผมเลยยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปอีก ที่ทำให้มัต้องเข้าโรงบาลแบบนี้

“เบียร์... กูขอโทษนะเว้ย” ผมตัดสินใจขอโทษมัน วันนึงที่ผมโทคุยกะมันอยู่

“เรื่องอะไรวะ”

“เอ่อ ที่กูบังคับให้มึงมาบ้านกูอ่ะ ถ้ามึงไม่มา อาการมึงก้อคงไม่ทรุดลงหรอก กุรู้ตัวดี ว่าต้นเหตุมันเปนเพราะกู...

แต่กูก้อยังไม่กล้าที่จะบอกแม่มึงตามตรงอยู่ดี กู... กูไม่รู้จะพูดยังไงว่ะ คือกูขอโทษนะเว้ย”

“ไอ้บ้า! ใครเขาบอกว่าเปนเพราะมึงวะ แม่กูเค้ายังไม่แม้แต่คิดด้วยซ้ำว่าเปนเพราะมึงน่ะ อย่างแรกเลยนะเว้ย

คือ มึงไม่ได้บังคับกู มึงคิดดูดีๆดิ๊ กูขอแม่กูไปเอง... สอง คือ ที่กูไม่สบายเนี่ย มันไม่ได้มาจากมึงเลยนะ กูเข้าโรงบาลมาตั้งตลอดสองปีกว่าแล้วนะ

มันเปนเรื่องธรรมดาสำหรับกูไปแล้ว อย่ามาโทษตัวเองได้ป่ะ กูไม่ชอบนะเว้ย มึงอยากให้กูโกรธมึงงั้นเหรอ ฮึ”

“เอ่ออ เออก้อได้” ผมยอมรับมันแต่โดยดี “ว่าแต่ เมื่อไหรมึงจะออกมาอ่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน แม่กู... เขาก้อไม่ค่อยบอกกูหรอกว่ากูเปนยังไงบ้างแล้ว...” เสียงมันฟังดูแย่ๆครับ ผมเลยไม่อยากเซ้าซี้มันอีก

วันนั้น ผมจึงคุยกับมันแค่นั้นแล้วปล่อยให้มันไปนอนพักจะดีกว่า

หลังจากนั้นอีก 2 วันผมถึงมีเวลาไปเยี่ยมมันได้ คือ... ไปกับเพื่อนๆที่ห้องน่ะครับ ทั้งหมดก้อ 10 กว่าชีวิต เกือบทุกคนมาหามันเปนครั้งแรก

ยกเว้นไอ้เชี่ย ชัย ครับ (แม่งมาประมาณ 5 รอบแล้วมั๊ง)

ดังนั้นพวกผมทุกคนจึงเคลื่อนขบวนตามไอ้ชัยด้วยความหมั่นไส้ (อันนี้สงสัยจะกุคนเดียวรึเปล่า) พอขึ้นไปบนแผนกที่ไอ้เบียร์นอน ก้อเจอแม่มันและพี่มันครับ

พวกผมก้อไหว้ตามระเบียบ โดยที่ไอ้ชัยนี่ท่าทางซี้กับแม่และพี่ของไอ้เบียร์ซะเหลือเกิน

 (เอออ ไปเปนลูกบุญธรรมเค้าเลยมั๊ยล่ะ สาดด) ส่วนผมไม่ค่อยได้คุยกับแม่มันหรอกครับ ผมเปนคนขี้เกรงใจน่ะ...

ตามระเบียบแล้ว เค้าจะให้เข้าไปได้แค่ครั้งละ 3 คนครับ แล้วก้อต้องสวมชุดปลอดเชื่อ ต้องล้างมือ สวมถุงมืออะไรพวกนั้น แล้วก้อเอา pct แม่มันเข้าไปด้วย...

คือ พอเปิดประตูลิฟท์ออกมาเนี่ย มันจะเปนเหมือนห้องรับแขกเล็กๆอ่ะครับ แล้วขวามือก้อจะเปนเคาน์เตอร์ปกติอ่ะครับ

ไม่รู้เรียกว่าไร ที่มีพยาบาลทำงานอยู่ข้างหลังอ่ะนะ

 แต่ว่าจะเปนห้องปิดกระจกสนิทหมด แล้วก้อมีประตูกระจก พอมองเข้าไปจะเหนเปนทางเดินยาวๆ แล้วมีห้องหลายห้องอยู่แต่ละฟากของสองข้างทางด้วย...

ไอ้เบียร์ก้ออยู่ 1 ในห้องนั้นแหละครับ... พอพวกผม 3 คนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วก้อ เดินเข้าไปริมสุดทางเดินขวามือก้อเปนห้องมัน

ตรงประตูก้อจะมีช่องกระจกพอมองเข้าไปได้

เพื่อนผมผู้หญิง 2 คนที่เข้าไปพร้อมผมก้อดีอกดีใจ คุยกับไอ้เบียร์ผ่าน pct กันใหญ่ ส่วนผมน่ะ กระจกยังไม่กล้ามองเลย ไม่รู้เปนเหี้ยไรครับ ตื่นเต้นตุ๊มต่อม

พอเพื่อนผม มันถอยออกมาให้ผมส่องมันบ้าง (ยังกะส่องสัตว์ในสวนสัตว์แน่ะ) แล้วก้อยื่นโทรศัพท์ให้

พอผมเหนสารรูปมัน ผมพูดจริงๆว่า ตกใจมาก...

มันผอมมากเลยครับ แก้มก้อดุตอบๆลงไป มันยิ้มอยู่ก้อจริงนะ

แต่ว่ามันยังดูโทรมอย่างเหนได้ชัดเลย (แต่ยังหล่ออยู่ดี) ผมเลยตัดสินใจไม่มองหน้ามัน แล้วคุยอย่างเดียวดีกว่า...

คุยกับมันไม่นานหรอกครับ เค้าให้แค่ครั้งละประมาณ 10 นาทีเอง ผมก้อออกไปแล้วให้เพื่อนกลุ่มอื่นเข้ามาเยี่ยมมันต่อ

....................

หลังจากไปเยี่มมมันวันนั้น ผมก้อยังมีไปกับเพื่อนสนิทผมอีก 2-3 ครั้งครับ

ทั้งๆที่รู้นะว่า... มันกำชับแม่มันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่ให้ใครมาเยี่ยม... โดยเฉพาะผม

เฮ้ออ นี่แหละนิสัยมัน วันนั้นหลังจากพวกผมกลับ มันก้อทะเลาะกับแม่มันเลย เพราะเพื่อนเสือกแห่ไปกันซะเยอะ...

มันไม่อยากให้ใครเห็นมันในสภาพแบบนี้นั่นเองแหละ อย่างที่ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วน่ะครับ

แล้วนี่ยิ่งกลายเปนรู้กันทั้งระดับชั้นว่า มอ4 ปีนี้ มีคนเปนมะเร็งเม็ดเลือดขาวหนึ่งคน มันยิ่งไม่ชอบใจใหญ่เลย...

ผมก้อง้อมันตั้งนาน บอกมันว่าไม่ให้มันคิดอะไรแบบนี้ ให้หัดยอมรับความหวังดีความเห้นใจจากผู้คนรอบข้างซะบ้าง ซึ่งมันก้อ...ไม่ฟังผมครับ แม่งดื้อ แถมยังห้ามผมไม่ให้ไปอีก กุเลยไปไง กุก้อดื้อนะเว้ย สาด

แต่ผมจำได้ว่า วันนั้นเปนครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ไปเยี่ยมมันครับ เพราะปิดเทอม1เนี่ย มันแปบเดียวเอง

แต่ไอ้เบียร์ก้อยังไม่รู้ว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่...

“ฮัลโหล ต้นเหรอครับลูก วันนี้ต้นจะมาเยี่ยมน้องเบียร์รึเปล่า” แม่มันโทมาหาผมในตอนเช้าครับ

“อ๋อครับ ไปครับ เดี๋ยวไปกับเพื่อนอีก 2 คนครับ แม่จะเอาอะไรรึเปล่าครับ” ก้อคิดว่าแม่มันอยากได้อะไรมั๊ย จะได้ซื้อเข้าไปให้

“อ๋อ เปล่าหรอกลูก คือ... เบียร์เค้าบอกแม่ว่า ให้โทบอกไม่ให้ลูกต้นมาน่ะวันนี้” เอาอีกและ ไอ้ห่านี่ อะไรของมันวะ

“อ้าว ทำไมล่ะครับ”

“คือ... เค้ายังไม่อยากเจอหน้าใครน่ะ เค้า เอ่อ... ต้องอยู่โรงบาลต่อไปอีกสักพัก แล้วเค้าเสียใจที่ไม่ได้กลับไปโรงเรียนน่ะลูก”

“เอ่อ ครับ แล้วถ้างั้นมันก้อน่าจะให้พวกผมไปนะครับเนี่ย ถ้าเสียใจที่จะไม่ได้เจอเพื่อนที่ รร ล่ะก้อ” ผมล่ะงงกับความคิดมันจริงๆ

“แล้ว... ว่าแต่ ต้องอยู่อีกนานไหมล่ะครับ” ผมถามแม่มัน

“คือ...” แม่มันเงียบไปพักหนึ่ง “น้องเบียร์เค้า อาการทรุดลงน่ะลูก ยาที่หมอให้ไปช่วยรักษาอะไรไม่ได้เลย ร่างกายเค้าต่อต้านตลอด

หมอบอกว่า เปนเพราะร่างกายเค้าแข็งแรงเกินไป ต้องให้ยาที่มันแรงขึ้น แต่ว่าก้อยังไม่ได้ผล...”

น้ำเสียงแม่มันเริ่มแย่งลงแล้วครับ “... หมอเลยตัดสินใจจะให้เค้าเข้ารักษาโดยการปลูกถ่ายไขสันหลังน่ะ... แล้ว... คือ...” จ

นถึงตอนนี้ ผมฟังน้ำเสียงแม่มันคงเริ่มต้นจะร้องไห้แล้ว ผมยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่

“ครับๆ ผมเข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมโทบอกเพื่อนเองครับ ว่าไม่ไปกันแล้ว” เชี่ย... มันหมายความว่ายังไงวะ

“จ๊ะลูก แต่ว่า ต้นไม่ต้องบอกเพื่อนได้มั๊ยลูก ว่าทำไม”

“ครับ ได้ครับ แล้ว... คือ ถ้าปลูกถ่ายแล้ว มันจะหายมั๊ยครับ” ผมถามไปด้วยความไม่มั่นใจเลย... มันจะเปนอย่างที่ผมกลัวรึเปล่า..
.
“หมอบอกว่า 50-50 น่ะ เพราะงี้ น้องเบียร์เค้าถึง... เอ่อ... ไม่อยากเจอใครทั้งนั้นตอนนี้น่ะ แม่ก้อกำลังปลอบเค้าอยู่เหมือนกัน”

คำตอบของแม่มัน ทำเอาผมแทบทรุด...

50-50 เรอะ! บ้ารึเปล่า!! เท่าที่กูรู้มา ยังไม่เคยมีใครเปนโรคนี้ปลูกถ่ายแล้วหายเลยนะเว้ยยย!!

แค่การต้องปลูกถ่ายไขสันหลัง ก้อหมายความว่า ร่างชัยมันถึงขีดสุดแล้วด้วยซ้ำ!!!

อย่างนี้ผลลัพธ์มันจะเปนยังไงกัน! ตายช้ากับตายเร็วขึ้นเท่านั้นรึไง มันบ้าไปแล้วเหรอ นี่มันอะไรกัน!!

“แล้ว แล้วไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอครับ” ผมถามแม่มันด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่นมากที่สุด

“ไม่จ้ะ แล้วเบียร์เค้าก้อเลือกที่จะทำเองด้วย เปนการตัดสินใจของเขา แม่ ก้อต้องทำตามที่เขาต้องการ”

แม่มันร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงผู้ชายปลอบอยู่ข้างๆ น่าจะเปนพ่อมัน

“ครับ... ครับ แม่ แต่ถ้าหลังจากนั้น... หลังจากมันทำเส็ดแล้ว ผม... ผมขอไปเยี่ยมมันนะครับ”

“ได้จ้ะลูก แล้วแม่จะโทไปบอกต้นนะ แค่นี้นะก่อนนะลูก แม่ต้องไปแล้ว”

“ครับ สวัสดีครับ”

โลกทั้งโลกมันเหมือนจะถล่มลงมาตรงหน้าผมเดี๋ยวนั้นเลย

น้ำตา ที่เคยสัญญากับมันไว้ ว่าจะไม่ให้มันไหลออกมาเพราะมันอีก ก้อไม่สามารถจะห้ามได้อีกแล้ว...

กูขอโทษนะเบียร์ กูผิดสัญญาที่ให้ไว้กับมึงอีกแล้ว...

กูขอโทษ

………..

โฮวววว์

พิมเอง

อ่านเอง

รีโพสเอง

ซึ้งเอง

T-T

วันนี้เจอมัน อยากเล่ามากกกกกกกกก

ไว้เล่าทีหลังเน้อออ

T-T

..................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 19-01-2007 11:07:22
 :monkeysad: :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 19-01-2007 20:55:05
 :try2: เขินๆแฮะ

งานเขียนของตัวเองครั้งแรก ไม่ได้เรื่องเลยยย ไม่ชอบๆๆ  :serius2:

ขอบคุณทุกคนนะครับ คิดว่าเดี๋ยวเร็วๆนี้ผมคงเอาเรื่องใหม่ของผมมาลงให้ในเวบนี้ด้วยนะคับ   :-[

ปล. คิดถึงไอ้เบียร์  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: taebin7 ที่ 19-01-2007 23:30:26
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 20-01-2007 00:09:09
ซึ้งมากครับ
มาโพสท์ต่อไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-01-2007 01:53:21
อ้าวววว เจ้าของเรื่องมาเองเลย

ขอบคุณ ExecutioneR  นะครับ สำหรับเรื่องดีๆ

จะติดตามผลงานต่อไปครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-01-2007 11:28:48
ตอนที่ 13

เลขสวย

ข่าวเรื่องที่ไอ้เบียร์ต้องปลูกถ่ายไขสันหลังก้อแพร่ไปไวเหมือนกัน ทั้งๆที่ผมบอกเพื่อนแค่ 3 คนคือ ไอ้ต่าย ไอ้แบงค์แล้วก้อไอ้บาส เองนะ

แต่มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วล่ะครับว่าใครจะรู้อะไรหรือไม่รู้อะไรบ้าง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ทุกคน” ล้วนแต่รักและเปนห่วงมันกันทั้งนั้น...

พวกเราทุกคน ทั้งเพื่อนในห้องและเพื่อนต่างห้อง... ทุกคนที่รู้จักมัน ต่างก้อร่วมกันภาวนาให้มันจะต้องหายดีและกลับมาอยู่กับพวกเราอีกครั้ง...

มึงรู้ตัวบ้างมั๊ยไอ้เบียร์... ว่าคนที่เค้ารักมึง มีอยู่มากมายถึงเพียงนี้เชียวนะเว้ย

มึงรู้บ้างมั๊ย... ว่ามีคนที่รอคอยการกลับมาของมึงอยู่มากขนาดไหน...

เพราะฉะนั้นมึงจะต้องหายดี แล้วกลับมาหาพวกกูนะ...

ผมเฝ้าคิดแต่เรื่องนี้ ทุกคืนๆ จนผมจะเป็นโรคประสาทไปจริงๆ ถ้าไม่ได้เพื่อนๆหลายคนให้คุยด้วย ผมคงแย่แน่ๆ

หลังจากเปิดเทอมอาทิตย์แรก พวกผมก้อซื้อสมุดเล่มหนาเล่มหนึ่งมา เพื่อให้เพื่อนๆทุกคนเขียนข้อความถึงไอ้เบียร์ เพื่อเปนกำลังใจให้มัน

เนื่องจากเราไปเยี่ยมพวกมันไม่ได้ (ทั้งที่มันไม่อยากให้ไป และ ร่างกายมันอ่อนแอมากด้วย)

ก้อมีแต่ไอ้ชัยนั่นแหละครับ ที่ไปหาแม่มันพี่มัน ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ (ตอแหลนักนะมึง)... แต่ว่า...

กุจำไม่ได้ว่ากุเขียนไรลงไปอ่ะ

...แหะ...

แหมก้อมันนานมาแล้ว จริงๆที่นั่งเล่าอยู่นี่ก้อเพิ่งนึกขึ้นได้นะเนี่ย ว่ามีไอ้สมุดเล่มนั้นอยู่ด้วย...

แถมจำไม่ได้ด้วยอ่ะ ว่าเขียนไปรึเปล่า...

เพราะว่า คือ ผมเขินอ่ะ ถ้าจะต้องเขียนอะไรแบบนั้น ก้อเลยไม่แน่ใจว่าเขียอะไรลงไป...

แล้วนิสัยอย่างผมเนี่ย ให้ตายก้อจะมานั่งบรรยายว่า ...กุเปนห่วงมึงนะ รอคอยมึงกลับมา บลาบลาบลา...

อะไรหวานๆซึ้งๆจำพวกนั้นไม่เปนอ่ะ อย่างมากก้อคงประมาณ ...หายไวๆนะเว้ย... แค่นั้นแหละมั๊ง

เวลาผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ ผมก้อได้ข่าวจากแม่ของมันว่า การปลูกถ่ายประสบความสำเร็จครับ

แต่ว่ายังต้องอยู่ดูอาการอีกสักพักหนึ่ง... พวกผมก้อดีในกันใหญ่ แล้วก้อแห่กันไปเยี่ยมมันกันอีก...

หลังจากนั้น เวลาผ่านไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์ ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาลอีกครั้ง...

และครั้งนั้นก้อเปนครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้ไปเยี่ยมมันแล้ว... เพราะว่า มันใกล้จะได้ออกจากโรงบาลแล้วครับ :)

วันนั้นผมไปกัน 4 คน และมีไอ้ชัยรออยู่ที่ โรงบาลแล้ว (ไอ้เชี่ยแม่งแรด) ผมก้อเข้าไปหามันผ่านช่องกระจกที่ประตูเหมือนเคย

“เฮ้ย เปนไงมั่งวะ จะได้ออกจากโรงบาลแล้วนี่...” ผมทักมัน... มันมีรูใหญ่ๆที่หน้าอกตั้ง 3 รู แน่ะครับ

“อืมม ก้อดีขึ้นว่ะ” เสียงมันยังคงฟังดูไม่ค่อยดีเหมือนเดิม

“ไม่เปนไรน่า ออกจากโรงบาลแล้ว จะได้กลับมาอยู่กับพวกกูไวๆไง” ผมยิ้ม

“เออ กูรู้แล้ว ก้อดีแหละ” มันยิ้มเศร้าๆ

“เปนไรป่าววะ ไอ้เบียร์” ผมเริ่มเครียดแล้วดิ่

“เปล่าหรอก” มันปฏิเสธ

“หรอ เออ งั้น... พวกกูไปก่อนนะ” ผมก้อลามัน แล้วพวกผม 3 คนก้อเดินออกมาหาแม่มัน (และไอ้ชัย) ข้างนอกห้อง

“แม่คะ แล้วเมื่อไหร่เบียร์จะได้ออกจากที่นี่ล่ะคะ คือหนูหมายถึงประมาณวันไหนเหรอคะ” เพื่อนผมที่มาด้วยกันถามแม่ไอ้เบียร์ครับ

“อีก 3 วันก้อได้กลับบ้านแล้วลูก” แม่มันตอบ

.

.

.

พวกผมคุยกับแม่มันอีกสักพัก ก้อกำลังจะขอตัวกลับ แม่มันเลยโทเข้าไปหาไอ้เบียร์เพื่อให้พวกผมบอกลามัน

เพื่อนผม 2 คนก้อบอกลามัน และผมเปนคนสุดท้าย (ไอ้ชัยยังไม่ลาครับ แม่ง จะ ยัง อยู่ ต่อ เปน เพื่อน แม่ ไอ้ เบียร์ . . . เ ฮ อ ะ )

“อืม เบียร์ กุกลับก่อนนะ”

“อืม... ต้น”

“หืม มีอะไร” ผมสงสัย

“มึงออกมาไกลๆจากพวกนั้นก่อนได้มั๊ย” ท่าทางมันมีเรื่องจะคุยกับผมแค่สองคนแฮะ

“อืม ออกมาแล้วเนี่ย มีอะไรวะ” ผมถามมันเสียงเครียด

“มึงรู้อะไรมั๊ย ว่า... จริงๆแล้วพวกที่เขาให้กลับบ้านได้... คือ ไม่มีประโยชน์ที่จะรักษาอีกต่อไปแล้วต่างหาก” มันพูดเสียงสั่นเลยครับ

“มึงว่าไงนะ หมายความว่าไงวะ มึงเอาอะไรมาพูด คิดมากน่าไอ้บ้า” ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมากๆ

“กูพูดจริงๆ คนที่อยู่ที่นี่ ห้องข้างๆกูนี่ ก้อกลับบ้านไป หลังจากกูเข้ามาไม่นาน แล้วเพิ่งตายเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง...

ไม่ใช่แค่เค้านะ แต่ทุกคนเลย ถ้ากลับไปแล้วเกิดอาการไม่ดีจะกลับมาอีกก้อได้ แต่ก้อเท่ากับมายืดเวลาตายออกไปอีกหน่อย

หรือไม่ก้อ มาตายที่นี่ แค่นั้นเอง...”... ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“บ้าน่า มึงอย่าคิดมากสิ มึงอ่ะได้กลับไปบ้าน เพราะมึงหายแล้วต่างหาก (โรคนี้มันรักษาหายที่ไหนเล่า กูก้อรู้)

แม่มึงเขาก้อบอกว่ามึงดีขึ้นตั้งเยอะหลังจากเปลี่ยนถ่ายแล้วอ่ะ (จริงๆแล้วแม่มึงไม่ได้พูดหรอก) ถ้ามึงคิดอะไรบั่นทอนกำลังใจแบบนั้น

แล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นเล่า อย่าคิดมากสิวะ (แต่กูอ่ะคิดไปแล้วเหมือนกัน)

มึงต้องดูแลตัวเองดีๆสิ มึงจำได้มั๊ยว่าเคยสัญญากับกูไว้แล้วนะ” ผมพยายามพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่ให้กำลังมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้

“อืมม กูขอบใจนะต้น... แต่ว่าถ้ากูเปนอะไรไป มึง...”

“มึงจะไม่เปนอะไรไปทั้งนั้น เข้าใจมั๊ย!” ผมทำเสียงดุใส่มัน “กูต้องไปแล้วนะ เขาสงสัยแล้วว่ากุคุยอะไรกับมึง

ไว้มึงกลับไปบ้านแล้วกุจะไปเยี่ยมนะ เบียร์... กูรักมึงนะเว้ย”

“ขอบใจมากว่ะต้น มึงก้อเหมือนกันดูแลตัวเองด้วย กลับดีๆล่ะ รักมึง too 555 บ๊ายบายว่ะ”

“เออ บายคับ” แล้วผมก้อวาง เอา pct ไปคืนแม่มัน หลังจากนั้นพวกผม 3 คนก้อกลับบ้าน

แต่ผมตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องที่ผมคุยกับไอ้เบียร์ให้ใครฟังเด็ดขาด

.............

ปล. ลืมบอกว่า ที่มันตัดสกินเฮดเนี่ย ก้อเพราะว่าคนที่เปนโรคนี้เนี่ย ผม จะร่วงครับ

... จริงๆก้อ “ผมทุกเส้นในร่างกาย” นั่นแหละ

โอเค้

..............


ผมพยายามจะไม่ซีเรียสกับเรื่องที่มันเล่ามา... เพราะผมคิดว่า มันคงกำลังกังวลมากไปเองแหละ

เปนผมเองถ้าอยู่ในสภาพเดียวกับมัน ผมก้อคงกลัวและกังวลไปหมดทุกอย่างเหมือนกัน...

มึงหายแล้ว ถึงได้กลับบ้านนะเว้ยย ไอ้บ้า

ไอ้บ้า บ้าบ้าบ้าบ้า

หลังจากมันกลับบ้าน... ไม่สิต้องบอกว่า ก่อนที่มันจะกลับมาอยู่ที่บ้าน ที่บ้านมันมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อครั้งใหญ่เลยครับ...

แล้วถ้ากูไปเยี่ยมมันเนี่ย กูจะกลายเปนตัวเชื้อโรคไปแพร่ให้มันมั๊ยเนี่ย

เรื่องงานการบ้านของมัน มันก้ออาศัยเพื่อนๆอย่างพวกผมแล้วก้อบรรดาอาจารย์ ให้ความเมตตามัน

ทำให้มันสามารถทำข้อสอบปลายภาคของเทอม 2 ได้ที่บ้าน โดยมีอาจารย์ท่านนึงมาคุมครับ

(แล้วก้ออาจารย์ท่านนี้แหละ ที่เปนคนคอยมาสอนหนังสือให้มันช่วงที่มันพักฟื้นอยู่ที่บ้านด้วย)

เวลาพวกผมไปเยี่ยมมัน มันก้อจะออกมาต้อนรับพวกผมที่ห้องคอมเหมือนเดิม

แต่ว่ามันต้องเอาผ้าปิดปากเอาไว้ตลอดเวลา และถ้ามีใครเปนหวัดแต่ (ยังเสือกอยากจะ) ไปเยี่ยมมัน ก้อจะต้องเอาผ้าปิดปากที่แม่มันให้มาใช้ด้วย

ร่างกายมันก้อแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่โดยที่ยังอยู่ในเงื่อนไขเดิมคือ ห้ามโดนแดด ห้ามโดนฝุ่น ห้ามออกนอกบ้าน ห้ามนู่นห้ามี่ อีกสารพัด...

แต่ในที่สุดมันก้อมาเรียนกับ (พวก) ผมตอน เทอม 2 ได้ โดยที่แม่มันจริงๆก้อยังไม่ค่อยอยากให้มันมาหรอกครับ

แต่มันดื้ออยากจะมาให้ได้ แม่มันก้ออ่อนใจเลยยอมแพ้มันจนได้

มันไม่ชอบให้ร่างกายของมันอ่อนแอกว่าใครหรอกครับ เพราะงั้นบางทีแม่งก้อจะแอบไปเตะบอล ดูดบุหรี่บ้าง (อันหลังนี่โคตรเคืองเลย)

แล้วสุดท้ายมันก้อต้องเข้าโรงบาลอยู่อีก แต่ก้อไปรักษาไอ้พวกไข้หวัด (การเปนไข้สำหรับมันนี่อันตรายที่สุดแล้วครับ) ต่อมน้ำเหลืองโตอะไรเทือกนี้...

สรุปแล้ว ร่างกายของมัน หลังจากที่ปลูกถ่ายไขสันหลัง ผ่านคีโม การเจาะหน้าอก และอีกสารพัด... ก้อกำลังฟื้นตัวไปได้ด้วยดี :)

(ถึงจะต้องคอยดูแล และรักษาตัวเองอย่างดีตลอดก้อตาม) สำหรับใครที่เปนห่วงมัน ก้อไม่ต้องห่วงและนะครับ มันอ่ะแข็งแรงจะตายย

สงสัยชาติก่อนมันต้องทำบุญมาดีแน่ๆ...

(ไม่อยากทรมานคนอ่านที่กลัวว่ามันจะตาย... เอาเปนว่า ตอนนี้ มันยังไม่ตายละกันครับ)

แล้วมอ 4 ที่วุ่นวายของพวกผมก้อผ่านพ้นไป... แต่หารู้ไม่ว่า มอ 5 ที่วุ่นวายยิ่งกว่ากำลังจะมาถึง

ปล. ถึงเรื่องร่างกายของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาของผมกับมันกลับไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพของมันเท่านั้นน่ะสิ

โปรดติดตามตอนต่อไป... และต่อๆไป... และ ต่อ ต่อ ปายยยยย

ขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการ (-_-)

จบ part 1

.................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 21-01-2007 13:00:41
ดีใจที่ได้ยินว่า ตอนนี้เบียร์ยังมีชีวิตอยู่
รีบมาต่อไว ไว อยากรู้มีอะไรเกิดขึ้น :confuse:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-01-2007 13:45:30
เขินไรต้นผมว่าเรื่องนี้แหละประทับใจสุดๆ

อะไรที่มันออกมาจากความรู้สึกลึกๆมันจะมีค่าในอารมณ์เสมอ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-01-2007 16:06:02
   Break – Summer Time
    ผมจะบอกทุกคนว่า ตอนนี้เรื่องสุขภาพของไอ้เบียร์ ทุกคนก้อรู้กันแล้วนะครับ ว่าตอนนี้ (หมายถึงในเรื่อง) มันก้อแข็งแรงดีแล้ว

    การรักษาและบุญที่มันทำมาดี ช่วยมันเอาไว้มากมาย

    แต่เรื่องราวของผมกับมันที่กำลังจะนำมาเล่านี่ มันไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของร่างกายของมันเปนเรื่องใหญ่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นน่ะสิ...

    ถ้ายังไม่เบื่อกัน ผมก้อจะขอเล่าต่อไปเรื่อยๆนะครับ

    สิบกว่าตอนที่จบไปนั้น เปนแค่เรื่องตอนมอ 4 เรื่องราวใหญ่ๆที่เกิดขึ้นตอนนั้นสำหรับพวกผมก้อมีเรื่องนี้แหละครับ

     แต่ว่า พอขึ้นมอ 5 ก้อมีเรื่องให้ผมต้องปวดหัวอีกจนได้ แต่ว่า เรื่องราวต่อไปหลังจากนี้ ขอเกริ่นไว้ก่อนเลยแล้วกัน...

    จะมีเรื่องของไอ้ชัย ผู้หญิงที่ไอ้เบียร์มัน(เคย)จีบ ผู้หญิงที่ผมแอบชอบ และเพื่อนๆของผมเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหลายคนอย่างเลี่ยงไม่ได้

    (ถ้าผมไม่ตัดสินใจภายหลังว่า มันจะยืดเยื้อเกินไปจึงจะตัดออกล่ะก้อนะ)...

    ยังไงก้ออยากให้ลองติดตามกันต่อไปดูนะครับ

    (ทั้งนี้ ทางบริษัทขอสวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)

    แต่ว่าเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าตอนนี้ ให้เปนเหมือนเรื่องแถมก้อแล้วกันนะครับ มันเปนช่วงเบรกของ 2 ฉากใหญ่ (มอ 4 และ มอ 5)

   ให้มันเปนปิดเทอมซัมเมอร์ของเรื่องนี้ไปด้วยเลยแล้วกัน

    เดี๋ยวจะหาว่าผมกับมันไม่ค่อยมีเรื่องกุ๊กกิ๊กหวานๆ อะไรกับเขามั่งเลย (อ่ะนะ ก้อคนมันไม่หวานนี่หว่า... ทั้งกุทั้งมันอ่ะ) คือ... กุก้อมีเหมือนกันนะเว้ยย

    ......................................

    ขอบอกว่า เรื่องทั้งหมดเนี่ย เค้นออกมาสุดๆจากสมองน้อยๆของผมนะคับ บางเรื่องก้อลืมไปแล้วเขียนๆอยู่ถึงนึกขึ้นมาได้ก้อมี

    เพราะงั้นที่ผ่านๆมาถ้างงตรงไหน ก้อบอกมาและกันนะค้าบบ จะมาแก้ไขให้ :)

    ......................................

    (1)
    พอ(พวกผม)ปิดเทอม ไอ้เบียร์ก้อต้องเรียนชดเชยหนักเปนการใหญ่ ทั้งเพื่อตามงานที่ผ่านมา ทั้งมีอาจารย์ในและนอก รร มาสอนมัน

    ทั้งเพื่อนๆที่มารุมกดดัน ด้วยการไปหามันที่บ้านบ่อยเหลือเกิน

    (ผมไม่ค่อยไปหรอกนะ ไม่เหมือนใครบางคน... ไปเปนลูกบุญธรรมแม่มันซะเลยมั๊ยล่ะ สาดด)

    แต่มันก้อทำงาน สอบผ่านได้ขึ้น มอ 5 จนได้ในที่สุด (อิอิอิ นึกแล้วก้อน่าสงสารซะไม่มีอ่ะ 555555)

    และช่วงนั้นเอง เพื่อนผมที่ห้องก้อวางแผนจะไปเที่ยวทะเลกันครับ เปนการผ่อนคลายและเชื่อมมิตรภาพถายในห้อง...

    ไม่ใช่ว่าห้องผมไม่รักกันนะครับ แต่ตรงกันข้าม รักกันมากกกก ทั้งหญิงทั้งชาย สนิทกันสุดๆ ยังไม่เคยมีปัญหากันเลย

    พวกเราก้อเลยอยากไปเที่ยวกันเองบ้าง...

   เพิ่งจะเปนหนุ่มเปนสาวกันนี่นา ก้ออยากจะผจญภัย ทำอะไรกันเองสักครั้งนึงแหละวะ เกาะพ่อแม่มากันนานและ...

   สุดท้ายเลยตัดสินใจไปเกาะพ่อแม่เพื่อน ที่บ้านเพื่อนที่ชะอำแทน 55555 อ่ะนะ ก้อเงี๊ยแหละ ค่ารถฟรี กินฟรี อยู่ฟรี 3 วัน 2 คืน

   แล้วววมันเรียกกันว่า “ไปเที่ยวกันเอง มีแต่พวกเรา” ได้ยังไงวะ นึกแล้วก้อขำจิงๆ

    แต่ที่ผมพูดมาทั้งหมดเนี่ย... กุไม่ได้ไปหรอกนะ -*- เซงสาดดดอ่าาาา แม่ไม่ให้ไปคับ เซงมากมาย

    เพื่อนผมทั้งห้อง มี 40 นิดๆชีวิต ไปกันทั้งหมด 25 คนอ่ะ อยากไปมากกก แต่ก้อนะ

    แน่นอนว่า มีอีกชิวิตนึง ที่อดแดกแหงๆแน่นอน นั่นก้อคือไอ้เบียร์ครับ 5555...

    ก้อแล้วมันจะไปได้ยังไงอ่ะ ยังกะเดกในหลอดแก้วขนาดนั้น ผมก้อยังถือซะว่าอยู่เปนเพื่อนมันเว้ย 3 วัน 2 คืน (โดยที่ไม่มีไอ้ชัย 555)

    แต่ไม่ได้แบบว่า ไปค้างอยู่ด้วยกันหรอกนะครับ อันะนั้นก้อคงจะเกินไป...

    วันก่อนหน้าที่เพื่อนผมจะออกจากกรุงเทพไปกัน ผมก้อโทคุยกับมันตามปกติ

    “เปนไงมั่งแล้ววะ” ผมทักมันก่อน

    “อืมม ก้อดีว่ะ แต่โคตรเบื่อเลยอ่ะ อยากไปเที่ยว”

    “เอาน่าาา กุก้อไม่ได้ไปเหมือนกัน อุตส่าห์อยู่เปนเพื่อนมึงนะเนี่ยย”

    “เหรอ ใจดีจังนะมึง นึกว่าแม่ไม่ให้ไปซะอีก” มันแขวะผมอ้ะ

    “เฮ้ยย กุขอแม่ไม่ไปต่างหากเล่า จิงๆแล้วแม่กุอ้อนวอน ขอแล้วขออีกให้กุไปเถอะน้า ให้กุไปเถอะน้า แม่อยากให้ลูกไปสนุกกับเพื่อนๆ

     แต่กุก้อปฏิเสธหัวชนฝา ว่ายังไงๆก้อจะไม่ไป เพราะจะอยู่เปนเพื่อนมึงไงล่ะ”

    “ไอ้ตอแหล 5555”

    “เออๆ เอาน่า ว่าแต่มึงออกไปดูหนังกับกูได้มั๊ยอ่ะ ไม่มีไรทำว่ะ” ผมชวนมันไปหาเรื่องอีกแล้ววว

    “ไม่รู้ว่ะ ต้องลองขอแม่ดูก่อน แต่ว่า ก้อคงดูสถาพดินฟ้าอากาศด้วยอ่ะ” ครับ...

   ถ้าฝนตกก้อไปไม่ได้แน่นอน แดดออกก้อไม่ได้ ฝุ่นเยอะก้ออด คนเยอะก้อแห้ว...

    “ไม่น่าจะมีปัญหานะ ออกตอนเย็นๆ แล้วพรุ่งนี้วันพุธ คงไม่ค่อยมีคนหรอกมั๊ง” ผมยังหาเรื่องจะลากมันออกไปอยู่ดี

    “อืม งั้นขอขอแม่แปบ...” แล้วมันก้อหันไปถามแม่ ผมได้ยินแว่วๆ ว่า แม่จะไม่ให้ครับ

    แต่มันดื้อ บอกจะออกมา เพราะไม่ได้ไปเที่ยวไหนมานานแล้ว แค่ดูหนังเอง อะไรของมันไม่รู้...

    “ฮัลโหล เออ”

    “แม่มึงว่าไงมั่งล่ะ”

    “โอ๊ยยย มีรึจะกล้าขัดใจลูกชาย 5555” อ่ะนะ ไอ้ลูกชายคนเดียวลูกชายคนเล็ก หมั่นไส้ว้อยยย

    “เออก้อดีแล้วว กุอยากดูหนังมาชาตินึงแล้ว ไม่ได้ดูสักที มัวแต่...”

    “มัวแต่มาเยี่ยมกูใช่มั๊ย...” มันทำเสียงเครียด

    “ไอ้บ้า! กุไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย กุจะพูดว่า มัวแต่เครียดเรื่องสอบเนี่ย ปิดเทอมก้อยังไม่ได้ทำไรนอกจากไปช่วยงานแม่ที่ รร เลย

    เซงจะตายห่าอยู่แล้ว เบื่อออ่ะ” ผมแก้ตัวตามระเบียบ...

    จริงๆก้ออยางที่มันว่าแหละครับ มัวแต่เครียดเรื่องมัน ผมไม่มีอารมณ์จะไปดูหนังหรอก

    .....................................................................

    หลังจากผ่านไป 2 ชม

    “เฮ้ยเบียร์ แล้วเรื่องนัท มึงจะเอาไงต่ออ่ะ...” ผมแกล้งเสี่ยงๆถามมันไปงั้นแหละครับ

    “อืมมม... ไม่รู้ว่ะ กุก้อเหนื่อยนะแต่ก้อยังอยากจะคบเค้าอยู่ดีอ่ะ” คำตอบของมันเล่นเอาผมอึ้ง

    “...เหรอ... อืมก้อดีนะ…”

    “มึงอย่ามาบ้าน่าาาา ยังจะมีหน้ามาถามอีกเรอะ อยากให้กุไปคบกับเค้านักรึไงห๊ะ ไอ้หัวตูด” มันทำเสียงทะเล้น

    “อ้าว ก้อกูนึกว่า มึงพูดจริงๆอ่ะ ก้อคนอย่างกู...”

    “คนอย่างมึงทำไมวะ หา อย่าคิดมากดิ่... กูเขินนะเว้ย อย่ามาบังคับให้กุต้องพูด…”

    “พูดไร ไหนมึงจะพูดไรวะ พูดดิ่พูดดิ่พูดดิ่” ผมเร่งเร้ามัน มันจะพูดไรวะๆ

    “ไม่เอา ไม่พูดเว้ย ไม่พูดๆๆๆๆๆ” มันก้อยังดื้อ

    “เออ ไม่ต้องพูดก้อได้ กูก้อไม่อยากรู้นักหรอก” กุงอน

    “เออ ไม่พูด” อ๊าวววว ซะงั้นอ่ะ ไอ้หน้าส้นตีน

    “เออ”

    “เออเด่ะ พรุ่งนี้ 5 โมงเย็นมึงไปสายเจอเตะแน่นะ ไอ้ตูด”

    “อ้าว ตกลงยังอยากจะไปเหรอไง” กุยังงอนอยู่

    “ก้อได้นะ มึงไม่ไปก้อเรื่องของมึง งั้นแค่นี้นะ”

    “เฮ้ยๆๆๆ ไปดิ่ๆ กุล้อเล่น โกดจิงหงอ”

    “จริง ถ้าไปสาย กุไม่หายโกรธแน่ ไปแล้วนะ จะนอนแล้ว”

    “คับๆๆๆๆ บายๆคับ ฝันดีนะ”

    “อืมม ฝันดี” แล้วก้อวางกันไปตามระเบียบ... นี่แหละครับ ทั้งๆที่ตอนแรกผมเปนฝ่ายงอนนะ

    ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับมัน 2 คนมานานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย...

    แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลนะครับ ไอ้ที่ไปไหนมากัน สองคนเนี่ย ไม่ได้ไปทำไรมากกว่า นั่งดูหนังกันต่างคนต่างดู

   กินกันก้อแบบต่างคนต่างแดกเลย ไม่มีอะไรแม้แต่นิดเดียว...

    แม่งโคตรเพื่อนอ่ะครับ ตกลงมันคิดไงกะกุแน่วะเนี่ย บางทีก้อแอบสงสัยมานานแล้วอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ไม่คิด ไอ้ผมมันยิ่งประเภทคิดมากอยู่ด้วยดิ่

    วันแรก

    ตื่น 7 โมงรอบนึง 11 โมงครึ่งอีกรอบนึง... รอบแรกเพื่อนที่ไปเที่ยวแม่งโทมาปลุก เพราะกำลังรวมพลกันที่ รร

   แล้วเจือกอยากให้กุได้ร่วมรู้สึกถึงบรรยากาศ... สาดดดกุจานอน ไอ้หน้าส้งตีงง!

   แต่ตื่นเองจริงๆ 11 โมงครึ่ง พร้อมกับอารมณ์ดีสุดๆอ่า จะได้ไปอยู่กับมันสองคน... ก้อนะ เปนใครจะไม่ดีใจมั่งล่ะว้า ได้อยู่กับคนที่เรารัก... :)

    ออกจากบ้านสายก้อไม่ได้ ไม่งั้นแม่งด่าตาย... ไปเจอมันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว (ห้างท้องถิ่น อิอิ) 5 โมงตรงเป๊ะ

    แต่แม่งมาถึง 5 โมงครึ่ง หัวดอมากๆ... แล้วเลยขึ้นไปดูหนังกันก่อนดีกว่า ดูจบแล้วค่อยหาอะไรกิน

    ...ระหว่างที่หนังฉาย...

    “เฮ้ย หนาวว่ะ มึงว่าแอร์มันแรงป่าววะ” ผมถามมัน ขนแขนกุซาแต๊นอั้พหมดและเนี่ย

    “นิดนึงว่ะ กุคงชินกับอากาศเย็นๆมั๊ง”

    “อืมมมม” ผมก้อยังนั่งหนาวอยู่ต่อไปจนหนังเริ่มมาได้ จะ 30 นาทีแล้ว

    “ยังหนาวอยู่เหรอ” มันถาม

    “อืมม ทรมานว่ะ” มันทรมานจิงๆนะครับ อากาศหนาวๆเนี่ย

    “เอ้า” โอ๊ะๆๆๆๆๆ มันยื่นมืออกมาเว้ยยยย! นี่มันจะเอามาทำอะไรเนี่ย กูไม่ได้ต้องการไอ้บ้า อายคนเขามั่งมั๊ยเนี่ย

     (ถึงที่นั่งแถวนั้นจะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆเลยก้อตาม)

    เปนผู้ชายมานั่งจับมงจับมือ กุรับไม่ได้จริงๆนะเนี่ย ไอ้ห่า ถ้ากุอยากจับนักกุจับไปนานแล้ววว ไอ้บ้า บ้าบ้าบ้าบ้าบ้า... และไวเท่าความคิด

    กุรีบยื่นมือออกไปจับมือมันมากุมทันที (กลัวมันจะชักกลับ)

    กุไม่ดีใจหรอกนะเว้ย นั่งจับมือมึงเนี่ย ที่กุจับเพราะมันหนาวต่างหาก อย่ามาเข้าใจกุผิดนะเว้ย แต่กุก้อดูหนังไม่รุเรื่องแล้วว มัวแต่นั่งไม่ดีใจอยู่อย่างนั้นอ่ะ...

    “ดีขึ้นมั๊ย” มันถาม

    “อืมม ขอบใจว่ะ” แล้วก้อหยิบเอาแขนทั้งแขนมันมากอด 555 นั่งไปสักพักผมก้อนึกขึ้นได้ เลยถามมัน

    “เปนเหน็บรึเปล่าอ่ะ เมื่อยมั๊ย”

    “เปนมาได้ 5 นาทีแล้วว่ะ เมื่อยดิ่” มันหันมาทำหน้าตาน่าสงสารไปด้วย

    “เหรอ ทนหน่อยและกัน ลูกผู้ชายป่ะมึงอ่ะ หึหึหึ (หัวเราะดังไม่ได้ อยู่ในโรงหนัง)”

    “เออ ทนดิ่ แค่ไหนก้อทนเพื่อมึงนี่หว่า” o_O”

    “พูดไรนะ” ผมแกล้งถามมันด้วยสีหน้าที่แบบว่า กุไม่ได้ยินมึง จริงๆจังๆ อิอิอิ

    “เปล่าๆ ดูหนังต่อไปเหอะ” แม่งไม่ยอมมองหน้ากู

    “อืมม...”

    หนังผ่านไปอีกประมาณ 20 นาที ผมก้อยังไม่เอามือออก


    “เบียร์...” ผมเรียกมัน มันก้อหันหน้ามามอง “...รักกูป่าววะ”

    “กุจะดูหนังว่ะ” พูดจบก้อหันกลับไปดูหนังด้วยสีหน้าเย็นชา แม่งมาทำตัวกวนตีนอีกนะ กุเครียดนะเนี่ย

    “กูถามจริงๆนะ” ผมเริ่มซีเรียสแล้ว หรือมันจะคิดกับกูแค่เพื่อนวะ...

    “ตอบจริงๆไง จะดูหนัง” เออ สัด กูไม่ถามก้อได้ โคตรเคืองเลย... (แต่กุก้อยังไม่ปล่อยมือที่กุมอยู่)

    “...รักดิ่ ไม่รักจะทำอย่างนี้รึไง ฮึ” มันพูดพร้อมเขย่ามือ แต่ไม่ยอมหันมามองผมอยู่ดี

    แค่นี้กุก้อพอใจแล้ว... :)

    ผมเลยผีเข้า ทำลงไปเพราะขาดสติ ยื่นมือไปจับหน้ามันดึงมาหาผม แล้วเลยหอมแก้มซะเลยยยย นี่แน่ะๆ!

    …………………………

    อ่านไปก้อซึ้งไป คิดถึงเวลาเก่าๆ


***************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 22-01-2007 18:14:44
 :like6: แอบหอมแก้มกันในโรงหนัง หวานซ้า  :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-01-2007 16:47:31
Part 2

*******************************************************************

    ตอนที่ 14
[/b]

    ซัมเมอร์ผ่านพ้นไป คราวนี้พวกผมก้อไม่ใช่น้องเล็กสุดของมอปลายแล้ว (ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย) อยู่มอ 5 แล้วครับ เริ่มจะต้องเตรียมตัวเอ็นท์...

    ขี้เกียจชิบเป๋งเลยอ่ะ เรียนพิเศษหนักมากมายเลยครับ หนักกว่าตอนมอ 4 เยอะเลย

    ถามจริงๆตอนนั้นผมก้อยังไม่รู้หรอกว่าอยากจะเรียนอะไร รู้สึกจะคิดว่ามันยังเร็วไปที่จะคิดน่ะครับ รออีกหน่อยให้รู้ก่อนดีกว่าว่าเรียนอะไรได้ดี...
   
   รวมถึงไอ้เบียร์ก้อเหมือนกัน ผมเคยถามมันเหมือนกัน ว่าอยากเรียนอะไร คำตอบของมันคือ

    “ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่ถึงตอนนี้”... เปนไงครับ คำตอบมัน

    ยังดีนะ มันใช้คำว่า ตอนนี้ ไม่ใช่คำว่า ตอนนั้น... ถ้าเปลี่ยนเปน

    “ไม่รู้ว่ะ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่ถึงตอนนั้น”... คงเศร้าแน่ที่มันยังคิดว่ามันจะตายอยู่อีก

    หมอบอกมาว่า ให้อยู่ในช่วงดูอาการ ที่ต้องคอยระวังเป็นพิเศษ ประมาณ 5 ปีครับ

    ถ้าหาย คือ หายเลย

    แต่ก้อนะ... ผมเล่าให้แม่ฟัง หรือไม่ว่าใครๆ ก้อมีแต่คนบอกว่า “โรคนี้มันรักษาไม่หาย” กันทั้งนั้น

    ซึ่งผมก้อคิดว่าจริงนะ ต่อให้มันจะแข็งแรงแค่ไหน หรือต่อให้เวลาจะผ่านไป 10 ปี หรือ 20 ปี มันก้อคงยังมีโอกาสที่มันจะกลับมาป่วยอีกรอบอยู่ดี...

    ที่ทำได้ตอนนี้ก้อคงแค่ คอยระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุดเท่านั้นแหละครับ

    กำลังใจของไอ้เบียร์ก้อดีขึ้นมากเหมือนกัน

    พอๆกับความแรดของมันที่เพิ่มตามไปด้วย

    ชอบเหลือเกินครับ มีโอกาสนิดๆหน่อยๆ พี่แกก้อจะแวบไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเชียร์ะบอล ไปนู่นไปนี่ตลอด

    ผมอ่ะ โคตรรรเซ็งเลยครับ บอกตามจริง

    ทะเลาะกับมันบ่อยมากก

    แต่ก้อดีกันครับ มันก้อเปนคนอ่อนโยนขึ้นเยอะ

    อันนี้ผมดีใจมาก เคยถามเพื่อนด้วยเหมือนกันว่า มันเปลี่ยนไปเยอะมั๊ย รึกุคิดไปเอง

    ซึ่งเพื่อนผมก้อคิดเหมือนผมครับ ว่ามันดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยเหมือนกัน

    ปลื้มครับ ปลื้ม หุหุ

    ..............

    แต่พูดกันจริงๆ ผมมันเปนคนขี้เบื่อครับ สารภาพเลยตรงๆ

    แถมขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ

    เวลาทะเลาะกันมากๆ หรือมีเรื่องผิดใจกันบ่อยๆ ผมก้อเหนื่อยเหมือนกันนะครับ

    อย่างว่าแหละ ที่เขาเคยมีพูดกันว่า

    “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” หรือ “ถ้าไม่เสียไป ก้อไม่รู้ถึงคุณค่า”

    มันโดนสุดๆเลยครับ

    ใครนะ มันช่างคิดคำเหล่านี้ขึ้นมา

    ถ้าจะให้พูดตรงๆ ผมไม่เล่าเปนฉากๆแล้วและกันนะครับ

    กลัวจะเบื่อกันเสียก่อน เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ

    คือ ปัญหาใหญ่ๆ เรื่องนึงของผม ที่ทะเลาะกับมันตอนนั้น และเป็นเรื่องที่ ไม่อยากจะยกโทษให้เลยครับ

    แล้วมันก้อหัวแข็ง ทั้งโกหก (ทั้งๆที่รู้ว่าผมเกลียดการโกหก) ทั้งปิดบัง... ใครรู้ว่ามันทำอย่างนั้นทำไม ช่วยบอกผมทีเถอะ

    ทั้งๆที่ ถ้าพูดกันตรงๆ ผมจะไม่โกรธเลยนะ...แต่ทำไมต้องโกหกกันด้วยล่ะ (วะ)

    เรื่องนั้นคือ เรื่องบุหรี่ ครับ

    มันทำเอาผมเกลียดบุหรี่จนถึงทุกวันนี้ไปเลย

    เรื่องของเรื่องคือ ตอนนี้ เพื่อนๆผมในห้องมันเริ่มสูบบุหรี่กันหนักมากก

    เอาเปนว่า ผู้ชายในห้อง เกือบเกินครึ่งที่สูบบุหรี่

    และถึงกับโดดเรียนไปนั่งสูบกันในห้องน้ำเลยครับ

    ผมเซงมากๆ

    ผมเลยต้องจับตามองไอ้เบียร์เปนพิเศษใช่มั๊ยล่ะ กลัวมันจะไปล่อกับไอ้พวกนั้นด้วยอ่ะดิ่

    ไอ้ชัยก้อนะ... มันก้อเอาตัวรอดดีนะครับ พูดไป

    มันน่ะไม่สูบหรอก แต่ เสือก ช่วยไอ้เบียร์โกหก ปิดบังผม เรื่องบุหรี่น่ะสิ

    แถมยิ่งกว่านั้น ยัง ไม่เหนมันจะ ว่า เตือน หรือ ห้าม ไม่ให้ไอ้เบียร์สูบเลยด้วยซ้ำ

    ผมงี้เคืองสุดๆอ่ะ

    โอ๊ยยย เกลียดมัน!!

    พอผมจับได้ว่ามันสูบ มันก้อบอกเปล่า

    พอผมเจอบุหรี่ในกระเป๋ามัน มันก้อบอกของเพื่อน

    พอผมได้กลิ่นบุหรี่ที่ตัวมัน มันก้อบอกไปอยู่กับพวกไอ้แบงค์มา กลิ่นเลยติด

    ว้อยยย... กุล่ะเหนื่อยยย!

    แต่ที่ผมรู้ ที่ผมจับมันได้บ่อยๆอ่ะ เพราะผมมีสายครับ (และมี sense ด้วย)

    คนคนนั้นคือ ไอ้บาสครับ... เพราะว่าไอ้บาสมันก้อ(แอบ)สูบ เหมือนกัน (กลัวคนที่มันชอบอยู่จะรู้)

    และมันก้อเปนห่วงไอ้เบียร์ไม่แพ้ผมเหมือนกัน เพราะงั้นผมกับมันจะคุยกันเรื่องไอ้เบียร์บ่อยมาก

    ผมจะปรึกษาเรื่องไอ้เบียร์กะใครได้ ก้อคือมันนี่แหละครับ (ไอ้แบงค์นี่ไม่ต้องพูดถึง ชวนกุสูบอีกต่างหาก)

    สุดท้าย จนผมตกลงกันได้ว่า

    “มึงจะสูบก้อได้ แต่กุขอให้มันน้อยลงหน่อยนะ ขอแค่อาทตย์ละ 2 มวน ทำได้มั๊ย... แล้วก้อ ถ้าจะสูบทุกครั้ง ให้โทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง”...

    ผมเจ็บปวดมากเลยนะครับ ที่ถึงขนาดจะต้องเอ่ยปากออกไปแบบนั้นอ่ะ

    ซึ่งมันก้อรับคำครับ และผมก้อคิดว่ามันทำได้ดีทีเดียว... ถึงมันจะปวดใจนิดหน่อยก้อเถอะ ที่ต้องรับรู้ว่า มันสูบบุหรี่จริงๆ

    เพราะมันก้อโทมาบอกผมจริงๆอ่ะ ว่า “กูกำลังเดินกลับบ้าน และก้อสูบอยู่”

    ใจมันเจ็บจี๊ดๆเลยล่ะครับ

    ก้อเพราะเรารักและเปนห่วงมันนี่

    เราถึงได้เจ็บ...

    มันเหมือน... เรายื่นยาพิษให้คนที่เรารักน่ะครับ มันจะตายเพราะบุหรี่ซะรึเปล่าก้อไม่รู้

    ถ้ามันเปนอะไรไปอีก ผมก้อมีส่วนเต็มๆแล้วล่ะครับ

    แต่ว่าจะให้นั่งทนฟังมันโกหก ทั้งๆที่ผมก้อรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมก้อทำไม่ได้หรอก
    ...................... ...................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 24-01-2007 00:50:39
TT^TT เข้าใจครับ

เศร้าเลย TT^TT มาต่อไวๆนะคับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 24-01-2007 14:45:21
เพิ่งอ่านทันครับ
เรื่องนี้น่ารักดีนะครับ แต่ดูท่าแล้วเศร้าซะเยอะเลยอ่ะ เศร้าหลายแบบหลากอารมณ์อีกด้วย
เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณผู้แต่งและคุณคนโพสต์นะครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-01-2007 17:00:06
ตอนที่ 15

ตอนนี้ร่างกายของไอ้เบียร์ก้อแข็งแรงดีแล้วล่ะครับ โดยรวมๆแล้วก้อหมดห่วงได้เลย

ผมกับมันก้อยังเหมือนเดิม คือโทรคุยกันทุกวัน และ ก้อมีทะเลาะกันบ้างบางอารมณ์ (ผมอ่ะ อารมณ์เปนห่วงมัน)

นิสัยมันก้อเงี้ยแหละครับ ดูแข็งๆ ไม่ค่อยแคร์ นานๆทีเวลามันทำหวานที ก้อทำเอาใจกุแทบจะละลายย

แต่ผมว่า ผมกับมันก้อคงเหมือนๆกับคู่อื่นอีกหลายๆคู่ล่ะมั๊งครับ

เพื่อนผมหลายคนก้อบ่นเหมือนกัน ว่าตอนก่อนคบ กับ หลังคบ ทำไมมันช่างต่างกันอย่างนี้ 555 (ช-ญ นะครับ)

ผมก้อเลยไม่ค่อยคิดมาก เพราะมันก้อคงเปนเรื่องธรรมดาแหละ แม่งก้อแรด ส่วนกุก้อห่วงมัน มันก้อเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกระทบกระทั่งกันบ้างเนอะ

แต่อยางที่ว่าแหละครับ นานๆทีบางครั้งมันก้อเหนื่อยเหมือนกันนะ

เพราะผมเปนคนไม่ค่อยจะยอมใครอยู่แล้ว แต่แม่งยอมไอ้เหี้ยนี่ชิบหาย

เพื่อนผมบางคนก้อมีแซวเหมือนกันนะ ว่าผมกับมันเปนไรกันรึเปล่า ดูผมห่วงมันเกินเพื่อนซะเหลือเกิน

ผมก้อบอกเปล่าดิ่ (แหลหน้าด้านๆ)

แต่หลังๆมันก้อชินกันครับ สุดท้ายมันก้อเชื่อว่าผมแค่ห่วงไอ้เบียร์มันในฐานะเพื่อนสนิทธรรมดาไป

เพราะผมเปนคนรักเพื่อนมากอยู่แล้วด้วย

แต่ไอ้นี่มันเปนยิ่งกว่าเพื่อนอ่ะ ก้อยิ่งรักมากยิ่งห่วงมากเข้าไปใหญ่ดิ่

จนมีอยู่วันนึง ที่ผมทะเลาะกับมันใหญ่ เพราะผมรู้มาว่า มันกลับไปคุยกับนัทอีกรอบ

พอผมถามมัน มันก้อปฏิเสธครับ... ไอ้นี่แหละ ที่ทำให้ผมโมโหและเสียใจมากที่สุด

ไอ้เรื่องที่มันกลับไปคุยกับเขาน่ะ ผมไม่ได้ซีเรียสเลยนะครับจริงๆ

แต่ทำไมมันต้องโกหกผมว่า “เปล่า”... ใครรู้ช่วยบอกผมทีครับ

ทั้งๆที่มันก้อรู้ว่า ถ้าโกหก ผมจะเคืองมาก

วันนั้น คุยกันนานมาก คุยกันอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ ว่าเราเปนยังไงกันแน่ ว่ามันเหนผมเปนยังไงกันแน่

แต่ก่อนหน้านั้นคือ ต้องคุยจนกว่ามันจะยอมรับให้ได้ก่อนแหละครับ ว่ามันคุยกับเขาจริง

สุดท้ายมันก้อยอมรับ ว่ามันกลับไปคุยกับเขาจริงๆ (อ้อ นัทนี่ก้อเพื่อนในห้องนะครับ)

เพราะว่า มันก้อคิดถึงเขาอยู่บ้างเหมือนกัน เลยคิดจะแค่กลับไปโทคุยให้เหมือนปกติ

ไม่ได้คิดจะจีบหรือคบกับเขาหรอก

แล้วก้อเพราะว่า แม่มันกับแม่เขารู้จักกัน แม่มันก้อเอาแต่ถามถึงบาส จนมันลำบากใจ

ก้อถ้าบอกกุมาแต่แรก กุก้อไม่ว่าหรอก... ทำไมต้องโกหกกันด้วยวะ (ใครคิดรู้ช่วยบอกผมที!!)

ผมจึงถามมันไปว่า คิดยังไงกับผมกันแน่ เปนแค่เพื่อน เพื่อนสนิท หรือ มากกว่านั้น

มันบอกว่า มากกว่าเพื่อนสนิทแน่นอน “กูรักมึง” มันบอกผมครับ...

ถ้าเปนทุกครั้งคงดีใจนะ แต่ครั้งนี้ทำไมผมถึงรู้สึกค้างๆคาๆใจยังไงไม่รู้สิ

สรุป คืนนั้น ผมก้อเคลียร์กับมันรู้เรื่องได้ ส่วผมก้อกลับไปทำหน้าที่ “คนกลาง” ให้มันเหมือนเดิมโดยที่ผมสมัครใจเอง

(ถ้าเปนเพื่อนๆ อยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับผม จะรู้สึกยังไงกันบ้างครับ -"

ที่ผมไม่ค่อยหึงมันเท่าไหร่ก้อเพราะ เปนบาส คนนี้ด้วยแหละครับ เพราะผมรู้ว่า เขาไม่ได้ชอบมันแบบนั้นหรอก

ผมเลยพอโล่งใจอยู่บ้าง

แต่ถามว่าเคืองมั๊ย เคืองมากกนะครับ แล้วก้อถึงจะวางโทรศัพท์ไปคืนนั้น ผมก้อไม่ได้หายโกรธมันเรื่องที่มันโกหกด้วย

มันก้อรู้แหละครับ มันก้อเคืองๆผมเหมือนกัน ที่เคืองมัน ที่คิดเล็กคิดน้อย...

มันให้เหตุผลว่า “กูก้อเปนอย่างนี้แหละ จะคิดมากอยู่อีกทำไม”

ว๊อยยยยย! แล้วมึงไม่คิดจะเข้าใจกูบ้างรึไงวะ หาาา!!

(ผมยังเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนที่ผมชอบเลยนะครับ)

ผมก้อยังหงุดหงิดๆ อยู่ไปอีกสักพัก (2-3 วัน) จนถึงวันที่ผมต้องไปเรียน รด.

รด ปี2 ผมย้ายที่ครับ ไม่ได้เรียนที่เดิมกับตอน ปี1 แล้ว และที่ที่ผมเรียนนี่ก้อ เปนที่เดียวกับที่เด็กปี 1 รร ผมเรียนเหมือนกัน...

แล้วมีเด็กอยู่คนนึงครับ ผมมองมันมาตั้งแต่ผมอยู่ มอ 4 แล้ว

น่ารักมากกกกกกกกกกกก

ผิวขาวครับ ตาสวยเชียว (ผมชอบคนตาสวยแหละ) ยิ้มหวาน และแน่นอนตัดสกินเฮด

ทั้งหล่อทั้งน่ารักเลยว่ะ ถ้าพูดจริงๆ หน้าหวานๆหน่อย แต่ดูแมน

แต่ไม่ได้สนใจอะไรมันหรอกนะครับ แค่มองเฉยๆ เพราะมันเด่นสุดแล้วในกลุ่มมัน

ที่มันเด่นก้อเพราะ หนึ่งคือ มันหล่อมากกกกครับ สองคือ ผมเหนมันอยู่กับผู้หญิงซะส่วนใหญ่อ่ะ

ผมเปนคนที่มองไม่ค่อยออกหรอกนะครับ ว่าใครเปนเกย์ไม่เปน

ไอ้น้องคนนี้ ผมก้อดูไม่ออกหรอก แต่คิดไปคิดมา รู้สึกว่าจะไม่แน่ เพราะว่ามันอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงบ่อยเหลือเกิน

แต่น้องเขาก้อไม่แสดงออกหรอกนะครับ แมนๆนี่แหละ

กุชอบ

หุหุหุ

เรื่องของเรื่องก้อคือ ผมไปเรียน รด วันนั้น แล้วผมบังเอิญมองไปเจอน้องเขาเข้า

เขาคงจำผมไม่ได้หรอกครับ (รึเปล่า) ผมก้อมองๆเขา เพราะมันน่ามองนี่หว่า

รู้สึกว่า วันนั้นน้องเขาจะเรียภาคปฏิบัติน่ะครับ ส่วนพวกผมเรียน ทฤษฎี เลยสบาย

ตอนเบรกสุดท้ายก่อนจะกลับ ผมก้อนั่งดูดน้ำอยู่กับเพื่อนๆ แล้วเหนน้องเขาเดินมาล้างหน้าล้างตาแถวๆที่ผมนั่งอยู่ มอมแมมมาเชียว

ผมคงมองจนน้องเขาเห็นแหละมั๊งครับ เพราะอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วที่ที่เขาล้างหน้ามันจะหันหน้ามาหาผมพอดี เขาก้อต้องเหนผมอยู่แล้วล่ะ

(เพราะกุหล่อสุดในบรรดาที่นั่งกันอยู่ 5555)

ที่ผมสังเกตว่าเขาคงรู้ว่าผมมองเขา ก้อเพราะว่า หลังจากที่เขาล้างหน้าล้างตัวเสร็จแล้ว

ผมเหนเพื่อนเขาจะกลับไปที่ที่พวกเพื่อนๆเขาอยู่ แต่น้องหล่อกลับดึงแขนเพื่อนให้มาซื้อน้ำที่ร้านข้างๆผม

แล้วยังนั่งกินอยู่ตรงข้ามหน้าผมเลยอีกต่างหาก

ผมก้อเขินดิ่ เลยไม่กล้ามองเขาบ่อยๆ

ประมาณ 5 ครั้งต่อนาทีเอง

จนผมแน่ใจแล้วว่า

“แม่งปิ๊งกุชัวร์”

55555

พอเลิกเรียน รด. ผมก้อมองหาน้องเขาครับ เผื่อฟลุ๊กเจออีก

แหมม มันช่างเหมือน พรหมลิขิต... น้องเขามาคนเดียวซะด้วย กำลังเดินข้ามสะพานลอยมาแล้ว

ผมเลยบอกเพื่อนให้กลับไปก่อนเลย ผมจะกลับบ้านเลย ไปคนละสายกับพวกมัน (แน่นอน ว่าแหล)

ก้อเลยขยับไปยืนตรงที่ กะว่า แม่งเดินมาต้องเหนกุแน่ๆ...

........................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 25-01-2007 09:56:57
คนนึงก็โกหก อีกคนก็เจ้าชู้ ชิส์ๆๆ
ว่าแต่ถ้าต้นไปกุ๊กกิ๊กกะน้องหล่อนั่น เบียร์จะเป็นยังไงน๊อ . . .
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 25-01-2007 13:57:00
อ่านแล้วนึกถึงรุ่นน้องที่ร.ร. เพื่อนมันก็ชอบเรียกว่าน้องหล่อเหมือนกัน  :teach:

น้องหล่อที่ว่าจะเป็นกิ๊กใหม่อะเปล่า?  :haun5:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 25-01-2007 14:05:42
 :o ผมเลยกลายเป็นคนเจ้าชู้ไปเลย 5555  :laugh:

จะว่าไปก็คิดถึงไอ้น้องหล่อมันเหมือนกันนะเนี่ย เป็นไงมั่งแล้วหว่า

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-01-2007 15:19:36
ตอนที่ 16

พอผมเห็นน้องเขาเดินมาใกล้ๆ ก้อแกล้งทำเปนมองส่องหารถเมล์ทันที

ทำเปน... กุไม่ได้เหนมึงเลยนะ มึงมาเจอกุได้เนี่ย บุพเพแท้ๆเลยนะเว้ยย... ประมาณนั้นครับ

พอน้องเขาเดินมา ผมก้อแอบชำเลือง เหนเขามองผมอยู่เหมือนกัน แปลว่ามันก้อคงแปลกใจใช้ได้แหละ ที่เจอผม

แล้วผมเลยเดินสวนน้องเข้าไปนั่งในศาลาครับ แต่ตอนเดินผ่านก้อมองหน้าเขานิดนึง

แต่ไม่ได้มองแบบเชิญชวนนะ... มองแบบธรรมชาติอ่ะ ถ้าไม่มองเลยเด๋วจะผิดสังเกตไปหน่อยนึง

รถเมล์ผ่านมาคันแล้วคันเล่า น้องเขาก้อไม่ขึ้นสักที... (กุก้อไม่ขึ้น)

เอ หรือว่าเขาจะรอเพื่อนหว่า เหนชอบหยิบมือถือขึ้นมาบ่อยๆ

น้องเขายืนสักพักคงเมื่อยอ่ะครับ เขาเลยเดินเข้ามานั่งตักผม

เอ๊ยยย ม่ายช่ายย!!

เขาเดินมานั่งในศาลา ตรงข้ามกับผมครับ

เลยประจันหน้ากันตรงๆเลย

เขินชิบหาย... ทำไงได้อ่ะ ผมก้อเลยมองไม่วางตาเลยดิ่

หุหุหุ

มองรถเมล์นะครับ มองรถ

น้องเขาเข้ามานั่งได้สักประมาณ 5 นาที ผมก้อทนไม่ไหวแล้วครับ ทำตัวไม่ถูก

เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จะโทหาเพื่อนว่ามีใครอยู่ ที่เซ็นทรัลบ้าง

โทรศัพท์ผมมันก้อดังขึ้นมาพอดี

ไม่ต้องเดาเลยครับว่าเปนใคร

ไอ้เบียร์โทมาครับ

“ฮัลโหล มีไร”

“ทำไมไม่กลับมาพร้อมพวกไอ้แบ๊งค์” มันถามผมเสียงเครียด จะหาเรื่องทะเลาะอีกแล้วรึไงวะเนี่ย

“ก้อคนมันเยอะ แถมตัวยังกะควายอัดกันไป กุไม่กลับอ่ะ”

“แต่มันบอกว่ามึงจะไปไหน ถึงไม่กลับกับมัน” เอาล่ะสิ ลืมไปเลย ว่าผมบอกพวกไอ้แบ๊งค์ว่าผมจะกลับบ้าน

แล้วไอ้ทางเนี๊ย มันมีสายไหนกลับบ้านผมได้เลยที่ไหนเล่า

“ว่าไง จะไปไหน ทำไมไม่มาที่เซ็นทรัล” มันถามย้ำ

“ก้อ ตอนแรกว่าจะกลับบ้านเลย ว่าจะไปทางเจเจ จะได้ขึ้นรถคนไม่เยอะ ที่เซ็นคนมันเยอะอ่ะ” ผมก้อเฉไปเรื่อย

“เหรอ แล้วทำไมยังไม่กลับ”

“ก้อรอรถอยู่ไง”

“รอห่าอะไร จะ 45 นาทีแล้วนะ ทำไมยังไม่กลับ แล้วอยู่กับใคร”

“ก้อ รถมันแน่นนี่หว่า เลยรอคนไปกันเยอะๆก่อน ค่อยกลับ” ผมคุยกับมัน ก้อแอบมองน้องเขาไปด้วย

เหนอยู่ครับ ว่าเขาก้อมองผมเหมือนกัน แล้วก้อได้ยินเรื่องที่ผมคุยด้วยแน่ๆอ่ะ ก้อนะ...

ตอนนั้นไม่ได้คิดไรหรอกครับ แต่นึกไปนึกมา เนี่ยมันบทสนทนาของคนโดนแฟนโทตาม (มาด่า) ชัดๆเลยนี่หว่า

น้องเขาก้อคงคิดเหมือนกันมั๊งเนี่ย

“แล้วอยู่กับใคร อย่าบอกนะว่าอยู่คนเดียว จะไปหาเดี๋ยวเนี๊ย” ดูมัน ผีเข้าเหรอวะ

“เฮ้ยย จะบ้ารึไง กว่ามึงจะมาถึง กุก้อกลับก่อนพอดีอ่ะ ไอ้บ้า” ผมว่ามัน มันบ้ารึเปล่าเนี่ย

“ไม่สน จะไป รออยู่นั่นแหละนะ อย่าเพิ่งกลับ” มันจะมาจริงๆด้วยอ่ะ ทำไงดีๆ

“แล้วกุบอกมึงยัง ว่ากุอยู่คนเดียวอ่ะ...” มันเลยเงียบไป “กุอยู่กับพวกไอ้โจ้กับเพื่อนห้องมันอีก 3 คน”

ผมแหลอีกแล้วครับ

แล้วเลยเหนน้องเขานั่งยิ้มๆ ผมก้ออดขำไปด้วยไม่ได้

ก้อนั่งกันอยู่ 2 คนที่ศาลา กับมีเด็กรอรถอยู่ข้างนอกอีกไม่ถึง 20 คนอ่ะ

พอน้องเขาหันมาเหนผมมองเขาแล้วยิ้มอยู่ ก้อกลายเปนการสบตากันจริงๆครั้งแรกเลยครับ

แล้วเราก้อยิ้มให้กัน (ในความกะล่อนของผม)

“แล้วไง พวกไอ้โจ้จะมาที่เซ็นทรัลรึไป จะกลับมาพร้อมมันมั๊ย” เสียงมันอ่อนลงเยอะเลยครับ

“ก้อ คงไม่อ่ะ ขี้เกียจ ถ้าไงกูขึ้นรถแท็กซี่ไป เจเจ เลยก้อได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” ผมบอกมัน

“อืมม ก้อได้”

“แล้วทำไมอ่ะ ยังไม่กลับบ้านรึไง เลิกเรียนตั้งแต่เที่ยงเนี่ย” ผมย้อนมันมั่ง

“ก้อ... กะจะรอเจอมึงอ่ะ” คำตอบมันทำเอาผมสะอึกไปนิดนึง

“รอทำไม” ตาผมทำเสียงดุมั่งและหละ

“ก้อ เปล่า อยากรอ แต่ไม่เปนไรหรอก กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวกุก้อกลับแล้วเหมือนกัน”

“เออ งั้นกุกลับบ้านก่อนนะ แค่นี้ก่อนแล้วกัน ถึงบ้านเดี๋ยวโทไปหา”

“อืมๆ บาย” แล้วเราก้อวางกันไป

ดูมันดิ่ ผมอ่ะยังเคืองมันอยู่นะ แต่แม่งชอบทำตัวแบบเนี๊ยอ้ะ

ผีเข้าผีออก

ผมปรับอารมณ์ตามมันไม่ทันจริงๆ... แต่ก้อดีใจนะครับ ที่มันโทมา

แต่ไม่ได้หรอก ตอนนี้กุถือไพ่หนือกว่า ขอเบ่งอีกหน่อยเหอะ ไอ้เบียร์

5555

และระหว่างที่กำลังนึกอะไรอยู่คนเดียวก้อมีเสียงนึงขัดขึ้นมา

“พี่จะไป เจเจ เหรอครับ” น้องเขาถามผมอ่ะ ตกใจมากมาย ทำตัวไม่ถูก โอ๊ยๆ

“อ่ะ ครับ คิดว่างั้นนะครับ” ผมตอบไป มองหน้าน้องเขา ยิ้มๆอยู่

น่าร๊ากกกกกกกกก

“ขอโทษนะครับที่ถาม พอดีได้ยินที่พี่คุยโทรศัพท์น่ะครับ”

“อ๋อ ครับ หึหึหึ” ผมแอบขำนิดนึง น้องเขาก้อยิ้มๆ

แล้วตอนนี้เองที่ผมนึกขึ้นมาได้ว่า บทสนทนาเมื่อครู่นี้ ไม่ว่าใครฟังก้อต้องนึกแน่ๆว่า แฟนโทมาตาม แต่...

สรรพนามที่ใช้เนี่ย มันใช้กะผู้ชายอ่ะ... มึง กู... เงี๊ย และเมื่อจับมันมายูเนี่ยนกัน

ก้อเท่ากับ ผมโดนแฟนผู้ชายโทมาตามซึ่งเท่ากับกูเปนเกย์อ่ะดิ่ แล้วคนที่ได้ยินก้อมีแค่น้องเขา งั้นก้อ...

ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรได้ต่อ น้องเขาก้อถามว่า

“งั้นพี่กลับแท็กซี่กับผมมั๊ยครับ ผมก้อจะไปเหมือนกัน”

“อ่ะ หา อ๋อ ทำไมล่ะครับ บ้านอยู่แถวนั้นเหรอ”

“ก้อ บ้านป้าน่ะครับ” น้องเขาตอบมา

“ครับ แล้วทำไมน้องถึง เอ่อ เพิ่งกลับล่ะครับ” ผมถาม นึกคำที่พอจะดูดีหน่อย ดีกว่าถาม ทำไมน้องยังไม่กลับสักทีล่ะครับ... มันคงเสียมารยาทไปนิดมั๊งเนอะ

“ก้อลังเลอยู่น่ะครับ ว่าจะกลับไหนดี บ้านตัวเอง เซ็นทรัล หรือ บ้านป้าเนี่ยแหละครับ”

“อ๋ออ ครับ” เอ่อคือ น้องเขาคิดอยู่ว่าจะกลับไหน ถึงยังนั่งอยู่นะเว้ย ไม่ใช่มึงนาไอ้ต้น ที่ไม่กลับเพราะมารอเจอน้องเขาอ่ะ ไอ้ม่อ!!

“แล้วพี่ล่ะครับ ทำไมยังไม่กลับ”

“ก้อเหมือนกันครับ คิดอยู่ว่าจะกลับไหนดี รร หรือว่า เจเจ” ผมก้อเลียนแบบดิ่ 555

“ครับ” น้องเขาตอบแค่นี้ แล้วยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ

“แล้ว เอ่อ... น้องชื่อไรอ่ะครับ พี่ชื่อต้นนะ” ขอชื่อและเบอร์โทด่วนเลยน้อง

“ผมจอน ครับ” น่านนน ชื่อหรูซะด้วยยย

“ครับ งั้นเรากลับกันเลยมั๊ยครับ” ผมชวนน้องเขากลับเลยแล้วกัน เพราะมันก้อเย็นมากแล้ว

แล้วเราก้อนั่งแท็กซี่กัน ระหว่างที่อยู่บนรถ ก้อคุยกัยไปเรื่อยเปื่อย ก้อรู้ว่าน้องเขาอยู่ห้องอะไร สายไหน อะไรเงี๊ยบ้างครับ

การจราจรก้อช่างเปนใจเหลือเกิน รถติดสุดๆๆๆๆๆๆอ่ะ

เซ็ง แต่ก้อแอบดีใจนิดนึง... แต่เซ็งมากกว่าว่ะ

น้องเขาคงเหนผมทำท่าหงุดหงิดมั๊งครับ เลยถาม

“พี่รีบเหรอครับ”


“อ๋อ ก้อ เปล่าหรอกครับ แต่รถติดอ่ะ ไม่ชอบ” ผมบอกน้องจอน

“แถวเนี๊ยก้อเงี๊ยแหละครับ เวลาเย็นๆก้อเหมือนถูกขังอยู่ในนรกห้องแอร์”

“555 ครับ”

“กลัวแฟนพี่จะรอนานเหรอครับ”

“เฮ้ย เปล่าๆๆ ไม่มีแฟน ยังไม่มี” ผมปฏิเสธ... ไปตามสัญชาตญาณ

“จริงอ่ะ ไม่จริงม๊างง เหนคุยโทรศัพท์เมื่อกี๊ ก้อพอ เดา ได้แล้วค้าบบ”

เอาล่ะสิ แม่งรู้จริงๆด้วยดิ่

“ก้อ ไม่ใช่แฟน เพื่อนน่ะเพื่อน” ผมยังบอกปัด

“เพื่อนเหรอ ดูเปนห่วงกันดีออกนี่” น้องจอนถาม แถมยังยิ้มเจ้าเล่ห์... หล่อซะไม่มีอ่ะมึงง

“ก้อเพื่อน สนิทไง คุยกับแฟนพี่คงพูด มึงกู หรอกม๊างง” ชิบหายแล้ว กู หลุด

พูดจบก้อเสียววืดๆเลยครับ โอ๊ย เวรกกรมกู

“ก้อพูดได้นะ มันก้อมีอยู่กรณีนึง” แล้วเขาก้อยิ้ม

“อ่ะ เหรอ กรณีไหนอ่ะ” ผมถาม เริ่มใจสู้ เพราะถ้าแมงพูดขนาดนี้ มันก้อต้องเปนเหมือนกันชัวร์แล้วล่ะ

“ก้อกรณี อย่างที่ชัยพูดกับอ๋องไง”

“แต่พี่ก้อไม่ใช่อ๋องซะด้วยดิ่ ที่จะพูดเพราะๆแบบนั้นได้”

แล้วเรา 2 คนก้อหัวเราะกันใหญ่
.
.
.
.
คือ

กุล้อเล่น

มา กลับมาสู่ความเปนจริงกันต่อ

.

.

.

“อ่ะ เหรอ กรณีไหนอ่ะ” ผมถาม เริ่มใจสู้ เพราะถ้าแมงพูดขนาดนี้ มันก้อต้องเปนเหมือนกันชัวร์แล้วล่ะ

“อย่าว่าแต่พี่เลย เราเหอะ มีแฟนยัง หล่อๆแบบเนี๊ย สาวตอมหึ่งไปดิ่” ผมถาม (พร้อมหยอด)

“ไม่มีหรอกครับพี่ ไม่มีใครเอา”

“ก้อไม่แน่นะ” ผมมองหน้าจอน แล้วยิ้มมั่ง

ยังไม่ทันจะคุยกันต่อ โทรศัพท์ดังอีกแล้วครับ

ไอ้เบียร์นั่นแหละ

“ครับ”

“ว่าไง อยู่ไหนแล้ว” มันถาม

แต่คราวนี้ ผมอยู่บนบรถแท็กซี่ เสียงมันก้อเงียบอ่ะดิ่

ตอนนี้ น้องจอนต้องได้ยินเสียงมันแน่ๆ

“อยู่บนแท็กซี่”

“ยังไม่ถึงเหรอ”

“ยัง รถติด ใกล้แล้วล่ะ”

“อืมๆ กูถึงบ้านแล้วนะ โทมาบอกเผื่อจะเปนหว่งกูมั่ง”

น้องจอนมองหน้าผมแล้วยิ้มนิดนึง เปนการแสดงออกว่า กุได้ยินนะมึง แล้วก้อหันกลับไปเหมือนเดิม

“ใครเขาจะห่วงมึง ไอ้บ้า เปนไรกั๊น”

“ไม่รู้ รู้เองแล้วกัน กูไปแล้วนะ แม่เรียก”

“เออ ไปเหอะ ถึงบ้านแล้วจะโทไปบอก”

“อืมๆ กลับดีๆนะคับ”

“อืมๆๆ บายๆ”

หลังจากผมวาง น้องเขาก้อหันมา

“ไหนบอกไม่ใช่แฟนไง”

“เอ่ออ ก้อ ไม่รู้ดิ่” ก้อไม่รู้จริงๆนี่ครับ ผมกับไอ้เบียร์ยังไม่เคยคุยกันเลยว่า เราเปนแฟนกันแล้วนะอ่ะ

บอกตามตรง ผมอ่ะ งงกับพฤติกรรมมันจะตายห่าอยู่แล้ว

“พี่ต้น ผมขอโทษครับ ที่ละลาบละล้วง” น้องเขารีบขอโทษที่ผมทำหน้าไม่ดี

“เอ้ยๆๆ เปลาๆ ไม่เปนไรๆ พี่ไม่ถือ”

แล้วหลังจากนั้น เราก้อคุยกันไปเรื่อย จนถึงป้ายรถเมล์ น้องจอนก้อบอกให้รถจอดแล้วลง

“แล้วบ้านเราอยู่ไหนอ่ะ ทำไมลงพร้อมพี่ล่ะ” ผมถาม

“ก้อ เดินไปอีกหน่อยเดียวครับ มาส่งพี่ก่อน”

“เฮ้ยยย ไม่เปนไรๆ กลับก่อนก้อได้ครับ ไม่ต้องส่งหรอก ตลกน่า ให้คนเด็กกว่ามารอส่งเนี่ย”

“ไม่อ่ะครับ จะรอ ก้อเกรงใจพี่ไง”

“อ่ะนะ งั้นตามใจ 555”

“พี่ต้น ผมขอเบอร์พี่ไว้หน่อยได้ป่าว” เอาแล้วไง ทำไงดีอ่ะ จะตอบว่าไงดีวะ...

“ได้ดิ่ครับ”

แล้วเราก้อแลกเบอกันโดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจเลยสักนิด

ทำไงดีๆ

หุหุ

แล้วผมก้อขึ้นรถกลับบ้านครับ

หลังจากถึงบ้าน ผมก้อโทหาเบียร์

แต่คุยกันแค่ ไม่ถึง ชม เพราะผมเหนื่อย แล้วก้อยังเคืองๆมันด้วย

ก้อคุยกวนตีนๆมันไป จนวางแหละครับ

แต่พอผมกำลังจะเข้านอนนี่ดิ่ (กำลังเคลิ้มๆ)

ก้อมีคนโทเข้ามามือถือผม
.........
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 25-01-2007 15:40:55
กำลังลุ้นเลย

รีบมาต่อไวๆ นะค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 26-01-2007 13:39:06
น่านกะแล้ว กิ๊กใหม่แหงมๆ  :-[

หุหุ รอลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 26-01-2007 15:10:18
ไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบน้องจอน (ดูดี เรียบร้อยเกินไป)
จะเอาแบบเบียร์อ่ะ กวนๆๆ เร้าจายยยย น่าค้นหา มีเรื่องให้คิดตามไม่เว้นแต่ละวันดี ชอบๆๆ หลากมิติดี

ตกลงคุณต้นเนี่ยเจ้าชู้ป่าวน๊า งง เดาไม่ออกแล้ว แต่ที่แน่ๆ หน้าม่อ แหงมๆ :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-01-2007 20:12:50
หุหุ อ่านทันอีกเรื่องแล้ว  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 26-01-2007 23:54:52
555+
ตาต้นนี้ล่ะก็ หุหุหุ

มาต่อไวๆนะคับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-01-2007 01:38:28
หุหุ เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์
ต้นหน้าหม้อ หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-01-2007 17:39:57
หม้อสุกี้เอ็มเคแล้วกัน อร่อยดี  :laugh:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 29-01-2007 15:42:52
ไม่อยากสนับสนุนคนชอบมีกิ๊กเลยจิง จิ๊ง แต่ก็นะ  :untrust:
ยังไงก็รออ่านอยู่นะ :haun6: :haun6:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-01-2007 16:27:58
ตอนที่ 17

5 ทุ่มกว่าจะเที่ยงคืนแล้วครับ แถมไปเรียน รด. มาด้วย

ถึงจะไม่ได้ออกสนามก้อเถอะ แต่แบกชุดหนักๆ เดินทางไกลๆเนี่ย มันก้อเหนื่อยเหมือนกันนะครับ

ผมหยิบมือถือขึ้นมา แล้วแอบบ่นๆนิดนึง

เพราะรู้ว่าต้องไม่ใช่ไอ้เบียร์แน่ๆ

แล้วใครโทมาวะ... จะนอนอ้ะ

แต่พอเหนเบอที่โชว์อยู่ก้อตาสว่างทันที

“ฮัลโหลครับ”

“ครับ พี่ต้นนอนยังครับ นี่จอนนะครับ”

“ครับผม ยังไม่นอนหรอกครับ”

“แล้วผมกวนพี่ป่าวครับ ทำไรอยู่”

อ๋อ กำลังจะออกไปว่ายน้ำครับ เวลานี้คนทั่วไปเขาว่ายน้ำกันนิคับ จริงๆแล้วจะผัดข้าวผัดกินพอดีเลย ไปเชียร์ะบอลด้วยกันเลยมั๊ยะครับ... อันนี้คิดในใจ

“อ๋อเปล่าครับ ไม่ได้ทำไร นอนเล่นๆ” คือ... กุง่วงไง จาหลับแล้ววว จนเอ็งโทมาเนี่ยแหละ

“ครับ คุยได้ป่าวอ่ะ”

“ได้ดิ่ครับ มีไรป่าว” จริงๆก้อเริ่มรู้ตัวแล้วล่ะครับ ว่ากุกำลังจะโดนเด็กจีบเอาเข้าแล้วรึป่าวเนี่ย

“ก้อ ไม่มีไรหรอกครับ พรุ่งนี้พี่มา รร ป่าวครับ”

“อ้าว ไปสิครับ ทำไมจะไม่ไปอ่ะ”

“เปล่าครับ ผมแค่ถามดูเฉยๆ... แล้วปกติพี่ไปถึง รร กี่โมงครับ”

“พี่ไปเช้าครับ หกครึ่งก้อถึงแล้วล่ะ”

“โห พี่ ออกจากบ้านกี่โมงครับเนี่ย ปกติพี่ตื่นกี่โมง”

“ตื่นก้อ ตี 4 ครึ่งได้มั๊ง ออกจากบ้านก้อ ไม่เกินตี 5 ครึ่งอ่ะครับ” เพราะงั้นกุถึงต้องนอนเร็วไงค้าบบ โทมาไมเนี่ยยย

“เหรอครับ ตื่นเช้าจัง”

“อืมม แล้วเราอ่ะ ไปถึงกี่โมง”

“ก้อประมาณ 7 โมงนิดๆแหละครับ ผมชอบไปนั่งที่โรงอาหารก่อน”

“พี่ก้อเหมือนกัน ปกติพี่จะมีกลุ่มเพื่อน คนละห้องนะ ไปนั่งกันตอนเช้าที่โรงอาหารกันเหมือนกัน”

.

.

.

แล้วเราก้อคุยกันไปเรื่อยล่ะครับ

ผมก้อยอมรับนะ ว่าแอบหวั่นไหวนิดนึงเหมือนกัน

น้องเขานิสัยดีอะครับ เรียบร้อยดี แต่ก้อแอบมีกวนๆตามประสาเด็กผู้ชายเหมือนกัน

ก้อคุยกันไป จนน้องเขาถามมาว่า

“แฟนพี่ เปนผู้ชายใช่มั๊ยคับ”

ผมก้ออึ้งเลยดิ่ แบบ ก้อคิดว่าน่าจะเดาออกตั้งแต่เมื่อเย็นอ่ะนะ แต่ไม่คิดว่าจะถามตรงๆแบบนี้

“ก้อ... เอ่อ” ผมอึกอักๆ

“ไม่เปนไรครับ ผมไม่บอกใครหรอก” น้องจอนรับคำ เหมือนจะอ่านความคิดผมออก

“ก้อครับ แต่ไม่รู้เรียกว่าแฟนรึเปล่าเหมือนกัน” ผมตอบ

“อ้าว จีบกันอยู่เหรอครับ” ทำไมถึงอยากรู้นักวะ หาาาา

“ก้อเปล่าหรอก ไม่เอาๆ เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะนะ แล้วเราล่ะว่าไง” ผมใช้คำถามกว้างๆไว้ก่อน เพราะไม่รู้จะถามน้องเขายังไงเหมือนกัน

“ก้อ ไม่รู้สิครับ”

“แล้วไม่มีผู้หญิงน่ารักๆมั่งเหรอที่ห้องอ่ะ เพิ่งได้เพื่อนใหม่ๆกันนี่นา”

“โหพี่ ต้องให้ผมบอกเหรอครับ ว่าผมไม่สนผู้หญิงอ่ะ”

“5555555 ครับๆ” แหม เด็กมันตรงดีเนอะ

“พี่ไม่ต้องขำเลยอ่ะ กลุ้มใจเหมือนกันนะเนี่ย”

“อ้าว กลุ้มเรื่องไรครับ” ผมงง

“ก้อไม่รู้สิครับ อยากมีแฟนมั๊ง”

“โธ่ มีทำไมครับ มีแล้วก้อลำบากใจ เรื่องมาก วุ่นวายใจป่าว” ให้ตายเถอะ เผลอพูดจากใจจริงไปหน่อย

“โห่ พี่มีแล้วพี่ก้อพูดได้ดิ่” อ้าวนี่กุพูดจริงๆนะเนี่ย

“ครับๆ ตามสบายๆ”

แต่เรื่องของเรื่อง คือ ผมคุยกับน้องเขาเนี่ย จับได้ใจความเดียวเลยครับ

ว่ามันจีบกูแน่ๆ

ทั้งๆที่มันก้อรู้ว่าผมมีไอ้เบียร์แล้วอ่ะนะ

แต่ผมไม่ได้ว่าอะไรเขาหรอกนะครับ เขาดูไม่ใช่เด็กแบบนั้นอ่ะ

อย่างที่บอกน่ะครับ ว่าเปนเด็กเรียบร้อย นิสัยดีทีเดียว

แอบหวั่นไหวนะครับ เพราะเบื่อไอ้เบียร์อยู่เหมือนกัน

น้องจอนนี่ เหล้าก้อไม่กิน บุหรี่ก้อไม่สูบ เที่ยวก้อไม่เที่ยว

ถ้าได้เปนแฟน (ก่อนมีไอ้เบียร์) นี่รักตายเลยนะ

แต่ผมก้อทนไม่ได้ครับเลยบอกน้องเขาไปตรงๆ

“จอนครับ แต่พี่มีแฟนแล้วนะ พี่ว่าถ้าเราคุยกันแบบนี้ทุกคืนคงไม่ดีมั๊งครับ”

น้องเขาก้อเงียบๆไปพักนึงแล้วก้อพูดขึ้นมาว่า

“ผมรู้ครับ แต่ว่า... ผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขอผมเปนน้องชายพี่คนนึงแล้วกันนะครับ พี่ไม่ต้องคิดอะไรกับผมก้อได้นี่ครับ

เหนผมเปนแค่น้องชายคนนึงก้อพอ พี่ไม่รังเกียจผมก้อพอแล้วครับ”

“เฮ้ย พี่จะไปรังเกียจอะไรล่ะครับ ได้สิครับ น้องชาย อิอิ”

“ครับ ขอบคุณครับพี่ต้น งั้นยังไง พรุ่งนี้เจอกันที่ รร นะครับ”

“ครับผม บายครับ”

แล้วเราก้อวางโทรศัพท์กันครับ

ผมขอเล่าเรื่องที่คุยกับน้องเขา สรุปๆให้ฟังแล้วกัน

น้องเขาเปนลูกชายคนเดียวครับ พ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปต่างประเทศบ่อย

มีคอนโดอยู่แถวปากทางลาดพร้าว อยู่คนเดียวซะส่วนมาก

บ้านป้า อยู่ที่แถวๆจตุจักร พ่อแม่เลยไม่ค่อยห่วง

เขาบอกว่า เหนผมครั้งแรกก้อที่ รร ตอน มอ 4 แหละครับ

แล้วก้อมาเจออีกที ที่ตอนเรียน รด จนได้มาได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์ จึงชัวร์เลยว่า ผมมีแฟนผู้ชาย

เขาบอกว่า เพิ่งรู้ตัวเองว่าชอบผู้ชายตอนมอ 4 นี่แหละ

เคยมีแฟนผู้หญิงมาแล้ว หลายคน คนล่าสุดเพิ่งเลิกกันไป

แล้วรู้สึกเบื่อมากๆ ขณะเดียวกันก้อเริ่มรู้สึกแปลกๆ เวลามองผู้ชาย

พยายามจะไม่คิดว่าตัวเองเปนอะไรแบบนั้น

แต่ว่า หลังจากมาเจอผม ทำให้น้องเขาตัดสินใจได้น่ะครับ ว่าไม่อยากหลอกตัวเอง

เค้าอยากรู้ว่า ผมกับไอ้เบียร์คบกันยังไง เริ่มยังไงอะไรทำนองนี้

ผมก้อเล่าให้เขาฟังนะครับ น้องเขาก้อรู้สึกดีขึ้น

เขาเลยอยากให้ผมเปนเหมือนพี่ชาย ที่เขาจะได้คุยด้วยได้

(แต่ตอนแรกก้อยอมรับเหมือนกัน ว่ามองผมอยู่อ่ะ ฮิๆๆ เสน่ห์มันแร๊ง 555)

ไม่เคยผ่านมือทั้ง หญิงและชายครับ

เปนเด็กดีอยู่ในโอวาทของป้าตลอด เพราะไม่อยากทำให้พ่อแม่เสียใจ

น่าสงสารเหมือนกันนะครับ วัยกำลังหัวเลี้ยวหัวต่อ

ถ้าเกิดเค้าเครียดมากๆเรื่องพรรค์นี้ แล้วไม่มีใครให้พูดด้วยได้ เค้าอาจเลือกเดินทางผิดก้อได้นะผมว่า

ผมเลยยินดี ที่น้องเขาเหนผมเปนพี่ชายคนนึงน่ะครับ

เพราะผมก้อไม่มีน้องชายเหมือนกัน

พูดจากใจว่า

ไอ้เบียร์มีคู่แข่งซะแล้วล่ะครับ

555555

ถ้ามันไม่ปรับปรุงตัวด่วยนะ มีเรื่องแน่ๆ

หลังจากวางจากน้องจอนไป ผมก้อลังเลเหมือนกันนะครับ

ว่าผมจะเอาไงดี

คือทั้งๆที่รู้ว่า น้องเขาก้อขอเปนแค่น้องชายนะ (แต่ผมกับน้องเขาก้อเหมือนรู้กันแหละ จริงๆคงต้องบอกว่า ‘ขอเริ่มต้นที่การเปนน้องชาย’ มากกว่าแหละมั๊งครับ)

แต่ใจผมมันแอบเอนเอียงไปแล้วสิครับ

เลยเครียดๆนิดนึง

แต่ผมยังไม่คิดจะบอกไอ้เบียร์นะครับ เพราะว่า

1.คือผมยังไม่เหนว่ามันเปนเรื่องใหญ่น่ะครับ ผมกับน้องจอนมันก้อไม่ได้มีไรกัน ไม่อยากให้มันเครียดโดยเปล่าประโยชน์น่ะครับ

ไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกันเปล่าๆ

2. คือ... ผมแอบสงสัยใจตัวเองอ่ะ เลยไม่กล้าบอก


...เลวเนอะ...
..................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 29-01-2007 17:01:51
ท่าจะมีเรื่องนะเนี่ย หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 29-01-2007 17:03:02
ไม่เลวหรอกครับ
มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ ไม่นานมันก็ผ่านไป
มันไม่เหมือนกับอารมณ์ของคนรักกันเป็นแฟนกันหรอกครับ ความผูกพันธ์กับความห่วงใยมันห่างกันเยอะ
ดังนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องคิดมาก ปล่อยให้มันเป็นไป
อย่างผมเองนี่ก็แอบชอบคนนู้นคนนี้ไปทั่ว วันๆนึงนี่ตั้งเป็นทีมฟุตบอลยังไม่ได้เล้ย . . . เยอะเกิน
ตามอ่านครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 29-01-2007 18:56:50
 :monkeysad:

อยากให้ติดตามเรื่องรักครั้งแรกของผมจนจบนะครับ
ใครอ่านๆอยู่ก็รีมาคุยได้นะครับ เพราะว่าผมน่าจะมาคุยได้บ่อยๆแล้วล่ะ
คิดว่าพอจบแล้วหลายคนคงมีอะไรอยากถามแน่ๆเลย

แล้วก้ออีกอย่าง เรื่องสั้นของผม เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ จบแล้วนะครับ ไปอ่านกันได้นะ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 29-01-2007 20:33:04
อืมมมมมม ท่าจะตัดสินใจยากเนอะ

ถึงตอนนี้เป็นแค่น้องชายก็เหอะ แถมคุณเบียร์ก็ขี้หึงน่าดูชม  :confuse:

ลุ้นต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-01-2007 09:11:17
หุหุ ตอนแรกขอเป็นแค่น้องชาย พอนาน ๆ ไปพี่ชายอาจหวั่นไหวได้นะ  :kikkik:  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-01-2007 15:06:02
เจ้าของเรื่องตัวจริง เข้ามาขอกำลังใจเองเลย

อย่าลืมคอมเมนท์กันเยอะๆ นะครับ คนแต่ง คนโพสต์จะได้มีกำลังใจ

 :yeb:

---------------------------------------------------

ตอนที่ 18

วันรุ่งขึ้นผมก้อไป รร แต่เช้า ปกติครับ

แต่ที่ผิดปกติก้อคือ ผมเจอน้องจอนตั้งแต่ ยังไม่ 7 โมงเลยครับ

พอผมเจอน้องเค้า ผมก้อทักทายปกติ คุยกันแปบนึง ก้อเดินกลับมานั่งที่กลุ่มเพื่อน

แต่เพื่อนผมยังไม่ค่อยมากันหรอกครับ มากันแค่ 3 คน

มันก้อถามว่า รู้จักกันได้ไง น้องเค้าเปนใคร ผมก้อบอกไปตามตรงว่ารู้จักกันที่ ตอนกำลังจะกลับจาก รด เมื่อวาน

แต่ไม่ได้บอกว่า มีเบอกันแล้ว รึไรหรอกนะครับ

รู้จักกันได้ยังไง ก้อแหลๆไป (เด๋วต้องไปเตี๋ยมกะน้องเค้าอีกสิเนี่ย) บอกแค่อาศัยรถกลับคันเดียวกัน

จนเพื่อนผมเริ่มมากันเยอะ จะครบคนแล้วครับ

ก้อเดินไปซื้อข้าวมากินกัน ผมก้อเจอน้องเขากำลังซื้อข้าวเหมือนกัน

ก้อยิ้มทักทายกัน

โอ่ยยยยยยยย เพื่อนผู้หญิงผมตื่นเต้นกันใหญ่ จ้องจะงาบกันเข้าไป

ผมก้อต้องเล่าให้พวกมันฟังอีกรอบนึง

เพื่อนสาวผมทั้งหลาย ก้อขอให้ผมติดต่อขอเบอร์ให้หน่อยกันใหญ่

ส่วนเพื่อนผู้ชายบางคนก้อแซวขำๆ ว่าระวังโดนเด็กงาบละกัน

5555

ใครจะงาบใครวะ ฮี่ๆๆ

ไอ้เบียร์อ่ะ มาสายครับ มาซะเกือบเข้าแถว

เจอกันก้อทักทายกันปกติครับ ยิ้มให้แล้วจับตูดมันทีนึง

มันก้อมีทำสะดิ้ง

ตอแหลซะไม่มีอ่ะ ยิ่งกว่าตูดก้อจับมาแล้ว

5555

แต่มีครั้งนึง มันลืมทำสุดุ้งตอนผมจับตูดครับ

ซวยเลยอ่ะ เพื่อนผมแซวกันใหญ่ว่า มันชอบให้ผมจับตูด

ตั้งแต่นั้นมา มันลืมสะดุ้งแล้วก้อด่าผมทุกครั้งที่จับไม่ได้เลยครับ

ฮิฮิฮิ

จนถึงตอนนี้แล้ว พูดกันตามตรงนะครับ

ผมหึงไอ้ชัยมากๆเลยครับ

ทำไมมันต้องสนิทสนมกับไอ้เบียร์ขนาดนั้นด้วย

ไอ้เบียร์ก้อเถอะครับ ทำไม่กัน รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบใจ

มันก้อไม่คิดแม้แต่จะห่างออกมาสักนิดนึงเลย

มันให้เหตุผล (ที่ผมก้อต้องยอมรับ) ว่า

“ต้น ถ้ากูถามมึงว่า เพื่อนกับแฟน มึงเลือกใครล่ะ... มึงก้อต้องตอบว่าเพื่อนเหมือนกันถูกมั๊ย”

...

ครับ

นั่นแหละ เลยต้องจำใจยอมรับไปตามระเบียบ

เชื่อมั๊ยครับว่า ไอ้ชัยไปบ้านไอ้เบียร์ทุกวัน

ผมก้อไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ ทำได้แค่ทำใจจริงๆ

เย็นวันนั้น ไอ้ชัยจะไปนอนค้างที่บ้านเบียร์ครับ

โดยที่ผมรู้จากไอ้บาสนะ ไม่ได้รู้จากไอ้เบียร์เองเลย

ผมเลยเดินไปถามมัน

“เบียร์ วันนี้ไปไหนรึเปล่า” ผมเดินไปถามมัน

“ก้อเปล่าหรอก” มันตอบ แล้วเก็บกระเป๋าไปด้วย

“ไปเซ็นทรัลด้วยกันหน่อยดิ่ อยากไปซื้อของอ่ะ”

“อืมม กูไม่ว่างว่ะ ต้องกลับบ้าน แม่บอกให้รีบกลับ” มันตอบโดยที่ยังไม่เงยหน้ามองผมเลยครับ

“เบียร์... กูรักมึงนะ” ผมเริ่มเครียดมากจนน้ำตาคลอแล้วครับ

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะ อาจเปนเพราะ เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยช่วงนี้

อาจเปนเพราะเมื่อวานมันอุตส่าห์โทหาผมก่อน แล้วผมงี่เง่าใส่มัน

อาจเปนเพราะ วันนี้ผมกับมันแทบไม่ได้คุยกันเลย เนื่องจากวันนี้มีงานกลุ่มตลอด

แล้วผมเอาแต่มองหามันทั้งวัน แต่ไม่เคยเหนสายตามันหันมาทางผมเลย

หรืออาจจะเปนเพราะ เรื่องไอ้ชัย ที่ผมรู้มาจากปากของไอ้บาสแทนที่จะเปนมัน

หรือบางที ผมอาจจะเสียใจ ที่ทำไมตัวเองเปนคนงี่เง่าแบบนี้ก้อไม่รู้สิครับ

มันเงยหน้าขึ้นมามองผม

“เปนอะไร” มันถามแล้วเอามือดึงแขนผมไปนั่งยองๆข้างๆมัน

“เปล่า ไม่มีไร” ผมตอบมัน

“แล้วทำไมตาแดง จะร้องไห้ทำไม ฮึ” มันถามแล้วเอามือจับหัวผม

“มึง... มาหากูที่ห้องน้ำหน่อยนะ” แล้วผมก้อเดินออกจากห้องไป

พอมันเดินตามมาถึงที่ห้องน้ำ มันก้อปิดประตูแล้วล็อก

ใครก้อไม่ต้องเข้ากันล่ะมึง อั้นไว้ก่อนเหอะนะ

“เปนไร ต้น” มันถามหลังจากล็อกห้องเส็ด

“กู... กูก้อไม่รู้”

“ไม่รู้ได้ไง มึงเครียดอะไรอีก” ผมเปนคนคิดมากครับ มันก้อรู้

“ทำไมไม่บอกกู ว่าไอ้ชัยจะไปนอนบ้านมึงคินนี้”

“ก้อ กูว่าจะบอกอยู่ มึงก้อบอกให้กูมาที่เนี่ย” มันตอบ

“แล้วทำไมถึงบอกว่า แม่ให้รีบกลับ” ผมเริ่มจะน้ำตาคลออีกรอบ

“ก้อ แม่กูให้รีบกลับจริงๆนี่หว่า มึงอย่าบอกนะว่ามึงเครียดเรื่องแค่นี้”

“ใช่ ถ้าเปนเรื่องแค่นี้ กูจะให้มึงด่าว่ากูเลยเบียร์ แต่เรื่องแค่นี้สำหรับมึง มันเปนเรื่องใหญ่สำหรับกูที่ว่า มึงมีอะไร

ทำไมถึงไม่บอกกู ทำไมกับไอ้แค่ ‘เรื่องแค่นี้’ กูต้องรู้จากปากคนอื่น กูถามจริงๆเถอะ ถ้ากูไม่บอกมึงว่ากูรู้แล้ว มึงจะบอกกูมั๊ย ว่าไอ้ชัยไปนอนกับมึง”

“ต้น มึงอย่าทำให้เปนเรื่องใหญ่ได้ป่ะ กะแค่ไอ้ชัยไปนอนบ้านกูแค่เนี๊ย” มันเริ่มจะทำหงุดหงิด

“มันไม่ใช่เรื่องนั้น มึงไม่เขาใจกูรึไง! ไอ้ชัยจะไปนอนกับมึงจะไปทำห่าอะไรกับมึงน่ะ กูไม่สนหรอก!

แต่กูสนมึง กูมีอะไรกูบอกมึงตลอด แต่ทำไมมึงต้องปิดบังกูเรื่องแค่นี้ด้วย แค่มึงบอกกูว่า ต้น วันนี้ชัยไปนอนบ้านกูนะ บอกไม่ได้รึไง!”

มันงียบ...

ส่วนผมเริ่มจะร้องไห้แล้ว

“มึงรู้ได้ไงว่ากูจะไม่บอกมึง” มันถามผมในที่สุด

“ก้อเพราะกูรู้นิสัยมึงไงเบียร์!! กี่ครั้งแล้วที่มึงทำอะไรมาแล้วไม่บอกกูแต่กูรู้เองน่ะ

มึงคงไม่รู้ใช่มั๊ยล่ะ ว่ากูรู้มาตลอดแหละ มึงโกหกกูมั่ง ปิดบังกูมั่ง กูก้อไม่ว่า กูยอมทนเสียใจ พยายามไม่คิดมากมาตลอด

แต่วันนี้กูทนไม่ไหวแล้วนะเบียร์ ที่มึงยังทำเปนไม่รู้ไม่สนใจอยู่แบบนี้อีกน่ะ”

มันก้อเงียบอีก

ผมกับมันเงียบไปสักพักนึง มันก้อดึงตัวผมเข้ามากอด แล้วบอกผมว่า

“กูขอโทษ”

ผมมองหน้ามัน มันเอามือมาเช็ดน้ำตาผมออก

แต่ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะครับ ผมเหนตามันแดงๆเหมือนกัน

“ต่อจากนี้ไป มึงก้อไม่ต้องคิดมากเรื่องของกูอีกแล้วล่ะนะ” มันพูดจบก้อเดินออกจากห้องน้ำไป

นี่มันบอกเลิกผมใช่มั๊ย

แต่แปลกนะครับ หลังจากคำพูดของมัน

ผมไม่ร้องไห้แล้ว

ผมเช็ดน้ำตา ล้างหน้าแล้วเดินออกมา

เก็บกระเป๋าที่ห้อง แล้วเดินออกมาจากตึก โดยไม่สนใจใครเลย

มันเหมือนความฝันเลยครับ

ทุกสิ่งที่ผมพูดออกไป

สิ่งที่มันพูดกลับมา

เรื่องราวทั้งหมดมันเหมือนผมฝันไปจริงๆ

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้าห้าง

นั่งลง แล้วก้อตั้งต้นคิดทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง

น้ำตาผมมันก้อเริ่มจะไหลออกมา

ผมเองก้อพยายามกลั้นมันไว้ให้ถึงที่สุด

ทำไมเวลาที่กูต้องการมึง มึงถึงไม่เคยอยู่กับกูเลย

ทำไมมึงถึงหันหลังเดินออกไปจากกูได้ง่ายๆอย่างนี้

ไอ้เบียร์....

ยังไม่ทันที่ผมจะได้นึกอะไรต่อ

น้องจอนก้อโทมา...

.....................................................................................................................................................................

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-01-2007 15:20:00
บางทีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อสะสมกันมากขึ้น ไม่พูดจาทำความเข้าใจกัน
เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งก็สร้างปัญหาได้ไม่น้อยเลย  :try2:

ตอนนี้ชอบฉากที่บรรยายความน้อยใจของต้นว่าเกิดจากอะไร

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะ อาจเปนเพราะ เราทะเลาะกันบ่อยมากด้วยช่วงนี้
อาจเปนเพราะเมื่อวานมันอุตส่าห์โทหาผมก่อน แล้วผมงี่เง่าใส่มัน
อาจเปนเพราะ วันนี้ผมกับมันแทบไม่ได้คุยกันเลย เนื่องจากวันนี้มีงานกลุ่มตลอด
แล้วผมเอาแต่มองหามันทั้งวัน แต่ไม่เคยเหนสายตามันหันมาทางผมเลย
หรืออาจจะเปนเพราะ เรื่องไอ้ชัย ที่ผมรู้มาจากปากของไอ้บาสแทนที่จะเปนมัน
หรือบางที ผมอาจจะเสียใจ ที่ทำไมตัวเองเปนคนงี่เง่าแบบนี้ก้อไม่รู้สิครับ

เข้าใจความรู้สึกของต้นมาก ๆ เลยค่ะ  :myeye:
รออ่านต่อไป  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 30-01-2007 22:41:46
ที่เบียร์ว่าอาจจะไม่ใช่คำบอกเลิกก็ได้มั๊ง

บางอย่างคนสองคนก็ต้องหันมาปรับความเข้าใจกันน่ะนะ

แต่เบียร์...พูดไม่เคลียร์เท่าไหร่  :sad4:

อย่างนี้น้องจอนก็...?
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 31-01-2007 03:38:06
เข้าใจต้นครับ เท่าที่อ่านมาต้นนิสัยเหมือนผมเลยครับ
ถ้าผมได้คุยกับเบียร์แบบต้น ผมก็คงคิดเหมือนกันอ่ะครับ
ว่าเป็นสัญญาณของอะไรบางอย่าง




สงสารต้นอ่ะ :monkeycry2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 31-01-2007 07:32:04
ต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตกันไป
 :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 31-01-2007 07:52:30
เรื่องเหมือนจะเริ่มเศร้ายังไงไม่รู้  ต้องให้น้องจอนรักษาแผลใจ  :yeb: :kikkik: :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 31-01-2007 14:49:21
ตอนที่ 19

ผมเครียดมากๆครับ นึกถึงช่วงเวลาต่างๆที่ผมกับมันผ่านด้วยกันมา

คนเคยเลิกกับแฟนคงรู้นะครับ ว่ามันรู้สึกยังไง...

ที่มึงทำไปทั้งหมดมันเพื่ออะไร ไอ้ต้น

มันเคยจะเหลียวแลมึงบ้างมั๊ย

มันเคยอยู่กับมึงเวลาที่มึงต้องการมันมั๊ย

ทำไมมันไม่เคยคิดจะเข้าใจ กูบ้างเลยวะ

ทำไม

ทำไม

ทำไม

...

ในหัวผมมีแต่คำถามนี้ตลอดเวลาครับ

จนผมเห็นเบอร์ที่โทเข้ามาหาผม

ตอนแรก ผมไม่คิดจะรับหรอกนะครับ

ความรู้สึกแรกคือ ไม่อยากจะคุยอะไรกับใครทั้งนั้น

ผมเลยปล่อยให้มันดังไปสักพัก...

ก้อยังดีกว่าไม่มีใครมาเหลียวแลมึงล่ะวะ

ผมจึงตัดสินใจรับโทรศัพท์

“ครับ” ผมพยายามทักทายด้วยคำที่สั้นที่สุด เพื่อซ่อนความรู้สึกเอาไว้

“พี่ต้น... เป็นอะไรรึเปล่าครับ” น้ำเสียงของจอน บอกเลยครับ ว่าผมปกปิดได้ไม่เนียนเลย

ทั้งๆที่ผมว่าน้ำเสียงผมปกติสุดแล้วนะครับ แต่เค้าก้อยังรับรู้ได้...

พอผมรู้สึกว่า ขนาดคนที่เขาเพิ่งรู้จักกูไม่กี่วัน ยังแคร์กูเลย แล้วทำไม...

“อ๋อ เปล่าหรอกครับ” แต่ผมร้องไห้แล้วครับ มันกลั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ

“พี่ต้น พี่เปนอะไรครับ พี่อยู่ไหนเนี่ย”

“พี่ไม่ได้เปนไรหรอกครับ ไม่เปนไรจริงๆ” ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ซึ่งก้อดีขึ้นเยอะ

“พี่ครับ มีอะไรก้อบอกจอนได้นะครับ... เอางี้พี่อยู่ไหน เดี๋ยวผมไปหา”

“ไม่ต้องมาหรอกครับ พี่ไม่ได้เปนไรจริงๆ” ผมไม่อยากให้ใครมาเหนสภาพผมตอนนี้หรอก

“ไม่เอาครับ ถ้าพี่ไม่บอก ผมจะตามหาพี่เองนะ เพราะฟังจากเสียงรอบๆแล้ว พี่ยังไม่ได้กลับบ้านใช่มั๊ยครับ”

“ครับ พี่นั่งอยู่ป้ายรถเมล์เซ็นทรัล” ผมตัดสินใจบอกจอนไป... ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะผมหรอกครับ

“งั้นเดี๋ยวผมไปหานะครับ อย่าเพิ่งกลับบ้านนะ” แล้วจอนก้อวางโทรศัพท์ไป

ผมก้อนั่งอยู่ที่เดิม ไม่คิดจะขยับไปไหนเลยครับ

ไม่ใช่เพราะจะรอจอนมาหรอกนะ

แต่มันไม่มีแรง ไม่มีใจจะทำอะไรอีกต่อไปแล้ว

ป่านนี้ ไอ้เบียร์มันจะทำอะไรอยู่วะ

มันจะเสียใจบ้างไหม

มันจะคิดถึงกูมั่งมั๊ย

หรือว่าแค่เดินกลับบ้านกับไอ้ชัย หัวเราะ เล่นกัน ไม่คิดถึงกูเลยแม้แต่นิดเดียวรึเปล่า

ผมนั่งก้มหน้า คิดอยู่คนเดียว สักพักก้อมีเสียงดังมาจากข้างหลัง

“พี่ต้น” จอนนั่นเองครับ

“อืม” ผมเงยหน้าแล้วยิ้มให้น้องเขา ผมเองก้อไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเหนนักหรอกนะครับ

“เอ้านี่” น้องเขายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผม

“ไม่เปนไร พี่มีครับ” ผมก้อหยิบผ้าของผมออกมา “นี่พี่ดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ไม่หรอกครับ พี่ไม่เปนไรนะ”

“ครับ”

แล้วผมก้อเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี

จอนเองก้อรู้ และก้อสิ่งที่จอนทำให้ผม ก้อทำให้ผมรู้สึกดีมากๆจริงครับ...

เขานั่งลงข้างๆผม แล้วไม่พูด ไม่ถามอะไรผมเลยสักคำเดียว...

เวลาบางเวลาที่เราต้องการใครสักคน แต่ไม่ใช่เพื่อรับฟัง หรือ มาเพื่อพูดให้เราฟัง

แต่เพียงแค่นี้แหละครับ แค่มานั่งอยู่ใกล้ๆเรา

ไม่ต้องมีสักคำพูดระหว่างกัน

แค่ให้รู้ว่า ผมยังมีเขาอยู่ข้างๆเสมอ

และเขาจะรอ... รอจนกว่าผมจะพร้อมและแข็งแรงพอที่จะระบายออกไป...

หรือแข็งแรงพอที่ยืขึ้นแล้วเดินข้างๆเขาอีกครั้ง

นี่แหละครับ คำว่าเพื่อน

และแม้จอนจะเพิ่งรู้จักกับผมเพียงแค่วันเดียว

แต่ตอนนี้เขาทำสิ่งที่ผมรู้สึก...ซาบซึ้งมากๆจริงๆกับผม

ผมกับจอนนั่งอยู่ด้วยกันไม่รู้นานเท่าไหร่

จนผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว และผมก้อเกรงใจน้องเขาด้วย

“จอนมานั่งกับพี่งี้ ไม่มีธุระเหรอครับ พี่เกรงใจเวลาเรานะ”

“ไม่ครับ ว่างอ่ะ พี่ล่ะ รีบกลับป่าว”

“อืม... คงไม่หรอกครับ ยังไม่ค่อยอยากกลับด้วย”

“งั้นไปดูหนังกัน ป่ะ” จอนพูดจบก้อลุกขึ้นดึงผมขึ้นมา

“แต่...”

“ไม่มีแต่ครับ ไม่รีบกลับนี่นา มากับผมเลย ไม่ต้องพูดเลย ไปเร็ว” จอนรีบชิงผมพูดก่อนที่ผมจะได้เอ่ยปากอะไรออกไป แล้วลากผมเข้าไปในห้าง

“นี่ๆ พี่เดินเองก้อได้ อายเขา” ผมบอกจอน

“ครับๆ งั้นก้อตามมาดีๆ อย่าลีลานะ ถ้าแอบเดินหนีไป ผมเคืองจริงๆด้วย” จอนหันมาพูดแล้วยิ้มให้ผม

ยิ้มนั้นมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆนะครับ...

ผมคิดว่า จะไปไหนก้อไปแล้วล่ะ ช่างมันเถอะ อย่างน้อยก้อยังดีกว่า นั่งอยู่เฉยๆรอยุงมันมากัดข้างนอก

หาอะไรทำ อาจจะทำให้ลืมๆไปบ้างก้อได้

จอนลากผมเข้าห้องน้ำล้างหน้า แล้วก้อไปซื้อตั๋วหนังครับ

เรื่องอะไรจำไม่ได้ แต่เป็นหนัง action ครับ

จำได้ที่ดูเรื่องนั้นเหราะรอบตรงพอดีด้วย แล้วจอนเขาบอกว่าอยากดูอยู่แล้ว

ระหว่างที่นั่งดูหนังกัน

ผมแทบจะไม่รู้เรื่องเลยครับ ว่าเนื้อหามันเกี่ยวกับอะไรบ้าง

ในหัวมันก้อพาลคิดแต่เรื่องไอ้เบียร์

ว่ามันทำอะไรอยู่

คิดถึงกูบ้างมั๊ย

มันเป็นยังไงบ้าง

.

.

.

“พี่ต้น” จอนกระซิบข้างหูผม ทำให้ผมตื่นจากภวังค์

“จะร้องไห้อีกแล้วนะครับ” จอนพูดพร้อมเอามือมาเช็ดน้ำตาผมออก

นี่ผมร้องไห้เหรอเนี่ย... พอรู้สึกตัวว่าน้ำตากำลังไหล ผมก้อห้ามมันไม่อยู่แล้วครับ

ยิ่งตอนที่จอนเอามือมาเช็ดน้ำตาผมออก

ยิ่งทำให้ผมนึกถึงมัน...

“ไม่เปนไรครับ ร้องไปเถอะ ในนี้ไม่มีคนเหนหรอกครับ” จอนพูด พร้อมกับจับมือผม

ไม่ใช่แค่จับมือ แต่ต้องบอกว่า จอนกำมือผมแน่นเลยครับ

ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่มือของจอนส่งผ่านมายังมือของผม

อย่างน้อย กูก้อยังมีคนที่รักและแคร์กูวะ...

แล้วน้ำตาผมก้อไหลออกมา

นานแค่ไหนผมก้อไม่รู้ครับ

พอผมตั้งตัวได้ ตั้งสติได้แล้ว

ก้อหันไปบอกจอน

“ขอบคุณครับ”

จอนมองหน้าผมแล้วยิ้ม

“ไม่เปนไรครับ”

แล้วเราก้อนั่งจับมือกันจนหนังจบ

กว่าหนังจะจบก้อ 2 ทุ่มครึ่งแล้วครับ

หนังจบ จอนก้อพาผมไปทานข้าว

กว่าจะออกมาจากห้างก้อ 3 ทุ่มพอดี

... ผมเริ่มคิดถึงมันอีกแล้วครับ

ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้น้องจอนฟัง

เพราะผมว่ามันคงไม่ค่อยแฟร์ถ้าผมไม่แชร์ความรู้สึกของผมให้น้องเขารับรู้บ้าง

ทั้งๆที่วันนี้ เขาทำเพื่อผมขนาดนั้นแล้ว...

“พี่รักพี่เบียร์มากเลยนะครับ” น้องจอนพูดขึ้นหลังจากผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

ผมก้อไม่รู้จะพูดว่ายังไงเหมือนกัน...

“พี่คุยกันก่อนเถอะครับ พี่เชื่อผมนะ... ผมไม่กล้าพูดอะไรหรอกครับ เพราะผมก้อไม่รู้จักพี่เบียร์ซะด้วย

ผมรู้แต่ว่า ทางออกที่ดีที่สุดของพี่ คือ พี่ต้องคุยกับเขาก่อนนะครับ... ไว้พี่คุยกับเขาเส็ดแล้วค่อยมาคุยกับผมอีกรอบนะ”

“พี่คงไม่มีอะไรจะพูดกับเขาแล้วล่ะครับ เขาพูดถึงขนาดนั้นแล้ว... เลิกกันแล้ว มันก้อไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วล่ะ”

“ก้อไม่แน่หรอกครับ ผมไม่เชื่อนะครับ ว่าพี่เบียร์เขาจะไม่คิดถึงความรู้สึกพี่บ้างเลยน่ะ

พี่ถามใจตัวเองดูดีๆสิครับ พี่คิดว่าแฟนพี่เปนคนแบบนั้นจริงๆเหรอครับ

ที่ผ่านมาเขาไม่เคยแคร์พี่เลยสักนิด อย่างที่พี่พูดจริงๆรึเปล่า”

คำพูดของจอนทำให้ผมเริ่มคิดได้บ้าง

หรือจะจริงอย่างที่น้องเขาว่า

เวลาที่เราโกรธใคร หรือเสียใจอะไรก้อตาม

มันก้อเอาแต่คิดถึงข้อเสีย คิดถึงแต่แง่ลบๆทั้งนั้น

“แต่ว่า...” ผมพูดยังไม่ทันจบประโยค โทรศัพท์ผมก้อดังขึ้น

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา ใจคิดว่าแม่คงโทตามแน่ๆ ทั้งๆที่โทไปบอกแล้วว่าจะกลับดึก

(no number) calling…

ผมถือโทรศัพท์ไว้ในมือ ตาก้อมองที่หน้าจอ

“รับสิครับ” ไอ้เด็กคนนี้นี่มันอ่านใจกุออกรึไงวะ

แต่ผมก้อตัดสินใจรับ และจะเผชิญหน้ากับมัน

“ฮัลโหล”

“เฮ้ย ไอ้ต้นเหรอ” เสียงไอ้ชัยครับ

อะไรวะ มันมี pct ด้วยเหรอ

“เออ มึงมีไร” ผมถามมัน พยายามเก็บน้ำเสียงสุดๆ

อยู่ที่ห้อง ผมก้อไม่ได้เกลียดมันออกนอกหน้านะครับ มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าผมไม่ชอบมัน

แต่ผมกับมันก้อคุยกันปกติ

“มึงอยู่ไหนวะเนี่ย”

“เออ อยู่ไหนก้อเรื่องของกูน่ะ มึงมีไร” เริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้วนะเว้ย

“เออๆ กูแค่จะถามว่า มึงมีเรื่องอะไรกับไอ้เบียร์รึเปล่า มันเมาชิบหายเลยเนี่ย แดกเหล้าเปนน้ำเลย แล้วก้อเมาเพ้อพูดถึงแต่ชื่อมึง กูก้อเลยโทหามึง”

อะไรนะ!?

“เหรอ แล้วมึงอยู่ไหนกัน”

“กูอยู่บ้านมันนั่นแหละ อยู่ในห้องมัน มันแอบเอาเหล้าขึ้นมากิน กูก้อกินกับมันเล่นๆ ไม่นึกว่ามันจะกินหนักขนาดนี้ ชิบหายแล้วเนี่ย ถ้าแม่มันรู้จะทำไงดีวะ”

“ไอ้เหี้ย!!” ผมด่ามัน จนน้องจอนสะดุ้ง

 “มึงคิดเหี้ยอะไรของมึงวะ ไอ้สัด! ไปนอนบ้านเค้าแล้วยังเสือก พาลูกเค้าเสียอีกนะ รู้ทั้งรู้ว่าร่างกายมันเป็นยังไง มึงก้อยังจะปล่อยให้มันกิน ไอ้สันดานเอ๊ย!”

ผมโมโหมันจริงๆครับ เปนห่วงไอ้เบียร์มากด้วย ไอ้ชัยก้อตกใจที่โดนผมด่าซะขนาดนั้น

“แล้ว มันสูบบุหรี่ด้วยรึเปล่า!” ผมนึกขึ้นมาได้

“เอ่อ เออ ก้อ ก้อสูบอ่ะ” มันทำเสียงอึกอัก

“โธ่ ไอ้เหี้ยชัยเอ๊ย! มึงเปนเพื่อนภาษาอะไรวะ กูถามมึงจริงๆเหอะ!

มึงไปบอกแม่มันเดี๋ยวนี้เลย ให้เค้ามาดูแลมันซะ เร็วๆเลยมึง! หรือมึงจะให้กูโทเข้าเบอแม่เค้าแล้วบอกเค้าเอง”

“เออ เออ กูไปบอกแม่เค้าเอง ต้น กู กูขอโทษ” เสียงมันสั่นใหญ่ เออ สมควรแล้วมึง

“มึงไม่ต้องมาขอโทษกูเลย ไปดูแลมันดีๆด้วย เข้าใจมั๊ย ถ้ามันเปนอะไรไป

ถ้ามันป่วยอีก มึงจะมองหน้าครอบครัวเค้ายังห๊ะไอ้ชัย ทำอะไรคิดหน่อยดิ่วะ ไอ้สัดนี่!” ผมด่ามันอีกที แล้วก้อวางไป

ผมโมโหมันจริงๆนะครับ โมโหจนลืมน้องจอนที่นั่งอยู่ข้างๆ

โมโหจนลืมเรื่องที่ผมกับมันเพิ่งทะเลาะกันมา

โมโหจนลืมว่า ที่มันกินเหล้าสูบบุหรี่ก้อเพราะมันเครียดเรื่องผม...

ถ้ามันเป็นอะไรไปอีก จะทำยังไง

โมโหไอ้ชัย ที่มีแต่ตามใจเพื่อน ไม่เคยดูแล ไม่เคยสนใจ

ไอ้เบียร์มันทำร้ายตัวเอง ก้อเพราะเครียดเรื่องของผม

เพราะมันเครียดเรื่องของ ผม

ถ้ามันจะเปนอะไรไปอีก...

ก้อเพราะ ใครล่ะ

คำตอบ มันไม่ใช่ไอ้ชัยเลยครับ...

ไม่ใช่เลย

แต่มันเปน

ผมเอง

...................................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-01-2007 16:00:48
ตอนนี้น้องจอนได้ใจมาก  :impress:
ในยามที่เราอ่อนแอ สิ่งที่ช่วยได้มากคือเพื่อนแท้ เพื่อนที่คอยรับฟัง คอยให้กำลังใจเรา ไม่ทอดทิ้งเรา แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้ทุกอย่าง
ยามที่ต้นและเบียร์กำลังอ่อนแอ ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเพื่อนอยู่ข้างกาย แต่สุดท้ายหนทางที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง คือการหันหน้าเข้ากัน พูดคุยกันให้เข้าใจ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 31-01-2007 21:48:20
น้อนจอนนี่น่ารักจังแฮะ  :-[

เป็นทั้งเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาและกำลังใจด้วยนะเนี่ย

คุณเบียร์นี่ก็ไม่รักษาตัวเองเล้ย...

รอคนปรับความเข้าใจกันต่อค้าบบบบ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-02-2007 17:43:32
งอนก็งอนเนอะ แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี
 :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 02-02-2007 13:07:05
ดูเหมือนว่าเบียร์ก็แคร์ ต้นมากอยู่นะ อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันรึเปล่า เบียร์ถึงพูดไปแบบนั้น คงไม่ได้อยากเลิกกันจริงๆ หรอกมั้ง  :confuse:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 02-02-2007 13:59:42
อะไรกันเนี่ย . . .  :serius2: ปากอย่างใจอย่าง ชิส์ๆ


น้องจอนน่ารักจัง :like6:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 02-02-2007 22:29:47
ง่ะๆๆ

ไม่ชอบคนชื่อ จอน อ่ะ
แต่ไม่รู้น้องคนนี้จะเป็นไงนะ

เบียร์.......เป็นไรอีกเนียะ........ :serius2: :serius2: :serius2:

มาต่อโดยไวเลยนะครับ  :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-02-2007 10:21:14
    ตอนที่ 20

    ที่มันแดกเหล้าดูดบุหรี่ ก้อเพราะมึงนะไอ้ต้น

    มึงเลยตัวต้นเหตุ!

    ไม่ต้องไปโทษไอ้ชัยเลย

    ถ้ามันป่วยเปนอะไรไปอีก ก้อเพราะมึง!

    “พี่ต้น เปนไรไปครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า” น้องจอนถามผม

    “อ๋อ เปล่าครับ นี่ จอน พี่คงต้องไปก่อนแล้วนะครับ เรากลับบ้านได้รึเปล่า”

    “ได้ดิ่ครับ แล้วพี่จะไปไหนอ่ะครับ”

    “ไปธุระนิดหน่อยน่ะครับ วันนี้พี่ขอบใจเรามากนะครับ ถ้ายังไงเดี๋ยวพี่โทหาเราอีกทีนะ กลับดีๆนะครับ”

    “ครับๆ ได้ครับพี่ ไม่เปนไรครับ เอ่อ... พี่ต้นครับ”

    “ว่าไง”

    “คือ ถ้าพี่เปนไรยังไง... พี่ยังมีผมอยู่นะครับ” น้องจอนพูดแล้วก้อหน้าหน้าแดง

    “ครับ ขอบใจมาก ไป กลับบ้านเถอะดึกแล้ว” ผมยิ้มให้แล้วเอามือจับหัวน้องเขาเขย่าเบาๆ

    (จริงๆแล้วมันสูงกว่าผมนิดนึงด้วยซ้ำ)

    “ครับ” พอน้องจอนเดินจากไป ผมก้อหันหลังกลับแล้วเดินไปเรียกแท็กซี่ทันที

    แน่นอนครับว่าต้องไปบ้านไอ้เบียร์

    รู้นะว่าดึกแล้ว รู้ว่า อาจจะตีโพยตีพายเกินไป แต่... ไม่แคร์แล้วครับ

    ระหว่างที่อยู่บนรถ ผมโทเข้า pct ไอ้เบียร์ครับ

    เปนอย่างที่คิด ไอ้ชัยรับ

    แต่ผมก้อตั้งใจโทหาไอ้ชัยนั่นแหละ

    “มันเปนไงบ้างแล้ว” ผมถามมันทันทีที่มันรับหู

    “อืม แม่มันเช็ดตัวให้อยู่ว่ะ”

    “แล้วแม่ว่าไงบ้าง”

    “เอ่ออ... ก้อ ไม่ว่าอะไรอ่ะ แม่มันไม่ได้พูดไรเลย”

    หึ ก้อแหงอ่ะไอ้เหี้ย จะให้เขาถึงกับเอ่ยปากพูดเลยมั๊ยล่ะ ช่วยรู้ตัวหน่อยนะมึง

    “แล้ว สภาพมันเปนไงมั่ง”

    “ก้อ... เหนแม่ว่ามันมีไข้ว่ะ กูก้อไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่มันก้อเมาอ่ะแล้วอ้วกไปแล้วรอบนึง” มันตอบ

    “ไอ้เหี้ยเอ๊ยยย...” ผมสบถกับตัวเอง

     “เออ กูกำลังไปบ้านมัน มึงออกมายืนรอรับกูหน้าบ้านด้วย อีก 5 นาทีถึง ขอคุยกับแม่มันหน่อยดิ๊”

    “ได้ๆ แปบนึง” มันไม่ถามอะไรผมเลยครับที่ผมบอกจะไปหาที่บ้าน แค่เอาโทรศัพท์ไปให้แม่ไอ้เบียร์เฉยๆ

    “ฮัลโหล ต้นเหรอลูก”

    “ครับ แม่ครับ มันเปนไงมั่งครับ”

    “ก้อเมาน่ะลูก... แม่นะบอกแล้วบอกอีกว่าไม่ให้กินเหล้า แล้วนี่ยิ่งสูบบุหรี่อีกด้วย เฮ้อ”

    “แล้วมันจะเปนไรรึเปล่าครับ”

    “ก้อไม่รู้สิลูก คงต้องดูอาการตอนเช้า ก้อหวังว่าเขาจะไม่เปนไร

    “คือ แม่ครับ พอดีไอ้ชัยมันโทมาบอกผมน่ะครับ ว่าเบียร์มันเมามาก แล้วพอดีผมยังไม่ได้กลับบ้านพอดี

     ผมขอเข้าไปหามันหน่อยนะครับ”

    “ตอนนี้เหรอลูก มันดึกแล้วนะ ที่บ้านไม่ว่าเหรอ”

    “ไม่เปนไรครับ ผมโทบอกแล้ว แล้วผมอยู่บนแท็กซี่ใกล้ถึงแล้วด้วยแหละครับ”

    ผมมัดมือชกและครับ ไม่อยากให้กุไป กุก้อจะไปแล้วล่ะ

    “ได้ลูก มาสิ เพราะนี่น้องเบียร์เค้าก้อเพ้อแต่ชื่อต้นเนี่ย”

    “เหรอครับ ครับ งั้นเดี๋ยวผมวางก่อนนะครับ มาถึงปากซอยแล้วครับ”

    แม่มันจะสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับมันมั๊ยเนี่ย...

    พอผมมาถึงหน้าบ้านมัน ผมก้อให้แท็กซี่จอด ไอ้ชัยก้อมายืนรอผมอยู่หน้าประตู

    ผมไม่ทักอะไรมันสักคำครับ มันก้อคงไม่กล้าทักผมเหมือนกัน

    เวลาผมโกรธแล้วจะโหดมากครับ เปนคนโมโหแรงอ่ะ เวลาโกรธไม่มีใครสักคนกล้ามายุ่งกับผม

    เพราะปกติจะเฮฮาไปเรื่อย เจอโหมดโหดทีก้อหดกันหมดอ่ะ

    แต่สุดท้ายไอ้ชัยมันก้อคงสงสัยจนอดไม่ได้มั๊ง

    “แล้ว มึงมาจากไหนวะ”

    “โรงเรียน” ผมตอบมันแค่นั้น เปนการตัดบทสนทนา

    แล้วเดินขึ้นบ้านไปเจอแม่มันพอดี

    ผมก้อไหว้แม่ แล้วก้อถามว่า มันรู้สึกตัวรึยัง

    แล้วขออนุญาตขึ้นไปหามัน แม่มันก้อให้ครับ

    พอผมไปถึงห้องมัน เห็นสภาพมันแล้ว...

    น้ำตาผมไหลออกมาเลยครับ

    ผมเลยต้องหันไปปิดประตูห้อง แล้วเดินเข้าไปหามัน

    สภาพมันดูไม่ได้เลยจริงๆครับ

    ก้อเมานี่นะ... ดีที่แม่มันเช็ดตัวให้แล้ว

    แต่หน้ามันยังมีคราบน้ำตาอยู่เลย แปลว่ามันจะเพิ่งร้องไห้อีกรอบงั้นเหรอ

    ผมเดินเข้าไปที่ข้างๆเตียงมัน แล้วนั่งลงบนพื้นห้อง จับมือมันไว้ข้างนึง

    อีกข้างก้อเช็ดน้ำตาให้มัน

    “ต้น... กูขอโทษ”

    มันละเมอออกมา มันเพ้อถึงผมจริงๆด้วย

    มันยังรักผมอยู่จริงๆ

    ผมไม่ห้ามน้ำตาแล้วครับ

    ผมปล่อยให้ตัวผมร้องไห้

    แต่คราวนี้มันไม่ใช่น้ำตาของความเศร้า มันเป็นน้ำตาของความปลื้มใจครับ

    ผมจะไม่ปล่อยให้มันไปไหนอีกแล้ว ผมจะไม่ทำให้มันเสียใจอีกแล้ว

    “เบียร์ กูขอโทษ” ถ้อยคำที่เอ่ยออกมา มันกลั่นมาจากใจของผมทุกหยดคำจริงๆ ผมรักมันมากจริงๆ

    “ต้น... ต้นเหรอ นี่มึงจริงๆรึเปล่าเนี่ย” มันตื่นแล้วครับ แล้วก้อเอามือมาลูบที่หน้าผมด้วย

    เหมือนจะสัมผัสดูว่าไม่ใช่แค่มันฝันไป

    “เออ กูเอง ไม่ใช่ผีหรอกน่า”

    “ไม่ กูฝันถึงมึงอยู่พอดี... แล้ว แล้วมึงมานี่ได้ไง” มันจะลุกขึ้น แต่ผมดันตัวมันไม่ให้มันลุก

    “มาหามึงไง มาดูแลมึงไง กูขอโทษนะเบียร์”

    “กูต่างหากที่ต้องขอโทษ กูขอโทษนะ” แล้วมันก้อดันตัวมันลุกขึ้นมาอีกรอบ

    ลุกขึ้นมาเพื่อกอดผม...

    เรากอดกันนานมากครับ

    นานจนไอ้ชัยเปิดประตูเข้ามาเห็นพอดี

    ...........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-02-2007 10:35:27
เฮ้อ เข้าใจกันซักที  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 03-02-2007 10:46:59
 :o  ชัยมาเจออ่ะ !!!!

แต่ก็ดีแล้วล่ะ จะได้รู้กันซะที  :yeb:   :-[

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-02-2007 12:03:59

โมโหตัวเองอะ ที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ช้าเกินไป

เคยเป็นเหมือนต้นและเคยรู้จักคนที่เหมือนเบียร์  จบข่าวประจำวัน   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-02-2007 12:41:31
ง่า . . . เรื่องมันเศร้า :impress3:



. . . ปลาบปลื้มครับ . . .
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 03-02-2007 14:41:07
เข้าใจกันได้แล้ว  :like2:

แต่ชัยมาเจอนี่จะเกิดอะไรขึ้น?
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 04-02-2007 01:28:33
เด๊วมาอ่านงับ

วันนี้ดึกแล้ววว

เรื่องมะกี้ยางอินอยู่เลยยยย
ฮืออออ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 04-02-2007 10:35:40
เข้าใจกันแล้ว  :like6:
แต่ก็สงสารน้องจอน  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 04-02-2007 21:04:52
ได้ใจมากค๊าบบบ
อินมาก เอิ้กๆๆๆ

จะเปนไงต่อไปอ่ะคับ

เข้าใจกันดีแล้วววว


น้องจอนล่ะ...จะเปนไง
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-02-2007 17:03:37
   ตอนที่ 21

    ผมกับไอ้เบียร์ผละออกจากกันโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด

    แต่คงช้าไปครับ ไอ้ชัยเข้ามาเห็นพอดี

    “มึง... ทำอะไรกันอยู่” มันถามหลังจากที่ทั้งห้องเงียบไปพักนึง

    ผมกับไอ้เบียร์มองหน้ากัน โดยที่ไอ้เบียร์ล้มตัวลงไปนอนเหมือนเดิมแล้ว

    “มึงเรียกแม่กูมาดิ๊ ไอ้ชัย” ไอ้เบียร์บอกไอ้ชัยที่กำลังยืนอยู่ที่ประตูห้อง

    พอไอ้ชัยไปตามแม่ไอ้เบียร์มา มันก้อบอกแม่มันให้ผมค้างที่นี่กับมันครับ

    “แม่ โทบอกแม่ไอ้ต้นให้หน่อยได้มั๊ยครับ ให้มันนอนที่นี่กับเบียร์นะ” มันขอแม่มัน

    ผมก้อตกใจเหมือนกัน

    “เฮ้ย ไม่เปนไรหรอก เดี๋ยวกูกลับดีกว่า ไม่อยากกวนอ่ะ... แม่ครับ ไม่เปนไรครับ เดี๋ยวผมกลับก้อได้ เกรงใจครับ”

    “ไม่เปนไรหรอกลูก นอนที่นี่เถอะ ดึกแล้วด้วยจริงๆแหละ เดี๋ยวแม่โทไปบอกที่บ้านเองนะ ไม่ต้องห่วง

     ชัยก้อนอนอยู่แล้วด้วย เบียร์จะได้มีคนคอยดูแลเพิ่มขึ้นอีกคนนึงไง”

    ก้อนั่นสิ ไอ้ชัยมันก้อนอนอยู่แล้ว... นี่ไอ้เบียร์คิดไรของมันวะ

    “แต่ผมไม่มีของเลยนะครับ”

    “ไม่เปนไรหรอกน่า ใช้ของกูก้อได้ พรุ่งนี้ก้อวันเสาร์ ไม่เหนเปนไรเลย”

    “แต่ว่า...”

    “ไม่เปนไรลูก นอนเถอะ เดี๋ยวแม่โทไปที่บ้านให้เองนะ”

    “ครับ งั้นก้อขอบคุณมากครับ”

    แล้วแม่มันก้อเดินออกจากห้องไป

    “ไอ้ชัย มึงปิดประตูดิ๊” ไอ้เบียร์บอก... ไม่สิต้องใช้คำว่า สั่ง ครับ

    ไอ้ชัยหลังจากที่ยืนนิ่งอยู่นานก้อขยับตัว

    “ไอ้ชัย มึงยังจะนอนที่นี่กับกูรึเปล่า”

    เฮ้ย ทำไมมันถามอย่างนั้นวะ

    “เฮ้ย ทำไมมึงถามงั้นอ่ะ แล้วมันจะไปนอนไหน ทำไมมึง...”

    “มึงเงียบก่อนต้น ไอ้ชัย... กูกับต้นเปนแฟนกัน อย่างที่มึงเหนนั่นแหละ”

    ผมก้อนั่งใบ้แดกอยู่ข้างๆไอ้เบียร์มันนั่นแหละครับ ไม่นึกว่ามันจะพูดออกมาตรงๆ แต่ว่า...

    “เฮ้ย เบียร์ กูก้อไม่เหนว่ามันจะเกี่ยวเลย มึงพูดเหมือนจะให้มันไปนอนที่อื่นอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย”

    “ไม่เปนไรต้น กูเข้าใจ เดี๋ยวกูไปนอนบ้านไอ้บาสก้อได้” ไอ้ชัยตอบ

    “เฮ้ย มึงจะบ้าเหรอ มันดึกแล้วนะเว้ย”

    “ไม่ดึกหรอก เพิ่งจะ 4 ทุ่มกว่าๆ มึงโทบอกให้ไอ้บาสมารับมึงซะไอ้ชัย”

    “อืม งั้นกูไปโทรศัพท์ก่อนนะ” แล้วไอ้ชัยก้อเดินออกจากห้องไป

    โอ๊ยย นี่มันอะไรกันวะ กูงง มากๆ

    “ทำไมมึงต้องไล่มันด้วยวะไอ้เบียร์ กูไม่เข้าใจ”

    “กูไม่ได้ไล่มัน มันสมัครใจไปเอง” มันนอนหลับตา ตอบผม... คงจะปวดหัวล่ะสิ

    “ไม่ไล่ห่าอะไร คำพูดมึงอ่ะ…” ผมยังมาทันพูดจบประโยค ไอ้ชัยก้อเดินเข้ามา

    “เออ กูโทไปแล้ว เดี๋ยวมันมารับกูที่ปากซอย งั้นกูไปก่อนนะ”

    “อืม โชคดีเว้ย” ไอ้เบียร์บอก

    “เฮ้ยชัย…” ผมเรียกมัน ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มันก้อบอกผมว่า

    “ไม่เปนไรๆ ไม่ต้องคิดมากไอ้ต้น แล้ววันเนี๊ย กุขอโทษนะ” แล้วมันก้อเดินไป

    “เฮ้ย ไอ้ชัยกูไปส่ง”

    “ไม่ต้อง ต้นมึงอยู่กับกูเนี่ยแหละ กูปวดหัว อยู่เปนเพื่อนกู ไอ้ชัย มึงไปบอกพี่เอว่ามึงจะกลับแล้ว เดี๋ยวเขาไปส่งมึงเอง” พี่เอคือคนใช้ในบ้านไอ้เบียร์ครับ

    “อืม ได้ งั้นกูไปและนะ บายเว้ย โชคดีพวกมึง”


    หลังจากที่ไอ้ชัยไปได้สักพัก ผมก้อหันมาหาไอ้เบียร์ตั้งท่าจะถามมันว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่

    “เดี๋ยวกูอธิบายให้ฟังนะ แต่กูปวดหัวอ่ะต้น” ดักคอกูทันทีเลยนะ เฮ้ออ เอาเหอะ

    “อยากได้อะไรมั๊ย เดี๋ยวกูไปหยิบมาให้” ผมถามมัน

    “อยากได้มึงมาอยู่ข้างๆกูอย่างนี้ตลอดไปอ่ะ ได้ป่ะ” ดูมันตอบ

    “ไอ้บ้า หายเมาก้อเอาเชียวนะมึง” จริงๆแล้วก้อดีใจมากๆเลยล่ะครับ กับคำพูดของมันน่ะ

    เลยเอามือตบหน้าผากมันไปทีนึง แต่ว่า...

    “เฮ้ย ไอ้เบียร์ตัวมึงร้อนจี๋เลย!” ตัวมันร้อนมากเลยครับ

    “เดี๋ยวกูไปตามแม่มึงมานะ”

    “เดี๋ยว!” ไอ้เบียร์เรียกห้ามผมพร้อมกับดึงมือผมไว้ “ให้กูอธิบายให้มึงฟังก่อน”

    “ไม่ต้องแล้ว ตัวมึงร้อนนะ ร้อนมากด้วย นอนพักเถอะ เดี๋ยวกูไปตามแม่มึงมาให้”

    “ไม่เอา ฟังกูก่อน” มันพูดไปหอบไป ผมเลยจำใจต้องนั่งลงข้างๆมัน ฟังมันพูดก่อน

    ไม่งั้นไม่ได้ไปตามแม่มันสักทีแน่

    “มึงอย่าว่ากูนะ ที่กูไล่ไอ้ชัยไปน่ะ” ผมพยักหน้ารับ “แล้วกูขอโทษนะ ที่ทำตัวไม่ดีอีกแล้ว มึงยกโทษให้กูนะ”

    “อืม กูไม่ว่าอะไรมึงแล้วเบียร์” ผมพูดหร้อมกับเอามือจับหน้าผากมัน แล้วต้องตกใจเลยครับ

    ตัวมันร้อนขึ้นอีกมาก แถมหน้ามันก้อแดงมากด้วย (ก่อนหน้านี้หน้าซีดมาก เหมือนคนเพิ่งอ้วกมา)

    มันพูดไปก้อหอบไป

    “กูจะบอกความจริงกับมึงมานานแล้ว แต่กูกลัวมึงโกรธ” มันพูดแล้วก้อหยุดพักหายใจสักพัก... มันไม่ไหวแล้วนะครับเนี่ย!

    “ไอ้ชัย มันบอกกับกูมาสักพักแล้วว่า มันชอบกู”

    เฮ้ย

    “มันบอกว่า มันชอบกู แต่ก้อสงสัยกูด้วยเหมือนกัน ว่ากูกับมึงเปนอะไรกันอยู่รึเปล่า

    แต่ตอนนั้น กูไม่กล้าบอกความจริงกับมัน กูกลัวมึงจะว่าด้วย กูก้อปฏิเสธมันไป แล้วเมื่อสามวันก่อนคุยกันว่า มันจะขอมานอนบ้านกู

    มันบอกไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรหรอก แค่อยากพิสูจน์ว่ากูกับมึงไม่ได้เปนอะไรกันแน่รึเปล่า เลยห้ามกูบอกมึง ว่ามันจะมานอน มันจะดูท่าทีมึงด้วย...”

    ผมถึงกับอึ้งครับ... ไม่รู้จะอึ้งตั้งแต่ตรงไหนดี

    “...แต่กูไม่นึกว่า มึงจะเครียดขนาดนี้ กูขอโทษนะต้น กูตั้งใจจะบอกมึงจริงๆ

     แต่กูไม่รู้จะบอกมึงยังไงตอนไหนดี กูตั้งใจจะบอกมึงหลังจากกูกลับถึงบ้านแล้ว

    แต่กูนึกไม่ถึงว่าไอ้ชัยมันจะไปบอกคนอื่นด้วยว่ามันจะมานอนนี่ เรื่องมันก้อเลยรั่วไปถึงมึงก่อนที่กูจะได้บอกมึง กูขอโทษจริงๆนะต้น”

    อึ้งอีกแล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย...

    ทั้งหมดนี่ไอ้ชัยมัน...

    “แล้ว แล้วมึงรู้ได้ไง ทั้งหมดนี่อ่ะ” ผมถามมัน

    “ก้อตอนกินเหล้า กูก้อเมา ไอ้ชัยมันก้อคงกึ่มๆ มันก้อเลยพูดออกมาหมดเลย กูก้อโมโหมันนะ

     แต่กูเสียใจมึงมากกว่า... กูยอมรับว่าตอนแรกกูจะประชดมึงเหมือนกัน เพราะกูเสียใจที่มึงพูดว่า จะไปทำอะไรกับไอ้ชัยก้อทำ

     แต่กูไม่เคยคิดอะไรกับมันแม้แต่นิดเดียวเลยนะ กูสาบาน...”

    “ไม่เปนไรเบียร์ ไม่ต้องแล้ว กูขอโทษนะ ที่พูดไปแบบนั้น กูไปตามแม่มึงดีกว่านะ มึงไม่ไหวแล้วล่ะ”

    “เดี๋ยวก่อนต้น... กูโมโหมันมากก้อจริง แต่กูเสียใจมากกว่า ที่กูทะเลาะกับมึง ที่กูทำให้มึงเสียใจ กูเลยไม่สนใจไอ้ชัย นั่งกินเหล้าต่อจนเปนแบบนี้...

     แล้วตอนนี้มันก้อรู้ความจริงแล้ว ไอ้ที่มันทำกับกูกับมึงไว้ กูไม่อยากให้มึงต้องคิดมากเรื่องมันอีก เลยให้มันไปนอนกับไอ้บาสไง มึงเข้าใจกูนะ...”

    “กูเข้าใจๆ กูขอบใจมึงมากนะเบียร์ อย่าคิดมากนะ พักผ่อนก่อนนะ กูไปตามแม่มึงมานะ”

    “อืมม...”

    แล้วผมก้อออกไปตามแม่มันเข้ามาครับ

    พอผมกับแม่มันกลับเข้ามา ไอ้เบียร์มันก้อหลับไปแล้วครับ

    แต่ตัวร้อนมาก ผมเช็ดตัวให้มันอีกรอบ (แม่มันไปโทหาหมอ) ไข้ก้อยังไม่ลด

    สุดท้ายคืนนั้น พ่อกับแม่มัน ต้องรีบหามมันส่งเข้าโรงพยาบาลทันที

................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 05-02-2007 17:14:47
แหะๆ เรื่องนี้ผมเขียนไว้กี่ตอนหว่า  :confuse:
ลืมเองซะงั้น  :try2:
ผ่านมานาน ชักลืม  :impress:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 05-02-2007 17:39:38
สงสารชัยเนอะ ฮือออ


เส้าอ่ะคับ

อยากร้องไห้....ฮือออ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 05-02-2007 18:19:50
เข้าใจกันแล้ว คริ คริ  :laugh:

แล้วน้องจอนจะเป็นยังไงต่อไป ต้องติดตาม  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 05-02-2007 19:13:15
แอบตามมาอ่านแบบเงียบๆ อีกเรื่องแระ  :-[

แล้วมาต่ออีกนะค่ะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-02-2007 20:04:45
อิอิ เข้าใจกันแล้ว   :yeb:  :yeb:
แหมตาชัยนี่แผนสูงจิง ๆ  :kikkik: แต่ก็ไม่อาจเอาชนะความรักครั้งนี้ได้ (เอ่อ สำนวนเน่าไปปะ)  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-02-2007 13:08:46
ตอนที่ 22

คนที่เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากถึง 90% จะเสียชีวิต (แม่ไอ้เบียร์บอกมา)

ซึ่งส่วนมากแล้ว ไม่ได้เสียชีวิตเพราะตัวอาการของโรคโดยตรงหรอกครับ

แต่เปนเพราะอาการแทรกซ้อนต่างหาก

เพราะอย่างนี้ การรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงจำเป็นต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อตลอดเวลา

และหลังไอ้เบียร์มันกลับมาที่บ้าน ก้อต้องหมกอยู่แต่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้

จนกว่าภูมิคุ้มกันร่างชัยจะแข็งแรงพอ

ทั้งนี้ รวมถึงอาการป่วยเล็กๆน้อยๆของพวกเราเช่น การเป็นไข้ ปวดหัว มีน้ำมูก

หรือ แค่เจ็บคอ ก้อไม่ควรจะเกิดขึ้นกับมันเด็ดขาด

แม่ของไอ้เบียร์เคยบอกไว้ครับ ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่เบียร์มีไข้สูงขึ้นมาแค่ 1 องศา

ก้อเปนเรื่องใหญ่กันไปทั้งบ้านแล้ว

แต่คืนนี้...

พอวัดไข้ดู มันมีไข้สูงถึง 40 องศา!

แม่มันบอกว่า ไม่น่าจะเกิดจากแค่การที่มันดื่มเหล้าอย่างเดียว น่าจะมีอะไรอย่างอื่นด้วย

ซึ่งผมก้อไม่รู้จริงๆว่ามันคืออะไร ไอ้ผมจะบอกว่า บุหรี่ เกี่ยวด้วยรึเปล่า

ผมก้อไม่กล้าพูด เพราะว่า แม่ของไอ้เบียร์ก้อสูบบุหรี่ครับ ทำให้ผมรู้สึกเสียมารยาทแน่ๆ ถ้าจะพูด

เพราะอย่างนี้ ไอ้เบียร์ถึงไม่กลัวที่จะสูบบุหรี่แบบให้แม่รู้

ก้อแม่มันเองก้อสูบนี่ครับ จะห้ามลูกไม่ให้สูบก้อไม่ได้...

คืนนั้น กลายเปน แม่ และพ่อของไอ้เบียร์รวมทั้งผม ต้องหามมันไปโรงพยาบาลทันที

(พี่มันไปต่างจังหวัดครับ ไม่งั้นต้องวุ่นวายกว่านี้แน่ แล้วไอ้ชัยต้องตายแน่ เพราะพี่มันเอาเรื่อง)

เราพาไอ้เบียร์ไปที่ โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านมันมากที่สุด

หมอก้อจับมันฉีดยา แล้วก้อให้นอนดูอาการหนึ่งคืนครับ

ก้อแหงล่ะ…

กว่าหมอจะตรวจเส็ด กว่าทุกคนจะสงบลงได้ก้อปาไป เกือบเที่ยงคืนแล้ว

ผมยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลย

“เอางี้มั๊ย ต้น พ่อไปส่งต้นที่บ้านดีกว่ามั๊ย เพราะนี่มันก้อดึกมากแล้ว แถมเจ้าของบ้านก้อดันมานอนป่วยอยู่แบบนี้”

พ่อไอ้เบียร์เสนอครับ ก้อนั่นสิแล้วผมจะไปนอนไหนล่ะ เว้นแต่...

“ครับ... ก้อได้ครับ แต่บ้านผมอยู่ไกลนะครับ” ผมเกรงใจจริงๆนะครับ เพราะไม่อยากจะรบกวนท่านทั้งคู่มากไปกว่านี้จริงๆ

แค่นี้ผมก้อเปนตัวการทำให้ลูกของเค้าแย่มากเกินพอแล้วครับ

“แต่ผมว่าผมนั่งแท็กซี่กลับเองก้อได้ครับ รถไม่ติดหรอกครับ แปบเดียวก้อคงถึง ผมเกรงใจครับ พ่อกับแม่อยู่เฝ้ามันดีกว่าครับ”

“ไม่เปนไรหรอก ที่นี่เดี๋ยวให้แม่เขาเฝ้าไป เพราะรถคงไม่ติดไง เดี๋ยวพ่อไปส่ง พ่อรู้ว่าบ้านเราอยู่แถวไหน เบียร์เค้าเคยบอกพ่อแล้ว

ไอ้ลูกชายพ่อเปนคนชวนเรามานอน พ่อก้อต้องรับผิดชอบสิใช่มั๊ย ป่ะ ไปกันเร็ว”

“อ่า ครับ ถ้าอย่างนั้น ผมก้อขอรบกวนด้วยนะครับ”

“ดีแล้วต้น ให้พ่อเขาไปส่ง แม่จะได้ไม่ห่วงด้วย พ่อก้อขับรถดีๆล่ะ”

“ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ” ผมไหว้แม่มันแล้วก้อเดินออกจากห้องมากับพ่อมัน

ก่อนออกจากห้อง ผมก้อหันไปมองหน้ามันทีนึง สงสารมันจับใจจริงๆครับ

มึงต้องนอนโรงพยาบาลเพราะกูอีกแล้ว

.

.

.

พอผมกับพ่อไอ้เบียร์เดินมากำลังจะถึงที่รถ โทรศัพท์ของพ่อก้อดังขึ้นมา

ผมเอง ก้อทิ้งกระเป๋าไว้ที่บ้านมันด้วยดิ่ สงสัยคงต้องฝากแม่มันไว้ก่อน แล้วค่อยมาเอาคืนคราวหลังซะแล้ว

ผมนึกถึงบาสขึ้นมา... ผมต้องโทบอกเขามั๊ยเนี่ย เพราะผมก้อสนิทกับเขาพอสมควร

หรือว่าแม่ไอ้เบียร์คงโทไปเองเหมือนทุกครั้งล่ะมั๊ง

แต่ว่า... มีน้ำใจโทไปบอกก้อไม่เสียหายนี่นา

ผมเลยตัดสินใจโทไปบอกเขา เขาก้อขอบใจที่ผมโทมาบอก

แล้วเดี๋ยวเขาจะโทถามอาการของมันที่แม่มันอีกทีพรุ่งนี้เอง

เฮ้อ... หน้าที่ผมก้อหมดแล้วล่ะ

“ต้น กลับขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า” พ่อไอ้เบียร์บอกผม

“อ้าว ทำไมล่ะครับ” ผมถามระหว่างที่กำลังเดินกลับ

“สงัสยต้นคงไม่ได้กลับบ้านแล้วล่ะลูก” พ่อไอ้เบียร์พูดแล้วก้อยิ้มๆ

อะไรวะ…

พอขึ้นไปถึงที่ห้อง ก้อเหนว่าไอ้เบียร์มันตื่นแล้วครับ

“ต้น อยู่เปนเพื่อนเบียร์หน่อยนะลูก” แม่มันพูดกับผม

“อ้าว แล้วพ่อกับแม่จะไปไหนเหรอครับ” ผมถาม

“ก้อเดี๋ยวแม่กับพ่อกลับไปเอาของใช้มาให้น่ะ ฝากดูแลเขาหน่อยนะลูก แม่รบกวนหน่อยนะ” แม่มันพูดจบก้อเดินออกไปจากห้องพร้อมพ่อของมัน

กุก้องงดิ่ครับ อะไรวะเนี่ย

“กูบอกแม่ให้มึงมานอนนี่เปนเพื่อนกูเองแหละ” ไอ้เบียร์บอก

“อ้าว แล้วแม่มึงไม่ว่าอะไรเหรอ”

“ตอนแรกก้อบอกว่าจะไม่ให้แหละ เขากลัวกูจะเปนอะไรมากลงไปแล้วเขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆกู”

“อ้าว ก้องั้นแล้วทำไม...”

“ก้อกูบอกว่า ถ้ามึงกลับไปตอนนี้ มึงต้องโดนแม่มึงฆ่าแน่ๆไง แล้วก้อกูบอกว่า มีอะไรมึงก้อโทหาแม่กูได้อยู่แล้ว ไม่ต้องเปนห่วง

แล้วกูก้อพูดนู่นพูดนี่อีกหน่อย แม่เขาก้อยอม... ก้อเคยบอกแล้วไง กล้าขัดใจกูที่ไหนล่ะ” มันพูดยิ้มๆ แต่ผมไม่ยิ้มไปกับมันหรอกนะครับ

“งี้ แม่มึงเขาจะไม่ว่าอะไรกูเหรอวะ เหมือนกูมาทำหน้าที่แทนเขาน่ะ” ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยครับ ที่เหมือนไอ้เบียร์มันเลือกผมมากกว่าแม่มัน

ถ้าผมเปนแม่มันผมคงน้อยใจนะเนี่ย

“ไม่เลย แม่กูเขารักมึงจะตายไป เขาไว้ใจให้มึงอยู่ดูแลกูต่างหาก มึงคิดแบบนี้ดิ่”

“อืม ก้อได้” ผมยอมรับในที่สุด “ว่าแต่... กูควรจะโทบอกไอ้ชัยมั๊ยเนี่ย เบียร์”

“แล้วแต่มึงแล้วกัน... มึงเคืองมันมั๊ยล่ะ”

เคืองมั๊ยเหรอ... ผมก้อไม่รู้เหมือนกันแฮะ

“ไม่นะ คนอย่างมันอ่ะ มีสมองไม่ค่อยได้ใช้คิดหรอก ใช่คั่นระหว่างหูมากกว่าว่ะ กูไม่ค่อยอยากคิดมาก”

ไม่ได้ประชดนะครับ ผมพูดจริงๆนะเนี่ย

“หึหึหึ เอาเหอะ ยังไงตอนนี้ มึงก้ออยู่ข้างๆกูแล้ว...” ไอ้เบียร์พูดแล้วหยุดไป

ผมก้อมองหน้ามัน รอให้มันพูดต่อ

“เอ่อ... กูรักมึงว่ะต้น” แล้วมันก้อหน้าแดงงงง

“5555 หน้าแดงเพราะไข้หรือเพราะเขินวะ ไอ้อ้วน” ผมแซวมัน

“เพราะไข้ดิ่ ไอ้บ้า” มันตอบหน้าแดง

ผมก้อนั่งลงข้างๆเตียงคนไข้ แล้วจับหน้าผากมัน ลูบหัวมันเล่น

ปกติมันไม่ให้ใครเล่นหัวเลยนะครับ มีผมจับได้อยู่คนเดียว จริงๆถ้าเพื่อนที่ห้องสังเกตก้อคงดูออกอ่ะ

“คราวหลัง อย่าทำแบบนี้อีก รู้มั๊ย” ผมบอกมัน

“อืมม กุไม่ทำแล้ว บุหรี่กูก้อจะเลิกสูบ กุสัญญา”

“ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องสัญญาหรอก กุไม่ชอบคำสัญญา ถ้าผิดขึ้นมามันไม่ดี...”

“มึงไม่เชื่อใจกุเหรอต้น”

“อืม ไม่เชื่อ” ผมตอบหน้าตาเฉย

“อะไรวะ” มันพูดแล้วก้อหันหน้าไปทางอื่น มีมางอนนะ

“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น กุหมายถึงอนาคตมันจะเปนยังไงก้อไม่รู้ ตราบเท่าที่กุอยู่กับมึง มึงอาจจะทำได้

แต่เมื่อไหร่ที่กุไม่ได้อยู่ข้างๆมึงตลอดแบบนี้... กุก้อกลัวมึงจะได้ชื่อว่า เปนคนผิดสัญญาไง มึงเข้าใจกุมั๊ย...

กุขอแค่มึงพูดว่า มึงจะทำให้ดีที่สุด ก้อพอแล้วสำหรับกู แค่มึงพูดว่ามึงจะเลิก กูก้อดีใจมากแล้วน่า”

ผมพูดจบก้อดึงหน้ามันมาแล้วจูบที่หน้าผากมันไปทีนึง

มันยิ้มแล้วก้อพูดคำที่ร้อนแรงที่สุด เร่าร้อนที่สุดที่ผมเคยได้ยินออกมาว่า...

“เดี๋ยวก้อปากพองหรอก”

.

.

.

เร่าร้อนรองจากคำที่มันเคยพูดกับผมแค่ 2 คำ คือคำว่า “เผ็ด” กับคำว่า “ร้อน”

..........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 06-02-2007 15:01:30
อืมครับ เป็นคำที่เร้าร้อนมากเลยครับ

จิ้นตามได้เป็นช็อตๆเลย :pigangry2:

 . . . มีบอกรักกันด้วยอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 06-02-2007 16:53:37
มาต่อไวๆ นะงับ


รออ่านนะ งับ


อยากรู้ว่าสุดท้ายจะเปนไงอ่ะ
เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 06-02-2007 16:55:05
มาต่อไวๆ นะงับ


รออ่านนะ งับ
 :like2: :like2: :like2:


อยากรู้ว่าสุดท้ายจะเปนไงอ่ะ
เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-02-2007 20:48:54
ร้อนจริง ๆ ร้อนจนพองเลย  :laugh:  :laugh:  :laugh:
รออ่านต่อไป  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-02-2007 09:02:58


รักกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :like2:

ชอบให้คนรักกัน
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-02-2007 09:14:29

ตอนที่ 23
   

สรุปเมื่อคืนผมก้อนอนที่โรงพยาบาลเปนเพื่อนมันครับ

แม่กับพ่อมันกลับมารับผมกับไอ้เบียร์ออกจากโรงบาลอีกทีตอนเที่ยงๆ

แล้วทั้งคู่ก้อใจดีพากันขับรถมาส่งผมที่บ้านด้วยครับ

แม่ผมกับแม่มันก้อเลยได้คุยกันด้วย ผมก้อเลยรอดจากการโดนแม่สวดไปได้หวุดหวิด

พอถึงบ้านผมนึกถึงน้องจอนขึ้นมาได้ เลยตัดสินใจโทหาน้องเขาแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง

น้องเขาก้อบอกว่าดีใจกับผมด้วย (แหมไรวะ ไม่มีกะงาบกุมั่งเลยเหรอเนี่ย แย่จัง)

แล้วผมก้อโทบอกไอ้ชัย แต่ก้อไม่ได้ว่าหรือด่าอะไรมันหรอกนะครับ

จริงๆไม่ได้พูดอะไรเลยมากกว่า บอกไปแค่ว่า เมื่อคืนไอ้เบียร์นอนโรงบาล แค่นั้น

ส่วนไอ้เบียร์ก้อต้องพักผ่อนอยู่บ้าน 1 วันครึ่งเต็มๆ

ยังดีที่มันเปนแค่ไข้ ต่อมน้ำเหลืองไม่ได้โตไปด้วย

ไอ้ต่อมห่านี่ก้อชอบโตเวลามันสูบบุหรี่ (ไม่แน่ใจนะครับ ว่าต่อมนี้รึเปล่า ลืมไปแล้ว แต่น่าจะใช่แหละ)

วันจันทร์ และวันหลังจากนั้นผมกับมันก้อยังเหมือนเดิม

แต่ทะเลาะกันน้อยลง เพราะผมไม่ต้องห่วงมันเรื่องบุหรี่อีกแล้ว

มันรักษาสัญญาครับ

แต่พอผมแซวมัน มันก้อชอบพูดว่า มันทำเพื่อสุขภาพของมันเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะผม

เออ ก้อได้วะ…

แค่มันดูแลตัวเองก้อพอแล้ว จริงมั๊ยครับ

ไอ้ชัย พอรู้เรื่องของผมกับไอ้เบียร์แล้ว ก้อห่างๆไอ้เบียร์ออกไป

ก้อยังเปนเพื่อนกันเหมือนเดิมนะครับ เพียงแต่ดูเหมือนจะเกรงใจผมมากขึ้น

ส่วนไอ้คืนนั้น มันก้อไปนอนอกหักที่บ้านไอ้บาสครับ 5555

ไอ้บาสก้องงๆว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก้อไม่ได้เซ้าซี้อะไรผมมาก

มันบอกว่ามันถามไอ้ชัย ไอ้ชัยก้อพูดแค่ว่า มันชวนไอ้เบียร์แดกเหล้าแล้ว รู้สึกไม่ดีที่จะมาอาศัยนอนบ้านเขาแล้วยังพาลูกเขาเสีย

มันก้อเลยมานอนกับไอ้บาสแทน

ก้อดีแล้ว...

สำหรับน้องจอนนะครับ เราก้อเปนพี่น้องกันครับ น้องเขาก้อกำลังจีบผู้หญิงอยู่คนนึงเหมือนกัน

ท่าทางเขาจะชอบมันอยู่เหมือนกันด้วยดิ่ น่าจะสมหวังได้ด้วยดี

ก้อคุยกัน 2-3 วันครั้ง บางทีก้ออาทิตย์ละหน

นานๆน้องมันก้อจะมาบ่น(?) มาพูดถึงผู้ชายน่ารักๆให้ผมฟังมั่ง

ให้เด็กมันได้ระบายมั่งอ่ะครับ ก้อดี ผมพูดอะไรไป มันก้อเชื่อฟังดี น่ารักดีครับ

เปนน้องชายที่แสนดี

สำหรับเรื่องผู้หญิงของไอ้เบียร์ (นัท)

มันก้อกลายเปนแค่เพื่อนธรรมดาไป เพื่อนไม่ค่อยสนิทด้วยครับ

แบบว่า เหมือนมันเข้าหน้าเขาไม่ค่อยติดครับ ไม่ใช่ว่าเขินรึไม่พอใจนะ

แต่มันไม่อยากเองแหละ มันเคยคุยเคยไปส่งบ่อย

อยู่ดีๆก้อไม่คุยแม่งซะดื้อๆ

เขาก้องงๆนิดนึงนะครับ บาสเขาเคยบอกผมเหมือนกันว่าทำไมเบียร์ถึงเปลี่ยนไป

ผมก้อเคยบอกมัน ว่าอย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ดี

ถามผม ผมไม่ค่อยชอบใจหรอกนะครับ มันเหมือนเสียเพื่อนไปคนนึงอ่ะ

แต่มันก้อบอกว่า อย่างนี้ดีแล้ว

จะให้สนิทมากกว่านี้มันก้อทำไม่ได้ เพราะมันดูจะไม่สนิทใจ

ผมกับมันก้อยังคบกันต่อมาแบบนี้เรื่อยไป ไม่ค่อยมีอะไรให้หวือหวา หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากหรอกครับ

(แต่ไอ้เรื่องทะเลาะกันน่ะ... มีอยู่แล้ว 555 ลิ้นกับฟัน)

และแล้วก้อมาถึง วันกีฬาสีของโรงเรียน...

ช่วงก่อนวันกีฬาสี ทั้งโรงเรียนก้อมีกิจกรรมต่างๆนอกเหนือจากการเรียนมากขึ้นใช่มั๊ยล่ะครับ

ส่วนห้องผมได้รับหน้าที่ให้จัดการแสตนด์ ทั้งดูแลตกแต่งความสวยงาม แล้วก้อทำคัตเอ๊าท์ (ไอ้ป้ายใหญ่ๆที่ตั้งอยู่ข้างหลังแสตนด์อ่ะครับ)

รวมทั้งทำ บั๊งเกอร์ด้วย (ส่วนที่ตั้งเป็นแถวยาวอยู่ข้างหน้าแสตนด์ ไว้บังพวกสต๊าฟ เวลาแข่งซ้อมเชียร์ไม่ให้อาจารย์เห็น)

ทั้งหมดนี้ พวกผมก้อนัดกันไปทำที่บ้าน ไอ้ต่ายครับ เพราะบ้านมันใกล้ รร

(จริงๆแล้วก้อใกล้กันแทบทุกคนอ่ะ)

แล้วก้อบ้านมันมีเนื้อที่ของสวนค่อนข้างมากครับ ทำให้จุคนได้เยอะ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆด้วย

แล้วเราก้อแบ่งหน้าที่กันไปทำงาน

(อ้อ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมบอกไป... คนที่ไอ้บาสชอบก้อคือไอ้ต่ายนี่แหละครับ)

ผมอ่ะ รับทั้ง สอง งานเลย

ไม่ใช่เพราะเก่งนะครับ แต่ฝีมือมันเสือกมีอยู่แค่ครึ่งๆกลางๆ เลยโดนแม่งยัดเยียดให้เหมา ให้กุไปช่วยทั้งสองอัน

แล้วอีกอย่างก้อคือคอยทำหน้าที่ประสานงานของเพื่อนๆด้วย

เพราะคนเก่งศิลปะห้องผมดันมีตั้ง 4 คน แล้วแม่งก้อคนละขั้วเลย

ลำบากกุต้องค่อยเอาน้ำมาราด เอ๊ยมาลูบพวกมึงอีกนะ

แล้วที่งานมันเยอะนักเพราะสีผมตอนนั้นมันเสือกทะเลาะกัน ภาระหลายอย่างเลยมาตกอยู่ที่ห้องของผมหมดเลยอ้ะ

แต่ก้อดีครับ สนุกดี เพราะปีสุดท้ายแล้ว

พอมอหกพวกผมก้อจะได้แต่นั่งดูเฉยๆและครับ หมดหน้าที่ เพราะพี่ใหญ่จะไม่ได้รับภาระอะไรในงานเลย

คราวนี้จะกลายเปนเรื่องราวของไอ้บาสกับต่ายมั่งแล้วล่ะนะครับ

คือเรื่องของเรื่องเนี่ย... ถ้าจะเปรียบเทียบไอ้ต่ายมันก้อคล้ายๆลูกสาวกำนันของละครช่อง 7 แหละครับ

นางเอก แต่ปากร้าย พูดไม่ตรงกับใจ ออกลุยๆหน่อย ประมาณนั้น

ไอ้บาสน่ะ มันอยู่ห้องเดียวกับต่ายมาตั้งแต่ มอ2 แล้ว แล้วก้อชอบไอ้ต่ายมาตั้งกะมอ 3

ไอ้ต่ายเองก้อมีใจเหอะ แต่ปากแข็งเล่นแง่ ชอบหาเรื่องทะเลาะกับไอ้บาสอยู่เรื่อย

ผมก้อรับหน้าที่เปนที่ปรึกษาให้ไอ้บาสไป

แต่ไอ้บาสมันไม่ได้ปรึกษาแค่ผมคนเดียวอยู่แล้ว...

นอกจากนี้ก้อยังมี ไอ้เบียร์ ไอ้ชัย แล้วก้อ เพื่อนผู้หญิงอีกคนนึง ชื่อว่า แก้ว

แน่นอนครับ คงพอจะเดากันได้ ว่าไอ้ต่ายโดนนังแก้วคาบไปแดกหลังจากกีฬาสีจบแค่แปบเดียว

อย่าให้สาธยายเรื่องราวของพวกผมช่วงนี้เลยเนอะ

ไม่ใช่น่าเบื่อนะ... ผมกล้าพนันเลยว่าโคตรน่าเอาไปสร้างเปนหนังอ่ะ

แต่ว่าทั้งหมดนี่มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของผมกับไอ้เบียร์โดยตรงหรอกครับ

แต่ว่า... ผมอ่ะ แน่นอนต้องอยู่ข้างไอ้ต่ายอยู่แล้วใช่มั๊ยล่ะ เปนพรรคพวกของความถูกต้องแน่นอน

ไอ้บาสมันหลงไปกับเสน่ห์มนต์มายาอีนังแม่มดนั่น โงหัวไม่ขึ้นไปแล้ว

แต่ที่ผมเคืองก้อคือ ไอ้เบียร์เสือกเปนไปกับเด้าด้วยน่ะสิครับ!


คือ จริงๆแล้วพวกผมก้อสนิทกันอยู่แล้วนะกับนังแก้วเนี่ย เปนเพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วยซ้ำ

แต่นี่แหละ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ทำกันได้ลง

ไอ้เบียร์ก้อดันตามน้ำไปกับไอ้บาส

ผมก้อเข้าใจนะว่าไอ้บาสมันก้อเครียดที่ดูเหมือนมันจะไม่เหลือใคร...

ผมก้อไม่ได้ทิ้งมันไปนะครับ พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ให้มันกลับมาหาไอ้ต่าย ผมคุยกับไอ้บาสแทบทุกคืนเหมือนกัน

แต่ไอ้เบียร์ก้อหาว่าผมไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน

เท่านั้นแหละ ผมกับมันทะเลาะกันจนไม่มีเวลาจะไปสนใจเรื่องของชาวบ้านจริงๆเลยครับ

มันก้อหาเรื่องด่าผมจังนะ ว่าไร้สาระมั่ง ยุ่งเรื่องของชาวบ้านมั่ง

คือ ไม่ยุ่งไม่ได้แล้วล่ะ ตอนนั้น ยุ่งกันทั้งห้องครับ มันเปนเรื่องใหญ่มากกก หัวข้อเมาท์ข้ามห้องเลยด้วยซ้ำ

เพราะทั้งไอ้ต่ายแล้วก้อไอ้บาสรวมถึงไอ้แก้วด้วยก้อตาม พวกมันมีชื่อเสียงอยู่พอตัวครับ

เปนคนที่คนรู้จักเยอะพอควร โดยเฉพาะเพื่อนสาวนางเอกตลอดกาลของผมมีคนรักมันเยอะมาก

คนเกลียดอีแก้วก้อเลยเยอะหน่อย

จนผมกับไอ้เบียร์ ก้อเริ่มจะทะเลาะกันมากขึ้นๆ เพราะความเหนไม่ตรงกัน

ไอ้ครั้นผมจะเอาเรื่องไปปรึกษาใครก้อทำไม่ได้แล้วด้วยดิ่ แต่ก่อนเคยบ่นให้แต่กับไอ้บาสกับไอ้ต่ายฟังนี่แหละ

จนถึงตอนนี้ กลายเปนผมเปิดทางให้ไอ้ชัย ได้ใช้เวลาอยู่กับไอ้เบียร์ได้เต็มที่ไปเลย

ผมดูออกนะครับ ว่าไอ้ชัยเองก้อชอบใจอยู่เหมือนกันแหละ ที่ผมกับไอ้เบียร์ทะเลาะกัน

กุไม่ได้โง่นะเว้ย

แต่ครั้งนี้ ผมโมโหมันจริงๆครับ ที่มันมีตามีสมองไม่รู้จักใช้

ไปเข้าข้างอีแก้ว แล้วมาว่าผมอีกต่างหาก

เพื่อนในห้องไม่มีใครรู้หรอกนะครับ ว่าไอ้เบียร์มันเอนไปทางนั้นมากกว่า

เพราะมันไม่แสดงออก มันเหมือนอยู่นิ่งๆ แต่เวลาคุยกับผมทีไรชอบพูดจาเข้าข้างอีกฝ่ายอยู่เรื่อย

ถึงมันจะเหนใจไอ้ต่ายก้อเถอะ แต่ผมไม่สบอารมณ์ครับ

เลือกเพื่อนมากกว่าแฟนใช่มั๊ยล่ะ...

จนจบมอ 5 พวกผมก้อไปเที่ยวะเลกันอีกครั้ง

คราวนี้ไปกันหมดครับ ทั้งผมและไอ้เบียร์ (แต่ยังทะเลาะกันอยู่)

เว้นแต่แก้ว ที่ไม่ได้ไป

......................

จะพยายามมาลงตอนต่อไปไวๆ ให้จบเร็วๆ แล้วจะมาเล่าเรื่องของผมกับมันล่าสุดๆให้ฟังนะครับ

จุ๊บๆ

.........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-02-2007 09:24:40

ติดตามอย่างติดตูดคนโพสต์  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-02-2007 10:18:12
อิอิ แอบทำไรพูห์อ่ะ
 :pigha2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 07-02-2007 12:55:38
อย่าทะเลาะกันบ่อยนักนะ คนอ่านปวดใจ :serius2:


ปูเสื่อรอตอนต่อไปครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 07-02-2007 14:13:04
รออ่านอยู่นะครับ มาต่อเร็วๆละ^^ :haun5:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-02-2007 16:48:56

ตอนที่ 24/1

ไปเที่ยวครั้งนี้ ผมขอแม่ผมไปด้วยจนได้ แล้วไอ้เบียร์ก้อด้วยเหมือนกัน

แต่ผมไม่ได้คุยกับมันหรอกนะครับ ไม่คุยกันมาอาทิตย์นึงแล้ว

ผมรู้มาจากเพื่อนอีกทีน่ะครับ

ครั้งนี้พวกผมไปกันแค่ 20 คน

ไปนอนที่คอนโดของเพื่อน รู้สึกจะเปนที่ชะอำมั๊งครับ แต่เลยๆไปหน่อย ผมก้อไม่รู้เหมือนกัน

เพราะว่าครั้งนี้เรานั่งรถไฟไปกันครับ แล้วไปลงที่สถานีชำอำรึไงเนี่ย แล้วก้อเรียกรถสองแถวไปกัน 2 คัน

ชายคัน หญิงคัน... แต่มันก้อไม่เชิงรถ 2 แถวอ่ะ ไม่รู้เรียกว่ารถอะไรเหมือนกัน

แถมคราวนี้แบกเบียร์า แบกกะทะ ตะหลิวไปกันเองพร้อมสรรพ

พอลงจากรถไฟ พวกผม(โดยเฉพาะผมที่เพิ่งตื่น) ก้องงๆกันอยู่พักนึง แล้วก้อไปเรียกรถมา

คราวนี้ไอ้ตอนนั่งรถเนี่ย ไอ้แบงค์มันให้ผมนั่งตักไอ้เบียร์ข้างหน้า 2 คน

ผมก้อแบบว่า มองหน้ามัน... ขอบใจมากนะมึง

ผมนั่งตักมันก้อจริงนะครับ แต่แบบว่า ต่างคนต่างนั่งโคตรๆอ่ะ

นานๆทีมันก้อพูดว่า “เมื่อย ขยับดิ๊”

ผมก้อจะแบบว่า “กูก้อเมื่อย หัวก้อติด ทนไปได้ป่ะ”

ไม่ลดราวาศอกกันเล้ยย

ส่วนใครที่เปนห่วงว่าไอ้ชัยมันจะไม่มา ก้อไม่ต้องห่วงนะครับ มาแน่นอน

พอไปถึงที่คอนโด ก้อต้องตะลึงในความหรูหรา ไฮโซ

แถมคนไม่เยอะด้วยครับ เรียกได้ว่าแทบไม่มีเลยต่างหาก เพราะมันยังไม่ถึงช่วงที่เขาเที่ยวกัน

แล้วพวกผมก้อไปกันวันธรรมดาด้วย

เพื่อนผมบอกว่า ที่นี่ส่วนมากคนที่ซื้อเขาก้อซื้อทิ้งไว้กันเฉยๆน่ะครับ

พวกผมก้อแหกปากกันได้เต็มที่

..................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 07-02-2007 17:12:14
มาต่อแค่เนี๊ยะ ไม่สะใจอ่ะ เอาอีก เอาอีก  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 07-02-2007 18:15:00
ทำไมทะเลาะกันบ่อยเนอะ



เอามาลงอีกค๊าบบบบ


รออ่านงับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 07-02-2007 18:49:10
อ้าาาา ถึงนี่และเหรอ..............

รู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้แฮะ


หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-02-2007 19:04:12
ทะเลาะกันอีกแล้ว ยังไงขอให้คืนดีกันก่อนกลับละกัน  :sad4:
เอาใจช่วยค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 08-02-2007 00:39:32
น่านอ่ะดิ ทะเลาะกันบ่อยๆแบบนี้

คนอ่านก็ไม่ไหวนะ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยอ่ะ

ลุ้นไปเรื่อย หยุดทะเลาะกันเถอะนะครับ :impress:

แล้วดูดิ คนเขียนยังบอกว่าหวิวๆเลย กรำ จะต้องเศร้าแล้วเหรอเนี่ย :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-02-2007 10:32:27
ตอนที่ 24/2

วันแรกที่พวกผมไปถึงกัน ก้อประมาณ บ่ายๆครับ ไม่แน่ใจว่าบ่ายสองบ่ายสามประมาณนั้น

ไม่น่าเกินบ่ายสาม เพราะจำได้ว่าแดดเปรี้ยงเลย

แล้วพวกผม (ห้องผมจะมีตัวหลักๆอยู่ประมาณ 4-5 คน ก้อรวมผม ไอ้ต่าย แล้วก้อไอ้แบงค์ด้วย)

ก้อไปสำรวจสถานที่ตามที่ ไอ้จ๊อบ เจ้าของคอนโดมันบอก ว่ามีร้านอาหารอยู่ครับ

พอพวกผมไปถึงก้อโท ถามพวกมันว่า จะมากินข้าวที่นี่ หรือจะให้ซื้อขึ้นไป

สรุปวันนั้นคือ เราก้อมาทานข้าวกันที่ร้านอาหารของที่นี่ แล้วตอนเย็นก้อจะสั่งร้านให้ทำข้าวกล่องให้

วันแรกยังไม่ได้ทำอะไรกันมากหรอกครับ เหนื่อยกันซะส่วนใหญ่ ผมก้อเหนื่อยจนไม่มีเวลาคิดถึงไอ้เบียร์

อ้อ ลืมบอกไป ที่ห้องของเพื่อนผมนี่

โอ้ว้าว แม่จ้าว ไฮโซมากๆ

มันจะมีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มีทีวี โซฟาตัวใหญ่ 2 ตัว

มองเลยไปเปนระเบียง ที่เห็นทะเล และระเบียงนี้ก้อเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ ที่พวกผม(พวกผู้ชาย)ใช้นอน

ห้องนอนใหญ่ จะมีห้องน้ำในตัวครับ

ตรงกันข้ามกับประตูห้องนอนของพวกผมก้อเปนห้องนอนของพวกผู้หญิง ห้องน้ำในตัวเหมือนกัน

ข้างๆห้องนอนหญิง มีห้องส้วมอีกห้องนึง

ถัดจากห้องนอนของผม ลึกเข้าไป ผมคิดว่าน่าจะเปนห้องคนใช้นะ เพราะมันดูเล็กๆ โล่งๆ และอยู่ติดกับครัว

มีอีกห้องน้ำนึงอยู่ตรงกันข้ามห้องนี้ด้วย...

พอแบ่งห้องกันเส็ด จัดของกันเส็ดนั่นแหละครับ ถึงได้ลงไปเดินสำรวจหาของกิน

ซึ่งคนที่ไปก้อมี ผม ไอ้ต่าย เพื่อนผมอีก 2 คน และ... คนที่ผมชอบคือ ออม ไปด้วย

เพื่อไม่ให้งงนะครับ... ผมขออธิบายว่า ตอนมอ 4 ผมชอบผู้หญิงอยู่ 2 คนครับ

คนนึงคือพลอย อีกคนคือ ออม นี่แหละครับ

ผมตัดใจจากพลอย ไปนานมากแล้ว แต่คนนี้ผมตัดใจไม่ได้จริงๆ

ไอ้เบียร์ก้อรู้ครับ พอๆกับที่มันยังคุยกับบาสอยู่นั่นแหละครับ

แต่ตอนนี้ ผมกับมันก้อกำลังเคืองๆกันอยู่

ก้อได้โอกาศที่ผมจะสนิทสนมกับออมมากขึ้นแล้วเลยล่ะ

เพราะผมกับเขาก้อสนิทกันมากๆๆอยู่แล้วด้วย ไม่เหมือนไอ้เบียร์กับบาสหรอกนะครับ ที่เขาไม่เล่นด้วยน่ะ

ไม่เชิงว่าประชดหรอกนะครับ... แต่ก้อนะ นิดนึง

แต่ว่า ผมก้อชอบเขามากเปนทุนเดิมอยู่แล้วด้วย

เลยไม่รู้สึกผิด หรือรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังประชดไอ้เบียร์สักเท่าไหร่

ระหว่างที่พวกผมเดินไปกัน ผมก้อเดินข้างๆออม คุยกันไปตลอดทาง

แล้วก้อเลยคุยเรื่องไอ้ต่าย ที่จะให้มันคืนดีกับไอ้บาสด้วยเลย

ก้อสนุกสนานกันไป จนโทตามทุกคนลงมากินข้าวอย่างที่บอกแหละครับ

ระหว่างที่กินข้าว มันก้อแบ่งกันเปนโต๊ะๆ โต๊ะนึงก้อประมาณ 5-6 คน

ส่วนมากก้อจะแบ่ง ช-ญ แหละครับ

แต่ผม แน่นอนว่า แรด นั่งข้างๆออมแน่นอนอ่ะ

ส่วนไอ้เบียร์เหรอครับ... นั่งข้างๆไอ้ชัยอย่างที่คิดนั่นแหละ

ผมก้อพยายามไม่สนใจมัน... แต่ยังมีแอบเหลือบๆมองมันเหมือนกัน

ผมก้อแอบเหนว่ามันมองผมเหมือนกันนะครับ

แต่กลับกลายเปนว่าคนที่มันทนไม่ไหวเปนคนแรกไม่ใช่ผมหรอไอ้เบียร์หรอกนะครับ

แต่เปนไอ้ต่าย

“นี่ไอ้ต้น เมื่อไหร่มึงจะคืนดีกับไอ้เบียร์วะ มาเที่ยวกันนะเว้ย อย่าทะเลาะกันเลย เพื่อนกันนะเว้ย”

มันบอกผมตอนกำลังเดินกลับห้อง ผมกับมันเดินกลับกันสองคนก่อน

“ไม่รู้ว่ะ มึงก้อเหอะ เอาเรื่องของมึงก่อนเลยไอ้ต่าย พวกกูมาเชียร์มึงกันนะเว้ย”

“ไม่รู้ว่ะ ไม่ต้องมาสนใจเรื่องของกูหรอกน่ะ จนป่านนี้แล้ว ช่างมันเถอะ...” ผมเหนสีหน้ามันแล้ว ก้อช่างไม่ค่อยลงหรอกครับ

แต่พวกผมเองก้อไม่คิดจะทำอะไรเกินตัวไปเหมือนกัน ไม่อยากจะเสือกเรื่องของชาวบ้านมากนักหรอกครับ

อย่างมากก้อคงเปิดๆโอกาสให้พวกมัน สร้างบรรยากาศให้มันอะไรประมาณนั้น

พอบ่ายแก่ๆ พวกผมก้อหลับกันครับ เกือบจะทุกคน แต่ที่เหนหายไปคือมี ไอ้ชัยไอ้บาสแล้วก้อไอ้เบียร์

กังวลใจนะครับ ว่ามันไปทำอะไรกัน ไปดูดบุหรี่รึเปล่า

ถึงไม่อยากจะคิด แต่ก้ออดคิดไม่ได้อยู่ดี กระสับกระส่ายทนไม่ไหว

ผมเลยชวนออมออกไปเดินเล่นข้างล่าง

ข้างล่างของคอนโดก้อมีการจัดสวน สวยมากๆครับ

สวนนี้กว้างมากก มีสระว่ายน้ำ มีบ่อน้ำ สนามเทนนิส แบบว่า สุดยอดเลยครับ

ตรงขอบของสวนมีม้านั่ง แล้วก้อเตียงผ้าใบด้วย พอเลยเตียงไป ก้อเปนชายหาดสีขาวสวยมากๆเลยครับ

แถมยังเงียบอีกด้วย

ผมยังเดินกันได้ไม่ทั่วหรอกครับ ถึงแค่สระว่ายน้ำ ก้อเจอพวกไอ้เบียร์ เดินกำลังกลับเข้าไปในคอนโด

ผมไม่ได้ทักอะไรมันหรอกนะครับ แค่มองหน้าไอ้เบียร์... แต่มันสบตาผมแค่ทีเดียว ก้อหันไปคุยกับไอ้ชัยต่อ

มันรู้สึก... วืด เหมือนวูบหล่นจากที่สูงๆเลยครับ

ไม่สนใจกูเลย

ออมก้อทักกับไอ้บาส ว่าไหนกันมา มันก้อตอบว่าไปเดินเล่นนั่นแหละ

แล้วมัน 3 คนก้อเดินสวนผมไป

เซ็งมากๆ...

ผมเดินเล่นอยู่กับออม คุยกับออม แต่ใจผมไม่ได้อยู่ที่หน้าอกข้างซ้ายผมเลยครับ

มันไปอยู่ที่ไหนแล้วก้อไม่รู้

สักพัก ผมจึงชวนออมกลับขึ้นห้อง

พอขึ้นไปบนห้อง หลายๆคนก้อตื่นกันแล้ว และก้อ กำลังจะเบียร์รียมตัวไปเล่นน้ำทะเลกัน

เอาวะ ไปเล่นให้สนุก จะได้ลืมๆมัน

ผมก้อเล่นกับเพื่อนกันสนุกสนาน

แกล้งโยนไอ้คนว่ายน้ำไม่ได้ลงทะเลมั่ง

เแบงค์รายยัดลงกางเกงมั่ง (ใครเคยโดนคงรู้ถึงความทรมาน)

จับไอ้นุกกับไอ้ป๋อมแก้ผ้ามั่ง เพราะมัน 2 คนว่ายน้ำไม่เปน (รู้สึกเหมือนปล้ำกับปลาหมึกยักษ์)

ก้อสนุกสนานกันปายย ทำเอาผมลืมเรื่องมันไปได้พักนึงจริงๆนะครับ

ไอ้เบียร์อ่ะ ลงน้ำไม่ได้หรอกครับ ลงมาก้อตายลูกเดียว โดนแดดก้อไม่ได้

นี่คือข้อแม้ของแม่มันครับ

ก้อดีแล้วล่ะ

แล้วระหว่างที่พวกเรากำลังเล่นน้ำสนุกสนานกัน ผมก้อแอบหันไปเหนไอ้ต่ายกับไอ้บาส

ลอยคอห่างกันออกไปสองคนครับ

555

การแซวซึมก้อเกิดขึ้น

(แซวซึมคือการแซวจนเอาให้แม่งซึม)

ท่าทางว่ามาเที่ยวครั้งนี้ คงได้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นแน่ๆ…

พวกผมก้อหวังว่ามันจะคืนดีกันน่ะแหละครับ

พอขึ้นจากน้ำทะเล เราก้อไปลงสระว่ายน้ำกันต่อ ทั้งชุดนั่นเลย

ไม่มีคนอื่นนี่นา... แล้วไอ้เบียร์ก้อลงมาเล่นด้วย มันคงจะทนไม่ไหวแล้วล่ะ ได้แต่มองมานาน

ไอ้ชัย แม่งก้อไม่ห้ามเลย (เอาอีกแล้วนะมึง) ผมก้อปล่อยมัน ช่างแม่ง ดูแลกันเองแล้วกัน

พอสักประมาณ ทุ่มนึง เริ่มมืดแล้ว เราก้อขึ้นห้อง ไปอาบน้ำกัน เตรียมตัวกินข้าว

พออาบน้ำ อาบท่ากันเส็ดแล้ว พวกผู้ชายครึ่งนึงก้อลงไปเอาข้าวกล่อง พร้อมกับ เหล้า เบียร์ ขนม รวมทั้งบุหรี่ของพวกมันด้วย

ผมไม่ได้ไปครับ ขี้เกียจ แต่...

แอบกระซิบให้ไอ้ต่าย บอกห้ามไม่ให้ไอ้เบียร์ลงไป เพราะผมเปนห่วงมันจะไปแรดกับไอ้พวกนั้นด้วยน่ะสิ

ไอ้ต่ายก้อเปนอันเข้าใจ เลยบอกให้ไอ้เบียร์อยู่บนห้องพักผ่อน ไม่ให้ไปเจออากาศเย็นๆหลังเล่นน้ำมาจะดีกว่า ซึ่งมันก้อเชื่อครับ

แต่ไอ้ชัย เหนเบียร์ไม่ไป เสือกจะไม่ไปด้วย

เลยโดนไอ้ต่ายด่า ว่าให้ลงไปช่วยพวกมันถือ มันก้อจ๋อยไปตามระเบียบ

ผมแอบขำสุดๆอ่ะ กูอ่ะ อภิสิทธิ์ เว้ย 555

ตอนนี้ในห้องเลยเหลือผู้หญิง 8 คน แล้วก้อผู้ชาย มี ผม ไอ้เบียร์ ไอ้ป๋อม 3 คนครับ

(เวลาปกติผมก้อขลุกอยู่กับไอ้ป๋อมบ่อยเหมือนกันนะ เพราะไม่สูบบุหรี่ด้วยกันทั้งคู่)

แต่ก่อนที่ไอ้บาสจะลงไป ก้อเหนต่ายมันเดินไปคุยอะไรด้วยไม่รู้

ท่าทางจะกลับมาคุยกันดีๆแล้วล่ะครับ

...
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 08-02-2007 12:15:41
กะลังมันส์อ่ะ

มาต่อไวๆ นะงับ

รออ่านค๊าบบ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 08-02-2007 12:57:11
กรำ ยังไม่หายงอนกันอีก :serius2:

รออ่านตอนต่อไปครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 08-02-2007 13:58:10
รออยู่ครับมาต่อเร็วๆนะ :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 08-02-2007 15:27:12
โหอุตสาห์มาเที่ยวด้วยกันทั้งที แทนที่จะมีฉากสวีท กลับงอนกันซะงั้น  :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-02-2007 17:21:29
ตอนที่ 24/3

พอพวกมันลงไปกันได้สักพัก ส่วนออมก้อกำลังอาบน้ำเสริมสวยอยู่กับพวกผู้หญิงในห้อง

ผมก้อนั่งขลุกอยู่กับไอ้ป๋อมครับ ดูทีวี หยอกเล่นกันตามประสาสนุกสานไป มันก้อถามผมเรื่องออมว่าจะเอาไงต่อ

แต่ยังไม่ทันได้คุย ออมก้ออกมาพอดี เลยต้องหยุดบทสนทนาอยู่แค่นั้น

ผมนั่งคุยกันเรื่องไอ้ต่ายได้สักพัก โทรศัพท์ก้อดังขึ้นมา ของใครไม่รู้ครับ

คือ พวกผมจะเอาโทรศัพท์กว่า 20 เครื่องเนี่ย

วางกองรวมกันบนโต๊ะตัวนึง

ผมก้อเดินไปที่โต๊ะ หยิบโทรศัพท์เครื่องที่ดังขึ้นมา ของใครไม่รู้ครับ ไม่คุ้นเลย

แต่เบอเนี่ย คุ้นแน่นอนครับ

นี่มันเบอร์บ้านไอ้เบียร์นี่หว่า... งั้นนี่ก้อโทรศัพท์ที่แม่มันให้มาใช้ชั่วคราวล่ะมั๊งเนี่ย

เพราะปกติมันใช้ pct ไงครับ

ยังไม่ทันผมจะได้กดปุ่มรับ เค้าก้อวางไปแล้ว

ก้อกว่าผมจะเดินมาถึงโต๊ะ กว่าจะนึก ก้อนะ...

แล้วไอ้เจ้าของเครื่องมันหายหัวไปไหนวะเนี่ย

ผมเลยเดินเข้าไปตามหามันในห้อง เหนมันนั่งอยู่ขอบเตียง

“ไอ้เบียร์ โทรศัพท์มึงรึเปล่า” ผมถามมัน มันนั่งหันหลังให้ผมอยู่ครับ

“รู้สึกเหมือนแม่มึงจะโทมานะ แต่กูรับไม่ทัน เอ้า” ผมพูดต่อ แล้วก้อวางโทรศัพท์ให้มันบนเตียง

ผมกำลังจะเดินออกไป ก้อรู้สึกแปลกๆ เลยหันกลับมา

“มึงเปนไรวะ”

“เปล่า” มันตอบ ยังไม่หันมามองผมเหมือนเดิม

“เออ ก้อดี” แล้วผมก้อเดินออกไป ไม่สนใจแม่งและ ไอ้ห่า กูอุตส่าห์เริ่มคุยด้วยก่อนแท้ๆ

พวกเพื่อนๆเหนผมเดินหน้าหงิกออกมาก้อถามผมว่าเกิดไรขึ้น

ผมก้อเล่าให้มันฟัง

ไอ้ป๋อมเลยเดินเข้าไปในห้อง

ไม่ถึง 3 นาทีมันก้อเดินออกมา

“ไอ้ต้น มึงมานี่เร็ว!” ไอ้ป๋อมเรียกผม

พวกผมแทบทุกคนก้อลุกกันพรึบ เดินไปที่ห้องเลยครับ

“ไอ้เบียร์แม่งตัวร้อนจี๋เลยว่ะ!” ไอ้ป๋อมบอก

“กูไม่เปนไร” ไอ้เบียร์นอนหลับตาพูด

“เชี่ยเอ๊ย ไม่เปนไรเหี้ยไรล่ะ เสือกลงเล่นน้ำ เปนไงล่ะมึง” ปากผมก้อบ่น ปากดีไปงั้นแหละครับ

แต่ใจผมอ่ะ แป้ก สุดๆ กลัวมันจะเปนหนักถึงต้องนอนโรงบาล พวกผมซวยแน่ๆ

“ป๋อม มึงไปเอาผ้ากับน้ำอุ่นมาให้กุหน่อยนะ ส่วนสาวๆ ออกไปข้างนอกก่อนนะค้าบ ผมจะเช็ดตัวมันค้าบ จะอยู่ดูมั๊ยล่ะ หึหึ”

ผมหันไปบอกทุกคน แล้วก้อบอกให้ไอ้ต่ายโทหาไอ้แบงค์ให้ซื้อยาขึ้นมาด้วย

ปรากฏว่า ไม่มีใครเอาโทรศัพท์ลงไปสักตัว แม่งกะไปแรดโดยไม่มีให้ใครโทตามเลยนะเนี่ย

พวกผู้หญิงทั้งหมดเลยลงไปซื้อยากัน พร้อมกับไปตามหาผู้ชายคนอื่นด้วยครับ

ผมเลยให้ไอ้ป๋อมลงไปเปนเพื่อนพวกนั้นด้วย

มันก้อจะอยู่เปนเพื่อนผมนะ แต่ผมบอกว่าไม่เปนไร...

“ว่าแต่ ไอ้ต้น ทำไมมึงกล้าเช็ดตัวให้มันวะ...” ไอ้ป๋อมสงสัยก่อนจะเดินออกจากห้องแถมทำหน้าทะเล้น

“ไอ้บ้า กูก้อเหลือกางเกงในไว้ดิ่ เออ กูเคยเช็ดให้มันทีนึงที่บ้านมัน มึงไปเหอะ ไปดูแลพวกผู้หญิงไป”

“เออๆ มีไรก้อโทมานะเว้ย” ผมพยักหน้ารับ แล้วมันก้อเดินออกไป "ห้ามปล้ำมันนะมึง กุอิจฉา 5555" ยังไม่ทันจะด่ามันก้อผลุบหายไปและอ่ะ

ไอ้ห่า ใครจะปล้ำมันลงวะ

ขอมัน มันก้อให้แล้ว หุหุหุ

ผมเดินเข้าไปในห้อง จับหน้าผากมัน ตัวมันร้อนมากจริงๆครับ แต่ยังไม่เท่าคืนนั้น

“กูไม่เปนไร ไม่ต้องเช็ดหรอก ไม่ต้องมายุ่งกับกู” มันพูดพร้อมจับมือผมออก แล้วก้อหันหน้าไปทางอื่น

เคืองสัดอ่ะครับ! เออ ไม่อยากให้ยุ่งกูก้อจะไม่ยุ่ง เก่งนัก ดูแลตัวเองแล้วกันนะมึง!!

...คิดในใจนะ...

เฮ้อ... ผมถอนหายใจ แล้วจับมือมันมากุม

“จะไม่ให้กูยุ่งได้ยังไงล่ะเบียร์ มึงอย่ามาดื้อ ให้กูเช็ดตัวให้มึงดีๆนะ เดี่ยวเปนหนักไปจะแย่นะครับ” ผมบอกมัน

บางทีเราก้อต้องกลืนทิฐิตัวเองลงไปบ้างแหละครับ เหนมันในสภาพนี้แล้วก้อเคืองมันไม่ลงเหมือนกัน

ผมจับหน้ามันหันมามองผม

มันร้องไห้ครับ...

เป็นน้ำตาครั้งที่สามที่ผมเหนตั้งแต่รู้จักมันมา

มันเคยร้องบ้างเวลาที่คุยโทรศัพท์กัน แต่จริงๆแล้วผมแทบไม่เคยเหนน้ำตามันเลยครับ

“เปนอะไรไป” ผมตกใจพอสมควรเหมือนกัน “เปนอะไรไปครับ เบียร์ ร้องไห้ทำไม ปวดหัวเหรอ”

“เปล่า” มันตอบ แล้วหลับตา

“งั้นมึงเปนไร บอกกูสิ จะเอาอะไรรึเปล่า”

“กูอยากได้... มึงกลับมาเหมือนเดิม จะได้มั๊ย”

ผมเงียบไปแปบนึง ไม่นึกว่ามันจะพูดออกมาแบบนี้

“กู... กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจะทะเลาะกับมึง หรือทำให้มึงโกรธเลยนะเรื่องไอ้บาสน่ะ แต่ว่า...”

“เอาเถอะๆ ช่างมันเถอะ อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย ถ้ามึงไม่ยอมให้กูเช็ดตัวดีๆ กูจะเคืองมากกว่านี้นะ” ผมบอกมัน

“ต้น กูรักมึงนะ มึงรักกูมั๊ย”

“ถามอะไรโง่ๆน่า” ผมพูดพลาง ถอดเสื้อผ้ามันออกไปด้วย

“บอกกูสิ ว่ามึงรักกูรึเปล่า”

“ครับ ต้นรักเบียร์ครับ รักมากด้วย พอใจยัง” ผมยิ้มให้มัน

“งั้นมึงห้ามมีใครนอกจากกูนะ สัญญา” ผมรู้แล้วครับ ว่ามันหมายถึง ออม

“ได้ กูสัญญา” แล้วผมก้อก้อลงหอมแก้มมันทีนึง

จากนั้นผมก้อเช็ดตัวให้มัน ยังเช็ดไม่ทันเส็ด เพื่อนๆก้อกลับกันมาพอดี

“เฮ้ย เปิดๆๆๆดิ๊ ทำห่าอะไรกันอยู่วะ ไอ้สองคนนี่” ไอ้นุกเคาะประตูห้องปึงๆ

“ทำลูกกันอยู่มั๊งมึง ไอ้เหี้ยนี่ เช็ดตัวอยู่เว้ย ยังไม่เส็ดรอไปก่อน!” ผมตะโกนกลับไป

“อ่ะเหรอจ๊า ทำกันไวๆหน่อยน้า ข้าวมาแล้ว จะได้ไอ้เบียร์ลุกมากินข้าวกินยา” คราวนี้เปนเสียงไอ้แบ๊งค์

“เออๆ จะเส็ดแล้วน่า” ผมตอบกลับไปก้อมองหน้ามันแล้วยิ้มๆกัน

“ไง ลุกไหวมั๊ย ไม่ไหวก้อนอนไปนะ เดี๋ยวกูเอาข้าวมาให้” ผมบอกมันหลังจากแต่งตัวให้มันเส็ด แล้วก้อทำท่าจะลุกไป

“อืม มึงก้อมานั่งกินกับกูนะ” มันบอก

“มึงกินกับไอ้ชัยดีกว่ามั๊ง” ผมแกล้งประชดมัน

มันทำหน้างอทันที

“เฮ้ย กุล้อเล่นน่า... มึงก้อเหมือนกัน ต้องสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับใครเด็ดขาดรู้ป่าว โดยเฉพาะมัน”

“อืม” มันรับคำ

“งั้นเดี๋ยวกูไปเอาข้าวมาให้”

ผมเดินออกจากห้องไป ก้อโดนรุมทันที

ก้อแก้ผ้าเช็ดตัวให้มันนิครับ เพื่อนผมก้อมารุมถาม รุมแซวกันใหญ่

ผมก้อปัดๆไป บอกผู้ชายด้วยกันไม่อายหรอก

(แต่เพื่อนผมทั้งหมดอ่ะ ไม่มีใครกล้าแก้ผ้าโชว์หรอกนะครับ มันก้อเลยแซวผมกันใหญ่)

คืนนั้น ผมก้อโทบอกแม่มันเรื่องอาการ แม่มันก้อแนะนำให้ดูแลมันยังไง

แล้วก้อฝากผมดูแลด้วย ผมก้อรับปากแม่มัน ว่าจะดูแลลูกชายเขาให้

(คงฝากไอ้ชัยไม่ได้แล้วล่ะนะ)

คืนนั้น ไอ้เบียร์เลยเข้านอนเปนคนแรกของลิงทั้งฝูงครับ

ผมขอเล่านิดนึงแล้วกันนะครับ ว่าทำไมไอ้เบียร์ถึงร้องไห้

เรื่องของเรื่องคือ...

กว่ามันจะอ้อนแม่มันให้มันมาได้ ก้อยากแสนเข็ญ

แถมอุตส่าห์มาได้ ก้อออกไปเล่นอะไรกับเพื่อนไม่ได้เลย

ทั้งลงทะเล ทั้งเตะบอล

แถมยังเคืองผมอยู่อีกต่างหาก

เอาจริงๆตอนแรก มันไม่ได้สนใจจะคืนดีผมเลยนะครับ

แม้แต่นิดเดียวอ่ะ (งอน)

มันแทบจะไม่แคร์ด้วยซ้ำ

ถ้าผมไม่ไปง้อมันก่อนอ่ะนะ... (นี่แหละมัน -__- กุง้อก่อนแทบทู้กที)

และพอมันลงไปว่ายน้ำแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

มันก้อไม่สบายขึ้นมาทันที

มันเลยเครียดครับ... เอาจริงๆคือเซ็งมากกว่ามั๊ง นิสัยมัน

ว่าทำไมมันต้องเปนแบบนี้ด้วย ทำไมร่างชัยมันถึงได้อ่อนแออย่างนี้

ทำไมถึงจะเปนแบบคนปกติทั่วไปเลยไม่ได้หรือยังไง

มันก้อเลยยิ่งเครียด แล้วคนเราพอเครียดปุ๊บ เรื่องไม่สบายใจต่างๆมาก้อจะถาโถมมาใช่มั๊ยล่ะครับ

มันบอกว่า มันไม่ได้อยากจะคิดเรื่องของผมหรอกนะ

แต่ว่า มันเปนความรู้สึกหนึ่งในสิ่งแย่ๆที่แล่นผ่านเข้ามาในหัวมัน

มันก้อเลยร้องไห้....

มันกลัว ว่ามันจะไม่หาย

มันกลัว ว่ามันจะต้องตายครับ

...

นี่แหละครับ คือสิ่งที่ผมได้รู้จากมันภายหลัง

........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 08-02-2007 18:44:04
เบียร์นะเบียร์น่าเตะจริงๆเลย 555 :3125:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 08-02-2007 19:01:36
ซึ้งง่ะ

ในที่สุดก็ดีกันแล้ว เย้ๆๆๆ

ต่อไปจะเปนไงหน่า....
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-02-2007 19:04:02
เบียร์น่าสงสาร  :impress: ดีแล้วละที่คืนดีกัน  :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 09-02-2007 00:21:17
ดีใจเหมือนเป็นต้นเองเลยอ่ะ

ดีกันได้ซะที

ขอบคุณนะครับ ที่ไม่ทรมาณใจคนอ่าน :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-02-2007 09:07:33
ตอนที่ 25/1

พอผมเช็ดตัวให้ไอ้เบียร์เส็ด ผมก้อออกมาเอาข้าวครับ

เพื่อนๆก้อเข้าไปหามันกัน ว่าเปนยังไงบ้างแล้ว

แต่ไม่ได้รุมๆเข้าไปหรอกนะครับ ก้อคือรู้กันว่า ให้มันพักผ่อนดีกว่า

ผมก้อเอาข้าวเข้ามาในห้องให้มัน แล้ว ผมกับมันก้อตัดสินใจ ให้มันไปนอนที่ห้องเล็กคงจะดีกว่า

คือ ห้องใหญ่มันอยู่ติดกับ ห้องนั่งเล่นน่ะครับ เสียงมันก้อดัง

กินข้าวเส็ดผมก้อให้มันกินยาแล้วพามันไปนอนที่ห้องเล็ก (ห้องคนใช้นั่นแหละ)

ผมก้อออกมานั่งดูทีวี คุย ล่นไพ่ กินเหล้ากับเพื่อนไปเรื่อยเปื่อย สนุกสนานกันไป

จนเวลาล่วงไปประมาณ ตี 2 กว่าแล้วครับ ผู้หญิงบางคนก้อเริ่มเข้านอนกันแล้ว

แต่ขอโทษที พวกเธอก้อนอนกันที่ห้องนั่งเล่นนั่นแหละครับ กุลสตรีไทย 5555

พวกที่กินเหล้าบางคนก้อเริ่มตายตามๆกันไป

ส่วนผมกินไปไม่เยอะ เลยไม่ค่อยเมาเท่าไหร่ครับ กึ่มๆกำลังดี

สักพัก ไอ้เบียร์ก้อเดินออกมาจากห้อง

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ เปนไงมั่งวะ” ไอ้แบงค์ทัก

“อืม ก้อดีขึ้นว่ะ นอนไม่หลับก้อเพราะเสียงพวกมึงนั่นแหละ”

“5555 นอนไม่หลับเรอะ มึงอ่ะนอนไป จะ 5 ชม. แล้วนะรู้ตัวป่าว” ไอ้นุกพูด

“เออ น่ะ” ไอ้เบียร์ว่า แล้วก้อเดินมานั่งลงข้างๆผม

“ว่าไง สักแก้วมั๊ยเบียร์เพื่อนรัก” ไอ้แบงค์ยื่นแก้วให้ไอ้เบียร์ครับ

“ไม่เอา มึงแดกไปเหอะ ไอ้ขี้เหล้า” ไอ้เบียร์ตอบแล้วก้อหันมายิ้มให้ผมแบบรู้กัน

เออ มึงก้อลองรับแก้วนั้นมาดูดิ่...

พวกเราก้อนั่งคุยกันไปสักพัก ผมก้อเริ่มมึนๆ

ไอ้เบียร์มันก้อล้มตัวลงนอนลงบนตักผม

“อะไรวะ ง่วงอีกแล้วเหรอ” ไอ้แบงค์ถาม

ตอนนี้ เหลืออยู่แค่ 5 คนครับ คือ ผม ไอ้เบียร์ ไอ้แบ๊งค์ ไอ้นุก แล้วก้ออีกคนชื่อ ไอซ์

“อืม นิดหน่อยว่ะ” มันตอบ

“กูอ่ะ ต้องง่วง ไม่ใช่มึงนะ” ผมบอกไอ้เบียร์

“งั้นมึงก้อไปนอนดิ่” มันนอนคุยกับผม

“อืม ว่าจะไปแล้วเนี่ย อีกสักพัก”

“งั้น กูไปก่อนนะ กูไปนอนที่ห้องเล็กเหมือนเดิมนะ” มันบอกผมก่อนลุกขึ้นเดินไป

แล้วมึงบอกกูทำไมวะ ก้อรู้กันอยู่แล้วว่าให้มึงแยกไปนอนห้องเล็กคนเดียว...

อ้อ...

อืมมม...

ผมนั่งกินอีกสักพัก ก้อบอกเลิกครับ สักพักไอ้แบงค์ กับคนอื่นๆ ก้อนอนตายอยู่ตรงนั้นเลยเหมือนกัน

กลายเปน ทุกคน จะชายหรือหญิง นอนตายอยู่ตรงนั้นกันหมด ระเนระนาด

(ผู้หญิงบางคนมีตื่นมาคุยด้วยเปนระยะๆเหมือนกันครับ)

ผมเลยลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วกำลังจะเข้านอน

เลยเดินไปหาไอ้เบียร์ที่ห้อง

“หลับยัง” ผมเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วถามมัน

“ยัง นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” มันตอบ แล้วพลิกตัวหันหน้ามาทางผม

“กูม่ายหวายแล้วอ่ะ ขอนอนก่อนนะ” ผมบอกมัน

“แล้วไง จะไปนอนไหน มานอนนี่”

ผมอ่ะ รู้อยู่แล้ววว แกล้งฟอร์มไปงั้นแหละ

“ไม่เอาอ่ะ ไปนอนกับคนอื่นๆดีกว่า”

“อืม งั้นก้อไปเถอะ” มันพูดแล้วก้อพลิกตัวหันหลังให้ผม

ไอ้นี่ ทำเปน... แรด

ผมเลยเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนอนข้างๆมัน แล้วกอดมันจากด้านหลัง

“กูล้อเล่นน่า ที่รัก”

.

.

.

หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น คงไม่ต้องบอกแล้วม๊างง

แต่ว่า ครั้งนั้น เปนครั้งแรก ทั้งของผม แล้วก้อของมันเลยครับ

และเปนครั้งที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลยเหมือนกัน...

และนี่คือคำถาม

ใครเอ่ย เปนฝ่ายเจ็บตัว?

ก.ไอ้เบียร์

ข.ไอ้ต้น

ค.ทั้งคู่

ง.ผิดทุกข้อ

555555

ใครเปนแฟนผมจริงน่าจะรู้นะครับ

หุหุหุ

อ่านไปเดี๋ยวรู้เองคับ ไม่ต้องเสียเวลาเดา

.........
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 09-02-2007 09:14:16
ต้องให้เดาด้วยหรอ อุๆๆ :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-02-2007 09:27:26
แล้วตกลงจะเอาไงกะชีวิตเคอะ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 09-02-2007 09:29:10
ต่อไป จะได้มีฉากหวานๆ มั่ง มาทะเลทั้งที :monkeylove2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 09-02-2007 10:41:52
ได้เสียแล้ว ได้เสียแล้ว :haun5:
 :haun1:

กรำ แล้วจะเดาออกมั้ยเนี่ยว่าใครเจ็บ สมัยนี้เอาอะไรแน่นอนได้ที่ไหนกัน :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 09-02-2007 12:18:38
OHhh !!!!!!

เอิ้กๆๆ

เดามะถูกกอ่ะ 555+

 
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 09-02-2007 17:14:22
ไม่กล้าเดา เดี๋ยวผิด  :really2:

แต่คาดไว้ว่าน่าจะเป็น...มั๊งนะ?
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 09-02-2007 18:35:29
อ่านทันจนได้  :laugh:  :laugh:  :laugh:  :laugh:

ไม่มีใครเดาเลยอ่ะ  เดาว่าต้นเจ็บ  :o

น่าน  มั่วอะ  รอเฉลยค๊าบบบบ  :interest:

ปล  ทะเลาะกันบ่อยไม่ดีนา  มันบีบหัวใจคนอ่าน
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-02-2007 18:41:27
หุหุ เดาไม่ออกเลย  :laugh: ถ้าให้เลือกซักข้อ ขอเป็นต้นเจ็บละกัน เบียร์ป่วยอยู่ต้นคงไม่กล้าซ้ำเติมเนอะ  :kikkik:  :kikkik:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ" by ExecutioneR
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 09-02-2007 21:03:09
5555555

โกดคนอ่านที่บอร์ดนี้ที่สุด

55555

ว่าจะเข้ามาซึ้งสักหน่อย ไม่ซึ้งและ




/สะบัดตูดเดินออกจากกระทู้

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 13-02-2007 10:47:54
ไม่รู้จริงๆอ่ะ เฉลยหน่อยดิ  :haun1:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-02-2007 11:20:02
25/2

ผมกับมันตื่นมาอีกทีประมาณ ตี 4 กว่าเกือบๆตี 5 ครับ

ไอ้ชัยมันมาเคาะห้องปลุก มันบอกว่าโชคดีนะ ที่มันเปนฝ่ายอาสามาปลุกน่ะ

ตอนแรกจะไอ้ต่ายจะมาปลุกเองด้วย

ถ้ามีใครมาเหนสภาพผมกับมันตอนนั้น คงแย่แน่ๆ

เออ กูติดมึงไว้เรื่องนึงก้อได้วะ ไอ้ชัย

“เบียร์ ไปดูพระอาทิตย์ด้วยกันป่าว”

“ไม่ปายอ่าาาา ขี้เกียจจจ” มันยังซุกหน้ากับหมอนอยู่

“ไม่ต้องเลย ไปด้วยกันดิ่นะ กูดิ่ ที่ต้องเหนื่อยไม่ใช่มึง”

“อืมมม ไปก้อได้ แต่ลุกไม่ขึ้นอ่ะ ช่วยหน่อย”

ผมก้อเลยต้องลากมันขึ้นมาจากเตียง ให้มันไปล้างหน้า

ส่วนผมเดินออกมาหาเพื่อนๆก่อน มีคนที่ตื่นจะไปแค่ 4 คนครับ ที่รอผมกับไอ้เบียร์อยู่อ่ะนะ

มีไอ้ต่าย ไอ้บาส(ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะตื่น ปกตินอนขี้เซาโคตรๆ) ออม แล้วก้อ ไอ้ป๋อม ครับ

รวมผมกับไอ้เบียร์ด้วยก้อ 6 คน... ไอ้ชัยไม่ไปครับ

ก้อครับ... ผมเดินคู่ไอ้เบียร์ ไอ้ต่ายเดินคู่ไอ้บาส ส่วนออมเดินคู่ไอ้ป๋อมครับ (เขาสนิทกันเหมือนกานนะ เพื่อนกันๆ)

ระหว่างที่เดินกันไป ผมก้อกระซิบถามไอ้เบียร์

“เจ็บรึเปล่า ไหวมั๊ย”

“ไม่ค่อยแล้วว่ะ แต่จุกๆอ่ะ ปวดท้องนิดนึง”

“ไหวป่าว ถ้าไม่ไหว กลับก้อได้นะ”

“ไม่เปนไรๆ ไหวๆ อุตส่าห์ตื่นมาแล้วนี่หว่า” แล้วมันก้อยิ้มให้ผมครับ

เราก้อเดินผ่านสวนกัน ผ่านสระว่ายน้ำ แล้วก้อเดินเลียบหาดกันไป

เราเดินกันไปเรื่อยๆเลยครับ ตั้งแต่ฟ้ายังมืด ยันฟ้าสว่าง

เดินกันไปจนถึง ศาลา ริมหาดเล็กๆหลังนึงครับ ก้อหยุดนั่งพักกันแปบนึงก้อกลับ

เดินมาไกลพอควรเลยล่ะ มาถึงหาดของ โรงแรมอื่นด้วยครับ

ตอนเดินกลับ พอไปถึงที่คอนโด เรายังไม่ขึ้นห้องกันครับ แต่ไปเดินเล่นดูสวนของที่นี่ ที่ยังไม่ได้ไปด้วย

ตะลึงไปดิ่ครับ

มีม้าด้วยอ่ะ มีม้าผสมหมูด้วยอ้ะ แบบ... เปนม้าที่เตี้ยม่อต้อแล้วก้ออ้วนเหมือนหมูอ่ะคับ

พวกผมขำกันใหญ่ ม้าห่าไรหน้าตาตล๊ก

มีลำธารเล็กๆด้วยครับ

แม่งจะหรูหราไฮโซอะไรขนาดนั้น

...

แล้วพวกผมก้อกลับขึ้นห้องกัน... ดีที่ไอ้เบียร์ไข้ไม่ขึ้นอีกรอบ

เจอของใหญ่เข้าไป หุหุหุ

วันนั้น เราก้อไปเที่ยวกันที่ หัวหินครับ

อยู่ที่นั่นกันทั้งวัน สงสารไอ้เบียร์เหมือนกันที่เล่นน้ำก้อไม่ได้ ออกแดดก้อไม่ได้

ต้องนั่งดูอย่างเดียว... แต่ก้อดีแล้วล่ะครับ ลงน้ำอาจแสบตูดได้

555

พวกผมก้อเล่นกันจนฉ่ำ แล้วก้อออกจากหัวหินประมาณบ่าย 2 โมงกว่าๆครับ

กลับมาเปลี่ยนชุดกัน เล่นไพ่สักพัก ก้อออกไปซื้อของสดมาเบียร์รียมทำอาหารเย็นกันครับ

ซื้อทั้งข้าวกล่อง ทั้งกุ้งหอยปูปลามากันสุดฤทธิ์

ตอนนี้เพื่อนๆทุกคนก้อเหนแล้วครับ ว่าผมกับไอ้เบียร์ดีกันแล้ว

ส่วนไอ้บาสกับต่าย พวกผมก้อกำลังลุ้นกันสุดๆอ่ะครับ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม

กลับมาถึงคอนโดอีกทีก้อประมาณ เกือบๆ 5 โมงครับ

ผมเองก้อมีหน้าที่ในการเตรียมของสดด้วย เพราะนอกจากไอ้ต่ายกับออมแล้ว

ไม่มีใครทำอาหารเปนสักคน

ผมเสือกทำเปน เลยซวยเลย ต้องมานั่งตำน้ำจิ้มปู

ส่วนไอ้ต่ายก้อ หุหุ ช่วยกันนั่ง ‘ล้างหอย’ กับไอ้บาสสองคนครับ

หอยที่จะใช้กินจริงๆนะครับ ไม่ใช่หอยไอ้ต่ายหรือหอยใคร...

เพื่อนๆเหนแล้วก้อชื่นจายครับ ดีกันสักทีนะมึง

อาหารเย็นมื้อแรกของผมที่ได้มีโอกาสมานั่งล้อมวงกินข้าวกับเพื่อนๆที่ผมรัก

สุดยอดดดดดดดดเลยครับ

มีความสุขจริงๆ

หลังจากเก็บของกันเส็ดแล้ว ก้อได้เวลา กินเหล้าเล่นไพ่กันอีกแล้วครับ

คืนนั้น ผมและไอ้เบียร์ก้ออยู่ข้างๆกันทั้งคืน ยันหลับคาวงเหล้าเลย

ผมก้อกิน ส่วนมันก้อนั่งชงไป

ไม่อยากให้การเดินทางครั้งนี้จบลงเลยจริงๆครับ...

แต่วันรุ่งขึ้น เราก้อต้องเบียร์รียมตัวนั่งรถไฟกลับกันแล้ว

สิ่งที่ทำได้ก็คือเก็บความทรงจำดีๆเหล่านี้ไว้ในใจเราตลอดไป...
................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 13-02-2007 11:26:47
ระหว่างที่เดินกันไป ผมก้อกระซิบถามไอ้เบียร์

“เจ็บรึเปล่า ไหวมั๊ย”

“ไม่ค่อยแล้วว่ะ แต่จุกๆอ่ะ ปวดท้องนิดนึง”
แล้วพวกผมก้อกลับขึ้นห้องกัน... ดีที่ไอ้เบียร์ไข้ไม่ขึ้นอีกรอบ

เจอของใหญ่เข้าไป หุหุหุ

ต้องนั่งดูอย่างเดียว... แต่ก้อดีแล้วล่ะครับ ลงน้ำอาจแสบตูดได้

555


คริ คริ กระจ่างแล้วจ้า  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 13-02-2007 12:12:13
อืมรู้เเล้วละ เดาผิดเลยเรา อิๆๆๆ   :haun1:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 13-02-2007 14:30:34
เอิ้กๆๆๆ

รู้แย้ววว กร๊ากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-02-2007 18:22:12
 :o ผิดคาดนิดหน่อยนะเนี่ย :kikkik:

แต่ดีแล้วล่ะคืนดีกันแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-02-2007 20:17:06
กรำ เดาผิดซะงั้น  :try2:
หุหุ รออ่านต่อไป  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-02-2007 21:06:46
ต๊ายยยยซ์ซ์!!!
แต่ละคน!!
โกดคนบอร์ดนี้มั่กม๊ากกกกก!!







/ สะบัดเปียแล้วเดินตูดบิดออกจากกระทู้
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 14-02-2007 13:54:18
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออกรสกันเลยทีเดียวเชียว :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-02-2007 17:11:56
ตอนที่ 26

วันรุ่งขึ้นหลังจากกลับมาถึงบ้าน

พวกผมก้อโทคุย โทหากันสนุกสนานครับ แบบว่าอารมณ์มันยังค้าง

แล้วก้อโทถามกันด้วยแหละครับ ว่ากลับมาแล้ว เปนไงมั่ง

ประมาณนี้อ่ะครับ

แต่ที่ช็อกผมมากที่สุดคือ ผมได้โทคุยกับเพื่อนผู้ชายคนนึงครับ

เอาจริงๆคือมันโทมาปลุกผมตอนบ่ายสาม

แล้วสิ่งที่ผมกลัวมันก้อเปนจริง

สิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน...

นั่นคือ ไอ้เบียร์มันแอบสูบบุหรี่ด้วยครับ

แถมยังเปนคนเอาไปอีกต่างหาก

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ไอ้เบียร์เอาบุหรี่นอกของแม่มันไปให้เพื่อนลองชิม

คือ... เพื่อนผมไม่ได้ฟ้องนะครับ

มันแค่เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

แล้วผมจะสนุกไปกับมันด้วยมั๊ยเนี่ย

ก้อต้องทำเปน ไม่ได้คิดอะไรไปครับ

ก้อแค่พยายามถามๆ ว่าจริงเหรอ ของมันชัวร์ป่าว ไม่ใช่มั๊ง ประมาณเนี๊ยครับ

หวังแค่ว่ามันจะไม่เปนความจริงแค่นั้นเอง

หลังจากวางโทรศัพท์ ผมก้อโทหาเพื่อนคนอื่นๆ

ผมโทถามไอ้บาส มันก้อยอมรับมา

โทไปด่าไอ้แบงค์ มันก้อขอโทษที่ปิดบังผม

ไอ้บาส ผมไม่ว่ามันนะครับ เพราะเข้าใจว่ามันก้อกำลังเครียดเลยสูบ

แต่ไอ้แบงค์เนี่ย ด่ามันไปเต็มๆ เพราะแม่งเหนแต่ความสนุก ไม่ได้สนใจห่าอะไรเลย

ผมไม่ได้โกรธที่มันปิดบังผมนะครับ ผมเคืองที่ทำไมไม่เปนห่วงสุขภาพเพื่อนมึงกันเลยเหรอไง...

ถ้าผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้น คิดว่าผมจะโมโหไอ้เบียร์ หรือห้ามไม่ให้มันสูบเด็ดขาดรึเปล่าครับ

คำตอบคือ ไม่เลยครับ ผมยอมให้มันสูบนะ

จำกันได้รึเปล่า ว่าผมยอมมันแค่ไหน ขอแค่ให้ผมรู้ว่ามึงสูบนะก้อพอ

ขอแค่บอก ว่าสูบไปเท่าไหร่แล้ว ขอแค่ดูแลตัวเองบ้าง มีลิมิตหน่อยนะ...

ผมไม่พูดอะไรมากหรอกครับ ไม่เลยจริงๆ

เราคุยกันมามากพอแล้ว

แต่นี่...

สันดานเสีย ออกมาอีกแล้ว

พอนอนคิดอยู่สักพัก ผมก้อตัดสินใจโทหามันครับ

แต่ไม่ได้โวยวายนะครับ ไม่ใช่นิสัยผมเลยจริงๆ

อย่างที่ผมเคยบอกแหละครับ ผมแค่ต้องการความจริงเท่านั้นเอง...

ผมก้อคุยกับมันไปเรื่อยเปื่อยสักพัก แล้วผมจึงเริ่มเรื่อง

“เบียร์ กูถามไรมึงอย่าดิ่”

“หือ ไรอ่ะ”

“มึงไปเที่ยวเนี่ย... ได้สูบบุหรี่มั่งรึเปล่า” คือ ผมกับมันเคยคุยกันจนเปนเรื่องปกติแล้วอ่ะครับ เรื่องพวกนี้

“เปล่า” มันตอบ

“อืม ก้อดีแล้ว... แน่ใจนะ”

“เออ แน่ดิ่”

“กูไม่ได้จะว่าอะไรมึงหรอกนะ มึงก้อรู้ กูแค่อยากได้ยินความจริงจากปากมึงแค่นั้นเอง มึงเข้าใจกูใช่ป่าว”

“เออ ก้อบอกว่าเปล่าไง”

“แต่กูรู้มาว่าไม่ใช่ว่ะ กูได้ยินมาว่ามึงสูบ” ผมเริ่มทนไม่ไหว แต่น้ำเสียงผมก้อยังปกตินะครับ

“มึงนี่เซ้าซี้จังนะ บอกว่าเปล่าก้อเปล่าดิ่” มันเริ่มมีอารมณ์ใส่ผมแล้ว

แต่ผมยังอดทนอยู่

“กูรู้มาว่า มึงเปนคนเอาบุหรี่ไปเองด้วย” ผมบอกมัน

“ถ้ามึงไม่เชื่อกุ มึงจะมาถามกูทำไมวะ!” มันเริ่มโมโหใส่ผม จนผมเริ่มทนไม่ได้แล้วเหมือนกัน

“ก้อเพราะมึงมันชอบโกหกแบบนี้ไง แล้วทำไมวะ มึงจะบอกว่าถ้ามึงพูดมา กูต้องเชื่อมึงทุกคำพูดเลยรึไง!

คำพูดมึงที่เคยพูดกับกูมา มึงกล้าพูดมั๊ยล่ะ ว่าเปนความจริงทุกครั้งน่ะ” ผมย้อนเต็มๆ เพราะเคืองกับคำพูดของมันมากครับ

“ถ้ามึงไม่เชื่อกู ก้อไม่ต้องมาคุยกันเลยดีกว่าว่ะ”

“กูก้ออยากเชื่อมึงนะเบียร์ แต่นี่มันชัดเจนมากเลยอ่ะ แล้วทำไมกัน มึงก้อแค่ยอมรับมาสิ กูจะไม่ว่าอะไรเลยจริงๆ มึงก้อรู้ไม่ใช่เหรอ”

ผมเริ่มจะอ่อนใจแล้วล่ะครับ

“ไม่ กูไม่ได้เอาไป กูไม่ได้สูบ ถ้ามึงไม่เชื่อกู ก้อไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว”

“งั้นก้อได้ ตามใจมึง” แล้วมันก้อวางใส่ผมไปครับ

เร็วกว่าที่ผมจะวางใส่มันแค่ 0.1 วินาทีเท่านั้น

.

.

.

คือ จริงๆแล้วผมคุยกับมันนานกว่านี้นะครับ

และผมก้อจับได้ชัดๆเลยว่า มันโกหก แต่มันก้อยังดื้อหัวชนฝา

จนผมเหนื่อยใจ แล้วก้อเสียใจมากๆด้วยครับ

ผมโทหาไอ้ต่าย โทหาเพื่อนอีกคนสองคน แล้วระบายให้มันฟัง

เพื่อนผมคนนึงก้อบอกว่า ได้กลิ่นบุหรี่มาจากมัน แต่ก้อคิดว่าผมรู้อยู่แล้ว ก้อเลยไม่ได้บอก

สรุปคือ มันสูบตั้งแต่บนรถไฟ ยันมาถึงคอนโด จนกว่าจะดีกับผมนั่นแหละครับ

แต่ตอนดีกับผมแล้วก้อแอบไปอัดมาอีกรอบนึง

ครั้งสุดท้ายเหนว่าเปนบุหรี่สตรอเบอร์รี่

แล้วผมขอข้ามเหตุการณ์ไปหน่อยนะครับ

ผ่านไปนานแสนนาน จำได้ว่าตอนนั้นผมอยู่มอหก

ก้อคุยกับมันปกตินี่แหละครับ มันก้อเลิกบุหรี่เด็ดขาดแล้ว

ผมคุยกับมันเรื่องไรไม่รู้ครับ แล้ววกมาเข้าเรื่องบุหรี่

ผมถามมันว่า มันจะมีรึเปล่าวะ ไอ้บุหรี่กลิ่นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ อ่ะ

มันตอบ ว่า มี ของแม่มันก้อมี

ผมเลยถามมันว่า แบบที่มึงเอาไปทะเลใช่รึเปล่า

มันหัวเราะ แหะๆ แล้วตอบว่า ใช่

...เอากะมันสิครับ...

หลังจากทีผมกับมันทะเลาะกันไป

สักพักก้อดีกันครับ ไม่ต้องห่วง

อารมณ์ประมาณว่า ต่างคนต่างไม่พูดถึงอีกอ่ะครับ ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ

แต่ผมขอสารภาพตรงๆนะครับ...

ว่าผมกับมันก้อเริ่มมีอาการห่างๆกันไปพอควรเหมือนกัน

อาจเปนเพราะ ไอ้ที่บอกว่า “สักพัก” เนี่ย

จริงๆมันไม่ค่อยจะ สักพัก เท่าไหร่หรอกครับ

กินเวลาอยู่นานพอดูเหมือนกัน

ประมาณ เกือบๆ 2 อาทิตย์ได้มั๊ง

ผมกับมันดีกันได้ก้อเพราะ มันจะต้องห่างผมไปอีกครั้ง เพื่อไปทำตามความฝันของมัน...

ไอ้ความสัมพันธ์ของคนเรานี่ก้อแปลกนะครับ

ระยะเวลา และ ระยะทาง มันช่างก่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

..........................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 14-02-2007 17:24:29
เห้อออออออออออออออออ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-02-2007 17:34:54
สุขสันต์วันแห่งความรักทั้งคนเขียน คนโพส อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-02-2007 19:06:35
เหอ เหอ  :sad4: ระยะทางกับระยะเวลา เป็นตัวแปรอะไรบางอย่าง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-02-2007 11:14:10
รักคนเเข็งๆเเบบนี้ก็ต้องเหนื่อยหน่อยละนะ  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 15-02-2007 12:54:44
เพิ่งดีกันอยู่แหมบ ๆ โกดกันอีกหล่ะ เฮ้อ เหนื่อยใจ  :untrust:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 16-02-2007 10:53:44
คนเรานี่ก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี

แต่ก็ยังจะสูบอยู่ได้ ไอ้เจ้าบุหรี่เนี่ย
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-02-2007 18:00:33
อิอิ เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-02-2007 12:02:24
ตอนที่ 27 … ปลายทาง

    พอขึ้นมอ 6 พวกผมก้อใกล้จะเอ็นทรานซ์กันทุกทีแล้วครับ

    ส่วนไอ้เบียร์ มันอยากเข้าเตรียมทหารครับ

    สติมันดีรึเปล่า???

    มันดื้อหัวชนฝาครับ ยังไงมันก้อจะเรียน

    แม่มันก้อเหนื่อยใจเหลือเกิน

    ร่างกายแบบนั้นเนี่ยนะ

    คนดีๆเขาเรียนกันเขายังจะตายกันเลยย

    มันก้อดื้อ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จะเรียนๆๆๆๆให้ได้

    พ่อกับแม่ รวมทั้งพี่มันก้ออ่อนใจ ส่งมันไปเรียนพิเศษที่รับติวเข้าเตรียมโดยเฉพาะน่ะครับ

    ช่วงปิดเทอมนะครับ ผมลืมบอกไป

    ผมยังแซวมันเลยด้วยครับ

    เพราะมันบอกว่ามันชอบเครื่องแบบ

    ผมก้อบอกว่า หาแฟนในเครื่องแบบแทนดิ่ ง่ายกว่าอีก

    โดนด่าสิครับ ตามระเบียบ

    ผมอ่ะ ไม่อยากให้มันไปหรอกครับ เตรียมน่ะ

    เหตุผลเดียวกับแม่มันแหละครับ เปนห่วงมัน

    แค่ไอ้ที่เก็บตัวนี่ ก้อกลัวแล้ว เพราะเขาก้อมีฝึกเหมือนๆของจริง

    แต่สุดท้าย...

    เมื่อถึงเวลา ทางเดินของเรามันก้อต้องแยกจากกันอยู่ดี

    ต่างคนต่างมีเส้นทางชีวิต... มี ถนน ของตัวเองที่ต้องเดินต่อไป

    บางที เส้นทางของผมกับมันที่ได้เดินร่วมกันมา มันอาจจะถึงทางแยก ที่จะต้องกลายเป็นเส้นขนาน

    ที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีกตลอดไป

    ก้อคงเริ่มมาจากช่วงเวลานี้แหละครับ...

    ช่วงที่มันไม่อยู่ มือถือมันก้อเอาไปไม่ได้

    ก้อทำให้เราไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนแหละครับ

    มันไปสักเดือนนึงได้มั๊ง

    มันก้อโทมานะครับ หยอดตู้โทมา แต่ก้อครับ คุยได้ไม่นานหรอก

    แถมช่วงนั้นมีเพลง

    คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ...

    โอ๊ยยยยย กุจะบ้าตายยยย

    มึงจะโดนไปไหน มึงจะโดนไปไหนเนี่ยย ไอ้เพลงบ้าเนี่ยยย

    เอ็มวีก้อนะ... พระเอกเอ็มวีน่าร๊ากกกกก

    คิดถึงมันมากๆเลยครับ เปนห่วงมันด้วย

    มันก้อโทมาบ่นเหมือนกันว่า หนัก บางทีก้อมีไม่สบายมั่ง

    แต่ก้อเปนไม่มาก... ก้อดีแล้วครับ เปนหลักฐานว่ามันแข็งแรงขึ้นมากแล้ว

    บางทีก้อมาแรด บอกเด็กในค่ายน่ารัก ยิ่งเด็กที่มาจากเชียงใหม่คนนึง เรียนอยู่มงฟอร์ด (สะกดไม่เปนหรอกนะครับ) มันบอกว่าน่ารักมากกกก

    เอาเหอะมึง ตามสบาย

    ผมรู้นิสัยมันครับ รู้ดีด้วย และครั้งนี้ก้อยิ่งรู้เข้าไปใหญ่

    ว่ามันหวังกับตรงนี้มากแค่ไหน... นี่ เปนความฝันของมันแหละครับ

    สิ่งที่มันอยากจะทำมากที่สุด และ ยิ่งมันอยากได้อะไรก้อได้มาตลอดชีวิต

    ครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่มันจะได้ทำอะไร เพื่อความฝัน เพื่อสิ่งที่อยากได้ด้วยตัวเองด้วยครับ

    มันเคยบอกไว้ว่า...

    “กูไม่รู้ว่าข้างหน้ากูจะเป็นยังไง กูไม่รู้ว่าร่างชัยกูหายดีแล้วรึยัง แต่กูคิดว่ากูหายแล้ว กูคิดว่ากูแข็งแรงพอแล้ว กูจึงจะทำในสิ่งที่กูอยากทำ ถ้าอนาคตกูจะต้องตายจริงๆ

    ยังไงกูก้ออยากจะทำในสิ่งที่เปนความฝันของกู ทำไมใครๆต้องมาห้ามไม่ให้กูเลือกทางเดินชีวิตของกูด้วย”

    กุเข้าใจมึงล่ะ

    จนเข้าค่ายของมันจบ มันก้อกลับมาครับ

    เปนช่วงก่อนเปิดเทอมนิดหน่อย เพื่อนผมนัดเจอกันที่บ้านไอ้ต่าย

    ไปเล่นแบดเล่นบอลเล่นวอลเลย์ร้องเกะ...

    รู้สึกแปลกๆนะครับที่ได้มาเจอหน้ามัน หลังจากไม่ได้เจอมาเดือนนึงเต็มๆ

    ใจมันหวิวๆ แอบหวั่นไหว เหมือนรักครั้งแรกยังไงไม่รุ

    ตลกตัวเองเหมือนกันพอมานั่งนึกๆดูแล้วเนี่ย

    จะตื่นเต้นหาพระแสงอะไรวะ

    แต่แหม ไม่ให้หวิวได้ไงล่ะครับ

    ก็แม่งหล่อขึ้นเปนกองเลยอ้ะ!

    ผิวคล้ำๆลงนิดหน่อย หัวเกรียนๆ แถมแม่ง... ล่ำขึ้นโคตรๆ!

    ใจละลายไปเลย ติดที่เพื่อนอยู่เยอะ ไม่งั้นวันนั้นมึงเส็ดกุแล้ววว

    ซร้วบ!

    แต่ว่า... ความรู้สึกดีๆมันมีได้ไม่นานเลยครับ

    มันสอบไม่ติด

    ความฝัน อนาคตดูพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตา

    ทั้งๆที่ตอนสอบเทสต์มันได้ถึงที่ 4 ของรุ่นนั้นนะครับ

    ให้ทั้งผมติว ให้ทั้งอาจารย์พิเศษติว แถมยังจะยัดเงินเรื่องสายตาอีกต่างหาก

    แถมปัญหาเรื่องใบรับรองแพทย์ มันก้อไปขออนุญาติหมอมาแล้ว

    คือ... ทำทุกอย่างจริงๆครับ

    มันไม่คิดจะเข้าอย่างอื่นนอกจากเตรียมเลย

    มันอยากเปนตำรวจโคตรๆแล้ว

    แต่สุดท้าย... มันก้อทำไม่สำเร็จครับ

    ผมสงสารมันมากจริงๆ

    ผมไม่ได้รู้จากมันด้วยนะครับ ว่ามันไม่ติดน่ะ

    รู้มาจากเพื่อนคนอื่นอีกที

    แต่คงไม่ใช่เวลาที่จะมาน้อยใจที่มันไม่บอกผมจากปากมันเองหรอกนะครับ

    มันก้อคล้ายๆเรื่องที่มันไม่ให้ผมไปเยี่ยมมันนั่นแหละ

    มันไม่ได้บอกใครเลยด้วยซ้ำ ว่ามันไม่ติด แม่มันต่างหากครับ

    แล้วมันก้อเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...

    มันไม่คุยกับผม ไม่คุยกับใครทั้งนั้น

    มันไม่รับฟังอะไรจากผมเลย ยิ่งพอมันรู้ว่าผมรู้แล้วว่ามันไม่ติด

    มันก้อยิ่งโมโหผมเข้าไปใหญ่

    มันกำลังจะกลับไปเปนนิสัยเหมือนตอนมอ 4 อีกแล้ว

    ผมก้อเครียดมากๆเลยครับ สงสารมันมากๆ

    แต่ก้อทำอะไรไม่ได้

    ก้อคงมีแต่ เวลา นี่แหละมั๊งครับ ที่จะช่วยได้

    ครับ... ผมก้อเลยจำใจต้องห่างมันออกไปสักพัก

    เพื่อตัวมันเอง…

    สักพักมันก้อดีขึ้นครับ เพื่อนๆก้อโล่งใจไปตามๆกัน

    ผมก้อสบายใจที่เหนมันดีขึ้น

    แล้วก้อทำให้ผมมีเวลามีสมาธิตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์อีกด้วยครับ

    มันเองก้อต้องกลับมาเบียร์รียมตัวใหม่เพื่อสอบเอ็นท์เหมือนกัน

    แต่ผมไม่รู้เลย... ว่าในชว่งที่มันไม่อยู่ ในช่วงที่ผมกับมันห่างกันไปสักพัก

    ใจของมันก้อเปลี่ยนไปด้วย

    หลังจากสอบเอ็นท์ครั้งแรกเส็ด

    มันกับผมก้อเลิกกันครับ

    จริงๆแล้ว ผมกับมันก้อห่างๆกันไปเรื่อยๆมาสักพักแล้วล่ะครับ

    แต่ไม่ใช่ห่างแบบ ต่างคนต่างอยู่นะครับ

    เราก้อคุยกันเหมือนเคย แต่ผมเองที่เริ่มรู้สึกได้ เวลาถูกเนื้อต้องตัว เวลามองตากัน เวลาพูดคุยในห้อง

    มันรู้สึกกันได้ครับ ของแบบนี้

    วันหนึ่งผมก้อถามมัน ว่าความรู้สึกที่ผมรู้สึกอยู่นี่ ผมคิดไปเองรึเปล่า...

    คำตอบคือ ไม่ ครับ มันเปนความจริง

    ผมเสียใจนะครับ มากด้วย... แต่ว่า มันก้อยังคงอยู่ข้างๆผมตลอดมาเหมือนเคย

    เราไม่ได้หักดิบกันเลยหรอกครับ ยังคงประคับประคองความสัมพันธ์ของเรากันไปเรื่อยๆ

    มันเองก้อคงไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่ เพียงแต่มันเปนคนเก็บความรู้สึกเก่ง

    เราแทบไม่คุยกันเรื่องนี้เลยครับ ว่าเราจะเลิกกันนะ

    ผมเหมือน... ปล่อยให้เวลานั้นมาถึงเท่านั้นเอง

    ผมยังมีภาระที่ต้องอ่านหนังสือ ซึ่งมันเองก้อเหมือนกัน

    เราก้อเปนกันเหมือนเพื่อน... แต่ไม่ต้องถามนะครับว่า ผมเจ็บไหม

    บอกได้เลยครับว่าเจ็บ เจ็บมาก... จนถึงตอนนี้ที่กำลังพิมอยู่ก้อร้องไห้อยู่ด้วยซ้ำ

    แต่ผมต้องขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมดจริงๆ

    อาจจะฟังดูเหมือน ทำไมเลิกกันง่ายจัง เล่ามาตั้งนาน

    ใช่ครับ ผมกับมันเลิกกันง่ายครับ แต่นี่แหละครับ ที่ยิ่งทำให้มันยิ่งยากมากขึ้นไปอีก

    ที่ผ่านมา ผมอาจไม่ค่อยได้เล่าให้ฟังเท่าไหร่ถึงเรื่องที่ผมกับมันทะเลาะกัน

    เพราะมันเยอะครับ

    และทะเลาะกันทีก้อแรงๆทั้งนั้น เราไม่ค่อยทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิมๆหรอกครับ

    เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้นแหละ

    ผมเลยได้แต่บ่นๆให้ฟัง แทรกๆไปบ้าง ว่ามีทะเลาะกันมั่งนะ อะไรประมาณนั้นครับ

    เพราะผมเลือกที่จะเอาความรู้สึกดีๆ ที่นานๆทีผมจะได้จากมันมาเล่าให้ฟังไงครับ

    อย่างที่ผมเคยบอก ว่านานๆทีมันหวานที ใจผมก้อแทบจะละลายไปเลย

    ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ สำหรับคนที่รักมัน

    และเรื่องร่างชัยของมัน ติดตามกันมาถึงตอนนี้แล้ว คงรู้แล้วล่ะนะครับ ว่ามันแข็งแรงดีมากๆแล้ว

    ไม่ต้องเปนห่วงมันนะครับ

    .
    .
    .
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 18-02-2007 12:17:03
คงยังไม่ใช่ตอนจบนะครับ :impress:

ถ้าอะไรๆมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เลิกกันไปก็ดีเหมือนกันนะครับ

เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ไม่ได้โกหกตัวเอง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 18-02-2007 12:26:06
เวลาเปลี่ยน  คนเปลี่ยน :impress:  อ่านแล้วเศร้าจังคับ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 18-02-2007 13:02:26
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

 :impress: :impress: :impress: :impress:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-02-2007 14:38:36
เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน  :monkeysad:  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 18-02-2007 18:26:50
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-02-2007 10:20:30
27/2

    จนภาระของเราหมดลงแล้ว มันจึงพูดออกมาเต็มๆว่า ผมกับมัน คงเปนแค่เพื่อนกัน

    ถ้าผมถามถึงเหตุผล เหตุผลก้อคือว่า มันเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วครับ

    มันชอบยกคำพูดของผมที่เคยคุยกับมันมา ชอบยกคำพูดของผมที่เคยสอนมันหลายๆอย่างมาพูด

    ผมก้อยิ่งเจ็บ…

    ทางเดินของมันกับผม มันตันลงแล้ว ผมกับมันคงต้องแยกทางกันเดินสักที

    ถ้ายังไปต่อไปด้วยกัน ก้อคงไม่มีอะไรดีขึ้น

    มันเลือกถนนของมันไปแล้ว แต่ถนนเส้นนั้น ก้อกลับกลายเปนทางตันไปในเวลาอันสั้น

    มันตัดสินใจเลือกถนนเส้นใหม่... เส้นที่ไม่มีผมอยู่ด้วย

    มันอยากจะเข้มแข็งขึ้น มันอยากจะเดินไปโดยไม่ต้องมีผมคอยดูแลมันอีกแล้ว

    มันบอกว่า ที่ผ่านมาตลอดสามปี ผมคอยดูแลมันมาตลอด ถ้าไม่มีผม มันก้อคงแย่ นิสัยมันก้อคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ มันขอบคุณผมจากใจจริงๆ

    ถ้าไม่มีผม มันคงไม่สามารถคิด และรับมืออะไรต่างๆได้

    และต่อจากนี้ มันจะขอใช้สิ่งที่ได้มาจากผม เรียนรู้และก้าวเดินต่อไปด้วยตัวเอง

    แล้วผมจะพูดอะไรได้ครับ

    ยอมจากจะต้องปล่อยให้มันไปตามทางที่มันต้องการ
    .
    .
    .

    นิยามความรักของทุกคนคืออะไรครับ...

    บางคนว่าความรักคือ ความเข้าใจ

    บางคนว่า ความเชื่อใจ

    บางคนว่า ความผูกพัน

    ...

    แต่ละคน ก้อนิยามความรักแตกต่างกันไป แล้วแต่ประสบการณ์บ้าง

    แล้วแต่ความนึกคิด หรือความรู้สึก

    แต่สำหรับผม

    ผมรู้มาก่อนที่จะได้เจอมันและได้รักมันเสียอีกครับ

    และมัน ก้อทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในนิยามความรักของผมเข้าไปอีก

    สำหรับผมแล้ว

    ความรักคือ การเสียสละ ครับ...

    การเสียสละ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ การให้

    แต่เปนการที่เรายอมสละทุกอย่าง แม้เราจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตามเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข...

    ถึงมันจะสูบบุหรี่ แต่แค่มันยอมบอกผม ผมก้อเจ็บนะ แต่ผมก้อยังมีความสุข

    ถึงมันจะไปแอบมีใคร แต่แค่มันยอมรับว่าเปนความจริง ถึงจะเจ็บ ผมก้อยอมรับได้

    ถึงมันอยากจะจากไปเพื่อความสุขของมัน ถึงผมจะต้องเสียใจแทบตายแค่ไหนก้อตาม ถ้ามันมีความสุข ผมก้อดีใจแล้ว...

    สิ่งที่ผมยอมเสียสละให้มันมากที่สุด ก้อคือ ความสุขเพียงผิวเผินของผมครับ

    หลายครั้งแล้ว ที่ผมยอมแลกสิ่งนั้นออกไป เพื่อความสุขของมัน ถึงจะเจ็บ แต่มันเปนความสุขลึกๆ

    ที่มาพร้อมคราบน้ำตา

    และครั้งนี้ก้อเช่นกัน

    ผมเลือกที่จะเสียมันไป แล้วถึงแม้ผมจะร้องไห้ แต่เชื่อมั๊ยครับว่า นั่นคือความสุขของผม...

    ที่ผมได้ร้องไห้ ร้องไห้เพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข

    ผมพอใจแล้วครับ...

    เพื่อนผมมักจะพูดกับผมมาตลอดว่าให้ผมหัดทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง

    ผมไม่ได้อยากจะเปนคนดี หรือทำตัวเปนพระเอกนะครับ

    แต่ผมไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้จริงๆ

    ผมไม่สามารถจะหาความสุขใส่ตัวเองได้จริงๆครับ

    ผมคิดว่าการที่ทำแบบนั้น มันเปนการเหนแก่ตัว

    ผมคิดว่าผมเกิดมา ก้อเพื่อทำให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเพื่อน คนที่ผมรัก และครอบครัว…

    เมื่อไหร่ก้อตาม ที่ผมจะทำอะไรเพื่อตัวเอง

    ผมจะคิดขึ้นมาทันทีว่า มันจะเหนแก่ตัวไปรึเปล่าที่เราจะมามีความสุขแบบนี้

    เพราะฉะนั้น การที่ผมได้รักมัน ได้ทำอะไรต่างๆเพื่อมันมามากมายขนาดนี้

    ผมมีความสุขที่สุดแล้วครับ ไม่ว่าผมจะเหนื่อยยากหรือลำบากมาเท่าไหร่ก้อตาม...

    แค่ผมมีโอกาสที่ได้รักมัน ผมก้อมีความสุขแล้ว...

    ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าผมมีความสุขมาก ตลอดเวลาที่ได้รักมัน

    เวลาที่ผ่านไป..... อะไรหลายๆอย่างก้อเปลี่ยนแปลงไป

    เมื่อมันกับผมเริ่มฟื้นคืนสภาพ เราก้อคงกลายเปนแค่เพื่อนกัน

    และเราก้อเหลือเวลาที่จะได้อยู่ก้วยกันอีกแค่ แปบเดียวแล้ว

    อีกแค่ไม่กี่เดือน ไม่กี่วัน เราก้อต้องแยกกันเลือกเส้นทางเดินเส้นทางใหม่กันแล้ว

    ไม่ใช่แค่ผมกับมัน แต่เปนทุกๆคนในห้อง

    เส้นทางของพวกเราที่ช่วงเวลาหนึ่งมันได้มาบรรจบซ้อนกัน ทำให้เราได้เดินไปด้วยกัน มาถึงเวลาที่ต้องแยกกันไปแล้วครับ

    เศร้านะครับ ที่ต้องจากเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของผมไป

    ความรักของเพื่อนๆผมที่มีให้กันภายในห้องของเรานี้ เขียนให้ตายก้อไม่สามารถบรรยายได้จริงๆครับ

    ผมน่ะ แอบเศร้าแอบซึ้งอยู่คนเดียวมานานแล้ว

    จนถึงวันสุดท้าย คาบสุดท้ายของการเรียนภายในโรงเรียนที่ผมอยู่มาถึง 6 ปี

    และเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี

    อาจารย์เหมือนรู้ครับ ไม่สอน แต่ให้พวกผมได้กล่าวลากัน

    บรรยากาศตอนนั้น ... ไม่รู้จะว่ายังไงดีครับ

    ผมไม่ได้ร้องไห้นะ เพื่อนผมก้องงกันใหญ่ว่าทำไมผมถึงยิ้มและหัวเราะอยู่ได้ยังไง

    พวกมันหมายหัวว่าผมต้องเปน 1 ในคนที่ซึ้งที่สุดในห้องแน่นอน

    แต่เปล่าเลยครับ ไม่รู้ซะแล้ว ว่ากุแอบร้องคนเดียวมาหลายคืนแล้ว

    วันนั้น ผมเลยของมอบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความสุขให้เพื่อนๆจะดีกว่า

    คนหลายคนเดินมากอดผม และร้องไห้

    คนหลายคนร้องไห้ขณะที่ไอ้แบงค์ออกไปยืนร้องเพลง หัวใจผูกกัน หน้าห้องเรียน

    รวมทั้งไอ้เบียร์ ที่เดินมานั่งตักผมเปนครั้งสุดท้าย

    ผมได้กอดมันเปนครั้งสุดท้าย

    และได้เช็ดน้ำตามันพร้อมพูดแซวว่า ‘ไอ้ขี้แย’ เปนครั้งสุดท้ายเหมือนกัน...


    หลังจากนั้น ผมกับมัน ก้อได้เลือกเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง

    เราสองคนตอนนี้ก้อยังคงกลายเปนเส้นขนานที่จะไม่มีวันมาบรรจบกันอีกตลอดไป

    และเส้นทางของเรา ที่เคยได้ร่วมเดินทางด้วยกันมา

    มันก้อจบอยู่แค่ในความทรงจำของผมเท่านั้นเอง...

    ......................................................


    จบแล้วครับ ก๊อปไปอ่านไป แล้วก้อเลยจะร้องไห้ไปด้วยเลย

    ยิ่งนึกถึงตอนที่มันเดินมานั่งตักผม ให้ได้ผมกอดมันจากทางด้านหลัง ได้ลูบหัวมัน

    เราสองคนก้อฟังไอ้แบงค์ร้องเพลงไป จนมันก้อเริ่มสะอื้นขึ้นเรื่อยๆ นึกๆแล้วยังแปลกใจอยู่เลย ที่มันร้องไห้)

    จนผมเหนว่ามันกำลังร้องไห้นั่นแหละ

    ถึงได้เช็ดน้ำตาให้มัน และได้กอดมันแน่นขึ้นอีก...

    เปนครั้งสุดท้าย...


    ...................................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 21-02-2007 10:31:17
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า ทั้งสุข

 :impress: :impress: :impress: :impress:


ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคับ   :myeye:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 21-02-2007 15:08:20
 :monkeysad: :monkeysad:
 

 รัก คือการเสียสละ

 เรื่องราวตั้งแต่ต้นมา ที่ทั้งความสุข ความเส้า
 และมีเรื่องน่าประทับใจ เกิดขึ้น ใน 3 ปี

 อย่างน้อย เรื่องราวทั้งหมด ก็ จะอยุ่ในความทรงจำ ที่ไม่มีวันเลือนลาง " ตลอดไป "

  :impress: :impress:

 ขอบคุนสำหรับ เรื่องราว "เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ


 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 21-02-2007 16:24:47
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆนะครับ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-02-2007 19:13:16
รัก คือ การเสียสละ  :monkeysad:  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 22-02-2007 12:46:56
 :monkeysad: :monkeysad:
คนเขียน เข้มแข็งจัง  :monkeylaugh2:
แต่คนอ่าน  :monkeycry2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 22-02-2007 13:21:02
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่มาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ

แต่ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ค่ะเนี่ย

เสียน้ำตาเลยเรา   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 22-02-2007 14:59:54
จบแล้วสินะครับ ในที่สุด..............

ขอโทษนะครับ ที่ผมไม่ได้เอามาโพสด้วยตัวเองทั้งๆที่เจ้าของกระทู้ก็ยุ๊งงยุ่งงง
แต่บอกตามตรง ผมไม่สามารถมาทนอ่านได้อีกรอบและล่ะครับ

มันเปลี่ยว...............


ขอบคุณจริงๆๆครับ

ปล. เดี๋ยวมาพบกับบทสรุปของทุกๆอย่างนะครับ พิมสดๆร้อนๆ เพื่อเวบนี้โดยเฉพาะ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 22-02-2007 16:15:37
มารอก่อนใคร  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-02-2007 17:59:08
นั่งรอด้วยคน  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-02-2007 11:35:05
มีตอนพิเศษมาฝากนะครับ ก่อนที่คุณต้นจะมาบอกแะไรเพื่อนๆ

--------------------------------------------------------------

:: บทส่งท้ายรักครั้งแรกของไอ้ต้น ::
    ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับทุกคนที่ติดตามความรักครั้งแรกทั้งของผม และของไอ้เบียร์มาจนถึงปลายทาง

    อย่างที่ผมบอกแหละครับ ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าทุกคนจะคิดยังไง กับการลงเอยของผมกับมัน และตอนจบของเรื่องที่ผมถ่ายทอดออกมา

    ผมบอกตามตรง ว่าเครียดมากเลยครับ ตั้งแต่ตอนที่เขียนเรื่องหลังจากไปทะเลจบ ว่าผมจะให้เรื่องมันลงเอยยังไงดีว้า กุจะจบยังไงดี... เพราถ้าทุกคนจำกันได้ ที่ผมเคยเครียดอยู่ช่วงนึง นั่นคือคืนนั้นผมได้รู้ถึงข่าวคราวบางอย่างเกี่ยวกับมันที่ทำให้ผม เสียใจ มากครับ

    ไม่รู้เลย ตอนนั้น ไม่รู้เลยจริงๆครับว่าจะสามารถแต่งเรื่องนี้ได้ไปถึงจุดไหน เพราะยิ่งใกล้ถึงจุดสุดท้ายของเรื่อง ผมก้อยิ่งตัน... ไม่สามารถจะนึกคำพูดอะไรออกมาได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเจ็บปวดที่ผมต้องเจอเมื่อนึกย้อนกลับไปอีก บวกกับการต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในความเป็นจริงด้วย...

    สำหรับคนที่สงสัยถึงความสัมพันธ์ของผมกับไอ้เบียร์ ณ เวลาปัจจุบันนี้นะครับ...
    หลังจากจบมอหกไป ผมกับมันก้อยังได้ติดต่อกันเหมือนเดิม โทคุยกันบ้าง ถึงไม่ทุกวันครั้งละนานๆแล้วก้อตาม
    แต่ว่าก้อยังไม่ขาดการติดต่อกันไปเลย

    จนผมและมันเข้ามหาลัยคนละที่ เราก้อค่อยๆห่างกันออกไปในที่สุด
    บางคนอาจจะบอกว่า อยู่แค่คนละมอ ก้อนัดเจอกันได้...
    ได้ครับ ได้แน่นอน เจอกันบ่อยมากๆๆด้วย
    แต่ว่า เจอกับเพื่อนในห้องคนอื่นๆนะครับ ไม่ใช่เจอมัน
    มันไม่ค่อยมาเจอพวกผมหรอกครับ น้อยมากๆ ผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่ามันโผล่หัวออกมาแค่กี่ครั้ง

    บอกแล้วไงครับ ว่าผมกับมัน กลายเปนเส้นขนานกันไปแล้วจริงๆ...

    ณ เวลานี้นะครับ ไอ้เบียร์มีแฟนแล้วครับ เปนเพื่อนผู้หญิงในห้องผมคนนึงเองแหละ
    เพื่อนสนิทในกลุ่มกันด้วยครับ
    สนิทมากๆๆๆ
    ขอโทษนะครับ ที่ผมไม่ได้เล่าเรื่องของเธอคนนี้ให้ทุกคนฟังเลย...

    ผมก้อพอรู้อยู่บ้างนะครับ ว่ามันน่าจะจีบเพื่อนผมคนนี้
    ตั้งแต่ตอนมอหกแล้ว... ก้อทางเดินของมันนิครับ
    ผมจะทำไงได้ล่ะครับ ถ้าเปนทุกคน จะรู้สึกยังไงบ้าง เมื่อเพื่อนสนิทผมโทมาบอกว่าคบกับแฟนเก่าผมอยู่
    ยอมรับว่าตอนแรก เจ็บนะครับ
    แต่ว่าผมก้อผมดีใจจริงๆ ผมขอแค่ให้เพื่อนผมมีความสุข เท่านี้ผมพอใจแล้ว
    ผมยังบอกเพื่อนผมเลยครับว่า ถ้าเมื่อไหร่ไอ้เบียร์ทำเธอเสียใจ แม่งซวยแน่
    แต่ผมไม่ดีใจกับแฟนเก่าผมเลยนะครับ ที่เขาพบรักใหม่
    ผมมีเหตุผลครับ... มันซับซ้อนมากจริงๆ
    แต่ผมขอแค่มันมีความสุข ผมก้อไม่หวังอะไรแล้วครับ
    ความรักของผม ขอแค่ผมรักมัน ไม่ว่ายังไง ไม่หวังสิ่งตอบแทน ก้อโอเคแล้ว...

    ตอนต้นๆปี 1 ผมก้อยังคุยกับมันอยู่นะครับ
    และมีคำพูดคำนึงที่ผมอยากจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้รู้กัน
    เปนคำพูดคำสุดท้ายของมันที่พูดกับผมและผมรู้สึกดีมากๆจริงๆ ที่ผมจำได้
    ผมคุยกับมันเรื่อง เพื่อนผมคนที่มันคบอยู่ตอนนี้แหละครับ
    แต่ตอนนั้นมันยังไม่ได้คบกันนะ
    มันบอกว่า มันไม่อยากจะคบเขาเท่าไหร่หรอกครับ
    เพราะ เขามีแฟนอยู่แล้ว เปนเพื่อนสนิทมันเองอีกด้วย
    ผมก้อบอกให้ตัดใจสิถ้างั้น
    มันบอกว่ายากนะ
    และมันก้อพูดว่า

    “แต่ตัดมึงอ่ะ ยากกว่า...”

    ผมก้อแบบว่า “ห๊ะ ห๊ะ อะไรนะๆ” ตามสไตล์เดิม ก้อหยอกเล่นกันไปแบบที่เคย
    ประโยคสั้นๆแค่นี้แหละครับ
    ผมดีใจ จนไม่สามารถจะบรรยายออกมาได้เลย...
    มันยิ่งเปนประโยคที่ทำให้ผมมั่นใจยิ่งขึ้นว่า
    กุกับมัน จะต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
    .
    .
    .
    แต่มันก้อได้เท่านั้นแหละครับ
    ตอนนี้ผมกับมัน ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
    ไม่เคยโทคุยกันสักครั้ง
    ไม่เคยได้ข่าวคราว
    จะได้ ก้อแค่จากเพื่อนบอกมาอีกที หรือรู้จากแฟนมันแหละครับ
    เพราะผมคุยกับแฟนมันบ่อยพอสมควร
    ......
    น่าเสียใจนะครับ
    ที่ผมไปดีใจกับคำพูดลมๆแล้งๆของมัน

    สำหรับคนที่จะบอกว่า ทำไมผมไม่ติดต่อหามันเองก่อน
    เลิกคิดไปได้เลยครับ
    ขอโทษนะครับที่ต้องพูดแบบนี้...
    แต่ว่า ผมทำดีที่สุดเท่าที่ จะทำได้แล้วครับ

    มันค่อนข้างซับซ้อนนะครับ เรื่องราวของผมกับมัน
    ต้องขอโทษอีกครั้ง ที่ผมอาจจะสื่อออกมาได้ไม่ดีพอ
    ผมถึงอยากให้ใครก้อตามที่สงสัย ไม่ว่าเรื่องอะไร
    ถามมาได้เลยครับ

    ผมกับมันก้อไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ
    มันแค่ ห่างกันออกไปเอง
    แต่ผมรู้ตัวดีครับ ว่าที่เราก่างออกไปเนี่ย เพราะมันอยากห่างออกไปเองด้วยครับ
    ต่อให้ผมโทไปคุย มันก้อคงไม่คุยกันเหมือนเดิมกับผมแล้วล่ะครับ

    สำหรับเรื่องที่ผมเครียดตอนนั้น ผมขออนุญาต ไม่เอยถึงก้อแล้วกันนะครับ
    ขอโทษจริงๆ...

    นี่แหละครับ ปลายทางของผมกับมัน มันเปนแบบนี้เอง
    คงไม่สวยหรู จบไม่สวยงาม
    แต่ผมสมหวังแล้วครับ...
    ที่ครั้งนึงผมเคยได้รักมัน

    ขอบคุณครับ
   

    ...........................................................
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 27-02-2007 11:49:18
ชิวิตจริงมันก็งี้แหละคับ...ไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิยายที่เราเขียนขึ้นเสมอไป... :impress3:

....เอาใจช่วยนะคับ.....แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไป...

ป.ล....ขอโทษคุณต้นด้วยนะคับที่อ่านแล้วไม่ค่อยได้เข้ามาโพส...ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 27-02-2007 12:13:28
การที่เรื่องทุกอย่างจบลงแบบนี้ ผมว่ามันก็มีข้อดีในตัวของมันเองนะครับ

ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะรู้สึกแบบไหนกับช่วงเวลานั้นๆมากกว่า

การเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้ มันฟังดูเศร้าครับ

แต่หากเรามองอีกมุม แม้เส้นขนานจะไม่มีวันบรรจบกัน แต่มันก็จะอยู่เคียงข้างกันไปเสมอ ไม่มีวันที่จะแยกออกจากกัน . . .



เป็นกำลังใจให้สำหรับทุกย่างก้าวของชีวิตนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 27-02-2007 17:06:20
เราว่านะ ตอนเลิกกันมันก็เจ็บแล้ว แต่พอรู้ว่ามาคบกับเพื่อนสนิทเราอีก ยิ่งเจ็บกว่า  :monkeycry4:
ถ้าเป็นเราคงรับไม่ได้ ต้นเข้มแข็งจัง สู้ๆๆๆๆ กันต่อไป  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-02-2007 18:02:19
เข็มแข็งไว้นะ สู้ สู้ แล้วจะดีเอง :110011: :110011: :110011:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 27-02-2007 18:16:29
เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะค่ะ

เข้มแข็งไว้นะค่ะ

ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-02-2007 11:18:33
บทสรุปสุดท้ายของรักครั้งแรก

บทสรุป ของท้องฟ้ากับก้อนเมฆ

.............................................................................


เมื่อเริ่มต้นมีการเดินทาง เมื่อปลายทางย่อมมีการจากลา
จริงๆแล้วสิ่งนี้มันก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนจะต้องเผชิญ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว รึจะเจอในสถานการณ์ไหนเท่านั้น


เรื่องราวความรักของผมกับไอ้เบียร์ซึ่งเป็นรักครั้งแรกของผมแบบจริงๆจังๆนั้น

เป็นความรักที่ไม่ใช่ปั๊ปปี๊เลิฟ
เป็นความรักที่ทำให้ผมได้เรียนรู้
เป็นความรักที่ทำให้ผมได้รู้ถึงจิตใจและตัวตนของตัวเอง
เป็นความรักที่สอนผมในหลายๆสิ่ง
และเป็นความรัก ที่ผมจะไม่มีวันลืม


จริงๆเรื่องราวที่ทุกคนได้อ่านมันก็เป็นเรื่องที่เกิดกับผมมานานพอตัวแล้ว
ไม่นานนักหรอกครับ แต่ก็นานพอที่จะทำให้อะไรๆบางอย่างมันหักเหไปได้มากกว่าที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้

เรื่องราวของผมกับไอ้เบียร์เกิดขึ้นเมื่อตอนผมอยู่มอปลาย
และผมก็พิมเรื่องนี้ลงเวบๆหนึ่งเมื่อตอนผมอยู่มหาวิทยาลัยสักประมาณตอนปีสองได้

นั่นเท่ากับผมห่างหายจากมันไปประมาณสองปี จึงได้เริ่มพิมเรื่องๆนี้ขึ้น
ระหว่างที่พิมลงเวบนั้น มันก็เหมือนกับผมได้ระบายบางสิ่งบางอย่างที่อัดอั้นเอาไว้ให้คนอื่นๆได้อ่าน
ไม่ได้มีเจตนาจะเป็นนักเขียนหรืออยากจะให้มีคนอ่านเยอะๆเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะนั้นก็เป็นงานเขียนงานแรกของผมเลยเหมือนกัน ผมจึงรู้ว่าสำนวนการเขียนอะไรของผมมันไม่ได้ดีเด่สู้คนอื่นๆที่เค้ามีคนอ่านกันกระทู้ละหลายร้อยรีได้หรอก

แต่ผมก็ต้องยอมรับว่า เมื่อผมเล่าไปได้เรื่อยๆ คนที่สนใจเรื่องของผมกับไอ้เบียร์ก็มีมากขึ้น
และเมื่อมันจบลง ผมก็ดีใจสุดๆจริงๆ ที่มีคนอีกหลายสิบคนมารีส่งท้ายให้และบางคนก็บอกว่าได้ร้องไห้และเรียนรู้ไปพร้อมๆกับผม

และเมื่อตอนนั้นที่พิมๆไปมันก็มีบางช่วงที่ผมได้พบได้เจอกับมันหรือได้รับรู้เรื่องราวของมันที่ทำให้ผมต้องได้มาระบายเพิ่มลงไปอีกนอกเหนือจากพล็อตเรื่องที่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเล่า
ซึ่งในเวบนี้ที่เอามาลงอีกครั้งก็คงไม่สามารถยกเรื่องราวสั้นๆบางอย่าง ณ เวลาเมื่อปีก่อนมาลงไว้ให้ได้เพราะคนอ่านก็คงจะไม่เข้าใจอย่างแน่นอน

นอกเหนือจากนั้น ครั้งแรกที่ผมลงเรื่องนี้ ผมใช้ชื่อกระทู้ว่า “เล่ามั่งดิ่ :: รักครั้งแรก ::”

จนเมื่อจบลง ผมห่างหายไปจากเวบนั้นพอสมควรก็มีคนเอามารีโพสอีกครั้ง
และหลังจากนั้นอีกหลายเดือน ผมก็เอามารีโพสอีกรอบ และนั่นก็คือที่มาของชื่อกระทู้ว่า “เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือการเสียสละ ::”


ทุกอย่างมันก็มีเหตุผลครับ


เพราะว่า........... หลังจากจบรักครั้งแรกไปแล้ว กีอีกหลายคนมากๆๆๆ อยากให้ผมกลับไปเล่าอีก
มันก็เลยเกิดเรื่องเล่าขำๆของผมขึ้นมาอีกครั้งนั่นคือ “เล่าอีกเหอะ :: รักครั้งที่สอง”

และตอนจบของทุกรัก ก็จะมีบทสรุปว่าความรักคืออะไรของผมในช่วงเวลาชีวิตแต่ละช่วงเอาไว้ด้วย............

ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ ว่าที่นี่จะได้เอามาลงอีกรึเปล่า
มันเป็นเรื่องราวสนุกๆของผมตอนผมเข้ามหาลัยน่ะครับ และแน่นอนว่าต้องยังมีเรื่องราวของไอ้เบียร์มาเกี่ยวด้วย
เพราะตอนนั้นผมก็ยังมีได้คุยได้เครียดเรื่องของมันอยู่บ้าง

ตอนแรกที่จะก๊อปเรื่องรักครั้งที่สองมาลง word นี้ทำยากมากๆเลยครับ
เพราะมันมีเรื่องของไอ้เบียร์ปนๆอยู่เยอะพอควร
เนื่องจากช่วงที่เล่า ช่วงที่พิมรักครั้งที่สองนั้น ผมได้ไปเจอกับมันบ่อยขึ้น
จึงทำให้มีเรื่องมาบ่นมาระบายเยอะขึ้นตามไปด้วย เป็นเหมือนเรื่องเล่าแถมๆคั่นเรื่องรักครั้งที่สองไปในตัวเลยน่ะครับ

(ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณ คุณหนึ่งในดวงใจ มากๆๆเลยครับ ที่สามารถเอาเรื่องรักครั้งแรกมาลงให้ผมได้ถึงขนาดนี้)


หลังจากนั้นการที่ผมเอาเรื่องรักครั้งแรกมารีโพสอีกครั้งทั้งๆที่ผมเองก็รู้ว่ามีคนเคยเอามาโพสแล้วนั้นก้อเป็นเพราะว่า ตอนนั้นผมรีโพสรักครั้งแรก และตั้งใจว่าจะรีโพสรักครั้งที่สอง และจะตามด้วยการเล่าเรื่อง “รักครั้งที่สาม” รักครั้งล่าสุดของผมน่ะครับ

แต่สุดท้ายผมก็ขี้เกียจซะก่อน เลยโพสได้แค่รักครั้งแรกส่วนรักครั้งที่สองผมส่งทางเมล์เอา
ส่วนรักครั้งที่สามผมก็พิมไปโพสไปจนจบลงไปแล้ว...............


และ ท้องฟ้ากับก้อนเมฆจึงถือกำเนิดขึ้นมา..............


เรื่องราวของท้องฟ้ากับก้อนเมฆ ครั้งแรกที่ผมพิม มันเกิดจากความรู้สึกอยากระบายแบบสุดๆจริงๆ
ผมเริ่มต้นพิมตอนแรกโดยที่ผมยังไม่มีแม้แต่โครงเรื่อง ชื่อเรื่อง หรือแนวทาง
ผมขอแค่ได้ระบายๆๆๆมันออกไป (มันถึงได้มีแต่ มึง กู และคำหยาบเต็มไปหมดไงครับ)

เมื่อผมพิมไปได้จนถึงส่วนหนึ่ง ผมลองเอาให้คนที่รู้จักผมอ่าน บางคนก็จับได้ทันทีเลยว่า ผมเป็นคนพิม และบางคนก็บอกว่าเหมือนผมกับไอ้เบียร์เลย

(แต่บางคนที่สนิทๆกับผมมากๆก็ยังไม่รู้นะ)

เรื่องของเรื่องที่ทำให้ศิลากับฟ้าครามได้ถือกำเนิดขึ้นมานั่นคือ เช้าวันหนึ่ง ผมตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่และเมื่อเอื้อมมือไปหยิบมือถือ ผมก็พบกับเมสเสจที่แฟนของไอ้เบียร์ส่งเข้ามาบอกผมว่า

“เลิกกันแล้วนะคะ อ่านดูในเมล์”

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-02-2007 11:19:43
(๒)

นึกๆดู.............. การที่ผมได้เล่าเรื่องราวต่างๆของผมมาตลอดสองปีนี้มันคงทำให้อะไรบางอย่างเริ่มซึมเข้ากระแสเลือดผมไปแล้วล่ะมั๊งครับ.........

เมื่อมีเรื่องราวอะไร เกิดเหตุการณ์อะไร หรือพอผมเริ่มรู้สึกเหงาๆอะไรสักอย่างขึ้นมา
ผมก็มักจะมานั่งเปิดแลปทอปและเริ่มต้นพิมนู่นนี่เรื่อยเปื่อยไปซะแทบทุกครั้ง........


และครั้งนั้นก็ไม่ต่างกัน..........


เช้าวันเสาร์ที่ทำให้ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความงุนงงเหมือนโดนรถบรรทุกชนเข้าที่หัวอย่างจัง


.
.
.


“เลิกกันแล้วนะคะ อ่านดูในเมล์”


ผมรีบกระโดดลงจากเตียงและเปิดแลปทอปเข้าเช็คเมล์ทันทีด้วยหัวใจเต้นแรง
ไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น
สำหรับผมมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆๆๆ
ถ้ามันสองคนเลิกกัน แล้วต่อไป “พวกเราทุกคน” จะกลายเป็นยังไง...........

ผมรีบเปิดอ่านเมล์ที่แฟนไอ้เบียร์ส่งเข้ามา และมือก็กดมือถือโทรหาเธอคนนั้นไปด้วย
พอผมได้คุยกับเค้า ได้ยินเสียงเค้า ความรู้สึกแรกเลยที่ผ่านเข้ามาในหัวของผมคือ
ผมเป็นห่วงเมย์มาก
เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดคนนึงของผม และเราก็สนิทและรักกันมากๆๆด้วย
ผมจึงเคยพูดไปว่าผมจะไม่มีวันให้อภัยมันเลย ถ้ามันทำให้เธอต้องเสียใจ

ผมอาสาไปอยู่กับเธอนานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ถึงแม้ว่าวันนั้นผมจะมีเรียนและตอนบ่ายผมจะต้องรีบกลับบ้าน ผมก็จะไป

วันนั้นผมได้รับรู้เรื่องราวหลายอย่างของไอ้เบียร์ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่และก็เสียใจมากๆ

หลังจากวางหูไป ผมก็รีบโทรหาพี่ชายของผมที่คอยให้คำปรึกษาผมมาตลอดและเล่าให้พวกเค้าฟัง
บอกตรงๆผมช็อคมากๆ และก็รู้สึกแย่ สับสน และจิตตกสุดๆจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงต่อ ผมไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง และผมก็ไม่รู้ว่า ผมจะต้องเสียมันไปแล้วจริงๆน่ะหรือ.........

แฟนไอ้เบียร์เหมือนเป็นสิ่งสุดท้ายที่ยึดเหนี่ยวมันเอาไว้ให้อยู่กับพวกเราเพื่อนๆเก่า เป็นโซ่เส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมกับมันยังมีสิ่งเชื่อมโยง และเป็นหนทางเดียวที่ผมจะได้รับรู้ความเป็นอยู่และข่าวคราวของมัน

แต่ต่อจากนี้ถ้ามันเลิกกันไปล่ะ............ ผมกับมันคงไม่มีวันโคจรได้มาเจอกันอีกแน่ๆ...........

ตอนนั้นผมทั้งเสียใจ โกรธ(ไอ้เบียร์) สับสน และ............. เป็นห่วงไอ้เบียร์มันมากด้วยจริงๆ

ผมเอาแต่คิดตลอดเวลาขณะผมอยู่กับแฟนมันว่า ตอนนี้ไอ้เบียร์เองจะเป็นยังไงบ้างแล้วนะ มันจะคิดยังไง จะอยู่ยังไง จะมีใครคอยให้คำปรึกษาหรือเปล่า.........

แต่เมื่อวันๆนั้นสิ้นสุดลง ผมกลับมาถึงบ้าน
ความสับสนที่ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรได้หายไป
แต่ความนึกคิดที่เต็มเปี่ยมได้เข้ามาแทนที่ และถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ
กลายเป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของผมที่ได้ชื่อว่า “เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้.................” โดยคนเขียนชื่อ “ท้องฟ้ากับก้อนเมฆ”


หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 28-02-2007 11:57:42
อืมคุณExecutioneR มาลงเองเลยนะครับเนี่ย เป็นกำลังใจให้นะครับ ถ้ามีไรอีกก็เล่าต่อได้เลยผมจะรออ่านอีกนะครับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 28-02-2007 12:14:59
มาเป็นกำลังใจให้ครับ :yeb:

พึ่งรู้นะเนี่ย ว่าเป็นเรื่องที่เนื่องเกี่ยวกันกับศิลาและฟ้าคราม :impress3:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 28-02-2007 16:32:32
เวลาเรามีความสุข...เราก็อยากจะหยุดเวลานั้นเอาไว้หั้ยอยู่กับเรานานๆ

แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้...เราคงทำได้เพียง....

..............อยากหั้ยคนที่เรารักมีความสุข.....แม้เราจะไม่ได้อยู่เป็นคนที่เขารักก็ตาม.... :impress3:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 28-02-2007 16:39:11
เข้ามาร่วมให้กำลังใจด้วยอีกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-02-2007 19:52:26
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :yeb:
ได้รับรู้ที่มาของศิลาและฟ้าคราม ซึ่งเป็นเรื่องที่ประทับใจมาก ๆ  :monkeysad:
มารอรับฟังเรื่องราวต่อไปค่ะ  :monkeysad:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 28-02-2007 20:00:49
เป็นกำลังใจให้ด้วยอีกคน  ชอบเรื่องของคุณต้น (รึเปล่า) ทุกเรื่องเลย 
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเรื่องที่แต่งเกี่ยวข้องกันนะเนี่ย
จาติดตามผลงานไปเรื่อย ๆ นะ  :loveu:  :loveu:  :loveu:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 28-02-2007 20:10:27
มาเปนกำลังใจค้าบบ พี่ต้น ฮ่าๆ ( เรียกพี่ล่ะกัน)
 :give2: :give2:


 :เชิป2: :110011: :เชิป2: :110011:

จะติดตามต่อไปเหมือนกันค้าบบ ^^
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-02-2007 22:51:58
(๓)

ผมใช้เวลาไม่นานในการแต่งท้องฟ้ากับก้อนเมฆ แต่ใช้เวลานานกว่า ในการดีไซน์ตอนจบ
ตอนจบแรกของผมมันเศร้าซะจนผมไม่อยากพิมต่อ เพราะพิมไปก็จะร้องไห้ไป
ผมเลยเปลี่ยนให้มันจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง

แต่มันก็ไม่ตรงกับชีวิตจริงของผม

ผมเลยเปลี่ยนอีกเป็นจบแบบแอบซึ้ง เหมือนจะแฮปปี้ แต่ก้อไม่แฮปปี้ จบแบบเปลี่ยวๆ แกล้งคนอ่านเล่นๆ

แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้ เลยได้ตอนจบแบบที่ลงให้ทุกคนได้อ่านมานี่แหละครับ

สรุปความเกี่ยวโยงของท้องฟ้า ก้อนเมฆ กับ ไอ้ต้นและไอ้เบียร์แล้วก็คือ

ผมคงสูญเสียมันไปแล้วตลอดกาล............. เหมือนดั่งก้อนเมฆที่สูญเสียท้องฟ้าไป............

ไม่ใช่แค่สูญเสียมันเพราะมันไปจากผม แต่เหมือนกับผมเสียมันที่เป็นมันที่ผมเคยรู้จักไปแล้วด้วย..........


.
.
.


แต่สุดท้าย เวลาที่ถูกหยุดเอาไว้ ก็เริ่มเดินต่ออีกครั้ง..............

น่าแปลกที่ผมกับมันได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง
และน่าแปลกกว่า ที่อะไรๆในวันนั้นมันช่างสุดยอด และทำให้ผมมีความสุขมากๆๆจริงๆ
มันเหมือนกับ ผมได้ตัวตนของมันกลับมาแล้ว................

ถึงจะแค่วันเดียว แต่คนที่นั่งอยู่กับผมตรงนั้น ตอนนั้น นั่นคือไอ้เบียร์จริงๆ!!



หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-02-2007 22:53:08
(๔)

ดูซิ ว่าจะสรุปสั้นๆ แต่ไปๆมาๆ ก็ยาวอีกจนได้
นิสัยเสียจริงกรู.............


.
.
.


วันหนึ่งหลังจากที่มันสองคนเลิกกันแล้ว ผมได้มีโอกาสออนเอ็มแล้วเจอมันออนไลน์อยู่พอดี
ผมเลยทำใจกล้าทักมันซะ

และได้คุยดีมากกกก มากแบบไม่น่าเชื่อ
ผมขอเบอร์มัน และมันก็ขอเบอร์ผม
ผมได้โทรคุยกับมันเกือบสี่สิบห้านาที (ไม่ได้จะโทรไปคุยนะ จะยิงเบอร์ และมันเสือกกวนตีนรับ และไม่ยอมให้วาง แสดดด)
และที่สำคัญ ผมได้ยินเสียงหัวเราะของมันอีกครั้งในแบบที่ผมรู้ว่านั่นไม่ใช่เสียงหัวเราะแบบปลอมๆที่ผมเคยเจอมาในช่วงสามปีนี้............

วันหนึ่งหลังจากผมเรียนเสร็จผมโทรหามันและชวนมันไปดูหนังด้วยกัน
น่าแปลกมากที่มันตอบตกลงอย่างไม่ยากเย็นเลย

ถึงแม้จะมีลีลาลูกเล่นบ้างตามแบบของมันแต่มันก็ตกลงไปกับผม

ครั้งแรกที่ผมได้เจอมัน ได้เห็นหน้ามัน ใจผมหวั่นไหวขึ้นมาทันที
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ช่วงเวลา ที่ผมได้อยู่กันสองคนแบบจริงๆจังๆ
ช่วงเวลา........... ที่ผมมีมันที่เป็นมันกลับมาอีกครั้ง............

ผมยังไม่เสียมันไป..............


เราสองคนไปดู the holiday ครับ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ที่มันเองก็มีความสุขในวันนั้นเช่นกัน.............

(มีอะไรหลายๆอย่างมากเลยล่ะ อะไรที่ทำให้ผมดีใจ และอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมได้แอบเอาไปนอนคิดฝันถึงและยิ้มให้ตัวเองอยู่คนเดียวได้......... แต่ผมขอไม่เล่านะ หุหุ)

หลังจากกลับมา หลังจากแยกจากมันผมเลยต้องรีบโทรไปเล่าให้พี่ๆที่สนิทกันฟังทันทีเลย
เพราะผมทนเก็บความรู้สึกอิ่มเอมใจนี้ไว้คนเดียวไม่ได้จริงๆ

(ไม่ใช่แค่พี่ๆนะ แฟนผมคนปัจจุบันผมก็เล่าให้มันฟัง............. มีแฟนเหมือนเป็นแม่พระคับ ใจกว้างงงงงงงงง อิอิ)


นอกจากนั้นผมยังได้ไปเจอมัน ไปหามันที่มหาลัย (เพราะต้องไปทำธุระน่ะ) และได้พูดคุยกับมันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ช่องว่างที่ผมกับมันเคยมี............ ดูแคบลง

ถึงมันจะยังไม่แคบพอที่จะทำให้อะไรๆมันเหมือนเดิม แต่แค่มันแคบลงได้สักนิดเท่านี้ผมก็มีความสุขใจแล้วครับ


และนั่นคือที่มาของ เวลาที่เริ่มเดินอีกครั้ง....................... ผมไม่อยากให้ศิลากับฟ้าครามต้องแยกกันอยู่ แต่ผมดับไอ้เบียร์กลับได้มาเจอกันอีกครั้งน่ะครับ

.
.
.


ถ้าเรามัวรอแต่ฟ้าและปาฏิหาริย์มอบช่วงเวลาดีๆให้แก่เรา วันที่วันนั้นมาถึงก็คงเป็นเพียงวันสุดท้ายของชีวิต
เพราะท้องฟ้าและเทวดาคงทำได้แค่สร้างจังหวะชีวิตดีๆ ท่วงทำนองที่สวยงาม และมอบความกล้าอันเล็กน้อยให้แก่เราได้เท่านั้น
เราเองที่ต้องสานต่อความกล้านั้น และก้าวเดินต่อไปตามจังหวะของหัวใจที่ถูกรังสรรค์.....................

ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนไปยังไง ไม่ว่าความรักที่ผมมีให้ใครคนไหนจะเป็นเช่นไร แต่ความรักที่ผมมีให้มันก็จะยังไม่คงเคยเปลี่ยนแปลง................. รักที่จะเสียสละ

ต่อแต่นี้ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ผมจะไม่ทิ้งท้องฟ้าของผมไปไหนไกลอีกแล้ว...................................





ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผม
ขอบคุณเจ้าของเวบ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ขอบคุณคนอ่าน
และขอบคุณความทรงจำดีๆ และสมองปลาทองน้อยๆของผมที่ทำให้ผมได้มีเรื่องราวต่างๆมาเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ ได้อ่านกันนะครับ

สักวันหนึ่ง ถ้าไอ้ต้นเกิดเบื่อ หรือมีอารมณ์ยากแต่งเรื่องสั้นๆออกมาอีกล่ะก็...........
ก็คงจะได้เจอกันอีกนะ

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับความรักมากๆนะครับ จุ๊บๆๆ




จากแง่มุมความรักเล็กๆของคนหน้าตาดีตัวเล็กๆอย่างผม / ต้น

ปล. ขอบคุณไอ้ทึ่มด้วยนะจ๊ะ ที่ไม่หึงเรื่องของพี่กับไอ้เบียร์ รักเสมอนะ จุ๊บๆ
ปล.สอง อย่าสับสนระหว่างเรื่องจริงกะเรื่องแต่งนะครับ ตอนนี้ผมกะไอ้เบียร์เป็นแค่เพื่อนนะครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นและก็จะไม่มีวันมากกว่านี้ด้วย
ปล.สาม รักไอ้ทึ่มม๊ากมากกก หิหิหิหิ


หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 28-02-2007 22:59:34
แถม

เมื่อวานไปดูหนังกะมันมาด้วยคับ เรื่อง music and lyrics
เพราะวันก่อนได้คุยกับมันแบบจริงๆจังๆสักที
เกือบสองชั่วโมงแน่ะ
พูดทุกอย่างเลย ทั้งเรื่องของผมกับมันและเรื่องของมันกับเพื่อนๆทุกคน


ผมก็เลยมีข่าวดีมาบอกทุกคนว่า ผมได้มันกลับมาแล้วจริงๆครับ
และไม่ใช่แค่ผมได้มันกลับมา แต่เพื่อนๆผมทุกคนก็คงจะได้มันกลับมาเหมือนเดิมแล้วเช่นกัน

 :110011:

และวันนี้ก็ยังได้เจอกันอีกด้วย
เพื่อนผมยังแปลกใจเลยที่มันเป็นฝ่ายเอ่ยปากว่าจะมาหาแล้วก็มันเองก็เป็นฝ่ายชวนผมไปดูหนังด้วย

 :fox2:

แต่ตอนนี้ยังไม่อะไรจะเล่ามากมายคับ (เก็บไว้มโนคนเดียว 555)
และหลังจากนี้ผมจะไป ตปท สามเดือนน่ะคับ
กลับมาอีกทีกลางเดือน มิย

เจอกันใหม่ตอนนู้นนนนนน นะคับ

 :myeye:


หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 28-02-2007 23:07:39
จะรอครับอิๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ ?tabindex=
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-02-2007 23:09:47
 อ่านบทสรุปที่คุณต้นเล่าให้ฟัง แล้วมีความสุขจัง  :impress3:  :impress3:
ในที่สุด ศิลากับฟ้าครามก็กลับมาอยู่ด้วยกัน และเวลาก็เริ่มเดินอีกครั้ง  :monkeysad:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ เหล่านี้ค่ะ  :myeye: ดีใจที่ได้อ่าน  :impress3:
แอบหวังว่าคุณต้นคงเบื่อและมีอารมณ์อยากแต่งเรื่องสั้นอีกเร็ว ๆ นี้ จะรอติดตามผลงาน
และขอให้โชคดีในการเดินทางค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ ?
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 28-02-2007 23:10:42
ขอให้โชคดีกับการเดินทางครับ :yeb:


ปล.คุณต้นก็เล่าเรื่องของคุณต้นกับแฟนคนปัจจุบันต่อเลยจิ เอิ๊กๆ :call:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 28-02-2007 23:12:31
ยินดีด้วยคับ กับความสุขที่ได้กลับคืนมา หวังว่ามันจะอยู่กับคุณตลอดไป  :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-03-2007 04:43:30
รอค่ะ จะรอ มาต่อไวไวนะ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-03-2007 08:07:05
ขอบคุณต้นครับ สำหรับเรื่องดีๆ ขอโทษด้วยที่มาต่อให้ช้า

ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ

ขอบคุณหนูบลูสำหรับ เล้าแห่งนี้

ขอบคุณเซ็งเป็ดที่ทำให้เราได้รู้จักกัน

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามเรื่องอย่างกระชั้นชิด

จนกว่าเราจะพบกันใหม่

ขอบคุณครับ

 :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 01-03-2007 09:11:57
อ่านบทสรุปแล้วมีความสุขเหมือนที่คุณ shell บอกไว้เลยค่ะ (ไม่ได้ลอกเลียนแบบนะค่ะ แต่รู้สึกอย่างนี้จริงๆ)

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่มีมาให้อ่านนะค่ะ

สุดท้าย ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะค่ะ

และจะรออ่านเรื่องราวดีๆ อีกนะค่ะ 

 :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-03-2007 11:39:42
แล้วเจอกันใหม่นะคับคุณ  ExecutioneR  :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 13-06-2007 16:19:28
ขอบคุณบทสรุปดีๆๆๆๆ..ของคุณต้นนะ.. อ่านแล้วยิ้ม
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: blackberry2214 ที่ 18-10-2008 21:32:56
อุตส่าห์มารีนะเนี่ย

ติดสำนวนพี่ต้นละอ่ะตอนนี้

ตามอ่านแมร่งทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 20-10-2008 09:35:14
อุตส่าห์มารีนะเนี่ย

ติดสำนวนพี่ต้นละอ่ะตอนนี้

ตามอ่านแมร่งทุกเรื่อง

ขอบคุณจ้า น้องเลิฟ

อิอิ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: popper ที่ 24-10-2008 05:02:00
อ่ารักครั้งเเรกของพี่ต้น

อ่านไป อยุ่ดีๆเพลงก้อรันขึ้นมาเป็นเพลง

เก็บอยุ่ในหัวใจ

ขอบอกว่าน้ำตาไหลเลยล่ะพี่ อ่านมาก้อถึงตีห้าเเล้ว (ไม่หลับไม่นอน 55+)

เรื่องของพี่ต้น ทำให้เเป้งรุ้สึกดีกับความรักขึ้นอีก

มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุนค่ะ

 :n1: :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: maggy ที่ 01-02-2009 09:01:50
ชอบสำนวนของพี่ต้นมากๆเลยค่ะ

เรื่องของพี่เรื่องแรกที่กี้ได้อ่าน ไม่ใช่เรื่องสั้นหรือเรื่องเล่าหรอกนะคะ

น่าขำมั๊ย ถ้ามันจะเป็นเพียงแค่ กระทู้นึงในหมวด พูดคุยเรื่องทั่วไป

แต่กี้กลับติดใจในสำนวนรวมถึงลักษณะการพูดคุย และก็แอบเห็นว่าพี่ต้น

ได้ลงเรื่องเอาไว้เลยมาตามอ่าน

แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ซึ้งมากๆเลยหล่ะค่ะ

อ่านไปบางทีถึงกับปวดใจอ่า ก็ดีใจที่พี่ทั้งสองคนสามารถกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ

ปล.อยากรู้เรื่องไอ้ทึ่มของพี่จัง เห็นพี่เอ่ยถึงบ่อย แหะๆๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รั&#
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 03-02-2009 10:33:16
อ่านจบแล้วคะ

ความทรงจำเรื่องเพื่อนเนี่ย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มนะคะ

แล้วยิ่งที่เพื่อนสนิทที่เป็นมากกว่าเพื่อนแล้วเนี่ย ถึงแม้บทสรุปมันจะไม่ได้ลงเอยเหมือนในหนัง

แต่ก็ใช่ว่าจะจบแบบเศร้าช่ายป่ะคะ เห็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยมีความสุขในรูปแบบที่เค้าเลือกที่จะเป็นเลือกที่จะมี ถึงแม้ว่า ไม่ได้อยู่กันใกล้ๆในฐานะแฟน แต่คำว่า เพื่อนก็ไม่มีความลบล้างสถานะที่ติดตัวนี้ได้ไปจบจะตายจากกัน

ชอบสำนวนของคุณต้นคะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณ คุณJunrai_Hyper ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 16-02-2009 17:59:28
ชอบสำนวนของพี่ต้นมากๆเลยค่ะ

เรื่องของพี่เรื่องแรกที่กี้ได้อ่าน ไม่ใช่เรื่องสั้นหรือเรื่องเล่าหรอกนะคะ

น่าขำมั๊ย ถ้ามันจะเป็นเพียงแค่ กระทู้นึงในหมวด พูดคุยเรื่องทั่วไป

แต่กี้กลับติดใจในสำนวนรวมถึงลักษณะการพูดคุย และก็แอบเห็นว่าพี่ต้น

ได้ลงเรื่องเอาไว้เลยมาตามอ่าน

แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย ซึ้งมากๆเลยหล่ะค่ะ

อ่านไปบางทีถึงกับปวดใจอ่า ก็ดีใจที่พี่ทั้งสองคนสามารถกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ

ปล.อยากรู้เรื่องไอ้ทึ่มของพี่จัง เห็นพี่เอ่ยถึงบ่อย แหะๆๆ


ขอบคุณมากๆๆๆครับ แหม ไม่นึกว่าการโพสกระทู้ของผมจะเป็นตัวชักพาให้มีคนอยากรู้เรื่องราวชีวิตผมด้วยนะเนี่ย   :-[

ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากๆ ทั้งการติดตามและกำลังใจ

(ไม่รู้จะยังได้กลับมาอ่านกระทู้นี้อีกรึเปล่า งั้นเดี๋ยวผมหลังไมค์ไปด้วยเลยดีกว่า อิอิ)

ส่วนเรื่องไอ้ทึ่ม ผมเคยเล่าไปเหมือนกันครับ เพียงแต่เรื่องเล่าจากชีวิตผมมันมีในเล้าแค่อันเดียวเท่านั้นเอง

ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่ติดตามและสำหรับกำลังใจด้วย ขอบคุณจริงๆ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รั&#
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 16-02-2009 18:06:30
อ่านจบแล้วคะ

ความทรงจำเรื่องเพื่อนเนี่ย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่มนะคะ

แล้วยิ่งที่เพื่อนสนิทที่เป็นมากกว่าเพื่อนแล้วเนี่ย ถึงแม้บทสรุปมันจะไม่ได้ลงเอยเหมือนในหนัง

แต่ก็ใช่ว่าจะจบแบบเศร้าช่ายป่ะคะ เห็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยมีความสุขในรูปแบบที่เค้าเลือกที่จะเป็นเลือกที่จะมี ถึงแม้ว่า ไม่ได้อยู่กันใกล้ๆในฐานะแฟน แต่คำว่า เพื่อนก็ไม่มีความลบล้างสถานะที่ติดตัวนี้ได้ไปจบจะตายจากกัน

ชอบสำนวนของคุณต้นคะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณ คุณJunrai_Hyper ด้วยนะคะ

นี่ก็เหมือนกัน หลังไมเลยนะครับ

เผลอจดหมายผิดซองไปซะแล้ว 5555

แต่ก็ขอบคุณมากๆๆนะครับ ขอโทษทั้งสองคนด้วยที่มาตอบรีช้าไปหน่อย  :call:

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: azaki ที่ 03-03-2009 13:32:13
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

อ่านจบเมื่อก้แล้วเศร้ามากๆๆครับ   ที่จริงไม่อยากอ่านเรื่องเศร้าเท่าไร  อ่านแล้วมันกินใจตลอด  เศร้าๆๆๆๆๆๆ

รู้สึกดีมากกับเรื่องนี้ครับ  ขอบคุณมากๆๆครับที่ลงเรื่องนี้จะติดตามผผลงานเรื่อยๆครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 04-03-2009 22:37:24
เป็นความทรงจำที่หลากหลายทางอารมณ์มากเลยครับ แล้วก็ดีใจมากๆที่คุณต้นได้เพื่อนสนิทกลับมาอีกครั้ง หวังว่าคุณต้นจะมีความสุขมากๆนะครับ อ่านไปน้ำตาไหลเลยง่ะตอนช่วงแรกๆที่คุณเบียร์เข้าโรงพยาบาล แต่ผมก็ดีใจมากเลยที่คุณเบียร์หายดีแล้ว แข็งแรงๆ  o13

ยังไงก็ขอให้เพื่อนที่แสนดีอย่างคุณสองคนอย่าพลัดพลากกันอีกเลยครับ ผมเองก็ยังอยากจะมีเพื่อนที่แสนดีแบบนี้เลย หุหุ  :z2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Garirin ที่ 11-07-2009 20:56:34
เศร้า  ซึ้ง  กินใจ

จริงๆ

 :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 13-07-2009 01:09:21
สนใจเรื่องนี้เพราะ กระตู้นึงที่คุณเคยโพสไว้เลยทำให้อยากรู้จักคุณและคุณทึ่ม
.......................................
ถ้าเปนกุก้อคง


"เปนไร ไอ้ทึ่ม หวัดแดกเหรอ"

"อืมม พี่ต้น ทึ่มปวดหัวจางงงงง"

"ยาอยู่ในเก๊ะ ไปหยิบดิ่ แดกน้ำเยอะๆนะ อ้าวน้ำหมด ลงไปซื้อด้วยล่ะ ขอหนมปังปิ้งทาเนยด้วยสามแผ่น ตังออกไปก่อนนะ"


อะไรแบบนี้
.......................................

อ่านจบปุ๊ปค้นใน google เจอเรื่องนี้สมใจยากเลย

ไอ้ต้นนุ่มนิ่ม กะ ไอ้ทึ่มจิงๆเล๊ย
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 20-03-2010 16:42:47
เพิ่งอ่านจบครับ ขอบคุณสำหรับประสพการณ์ที่นำมาแบ่งปันครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: O_o ที่ 01-04-2010 07:00:51
อ่านแบบนอนสต๊อปตั้งแต่ ศิากับฟ้าคราม มาถึงเรื่องนี้ ยังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
สนุกมาก ๆ ค่ะ อ่านไปยิ้มไป น้ำตาไหลไป เดี๋ยวจะไปอ่านภาค 2 ต่อค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว แล้วจะมาอ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ice99 ที่ 01-04-2010 15:11:14


บางครั้งความรักแม้มันจะจบลงไม่ดี แต่ก็สอนอะไรดีๆให้กับเรามากมาย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ

 :L2: แด่ทุกความรักที่สร้างเรามาครับ

หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Ramika ที่ 20-07-2010 11:01:25
ตกลง เบียร์แอบชอบบาส หรือนัท

แต่คิดว่าน่าจะเป็นนัท เพราะ นัทเป็นนางร้ายในเรื่องอื่น

อิอิ สงสัยผูกใจเจ็บ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 07:35:48
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: anat14335 ที่ 04-04-2011 14:03:41
่อ่านไป ก็แอบซึ้งไปด้วย เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 13-04-2011 21:49:57
ความรัก...

สวยงาม หรือ แสนดี

เพียงลองมองให้ดี  จะเห็นอะไรที่มันมากกว่ารัก


........ขอบคุณคุณต้นนะ  อ่านไปก็นั่งร้องไห้ไปตรงตอนสุดท้าย  เรื่องราวทุกอย่างท่ทำให้มองความรักได้หลายแง่มุม

ถึงแม้จะรู้จากชื่อเรื่องแล้วก็เหอะ  ว่า... จบไม่แฮปปี้นัก  แต่ว่า ตอนอ่าน...แฮะๆๆๆ  นั่งยิ้มและขำทุกตอน (ยกเว้นตอนสุดท้าย)

>_____<


ความรักสัมผัสได้ด้วยหลายอย่าง....


สร้างได้จากเหตุผลหลายประการ...



เปรียบดั่งประติมากรรมชิ้นเอก  ที่ตราตรึงในหัวใจนักศิลปะเสมอ....



............. สุดท้ายเราก็หวังแค่ "ครั้งหนึ่งเรา 'เคยรัก' ใครสักคนจากหัวใจเท่านั้นเอง"
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: begin ที่ 17-04-2011 04:00:02
..สนุก ซึ้ง เศร้า เก็บไว้เป็นความทรงจำ คับ..
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 20-06-2011 22:13:00
เยสสสสสสสสสส   :mc4:

ตามอ่านครบแว้ววววววววววววว  :-[

เหลือเรื่องกระดานดำ โฮกกกกกกกกกกกก ยาวมากอ่ะพี่ต้น  :z3:

แต่บ่ยั่น ระดับนี้สู้ไม่ถอย จะตามไปให้กำลังใจเด้อ  ^___^ :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 25-04-2012 19:15:39
 :เฮ้อ:   o13  :กอด1: มาสามอารมนี้สลับกันรัวๆเลยจ้า  เฮ้ออออ จบอีกหนึ่งเรื่อง เราอ่านแล้วอินตามไปมาๆๆๆๆๆๆๆ คุณต้นสุดยอดมากกกกกกกก
แล้วก้ออยากรีเควส อยากอ่านอ่ะค่าาา
V
V
V
“เล่าอีกเหอะ :: รักครั้งที่สอง”
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 25-04-2012 20:20:30
เห้อ..

เพิ่งอ่านจบตอนที่ 4

มันจะเป็นไงต่อนะ ? (ว่างกว่านี้จะมาอ่าน)
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 26-04-2012 16:04:41
ตัวชา หน้าชา ใจเต้นแรง  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Shalyon ที่ 12-05-2012 22:02:07
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับเรื่องราวดีๆที่ได้นำมาเล่าสู่กันฟัง
ใจมนุษย์นี่มันช่างยากแท้ หยั่งถึง จริงๆเลยนะครับ
แต่ยังไงชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อไป
เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ (^_^)
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 18-06-2012 00:02:04
ไม่สมหวังกับรักแรกแต่ได้เพื่อนแท้กลับมาก้อคุ้มนะ
ขอให้มีความสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 19-11-2012 04:02:43
ขอบคุณคุณต้นมาก แม้เราจะเพิ่งเข้ามาอ่านก็เถอะนะ 555+

เป็นคนนึงที่เขียนเรื่องแล้ว เรารู้สึกอินตามไปได้มาก(หายากมาก ที่เราจะอินตาม) ค่อนข้างชอบเรื่องเล่านะ เพราะว่าเหมือนเราได้สัมผัสคนจริงๆ แม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของคุณ แต่ว่านะ..มันมีบางอย่างที่พิเศษ และเราสามารถรับรู้ได้จากภาษาง่ายๆธรรมดาแต่จริงใจที่สุด อ่านแล้วดีใจตาม เสียใจ รู้สึกไปกับมัน นั่นคือสิ่งสุดยอดที่สุดแล้ว

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: mcooky ที่ 21-11-2012 00:13:16
ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟัง

พอเห็นความรักของคุณแล้วนึกย้อนถึงตัวเอง

(แบบเราแลดูเป็นคนเลวมาก)

เรานั่งอ่านเรื่องเล่านี้ แค่1-2วันก็จบแล้ว

อ่านแล้วน้ำตาไหล T^T

แต่บางจุดก็พลิกล็อค จนน่าตกใจ

ขอบคุณจริงๆที่คุณนำมา โพสใหม่

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: whynotme ที่ 10-05-2013 02:09:17
 :hao4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: LittlePrince ที่ 01-06-2013 06:29:37
เห็นคุณต้นเขียนอะไรที่ดูสดๆดิบๆแบบนี้ก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ
นึกถึงตอนอ่านเวลาที่ถูกหยุดเอาไว้เลย

ความรักวัยเด็กนี่มันก็น่ารักดีเนอะ
งอนกันบ้างหวานกันบ้าง
พอย้อนกลับไปคิดถึงมันก็คงจะเป็นความทรงจำที่ทำให้เราเป็นตัวเราจนทุกวันนี้เนอะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 07-10-2014 15:32:08
ก็แค่ลองกดเข้ามาอ่าน..ไม่ได้คาดหวังว่าพออ่านจบแล้วจะรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด

เวลาสองสามชั่วโมงที่นั่งอ่านเรื่องนี้..ทำให้ความรู้สึกเก่าๆ ที่เราเกือบลืมไปแล้วมันย้อนกลับมา

อืม..

.
.
ชอบมากจริงๆ

ขอบคุณนะครับ  :heaven
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 03-11-2014 20:06:13
อ่านรวดเดียวจบ
น่าจะได้คู่กันเนาะ
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueWizard ที่ 03-07-2016 23:04:11
อืมมม​ นึกถึงรูม​ 39  แหะๆๆ​  เพลงหน่วง​...  ก็มีความสุข​นะแต่มันก็มีความเศร้าเล็กๆมาด้วย​ แต่สำหรับชีวิตจริงแล้ว​ ผมว่าบทสรุป​แบบนี้ก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนะ​  ท้ายที่สุดถ้าสามารถทำให้ได้เพื่อนสนิทกลับมา​  ผมก็แฮปปี้นะ​  แม้ว่าสถานะเราจะไม่สามารถกลับมาเป็นมากกว่านั้นได้อีกแล้ว​ .... กว่าจะมีเพื่อนที่สนิทมากๆแบบนี้ได้​ หายกก​ มียากจะตาย

ขอบคุณ​สำหรับ​เรื่องราว​ดีๆ​เรื่อง​นี้​นะครับคุณ​ต้น​  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-07-2016 14:56:47
เพิ่งมาอ่าน ประทับใจมาก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
คุณต้น เป็นสุดยอดทั้งเพื่อน ทั้งคนรัก
ยอมเสียสละ ยอมเจ็บปวด เพื่อความสุขของคนรัก
ความรักครั้งที่ ๒ ครังที่ ๓ อยากอ่านมากๆ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 21-09-2020 02:45:09
 :o8: