[story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]"เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ  (อ่าน 85019 ครั้ง)

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้จริงๆอ่ะ เฉลยหน่อยดิ  :haun1:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
25/2

ผมกับมันตื่นมาอีกทีประมาณ ตี 4 กว่าเกือบๆตี 5 ครับ

ไอ้ชัยมันมาเคาะห้องปลุก มันบอกว่าโชคดีนะ ที่มันเปนฝ่ายอาสามาปลุกน่ะ

ตอนแรกจะไอ้ต่ายจะมาปลุกเองด้วย

ถ้ามีใครมาเหนสภาพผมกับมันตอนนั้น คงแย่แน่ๆ

เออ กูติดมึงไว้เรื่องนึงก้อได้วะ ไอ้ชัย

“เบียร์ ไปดูพระอาทิตย์ด้วยกันป่าว”

“ไม่ปายอ่าาาา ขี้เกียจจจ” มันยังซุกหน้ากับหมอนอยู่

“ไม่ต้องเลย ไปด้วยกันดิ่นะ กูดิ่ ที่ต้องเหนื่อยไม่ใช่มึง”

“อืมมม ไปก้อได้ แต่ลุกไม่ขึ้นอ่ะ ช่วยหน่อย”

ผมก้อเลยต้องลากมันขึ้นมาจากเตียง ให้มันไปล้างหน้า

ส่วนผมเดินออกมาหาเพื่อนๆก่อน มีคนที่ตื่นจะไปแค่ 4 คนครับ ที่รอผมกับไอ้เบียร์อยู่อ่ะนะ

มีไอ้ต่าย ไอ้บาส(ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะตื่น ปกตินอนขี้เซาโคตรๆ) ออม แล้วก้อ ไอ้ป๋อม ครับ

รวมผมกับไอ้เบียร์ด้วยก้อ 6 คน... ไอ้ชัยไม่ไปครับ

ก้อครับ... ผมเดินคู่ไอ้เบียร์ ไอ้ต่ายเดินคู่ไอ้บาส ส่วนออมเดินคู่ไอ้ป๋อมครับ (เขาสนิทกันเหมือนกานนะ เพื่อนกันๆ)

ระหว่างที่เดินกันไป ผมก้อกระซิบถามไอ้เบียร์

“เจ็บรึเปล่า ไหวมั๊ย”

“ไม่ค่อยแล้วว่ะ แต่จุกๆอ่ะ ปวดท้องนิดนึง”

“ไหวป่าว ถ้าไม่ไหว กลับก้อได้นะ”

“ไม่เปนไรๆ ไหวๆ อุตส่าห์ตื่นมาแล้วนี่หว่า” แล้วมันก้อยิ้มให้ผมครับ

เราก้อเดินผ่านสวนกัน ผ่านสระว่ายน้ำ แล้วก้อเดินเลียบหาดกันไป

เราเดินกันไปเรื่อยๆเลยครับ ตั้งแต่ฟ้ายังมืด ยันฟ้าสว่าง

เดินกันไปจนถึง ศาลา ริมหาดเล็กๆหลังนึงครับ ก้อหยุดนั่งพักกันแปบนึงก้อกลับ

เดินมาไกลพอควรเลยล่ะ มาถึงหาดของ โรงแรมอื่นด้วยครับ

ตอนเดินกลับ พอไปถึงที่คอนโด เรายังไม่ขึ้นห้องกันครับ แต่ไปเดินเล่นดูสวนของที่นี่ ที่ยังไม่ได้ไปด้วย

ตะลึงไปดิ่ครับ

มีม้าด้วยอ่ะ มีม้าผสมหมูด้วยอ้ะ แบบ... เปนม้าที่เตี้ยม่อต้อแล้วก้ออ้วนเหมือนหมูอ่ะคับ

พวกผมขำกันใหญ่ ม้าห่าไรหน้าตาตล๊ก

มีลำธารเล็กๆด้วยครับ

แม่งจะหรูหราไฮโซอะไรขนาดนั้น

...

แล้วพวกผมก้อกลับขึ้นห้องกัน... ดีที่ไอ้เบียร์ไข้ไม่ขึ้นอีกรอบ

เจอของใหญ่เข้าไป หุหุหุ

วันนั้น เราก้อไปเที่ยวกันที่ หัวหินครับ

อยู่ที่นั่นกันทั้งวัน สงสารไอ้เบียร์เหมือนกันที่เล่นน้ำก้อไม่ได้ ออกแดดก้อไม่ได้

ต้องนั่งดูอย่างเดียว... แต่ก้อดีแล้วล่ะครับ ลงน้ำอาจแสบตูดได้

555

พวกผมก้อเล่นกันจนฉ่ำ แล้วก้อออกจากหัวหินประมาณบ่าย 2 โมงกว่าๆครับ

กลับมาเปลี่ยนชุดกัน เล่นไพ่สักพัก ก้อออกไปซื้อของสดมาเบียร์รียมทำอาหารเย็นกันครับ

ซื้อทั้งข้าวกล่อง ทั้งกุ้งหอยปูปลามากันสุดฤทธิ์

ตอนนี้เพื่อนๆทุกคนก้อเหนแล้วครับ ว่าผมกับไอ้เบียร์ดีกันแล้ว

ส่วนไอ้บาสกับต่าย พวกผมก้อกำลังลุ้นกันสุดๆอ่ะครับ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม

กลับมาถึงคอนโดอีกทีก้อประมาณ เกือบๆ 5 โมงครับ

ผมเองก้อมีหน้าที่ในการเตรียมของสดด้วย เพราะนอกจากไอ้ต่ายกับออมแล้ว

ไม่มีใครทำอาหารเปนสักคน

ผมเสือกทำเปน เลยซวยเลย ต้องมานั่งตำน้ำจิ้มปู

ส่วนไอ้ต่ายก้อ หุหุ ช่วยกันนั่ง ‘ล้างหอย’ กับไอ้บาสสองคนครับ

หอยที่จะใช้กินจริงๆนะครับ ไม่ใช่หอยไอ้ต่ายหรือหอยใคร...

เพื่อนๆเหนแล้วก้อชื่นจายครับ ดีกันสักทีนะมึง

อาหารเย็นมื้อแรกของผมที่ได้มีโอกาสมานั่งล้อมวงกินข้าวกับเพื่อนๆที่ผมรัก

สุดยอดดดดดดดดเลยครับ

มีความสุขจริงๆ

หลังจากเก็บของกันเส็ดแล้ว ก้อได้เวลา กินเหล้าเล่นไพ่กันอีกแล้วครับ

คืนนั้น ผมและไอ้เบียร์ก้ออยู่ข้างๆกันทั้งคืน ยันหลับคาวงเหล้าเลย

ผมก้อกิน ส่วนมันก้อนั่งชงไป

ไม่อยากให้การเดินทางครั้งนี้จบลงเลยจริงๆครับ...

แต่วันรุ่งขึ้น เราก้อต้องเบียร์รียมตัวนั่งรถไฟกลับกันแล้ว

สิ่งที่ทำได้ก็คือเก็บความทรงจำดีๆเหล่านี้ไว้ในใจเราตลอดไป...
................................................

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ระหว่างที่เดินกันไป ผมก้อกระซิบถามไอ้เบียร์

“เจ็บรึเปล่า ไหวมั๊ย”

“ไม่ค่อยแล้วว่ะ แต่จุกๆอ่ะ ปวดท้องนิดนึง”
แล้วพวกผมก้อกลับขึ้นห้องกัน... ดีที่ไอ้เบียร์ไข้ไม่ขึ้นอีกรอบ

เจอของใหญ่เข้าไป หุหุหุ

ต้องนั่งดูอย่างเดียว... แต่ก้อดีแล้วล่ะครับ ลงน้ำอาจแสบตูดได้

555


คริ คริ กระจ่างแล้วจ้า  :laugh: :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2007 11:29:31 โดย suregirl »

jammy

  • บุคคลทั่วไป
อืมรู้เเล้วละ เดาผิดเลยเรา อิๆๆๆ   :haun1:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
เอิ้กๆๆๆ

รู้แย้ววว กร๊ากๆๆๆ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
 :o ผิดคาดนิดหน่อยนะเนี่ย :kikkik:

แต่ดีแล้วล่ะคืนดีกันแล้ว :impress2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
กรำ เดาผิดซะงั้น  :try2:
หุหุ รออ่านต่อไป  :yeb:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ต๊ายยยยซ์ซ์!!!
แต่ละคน!!
โกดคนบอร์ดนี้มั่กม๊ากกกกก!!







/ สะบัดเปียแล้วเดินตูดบิดออกจากกระทู้

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออกรสกันเลยทีเดียวเชียว :kikkik:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 26

วันรุ่งขึ้นหลังจากกลับมาถึงบ้าน

พวกผมก้อโทคุย โทหากันสนุกสนานครับ แบบว่าอารมณ์มันยังค้าง

แล้วก้อโทถามกันด้วยแหละครับ ว่ากลับมาแล้ว เปนไงมั่ง

ประมาณนี้อ่ะครับ

แต่ที่ช็อกผมมากที่สุดคือ ผมได้โทคุยกับเพื่อนผู้ชายคนนึงครับ

เอาจริงๆคือมันโทมาปลุกผมตอนบ่ายสาม

แล้วสิ่งที่ผมกลัวมันก้อเปนจริง

สิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน...

นั่นคือ ไอ้เบียร์มันแอบสูบบุหรี่ด้วยครับ

แถมยังเปนคนเอาไปอีกต่างหาก

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า ไอ้เบียร์เอาบุหรี่นอกของแม่มันไปให้เพื่อนลองชิม

คือ... เพื่อนผมไม่ได้ฟ้องนะครับ

มันแค่เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

แล้วผมจะสนุกไปกับมันด้วยมั๊ยเนี่ย

ก้อต้องทำเปน ไม่ได้คิดอะไรไปครับ

ก้อแค่พยายามถามๆ ว่าจริงเหรอ ของมันชัวร์ป่าว ไม่ใช่มั๊ง ประมาณเนี๊ยครับ

หวังแค่ว่ามันจะไม่เปนความจริงแค่นั้นเอง

หลังจากวางโทรศัพท์ ผมก้อโทหาเพื่อนคนอื่นๆ

ผมโทถามไอ้บาส มันก้อยอมรับมา

โทไปด่าไอ้แบงค์ มันก้อขอโทษที่ปิดบังผม

ไอ้บาส ผมไม่ว่ามันนะครับ เพราะเข้าใจว่ามันก้อกำลังเครียดเลยสูบ

แต่ไอ้แบงค์เนี่ย ด่ามันไปเต็มๆ เพราะแม่งเหนแต่ความสนุก ไม่ได้สนใจห่าอะไรเลย

ผมไม่ได้โกรธที่มันปิดบังผมนะครับ ผมเคืองที่ทำไมไม่เปนห่วงสุขภาพเพื่อนมึงกันเลยเหรอไง...

ถ้าผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้น คิดว่าผมจะโมโหไอ้เบียร์ หรือห้ามไม่ให้มันสูบเด็ดขาดรึเปล่าครับ

คำตอบคือ ไม่เลยครับ ผมยอมให้มันสูบนะ

จำกันได้รึเปล่า ว่าผมยอมมันแค่ไหน ขอแค่ให้ผมรู้ว่ามึงสูบนะก้อพอ

ขอแค่บอก ว่าสูบไปเท่าไหร่แล้ว ขอแค่ดูแลตัวเองบ้าง มีลิมิตหน่อยนะ...

ผมไม่พูดอะไรมากหรอกครับ ไม่เลยจริงๆ

เราคุยกันมามากพอแล้ว

แต่นี่...

สันดานเสีย ออกมาอีกแล้ว

พอนอนคิดอยู่สักพัก ผมก้อตัดสินใจโทหามันครับ

แต่ไม่ได้โวยวายนะครับ ไม่ใช่นิสัยผมเลยจริงๆ

อย่างที่ผมเคยบอกแหละครับ ผมแค่ต้องการความจริงเท่านั้นเอง...

ผมก้อคุยกับมันไปเรื่อยเปื่อยสักพัก แล้วผมจึงเริ่มเรื่อง

“เบียร์ กูถามไรมึงอย่าดิ่”

“หือ ไรอ่ะ”

“มึงไปเที่ยวเนี่ย... ได้สูบบุหรี่มั่งรึเปล่า” คือ ผมกับมันเคยคุยกันจนเปนเรื่องปกติแล้วอ่ะครับ เรื่องพวกนี้

“เปล่า” มันตอบ

“อืม ก้อดีแล้ว... แน่ใจนะ”

“เออ แน่ดิ่”

“กูไม่ได้จะว่าอะไรมึงหรอกนะ มึงก้อรู้ กูแค่อยากได้ยินความจริงจากปากมึงแค่นั้นเอง มึงเข้าใจกูใช่ป่าว”

“เออ ก้อบอกว่าเปล่าไง”

“แต่กูรู้มาว่าไม่ใช่ว่ะ กูได้ยินมาว่ามึงสูบ” ผมเริ่มทนไม่ไหว แต่น้ำเสียงผมก้อยังปกตินะครับ

“มึงนี่เซ้าซี้จังนะ บอกว่าเปล่าก้อเปล่าดิ่” มันเริ่มมีอารมณ์ใส่ผมแล้ว

แต่ผมยังอดทนอยู่

“กูรู้มาว่า มึงเปนคนเอาบุหรี่ไปเองด้วย” ผมบอกมัน

“ถ้ามึงไม่เชื่อกุ มึงจะมาถามกูทำไมวะ!” มันเริ่มโมโหใส่ผม จนผมเริ่มทนไม่ได้แล้วเหมือนกัน

“ก้อเพราะมึงมันชอบโกหกแบบนี้ไง แล้วทำไมวะ มึงจะบอกว่าถ้ามึงพูดมา กูต้องเชื่อมึงทุกคำพูดเลยรึไง!

คำพูดมึงที่เคยพูดกับกูมา มึงกล้าพูดมั๊ยล่ะ ว่าเปนความจริงทุกครั้งน่ะ” ผมย้อนเต็มๆ เพราะเคืองกับคำพูดของมันมากครับ

“ถ้ามึงไม่เชื่อกู ก้อไม่ต้องมาคุยกันเลยดีกว่าว่ะ”

“กูก้ออยากเชื่อมึงนะเบียร์ แต่นี่มันชัดเจนมากเลยอ่ะ แล้วทำไมกัน มึงก้อแค่ยอมรับมาสิ กูจะไม่ว่าอะไรเลยจริงๆ มึงก้อรู้ไม่ใช่เหรอ”

ผมเริ่มจะอ่อนใจแล้วล่ะครับ

“ไม่ กูไม่ได้เอาไป กูไม่ได้สูบ ถ้ามึงไม่เชื่อกู ก้อไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว”

“งั้นก้อได้ ตามใจมึง” แล้วมันก้อวางใส่ผมไปครับ

เร็วกว่าที่ผมจะวางใส่มันแค่ 0.1 วินาทีเท่านั้น

.

.

.

คือ จริงๆแล้วผมคุยกับมันนานกว่านี้นะครับ

และผมก้อจับได้ชัดๆเลยว่า มันโกหก แต่มันก้อยังดื้อหัวชนฝา

จนผมเหนื่อยใจ แล้วก้อเสียใจมากๆด้วยครับ

ผมโทหาไอ้ต่าย โทหาเพื่อนอีกคนสองคน แล้วระบายให้มันฟัง

เพื่อนผมคนนึงก้อบอกว่า ได้กลิ่นบุหรี่มาจากมัน แต่ก้อคิดว่าผมรู้อยู่แล้ว ก้อเลยไม่ได้บอก

สรุปคือ มันสูบตั้งแต่บนรถไฟ ยันมาถึงคอนโด จนกว่าจะดีกับผมนั่นแหละครับ

แต่ตอนดีกับผมแล้วก้อแอบไปอัดมาอีกรอบนึง

ครั้งสุดท้ายเหนว่าเปนบุหรี่สตรอเบอร์รี่

แล้วผมขอข้ามเหตุการณ์ไปหน่อยนะครับ

ผ่านไปนานแสนนาน จำได้ว่าตอนนั้นผมอยู่มอหก

ก้อคุยกับมันปกตินี่แหละครับ มันก้อเลิกบุหรี่เด็ดขาดแล้ว

ผมคุยกับมันเรื่องไรไม่รู้ครับ แล้ววกมาเข้าเรื่องบุหรี่

ผมถามมันว่า มันจะมีรึเปล่าวะ ไอ้บุหรี่กลิ่นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ อ่ะ

มันตอบ ว่า มี ของแม่มันก้อมี

ผมเลยถามมันว่า แบบที่มึงเอาไปทะเลใช่รึเปล่า

มันหัวเราะ แหะๆ แล้วตอบว่า ใช่

...เอากะมันสิครับ...

หลังจากทีผมกับมันทะเลาะกันไป

สักพักก้อดีกันครับ ไม่ต้องห่วง

อารมณ์ประมาณว่า ต่างคนต่างไม่พูดถึงอีกอ่ะครับ ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ

แต่ผมขอสารภาพตรงๆนะครับ...

ว่าผมกับมันก้อเริ่มมีอาการห่างๆกันไปพอควรเหมือนกัน

อาจเปนเพราะ ไอ้ที่บอกว่า “สักพัก” เนี่ย

จริงๆมันไม่ค่อยจะ สักพัก เท่าไหร่หรอกครับ

กินเวลาอยู่นานพอดูเหมือนกัน

ประมาณ เกือบๆ 2 อาทิตย์ได้มั๊ง

ผมกับมันดีกันได้ก้อเพราะ มันจะต้องห่างผมไปอีกครั้ง เพื่อไปทำตามความฝันของมัน...

ไอ้ความสัมพันธ์ของคนเรานี่ก้อแปลกนะครับ

ระยะเวลา และ ระยะทาง มันช่างก่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

..........................

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
เห้อออออออออออออออออ


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
สุขสันต์วันแห่งความรักทั้งคนเขียน คนโพส อิอิ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ  :sad4: ระยะทางกับระยะเวลา เป็นตัวแปรอะไรบางอย่าง  :monkeysad:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
รักคนเเข็งๆเเบบนี้ก็ต้องเหนื่อยหน่อยละนะ  :pigha2:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งดีกันอยู่แหมบ ๆ โกดกันอีกหล่ะ เฮ้อ เหนื่อยใจ  :untrust:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
คนเรานี่ก็แปลก รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี

แต่ก็ยังจะสูบอยู่ได้ ไอ้เจ้าบุหรี่เนี่ย

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อิอิ เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตอนที่ 27 … ปลายทาง

    พอขึ้นมอ 6 พวกผมก้อใกล้จะเอ็นทรานซ์กันทุกทีแล้วครับ

    ส่วนไอ้เบียร์ มันอยากเข้าเตรียมทหารครับ

    สติมันดีรึเปล่า???

    มันดื้อหัวชนฝาครับ ยังไงมันก้อจะเรียน

    แม่มันก้อเหนื่อยใจเหลือเกิน

    ร่างกายแบบนั้นเนี่ยนะ

    คนดีๆเขาเรียนกันเขายังจะตายกันเลยย

    มันก้อดื้อ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จะเรียนๆๆๆๆให้ได้

    พ่อกับแม่ รวมทั้งพี่มันก้ออ่อนใจ ส่งมันไปเรียนพิเศษที่รับติวเข้าเตรียมโดยเฉพาะน่ะครับ

    ช่วงปิดเทอมนะครับ ผมลืมบอกไป

    ผมยังแซวมันเลยด้วยครับ

    เพราะมันบอกว่ามันชอบเครื่องแบบ

    ผมก้อบอกว่า หาแฟนในเครื่องแบบแทนดิ่ ง่ายกว่าอีก

    โดนด่าสิครับ ตามระเบียบ

    ผมอ่ะ ไม่อยากให้มันไปหรอกครับ เตรียมน่ะ

    เหตุผลเดียวกับแม่มันแหละครับ เปนห่วงมัน

    แค่ไอ้ที่เก็บตัวนี่ ก้อกลัวแล้ว เพราะเขาก้อมีฝึกเหมือนๆของจริง

    แต่สุดท้าย...

    เมื่อถึงเวลา ทางเดินของเรามันก้อต้องแยกจากกันอยู่ดี

    ต่างคนต่างมีเส้นทางชีวิต... มี ถนน ของตัวเองที่ต้องเดินต่อไป

    บางที เส้นทางของผมกับมันที่ได้เดินร่วมกันมา มันอาจจะถึงทางแยก ที่จะต้องกลายเป็นเส้นขนาน

    ที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีกตลอดไป

    ก้อคงเริ่มมาจากช่วงเวลานี้แหละครับ...

    ช่วงที่มันไม่อยู่ มือถือมันก้อเอาไปไม่ได้

    ก้อทำให้เราไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนแหละครับ

    มันไปสักเดือนนึงได้มั๊ง

    มันก้อโทมานะครับ หยอดตู้โทมา แต่ก้อครับ คุยได้ไม่นานหรอก

    แถมช่วงนั้นมีเพลง

    คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ...

    โอ๊ยยยยย กุจะบ้าตายยยย

    มึงจะโดนไปไหน มึงจะโดนไปไหนเนี่ยย ไอ้เพลงบ้าเนี่ยยย

    เอ็มวีก้อนะ... พระเอกเอ็มวีน่าร๊ากกกกก

    คิดถึงมันมากๆเลยครับ เปนห่วงมันด้วย

    มันก้อโทมาบ่นเหมือนกันว่า หนัก บางทีก้อมีไม่สบายมั่ง

    แต่ก้อเปนไม่มาก... ก้อดีแล้วครับ เปนหลักฐานว่ามันแข็งแรงขึ้นมากแล้ว

    บางทีก้อมาแรด บอกเด็กในค่ายน่ารัก ยิ่งเด็กที่มาจากเชียงใหม่คนนึง เรียนอยู่มงฟอร์ด (สะกดไม่เปนหรอกนะครับ) มันบอกว่าน่ารักมากกกก

    เอาเหอะมึง ตามสบาย

    ผมรู้นิสัยมันครับ รู้ดีด้วย และครั้งนี้ก้อยิ่งรู้เข้าไปใหญ่

    ว่ามันหวังกับตรงนี้มากแค่ไหน... นี่ เปนความฝันของมันแหละครับ

    สิ่งที่มันอยากจะทำมากที่สุด และ ยิ่งมันอยากได้อะไรก้อได้มาตลอดชีวิต

    ครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่มันจะได้ทำอะไร เพื่อความฝัน เพื่อสิ่งที่อยากได้ด้วยตัวเองด้วยครับ

    มันเคยบอกไว้ว่า...

    “กูไม่รู้ว่าข้างหน้ากูจะเป็นยังไง กูไม่รู้ว่าร่างชัยกูหายดีแล้วรึยัง แต่กูคิดว่ากูหายแล้ว กูคิดว่ากูแข็งแรงพอแล้ว กูจึงจะทำในสิ่งที่กูอยากทำ ถ้าอนาคตกูจะต้องตายจริงๆ

    ยังไงกูก้ออยากจะทำในสิ่งที่เปนความฝันของกู ทำไมใครๆต้องมาห้ามไม่ให้กูเลือกทางเดินชีวิตของกูด้วย”

    กุเข้าใจมึงล่ะ

    จนเข้าค่ายของมันจบ มันก้อกลับมาครับ

    เปนช่วงก่อนเปิดเทอมนิดหน่อย เพื่อนผมนัดเจอกันที่บ้านไอ้ต่าย

    ไปเล่นแบดเล่นบอลเล่นวอลเลย์ร้องเกะ...

    รู้สึกแปลกๆนะครับที่ได้มาเจอหน้ามัน หลังจากไม่ได้เจอมาเดือนนึงเต็มๆ

    ใจมันหวิวๆ แอบหวั่นไหว เหมือนรักครั้งแรกยังไงไม่รุ

    ตลกตัวเองเหมือนกันพอมานั่งนึกๆดูแล้วเนี่ย

    จะตื่นเต้นหาพระแสงอะไรวะ

    แต่แหม ไม่ให้หวิวได้ไงล่ะครับ

    ก็แม่งหล่อขึ้นเปนกองเลยอ้ะ!

    ผิวคล้ำๆลงนิดหน่อย หัวเกรียนๆ แถมแม่ง... ล่ำขึ้นโคตรๆ!

    ใจละลายไปเลย ติดที่เพื่อนอยู่เยอะ ไม่งั้นวันนั้นมึงเส็ดกุแล้ววว

    ซร้วบ!

    แต่ว่า... ความรู้สึกดีๆมันมีได้ไม่นานเลยครับ

    มันสอบไม่ติด

    ความฝัน อนาคตดูพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตา

    ทั้งๆที่ตอนสอบเทสต์มันได้ถึงที่ 4 ของรุ่นนั้นนะครับ

    ให้ทั้งผมติว ให้ทั้งอาจารย์พิเศษติว แถมยังจะยัดเงินเรื่องสายตาอีกต่างหาก

    แถมปัญหาเรื่องใบรับรองแพทย์ มันก้อไปขออนุญาติหมอมาแล้ว

    คือ... ทำทุกอย่างจริงๆครับ

    มันไม่คิดจะเข้าอย่างอื่นนอกจากเตรียมเลย

    มันอยากเปนตำรวจโคตรๆแล้ว

    แต่สุดท้าย... มันก้อทำไม่สำเร็จครับ

    ผมสงสารมันมากจริงๆ

    ผมไม่ได้รู้จากมันด้วยนะครับ ว่ามันไม่ติดน่ะ

    รู้มาจากเพื่อนคนอื่นอีกที

    แต่คงไม่ใช่เวลาที่จะมาน้อยใจที่มันไม่บอกผมจากปากมันเองหรอกนะครับ

    มันก้อคล้ายๆเรื่องที่มันไม่ให้ผมไปเยี่ยมมันนั่นแหละ

    มันไม่ได้บอกใครเลยด้วยซ้ำ ว่ามันไม่ติด แม่มันต่างหากครับ

    แล้วมันก้อเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...

    มันไม่คุยกับผม ไม่คุยกับใครทั้งนั้น

    มันไม่รับฟังอะไรจากผมเลย ยิ่งพอมันรู้ว่าผมรู้แล้วว่ามันไม่ติด

    มันก้อยิ่งโมโหผมเข้าไปใหญ่

    มันกำลังจะกลับไปเปนนิสัยเหมือนตอนมอ 4 อีกแล้ว

    ผมก้อเครียดมากๆเลยครับ สงสารมันมากๆ

    แต่ก้อทำอะไรไม่ได้

    ก้อคงมีแต่ เวลา นี่แหละมั๊งครับ ที่จะช่วยได้

    ครับ... ผมก้อเลยจำใจต้องห่างมันออกไปสักพัก

    เพื่อตัวมันเอง…

    สักพักมันก้อดีขึ้นครับ เพื่อนๆก้อโล่งใจไปตามๆกัน

    ผมก้อสบายใจที่เหนมันดีขึ้น

    แล้วก้อทำให้ผมมีเวลามีสมาธิตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์อีกด้วยครับ

    มันเองก้อต้องกลับมาเบียร์รียมตัวใหม่เพื่อสอบเอ็นท์เหมือนกัน

    แต่ผมไม่รู้เลย... ว่าในชว่งที่มันไม่อยู่ ในช่วงที่ผมกับมันห่างกันไปสักพัก

    ใจของมันก้อเปลี่ยนไปด้วย

    หลังจากสอบเอ็นท์ครั้งแรกเส็ด

    มันกับผมก้อเลิกกันครับ

    จริงๆแล้ว ผมกับมันก้อห่างๆกันไปเรื่อยๆมาสักพักแล้วล่ะครับ

    แต่ไม่ใช่ห่างแบบ ต่างคนต่างอยู่นะครับ

    เราก้อคุยกันเหมือนเคย แต่ผมเองที่เริ่มรู้สึกได้ เวลาถูกเนื้อต้องตัว เวลามองตากัน เวลาพูดคุยในห้อง

    มันรู้สึกกันได้ครับ ของแบบนี้

    วันหนึ่งผมก้อถามมัน ว่าความรู้สึกที่ผมรู้สึกอยู่นี่ ผมคิดไปเองรึเปล่า...

    คำตอบคือ ไม่ ครับ มันเปนความจริง

    ผมเสียใจนะครับ มากด้วย... แต่ว่า มันก้อยังคงอยู่ข้างๆผมตลอดมาเหมือนเคย

    เราไม่ได้หักดิบกันเลยหรอกครับ ยังคงประคับประคองความสัมพันธ์ของเรากันไปเรื่อยๆ

    มันเองก้อคงไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่ เพียงแต่มันเปนคนเก็บความรู้สึกเก่ง

    เราแทบไม่คุยกันเรื่องนี้เลยครับ ว่าเราจะเลิกกันนะ

    ผมเหมือน... ปล่อยให้เวลานั้นมาถึงเท่านั้นเอง

    ผมยังมีภาระที่ต้องอ่านหนังสือ ซึ่งมันเองก้อเหมือนกัน

    เราก้อเปนกันเหมือนเพื่อน... แต่ไม่ต้องถามนะครับว่า ผมเจ็บไหม

    บอกได้เลยครับว่าเจ็บ เจ็บมาก... จนถึงตอนนี้ที่กำลังพิมอยู่ก้อร้องไห้อยู่ด้วยซ้ำ

    แต่ผมต้องขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมดจริงๆ

    อาจจะฟังดูเหมือน ทำไมเลิกกันง่ายจัง เล่ามาตั้งนาน

    ใช่ครับ ผมกับมันเลิกกันง่ายครับ แต่นี่แหละครับ ที่ยิ่งทำให้มันยิ่งยากมากขึ้นไปอีก

    ที่ผ่านมา ผมอาจไม่ค่อยได้เล่าให้ฟังเท่าไหร่ถึงเรื่องที่ผมกับมันทะเลาะกัน

    เพราะมันเยอะครับ

    และทะเลาะกันทีก้อแรงๆทั้งนั้น เราไม่ค่อยทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิมๆหรอกครับ

    เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้นแหละ

    ผมเลยได้แต่บ่นๆให้ฟัง แทรกๆไปบ้าง ว่ามีทะเลาะกันมั่งนะ อะไรประมาณนั้นครับ

    เพราะผมเลือกที่จะเอาความรู้สึกดีๆ ที่นานๆทีผมจะได้จากมันมาเล่าให้ฟังไงครับ

    อย่างที่ผมเคยบอก ว่านานๆทีมันหวานที ใจผมก้อแทบจะละลายไปเลย

    ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ สำหรับคนที่รักมัน

    และเรื่องร่างชัยของมัน ติดตามกันมาถึงตอนนี้แล้ว คงรู้แล้วล่ะนะครับ ว่ามันแข็งแรงดีมากๆแล้ว

    ไม่ต้องเปนห่วงมันนะครับ

    .
    .
    .

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
คงยังไม่ใช่ตอนจบนะครับ :impress:

ถ้าอะไรๆมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เลิกกันไปก็ดีเหมือนกันนะครับ

เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ไม่ได้โกหกตัวเอง :monkeysad:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เวลาเปลี่ยน  คนเปลี่ยน :impress:  อ่านแล้วเศร้าจังคับ :sad4: :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน  :monkeysad:  :monkeysad:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
27/2

    จนภาระของเราหมดลงแล้ว มันจึงพูดออกมาเต็มๆว่า ผมกับมัน คงเปนแค่เพื่อนกัน

    ถ้าผมถามถึงเหตุผล เหตุผลก้อคือว่า มันเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วครับ

    มันชอบยกคำพูดของผมที่เคยคุยกับมันมา ชอบยกคำพูดของผมที่เคยสอนมันหลายๆอย่างมาพูด

    ผมก้อยิ่งเจ็บ…

    ทางเดินของมันกับผม มันตันลงแล้ว ผมกับมันคงต้องแยกทางกันเดินสักที

    ถ้ายังไปต่อไปด้วยกัน ก้อคงไม่มีอะไรดีขึ้น

    มันเลือกถนนของมันไปแล้ว แต่ถนนเส้นนั้น ก้อกลับกลายเปนทางตันไปในเวลาอันสั้น

    มันตัดสินใจเลือกถนนเส้นใหม่... เส้นที่ไม่มีผมอยู่ด้วย

    มันอยากจะเข้มแข็งขึ้น มันอยากจะเดินไปโดยไม่ต้องมีผมคอยดูแลมันอีกแล้ว

    มันบอกว่า ที่ผ่านมาตลอดสามปี ผมคอยดูแลมันมาตลอด ถ้าไม่มีผม มันก้อคงแย่ นิสัยมันก้อคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ มันขอบคุณผมจากใจจริงๆ

    ถ้าไม่มีผม มันคงไม่สามารถคิด และรับมืออะไรต่างๆได้

    และต่อจากนี้ มันจะขอใช้สิ่งที่ได้มาจากผม เรียนรู้และก้าวเดินต่อไปด้วยตัวเอง

    แล้วผมจะพูดอะไรได้ครับ

    ยอมจากจะต้องปล่อยให้มันไปตามทางที่มันต้องการ
    .
    .
    .

    นิยามความรักของทุกคนคืออะไรครับ...

    บางคนว่าความรักคือ ความเข้าใจ

    บางคนว่า ความเชื่อใจ

    บางคนว่า ความผูกพัน

    ...

    แต่ละคน ก้อนิยามความรักแตกต่างกันไป แล้วแต่ประสบการณ์บ้าง

    แล้วแต่ความนึกคิด หรือความรู้สึก

    แต่สำหรับผม

    ผมรู้มาก่อนที่จะได้เจอมันและได้รักมันเสียอีกครับ

    และมัน ก้อทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในนิยามความรักของผมเข้าไปอีก

    สำหรับผมแล้ว

    ความรักคือ การเสียสละ ครับ...

    การเสียสละ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ การให้

    แต่เปนการที่เรายอมสละทุกอย่าง แม้เราจะเจ็บปวดเพียงใดก็ตามเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข...

    ถึงมันจะสูบบุหรี่ แต่แค่มันยอมบอกผม ผมก้อเจ็บนะ แต่ผมก้อยังมีความสุข

    ถึงมันจะไปแอบมีใคร แต่แค่มันยอมรับว่าเปนความจริง ถึงจะเจ็บ ผมก้อยอมรับได้

    ถึงมันอยากจะจากไปเพื่อความสุขของมัน ถึงผมจะต้องเสียใจแทบตายแค่ไหนก้อตาม ถ้ามันมีความสุข ผมก้อดีใจแล้ว...

    สิ่งที่ผมยอมเสียสละให้มันมากที่สุด ก้อคือ ความสุขเพียงผิวเผินของผมครับ

    หลายครั้งแล้ว ที่ผมยอมแลกสิ่งนั้นออกไป เพื่อความสุขของมัน ถึงจะเจ็บ แต่มันเปนความสุขลึกๆ

    ที่มาพร้อมคราบน้ำตา

    และครั้งนี้ก้อเช่นกัน

    ผมเลือกที่จะเสียมันไป แล้วถึงแม้ผมจะร้องไห้ แต่เชื่อมั๊ยครับว่า นั่นคือความสุขของผม...

    ที่ผมได้ร้องไห้ ร้องไห้เพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข

    ผมพอใจแล้วครับ...

    เพื่อนผมมักจะพูดกับผมมาตลอดว่าให้ผมหัดทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง

    ผมไม่ได้อยากจะเปนคนดี หรือทำตัวเปนพระเอกนะครับ

    แต่ผมไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้จริงๆ

    ผมไม่สามารถจะหาความสุขใส่ตัวเองได้จริงๆครับ

    ผมคิดว่าการที่ทำแบบนั้น มันเปนการเหนแก่ตัว

    ผมคิดว่าผมเกิดมา ก้อเพื่อทำให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเพื่อน คนที่ผมรัก และครอบครัว…

    เมื่อไหร่ก้อตาม ที่ผมจะทำอะไรเพื่อตัวเอง

    ผมจะคิดขึ้นมาทันทีว่า มันจะเหนแก่ตัวไปรึเปล่าที่เราจะมามีความสุขแบบนี้

    เพราะฉะนั้น การที่ผมได้รักมัน ได้ทำอะไรต่างๆเพื่อมันมามากมายขนาดนี้

    ผมมีความสุขที่สุดแล้วครับ ไม่ว่าผมจะเหนื่อยยากหรือลำบากมาเท่าไหร่ก้อตาม...

    แค่ผมมีโอกาสที่ได้รักมัน ผมก้อมีความสุขแล้ว...

    ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าผมมีความสุขมาก ตลอดเวลาที่ได้รักมัน

    เวลาที่ผ่านไป..... อะไรหลายๆอย่างก้อเปลี่ยนแปลงไป

    เมื่อมันกับผมเริ่มฟื้นคืนสภาพ เราก้อคงกลายเปนแค่เพื่อนกัน

    และเราก้อเหลือเวลาที่จะได้อยู่ก้วยกันอีกแค่ แปบเดียวแล้ว

    อีกแค่ไม่กี่เดือน ไม่กี่วัน เราก้อต้องแยกกันเลือกเส้นทางเดินเส้นทางใหม่กันแล้ว

    ไม่ใช่แค่ผมกับมัน แต่เปนทุกๆคนในห้อง

    เส้นทางของพวกเราที่ช่วงเวลาหนึ่งมันได้มาบรรจบซ้อนกัน ทำให้เราได้เดินไปด้วยกัน มาถึงเวลาที่ต้องแยกกันไปแล้วครับ

    เศร้านะครับ ที่ต้องจากเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของผมไป

    ความรักของเพื่อนๆผมที่มีให้กันภายในห้องของเรานี้ เขียนให้ตายก้อไม่สามารถบรรยายได้จริงๆครับ

    ผมน่ะ แอบเศร้าแอบซึ้งอยู่คนเดียวมานานแล้ว

    จนถึงวันสุดท้าย คาบสุดท้ายของการเรียนภายในโรงเรียนที่ผมอยู่มาถึง 6 ปี

    และเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี

    อาจารย์เหมือนรู้ครับ ไม่สอน แต่ให้พวกผมได้กล่าวลากัน

    บรรยากาศตอนนั้น ... ไม่รู้จะว่ายังไงดีครับ

    ผมไม่ได้ร้องไห้นะ เพื่อนผมก้องงกันใหญ่ว่าทำไมผมถึงยิ้มและหัวเราะอยู่ได้ยังไง

    พวกมันหมายหัวว่าผมต้องเปน 1 ในคนที่ซึ้งที่สุดในห้องแน่นอน

    แต่เปล่าเลยครับ ไม่รู้ซะแล้ว ว่ากุแอบร้องคนเดียวมาหลายคืนแล้ว

    วันนั้น ผมเลยของมอบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความสุขให้เพื่อนๆจะดีกว่า

    คนหลายคนเดินมากอดผม และร้องไห้

    คนหลายคนร้องไห้ขณะที่ไอ้แบงค์ออกไปยืนร้องเพลง หัวใจผูกกัน หน้าห้องเรียน

    รวมทั้งไอ้เบียร์ ที่เดินมานั่งตักผมเปนครั้งสุดท้าย

    ผมได้กอดมันเปนครั้งสุดท้าย

    และได้เช็ดน้ำตามันพร้อมพูดแซวว่า ‘ไอ้ขี้แย’ เปนครั้งสุดท้ายเหมือนกัน...


    หลังจากนั้น ผมกับมัน ก้อได้เลือกเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง

    เราสองคนตอนนี้ก้อยังคงกลายเปนเส้นขนานที่จะไม่มีวันมาบรรจบกันอีกตลอดไป

    และเส้นทางของเรา ที่เคยได้ร่วมเดินทางด้วยกันมา

    มันก้อจบอยู่แค่ในความทรงจำของผมเท่านั้นเอง...

    ......................................................


    จบแล้วครับ ก๊อปไปอ่านไป แล้วก้อเลยจะร้องไห้ไปด้วยเลย

    ยิ่งนึกถึงตอนที่มันเดินมานั่งตักผม ให้ได้ผมกอดมันจากทางด้านหลัง ได้ลูบหัวมัน

    เราสองคนก้อฟังไอ้แบงค์ร้องเพลงไป จนมันก้อเริ่มสะอื้นขึ้นเรื่อยๆ นึกๆแล้วยังแปลกใจอยู่เลย ที่มันร้องไห้)

    จนผมเหนว่ามันกำลังร้องไห้นั่นแหละ

    ถึงได้เช็ดน้ำตาให้มัน และได้กอดมันแน่นขึ้นอีก...

    เปนครั้งสุดท้าย...


    ...................................................................

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า ทั้งสุข

 :impress: :impress: :impress: :impress:


ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคับ   :myeye:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: :monkeysad:
 

 รัก คือการเสียสละ

 เรื่องราวตั้งแต่ต้นมา ที่ทั้งความสุข ความเส้า
 และมีเรื่องน่าประทับใจ เกิดขึ้น ใน 3 ปี

 อย่างน้อย เรื่องราวทั้งหมด ก็ จะอยุ่ในความทรงจำ ที่ไม่มีวันเลือนลาง " ตลอดไป "

  :impress: :impress:

 ขอบคุนสำหรับ เรื่องราว "เล่าอีกนะ :: รักครั้งแรก :: รักคือ การเสียสละ


 :monkeysad:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆนะครับ  :monkeysad:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
รัก คือ การเสียสละ  :monkeysad:  :monkeysad:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: :monkeysad:
คนเขียน เข้มแข็งจัง  :monkeylaugh2:
แต่คนอ่าน  :monkeycry2:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่มาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ

แต่ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ค่ะเนี่ย

เสียน้ำตาเลยเรา   :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด