บทที่ 38 – เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
ตอนนี้ก็เป็นเวลาร่วมๆสามเดือนแล้วหลังจากที่คุณพ่อของผมเสียชีวิตอย่างกระทันหันจากเส้นเลือดในสมองแตก เวลาของคนเรานี่มันผ่านไปเร็วนะครับ บางทีเรายังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลยมารู้ตัวอีกทีบางสิ่งบางอย่างมันก็เปลี่ยนไปแล้ว….มันน่าใจหายจริงๆ
แต่ถึงแม้หลายๆสิ่งหลายๆอย่างมันจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่เปลี่ยนไปแน่ๆนั่นก็คือความรักนะครับ ระยะทางไม่ได้ทำให้ความรักที่ผมมีให้อาร์มนั้นน้อยลงเลย ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะครับว่าทำไมต้องเปลี่ยนทั้งเบอร์ทั้งเมล แถมไม่ได้ติดต่ออะไรกับใครอีกเลย ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะว่าผมยังไม่พร้อมที่จะพบกับใครมั้ง หลังจากที่ผมรับปริญญาที่สแตนฟอร์ดแล้วก็บินกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเป็นเพื่อนแม่กับไอ้เบย์ ลูกพี่ลูกน้องผมที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านตั้งแต่มันยังเด็กน่ะครับ ตอนนี้มันก็สิบเก้าแล้ว เพิ่งจบปีหนึ่ง สถาปัตย์ จุฬาฯ
“แบงค์ลูก ยังไม่ไปทำงานอีกเหรอ” แม่ผมตะโกนออกมาจากห้องครัว
“เดี๋ยวไปแล้วครับแม่ เข้าสายนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า”
“ไอ้ลูกคนนี้ ได้นิสัยพ่อแกมาเด๊ะๆเลย” แม่ตาแดงๆหน่อยครับ
“เอาน่ะแม่….”
“เออๆเอาเหอะ พ่อเค้าเห็นแกอย่างงี้เค้าคงภูมิใจนะ…แกรีบไปทำงานเหอะ” แม่พูดแล้วก็เข้ามาหอมผม
………….
“พี่แบงค์ วันนี้พาเบย์ไปเที่ยวหน่อยสิ ปิดเทอมแล้วเบื่ออะ” ไอ้น้องตัวดีตะโกนออกมาจากตรงหน้าต่างห้องนอน
“อะไรของแกวะ ปิดเทอมเพื่อนแกเค้าไปเรียนพิเศษกันแล้วทำไมแกถึงมีเวลาไปเที่ยวเยอะแยะ”
“อ้าว ก็คนมันฉลาดนิ ยีนส์มันดีอะ”
“ถุ้ย….กูจะอ้วก”
“อ้าว ทำไมพี่แบงค์พูดแมวๆงี้อะ พูดงี้ดูถูกคุณปู่กับคุณย่านะสิ”
“กูป่าวว่าคุณตากับคุณยาย แต่กูอ้วกในความหน้าด้านของมึงอะ”
“อ้าว เดี๋ยวก็สวยหรอก”
“กูไม่อยากสวย กูอยากหล่อว่ะ…….แต่คงไม่ต้อง แค่นี้กูก็หล่ออยู่แล้ว”
“โถ มุกควายๆ น่าสมเพศ”
“หุบปากไปเลยมึง….แล้วตกลงจะให้พี่พาไปไหน”
“เอ่อ ดูหนังสักเรื่อง บุฟเฟต์หรูๆสักมื้อ ละก็งบซื้อของสักสามสี่หมื่นก็พอละ” มันทำหน้าเฉยแทบยักไหล่อีก ดูมัน..มันน่าจะอัดให้จุก
“สามสี่หมื่นนี่มึงจะเอาไปซื้อสยามพาราก้อนเหรอไงวะ”
“โห เว่อร์แหละ แค่นี้ซื้อได้แค่หน้าต่างบานนึงมั้ง”
“อะๆ งั้นเดี๋ยวเบย์ไปหาพี่ที่บริษัทละกัน แล้วเดี๋ยวพี่จะพาไป โอเคไหม”
“........ได้เลยพี่ แล้วเจอกันคร้าบ”
เฮ้อ….ไอ้น้องคนนี้มีเรื่องให้ต้องพี่มันยุ่งอยู่เรื่อยเลย ทุกวันนี้ผมยุ่งมากเลยครับ ต้องคอยเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัทของพ่อ เป็นพวกบริษัทออกแบบภายในกับพวก landscape พวกนี้ล่ะครับ งานนี่ก็ยุ่งเชียว ผมต้องมาคอยดูแลงานที่คุณพ่อทำค้างไว้แถมยังต้องออกมาจัดการอะไรเอง กว่าผมจะได้เป็นประธานเต็มตัวก็คงอีกนานล่ะครับ ทุกวันนี้นี่ไม่มีเวลาออกไปไหนเลย ขลุกอยู่ในบริษัททั้งวัน แถมมีเรื่องกวนใจมาให้เรื่อยๆ ก็เพื่อนเก่าสมัยเรียนที่เมืองไทยนะสิครับ ชอบเข้ามากวนใจ แวะมาหาได้ทุกวี่ทุกวัน บอกตามตรงว่าไม่ชอบเลยครับนิสัยของเธอ วันๆเอาแต่เที่ยวกับชอปปิ้ง
….
“เอ่อ แพทครับ พอดีวันนี้แบงค์ต้องอยู่เคลียร์งานที่บริษัทน่ะครับแล้วเย็นนี้แบงค์ก็สัญญาจะพาไอ้เบย์มันไปเที่ยวแล้วด้วย คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้หรอกนะ”
“อีกแล้วเหรอคะ วันก่อนก็เบี้ยวนัดแพทมาทีนึงละ” แพทขึ้นเสียงครับ
“โถ อย่างอนเลยนะครับ ไว้โอกาสหน้าละกัน…..เห็นไหมเนี่ย งานเยอะจริงๆ”
“แล้ววันหลังวันไหนดีล่ะคะ”
“เอ่อ ผมยังสัญญาอะไรไม่ได้ครับ”
“อีกแล้วหรอเนี่ย โถ แบงค์ขา แบงค์ก็รู้นี่คะว่าแพทชอบแบงค์มาก ในใจก็มีแต่แบงค์คนเดียว…เมื่อไหร่จะยอมเป็นแฟนกับแพทสักทีล่ะคะ”
“คือผมยังไม่พร้อมน่ะครับ” ผมยังไม่พร้อมจริงๆครับ ผมยังรักอาร์มมันอยู่
“ทำไมถึงยังไม่พร้อมล่ะคะแบงค์”
“ก็ตอนนี้ผมยังงานยุ่งๆอยู่น่ะครับ กลัวจะดูแลแพทได้ไม่เต็มที่”
“โถ ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ………ยังไงแพทก็มีแบงค์อยู่คนเดียวเต็มหัวใจค่ะ”
“……………” ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มให้เธอครับ….เซ้าซี้จริงๆ
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวแพทไปทำงานก่อนดีกว่านะคะ ไว้เจอกันนะคะดาร์ลิ้ง” เธอว่าแล้วก็เดินเข้ามาหอมผมทีนึง……จะอ้วกครับ
“ครับ แล้วเจอกันครับ”
แล้วเธอก็เดินออกไปครับ…..รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลย เวลาผมอยู่กับเธอนี่ผมแทบจะเป็นบ้าเลยครับ คนอะไรก็ไม่รู้ น่ารำคาญชะมัด…นี่ยังดีนะครับที่เธอไม่มาตามรังควานผมถึงบ้าน ไม่งั้นแม่ผมด่าเธอแหลกแน่ๆ
ตอนนี้ผมคิดถึงอาร์มชะมัดเลยครับ อยากกอด อยากจูบ…..แต่ผมก็รู้สึกผิดมากเพราะผมไม่กล้าที่จะติดต่อกลับไปทางโน้นอีกเนื่องจากผมได้เงียบหายไปเลยหลังจากที่คุณพ่อผมเสีย ถ้าผมได้เจอกับอาร์มอีกครั้งคงจะรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงดี…….
ผมลองออนเอ็มเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้เข้ามันเป็นเวลานาน………..ตอนนี้อาร์มมันยังออฟไลน์ครับ บล็อกมันไว้เลยดีกว่า ถ้ามันทักมาผมคงทำอะไรไม่ถูก…………
“BANKKKKK!!!!!!!!!” โอ๊ย ตกใจหมด ใครทักมาเนี่ย
“BANK!!!!!!!! OMG I miss you sooooo freaking much! Where on the planet have you been? (แบงค์ ให้ตายเหอะ ฉันคิดถึงเธอจะแย่แล้ว หายหัวไปไหนมาเนี่ย”
“Hey Su! I was so busy T_T Sorry! (อ้าวดีซู เรายุ่งๆน่ะ โทษทีนะ)
“Oh my god! We were so worried about you, especially Arm!!! (โหย พวกเรากังวลแทบแย่ โดยเฉพาะอาร์ม)”
“hahahaha, so sorry dude! (ฮ่าๆ โทษจริงๆ)” ผมไม่มีคำแก้ตัวอะไรครับ
“Anyway, I’m sorry about your father (เอาเหอะ เรื่องพ่อเธอเราเสียใจด้วย)”
“Thanks so much! (ขอบใจมากนะ)”
“……”
“…………………”
“Dude, aren’t you planning to contact Arm? (นี่ ไม่คิดจะติดต่อกับอาร์มบ้างหรอ)”
“I don’t know. I don’t think I’m that ready to face him. Kinda feel guilty (ไม่รู้สิ เรายังไม่พร้อมอะ รู้สึกผิดยังไงไม่รู้)”
“What’s there to feel guilty about my dear? (มันมีอะไรให้ต้องรู้สึกผิดเหรอที่รัก)”
“Well…..the fact that I just mysteriously disappeared from his life. (ก็ที่อยู่ดีๆเราก็หายไปเลยไง)”
“Oh C’mon I think Arm will understand (โถๆ เราเชื่อว่าอาร์มมันคงเข้าใจน่ะ)”
“….Well, I still don’t know what to do! (เราไม่รู้จะทำยังไงอยู่ดีอะแหละ)”
“…….Bank, try imagine yourself being Arm. How would you feel? (ถ้าเธอลองคิดว่าตัวเองเป็นอาร์ม เธอจะรู้สึกยังไง)”
“….I know I know. Give me time please! (เรารู้ เรารู้ แต่ขอเวลาหน่อยนะ)”
“…Bank, I’m asking you honestly, do you still love Arm? (แบงค์ เราถามจริงๆนะ เธอยังรักอาร์มอยู่ไหม)” คำถามนี้เล่นเอาผมมืออ่อนเลยครับ
“……….Of course Su, I still love him a lot! (แน่สิ เรายังรักมันมาก)”
“Yea, glad to know that. Anyway, don’t keep him waiting for too long. (เราดีใจที่ได้รู้นะ แต่ยังไงก็เหอะ อย่าให้มันรอนานละกัน)”
“I will try my best my dear. All right, I need to work so I will talk to you later. Thanks loads for the advices. Tell wan I
miss her a lot!! (เราจะพยายามให้ดีที่สุดนะ เอ่อ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อละ ขอบคุณมากๆสำหรับคำปรึกษานะ บอกหวานด้วยว่าเราคิดถึงมันมากๆ)”
“Yep! Good luck (อือ โชคดี)”
แล้วผมก็ออฟไลน์ไปครับ ได้คุยกับซูแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาก อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันยังไม่มืดมนไปหมด….มีเพื่อนดีๆก็สบายอย่างงี้แหละครับ
ติ๊ด ติ๊ด…เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น
“ฮัลโหลพี่แบงค์ เบย์ใกล้มาถึงแล้วนะ งานพี่แบงค์เสร็จยัง”
“เออๆ งั้นเดี๋ยวแกมานั่งคุยกับพี่ฝนเค้าไปพลางๆก่อน” พี่ฝนเป็นเลขาของพ่อผมครับ แกสนิทกับไอ้เบย์มันเพราะเมื่อก่อนมันก็มาหาพ่อผมที่บริษัทบ่อยๆ
“ได้ๆ เดี๋ยวสักสี่โมงพี่ก็เสร็จละ รอแปปนึงนะ”
“ไม่มีปัญหาเพ่ แต่จัดมาหนักๆละกัน” มึงอย่าครึ้มมากไอ้เบย์
“เออๆๆ แล้วแต่ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเดินออกไปเรียก”
“คร้าบว่าที่ท่านประธาน”
“แค่นี้นะ…....” แล้วผมก็วางสายไป
………
ผมนั่งทำงานไปเรื่อยๆจนเคลียร์งานเกือบหมด ตอนนี้ก็สี่โมงกว่าๆแล้วครับ ไม่อยากให้เจ้าเบย์มันรอนานก็เลยคิดว่าจะเก็บงานไปทำต่อที่บ้าน….ผมเดินออกมาจากห้องทำงานก็เห็นพี่ฝนกับเจ้าเบย์กำลังนั่งเม้าท์กันอยู่
“ไปยัง…มารอตั้งนานแล้วนิ”
“ก็เออนะสิ บอกว่าอีกแปปเดียว แต่นี่มันจะห้าโมงอยู่แล้ว”
“บ่นยังงี้จะไปไหมเนี่ย”
“ไปๆ…..พี่ฝนหวัดดีคร้าบ” มันพูดแล้วก็หันไปสวัสดีพี่ฝน
“งั้นผมไปแล้วนะครับ” ว่าแล้วก็หันไปไหว้พี่ฝนครับ…ทำไงได้ เป็นเด็กก็ต้องนอบน้อมเป็นธรรมดา
“ค่า แล้วเจอกันค่ะ” เธอโบกมือให้พวกเราสองคน
……………….
“ตกลงจะไปไหนไอ้น้อง คิดออกยัง” มันทำหน้าครุ่นคิด
“ไปเดินเซ็นทรัลแล้วก็หาไรง่ายๆกินกัน ….เอ่อ หนังสักเรื่องก็คงไม่เสียหายอะไรมั้ง” หน้ามันดูกลัวๆไงไม่รู้
“มึงไม่เสียแต่กูอะเสีย..ไปทีไรกูจ่ายตลอด”
“….อะๆ ผมเลี้ยงก็ได้…บ่นจัง”
“เฮ้อ…ล้อเล่นๆ ปะๆไปเหอะ” ผมว่าแล้วก็จูงมือมันไปขึ้นรถ…
………….
“กินอะไรดีล่ะ” ผมถามไอ้เบย์เพราะตอนนี้จะเดินวนรอบเซนทรัลอยู่แล้ว
“เอ่อ….ไม่รู้ดิ ไปกินฟูจิกันดีมะ”
“ฟูจิอีกละ อะไรๆมึงก็ฟูจิตลอด”
“อ้าว…งั้นพี่แบงค์เลือกเองเลย พอผมเลือกแล้วก็ไม่ถูกใจ…..แก่แล้วก็เงี้ย วัยรุ่นเซ็ง”
“อะๆ ฟูจิก็ฟูจิ……..” ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากไปเถียงอะไรกับมันมาก ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เถียงทีไรก็แพ้มันตลอด ที่ไอ้อาร์ม ซู แล้วก็หวานมันเคยบอกว่าผมกวนตีนก็เพราะผมติดนิสัยมาจากไอ้เบย์เนี่ยแหละ…….
…………….
ผมเดินเข้ามาในฟูจิพร้อมกับไอ้เบย์………ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก
tbc======================================================================
ขอบคุณมากๆสำหรับทุกกำลังใจนะคะ ตอนนี้คงหายคิดถึงแบงค์กันแล้วมั้งคะ
พี่ supranee - ขอบคุณมากๆค่ะ ใจดีจัง เม้นต์ให้ทุกตอนเลย ซาบซึ้งมากค่ะ

4559 - ต่อให้แล้วนะคะ อ่านให้สนุกนะ
Fujitaga - นิสัยเหมือนเอมเลยค่ะ อิอิ ล้อเล่นนะคะ
Black Angel - หายคิดถึงแล้วนะคะ

patz - นั่นนะสิ งั้นตามอ่านต่อไปนะคะ อิอิ
Vesi - เนอะ อิอิ
พี่ imageriz - เอ่อ นั่นนะสิ น่าสงสัยจริงๆด้วย แต่แบงค์มาแล้วนะคะ
พี่ mist - เดี๋ยวก็รู้เองค่ะ ถ้ารู้อาจจะตกใจ อิอิ

astral - ใช่รึเปล่าน้ออ
White..BroccO - ร้ายมากๆ ร้ายกว่าเอมอีก

วลีเด็ดวันนี้
"Well done is better than Well said"
แปลกันถูกไหมเอ่ย เอมไม่รู้ว่าจะแปลเป็นไทยยังไงดี แต่น่าจะพอตีความหมายกันออกใช่ไหมคะ อิอิ

Thank you again for all your supports
เอม
