พอเสร็จธุระเรื่องบัตรของผมแล้ว ต้งก้อพาผมมาส่งที่ทำงาน พอดีเวลานั้นใกล้จะเที่ยงแล้วต้งเลยถือโอกาสพาผมไปทานอาหารกลางวันอีก ต้งเลือกร้านของปริน ( ชื่อของเพื่อนต้ง อ่านว่า ปะ ริน น่ะครับ ) เพราะว่าใกล้ที่ทำงานผมดี พอไปถึงร้าน ปรินก้อเข้ามาดูแลเทคแคร์พวกเราเป็นอย่างนี้ จากนั้นเราก้อสั่งอาหารไป พออาหารมาแล้วก้อเริ่มทานกัน ระหว่างที่ทานอาหารต้งก้อชวนผมคุยเรื่องงาน ต้งบอกว่าจะขอคุยกับเจ้านายผมเรื่องที่จะขอให้ผมไปช่วยงานอีเว้นต์เค้าช่วงๆบ่ายๆ เย็นๆ ของวันทำงานของผม ต้งบอกว่าเพื่อนของต้งสนิทกับเจ้านายผมน่าจะคุยกันรู้เรื่อง ซึ่งผมก้อบอกว่า ผมไม่รู้จะพูดยังไง เพราะว่าพี่กรณ์ก้อเพิ่งขอเวลาทำงานผมจากเจ้านายผมเหมือนกัน ต้งเลยบอกว่า ไว้เค้าจะคุยกับเจ้านายผมเอง ผมล่ะเกรงใจเจ้านายผมมาก นี่ผมจะโดนคนที่ทำงานแบนอีกไหมเนี่ยะว่า ผมเอาเวลางานไปทำงานอย่างอื่นซะเยอะเลย เฮ้ออออ ไม่อยากจะคิดเลย
พอเราทานอาหารกลางวันเสร็จ ต้งก้อมาส่งผมที่ทำงาน ก่อนจะมาถึงออฟฟิซ ต้งก้อซื้อของกินมากมายมาฝากเพื่อนที่ทำงานผม เพื่อนที่ทำงานผมกรี๊ดกร๊าดดีใจมาก ปกติก้อปลื้มต้งอยู่แล้ว นี่ต้งยังมีของฝากติดไม้ติดมือมาให้อีก พวกเค้ายิ่งปลื้มกันใหญ่ จากนั้นต้งก้อนั่งอยู่ออฟฟิซผมสักพักแล้วก้อขอตัวกลับไปทำงานต่อ ส่วนผมก้อทำงานของผมต่อไป
วันนั้นทั้งวันผมก้อทำงานของผมต่อไปงานก้อเข้ามาเยอะเหมือนกัน ผมเลยลืมเรื่องแจ้งความไปเสียสนิทเลยล่ะครับ พอเลิกงานแล้วผมก้อกลับห้องผม พอถึงห้องผมก้อพยายามโทรหาอ้วนแฟนผมอีก พอวันนี้มาอ้วนรับสายผมครับ
“ โทรมาทำไมเหรอ นึกว่าลืมกันซะแล้ว มีอะไรรึป่าว “ อ้วนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาใส่ผม
“ ทำไมตัวเองพูดอย่างนี้ล่ะ เค้าโทรหาตัวเองตลอดเลยรู้ไหมเนี่ยะ แต่ตัวเองไม่รับสายเค้าเลย ตัวเองยังโกรธเค้าอยู่ใช่ไหมครับ ตัวเองจะไม่ฟังเค้าอธิบายหน่อยเหรอ มันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิดน่ะครับ “ ผมพยายามอธิบายไป
“ ไม่รู้สิ ผมรู้สึกในสิ่งที่ผมเห็น คุณไม่ต้องอธิบายหรอก เอาเวลาของคุณที่จะมาตามผมไปทำงานหาเงินของคุณไปเหอะ อย่ามาเสียเวลากับผมเลยน่ะครับ ผมไม่ได้มีค่าขนาดนั้นหรอก “ อ้วนย้อนผมกลับมาจนผมสะอึก
“ ตัวเองอย่าทำอย่างนี้สิครับ อีกไม่กี่วันก้องานวันเกิดตัวเองแล้วน่ะครับ เค้าเตรียมของขวัญไว้ให้ตัวเองด้วยน่ะ อย่างอนเค้าน่ะครับ น่ะๆๆ สัญญาว่าคราวหน้ามีอะไร เค้าจะบอกตัวเองทุกอย่างเลยน่ะๆ “ ผมพยายามอ้อนแฟนผมเต็มที่
“ เอาไว้ค่อยว่ากันแล้วกันน่ะครับ ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะผมไม่ค่อยว่าง ตู๊ดๆๆๆ “ แล้วแฟนผมก้อวางสายไป
ที่จริงผมก้อเครียดอยู่น่ะครับ แต่อย่างน้อยอ้วนเค้าก้อยอมคุยกับผม ซึ่งผมคิดว่าคงเค้าง้ออ้วนซักวันนึง เรื่องที่เกิดขึ้นผมคงอธิบายให้เค้าฟังได้ และผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่เราสร้างมายาวนานน่าจะยังแนบแน่นอยู่ ผมเชื่ออย่างนั้นน่ะครับ
จากนั้นผมก้อทำความสะอาดห้อง ซักผ้าที่ค้างไว้ นี่ผมยุ่งมากจนไม่ได้ซักผ้ามาเกือบเดือนเลยน่ะเนี่ยะ กองผ้าแทบจะท่วมหัวอยู่แล้ว ผมก้อทยอยทำงานบ้านผมไปเรื่อยๆ ประมาณสัก 2 ทุ่มน้องแมนก้อโทรเข้ามาบอกว่า จะแวะมาทานข้าวด้วยเพราะว่าพอดีแวะมาติวหนังสือกับเพื่อนแถวนี้ ผมเลยบอกว่าอีกสักครึ่งชั่วโมงค่อยมาหาผม ผมขอเวลาอาบน้ำก่อน พอผมทำงานบ้านและอาบน้ำใกล้จะเสร็จ น้องแมนก้อโทรเข้ามาบอกว่าอยู่หน้าตึกแล้ว ขอเข้ามารอให้ห้อง ผมก้อต้องออกไปรับน้องแมนทั้งๆที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จ พอน้องแมนมานั่งรอในห้องผมก้อไปอาบน้ำต่อ พออาบน้ำเสร็จ แต่งตัวอะไรเรียบร้อย ผมก้อพาน้องแมนไปทานข้าวแถวนี้ ผมเลือกร้านส้มตำเจ้าประจำหน้าปากซอยของผมเพราะว่าอร่อย และเป็นกันเอง นั่งนานๆได้ แม้ว่าจะราคาสูงกว่าร้านอื่น ผมก้อโอเคน่ะครับ ถือซะว่าซื้อรสชาติและความสบายใจ ร้านนี้จะให้ความเป็นกันเองกับผมและเพื่อนๆมาก
“ ช่วงนี้พี่อี้งานยุ่งเหรอครับ ไม่เห็นแวะไปทานข้าวที่บ้านแมนบ้างเลย พ่อ กับ แม่ก้อบ่นๆ หาอยู่น่ะ “ น้องแมนเอ่ยถามผมขึ้น
“ ก้ออย่างที่เห็นแหละแมน งานพี่ค่อนข้างเยอะ เลยไม่ค่อยได้มีเวลาส่วนตัวหรอก แล้วแมนล่ะเรียนหนักมากไหม นี่ใกล้สอบปลายภาคแล้วนี่ ตั้งใจอ่านหนังสือน่ะ คะแนนจะได้ออกมาดีๆ “ ผมตอบน้องแมนไป
“ ครับผม นี่แมนก้อตั้งใจอยู่น่ะครับ เพื่อพี่เอ้และทางบ้าน ว่าแต่ว่าที่ยุ่งอ่ะ เรื่องงานอย่างเดียว หรือว่าเรื่องอื่นด้วยครับ บอกแมนบ้างได้ไหมครับ “ น้องแมนถามผม เล่นซะผมอึ้งไปเลย
“ ก้อเรื่องงานนี่แหละ เรานี่ยังไงน่ะ เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่เอาๆ ไม่พูดเรื่องนี้ นี่ว่าแต่ว่าจะกลับยังไงอ่ะ ให้พี่ไปส่งไหม คืนนี้พี่ไม่ได้ไปไหนหรอก พอดีอาจจะได้แวะไปไหว้พ่อแม่เราหน่อย ถ้าพวกเค้ายังไม่หลับน่ะ “
“ วันนี้แมนขอพ่อ ออกมาติวกับเพื่อนที่หอมันอ่ะครับ แต่มันดันเอาแฟนมานอนด้วย แมนเลยต้องระเห็จมาหาพี่อี้นี่แหละ แต่แมนไม่ได้มารบกวนพี่อี้น่ะครับ รู้ว่าพี่อี้อยากมีเวลาส่วนตัว แมนอาจจะไปนอนกับเพื่อนที่รังสิตดีกว่าครับ ถึงไกลหน่อยแต่ก้อสบายใจดี “
“ ไม่ต้องมาพูดอย่างนี้เลยยยยย แหมๆๆ ไม่เห็นพี่คนนี้เป็นพี่ชายเราแล้วรึไง นอนห้องพี่ก้อได้ ดีซะอีก ว่าแต่ว่าเราจะติววิชาอะไรล่ะ พี่ช่วยสอนไหม ถ้าเป็นวิชาที่พี่ถนัดล่ะก้อ พี่พอช่วยได้น่ะ “
“ ก้อวิชาอังกฤษนั่นแหละครับ เป็นวิชาเดียวที่คะแนนแมนไม่ดีเลย รบกวนพี่อี้ทุกที ยังไงคืนนี้เป็นอาจารย์ให้เด็กโง่หน่อยน่ะครับ สัญญาว่าจะไม่ดื้อ ไม่สน และจะเลี้ยงหนังพี่อี้หลายๆเรื่อง “ น้องแมนอ้อนผม
“ ไม่ต้องมาอ้อนเลย ไอ้น้องคนนี้ ยังไงพี่ก้อช่วยอยู่แล้ว ป่ะ รีบไปกันเถอะ จะได้รีบอ่าน แล้วรีบนอน “ ผมตัดบทไป จากนั้นเราก้อจ่ายเงินค่าอาหารและเข้าห้องผม ก่อนเข้าน้องแมนก้อซื้อเสบียงมาเพรียบบอกว่าตุนไว้ เผื่อกลางคืนจะหิว เค้าซื้อเยอะมากเลยครับ คงกะไว้กินข้ามเดือนเลยมั้งนั่น
พอมาถึงห้องผม ผมก้อเริ่มติวให้น้องแมน ซึ่งน้องแมนก้อตั้งใจดีน่ะครับ แต่ทำไมเวลาถามน้องแมนถึงตอบแบบงงๆ ผมล่ะไม่เข้าใจน้องแมนจริงๆเลย เวลาผ่านไปสัก 5 ทุ่มกว่าๆ ก้อมีคนมาเคาะประตูห้องผม ผมมองลอดไปที่ตาแมวแต่คนๆนั้นหันหลังให้ผม ผมเลยมองไม่ถนัด แล้วตรงหน้าห้องผมไฟมันไม่ค่อยสว่างด้วย ผมกลัวว่าจะเป็นคนประทุษร้าย เลยเปิดประตูห้องไปแบบช้าๆ และคล้องสายโซ่ไว้ ในกรณีที่เค้าดันเข้ามาจะได้ไม่สามารถดันเข้ามาได้ง่ายๆ จากที่สังเกตุดูผมว่าน่าจะมาคนเดียว ผมและน้องแมนซึ่งเป็นมวยอยู่แล้วน่าจะสู้ไหว ในชั่วโมงนี้ ผมต้องป้องกันไว้ก่อนน่ะครับ แต่พอเปิดประตูมา แล้วเค้าก้อหันมา กลับเป็น......