แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]  (อ่าน 370855 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
แวะมาดันจ้า

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ตอนที่ 20.

เสียงซุบซิบเหมือนมีคนคุยกัน แต่ก็เบาจนจับใจความไม่ได้ทำให้ภัทรขมวดคิ้ว ทว่าหนึ่งในเสียงนั้นกลับมีเสียงเล็กๆ ที่คุ้นหูอยู่ด้วย พอเขาขยับพลิกตัวเพื่อจะจับความว่านั่นเป็นเสียงของใคร เสียงเล็กๆ นั้นก็พลันดังขึ้นใกล้หู

"อ๋า...น้าภัทรตื่นแล้วล่ะค่ะ!"

มายูมิส่งเสียงอย่างดีใจ เมื่อภัทรลืมตาขึ้นก็พบกับรอยยิ้มสดใสของหลานสาวที่กำลังยืนเกาะขอบเตียงและจ้องเขาอยู่ ชายหนุ่มตกใจจนเผลอดีดตัวขึ้นนั่ง ทำให้พบว่านอกจากคุณเชษฐ์ที่กำลังเอนหลังพิงหมอนอยู่ข้างๆ ภายในห้องยังมีคนอีกสี่คนนั่งอยู่ตรงชุดโซฟารับแขกด้วย

หนึ่งในสี่คนนั้นคือแพน พี่สาวของภัทรเอง อีกหนึ่งคือคุณปรีชาซึ่งเป็นท่านประธานบริษัท ส่วนคู่ชายหญิงวัยกลางคนที่นั่งถัดไป เขาเคยเห็นแค่ในรูปถ่าย แต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เจอกันครั้งแรกในที่แบบนี้

พ่อกับแม่ของคุณเชษฐ์...

“อ๊ะ ขอโทษครับ”

ความงัวเงียหายวับเป็นปลิดทิ้ง ภัทรรีบตลบผ้าห่มออกและตวัดขาเพื่อลงจากเตียง ดูเหมือนเมื่อครู่เขาจะหลับสนิทจนไม่รู้ตัวเลยว่ามีแขกเข้ามาในห้อง เมื่อคิดว่าทั้งสี่ได้มาเห็นเขานอนกินที่คนเจ็บนานแค่ไหนแล้ว ภัทรก็นึกอยากให้บนพื้นห้องมีหลุมเพื่อจะได้มุดหนีไปตรงนั้น

“จะรีบลุกไปไหนล่ะ เพิ่งนอนพักได้ไม่นานเองนะ”

แขนแข็งแรงข้างหนึ่งเอื้อมมารั้งเอวไว้ ความผอมบางที่ได้สัมผัสทำให้เชษฐ์ขมวดคิ้ว แต่ภัทรไม่สนใจและรีบดึงมือใหญ่ออกจากตัว

“แค่นั้นก็พอแล้วครับ เอ่อ...สวัสดีครับทุกคน ผมขออนุญาตแป๊บนึงนะครับ”

ภัทรหันไปไหว้ผู้อาวุโสแล้วก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาค่อนข้างมั่นใจทีเดียวว่านอกจากขอบตาที่ค่อนข้างบวมเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ตอนนี้ผิวหน้าก็คงจะแดงด้วยเนื่องจากโดนเห็นตอนอยู่ใกล้ชิดคุณเชษฐ์เสียขนาดนั้น

โชคดีว่าประตูห้องน้ำอยู่หลบเข้าไปหลังฉากกั้นตรงมุมห้อง เมื่อพ้นจากสายตาทุกคนแล้วภัทรจึงค่อยหายใจโล่งขึ้น เสียงฝีเท้าเล็กๆ ที่เดินตามมาและใช้มือดึงชายเสื้อเรียกให้คุณน้ายังหนุ่มก้มลงไปมอง

“มิมิ หนูมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”

ชายหนุ่มย่อตัวลงกระซิบถามหลานสาวตัวน้อย มายูมิจึงดึงข้อมือข้างที่คาดนาฬิกาของน้าชายไปเอียงคอมอง จากนั้นก็ใช้นิ้วเล็กๆ จิ้มบนหน้าปัด

“ตอนมิมิกับแม่มาถึง เข็มสั้นอยู่เลขสอง ตอนพวกคุณลุงคุณป้ามาถึง เข็มสั้นอยู่เลขสามค่ะ”

เวลาตอนนี้สามโมงครึ่ง เท่ากับว่านอกจากพี่แพนแล้ว อีกสามคนที่เหลือได้มาเห็นเขานอนเบียดข้างคุณเชษฐ์อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมง นี่ถ้าหากด้านหลังห้องน้ำมีประตูอีกบาน ภัทรคงใช้ประตูนั้นหนีอายออกไปให้รู้แล้วรู้รอด

แต่ว่า...ไม่ได้สิ...อายก็ส่วนอาย แต่สิ่งที่สมควรต้องทำในตอนนี้คือไปขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณเชษฐ์ที่ทำให้ต้องบาดเจ็บเพราะเขาต่างหาก

“น้าภัทร?”

แม่หนูน้อยเรียกเมื่อจู่ๆ น้าชายก็ทำหน้าขรึมขึ้น ภัทรยิ้มแล้วลูบผมหลานสาวเบาๆ จากนั้นจึงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา เมื่อออกมาอีกครั้ง มายูมิก็ดึงชายเสื้อเขาขณะเดินกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง

“มิมิ หนูมานั่งนี่ดีกว่าลูก”

แพนเรียกเมื่อเห็นลูกสาวเอาแต่เดินตามน้าชายต้อยๆ แม่หนูจึงยอมเดินไปนั่งข้างแม่แต่โดยดี ท่าทางที่ไม่ตื่นคนแปลกหน้าแสดงว่าคงได้ทำความคุ้นเคยกับผู้ใหญ่ทั้งสามพอสมควรแล้ว

“ภัทร นี่คุณชาญ แล้วก็คุณมาศ พ่อกับแม่ของเชษฐ์เขา”

คุณปรีชาที่นั่งอยู่ข้างผู้สูงวัยอีกสองคนหันมาแนะนำ ภัทรจึงยกมือขึ้นไหว้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งคู่ยกมือขึ้นรับไหว้พร้อมกับมองเขาอย่างพินิจพิจารณา ไม่ได้มีแววรังเกียจเดียดฉันท์...แต่ก็ทำให้ภัทรประหม่าไม่น้อย บางทีคุณเชษฐ์คงแนะนำเขาคร่าวๆ ไปแล้วระหว่างที่ยังมัวแต่หลับกระมัง

ถ้าเป็นไปได้...ก็ไม่อยากต้องทำความรู้จักกับท่านทั้งสองในสถานการณ์เช่นนี้เลย

“สวัสดีครับ เอ่อ...เรื่องของคุณเชษฐ์ ...ผมต้องขอโทษ”

“อุ๊ย! ลุกขึ้นมาเถอะลูก อย่าทำอย่างนั้น”

คุณเพียงมาศรีบรั้งไหล่ภัทรเมื่อเขาก้มลงไปกราบแทบเท้า แม้แต่เชษฐ์ที่อยู่บนเตียงก็ยังทำสีหน้าตกใจ ทว่าภัทรไม่ยอมลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ทั้งที่หญิงสูงวัยพยายามจะดึงให้เขาขึ้นไปนั่งข้างๆ

“ผม...เป็นเพราะผมคุณเชษฐ์ถึงบาดเจ็บ ช่วงที่คุณเชษฐ์ยังไม่ฟื้นผมทำอะไรไม่ถูกเลย เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง ผมขอโทษครับ”

เมื่อเอ่ยถึงช่วงเวลาก่อนที่คนเจ็บจะฟื้น ภัทรก็หวนระลึกได้ว่าเขาทรมานใจมากแค่ไหนในช่วงไม่กี่วันนั้น ถ้าหากว่าผู้สูงวัยทั้งสองได้มาเยี่ยมตั้งแต่ก่อนที่คุณเชษฐ์จะรู้สึกตัว เขาอาจจะรู้สึกผิดบาปมากยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้

ชายหนุ่มนั่งบนพื้นและก้มหน้านิ่งด้วยความรู้สึกผิด จึงไม่ได้เห็นว่าผู้สูงวัยทั้งสามรวมทั้งพี่สาวของเขามองหน้ากันด้วยแววตาแบบไหน ฝ่ายคนเจ็บที่อยู่บนเตียงจึงร้อนใจจนพยายามดันตัวขึ้นเพื่อลงจากเตียงเสียเอง

“รู้ตัวว่ายังไม่หายดีก็อยู่เฉยๆ แม่เขาเกือบจะเป็นลมไปรอบนึงแล้วตอนที่รู้ข่าว พ่อไม่อยากต้องอุ้มแม่แกไปนอนบนเตียงอีกคน”

คำสั่งห้ามจากผู้เป็นบิดาทำให้เชษฐ์ขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็จำต้องทำตามเมื่อมารดาส่งยิ้มอย่างเข้าใจมาให้ คุณเพียงมาศก้มลงมองภัทรอีกครั้งก่อนจะยกมือลูบผมเบาๆ

“ยอมรับว่าตอนพ่อกับแม่ได้ยินเรื่องนี้จากคุณปรีชาก็ตกใจ แต่พวกเราคุยกันแล้วว่าคนผิดไม่ใช่ภัทรหรอกจ้ะ อีกอย่างตอนนี้เชษฐ์เขาก็ฟื้นแล้ว ภัทรก็อย่าโทษตัวเองอีกเลยลูก”

ลูก...ช่างเป็นคำที่ฟังแล้วอบอุ่นเหลือเกินจากคนที่เพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทว่ายิ่งได้รับความอ่อนโยนมากเท่าไหร่ ภัทรก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ทำให้ผู้สูงวัยทั้งสองต้องเป็นกังวลกันเรื่องของคุณเชษฐ์ถึงเพียงนั้น

เมื่อเห็นว่าภัทรยังนั่งนิ่งโดยไม่มีทีท่าจะลุกขึ้น ทว่าขอบตากับปลายจมูกแดงเรื่อ คุณปรีชาก็มองหน้าผู้มีศักดิ์เป็นอาซึ่งอายุมากกว่าตัวเองเพียงไม่กี่ปีเขม็ง คุณชาญมองตอบก่อนจะย่นคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ทำในสิ่งที่ทำให้ทั้งภัทรและแพนตกใจด้วยการย่อตัวลงนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าภัทรและจับไหล่เขาเอาไว้

"ฟังนะภัทร พ่อกับแม่ไม่ได้คิดโทษภัทร ถึงจะไม่พอใจที่ตาเชษฐ์ถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่พ่อกับแม่แยกแยะได้ว่าคนที่ทำผิดจริงๆ คือใคร เราน่ะเลิกคิดมากเถอะนะ"

เมื่อเอ่ยจบผู้สูงวัยก็รั้งไหล่เขาให้ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาข้างๆ ภรรยา จากนั้นตนก็นั่งลงประกบอีกด้าน มือที่เริ่มเหี่ยวย่นเล็กน้อยตามวัยยกขึ้นลูบผมของเขาอย่างอ่อนโยน ซึ่งทำให้ภัทรรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวเหมือนน้ำตาจะไหลอีกครั้ง

"ขอบคุณมากครับ"

ภัทรยกมือขึ้นไหว้บนไหล่ของผู้สูงวัยที่นั่งอยู่ทางซ้ายและขวาของตนเอง จากนั้นก็เหลือบตามองไปทางคนเจ็บที่กำลังมองเขาอยู่และยิ้มน้อยๆ ให้ เมื่อได้พบกับบุพการีของอีกฝ่าย เขาก็ไม่สงสัยอีกแล้วว่าทำไมคุณเชษฐ์ถึงเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง และพร้อมจะมอบความรักให้เขาอย่างไม่มีเงื่อนไขได้ถึงขนาดนี้

เป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้รับความรักอันเปี่ยมล้นและกำลังใจอันมากมายจากคู่ชายหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาในเวลานี้นี่เอง...

คุณปรีชาระบายลมหายใจยาวเมื่อเห็นสถานการณ์อันน่าอึดอัดเริ่มผ่อนคลายลง ท่านประธานเหลือบมองคนเจ็บบนเตียงก่อนจะหันกลับมาสบตากับคุณชาญที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ ภัทรอีกครั้ง

"เอาล่ะ ไหนๆ ก็มีโอกาสได้คุยกันพร้อมหน้าทุกคนแล้ว ตกลงพี่ชาญตั้งใจว่ายังไงกับคนที่ทำให้เชษฐ์เข้าโรงพยาบาลครับ?"

สีหน้าของคนถูกถามขรึมลงทันที ทว่าประกายในแววตาดุดันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว ตาเชษฐ์เจ็บตัวถึงขนาดนี้ ยังไงไอ้คนที่ทำก็ต้องรับผิดชอบ"

"ผมเห็นด้วยกับพี่ชาญ ตอนแรกผมก็ตั้งใจจะทำแบบนั้น แต่รอพี่กับคุณมาศมาถึงเมืองไทยก่อนจะได้มั่นใจว่าเห็นตรงกัน ภัทร...รบกวนช่วยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นอีกทีได้ไหม? เพราะฉันก็ได้ฟังมาจากนินนาทอีกทอดหนึ่ง ยังไงก็คงไม่ละเอียดเท่ากับถามเธอที่อยู่ในเหตุการณ์เอง"

ภัทรหน้าตื่นเมื่อคุณปรีชาหันมาถาม เขาชำเลืองมองคุณเชษฐ์ก็พบว่ากำลังทำสีหน้าที่อ่านไม่ออก แต่เมื่อเหลือบไปมองแพนก็เห็นพี่สาวพยักหน้าให้ คุณเพียงมาศเห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของเขาจึงดึงมือไปบีบเบาๆ

"เล่าให้พวกแม่ฟังหน่อยเถอะนะภัทร เราจะได้ไปปรึกษาทนายต่อได้ถูกต้องนะจ๊ะ"

น้ำเสียงและแววตาอ้อนวอนของหญิงสูงวัยมีน้ำหนักจนใครก็ไม่อาจปฏิเสธ ดังนั้นต่อให้ไม่อยากนึกถึงเรื่องราวในคืนนั้นมากเพียงใด ภัทรก็จำต้องรวบรวมสติและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟังไปตามตรง


++------++


เมื่อพระจันทร์ทอแสงนวลบนกึ่งกลางม่านฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ความสงบเงียบก็กลับมาเยือนห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง หลังจากทุกคนกลับไปได้พักใหญ่เพราะหมดเวลาเข้าเยี่ยม ในห้องพักวีไอพีเวลานี้จึงเหลือเพียงคนเจ็บที่กำลังเอนหลังดูข่าวโทรทัศน์อยู่บนเตียง กับคนเฝ้าที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำเท่านั้น

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดแขนสั้นกับกางเกงวอร์มขายาว ภัทรก็ใช้ผ้าขนหนูซับผมที่เพิ่งสระและยังหมาดอยู่หน้ากระจก หลังจากวันอันแสนยาวนานจบลง ตอนนี้เขาก็ไม่นึกอยากทำอะไรนอกจากพักผ่อนเช่นกัน

"ภัทร..."

"อ๊ะ ครับ"

ชายหนุ่มรีบเดินออกจากห้องน้ำไปตามเสียงเรียก ถึงแม้เชษฐ์จะรู้สึกตัวแล้วและไม่ปรากฏอาการข้างเคียงที่น่าเป็นห่วงหลังจากส่งตรวจร่างกายอีกครั้งเมื่อตอนบ่าย แต่แพทย์ก็ยังขอให้นอนที่โรงพยาบาลต่ออีกสองคืนเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอาการแทรกซ้อนจริงๆ

"ขอโทษที อาบน้ำเสร็จรึยัง?"

"เสร็จแล้วครับ พอดียังเช็ดผมไม่แห้งก็เลยใช้เวลานานไปหน่อย"

ภัทรเอ่ยพลางยกเหล็กกั้นขอบเตียงลงเพื่อจะได้ขึ้นไปนั่งข้างๆ คนเจ็บ เวลานี้นอกจากผ้าพันแผลบนศีรษะกับชุดคนไข้ของโรงพยาบาล คนที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่ก็ไม่มีอาการใดที่น่าวิตกกังวลอีก และภัทรก็โล่งอกเหลือเกินที่เป็นเช่นนั้น 

"อืม...ยังไม่แห้งจริงๆ ด้วย"

เชษฐ์ยกมือขึ้นลูบเรือนผมที่ยังชื้นเล็กน้อยของภัทรเบาๆ ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้วต่อไปยังผิวแก้มที่เนียนลื่นหลังจากเพิ่งอาบน้ำ ภัทรหลับตาลงเมื่อปลายนิ้วนั้นค่อยเลื่อนขึ้นสัมผัสส่วนอื่นบนใบหน้า ไม่ว่าจะเปลือกตา จมูก หรือว่าหน้าผาก นัยน์ตาเรียวเปิดขึ้นช้าๆ เมื่อสุดท้ายปลายนิ้วนั้นหยุดนิ่งอยู่บนริมฝีปากของเขา และได้พบว่านัยน์ตาคมเข้มจับจ้องมาอยู่ก่อนแล้ว

"...เมื่อตอนบ่ายขอโทษด้วยนะ ที่พ่อกับแม่ฉันถามถึงเรื่องนั้น"

ภัทรรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องไหน จึงส่ายหน้าพลางจับมือข้างที่อ้อยอิ่งอยู่บนริมฝีปากให้แนบแก้มตัวเองไว้

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าไม่ถูกซักต่างหากถึงจะแปลก อีกอย่างตอนนี้ผมพูดถึงเรื่องนั้นได้โดยไม่เป็นไรแล้วล่ะ คุณเชษฐ์ปลอดภัยแล้วนี่นา"

เขายิ้มน้อยๆ พลางหวนนึกไปถึงเมื่อตอนบ่ายที่คุณชาญกับคุณเพียงมาศขอให้เล่าเรื่องในคืนที่คุณเชษฐ์ถูกทำร้ายอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงแม้จะยังลมหายใจติดขัดเมื่อต้องคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ภัทรก็พบว่าเมื่อได้เริ่มเล่าแล้ว เขาก็ไม่อึดอัดมากเท่าที่หวั่นกลัวในตอนแรก

เชษฐ์มองรอยยิ้มบนมุมปากของภัทรโดยไม่ได้ยกมือออก ทว่านัยน์ตาคมเข้มขรึมลงเล็กน้อย "แล้วถ้าฉันถามแค่ความเห็นเธอล่ะ อยากให้เอาเรื่องกับหมอนั่นหรือเปล่า?"
 
"เอ๊ะ?"

ภัทรเลิกคิ้ว แต่เมื่อเห็นคนถามยังจ้องเขานิ่ง ชายหนุ่มก็หลุบตาลงนิดหนึ่ง

"...ถึงผมจะไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไม...เขา...ถึงทำแบบนั้นในคืนนั้น แต่ใครทำอะไรไว้ก็สมควรได้รับผลที่ตามมาครับ"

ถึงแม้จะรู้ดีว่าคืนนั้นธราธรก็โดนเล่นงานปางตายเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณเชษฐ์โดนกระทำแล้ว ภัทรก็ไม่อาจทำตัวเป็นกลางแล้วนำทั้งสองเรื่องมาหักล้างกันได้ เพราะเขาย่อมจะลำเอียงเข้าข้างคนที่เขารักมากกว่าอยู่แล้ว

นี่ยังดีว่าคุณเชษฐ์ฟื้นและไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ...

แค่นึกถึงฝันร้ายเมื่อเช้าภัทรก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว เชษฐ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นไหล่ผอมสั่น แต่ยังไม่ทันถามว่าเป็นอะไร ภัทรก็รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นมาก่อน

"คุณเชษฐ์...คืนนี้ผมขอนอนข้างๆ เหมือนเมื่อกลางวันได้ไหมครับ?"

ร่างสูงใหญ่เลิกคิ้วแต่ไม่ได้ตอบในทันที และนั่นทำให้ภัทรรู้สึกร้อนหน้าขึ้นมากับคำขอเหมือนเด็กๆ ของตัวเอง "คือ...ถ้าคุณเชษฐ์ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ผมนอนที่โซฟาข้างๆ นี่ก็ได้"

"เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้บอกสักคำว่าไม่สะดวก จะรีบไปไหน?"

มือแข็งแรงรั้งศอกของคนที่กำลังจะลงจากเตียงได้ทัน เมื่อภัทรหันกลับไปเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนตัวใหญ่กว่าก็ให้เก้อเขินยิ่งขึ้นจนต้องหลบตา

"ถ้างั้น...ขอผมไปเช็ดผมให้เสร็จแล้วปิดไฟก่อน คุณเชษฐ์ดูข่าวไปก่อนก็ได้ครับ"

ร่างสูงใหญ่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือ ฝ่ายภัทรได้แต่รีบลุกหนีเข้าห้องน้ำแล้วจัดการธุระส่วนตัวต่อให้เสร็จ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลังจากที่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองไปแล้ว และความวิตกกังวลถูกขจัดจากหัวใจ ตอนนี้เขายิ่งขัดเขินยามถูกหยอกเย้าจากคุณเชษฐ์มากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก

แต่ขณะเดียวกัน...มันก็เป็นความรู้สึกที่ทำให้ในอกอบอุ่นไม่น้อยเลย...

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
หลังจากเช็ดผมจนค่อนข้างแห้ง ภัทรก็ออกจากห้องน้ำมาปิดไฟในห้อง ทิ้งไว้เพียงแสงไฟสีส้มอ่อนเหนือประตูทางเข้า ฝ่ายเชษฐ์ก็ปิดโทรทัศน์แล้วขยับที่ให้ภัทรได้ขึ้นนอนข้างๆ เหมือนเมื่อกลางวัน หลังจากดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวทั้งคู่และต่างเงียบกันไปครู่ใหญ่ ภัทรก็เงยหน้าขึ้นถามเชษฐ์อีกครั้ง

"ผมมาเบียดแบบนี้คุณเชษฐ์ไม่นอนลำบากจริงๆ นะครับ?"

ถึงแม้ตัวเองจะเป็นคนขอ กระนั้นเขาก็ยังเกรงใจ เพราะถึงอย่างไรความสบายตัวของคนเจ็บก็ควรจะมาก่อนความต้องการอันไร้เหตุผลของเขา ทว่าเชษฐ์เพียงยิ้มแล้วส่ายหน้า

"ไม่หรอก อีกอย่างถ้าไม่ทำแบบนี้เธอจะนอนไม่หลับสินะ"

ภัทรเลิกคิ้วด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ จริงอยู่ว่าคุณหมอยืนยันแล้วว่าคนเจ็บไม่มีอาการแทรกซ้อนที่น่าเป็นห่วง ทว่าภัทรก็มั่นใจว่าถ้าหากไม่ได้คอยอยู่ข้างๆ จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นและเสียงลมหายใจ เขาคงกระวนกระวายจนนอนไม่หลับต่อให้โซฟานุ่มสบายเพียงไรแน่ๆ

"ครับ..."

ภัทรตอบเสียงเบาพลางซุกเข้าหาไหล่หนามากขึ้น แต่ยังไม่ทันจะปิดเปลือกตาลงก็ถูกมือใหญ่เชยคางให้เงยขึ้น

"จะว่าไป เมื่อเช้านี้ฉันได้ยินอะไรบางอย่างตอนที่ฉันเพิ่งตื่นนะ"

ภัทรกะพริบตาปริบอย่างไม่เข้าใจ เพราะจำได้ว่าตัวเองเอาแต่ร้องไห้ตอนที่คุณเชษฐ์ยังไม่ฟื้น พอเห็นแววตาแสดงความงุนงง ผู้สูงวัยกว่าจึงขยับหน้าเข้าใกล้มากขึ้นจนภัทรรู้สึกถึงลมหายใจที่ระบนปลายจมูก

"ฉันได้ยินใครบางคนพูดว่า 'ถ้าอยากได้ยินคำว่ารัก ผมจะพูดให้ฟังทุกวัน' ช่วยบอกหน่อยสิว่านั่นฉันฝันไปหรือว่ามีใครพูดแบบนั้นจริงๆ"

"นั่นมัน..."

ภัทรไม่อยากเชื่อว่าคุณเชษฐ์จะจำได้ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าตัวยังไม่ฟื้นคืนสติเต็มร้อย เพราะเมื่อเช้าเขาเอาแต่ฟูมฟายจนพร่ำความในใจทุกอย่างออกมาโดยไม่ทันคิด จึงแทบลืมไปหมดแล้วว่าหลุดคำพูดอะไรไปบ้างด้วยซ้ำ

ชายหนุ่มมองเข้าไปในแววตาคมเข้มที่กำลังสบประสาน นี่ถ้าไม่ใช่เพราะผ่านเหตุการณ์ชวนขวัญผวามาด้วยกัน เขาคงนึกว่าคุณเชษฐ์แกล้งบาดเจ็บเพื่อลองใจไปแล้วแน่ๆ

"...คุณเชษฐ์อยากให้ผมพูดตอนนี้เหรอครับ?"

เขาถามทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากประวิงเวลาอีกสักหน่อย เผื่อว่าความรู้สึกร้อนวูบวาบบนผิวหน้าจะลดน้อยลงกว่านี้บ้าง นัยน์ตาของคนเจ็บจึงเป็นประกายขณะดึงปลายนิ้วของภัทรขึ้นไปแตะริมฝีปากตัวเอง

"อยากให้พูดทุกวันเลยล่ะ"

เรียวลิ้นอุ่นที่แลบออกมาเลียปลายนิ้วซึ่งตัดเล็บสั้นหมดจดเบาๆ ทำเอาภัทรสะดุ้งจนเกือบชักมือหนี แต่ก็รู้ว่าตัวเองจนแต้มแล้ว อีกอย่างเขาก็เป็นคนลั่นวาจาออกไปเอง หากกลับคำตอนนี้คงทำให้กลายเป็นคนโลเลไม่หนักแน่นแน่ๆ

แต่ว่า...มันอาจพูดง่ายกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพราะโดนคุณเชษฐ์จ้องเสียใกล้ด้วยแววตาวิบวับขนาดนี้กระมัง...

"เอ่อ...ผม..."

"หืมม์?"

ภัทรเม้มปากด้วยรู้ว่ากำลังโดนแกล้ง แต่จะไม่ให้เขินได้ยังไง ก็ตอนที่พูดเวลาคุณเชษฐ์ยังไม่รู้สึกตัวดีกับตอนที่ตั้งใจรอฟังซะขนาดนี้มันไม่เหมือนกันนี่นา

"อย่าแกล้งผมสิครับ"

ภัทรหน้าร้อนซู่เมื่อปลายนิ้วก้อยโดนคนที่จับมือไว้ใช้ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ แถมเจ้าตัวยังทำท่าจะทำแบบเดียวกันกับนิ้วอื่นอีก เชษฐ์จึงยิ้มก่อนจะปล่อยนิ้วนั้นให้เป็นอิสระจากริมฝีปาก

"ไม่ได้แกล้ง แต่เธอไม่พูดสักที ฉันก็ต้องฆ่าเวลาระหว่างรอสิ"

นี่เป็นคำพูดของคนเจ็บที่กำลังพักฟื้นจริงๆ เหรอเนี่ย!

ภัทรแทบอยากไปถามคุณหมอให้รู้แล้วรู้รอดว่าคนไข้ไม่ได้สมองกระทบกระเทือนจริงๆ หรือ เพราะนิสัยชอบแกล้งชอบแหย่ของอีกฝ่ายดูเหมือนจะหนักข้อยิ่งกว่าก่อนเข้าโรงพยาบาลเสียอีก แต่ตอนนี้จะลุกไปถามหมอก็คงไม่ได้ จึงทำได้เพียงข่มความอายก่อนที่จะโดนแกล้งหนักไปกว่านี้

"ผมรักคุณเชษฐ์ครับ"

ชายหนุ่มพูดรัวจนลิ้นพันกันเพราะคนฟังเล่นไม่ขบนิ้วอย่างเดียวแต่ดูดเบาๆ ด้วย สัมผัสอุ่นชื้นจากช่องปากที่ห่อหุ้มปลายนิ้วเอาไว้ปลุกเร้าปลายประสาทจนสมองแทบจะหยุดทำงานเสียดื้อๆ

"ไม่เอา พูดให้ชัดถ้อยชัดคำกว่านี้สิ"

น้ำเสียงหยอกเย้าทำให้ภัทรรู้สึกเหมือนผิวหน้ากำลังโดนไฟอังจนร้อนไม่หยุด พอพยายามจะดึงมือกลับก็ยิ่งโดนยึดไว้แน่นกว่าเดิม ชายหนุ่มเม้มปากขณะเหลือบตาขึ้น ทว่าเมื่อได้เห็นความคาดหวังที่ซ่อนอยู่หลังประกายตาซุกซน ความเข้าใจก็วาบขึ้นในอกทันที

ถ้าหากเขายังมัวแต่เขินอาย ไม่พูดตอนที่คุณเชษฐ์ยังอยู่ตรงหน้า ยังหายใจและมีเลือดเนื้อให้สัมผัสจับต้องได้เช่นนี้ จะมีเวลาไหนที่เหมาะสมให้เขาได้บอกความในใจอีกหรือ...

ภัทรเลื่อนมือข้างที่ไม่ได้ถูกจับไว้ขึ้นประคองใบหน้าของคนที่กำลังทอดกายเคียงข้าง นัยน์ตาที่กำลังมองเขาอยู่ฉายประกายลึกล้ำมากขึ้นจนภัทรถอนสายตาไม่ได้ และเขาก็พบว่าตนยินดีจะถูกแววตาเช่นนี้ดึงดูดไม่ว่าจะอีกนานเพียงใดก็ตาม

"ผม...รักคุณเชษฐ์ครับ รักมากที่สุด" 

เสียงที่หลุดจากริมฝีปากแผ่วเบาทว่าหนักแน่น และคนฟังก็ไม่ได้เรียกร้องขอฟังซ้ำเมื่อภัทรเป็นฝ่ายประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากของเจ้าตัวก่อน มือใหญ่ที่เมื่อครู่ยึดมือของเขาไว้ได้เลื่อนลงไปโอบรอบเอวของภัทรแทน ร่างทั้งสองบดเบียดจนภัทรรับรู้ได้ถึงแรงเต้นของหัวใจผ่านแผ่นอกที่แนบชิด และเขาก็มั่นใจว่าหัวใจของตนก็กำลังเต้นแรงจนถ่ายทอดไปถึงร่างสูงใหญ่เช่นเดียวกัน

 ริมฝีปากและปลายลิ้นฉ่ำที่เกี่ยวกระหวัดก่อให้เกิดเสียงแผ่วเบาชวนวาบหวามภายในห้องที่เงียบสงัด ท่ามกลางความมึนเมาจากไออุ่นและกลิ่นกายที่กำลังโอบล้อม ภัทรรู้สึกราวตัวเองกำลังตกลงไปในหล่มลึกที่ไม่มีวันจะปีนกลับขึ้นมาได้ แต่เขาก็ไม่หวาดกลัวเพราะรู้ดีว่าใครคนหนึ่งพร้อมจะจับจูงมือไปตลอดทางที่ทอดยาวไปจากหล่มนั้น

คุณเชษฐ์...คือคนที่มอบความมั่นใจนั้นให้แก่เขานั่นเอง...   


++------++


เช้าวันต่อมา ภัทรรีบตื่นแต่เช้าตรู่ก่อนที่นางพยาบาลจะมาตรวจวัดไข้ให้คนเจ็บ เขาลงไปตักบาตรที่ด้านข้างโรงพยาบาล จากนั้นก็ซื้อขนมและผลไม้ที่คุณเชษฐ์น่าจะทานได้กลับมาที่ห้อง แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกเหมือนหัวใจหล่นหายไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะว่าบนเตียงว่างเปล่า ไม่ต่างจากที่เขาฝันร้ายเมื่อวานเลยสักนิด

"คุณเชษฐ์!"

"อยู่นี่"

เสียงตอบที่ดังมาจากทางห้องน้ำทำให้ภัทรระบายลมหายใจยาวอย่างโล่งอก เขารีบวางถุงข้าวของที่ซื้อมาแล้วเดินตามไปในห้องน้ำ และพบว่าคนเจ็บกำลังยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก

"ถ้าจะลุก ทำไมไม่รอให้ผมกลับมาก่อนล่ะครับ"

รู้ว่าไม่ควรแสดงอารมณ์ แต่สีหน้าของภัทรคงบ่งบอกอะไรบางอย่างออกไป เชษฐ์จึงหันมามองแล้วหัวเราะน้อยๆ หลังจากล้างหน้าและซับน้ำด้วยผ้าขนหนูแล้ว

"ขอโทษที เอาแต่นั่งๆ นอนๆ บนเตียงมาหลายวันก็เลยอยากลุกเดินบ้าง ฉันไม่รู้ว่าเธอจะกลับมาตอนไหนก็เลยไม่ได้รอ แล้วนี่กินข้าวเช้ามาหรือยัง?"

 เชษฐ์ไม่ได้บอกเขาว่า 'อย่างอน' แต่ใช้วิธีง้อด้วยการขอโทษและถามถึงเรื่องอื่นแทน ภัทรจึงพยายามระงับอารมณ์เพราะรู้ดีว่าช่วงนี้ตนอ่อนไหวเกินไปแล้ว เขารับมือข้างที่ไม่ได้เสียบสายน้ำเกลือของเชษฐ์มากุมขณะเดินเคียงข้างช้าๆ กลับไปที่เตียง

"ยังครับ ผมซื้อมาจะได้นั่งกินเป็นเพื่อนคุณเชษฐ์บนห้องได้ เมื่อกี้เห็นแม่บ้านกำลังเข็นรถเข็นอาหารอยู่ อีกสักพักคงมาถึงห้องเรา"

"อืม"

ภัทรช่วยคลี่ผ้าห่มคลุมท่อนล่างให้หลังจากร่างสูงใหญ่ขึ้นนั่งบนเตียง เขาช่วยปรับหัวเตียงให้เอนขึ้นและเอาหมอนซ้อนเพื่อให้คนเจ็บได้นั่งพิงสบายๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างกังวล

"เอ่อ...ผมทำให้คุณเชษฐ์รำคาญหรือเปล่าครับ?"

"หือ? ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ?"

สีหน้าของคนถามแสดงออกว่าแปลกใจกับคำถามของเขาจริงๆ ภัทรจึงหลุบตาลง

"คือ...ผมก็ไม่เคยเฝ้าคนเจ็บในโรงพยาบาลมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรแค่ไหนถึงจะไม่มากเกินไป อย่างเมื่อกี้ผมก็ตกใจที่คุณเชษฐ์ไม่อยู่ที่เตียง ก็เลย...ลืมไปว่าคุณเชษฐ์อาจไม่ชอบที่ทำด้วยเหมือนเป็นคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ก็ได้"

ที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะรำคาญก็เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องก็เพราะฝันร้ายเมื่อวานยังติดตา ภัทรเลยกลายเป็นคนตื่นตกใจง่ายไปโดยปริยาย ท่าทางหงอยๆ ของเขาทำให้เชษฐ์ต้องดึงมือข้างหนึ่งไปกุมแล้วก็บีบเบาๆ อย่างให้กำลังใจ

"ไม่เป็นไรหรอก ฉันดีใจเสียอีกที่เธอเป็นห่วง แค่ต้องเป็นคนที่พาฉันมาส่งโรงพยาบาล แล้วยังต้องมาเห็นฉันหลับไม่ตื่นอีกสามวันเต็มๆ ถ้าหากสลับที่กันแล้วฉันเป็นคนที่ต้องมาเฝ้าเธอ ตอนนี้ฉันอาจจะคลั่งไปแล้วก็ได้"

ภัทรเหลือบมองรอยยิ้มของคนพูดแล้วก็ได้แต่ยิ้มอ่อนๆ ตอบ กระนั้นสัญชาตญาณก็บอกเขาว่าเหตุการณ์นั้นไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะถ้าหากเกิดเรื่องร้ายแรงเช่นในคืนนั้นอีกสักกี่ครั้ง คุณเชษฐ์ก็คงจะเอาตัวเข้ามาป้องกันเขาไว้เพื่อไม่ให้เป็นอะไรอยู่ดี

ความเชื่อมั่นที่ถูกมอบให้กับคนตรงหน้าจนหมดใจ ทำให้ภัทรไม่สงสัยกับสมมติฐานนั้นเลยสักนิดเดียว

ไม่นานนักแม่บ้านก็นำอาหารเช้ามาส่งที่ห้อง ภัทรเลื่อนโต๊ะสำหรับทานอาหารมาให้คนเจ็บแล้วก็ช่วยจัดเรียงอาหารในถาดให้ ระหว่างที่ทั้งสองนั่งทานมื้อเช้ากันไปและดูข่าวในโทรทัศน์ไปพลางก็มีเสียงเคาะประตูสองครั้งก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออก

ภัทรวางแก้วน้ำเต้าหู้ที่ยังดื่มไม่หมดลงและยืนขึ้นเพราะนึกว่าคงเป็นพ่อกับแม่ของคุณเชษฐ์ แต่ผิดคาดที่ผู้ซึ่งยืนอยู่หน้าประตูกลับเป็นหญิงสาวไม่คุ้นหน้าคนหนึ่ง แต่เมื่อตั้งใจมองดีๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“คุณ...?”

ถึงแม้จะเคยพบอย่างผิวเผินเพียงสองหรือสามครั้ง ภัทรก็มั่นใจว่าตนไม่มีทางจำผิด ดูเหมือนอีกฝ่ายก็ไม่แปลกใจเช่นกันที่เขาแสดงออกว่าคุ้นหน้าเธอทั้งที่ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนสักคำ

“สวัสดีค่ะ คุณภัทร คุณเชษฐ์ เขมมีเรื่องอยากคุยด้วยค่ะ”


++---tbc---++


A/N: เข็นตอนใหม่ออกมาได้ทันวันคริสต์มาสพอดี ขอถือโอกาสนี้อวยพรวันหยุดปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงให้ทุกคนไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ ขอให้ประสบพบเจอแต่เรื่องดีๆ สมหวังทุกเรื่องที่ตั้งใจไว้ค่ะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะค้า


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกโล่งใจไปหน่อย เริ่มหวานๆๆ กันแล้ว กิ้วๆๆๆ  สงสัยคุณเขมนี่คือ ภรรยาธราธรแน่เลย

MERRY CHRISTMAS นะคะ



[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2012 09:57:08 โดย dahlia »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จิ้มๆๆๆ 
เขม คือใครกันนะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
กำลังหวานกำลังสุข
แล้วดูเหมือนผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้แล้ว และก็น่าจะผ่านได้ด้วยดี
หวังว่า คุณเขมอะไรนี่คงไม่นำเรื่องมาให้นะ

  :L2: :L2:Merry Christmas
And a happy New Year.
  :3123: :3123:ขอให้คุณรินมีความสุข ประสบแต่สิ่งที่ดีงามตอดไปนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ชอบตอนนี้  หวานเล็ก ๆ แต่ว่าเขมนี่ใครเหรอ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เมีย ธร เราะ???
อั้ยย่ะ จะมาคุยเรื่องอะไรกันนี่
แต่คุณเชษฐ์น่ารักกกก
แกล้งภัทรซะเยอะเลยอ่ะ ^^
อิอิ
รักกันๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
โล่งอกหน่อย ทุกอย่างแฮปปี้ เหลือแต่เรื่องของนายธรตัวร้ายเนี้ยละม้าง

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
มาอีหรอบนี้ ไม่อยากจะให้ภัทรยอมยกโทษให้ง่ายๆนะคะ ถึงแม้เมียเค้าจะมาหาถึงที่ก็เถอะ...
ถึงธรจะโดนกระทืบปางตายไปวันนั้น แต่คุณเชษฐ์เจ็บกว่า !! ฉะนั้นแฟนคลับขอออกเสียงหนึ่งเสียง
ว่ายอมไม่ได้คะ !! ต้องเอาเรื่องให้ึถึงที่สุด ฮ่าา อย่าไม่ยอม โนว โนว โนว !!!
แหม แต่ภัทรนี่เป็นลูกสะใภ้ที่น่าเอ็นดูจริงๆเลย คุณพ่อคุณแม่ไม่รักยังไหวคะเนี๊ย

ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
โอ้วววววววววววว ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ เริ่มหวานนนกันแล้วววววววววว ^^
ขอบคุณสำหรับนิยายนะค๊า แล้วก็ Merry Christmas ค่ะ
รอตอนหน้าน๊า

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออีกไวๆนะจ้า

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น่ารักอีกแล้ว

จริงๆแล้วคุณเชษฐ์ก็ชอบแกล้งภัทรอยู่แล้วนะ แต่การแกล้งตอนนี้ยิ่งน่ารักไงไม่รู้
(ภัทรเขินสุดๆๆๆ แล้วน่ารักมากกกก...ฮาาาา)

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
คุณเชษฐ์ขี้แกล้งภัทรหนักขึ้นทุกวันเลยนะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
หญิงสาวที่ชื่อเขมคงไม่มาทำให้เกิดเหตุการณ์ดราม่าขึ้นอีกนะ ขนาดคุณพ่อ-คุณแม่คุณเชษฐ์
ยังยอมรับภัทรแล้ว ก็น่าจะทำให้ความรักของคุณเชษฐ์กับภัทรสุขสมหวังได้เสียที รออ่านตอนต่อไป
ส่งกำลังใจให้น้องริน คุณเชษฐ์+ภัทรด้วยค่ะ +1 +เป็ด แทนคำขอบคุณค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ตอนที่ 21.

ท้องฟ้ายามสายขมุกขมัวเนื่องจากพระอาทิตย์ซ่อนอยู่หลังเมฆหนา กระนั้นไอร้อนก็ยังแทรกผ่านกลีบเมฆลงมาอย่างไม่ปรานี สิ่งที่พอจะบรรเทาความร้อนได้บ้างมีเพียงสายลมอ่อนบางที่หอบกลิ่นดอกโมกริมรั้วให้รวยรินมาตามอากาศ

เสียงนกและแมลงในสวนช่วยให้บรรยากาศรอบบ้านทรงไทยสองชั้นไม่วังเวงจนเกินไป บนชานบ้านที่เชื่อมกับบันไดไม้ด้านหลัง ภัทรนั่งเหม่อมองทิวสวนที่อยู่ถัดไปจากลำธารสายเล็กๆ ซึ่งไกลออกไปจะเห็นหลังคาบ้านอื่นในย่านเดียวกันประปราย บางครั้งนัยน์ตาหม่นหมองก็จะทอดมองไปทางลำธารบ้างเพื่อพักสายตาที่เมื่อยล้า

ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็ดึงสายตากลับลงมายังพื้นไม้ข้างตัว ตรงนั้นมีซองใส่การ์ดทำจากกระดาษสีเงินเรียบหรูขนาดเท่าฝ่ามือวางอยู่ ประกายของความปวดร้าวฉายผ่านนัยน์ตาโศกวูบหนึ่งขณะดึงการ์ดที่อยู่ด้านในออกคลี่อ่านอีกครั้ง...ซึ่งแม้แต่เขาเองก็คร้านจะนับว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ตั้งแต่ได้รับมา

'ขอเชิญร่วมเป็นเกียรติในพิธีมงคลสมรส ระหว่างนาย ธราธร พรหมพิริยะ และ นางสาวเขมรุจี มิ่งมงคลกุล ในวันที่....'

การ์ดใบนั้นพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีเงินวาวบนกระดาษสีเปลือกไข่ ด้านขวาเป็นรายละเอียดเรื่องวันที่และสถานที่จัดงาน ส่วนด้านซ้ายเป็นรูปถ่ายของคู่บ่าวสาวในสตูดิโอที่มีการจัดองค์ประกอบอย่างดี งานแต่งงานตามวันที่ที่ระบุในการ์ดผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว แต่เขาก็ยังตัดใจทิ้งการ์ดใบนี้ไม่ลง

ชายหนุ่มสูดน้ำมูกก่อนจะใช้อุ้งมือเช็ดน้ำตาที่ปริ่มบนขอบตา เขารู้ดีว่าการจมจ่อมกับความเศร้าหมองนั้นเป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชสิ้นดี แต่จะให้ทำอย่างไรได้...ธราธรเป็นรักแรก เป็นคนที่เคยคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าเคียงข้างกันหลังจากเรียนจบ โดยหารู้ไม่ว่าความเชื่อมั่นอย่างไร้เดียงสานั้นจะเป็นเหตุให้ต้องเจ็บช้ำใจจนแทบตั้งตัวไม่ติดเช่นนี้

นัยน์ตาหม่นเศร้าทอดมองกลับไปยังทิวทัศน์ด้านหน้า สำหรับคนที่เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย พี่สาวก็แต่งงานไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่หลายปีก่อน ภัทรพบว่าบ้านของน้าจินและน้าบรรณที่จันทบุรีเป็นสถานที่เดียวที่จะช่วยให้เขาได้ฟื้นฟูจิตใจที่แตกสลาย รวมทั้งได้อยู่ห่างจากผู้คนและสภาพแวดล้อมที่คอยย้ำเตือนให้นึกถึงความหลังครั้งเก่าไม่เลิกรา

บางทีสักวันหนึ่ง...เขาคงจะเรียกความเข้มแข็งคืนมาได้มากพอที่จะกลับไปสู่วิถีชีวิตที่คุ้นเคยกระมัง แต่ในช่วงเวลาที่ใจยังเจ็บเหมือนเลือดยังรินไหลจากปากแผลไม่หยุดนี้...เขาไม่พร้อมจะเสแสร้งสวมหน้ากากว่าตัวเอง ‘ไม่เป็นไร’ ให้ใครดูทั้งนั้น...




ขณะที่ภัทรนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านข้างร้านกาแฟเล็กๆ ในสวนหย่อมของโรงพยาบาล จู่ๆ ความทรงจำของช่วงเวลาที่กลับไปอาศัยในบ้านสวนต่างจังหวัดก็ผุดขึ้นมา บางทีอาจเป็นเพราะท้องฟ้าวันนี้ช่างคล้ายกับวันนั้น หรือไม่ก็...เป็นเพราะเขากำลังจะได้พูดคุยกับผู้หญิงที่เคยรู้จักผ่านแต่รูปถ่ายเสียทีก็เป็นได้

"เขมสั่งคาปูชิโนมาให้นะคะ พอดีคุณภัทรบอกว่าอะไรก็ได้ เขมเลยสั่งแบบกลางๆ มาให้"

เสียงที่ดังขึ้นข้างตัวฉุดภัทรกลับมาจากอาการใจลอย เขาเงยหน้ามองหญิงสาวที่วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะให้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม สีน้ำตาลเข้มในถ้วยของเธอทำให้รู้ว่าคงจะเป็นโกโก้ร้อน

"ได้ครับคุณเขม ขอบคุณครับ"

หญิงสาวส่งยิ้มเบาบางให้ก่อนจะยกถ้วยโกโก้ขึ้นจิบ ภัทรจึงยกกาแฟของตัวเองขึ้นชิมบ้าง กลิ่นหอมและรสละมุนลิ้นของกาแฟผสมนมทำให้จิตใจของเขาสงบลง

"ขอโทษด้วยนะคะที่ดึงตัวมาคุยข้างล่างแบบนี้ คุณภัทรคงอยากอยู่เฝ้าคุณเชษฐ์บนห้องมากกว่า"

ภัทรส่ายหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไรครับ อาการของคุณเชษฐ์ดีขึ้นมากแล้ว ถ้าหากเป็นเมื่อวานอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่"

หลังจากเอ่ยประโยคนั้นออกไป ความเงียบอันน่ากระอักกระอ่วนก็แทรกตัวเข้ามาระหว่างทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างเหลือบมองถ้วยเครื่องดื่มตรงหน้าราวกับนั่นจะช่วยคลายความอึดอัดลงได้

"ดูคุณภัทรไม่ค่อยแปลกใจตอนที่เห็นเขมนะคะ"

เสียงของคู่สนทนาเรียกภัทรให้เหลือบตาขึ้น และพบว่าริมฝีปากของคนพูดหยักขึ้นน้อยๆ ทว่าในแววตากลับราบเรียบจนยากจะเดาว่ากำลังคิดอะไร

"ผมเคยเห็นรูปคุณเขมในการ์ดแต่งงานน่ะครับ อีกอย่าง...กับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น...ก็เลยไม่แปลกใจที่คุณเขมจะมาเยี่ยมคุณเชษฐ์"

เขมรุจีพยักหน้าน้อยๆ ขณะวางถ้วยโกโก้ลงบนจานรอง "ครั้งนี้ธรทำผิดมากจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ติดว่าเพราะเขายังลุกจากเตียงไม่ไหว เขมก็อยากให้มาขอโทษด้วยตัวเองเหมือนกัน"

ก่อนที่จะชวนภัทรมาคุยกันเป็นการส่วนตัว เขมรุจีได้เอ่ยขอโทษเชษฐ์แทนธราธรไปแล้วรอบหนึ่ง โดยอธิบายว่าที่เจ้าตัวมาไม่ได้เพราะกระดูกซี่โครงหักและอวัยวะภายในบอบช้ำ นี่ยังไม่รวมถึงบาดแผลบนใบหน้าที่ถูกต่อยจนบวมปูดและจมูกหัก ภัทรถึงกับอึ้งไปตอนที่ได้รับรู้อาการเหล่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาเขากังวลที่คุณเชษฐ์ไม่ฟื้นอย่างเดียว จึงลืมไปสนิทว่าธราธรเองก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน

หากจะว่ากันตามตรง เขมรุจีมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะกล่าวหาเชษฐ์ในข้อหาที่ทำร้ายสามีของเธอก่อนด้วยซ้ำ ทว่าจนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำพูดทำนองนั้นหลุดมาให้ได้ยิน ราวกับยอมรับโดยดุษณีว่าเรื่องทั้งหมดมีสาเหตุจากธราธรคนเดียว

เขมรุจีใช้สองมือโอบถ้วยโกโก้ร้อนบนโต๊ะนิ่งๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยความจริงบางอย่างที่ทำให้ภัทรเลิกคิ้ว

"คุณภัทรอาจจะเพิ่งรู้จักเขมจากการ์ดแต่งงาน แต่เขมรู้จักคุณภัทรตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะคะ"

"เอ๊ะ?"

ภัทรมองคู่สนทนาด้วยแววตางุนงง เพราะเขาจำได้ว่าไม่เคยเห็นหญิงสาวมาก่อนจะได้รับการ์ดแต่งงานแน่ๆ เธอเห็นแววตาของภัทรแล้วมุมปากก็หยักลึกลงอีกนิด
"เรื่องมันซับซ้อนนะคะ ความจริงเขมเรียนมหา'ลัยเดียวกับคุณภัทรนั่นแหละค่ะ เพียงแต่เราอยู่คนละคณะกัน”

"เอ่อ...เดี๋ยวนะครับ แล้วคุณเขมรู้จักผมได้ยังไง?"

ภัทรพยายามทบทวนความทรงจำ แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยของเขาเป็นมหาวิทยาลัยใหญ่ แค่เพื่อนในคณะรุ่นเดียวกันยังจำกันไม่หวาดไม่ไหว นับประสาอะไรกับเด็กที่เรียนอยู่ต่างคณะ

นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต เธอยกโกโก้ร้อนขึ้นจิบ แต่เหมือนทำไปเพื่อลดความประหม่าก่อนจะเปิดปากเล่า

"ช่วงที่คุณภัทรคบกับธร รู้หรือเปล่าคะว่าธรเขาก็ยังเที่ยวกะลิ้มกะเหลี่ยใส่คนอื่นไปเรื่อย?"

"...รู้ครับ"

ทำไมจะไม่รู้... เพราะทั้งที่ก็คบกับเขาอยู่แล้วจนเพื่อนในคณะต่างรู้กันดี ธราธรกลับยังชอบหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นไม่เลือก และเป็นสาเหตุให้เขาน้อยใจอยู่บ่อยๆ แม้จะโดนง้อภายหลังก็ตาม

"ตอนนั้นเพื่อนสนิทของเขมที่ชื่อเอื้อยก็โดนจีบเหมือนกันค่ะ เอื้อยเป็นคนสวยมาก เป็นดาวของคณะด้วย"

ภัทรมุ่นคิ้วเพราะนึกว่าจะได้ยินอีกอย่าง เขมรุจีจึงหัวเราะเบาๆ "ธรเขาไม่ได้สนใจเขมตั้งแต่ต้นหรอกค่ะ แต่พอดีมีเพื่อนของเขมที่อยู่คณะเดียวกับธรมาบอกว่าที่จริงธรมีแฟนแล้วและเป็นผู้ชาย พอเขมไปบอกเอื้อย เอื้อยเขากลับไม่ยอมเชื่อ”

หญิงสาวหยุดสังเกตปฎิกิริยาของภัทรแวบหนึ่งก่อนจะเล่าต่อ

"พอโดนเตือนบ่อยๆ เข้า เอื้อยคงรำคาญเลยหาว่าเขมต่างหากที่แอบชอบธรจนแต่งเรื่องมาโกหก พวกเราทะเลาะกันรุนแรงมาก ...สุดท้ายเขมเลยประชดเพื่อนด้วยการเข้าหาธรเองจริงๆ"

ความจริงที่ได้รับรู้ทำให้ภัทรหูอื้อ แน่นอนว่าเขารู้เรื่องที่ธราธรชอบไปทำเจ้าชู้ใส่คนอื่นลับหลังเพราะมีเพื่อนฝูงที่เป็นห่วงคอยมาเตือนเป็นประจำ แต่เพราะสุดท้ายเจ้าตัวก็ยังกลับมาหาเขา ทำให้ไม่เคยรู้ว่าในอดีตเคยมีเรื่องราวถึงขั้นนี้

"...ถ้าอย่างนั้น...เหตุผลที่ธรแต่งงานกับคุณเขม?"

เขมรุจีแค่นยิ้มขณะจับปอยผมที่ระบนแก้มขึ้นทัดหู "มันอาจเป็นเวรกรรมของเขมก็ได้ที่ดันไปหลงรักผู้ชายแบบนั้นเข้าจริงๆ จนได้คบกัน เขมบอกธรตั้งแต่แรกว่าเขมรู้เรื่องคุณภัทรอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกให้เขาเลิกเพราะคิดว่าสักวันเขาคงจะรักเขมมากพอที่จะทิ้งคุณภัทรเอง แต่นิสัยธรไม่ใช่คนที่จะปล่อยมือจากอะไรที่คิดว่าเป็นของตัวเองง่ายๆ ...ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่สองปีก่อนพ่อของธรถูกหุ้นส่วนโกงจนธุรกิจแทบจะล่ม เขมเลยใช้โอกาสบอกธรว่าจะขอให้คุณพ่อช่วยใช้หนี้ให้ ถ้าหากธรยอมเลิกกับคุณภัทรและแต่งงานกับเขม”

คำตอบที่ภัทรไม่เคยได้รับจากธราธรมาตลอดสองปีกระจ่างในบัดดล เขาตระหนักได้ทันทีว่าทำไมอีกฝ่ายจึงจากไปโดยไม่เคยให้คำอธิบายใดๆ นอกจากเพราะธราธรมีชนักปักหลังที่แอบคบเขมรุจีลับหลังเขามาตั้งแต่สมัยเรียน อีกเหตุผลก็เพราะความเย่อหยิ่งเกินกว่าจะยอมรับว่าต้องแต่งงานเพื่อใช้หนี้นี่เอง

จนแล้วจนรอด...ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยคิดจะยอมรับความผิดของตัวเองและบอกความจริงกับเขาเลยใช่ไหม...

ภัทรรู้สึกราวกับมีคลื่นอารมณ์ที่แยกแยะไม่ได้หมุนวนอยู่ในอก เสียใจ? เขาไม่แน่ใจว่าคำนั้นจะบรรยายความขมเฝื่อนที่กำลังสัมผัสได้ถูกต้องหรือเปล่า หากใช้คำว่า ‘เสียดาย’ อาจจะเหมาะสมมากกว่าในกรณีแบบนี้

...เสียดายความไว้ใจ เสียดายน้ำตาที่เคยหลั่งไหลเพราะความเจ็บช้ำ เสียดายเวลาที่สูญเปล่าไปกับคนที่ไม่ได้คิดจะมั่นคงกับเขาเพียงคนเดียวเลยมาตลอดเวลาหลายปี

เขมรุจีหลุบตาลงพลางใช้มือลูบท้องตัวเองเบาๆ กิริยานั้นดึงสายตาของภัทรให้มองตามโดยไม่ตั้งใจ จึงทำให้สังเกตเห็นเนินนูนเล็กน้อยซึ่งขัดกับรูปร่างประเปรียวตรงบริเวณที่มือเรียวสวยวางอยู่

“คุณเขม...กำลังท้องเหรอครับ?”

หญิงสาวพยักหน้าพลางอมยิ้มน้อยๆ “สามเดือนแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าธรยังไม่รู้... ถึงรู้เขาก็อาจไม่ยอมรับก็ได้ว่าเป็นลูกของตัวเอง ช่วงหลังมานี้เขมช่วยงานคุณพ่อหนักมาก ต้องพบปะสังสรรค์กับลูกค้าตลอดจนธรไม่พอใจ ยิ่งเดือนที่ผ่านมาเรายิ่งระหองระแหงกันจนธรแทบไม่กลับบ้าน”

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ภัทรโยงเหตุการณ์ได้ทันทีว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่เขาได้พบธราธรอีกครั้งโดยบังเอิญ เท่ากับว่าที่ฝ่ายนั้นพยายามเข้ามาตีสนิทหาใช่เพราะอยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อน แต่เพราะต้องการประชดภรรยาที่แต่งงานกันอย่างถูกต้องต่างหาก

เขาไม่มั่นใจว่าเผยความรู้สึกใดทางสายตาออกไป เพราะจู่ๆ รอยยิ้มละไมบนหน้าของเขมรุจีก็จางหาย กลายเป็นความเคร่งขรึมซึ่งเข้ามาแทนที่

“...คุณภัทรคะ เขมเข้าใจถ้าหากครอบครัวของคุณเชษฐ์จะอยากแจ้งความดำเนินคดีกับธร แต่ในทางกลับกัน ทางฝ่ายเราก็ฟ้องกลับได้เหมือนกันเพราะธรต่างหากที่ถูกทำร้ายก่อน พยานที่เห็นเหตุการณ์คืนนั้นก็มีเพียงคุณภัทรคนเดียวซึ่งหมายความว่าคุณภัทรอาจพูดเข้าข้างคุณเชษฐ์ก็ได้ เขมพูดแบบนี้ถูกไหมคะ?”

ดูเหมือนหญิงสาวจะตัดสินใจเข้าประเด็นที่ชวนภัทรมาคุยเพียงลำพังแล้ว และน้ำเสียงเป็นการเป็นงานก็ทำให้เขาอึ้งไปนิดหนึ่ง

“คุณเขม...”

“เขมมั่นใจว่าต่อให้เรื่องถึงศาล ธรก็ไม่มีทางให้การตรงกับคุณภัทรและคุณเชษฐ์แน่ๆ ดังนั้นแทนที่จะต้องยื้อเรื่องให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองกันทั้งสองฝ่าย เขมขอเสนอให้ยอมความกันดีกว่าค่ะ แน่นอนว่าเขมไม่ได้ขอร้องเรื่องนี้โดยไม่คิดจะชดเชยอะไรให้ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของคุณเชษฐ์ทั้งหมดเขมจะรับผิดชอบเอง และถ้าหากต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหายอื่นๆ แต่อยู่ในจำนวนที่สมเหตุผล เขมยินดีจ่าย”

ภัทรถึงกับตะลึงในความเด็ดขาดของหญิงสาว เขามองแววตาที่บ่งบอกว่าพร้อมจะทำทุกอย่างให้การเจรจานี้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจ และเริ่มจะตระหนักได้ว่าทำไมธราธรจึงยอมแต่งงานกับเธอ

ความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวที่หญิงสาวมีคือสิ่งที่เขาเคยขาดไป บางทีต่อให้เขมรุจีไม่ใช้เงื่อนไขล้างหนี้มาบีบบังคับเมื่อสองปีก่อน ท้ายที่สุดแล้วธราธรก็ยังอาจเลือกเธอมากกว่าเขาก็ได้

แต่นั่นไม่เกี่ยวกับการเจรจาที่ทั้งสองกำลังตกลงกันในนาทีนี้

“คุณเขมครับ...เรื่องนี้ผมไม่มีอำนาจตัดสินใจ...”

ภัทรไม่คิดว่าตนจะสามารถโน้มน้าวคุณชาญและคุณเพียงมาศได้ ต่อให้จะเริ่มเห็นจริงตามเหตุผลที่อีกฝ่ายให้มาก็ตาม กระนั้นเธอก็ยังยืนยันเจตนา

“เขมรู้ค่ะว่ายาก แต่เขมอยากขอให้คุณภัทรลองคุยกับคุณเชษฐ์ดู เขมไม่เชื่อว่าคุณเชษฐ์จะไม่เห็นด้วยถ้าหากอธิบายด้วยเหตุผลพวกนี้”

“คุณเขม มันคุ้มแล้วหรือครับที่ทำถึงขนาดนี้เพื่อผู้ชายคนนั้น?”

น้ำเสียงกับใบหน้าของภัทรตึงขึ้น อาจเป็นเพราะเขาไม่หลงเหลือความอาลัยอาวรณ์ในตัวธราธรอีกแล้ว ดังนั้นถึงแม้ผู้หญิงตรงหน้าจะเป็นคนที่แย่งอดีตคนรักของเขาไป แต่ภัทรกลับรู้สึกโกรธแทนเธอมากกว่าที่ต้องมาออกหน้าขอไกล่เกลี่ยเพื่อผู้ชายที่ไม่คู่ควรจะได้รับการปกป้องเช่นนี้

เขมรุจีชะงัก เธอสบตาภัทรก่อนจะหลุบตาลงมองมือที่วางอยู่บนท้องซึ่งมีชีวิตน้อยๆ อยู่ด้านใน ไหล่บอบบางทั้งคู่สั่นไหวถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามระงับเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

"เขาเป็นพ่อของลูก ต่อให้เป็นผู้ชายที่อ่อนแอใช้ไม่ได้ยังไงเขมก็ทนดูเขาเดือดร้อนไม่ได้หรอกค่ะ คุณภัทรคงเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ใช่ไหมคะ?"

ภัทรมองขอบตาแดงก่ำที่มองมาอย่างวิงวอนจากอีกฝั่งของโต๊ะราวกับเขาคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยเธอได้ จากนั้นริมฝีปากบางก็เม้มเข้าหากันโดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาเป็นเวลานาน


++------++

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
กว่าภัทรจะกลับมาบนห้องพักผู้ป่วยอีกครั้งก็สายมากแล้ว เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปก็พบว่ายังไม่มีใครมาเยี่ยม และคนเจ็บยังคงนั่งหลับตาพิงหมอนอยู่ในท่าเดียวกับตอนที่เขาออกจากห้อง

ภัทรปิดประตูอย่างเบามือแล้วเดินผ่านเตียงไปแง้มม่านหน้าต่าง จากมุมนี้จะมองลงไปเห็นสวนหย่อมและร้านกาแฟที่เขาเพิ่งไปนั่งมาได้อย่างชัดเจน แต่ว่าโต๊ะที่ภัทรนั่งเมื่อครู่นั้นตอนนี้มีคู่สามีภรรยาสูงวัยกับหลานชายตัวเล็กๆ มานั่งแทน ส่วนเขมรุจีขอตัวกลับไปหลังจากทั้งคู่คุยธุระเสร็จเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

“ถ้าหากคุณภัทรได้ข้อสรุปว่ายังไง บอกเขมด้วยก็แล้วกันนะคะ”

ชายหนุ่มนึกถึงประโยคที่อีกฝ่ายทิ้งท้ายไว้ก่อนจากกัน จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจยาวแล้วหันกลับเข้ามาในห้อง ร่างสูงใหญ่บนเตียงขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ภัทรยืนนิ่งมองใบหน้าคมคายขณะที่เจ้าตัวเอียงหน้ามาทางทิศที่เขายืนอยู่

เขาชอบยามที่ได้มองคุณเชษฐ์ตอนกำลังตื่นนอนเช่นในเวลานี้เหลือเกิน

"คุยธุระกันเสร็จแล้วหรือ?"

คนบนเตียงถามพร้อมกับยิ้มให้น้อยๆ ภัทรจึงยิ้มตอบพลางเดินไปนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงและใช้สองมือกุมมือใหญ่ข้างหนึ่งไว้
"เสร็จแล้วครับ คุยกันเสียนานเลย คุณเชษฐ์หิวหรือยังครับ?"

"ยังเลย ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวรอกินตอนที่แม่บ้านเอาข้าวกลางวันมาให้นั่นแหละ"

ภัทรพยักหน้าให้กับคำตอบนั้น และรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังรอให้เล่าเรื่องที่ไปคุยกับเขมรุจีมาให้ฟัง ครู่หนึ่งเขาจึงค่อยเอ่ยขึ้นช้าๆ

"คุณเขม...มาขอร้องให้ยอมความกันโดยไม่ต้องให้เรื่องถึงศาลครับ"

ภัทรช้อนสายตาขึ้นสังเกตคนบนเตียงหลังเอ่ยประโยคนั้นออกไป จึงได้เห็นว่าเชษฐ์กำลังทอดสายตามองมือของทั้งคู่ที่กำลังเกาะกุมกันอยู่

"นึกแล้วเชียว ฉันก็สังหรณ์อยู่แล้วว่าเขาคงเรียกเธอไปคุยเรื่องนี้ แล้วส่วนตัวเธอคิดว่ายังไงล่ะ?"

ภัทรมองตามสายตาของคนถามแล้วก็ส่ายหน้า "ผมตอบไปว่าผมตัดสินใจแทนคุณเชษฐ์ไม่ได้ครับ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณเชษฐ์ก็คงไม่ยอมง่ายๆ ด้วย"

"ภัทร"

มือที่ถูกกำแน่นขึ้นเรียกให้ภัทรสบตากับคนบนเตียง และพบว่านัยน์ตาคมเข้มกำลังจ้องมองตรงมาที่เขา

"ตอนนี้มีเราอยู่กันแค่สองคน บอกความเห็นของเธอมาตามตรงเถอะ ฉันไม่โกรธหรอก"

ภัทรเม้มริมฝีปากแน่น หลังจากพยายามเรียบเรียงคำพูดในใจแล้วจึงยอมเอ่ยปาก

"ผมคิดว่าการยอมความเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนครับ ไม่ใช่เพราะเห็นใจธรหรือคุณเขม แต่ผมไม่อยากให้คุณเชษฐ์ต้องสิ้นเปลืองเวลากับเงินทองไปกับเรื่องนี้ คุณเชษฐ์...ลำบากเพราะผมมาเยอะแล้ว"

มือใหญ่ขยับออกจากการเกาะกุมของภัทรและเลื่อนขึ้นไปวางบนต้นคอ จากนั้นเพียงออกแรงเล็กน้อย คนตัวเล็กกว่าก็เอนลงซบบ่าหนาโดยไม่ขัดขืน

"ฉันไม่เคยคิดว่าทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องลำบากนะ เรื่องที่เกิดขึ้นนี่ก็เหมือนกัน ฉันไม่เสียใจที่ทำหมอนั่นบาดเจ็บปางตายขนาดนั้น ต่อให้เกิดเรื่องแบบเดียวกันอีกกี่ครั้งฉันก็จะทำเหมือนเดิม"

"คุณเชษฐ์..."

ภัทรเอียงหน้าขึ้นมองคนข้างกายด้วยแววตาที่บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอย่างไร เชษฐ์จึงกระชับมือบนบ่าผอมแน่นขึ้นแล้วแนบริมฝีปากลงบนหน้าผากที่มีผมปรกอยู่

"พ่อกับแม่อาจไม่ชอบใจที่ฉันถูกทำร้าย แต่สำหรับฉัน เหตุผลเดียวที่ฉันจะเอาเรื่องก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเธอ ต่อให้หมอนั่นจะเคยคบเธอมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาใช้คำพูดดูถูกเธอเหมือนอย่างในคืนนั้น"

สายธารแห่งความอบอุ่นกำซาบขึ้นในอกจากคำพูดอันอ่อนโยนทว่าหนักแน่นของเจ้าของอ้อมแขน เหตุการณ์เมื่อไม่กี่คืนที่ผ่านมาแจ่มชัดขึ้นในความทรงจำของภัทรอีกครั้ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณเชษฐ์ของเขากลับมาช่วยไว้ทันเวลา ภัทรก็คิดไม่ออกเลยว่าคืนนั้นจะจบลงอย่างไร

ชายหนุ่มมองฝ่ามือของตนที่วางหงายอยู่บนตัก เนื่องจากแผลที่ถูกบาดเริ่มตกสะเก็ดแล้วจึงไม่จำเป็นต้องพันผ้าพันแผลอีก นัยน์ตาเรียวหลุบลงมองแผลนั้นนิ่งขณะคิดถึงบทสนทนากับเขมรุจี สิ่งที่เธอบอกเขาว่าเต็มใจจะทำเพื่อปกป้องธราธร กับคำพูดของคุณเชษฐ์ที่ว่าจะปกป้องเขาไม่ว่าจะเกิดผลอะไรตามมา...เท่ากับคนทั้งคู่หาได้ต่างกันเลยใช่หรือไม่...

"คุณเชษฐ์ครับ ผมอยากเล่าเรื่องที่คุยกับคุณเขมให้ฟังครับ"

ภัทรเอ่ยพลางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมเข้มที่อยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ เชษฐ์สบตาเขาแล้วก็พยักหน้า ภัทรจึงเริ่มถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้รับรู้จากเขมรุจี ทั้งความหลังตั้งแต่ครั้งเป็นนักศึกษาที่ยังคบกับธราธร เรื่องที่ฝ่ายนั้นไปเกาะแกะกับเพื่อนของเขมรุจีจนเป็นเหตุให้หญิงสาวเข้ามาพัวพัน และสุดท้ายก็แย่งธราธรไปด้วยเงื่อนไขที่เจ้าตัวไม่อาจปฏิเสธ เรื่องที่ภัทรลาออกจากงานเก่าไปอยู่บ้านน้าที่ต่างจังหวัดเพื่อทำใจ กระทั่งถึงข้อเสนอที่เขมรุจีมอบให้เขาเมื่อเช้าเพื่อจะได้ไม่ต้องให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต

เมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมด เชษฐ์ก็ระบายลมหายใจยาวพลางกอดไหล่ของภัทรแน่นเข้าโดยไม่พูดอะไร อึดใจใหญ่กว่าที่คนบนเตียงจะทำลายความเงียบงัน

"ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เข้าใจคำขอของเขาหรอกนะ"

...คุณภัทรคงเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ใช่ไหมคะ?... ภัทรนึกถึงคำพูดประโยคนั้นพลางพยักหน้า เพราะถ้าหากคุณเชษฐ์คือคนที่เขาต้องปกป้อง เขาก็คงไม่ลังเลที่จะบากหน้าไปขอร้องคู่กรณีเช่นเดียวกับที่หญิงสาวทำ

"อาจจะฟังแล้วแปลกๆ นะครับ แต่ผมรู้สึกว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเธอ เพราะถ้าหากคุณเขมไม่ได้แย่งธรไปตอนนั้น ทุกวันนี้ผมก็คง...ยังไม่ได้เจอกับคุณเชษฐ์"

แล้วก็คงไม่ได้สัมผัสกับความสุขอย่างที่ได้พบอยู่ในวันนี้

...โชคชะตาช่างเป็นสิ่งที่แปรปรวนได้ง่ายเหลือเกิน ขอเพียงเกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเพียงเล็กน้อย ผลที่ตามมาก็กลับตาลปัตรไปจากที่เคยวางแผนไว้จนหมดสิ้น ทว่าเมื่อมองย้อนกลับไป ภัทรกลับรู้สึกว่าโชคชะตาช่างปรานีที่ให้เขาได้รับประสบการณ์รักแรกอันแสนเจ็บปวด เพื่อที่จะได้เป็นบทเรียนก่อนมาพบกับรางวัลชีวิตที่ยิ่งใหญ่กว่าซึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าในตอนนี้

"ถ้าหากผมขอให้ทำตามคำขอของคุณเขมสักครั้ง คุณเชษฐ์จะโกรธไหมครับ?"

สายตาสองคู่สบประสานโดยที่ภัทรกุมมือใหญ่อบอุ่นเอาไว้ เขาไม่ได้ต้องการจะเล่นบทคนดีเพื่อสร้างภาพให้อีกฝ่ายประทับใจ เพียงแต่ครั้งนี้เท่านั้น....เขาอยากให้เขมรุจีได้รับในสิ่งที่อุตส่าห์บากบั่นมาเจรจาด้วยตัวเอง เพื่อที่ต่อไปพวกเขาจะไม่ต้องหลงเหลือหนี้บุญคุณติดค้างกันอีก และภัทรจะได้ตัดขาดจากอดีตที่ผ่านมาเพื่อเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริงเสียที

มือใหญ่ยกขึ้นแนบแก้มของภัทรแผ่วเบาขณะที่นัยน์ตาคมเข้มมองสบกับนัยน์ตาเรียวแน่วนิ่ง เสมือนหนึ่งว่าอยากมองให้เห็นลึกไปถึงความคิดข้างในใจ จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็ก้มลงแนบหน้าผากกับหน้าผากเนียนช้าๆ จนต่างมองเห็นเงาของกันและกันในแววตาของอีกฝ่าย

ลมหายใจอุ่นจากปลายจมูกของทั้งสองคละเคล้าเป็นหนึ่งเดียว ภัทรบีบมือที่ประคองไว้แน่นขึ้นราวจะยืนยันกับผู้สูงวัยกว่าว่านี่คือสิ่งที่ต้องการ เชษฐ์จึงค่อยเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปแนบบนปลายจมูกของเขา

"เอาเถอะ ถือว่าฉันก็ฝากบทเรียนให้หมอนั่นไปพอสมควรเหมือนกัน ถ้าเล่าอาการของทางนั้นให้พ่อกับแม่ฟังก็คงขอให้ตัดใจเรื่องจะเอาความไม่ยากนักหรอก"

"ขอบคุณมากครับคุณเชษฐ์"

ภัทรเอ่ยพลางโอบแขนไปรอบเอวของคนบนเตียงแล้วเอนลงพิงอกกว้าง เชษฐ์ยกมือขึ้นลูบไหล่ของเขาก่อนจะระบายลมหายใจยาว ภัทรไม่แน่ใจว่านั่นเป็นการแสดงออกว่าสบายใจหรือว่าระอาใจกับคำขอของเขากันแน่ จึงเงยหน้าขึ้นหอมแก้มที่สากเพราะไรเคราพร้อมกับกระซิบริมหู

"ผมรักคุณเชษฐ์นะครับ"

นัยน์ตาคมเป็นประกายระยับเมื่อถูกออดอ้อน แววตากรุ้มกริ่มที่จ้องมองในระยะใกล้ทำให้ภัทรเริ่มรู้สึกเขิน ทว่าก็ไม่ได้อิดออดเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นแนบลงประทับบนริมฝีปากตัวเอง

"ถ้าหากตามใจเธอแล้วได้รางวัลแบบนี้บ่อยๆ ฉันก็ยอมนะ"

เสียงเคาะประตูทำให้ภัทรรีบดึงตัวออกจากอ้อมแขนอุ่นทันเวลาที่แม่บ้านนำอาหารกลางวันเข้ามาให้ เขาหันไปกล่าวขอบคุณก่อนจะเลื่อนโต๊ะทานอาหารสำหรับผู้ป่วยมาให้คนบนเตียง ผิวแก้มเกลี้ยงเกลายังมีริ้วสีแดงอ่อนแตะแต้มจางๆ ขณะเอ่ยแก้เก้อ

"ถ้าคุณเชษฐ์ต้องเจ็บตัวก่อนถึงจะได้ตามใจผม ผมก็ไม่เอาหรอกครับ"

ภัทรเอ่ยพลางเปิดฝาพลาสติกที่ปิดทับอาหารแต่ละอย่างให้แล้ววางไว้ข้างๆ เชษฐ์จึงหลิ่วตาให้กับคนที่กำลังพยายามหลบสายตาของตนอย่างหยอกเย้า

"ถ้างั้นก็ไม่ต้องรอให้ตามใจก่อนถึงค่อยให้รางวัลสิ ถ้าแบบนั้นจะให้รางวัลตอนไหนก็ได้จริงไหม?"

ร่างสูงเพรียวเม้มปาก นึกอยากพูดอะไรกลับให้อีกฝ่ายหยุดแซวกันเสียที แต่พอเหลือบเห็นนัยน์ตาอ่อนโยนซึ่งเปี่ยมไปด้วยความในใจที่ทอดมองมา ใจก็อ่อนยวบราวกับขี้ผึ้งถูกไฟลน

ก็ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้หรือ...ที่เขาตั้งใจจะฝากชีวิตและหัวใจให้นับตั้งแต่วันที่รู้ตัวว่ารักไปแล้ว...

"ขอผมไปล้างมือก่อนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวจะออกมาป้อนข้าวให้"

ภัทรเอ่ยพลางรีบเดินเร็วๆ ไปทางห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังมา กระแสความอ่อนหวานจากน้ำเสียงแจ่มใสนั้นรินรดไปทั้งใจจนภัทรรู้สึกเหมือนเดินไม่ติดพื้น ถึงแม้ไม่มีอะไรมาเป็นหลักประกันให้จับต้องได้ แต่ลางสังหรณ์บอกเขาว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตได้ผ่านพ้นไปแล้ว และหลังจากนี้จะมีเพียงความสุขเท่านั้นที่รออยู่ข้างหน้า

เพราะว่าคนที่จะคอยจับจูงมือเขาตลอดเส้นทางสู่อนาคตไปด้วยกัน คือผู้ชายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องความสุขให้แก่เขาคนนี้นี่เอง...



++--- TBC ---++


A/N: เป็นตอนที่เหมือนจะไม่มีอะไร ค่อนข้างเรียบๆ เรื่อยๆ แต่ความเรื่อยนี่แหละที่ทำให้ใช้เวลาถึงสองอาทิตย์ในการเขียน เพราะสังหรณ์ว่าถ้าเรียบเรียงไม่ดีคงจะมีคนขัดใจกันเยอะเชียว ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้รอตอนใหม่กันเสียนานเลยนะคะ ใครที่ยังกังวลกับอาการของคุณเชษฐ์ก็คงหายห่วงได้เสียที หลังจากนี้ก็น่าจะใกล้จบเต็มทีแล้ว ก็ขอให้ติดตามกันไปจนจบและรออุดหนุนเมื่อได้ทำรวมเล่มด้วยนะ ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกคอมเม้นต์ล่วงหน้าค่า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หวานอ่ะ  รอรวมเล่มค่ะ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
อยากได้ผู้ชายแบบคุณเชษฐ์จัง หาได้ที่ไหนนิ >/////<

((คุณรินตอบกลับทันทีว่า จากในนิยายดิฉันไงคะ อิอิ))

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
อยากได้ผู้ชายแบบคุณเชษฐ์จัง หาได้ที่ไหนนิ >/////<

((คุณรินตอบกลับทันทีว่า จากในนิยายดิฉันไงคะ อิอิ))

^
^
แม่นค่ะคุณเกด 55555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
คุณเชษฐ์แบบโคตรซุปเปอร์กู๊ดแมน55555555555

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
โอ๊ยยย  หวานเบาๆ หึ สมน้ำหน้าธร แต่ก็สงสารเกดนะ มีแฟนไม่ได้เรื่องแบบนี้
ส่วนภัทรก็โชคดีที่มีคุณเชษฐ์ที่แสนอบอุ่น แอร๊ยย อิจฉาา

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
น่าเห็นใจคุณเขมนะ ได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นสามี แถมยังกำลังจะเป็นพ่อของลูกอีก เฮ้ออออ

ผู้ชายแบบคุณเชษฐ์ น่าจะทำโคลนนิ่งออกมาเยอะๆ อะ อบอุ่นมากๆๆๆ ว่าแต่พอหายดีแล้วคุณรินจะเตะโด่งพระเอกของเราไปเวียดนามอีกเปล่าเนี่ย เริ่มระแวงล่ะ  :o11:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
อยากได้ผู้ชายแบบคุณเชษฐ์เหมือนกันนะเนี่ย รักกันนานๆน๊า

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
หวานละมุนๆๆๆ น่ารัก

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
กรี๊ดดดดดด
น่ารักอ่ะ
ฮือออ ชอบที่คุณเชษฐ์บอกอยากตามใจบ่อยๆ
คิคิ ตามใจเลยๆๆๆๆ

ขอให้ธรรู้สึกรักลูกที่จะเกิดมาบ้างนะ อะไรๆ จะได้ดีดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด