ตอนที่ 11 ในวันที่สับสน กำลังจะพลิกต่ออีกหน้า สัมผัสสากๆของกระดาษสาก็ประทับลงบนนิ้วโป้งเสียก่อน
ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกว่าการพลิกหน้ากระดาษมันช่างยากเย็นเหลือเกิน
กระดาษแผ่นนี้ แผ่นที่ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับมา แต่อีกทางหนึ่งก็รู้สึกผิดต่อคนที่ให้มันมา
++++++++++++++++++++++++++++
พลั่ก!!
อูยยย...เต็มบ้องหูเลยครับ
ผมยกหัวขึ้นจากหมอนอย่างยากลำบาก พยายามดันไอ้ท่อนแขนหนักๆที่พาดอยู่บนหัวออกไป
หันไปมองด้านข้าง เจอะกับหน้าหล่อๆที่ตอนนอนชักจะไม่หล่อของไอ้ต้อย เพราะมันดันนอนน้ำลายไหลเหมือนพี่มันไม่มีผิด
ท่าทางจะหลับสนิทมากครับ ขนาดผมยกแขนมันขึ้น ปล่อยทิ้งปุลงบนเตียงมันยังไม่รู้สึกตัวเลย
เอาแขนเท้ากับพื้นที่นอน ยกช่วงล่างที่ปวดหนึบของตัวเองขึ้นมาอยากยากลำบาก...อูยยย...ถ้ารู้ว่าเจ็บอย่างนี้ไม่ให้ทำซะก็ดี ฝีมือห่วยเป็นบ้า
พอลุกขึ้นนั่งได้ ขยี้หัวสองสามแกรก มองลงเบื้องล่างหน้าก็ร้อนฉ่าเลยครับ...อ....อ...
ไอ้ต้อยยยย!!! มึงปล่อยข้างในไปกี่รอบเนี่ยยยย!!!!
มัน...เอ่อ...มันเลอะเต็มไปหมด...มัน...ค่อยๆไหลออกมาจาก...เฮ้ย! ทำไมผมต้องมานั่งบรรยายให้คนอื่นฟังด้วยล่ะเนี่ย!!!
ผมหันกลับไปมองหน้ามันอย่างคาดโทษ กำลังจะทุบกำปั้นลงบนหัวทุยๆของมันพอดี ไอ้ท่อนแขนไซส์บิ๊กนั่นก็ยกขึ้นมาหมายจะคว้าตัวผมอีก ทำเอาหลบหลีกเป็นพัลวันเลยครับ กว่ามันจะสงบลงได้ ก็ตอนที่ผมคว้าหมอนข้างยัดใส่แขนมันนี่แหละ
ไอ้ต้อยหลับตาพริ้มยิ้มหวานพลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แนบหน้าไถแก้มลงกับหมอนข้างแล้วก็นิ่งไป...นี่มันนึกว่าหมอนข้างเป็นผมจริงๆน่ะเหรอ...เฮ้ย! อย่างน้อยกรูก็มีกล้ามเนื้อ ไม่ได้นุ่มแบบนุ่นยัดใส้นะเว้ย!
ป่วยการจะรบกวนให้มันตื่นขึ้นมา เพราะกว่ามันจะสงบลงไปได้ก้นผมก็ระบมไปหมดซะขนาดนี้แล้ว คิดไปคิดมาก็เลยลุกจากเตียง เดินลากขาเข้าห้องน้ำล้างตัวแทนครับ
+++++++++++++++++
ออกจากห้องน้ำก็ปะทะไอเย็นของแอร์ซะขนลุก รู้สึกสบายครับ ชอบอากาศเย็นๆแบบนี้ เด็กนอกจริงๆกรู
กำลังเช็ดผมอยู่ดีๆ ก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือบนโซฟาพอดีครับ มันกำลังกระพริบไปสั่นไปเป็นจังหวะอยู่เลย แต่ไม่ยักมีเสียงแฮะ สงสัยเมื่อคืนจะเผลอปิดเสียงเอาไว้ ป่านนี้ล่อไปกี่มิสคอลแล้วก็ไม่รู้
ผมวิ่งไป กำลังจะกดรับสายก็ขาดไปซะก่อน กดดูชื่อ...โห...ยี่สิบกว่าๆมิสครับ...พอไล่ชื่อไป เป็นไอ้ต้าไปซะเกินครึ่งแฮะ
ผมกดโทรออกหามัน รอไม่ถึงสามตื๊ดไอ้ต้าก็รับ...ด้วยแบ็คกราวน์ของเสียงเพลงดังกระหึ่มชัดเจน...อย่างนี้แดกเหล้าอยู่ชัวร์
ตอนนั้นรู้สึกตึงอยู่เหมือนกันนะครับ ปกติเวลาไอ้ต้าจะกินเหล้าเที่ยวผับ มันจะต้องมีผมไปด้วยทุกครั้งนี่หว่า หนึ่งคือไอ้นี่มันเมาง่าย เมาแล้วดูแลตัวเองไม่ได้ สองคือไอ้นี่มันล่อผู้ชายครับ เรื่องอย่างนี้ยอมกันไม่ได้
แต่คราวนี้มันไปกับใครวะ!
“อ้ายธี~อ้ายเหี้ย” อ้าว รับปุ๊บด่าผมปั๊บซะงั้น กรูทำไรผิดวะ?
ผมเดินไปทางระเบียง เปิดออกไปด้านนอกแล้วปิดประตูไว้ กันไม่ให้เสียงพูดปลุกไอ้สัตว์ป่าบนเตียงนอนขึ้นมา “ต้า! มึงอยู่ไหน ไปกับใคร?”
“มึงจะสนใจทำไมวะ! กูโทรหาทั้งวันเสือกไม่รับ ทีงี้ล่ะมาทำรับ แม่ง! ป๊อดว่ะ” ไอ้นี่เมาแล้วชัวร์ครับ พูดมั่วซั่วไปหมด...แต่ว่า..มันโทรหาผมทั้งวัน?
“มึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา” ผมกรอกเสียงแข่งกับเสียงเพลงทางฝั่งมัน พูดซ้ำอยู่สามสี่รอบกว่าไอ้ต้าจะฟังรู้เรื่อง
“ม่ายต้องมาเลย กูไม่สนมึงแล้ว แม่ง เวลาเพื่อนเศร้าเสือกไม่รับสาย มึงรีบมาที่เก่าเลย ไอ้เวร” …ตกลงจะให้กูไปหรือไม่ให้กูไปวะ ชักสับสนชีวิต แล้วมันเศร้าเรื่องอะไรขนาดต้องไปกินเหล้าอย่างนี้เนี่ย
ผมกดวางสาย เปิดประตูเดินย่องไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อมาหนึ่งกางเกงยีนส์อีกหนึ่ง ใส่เสร็จก็ค้ากระเป๋าสตางค์โทรศัพท์มือถือออกไปอย่างเงียบ ลงลานจอดรถซิ่งไปที่ร้านเดิมของกลุ่มผมทันที
ไปถึงก็เจอไอ้พวกหน้าเดิมๆแหละครับ ค่อยเบาใจหน่อยครับ อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่ไว้ใจได้คอยดูแลมันอยู่
“ไอ้ธี ไอ้เวร มึงมานี่เลย” ไอ้พวกนี้มันอะไรวะ ใครเห็นหน้าผมก็ด่าผมหมดซะงั้น ผมเดินฝ่าฝูงคนเข้าไปที่โต๊ะมุมห้อง กวาดตาดูเห็นไอ้ต้านั่งคอพับคออ่อนพิงพนักโซฟาไปเรียบร้อยแล้ว
“มึงเอามันออกไปเลย แม่งเมาแอ๋ไม่รู้เรื่องแล้ว เกือบจะถูกลากไปตั้งหลายที” ใครคนหนึ่งบอกผมอย่างนั้น จำไม่ได้แล้วว่าใคร เพราะตอนนั้นมัวแต่สนใจไอ้ต้าคนเดียวครับ ผมเดินเข้าไป ขยี้หัวไอ้ขี้เมาสองสามทีมันก็ปรือตาบวมๆขึ้นมา
“ไงวะ มาได้ซะที” ท่าทางมันจะเริ่มสร่างหน่อยๆครับ เพราะดสงบลงแล้ว...ไอ้นี่เวลาเมาแล้วขี้โวยวายครับ
ผมจับแขนมันพยุงให้ลุกขึ้น จับมันเดินตุปัดตุเป๋ออกจากผับไป ระหว่างทางไม่วายมีคนยื่นแขนไอ้ต้าอีกครับ นี่ถ้าไอ้ต้ามันไม่สะบัดทิ้ง ผมได้เปิดสังเวียนกลางผับแหงๆ
+++++++++++++++++++++++
“เอ้า น้ำ” ผมยื่นขวดน้ำแร่ที่เพิ่งวิ่งไปซื้อที่เซเว่นฝั่งตรงข้ามมาให้มัน ตอนนี้เรานั่งกันอยู่ตรงม้านั่งใกล้ผับนั่นแหละครับ ไอ้ต้ามันไม่ยอมไปไหนไกล มันว่ามันจอดมอเตอร์ไซค์เอาไว้...แล้วมึงจะถึงหอมั้ยนั่น สภาพแบบนี้น่ะ
ไอ้ต้ารับไป จ่อปากซดอั้กๆได้สี่ห้าอึกก็ถอนปากออกมา
“เฮ้ย!!” ใครจะคิดล่ะครับ ว่าอยู่ดีๆมันก็เอาน้ำเย็นที่เหลือรดหน้าตัวเองอย่างนั้น อูยย ดูแล้วยังหนาวแทนเลย
กว่าผมจะห้ามมันได้น้ำก็หมดขวดไปแล้ว ไอ้ต้าโยนขวดน้ำทิ้งไว้ข้างตัว ยกสองมือเสยผมได้พักหนึ่งก็ก้มหน้าลง เท้าเข่าทั้งๆที่มือยังกุมหัวอยู่นั่นแหละครับ
“เป็นไรของมึงวะ” ไม่เข้าใจมันจริงๆครับ เมื่อวานยังดี๊ด๊าสอบเสร็จอยู่เลยนี่หว่า
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์กูวะ กูโทรหามึงทั้งวัน ไปกดกริ่งที่หน้าห้องก็ไม่อยู่” ...มันพูดอะไรของมัน เรื่องโทรศัพท์ก็พอเข้าใจครับ ว่าปิดเสียงอยู่คงไม่ได้ยินอยู่แล้ว แต่กริ่งหน้าห้องล่ะ...ทำไมผมไม่ได้ยินเลย
“กู...” ผมพูดได้แค่พยางค์เดียวก็นิ่งชะงักไป...ก็จะให้ผมตอบมันว่าอะไรล่ะครับ...
ไม่มีคำพูดระหว่างเรา ผมนั่งอยู่ข้างๆไอ้ต้า แต่สายตาไม่กล้าจับจ้องไปที่มัน ได้แต่มองรถแล่นไปมาอยู่บนถนนแทน ในขณะที่ไอ้ต้าก็ยังนั่งกุมขมับอยู่อย่างนั้น
“แล้ว...มึงเป็นอะไร” เมื่อเห็นว่านั่งเงียบต่อไปคงไม่ได้ประโยชน์ ผมเลยถามมันกลับไป...ทั้งๆที่ยังไม่ได้ตอบคำถามมัน
“กู...” มันใช้เวลานานพอดูครับ กว่าจะเอ่ยประโยคต่อไปได้
“กู...เลิกกับน้องแพรแล้วว่ะ”
++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
- ขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยดันกระทู้นะคะ ดีใจที่มีคนรอนิยายของเรา

- ตอนนี้สั้น(ไม่)หน่อยนะคะ ช่วงนี้งานหนักมากๆ ต้องขอโทษทุกคนที่รอด้วยค่ะ
- คิดถูกรึเปล่าก็ไม่รู้นะ ที่เอามาแปะ จะโดนสาปแช่งมากกว่าเดิมรึเปล่าเนี่ย