ตอนที่ 10
ในวันที่ความสัมพันธ์(กับมันอีกคน)เพิ่มพูนหลังจากรูปรวมเราสามคนก็มีรูปที่ไปเที่ยวครั้งนั้นอีกหลายใบ ทั้งรูปของไอ้ต้า รูปของผมเอง แต่แทบจะไม่มีรูปของไอ้ต้อยอยู่เลย...เพราะมันเป็นคนถ่ายนั่นเอง
กำลังนั่งหัวเราะกับภาพไอ้ต้าที่ทำท่าแปลกๆเพราะเมาแอ๋อยู่ดีๆ รูปถ่ายที่สอดเอาไว้ด้านหลังก็หล่นลงมา แน่นิ่งอยู่บนพื้น
ผมขมวดคิ้วอย่างงง เพราะนี่มันภาพเก่าที่ดูไปแล้วนี่นา...ก็ภาพที่ผมนอนอยู่บนเตียงนั่นแหละครับ...พอพลิกย้อนกลับไปตั้งใจจะสอดไว้ที่หน้าเดิมก็ยิ่งแปลกใจ...เพราะนี่มันไม่ใช่ภาพเดิม
มันเป็นภาพของผม...นอนเปลือยท่อนบนหลับอยู่บนเตียงแน่ๆ...แต่ฉากหลังไม่มีกล่องลังระเกะระกะ กลับกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จัดอย่างเรียบร้อยแทน
+++++++++++++++++++++++++++++++++
...แกร๊ก...
ผมผงกหัวขึ้นมาจากหมอน หยีตาสู้แสงตะวันมองดูแขกไม่ได้รับเชิญยามเช้า
“นอนต่อไปเหอะ..แค่จะมาทำความสะอาดให้เอง” ไอ้ต้อยนั่นเอง...ตั้งแต่ได้กุญแจห้องไปนี่เล่นแวะมาเกือบทุกวันเลยครับ
ผมครางอือในคอ กำลังจะทิ้งหัวลงนอนเหมือนเก่าก็ต้องหยุดชะงัก เพราะฝ่ามือของมันแทรกเข้ามารับท้ายทอยผมเอาไว้ก่อน
“อืมม...” ปากของมันประกบลงบนริมฝีปากของผมแผ่วเบา พอเผยอปากออกเล็กน้อยลิ้นอุ่นร้อนของมันก็สอดแทรกเข้ามา ดูดดุน ไล้เลียซะทั่วไปหมด
“พอได้แล้วโว้ย เพิ่งสอบเสร็จเมื่อวาน ง่วงจะตายอยู่แล้ว” ผมดันมันออกห่าง หันหน้าหนีปากที่ทำท่าจะฉกเข้ามาอีก...ง่วงจริงๆครับ อ่านหนังสือโต้รุ่งมาตั้งหลายวัน...ต้องโทษนิสัยคืนสุดท้ายก่อนสอบของตัวเองแหละครับ แต่ใครๆเค้าก็ทำกันอย่างนี้นี่หว่า...จะพูดให้ถูก...ต้องโทษไอ้คนไม่รู้จักเกรงใจ มาบุกบ้านคนอื่นเช้าๆอย่างนี้ต่างหาก
ไอ้ต้อยไม่ยอมหยุด จูบปากไม่ได้มันก็หันไปเล่นงานต้นคอผมแทน...ไอ้เวรเอ๊ย! ดูดเข้าไป!...คราวที่แล้วเป็นต้องติดพลาสเตอร์ตั้งหลายวัน...
“พอแล้วต้อย! ง่วงนอน!” มันยังไม่ยอมหยุดครับ เอามือล้วงเข้ามาใต้เสื้อนอนอีกต่างหาก ผมเรียกชื่อปรามมันไปสองครั้งก็ยังไม่หยุด สุดท้ายเลยใช้ไม้ตาย
“โอ๊ย!!!” ไอ้ต้อยผละออกอย่างเร็ว เอามือกุมหัวตัวเองไว้แล้วช้อนตาขึ้นมาค้อนผม “ตบหัวเราไมเนี่ย!” น่ารักตายห่าล่ะมึง
“ก็บอกว่าไม่เอา ง่วงโว้ย จะมาทำความสะอาดก็ไปทำดิวะ!”
ผมด่ามันพลางล้มตัวลงนอน คว้าผ้าห่มคลุมโปง ยังไม่ทันได้หลับตาผ้าห่มก็ถูกกระชากออกไปก่อน...มันอะไรนักหนาวะ!!
“ขอค่าจ้างก่อนดิ อุตส่าห์มาทำความสะอาดให้ทั้งที” ไม่ได้ขอเล๊ย~ มาทำให้เองยังมีหน้ามาขอค่าจ้างอีก...ด้วยความรำคาญ ผมเลยคว้าคอเสื้อมัน ดึงลงมาจนไอ้ต้อยตกใจ แทบจะล้มทับลงมาบนตัวผม เคราะห์ดีที่มันเอาแขนยันที่นอนไว้ได้ทัน
ผมให้ค่าจ้างมันไป กว่ามันจะพอใจน้ำลายก็ไหลระคางเลอะลงไปถึงปลอกหมอน หน้าอกของเราสองคนเผยอหอบขึ้นลง ไอ้ต้อยหมดแรงทิ้งตัวลงมาทับตัวผมจนรู้สึกอึดอัด
“ลุกไปได้แล้ว” ผมว่ามันพลางหยิกมือที่สอดเข้ามาในเสื้อนอนอีกครั้ง
“ขออีกนิดได้เปล่า?” มันว่าพลางเอาลิ้นมาเลียหูจนขนลุก...ไอ้นี่โลภมากจังวะ!!
ผมขยุ้มผมที่ท้ายทอยมัน ออกแรงยกขึ้นจนไอ้ต้อยหน้าหงายร้องโอ๊ยๆ “จะไปทำงานบ้านดีๆหรือจะให้เตะออกไปข้างนอกวะ? บอกว่าง่วง ฟังไม่ออกรึไง?”
เสียงผมคงชักแข็งล่ะครับ ไอ้ต้อยถึงค่อยถอยไปได้ มันยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเชิงยอมแพ้ ทำปากยื่นปากยาวแล้วหันหลังกลับไปคว้าไม้กวาดที่มุมห้อง
ผมล้มตัวลงนอนเอาผ้าห่มคลุมโปง ได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆเบาๆ แต่ก็ไม่ได้รำคาญอะไร...จะว่าไป กิจวัตรอย่างนี้ก็มีมานานพอควรล่ะครับ...ก็ตั้งแต่กลับมาจากทริปภูเขานั่นแหละ
พอผมจูบมันไปครั้งนั้นเท่านั้นแหละ ไอ้เด็กน้อยนี่มันก็ลามปามทันที มีจังหวะเผลอเป็นไม่ได้ ไม่กอดก็จูบ บางทีก็ชอบลูบชอบล้วง เป็นธุระให้ผมต้องเบรคมันเอาไว้ทุกที...ยังดีที่มันยังเกรงๆผมอยู่นะ
ส่วนไอ้ต้าน่ะเหรอครับ ก็สวีทวีดวิ้วอยู่กับน้องแพร จืดจางไปจากวงจรชีวิตผมมาเดือนกว่าๆแล้ว...กำลังกลุ้มใจเลยครับ ใกล้จะปิดเทอมใหญ่แล้ว พอปิดเทอมผมก็ต้องไปฝึกงานที่บริษัทของแม่ คงจะไม่ได้เจอมันอีกพักใหญ่...คิดถึงมันจัง...มันยังจำได้อยู่รึเปล่านะ...ว่าวันนี้วันเกิดผมน่ะ...
ผมแอบเลิกผ้าห่มขึ้น มองลอดช่องเล็กๆไปก็เจอตัวใหญ่ๆของไอ้ต้อยกำลังกวาดพื้นอยู่
ระหว่าผมกับมัน ไม่เคยมีคำพูดแสดงความรัก ไม่เคยมีคำหวาน มีแต่จูบที่ไม่อยากบอกใคร และให้ใครรู้ไม่ได้...โดยเฉพาะไอ้ต้า...
ผมไม่รู้ว่าไอ้ต้อยเคยพูดอะไรกับต้ารึเปล่า แต่ต้าไม่เคยพูดเรื่องของผมกับไอ้ต้อยเลย...เหมือนกับมันไม่รู้เรื่องของพวกเราด้วยซ้ำ...ซึ่งมันก็คงไม่รู้จริงๆ
ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าผมคิดยังไงกับไอ้ต้อย...ระหว่างที่กำลังสับสนอยู่ เรื่องของเรามันก็เรื้อรังมาเรื่อยๆ ผมปล่อยให้ไอ้ต้อยเข้ามาอยู่ในชีวิตผมซะจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว...
...
...
“อืมมม...” ครางเครือในคอเบาๆกับสัมผัสจั๊กจี้ที่วนไปมาแถวเอว พอเอามือปัดทิ้ง ไอ้ฝ่ามือสากๆร้อนๆก็ไล้ไปที่แถวหน้าอกแทน ผมลืมตาขึ้นมอง “...ต้อย...”
ไอ้ต้อยจูบหน้าผากผมเบาๆ “นอนต่อไปดิ”
ปากมันบอกให้ผมนอนต่อ แต่มือมันไม่หยุดลูบไปมาเลยครับ...แล้วอย่างนี้จะนอนต่อได้ยังไงวะ?? แต่ก็รู้สึกว่านอนพอแล้วล่ะครับ สติเริ่มกลับมาเต็มร้อย ผมคว้าท้ายทอยไอ้ต้อย กดลงมาให้ริมฝีปากเราประกบกันได้อย่างพอดี
“อืมม...” ลิ้นของมันซุกซนอยู่ในปากของผม พอดันสู้จนรุกเข้าปากมันได้มันดันเอาฟันมางับลิ้นผมไว้ซะงั้นน่ะ ไอ้นี่ขี้โกงจริงๆ
เราต่อสู้กันอยู่อย่างนั้น จนสุดท้ายเริ่มรู้สึกว่าขาดอากาศหายใจแล้ว ถึงได้แยกออกจากกัน ไอ้ต้อยทิ้งตัวลงนอนตะแคง หันหน้ามาทางผม จ้องตรงเข้ามาจนประหม่าต้องเบนสายตาหลบ
“ทำความสะอาดเสร็จแล้วรึไง?”
“...ยัง...” อ้าวไอ้นี่!...เอาค่าจ้างไปแล้วอู้งานนี่หว่า ไม่คุ้มเลย
ผมทำท่าจะอ้าปากด่ามัน ไอ้ต้อยก็เอามือมาปลดกระดุมเสื้อผมออกก่อน “ยังไม่ได้ทำความสะอาดเจ้าของห้อง”
“เฮ้ย!!” ไอ้นี่ลามปากอีกแล้วครับ ผมรีบปัดมือมันออก พลิกตัวกลิ้งหนี “พอเลยมึง” มองนาฬิกา...บ่ายกว่าๆแล้วครับ...นี่มันใช้เวลาทำความสะอาดห้องนานขนาดไหนเนี่ย...
“ไปกินข้าวกัน” ผมว่าพลางหันหลังคว้าเสื้อในตู้เสื้อผ้าเตรียมเข้าห้องอาบน้ำ แต่ไอ้ต้อยดันเดินมาด้านหลังกอดเอาไว้ซะก่อน “วันนี้เป็นไรวะ” ไม่ได้คิดไปเองนะครับ ดูมันมานัวเนียผมจัง
“เดี๋ยวค่อยอาบก็ได้ ทำข้าวเสร็จแล้ว กินบนนี้แหละ”
มาคิดดูอีกที...ไอ้ต้อยมันทำงานคุ้มค่าจ้างดีนะครับ มีทำข้าวเที่ยงให้ซะด้วย อยากจ้างมันเป็นแม่บ้านประจำชะมัด
++++++++++++++++++++++++
กินกันจนหมดไอ้ต้อยก็ไล่ผมเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ส่วนมันบอกว่าจะล้างจานให้ก่อน...สะดวกดีจริงๆแฮะ
“ธีๆ” ระหว่างที่กำลังฟอกสบู่เพลินๆไอ้ต้อยก็เคาะประตู
“อะไร?” ผมปิดน้ำฝักบัว เพราะฟังเสียงมันไม่ถนัด
“ลืมนาฬิกาไว้ข้างใน เอาออกมาก่อน เดี๋ยวพัง” ผมกวาดตามองไปที่อ่างล้างหน้า...ไหนวะนาฬิกา?
“ไม่เห็นมีเลย” ผมตะโกนบอกมัน
“มีดิ อยู่บนชั้นวางแชมพูน่ะ” พอเงยหน้าขึ้นมองข้างบนก็ยิ่งต้องขมวดคิ้ว... “ไหนวะ? วางไว้ที่อื่นรึเปล่า?”
ไอ้ต้อยมันเคาะประตูรัวๆ “เปิดก่อนดิ เดี๋ยวเราเข้าไปหาเอง”
ผมคว้าผ้าขนหนีพันเอว...ทั้งๆที่ยังไม่ล้างสบู่ออกนั่นแหละครับ
พอบิดลูกบิดเท่านั้นล่ะ ตัวใหญ่ๆของไอ้ต้อยก็แทรกเข้ามาในห้องน้ำ มันเขย่งตัวขึ้นมองชั้นวางแชมพู...มึงจะเขย่งเพื่อ? สูงจะตายหะอยู่แล้วยังมาเขย่งข่มกันอีก หนอยยย...
“เออ...ไม่มีแฮะ” ไอ้ต้อยบ่นงุบงิบ
“ไม่มีก็ออกไปได้แล้ว จะอาบน้ำต่อ” ผมดันหลังมันให้เดินออกจากห้องน้ำไป
“เฮ้ย! ดันมาได้ เปื้อนสบู่เลย เห็นมั้ยเนี่ย!!” ไอ้ต้อยร้องโวยวายทั้งๆที่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเปื้อนตรงไหน มันหันกลับมาถอดเสื้อยืดออก “ไหนๆก็เปื้อนแล้ว อาบมันซะเลย”
...ไอ้นี่เนียนได้อีก...ผมชักจะรู้จุดประสงค์ของมันแล้วครับ เท่านั้นล่ะ ผมเลยแทรกตัวมันออกไปด้านนอก “งั้นอาบไปก่อน เดี๋ยวเรารออาบต่อ”
ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ไอ้ต้อยก็คว้าตัวผมเข้าไปข้างในซะก่อน “อาบด้วยกันเลย ออกไปเดี๋ยวพื้นเปื้อน เราถูตั้งนาน” ...นั่นไงครับ
ผมแกะมือมันออกจากเอว “หยุดเลย! คิดว่าไม่รู้หรอวะ?” ไอ้นี่มันเนียนบ่อย แต่ผมก็รู้ทันมันตลอดล่ะครับ ไม่งั้นไม่อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอก
ไอ้ต้อยไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ ยังมีหน้าลากตัวผมเข้าไปใต้ฝักบัวแล้วเปิดน้ำรดหัวอีกตะหาก “รู้ทันก็ดีแล้ว งั้นก็ไม่อ้อมค้อมล่ะ ยอมๆซะเหอะน่า!”
“ไม่เอา” ผมเอาส้นเท้ากระทืบเท้ามัน แต่สงสัยมุกนี้จะใช้บ่อย มันเลยชักเท้าหลบได้ทัน “นะ ธี...นะ? ขอตั้งหลายครั้งแล้ว ทำไมไม่รู้จักยอมซักทีเนี่ย”
ทำไมถึงไม่ยอมน่ะเหรอ...เหตุผลง่ายๆ...ก็เพราะมันเป็นน้องของไอ้ต้า...ของเพื่อนที่ผมรักไงครับ แค่จูบผมก็ว่ามันถลำลึกเกินไปแล้ว ถ้ามีเรื่องอย่างนี้ด้วย จะเอาหน้าที่ไหนไปมองไอ้ต้าล่ะ...ผมต้องปิดความสัมพันธ์กับไอ้ต้อยเป็นความลับตลอดไปใช่มั้ย?...ถ้าไอ้ต้ารู้...มันจะรู้สึกยังไง...มันเคยบอกว่ามันเกลียดเกย์...แค่จะบอกรักมันยังไม่กล้า...แล้วถ้ามันเกิดรู้ขึ้นมาว่าผมกับน้องมันเป็นเกย์ มันจะว่ายังไง? ไอ้ต้อยคงรอดตัวเพราะเป็นน้องแท้ๆ แต่มันต้องรังเกียจผมแน่ๆ ...มันก็เหตุผลแค่นี้เอง...เสียแต่ว่า...ผมไม่รู้จะบอกไอ้ต้อยยังไง...
“เพราะเราเป็นน้องพี่ต้าน่ะเหรอ?” คำถามที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้ผมชะงักไป ไอ้ต้อยจับคางผมให้หันไปรับจูบมัน จนเมื่อปากเราแยกออกจากกัน ปากมันก็ยังคลอเคลียอยู่ที่ปากผม ลืมตาขึ้นมองเห็นขนตายาวงอนของไอ้ต้อยอยู่ใกล้แค่นี้เอง
“ลืมพี่ต้าไปก่อนไม่ได้เหรอ? พี่ต้าก็แค่เพื่อนธี มีอะไรกับน้องของเพื่อนมันก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่นา”
...เพื่อน...นั่นสินะ
...เพื่อน...
ผมเกลียดคำนี้เป็นบ้าเลย
“นะ?” ไอ้ต้อยร้องขอพลางลูบหยาดน้ำออกจากใบหน้าของผมให้ มืออีกข้างของมันไล้ไปตามกระดูกสันหลัง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบที่เอวแทน
“เรา...ไม่อยากทรยศเพื่อน” ผมดันหน้าอกมันออก แต่ดันยังไงก็ไม่ออก...เมื่อไหร่กันนะ ที่แรงมันเยอะขนาดขัดขืนไม่ได้...ก็ที่ผ่านมา ออกแรงดันนิดเดียวมันก็ยอมถอยแล้วนี่นา...แล้วทำไมวันนี้มันถึงไม่ยอมตามใจผมล่ะ?
ไอ้ต้อยไม่ยอมปล่อยผม มันรั้งตัวผมเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิม คางของมันวางลงบนหัวผม ในขณะที่ผมก้มหน้า จมูกชนอยู่กับแผ่นอกของมัน “ไม่ได้ทรยศอะไรซักหน่อย เราไม่ได้มีอะไรเสียหาย ธีก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย...ก็แค่เซ็กส์...”
...ก็แค่เซ็กส์...
นั่นสินะ...ก็แค่เซ็กส์...ไม่มีข้อผูกพันธ์ ไม่มีใครต้องเสียใจ...
“อย่าบอกใครได้มั้ย?” ...โดยเฉพาะไอ้ต้า...
ไอ้ต้อยเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะก้มหน้ารับออกมาเบาๆ “...อืม...”
มือของไอ้ต้อยกอบกุมลงบนน้องชายของผม มันกำไว้เบาๆพลางขยับยั่วเย้าซะจนเริ่มรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง ผมใช้สองมือโอบรอบคอมันเอาไว้ แผ่นหลังถูกดันให้พิงอยู่กับผนังห้องน้ำ ทำให้พอจะพยุงตัวยืนอยู่ได้...ไม่ล้มลงไปให้อายมัน
“ทำให้เราด้วยดิ” ไอ้ต้อยจับมือผมเอาไว้ นำให้จับลงไปที่หว่างขามัน...ร้อน...แปลกๆ...
สะโพกขยับตาม ลำตัวเปียกน้ำสัมผัสถูไถกันไปมา เกิดเป็นความรู้สึกดีๆที่ยากจะบรรยาย
ขาอ่อนแรงอย่างหนักจนต้องละทิ้งทิฐิไป ผมไถหลังรูดกับกำแพง ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นห้องน้ำ โดยมีไอ้ต้อยนั่งตามลงมาด้วย มือของมันประคองน้องชายผมเอาไว้ ปากของมันอ้าออกกว้าง ก่อนจะรับของผมเข้าไป
“อึ๊!!” ผมแหงนหน้าขึ้น ใช้สองมือปิดปากตัวเองเอาไว้...ไอ้ต้อย...มัน...ทำเป็นได้ยังไงวะ?
คือ...ผมพอจะรู้นะครับ ว่าผู้ชายเค้าทำกันยังไง...ที่รู้ก็เพราะเคยศึกษาหาข้อมูล เผื่อจะได้เอามาใช้กับไอ้ต้านี่แหละ...แต่ไม่คิดว่าไอ้ต้อยมันจะรู้เหมือนกันนี่สิ
แถม...เก่งซะด้วย...
สองมือของมันจับขาอ่อนผมให้แยกออกกว้าง ตัวมันแทรกเข้ามานั่งอยู่หว่างขา มือมันคว้าขวดสบู่บีบใส่ฝ่ามือจนแทบล้น ก่อนจะละเลงลงบนด้านหลังของผม
...ร้อน...รู้สึก...ดี...ประหลาดๆ...
ในหูมีแต่เสียงวิ้งๆ สัมผัสจั๊กจี้ทางด้านหลังทำให้เกร็งตัวซะจนเมื่อย รู้สึกหน้ามืด รู้ตัวว่ากำลังจะถึง...ไอ้ต้อยมันดันถอนปากออกไป
“หยุด...ทำไมวะ?” ตั้งใจจะตวาดใส่มัน แต่เสียงที่ออกมาก็แค่กระซิบ
ไอ้ต้อยใช้สองมือของมันลากขาทั้งสองของผมขึ้นสูง จับเข่าพาดบ่าเอาไว้จนแผ่นหลังเลยพ้นผนังห้องน้ำ ลงนอนหงายบนพื้นกระเบื้องแทน ผมหลับตาปี๋เพราะสายน้ำจากฝักบัวตกลงกระทบใบหน้าจนรู้สึกเจ็บ
ไอ้ต้อยจับมือผมเอาไว้ นำให้สัมผัสกับร่างกายของตัวเอง “จัดการเองไปก่อน”
ไม่บริการกันเลยวะ!!! นึกเคืองมันอยู่ในใจครับ เสียดายความรู้สึกดีๆเมื่อกี้...แต่จะทำไงได้ อารมณ์กำลังค้างเติ่งอยู่ เลยต้องยอมปลอบใจไอ้น้องชายด้วยตัวเอง
ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินจนลืมอาย ไอ้ต้อยก็สอดนิ้วลื่นๆเข้ามา
“ไม่เอา!!!” ผมเกร็งตัวแน่นจนรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่คาอยู่ด้านหลัง
“ผ่อนหน่อย ธี” มันว่าพลางก้มลงดูดดุนยอดอกให้ ทำจนเริ่มเคลิ้มถึงได้รู้สึกว่า นิ้วที่ด้านหลังเริ่มขยับเข้าออกวนไปมา
มันแน่น...แปลก...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดี
“อ๊า!!” จนถึงจุดหนึ่ง ไอ้ต้อยกดนิ้วขยี้ลงมา ร่างกายกระตุกอย่างแรง ผมเร่งขยับมือที่กอบกุมตัวเอง ก่อนจะปลดปล่อยออกมา
สายน้ำที่ตกกระทบหน้าหยุดลง ลืมตาขึ้นดูถึงได้รู้ว่าไอ้ต้อยเอื้อมมือไปปิด มองใบหน้าแดงๆของมันแล้วก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวาบ...เพราะหน้าของไอ้ต้อยมัน...มีน้ำสีขาวๆเปรอะอยู่เต็มไปหมด
“เยอะชะมัด อัดอั้นมานานรึไง” มันพูดกลั้วหัวเราะจนผมรู้สึกฉุน ผมยกตัวขึ้นพยายามเอามือดันมันออกไป
“ออกไปเลยนะเว้ย! แม่งกวนตีน!”
“โหย~ พูดไม่เพราะอย่างงี้ต้องลงโทษ...ไหนดูดิ๊...เมื่อกี้ตรงนี้ใช่เปล่า?” พูดจบสามนิ้วที่ขยับยุกยิกอยู่ด้านหลังขยับขยี้ลงไปที่จุดหนึ่ง เหมือนมีไฟช็อตไปทั่วร่างกาย เล่นซะขนลุกไปทั่วร่าง ร้องครางอย่างห้ามไม่อยู่ ทิ้งตัวลงนอนหงายเหมือนเดิม
“บิงโก!” บิงโกบิงเกออะไรของมึงวะ!!! ผมเบ้ปากลืมตาขึ้นมองเชิงด่ามัน
ไอ้ต้อยกลับยิ้มกว้าง โน้มตัวลงจูบปากผมไวๆ “น่ารักชะมัดเลยว่ะ” ชมกันอย่างนี้ไม่เห็นดีใจ ทำไมมันไม่ชมว่าเท่ห์หรือหล่อวะ...ไม่ทันได้ตอบโต้ไป ไอ้ต้อยดันชักนิ้วออกก่อน เล่นซะรู้สึกโหวงๆเลยครับ มันสอดมือเข้าใต้รักแร้ผม พยุงให้ลุกขึ้นมานั่ง “ไปที่เตียงเหอะ ในห้องน้ำมันปวดหลัง” ว่าแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวซับน้ำให้แบบส่งๆ แล้วก็ลากแถ่ดๆออกจากห้องน้ำไป
...
...
ลากมาจนทิ้งตัวบนเตียงได้ ไอ้ต้อยก็คว้าข้อเท้าผม ดึงให้อยู่ในท่าพาดบ่าเหมือนเดิม เห็นมือมันขยับยุกยิกอยู่แถวหว่างขาตัวเอง หลังจากนั้นอะไรบางอย่างก็จ่ออยู่ที่ช่องทางด้านหลังของผม
“เข้าไปแล้วนะ” มันไม่มีถามความเห็นเลยครับ เหมือนจะแค่บอกกล่าวแค่นั้น เพราะมันยังพูดไม่ทันจบ ไอ้น้องชายของมันก็ดันเข้ามาทันที
เจ็บๆๆๆๆ!!!!
ผมกางเล็บข่วนมัน “เจ็บบบ!!! เจ็บโว้ยยย!!!” ใครว่าผู้ชายไม่กลัวเจ็บครับ? ผมคนนึงล่ะที่กลัว ผมไม่ชอบเจ็บตัว ผมต่อต้านความรุนแรง!!
ไอ้ต้อยไม่ฟังความเห็น มีหน้าจับข้อมือผมกดไว้กับเตียงแล้วดันตัวเข้ามาต่ออีก
“เจ็บบบ! ฮือ เจ็บ!” น้ำตาไหลแล้วครับ ห้ามไม่อยู่แล้ว จะว่าใจตุ๊ดก็ยอม...ก็ม็นเจ็บจริงๆนี่หว่า
ไอ้ต้อยเอามือมาจับน้องชายผม ปลุกปลอบจนเริ่มรู้สึกดี...ดีจนด้านหลังเจ็บน้อยลง ผมครางออกมาเบาๆ
มันคงเห็นผมเคลิ้มได้ที่ เลยเริ่มจะขยับต่อ แค่นิดเดียวเท่านั้นผมก็เกร็งตัวทันที...ไม่ได้ตั้งใจนะครับ ร่างกายมันเป็นไปเอง
“ซี๊ด~ อย่าเกร็งดิ” มีมาซี๊ดมาเซิ๊ดอีกแน่ะ...มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอย่างนี้ใช้ไม่ได้!
ผมร้องโวยวายใส่มันยกใหญ่ เรียกร้องสิทธิมนุษยชนเต็มที่ “ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!! ฝีมือไม่ได้เรื่อง ออกไป! เดี๋ยวเราทำให้เอง!!”
ไอ้ต้อยได้ยินอย่างนั้นก็ทำตาแวววาวทันที “จริงดิ? ธีจะนั่งเทียนหรอ”
“ทะลึ่งแล้วมึง ออกไปเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวเรารุกเอง...โอ๊ยยย!!!” ยังพูดไม่ทันจบเลยครับ ไอ้ต้อยมันดึงตัวออกแล้วดันเข้ามาทันที เล่นซะน้ำตาเล็ด
“ไม่ได้ เรารุกเอง”
“เรารุก!” ผมไม่ยอม ตะโกนใส่หน้ามันเสียงดัง
“เรารุก! เราสูงกว่า เราได้รุก!!” มึงเป็นเด็กห้าขวบรึไงวะ เหตุผลทุเรศสิ้นดี
“ไม่เอา ทำคนอื่นเจ็บอย่างนี้รุกไม่ได้!” ผมตัดสิน
ไอ้ต้อยยังไม่ยอม มันจับข้อมือผมที่ปัดป่ายไปมาเอาไว้ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนทับตัวผม...ทั้งๆที่ยังไม่ยอมดึงออกไป
มันฟุบลงมาแล้วเงียบไปเลยครับ จนคิดว่ามันสลบไปแล้วหรือไง ก็เลยลองเรียกมันดู “ต้อย...”
“ซี๊ด! อยู่นิ่งๆไปก่อนเหอะน่า...หายเจ็บแล้วบอกด้วยละกัน” ไอ้ต้อยตัวสั่นเหงื่อแตกพลั่กเลยครับ...มันคงกำลังอดทนอยู่
เรานอนกันอยู่อย่างนั้น มือของไอ้ต้อยเลื้อยมาลูบไล้หว่างขาของผม ปากของมันระดมจูบลงบนใบหน้า
“ต้อย...” ผมเรียกมันเบาๆ...เบาจนแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเอง แต่มันเสือกได้ยิน
“หือ?”
“...ต่อเหอะ” ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเองก็ชักรู้สึกทนไม่ได้แล้ว...
แค่ปล่อยไฟเขียวเท่านั้นล่ะครับ ไอ้ต้อยแม่งขยับซะจนเตียงสั่น เสียงฟูกกระแทกหลังดังกึงๆๆ “บ....เบาๆโว้ยยย!!!”
“ไม่ไหวแล้ว! เบาไม่ไหว! ซี๊ด!!” ไอ้ต้อยมันพูดเสียงกระเส่า หอบฮั่กๆ แต่สะโพกก็ยังไม่ยอมหยุดขยับ
เจ็บ....เจ็บจนหน้ามืด...แต่...ก็รู้สึกดี...ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของมัน ข่วนไปมาอย่างไม่สนใจว่ามันจะเจ็บรึเปล่า...จังหวะนี้ผมห้ามตัวเองไม่อยู่แล้วครับ และไอ้ต้อยก็คงเป็นแบบเดียวกับผมเหมือนกัน อุ้งมือของมันจิกลงบนขาอ่อนของผม บังคับให้แยกออกกว้าง เสือกตัวเข้ามาไม่ยั้ง เล่นซะจุกไปหมด จนจังหวะสุดท้ายมันแหงนหน้าคำราม ตัวสั่นเกร็ง แล้วของเหลวร้อนระอุก็ฉีดพุ่งเข้ามาข้างในตัวผม จังหวะเดียวกับที่ผมปลดปล่อยออกมาจนเลอะเทอะไปถึงผ้าปูที่นอน
...ไอ้ต้อยล้มฟุบทับลงมาบนตัวผม เราหอบหายใจจนแผ่นอกกระเพื่อมทั้งคู่ หัวใจของมันเต้นแรงจนผมรู้สึกได้ และมันก็คงจะรู้สึกถึงหัวใจผมที่กำลังเต้นถี่รัวเหมือนกัน
นาน...กว่าสติของไอ้ต้อยจะกลับมา มันชันตัวขึ้น จูบที่มุมปากผม
ท่ามกลางสติเบลอๆ ได้ยินเสียงมันกระซิบ “สุขสันต์วันเกิด” อะไรบางอย่างถูกพันรอบข้อมือ ลืมตาดูถึงรู้ว่าเป็นนาฬิกา
“จองไว้ก่อนนะ” มันว่าอย่างงั้น นิ้วของมันลูบเปลือกตาผมให้ปิดลงเบาๆ เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหู “พักผ่อนกันก่อนเหอะ”
ด้วยความเพลีย ผมจึงหลับตาลงตามที่มันบอก ขณะที่สติกำลังลางเลือน ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังอยู่ไกลๆ
“...อย่าโกรธกันล่ะ...”
ตอนนี้สิ่งที่ผมสงสัยมีอยู่สองอย่าง...อย่างแรกคือ...ไอ้ต้อยมันกลัวผมโกรธเรื่องอะไร
และอย่างที่สอง...
ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายรับด้วยวะ!!
++++++++++++++++++++
TBC
ตอบเม้นท์ค่ะ
melon_jung มีแต่คนรักต้อยหลงต้อยแฮะ
@BUA@ + ให้ลูกหมูค่ะ
ขอบคุณค่ะ ^__^
patiharn แต่แอบสงสัย ถ้าต้อยสูงกว่าธีแล้ว อย่างนี้แสดงว่าจะมีการพลิกโผพระนายหรือเปล่าเนี่ย อิอิ อยากรู้จัง
ตอนนี้คงชัดเจนแล้วนะคะ
namtaan วู้วววว นึกถึงภาคแรกเลย ถ้าต้ากับธีไม่เข้าใจผิดกันซะก่อน ถ้าพี่ธีไม่มาดามหัวใจให้ต้าแล้วน้องต้อยจะเป็นไงเนี่ย
น้องต้อยก็ให้พี่ธีดามหัวใจให้แทนไงคร๊าาา
บวก 1 แต้มให้ลูกหมูจ้า ยิ่งอ่านยิ่งรอตอนท้ายๆ อยากให้สมหวังกันเร็วๆ หุหุ
ขอบคุณค่ะ
M@nfaNG อ่านตอนนี้แล้วเหงาจัง
มามะ กอดปลอบ
nopkar "บางทีคนเราก็ไม่ต้องการแค่เพียงความรักอย่างเดียว ยังคงต้องการความสบายใจ และความอุ่นใจด้วย เพราะถ้าต้องรักแล้วต้องมีความกังวลใจเข้ามา ความรักก็จะไม่กลายเป็นความรักอีกต่อไป"
Lollipop_pop
กอดตอบ
kun อยากได้ดดดดดด ฉากปัจจุบันนนนนนนน จังเลย)))))))))))))))))))))
เอาฉากอดีตไปปก่อออนนนน
paulla สงสารต้อย +1 น้ำตา1 หยดให้คนแต่ง
ไม่เอาๆ อย่าร้องไห้ ยิ้มดิ.... (ต้อยฝากมาบอก อิๆ)
Catrina อ่านภาคนี้แล้วรู้สึกแตกต่างจากภาคก่อนจัง ต้าดูเหมือนไม่ค่อยแคร์ธีเท่าไหร่ แถมไม่เคยรู้เล้ยว่าธีก็ชอบตัวเอง
เพราะมองในมุมมองของธีไงคะ เพราะต้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าธีชอบต้า อีกไม่นานลุงธีจะมาแล้วรึเปล่าคะคุณลูกหมู
รออีกนิดค่ะ อีกนิดเดียว
boboaje . . .รอค่ะ เมื่อไหร่จะมาซะที .. . อยากรุ้จริงว่าเธอคิดอาราย . . .(นึกถึงเนื้อเพลงได้ประมาณนี้อ่ะคะ )
มาแล้วค่า รถซ่อมเรียบร้อยแล้ว
ღGivesZaღ ช่วงนี้ติดหาที่เรียนงับ แล้วก็ได้แล้ว อิิอ
ยินดีด้วยจ้า ตั้งใจเรียนนะ
(เชียงใหม่รึเปล่า?)
Ak@tsuKII บวกหนึ่งจ้า
ขอบคุณค่า
มาลงชื่อว่ากำลังตามอ่านภาคสอง อ่านภาคแรกจบแล้ว หนุกดี
ยินดีต้อนรับค่ะ ^__^
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ขอโทษที่มาต่อช้าค่ะ ช่วงที่ผ่านมาทำงานนอกเวลาทุกวัน เล่นซะไข้ขึ้น (แต่ก็ยังต้องทำงานอยู่) อัดยาเข้าไป คงหายดีเร็วๆนี้ (ตอนนี้ก็ทำงานอยู่...อยากพักจัง)