มาแว้ววว~ รอจนเปื่อยกันรึยังคะ

====================
15 ในวันที่ไม่มีคำตอบสมุดรูปถ่ายถูกเปิดมาจนหน้ารองสุดท้าย...หน้าที่ไม่มีภาพอะไรติดอยู่เลย
เดิมที ภาพผมก็คิดว่ามันควรจะหมดอยู่แค่นี้
แต่เมื่อพลิกไปอีกหน้าหนึ่ง ก็ได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิด...
...
..
.
“ธี ต้อยมาเยี่ยม”
ผมเงยหน้าขึ้นจากการเกาท้องไอ้เป้ง...ไอ้หมาข้างถนนตัวใหญ่สัญญารักของผมกับไอ้ต้า
ทันทีที่ไอ้เป้งได้ยินเสียงแม่เรียกชื่อต้อย มันรีบลุกขึ้น หมอบทหารไปหน้าประตูอย่างเร็ว เล่นซะผมลุกใส่รองเท้าเดินตามมันไปไม่ทัน จะตะโกนเรียกก็ช้าเกินไปซะแล้ว
“อ๊ากกกกก!!!” นั่นล่ะครับ ไอ้ต้อยร้องขึ้นมาอย่างดัง พอวิ่งตามไปก็พบว่า ปากของไอ้เป้งงับอยู่ที่ตูดไอ้ต้อยเรียบร้อยแล้ว แถมครั้งนี้ต้อยมันไม่สู้ด้วยครับ...คงเพราะกลัวขนมของฝากที่ถือมาจะเละล่ะมั้ง
ช่วงหลังๆมานี่ไอ้ต้อยมาหาผมที่บ้านบ่อยๆ มาซะจนแม่ผมรู้จักดีเลยครับ...ส่วนไอ้เป้ง...ไม่รู้มีอะไรกัน ตั้งแต่ที่ไอ้หมาเป้งเจอกับหมาต้อย สายฟ้าก็ลั่นเปรี๊ยะระหว่างสายตาพวกมันทันที...จริงๆแล้วไอ้ต้อยมันเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนะครับ เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ มันก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจแล้ว
“ไรวะ! หมาอะไรชื่อใหญ่ ตัวแค่นี้ยังเลียตูดเราไม่ถึงเล้ย!!” คิดดูอีกทีมันคงรู้สึกเหมือนถูกหยามน่ะครับ เพราะหมามันชื่อแปลว่าใหญ่ ตัวมันดันชื่อแปลว่าเล็ก
หลังจากไอ้เป้งได้ยินคำสบประมาทเท่านั้นล่ะครับ มันไม่แค่เลียตูดไอ้ต้อยถึงเท่านั้น แต่มันกัดเข้าไปเต็มปากเต็มคำเลย ลำบากพี่เลี้ยงต้องมาคอยดึงโซ่เอาไอ้เป้งไปผูกใต้ต้นไม้ทุกที
“เป็นไงบ้างล่ะจ๊ะ ลูกต้อย” แม่ผมถามสารทุกข์สุขดิบตามประสาผู้ใหญ่ เห็นเพื่อนลูกเป็นลูกหมด...ระวังนะครับแม่ เดี๋ยวจะได้มันเป็นลูกเขย...คิดอีกทีให้มันเป็นลูกสะใภ้ดีกว่า...หรือคิดอีกที...จะให้มันมาเป็นลูกแม่ทำไมวะ!?
ต้อยเงยหน้าจากการเอาขนมยั่วไอ้เป้ง ที่ยืดคอมาจนสุดโซ่แล้วยังได้แค่ดม หันมาตอบแม่ “สบายทีครับแม่” น่าน...สวมบทอย่างคล่องเลยนะเอ็ง
ผมมองขนมของฝากกล่องใหญ่เบ้อเริ่มบนโต๊ะ แล้วก็สงสัย “กลับบ้านมา?”
ไอ้ต้อยพยักหน้า เอาขนมที่มันยั่วเป้งเข้าปากตัวเอง...แกล้งหมา...เลวได้อีก...
...หรือว่า... “ไปกับต้า?”
มันพยักหน้าส่งๆ “ไปเยี่ยมพ่อแม่น่ะ”
ดูมันไม่ค่อยอยากให้ผมถามถึงต้าซักเท่าไหร่
หลังจากปิดเทอมใหญ่ พักหัวใจบวกกับฝึกงานที่อังกฤษ มีเวลากลับมาเยี่ยมต้า-ต้อยที่ขอนแก่นสองวัน แล้วก็บินต่อ กลับถึงกรุงเทพก็เปิดเทอมปีสุดท้ายพอดี ผมกับไอ้ต้าลงวิชาไม่ตรงกันซักตัว แถมปีสุดท้ายยังมีเรียนน้อยอีก...ก็เลยห่างกันไปโดยปริยาย
แต่แม้จะอยู่ห่างๆ แต่ก็แอบห่วงๆนะครับ...ไม่รู้มันแอบไปสำมะเลเทเมาที่ไหนรึเปล่า
“ไม่หรอก พ่อให้มันคัดสัญญาเมาไม่ขับมาร้อยจบน่ะ” ไอ้ต้อยว่าอย่างนั้นนะ
ว่าจะโทรศัพท์หา ชวนกินข้าว ชวนเที่ยวตามประสาเพื่อน มือมันก็ไม่ยอมกดปุ่มโทรออกครับ...เพราะผมรู้ใจตัวเอง...ว่ายังคิดกับมันอย่างเพื่อนไม่ได้...
รู้ตัวอีกทีผ่านไปครึ่งปี...ก็ได้รับโทรศัพท์จากต้า...ตอนนั้นดีใจมาก...แล้วก็รู้สึกวูบในคราวเดียวกัน
“กูเรียนจบแล้วนะ”
ไอ้ต้าใช้เวลาเรียนสามปีครึ่งจบ...ไอ้ต้าที่หลังสอบทีไรนั่งวิญญาณลอยออกจากปากทุกทีเนี่ยนะ!!
ผมถามเหตุผลมัน...มันก็ว่าแค่ “ก็อยากเรียนจบเร็วๆ”
มันอยากเรียนจบเร็วไปทำไม?
ไอ้ต้อยก็ดูจะไม่ค่อยรู้เหมือนกัน...หรืออีกอย่างคือ...มันรู้ แต่แอ๊บ...
ต้อยยังคงออดอ้อนแม่ผมไปเรื่อย...นั่น!...มีการห่อแหนมเนืองให้ด้วย เล่นซะแม่ผมยิ้มแก้มปริเลยครับ
จะว่าไป ช่วงที่ผ่านมานี่ ไอ้ต้อยดูจะเพิ่มดีกรีความเนื้อหอมขึ้นใช่น้อยนะครับ น้องเฟรชชี่งี้ติดมันตรึมเชียว ได้ข่าวมันชอบพาน้องๆไปเลี้ยงด้วย
ผมนั่งเท้าคาง แอบมองหน้าด้านข้างของมัน...
...
..
“ธี”
!!!...เฮ้ย!! จะรีบหันมาทำไมฟระ เล่นซะสะดุ้งเกือบตกเก้าอี้
“อ...อะไร...”
ต้อยมองหน้าผม ยิ้มตาหยีแพรวพราว “แอบมองเราทำไม...หรือว่าคิดถึงเรามาก”
ผมรีบหันขวับดูรอบตัวทันที...กลัวแม่ได้ยินน่ะครับ...พอมองกวาดไปรอบๆ ก็งงๆ...แม่ตรูหายไปไหนฟระ
“แม่ไปตั้งนานแล้ว มีแต่ธีแหละ นั่งเหม่อมองเราซะตาเยิ้ม” ต้อยสบตาผมกลับ กลับเป็นฝ่ายผมเองที่หลบตา รู้สึกหน้ามันร้อนผ่าวชอบกล
ยังไม่ทันได้อ้าปากตอบ(ด่า)มัน ไอ้ต้อยก็ลุกขึ้นยืนซะก่อน แถมยังคว้าข้อมือผมเดินเข้าไปในบ้านซะอีก
มันจัดการไหว้ลาแม่ซะเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ลากผมขึ้นมอ’ไซค์คันเก่งของมัน บิดออกจากบ้านไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“พามาที่นี่ทำไม” ผมขมวดคิ้ว มองหอที่แสนคุ้นเคย
...ก็หอเก่าของผมเองแหละครับ หลังจากผมย้ายออกไป ไอ้ต้อยก็ขอเช่าห้องผมต่อ...มันบอกที่บ้านว่าผู้ชายสองคน (มันกับไอ้ต้า) อยู่ห้องเดียวกันไม่ไหว อึดอัด...แล้วที่มันมาสิงอยู่ห้องผมตั้งนาน มันไม่คิดว่าผมอึดอัดบ้างหรือไงนะ...ต่อครับต่อ...มันย้ายมาห้องผม ต่อจากนั้นไม่นาน พอไอ้ต้าเรียนจบ มันก็คืนห้องของมันแล้วย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นใกล้ๆที่ทำงาน เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้อยก็เลยอยู่ที่หอนี้แต่เพียงผู้เดียว
“เมื่อวานจัดห้อง เพิ่งเจอของที่ธีลืมไว้น่ะ”
มันไขกุญแจประตู เปิดประตูห้อง พยักเพยิดเชิงให้ผมเดินเข้าห้อง
ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ของอะไร ทำไมไม่เอาไปให้ที่บ้านเลยล่...”
ยังถามไม่จบดี ทันทีที่ประตูห้องปิดลง เอวผมก็โดนรวบดึงไปด้านหลังอย่างแรง
ไอ้ต้อยกอดผมไว้แน่น จูบฟอดลงมาบนกระหม่อมผม มันจับคางผมให้หันหลังไป แล้วริมฝีปากของพวกเราก็ประกบกัน...
“ก็...” ระหว่างที่ปากมันกำลังเล็มไปทั่วหน้า มันก็พูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมากระทบแก้มผม “...ถ้าไม่พามา...ก็ไม่ได้จูบธีน่ะสิ”
...ไอ้เจ้าเล่ห์เอ๊ย!!...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สิ่งที่ต้อยบอกว่าผมลืมไว้...ก็คืออัลบั้มรูป...ที่เก็บเรื่องราวของผม ไอ้ต้า แล้วก็ไอ้ต้อยเอาไว้...
ผมพลิกหน้าแต่ละหน้าอย่างเชื่องช้า...เรื่องราวเก่าๆ ในความทรงจำเกือบสี่ปีหวนกลับมา...
...เรื่องเก่าๆ วันที่ผมมีแต่ไอ้ต้า วันที่ผมเจ็บตัวเพราะมัน วันที่ผมเริ่มรักมัน จนถึงวันที่เริ่มมีไอ้ต้อยเข้ามาในชีวิต...ผมวางอัลบั้มไว้บนเตียง ตัวเองนั่งอยู่บนพื้นพรม เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ซึมไป...
ผมมองภาพที่เราสามคนถ่ายด้วยกันครั้งสุดท้าย...ภาพที่ไอ้ต้าเพิ่งจะตัดเฝือกหมาดๆ...
ไอ้ต้ายิ้มร่า...ผมยิ้ม...ขณะที่ตามองไอ้ต้า
...และไอ้ต้อย...ก็ยิ้ม...ขณะที่ตามองผม
...ยิ้มเศร้าๆ...
จนถึงตอนนี้...ตอนที่ผมได้กลับมานั่งทบทวนเรื่องราวเก่าๆ ทำให้รู้ว่า...เรื่องของไอ้ต้ากับผม...มันยังไม่จบ...
...และเรื่องของต้อยกับผม...มันก็ยังไม่ถึงจุดสุดท้ายเหมือนกัน...
หัวตามันเริ่มชื้นๆร้อนๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองไฟบนเพดาน นานพอสมควร กว่าน้ำตาจะย้อนกลับเข้าไปได้
หน้ารองสุดท้าย...ไม่มีภาพ...
จวบจนหน้าสุดท้าย...ไม่ใช่ภาพถ่าย...
...เป็นภาพวาด...ที่ดูเหมือนจะวาดยังไม่เสร็จดี...ภาพร่างใบหน้าของผม...คู่กับใครอีกคน...ที่ยังไม่ได้เติมรายละเอียด...
“..เรา...อยากให้คนข้างๆธีเป็นเรา...” ต้อยโอบกอดผมจากด้านหลัง พูดปนหัวเราะเบาๆ พลางยกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาให้ผม “...แต่เรายังไม่กล้าวาดหน้าเราลงไป...กลัวธีจะด่าเอา”
“ตลกดีนะ...จีบมาตั้งนาน ไม่สำเร็จซักที ก็ยังทู่ซี้อยู่ได้...คนคนนี้มีอะไรดีก็ไม่รู้” มันกระซิบติดหูผม เสียงของมันสั่นพร่า
มันจะเอาอัลบั้มมาให้ผมดูทำไม มันเอารูปนี้มาให้ผมดูทำไม
...อยู่กันแบบนี้ต่อไปก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ...ผมกับต้ายังเป็นเพื่อนสนิทกัน...ถึงภายใน...ผมจะยังคงรักไอ้ต้าอยู่ก็เถอะ...ส่วนผมกับมัน...
....มัน...เป็นคนเดียวที่ยังไม่มีสถานะแน่นอน...คนรู้จัก?....น้องเพื่อน?...คู่นอน?...หรือว่าแฟน?...
...มันต้องการคำตอบจากผม...
...ผม...คงเห็นแก่ตัวมากสินะ...ที่อยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไป...ไม่ยอมให้คำตอบมัน...เพราะมัวแต่หวังว่าสักวัน...ผมจะกล้าพอบอกรักไอ้ต้าได้...ส่วนกับมัน...ผมก็ไม่มีความกล้าพอที่จะตัดสินอะไรเด็ดขาดออกไป...
“วันนั้น...วันที่ไม่ได้บอกรักพี่ต้า...เสียใจมั้ย?” ต้อยถามผม...ผมตอบไม่ได้
...ผมตอบไม่ได้ว่าระหว่างการที่ผมบอกรักไอ้ต้าแล้วไอ้ต้อยเสียใจ กับการที่ผมไม่ได้บอกรักไอ้ต้า...อย่างไหนจะทำให้ผมเสียใจมากกว่ากัน...
“ต้อยล่ะ...วันนั้นที่บอกรักเรา...เสียใจรึเปล่า?” ผมถามมันกลับ...มันก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน...
...มันคงเลือกไม่ถูก...ว่าระหว่างการที่มันไม่ได้บอกรักผม...กับการที่มันบอกรักผมแล้วทำให้ผมเสียใจอยู่ทุกวันนี้...อย่างไหนทำให้มันเสียใจมากกว่ากัน...
เรื่องของเราสามคน เรื้อรังมานานเกินไป...ควรจะจบลงได้แล้ว
...และคนที่จะทำให้มันจบได้...ก็คือตัวผมเอง ...
...ตัวผม...ที่ควรจะทำตามความต้องการของตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว...
...ตัวผม...ที่ไม่ควรจะเอาแต่กลัว...ว่าต้าจะรู้สึกยังไง...ต้อยจะรู้สึกยังไง...
ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้มัน ลูบหัวทุยๆ ขยี้ผมยุ่งๆของมัน
...
..
.
“...ต่อจากนี้...เราเป็นแค่เพื่อนกันเถอะนะ...”
+++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์นะคะ ขอโทษด้วยที่หายไปนานอีกแล้ว
จากนี้คงจะผุบๆโผล่ๆได้อย่างนี้ล่ะค่ะ เพราะงาน+เรียนหนักเหลือเกิน
เอ้า! ฮึบ! พยายามต่อไป!! (รู้สึกยิ่งแต่งยิ่งดราม่า+น้ำเน่าแฮะ)