]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1711015 ครั้ง)

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
เชียร์นัทคนเดียวเท่านั้น :mc4:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
เชียร์ โจคนเดียวเท่านั้น :3123:

maras_fay

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอน A59
.
.
เปลี่ยนเป็น เชียร์ ให้โจ จีบ นัทไปเลย ดีไหม 55555555555

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
 เข้ามา:z2:

เชียร์นัทให้คู่นนท์ :-[


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 101


“ไอ้โจอยู่กับพลอยเหรอวะ” ผมถามกลับด้วยความแปลกใจ

“ก็น่าจะอย่างนั้นนะ เพราะไอ้ป๊อปมันก็เคยเห็นพลอยแค่ในรูปอะ ใช่ปะล่ะ”

“แล้วมันได้บอกรึเปล่าว่ามันเจอไอ้โจได้ยังไงและมันอยู่กะใครอะ กูหมายถึง ตัวไอ้ป๊อปเองอะ มันได้บอกมั๊ยว่ามันอยู่กับใคร”

“เหอะ มันไม่ได้บอกว่ะว่ามันอยู่กับใครว่ะ แต่มันบอกว่ามันเจอไอ้โจแถวๆหน้าห้องน้ำก่อนรอบนึงตอนสักสิบห้านาทีที่แล้วได้มั๊ง แล้วเมื่อกี๊มันก็เจอเพิ่งไอ้โจเข้าอีกครั้งอะ แต่คราวนี้เห็นว่ากำลังเดินอยู่กับเพื่อนมึงอะนะ มันก็เล่าให้กูฟังแค่นี้แหละ ทำไมเหรอวะ”

“เอาจริงๆนะ ไอ้ยุ คือ.......” ผมอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง “คือเมื่อกี๊ไอ้โจก็เพิ่งโทรมาหากูเนี่ยอะว่ะ มันบอกว่ามันเห็นไอ้ป๊อปเดินอยู่กับผู้หญิงคนนึงเหมือนกัน”

วายุนิ่วหน้าทันที “เอาแล้วไงมึง.......” เขาพูดเสียงต่ำ “แล้วมันเล่าอย่างอื่นให้ฟังอีกรึเปล่า”

“ไม่อะ มันพูดแค่นั้นแล้วมันก็วางสายไปเลย”

“แล้วไหนไอ้ป๊อปมันบอกมันไปกับเพื่อนมันไงวะ” เขานิ่วหน้าเครียด..... หรือถ้าพูดให้ถูกคงเป็น นิ่วหน้าด้วยอย่างคนรู้สึกไม่สบอารมณ์มากกว่า

“เพื่อนมันก็เป็นผู้หญิงได้นี่หว่า”

“มึงลืมไปป่าว ไอ้นนท์ เรื่องผู้หญิงคนนั้นที่ไอ้ป๊อปมันคุยๆอยู่ที่ชื่อแอร์อะ”

เราสองคนเงียบกันไปครู่หนึ่งก่อนที่ผมจะพูดขึ้น “เอางี้ดิ มึงก็ลองโทรกลับไปหามันดูดิวะ แล้วถามไปเลยว่ามันอยู่กะใคร ตอนแรกๆมึงก็ทำเป็นถามเรื่องไอ้โจดูก่อนก็ได้”

“จะดีเหรอวะ ไอ้นนท์ กูชักไม่ค่อยอยากจะรู้อะไรมากกว่านี้แล้วว่ะ กูกลัวไอ้ตี๋มันจะเสียใจหนักกว่านี้อีกอะดิ”

“เราก็อย่าเพิ่งให้ไอ้คี๋กับคนอื่นๆรู้ดิ และกูถามจริง ไอ้ยุ ถ้ามึงไม่รู้ความจริงให้ชัด นิสัยมึงอะ มึงจะสบายใจกว่าเหรอวะ”

เขาส่ายหน้า “ไม่ว่ะ........ เออๆ กูโทรกลับหามันดูก็ได้วะ”

“มึงไปคุยในห้องไป เดี๋ยวกูออกไปหาพวกมันก่อนเอง”

เขาพยักหน้ารับและเดินเข้าไปในห้องนอนของคริสก่อนจะปิดประตูตามหลังลง ส่วนผมก็เดินออกจากโถงทางเดินที่พวกเราหลบไปคุยกันอยู่ออกไปยังห้องนั่งเล่น

“มีไรวะ ไอ้นนท์” เจย์ที่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาหันมาถามผม

“ป่าว ไม่มีไร ว่าแต่ทำไมมึงมานั่งคนเดียววะ ไม่ไปช่วยพวกนั้นทำเหรอ”

“ไม่อะว่ะ กูทำเหี้ยไรไม่เป็นเลย แถมตัวกูก็ใหญ่ เกะกะพวกมันเปล่าๆ” เขาตอบ

ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆเขา สายตาของผมมองเลยเข้าไปในครัวและมองดูแผ่นหลังของนัทที่กำลังง่วงอยู่หน้าเคาน์เตอร์ แต่ใจของผมนั้นกลับกำลังคิดถึงสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากวายุเมื่อครู่ ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรื่องที่ยังไม่เคลียร์ของโจกับพลอยที่ยังคงคาใจผมมาตลอดถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นโจกับพลอยต่างก็พูด “ความจริง” ออกไม่มาตรงกัน เมื่อวันก่อนนี้โจก็เพิ่งเดินไปส่งพลอยที่บ้าน และวันนี้ โจที่บอกว่าตอนแรกตั้งใจจะชวนผมไปดูหนังด้วยกันก็กลับไปเดินอยู่กับพลอย คนที่เขาบอกว่าเป็นแค่แฟนเก่าที่เขาไม่อยากจะยุ่งด้วยอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างมันชวนให้ผมสงสัยจริงๆนะว่าตกลงแล้วเขากำลังคิดอะไรยังไงของเขาอยู่กันแน่

“เฮ้ยย ไอ้นนท์” เจย์เรียกผม “เป็นไรวะมึง จู่ๆก็เหม่อซะเฉยๆ”

“เปล่าๆ กูนั่งคิดไรเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“ไอ้นนท์” เสียงของวายุดังขึ้นจากอีกทางหนึ่ง เขาเดินออกจากห้องมาเรียบร้อยแล้ว นี่ผมเหม่อไปนานขนาดไหนกันนะเนี่ย “.....กูคุยแล้วนะเว้ย”

“แล้วเป็นไงวะ”

เขาเดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่กับเจย์ “ก็อย่างที่กูคิดนั่นแหละว่ะ”

“อะไรของพวกมึงวะ” เจย์ถาม

“เดี๋ยวก่อน ไอ้เจย์ เอาไว้ทำกับข้าวเสร็จ แดกข้าวเสร็จ แล้วกูจะเล่าให้ฟัง” วายุตอบ “ว่าแต่มึงเหอะ ตกลงจะนอนกะพวกกูรึเปล่า เอาให้แน่ๆ”

“ก็แล้วมึงให้กูนอนปะล่ะ และที่สำคัญ พวกมึงนอนที่ไหนกันวะ”

“ที่ไหนก็ได้อะว่ะ แต่เย็นนี้พวกกูจะออกไปกินข้าวกับปู่ ย่า แล้วก็พี่ชายไอ้คริสมันอะ มึงก็ไปด้วยกันดิ”

“เออ ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวกูจะได้บอกไอ้แม็ทมันว่าให้มารับไอ้พวกนี้กลับไปส่งด้วย แต่กูจะนอนนี่”

ผมล่ะชื่นชมความสามารถในการเปลี่ยนเรื่องคุยของวายุจริงๆ นี่ขนาดตอนแรกเจย์ตั้งท่าสงสัยและดูเหมือนอยากจะถามเรื่องที่ผมกับวายุคุยกันเมื่อกี๊เต็มที่เลยนะเนี่ย แต่สุดท้ายเขาก็สามารถหันเหความสนใจของเจย์ไปเป็นเรื่องอื่นได้จนได้

“แล้วไอ้เคนล่ะ”

“มันบอกมันไม่นอนไม่ใช่เหรอวะ”

“ไรวะ มึงก็นอนๆกันให้หมดนั่นแหละ เดี๋ยวกูลากมันให้นอนด้วยเอง อยู่กันหลายๆคน สนุกดีออก สาดดดด”

“เอาเว้ย มึงเจ้าบ้านนี่หว่า มึงก็ลองถามมันดูแล้วกัน และไอ้นัทกะไอ้ตี๋ล่ะ” เจย์ถาม

“กูก็อยากให้ไอ้ตี๋นอนนะเว้ย สงสารมันอะว่ะ แถมยิ่ง......”

“ยิ่งอะไรวะ” เจย์สงสัย

“เปล่า ไม่มีไร กูก็แค่คิดถึงว่ายิ่งไม่อยากให้มันอยู่คนเดียวมากๆอะดิวะ” วายุเลี่ยงตอบได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็หันมาหาผม “แล้วมึงอะ ไอ้นนท์ จะนอนด้วยกันป่าว”

“เฮ้ยย ไม่ได้หรอก กูไม่ได้ขอแม่อะ” ผมตอบ แต่ในใจผมก็แอบรู้สึกสนใจอยู่เหมือนกัน เพราะเมื่อครั้งที่เรามานอนบ้านของวายุด้วยกันตอนนั้นมันก็สนุกมากจริงๆ “และอีกอย่าง กูมีไอ้โจอยู่บ้านอีกอะ กูจะทิ้งมันให้อยู่บ้านแต่ตัวกูไม่อยู่ได้ไงวะ”

“ภาระชิบหายเลย ไอ้ห่านั่น” เจย์ถอนหายใจเบาๆ

“และนัทก็คงไม่ได้นอนเหมือนกันใช่ปะล่ะ เพราะงั้น.......”

“ถุ๊ยยยยยยย!!” วายุยกขาขึ้นถีบผม

“สาดดดด ไอ้ควายยยยยยย!! หมั่นไว้จริงเว้ย!!” เจย์ผลักหัวผมเบาๆจนผมแทบจะตกจากโซฟา

“ไม่ใช่เว้ยยยย กูหมายถึงว่า ถ้าพวกมึงนอนกันหมด นัทก็จะเป็นคนเดียวที่ไม่ได้นอนด้วยอะดิ กูก็เลยจะไม่นอนเป็นเพื่อนไง นัทจะได้ไม่เหงาอะ”

“ไม่ได้ฟังให้น่าชวนอ้วกน้อยลงเล้ยยย สาดดดดดด” วายุส่ายหัวเบาๆพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเดินออกไป

“เฮ้ย แล้วมึงไปไหนวะน่ะ” เจย์ถาม

“ก็ช่วยพวกมันทำกับข้าวต่อน่ะสิวะ มึงนั่งรอไปเหอะ ไอ้หมีควาย แต่มึงอะ มาช่วยพวกกูเลย ไอ้นนท์ จะได้เสร็จไวๆ ช่วยเหี้ยไรไม่ได้ก็ไปยืนให้กำลังใจแฟนมึงก็ยังดี เร็ว”

หลังจากนั้นพักใหญ่ๆ พิซซ่าที่พวกเราโทรสั่งไปก็มาถึงพร้อมๆกับอาหารที่นัทเป็นหัวแรงทำเสร็จ เราสั่งพิซซ่าถาดใหญ่ไปหนึ่งถาด ไก่สิบสองชิ้น ขนมปังกระเทียม เป๊ปซี่อีกหนึ่งขวด ส่วนอาหารที่นัททำเพิ่มก็มีผัดสปาเก็ตตี้จานใหญ่ สลัดผัก แล้วก็ซุปหัวหอมอีกหนึ่งหม้อ พวกเราทุกคนจึงอิ่มอร่อยกับอาหารมื้อนี้กันอย่างสุดๆ รวมทั้งอารมณ์ของคริสกับตี๋เล็กที่ก็ดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้นนิดหน่อยแล้วด้วยเหมือนกัน

แต่น่าเสียดายที่เวลาแห่งความสุขนั้นมักจะอยู่ได้ไม่ยาวนานจริงๆ.......

“ตกลงว่ามึงมีอะไรจะพูด ไอ้ยุ แดกกันจนเสร็จและ มึงบอกกูมาได้แล้วเว้ย” เจย์เริ่มเปิดประเด็นขึ้น

วายุหันขวับมามองหน้าผมทันที

“มีเรื่องอะไรวะ ไอ้ยุ” นัทถาม “แล้วนี่นนท์ก็รู้อยู่แล้วด้วยเหรอ”

“คือว่า.......” วายุสูดลมหายใจลึกๆก่อนครั้งหนึ่ง “จะยังไม่เล่าก็คงไม่ได้อยู่ดีสินะ เพราะถึงไงพวกเราก็ไม่เคยมีเรื่องปิดบังอะไรกันอยู่แล้วนี่หว่า”

ทุกคนนั่งเงียบรอฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูดกันอย่างตั้งใจ

“คือเมื่อกี๊ตอนกำลังจะเริ่มทำสปาเก็ตตี้อะ กูกับไอ้นนท์ได้รับโทรศัพท์กันทั้งคู่ พวกมึงก็เห็นใช่ปะล่ะ เอาแบบสรุปๆเลยนะ เรื่องของเรื่องก็คือว่า ไอ้โจมันโทรมาบอกไอ้นนท์ว่ามันเห็นไอ้ป๊อปเดินอยู่กับผู้หญิงคนนึง แล้วกูก็เลยโทรไปเช็คกับมันดู ก็ปรากฎว่ามันเดินอยู่กับคนๆนั้นจริงๆ”

“แล้วไอ้คนๆนั้นนี่มึงหมายถึง.......”

“ใช่ ไอ้เคน กูหมายถึงแอร์นั่นแหละ”

พวกเราเงียบกันลงไปอีกครู่หนึ่ง และสายตาของพวกเราทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ตี๋เล็กที่กำลังนั่งก้มหน้ามองจานเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้าอยู่

“แล้วนี่มันบอกมึงเลยเหรอวะว่ามันไปกับแอร์อะ” เจย์ถามขึ้น

“ก็ประมาณนั้นอะว่ะ แต่กูรับปากมันไปว่ากูจะไม่บอกพวกมึงนะ มันถึงได้ยอมรับออกมาได้น่ะ เพราะงั้นพวกมึงรู้ใช่มั๊ยว่าต้องทำและต้องไม่ทำอะไรบ้างน่ะ”

“นี่ตกลงมันเป็นแฟนกันแล้วจริงๆป่าววะเนี่ย” เคนตั้งคำถาม

“ใครจะรู้วะ แต่กูว่ามันก็คงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้เป็นแบบนั้นล่ะมั๊ง”

“เฮ้ย ไอ้เจย์........” นัทปราม

“เฮ้ยยๆ ไอ้ตี๋ ขอโทษทีเว้ย กูไม่ได้ตั้งใจจะ..... คืออ......”

“ไม่เป็นไร ไอ้เจย์ กูไม่ได้คิดไรแล้วว่ะ.......” ตี๋เล็กตอบเสียงอ่อยๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อมองหน้าพวกเราทุกคน “กูขอบใจพวกมึงจริงๆนะเว้ย กูพูดจริงๆ เพราะงั้นวันนี้กูก็ขอบอกพวกมึงเอาไว้อย่างนึงเลยก็แล้วกัน......” เขาเว้นช่วงเล็กน้อย “มันก็จริงที่กูยังทำใจไม่ได้หรอก กูเจ็บปวดว่ะ บอกตรงๆ ยิ่งพอรู้ว่ามันกำลังพยายามที่จะตีตัวออกห่างจากกูด้วยการไปมีแฟนแบบนั้น กูก็ยิ่งเจ็บ กูจะไม่โกหกพวกมึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ วันนี้ กูรู้แล้วว่าพวกมึงเป็นห่วงกูมากแค่ไหน กูเห็นพวกมึงพยายามทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อกู กูก็ดีใจมากจริงๆนะเว้ยที่มีพวกมึงเป็นเพื่อนอะ พวกมึงไม่เคยทิ้งกูเลย เพราะงั้น กูสัญญากับพวกมึงเว้ย ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กูจะพยายามทำตัวให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้พวกมึงต้องเป็นห่วงหรือไม่สบายใจเรื่องของกูอีก กูจะพยายาม...... กูจะพยายามลืมเรื่องของมัน แล้วเดินต่อไปข้างหน้าพร้อมๆกับพวกมึง........” เขาจบประโยคด้วยเสียงที่สั่นเครือและน้ำตาที่เริ่มคลออยู่ที่ขอบตา

“ไอ้ตี๋เว้ยยยยย มึงอย่าคิดมากขนาดนั้นดิวะะะะะ” เจย์ที่นั่งอยู่ข้างๆตี๋เล็กดึงตัวเพื่อนของเขาเข้ามาโอบ “พวกกูไม่สบายใจเรื่องของมึงก็จริง แต่พวกกูก็พร้อมจะรอจนกว่ามึงจะพร้อมนะเว้ย พวกกูไม่มีใครเดินนำหน้ามึงไปแล้วทิ้งมึงไว้ข้างหลังหรอกน่า”

“แต่กูก็ดีใจนะเว้ย ไอ้ตี๋ ที่มึงคิดได้แบบนั้นอะ” นัทพูด

“แล้วมึงล่ะ ไอ้คริส” วายุหันไปถามคริสที่นั่งอยู่ข้างๆ

“กูก็เหมือนกัน........” คริสตอบ “บอกตรงๆว่าเรื่องเมื่อคืนมันเหมือนกูถูกตบหน้าเลยว่ะ กูรู้สึกเหมือนกูโดนความจริงหรืออะไรบางอย่างตบหน้ากูอย่างแรงจนกูชาไปหมด กูยังคงเสียใจอยู่นะเว้ย แต่กูก็แทบไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแบบนั้นแล้วอะ จนวันนี้ที่กูได้เจอหน้าพวกมึง และอยู่กับพวกมึงนี่แหละ กูถึงได้รู้ว่าคนที่ยอมรับกูได้ และไม่เคยทิ้งกูไปไหน ก็ยังคงอยู่กับกูตลอดเวลา”

“เฮ้ยๆ มึงจะร้องไห้อีกคนมั๊ยวะเนี่ย ไอ้คริส”

คริสสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ว่ะ เคน กูไม่อยากร้องแล้ว กูร้องไห้เมื่อคืนไปจนหมดแล้ว กูเองก็ไม่อยากทำให้พวกมึงไม่สบายใจเหมือนที่ไอ้ตี๋พูดเหมือนกันนั่นแหละ”

“มันต้องแบบนี้สิวะ เพื่อนกู” วายุยิ้มกว้างพร้อมกับโอบไหล่ของคริส จากนั้นเขาก็หันมามองพวกเราทุกคน “ในชีวิตกูอะ มีเรื่องที่กูไม่เคยนึกเสียใจหรือรู้สึกผิดหวังกับมันเลยอยู่สองเรื่องนะเว้ย เรื่องแรกก็คือเรื่องครอบครัวของกู ก็เรื่องพ่อเล็กกับปะป๊านั่นแหละ ส่วนอีกเรื่อง ก็คือการที่กูโชคดีได้เจอกับพวกมึงและมีพวกมึงทุกคนเป็นเพื่อนนี่แหละ”

“มึงพูดแบบนั้นไม่ถูกนะเว้ย ไอ้นัท” เจย์แย้ง “มึงต้องพูดว่า ‘พวกเรา’ ต่างหาก ถึงจะถูก” เขาหยิบแก้วเป๊ปซี่ของเขาชูขึ้นกลางวง “จริงมั๊ยวะ”

เคนเป็นคนที่สองที่หยิบแก้วของตัวเองขึ้น และจากนั้นพวกเราทุกคนก็ทำเหมือนๆกัน

“เป๊ปซี่แก้วนี้ เพื่อคำว่า ‘เพื่อน’ ของพวกเราไม่ว่าจะจากนี้และตลอดไปเว้ย” เมื่อสิ้นเสียงของเจย์ เสียงแก้วหลายใบที่กระทบกันก็ดังไปทั่วทั้งห้อง

“แหมเว้ย วันนี้แม่งซึ้งสาดดดดดดดดด” วายุหัวเราะ “ไหนๆก็บรรยากาศดีแบบนี้แล้ว สรุปว่าวันนี้พวกมึงนอนบ้านกูกันนะเว้ย โอเค๊”

“โอเคๆ นอนก็ด้ะวะ” เคนยักไหล่

“แล้วมึงล่ะ ไอ้ตี๋ ไอ้นัท”

ตี๋เล็กทำท่าคิดครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและพยักหน้าออกมาเบาๆ “แต่กูต้องโทรบอกแม่กูก่อนนะเว้ย”

“แล้วมึงล่ะไอ้นัท”

นัทสบตาผมแล้วยิ้ม “ถ้านนท์ขอแม่ได้ กูก็นอนเหมือนกัน”

คราวนี้ทุกคนก็หันมามองผมเป็นตาเดียวกันทันที เอาล่ะสิ.......

“เฮ้ยยย อย่ามองกูแบบนั้นดิวะ” ผมออกตัว “แบบนี้ถึงแม่กูไม่ให้ กูก็จะนอนให้ได้ล่ะวะ สาดดดดด”

พอผมพูดจบ ทุกคนก็เฮออกมาเสียงดังทันที ดูท่าทางคืนนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งคืนที่ดีและน่าจดจำสำหรับพวกเราไปอีกนานเช่นกัน ผมชักเริ่มรู้สึกตื่นเต้นซะแล้วสิ

O_o

  • บุคคลทั่วไป
มาทันจิ้มพี่ต้นด้วย 555

แต่ยังมะได้อ่าน

อ่านจบแล้ววว

สงสารตี๋จังอะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย
แต่อย่างน้อยตี๋ก็ได้รู้ว่ามีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2010 23:11:40 โดย O_o »

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
คำว่า ''เพื่อน'' เกินบรรยายจริงๆ :pig4:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ..........สู้ๆนะคะเด็กๆ ชีวิตยังอีกยาวไกล
ดีใจแทนด้วยที่มีเพื่อนที่ดี ^_______________^

ปล.คุณต้นคะ ตรงนี้ “มึงพูดแบบนั้นไม่ถูกนะเว้ย ไอ้นัท” เจย์แย้ง  (น่าจะเป็น "......นะเว้ย ไอ้ยุ" รึเปล่าคะ?)

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

มาต่อละๆ
อืม... นนท์ นอนให้ "ได้" นะ

ขอบคุณและจะติดตามครับ

neo1of9

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว นนท์นอน แล้วโจทำไงล่ะ

กองเชียร์โจลำบากใจน๊าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dekba428

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพื่อน...คำนี้มันช่างดีจริงๆเนอะ o13
ถ้าชีวิตจริงมีอย่างนี้มั้งก็ดีดิ o7

~•SAkurAIro•~

  • บุคคลทั่วไป
โหยยย ซึ้ง
ดีแล้วที่มีเพื่อนที่ดีกันแบบนี้
ขอให้มิตรภาพมั่นคงยืนนาน

นนท์มานอนด้วยงี้ เรื่องโจจะเคลียร์เมื่อไหร่ิอ่ะะะ

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
มีเพื่อนมันก็ดีแบบนี้แหละเนอะ

สรุปแล้วป๊อปจะเล่นแบบนี้หรอ ถ้าไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องไปคบใครประชดเลยนี่หน่า น่าจะสับสนในตัวเองจริงๆนั่นแหละ

ส่วนโจนี่ไม่ไหวเลยนะ ขาขึ้นได้ไม่นานก็ขาลงอีกแล้ว หึหึ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
นนท์จะโทรเรียกโจมาด้วยหรือเปล่านะ   ลุ้น   อิอิ

beboy

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจากตอน ที่ 101 นี้แล้ว  สงสัยน้องโจจะต้องพยายามกว่าเดิมอีกหลายเท่านัก

เชียร์ให้ตี๋เล็กมีคนอื่นแทนป๊อบไปเลย

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
มิตรภาพของเพื่อน บริสุทธิ์เสมอครับ

tantalize

  • บุคคลทั่วไป
เซ็ง..........ไอโจ ไมไ่ด้ดังใจ  :serius2:

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
ประทับใจเพื่อนกลุ่มนี้จริงๆ
ให้เรื่องชิวๆ ไม่ต้องประสาทกับโจพลอยซักตอนสองตอนเนอะๆ ^^

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
ยังไง  ก็รักโจ คนเดี่ยว 

ออฟไลน์ fiixtion

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตอนหน้าขอ แบบมีเรท หน่อยได้มั้ย  :really2: :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






morrian

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อนรัก รักกันกลมเกลียวดีเหลือเกิน  :กอด1:

รอโจอยู่นะคับ  :z2:

ออฟไลน์ Lacus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ฮ่าาาา....

อ่านเรื่องนี้แล้วเพลีย....  เลือกเชียร์ไม่ถูกคน...



 :really2:

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ลูกโจไหงทำยังงี้อะ

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
หวานซ๊าา .
อยากให้นนท์ขอแม่ได้ละกันน๊ออ ;

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
มารอนัทนอนกับนนท์ :z1:

maras_fay

  • บุคคลทั่วไป
กลางวันอยู่กับนัท กลางคืนต้องนอนกับโจ

เออ!!!! ใครได้เปรียบเสียเปรียบเนี่ย 5555

maras_fay

  • บุคคลทั่วไป
โหมด โจน่ารักนี่ เรียกคะแนนได้สุด ๆ  :o8:

ออฟไลน์ banana49

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เชียร์นัทเสมอนะคะ นัท นนท์ เท่านั้นค่ะ

ปล.แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ขอเป็น นัท โจ นะคะ 555+

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 102


“ทำไมมึงจะไม่กลับบ้านแล้วไม่บอกกูก่อน” โจแสดงความหงุดหงิดผ่านออกมาทางน้ำเสียงอย่างชัดเจน

“เออๆขอโทษ กูลืมบอกมึงเองอะ” ผมตอบ

“แล้วเรื่องเสื้อผ้าอะไรพวกนี้มึงจะเอายังไง ไหนจะหนังสือเรียนมึงอีก”

“เสื้อผ้าอะ กูคงใส่ของไอ้ยุเอาได้ แต่เรื่องหนังสือเรียนเนี่ย กูถึงได้โทรมาหามึงเพราะจะวานให้มึงช่วยเอาไปให้กูพรุ่งนี้ทีไง ตารางเรียนกูก็แปะไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือกูแล้ว มึงก็เห็นใช่ปะล่ะ”

“เออ! ครวยแม่ง สรุปกูมีประโยชน์แค่นี้ใช่มั๊ยวะ ทำเหี้ยไรไม่ต้องนึกถึงกูที่มานอนอยู่กับมึงเลย แต่พอจะใช้งานล่ะเสือกจะโทรหากู”

“เฮ้ยย ไอ้โจ นี่มึงจะโกรธเหี้ยอะไรนักหนาวะเนี่ย กูไม่เข้าใจ” ผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย “กูก็ขอโทษมึงแล้วไงที่ไม่ได้บอกมึงก่อนอะ แต่เอาจริงๆก็เหอะ ถ้าแค่กูจะนอนกับเพื่อนๆกูนี่กูต้องขออนุญาตมึงก่อนด้วยเหรอวะ และทีมึงยังไปเที่ยวกับพลอยได้ไม่เห็นบอกกูก่อนสักคำ”

“ใครบอกมึงว่ากูไปกับพลอย” โทนเสียงของเขาเปลี่ยนไปทันที

“แล้วมึงไปจริงรึเปล่าล่ะ มึงอย่ามาทำเสียงเหมือนมันไม่ใช่เรื่องจริง”

“ไอ้เชี่ยป๊อปบอกมึงเหรอวะ”

“ตกลงมึงจะยอมรับรึเปล่า”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “เออ กูไปกับพลอยจริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงวะ...... อ้อออ กูเข้าใจละ เพราะงี้มึงเลยจะเอาคืนกูด้วยการไปนอนบ้านไอ้ยุโดยไม่บอกกูงั้นดิ”

“เหี้ยและมึง ไร้สาระใหญ่แล้วไอ้โจ กูบอกแล้วไงว่ากูก็แค่ยังไม่ได้บอกมึง ไม่ได้หมายความว่าจะไม่บอกเลยสักหน่อย หรือมึงจะบอกให้กูขออนุญาตมึงก่อนขอแม่รึไงวะ หรือมึงจะบอกว่ากูจะทำอะไรกูก็ต้องบอกมึงก่อน ไม่ก็ขอมึงก่อนทุกครั้งเลยรึไง”

“เออ! กูผิดเองอะ ไอ้เหี้ย! ผิดทุกอย่าง ผิดที่เสือกไปชอบมึงด้วย!!” เขาคำราม

“มึงอย่าตะโกนใส่กู ไอ้โจ” ผมเองก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน “เดี๋ยวแม่กูก็ได้ยินหรอก มึงจะตะโกนทำเหี้ยอะไรวะ จะโมโหขนาดนั้นทำไมเนี่ย กูไม่เข้าใจเลย!”

“เออ มึงก็ไม่เข้าใจแหงล่ะ ไอ้สัตว์!”

“นี่ตกลงมึงจะต้องโกรธกูให้ได้เลยใช่มะ จะคุยกันดีๆไม่ได้เลยรึไง มึงเองก็ยังไม่บอกกูเลยนะว่าทำไมจู่ๆวันนี้มึงถึง.......” ผมยังพูดไม่ทันจะจบประโยค เขาก็ตัดสายทิ้งไปเสียก่อน

ผมนึกภาพเขาเหวี่ยงโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงด้วยความหงุดหงิดได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

“แม่งงงงง เหี้ยไรของมันวะเนี่ย!!” ผมสบถกับตัวเองเบาๆ

“เป็นไร ไอ้นนท์ หน้าเป็นตูด” วายุเดินเข้ามาหาผม “ตกลงไอ้โจมันจะเอาของไปให้มึงรึเปล่า พรุ่งนี้เช้าอะ”

“ไม่รู้แม่งเหมือนกันอะดิ” ผมถอนหายใจ

“อ้าว”

“เมื่อกี๊แม่งก็เพิ่งจะมาเหวี่ยงใส่กูเนี่ย บอกว่ากูไม่ยอมบอกมันก่อนว่าจะมานอนที่นี่ แล้วก็มาหาเรื่องทะเลาะกะกู ตะคอกใส่กู แม่งโคตรเอาแต่ใจชิบหายเลยว่ะ ไอ้เหี้ยนี้”

“กูก็กะแล้วเชียว”

“เออๆ ช่างมันเหอะ แล้วว่าแต่คนอื่นๆอะ อาบน้ำกันเสร็จรึยังวะ”

“ก็เวียนๆกันอยู่นั่นแหละ มึงก็ขึ้นไปนั่งบนห้องกูดิ ปะ” วายุชวน

พอหลังจากที่อาไคล์และอาพีกลับมาตอนราวๆสี่โมงกว่า พวกเราทุกคนก็ย้ายมานั่งเล่นกันอยู่ที่บ้านของวายุแทน เย็นนี้พวกเขาจะออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกบ้านพร้อมกับปู่ ย่า และพี่ชายของคริสด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราทุกคนก็ต้องไปกับเขาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นแม่ของวายุจึงเสนอให้พวกเราทุกคนทยอยกันไปอาบน้ำและแต่งตัวกันก่อนที่จะออกจากบ้าน ซึ่งนอกจากเจย์ที่เป็นคนเดียวที่เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนแล้ว พวกเราทุกคนต่างก็ต้องยืมเสื้อผ้าของคริสและวายุใส่กันทุกคน

“แล้วกางเกงในอะวะ ทำไงดีมึง” เคนถาม

“ก็ซักซะคืนนี้ดิวะ หรือตอนนอนมึงใส่กางเกงในนอนด้วยเหรอวะ ไอ้เคน” วายุถามกลับ “หรือไม่พรุ่งนี้เช้ามึงก็ไปเปลี่ยนที่หอได้อยู่ดีอะ ไม่เห็นยากเลย”

“อ้าวว แล้วกูล่ะ กูไม่มีหอเหมือนพวกมันอะ” ผมพูดขึ้น

“มึงถือป่าวล่ะ ไอ้นนท์ ถ้ามึงไม่ถือ มึงก็ใส่บ็อกเซอร์กูได้นะเว้ย” วายุบอก

“ไม่ถือๆว่ะ กูยังไงก็ได้ แต่เกรงใจมึงมากกว่าอะ”

“โอ๊ยย ไม่ต้องเกรงใจหรอก สาดด” เขาตอบพลางเปิดตู้เสื้อผ้าออก จากนั้นก็โยนกางเกงบ็อกเซอร์มาให้ผม “เอ้านี่ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วก็เปลี่ยนซะ”

ประตูห้องของวายุถูกเปิดออก จากนั้นนัทก็เดินเข้ามาในห้อง “เหลือใครยังไม่ได้อาบน้ำมั่งวะ”

“เหลือไอ้นนท์กะไอ้เคนสองคน”

“งั้นนนท์จะไปอาบน้ำต่อนัทเลยมั๊ย” นัทหันมาถามผม “หรือจะให้ไอ้เคนอาบก่อน”

“นนท์อาบเลยก็ได้” ผมตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป

ในห้องน้ำ ขณะที่สายน้ำอุ่นจากฝักบัวไหลตกกระทบลงบนร่างกายของผมอยู่นั้น ผมก็นึกย้อนไปถึงตอนที่ผมเพิ่งจะทะเลาะกับโจมาเมื่อครู่ นี่นับเป็นครั้งแรกที่ผมทะเลาะกับเขาแบบนั้นเลยจริงๆก็ว่าได้ มันก็ใช่ที่เราอาจจะเคยมีปากเสียงหรือขัดใจกันอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าครั้งไหนจะรุนแรงและดูเป็นการทะเลาะกันจริงๆเท่านี้มาก่อน และที่สำคัญ ผมก็ยังข้องใจอยู่ด้วยว่าตกลงพรุ่งนี้เขาจะเอาของไปให้ผมที่โรงเรียนมั๊ย ไม่ใช่เขาโกรธผมแล้วก็เลยจะไม่เอากระเป๋าไม่เอาหนังสือเรียนไปให้ผมล่ะ เพราะถ้าเกิดเขาทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมคงจะซวยตายโหง และผมก็คงจะต้องรู้สึกเสียอารมณ์กับเขามากกว่านี้อีกแน่ๆ

เมื่อล้างสบู่ออกจากร่างกายจนหมดแล้ว ผมก็เอื้อมมือไปปิดก๊อกน้ำพร้อมกับตัดสินใจว่าคืนนี้ผมจะต้องโทรไปย้ำกับเขาเรื่องนี้อีกครั้ง และถ้าเป็นไปได้ ก็จะต้องคุยและเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่องด้วยเหมือนกัน

ค่ำวันนั้น มื้อเย็นที่ร้านอาหารเป็นไปด้วยความสนุกสนานและร่าเริง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เกิดจากเด็กๆอย่างพวกเรานั่นเอง ปู่และย่าของคริสนั้นน่ารักกว่าที่ผมคิดไว้มากทีเดียว ผู้ใหญ่ทั้งสองเป็นกันเองและเอ็นดูพวกเรามาก ถึงแม้ว่าพวกเราจะเป็นแขกที่ไม่ได้ถูกรับเชิญตั้งแต่แรกก็ตาม ส่วนพี่ชายของคริสก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่ทั้งอบอุ่นและร่าเริงมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าพวกเราบางคนรวมทั้งผมด้วยจะมีปัญหาเรื่องของภาษาอยู่บ้าง แต่คนอื่นๆที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว รวมทั้งอาเมฆกับอาซันก็ช่วยเหลือพวกเราเป็นอย่างดี ทำให้เราไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนและแปลกแยกเลยแม้แต่นิดเดียว

พอพวกเราทุกคนกลับถึงบ้านของวายุอีกครั้งตอนประมาณสามทุ่ม เราก็ถูกแม่ของเขาไล่ให้ไปอาบน้ำกันอีกครั้ง ผมจึงถือโอกาสนี้แว้บออกจากห้องนอนของวายุและกดโทรศัพท์ไปหาโจอีกครั้งอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่แล้วผมก็ต้องแปลกใจที่เขากลับปิดเครื่องไป ผมลองโทรเข้าอีกเบอร์นึงของเขาที่เขาเคยให้ไว้ แต่ก็ยังคงโทรไม่ติดอีกเหมือนกัน เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ผมจึงต้องโทรเข้ามือถือของแม่แล้วขอคุยกับเขาแทน

“มึงปิดเครื่องทำไมวะ กูติดต่อมึงไม่ได้เลยเนี่ย” ผมพูดออกไปทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขาพูดฮัลโหล

“เรื่องของกู”

“มึงเป็นเหี้ยอะไรอีก ยังโกรธกูอยู่อีกรึไงวะ แม่งงงง”

“คิดเอาเองดิวะ”

“เออๆๆ ช่างแม่งก็ได้วะ กูไม่ได้โทรมาเพื่อจะทะเลาะกับมึงนะเว้ย กูจะบอกมึงว่ามึงอย่าลืมเอากระเป๋านักเรียนไปให้กูด้วยล่ะ ถ้ามึงไม่เอาไป กูตายเลยนะเว้ย โจ”

“เออ มีอะไรอีกรึเปล่า”

“มี” ผมตอบ “อีกเรื่องคือ กูอยากคุยกับมึงเรื่องวันนี้........ เรื่องพลอย”

“กูไม่อยากคุย แค่นี้นะ” เขาชิงตัดบทก่อนที่จะตัดสายไป....... อีกแล้ว

“เอ้า! อะไรวะ!” ผมสบถกับตัวเองเบาๆ

ตอนแรกผมก็คิดที่จะโทรกลับไปหาเขาอีกครั้งอยู่หรอกนะ แต่คิดไปคิดมา ผมว่าผมไม่ทำแบบนั้นน่าจะดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นแม่ก็อาจจะรู้สึกสงสัยซะเปล่าๆ แถมดูท่าทางแล้วโจเองก็คงไม่ได้อยากจะคุยกับผมอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน ผมคิดว่าเอาไว้ผมค่อยคุยกับเขาอีกทีวันพรุ่งนี้ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะถึงยังไงเราสองคนก็นอนอยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้วนี่นะ

“เฮ้ย ไอ้นนท์ ยืนทำอะไรอยู่วะ” เสียงของวายุดังขึ้น “มึงมาช่วยกูขนฟูก ขนผ้าห่ม กับหมอนพวกนี้ไปข้างล่าง เร็ว”

“อ้าว ขนไปไหนวะ” ผมถามพลางเดินเข้าไปช่วยเขารับผ้าห่มที่เขาแบกอยู่มากอดเอาไว้ในวงแขน

“ไปข้างล่าง ห้องอ่านหนังสืออะ เนื้อที่มันกว้างกว่าห้องกูไง จะได้นอนกันได้สบายๆทุกคน” เขาตอบก่อนจะหันมายิ้มให้กับผม จากนั้นก็เดินนำผมลงบันไดไปยังชั้นล่าง “หรือมึงอยากนอนกับไอ้นัทสองคนในห้องกูมั๊ยวะ”

ผมหน้าแดง “ครวยยยย คิดอะไรของมึงเนี่ย ไม่ต้องๆเลย กูอยากนอนกับพวกมึงทุกคนมากกว่าว่ะ”

“เออ ดีแล้ว เพราะกูลองขอแม่กูแล้วเหมือนกัน แม่กูเค้าก็ไม่ให้ว่ะ เค้าบอกมันไม่เหมาะ”

ผมรู้สึกขัดเขินนิดหน่อยที่เขาเอาเรื่องนี้ไปพูดกับผู้ใหญ่คนอื่น “มึง.... มึงบอกแม่มึงด้วยเหรอวะ”

“ไม่ได้บอกเหี้ยไรเลย แค่ถามแม่เฉยๆว่าจะให้ไอ้นัทกะมึงอะ นอนที่ห้องได้มั๊ย ส่วนพวกกูที่เหลือไปนอนข้างล่างกัน แต่แม่ไม่ให้อะ” เขาตอบก่อนจะมองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “แต่ตกลงมึงสองคนมีไรกันแล้วจริงๆใช่ป่าววะ”

“ไม่รู้เว้ย!!” ผมยิ่งหน้าแดงหนักกว่าเดิมซะอีก “มึงไปถามนัทเอาเอง กูจะไม่พูดเรื่องพวกนี้กับพวกมึงเด็ดขาด สาดดดด! ไม่มีทาง!”

สรุปว่าพอตกกลางคืน พวกเราทุกคนก็มานอนกองรวมกันอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือ ที่ๆพวกเราเคยมานั่งเล่นกันเมื่อตอนก่อนที่จะไปบ้านของอาซันกับอาไคล์เมื่อครั้งที่แล้ว โดยแน่นอนว่าผมกับนัทถูกจับให้นอนอยู่ด้วยกันที่มุมสุดของห้อง และถึงแม้ว่าเราจะได้พื้นที่เล็กๆเป็นส่วนตัว แต่เราก็ต้องหักห้ามใจและพยายามควบคุมตัวเองที่จะไม่สัมผัสกันและกัน หรือนอนกอดกันอย่างเปิดเผยมากจนเกินไปนัก จนกระทั่งหลังจากที่พวกเราทุกคนเริ่มเหนื่อยจากการแย่งกันพูดจนไม่มีอะไรจะคุยกันอีกต่อไปแล้ว ผมกับนัทก็นอนหลับลงไปโดยที่มือของเราต่างก็กุมกันเอาไว้อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น บ้านของวายุก็เกิดความโกลาหลขึ้นเล็กน้อย เมื่อห้องน้ำมีเพียงแค่สองห้อง แต่จำนวนสมาชิกในบ้านนั้นกลับเพิ่มขึ้นมาอีกถึงหกคน ดังนั้น ผม นัท และคริส จึงกลับไปอาบน้ำที่คอนโดของอาไคล์ ส่วนวายุ เจย์ และเคน ก็อาบน้ำแต่งตัวที่บ้านหลังใหญ่กันไป และหลังจากที่พวกเราทุกคนอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว อาไคล์กับพ่อกอล์ฟของวายุก็ขับรถไปส่งพวกเราที่โรงเรียน พวกเรายังถูกอากอล์ฟแซวเลยว่าสองวันมานี้อาเขาเหมือนเปลี่ยนอาชีพมาเป็นครูโรงเรียนอนุบาลที่ต้องคอยรับมือและดูแลบรรดาเด็กโข่งถึงเจ็ดคนด้วยกัน

เมื่อไปถึงที่โรงเรียน ทุกคนต่างก็รีบกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเองเพื่อจัดการสัมภาระและหนังสือเรียนของตัวเองใหม่ให้เรียบร้อย และจากนั้นเราก็ลงมานั่งกันที่โรงอาหารเหมือนเดิม ผมนั่งรอโจด้วยความรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่ไม่นานนัก เขาก็เดินเข้ามาหาพวกเราพร้อมด้วยประเป๋านักเรียนของผมในมือ

“ขอบใจมาก ไอ้โจ” ผมพูดกับเขาหลังจากเขาวางกระเป๋าของผมลงบนโต๊ะแล้ว

“เออ” เขาตอบสั้นๆแต่เพียงแค่นั้น และหลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยจนกระทั่งเราไปเข้าแถวและแยกย้ายกันขึ้นห้องเรียน

เรื่องของโจนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่ผมจะต้องไปเคลียร์กับเขาทีหลังที่บ้าน แต่เรื่องของป๊อปนี่สิที่เป็นปัญหาใหญ่กว่า เพราะผมรู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างเขากับตี๋เล็กนั้นดูจะแย่ลงไปอีกแล้ว และที่สำคัญ ผมยังรู้สึกว่าเขากำลังเริ่มที่จะตีตัวออกห่างจากพวกเราไปด้วยเหมือนกัน เพราะอย่างตอนกลางวันเขาก็ไม่ยอมมากินข้าวกับพวกเรา แต่กลับไปกับเพื่อนคนอื่นแทน และพอตอนเย็น เขาก็ไม่มานั่งคุยกับพวกเราเหมือนเดิม แต่อ้างว่าต้องไปชมรมแล้วก็หายตัวไปเลยทันที

“เฮ้ย กูถามจริง นี่พวกมึงมีใครได้ไปพูดอะไรกับไอ้ป๊อปเรื่องที่มันไปกับแอร์เมื่อวานรึเปล่าวะ” วายุถามขึ้นขณะที่เรากำลังนั่งรอคนมารับกลับบ้านกันอยู่

“ม่ายยยย” พวกเราทุกคนส่ายหน้า

“งั้นตกลงแล้วนี่มันเป็นเหี้ยอะไรของมันวะ”

“กูว่า.......” ผมพูดขึ้น “บางทีอาจจะเพราะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้นเลยก็เป็นได้นะเว้ย”

ทุกคนหันมามองหน้าผมทันที

“คือสมมติว่าถ้ากูเป็นไอ้ป๊อปอะ กูก็คงคาดหวังให้พวกมึงถามอะไรกูบ้างอะว่ะ ไม่ใช่ไม่ถามอะไรเลยแบบนี้ ถึงแม้มันจะบอกไอ้ยุว่าไม่ให้บอกใครก็เหอะ แต่ถ้าไอ้ยุไม่ได้บอกใครเลยจริงๆแล้วล่ะก็ ปกติแล้วพวกเราก็ต้องถามอะไรมันมั่งอะ จริงมั๊ยวะ แต่นี่พวกเรากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย มันก็เลยอาจจะคิดแล้วก็ได้อะว่าไอ้ยุบอกเรื่องนั้นกับพวกเราแล้ว และพวกเราก็จงใจปิดปากเงียบกันเอง” ผมอธิบาย

“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก” ตี๋เล็กพูดขึ้นบ้าง “เวลาพวกเราคุยกันเรื่องเมื่อคืนอะ ไอ้ป๊อปมันก็คงรู้สึกน้อยใจๆเหมือนกันแหละ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับพวกเราเลย”

“แต่มันเป็นคนที่ตัดสินใจไม่ไปบ้านไอ้ยุเองนะเว้ย”

“ไม่เกี่ยวหรอกว่ะ ไอ้เคน เพราะพวกเราก็ไม่ได้บอกมันแต่แรกว่าจะนอนค้างด้วยนี่หว่า จริงมั๊ยล่ะ”

“สรุปคือมันงอนพวกเรางั้นดิ ใช่มะ ไอ้ตี๋” เจย์ถาม

“กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่ก็อาจจะอย่างนั้นมั๊ง......”

“เออ ว่าแต่ไอ้โจไปไหนวะ นนท์ ทำไมมันไม่มารอพี่โก๋มารับพร้อมมึง รึมันไม่ได้นอนบ้านมึงแล้ว” เคนหันมาถามผม

“นอนๆ แต่กูก็ไม่รู้มันไปไหนเหมือนกันว่ะ ตอนเลิกเรียนมันก็แค่บอกกูว่าพอพี่โก๋มาถึงแล้วให้โทรไปตามมันแค่นั้นเอง”

“เออนี่ กูก็ลืมถามมึงสองคนไปซะสนิทเลยว่ะ ไอ้ยุ ไอ้นนท์” เจย์พูดขึ้น “กูว่ากูสงสัยมาตั้งแต่เมื่อวานละ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถามสักที ลืมตลอด”

“อะไรวะ ไอ้เจย์”

“ก็ที่มึงบอกพวกกูว่ามึงสองคนได้รับโทรศัพท์จากไอ้ป๊อปกับไอ้โจใช่ปะล่ะ แต่มึงบอกแค่ว่าไอ้โจมันโทรมาบอกไอ้นนท์ว่ามันเห็นไอ้ป๊อปเดินกับผู้หญิงคนนึงแค่นั้น แล้วไอ้ป๊อปอะ มันโทรมาหามึงทำไม ไอ้ยุ”

ผมสะอึกขึ้นเล็กน้อยทันที

“อ่อออ เรื่องนั้น......” วายุหันมาสบตากับผมเล็กน้อย

“มันโทรมาบอกไอ้ยุว่ามันก็เห็นไอ้โจเดินกับผู้หญิงคนนึงเหมือนกันอะว่ะ” ผมเป็นฝ่ายตอบแทน

“ใครวะ”

“น่าจะเป็นพลอย แฟนเก่ามันอะนะ”

“แล้วทำไมไม่เห็นนนท์เล่าเรื่องนี้ให้นัทฟังเลยวะ” นัทพูดกับผม

“นนท์ก็ลืมเหมือนกันอะดิ แล้วอีกอย่าง นนท์ก็ไม่รู้จะเล่าอะไรด้วยอะ เพราะนนท์เองก็ยังไม่ได้คุยกับไอ้โจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่จะว่าไป มันก็ไม่ใช่เรื่องของนนท์ที่จะต้องไปคุยกับมันอยู่แล้วด้วยอะนะ เพราะจริงๆมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกะนนท์สักหน่อย”

“แน่ใจนะ ที่พูดมาอะ ไอ้นนท์” วายุถามขึ้น

ผมผงะเพราะแววตาของเขาไปเล็กน้อย “เออ ก็กูคิดว่างั้นอะว่ะ........”

ถึงผมจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ที่จริงแล้วผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์เสียทีเดียวหรอก ถึงผมจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของผมจริงๆ และถึงผมจะไม่ได้อยากรู้เรื่องของเขากับพลอยมากถึงขนาดนั้น แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมไม่ได้อยากจะคุยเรื่องนี้กับโจเลย เพราะอย่างน้อยๆผมก็คิดว่า การที่เขายังคงโมโหผมอยู่แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เราต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างแน่นอน

แต่ปัญหาคือผมจะเริ่มยังไงดีต่างหาก

ตั้งแต่ขึ้นรถจนกลับถึงบ้าน ผมก็แทบไม่ได้คุยกับโจเลย ปกติเขาก็พูดน้อยอยู่แล้ว นี่พอเขาโกรธผมแบบนี้ เวลาผมพูดอะไรไปมันก็ยิ่งกลายเป็นการถามคำตอบคำมากขึ้นไปอีก เวลาผ่านไปจนกระทั่งพวกเรากินข้าวเย็น และผมทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ผมที่อยากจะให้เขาหายโกรธ แล้วก็อยากจะคุยเรื่องของพลอยด้วยสักที ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วจริงๆนอกจากเดินออกจากห้องของตัวเองแล้วไปเคาะลงบนประตูห้องของเขาเอาดื้อๆ

“ไอ้โจ ทำไรอยู่ป่าววะ เปิดประตูหน่อย”

ไม่นานหลังจากที่ผมพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออก และผมก็ต้องผงะไปนิดหน่อยที่เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรอยู่เลยนอกจากกางเกงในสีขาวแค่ตัวเดียว

“มีอะไร”

“กูอยากคุยกับมึง....... เรื่องเมื่อวาน”

“จะคุยอะไร กูไปสยามกับพลอย มึงไปนอนกับไอ้นัทที่บ้านไอ้ยุ มันก็แค่นั้น”

“ก็เพราะงั้นไง กูถึงได้......”

“ถึงได้อะไร มึงอยากรู้เรื่องของกูกับพลอยงั้นสิ” เขาสวนกลับ “ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกับกูเลย ไม่ได้สนใจเหี้ยอะไรเลย มึงจะถามกูทำไมวะ”

“อะ เอ่ออ เรื่องนั้นมันก็.........” ผมไม่รู้จะตอบเขาออกไปยังไงดี และสุดท้ายอะไรบางอย่างในหัวของผมก็ทำให้ผมหลุดพูดบางสิ่งออกไปโดยที่ผมไม่ทันได้คิด “คืนนี้มึงจะไปนอนกับกูที่ห้องมั๊ย โจ”

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
แอร๊ยยยยยยยย
ชวนกันไปหลับนอน...เอ๊ย นอนหลับ
 :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด