]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1710527 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ryuse

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
Oh My God!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

แรงได้อีก เข้มข้นขึ้นทุกที สงสารคริสสุดๆแล้วตอนนี้

เป็นไงเป็นกันอ่ะ คนมีประสบการณ์อย่างพีน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ

มาต่อเร็วๆนะครับ ใจจดใจจ่อจนจะไม่ทำงานแล้วเนี่ย เอิ๊กๆ

1582

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
หวังว่าคริสจะพบกับทางออกที่ดีนะครับ รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนหน้าน่าจะราวๆวันพุธไม่ก็พฤหัสนะครับ ^^

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 914
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ตอนหน้า ตอนสุดท้ายของเรื่องราวของคริสครับ แต่จะผ่านมุมมองของใครนั้น ต้องรอดูกันอีกที ^^
และหลังจากนั้น เตรียมอ่าน b ของโจกันบ้าง แล้วค่อยกลับสู้ตอนปกติกันนะครับ

 :3123:



ในที่สุด b ของน้องโจก็จะมาแล้ว
พ่อยกแม่ยกน้องโจเตรียมพวงมาลัยมาคล้องคอได้แล้ว

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
เครียดเลยเครียด
พ่อแม่คริสเมื่อไหร่ท่านจะรู้
ซะทีว่าจริงๆแล้วคริสต้องการ
อะไร

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออออออ
ทีนี้จะทำยังไงเนี่ย??
คิดไว้แล้วว่าพ่อแม่คริสต้องโทษเพื่อนชัวร์
หวังว่าอาไคล์และอาพีคงจะทำให้อะไรๆ ดีขึ้นนะครับ
ถ้าเป็นไปได้
ตอนหน้าเอาเป็นมุมมองของ "อาไคล์" น่าจะโอเคสุด
ห้าๆๆๆๆๆๆ แต่ดูแล้ว
พี่ต้นไม่น่าจะให้อ่านอย่างงั้นแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
 เตรียมคล้องน้องโจ  :mc4:


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เฮ้อ ปัญหาแบบของคริสเนี่ย สงสัยต้องรอให้พ่อกับแม่เย็นลงกว่าซะก่อน แต่จะรอนานแค่ไหน  :m17:

โจ จะมาแล้ว  :mc4:

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เหนื่อยใจนะคริส   แต่ก็ต้องอดทนต่อไป

ป้ารออ่านตอนของลูกโจ   อิอิ

ออฟไลน์ ~prince™~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +161/-2

mole eye man

  • บุคคลทั่วไป
มุมมองหม่อมแม่?

คงไม่ใช่หรอกมั้ง  แต่แหม  ดราม่าโหดแบบนี้แอบอยากอ่านมุมมองผู้ใหญ่เหมือนกันนะเอ้อ  น่าจะเครียดดี 

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

มาลงชื่อว่าอ่านแล้ว

ขอบคุณและจะติดตามครับ

okotba

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็กลัวซักวันนึง ...เป็นแบบคริสแล้วจะเป็นยังไง?

จะไปสารภาพตรงๆ ก็ไม่กล้าอ่ะ ...กลัวไปหมด

รู้สึกเห็นใจคริสเหมือนกัน...

 :m15:

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
น่าเห็นใจ คริส มากเลยอ่าา
คุณแม่ กะ คุณพ่อ อย่าว่าคริสเลยนะ
คริสก็คงไม่อยากทำให้ พ่อแม่ เสียใจหรอก
เข้าใจ คริส หน่อยเหอะ

ปอลอ. คุณคนแต่งก็นะ อย่าโหดเกินไปเลย คนอ่านเศร้าใจ

 :3123:

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
น่าเห็นใจ คริส มากเลยอ่าา
คุณแม่ กะ คุณพ่อ อย่าว่าคริสเลยนะ
คริสก็คงไม่อยากทำให้ พ่อแม่ เสียใจหรอก
เข้าใจ คริส หน่อยเหอะ

ปอลอ. คุณคนแต่งก็นะ อย่าโหดเกินไปเลย คนอ่านเศร้าแทน

 :3123:

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
^

^

โทดทีค้าบบ โพสเกินอ่าา
ขอประทานอภัย :monkeysad:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

cmos

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
เชื่อว่า...เรื่องความรักแบบนี้ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละบุคคลมากกว่านะครับ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
b31


ไคล์


“ได้ครับ เดี๋ยวผมก็กำลังจะถึงแล้วเหมือนกัน คุณพายุไปส่งที่บ้านก่อนเถอะ....... ใช่ บ้านของซันกับศิลานั่นแหละ อื้อ ผมคุยกับศิลากับพี่กอล์ฟแล้ว....... อื้มม ไม่มีปัญหาหรอกครับ เดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องตรงนี้ให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ.......” ผมพูดกับพีทางโทรศัพท์ “อ้อ พี คุณเองก็อย่าคิดมากนะครับ แล้วเดี๋ยวเรากลับไปเจอกันที่บ้านของซันนะ........ โอเคครับ ได้ๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมกำลังจะจอดรถแล้ว”

หลังจากวางสายลง ผมก็ชะลอรถแล้วจอดสนิทลงที่หน้าบ้านของคริสพอดี เมื่อครู่นี้พีได้โทรมาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่คริสบอกกับวายุให้ผมฟังหมดแล้ว หลังจากที่ผมดับเครื่องยนต์และก่อนที่จะก้าวขาลงจากรถนั้น ผมก็นั่งคิดอะไรกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง........ที่จริง ปัญหาของคริสคราวนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่พวกเราเคยคุยกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วบ้างเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นไวถึงขนาดนี้

พวกเราสี่คน ได้แก่ซัน ศิลา ผม และพี ต่างก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆกับวายุเลยแม้แต่น้อย แต่พวกเราทุกคนต่างก็รักและช่วยกันดูแลเขามาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กทารกราวกับเป็นลูกหลานแท้ๆของตัวเองมาตลอด เขาเป็นเด็กร่าเริงที่จะคอยเล่าเรื่องราวต่างๆของเขากับเพื่อนๆที่โรงเรียนให้พวกเราฟังมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เขาได้มาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ เขาก็ยิ่งเล่าและพูดถึงเพื่อนๆทุกคนในกลุ่มของเขามากยิ่งกว่าตอนที่เขายังเรียนอยู่ชั้นประถมเสียอีก เขามักจะพาพวกเราไปพบเพื่อนของเขา และก็มักจะพาเพื่อนๆของเขามาเที่ยวที่บ้านของพวกเราหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ทั้งผมและคนอื่นๆต่างก็พลอยสนิทสนม รัก และเอ็นดูเด็กๆกลุ่มนี้ไม่ต่างจากที่เรารักในตัวของเขาเลยเช่นเดียวกัน

ผมมองเข้าไปในบ้านแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่จะทำแบบนี้หรือแม้แต่มีความคิดแบบนี้กับลูกแท้ๆของตัวเองได้ยังไง ถึงคริสจะเป็นแค่เพื่อนของหลานชายของผม แต่ผมก็จะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์มันเกิดขึ้นซ้ำรอยกับคนที่อยู่ใกล้ตัวผมอีกครั้งอย่างแน่นอน

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรไปหาคริสทันที

“คริส ตอนนี้อามาอยู่ที่หน้าบ้านแล้วนะครับ เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วรึยัง เดี๋ยวอาจะเข้าไปในบ้านแล้วนะ........” เมื่อผมพูดจบ คริสก็ตอบผมกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยอ่อน และเมื่อได้ยินเสียงของเขาแบบนี้แล้ว ผมก็ยิ่งรู้สึกโกรธพ่อกับแม่ของคริสมากขึ้นไปอีก “คริส........ คริสฟังอานะ อาจะจัดการเรื่องที่เหลือเอง เราไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เรื่องทุกอย่างมันจะต้องโอเคแน่นอน เข้าใจมั๊ย เอาล่ะ อาจะเข้าไปแล้วนะ แล้วเดี๋ยวเจอกัน”

หลังจากที่วางสายลง ผมก็เปิดประตูรั้วและเดินตรงเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกหลายอย่างมากมายที่กำลังวนเวียนอยู่ภายในใจเต็มไปหมด ผมทั้งเป็นห่วงคริส ทั้งเครียด และทั้งกังวลกับสิ่งที่ผมกำลังจะต้องเผชิญในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้มาก แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีความมั่นใจอยู่ลึกๆด้วยเช่นกันว่าผมจะต้องสามารถช่วยเหลือคริสได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม.....

เมื่อผมเดินไปถึงที่หน้าประตูบ้านแล้ว ทั้งพ่อและแม่ของคริสที่กำลังนั่งกันคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็หันมามองหน้าผมกันด้วยความประหลาดใจ

“ต้องขอโทษที่รบกวนอีกครั้งนะครับ” ผมพูด

“มีธุระอะไรรึเปล่าคะ อาจารย์” แม่ของคริสถามขึ้นพลางเดินมาเปิดประตูบ้านให้กับผม ผมสังเกตเห็นว่าดวงตาของเธอดูแดงช้ำเล็กน้อย “ลืมของอย่างนั้นเหรอคะ”

“ก็ไม่เชิงหรอกครับ เพราะว่าที่จริงผมมาที่นี่เพื่อมารับคริสไปกับผมน่ะครับ”

ทั้งสองคนมองหน้าผมด้วยความตกใจ จากนั้นแม่ของคริสก็หันกลับไปมองยังสามีของเธอ โจเซฟ พ่อของคริสมองหน้าผมด้วยแววตาไม่เป็นมิตรที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมา

“คุณหมายความว่ายังไง”

“ผมก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละครับ หลังจากที่ผมเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากหลานชายของผมว่าคริสกำลังมีปัญหาที่บ้าน และด้วยความเป็นห่วง ผมก็เลยวนรถกลับมาดู และก่อนที่ผมจะมาถึงที่นี่แค่ไม่กี่นาที ผมก็ทราบมาอีกว่า คืนนี้คริสคงจะไม่มีที่ไหนให้ไปได้ เพราะฉะนั้นผมก็เลยจะมาขออนุญาตพาเขาไปพักกับผมสักพัก มันก็เท่านั้นเองครับ”

“หลานชายของคุณงั้นเหรอ” โจขมวดคิ้ว

“เพื่อนของคริส ที่ชื่อวายุน่ะครับ”

“อ้อ เด็กคนนั้น........”

“ถ้างั้นคุณก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว........” เคท แม่ของคริสพูดขึ้นบ้าง และคราวนี้เธอก็พูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษด้วย

“ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ผมก็แค่รู้มาว่าคริสเสียใจมาก เขาบอกว่าเขาถูกคนเป็นพ่อไล่ให้ออกจากบ้าน เขาบอกว่าเขาไม่มีที่ไป และ.........”

“มันเป็นเรื่องของครอบครัวผม” โจพูดขัดขึ้น

“และถ้าไม่รังเกียจ ผมก็อยากจะทราบเรื่องราวเต็มๆทั้งหมดด้วยเหมือนกันครับ” ผมพูดต่อไปโดยไม่สนใจเขา

“ผมพูดไปแล้วว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวผม คุณไม่เกี่ยว”

“ผมขอโทษครับ ผมทราบว่ามันเป็นเรื่องภายใน แต่ผมก็เป็นห่วงลูกศิษย์ของผมเหมือนกัน คริสเป็นเด็กดี และก็เป็นเพื่อนสนิทของยุด้วย ผมก็เลยเป็นห่วงความรู้สึกของเขามากเหมือนกันนะครับ”

“นี่คุณพูดเหมือนคุณรู้จักกับคริสก่อนที่จะมาสอนเขาอีกอย่างนั้นเหรอคะ”

“ก็ไม่เชิงหรอกครับ ผมก็แค่เคยเจอเขาบ้างไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่เคยได้ทำความรู้จักกัน.......” ผมโกหกออกไป “แล้วสรุปว่า ผมจะขออนุญาตทราบปัญหานี้ได้มั๊ยครับว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่ ทำไมคุณถึงต้องโกรธถึงขนาดผลักไสลูกตัวเองออกจากบ้าน และทำไมคุณ......” ผมหันไปมองหน้าแม่ของคริส “ถึงขนาดจะต้องตบหน้าลูกของตัวเองแบบนั้นด้วย”

สีหน้าและแววตาของเคทเปลี่ยนไปทันที รวมทั้งโจก็ลุกขึ้นยืนทันทีด้วยเหมือนกัน

“นี่คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่!”

“คุณรู้เรื่องนั้นได้ยังไง คริสบอกคุณอย่างนั้นเหรอ” เคทจ้องหน้าผมขณะที่เขยิบถอยหลังออกไปสองสามก้าว

“ผมจะรู้ยังไงมันไม่สำคัญหรอกครับ แต่มันสำคัญที่ว่าคนเป็นพ่อแม่ทำไมถึงจะทำอะไรแบบนั้นกับลูกชายของตัวเองได้ลงคอ ทั้งๆที่ปัญหามันก็แค่เรื่องที่ว่าเค้าเลือกที่จะรักใครและมีทางเดินแบบไหนด้วยตัวของตัวเองเท่านั้นเอง”

เมื่อผมพูดจบ โจก็ขมึงตาใส่ผมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ส่วนเคทก็ยกมือขึ้นปิดหน้าตาของตัวเองทำท่าเหมือนกับจะร้องไห้

“นี่คุณรู้!”

“ไม่ครับ ผมไม่รู้อะไรเลย”

“แต่เมื่อกี๊คุณเพิ่ง.......”

“ผมหมายถึง ผมไม่รู้ว่าทำไมพวกคุณถึงทำแบบนี้กับลูกของตัวเองได้ต่างหากครับ” ผมพูดต่อ “ผมขอร้องล่ะครับ ค่อยๆคุยกับเด็กมันก่อนจะดีกว่ามั๊ย เค้ายังเด็ก เป็นวัยรุ่น เป็นช่วงที่ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดไปแล้วล่ะก็ มันอาจจะกลายเป็นปัญหาไปถึงอนาคตของเค้าทั้งชีวิตได้เลยนะครับ” ผมพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ถ้าจะมีอะไรผิดพลาด มันก็ผิดที่ตัวของมันและจิตใจของมันนั่นแหละ!!”

ผมนิ่วหน้า “ทำไมคุณต้องพูดถึงขนาดนั้นด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เค้าเป็นลูกชายของคุณนะครับ”

“ก็เพราะแบบนั้นไง ผมถึงได้เลี้ยงดูสั่งสอนมันมาให้มันโตขึ้นอย่างถูกต้อง เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่อะไรแบบนี้!” โจชี้ขึ้นไปยังชั้นบน “ผมไม่รู้ว่าคุณไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน ผมไม่รู้ว่าไอ้ลูกชายตัวดีของผมมันปากสว่างพูดอะไรกับคุณไปแล้วบ้าง แต่นี่เป็นเรื่องของครอบครัวผม และผมก็เป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าผมจะจัดการกับมันยังไงนั้น คุณไม่เกี่ยว!”

ที่ผ่านมาผมคิดมาตลอดนะว่า เคท แม่ของคริส ดูจะเป็นคนที่ออกหน้ารับเรื่องราวและจัดการกับเรื่องต่างๆภายในบ้านมากกว่า โดยที่โจเซฟดูจะเป็นคนเงียบๆและไม่ค่อยพูดอะไรมากนัก แต่พอในตอนนี้ผมรู้แล้วว่า แท้จริงแล้ว คนที่คอยค้ำจุนและเป็นแรงผลักดันให้กับบ้านหลังนี้ไม่ใช่เคทอย่างที่ผมเคยคิด แต่เป็นโจต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดปัญหาอะไรแบบนี้ขึ้น โจก็ดูจะแสดงบทบาทและความต้องการของตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจนทีเดียว

“ชั้นว่าคุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ” คราวนี้เคทหันมาพูดกับผมบ้าง “เรื่องนี้พวกเราจะจัดการเอง คริสจะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้เค้าก็แค่หลงผิดไปชั่วครู่เท่านั้นเอง”

ผมนิ่วหน้า “แล้วพวกคุณคิดจะทำให้คริสกลับไปเป็น ‘เหมือนเดิม’ ยังไงครับ”

เจนส่ายหน้า “ก็คงเข้มงวดขึ้น งดเล่นอินเตอร์เน็ต พาไปหาบาทหลวง และให้ดูตัวอย่างของ....... ของ ‘คนพวกนั้น’ ที่ออกนอกลู่นอกทางไปว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องจบลงยังไง......”

ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นในทันที “คนพวกนั้นงั้นเหรอครับ”

“ก็....... พวก ‘นั้น’ น่ะค่ะ พวกลักเพศ ผิดเพศ ทั้งหลายแหล่” เจนทำหน้าราวกับตัวเองเพิ่งจะพูดคำหยาบที่ต้องห้ามที่สุดออกไป “แต่ก็ใช่ว่าคริสจะเป็นพวกนั้นนะคะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ เค้าก็แค่กำลังหลงผิดไปครู่เดียวเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็หาย พอเค้าโตขึ้น เค้าก็จะเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้นเอง”

“ขอโทษนะครับ” ผมพูดออกมาอย่างเหลืออด “แต่สิ่งที่พวกคุณกำลังพูดกันอยู่นี่ไม่ใช่แค่อาการป่วยนะครับ คุณพูดราวกับมันเป็นแค่ไข้หวัดที่ถ้าหากหมกตัวอยู่ในบ้านสักหน่อย กินยาพักผ่อนสักหน่อยก็จะหายได้อะไรแบบนั้นน่ะครับ”

“ก็แล้วใครบอกว่าไม่ใช่ล่ะคะ”

“พระคริสต์จะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง” โจพูด

ผมเริ่มรู้สึกสะอิดสะเอียนคนสองคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วจริงๆด้วยสิ แต่ผมก็ได้แต่ต้องพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้เท่านั้นเอง ผมจะต้องใจเย็นให้มากกว่านี้ ครั้งนี้ผมจะทำพลาดไม่ได้ และเรื่องครอบครัวของคริสนี่ก็ต่างจากครอบครัวของพีเมื่อคราวนั้นมากไปแบบคนละเรื่องเลยด้วยเหมือนกัน ในตอนนั้นครอบครัวของพีที่เป็นคนจีนก็เอาแต่พูดถึงเรื่องขนบธรรมเนียมความถูกต้องแบบตะวันออกที่ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ในตอนนี้ ครอบครัวของคริสกำลังอ้างถึงพระคัมภีร์และศาสนาซึ่งผมรู้จักดี แต่มันกลับขัดแย้งกับความรู้สึก ความคิด และความเป็นจริงสำหรับผมมากที่สุดยิ่งกว่าเรื่องของพีเมื่อสิบกว่าปีก่อนนี้เสียอีก

“ผมว่าคุณสองคนกำลังเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องของ ‘ความหลงผิด’ หรือแค่ ‘อาการป่วย’ อย่างที่พวกคุณคิดนะครับ”

โจชักสีหน้า “คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่”

“ผมก็แค่จะบอกว่า.........” ผมอ้าปากจะพูดสิ่งที่ผมคิดออกไป แต่แล้วสุดท้ายผมก็ต้องหุบปากลงและส่ายหน้าออกมาเบาๆแทน “เอาเป็นว่า ผมขอถามคุณแค่นิดเดียวเท่านั้นเองครับ ผมขอถามว่าคุณจะลองคุยและปรับความเข้าใจกับคริสดูอีกสักครั้งได้มั๊ย ผมขอร้องล่ะ ทั้งหมดก็เพื่อตัวของเด็กนะครับ”

“ปรับความเข้าใจอะไร! เพื่อตัวของมันอะไร!!” โจพูดอย่างเหลืออด “แล้วผมล่ะ ผมที่เป็นพ่อของมัน และนี่ นี่ก็แม่ของมันที่เพิ่งจะเสียน้ำตาไป ทำไมมันไม่คิดจะเข้าใจหัวอกเราสองคนบ้างว่าพวกเราเสียใจขนาดไหน!” เขาขึ้นเสียงใส่ผม แต่ในน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดของเขานั้น ผมก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆด้วยเช่นเดียวกัน

“ถ้าแบบนั้นผมขอถามแค่คำถามเดียวครับ โจ ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคริสเป็นเกย์.......”

“คุณอย่าพูดคำนั้น!” เขาขัดขึ้น

“โอเค....... ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคริส ลูกชายคนเดียวของคุณนั้นเป็น ‘แบบนี้’ จอห์น ผมขอถามว่าคุณยังรักลูกชายของคุณอยู่รึเปล่าครับ”

โจมองหน้าผมราวกับเพิ่งถูกผมตบหน้าไปหมาดๆ “คุณถามผมว่าอะไรนะ”

“ผมถามว่าคุณยังรักคริส ลูกชายคนเดียวที่คุณเลี้ยงดูมาสิบกว่าปีได้เหมือนเดิมรึเปล่า ความจริงที่คุณเพิ่งรับรู้ไปเมื่อครู่นั้นจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณเคยมีสำหรับเขาไปจนหมดสิ้นเลยมั๊ย.......” ผมถามเขาซ้ำอีกครั้ง จากนั้นผมก็ยักไหล่เบาๆ “คำถามง่ายๆแค่นี้เองครับ”

โจมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลบสายตาผมไป แล้วจากนั้นเขาก็กลับไปนั่งลงบนโซฟาเหมือนเดิม ผมขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันไปหาเคทผู้เป็นแม่บ้าง

“แล้วคุณล่ะครับ เคท”

เคทก้มหน้าแล้วส่ายหน้าออกมาเบาๆสองสามที

ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง รู้สึกเจ็บปวดกับคำตอบที่เพิ่งได้รับอย่างสุดหัวใจ

“แต่.........” เคทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ “ชั้นรักลูกชายของชั้นนะคะ อย่าเข้าใจผิด แต่ชั้นรักลูกชายคนที่ชั้นเลี้ยงดูมาสิบกว่าปี ไม่ใช่..........”

“ไม่ใช่อะไรครับ”

“ไม่ใช่.........” เธอไม่กล้าสบตาผม แต่หันไปทางอื่นแทน

“คุณจะพูดว่าว่า ‘ไม่ใช่เด็กที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้องข้างบนตอนนี้’ งั้นเหรอครับ” ผมนิ่วหน้า รู้สึกไม่เข้าใจและไม่พอใจในคำตอบที่เพิ่งได้รับเลยจริงๆ

“เรื่องแบบนี้มันทำใจลำบากนะคะ ไคล์ คุณยังหนุ่มอยู่มาก คุณไม่เข้าใจหรอก”

“ใช่ครับ ผมไม่เข้าใจจริงๆ.......” ผมส่ายหน้า “ผมไม่เข้าใจว่าคนเป็นพ่อแม่จะเลิกรักลูกของตัวเองได้ลงคอเพราะกับอีแค่เค้าเลือกที่จะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายได้ยังไง ทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป ไม่ได้เกเร ไม่ติดยาหรือไม่ได้ไปเป็นฆาตรกรอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว”

เมื่อผมพูดจบ ทั้งโจและเคทต่างก็เงียบลง พวกเราทั้งสามคนไม่มีใครพูดอะไรออกมากันอีกพักหนึ่ง จนกระทั่งในที่สุด โจก็พูดขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าผม

“ผมไม่รู้ว่าคุณไปรู้เรื่องนี้มากจากไหน ไคล์ และผมก็จะไม่ถามแล้วด้วย ผมไม่แคร์อีกต่อไปแล้ว แต่คุณบอกผมว่าคุณมาที่นี่เพื่อที่จะพาคริสไปอยู่กับคุณใช่มั๊ย”

“ถ้าคุณจะอนุญาตนะครับ.......”

“เชิญ”

“โจเซฟ” เคทหันไปหาสามีของเธอ

“แบบนั้นก็ดีแล้ว เคท ผมเองก็ยังไม่พร้อม และคุณเองก็ยังไม่พร้อมด้วยเหมือนกัน ปล่อยให้อาจารย์กับลูกศิษย์ที่แสนจะรู้ใจกันเค้าไปดูแลกันเองเถอะ”

“ตะ แต่.........”

“นี่แปลว่าคุณยังไม่คิดจะพยายามทำความเข้าใจลูกคุณใหม่สักนิดเลยใช่มั๊ยครับ” ผมถาม

“เชิญครับ ขึ้นไปตามมันลงมาได้เลย” โจผายมือไปยังบันได

“เข้าใจล่ะครับ........ ขอบคุณนะครับที่เข้าใจและอนุญาต แต่ลึกๆแล้ว ผมก็เสียใจนิดหน่อยนะครับ ที่คุณตัดสินใจแบบนี้น่ะ”ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่นและตรงขึ้นไปยังชั้นสอง

ผมไปหยุดอยู่หน้าห้องของคริสและเคาะลงบนประตูเบาๆสองสามครั้ง “คริส นี่อาเองนะครับ”

คริสเปิดประตูห้องออก และเมื่อผมได้เห็นใบหน้าของเขาแล้ว ผมก็ดึงตัวของเข้ามากอดเอาไว้ทันที ผมรู้สึกสงสารเด็กคนนี้มากจริงๆ

คริสกอดผมตอบพร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ ผมลูบหัวของเขาเบาๆสองสามครั้งก่อนจะดันตัวของเขาออกและใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้กับเขา “ไปกันเถอะครับ เก็บของเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ย”

คริสพยักหน้าเบาๆ “อาจะพาผมไปไหนครับ”

“ไปนอนกับเจ้าวายุไง คืนนี้เราจะไปนอนบ้านของอาซันกับอาเมฆนะ ส่วนวันอื่นถัดจากนี้ เราค่อยว่ากันอีกทีนะครับ”

“แปลว่า....... แปลว่าผมต้องไปหลายวันเลยเหรอครับ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขามันกำลังทำให้หัวใจของผมต้องบิดเป็นเกลียว

“อาก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่คงไม่นานขนาดนั้นหรอกมั๊ง อีกเดี๋ยวพ่อแม่เราก็จะหายโกรธ แล้วเราก็จะได้กลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิมแล้วครับ ไม่ต้องกังวลนะ พ่อแม่เราเค้าต้องเข้าใจเราแน่นอน มันอาจต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ผมยิ้ม

คริสยิ้มตอบผมกลับมาอย่างอ่อนแรง

“ไปเถอะครับ ลงไปข้างล่างกัน มา เดี๋ยวอาช่วยถือกระเป๋าให้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมถือได้” คริสตอบ ก่อนจะเดินออกจากห้องและปิดประตูตามหลังลง

เราสองคนเดินลงจากชั้นสองด้วยกัน และเมื่อลงมาถึงห้องนั่งเล่น ผมก็เดินนำคริสตรงไปยังหน้าประตูบ้าน ทั้งพ่อและแม่ของคริสต่างก็นั่งอยู่บนโซฟา ไม่แม้แต่จะชายตามองมายังเราสองคนเลยแม้แต่น้อย จนสุดท้าย เคทก็ลุกขึ้นและเดินไปทำท่าเก็บจานชามที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องกินข้าวเพียงเพื่อที่จะพยายามหลบเลี่ยงความจริงและลูกชายของตัวเองเท่านั้นเอง

“แม่ครับ ผมไปก่อนนะครับ.......” คริสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ และจากนั้นเขาก็หันไปหาพ่อของเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา “พ่อ ผมไปนะครับ........”

แต่ก็ยังคงไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาเหมือนเคย

ผมยืดแขนไปโอบบ่าของคริสแล้วเขย่าตัวเขาเบาๆ “ไปเถอะครับ”

คริสพยักหน้าให้กับผมเบาๆทั้งๆน้ำตาคลอเบ้า ผมเปิดประตูออกแล้วเราก็เดินออกจากบ้านไปด้วยกัน แต่แล้วคริสก็หันกลับไปหาพ่อและแม่ของเขาในบ้านอีกครั้ง

“ผมไปนะครับ พ่อครับ แม่ครับ....... ผมขอโทษนะครับ” คริสยกมือขึ้นไหว้ทั้งคู่เป็นครั้งสุดท้าย และจากนั้นเขาก็แบกกะเป๋าเดินนำผมออกไปยังหน้าประตูรั้วบ้านอย่างรวดเร็ว

เมื่อผมเดินตามเขาจนทันแล้ว เขาก็วางกระเป๋าลงบนพื้นแล้วหันมากอดผมพร้อมกับร้องไห้โฮลงบนอกของผมทันที ผมถอนหายใจและใช้มือลูบหลังหัวของเขาเบาๆ ผมรู้สึกราวกับหัวใจกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆจริงๆ

“ไม่เป็นไรนะครับ คริส แล้วทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นเอง อาสัญญา แต่ตอนนี้เรากลับบ้านเรากันเถอะนะครับ วายุกำลังรอเราอยู่นะ........”

คืนนั้นผมพาคริสไปส่งที่บ้านของศิลากับซัน และในขณะที่คริสอยู่บนห้องกับยุนั้น พวกเราสี่คนก็นั่งคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ๆ แน่นอนว่าทั้งซันและศิลาต่างก็เป็นห่วงคริสมาก และทั้งคู่ก็พูดถึงเรื่องที่จะลองไปคุยกับพ่อแม่ของคริสดูสักครั้งด้วยเหมือนกัน พวกเขาเสนอให้คริสมานอนอยู่กับพวกเขาก่อนสักพักหนึ่ง แต่พีบอกว่าเขาจะขอเป็นคนรับคริสไปดูแลเอง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะว่าคอนโดของเราอยู่ใกล้กับบ้านของวายุแค่นิดเดียว และอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมา แต่พวกเราทั้งสามคนก็รู้ดีกันอยู่แก่ใจอยู่แล้ว นั่นก็คือ.........

“พี คุณไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้นะครับ” ผมพูดกับเขาขณะที่เราสองคนกำลังนอนคุยกันอยู่บนเตียงที่ห้องของเรา

“นี่ผมดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”

“พูดกันตรงๆก็ง่ายกว่าศิลาเยอะนะ” ผมหัวเราะเบาๆ “ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย”

“ผมอยากจะช่วยเด็กคนนั้น ไคล์ ผมอยากจะช่วยคริส ผมไม่อยากให้เค้าต้องมาเจอกับเรื่องแบบนั้น....... โดยเฉพาะตั้งแต่เค้ายังอายุน้อยแค่นี้ด้วย”

“ผมรู้ ผมเข้าใจ.......” ผมถอนหายใจเบาๆ

“เรื่องแบบนั้น ให้มันเกิดขึ้นกับผมแค่คนเดียวก็พอแล้ว” พีพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด

“พี คริสไม่ใช่คุณนะ แล้วพ่อแม่ของเค้าก็ไม่ใช่พ่อแม่ของคุณด้วย”

“ผมรู้.......” เขาถอนหายใจแล้วเขยิบตัวเข้ามากอดผมเอาไว้ “ไคล์ ขอบคุณมากนะครับ ที่คอยอยู่เคียงข้างผมตลอดมา แม้ในช่วงเวลาที่ผมไม่เหลือใคร ถึงแม้ว่าผมจะสูญเสียครอบครัวของตัวเองไป แต่ผมก็ยังมีคุณ......”

“รวมทั้งศิลา ซัน และคนอื่นๆอีกด้วย” ผมจูบลงบนกลางกระหม่อมของเขาเบาๆ

“ใช่” เขาพยักหน้า “ผมยังจำได้ดีเลยนะ ตอนนั้นที่คุณเข้าไปคุยกับพ่อแม่ผม และพยายามพูดพยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผมน่ะ.........”

ผมยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ “ก็ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่เลย เพิ่งจะ เท่าไหร่นะ ยี่สิบสองยี่สิบสามได้เอง ใช่มั๊ย นึกๆแล้วก็ตลกดีนะ แล้วผมก็จำได้เป็นอย่างดีเลยด้วยว่านับจากตอนนั้นมานั่นแหละ ที่ผมเริ่มเรียกคุณว่า ‘พี’ ชื่อจริงๆของคุณ ไม่ใช่ชื่อ ‘พีท’ ชื่อที่ทำให้เรารู้จักกัน”

เราสองคนเงียบกันลงไปครู่หนึ่ง จนในที่สุด พีก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น “........เรื่องของคริสจะต้องไม่จบลงเหมือนเรื่องของผมในอดีตใช่มั๊ย ไคล์”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมแน่ใจว่าพวกเราทุกคนคงไม่มีใครยอมให้มันต้องจบลงแบบน่าเศร้าแบบนั้นแน่นอน รวมไปถึงพวกเด็กๆเหล่านั้นทุกคนก็ด้วยเหมือนกัน เจ้าพวกนั้นต้องไม่ยอมให้เพื่อนของตัวเองต้องเจอกับเรื่องเจ็บปวดแบบนี้ไปตลอดอย่างแน่นอน ผมมั่นใจ.......”

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :z3: :z3: :z3:

สถานการณ์แบบนี้ บีบหัวใจเกินไปแล้ว  :z3: :z3:

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า :m15: :monkeysad:

C2U

  • บุคคลทั่วไป

1582

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย!!! เครียดปนเศร้า    :sad4:  พ่อแม่คริสใจร้ายที่สุด  :fire:

morrian

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: สงสารคริส จริงๆ

ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะคับ

รออ่านส่วนของ โจ อยู่นะค้าบบ
 :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด