บทส่งท้าย
บ่ายวันศุกร์
แทนเดินออกจากสำนักงานอย่างเหงาหงอย วันนี้ตั้งแต่เช้าเขาไม่เห็นกริชเลย สอบถามสุพรรษา เลขาประจำออฟฟิสก็ตอบว่าวิศวกรอยู่ที่ไซท์งานกันหมดทุกคนเพราะกำลังเร่งงานกันให้เสร็จ ฝนที่ตกหนักทำให้งานดำเนินไปอย่างลำบาก ทุกคนเลยต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม แม้อาหารกลางวันก็ทานกันที่ไซท์ก่อสร้างโดยสุพรรษามีหน้าที่จัดการให้
ทุกคนทำงานหนัก...ยกเว้นเขา...งานเขาเสร็จไปมากแล้ว แทบจะกล่าวได้ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำงานที่กระบี่ทุกวันก็ได้ แต่เขาก็ยังทำงานที่กระบี่ อย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจมากกว่าที่จะเข้าไปนั่งอยู่ในออฟฟิสที่กรุงเทพฯ ช่วงนี้เขาไม่ค่อยอยากเจอหน้าบุริณทร์ทุกวัน แล้วต้องถูกสงครามลากไปทั่วกรุงเทพฯ เพื่อตามตีบรรดาเด็กเก่าๆ ของแฟนหนุ่มให้แตกกระเจิง
วันนี้แทนเดินมาทำงานเพราะจักรยานยางแบน เขาถือเสียว่าเป็นการออกกำลังกายตอนเช้า แต่ขากลับฝนตกปรอยๆ เลยต้องเดินตากฝนกลับบ้าน
...ดีเหมือนกัน บรรยากาศแบบนี้ ได้เดินเล่นคิดอะไรเพลิน...
...หนาวเย็นเหลือเกิน ถึงบ้านจะอาบน้ำอุ่นๆ แล้วนอนเล่น เปิดเพลงเบาๆ แล้วก็หลับไปให้สบาย...
...คิดถึงภูวนัย
และกฤษณะ...
คิดถึงบุริณทร์ด้วย...
บุริณทร์ขรึมลงไปเยอะ ท่าทางยังทำใจไม่ได้ ส่วนกฤษณะคงทำใจได้แล้ว แต่ก็ดูขรึมลงไปเหมือนกัน ส่วนภูวนัยนั้นเล่า หายเงียบไปไม่เห็นหน้า
...สงสัยคงโกรธเรามากที่โดนปฏิเสธทางอ้อม หรือไม่ก็ผิดหวังมาก...
...จะว่าไป เขาก็ไม่ค่อยกล้าสู้หน้าภูวนัย ถ้าภูวนัยบีบคอเขาได้ก็คงอาจจะทำ...
...หรือบางทีคนหน้าดุคนนั้นอาจไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้ มีวิริญญาอยู่ทั้งคนแล้วนี่ จะมาอาลัยอาวรณ์อะไรเรา...
แทนหยุดยืนอยู่ขอบถนนริมชายหาด สองตามมองฝ่าม่านสายฝนที่กำลังโปรยปรายไปยังทะเลรายเรียบเบื้องหน้า
ทะเลตอนนี้ดูสงบนิ่ง เหงาหงอยเหมือนกับเขา แต่เขารู้ว่าอีกไม่กี่วัน ช่วงลมมรสุมฤดูร้อนก็จะผ่านไป ฝนที่ตกปรอยๆ มาหลายวันก็จะหยุด ความสดใส แดดจ้า ลมเอื่อยๆ ก็คงจะกลับมาเยือนเมืองเล็กๆ ชายทะเลอีกครั้งหนึ่ง
...ส่วนความสดใสในใจเขานั้นจะกลับมาอีกเมื่อใดเขายังไม่รู้
รู้แต่ว่า ตอนนี้เขารู้สึกโหยหาความรักยิ่งนัก...
...และยิ่งทรมานแบบซับซ้อนมากว่าเพราะรู้ดีอยู่ว่า ความโหยหาที่กำลังเกิดขึ้นไมได้มีถึงเพียงคนแค่คนเดียว...
ตอนนั้นก็ไม่รู้จะเลือกใครดี วุ่นวายสับสนเหลือทน ตอนนี้ก็ยังไม่จบ พอคิดถึงก็เกิดคิดถงพร้อมๆ กันหมด
...โชคร้ายจริงๆ เลยแทน นายนี่โชคร้ายเกินใครจะมาเปรียบได้ สี่ห้องหัวใจตอนนี้กำลังประสบปัญหาหนัก ต้องได้รับการบูรณะเป็นการด่วน ไม่เช่นนั้นหัวใจน้อยๆ ดวงนี้คงแตกสลายลงในไม่ช้า...
...แล้วใคร...ใครล่ะ...ใครก็ได้ช่วยแทนที...
เช้าวันอาทิตย์
ภูวนัยแบกถุงกอล์ฟเดินไปตามทางเดินเพื่อตรงไปยังช่องซ้อมไดร์ฟกอล์ฟที่เขามาตีประจำ เช้าวันนี้อากาศสดใส ฝนที่ตกทั้งคืนนำความชุ่มชื่นมาให้เมืองกรุงในตอนเช้า ซึ่งน้อยครั้งที่จะได้สัมผัส แดดยามเช้าทอแสงอ่อน วันนี้ควรเป็นวันที่สวยงามอีกวันหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกเหงายิ่งนัก
การไดร์ฟกอล์ฟเช้าวันอาทิตย์ของเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่มีชายหนุ่มตาเรียวเล็ก ปากแดง ท่าทางรั้นๆ แต่สดใสร่าเริง เจ้าของเสียงหัวเราะที่หัวเราะครั้งใดต้องทำให้อดยิ้มตามไม่ได้
แทนเป็นคนที่ทำให้โลกของเขามีสีสันขึ้น แต่ทว่า ตอนนี้ โลกของเขากลับมาเป็นสีเทาเหมือนเดิม...เหมือนก่อนที่ชายหนุ่มผู้อวดเก่งคนนั้นจะตีลูกกอล์ฟเข้ามาอักกลางหลังเขา
เหมือนก่อนที่ชายหนุ่มท่าทางรั้นๆ จะโผเข้ามาหาเขาที่ริมถนนตอนกลางดึกแล้วอาเจียนรดสูทใหม่เอี่ยมที่ซื้อมาจากฝรั่งเศส
เหมือนก่อนที่เขาชะงักเพราะมีคนซ้อมเต้นลาตินยึกยักขวางทางเดินไปยังห้องน้ำในผับคืนนั้น จนเขาต้องเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างตรึงเอาไว้แล้วบอกว่าให้หยุดยืนอยู่นิ่งๆ ขอทางให้เขาเดินผ่านไปเสียก่อน
...แวบแรกที่มอง แล้วเขาก็เกิดความพึงใจขึ้นมาทันที จนไม่อาจปล่อยวางความรู้สึกนั้นได้...
...แทน...เขาคิดถึงแทนเหลือเกิน...
ภูวนัยตั้งท่าให้นิ่ง มือประชับด้ามไม้กอล์ฟ มองลูกสีขาวที่วางอยู่บนพื้น แล้วออกแรงหวดเพื่อส่งลูกกอล์ฟไปตกอยู่กลางสนามหญ้าหลัง แต่ทว่า ลูกกอล์ฟกลับแฉลบออกด้านข้าง ไปตกอยู่บนหญ้าสีเขียวไม่ไกลนักจากด้านหน้าของอาคาร
...เฮ้อ...ทำยังไงดี ตีกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่ไปถึงไหน อาทิตย์หน้าต้องไปออกรอบกับลูกค้ารายใหญ่แล้ว แบบนี้มีหวังขายหน้าแน่ๆ เชียว...
...แทน มาช่วยผมซ้อมกอล์ฟที่เถอะ ผมขาดคุณไม่ได้...
ตัดใจ
กฤษณะจอดรถที่ริมทะเลแล้วมองชายหนุ่มที่วิ่งออกกำลังกายผ่านไปด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ เขาบอกตัวเองว่าตัดใจจากแทนได้แล้ว แต่แรงคิดถึงอันมหาศาลที่ท่วมท้นใจเขาทำให้เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ต้องบินลงมากระบี่ เพียงเพื่อจะได้พบใบหน้าของคนที่นั่งอยู่กลางใจเขามาตลอด
...แทนชอบทะเล ชอบแดดจ้า และท่าทางชอบล่องเรือ เขาจะรอให้แทนวิ่งไปได้ซักระยะ แล้วถึงจะตามไปจนถึงที่พัก แล้วจะลองชวนไปล่องเรือกับเขาดูสักครั้ง...
บุริณทร์เดินออกมาจากสนามบิน ตรงไปยังรถเช่าที่จอดรออยู่ โยนกระเป๋าเข้าไปยังเบาะหลังแล้วรีบออกจากสนามบินกระบี่ทันที เขาทิ้งงานที่เหลือไว้ในออฟฟิสภายหลังจากที่พยายามเคลียร์งานจำนวนมากมายให้เสร็จมากที่สุดเท่าที่ทำได้
เขาทนทรมานมาหลายสัปดาห์แล้ว และตอนนี้ก็ทนต่อไปไม่ไหว แรกที่ยอมรับกับแทนว่าให้เวลาผ่านไปอีกนิด รอให้พรหมลิขิตทำงานเต็มรูปแบบเสียก่อนอย่างที่แทนเปรียบเปรย ตอนนี้เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว ยังไงเขาก็อยากจะเห็นหน้าแทนบ้าง งานโครงการสปาที่กระบี่เกือบเสร็จแล้ว แต่แทนก็ยังไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ ซ้ำยังขอทำงานโปรเจ็คใหม่ที่พังงาต่อ วันนี้เขาจึงต้องมากระบี่ เพียงแค่ได้ทานอาหารเย็นริมทะเลดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันก็พอใจแล้ว ส่วนจะเป็นอะไรยังไงอีกต่อไปก็แล้วแต่พรหมลิขิตเถิด
ภูวนัยส่งลูกค้ารายใหญ่กลับโรงแรมหลังจากออกรอบตีกอล์ฟด้วยกันเสร็จแล้วก็รีบบึ่งรถตรงไปยังกระบี่ทันที
เขาให้เหตุผลแก่ตัวเองว่า แม้จะตกลงกันกับแทนได้แล้วเรื่องความสัมพันธ์ แต่เขาก็อยากจะขอคุยใหม่อีกครั้ง เขาจะให้เหตุผลว่าอะไรก็น่าจะเปลี่ยนแปลงกันได้ เขาเองก็ยังเปลี่ยน อยากจะยืนยันกับแทนว่าเขาจัดการเรื่องวิริญญษได้เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็ไม่มีพันธะใดๆ เขาพร้อมแล้วสำหรับความสัมพันธ์จริงจังอย่างที่ตัวเองไม่เคยมีมาก่อน
...และคนแรก เขาอยากให้เป็นคนที่เติมสีสันให้ชีวิตของเขาได้
...แทน คนเดียวเท่านั้น...
กริชเสร็จงานแล้วก็รีบตรงกลับที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับมอเตอร์ไซด์คู่ชีพตรงไปชายหาดที่ "ผู้ร่วมงาน" ของเขาชอบไปนอนอาบแดด วันนี้เขามีแผน "คลายเหงา" แบบที่แทนจะต้องชอบเพราะจะชวนแทนไปหัดขับเรือ
ช่วงหลังๆ งานยุ่งมากเพราะการก่อสร้างสปาต้องเร่งให้ทันกำหนดการเปิดในช่วงสัปดาห์เทศกาลท่องเที่ยวที่จังหวัดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เขาแทนไม่มีเวลาได้พบกับแท ซึ่งฝ่ายนั้นทำงานส่วนของตัวเองเสร็จหมดแล้วและไม่ค่อยได้เข้าออฟฟิสเพราะต้องแบ่งเวลาไปทำงานโปรเจ็ดอื่นที่พังงา เขารู้ว่าแทนจะอยู่กระบี่ต่ออีกเพียงหนึ่งอาทิตย์ เขาอยากจะใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุด เพราะหากแยกกันไปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
...ครั้งหนึ่ง เขาเคยปล่อยเวลาให้ผ่านไปแล้วโดยไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้จากกันโดยไม่ได้บอกความในใจ...
แทนหยุดยืนอยู่หน้าห้องพัก หอบหายใจแรงเพราะเหนื่อยจากการวิ่งออกกำลังกาย ชายหนุ่มยกแขนขึ้นเหนือศรีษะเพื่อผ่อนลมหายและรอให้หายเหนื่อยก่อนจะอาบน้ำแล้วเตรียมไปนอนอาบแดดที่ชายหาด
...อาทิตย์อันเงียบเหงากำลังจะจบลงแล้ว เจ็ดวันแรกของเดือนกำลังจะผ่านไปแบบช้าๆ เขาตั้งใจจะอยู่ที่กระบี่อีกเพียงอาทิตย์เดียว หลังจากนั้นจะไปทำงานที่พังงา บนเกาะเล็กๆ ห่างจากฝั่งออกไปพอประมาณ และชีวิตก็คงจะเงียบขึ้นมากกว่าเดิม...
...คราวนี้ล่ะ ได้คิดถึง "ใคร" หนักกว่าเดิม เฮ้อ...
...ยิ่งเงียบ ยิ่งคิดถึง แต่ครั้นไปที่จอแจวุ่นวายก็รำคาญ อยากอยู่เงียบๆ แต่พออยู่ที่เงียบๆ ก็รู้สึกเหงา ทำไมมันเป็นแบบนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ ทำยังไงถึงจะคลายเหงาได้นะ...
แทนถอนหายใจเฮือกใหญ่ คว้าเป้สีดำคู่ชีพแล้วมุ่งหน้าไปยังชายหาด
...คราวนี้ล่ะ ขออยู่กับความเงียบต่ออีกซักหน่อย แล้วค่อยว่ากัน...
******* จบบริบูรณ์ *********
ขอบคุณนะคร้าบบบ คิดถึงก็แวะไปทักที่เว็บคนเขียนนะครับ คฑาวุธ จุด คอม นั่นล่ะ
สรุป นิยายเรื่องนี้ตั้งชื่อว่า
วุ่นนัก...รุมรักคนหลายใจ